วิธีปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานมีอยู่ ๔ วิธีคือ ๑.การยืน ๒.การเดิน ๓.การนงั่ ๔.การนอน 52
การยืน 53
การกลับ หมนุ ทางขวา คร้งั ละ ๔๕ องศา จาํ นวน ๔ คู่
การเดิน ๖ ระยะ 55
การเดินจงกรม ท่าเดิน ระยะที่ ๑ ขวาย่างหนอ ซ้ายยา่ งหนอ ทา่ เดิน ท่าเดิน ระยะที่ ๒ ยกหนอ เหยียบหนอ ท่าเดิน ระยะที่ ๓ ยกหนอ ยา่ งหนอ เหยียบหนอ ท่าเดิน ระยะที่ ๔ ยกซ่นหนอ ยกหนอ ยา่ งหนอ ระยะที่ ๕ เหยียบหนอ ทา่ เดิน ระยะที่ ๖ ยกซ่นหนอ ยกหนอ ยา่ งหนอ ลงหนอ ถกู หนอ ยกซ่นหนอ ยกหนอ ยา่ งหนอ ลงหนอ ถูกหนอ กดหนอ 56
ประโยชนข์ องการเดินจงกรม ๑. เปน็ ผ้อู ดทนต่อการเดินทางไกล ๒. เปน็ ผอู้ ดทนต่อการทําความเพียร ๓. เปน็ ผ้มู ีอาพาธน้อย ๔. อาหารที่บริโภคเข้าไป ยอ่ ยงา่ ย ๕. สมาธิที่ไดใ้ นขณะเดินจงกรมอยไู่ ด้นาน 57
การนง่ั 58
การนง่ั สมาธิ วิธีน่ัง ให้น่ังขัดสมาธิ คือ ขาขวาทับขาซ้าย นั่ง ตัวตรง หลับตา เอาสติมาจับอยู่ที่ท้องพองยุบ หายใจเข้าท้องพอ กําหนดว่า พองหนอ ใจนึกกับ ท้องที่พองต้องให้ทันกัน อย่าให้ก่อนหรือหลังกัน หายใจออกท้องยุบ กําหนดว่า ยุบหนอ ใจนึกกับ ท้องทีย่ ุบต้องให้ทันกนั อย่าให้ก่อนหรือหลงั กัน 59
การนอน 60
การนอน 61
การนอน 62
หลกั ใหญใ่ นการปฏิบตั ิวิปสั สนาฯ มีหลกั อยู่ ๓ ประการ คือ ๑. อาตาปี ทาํ ความเพียรเผากิเลสให้เรา่ ร้อน ๒. สติมา มีสติ คือระลึกอยู่เสมอว่าขณะนี้ เราทาํ อะไร ๓. สัมปชาโน มีสมั ปชญั ญะ คือ ขณะทาํ อะไร อย่นู น้ั ตอ้ งรตู้ ัวอย่ตู ลอดเวลา 63
สติปัฏฐาน ๔ ๑. กายานุปสั สนา การตง้ั สติกําหนดพิจารณากาย ๒. เวทนานปุ สั สนา การตั้งสติกาํ หนดพิจารณาเวทนา ๓. จิตตานุปัสสนา การตั้งสติกําหนดพิจารณาจิต ๔. ธมั มานปุ สั สนา การตง้ั สติกาํ หนดพิจารณาธรรม 64
การกําหนดเมือ่ รับรอู้ ารมณต์ ่าง ๆ ๑. ตาเหน็ รปู กาํ หนดวา่ เหน็ หนอ ๆ ๒. หไู ดย้ ินเสียง กําหนดว่า เสียงหนอ ๆ ๓. จมูกได้กลิ่น กาํ หนดวา่ กลิ่นหนอ ๆ ๔. ลิน้ ได้รส กําหนดวา่ รสหนอ ๆ ๕. กายถกู ต้องสมั ผัส กําหนดตามความเป็นจริงทีเ่ กิดขึน้ ๖. ใจนึกคิดอารมณ์ กําหนดวา่ คิดหนอ ๆ ๗. สิ่งทีก่ าํ หนดไม่ทนั กําหนดวา่ รู้หนอ ๆ 65
ประโยชนข์ องการปฏิบตั ิวิปัสสนากรรมฐาน ๑. ทาํ กายวาจาใจ ของสรรพสตั ว์ใหบ้ ริสุทธิ์หมดจด ๒. ดับความเศร้าโศก ปริเทวนาการต่าง ๆ ๓. ดับความทุกขก์ าย ดบั ความทุกขใ์ จ ๔. เพื่อบรรลุมรรคผล ๕. เพือ่ ทํานิพพานให้แจ้ง ฯ ล ฯ 66
จริต หมายถึง พื้นเพของจิต หรือความตอ้ งการของ จิต (นิสยั สันดาน) การปฏิบตั ิงานเนือ่ งกับคนอื่น เพือ่ สมานสามคั คี สิง่ สําคัญคือการรู้จักจิตใจของกัน และอ่อนโยนผอ่ นตามโดย เหมาะสม 67
ลักษณะจริต ๑. ราคจริต ทาํ งานเรียบรอ้ ย ๒. โทสจริต ทํางานเรว็ ๓. โมหจริต โลกสว่ นตวั สงู ๔. สทั ธาจริต มองโลกในแง่ดี ๕. พทุ ธิจริต ชอบศึกษาค้นควา้ ๖. วิตกจริต พิถีพิถนั (เหมือนรอบคอบ) 68
คู่ของจริต จริตใหญ่ จริตรอง ราคจริต คู่ สทั ธาจริต โทสจริต คู่ พุทธิจริต โมหจริต คู่ วิตกจริต
พระพุทธศาสนา กาํ เนิดทีน่ ีเ่ มือ่ ๒๖๐๐ ปี เจริญรงุ่ เรืองมาก หลังพุทธปรินิพพาน พ.ศ. ๒๑๔ แผ่ขยายไปทั่ว โลก (ศาสนทูต ๙ สาย)
พระพทุ ธศาสนา พ.ศ.๒๙๘ (พราหมณ์ ปุษยมิตร) -ฆา่ พระ,เผาวดั ,ตัง้ คา่ หวั พระ พระสงฆห์ นีตาย ,เปลีย่ นศาสนา พุทธถูกกลืน พิธีกรรมมากกว่า พุทธธรรม
พระพทุ ธศาสนา พ.ศ.๑๑๔๘ (พราหมณศ์ ศางกะ) -ฆา่ พระที่กุสินารา,โค่นพระศรี มหาโพธิ์ -จารึกเหรียญประจาํ รชั กาลว่า “ผู้ปราบพุทธศาสนา”
สิน้ พระพทุ ธศาสนากว่า ๘๐๐ ปี พ.ศ.๑๗๔๑ (ผู้เขียนประวัติศาสตรอ์ ิสลาม) “ทพั มุสลิมเติร์ก ไดเ้ ผาทาํ ลาย อาคารสถานที่ ยึดเงินทองทรพั ยส์ ิน และใหค้ นเลือกเอาระหว่าง อิสลาม กบั ความตาย” เปิดหนา้ ต่างโลก พระพุทธศาสนา พ.ศ.๒๔๐๖ (อเลก็ ซานเดอร์ คันนิ่งแฮม) “พบกระดกู คนมากมายและวัตถุ ที่ถูกไฟไหม้ดําเกรียมนานาชนิด.. พระพทุ ธศาสนาทีน่ ี่ไดถ้ กู ทําลายลา้ ง ด้วยไฟและดาบ”
เปิดหน้าตา่ งโลก พระพทุ ธศาสนา พ.ศ.๒๔๐๖ (อเลก็ ซานเดอร์ คันนิ่งแฮมและคณะ) “ทกุ แห่งถูกบุกปล้นและเผา ไมว่ า่ จะเป็นพระสงฆ์ กุฎีวิหารหรือ พระพุทธรูป หมดไปด้วยกนั ...ถูกเอา มาสุมรวมกันไว้เปน็ กองมหึมา”
เปิดหนา้ ต่างโลก พระพทุ ธศาสนา พ.ศ.๒๔๐๖ (อเล็กซานเดอร์ คนั นิ่งแฮมและคณะ) “ทีฝ่ งั ศพมสุ ลิม คือ ซากของ สิง่ ก่อสรา้ งของพทุ ธหรือพราหมณ์ ที่ ถูกทาํ ลายลงไปแล้ว” ทาํ ใหไ้ มส่ ามารถขดุ ค้นดูอะไรได้ เป็นอุปสรรคสําคัญทีข่ วางก้ันการขุด ค้น
ผู้อทุ ิศชีวิตเพือ่ ฟืน้ ฟู พระพุทธศาสนาใน อินเดีย พ.ศ.๒๔๓๔ (David : อนาคาริก ธรรมปาละ) “เห็นพุทธคยาถูกทอดทิ้งทรดุ โทรม ตกอยภู่ ายใตก้ ารครอบครอง ของนักบวชฮินดู (มหันต)์ จึงตง้ั ปณิธานต่อตน้ พระศรีมหาโพธิ์ จะ อทุ ิศชีวิตเพื่อฟื้นฟพู ระพุทธศาสนา”
แนวคิดในการสร้างอทุ ยาน ๑.ดาํ เนินตามพระราชปณิธานของพระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยู่หัว (ร.๕) พระองค์ผูส้ ถาปนา ยศ.ทบ.
แนวคดิ ในการหลอ่ พระพุทธรูป ดาํ เนินตามพระราชดําริของพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกลา้ เจ้าอยูห่ ัว (ร.๕) “เรือ่ งปน้ั พระนี.้ ..อยากเหน็ พระเป็นคน อยากเหน็ หนา้ เป็นคนฉลาดอดทน ...ไมใ่ ช่ทําหน้าบ้งึ ตึง ไม่ใช่ นัง่ ยม้ิ กรมิ่ ไม่ใช่น่ังหลับเผลอไผล แตใ่ หเ้ ตม็ อยู่ด้วย สติสมั ปชัญญะ “
แนวคดิ ในการสรา้ งอุทยาน ๒.สืบสานพระราชปณิธานของพระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ ัว (ร.๖) พระองคผ์ พู้ ระราชทานกาํ เนิดอนศุ าสนาจารยไ์ ทย
วัตถปุ ระสงค์การสร้าง ศึกษาคน้ คว้าพุทธธรรม ศึกษาเรยี นรขู้ อง อศจ.ทบ., กาํ ลังพล และ ประชาชน สถานที่บําเพญ็ กศุ ลตา่ ง ๆ ทํากิจกรรมรว่ มกนั ของพทุ ธศาสนกิ ชน พกั ผอ่ นหย่อนใจตามวิถพี ุทธ
องคป์ ระกอบ ๑
องคป์ ระกอบ ๒
องคป์ ระกอบ ๓
องคป์ ระกอบ ๔
จากจดุ เร่มิ ตน้ สอู่ ทุ ยานพุทธธรรมสกิ ขา (๔๖๕ วนั ) ๗ ก.พ.๖๑ ๑๕ ม.ิ ย.๖๑ ๒๖ มิ.ย.๖๑ ๘ ส.ค.๖๑ ๙ ม.ค.๖๒ วันมาฆะบูชา ๖๑ ๑๗ พ.ค.๖๒ วนั วสิ าขะบชู า ๖๒
มหาสถานท่ี ๑ ข้าราชการ ยศ.ทบ.. วทบ.. รร.สธ.ทบ.
มหาสถานที่ ๒ ความกตัญญูกตเวที เปน็ คณุ ธรรมพน้ื ฐานของมนุษย์ ความกตัญญู คือ ความรู้ อปุ การะทผ่ี ู้อนื่ กระทาํ แกต่ น กตัญญกู ตเวที คือ ผ้รู ูอ้ ุปการะ แลว้ ตอบแทน “พระสารีบตุ ร รู้คุณขา้ ว ๑ ทพั พี ของราธะพราหมณ์ , คุณ พระอสั สชิ ผชู้ กั นาํ ทางธรรม พล.อ.มงคล อัมพรพสิ ฏิ ฐ์ และ อศจ.ทบ.
มหาสถานท่ี ๓ พลตรหี ญิง องั คณา สเุ มธสิทธกิ ุล และคณะ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108