เข้าใจ เข้าถงึพฒั นากจิ การอนศุ าสนาจารย์ เพื่อสร้างอ�ำนาจกำ� ลงั รบ กองอนุศาสนาจารย์ กรมยุทธศึกษาทหารบก
น�ำกองทูตทหารไปปฏิบัติราชการ ประกอบด้วยิน ต ย ส า ร ุย ท ธ โ ก ษ กองบินทหารบก นำ� โดย พนั ตรี หลวงทยานพฆิ าต (ทพิ ย์ เกตทุ ตั ) มกี ำ� ลงั พล ๔๐๐ นาย กองทหารบก ยานยนตน์ ำ� โดยรอ้ ยเอกรามฤทธร์ิ งค์(ตอ๋ ยหสั ดเิ สว)ี มีก�ำลังพล ๘๕๐ นาย โดยมีพันเอก พระยา เฉลมิ อากาศ (สณุ ี สวุ รรณประทปี ) เปน็ ผบู้ ญั ชาการ52 สูงสุด ทหารกองอาสาได้เดินทางโดยทางเรือ ไปข้ึนที่เมืองท่ามาร์แซลส์ ประเทศฝร่ังเศส เมอ่ื วนั ท่ี ๓๐ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๖๑๑ เมื่อได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ กระทรวงกลาโหมส่งกองทหารอาสาไปช่วย ฝ่ายสัมพันธมิตรในงานสงครามน้ันแล้ว ทรงมี พระราชปรารภว่า “กองทหารที่ส่งไปแล้วนั้น จัดได้ดีทุกส่ิงสรรพ์ แต่ยังขาดสิ่งส�ำคัญอยู่ อย่างหนึ่งคือ อนุศาสนาจารย์ที่จะเป็นผู้ปลุกใจ ทหาร หาได้จัดส่งไปด้วยไม่ เพราะทหารท่ีจาก บ้านเมืองไปคราวนี้ต้องไปอยู่ในถ่ินไกล ไม่ได้ ในรชั สมยั พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า พบเห็นพระเหมือนเม่ืออยู่ในบ้านเมืองของตน เจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ ได้มีเหตุการณ์ส�ำคัญที่ จิตใจจะห่างเหินจากทางธรรม ถึงยามคะนอง เกี่ยวข้องกับต่างประเทศคือ สงครามโลกครั้งท่ี ๑ กจ็ ะฮึกเหมิ เกินไป เปน็ เหตใุ ห้เสอื่ มเสีย ไม่มใี คร ซ่ึงประเทศไทยได้เข้าสู่สงครามในคราวนั้นด้วย จะคอยให้โอวาทตกั เตอื น ถึงคราวทุกขร์ อ้ นกจ็ ะ แต่ในระยะแรกได้ประกาศตัวเป็นกลาง ต่อมา อาดูรระส่�ำระสาย ไม่มีใครจะช่วยปลดเปลื้อง เมื่อวันที่ ๒๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๖๐ พระบาท บรรเทาให้ดูเป็นการว้าเหว่น่าอนาถ ถ้ามี สมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั ทรงตดั สนิ พระทยั อนุศาสนาจารย์ออกไป จะได้คอยอนุศาสน์ อย่างรอบคอบ ได้ประกาศสงครามกับประเทศ พร�่ำสอนและปลอบโยนปลดเปลื้องในยาม เยอรมนี ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากหลายฝ่าย ทุกข์”๒ จึงทรงมีพระราชด�ำริให้มีผู้ที่จะเป็น แต่ด้วยการใช้พระราชอ�ำนาจอย่างเด็ดขาด อนศุ าสนาจารย์ไปดว้ ย โดยทรงเลอื กรองอ�ำมาตย์ เสยี งคัดค้านจึงเงียบหายไป ตรีพระธรรมนิเทศทวยหาญ (อยู่ อุดมศิลป์) ต ่ อ ม า ไ ม ่ น า น พ ร ะ บ า ท ส ม เ ด็ จ เปรียญธรรมเก้าประโยค ซึ่งรับราชการอยู่ใน พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้ส่ง กรมราชบัณฑิต กระทรวงธรรมการในสมัยนั้น ทหารกองอาสาไปร่วมรบกับฝ่ายสัมพันธมิตร ให้เป็นอนุศาสนาจารย์ตามกองทหารอาสา โดยมพี ลตรี พระยาพชิ ยั ชาญฤทธิ์ (ผาด เทพหสั ดนิ ) ออกไปยังประเทศสัมพันธมิตร ณ ทวีปยุโรป ผบู้ งั คบั บญั ชากองพลทหารบกที่๔เปน็ หวั หนา้ คณะ ซึ่งมพี ระราชด�ำรัสตอนหนง่ึ ว่า ๑ สมพร เจริญพงศ์, พระราชประวัตพิ ระบาทสมเดจ็ พระมงกุฎเกลา้ เจ้าอยหู่ ัว (กรงุ เทพฯ, ธรรมสภาการพิมพ์, ๒๕๔๓), หน้า ๔๙ ๒ กรมยุทธศกึ ษาทหารบก, ที่ระลกึ ครบ ๘๐ ปกี องอนศุ าสนาจารย์, (กรงุ เทพฯ, หจก. อรณุ การพิมพ์, ๒๕๔๒), หนา้ ๒๔ ปี ท่ี ๑๒๕ ฉบบั ท่ี ๔ กรกฎาคม - กันยายน ๒๕๖๐
“นแ่ี นะ่ เจา้ เปน็ ผทู้ ขี่ า้ ไดเ้ ลอื กแลว้ เพอ่ื ให้ อนุศาสนาจารย์ จะต้องอุทิศตนช่วยเหลือ นิ ต ย ส า ร ยุ ท ธ โ ก ษไปเปน็ ผสู้ อนทหาร ดว้ ยเหน็ วา่ เจา้ เปน็ ผสู้ ามารถ หรือรับใช้ผู้อื่น โดยไม่มีการยึดถือในอหังการและท่ีจะสอนทหารได้ ตามที่ข้าได้รู้จักชอบพอกับ มมงั การของตนเอง เมอ่ื เหน็ ความทกุ ขร์ อ้ นในจติ ใจ 53เจ้ามานานแล้ว เพราะฉะน้ัน ขอให้เจ้าช่วย ของก�ำลังพลจะมีแต่ความน่ิงเฉยอยู่ไม่ได้ ต้องรบั ธรุ ะของขา้ ไปสงั่ สอนทหารทางโนน้ ตามแบบ สวมหัวใจของความเป็นพระโพธิสัตว์ ในหัวใจอยา่ งทข่ี า้ เคยสอนมาแลว้ เจา้ กค็ งจะไดเ้ หน็ แลว้ ของพระโพธิสัตว์น้ัน ความเห็นแก่ประโยชน์ของมิใช่หรือ ? เออ น่ันแหละ ข้าขอฝากให้เจ้า คนอื่น จะต้องเป็นไปโดยเสมอกันทั้งหมด ไม่ได้ชว่ ยสอนอยา่ งนนั้ ดว้ ย เข้าใจละนะ”๓ แบ่งแยกเพศพันธุ์สถานะ หรือความเป็นคนรัก คนเกลียด อันเกิดแต่อ�ำนาจของความอคติใน นคี้ อื พระบรมราชโองการที่ พระบาทสมเดจ็ จิตสันดาน ดังพระพุทธเจ้าทรงบ�ำเพ็ญโลกัตถพระมงกุฎเกล้าเจา้ อยูห่ ัว รชั กาลที่ ๖ ทรงตรัสสง่ั จรยิ า คอื ปลดเปลอื้ งสรรพสตั ว์ จากความทกุ ขย์ ากกบั รองอำ� มาตยต์ รพี ระธรรมนเิ ทศทวยหาญ ตอ่ มา ล�ำบากและเวรภัย ให้ข้ามพ้นโสกะปริเทวะไปได้ในปีพุทธศักราช ๒๔๖๒ เม่ือเสร็จสงครามโลก ทรงหล่ังนทีแห่งพระมหากรุณา อันปราศจากครั้งที่ ๑ แล้ว กระทรวงกลาโหม ได้ต้ังกอง ซ่ึงความเห็นแก่พระองค์เองและการถึงอคติอนุศาสนาจารย์ขึ้นเมื่อวันท่ี ๑ มิถุนายน ๒๔๖๒ โดยสิ้นเชิง ให้ไหลบ่าไปทั่วทุกทิศ โดยไม่ทรงทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้ เห็นแก่ท่ีรักหรือที่ชัง ไม่เห็นแก่ความสบายและรองอ�ำมาตย์ตรีพระธรรมนิเทศทวยหาญ เป็น ความยากล�ำบากของพระองค์เอง ด่ังที่ตรัสไว้หัวหน้าคณะอนุศาสนาจารย์คนแรก และ เมอ่ื คราวประทานพระโอวาทปาฏโิ มกข์ ใหก้ บั เหลา่ทรงพระราชทานยศเลื่อนเป็น รองอ�ำมาตย์เอก พระสาวกวา่ บรรพชติ ในศาสนธรรมของพระองค์และน่ีคือจุดเริ่มต้นของอนุศาสนาจารย์ต้ังแต่ จะต้องไม่เห็นแก่กิน และไม่เห็นแก่นอน เพราะอดตี นบั ถึงปจั จุบันได้ ๙๘ ปี อาศัยพระปัญญาคุณ และการมีพระอุปายโกศล จงึ ทรงเขา้ ไปเรยี นรแู้ ละรบั ฟงั หมชู่ นซงึ่ หลากหลาย เ มื่ อ พิ จ า ร ณ า ถึ ง พ ร ะ ร า ช ป ร า ร ภ ข อ ง ไปด้วยนานาทศั นะ เสดจ็ ไปในทที่ เี่ ขาตอ้ นรับบา้ งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวที่ว่า ไม่ต้อนรับบ้าง สรรเสริญบ้าง ดูหม่ินบ้าง โดยไม่“...ถ้ามีอนุศาสนาจารย์ออกไป จะได้คอย ทรงรงั เกยี จหรอื ยมิ้ ยอ่ งในพระองคเ์ อง ทรงไปอยา่ งอนุสาสน์พร่�ำสอนและปลอบโยนปลดเปลื้อง ผทู้ เี่ จยี มพระองคเ์ สมอ แมเ้ พยี งหยงั่ เหน็ คนผเู้ ดยี วในยามทุกข์” ท�ำให้เข้าใจได้ว่าอนุศาสนาจารย์ต้องเข้าใจในภารกิจหน้าท่ีสถานภาพของตนเอง ปี ท่ี ๑๒๕ ฉบบั ท่ี ๔ กรกฎาคม - กันยายน ๒๕๖๐ตอ้ งเข้าใจถึงความทุกขย์ าก ความคลาดจากธรรมหรือความเหินห่างจากธรรม อันเป็นเหตุน�ำมาซึ่งความมีพฤติกรรมอันไม่พึงประสงค์ต่อหน่วยหรือต่อผู้บังคับหน่วยและเพื่อนร่วมงาน ภารกิจและหน้าที่ของอนุศาสนาจารย์ต้องคอยพร่�ำสอนบอกกล่าวหนทางแห่งความสว่าง มิให้ตกอยู่ในหว้ งแหง่ ความทุกข์ บรรเทาเสยี ซ่ึงความเดือดรอ้ นช่วยขัดเกลาอัธยาศัยของก�ำลังพลให้มีขวัญก�ำลังใจดี ให้สามารถปฏิบัติภารกิจได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ๓ กรมยุทธศกึ ษาทหารบก, คมู่ อื อนุศาสนาจารย์, หน้า ๔๖
ทจ่ี ะสามารถสดบั ธรรมแลว้ บรรลผุ ลเกดิ สมั มาทฏิ ฐิ ประกอบด้วย ๒ ส่วน คือ อ�ำนาจก�ำลังรบท่ีมี ได้ ถงึ ตอ้ งเสดจ็ ไปดว้ ยพระบาทเปลา่ ในหนทางยาว ตัวตน และอ�ำนาจก�ำลังรบที่ไม่มีตัวตน อ�ำนาจิน ต ย ส า ร ุย ท ธ โ ก ษ ไกลถงึ หลายรอ้ ยโยชน์ กไ็ มท่ รงยอ่ ทอ้ ในพระหฤทยั ก�ำลังรบท่ีมีตัวตน เช่น ก�ำลังพล ยานพาหนะ ในท่ีท่ีใดซ่ึงเต็มไปด้วยคนผู้ไม่ใช่มิตร และเป็น ยุทธภัณฑ์ อาวุธยุทโธปกรณ์ และเทคโนโลยี ศัตรู ก็ทรงอดกลั้นอย่างพระโพธิสัตว์ผู้ที่บ�ำเพ็ญ ที่ทันสมัยต่าง ๆ เป็นต้น ส่วนอ�ำนาจก�ำลังรบ พระขันติบารมีมาอย่างเต็มที่แล้ว ทรงใช้ความรัก ที่ไม่มีตัวตนเช่น ขวัญ ก�ำลังใจ ความกล้าหาญ54 เปล่ียนความเกลียดชัง ใช้ความไม่โกรธตอบ ความเสียสละ ความรักชาติ รักแผ่นดิน ความ เปลี่ยนอัธยาศัยของผู้ท่ีประพฤติโกรธในพระองค์ ฮึกเหิม ความมุมานะอดทน รวมถึงการฝึกซ้อม ทรงเจริญเมตตาภาวนาเพื่อระงับความอาฆาต ต่าง ๆ เปน็ ตน้ การที่หน่วยจะบรรลุเป้าหมายนไี้ ด้ ปองรา้ ย ทรงใชส้ จั จะคอื ความจรงิ เปลยี่ นความเทจ็ ผู้บังคับบัญชาจะต้องพัฒนาและด�ำรงไว้ซึ่ง ทรงเปล่ียนคนที่ตระหน่ี ให้มองเห็นคุณของ คุณลักษณะที่เป็นคุณธรรมและจริยธรรมของ การให้และแบง่ ปัน เปลีย่ นคนท่ีลุ่มหลงอยู่ ให้เหน็ ก�ำลังพลให้อยู่ในระดับสูง คุณลักษณะท่ีส�ำคัญ๔ คุณของการใชเ้ หตผุ ลและปญั ญา อนศุ าสนาจารย์ คอื ตอ้ งเข้าใจภารกจิ หนา้ ทีข่ องตนดังกล่าวน้ี ถือไดว้ ่า ๑. ขวญั และกำ� ลังใจ (Morale) เข้าใจเจตนารมณใ์ นพระราชปรารภ ล้นเกล้า ร.๖ ๒. วนิ ัย (Discipline) ที่ทรงมีพระราชประสงค์ให้อนุศาสนาจารย์ ๓. สามคั คธี รรม (Esprit de Corps) ดำ� เนนิ การตอ่ กำ� ลงั พลและครอบครวั ของกำ� ลงั พล ๔. ประสทิ ธภิ าพของกำ� ลงั พล และหนว่ ย เมอื่ เข้าใจถงึ ความเปน็ มา เข้าใจถงึ ภารกจิ (Proficiency) และหน้าที่แล้ว ส่ิงท่ีจะด�ำเนินต่อไปคือการเข้าถึง ผู้บังคับบัญชาผู้เพียบพร้อมด้วยคุณธรรม เพื่อรับทราบปัญหาน�ำไปสู่การปฏิบัติให้ได้ ทมี่ ภี าวะผนู้ ำ� แบบสรา้ งสรรคเ์ ทา่ นน้ั จงึ จะสามารถ การเข้าถึงก็คือการเดินทางไปตามหากลุ่ม สร้างหน่วยและก�ำลังพลให้มีสภาพดังกล่าวได้ เป้าหมาย ได้แกก่ �ำลังพลและครอบครวั ถ้าจะนบั และผู้ที่มีหน้าท่ีรับผิดชอบในการสอนหรืออบรม ก็ตั้งแต่พลทหารคนสุดท้ายขึ้นมาเป็นกลุ่ม ให้ทหารมีคุณธรรมและจริยธรรมดังกล่าวคือ เปา้ หมายท่อี นุศาสนาจารยต์ อ้ งเขา้ ถึง ซึ่งแบง่ ตาม อนศุ าสนาจารย์ ระดบั หน่วยต่าง ๆ ท่ีมผี บู้ ังคบั บญั ชาหนว่ ยน้นั ๆ ทหารเป็นสังคมใหญ่สังคมหน่ึงเปรียบ ก�ำกับดูแลอยู่ ตั้งแต่ระดับหมู่ ตอน และหมวด เสมือนครอบครัวใหญ่ครอบครัวหน่ึง ซ่ึงมีสมาชิก เรยี กวา่ ผบู้ งั คบั หมู่ ผบู้ งั คบั ตอน และผบู้ งั คบั หมวด ภายในครอบครัวเป็นจ�ำนวนมาก พฤติกรรม (Leader) ระดบั กองรอ้ ย กองพนั และกรม เรยี กวา่ ของแต่ละคนแต่ละกลุ่มจึงมีความแตกต่างกันไป ผบู้ งั คบั กองรอ้ ย ผบู้ งั คบั กองพนั และผบู้ งั คบั การกรม ตามสภาพของแตล่ ะคนทไ่ี ดร้ บั การศกึ ษาอบรมมา (Commander) ระดับกองพลขึ้นไปเรียกว่า และเพอื่ ใหส้ มาชกิ ของสงั คมทหารอยรู่ ว่ มกนั อยา่ ง ผู้บัญชาการ (Commanding General) แต่ สนั ติสุข จึงจ�ำเป็นตอ้ งมหี ลักการในการอย่รู ว่ มกัน เป้าหมายของการปกครองหน่วยจะอยู่ที่ เรยี กวา่ “คณุ ธรรม” คณุ ธรรมกบั ก�ำลังพลทหาร “ความส�ำเร็จของหน่วยในระดับประสิทธิผล เปน็ สง่ิ จำ� เปน็ อยา่ งยง่ิ ตอ่ กองทพั เพราะพฤตกิ รรม สูงสุด” เพราะปัจจัยส�ำคัญด้านพลังอ�ำนาจ ท่ีแสดงออกของก�ำลังพลส่อให้เห็นว่า ขวัญ ทางทหารที่จะน�ำไปสู่ความส�ำเร็จแห่งชัยชนะ ก�ำลังใจ หรือวินัยดีหรือไม่ ? หากก�ำลังพลทหาร ๔ กรมยทุ ธศกึ ษาทหารบก, ทร่ี ะลกึ ครบ ๘๐ ปีกองอนุศาสนาจารย,์ (กรงุ เทพฯ, หจก. อรณุ การพิมพ,์ ๒๕๔๒), หน้า ๒๔ ปี ท่ี ๑๒๕ ฉบับท่ี ๔ กรกฏาคม - กนั ยายน ๒๕๖๐
นิ ต ย ส า ร ยุ ท ธ โ ก ษ 55แสดงพฤติกรรมในทางที่ดที ่สี ร้างสรรค์ ก็แสดงว่า การประยุกต์กิจการอนุศาสนาจารย์ก�ำลังพลของทหารหน่วยนั้น มีขวัญ ก�ำลังใจ เพือ่ สรา้ งอำ� นาจก�ำลงั รบและวินยั สูง ถา้ มีพฤตกิ รรมตรงกันขา้ ม ก็แสดงว่าทหารหน่วยนั้นมีขวัญ กำ� ลงั ใจ และวินัยต�ำ่ ผูท้ ่มี ี เพราะความท่ีอนุศาสนาจารย์เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่รับผิดชอบเรื่องขวัญและก�ำลังใจของ หน้าที่ในการอบรมคุณธรรมจริยธรรม บ�ำรุงขวัญก�ำลังพลคือ อนุศาสนาจารย์ จะต้องด�ำเนินการ ก�ำลังใจก�ำลังพล และครอบครัวในกองทัพบกอบรมหรือบรรยายเร่ืองการศาสนาและศีลธรรม จึ ง ไ ด ้ มี ก า ร พั ฒ น า ศั ก ย ภ า พ บุ ค ล า ก ร อ นุ -เพอื่ พฒั นาและเสรมิ สรา้ งคณุ ธรรมจรยิ ธรรมใหเ้ กดิ ศาสนาจารย์มาอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลามขี น้ึ ในตัวก�ำลงั พล จุดมงุ่ หมายสงู สุดในการอบรม ๙๘ ปีนับจากได้รับพระราชทานกิจการก�ำเนิดของอนุศาสนาจารย์คือ เพ่ือให้ก�ำลังพลทหาร อนุศาสนาจารย์ เพ่ือให้การปฏิบัติงานของมีขวัญและก�ำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ราชการ อนุศาสนาจารย์นั้นมีประสิทธิภาพ และบรรลุรวมท้ังการปฏิบัตหิ นา้ ทหี่ วั หน้าครอบครัวท่ดี ี วตั ถุประสงคต์ ามนโยบายของผบู้ งั คบั บัญชา และ ในปจั จบุ นั สงั คมไทยทว่ั ไปสว่ นมากจะรจู้ กั บทบาท กองทัพบกมองเห็นความส�ำคัญของชีวิต หน้าท่ีของอนุศาสนาจารย์ โดยเฉพาะในด้านการครอบครวั ทหารวา่ มคี วามเกยี่ วขอ้ งกบั การปฏบิ ตั ิ อบรมบรรยายธรรม การนำ� ปฏิบัตธิ รรม และการหน้าท่ีของทหารด้วย หากชีวิตครอบครัวทหาร เป็นพิธีกรตามงานพิธีส�ำคัญทางพระพุทธศาสนามปี ญั หา จะมผี ลกระทบตอ่ การปฏบิ ตั หิ นา้ ทปี่ ระจำ� เช่น พิธีมาฆบูชา พิธีวิสาขบูชา พิธีอาสาฬหบูชาของทหาร สามารถท�ำให้การปฏิบัติหน้าที่ของ หรอื การประชมุ สมั มนาทเ่ี กยี่ วกบั พระพทุ ธศาสนาทหารย่อหย่อน หรือขาดตกบกพร่องได้เช่นกัน ซ่ึงอดีตอนุศาสนาจารย์ทหารบกที่ชาวไทยรู้จักช่ือจึงมอบภารกิจให้อนุศาสนาจารย์มีหน้าท่ีคือ เสยี งเกยี รตคิ ณุ มากทส่ี ดุ ทา่ นหนงึ่ กค็ อื พนั เอก ปน่ิการอบรมครอบครัวทหารให้มีคุณธรรมจริยธรรม มุทุกันต์ ท่านมีผลงานด้านการบรรยายธรรมหรือเชน่ เดยี วกบั ทหารดว้ ย เพราะทหารเปน็ กำ� ลงั สำ� คญั แต่งหนังสือธรรมมากมาย ผลงานของท่านเป็นของชาติ ทหารทเ่ี ขม้ แขง็ และมคี ณุ สมบตั ขิ องทหาร ที่รู้จักและเป็นท่ีนิยมชมชอบของนักการศาสนาย่อมเป็นเหมือนร้ัวท่ีแข็งแรงและงามสง่าของ และประชาชนทกุ หมเู่ หลา่ประเทศชาติ และการที่ทหารจะเข้มแข็ง รวมท้ังมีคุณสมบัติของทหารได้นั้น จ�ำเป็นต้องได้รับการ อย่างไรก็ตาม ในอนาคตกิจการอนุ-ฝึกฝนในด้านวิชาการทหารและได้รับการอบรม ศาสนาจารย์ควรจะด�ำเนินไปในทิศทางใดหรือด้านคุณธรรมจริยธรรมจากอนศุ าสนาจารย์ ควรจะมีลักษณะอย่างไรนั้น ประเด็นแรก อนุศาสนาจารย์ต้องปฏิบัติหน้าท่ีให้สอดคล้อง กับนโยบายที่ผู้บังคับบัญชาในกองทัพบกมุ่งหวัง คือ ก�ำลังพลในกองทัพบกต้อง หัวโต กล้ามใหญ่ ใจดี มวี ินยั รับใช้สงั คม ปี ท่ี ๑๒๕ ฉบบั ท่ี ๔ กรกฎาคม - กันยายน ๒๕๖๐
- หัวโต คือ มีการพัฒนาความรู้ให้ทัน เหตุการณ์อยู่เสมอ เป็นนักวิชาการ มีงานวิจัยิน ต ย ส า ร ุย ท ธ โ ก ษ รองรบั และเปน็ ความรู้เชงิ ประจักษ์ดว้ ย - กล้ามใหญ่ ต้องมีสุขภาพร่างกาย แข็งแรง - ใจดี ต้องมีคุณธรรมจริยธรรม ซึ่งเป็น56 ภาระงานทีอ่ นุศาสนาจารยจ์ ะตอ้ งเข้าไปดแู ล - มีวินัย ต้องยึดเรื่องระเบียบวินัยเป็น เรือ่ งส�ำคัญ - รบั ใช้สังคม คือมจี ิตอาสา พฒั นาตนเอง พร้อมท้ังในภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน ดังค�ำนิยมของประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษที่ว่า ทงั้ งานดา้ นการเปน็ วปิ สั สนาจารย์ ดา้ นศาสนพธิ กี ร “เกิดมาต้องตอบแทนบญุ คุณแผ่นดิน” และด้านวาทศิลป์ หรืองานบริการวิชาการอื่น ๆ การประยุกต์กิจการอนุศาสนาจารย์เพื่อ ท่ีเก่ียวข้อง โดยมีหลักสูตรอนุศาสนาจารย์ชั้นต้น สร้างอำ� นาจก�ำลังรบ โดยแยกเปน็ ประเด็น ดังน้ี อนุศาสนาจารย์ชั้นสูง หลักสูตรวิชาการศาสนา ๑. อนุศาสนาจารย์กับความเป็นผู้น�ำ และศีลธรรม เป็นตน้ ทางดา้ นจิตวญิ ญาณ - จัดโครงการหน่ึงกองทัพภาคหน่ึง ในภาวะความเป็นผู้น�ำทางด้าน ศูนย์ปฏิบัติธรรม คือให้ส่วนภูมิภาคมีศูนย์ปฏิบัติ จติ วญิ ญาณของอนศุ าสนาจารยน์ นั้ โดยทวั่ ไปจะใช้ ธรรมเพ่ือพัฒนาจิตใจก�ำลังพลในแต่ละกองทัพ วิธีการปฏิบัติตนเป็นตัวอย่างท่ีดี และการอบรม ภาค เน้นเรื่องการปฏิบัติธรรมตามแนวทาง คุณธรรมจริยธรรมแก่ก�ำลังพลและครอบครัวตาม สตปิ ฏั ฐานสเ่ี ชน่ เดยี วกบั ศนู ยพ์ ฒั นาจติ ใจกำ� ลงั พล ปรชั ญาของกองอนศุ าสนาจารยท์ วี่ า่ “นำ� กำ� ลงั พล ของกองทัพบกท่ีวดั อมั พวนั อ.พรหมบุรี จ.สงิ ห์บุรี เข้าหาธรรมะ น�ำธรรมะเข้าหาก�ำลังพล ให้เป็น และขออนุมัติบรรจุอนุศาสนาจารย์ต�ำแหน่ง คนเกง่ ดี มคี วามสขุ ” นอกจากนยี้ งั เปน็ ผนู้ ำ� ในดา้ น ฝสธ.ประจ�ำผู้บังคับบัญชาให้ช่วยราชการในศูนย์ การปฏิบัติธรรมตามหลักสมถกรรมฐานและ ปฏิบัตธิ รรมน้ัน ๆ วิปัสสนากรรมฐานตามแนวทางสติปัฏฐานส่ี - จัดโครงการหน่ึงกองพันต่อ เพ่ือด�ำรงตนต้ังม่ันอยู่ในหลักของไตรสิกขาได้แก่ หนึ่งวัด คือให้แต่ละหน่วยช่วยกันบ�ำรุงดูแล ศีล สมาธิ ปัญญา ซ่ึงเป็นกระบวนการฝึกอบรม รักษาศาสนสถานวัดส�ำนักสงฆ์ท่ีอยู่ในพ้ืนที่ กาย วาจา จิตใจ และปัญญา เพื่อให้เกิดความรู้ เพื่อมิให้ก�ำลังพลและครอบครัวเอาใจออกห่าง และมีคุณธรรมความเป็นผู้น�ำทางจิตวิญญาณ จากศลี ธรรม จดั กจิ กรรมนำ� กำ� ลงั พลเขา้ หาธรรมะ จงึ เปน็ แนวคดิ ทมี่ คี วามสำ� คญั ในการนำ� ไปประยกุ ต์ น�ำธรรมะเข้าหาก�ำลังพล และเมื่อวัดหรือชุมชน ใชใ้ นดา้ นความคดิ ความเชอื่ ความศรทั ธาในคณุ คา่ ในพื้นท่ีจัดกิจกรรมที่เก่ียวข้องกับศาสนาก็ให้ร่วม ท่ีแท้จริงอันจะน�ำไปสู่ความส�ำเร็จในการแก้ไข กจิ กรรมนนั้ ๆ กบั ชมุ ชนนน้ั ดว้ ยโดยไมส่ รา้ งเงอ่ื นไข ปัญหาอย่างย่ังยืน อาจจะด�ำเนินการในลักษณะ โดยอนศุ าสนาจารย์หนว่ ยเปน็ ผ้ปู ระสานงาน ต่าง ๆ ดงั น้ี - จัดกิจกรรมด้วยการฝึกสติให้แก่ - ก่อต้ังโรงเรียนการอนุศาสนาจารย์ เยาวชนบุตรหลานของก�ำลังพล โดยเริ่มต้น ไทย ให้เป็นสถาบันการฝึกอบรมงานด้าน จากภายในค่ายทหารและขยายกว้างออกไปยัง อนุศาสนาจารย์แก่หน่วยต่าง ๆ ทุกเหล่าทัพ โรงเรยี นภายนอก เพอื่ เปน็ การปอ้ งกนั สง่ิ ลอ่ แหลม ปี ท่ี ๑๒๕ ฉบับท่ี ๔ กรกฏาคม - กนั ยายน ๒๕๖๐
นิ ต ย ส า ร ยุ ท ธ โ ก ษ 57ที่ชักจูงไปในทางที่เสื่อมเสียหรือจากการติดเกม อนุศาสนาจารย์ ก็มีหน้าท่ีอบรมคุณธรรมทางออนไลน์ ให้ห่างไกลจากสิ่งอบายมุขต่าง ๆ จริยธรรมก�ำลังพลและครอบครัว บ�ำรุงขวัญโดยจดั ตง้ั เปน็ คณะอนศุ าสนาจารยส์ ญั จร๓-๕นาย กำ� ลงั ใจ เปน็ ทปี่ รกึ ษาดา้ นขวญั ก�ำลังใจ ศาสนพธิ ีไปจัดกิจกรรมฝึกสติ การท้ังปวงให้กับผู้บังคับบัญชา และมีหน้าท่ี โดยตรงตามหลักการพระพทุ ธศาสนาอกี ๖ อยา่ ง ๒. อนุศาสนาจารย์กับความเป็น ได้แก่ ห้ามปรามก�ำลังพลและครอบครัวให้เว้นสัญลักษณ์ของพระพทุ ธศาสนา จากความช่ัว แนะน�ำสั่งสอนให้ต้ังอยู่ในความดี อนุเคราะห์ด้วยความปรารถนาดี ให้ได้ฟัง ได้รู้ คุณสมบัติอย่างหนึ่งของอนุศาส- ส่ิงที่ยังไม่เคยรู้ ไม่เคยฟัง ช้ีแจงอธิบาย ท�ำส่ิงที่นาจารยค์ ือ อนุศาสนาจารย์ทุกนายเคยบวชเรียน เคยฟงั แลว้ ใหเ้ ขา้ ใจอยา่ งแจม่ แจง้ บอกทางสวรรค์มากอ่ นไดศ้ กึ ษาหลกั พระธรรมวนิ ยั เคยปฏบิ ตั ธิ รรม สอนวิธีด�ำเนนิ ชีวติ ใหป้ ระสบความสขุ ความเจริญเป็นเปรียญธรรมระดับสูงได้สืบต่อพระพุทธ-ศาสนามาโดยตรง เมื่อบรรจุเข้ารับราชการเป็น ปี ท่ี ๑๒๕ ฉบบั ท่ี ๔ กรกฎาคม - กนั ยายน ๒๕๖๐
ในชีวิต เป็นต้น ดังน้ันการคัดเลือกคนจึงเป็น - อนุศาสนาจารย์ต้องด�ำรงความ เรอ่ื งส�ำคัญ โดยเฉพาะดา้ นการบริหารงานบุคคล ถูกต้องของพระสัทธรรมของพระพุทธศาสนาิน ต ย ส า ร ุย ท ธ โ ก ษ - พัฒนาระบบการสรรหาคัดเลือก ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดฝ่ายหน่ึง รวมทั้งด้านการเมือง บุคลากรที่มีคุณภาพ ให้ตรงตามคุณสมบัติท่ี การปกครองต้องด�ำรงตามธรรมาธปิ ไตย ยดึ ความ กองทัพบกก�ำหนด พิจารณาผู้ที่ส�ำเร็จการศึกษา ถูกต้องตามพระธรรมวินัยของพระพุทธเจ้าเป็น ระดับปริญญาโท ปริญญาเอก และมีการสอบ หลัก ไมเ่ ลือกข้างปฏบิ ตั ิ58 คุณสมบัติเชิงลึกเป็นราย ๆ เพื่อให้ได้บุคคล - ด้านการเช่ือมโยงเครือข่ายกับ ท่ีสามารถสนองงานของผู้บังคับบัญชาได้อย่าง อนุศาสนาจารย์นานาชาติ อนุศาสนาจารย์ เต็มที่และมีผลการปฏิบัติงานที่มีประสิทธิภาพ กองทัพบกต้องสามารถพูดได้ใช้เป็นโดยเฉพาะ เกิดประโยชน์สูงสุดต่อก�ำลังพลและครอบครัว ภาษาองั กฤษตอ้ งสามารถตดิ ตอ่ สอื่ สารกนั ได้ และ ของกองทัพบก แลกเปล่ียนทักษะและประสบการณก์ นั ได้ - พัฒนาทักษะ เพิ่มเติมความรู้ ๓. อนุศาสนาจารย์กับการเป็นนัก และประสบการณ์ให้อนุศาสนาจารย์ในทุกมิติ บริการวชิ าการแก่สังคม รวมท้ังจัดหาทุนการศึกษาให้มีโอกาสไปศึกษา พระพุทธศาสนามีหลักค�ำสอนส�ำคัญ หลักสูตรอนุศาสนาจารย์ชั้นต้น และชั้นสูงใน เพื่อมุ่งพัฒนาบุคคลให้มีความรู้ เกิดปัญญา ต่างประเทศ เป็นการยกระดับความรู้ท้ังภายใน อยา่ งแทจ้ รงิ เกย่ี วกบั ปรากฏการณต์ า่ ง ๆ ทเี่ กยี่ วกบั และนอกประเทศ ชีวิต สงั คม และธรรมชาติ สง่ิ แวดลอ้ ม ให้บุคคล - ส่งเสริมให้อนุศาสนาจารย์ทุกนาย เป็นคนดีของสังคม (ศีล) มีวินัยในตัวเอง เข้าใจ เขา้ รบั การศกึ ษาหลักสตู รตามแนวทางรบั ราชการ ระเบยี บกฎเกณฑ์ในสงั คม และปรบั ตวั อยู่ร่วมกับ และหลักสูตรเสริมอ่ืน ๆ เช่น หลักสูตรส่งทาง บุคคลอื่นได้อย่างมีความสงบสุข (สันติสุข) และ อากาศ หลกั สตู รจ่โู จม และหลกั สตู รนายทหารบก ให้บุคคลมีจิตใจหนักแน่นในการท�ำความดีด้วย อาวุโส เปน็ ต้น ความขยัน (วิริยะ) และไม่หวั่นไหวกับอารมณ์ ปี ท่ี ๑๒๕ ฉบับท่ี ๔ กรกฏาคม - กันยายน ๒๕๖๐
ต่าง ๆ ทมี่ ากระทบ โดยมคี วามมงุ่ ม่ันเพือ่ ใหจ้ ิตใจ ๔. อนศุ าสนาจารยก์ บั การเปน็ นกั พฒั นา นิ ต ย ส า ร ยุ ท ธ โ ก ษมีความสว่าง สงบ สะอาด ด้วยวิธีการถูกต้อง - อนุศาสนาจารย์ ต้องปรับปรุงในหลักการปฏิบัติ (สัมมาสมาธิ) เพื่อให้บรรลุถึง ภูมิทัศน์ศาสนสถานของหน่วยให้สะอาดและ 59คุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ สร้างแรงจูงใจในการ สวยงามอยู่เสมอ เพ่ือให้เกิดความน่าเล่ือมใสพัฒนาตนเอง (ฉันทะ) แรงจูงใจในการพัฒนา แก่ผู้พบเห็น ทย่ี งั ไมม่ ศี าสนสถานกเ็ รง่ ดำ� เนนิ การหมายถึงความรัก ความกระตือรือร้นในการ ของบประมาณจดั สรา้ งเพอื่ ใหท้ กุ คา่ ยมศี าสนสถานสรา้ งสรรคส์ ง่ิ ทดี่ งี ามและมคี ณุ ประโยชนต์ อ่ ตนเอง เป็นศูนย์กลางแห่งกิจกรรมทางศาสนา ส่วนท่ีและต่อสังคม รวมท้ังต่อส่ิงแวดล้อม ความรัก มีอยู่แล้วก็ให้บูรณปฏิสังขรณ์ทรัพยากรที่มีอยู่ในการสร้างสรรค์ท่ีดีงามจะต้องปลูกฝังให้เกิดขึ้น ให้เกิดประโยชน์อย่างคุ้มค่าแก่ก�ำลังพลและอย่างย่ังยืน บทบาทอนุศาสนาจารย์กับการเป็น ครอบครัวอย่างมากที่สุด และใช้ศาสนสถานน้ันนักบริการวิชาการแกส่ ังคม มปี ระเดน็ ทีส่ ำ� คญั คอื ประกอบกิจกรรมน�ำก�ำลังพลและครอบครัวไหว้ พระสวดมนต์ทุกวันพระหรือวันส�ำคัญทางศาสนา - อนุศาสนาจารย์ต้องมีแฟ้มภาระ ทั้งในเวลาราชการหรอื นอกเวลาราชการงานทชี่ ดั เจน มบี ทความทางวชิ าการทงั้ ทางเอกสาร - ในส่วนกลางขออนุมัติจัดต้ังและเป็นเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ (e-Document) ส�ำนักงานอนุศาสนาจารย์ทหารบก ให้มีอาคารสามารถโหลดเข้าในโทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ตได้ ส�ำนักงาน ๔ ช้ันเป็นท้ังสถานที่ปฏิบัติงานของโ ด ย เ ฉ พ า ะ หั ว ข ้ อ แ ล ะ บ ท บ ร ร ย า ย ธ ร ร ม ใ น อนุศาสนาจารย์และสถานที่ปฏิบัติธรรมของแต่ละเดือน พร้อมส่ือการน�ำเสนอจะบรรจุลงใน ก�ำลังพลที่มีขนาดบรรจุคนได้ ๓๐๐ คน โดยYoutube เพ่ือให้อนุศาสนาจารย์ในส่วนภูมิภาค เปิดการอบรมเป็นห้วง ๆ รวมท้ังบุตรหลานสามารถโหลดไปขยายผลในทางปฏบิ ัติได้ ของก�ำลังพลเข้าค่ายคุณธรรมต่าง ๆ ห้วงปิด ภาคเรียน หรือภาคีเครือข่ายท่ีจะขอใช้เป็น - จัดท�ำรายการบรรยายธรรมทาง สถานที่ฝึกอบรมปฏิบัติธรรม และเพื่อรองรับสถานีวิทยุ โทรทัศน์ หรือทางเว็บไซต์ เชื่อมโยง การปรับโครงสร้างของกองอนุศาสนาจารย์ทั้งระบบทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคให้รู้ ๕. อนุศาสนาจารย์กับการเป็นนักเท่าทันกัน และสามารถท�ำงานเคล่ือนที่ได้แม้ สังคมสงเคราะห์กระท่ังอยู่ในระหว่างการเดินทาง ด้วยเทคโนโลยี - อนุศาสนาจารย์นอกจากจะท�ำที่ทันสมัย รวมท้ังการประชาสัมพันธ์ผลงานท่ี หน้าท่ีเป็นผู้อบรมคุณธรรมจริยธรรมแล้วหนว่ ยตา่ ง ๆ ไดด้ ำ� เนนิ การไปแลว้ กำ� ลงั ดำ� เนนิ การ ยังมีบทบาทในการบ�ำรุงขวัญก�ำลังใจ ต่อจิตใจและจะด�ำเนินการในช่วงเวลาต่อไปให้สังคม ของก�ำลังพลผู้ป่วยให้รู้จักการระงับเวทนาไดร้ บั ทราบ จากความเจ็บปวดท่ีได้รับ ด้วยการเข้าไปเย่ียม ไข้ท่ีโรงพยาบาลหรือท่ีพักรักษาตัวท่ีบ้าน ให้มี - ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยสงฆ์ ก�ำลงั ใจท่ีเขม้ แข็ง ให้มคี วามอดทนตอ่ ทุกขเวทนาทั้งสองแห่งในการส่งเสริมให้บริการวิชาการ ให้เห็นเป็นเรื่องของธรรมดาที่สรรพส่ิงสังขารแก่สังคมทุกช่องทาง โดยอนุศาสนาจารย์หน่วย ไมม่ ใี ครหลกี หนีพน้ ได้ในส่วนภูมิภาคประสานกับวิทยาลัยสงฆ์ หรือ - อนุศาสนาจารย์ต้องเป็นที่ปรึกษาหน่วยวิทยบริการ ท�ำงานอย่างบูรณาการ ปัญหาต่าง ๆ เพราะอนุศาสนาจารย์เป็นฝ่ายโ ด ย เ ฉ พ า ะ พ ร ะ นิ สิ ต นั ก ศึ ก ษ า ที่ อ อ ก ป ฏิ บั ติ กิจการพิเศษอยู่กึ่งกลางระหว่างผู้บังคับบัญชาศาสนกิจหนึ่งปีก่อนรับปริญญาบัตร ร่วมมือกับอนุศาสนาจารย์ท�ำงานธรรมสัญจรตามโครงการ ปี ท่ี ๑๒๕ ฉบับท่ี ๔ กรกฎาคม - กันยายน ๒๕๖๐บวร (บา้ น วดั โรงเรียน) ได้เปน็ อย่างดี
ิน ต ย ส า ร ุย ท ธ โ ก ษ60 กับก�ำลังพลช้ันผู้น้อย ดังนั้นการเข้าพบ และครอบครัว ตั้งแต่ยุคเร่ิมแรกสงครามโลก อนุศาสนาจารย์ต้องเป็นเร่ืองง่ายและเปิดโอกาส คร้ังท่ีหนึ่ง ท่ีล้นเกล้ารัชกาลที่ ๖ ได้ส่ง ให้ก�ำลังพลทุกระดับช้ันเข้าพบปะหารือปัญหา อนศุ าสนาจารยต์ ดิ ตามกองทหารไปรบในตา่ งแดน ตา่ ง ๆ ไดเ้ สมอ อนศุ าสนาจารยก์ จ็ ะตอ้ งใชจ้ ติ วทิ ยา อนุศาสนาจารย์เองก็มีพัฒนาการมาตามล�ำดับ ในการเสนอทางออกของปัญหาตามหลักการ ปัจจุบันได้มีอนุศาสนาจารย์บรรจุให้กับหน่วย ทางพระพุทธศาสนา มีแต่พระคุณอย่างเดียวไม่มี ต่าง ๆ เกือบจะครบ คอื จ�ำนวน ๑๖๑ นาย (อตั รา พระเดช ดังนนั้ อนุศาสนาจารยใ์ นอนาคตตอ้ งเป็น อนุมัติ ๑๗๖ นาย) ได้ด�ำเนินตามปรัชญาท่ีว่า ผรู้ ู้ ผ้ตู ่ืน รกุ รับ ปรบั ตวั และฟน้ื ฟู ได้เสมอ “น�ำก�ำลังพลเข้าหาธรรมะ น�ำธรรมะเข้าหา ก�ำลังพล ใหเ้ ปน็ คนเกง่ ดี มีความสุข” กระท�ำ บทสรุป ในทกุ มติ ิ การอบรมก�ำลังพลและครอบครัวให้มี อย่างไรก็ตาม กิจการอนุศาสนาจารย์ คุณธรรมจริยธรรม ตลอดถึงการบ�ำรุงขวัญ ยงั ตอ้ งไดร้ บั การพฒั นาทง้ั บคุ ลากรและศาสนสถาน ก�ำลังใจให้ก�ำลังพลนั้นปฏิบัติหน้าที่ได้ดีอย่าง ใหเ้ ขา้ ใจ เขา้ ถงึ และพฒั นาอยา่ งตอ่ เนอื่ ง ใหท้ นั ตอ่ มีประสิทธิภาพ เป็นเป้าหมายส�ำคัญอย่างย่ิง ความเปล่ียนแปลงที่เกิดขึ้นท้ังทางด้านความคิด ในการพัฒนากิจการอนุศาสนาจารย์ในอนาคต และสมัยนิยม โดยก�ำหนดเป็นแผนการพัฒนา เพราะก�ำลังพลท่ีพัฒนาจิตใจดีแล้ว ย่อมมี ในรูปแบบต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับนโยบายของ ความประพฤติเป็นแบบอย่างแก่บุคคลอื่นได้ ผู้บังคับบัญชา เพ่ือสร้างพลังอ�ำนาจท่ีมองไม่เห็น ขณะเดียวกันก็เป็นทรัพยากรมนุษย์ท่ีมีค่าของ ให้มีพลัง ให้มีศักยภาพในการปฏิบัติงานอย่าง สังคม กิจการอนุศาสนาจารย์มีบทบาทส�ำคัญ บริบูรณ์ ในการอบรมคณุ ธรรมจรยิ ธรรม บำ� รงุ ขวญั กำ� ลงั พล ปี ท่ี ๑๒๕ ฉบับท่ี ๔ กรกฏาคม - กันยายน ๒๕๖๐
Search
Read the Text Version
- 1 - 12
Pages: