กลว้ ย (Banana) ชื่อทางวิทยาศาสตร:์ Musa spp. กลว้ ย ในภาคอีสานและภาคเหนือเรียกเหมือนกนั คือ กว้ ย สว่ นภาคใตเ้ รยี กว่า กลวย มีชื่อสามญั ว่า Banana ซื่อวิทยาศาสตรว์ ่า Musa spp. สว่ นคาว่า Banana นน้ั เรยี กชื่อตามภาษาแอฟรกิ าตะวนั ตกท่ีชาวพ้ืนเมืองใชเ้ รยี กกลว้ ย และเม่ือมีการนากลว้ ยไปปลกู กนั เป็ นล่าเป็ นสนั ท่ีอเมริกากลางและอเมรกิ าใต้ โดยใช้ แรงงานทาสแอฟรกิ าตะวนั ตก คาว่า Banana จึงแพรห่ ลายกวา้ งขวาง จนกลายเป็ น คาสามญั ท่ีใชเ้ รยี กกลว้ ยในปัจจบุ นั
ประเทศไทยมีกลว้ ยกินไดม้ ากมายกว่า 60-70 พนั ธ์ุ พนั ธท์ุ ่ีรจู้ กั ไดแ้ ก่ 1. กลว้ ยน้าวา้ 2. กลว้ ยหอม 3. กลว้ ยหอมทอง 4. กลว้ ยหอมคาเวนดิน (Cavendish) และกรอสไมเคิล (Gros Michael) 5. กลว้ ยหอมเขียว 6. กลว้ ยไข่ 7. กลว้ ยนาก 8. กลว้ ยหิน 9. กลว้ ยหกั มกุ 10. กลว้ ยตานี 11. กลว้ ยเล็บมือนาง 12. กลว้ ยเทพรส หรอื เรยี กกนั ว่า กลว้ ยส้ินปลี หรอื กลว้ ยปลีหาย 13. กลว้ ยน้าไท
1. กลว้ ยน้าวา้ “กลว้ ยน้าวา้ ” มีชื่อสามญั หรอื ช่ือเรยี กทอ้ งถ่ินว่า กลว้ ยใต้ กลว้ ยตานีอ่อง กลว้ ยมะลิอ่อง หรือกลว้ ยอ่อง (Pisang Awak) และมีช่ือเรียกทางวิทยาศาสตร์ ว่า Musa (ABB) ‘Nam Wa’ มีเหลยี่ มเล็กนอ้ ย เปลือกผลหนา เมื่อผลสกุ มีสีเหลือง เน้ือสีขาวนวล รสหวาน ไสก้ ลางสีเหลือง ชมพู หรอื ขาว ใหค้ ณุ ประโยชนม์ ากมาย มี ธาตเุ หล็กสงู ท่ีสดุ ช่วยป้ องกนั โรคโลหิตจางไดย้ อดเยี่ยม เป็ นยาอายวุ ฒั นะ สามารถ ทานเพ่ือลดน้าหนกั
2. กลว้ ยหอม “กลว้ ยหอม” หรอื “กลว้ ยหอมทอง” เป็ นช่ือทอ้ งถิ่นท่ีถกู เรยี กโดยทว่ั ไป มีชื่อ สามญั คือ Gros Michel และช่ือทางวิทยาศาสตรค์ ือ Musa (AAA) ‘Hom’ มีผลใหญ่ ปลายโคง้ เรยี วยาว เปลอื กบาง เมื่อสกุ จะมีสีเหลอื งทอง เน้ือในสีสม้ อ่อน รสหวาน มีกล่ินหอม สายพนั ธท์ ุ ี่เป็ นที่รจู้ กั ไดแ้ ก่ กลว้ ยหอมเขียว กลว้ ย หอมทอง กลว้ ยหอมค่อม และกลว้ ยหอมแกรนดเ์ นน มีผลวิจยั พบว่า กลว้ ยหอม ทองมีโปรตีนสงู ช่วยใหร้ า่ งกายเติบโตแข็งแรง มีแรธ่ าตเุ ป็ นจานวนมาก
3. กลว้ ยหอมทอง กลว้ ยหอมทอง เป็ นกลว้ ยหอมพนั ธเ์ ุ ศรษฐกิจชนิดหน่ึงลาตน้ ขนาดใหญ่ แข็งแรง กา้ นใบมีรอ่ งค่อนขา้ งกวา้ งและมีปี ก กา้ นช่อดอกมีขน ผลยาวรี ปลายคอด มีจกุ เปลือกบางเม่ือดิบเปลือกสีเขียว เม่ือสกุ เปลือกกลายเป็ นสีเหลืองทอง เน้ีอสีสม้ อ่อน กลิ่นหอม รสหวาน เน้ือน่มุ เนียน
4. กลว้ ยหอมคาเวนดิน (Cavendish) และกรอสไมเคิล (Gros Michael) กลว้ ยหอมท่ีคา้ ขายกนั ในโลกสว่ นใหญ่เป็ นกลว้ ยหอมคาเวนดิน (Cavendish) และกรอสไมเคิล (Gros Michael) ซึ่งมีรสหวาน เปลือกสีเหลืองหนา ขว้ั เหนียว อนั เป็ น คณุ สมบตั ิท่ีเหมาะกบั การขนสง่ ทางไกล
5. กลว้ ยหอมเขียว กลว้ ยหอมเขียว กาบใบมีจดุ กระมากกว่ากาบกลว้ ยหอมทอง หวีหน่ึง ๆ มีผลแน่นเป็ นพิเศษกว่ากลว้ ยหอมใด ๆ มีถึง 32 ผล ผลสกุ สีเขียวอมเหลือง ปลายผลท่ ู เน้ือสีเหลืองอ่อน มีกล่ินหอมรสหวาน จงั หวดั แพรเ่ รยี กว่า กลว้ ยครา้ ว นครศรธี รรมราชเรยี กว่า กลว้ ยเขียว พะเยาเรยี กกว่า กลว้ ยหอมครา้ ว
6. กลว้ ยไข่ “กลว้ ยไข่” มีช่ือทอ้ งถ่ินว่า กลว้ ยกระ และช่ือทางวิทยาศาสตรว์ ่า Musa (AA) ‘Khai’ มีลกั ษณะคือ ผลค่อนขา้ งเล็ก กา้ นผลสนั้ มีเปลือกบาง เม่ือสกุ เปลือกและ เน้ือมีสีเหลืองสด มีจดุ กระสีดาที่เปลอื ก มีรสชาติหวาน กลว้ ยไข่มี 2 สายพนั ธท์ ุ ่ีเป็ นที่รจู้ กั คือ กลว้ ยไขก่ าแพงเพชร และกลว้ ยไข่ทองเงย มีเบตา้ แคโรทีนสงู ช่วยตา้ นมะเรง็ ไดอ้ ยา่ งวิเศษ
7. กลว้ ยนาก “กลว้ ยนาก” เป็ นกลว้ ยโบราณหายาก มีความแตกต่างจากกลว้ ยชนิดอ่ืน ดว้ ยผลท่ีมีสีแดงเหมือนกบั สีของนาก ทาใหม้ ีเอกลกั ษณโ์ ดดเด่น มีชื่อทอ้ งถ่ินว่า กลว้ ยกงุ้ กลว้ ยกงุ้ เขียว กลว้ ยแดง กลว้ ยครงั่ และกลว้ ยน้าครง่ั เป็ นกลว้ ยที่พบ ทางภาคใต้ เมื่อผลสกุ จะเปลีย่ นเป็ นสแี ดงเขม้ กา้ นผลสน้ั เน้ือสีเหลืองอมสม้ มี รสหวานอมเปร้ยี วและกลิ่นหอมเยน็ เน้ือน่ิมละเอียด และไมม่ เี มล็ด
8. กลว้ ยหิน กลว้ ยหิน เป็ นกลว้ ยค่แู มน่ ้าปัตตานี ปลกู ตามควน (ตามเนินแนวลาดของภเู ขา หรอื เนินเขา) แถวบนั นงั สตา จงั หวดั ยะลา เป็ นกลว้ ยท่ีช่วยเสรมิ รายไดใ้ ชช้ าวบา้ น อยา่ งมาก เพราะเม่ือนาไปแปรรปู แลว้ จะอรอ่ ยมาก กลว้ ยหินตม้ ที่สามแยกบา้ นเนียง อาเภอบนั นงั สตา
9. กลว้ ยหกั มกุ กลว้ ยหกั มกุ เป็ นกลว้ ยที่นิยมนามาป้ิ งกิน กลว้ ยหกั มกุ สกุ ห่ามเน้ือหยาบ รสหวานอมเปร้ยี วมีกลิ่นหอม เมื่อสกุ เน้ือกลว้ ยจะแน่นข้ึนและมีสีเหลืองอรา่ มน่า กิน นอกจากน้ียงั นามาทากลว้ ยหกั มขุ ฉาบ ที่พมา่ กนิ กลว้ ยหกั มกุ สกุ เป็ นผลไม้ กลว้ ยสม้ เป็ นกลว้ ยหกั มกุ ขนิดหน่ึง ปลกู ท่ีจงั หวดั จนั ทบรุ ี
10. กลว้ ยตานี กลว้ ยตานี เป็ นกลว้ ยป่ าท่ีมาจากประเทศอินเดีย ปลกู เพ่ือน้าใบมาใชเ้ ป็ น ใบตอง ผลกลว้ ยมีเมลด็ นอกจากน้ีผลดิบใชป้ รงุ เป็ นอาหาร เช่น สม้ ตากลว้ ยดิบ กินกบั แหนมเนือง อาหารเวียดนาม นาไปดองหรอื แกง เป็ นตน้
11. กลว้ ยเล็บมือนาง “กลว้ ยเล็บมือนาง” มีช่ือเรยี กโดยทว่ั ไปคือ กลว้ ยขา้ ว กลว้ ยเล็บมือ กลว้ ยทอง ดอกหมาก และกลว้ ยหมาก เป็ นกลว้ ยประจาทอ้ งถิ่นของภาคใต้ ปัจจบุ นั นามา ปลกู กนั ทวั่ ทกุ ภาค โดยเฉพาะภาคกลาง กลว้ ยเล็บมือนางมีผลเล็ก ปลายเรียวยาว และโคง้ กา้ นผลสนั้ เปลือกหนา เมื่อสกุ สีเหลืองทองเน้ือดา้ นในมีสีเหลืองหรอื สคี รมี เน้ือน่มุ รบั ประทานง่ายเพราะผลมีขนาดเรยี วเล็ก กลนิ่ รสหวานหอม
12. กลว้ ยเทพรส กลว้ ยเทพรส หรอื เรยี กกนั ว่า กลว้ ยส้ินปลี หรอื กลว้ ยปลหี าย เพราะเวลาตกเครอื ปลีจะหดหายไป กลว้ ยเทพรสในหนึ่งเครอื มี 5-7 หวี แต่ละหวีมีราว 11 ผล ลกั ษณะผลมีขนาดใหญ่ มีสนั เหลี่ยมตามเปลือกผลชดั เจน ปลายผลท่กู า้ นผลยาว ผลดิบสีเขียวหม่น เม่ือแกจ่ ดั มีสีเขียวอมเทาผลสกุ เปลือกสีเหลืองสม้ เน้ือในสีครมี
13.กลว้ ยน้าไท “กลว้ ยน้าไท” หรอื กลว้ ยหอมเล็ก เป็ นกลว้ ยทอ้ งถิ่นของกรงุ เทพฯ มีลกั ษณะของ ผลคลา้ ยกลว้ ยหอมจนั ทร์ แต่โคง้ งอกว่า เป็ นเหลี่ยม เปลือกหนา ปลายผลมีจกุ และมกั มีกา้ นเกสรตวั เมียติด เม่ือสกุ มีสีเหลืองเขม้ และมีจดุ ดาเล็กๆคลา้ ยกลว้ ย ไข่ เน้ือสีเหลืองอมสม้ กลิ่นรสหวานหอม ไม่มีเมล็ด นิยมกินผลสด มีสรรพคณุ เป็ นยาดี สามารถนามาดองกบั น้าผ้ึงใชเ้ ป็ นยาอายวุ ฒั นะ
ประโยชนข์ อง “กลว้ ย” ประโยชนข์ อง “กลว้ ย” 1. ลดระดบั คอเลสเตอรอล 2. ผลไมข้ องคนอยากลดน้าหนกั 3. ควบคมุ ระดบั ความดนั โลหิต 4. ลดอาการทอ้ งเสีย 5. แกอ้ าการทอ้ งอืด 6. ดีต่อสขุ ภาพคนโลหิตจาง
อา้ งอิง - https://www.baanlaesuan.com/110228/plant-scoop/type_of_banana ไปทาความรจู้ กั กบั ชนิดของกลว้ ย กนั เถอะ! https://www.sanook.com/health/27325/ ประโยชนข์ อง \"กลว้ ย\" และขอ้ ควรระวงั https://beautyseefirst.com/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%8 2%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B9%8C%E0%B8%82%E0%B8% AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8 %A2/ ประโยชนข์ องกลว้ ยแต่ละชนิด พรอ้ มแคลอรที่ ่ีไมก่ ลว้ ย กลว้ ย (Banana) http://pirun.ku.ac.th › กลว้ ย
Search
Read the Text Version
- 1 - 21
Pages: