Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ยศ.ทบ.กับการพัฒนาคุณธรรมตามยุทธศาสตร์ชาติ

ยศ.ทบ.กับการพัฒนาคุณธรรมตามยุทธศาสตร์ชาติ

Description: อุทยานพุทธธรรมสิกขา พัฒนาคุณธรรมตามยุทธศาสตร์ชาติ

Search

Read the Text Version

1 นิดยสาร 1 XI 2! / 1 0 & X , ^ ^ V 0 โ7/ ‘. & 1 / 1 7 71น ป่ ผ 1ี *40 001/11 / 1 / , ^ 0 กรม ยุ1ทซศึกษา'1/]'ตๆ','-ชก ครบรกบป๋ฑ 12; 1111

นิ ตยสั า รยฺ กธโกษ ?โ'3 ®เ ^ ~111| เ 1 ^ 8 : โ!®^ ^ ® ฟ^้ ►- 8 น ^! 9...(ว...0 เป็นการกาั วเถนิ ของกรมบุกรกกี ษา ผ ิธ ก ร ในอนาคตท่าน จก.ยศ.ทบ. มีแนวทางกหารบกเราเรื่บถันจาก 0 ณ ป็จจบุ ันกาั วบาสชู ก่ี อช๐ ในการพัฒนาองค์กรไปในทิศทางใดบ้างคะถลอกร:บ:เวลากม่ี ่านบากัง้ บบู้ ังกบั ่บญั ชา แล:้ กำลังมลทกุ นาบ ชกวามบงุ่ มั๋บอบา่ งแน่วแน่ กีจ่ :คาเนบิ งานถวบสนวง จก.ยศ.ทบ. ะ การพัฒนาองค์กรโดยทั่วไปต้องเรม่ิบ!บบาบชฉงกวงกัเปบกวบ่างเกรง่ กรถั เบื่อใหับกี วาบพรัอบ ต้นจากการสำรวจตรวจสอบสภาพพน้ื ฐานก่อนว่า สภาพชกวามกบั สบับ แล:เปน็ บกุ ลากรก่ีชคณุ กาบ กำลังมล ความเขม้ แข็ง ความม่ันคงในปัจจุบันของเรา อยู่บนพืน้ ฐานทกุ นาบกาบไตัการนำขอ'ง มล.ก.ณ ฐบบธิ กรสี วัสถั๋ ของอะไรมมี าตรฐานดพี อหรือยงั และศกึ ษาไปในอนาคตวา่เจฺากรบบุกธศกี ษากหารบก ท่านชจจบฺ น ชกวาบบงุ่ บ่ัน ในอนาคตน้ันทศิ ทาง และเร่อื งราวของการเปล่ยี นแปลงก่ีจ:มฌั บาหน,วบไปสกู่ ารเปน็ วงกกิ รกวามมนั่ กงบุกใหม่ คืออะไร จากนนั้ ก็กลบั มาดวู ่า ภารกจิ และความรบั ผดิ ชอบบุ่งสู,กวาบเป็บชววาชม เป็นองคกุ รแห่งการเรบี นรู แล: ท่มี ีต่อกองทพั บก ซงึ่ จะทำให้กองทัพบกมศี กั ยภาพ มีการล่ามารถกาั วกบั การเปลี่บนแปลงก่จี :เกถิ บ้นั ]นอนากถั เจรญิ เติบโตก้าวหนา้ นนั้ ต้องทำอยา่ งไร อนั น้ีคอื สง่ิ แรกท่ี ต้องพจิ ารณา ชถบลา5บกุ ร!กษวบบั บ้ั กวงบรรณาธกิ ารจีงขวนำบกลับกาษก] ทา่ นเจาั กรมบกุ ธศีกบากหารบก ในเรอื่ ง ภารกิจ ท่รี บั ผิดช อบใน เร่ืองข องการจัด ศกึ ษาวลิ บั ทัศนใ์ บการบริหารวงกิกร มาเบบแมร่ ชี่งกีอว่าช การอำนวยการต้านการแก การตรวจสอบการแก รวมถงึปร:!บชน์วบ่างบากลัาหรบั กำลังผลทุกร:คบั ช้ัน ชกัง้ บัวกกั การพฒั นาหลกั นยิ ม เป็นภารกจิ หลักทส่ี ำคัญ การทีเ่ ราใบการกำงาบแล:ใบการกำเนินชวี ถิ ในลังกบบุกกเ่ี ราเรีบกว่า จะทำให้ประสบความสำเร็จในอนาคตไต้นนั้ ยศ.ทบ. จำเป็นใลกากวิ ถั น์ แล:ชการบวั มนำเอาหลักปรชั ญามร:ราชกาบ ต้องพฒั นาความพรอ้ มของตัวเราเองใหม้ าก โดยเฉพาะเรื่องของใบหลวงรชั กาลกี่ ๘ บาเป็นแนวกางการกำงาบ ท่านบูอ้ ่าน ของโครงสรา้ ง และความพรอ้ มของกำลงั พลทจ่ี ะทำหนา้ ท่ีลองกบกวนถนู :ก:วา่ ส่ีงกไี่ ถ้จากบกลับกาบณิบทั้ า่ นสาบารก เหล่านนั้ ด้วยนำไปปรับใช'ั ใบชีวิถการกำงานแล:ชีวิถส,วบคัวอบ่างไรไถ้บัาง สง่ิ สำคัญอีกประการหน่ึง คอื เรือ่ งของการปรบั เพ่ิมหนา้ ทีท่ ่ีมีความจำเป็นในอนาคต เพราะเหตวุ า่ หนา้ ที่ ปทิ ่ี ©๒!)ว ฉบบั ท่ี ๔

นิ ตยส์ 'ารยุ กธโกษทีม่ คี วามจำเปน็ ของ ยศ.ทบ. จะไม่จำกดั อยู่ในกรอบของ ฬ ิธ ก ร ท่านคดิ วา่ นวัตกรรมหรือเทคโนโลยใี ดท่ีจะมีการศึกษา การ!เก และการพฒั นาหลักนยิ มเทา่ นนั้ เราจำเปน็ ความสำคัญตอ่ การพฒั นากรมยุทธศกึ ษาใหม้ ศี กั ยภาพหรอืตอ้ งกา้ วเข้าไปสูด่ ้านการศกึ ษาวจิ ัยและการพฒั นาตา่ ง ๆ ความสามารถทัดเทียมกบั กองทัพของนานาอารยประเทศให้มากขน้ึ เพราะส่ิงน้ีจะเปน็ เคร่อื งมือและกลไกหลักที่ ไต้บา้ งคะจะทำให้กองทพั เรา มีความรอบรูแ้ ละกา้ วทนั การเปล่ยี นแปลงน อกจากน ใ้ี น เร่ืองข องระบ บ การศกึ ษ าผ มถือว,า เป ็น จก.ยศ.ทบ.: การพฒั นาเชงิ นวตั กรรมและเทคโนโลยีส ง่ิ ท มี่ คื ว าม ส ำค ัญ ม าก โด ย เฉ พ าะ ค ว า ม ม ีเอ ก ภ าพ ให้ทัดเทยี มอารยประเทศ มีหลายเรือ่ ง เร่อื งสำคญั คอืในเร่ืองการพฒั นาการศกึ ษา ปัจจบุ ันเรามีสภาการศึกษา ส่งิ ท่ีจะทำให้เราเห็นโลกกวา้ ง และทำใหค้ นของเราประจกั ษ์มากมายแต่เรายังขาดการพัฒนาให้เป็นกลไกทีม่ คี ณุ ภาพ ในการเปลีย่ นแปลง อะไรคอื เทคโนโลยเี หล่านนั้ ผมคดิ วา่และสามารถจะใช้สรา้ งนจตั กรรมการศกึ ษาของเราเอง มันคือระบบสารสนเทศ การทีเ่ ราสามารถ เข้าใจ เข้าถงึสง่ิ ทเี่ ราตอ้ งภารมากในขณะน้ีคือการพฒั นาคณุ ภาพของ การเปลย่ี นแปลง และทำให้คนของเรามคี วามสนใจ และหลักสูตรทม่ี อี ยู'และจำเป็นต้องมีใหท้ ี่ดีพอและทันสมัย เข้าใจ เขา้ ถึงการเปล่ียนแปลงอารยประเทศ รูจ้ กั การศกึ ษาเราตองการปรบั คณุ ภาพของครอู าจารย์ให้เป็นบุคลากร คน้ ควา้ การเปล่ียนแปลงเหล่านีไ้ ต้ ก็จะทำให้เราประสบทสี่ ร้างสรรค์และทันสมัย เราตอ้ งปรับวฒั นธรรมของผูเ้ ขา้ รบั ความสำเรจ็ ในเร่อื งของการเปลีย่ นแปลง อีกประการหนึ่งการศึกษาและ'รวมไปถงึ การประยกุ ต์ใชเ้ ทคนิคการเรยี น คือการพัฒนาและปรับตวั เองใหเ้ ขา้ กบั สงั คมให็ไต้ไมใ่ ช่ว่าการสอนท่ที นั สมยั อยา่ งกวา้ งขวางทวั่ ถึง เรอ่ื งราวเหลา่ นี้ เราเข้ากบั สงั คมไม่ไต้ เราเขา้ ไต้ แตก่ ารทเ่ี ราเขา้ ใจสังคมละครบั เป็นสิ่งท่จี ะทำให้ ยศ.ทบ. มีคุณค่าเป็นประโยชน์ ทเี่ ป็นเครือขา่ ย และใช้ประโยชนจ์ ากเครอื ข่ายความสัมพันธ์สูงสุดต่อกองทพั บก และทำใหก้ องทัพบกไต้ประโยชน์ ระหว่างองค์กรทีด่ ี จะทำใหเ้ ราปรบั ตวั เองไต้มองเห็นตัวเองจากยศ.ทบ. เต็มที่ ผมถือวา่ สงิ่ เหล่านถี้ อื เป็นหน้าท่ีทเี่ ราต้อง บางทีมุมมองจากภายในไปสูภ่ ายนอกหรอื ภายนอกเข้ามาสู่ทำให้ประสบความสำเร็จ'ใหโ้ ต้โดยเร็วครบั ภายในทำใหเ้ ราเกดิ การปรบั ปรงุ ตวั ไต้ สิ่งเหลา่ นีเ้ ป็นแนวคดิ ในการสอ่ื สาร ท่ีเราตอ้ งพฒั นาปรับปรุง ผ ธิ ก ร ; ท่าน จก. คะ ปัจจุบันทา่ นคิดว่า ยศ.ทบ.ของเรากำลงั เผชิญปัญหาตา้ นใดบ้างคะ พ ดู ถึงเท ค โน โลย ีแล้วก ็อยาก จะข ยายค วามวา่ มบี างเท ค โน โล ย ที เี่ ราต ้องเรง่ พ ัฒ น าโด ย ใน เบ ้อื งต น้ จก.ยศ.ทข. ะ ปัญหาทก่ี ำลังเผชญิ ถา้ ตดั ปญั หาเรื่อง เราอาจจะใช้เร่ืองของการศึกษาไปกอ่ น เรียกวา่ เป็นรูปแบบความขาดแคลน ปัญหา โครงสรา้ ง ความไม่พอของอะไร ของ อเ9เ1ล1 (วเส{๒โ■กา นำมาใชต้ า้ นการศึกษา จะทาใหค้ รูต่าง ๆ ของคน ออกไปกจ็ ะเหลือปัญหาทมี่ ีความสำคญั อาจารยส์ อ่ื สารกับลูกศิษย์ ทำใหล้ กู ศษิ ย์สอ่ื สารกับโลกและต้องคดิ ไปในอนาคต ปญั หาแรกกค็ ือปัญหาเก่ยี วกบั ภายนอก มนั ทำให้โลกภายนอกเขา้ มาศึกษารบั รู้ ในระบบวฒั นธรรมองค์กร เราควรตอ้ งกลับมาทบทวนดูวา่ ระบบ การศึกษาของเรา ทำใหเ้ ราสามารถสบื คนั เรอ่ื งราวตา่ ง ๆราชการ ท่ที ำก้นอย่คู วรจะตอ้ งพัฒนาปรับปรุงสว่ นไหน ท่ีมพี ฒั นาการเปลย่ี นแปลงไปได้อยา่ งครบถ้วน ขณะนี้จงึ จะสอดคล้องกับลกั ษณะของกองทัพ และเป็นลกั ษณะของ วิทยาลยั การทพั บกไดน้ ำเอาแนวศดิ นไี้ ปพฒั นาปรับปรุงการเปลย่ี นแปลงทีเ่ ราตอ้ งการ คือเราต้องทำให้คนของเรา เปน็ อเฐแสเ เวเลสอโ๓ ดา้ นการศกึ ษา จากนัน้ เราจะขยายไปในมลี กั ษณะการดำเนนิ งานที่มคี วามเขม้ แข็งมากขนึ้ ตอ้ งทุ่มเท ระตบั สถาบนั การศกึ ษาทุกระดบั ช้นั เราจะซดเชยเวลาที่ต้องมีอุดมการณ์ ตอ้ งมคี วามมงุ่ ม่ันมากข้นึ โดยสรปุ กค็ ือ แตล่ ะคนไม,คอ่ ยจะมใี นการศกึ ษาจะชดเชยในเร่ืองของตอ้ งทำหนา้ ทีใ่ ห้เป็นทหารมอื อาชีพ และอีกประการหนงึ่ ทรัพยากรทม่ี 'ี จำกัด เราจะพฒั นาปรับวุ ฒั นธรรมองค์กรของคือ ปญั หาการเตรยี มตัวไปสู่อนาคต ปัจจุบันเราเห็นไดว้ า่ ผเู้ ข้ารับการศกึ ษา ให้ขวนขวายมากขึ้น ให้สบื คันด้วยตัวเองทกุ องค์กรกำลังจะพฒั นาไปสสู่ งั คมดจิ ติ อล หรอื เรียกว่า มากขนึ้ เราจะปรบั วฒั นธรรมของครู อาจารยใ์ ห[้ ชิสอ่ื การเรียนโลกาภวิ ตั นใ์ นยคุ ๔.๐ เราควรจะปรบั ตวั ปรบั กลไกของเรา การสอนประเภทน้เี พอ่ื พัฒนาศกั ยภาพของการสอน เปน็ทีจ่ ะเข้าสยู่ ุคใหม่ หรือวา่ เราเรียกวา่ IVแกป 561 ตวั เราเอง ลักษณะของการสอนในเชงิ (วอฮอเาเทฐ และเปน็ เฮอแส3เ๐|-รอยา่ งไร ทจี่ ะกา้ วเดินสสู่ ังคมดจิ ิตอล อนุชนรุน่ หลงั ท่ีจะกา้ ว ชว่ ยเหลืออำนวยการใหผ้ เู้ ข้ารับการศึกษานั้น เข้าถงึ และเข้ามาในกองทพั เราตอ้ งคิดให้พร้อมและเตรียมตวั ส่วนเรอ่ื ง เขา้ ใจบทเรยี นด้วยตนเอง และรู้จักแสวงหาความรแ้ ละพัฒนาอ่นื ๆ ไมม่ ีอะไรหนักใจครบั ทักษะของตนเอง ไต้มากขน้ึ และทันสมยั อันนี้คอตัวอยา่ ง เทคโนโลยที ี่เราจะทำในหลักสูตรของเรา และในโรงเรียน ต่าง ๆ ทก่ี รมยทุ ธศกึ ษาทหารบก เรารบั ผดิ ชอบดแู ล ๕กรกฎาคม - กบั ยายบ ๒๕๖๑

นิ ฅยส์ 15 ยฺ กธโก ษ ห/ิ ธกร : ทา่ นอยากฝากแนวความคิด เพ่ือเป็นรากฐาน ในประการที่ ๓ เมื่อเราทำตัวเองให้ดีพร้อมเราในการปฏบิ ตั งิ านแก'กำลังพลกรมยุทธศึกษาทหารบก อยใู่ นสงั คมดแี ล้วก็จะเปน็ โอกาสท่ีดี เราเรยี กวา่ การสรา้ งอย่างไรบ้างคะ โอกาสในการทำงานท่ดี ตี ่อไป สรา้ งโอกาสทีจ่ ะประสบ ความสำเรจ็ ตอ่ ไป ฉะนนั้ มคี วามรู้ มีทกั ษะดี มีสังคมดีกต็ อ้ ง จก.ยศ.ทบ. ะ คงมี ๓ เร่ืองสำคัญ ถือว่าผมได้ มีโอกาสดที ไี่ ต้ทำงานด้วย ถามโี อกาสดแี ลว้ เราไม,ทำท ำงาน กบั กรมย ทุ ธศึกษ าท ห ารบ ก มาด้วยความสุข ความดไี ม,เพิ่มพนู ความสามารถของเราให้ดีฃึน้ ไปก็จะต ล อ ด ระย ะเวล าห น งึ่ แ ล ้ว ม ีส ง่ิ ท ่ีอ ย าก ต อ บ แ ท น ค น ไม่เป็นประโยชนเลยกรมยุทธศกึ ษาทหารบกบา้ ง และสิง่ ประกอบท่จี ะชว่ ยใหเ้ ราทำท้งั สามประการน้ัน ข ้อ แ รก เล ย คือ ใหพ้ จิ ารณาใชป้ รชั ญาที่ไดร้ ับ สำเรจ็ คือความมีสตขิ องเรานัน้ เอง เราตอ้ งดำรงตนในความพระราชทานจากในหลวงรชั กาลที่ ๙ ผมเช่ือมั่นในปรชั ญา มสี ติสมั ปชัญญะว่าสง่ิ ต่าง ๆ ท่เี รากำลงั ทำอยู่หรือทีเ่ ราเข้าใจ เขา้ ถึง พัฒนา เพราะเป็นจุดเร่ิมต้นของการทำงาน และ ประพฤติตนอยู่น้ันเหมาะสม คคู่ วรกับสถานะของเราหรือไม่การแกป้ ญั หาทัง้ ปวง เปน็ จุดเรมตน้ ของการทำตวั เราและ เราคิดในสิง่ ทเ่ี ป็นประโยชน์ เราคดิ ในสงิ่ ทเี่ ป็นคุณธรรมองค์กรใหผ้ า่ นพนั อุปสรรคไต้ เราจะตอ้ งเริ่มต้นด้วยการ คิดในสงิ่ ทตี่ ้องแก้ไขอะไร หากความคิดในชว่ งฉบั พลนัสร้างความเขา้ ใจ และเข้าถงึ ข้อมูล จงึ เข้าถงึ การเปล่ียนแปลง เราสามารถมีสติเรากไ็ ม่ทำผดิ และสดุ ทา้ ยกค็ ือ เรอ่ื งของเขา้ ถึงปัจจยั ตา่ ง ๆ ทีจ่ ะนำมาสูปญั หานนั้ และก็เมอื่ เข้าใจ ความมคี ุณธรรม อันนี้สำคัญมากสาหรบั การเป็นทหารดีแลว้ เข้าถึงเร่อื งราวตา่ ง ๆ ทเราอยากทำ และต้องการ มืออาชีพ ความมีคุณธรรมที่สำคัญ กค็ ือคุณธรรมในการทำให้สำเร็จจากน้ัน เราก็มุ่งม่นั ท่ีจะลงมอื ทำและพฒั นา สรา้ งความนำเชื่อถือ ได้แก่ ความรบั ผิดชอบ ความยุตธิ รรมซ่งึ สิง่ เหลา่ น้ีคอื ปรชั ญาท่ีมีความสำคญั มาก สำหรับชาว ความไม่ประพฤติผดิ ศีลธรรม สงิ่ เหล่าน้ลี ะครับที่เราจะไต้รับกรมยุทธศึกษาทหารบกทจ่ี ะดำเนนิ งานของตนเอง ความเชอื่ ถือจากสงั คม นอกจากคณุ ธรรมเหลา่ นแ้ี ลว้ กย็ งั มีคณุ ธรรมท่ีจะสร้างความนำนบั ถอื ให้ตัวเราเองดว้ ย ประการท่ี ๒ อยากให้พวกเราไต้คำนงึ ว่า เราเปน็ ถ้าเราเป็นผู้ทท่ี ำอะไรเพ่อื ส่วน'รวม เพือ่ สงั คม ทำงานต่าง ๆส่วนหนึง่ ของสงั คมกรมยทุ ธศึกษาทหารบก เราเป็นส่วนหนงึ่ โดยไมค่ ดิ ถึงส่งิ ตอบแทนขณ ะเดียวกน้ ก็พฒั นาตวั เองของสังคมกองทพั บก เรามีหนา้ ทีท่ ี่ต้องดูแลการทำงาน ให้เป็นผูท้ ม่ี ีความเสียสละอยเู่ สมอ ๆ มีความอ่อนน้อมถ่อมตนของเราให้สมบูรณพ์ รอ้ ม เราเปน็ สว่ นสำคัญท่ีจะทำให้ กจ็ ะทำใหเ้ ราไต้รับความนำนบั ถอื คนกจ็ ะนบั ถือเรา สดุ ท้ายกองทพั บกเจรญิ กา้ วหน้า ตังนน้ั ตอ้ งตระหนกั ถงึ ส่ิงท่มี ี ก็คือคุณธรรมทีท่ ำให้เราไตร้ บั ความยอมรบั และนำสนบสนุนความสำคญั เหล่านี้เสมอ การพัฒนาใดก็ตามต้องเรมิ่ ที่ นน้ั คือความพากเพยี ร ความวริ ิยอุตสาหะ เมือ่ เรามีความการพัฒนาตนเอง โดยตระหนกั วา่ ตนเองน้นั มีบทบาท ขยันข้นแข็งคนกอ็ ยากจะสนบั สนนุ เรา ผบู้ งั คับบญั ชาหน้าทสี่ ำคญั ตอ่ สถาบนั กองทัพบกเพยี งใด เมื่อเราเช้าใจ เหน็ กอ็ ยากจะดูแลชว่ ยเหลอื ผใู ตบ้ งคับบญั ชาเห็นกอ็ ยากเรารอบรู้หน้าท่ที ่เี ราต้องทำ และเราทำงานของเราให้ จะสนับสนุนอยากชว่ ยเหลือเรา ฉะน้นั คุณธรรมในเร่อื งครบถว้ นสมบูรณ์ ใหก้ องทัพบกมีความเพียบพร้อมอันนั้น ของการนำเชื่อถือ นำนบั ถือ นำสนบั ส'นุนนนั้ ถือว่าเป็นคอื สิง่ ทมี่ คี วามสำคญั สรุป ว่าเราตอ้ งตระห น กั ตวั เอง คุณธรรมภาพรวมที่เราจะต้องทำ สิ่งเหล่านผ้ี มอยากจะให้ตระหนกั รู้วา่ เรากำลงั ทำอะไรอยู่ และความมุ่งมัน่ ของเรา เปน็ ขอ้ คิดและขอให้ข้าราชการของกรมยุทธศึกษาทหารบกจะทำให้กองทพั บกประสบความสำเร็จไตอ้ ย่างไร ไต้ตระหนกั ภาพรวมทีไ่ ต้กล่าวมาแล้วทงั้ หมดขอบคุณครับ ป ระก ารท ี่ ๓ กถ็ ึอวา่ เป็น ลักษณ ะพึงประสงค์ จากบกสบั กาษณบิ าั งคัน กองบรรณ าธิการหวงัด้านจรยิ ธรรม คือสิ่งหนึ่งที่เราจะตอ้ งพัฒนาตนเองและ เป็นอบ่างบ่ีงว่าก'าบลบาชักจ:ไถรั ับบฉั คิกแนวกางการสังคมเราใหด้ ีคือ เรม่ิ ท่พี ฒั นาตนเองใหม้ ีความรู้ มีความ กำเนิบงาน เพ่ีอนำมาปรบั ?ชกั บั โลกใบบุกกกี่ ารเปลีบ่ นแมลงสามารถ มีทกั ษะในการทำงานที่เป็นทีต่ ้องการของหน่วย รวกเร็วแก,ปลาบมวั้ สบั บัส เหมือนคงั กี่ท ีเ่ ป ็น ท ต่ี ้อ งก ารข อ งส งั ค ม ท ่ีเราอ ย ู่ กต็ ้องขวนขวาย ก,านเจาั กรบฯ ไถกั ล่าวไวัวา่ กกุ อบา่ งกระตือรอื รน้ ทจี่ ะพัฒ นาตนเองอยู่เสมอ พัฒนาตนเอง ถัฉงไชั สกี ในการพิจารณาก็ยงั ไมพ่ อ เราจะต้องทำให้สังคมท่ีเราอยูม่ คี วามพึงพอใจและชนื่ ชมในผลงานและในสงิ่ ท่ีเราทำดว้ ย เราต้องเขา้ ใจสงั คมเราต้องตอบแทนสงั คม เราตอ้ งดูแลความเปน็ อยใู่ นสังคมเรียกว่าดแี ตต่ ัวเองไมไ่ ต้ต้องทำให้สงั คมดีด้วย ฉะน้ันการทำงานต้องแวดลอ้ มไปด้วยสังคมท่ีดี

บิ คยส์ 'ารยฺ ทธโกษกกรหมบาุกรธศบึกษกา * กยข.ยค.ทบ. กรมยทุ ธศกึ ษาทหารบก มกี ำเนดิ มาอย่างยาวนาน ปี ๒๔๓๘ เป็น กรมยุทธศกึ ษาอาจสรปุ ความเปน็ มาของหน่วย ไดเ้ ป็น ๓ ยคุ สมัย ดังนี้ ปี ๒๔๔๘ เปน็ แผนกท่ี ๔ ของกรมเสนาธิการ ทหารบก ยุคแรก เริม่ ขน้ึ เม่อื พุทธศกั ราช ๒๔๓๘ พระบาท ปี ๒๔๕๒ เปน็ กรมยุทธศกึ ษาสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยูห่ ัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ปี ๒๔๕๗ เปน็ กรมยทุ ธศึกษาทหารบกให้ กรมยทุ ธนาธิการจัดต้ัง “ กรมยุทธศึกษา” ข้นึ และโปรด ปี ๒๔๘๙ เป็น โรงเรียนนายร้อยทหารบก และเกล้าฯ ใหน้ ายร้อยเอก มิสเตอรเ์ ยรินี ชาวอติ าลี ซ่งึ ขณะนั้น กรมเจรทหารบกดำรงตำแหนง่ อาจารยใ่ หญ่ โรงเรียนทหารสราญรมย์ เปน็ ปี ๒๔๙๕ เป็น กรมยุทธศกึ ษาทหารบกเจา้ กรมยุทธศกึ ษาทา่ นแรก มภี ารกจิ ในการเรียบเรียงตำราวิชาการ และวางแผนหลกั สูตรการเรียนการสอนแก่นักเรยี นนายทหารบก ภายหลงั ไดเ้ ปลยี่ นแปลงนามหนว่ ย และการ

^ เ ฬฬ&เ&^ฟ้^ฬ'ฺ 'ไฟ้ฟา้ 1^1

นิ ถยสั ารยฺ กรโกษ กรมยทุ ธศกึ ษาทหารบก ศนู ยพ์ ฒั นาหลักนิยม ศูนย์ภาษา แลเยทุ ธศาสตร์ ในยุคที่ ๒ นี้ ถอื เปน็ ยุคที่ใซ้ชือ่ กรมยฑุ ธศึกษา กองกำลังผล กองยุทธการทหารบกโดยมิได้เปลี่ยนแปลงอีก เมื่อวนั ที่ ๖ สิงหาคม แลเกา่ รขา่ วพุทธศกั ราช ๒๔๙๕ โดยให้ขึ้นตรงตอ่ กองทัพบก และ กองส่งกำลงั บำรงุมีหน่วยข้นึ ตรง ๕ หน่วย คอื ศนู ย์การทหารราบ กองส่งเสริมศนู ย์การทหารมา้ ศนู ย์การทหารปนี ใหญ่ ศนู ย์ปีกทาง V บำรุงความรู้ยุทธวิธกี องทพั บก และโรงเรยี นนายสบิ ทหารบก Iกะองอนคุ าสนาจารย์ กองการพัก ครนั้ ในปี พุทธศักราช ๒๕๕๑ กองทพั บกไดป้ รับ 7โครงสร้างใหม่ โดยยบุ สถาบันวิชาการทหารบกชั้นสงู และมอบความรับผิดชอบและมอบหนว่ ยให้ขึ้นตรงเพ่มิ อีก กอง'สมันสบุบ๒ หน่วย คือ วทิ ยาลัยการทพั บก และโรงเรียนเสนาธิการ การพักแลเศกึ ษาทหารบก รวมเป็น ๗ หนว่ ย และมีโครงสรา้ งภายในประกอบด้วย ๑๒ กอง ๒ ศนู ย์ กองคตั สรรแล? พัฒนาบคุ ลากร กระท่งั ในปีพุทธศกั ราช ๒๕๖๐ ไต้ปรับปรงุโครงสร้างอัตราการจัดเฉพาะกิจหมายเลข ๔๑๐๐ อีก กองการเงินครงั้ ซงึ่ ถอื ไดว้ า่ เปน็ ยคุ ปัจจบุ นั โดยมีโครงสรา้ งภายในเป็น ๘ กอง ๒ สำนัก ๒ ศนู ย์

ชิ ตยส่ 'า ร ย ุ ท ธ โ ก ษ กรทมหยุทารธบศึกกษา กองกำลังผล I กองยุทธการแล?การปาว กองส่งกำลังบำรุง ๏ กองปลัดบัญชี กองอนศาสนาจารย์ กองคัดสรรแล?ฬฒนาบคุ ลากร ๏ กองบริการ กองการเงิน 11/11 ซก่ี ๑๒)๖ ฉบบั ก่ี ๔

นิ ตยส์ ารยฺ ทธโกษ มภี ารกิจทสี่ ำคัญท่ไี ดร้ ับจากกองทัพบกโดยสรปุ คือ ตามทก่ี องทพั บกตอ้ งการ อกี ทง้ั ไดใช้การประกันคุณภาพรบั ผิดชอบในการเตรยี มกำลงั ของกองทัพบก ด้วยการ!เก การฝกึ เป็นเครอื่ งมอื ในการประกนั วา่ การฝกึ ทั้งกองทพั บกการศึกษา บนพัฒ นาการของหลกั นยิ มและวิทยาการ ดำเนินไปด้วยระบบทถี่ ูกตอ้ ง ทันสมัย สอดคลอ้ งกับใหก้ ำลังพลของกองทัพบกมีความรู้ มคี ณุ ธรรม มีความพร้อม สถานการณ์มคี วามทันสมัย พร้อมปฎิยัติภารกจิ ท่ีจะไดร้ ับจากกองทัพบกในทุก ๆ ดา้ น สำหรบั บทบาทดา้ นการศึกษา รบั ผิดชอบการศึกษา ทั้งระบบของทกุ หน่วยการศึกษา ต้งั แตก่ ระบวนการคัดเลอื ก ซ่ึงในบทบาทด้านการฝึกนัน้ รบั ผิดชอบตง้ั แต่ ผูท้ 'ี่ จะเชา้ มาสกู่ องทพั กระบวนการผลิตและเพ่มิ พนู ความรู้การฝึกระคับบุคคล จนถงึ การฝึกเป็นหน่วยระคบั กองทพั ภาค ทกุ ระดบั ทัง้ ภายในประเทศและตา่ งประเทศใหม้ ีความพรอ้ มโดยแบง่ เป็นการฝกึ ตามวงรอบประจำปี การฝกึ พเิ ศษ และ ในการทำงานแต่ละตำแหนง่ หนา้ ที่ ดว้ ยการพฒั นาหลกั สูตรการฝึกงานในหนา้ ที่ รวมท้งั จดั การแขง่ ขันและการตรวจ พัฒนาครูอาจารย์ พฒั นาวิธกี ารสอนและการประเมินผลสอบระดบั กองทพั บก เพ่ือเปน็ การสรา้ งและรดั มาตรฐาน เพอื่ ให้ผลผลติ เป็นไปตามทก่ี องทัพบกและหนว่ ยต้องการ รวมทงั้ กระบวนการตดิ ตามผลผลิตหลงั จบการศกึ ษาเพื่อ นา่ มาพฒั นาในแต่ละดา้ นให้สมบรู ณ์และทันสมัยอยูเ่ สมอ ทัง้ นี้ ยังดำเนนิ การตรวจประกันคณุ ภาพการศกึ ษาทุกโรงเรียน และหน่วยจดั การศกึ ษาเพ่ือให้มนั่ ใจวา่ มมี าตรฐานและ ขับเคล่อื นพร้อมกนั ทง้ั ระบบ ความรับผิดชอบอีกบทบาทหน่งึ คือ ดา้ นหลักนยิ ม และยุทธศาสตร์ ซึง่ รบั ผิดชอบการจดั ทำ และพัฒนาหลักนยิ ม ทัง้ ของเหลา่ และระดับหนว่ ยต่าง ๆ จดั ทำและทบทวน ยทุ ธศาสตรเ์ พอ่ื นำไปสกู่ ารพัฒนาขบั เคลื่อนยทุ ธศาสตร์ ของกองทัพบก ดว้ ยภารกจิ และความรับผดิ ชอบท้งั หมดน้ี กรมยทุ ธ ศึกษาทหารบก จะดำเนินงานด้วยคำขวัญทีว่ า่ \"สรา้ งทหารถวั บการอก สราั \)ขนุ ศกถัวบการสกษาสร้างบูบ้ ังคบั บญั ชาถว้ นการฟัฌนาคณุ ธรรม\" กรกฎาคม - กับยายบ ๒)๕๖๑

น ิ ต ย ส ั า ร ยุ ก ร โ ก ษกรมบุกธศึกษากหารบกกั บการส' งเ สริ มคุ ณธรรมจริ บ55ร บ ถ า ม บ ก ธ ศ า ส ถ ร ชา ถ ิ * กอศจ.ยศ.ทบ.*1— วยสภาพของสงั คมที่เปล่ยี นแปลงไป ตาม ใน ส ภ าพ ค ว าม เบ ีน จ รงิ ข อ งส ังค ม ไท ย ป จั จ บุ นัถความกา้ วหน้าของเทคโนโลยีทเี่ ปล่ียนแปลง ชาวพุทธมเี วลาให้กับพระพทุ ธศาสนาน้อยมาก วิธีการ ไปอยา่ งก้าวกระโดด สง่ ผลใหค้ นในสงั คม ที่จะเข า้ ถึงห ลกั การ และสมั ผสั กับคุณ ประโยชน์ของเปลี่ยนไป โดยเฉพาะมติ ทิ างด้านจติ ใจ คือการลดลพงรขะอพงทุ ธศาสนา คือ การเจรญิ สติตามหลักสติปฏั ฐาน ๔คุณธรรมจรยิ ธรรม ขาดสำนึกสาธารณะและรว่ มรับผดิ ชอบ อนั เป ็น ห น ท างส าย เอ ก ท ีจ่ ะก อ่ ให เ้ ก ดิ ส ต สิ ัมป ช ัญ ญ ะส า เห ต ุห น ึ่งเก ิด จ าก ก าร เป ล ่ีย น แ ป ล งไ ป ต าม ก ระแ ส ในการครองตน ครองคน ครองงาน อย่ใู นสังคมอยา่ งมีการพฒั นาทางเทคโนโลยสี ารสนเทศ ได้สง่ ผลกระทบ คณุ ภาพชีวติ ทด่ี ีงาม สามารถเผชญิ ปัญหาตา่ ง ๆ ที่เกิดขึ้นตอ่ สว่ นรวมอยา่ งหลีกเลีย่ งไมไ่ ด้ ทำให้เกดิ การหลงผดิ อย่างมีสติ ถกู ต้อง ถูกทาง และถูกธรรมและมีพฤติกรรมทเ่ี บย่ี งเบน ขาดระเบยี บวนิ ยั กา้ วรา้ ว ทำให้ การ!เกเจริญสตขิ ัน้ พนื้ ฐาน สำหรบั ผเู้ รมิ่ ด้น อุปนิสัยภูมิตุ้มกน้ ของคนในสังคมบกพรอ่ ง ไม่สามารถแก!้ ขปัญหา ทางดา้ นการเจรญิ สตยิ ังไม่แกก่ ลา้ จำเป็นต้องมีสถานท่ีและในการดำรงชีวติ เป็นเหตใุ หส้ ถาบันครอบครัวขาดความ สิง่ แวดลอ้ มทเี่ กอื้ กูลต่อการ!เกฝน มคี วามเป็นธรรมชาติม่นั คง เกิดปญั หาต่าง ๆ ตามมา เช่น การก่อเหตทุ ะเลาะวิวาท สถานทเ่ี พยี งพอต่อการ!เกในอริ ยิ าบถทั้ง ๔ คือการยนี การเดินการแพรร่ ะบาดของสง่ิ เสพตดิ การต้ังครรภ์ก่อนวยอันควร การมง่ั และการนอน อกี ทง้ั มีความเงยี บสงบ ผคู้ นไมพ่ ลกุ พลา่ นการติดเกม การทำงานทไ่ี มม่ ีความสุข การขาดความสามัคคี หากอยู่ใกล้ชมุ ชน กจ็ ะเกดิ ความสะดวกมากยิ่งข้ึนในองคก์ ร เป็นด้น ซึง่ สว่ นใหญ่มีมูลเหตุ ปา่ เ&ป®ใ;มฤคทาข’!น (/เง^/) ใ®ทพ#™ษ*าร0ุ ษมาจากขาดการพฒั นาด้านจติ ใจ คอื ระบบการยง้ั คดิ ท่ีจะคำนึงถงึ ผลกระทบท่จี ะ -*รน ษ ร :ร *ุ 3 *3ะ3รรม ษ ::;!:ม ่ ฟ *้ ษ :ะ ร *ุ 3เท *,.;า V } จาร5ท:}นาฝ!8ร ร * ! ! ^ จ 5ณ รุ:*;}ะ:*น น :2*0710ตามมา การพัฒนาจติ ใจท่ไี ด้ผลลัพธอ์ ย่าง - * ณ * โ® Xโ*(.ะ.::*มิ*:* 8 ช ุ- - - • 'ก ้ษาิ าร:นาร::ม:ร}ุ รุ®รวดเรว็ และถาวร คอื การเจรญิ สติทค่ี นไทย งเ?ร!•่เษ!ษ::ส*น?)น.ช์ ุ#แรฬน Vนา1*3*ารภ*1เ!ญร'โ'XI*ร*■ส*Vญ: ' -6??3ร:ม เปีน31รม;;}*ฟเน ไม5่ 3ร*ุ *# ไม่ม*จาร;!(ค้นุ เคย ไดแ้ ก่ การปฏิบัตวิ ปิ ัสสนากรรมฐานเพราะเปน็ วิธกี าร!เกจิตใจ ใหเ้ ขา้ ถงึ สภาวะ -ชุซ*3รรน;ธน,นรา ษ ร:ร*ุ 33รรม *นา*ภ*ใ:นรภไน่โ*จ ท#อค!ธรรมทเี่ กิดขน้ึ ตามความเปน็ จรงิ ! เกใจให้รู้จกั แยกแยะชั่ว ดี มีความรับผิดชอบ ทิคท(ัภรเ!น7@มร่ ะ#ใ/ไ*จุ้น;?ใชุไ#รา*าน*น: ผ ไ ใ•น'85จร*:;า*รุต่อตนเองและผู้อื่น เม่ือจติ ทไ่ี ด้รับการ \ * ' 7 ;*เโาา}กรม:;*รา่ }รุน!ษ3แกฝนดแี ลว้ ย่อมปฏบิ ตั ติ อ่ สงิ่ ท้งั หลาย มริ เาะนฬ(พ่รุา)2 •น เก )**ะน*:**2ภ: ษ ำ!ฬ - ' ' ธ่น#นซ*ิ ;เฝิเรุ \"ไดอ้ ย่างถูกต้องเทีย่ งตรง ทั้งภาระหนา้ ท่ี *•๗'®นภาาใ) เอนชฐมธบุ !*ภา®:ษร-.?*น: 2 0*รรสืภชรุ ภ*ภ) ษร:รุทร่ ษร:ร:รน เ!}น*:!น: ซ!'.!:*•ใ®-มิษนื้ **®น®รรม:!ทำ}*}ร} ษร-.*?รุ*•.มาร::;โามใ่ รา* -2*านไ**นธ่ ก;!น®}ภ:* -ท่ไ•ชมุ *:-ช?าา: 2า#*พมุ กา:ใ!ภ*!ซฎ®าน*\" (ภาช ;รนนา ไ * รรรน) ®2ทม*ิฬิ ;®รุ1ราุุ ใเ ไ ผ ซ ) ษ**ษร:;นเ®®::รรุนนุ !!ษษ?* V 7 ไมภ่ ร:ษ!นษรุ:;น*: --- ' ข ้ ภเ๒ *ร*ุ 6 รุน'!(48 ะ?.*!!!!รุ}๗;'ไรเ#จุ้น!ษ# รรน่ ภารุ่าเอนุ่ #; โมซ#ิ ไ:ม!นเ์ *ร'!;*ใ!/* ■ะ®?ศเร*ุ 3 *จา #า®8ใ*®ท*(๗1ฬ น *ภ ฬ เท ำ*** 3๒3*1๒•เ *ม ษิ ::รุ*รโม ’่บา่ :ภ:ไช;น*:แล ะด ำรงต น อย ู่ใน ส งั ค มอย า่ งเค ารพ เไ*}ซ}ไรนุ ์ากฎระเบียบ*พ.ท.เกรียงไกร จนั ทะแจม่ หน.วชิ าการและการศึกษา กอศจ.ยศ.ทบ. ซกี่ ®๒ว๖ อบนิ ก่ี ๔

นิ 0 ยส่' ารยฺ ทร โ ก ษ กรมยุทธศกึ ษาทหารบก ในฐานะเปน็ หน่วยสว่ น ในอนิ เดียเรยี กวา่ “ พ ทุ ธค ยา” กรมยุทธศึกษาทหารบกการศกึ ษาของกองทัพบก มีภารกจิ หลักในการเตรยี มกำลัง ไดป้ ลกู ด้นโพขแึ้ ละประดษิ ฐานพระพทุ ธรูปปางมารวชิ ยัของกองทพั บกด้วยคำขวญั ทวี่ า่ สร้างทหารดว้ ยการแก ไวป้ ระจำมหาสถานน้ีส ร้างข นุ ศึกดว้ ยการศกึ ษ า ส รา้ งผ ู้บ ง้ ค ้บบ ญั ช าด ้วยการพฒั นาคุณธรรม เพ่ือใหก้ ำลังพลของกองท พั บกมีความรู้มคี ุณธรรม มีความพร้อม มคี วามทนั สมยั พรอ้ มปฏบิ ัติภารกจิ ทไ่ี ด้รบั จากกองทพั บกในทกุ ๆ ด้าน สอดคลอ้ งกับยทุ ธศาสตรช์ าตดิ า้ นการพัฒนาและเสริมสรา้ งศักยภาพทรัพยากรมนษุ ย์ เพื่อเป้าหมายในอีก ๒๐ ปีข้างหน้าคนไทยตอ้ งเปน็ มนุษย์ทส่ี มบูรณ์ มีความพรอ้ มท้ังกายใจสตปิ ัญญา สามารถเรียนรไู้ ด้ตลอดชีวติ มีทกั ษะในศตวรรษท่ี ๒๑ บนฐานของการรูค้ ณุ คำความเปน็ ไทย มีคุณธรรมจริยธรรม มวี ินยั ความรับผิดชอบตอ่ สงั คม และมสี ุขภาวะท่ีดี๑ สำหรับภารกจิ ด้านการปลูกฝังและเสรมิ สร้างคุณธรรมจรยิ ธรรมให้ก๋บั กำลงั พล ครอบครัวของกองทัพบกและประชาชนนั้น กรมยุทธศึกษาทหารบกตระหนกั ถงึประโยชนท์ จ่ี ะเกิดขึน้ แกก่ ำลังพล ครอบครวั และประชาซนจากการฝึกอบรมการเจรญิ สตดิ ้วยวปิ ัสสนากรรมฐานจึงมีโครงการสร้างอทุ ยาน “ พทุ ธธรรมสกิ ขา” เพอ่ื เปน็สวนปฏบิ ัติธรรมพืน้ ท่จี ำนวน ๕ ไร่เศษ ในพืน้ ท่ีของกรมยุทธศกึ ษาทหารบก โดยจำลองสถานท่ีจากเหตกุ ารณ์ในพุทธประวตั ทิ ่ีพระพุทธเจา้ เสวยวิมตุ ติสขุ ภายหลงั การตรัสรู้ ๗ สปั ดาห์ ๗ สถานท่ี (สตั ตมหาสถาน) รวม๔๙ วนั และสถานทพ่ี ระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนาซึง่ กอ่ ใหเ้ กดิ พระรัตนตรยั ครบองค์ ๓ รวมเปน็ ๘ มหาสถานอันประกอบด้วยเหตุการณแ์ ละสถานท่ดี งั ตอ่ ไปน้ีมหาสถานกี่ 0 หลักธรรมทีค่ วรพจิ ารณ า : ในวิถีชวี ติ ปัจจบุ ัน คอื\"ตรสั เฉรบิ สัจ ๔ พิจารณาปฏจจสมปุ บาท\" ความสำเร็จในการดำรงชวี ติ ตามวถิ พี ุทธ ไดแ้ ก่ ความสามารถ ในการแก้ปัญหาชวี ิตจนถงึ การข้ามพนั จากความทุกข์ จะต้อง พระพทุ ธเจ้าได้ตรสั รอู้ ริยสัจ ๔ ภายใตด้ ้นพระศรี ดำเนินการแก้ปญั หาตามหลักอรยิ สัจ ๔ กลา่ วคอื เม่ือมปี ญั หามหาโพธรมิ ฝังแมน่ า้ํ เนรญั ชราและประทับเสวยวิมตุ ติสขุ เกิดข้นึ จะตอ้ งสืบหาสาเหตุ แลว้ ดำเนนิ ชีวติ ไปตามมรรควธิ ีตลอด ๗ วนั ทรงพจิ ารณาปฏจิ จสมุปบาท คอื วงจรการเกิด ทเ่ี ปน็ ทางสายกลาง โดยสรปุ ไดแ้ ก่ การเคารพกฎระเบียบการดับแห่งทุกข์ วา่ เป็นหลกั ธรรมอันลกึ ซึง้ เกินที่บุคคล เพิม่ พนู สมาธิ และเจริญสติ จนบรรลุเปาั หมายทีต่ ้ังใจทัว้ ไปจะหยัง่ รไู ด้ ซึง่ พระองคใ์ ต้ตรัสร้แู ล้วสมดงั พระประสงค์ พร้อมศึกษาใหเ้ ข้าใจถงึ สภาพของสิ่งนัน้ ว่าดำเนนิ ไปตามที่เสดจ็ ออกผนวชแสวงหาโมกขธรรม บำเพญ็ เพยี รทกุ กร เหตปุ ัจจัยกริ ยิ าเป็นเวลา ๖ ปี ในทส่ี ดุ ได้ตรัสร้ดู ้วยการบำเพญ็ เพียรทางใจ ไดม้ ีชยั ชนะตอ่ พญามารและเสนามารท่ีมากลา่ ว กรกฎาคม - กับยายบ ๒ ๕ ๖ ๑ตูเ่ อารัตนบัลลงั กโ์ ดยมีพระแมธ่ รณีวสนุ ธราเป็นสกั ขพี ยาน** ดูรายละเอียดในยุทธศาสตรช์ าติ ๒๐ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๙), หนา้ ๓๘.

นิตยส์'ารยฺทธโกษมหาสถานกี่ ช มจิ ติ อาสา ช่วยเหลือเกอื้ กลู กัน บำเพ็ญประโยชน์ตอ่ ชมุ ชน\"ถ ว าบ พ ระเน ต รแ ต ่ถ ัน พ ร:ศ รีม ห าโพ ธ ถ ัว บ สังคมและประเทศชาติกตัญญตุ าธรรม\" มหาสถานก่ี ๐ \"รตั นจงกรมเจถีบ\"์ ในสัปดาหท์ ี่ ๒ พระพุทธเจา้ ลุกออกจากโคนตน้ ในสัปดาหท์ ี่ ๓ พระพุทธเจ้าไต้เสด็จออกมาเดนิพระศรมี หาโพธ ไปทางทิศอีสาน (ตะวนั ออกเฉียงเหนือ) จงกรมระหว่างต้นพระศรมี หาโพข้ึ กบั อนมื สิ สเจดีย์ โดยประทบั ยืนทอดพระเนตรต้นพระศรมี หาโพขึ้ โดยมไิ ต้ การเจรญิ สติปฏั ฐานและพจิ ารณาหลกั ธรรมท่ไี ตท้ รงบรรลุกะพริบพระเนตรเปน็ เวลา ๗ วัน ซ่งึ เป็นพระสหชาตขิ อง ประมวลขนึ้ เปน็ หมวดหมู่ ในอนิ เดียไตแ้ กะสลักหนิ เป็นพระองคด์ ้วยความกตญั ญูว่า ใหร้ ม่ เงาไดอ้ าศยั บำเพญ็ เพยี ร ดอกบวั วางเรยี งกัน ๑๙ ดอก กรมยทุ ธศึกษาทหารบกจน ได้ตรัสรู้ ในป ระเท ศอนิ เดยี เรียกสถาน ท ่ีแห ่งน ้วี ่า ไต้สรา้ งลานเดินจงกรม และประดษิ ฐานพระพุทธรปู ปาง“ อ น ิม ิส ส เจ ด ยี ”์ กรมยทุ ธศึกษาทหารบก ไดป้ ลกู ต้น จงกรมไวป้ ระจำมหาสถานน้ีกล้ ปพฤกษ์ และประดษิ ฐานพระพุทธรูปปางถวายเนตรไว้ประจำมหาสถานน้ี หลักธรรมทีค่ วรพิจารณา : หลกั ธรรมทม่ี ีอุปการะ มากต่อการดำเนินชวี ิต คอื สตสิ มั ปชัญญะ การ!เกให้มิ หล้กธรรมทคี่ วรพจิ ารณ า : บคุ คลทไ่ี ด้ช่ือว่าเปน็ สตสิ ัมปชญั ญะ เร่ิมต้นที่การมิสตกิ ำกบั ในการเคล่อื นไหวคนดีนนั้ จะต้องมคิ วามกตัญญูกตเวที ซึง่ เปน็ คุณธรรมพ้นื ฐานในตัวมนษุ ย์ ซงึ่ จะพฒั นาไปสคู่ วามเป็นผมู้ จี ติ สาธารณะและ

บิตยส์'า ร ย ุ ท ร 7กษในอิริยาบถใหญ่ คือ การยนื การเดนิ การน่ัง และการนอน หลกั ธรรมทค่ี วรพ ิจารณ า : การเปน็ ชาวพุทธ ที่สมบรู ณ์จะตอ้ งน้อมนำหลักธรรมชนั้ สูงในพระพุทธศาสนาเม่อื เกิดความชำนาญในอิริยาบถใหญแ่ ล้ว แกกำหนด มาปฏบิ ด เรียกว่า ปรมัตถธรรม วา่ ด้วยเรือ่ ง สภาพทน่ี ึกคิด สภาวะร้แู จง้ อารมณ์ (จติ ), คุณสมบตั แิ ละอาการของจติอิริยาบถย่อย ไดแ้ ก่ กิน ดมื่ ทำ พูด คดิ เหยยี ด คู้ หยบิ จับ (เจตสิก), สภาวะทีเ่ ป็นรูปรา่ งและอาการ (รูป) และสภาวะเป็นดน้ เพอ่ื ให้เกิดความเจริญก้าวหน้าของล'ตสิ ัมปชญั ญะ ทสี่ ้นิ กิเลส หรอื ทุกขท์ ้ังปวง (นิพพาน)เมือ่ สติสัมปชัญญะเจริญก้าวหนา้ จะชว่ ยใหผ้ ู้เจริญรเู้ ท่าทนัส่งิ ทเี่ กดิ ขน้ึ โดยไม,ผลกั ไสในสิ่งทไ่ี ม,ชอบ ไม'หลงใหล ชหาสถาบกี่ ๕ในส่งิ ทช่ี อบ หากแตเ่ ป็นการรบั รแู้ ล้วปล่อยวาง จิตก็จะวา่ ง \"คนั อชปาลน!ิ กรร11จากอารมณ์ขนุ่ มวั ต่าง ๆมหาสถานก่ี ๔ \"รัถนฆรเจถีบ\" ในสปั ดาหท์ ี่ ๔ พระพทุ ธเจ้าได้เสด็จไปทางทศิ พายัพ ในสปั ดาห์ท่ี ๕ พระพุทธเจ้าเสด็จไปทางทศิ บรู พา(ตะวนั ตกเฉียงเหนือ) ของต้นพระศรีมหาโพธิ้ ประทับ (ตะจนั ออก) ของดน้ พระศรมี หาโพธป้ี ระทับน่ังชัดสมาธินั่งชดั สมาธใิ นเรอื นแกว้ ทีเ่ ทวดาเนรมิตถวาย พจิ ารณา เจริญวิปสั สนากรรมฐานใต้ดน้ ไทรอันเป็นที่พกั อาศัยของ คนเล้ยี งแพะ พจิ ารณาหลักธรรมทไี่ ดท้ รงบรรลุนน่ั เปน็ เวลาพระอภิธรรมปีฎกตลอด ๗ จนั พระอภิธรรมเป็นหลักธรรม ๗ จนั มีธิดาของพญาปรนมิ มติ วสวัตตมี าร ๓ นาง คอืชัน้ สูงท่ีว่าดว้ ย จิต เจตสิก รูป และนิพพาน ซึ่งพระพุทธองค์ กรกฎาคม - ลนยายบ ๒1๕๖©ทรงนำไปแสดงโปรดพระพุทธมารดาบนสวรรคช์ ัน้ ดาวดึงส์ในพรรษาท่ี ๗ ภายหลังการตรัสรู้ พระวรกายของพระพุทธองคผ์ ุดผ่องโอภาส ทงั เกิดพระฉัพพัณณรังสีปรากฏรอบพระวรกาย ในอนิ เดียไดส้ รา้ ง “รัตนฆรเจดยี ์” กรมยุทธศึกษาทหารบกสรา้ งซมุ้ เรอื นแกว้ ไว้สำหรบั แกอบรมวปิ ัสสนากรรมฐาน ปลกู ตน้ พะยอม ต้นบนุ นาค ต้นจำปี และประดิษฐานพระพทุ ธรปู ปางพจิ ารณาพระอภธิ รรมไว้ประจำมหาสถานน้ี

นิ□ยะโารยุทรโกษนางตัณหา นางอรดี และนางราคา มาประเลา้ ประโลม ยว่ั ยวน ในสปั ดาหท์ ี่ ๖ พระพุทธเจา้ เสดจ็ ไปทางทศิ (อาคเนย์)ดว้ ยมารยาแหง่ สตรีนานาประการ พระองค์ทรงขบั ไลธ่ ดิ ามาร ตะวันออกเฉียงใตข้ องดน้ พระศรีมหาโพธ้ปี ระทับน้งั ขดั สมาธิน้ันไปเสยี ดว้ ยเพราะพระหฤทัยของพระองค์ไร้กิเลสและ เจรญิ วปิ ัสสนากรรมฐานภายใตต้ ้นจกิ หรือมจุ ลนิ ท์ ตลอดมลทนิ ในอินเดียได้สร้างพระพุทธรูปภายใต้ตน้ อชปาล ๗ วัน และมฝี นตกพรำ ไต้มีพญานาคมจุ ลนิ ทเ์ กดิ ความนโิ ครธ กรมยุทธศึกษาทหารบกไต้ปลกู ตน้ ไทร (อชปาล เลอื่ มใส ออกจากนาคพิภพมาขนดรอบพระองค์ ๗ รอบนิโครธ) ตน้ กัลปพฤกษ์ และประดิษฐานพระพทุ ธรปู ปาง แผ่พงั พานปกเหนอื เศยี ร ป๋องกนั ลมและฝน ครัน้ ฝนห้ามมารไว้ประจำมหาสถานนี้ หยดุ แล้วจึงแปลงกายเป๋นมานพประนมมือนมสั การลากสับสู่ นาคพภิ พ ในอินเดยี ไตส้ ร้างพระพทธรปปางนาคปรกที่ ปลูกตน้ 1จิกนา ดน้ เป็ดนา้ี และประดษิ ฐานพระพุทธรปู ปาง นาคปรกไวป้ ระจำมหาสถานแห่งนี้ หลักธรรมทคี่ วรพจิ ารณ า : ในสภาพความเป็นอยู่ หลกั ธรรมทคี่ วรพจิ ารณา : บางชว่ งของชวี ิตมนุษย์ปัจจบุ ัน ชวี ติ ถูกแวดลอ้ มด้วยสือ่ ทีล่ อ่ แหลมตอ่ ความเส่อื ม อาจประสบอปุ สรรคจากส่ิงที่ไม่คาดหวังไวล้ ่วงหนา้ หากไม่ทางจริยธรรม ซ่ึงจะล่อลวงมนุษย์ให้มีความรูส้ ึกอยากไต้ เผชิญเร่ืองราวเหล่านน้ั ด้วยสติ จะทา่ ให้มนษุ ยจ์ มอยู่กับอยากครอบครอง หรอื โกรธเกลียด ชงิ ขัง ตงั นนั้ ผู้เสพตอ้ งมีสติ ความทกุ ขท์ รมาน ตังน้นั มนษุ ย์ต้องมีสตปิ ัญญาทพ่ี ร้อมในการเสพสอ่ื โดยรเู้ ท่าทันอารมณ์ทเี่ กิดจากการเสพสือ่ เผชญิ กบั เร่ืองราวต่าง ๆ ทเ่ี กิดขึน้ ในชีวิตด้วยความเดด็ เดีย่ วไม่ให้ส่ือชักนำไปในทางอกศุ ล มงุ่ ย่นั มีกำลังใจไมห่ วน่ั ไหวไปตามโลกธรรม ในท่ีสุดผู้คน กิจะเห็นความพยายาม ยนื่ มอื เข้าชว่ ยเหลือสนับสนุนบหาสถานก่ี ง\"สร:บจุ ลนิ กิ\" มหาสถานก่ี ๗ \"ถนั ราชานตนะ\" I ปื กี ่ ๏๒)อ ฉบับกี่ ๔ ในสุดทา้ ยแห่งการเสวยวิมุตติสุข พระพทุ ธเจ้าเสด็จ ไปทางทศิ ใตข้ องต้นพระศรมี หาโพธป้ิ ระทับนง้ั ขัดสมาธิ เจรญิ วปิ สั สนากรรมฐานภายใต้ตน้ ราชายตนะหรอื ตน้ เกด ท้าวลักกเทวราชนำผลสมออนั เปน็ ทิพยโอสถมาถวาย ทรงอธษิ ฐานประสานบาตรศิลาทีท่ ้าวจตุโลกบาลนำมาถวาย ท้งั ๔ ใบรวมเขา้ เปน็ บาตรใบเดยี ว แล้วทรงรบั บิณฑบาต ผลสมออันเปน็ โอสถทิพย์ท่ที ้าวลกั กเทวราชนำมาถวาย ไตฉ้ นั ผลสมอนั้นอนั เปน็ การระบายพระอุทร แลว้ ทรงรับ บณิ ฑบาตขา้ วลตั ตุผงและลัตตุกอ้ นของตปุสสะและภัลลกิ ะ พอ่ ค้าสองพ่ีนอ้ ง ทนี่ ำมาถวายดว้ ยจิตศรัทธาแล้วประกาศ ตนเป็นอบุ าสกคู,แรกในพระพุทธศาสนาผูเ้ ขา้ ถึงรัตนะ

บิ ต ย ส ั า รยุ ทธโกษ มเ-ทสถามกี่ ๘ \"ปฐมเกกนา ปฐมสาวก กรมองกริ ัถนครบั \"๒ ประการ คือ พระพุทธเจา้ และพระธรรมเป็นที่พงึ่ ตลอดชวี ิต ภายหลังจากพระพทุ ธเจ้าตรสั ร้อู ริยสจั ๔ และเรยี กวา่ เท.ววาจิกอบุ าล■ก พระพทุ ธองค็ใดพ้ ิจารณาเห็น เสวยวิมุตตสิ ขุ ๗ สปั ดาห์แลว้ ไต้เสด็จไปโปรดปัญจวคั คีย์สติปญั ญาของมนุษยเ์ ปรยี บประดุจบัว ๔ เหล่า ในอนิ เดยี ณ ปา่ อิสิปตนมฤคทายวนั แขวงเมอื งพาราณสี แสดงได้สรา้ งเทวสถานใตต้ น้ ราชายตนะ กรมยทุ ธศกึ ษาทหารบก “ ธัมมจกั กัปปวตั นสูตร” เป็นปฐมเทศนา วา่ ด้วยทางสุดโตง่ไตป้ ลูกตน้ เกด (ราชายตนะ) และประดิษฐานพระพทุ ธรปู ๒ อย่างที่ควรเว้น ได้แก่ กามสขุ ลั ลกิ าน'ุ โยค การใช้ชีวิตปางฉนั ผลสมอไวป้ ระจำมหาสถานแห่งน้ี ห ม ก ม ่นุ อย ู่ใน ก าม ส ุข อัน เป น็ ท างห ย อ่ น เก นิ ไป และ อตั ตกลิ มถานโุ ยค การทรมานตนดว้ ยวิธีการต่าง ๆ อนั เป็น หลักธรรมท่คี วรพิจารณ า : การใส่ใจดูแลสุขภาพ ทางตงึ เกนิ ไป ให้ดำเนนิ ตามทางสายกลาง เรยี กว่าเป็นส่ิงจำเป็น ในขณะเดยี วกันการใสใ่ จสขุ ภาพจติ กเ็ ป็น มัชฌมิ าปฏิปทา โกณฑัญญะพราหมณ๊ใต้เกดิ ดวงตาเหน็ ธรรมสิง่ สำคัญและจำเปน็ เชน่ กนั พระพทุ ธเจา้ เสวยวิมตุ ตสิ ขุ ทูลขออุปสมบทเป็นพระสงฆอ์ งค์แรกในพระพทุ ธศาสนาโดยไม่ฉนั ภัตตาหารเลยถึง ๗ สัปดาหใ์ นสปั ดาห์นี้พระองค์ บงั เกิดพระรัตนตรัยครบองค์ ๓ ประการ ในอินเดียสรา้ งทรงรบั ผลสมออันเปน็ ทพิ ยโอสถ เพ่อื ใหร้ ะบบการทำงานของ ธรรมเมกขสถูป กรมยทุ ธศึกษาทหารบกไตป้ ลูกต้นพะยอมรา่ งกายเปน็ ปกติ หลังจากน้ันทรงรับสตั ตกุ อ้ นและสตั ตุผง ตน้ อนิ ทนลิ ต้นบุนนาค ตน้ จำปี และประดษิ ฐานพระพทุ ธรปูมาเสวย10ถือเปน็ การรบั ไมตรีจิตจากเพือ่ นมนุษย์ อันแสดงถึง ปางปฐมเทศนาไว้ประจำมหาสถานแหง่ น้ีพระมหากรณุ าธิคณุ ของพระองค์ตอ่ มวลมนุษยชาติ หลกั ธรรมที่ควรพจิ ารณ า : บคุ คลทป่ี ระสบความ สำเร็จในชีวิต ควรมเี มตตาธรรมตอ่ ผู้อ่ืน เม่อื ชว่ ยเหลือตนเอง ไต้แล้ว ควรชว่ ยเหลือเพือ่ นมนุษย์ พระพทุ ธเจา้ เมอ่ื ตรัสรแู้ ลว้ ทรงพ จิ ารณ าหาแนวทางทจี่ ะเผยแผ่พ ระพ ทุ ธศาสนา โดยพจิ ารณาเห็นว่า ระดับสตปิ ัญญาของมนุษย์มีความ แตกตา่ งกัน เปรยี บดงั ดอกบวั ๔ ประเภท๓ นอกจากน้นั๒ข้าวตู เสบียงเดินทางท่ีสองพ่อค้า คือตปสุ สะและภล้ ลิกะถวายแดพ่ ระพุทธเจา้ ขณะท่ีประทับอยู่ใต้ตน้ ราชายตนะ กรกฎาคม - กับยายบ ๒๕๖๑

0 ตยส์ 'ารยฺ กรโกษการแก้ปญั หาชวี ติ จะตอ้ งสืบสาวหาสาเหตขุ องปญั หา และ วันข้ึนปีใหม่ วันสงกรานต์ วันเฉลมิ พระชนมพรรษาตง้ั เปัาหมายชวี ติ ไว้ เพอ่ื ดำเนนิ ไปตามมรรควธิ ีโดยใช้ วันวิสาขบชู า เป็นตน้ทางสายกลาง (มชั ฌมิ าปฏปิ ทา) ว่าโดยย่อ คือ การเคารพกฎกติกา (ศลี ),การทำใจให้สงบแนว่ แน่ ตง้ั ม่นั ในการทำงาน กล่าวไตว้ ่ากรมยุทธศกึ ษาทหารบก ไตต้ อบสนอง(สมาธ)ิ และปัญญาเห็นชอบตามคลองธรรมวา่ ทำดมี ผี ลดี ภารกจิ ในการเตรยี มกำลงั ของกองทพั บก ตามคำขวญั ท้งัทำชัว่ มีผลช่ัว มารดาบิดามีคณุ ความดี เหน็ ถกู ตอ้ งตามท่ี สามตา้ น ได้แก่ ตา้ นการปกี ไต้มีสนามปีกทางยทุ ธวิธีของเป็นจรงิ วา่ ขนั ธ์ ๕ ไมเ่ ที่ยง กองทพั บก เพ่อื เสริมสรา่ งทักษะ ความชำนาญ ใหก้ บั กำลงั พล ต้านการศึกษาไตม้ ีสำนักการศกึ ษาควบคมุ คุณภาพการศกึ ษา ทงั้ ๘ เหตุการณ์น้จี ะถกู นำมาจำลองลงใน “ อุกบาช ของสถาบนั การศกึ ษา โรงเรียนเหล่า สายวิทยาการ และหน่วยบ กุ ธ ธ ร ร ม ส ิก ข า ก ร ม น กุ ธ ศ กี ษ า ก ห า ร บ ก ” โดยมี จัดการศึกษาของกองทัพบก ใหม้ คี วามพร้อมและทันสมัยวัตถุประสงคต์ ง้ น้ี โทบการบัฌบาคุณธรรบ ชกองอนุศาสนาจารบเิ ปีน ๑. กองทัพบกมสี ถานทีป่ ีกอบรมปฏบิ ตั ธิ รรมสำหรบั เครอื่ งมอื ในการสง่ เสริมการเปัฌนา เบอ่ื สรัางขวญั กำลังใจกำลงั พล ครอบครวั และประชาชนทวั่ ไปทีเ่ ขา้ รว่ มสมทบท้งั แส:คณุ ธรรบ ใหักำลังบสของกองทบั บกมีกวานบรอมโครงการปฏบิ ้ติธรรมเฉลมิ พระเกยี รติสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หวั ไนการปฏบิ ตั กิ ารกจิ ไนกุก ๆ ถาั บ สอถกลอั งทบั นทุ ธกาสถร์มหาวชีราลงกรณ บตนิ ทรเทพยวรางกรู และสมเด็จพระ ชาตถิ าั บการผัฌนาแล:เสรมิ สรัางศกั บกาบกรับมากรมนษุ บ์นางเจา้ สิรกิ ติ ้ิ พระบรมราชนิ ีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ การปฏบิ ิติ ทีถ่ อั งการใหกั บไกบเปบ็ บนุษบทั ส่ี บบรู โบั บกี วานพรอมธรรมในหลักสูตรพฒั นาบคุ ลากรกองทัพบก ปลี ะ ๓ รนุ่ และ ก้ังกาบใจ สติปีญญา สามารถเรีชนรู้ไถักสอถชวี ถิ มืทกั ษ:การปฏิบิตธรรมในเทศกาลเข้าพรรษา ปลี ะ ๓ รุ่น ในกถวรรษที่ เวอ บนฐานของการรู้คณุ ก่ากวามเป็น]กบ มีคณุ ธรรมจริมธรรบ มีธบบั กวามรับบถิ ชอบถอ่ ลงั กบ ๒. กองทัพบกมีสถานทใี่ นการปกี อบรมคณุ ธรรม แส:มีสฺขกาอ:ท่ีติจริยธรรมให้แก่กำลงั พล ครอบครัว บุคลากรในภาคีเครือข่ายและสถาบันการศึกษาทง้ั ในและนอกกองทพั บกทีข่ อรบัการสนับสนุน ๓. กองทัพบกมสี ถานท่ีจด้ กิจกรรมเทิดทูนสถาบนัพระมหากษัตริย์และปฏิบตั ิธรรมของพระนวกะซง่ึ ไตจ้ ดั ขนึ้เปน็ ประจำทกุ ปี ประหยดั งบประมาณและงานธุรการในการขนสง่ พระนวกะและผู้ปฏบิ ตั ิธรรมไปยังศนู ย์ปฏิบัติธรรม\"ธรรมโมล\"ี อำเภอปากช่อง จงั หวดั นครราชสมี า ๔. กองทัพบกมีสถานท่สี ำหรบั จัดกจิ กรรมทางศาสนา ในเทศกาลและวนั สำคัญของชาตแิ ละศาสนา เช่น๓จะบแคุนคะลน่า๔ตอ่ จไำปพไวดก้, ค๙อื . ป๑ท. ปอรุคมฆะฏิต=ัญสผุเไู้ ด=แ้ คผ่ตรู้ ัวเู้ ขบา้ ทใจคไือดถฉ้้อับยพคำลเปัน็นแอตยพ่ า่ งอยทงิ่ า่ไนมยอ่ กาจหเวัขข้า้อใจขคึ้นวแาสมดหงม, า๒ย. วิปจิตญั ณู = ผูร้ ูเ้ ข้าใจต่อเมอื่ ท่านขยายความ, ๓. เนยยะ ะ ผู้ทพ่ี อ ซท่ี ®๒)๖ อชนั ก่ี ๔

กรมยกุ ธศกึ ษาทหารบก * คIV!V ใ,!ค*!ผเผ0 0 0 ผ ผ * ผ 0 41 ถนนเกอดดำริ เขดดสุ ติ กรุขเทพมหานคร 10300 โกธ. 0 2241 40 68-9 , 0 2241 61 2 4 -6 กบ. 8900 ผ ผ ผ .310-โ13.๐๐กาสรา้ งทหารด้วยการแก สรา้ งชุนสึกดว้ ยการศึกษา สร้างผบู้ งั คบั บญั ชาดว้ ยการฟฒ้ นาคุณธรรม