การวิเคราะห์ความสอดคล้อง หลกั สตู รแกนกลาง การศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ุขศกึ ษาพละศึกษา ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระท่ี ๑ การเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนษุ ย์ มาตรฐาน พ ๑.๑ เขา้ ใจธรรมชาติของการเจรญิ เติบโตและพัฒนาการของมนุษย์ ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ป.๑ ๑. อธบิ ายลักษณะและหน้าที่ ลกั ษณะและหนา้ ท่ขี องอวัยวะ ของอวยั วะภายนอก ภายนอกทม่ี กี ารเจริญเติบโตและ พัฒนาการไปตามวัย ๒. อธิบายวธิ ีดแู ลรกั ษาอวยั วะ - ตา หู คอ จมกู ผม มือ เท้า เล็บ ภายนอก ผิวหนัง ฯลฯ - อวยั วะในชอ่ งปาก (ปาก ลน้ิ ฟนั เหงือก) การดูแลรักษาอวัยวะภายนอก - ตา หู คอ จมูก ปาก ลน้ิ ฟัน ผม มือ เทา้ เล็บ ผิวหนงั ฯลฯ - อวัยวะในชอ่ งปาก (ปาก ลนิ้ ฟัน เหงอื ก) ป. ๒ ๑. อธิบายลักษณะ และหนา้ ท่ขี อง ลกั ษณะ และหนา้ ทข่ี องอวัยวะ อวยั วะภายใน ภายในที่มีการเจริญเตบิ โตและ พฒั นาการไปตามวยั (สมอง หวั ใจ ตบั ไต ปอด กระเพาะอาหาร ลาไส้ ฯลฯ) ๒. อธิบายวธิ ีดแู ลรักษาอวยั วะ การดแู ลรกั ษาอวัยวะภายใน ภายใน - การระมัดระวังการกระแทก - การออกกาลงั กาย - การกนิ อาหาร ๓. อธิบายธรรมชาตขิ องชีวิตมนุษย์ ธรรมชาติของชีวิตมนุษยต์ ั้งแต่ เกดิ จนตาย ป.๓ ๑. อธบิ ายลกั ษณะและการ ลกั ษณะการเจริญเติบโตของ เจริญเตบิ โตของร่างกายมนษุ ย์ ร่างกายมนษุ ย์ ทมี่ ีความแตกตา่ ง
๒ ช้ัน ตัวชว้ี ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง งานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน ๒. เปรยี บเทยี บการเจริญเติบโตของ กันในแตล่ ะบุคคล ตนเองกับเกณฑม์ าตรฐาน - ลกั ษณะรูปรา่ ง - นา้ หนกั ๓. ระบปุ ัจจยั ทีม่ ผี ลต่อการ - ส่วนสูง เจริญเตบิ โต เกณฑ์มาตรฐานการเจริญเติบโต ของเด็กไทย ปจั จัยท่ีมีผลตอ่ การเจริญเติบโต - อาหาร - การออกกาลังกาย - การพักผอ่ น ป. ๔ ๑. อธบิ ายการเจริญเตบิ โตและ การเจริญเติบโตและพัฒนาการ พฒั นาการของรา่ งกายและจิตใจ ของร่างกายและจิตใจ ตามวัย ตามวัย (ในช่วงอายุ ๙ – ๑๒ ปี) ๒. อธบิ ายความสาคญั ของกลา้ มเนอ้ื ความสาคัญของกลา้ มเน้ือ กระดูกและขอ้ ท่ีมผี ลตอ่ สขุ ภาพ การ กระดกู และขอ้ ทีม่ ีผลต่อสขุ ภาพ เจริญเตบิ โตและพฒั นาการ การเจริญเติบโตและพฒั นาการ ๓. อธบิ ายวิธดี ูแลกล้ามเนอื้ กระดูก วิธีดแู ลรกั ษากล้ามเน้อื กระดกู และขอ้ ใหท้ างานอย่างมี และขอ้ ใหท้ างานอยา่ งมี ประสิทธิภาพ ประสิทธภิ าพ ป. ๕ ๑. อธิบายความสาคัญของระบบยอ่ ย ความสาคญั ของระบบย่อย อาหาร และระบบขบั ถา่ ยท่มี ีผลต่อ อาหารและระบบขบั ถ่ายที่มีผลต่อ สุขภาพ การเจริญเติบโต และ สขุ ภาพ การเจรญิ เตบิ โต และ พัฒนาการ พัฒนาการ ๒. อธิบายวิธดี ูแลระบบยอ่ ยอาหาร วิธีดแู ลรักษาระบบย่อยอาหาร และระบบขบั ถ่ายให้ทางานตามปกติ และระบบขบั ถา่ ยใหท้ างาน ตามปกติ ป.๖ ๑. อธิบายความสาคญั ของระบบ ความสาคัญของระบบสืบพันธุ์ สบื พันธ์ุ ระบบไหลเวียนโลหติ และ ระบบไหลเวียนโลหิต และระบบ ระบบหายใจ ที่มีผลต่อสุขภาพ การ หายใจที่มีผลต่อสขุ ภาพ การ เจริญเติบโตและพัฒนาการ เจริญเติบโตและพฒั นาการ ๒. อธบิ ายวิธีการดแู ลรักษาระบบ วิธีดแู ลรกั ษาระบบสบื พนั ธุ์ สบื พนั ธ์ุ ระบบไหลเวยี นโลหิต ระบบไหลเวียนโลหิต และระบบ และระบบหายใจให้ทางานตามปกติ หายใจให้ทางานตามปกติ ม.๑ ๑. อธิบายความสาคัญของระบบ ความสาคัญของระบบประสาท
๓ ชัน้ ตวั ชีว้ ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง งานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน ประสาท และระบบตอ่ มไร้ทอ่ ท่ีมผี ล และระบบต่อมไร้ท่อทมี่ ีผลต่อ ต่อสุขภาพ การเจรญิ เตบิ โต และ สุขภาพ การเจรญิ เตบิ โต และ พฒั นาการของวัยรุ่น พัฒนาการของวยั รุ่น ๒. อธบิ ายวธิ ีดแู ลรักษาระบบ วธิ ีดูแลรกั ษาระบบประสาท ประสาท และระบบต่อมไร้ทอ่ ให้ และระบบตอ่ มไรท้ ่อ ใหท้ างาน ทางานตามปกติ ตามปกติ ๓. วิเคราะห์ภาวะการเจริญเติบโตทาง การวิเคราะหภ์ าวะการ รา่ งกายของตนเองกบั เกณฑ์มาตรฐาน เจริญเตบิ โต ตามเกณฑ์มาตรฐาน และปัจจยั ทเ่ี กย่ี วข้อง ๔. แสวงหาแนวทางในการพฒั นา แนวทางในการพัฒนาตนเองให้ ตนเองให้เจริญเตบิ โตสมวยั เจริญเติบโตสมวัย ม. ๒ ๑. อธิบายการเปล่ียนแปลงดา้ น การเปลี่ยนแปลงด้านร่างกาย รา่ งกาย จติ ใจ อารมณ์ สังคม และ จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปญั สติปัญญาในวัยรุ่น ญาในวยั รุ่น ๒.ระบุปัจจยั ทมี่ ผี ลกระทบต่อการ ปจั จยั ท่ีมผี ลกระทบต่อการ เจริญเติบโต และพัฒนาการด้าน เจริญเติบโตและพฒั นาการด้าน ร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สงั คม และ รา่ งกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และ สตปิ ญั ญา ในวัยรุ่น สตปิ ญั ญา - พนั ธกุ รรม - สิง่ แวดลอ้ ม - การอบรมเลี้ยงดู ม. ๓ ๑. เปรยี บเทียบการเปลี่ยนแปลง การเปล่ยี นแปลง ดา้ นร่างกาย ทางด้านรา่ งกาย จิตใจ อารมณ์ จติ ใจ อารมณ์ สงั คม และ สังคม และสตปิ ญั ญา แตล่ ะชว่ ง สตปิ ัญญาในแตล่ ะวยั ของชีวิต - วยั ทารก - วัยก่อนเรียน - วัยเรียน - วัยรุน่ - วยั ผ้ใู หญ่ - วยั สูงอายุ ๒. วเิ คราะห์อิทธพิ ลและความ อทิ ธิพลและความคาดหวังของ คาดหวังของสังคมต่อการ สังคมทม่ี ีต่อการเปลย่ี นแปลงของ เปล่ยี นแปลงของวยั รุ่น วยั รนุ่
ชัน้ ตวั ชวี้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ๔ งานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน ๓. วเิ คราะห์ สอื่ โฆษณา ทีม่ ี สอ่ื โฆษณา ที่มีอิทธพิ ลต่อการ อทิ ธพิ ลต่อการเจรญิ เตบิ โตและ เจริญเติบโตและพฒั นาการของ พฒั นาการของวยั รุ่น วยั ร่นุ - โทรทัศน์ ม.๔–ม.๖ ๑. อธิบายกระบวนการสร้างเสริม - วทิ ยุ และดารงประสทิ ธิภาพการทางาน - สอื่ ส่ิงพิมพ์ ของระบบอวยั วะตา่ ง ๆ - อนิ เทอร์เน็ต ๒. วางแผนดูแลสุขภาพตาม กระบวนการสร้างเสรมิ และ ภาวะการเจริญเติบโตและพัฒนาการ ดารงประสิทธิภาพการทางานของ ของตนเองและบคุ คลในครอบครัว ระบบอวยั วะ ตา่ ง ๆ - การทางานของระบบอวยั วะ ต่างๆ - การสรา้ งเสรมิ และดารง ประสิทธิภาพของอวยั วะต่างๆ (อาหาร การออกกาลังกาย นันทนาการ การตรวจสุขภาพ ฯลฯ) การวางแผนดแู ลสขุ ภาพของ ตนเองและบคุ คลในครอบครัว
๕ สาระท่ี ๒ ชวี ิตและครอบครัว มาตรฐาน พ ๒.๑ เข้าใจและเหน็ คุณคา่ ตนเอง ครอบครัว เพศศึกษา และมที ักษะในการดาเนนิ ชวี ิต ช้นั ตวั ชวี้ ัด สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ป. ๑ ๑. ระบสุ มาชิกในครอบครวั และ สมาชกิ ในครอบครัว ความรกั ความผกู พันของสมาชกิ ทีม่ ี ความรกั ความผูกพันของ ต่อกัน สมาชิกในครอบครัว ๒. บอกสิง่ ทชี่ ื่นชอบ และภาคภูมิใจ สิ่งท่ีชื่นชอบและความ ในตนเอง ภาคภมู ิใจ ในตนเอง (จดุ เด่น จุดด้อยของ ตนเอง) ๓. บอกลกั ษณะความแตกตา่ ง ลกั ษณะความแตกตา่ งของเพศ ระหวา่ งเพศชาย และเพศหญิง ชาย เพศหญงิ - ร่างกาย - อารมณ์ - ลกั ษณะนสิ ยั ป. ๒ ๑. ระบบุ ทบาทหนา้ ที่ของตนเอง บทบาทหน้าท่ขี องสมาชกิ ใน และสมาชิกในครอบครัว ครอบครัว - ตนเอง - พ่อ แม่ - พน่ี อ้ ง - ญาติ ๒. บอกความสาคัญของเพ่อื น ความสาคญั ของเพื่อน (เช่น พูดคยุ ปรกึ ษา เลน่ ฯลฯ) ๓. ระบุพฤตกิ รรมท่ีเหมาะสมกบั พฤตกิ รรมที่เหมาะสมกบั เพศ เพศ - ความเป็นสุภาพบุรุษ - ความเปน็ สุภาพสตรี ๔. อธิบายความภาคภูมิใจในความ ความภาคภมู ิใจในเพศหญิง เปน็ เพศหญงิ หรอื เพศชาย หรือเพศชาย ป. ๓ ๑. อธบิ ายความสาคญั และความ ความสาคญั ของครอบครัว แตกต่างของครอบครวั ทีม่ ตี ่อตนเอง ความแตกตา่ งของแตล่ ะครอบครัว - เศรษฐกิจ - สงั คม
๖ ชน้ั ตวั ชว้ี ดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง งานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน - การศกึ ษา ๒. อธิบายวิธีสร้างสมั พนั ธภาพใน วธิ ีการสรา้ งสมั พนั ธภาพใน ครอบครัวและกลุ่มเพ่ือน ครอบครัวและกล่มุ เพ่ือน ๓. บอกวธิ หี ลีกเล่ียงพฤตกิ รรมท่ี พฤตกิ รรมทีน่ าไปส่กู ารล่วง นาไปสูก่ ารลว่ งละเมิดทางเพศ ละเมดิ ทางเพศ (การแตง่ กาย การ เที่ยวกลางคืน การคบเพ่ือน การ เสพสารเสพตดิ ฯลฯ) วิธหี ลีกเลีย่ งพฤตกิ รรมที่ นาไปสู่การล่วงละเมดิ ทางเพศ (ทกั ษะปฏเิ สธและอนื่ ๆ ) ป. ๔ ๑. อธบิ ายคณุ ลักษณะของความเปน็ คุณลักษณะของความเปน็ เพ่อื น เพื่อนและสมาชกิ ทดี่ ีของครอบครัว และสมาชกิ ท่ดี ขี องครอบครัว ๒. แสดงพฤติกรรมที่เหมาะสมกับ พฤตกิ รรมที่เหมาะสมกบั เพศ เพศของตนตามวัฒนธรรมไทย ของตนตามวัฒนธรรมไทย ๓. ยกตวั อย่างวธิ ีการปฏเิ สธการ วิธีการปฏิเสธการกระทาทีเ่ ป็น กระทาทเ่ี ปน็ อันตรายและไม่ อันตรายและไม่เหมาะสมในเรอ่ื ง เหมาะสมในเร่ืองเพศ เพศ ป. ๕ ๑. อธิบายการเปลย่ี นแปลงทางเพศ การเปลยี่ นแปลงทางเพศ การ และปฏบิ ตั ิตนไดเ้ หมาะสม ดูแลตนเอง การวางตัวที่เหมาะสมกบั เพศ ตามวัฒนธรรมไทย ๒. อธบิ ายความสาคญั ของการมี ลกั ษณะของครอบครวั ท่ีอบอุ่น ครอบครัวท่ีอบอุ่นตามวัฒนธรรมไทย ตามวฒั นธรรมไทย (ครอบครัว ขยาย การนับถือญาติ) ๓. ระบพุ ฤตกิ รรมทีพ่ งึ ประสงค์ พฤติกรรมที่พึงประสงค์และไม่ และไม่พึงประสงคใ์ นการแก้ไขปญั หา พงึ ประสงค์ ความขัดแยง้ ในครอบครัวและกลุ่ม ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งใน เพื่อน ครอบครวั
๗ ชั้น ตวั ช้วี ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ป. ๖ ๑. อธบิ ายความสาคญั ของการสร้าง ความสาคญั ของการสรา้ งและ และรกั ษาสัมพันธภาพกบั ผู้อน่ื รักษาสัมพันธภาพกบั ผู้อื่น ปัจจยั ทีช่ ่วยให้การทางานกลุ่ม ประสบความสาเรจ็ - ความสามารถส่วนบคุ คล - บทบาทหน้าท่ีของสมาชกิ ใน กล่มุ - การยอมรับความคิดเห็น และ ความแตกตา่ งระหว่างบคุ คล - ความรับผิดชอบ ๒. วิเคราะหพ์ ฤตกิ รรมเส่ียงท่ีอาจ พฤติกรรมเสี่ยงท่ีนาไปสูก่ ารมี นาไปสู่การมเี พศสัมพันธ์ การตดิ เชื้อ เพศสัมพนั ธ์ การติดเช้ือเอดส์ และ เอดส์ และการต้ังครรภก์ ่อนวยั อนั ควร การตั้งครรภ์ก่อนวยั อนั ควร ม. ๑ ๑. อธบิ ายวิธีการปรับตัวต่อการ การเปลี่ยนแปลงทางรา่ งกาย เปลี่ยนแปลงทางร่างกายจิตใจ อารมณ์ จติ ใจ อารมณ์ และพัฒนาการทาง และพัฒนาการทางเพศอยา่ งเหมาะสม เพศ - ลกั ษณะการเปล่ยี นแปลงทาง ร่างกาย จติ ใจ อารมณ์ และ พัฒนาการทางเพศ - การยอมรับและการปรับตวั ต่อ การเปล่ยี นแปลงทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และพฒั นาการทางเพศ - การเบี่ยงเบนทางเพศ ๒. แสดงทกั ษะการปฏเิ สธเพือ่ ทักษะปฏเิ สธเพอื่ ปอ้ งกนั การถกู ปอ้ งกนั ตนเองจากการถูกลว่ งละเมดิ ล่วงละเมดิ ทางเพศ ทางเพศ ม. ๒ ๑. วิเคราะห์ปัจจยั ทม่ี อี ทิ ธพิ ลตอ่ ปจั จยั ท่มี อี ิทธพิ ลต่อเจตคตใิ น เจตคติในเรื่องเพศ เรื่องเพศ - ครอบครวั - วัฒนธรรม
๘ ชนั้ ตัวช้ีวดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง งานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน - เพ่อื น - สอ่ื ๒. วิเคราะหป์ ัญหาและผลกระทบท่ี ปญั หาและผลกระทบที่เกิดจาก เกดิ จากการมีเพศสมั พันธ์ในวัยเรียน การมีเพศสัมพนั ธ์ในวัยเรียน ๓. อธิบายวธิ ีปอ้ งกันตนเองและ โรคตดิ ต่อทางเพศสมั พนั ธ์ หลกี เล่ียงจากโรคติดต่อทาง โรคเอดส์ เพศสัมพนั ธ์ เอดส์ และการตง้ั ครรภ์ การตั้งครรภ์โดยไมพ่ งึ โดยไม่พึงประสงค์ ประสงค์ ๔. อธบิ ายความสาคญั ของความ ความสาคัญของความเสมอ เสมอภาคทางเพศ และวางตัวได้อยา่ ง ภาคทางเพศ เหมาะสม การวางตวั ตอ่ เพศตรงข้าม ปัญหาทางเพศ แนวทางการแก้ไขปัญหาทาง เพศ ม.๓ ๑. อธบิ ายอนามยั แม่และเดก็ องคป์ ระกอบของอนามัยเจริญ การวางแผนครอบครวั และวิธีการ พันธุ์ ปฏิบตั ติ นที่เหมาะสม - อนามัยแมแ่ ละเดก็ - การวางแผนครอบครัว ๒. วิเคราะห์ปัจจัยท่มี ผี ลกระทบตอ่ ปจั จัยท่ีมผี ลกระทบตอ่ การ การต้งั ครรภ์ ตงั้ ครรภ์ - แอลกอฮอล์ - สารเสพตดิ - บุหรี่ - สภาพแวดลอ้ ม - การติดเช้ือ - โรคท่ีเกิดจากภาวะการต้ังครรภ์ ๓. วเิ คราะหส์ าเหตุ และเสนอ สาเหตคุ วามขัดแยง้ ใน แนวทางป้องกัน แก้ไขความขัดแย้งใน ครอบครัว ครอบครวั แนวทางป้องกัน แกไ้ ขความ ขดั แย้งในครอบครัว
๙ ชน้ั ตัวชว้ี ดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ม.๔–ม.๖ ๑. วเิ คราะห์อทิ ธพิ ลของครอบครวั เพ่ือน สงั คม และวฒั นธรรมทมี่ ผี ลต่อ อทิ ธิพลของครอบครัว เพ่ือน พฤติกรรมทางเพศและการดาเนนิ ชีวิต สังคม และวัฒนธรรมทมี่ ีตอ่ พฤตกิ รรมทางเพศ และการดาเนนิ ๒. วเิ คราะห์คา่ นิยมในเรอ่ื งเพศ ชีวิต ตามวฒั นธรรมไทยและวัฒนธรรม คา่ นิยมในเร่ืองเพศตาม อ่นื ๆ วฒั นธรรมไทย และวฒั นธรรมอื่น ๓. เลอื กใช้ทกั ษะทีเ่ หมาะสมในการ ๆ ปอ้ งกัน ลดความขดั แย้งและ แนวทางในการเลอื กใชท้ ักษะ แกป้ ัญหาเรอ่ื งเพศและครอบครัว ต่าง ๆ ในการปอ้ งกนั ลดความ ขัดแยง้ และแกป้ ัญหาเร่ืองเพศ ๔. วเิ คราะห์สาเหตุและผลของความ และครอบครัว ขดั แย้งทอี่ าจเกิดข้ึนระหว่างนกั เรยี น - ทักษะการส่ือสารและสร้าง หรือเยาวชนในชุมชน และเสนอแนว สมั พนั ธภาพ ทางแก้ไขปัญหา - ทักษะการต่อรอง - ทกั ษะการปฏิเสธ - ทกั ษะการคดิ วิเคราะห์ - ทักษะการตัดสินใจ และแก้ไข ปัญหา ฯลฯ ความขัดแย้งที่อาจเกดิ ขึ้น ระหว่างนกั เรียนหรือเยาวชนใน ชมุ ชน - สาเหตขุ องความขัดแยง้ - ผลกระทบที่เกิดจากความขัดแยง้ ระหวา่ งนักเรยี น หรือเยาวชนใน ชมุ ชน - แนวทางในการแกป้ ัญหาท่ีอาจ เกดิ จากความขัดแย้งของนักเรียน หรือเยาวชนในชุมชน
๑๐ สาระท่ี ๓ การเคลื่อนไหว การออกกาลังกาย การเล่นเกม กฬี าไทย และกฬี าสากล มาตรฐาน พ ๓.๑ เข้าใจ มีทักษะในการเคลอ่ื นไหว กจิ กรรมทางกาย การเลน่ เกม และกฬี า ช้นั ตวั ชี้วดั สาระการเรียนร้แู กนกลาง งานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน ป.๑ ๑. เคลื่อนไหวรา่ งกายขณะอยู่กับที่ ธรรมชาตขิ องการเคลอ่ื นไหว องคป์ ระกอบท่ี ๕ เคลื่อนที่และใช้อปุ กรณป์ ระกอบ รา่ งกายในชวี ิตประจาวัน - การสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน - แบบอยู่กบั ที่ เชน่ นัง่ ยืน ก้มเงย บูรณาการสู่การเรียนการสอน เอยี ง ซา้ ย ขวา เคลื่อนไหวข้อมือ ข้อ (วเิ คราะห์ ส่วนตา่ งๆของพืชแล้ว เทา้ แขน ขา ออกแบบ ทา่ กายบริหารตาม - แบบเคลื่อนท่ี เช่น เดนิ วิ่ง กระโดด กลง้ิ ตัว รูปลักษณ์ พฤติกรรม ของพืช) - แบบใช้อุปกรณ์ประกอบ เชน่ จบั โยน เตะ เคาะ ๒. เล่นเกมเบด็ เตล็ดและเขา้ รว่ ม กิจกรรมทางกายทใี่ ช้ในการ องค์ประกอบท่ี ๕ กิจกรรมทางกายทใ่ี ช้การเคล่ือนไหว เคลอ่ื นไหวตามธรรมชาติ - การสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ตามธรรมชาติ - การเลน่ เกมเบ็ดเตลด็ บูรณาการส่กู ารเรียนการสอน (เกมต่อตัวกันเปน็ รปู ใบไมต้ ่างๆ) ป. ๒ ๑. ควบคุมการเคล่อื นไหวรา่ งกาย ลกั ษณะและวิธีการของการ ขณะอยกู่ บั ที่ เคลื่อนที่ และใช้ เคลอ่ื นไหวร่างกาย แบบอยู่กับท่ี อปุ กรณป์ ระกอบ เชน่ กระโดด บิดตวั ดึง ผลกั แบบ เคลื่อนท่ี เช่น กระโดดเขย่ง ก้าวชดิ ก้าว ว่งิ ตามทศิ ทางท่ีกาหนด และ แบบใชอ้ ุปกรณ์ประกอบ เช่น คบี ขว้าง ตี ๒. เล่มเกมเบด็ เตลด็ และเข้าร่วม การเลน่ เกมเบด็ เตล็ด และเขา้ รว่ ม องค์ประกอบท่ี ๕ กจิ กรรมทางกายที่วธิ ีเลน่ อาศัยการ กจิ กรรมทางกายทว่ี ธิ เี ล่นอาศัยการ - การสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น เคล่อื นไหวเบื้องตน้ ทง้ั แบบอยกู่ ับท่ี เคล่อื นไหวเบ้อื งตน้ ทัง้ แบบอยูก่ ับท่ี บรู ณาการสกู่ ารเรยี นการสอน เคลอื่ นทแ่ี ละใชอ้ ปุ กรณ์ประกอบ เคลื่อนที่ และใช้อุปกรณ์ประกอบ (เกมต่อตัวกันเปน็ รูปใบไม้ ดอกไม้ ต่างๆ) ป. ๓ ๑. ควบคมุ การเคลอ่ื นไหวรา่ งกาย การเคลอื่ นไหวร่างกายแบบอยู่กบั ขณะอยู่กบั ที่ เคลอ่ื นทแี่ ละใช้ ท่ี อุปกรณ์ประกอบอยา่ งมีทิศทาง เช่น ยอ่ ยืด เขย่ง พับตวั เคล่อื นไหว ลาตวั การเคลื่อนไหวแบบเคล่อื นท่ี เช่น เดินต่อเท้า เดินถอย-หลัง
๑๑ ชั้น ตวั ชว้ี ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน กระโจน และแบบใชอ้ ุปกรณ์ ประกอบโดยมกี ารบงั คบั ทิศทาง เช่น ดดี ขว้าง โยน และรบั วิธีการควบคุมการเคลอื่ นไหว รา่ งกายแบบตา่ งๆ อย่างมีทศิ ทาง ๒. เคลอ่ื นไหวรา่ งกายทใี่ ช้ทักษะ กจิ กรรมทางกายทใี่ ช้ทักษะการ การเคลือ่ นไหวแบบบงั คบั ทิศทาง เคลื่อนไหวแบบบังคบั ทิศทาง ในการ ในการเล่นเกมเบ็ดเตล็ด เล่นเกมเบ็ดเตลด็ ป. ๔ ๑. ควบคุมตนเองเมือ่ ใช้ทกั ษะ การเคลอ่ื นไหวร่างกายแบบ การเคล่ือนไหวในลักษณะผสมผสาน ผสมผสานทงั้ แบบอยกู่ ับที่ เช่น ไดท้ ั้งแบบอยู่กับที่ เคล่ือนที่ และใช้ กระโดดหมุนตวั กระโดด-เหยียดตัว อุปกรณป์ ระกอบ แบบเคลื่อนท่ี เช่น ซิกแซก็ วิ่งเปลย่ี น ทิศทาง ควบมา้ และแบบใช้อปุ กรณ์ ประกอบ เชน่ บอล เชือก ๒. ฝกึ กายบรหิ ารท่ามือเปล่า กายบริหารท่ามือเปล่าประกอบจังหวะ องค์ประกอบที่ ๕ ประกอบจงั หวะ - การสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น บูรณาการสู่การเรียนการสอน (วเิ คราะห์ สว่ นต่างๆของพชื แล้ว ออกแบบ ทา่ กายบริหารตาม รปู ลักษณ์ พฤตกิ รรม ของพืช) ๓. เล่นเกมเลยี นแบบและกจิ กรรม เกมเลยี นแบบและกิจกรรมแบบผลดั แบบผลดั ๔. เลน่ กีฬาพืน้ ฐานได้อย่างน้อย กีฬาพน้ื ฐาน เช่น แชร์บอล ๑ ชนดิ แฮนดบ์ อล ห่วงข้ามตาขา่ ย ป. ๕ ๑. จดั รปู แบบการเคลื่อนไหว การจัดรปู แบบการเคลอ่ื นไหว แบบผสมผสาน และควบคุมตนเอง รา่ งกาย แบบผสมผสาน และการปฏิบตั ิ เมอื่ ใชท้ ักษะการเคลอื่ นไหว กิจกรรมทางกายทั้งแบบอยกู่ บั ท่ี ตามแบบทก่ี าหนด เคล่อื นที่ และใช้อปุ กรณ์ประกอบตาม แบบทีก่ าหนด เชน่ การฝึกกายบรหิ าร ยดื หยุ่นขั้นพืน้ ฐาน เป็นต้น ๒. เลม่ เกมนาไปสกู่ ีฬาท่ีเลอื กและ เกมนาไปสกู่ ฬี าและกิจกรรมแบบ
ช้นั ตวั ชวี้ ดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง ๑๒ งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน กจิ กรรมการเคลือ่ นไหวแบบผลดั ผลัดทีม่ กี ารตี เขย่ี รับ – สง่ สงิ่ ของ ขว้าง และวิ่ง ๓. ควบคมุ การเคลือ่ นไหวในเรื่อง การเคลอ่ื นไหวในเรอื่ งการรับแรง การรับแรง การใช้แรงและความ การใชแ้ รงและความสมดุล สมดุล ๔. แสดงทกั ษะกลไกในการปฏิบตั ิ ทักษะกลไกทส่ี ง่ ผลตอ่ การปฏิบัติ กจิ กรรมทางกายและเลน่ กฬี า กิจกรรมทางกายและเลน่ กีฬา ๕. เล่นกีฬาไทย และกฬี าสากล การเล่นกฬี าไทย เชน่ ตะกรอ้ วง ประเภทบคุ คลและประเภททีมได้ วง่ิ ชกั ธง และกฬี าสากล เช่น กรฑี า อยา่ งละ ๑ ชนดิ ประเภทลู่ แบดมินตนั เปตอง ฟุตบอล เทเบิลเทนนสิ ว่ายนา้ ๖. อธิบายหลกั การ และเขา้ รว่ ม หลักการและกิจกรรมนันทนาการ กจิ กรรมนันทนาการ อยา่ งน้อย ๑ กจิ กรรม ป. ๖ ๑. แสดงทักษะการเคล่ือนไหว การเคลื่อนไหวร่วมกับผู้อน่ื แบบ องค์ประกอบท่ี ๕ รว่ มกับผ้อู ื่นในลกั ษณะแบบผลัดและ ผลดั ในลกั ษณะผสมผสาน ในการร่วม - การสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน แบบผสมผสานได้ตามลาดบั ท้งั แบบ กจิ กรรมทางกาย เชน่ กิจกรรมแบบผลดั บรู ณาการส่กู ารเรยี นการสอน อยู่กบั ที่ เคลอื่ นท่ี และใชอ้ ุปกรณ์ กายบริหารประกอบเพลง ยดื หยุ่นขนั้ (เกมต่อตัวกันเป็นรปู ใบไม้ ดอกไม้) ประกอบ และการเคล่ือนไหว พืน้ ฐานทีใ่ ชท้ า่ ตอ่ เน่ือง และการต่อตวั ประกอบเพลง ท่าง่าย ๆ ๒. จาแนกหลกั การเคลอื่ นไหวใน การเคล่อื นไหวในเร่อื งการรบั แรง เร่ืองการรบั แรง การใชแ้ รง และความ การใช้แรง และความสมดุลกับการพัฒนา สมดลุ ในการเคลื่อนไหวร่างกายใน ทักษะการเคล่ือนไหว ในการเล่นเกมและ การเล่นเกม เลน่ กีฬา และนาผลมา กฬี า ปรบั ปรุง เพม่ิ พูนวธิ ีปฏิบตั ิของตนและ ผู้อื่น ๓. เล่นกีฬาไทย กฬี าสากล การเลน่ กีฬาไทย กฬี าสากล ประเภทบคุ คลและประเภททีมได้ ประเภทบคุ คลและประเภททมี เช่น อยา่ งละ ๑ ชนิด กรีฑาประเภทลู่ และลาน เปตอง วา่ ยนา้ เทเบิลเทนนสิ วอลเลยบ์ อล
๑๓ ช้ัน ตวั ชี้วัด สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ฟตุ บอล ตะกร้อวง ๔. ใชท้ กั ษะกลไก เพื่อปรับปรงุ การใชข้ อ้ มลู ด้านทกั ษะกลไกเพื่อ เพ่มิ พูนความสามารถของตนและ ปรับปรุงและเพม่ิ พนู ความสามารถใน ผอู้ ื่นในการเล่นกฬี า การปฏิบัตกิ ิจกรรมทางกายและเล่นกฬี า ๕. ร่วมกจิ กรรมนนั ทนาการอย่าง การนาความรู้และหลกั การของ น้อย ๑ กิจกรรม แลว้ นาความรูแ้ ละ กิจกรรมนนั ทนาการไปใชเ้ ป็นฐาน หลักการท่ไี ด้ไปใช้เป็นฐานการศึกษา การศึกษาหาความรู้ หาความรู้เร่ืองอื่น ๆ ม. ๑ ๑. เพ่ิมพนู ความสามารถของตน หลกั การเพิ่มพนู ความสามารถใน ตามหลกั การเคลือ่ นไหวท่ีใช้ทกั ษะ การเคลอื่ นไหวที่ใชท้ กั ษะกลไกและ กลไกและทกั ษะพื้นฐานที่นาไปสู่ ทักษะพ้ืนฐานทีน่ าไปสกู่ ารพฒั นา การพฒั นาทกั ษะการเล่นกีฬา ทักษะการเล่นกฬี า ๒. เล่นกีฬาไทยและกฬี าสากล การเล่นกีฬาไทย และกฬี าสากลท่ี องค์ประกอบท่ี ๕ ประเภทบคุ คลและทีมโดยใช้ทกั ษะ เลอื ก เช่น กรฑี าประเภทลแู่ ละลาน - การสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน พ้นื ฐานตามชนดิ กีฬา อย่างละ ๑ บาสเกตบอล กระบ่ี เทเบิลเทนนสิ บูรณาการสูก่ ารเรียนการสอน ชนดิ เทนนิส ว่ายน้า ๓. ร่วมกจิ กรรมนันทนาการอยา่ ง การนาความรู้และหลกั การของ นอ้ ย ๑ กจิ กรรมและนาหลกั ความรทู้ ี่ กจิ กรรมนนั ทนาการไปใช้เช่อื มโยง ไดไ้ ปเชือ่ มโยงสมั พนั ธ์กับวิชาอ่นื สัมพนั ธ์กบั วชิ าอืน่ (เกมต่อตัวกันเป็นรปู ใบไม้ต่างๆ เชอื่ มโยงในวชิ าอื่น) ม. ๒ ๑. นาผลการปฏบิ ัตติ นเก่ียวกับ การนาผลการปฏิบตั ิตนเกย่ี วกบั ทักษะกลไกและทักษะการ ทักษะกลไกและทกั ษะการเคลอ่ื นไหว เคลือ่ นไหวในการเล่นกีฬาจาก ในการเล่นกีฬาจากแหลง่ ข้อมลู ที่ แหลง่ ข้อมลู ทีห่ ลากหลายมาสรปุ เปน็ หลากหลายมาสรปุ เป็นวธิ ีท่ีเหมาะสมใน วิธที ่ีเหมาะสมในบรบิ ทของตนเอง บรบิ ทของตนเองในการเล่นกฬี า ๒. เล่นกฬี าไทยและกฬี าสากล การเลน่ กีฬาไทย กฬี าสากลตาม ทงั้ ประเภทบุคคลและทมี ได้อย่างละ ชนดิ กฬี าที่เลือก เชน่ กรฑี าประเภทลู่ ๑ ชนดิ และลาน บาสเกตบอล กระบ่ี เทนนสิ ตระกรอ้ ลอดบ่วง ฟุตซอล ว่ายน้า เทควันโด
๑๔ ช้ัน ตัวชวี้ ัด สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ๓. เปรียบเทียบประสิทธิภาพของ ประสิทธิภาพของรูปแบบการ รูปแบบการเคลอ่ื นไหวท่สี ง่ ผลต่อ เคลือ่ นไหวที่สง่ ผลต่อการเล่นกีฬาและ การเล่นกฬี าและกิจกรรมใน กจิ กรรมในชีวติ ประจาวนั ชวี ติ ประจาวัน ๔. รว่ มกิจกรรมนันทนาการอยา่ ง การนาประสบการณ์จากการร่วม น้อย ๑ กจิ กรรม และนาความรูแ้ ละ กิจกรรมนนั ทนาการไปปรับใชใ้ น หลักการทไี่ ด้ไปปรบั ใช้ใน ชวี ติ ประจาวนั ชวี ติ ประจาวนั อย่างเป็นระบบ ม. ๓ ๑. เลน่ กีฬาไทยและกฬี าสากล เทคนคิ และวิธกี ารเลน่ กฬี าไทย ไดอ้ ย่างละ ๑ ชนิดโดยใชเ้ ทคนคิ และกีฬาสากลท่ีเลอื ก เช่น กรฑี า ทเี่ หมาะสมกับตนเองและทมี ประเภทลู่และลาน วอลเลยบ์ อล บาสเกตบอล ดาบสองมือ เทนนิส ตะกรอ้ ข้ามตาข่าย ฟตุ บอล ๒. นาหลกั การ ความรแู้ ละทกั ษะ การนาหลกั การ ความรู้ ทกั ษะใน ในการเคลือ่ นไหว กิจกรรมทางกาย การเคล่อื นไหว กิจกรรมทางกาย การ การเล่นกม และการเล่นกฬี าไปใช้ เล่นเกม การเล่นกฬี าไปใช้เปน็ ระบบ สรา้ งเสริมสุขภาพอย่างต่อเน่ือง สร้างเสรมิ สุขภาพอยา่ งต่อเนอื่ ง เปน็ ระบบ ๓. ร่วมกจิ กรรมนันทนาการอยา่ ง การจดั กิจกรรมนนั ทนาการแก่ผอู้ ่ืน น้อย ๑ กิจกรรมและนาหลักความรู้ วธิ ีการไปขยายผลการเรียนรู้ใหก้ ับ ผ้อู ื่น ม.๔–ม. ๑. วเิ คราะหค์ วามคิดรวบยอด ความคิดรวบยอดเกย่ี วกบั การ ๖ เกีย่ วกับการเคลือ่ นไหวรปู แบบตา่ งๆ เคลอ่ื นไหวรูปแบบตา่ ง ๆ ในการเล่น ในการเล่นกฬี า กฬี า การวิเคราะห์ความคดิ รวบยอด เกยี่ วกับการเคล่ือนไหวรูปแบบตา่ งๆ ในการเล่นกีฬา ๒. ใชค้ วามสามารถของตน การใช้ความสามารถของตนใน เพ่อื เพิม่ ศักยภาพของทมี คานึงถงึ ผล การเลน่ กีฬา เพ่อื เพม่ิ ศักยภาพของทมี ทเ่ี กดิ ต่อผู้อื่นและสงั คม โดยคานงึ ถึง ผลทเี่ กิดตอ่ ผู้อืน่ และ สงั คม
๑๕ ช้ัน ตัวชี้วดั สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ๓. เลน่ กีฬาไทย กฬี าสากล กีฬาประเภทบคุ คล / คู่ ประเภท ประเภทบุคคล / คู่ กฬี าประเภททีม ทีม เชน่ ฟตุ ซอล รกั บี้ฟุตบอล ได้อย่างน้อย ๑ ชนิด ยมิ นาสตกิ ลีลาศ ซอฟทบ์ อล เทนนสิ เซปักตะกร้อ มวยไทย กระบก่ี ระบอง พลอง งา้ ว ๔. แสดงการเคล่ือนไหวได้อย่าง การเคลื่อนไหวท่สี ร้างสรรค์ เชน่ องค์ประกอบที่ ๕ สรา้ งสรรค์ กจิ กรรมเขา้ จงั หวะ เชยี ร์ลีดเดอร์ - การสวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น บูรณาการสู่การเรยี นการสอน (ออแบบท่าทางดว้ ยการสงั เกต รูปลักษณ์ หรือพฤตกิ รรมพืช) ๕. เขา้ ร่วมกิจกรรมนันทนาการนอก การนาหลักการและแนวคดิ ของ โรงเรียน และนาหลักการแนวคดิ กจิ กรรมนันทนาการไปปรับปรุงและ ไปปรบั ปรงุ และพัฒนาคณุ ภาพชีวติ พัฒนาคุณภาพชวี ิตของตนและสงั คม ของตนและสงั คม
๑๖ สาระท่ี ๓ การเคลอ่ื นไหว การออกกาลงั กาย การเล่นเกม กีฬาไทย และกีฬาสากล มาตรฐาน พ ๓.๒ รักการออกกาลงั กาย การเลน่ เกม และการเลน่ กีฬา ปฏิบัติเป็นประจาอยา่ งสมา่ เสมอ มวี นิ ยั เคารพสทิ ธิ กฎ กตกิ า มีนา้ ใจนักกีฬา มจี ติ วิญญาณในการแข่งขัน และชน่ื ชม ในสนุ ทรียภาพของการกฬี า ช้นั ตวั ช้ีวัด สาระการเรียนร้แู กนกลาง งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ป.๑ ๑. ออกกาลงั กาย และเลน่ เกม การออกกาลังกาย และการเล่น องค์ประกอบที่ ๕ ตามคาแนะนา อยา่ งสนกุ สนาน เกมเบ็ดเตลด็ - การสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น บูรณาการสู่การเรยี นการสอน (เกมต่อตัวกันเป็นรูปใบไม้ต่างๆ) ๒. ปฏิบัติตนตามกฎ กตกิ า กฎ กติกา ขอ้ ตกลงในการเล่น ข้อตกลงในการเลน่ เกมตาม เกมเบ็ดเตลด็ คาแนะนา ป.๒ ๑. ออกกาลังกาย และเลน่ เกม การออกกาลงั กาย และเลน่ เกม ได้ด้วยตนเองอยา่ งสนุกสนาน เบ็ดเตลด็ ประโยชน์ของการออกกาลงั กายและการเล่นเกม ๒. ปฏบิ ัติตามกฎ กตกิ าและ กฎ กติกา ข้อตกลงในการเลน่ ข้อตกลงในการเล่นเกมเปน็ กลุ่ม เกมเปน็ กลุ่ม ป. ๓ ๑. เลือกออกกาลงั กาย แนวทางการเลอื กออกกาลังกาย การละเลน่ พ้ืนเมอื ง และเล่นเกม การละเล่นพ้นื เมืองและเล่นเกมท่ี ทเ่ี หมาะสมกับจดุ เด่น จดุ ด้อย เหมาะสมกบั จดุ เด่น จุดดอ้ ยและ และขอ้ จากัดของตนเอง ข้อจากัดของแตล่ ะบุคคล ๒. ปฏบิ ัติตามกฎ กตกิ าและ การออกกาลังกาย เกม และ ข้อตกลงของการออกกาลังกาย การละเลน่ พน้ื เมือง การเล่นเกม การละเลน่ พน้ื เมือง กฎ กติกาและขอ้ ตกลงในการ ไดด้ ว้ ยตนเอง ออกกาลังกาย การเลน่ เกม และ การละเลน่ พืน้ เมือง ป. ๔ ๑. ออกกาลังกาย เล่นเกม การออกกาลงั กาย เลน่ เกม และกีฬาท่ีตนเองชอบและมี ตามความชอบของตนเองและเล่น ความสามารถในการวเิ คราะห์ผล กีฬาพื้นฐานร่วมกบั ผู้อน่ื พฒั นาการของตนเองตาม การวเิ คราะหผ์ ลพฒั นาการของ ตวั อยา่ งและแบบปฏิบตั ิของผู้อ่นื ตนเองในการออกกาลงั กาย เล่น
๑๗ ช้นั ตวั ชว้ี ดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง งานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน เกมและเล่นกีฬา ตามตัวอย่างและ แบบปฏบิ ัติของผู้อ่ืน คุณค่าของการออกกาลงั กาย เล่นเกม และเลน่ กีฬา ทมี่ ตี ่อ สขุ ภาพ ๒. ปฏิบตั ติ ามกฎ กติกาการ - การปฏบิ ัตติ ามกฎ กติกา การเล่น เล่นกีฬาพ้ืนฐาน ตามชนดิ กีฬาที่ กฬี าพื้นฐาน ตามชนิดกฬี าท่เี ล่น เลน่ ป. ๕ ๑. ออกกาลังกายอย่างมี หลกั การและรปู แบบการออก องค์ประกอบท่ี ๕ รูปแบบ เลน่ เกมท่ีใช้ทกั ษะการ กาลงั กาย - การสวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น คิดและตัดสินใจ การออกกาลังกาย และการเล่น บรู ณาการสู่การเรยี นการสอน เกม เช่น เกมเบด็ เตล็ด เกม (เกมต่อตวั กันเปน็ รปู ใบไม้ต่างๆ เลียนแบบ เกมนา และการละเลน่ -เกมหาตาแหนง่ พรรณไม้) พื้นเมอื ง ๒. เลน่ กีฬาท่ีตนเองชอบอยา่ ง การเลน่ กีฬาไทย และกฬี า สมา่ เสมอ โดยสรา้ งทางเลอื กใน สากลประเภทบุคคลและทมี ที่ วิธปี ฏิบัติของตนเองอย่าง เหมาะสมกบั วัยอยา่ งสมา่ เสมอ หลากหลาย และมีนา้ ใจนักกฬี า การสร้างทางเลอื กในวิธีปฏิบัติ ในการเล่นกีฬาอย่างหลากหลาย และมีนา้ ใจนักกีฬา ๓. ปฏบิ ตั ติ ามกฎกติกา การ กฎ กตกิ าในการเล่นเกม กฬี า เลน่ เกม กฬี าไทย และกฬี าสากล ไทยและกีฬาสากลตามชนดิ กีฬาท่ี ตามชนิดกฬี าท่เี ล่น เลน่ วธิ กี ารรุกและวิธีปอ้ งกนั ในการ เลน่ กีฬาไทยและกฬี าสากลที่เลน่ ๔. ปฏิบตั ติ นตามสทิ ธขิ อง สิทธิของตนเองและผ้อู ื่นในการ ตนเอง ไมล่ ะเมดิ สิทธผิ ูอ้ ื่นและ เลน่ เกมและกีฬา ยอมรับในความแตกต่างระหว่าง ความแตกต่างระหวา่ งบุคคลใน บุคคลในการเลน่ เกม และกฬี า การเล่นเกม และกฬี า ไทย กีฬาสากล
๑๘ ชน้ั ตวั ชี้วัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง งานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน ป. ๖ ๑. อธบิ ายประโยชนแ์ ละ ประโยชนแ์ ละหลักการออก หลกั การออกกาลงั กายเพ่ือ กาลังกายเพอ่ื สขุ ภาพ สมรรถภาพ สขุ ภาพ สมรรถภาพทางกายและ ทางกายและการสรา้ งเสรมิ การสรา้ งเสริมบุคลกิ ภาพ บคุ ลิกภาพ ๒. เลน่ เกมท่ีใช้ทักษะการ การเล่นเกมทใ่ี ช้ทกั ษะการ วางแผน และสามารถเพ่ิมพูน วางแผน ทกั ษะการออกกาลงั กายและ การเพม่ิ พูนทกั ษะการออกกาลัง เคลอื่ นไหวอยา่ งเป็นระบบ กายและการเคลอื่ นไหวอย่างเปน็ ระบบ ๓. เลน่ กีฬาทีต่ นเองช่นื ชอบ การเลน่ กีฬาประเภทบคุ คลและ และสามารถประเมินทกั ษะการ ประเภททีมทช่ี ่ืนชอบ เลน่ ของตนเป็นประจา การประเมินทักษะการเลน่ กฬี า ของตน ๔. ปฏิบัตติ ามกฎ กตกิ า ตาม กฎ กตกิ าในการเล่นกฬี าไทย ชนดิ กฬี าท่ีเลน่ โดยคานึงถงึ กฬี าสากลตามชนิดกฬี าทีเ่ ล่น ความปลอดภัยของตนเองและ ผ้อู ืน่ ๕. จาแนกกลวธิ กี ารรุก การ กลวิธีการรุก การปอ้ งกันใน ปอ้ งกัน และนาไปใช้ในการเลน่ การเล่นกฬี า กฬี า ๖. เลน่ เกมและกีฬา ด้วยความ การสร้างความสามคั คแี ละ สามคั คแี ละมนี า้ ใจนกั กฬี า ความมนี า้ ใจนกั กฬี าในการเล่นเกม และกฬี า ม. ๑ ๑. อธิบายความสาคัญของการ ความสาคัญของการออกกาลัง ออกกาลังกายและเลน่ กีฬา จน กายและเล่นกฬี า จนเป็นวิถชี วี ติ ทีม่ ี เปน็ วิถีชวี ติ ที่มสี ุขภาพดี สขุ ภาพดี การออกกาลงั กาย เช่น กาย องค์ประกอบที่ ๕ ๒. ออกกาลงั กายและเลือกเข้า บรหิ ารแบบต่างๆ เตน้ แอโรบิก - การสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน ร่วมเล่นกฬี าตามความถนัด โยคะ รามวยจีน บูรณาการสกู่ ารเรยี นการสอน ความสนใจอย่างเต็ม การเลน่ กีฬาไทย และกฬี า (ออกแบบทา่ เต้นแอโรบิก โยคะ ความสามารถ พร้อมทัง้ มกี าร สากล ตามรปู ลกั ษณ์ พฤตกิ รรมพชื )
๑๙ ช้นั ตวั ชี้วดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง งานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน ประเมนิ การเลน่ ของตนและผ้อู ื่น ท้ังประเภทบุคคลและทมี การประเมินการเลน่ กฬี าของ ตนเองและผู้อ่ืน ๓. ปฏบิ ัตติ ามกฎ กติกา และ กฎ กตกิ า การเลน่ เกมและการ ขอ้ ตกลงตามชนิดกฬี าทเ่ี ลอื กเล่น แข่งขนั กฬี าทเี่ ลอื กเล่น ๔. วางแผนการรกุ และการ รปู แบบ วิธกี ารรุกและป้องกัน ป้องกันในการเล่นกฬี าท่เี ลอื ก ในการเล่นกฬี าท่เี ลือก และนาไปใชใ้ นการเลน่ อยา่ งเปน็ ระบบ ๕. ร่วมมอื ในการเล่นกีฬา การเล่น การแข่งขนั กีฬา และ และการทางานเป็นทมี อย่าง การทางานเปน็ ทีม สนุกสนาน ๖. วเิ คราะห์เปรียบเทียบและ การยอมรบั ความสามารถและ ยอมรับความแตกต่างระหว่าง ความแตกต่างระหวา่ งบุคคลในการ วธิ กี ารเล่นกฬี าของตนเองกบั เล่นกฬี า ผู้อื่น ม. ๒ ๑. อธิบายสาเหตกุ าร สาเหตุการเปลีย่ นแปลงทางดา้ น เปล่ียนแปลงทางกาย จิตใจ ร่างกาย จติ ใจ อารมณ์ สังคม และ อารมณ์ สงั คม และ สตปิ ัญญา จากการออกกาลังกาย สตปิ ัญญา ท่ีเกิดจากการ และการเล่นกีฬาอยา่ งสม่าเสมอ ออกกาลังกาย และเลน่ กีฬาเปน็ จนเป็นวถิ ชี ีวติ ประจาจนเปน็ วถิ ีชีวิต การสรา้ งวถิ ีชีวติ ท่ีมสี ขุ ภาพดี โดยการออกกาลังกายและเล่นกฬี า เปน็ ประจา ๒. เลอื กเขา้ ร่วมกิจกรรม การออกกาลงั กายและการเลน่ การออกกาลังกาย เลน่ กฬี าตาม กฬี าไทย กฬี าสากลท้งั ประเภท ความถนดั และความสนใจพร้อม บคุ คลและประเภททมี ทัง้ วิเคราะห์ความแตกต่าง การวิเคราะหค์ วามแตกต่าง ระหว่างบุคคล เพื่อเป็นแนวทาง ระหวา่ งบุคคลเพือ่ เป็นแนวทางใน ในการพัฒนาตนเอง การพัฒนาการรว่ มกจิ กรรมการออก กาลังกายและเล่นกีฬา
๒๐ ช้นั ตัวชี้วดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ๓. มวี ินยั ปฏิบัตติ ามกฎ วินัยในการฝึก และการเลน่ กติกา และขอ้ ตกลงในการเล่น กฬี า ตามกฎ กตกิ าและขอ้ ตกลง กฬี าทเ่ี ลือก ๔. วางแผนการรุกและการ รูปแบบ กลวธิ กี ารรกุ การ ปอ้ งกันในการเล่นกฬี าทเ่ี ลอื ก ปอ้ งกันในการเล่นกีฬาเปน็ ทีม และนาไปใช้ ในการเลน่ อย่าง ประโยชนข์ องการเล่นและการ เหมาะสมกบั ทีม ทางาน เปน็ ทมี หลักการให้ความรว่ มมือในการ เล่น การแข่งขันกฬี าและการ ทางานเปน็ ทมี ๕. นาผลการปฏบิ ตั ใิ นการเล่น การพฒั นาวธิ ีเล่นกีฬาที่ กีฬามาสรปุ เป็นวธิ ีทเี่ หมาะสม เหมาะสมกบั ตนเอง กบั ตนเองด้วยความมุ่งมั่น - การเลือกวิธเี ล่น - การแก้ไขขอ้ บกพร่อง - การเพ่มิ ทักษะ การสร้างแรงจงู ใจและการสรา้ ง ความมุง่ มนั่ ในการเล่นและแข่งขนั กฬี า ม. ๓ ๑. มีมารยาทในการเลน่ และดู มารยาทในการเล่นและการดู กีฬาด้วยความมนี ้าใจนักกีฬา กฬี าด้วยความมนี ้าใจนกั กีฬา ๒. ออกกาลังกายและเลน่ กีฬา การออกาลังกายและการเล่น อยา่ งสม่าเสมอและนาแนวคิด กฬี าประเภทบคุ คล และประเภททีม หลักการจากการเล่นไปพฒั นา การนาประสบการณ์ แนวคิด คณุ ภาพชวี ิตของตนด้วยความ จากการ ออกกาลังกายและเลน่ กฬี า ภาคภูมิใจ ไปประยุกตใ์ ชใ้ นการพัฒนาคุณภาพ ชีวติ ๓. ปฏิบัติตนตามกฎ กติกา กฎ กติกาและข้อตกลงในการ และข้อตกลงในการเลน่ ตามชนดิ เลน่ กีฬาท่ีเลือกเลน่ กฬี าทเี่ ลอื กและนาแนวคิดทไ่ี ด้ การประยุกต์ประสบการณ์การ ไปพฒั นาคุณภาพชีวิต ของตน ปฏบิ ัติตามกฎ กตกิ า ข้อตกลงใน ในสงั คม การเล่นกฬี าไปใช้พัฒนาคุณภาพ
๒๑ ชน้ั ตวั ชีว้ ดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง งานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน ชีวิตของตนในสงั คม ๔. จาแนกกลวธิ ีการรุก การ วิธกี ารประยุกต์ใช้กลวธิ กี ารรุก ปอ้ งกัน และใช้ในการเลน่ กีฬาท่ี และการป้องกันในการเล่นกีฬาได้ เลอื กและตัดสินใจเลือกวิธีท่ี ตามสถานการณ์ของการเล่น เหมาะสมกบั ทีมไปใชไ้ ดต้ าม สถานการณข์ องการเล่น ๕. เสนอผลการพัฒนาสขุ ภาพ การพัฒนาสุขภาพตนเองทเี่ กิด ของตนเองท่ีเกิดจากการออก จากการออกกาลังกายและการเล่น กาลังกาย และการเลน่ กฬี าเป็น กีฬาเปน็ ประจา ประจา ม. ๔–ม.๖ ๑. ออกกาลงั กายและเล่นกฬี า การออกกาลังกายดว้ ยวธิ ที ีช่ อบ ที่เหมาะสมกบั ตนเองอย่าง เชน่ สมา่ เสมอ และใช้ความสามารถ ฝกึ กายบรหิ ารแบบตา่ งๆ ขี่จักรยาน ของตนเองเพ่มิ ศักยภาพของทีม การออกกาลงั กายจากการทางาน ลดความเปน็ ตัวตน คานึงถงึ ผล ในชีวิตประจาวนั การรากระบอง ท่ีเกดิ ต่อสงั คม รามวยจีน การเล่นกีฬาประเภทบุคคล และประเภททีม การใช้ความสามารถของตนใน การเพิม่ ศกั ยภาพของทีมในการเลน่ กฬี าและการเล่นโดยคานงึ ถึง ประโยชน์ต่อสงั คม การวางแผนกาหนดกิจกรรมการ ออกกาลงั -กายและเลน่ กีฬา ๒. อธิบายและปฏบิ ตั ิเกยี่ วกับ สทิ ธิ กฎ กติกาการเลน่ กฬี า สทิ ธิ กฎ กตกิ า กลวิธีตา่ งๆ ใน กลวิธี หลกั การรุก การป้องกนั ระหวา่ งการเลน่ การแขง่ ขันกฬี า อย่างสรา้ งสรรค์ในการเล่นและ กับผูอ้ ่ืนและนาไปสรุปเป็นแนว แขง่ ขนั กีฬา ปฏบิ ตั แิ ละใช้ในชีวติ ประจาวัน การนาประสบการณ์จากการ อย่างตอ่ เน่ือง เล่นกฬี าไปใช้ในชวี ิตประจาวนั ๓. แสดงออกถึงการมีมารยาท การปฏิบตั ิตนในเรื่องมารยาท
ช้ัน ตวั ชี้วัด สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง ๒๒ งานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน ในการดู การเล่นและการแขง่ ขัน ในการดู การเลน่ การแขง่ ขัน กีฬา ด้วยความมีนา้ ใจนกั กีฬา ความมนี า้ ใจนกั กฬี า และนาไปใชป้ ฏบิ ัติทุกโอกาส บุคลกิ ภาพท่ดี ี จนเป็นบุคลกิ ภาพทด่ี ี ๔. รว่ มกิจกรรมทางกายและ ความสุขท่ไี ดจ้ ากการเขา้ ร่วม เลน่ กีฬาอยา่ งมีความสขุ ชนื่ ชม กจิ กรรมทางกาย และเล่นกีฬา ในคุณคา่ และความงามของการ คุณค่าและความงามของการ กีฬา กีฬา
๒๓ สาระท่ี ๔ การสรา้ งเสริมสุขภาพ สมรรถภาพและการป้องกันโรค มาตรฐาน พ ๔.๑ เหน็ คุณค่าและมีทกั ษะในการสรา้ งเสริมสขุ ภาพ การดารงสุขภาพ การปอ้ งกนั โรค และการสร้างเสริมสมรรถภาพเพอ่ื สุขภาพ ชัน้ ตัวชวี้ ัด สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ป.๑ ๑. ปฏิบตั ติ นตามหลกั สขุ การปฏิบตั ิตนตามหลักสขุ บัญญัตแิ ห่งชาตติ ามคาแนะนา บญั ญัตแิ ห่งชาติ ๒. บอกอาการเจบ็ ปว่ ยท่ีเกิด ลกั ษณะอาการเจบ็ ปว่ ยที่เกดิ ขน้ึ กบั ตนเอง ขึน้ กบั ตนเอง - ปวดศรี ษะ - ตวั รอ้ น - มีน้ามูก - ปวดท้อง - ผน่ื คัน (หนังศีรษะ ผวิ หนัง) - ฟกช้า ฯลฯ ๓. ปฏบิ ัตติ นตามคาแนะนา วธิ ปี ฏิบตั ิตนเมื่อมอี าการเจบ็ ปว่ ย เมอื่ มอี าการเจ็บป่วย ที่เกดิ ข้นึ กับตนเอง ป. ๒ ๑. บอกลกั ษณะของการมี ลักษณะของการมีสขุ ภาพดี สุขภาพดี - รา่ งกายแขง็ แรง - จิตใจ ร่าเรงิ แจม่ ใส - มคี วามสขุ - มคี วามปลอดภยั ๒. เลือกกนิ อาหารทม่ี ี อาหารที่มีประโยชนแ์ ละไม่มี องคป์ ระกอบท่ี ๕ ประโยชน์ ประโยชน์ - การใช้สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น บูรณาการสู่การเรยี นการสอน (พืชทมี่ ใี นโรงเรยี นอะไรบ้างทีก่ ิน ได้ ใหค้ ุณอย่างไรแก่ร่างกายมนุษย์) ๓. ระบขุ องใช้และของเล่นท่ี ของใชแ้ ละของเล่นท่มี ีผลเสยี ตอ่ มีผลเสยี ต่อสขุ ภาพ สุขภาพ ๔. อธบิ ายอาการและวธิ ี อาการและวิธีป้องกนั การ ปอ้ งกันการเจบ็ ป่วย การ เจ็บปว่ ย บาดเจบ็ ท่ีอาจเกิดข้ึน - ตาแดง ท้องเสยี ฯลฯ อาการและวธิ ปี อ้ งกันการ
ช้ัน ตัวช้ีวัด สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง ๒๔ งานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน บาดเจบ็ - ถกู ของมคี ม แมลงสตั ว์กัดตอ่ ย หกล้ม ฯลฯ ๕. ปฏบิ ัตติ ามคาแนะนาเมอื่ มี วธิ ีปฏบิ ัติตนเมือ่ เจ็บป่วยและ อาการเจ็บปว่ ยและบาดเจ็บ บาดเจ็บ ป. ๓ ๑. อธบิ ายการตดิ ตอ่ และ การตดิ ต่อและวธิ กี ารป้องกันการ วิธกี ารปอ้ งกนั การแพร่กระจาย แพรก่ ระจายของโรค ของโรค ๒. จาแนกอาหารหลัก ๕ หมู่ อาหารหลัก ๕ หมู่ ๓. เลอื กกินอาหารท่ี การเลือกกินอาหารท่ีเหมาะสม หลากหลายครบ ๕ หมู่ ใน - ความหลากหลายของชนิดอาหาร สดั ส่วนท่ีเหมาะสม ในแตล่ ะหมู่ - สัดสว่ นและปริมาณของอาหาร (ตามธงโภชนาการ) ๔. แสดงการแปรงฟันให้ การแปรงฟันใหส้ ะอาดอย่างถูก สะอาดอยา่ งถูกวิธี วธิ ี (ครอบคลุมบรเิ วณขอบเหงอื ก และคอฟนั ) ๕. สร้างเสรมิ สมรรถภาพทาง การสร้างเสริมสมรรถภาพทาง กายได้ตามคาแนะนา กายเพอื่ สขุ ภาพ - วธิ กี ารทดสอบสมรรถภาพทาง กาย - วธิ ีการสรา้ งเสริมสมรรถภาพเพ่อื สุขภาพ โดยการออกกาลังกาย การ พักผ่อน และกจิ กรรมนันทนาการ ป. ๔ ๑. อธิบายความสมั พันธ์ ความสัมพันธ์ระหวา่ ง องค์ประกอบท่ี ๒ ระหว่างส่ิงแวดล้อมกบั สขุ ภาพ สงิ่ แวดล้อมกับสุขภาพ - การใชส้ วนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น การจัดสงิ่ แวดลอ้ มท่ถี ูก บูรณาการสกู่ ารเรยี นการสอน สขุ ลกั ษณะและเอ้อื ต่อสุขภาพ (พืชทม่ี ีในโรงเรียนอะไรบา้ งท่ีกิน ได้ ใหค้ ณุ อยา่ งไรแก่ร่างกายมนษุ ย)์
๒๕ ช้นั ตัวช้ีวัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง งานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน ๒. อธบิ ายสภาวะอารมณ์ ความรสู้ กึ ทมี่ ผี ลตอ่ สุขภาพ สภาวะอารมณ์และความร้สู ึก เชน่ โกรธ หงุดหงิด เครยี ด เกลียด เสียใจ เศรา้ ใจ วิตกกงั วล กลวั กา้ วรา้ ว อิจฉา ริษยา เบื่อหนา่ ย ท้อแท้ ดีใจ ชอบใจ รกั ชืน่ ชม สนกุ สขุ สบาย ผลท่มี ีต่อสุขภาพ ทางบวก : สดช่นื ยิม้ แยม้ แจม่ ใส ร่าเริง ฯลฯ ทางลบ : ปวดศีรษะ ปวดท้อง เบอ่ื อาหาร ออ่ นเพลยี ฯลฯ ๓. วเิ คราะหข์ อ้ มลู บนฉลาก การวเิ คราะหข์ ้อมูลบนฉลาก อาหารและผลติ ภัณฑส์ ขุ ภาพเพอื่ อาหารและผลิตภัณฑ์สขุ ภาพ การเลือกบริโภค ๔. ทดสอบและปรับปรงุ การทดสอบสมรรถภาพทางกาย สมรรถภาพทางกายตามผลการ การปรบั ปรงุ สมรรถภาพทางกาย ตรวจสอบสมรรถภาพทางกาย ตามผลการทดสอบสมรรถภาพทาง กาย ป. ๕ ๑. แสดงพฤตกิ รรมที่เหน็ ความสาคญั ของการปฏบิ ัติตน ความสาคญั ของการปฏบิ ตั ิตน ตามสขุ บัญญัตแิ ห่งชาติ ตามสุขบญั ญัตแิ ห่งชาติ ๒. คน้ หาขอ้ มลู ขา่ วสารเพ่ือ แหลง่ และวิธีคน้ หาขอ้ มูล ใชส้ รา้ งเสรมิ สขุ ภาพ ขา่ วสารทางสุขภาพ การใช้ข้อมูลข่าวสารในการสร้าง เสริมสุขภาพ ๓. วิเคราะห์สอื่ โฆษณาใน การตัดสนิ ใจเลือกซือ้ อาหารและ การตดั สินใจเลือกซอื้ อาหาร ผลิตภณั ฑส์ ุขภาพ (อาหาร และผลิตภัณฑ์สขุ ภาพอยา่ งมี เคร่ืองสาอาง ผลติ ภัณฑ์ดูแล เหตุผล สุขภาพในช่องปาก ฯลฯ) ๔. ปฏิบัตติ นในการปอ้ งกัน การปฏิบัติตนในการป้องกันโรคที่
๒๖ ช้นั ตวั ชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน โรคทพ่ี บบ่อยในชวี ิตประจาวัน พบบ่อยในชวี ิตประจาวนั - ไขห้ วดั - ไขเ้ ลอื ดออก - โรคผิวหนัง - ฟันผุและโรคปรทิ ันต์ ฯลฯ ๕. ทดสอบและปรบั ปรุง การทดสอบสมรรถภาพทางกาย สมรรถภาพทางกายตามผลการ การปรับปรุงสมรรถภาพทางกาย ทดสอบสมรรถภาพทางกาย ตามผลการทดสอบสมรรถภาพทาง กาย ป. ๖ ๑. แสดงพฤติกรรมในการ ความสาคญั ของสง่ิ แวดลอ้ มท่ีมี ปอ้ งกันและแกไ้ ขปญั หา ผลต่อสขุ ภาพ สิง่ แวดลอ้ มที่มีผลต่อสขุ ภาพ ปญั หาของส่งิ แวดล้อมทม่ี ีผลตอ่ สขุ ภาพ การปอ้ งกันและแก้ไขปัญหา สงิ่ แวดล้อมทีม่ ผี ลต่อสุขภาพ ๒. วเิ คราะหผ์ ลกระทบที่เกดิ โรคติดตอ่ สาคัญท่รี ะบาดใน จากการระบาดของโรคและ ปัจจบุ นั เสนอแนวทางการป้องกัน ผลกระทบทเ่ี กดิ จากการระบาด โรคตดิ ต่อสาคัญท่ีพบใน ของโรค ประเทศไทย การป้องกันการระบาดของโรค ๓. แสดงพฤติกรรมทีบ่ ง่ บอก พฤตกิ รรมทแ่ี สดงออกถงึ ความ ถึง ความรับผิดชอบต่อสขุ ภาพ รบั ผดิ ชอบต่อสขุ ภาพของสว่ นรวม ของสว่ นรวม ๔. สร้างเสรมิ และปรับปรุง วธิ ที ดสอบสมรรถภาพทางกาย สมรรถภาพทางกายเพ่ือสขุ ภาพ การสรา้ งเสริมและปรบั ปรุง อย่างต่อเน่ือง สมรรถภาพทางกายตามผลการ ทดสอบสมรรถภาพทางกาย ม. ๑ ๑. เลือกกนิ อาหารท่ี หลักการเลอื กอาหารท่เี หมาะสม เหมาะสมกบั วยั กับวัย ๒. วิเคราะห์ปัญหาท่ีเกิดจาก ปัญหาทเ่ี กิดจากภาวะโภชนาการ
๒๗ ชนั้ ตัวช้ีวดั สาระการเรียนร้แู กนกลาง งานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน การภาวะโภชนาการท่มี ี - ภาวะการขาดสารอาหาร ผลกระทบตอ่ สุขภาพ - ภาวะโภชนาการเกิน ๓. ควบคุมนา้ หนักของตนเอง เกณฑม์ าตรฐานการเจริญเติบโต ใหอ้ ยูใ่ นเกณฑม์ าตรฐาน ของเดก็ ไทย วธิ กี ารควบคุมน้าหนกั ของ ตนเองใหอ้ ยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ๔. การสรา้ งเสรมิ และ วิธที ดสอบสมรรถภาพทางกาย ปรับปรุงสมรรถภาพทางกาย วิธีสร้างเสริมและปรบั ปรุง ตามผลการทดสอบ สมรรถภาพ ทางกายตามผลการ ทดสอบ ม. ๒ ๑. เลือกใชบ้ รกิ ารทางสขุ ภาพ การเลือกใช้บรกิ ารทางสุขภาพ อยา่ งมีเหตุผล ๒. วเิ คราะห์ผลของการใช้ ผลกระทบของเทคโนโลยี ที่มีต่อ เทคโนโลยที ่มี ีต่อสุขภาพ สขุ ภาพ ๓. วิเคราะหค์ วาม ความเจริญกา้ วหนา้ ทางการ เจริญกา้ วหนา้ ทางการแพทย์ท่ีมี แพทยท์ ม่ี ีผลต่อสุขภาพ ผลตอ่ สขุ ภาพ ๔. วเิ คราะห์ความสัมพันธ์ ความสมดุลระหว่างสุขภาพกาย ของภาวะสมดุลระหวา่ งสุขภาพ และสขุ ภาพจติ กายและสุขภาพจิต ๕. อธิบายลกั ษณะอาการ ความสมดลุ ระหวา่ งสุขภาพกาย เบ้ืองต้นของผ้มู ีปัญหา และสุขภาพจิต สขุ ภาพจติ ๖. เสนอแนะวิธปี ฏิบตั ติ น วิธีปฏบิ ัตติ นเพ่ือจัดการกับ เพอื่ จดั การกบั อารมณ์และ อารมณ์และความเครยี ด ความเครยี ด ๗. พัฒนาสมรรถภาพทางกาย เกณฑส์ มรรถภาพทางกาย ตนเองใหเ้ ป็นไปตามเกณฑ์ท่ี การพฒั นาสมรรถภาพทางกาย กาหนด ม. ๓ ๑. กาหนดรายการอาหารที่ การกาหนดรายการอาหารท่ี เหมาะสมกับวัยต่าง ๆ โดย เหมาะสมกบั วัย ตา่ ง ๆ
๒๘ ช้นั ตัวช้วี ดั สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง งานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน ม.๔– ม.๖ คานึงถึงความประหยดั และ วยั ทารก วยั เด็ก (วัยก่อนเรยี น คณุ คา่ ทางโภชนาการ วัยเรยี น) วยั รุน่ วยั ผใู้ หญ่ วัย สูงอายุ โดยคานงึ ถงึ ความประหยดั ๒. เสนอแนวทางป้องกันโรค และคุณค่าทางโภชนาการ ท่ีเป็นสาเหตสุ าคญั ของการ โรคท่ีเป็นสาเหตสุ าคญั ของการ เจ็บป่วยและการตายของคน เจ็บปว่ ยและการตายของคนไทย ไทย โรคตดิ ต่อ เช่น - โรคทีเ่ กดิ จากการมีเพศสัมพนั ธ์ ๓. รวบรวมข้อมูลและเสนอ - โรคเอดส์ แนวทาง แก้ไขปัญหาสขุ ภาพ - โรคไขห้ วดั นก ในชุมชน ๔. วางแผนและจัดเวลาใน ฯลฯ การออกกาลังกาย การพักผอ่ น โรคไม่ติดต่อ เช่น และการสรา้ งเสริมสมรรถภาพ - โรคหวั ใจ ทางกาย - โรคความดันโลหิตสูง ๕. ทดสอบสมรรถภาพทาง - เบาหวาน กาย และพัฒนาได้ตามความ - มะเรง็ แตกตา่ งระหว่างบุคคล ๑. วิเคราะหบ์ ทบาทและ ฯลฯ ความรบั ผดิ ชอบของบุคคลทมี่ ีต่อ ปัญหาสขุ ภาพในชุมชน การสร้างเสริมสุขภาพและการ แนวทางแก้ไขปัญหาสขุ ภาพใน ปอ้ งกนั โรคในชุมชน ชมุ ชน การวางแผนและจดั เวลาในการ ออกกาลังกาย การพักผอ่ น และการ สรา้ งเสริมสมรรถภาพทางกาย การทดสอบสมรรถภาพทางกาย แบบต่าง ๆ และการพัฒนา สมรรถภาพเพ่อื สขุ ภาพ บทบาทและความรับผดิ ชอบของ บุคคล ทม่ี ตี ่อการสร้างเสรมิ สขุ ภาพและการป้องกันโรคใน ชมุ ชน
๒๙ ช้ัน ตวั ชวี้ ดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง งานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน ๒. วิเคราะห์ อิทธิพลของสือ่ อิทธพิ ลของสอ่ื โฆษณาเกี่ยวกบั โฆษณาเก่ยี วกบั สุขภาพเพื่อการ สขุ ภาพ เลือกบริโภค แนวทางการเลือกบริโภคอยา่ ง ฉลาดและปลอดภยั ๓. ปฏิบัตติ นตามสิทธขิ อง สิทธพิ น้ื ฐานของผบู้ ริโภคและ ผบู้ รโิ ภค กฎหมายทเ่ี กีย่ วข้องกบั การคุ้มครอง ผบู้ รโิ ภค ๔. วเิ คราะหส์ าเหตแุ ละเสนอ สาเหตุของการเจ็บป่วยและการตาย แนวทางการป้องกนั การ ของคนไทย เช่น โรคจากการ เจบ็ ป่วยและการตายของคน ประกอบอาชพี โรคทางพันธกุ รรม ไทย แนวทางการป้องกนั การ เจ็บปว่ ย ๕. วางแผนและปฏบิ ตั ิตาม การวางแผนการพัฒนาสุขภาพ แผน การพฒั นาสขุ ภาพ ของตนเอง ครอบครัว ของตนเองและครอบครัว ๖. มสี ่วนร่วมในการสง่ เสริม การมสี ่วนรว่ มในการส่งเสรมิ และพฒั นาสขุ ภาพของบุคคล และพัฒนาสุขภาพของบุคคลใน ในชุมชน ชมุ ชน ๗. วางแผนและปฏิบัติตาม การวางแผนพัฒนาสมรรถภาพ แผน การพฒั นา ทางกายและสมรรถภาพกลไก สมรรถภาพกายและ สมรรถภาพกลไก
๓๐ สาระที่ ๕ ความปลอดภัยในชวี ิต มาตรฐาน พ ๕.๑ ปอ้ งกันและหลีกเลย่ี งปจั จยั เสี่ยง พฤตกิ รรมเสีย่ งต่อสขุ ภาพ อุบัติเหตุ การใชย้ า สารเสพตดิ และความรนุ แรง ชน้ั ตัวชว้ี ดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ป. ๑ ๑. ระบสุ ิ่งที่ทาให้เกดิ สิง่ ท่ีทาใหเ้ กดิ อนั ตรายภายใน อันตราย ทีบ่ ้าน โรงเรียน บา้ นและโรงเรยี น และการปอ้ งกัน การป้องกนั อนั ตรายภายในบ้าน และโรงเรยี น ๒. บอกสาเหตุและการ อนั ตรายจากการเลน่ ป้องกนั อันตรายท่เี กดิ จากการ - สาเหตทุ ที่ าให้เกดิ อันตรายจาก เล่น การเล่น - การปอ้ งกนั อันตรายจากการเลน่ ๓. แสดงคาพดู หรือทา่ ทางขอ การขอความช่วยเหลอื เมอื่ เกิด ความช่วยเหลอื จากผู้อน่ื เมอื่ เกิด เหตุร้ายทบ่ี ้านและโรงเรยี น เหตุรา้ ยทีบ่ า้ นและโรงเรียน - บุคคลที่ควรขอความชว่ ยเหลอื - คาพูดและท่าทางการขอความ ช่วยเหลือ ป. ๒ ๑. ปฏบิ ตั ติ นในการปอ้ งกนั อบุ ัติเหตทุ างน้า และทางบก อบุ ตั ิเหตุที่อาจเกิดขน้ึ ทางน้า - สาเหตุของอบุ ัตเิ หตทุ างน้าและ และทางบก ทางบก - วธิ ีการปอ้ งกนั อบุ ตั ิเหตุทางนา้ และทางบก ๒. บอกชอื่ ยาสามญั ประจา ยาสามญั ประจาบ้าน บ้าน และใช้ยาตามคาแนะนา - ช่ือยาสามัญประจาบ้าน - การใช้ยาตามความจาเป็นและ ลักษณะอาการ ๓. ระบโุ ทษของสารเสพติด สารเสพติดและสารอนั ตรายใกล้ สารอันตรายใกล้ตวั และวธิ ีการ ตวั ปอ้ งกัน - โทษของสารเสพติด และสาร อนั ตรายใกลต้ วั - วธิ ีป้องกนั ๔. ปฏิบตั ิตนตามสัญลกั ษณ์ สญั ลักษณแ์ ละป้ายเตอื นของ
๓๑ ชน้ั ตวั ช้ีวัด สาระการเรียนร้แู กนกลาง งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน และปา้ ยเตือนของสง่ิ ของหรือ สง่ิ ของหรือสถานท่ที เี่ ป็นอนั ตราย สถานทีท่ ่เี ป็นอันตราย - ความหมายของสัญลักษณแ์ ละ ป้ายเตอื น ๕. อธิบายสาเหตุ อันตราย อัคคภี ยั วธิ ปี ้องกนั อัคคภี ยั และแสดง - สาเหตขุ องการเกดิ อัคคีภยั การหนีไฟ - อนั ตรายซงึ่ ไดร้ ับจากการเกิด อคั คภี ัย - การป้องกันอัคคภี ัย และการหนีไฟ ป. ๓ ๑. ปฏิบัตติ นเพื่อความ วธิ ปี ฏิบัติตนเพื่อความปลอดภยั ปลอดภยั จากอุบัตเิ หตใุ นบา้ น จากอบุ ัติเหตใุ นบา้ น โรงเรยี นและ โรงเรยี น และการเดินทาง การเดนิ ทาง ๒. แสดงวิธขี อความ การขอความช่วยเหลอื จากบุคคล ช่วยเหลอื จากบคุ คลและแหล่ง และแหลง่ ตา่ งๆ เมื่อเกิดเหตุรา้ ย ตา่ ง ๆ เมือ่ เกิดเหตุรา้ ย หรือ หรืออุบัติเหตุ อบุ ตั ิเหตุ ๓. แสดงวิธีปฐมพยาบาล การบาดเจบ็ จากการเลน่ เมอื่ บาดเจ็บจากการเล่น - ลกั ษณะของการบาดเจ็บ - วธิ ีปฐมพยาบาล (บาดเจ็บ หา้ ม เลือด ฯลฯ) ป. ๔ ๑. อธิบายความสาคัญของ ความสาคญั ของการใชย้ า การใช้ยาและใชย้ าอยา่ งถกู วธิ ี หลักการใชย้ า ๒. แสดงวิธีปฐมพยาบาลเมื่อ วธิ ปี ฐมพยาบาล ได้รบั อันตรายจากการใช้ยาผิด - การใชย้ าผิด สารเคมี แมลงสตั วก์ ัดต่อย - สารเคมี และการบาดเจ็บจากการเลน่ - แมลงสตั วก์ ัดต่อย กฬี า - การบาดเจบ็ จากการเล่นกฬี า ๓. วิเคราะหผ์ ลเสียของการ ผลเสยี ของการสบู บุหรี่ การดม่ื สูบบหุ รี่ และการดม่ื สุรา ทมี่ ี สุรา และการปอ้ งกัน ต่อสุขภาพและการป้องกัน
๓๒ ชนั้ ตัวชี้วดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง งานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน ป. ๕ ๑. วิเคราะหป์ ัจจัยท่ีมอี ิทธิพล ปจั จัยท่ีมีอิทธิพลต่อการใชส้ าร ตอ่ การใชส้ ารเสพตดิ เสพตดิ (สุรา บุหรี่ ยาบ้า สารระเหย ฯลฯ) - ครอบครัว สังคม เพอ่ื น - ค่านยิ ม ความเช่ือ - ปญั หาสขุ ภาพ - ส่ือ ฯลฯ ๒. วิเคราะห์ผลกระทบของ ผลกระทบของการใช้ยา และสาร การใช้ยา และสารเสพตดิ ท่ีมี เสพตดิ ท่ีมีต่อร่างกาย จิตใจ ผลต่อรา่ งกาย จิตใจ อารมณ์ อารมณ์ สังคม และสตปิ ัญญา สงั คม และสติปัญญา ๒. ปฏบิ ัติตนเพ่ือความ การปฏิบัตติ นเพอ่ื ความปลอดภยั ปลอดภัยจากการใชย้ าและ จาก หลีกเล่ียงสารเสพติด การใชย้ า การหลกี เล่ยี งสารเสพตดิ ๓. วิเคราะห์อิทธพิ ลของสอ่ื ที่ อิทธิพลของส่อื ทม่ี ีต่อ มตี อ่ พฤตกิ รรมสุขภาพ พฤติกรรม สขุ ภาพ (อินเทอร์เนต็ เกม ฯลฯ) ๔. ปฏิบัตติ นเพ่ือป้องกนั การปฏบิ ตั เิ พ่อื ป้องกันอันตราย อนั ตรายจากการเลน่ กีฬา จากการเล่นกีฬา ป. ๖ ๑. วเิ คราะหผ์ ลกระทบจาก ภยั ธรรมชาติ ความรุนแรงของภยั ธรรมชาติที่ - ลกั ษณะของภยั ธรรมชาติ มตี อ่ ร่างกาย จิตใจ และสงั คม - ผลกระทบจากความรุนแรงของ ภยั ธรรมชาติทมี่ ีต่อรา่ งกาย จิตใจ และสงั คม ๒. ระบุวิธีปฏบิ ตั ิตน เพอื่ การปฏบิ ตั ติ นเพ่ือความปลอดภยั ความปลอดภยั จากธรรมชาติ จากภยั ธรรมชาติ ๓. วิเคราะหส์ าเหตุของการตดิ สาเหตุของการติดสารเสพติด สารเสพติด และชักชวนให้ผ้อู ื่น ทักษะการส่ือสารใหผ้ ู้อนื่ หลกี เล่ียงสารเสพติด หลกี เลยี่ งสารเสพตดิ
๓๓ ชัน้ ตวั ช้วี ัด สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ม. ๑ ๑. แสดงวธิ ีปฐมพยาบาลและ การปฐมพยาบาลและเคลื่อนย้าย เคล่ือนย้ายผู้ป่วยอย่างปลอดภัย ผู้ปว่ ยอยา่ งปลอดภัย - เปน็ ลม - บาดแผล - ไฟไหม้ - กระดูกหกั - น้าร้อนลวก ฯลฯ ๒. อธบิ ายลกั ษณะอาการของ ลกั ษณะของผตู้ ิดสารเสพตดิ ผู้ตดิ สารเสพตดิ และการป้องกัน อาการของผูต้ ิดสารเสพติด การติดสารเสพตดิ การป้องกันการติดสารเสพติด ๓. อธบิ ายความสมั พนั ธ์ของ ความสัมพนั ธ์ของการใช้สารเสพ การใช้สารเสพติดกบั การเกดิ ตดิ กบั การเกิดโรค และอบุ ัติเหตุ โรคและอุบัติเหตุ ๔. แสดงวธิ ีการชักชวนผู้อน่ื ทกั ษะท่ีใชใ้ นการชกั ชวนผอู้ น่ื ให้ลด ละ เลกิ สารเสพติด ใหล้ ด ละ เลกิ สารเสพติด โดยใช้ทกั ษะต่าง ๆ - ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์ - ทักษะการสื่อสาร - ทักษะการตดั สินใจ - ทักษะการแกป้ ัญหา ฯลฯ ม. ๒ ๑. ระบุวธิ กี าร ปัจจัยและ วิธกี าร ปัจจยั และแหลง่ ท่ี แหล่งท่ชี ่วยเหลอื ฟืน้ ฟผู ู้ติด ชว่ ยเหลอื ฟื้นฟู สารเสพตดิ ผตู้ ิดสารเสพติด ๒. อธิบายวธิ ีการหลกี เลี่ยง การหลีกเลยี่ งพฤติกรรมเส่ียงและ พฤตกิ รรมเสย่ี งและสถานการณ์ สถานการณ์เสย่ี ง เส่ียง - การม่ัวสมุ - การทะเลาะวิวาท - การเข้าไปในแหล่งอบายมุข - การแข่งจักรยานยนตบ์ นท้องถนน ฯลฯ ๓. ใช้ทกั ษะชวี ิตในการ ทกั ษะชวี ิตในการปอ้ งกันตนเอง ป้องกนั ตนเองและหลีกเล่ยี ง (ทักษะปฏเิ สธ ทักษะการต่อรอง สถานการณค์ ับขนั ท่ีอาจนาไปสู่ ฯลฯ) และหลีกเลย่ี งสถานการณ์คบั อนั ตราย ขันทอี่ าจนาไปสอู่ ันตราย
๓๔ ช้ัน ตัวชวี้ ดั สาระการเรียนร้แู กนกลาง งานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน ม. ๓ ๑. วเิ คราะหป์ ัจจยั เสยี่ ง และ ปัจจัยเส่ียง และพฤตกิ รรมเสย่ี ง พฤตกิ รรมเสยี่ งทมี่ ีผลต่อ ตอ่ สขุ ภาพ สขุ ภาพและแนวทางปอ้ งกัน แนวทางการป้องกนั ความเสย่ี ง ต่อสุขภาพ ๒. หลกี เล่ียงการใช้ความ ปญั หาและผลกระทบจากการ รนุ แรงและชกั ชวนเพื่อนให้ ใช้ความรนุ แรง หลีกเลี่ยงการใชค้ วามรุนแรงใน วธิ หี ลีกเล่ียงการใชค้ วามรุนแรง การแก้ปัญหา ๓. วเิ คราะห์อทิ ธิพลของสอ่ื อทิ ธิพลของสือ่ ต่อพฤติกรรม ต่อพฤติกรรมสขุ ภาพและความ สุขภาพและความรุนแรง (คลิป รนุ แรง วิดโี อ การทะเลาะววิ าท อนิ เทอร์เน็ต เกม ฯลฯ) ๔. วิเคราะห์ความสมั พนั ธ์ ความสมั พนั ธข์ องการด่ืม ของการด่ืมเครื่องด่มื ท่มี ี เครื่องด่ืมทมี่ ีแอลกอฮอล์ต่อสุขภาพ แอลกอฮอล์ตอ่ สุขภาพและการ และการเกิดอุบัตเิ หตุ เกิดอุบัตเิ หตุ ๕. แสดงวิธกี ารชว่ ยฟ้ืนคืน วิธีการช่วยฟนื้ คืนชพี ชีพอยา่ งถูกวธิ ี ม.๔–ม.๖ ๑. มสี ว่ นรว่ มในการป้องกัน การจัดกจิ กรรมป้องกนั ความ ความเสี่ยงต่อการใชย้ า การใช้ เส่ยี งต่อการใชย้ า สารเสพติด และ สารเสพตดิ และความรุนแรง ความรุนแรง เพ่อื สุขภาพของตนเอง ครอบครัว และสังคม ๒. วิเคราะหผ์ ลกระทบท่ีเกดิ การวิเคราะห์ผลกระทบทเี่ กดิ จากการครอบครอง การใชแ้ ละ จากการครอบครอง การใชแ้ ละการ การจาหนา่ ยสารเสพตดิ จาหนา่ ยสารเสพติด (ตนเอง ครอบครวั เศรษฐกิจ สงั คม) โทษทางกฎหมายที่เกดิ จากการ ครอบครอง การใชแ้ ละการจาหน่าย
๓๕ ช้ัน ตวั ชวี้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง งานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน สารเสพตดิ ๓. วิเคราะห์ปัจจยั ท่มี ีผลต่อ ปัจจยั ที่มีผลต่อสุขภาพของคน สุขภาพ หรอื ความรุนแรงของ ไทยและเสนอแนวทางป้องกัน คนไทยและเสนอแนวทาง ป้องกัน ๔. วางแผน กาหนดแนวทาง การวางแผน กาหนดแนวทางลด ลดอบุ ัตเิ หตุ และสร้างเสรมิ อบุ ัตเิ หตุ และสร้างเสรมิ ความ ความปลอดภยั ในชมุ ชน ปลอดภยั ในชมุ ชน ๕. มีสว่ นร่วมในการสร้าง กิจกรรมการสร้างเสริมความ เสรมิ ความปลอดภยั ในชมุ ชน ปลอดภยั ในชมุ ชน ๖. ใช้ทกั ษะการตดั สนิ ใจ ทกั ษะการตดั สนิ ใจแกป้ ัญหาใน แก้ปัญหาในสถานการณ์ท่ีเสยี่ ง สถานการณ์ท่เี ส่ียงต่อสุขภาพ ต่อสขุ ภาพและความรุนแรง ๗. แสดงวิธกี ารช่วยฟื้นคนื วธิ กี ารช่วยฟ้นื คืนชพี อยา่ งถกู วิธี ชพี อยา่ งถูกวิธี
Search
Read the Text Version
- 1 - 35
Pages: