47 รายการ ระดับความพึงพอใจ 54321 ด้านวทิ ยากร 17. การให้ความสนใจต่อผเู้ ขา้ อบรมอย่างสม่ำเสมอ 18. ความรอบรใู้ นเร่ืองทบี่ รรยาย 19. การเปิดโอกาสให้ผู้เขา้ อบรมมสี ่วนร่วมในการเสนอความคิดเห็น 20 การให้ข้อเสนอแนะ เพ่ือนำความรทู้ ่ไี ด้ไปประยกุ ต์ใช้ ในสภาพการณต์ า่ ง ๆ ดา้ นส่ือ/แหล่งเรยี นรู้ 21. ใบความรู้เหมาะสม 22. ใบงาน / ใบกจิ กรรมเหมาะสม 23. ส่ือ / แหลง่ เรียนรูห้ ลากหลายและเพียงพอ 24. เนน้ ผ้เู ข้าอบรมศึกษาคน้ คว้าจากแหลง่ ความรตู้ า่ ง ๆอยา่ งหลากหลาย ดา้ นความรูค้ วามเขา้ ใจและการนำไปใช้ 25. สามารถนำความรู้ความเข้าใจไปปรบั ใช้ในการปฏบิ ตั หิ น้าท่ี ได้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพและเกิดประสทิ ธิผล 26. ความเชื่อม่ันในการนำความร้คู วามเข้าใจไปประยกุ ต์ใช้ใน สถานการณต์ า่ ง ๆ ขอ้ เสนอแนะเพิ่มเติม ............................................................................................................................... .............................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................ ............................................................................................................................................................ .
48 แบบนิเทศ กำกบั ติดตามการจดั ประสบการณ์เรยี นรู้ของครูปฐมวยั ด้วยกิจกรรมสืบเสาะตามแนวทางบ้านนักวิทยาศาสตรน์ ้อย ประเทศไทย สำนักงานเขตพื้นทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษามกุ ดาหาร คำช้แี จง 1. ผูก้ รอกข้อมูลฉบับน้ี ได้แก่ ครูปฐมวัย 2. กรณุ ากรอกข้อมลู ตามความเปน็ จรงิ และกาเคร่ืองหมาย ✓ ลงในช่อง ตอนที่ 1 ข้อมูลพนื้ ฐาน 1. โรงเรียน ................................................... 2. ช่อื /สกลุ ครูปฐมวัย ......................................................... 3. จำนวนครูผ้สู อนท่เี ข้าร่วมจดั กจิ กรรม ............... คน ได้แก่ …………………………………………………..……………………………………………………………………………………………… 4. จำนวนนักเรยี นทไ่ี ด้เรียนรกู้ ิจกรรมสบื เสาะตามแนวทางการบ้านนักวิทยาศาสตร์นอ้ ย ประเทศไทย อนุบาลปที ี่ 2 จำนวน ....... คน อนบุ าลปีที่ 3 จำนวน ....... คน 5. ทา่ นจัดกจิ กรรมสืบเสาะตามใบกจิ กรรมในกล่อง“บ้านนักวทิ ยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย” ไดร้ วมทง้ั สิ้น ............ กจิ กรรม 6. ท่านมคี วามรู้ ความเข้าใจในการจัดกจิ กรรมสบื เสาะเพยี งใด มากทส่ี ุด มาก ปานกลาง น้อย น้อยที่สดุ 7. ท่านตอ้ งการ การนิเทศหรอื รับความชว่ ยเหลอื ในการจัดกิจกรรมสบื เสาะเพียงใด มากทสี่ ดุ มาก ปานกลาง น้อย น้อยทส่ี ุด 8. ด้านการบริหาร / การดำเนินงานใหก้ ารสนบั สนนุ ของผ้บู รหิ ารสถานศึกษา 8.1 การจัดสรรบคุ ลากร เพียงพอ/เหมาะสม ไมเ่ พยี งพอ/ไม่เหมาะสม 8.2 งบประมาณ เพียงพอ/เหมาะสม ไม่เพียงพอ/ไม่เหมาะสม 8.3 อุปกรณ/์ วสั ดุอุปกรณ์ เพยี งพอ/เหมาะสม ไมเ่ พียงพอ/ไม่เหมาะสม
49 ตอนท่ี 2 ดา้ นการจดั กจิ กรรมสืบเสาะตามแนวทางบา้ นนักวิทยาศาสตร์นอ้ ย ประเทศไทย คำชี้แจง ให้ครสู รุปการจดั กิจกรรมสืบเสาะ โดยทำเคร่ืองหมาย ✓ลงในชอ่ งระดบั คณุ ภาพตามสภาพจรงิ ระดบั การปฏบิ ัติ ระดับ 3 หมายถงึ ครสู ามารถปฏิบตั ิได้ทุกครงั้ ระดบั 2 หมายถึง ครูสามารถปฏบิ ัติไดเ้ ป็นบางครงั้ ระดับ 1 หมายถงึ ครไู มส่ ามารถปฏิบตั ิกิจกรรมได้ ที่ รายการ ระดับคุณภาพ ข้อมูล 3 2 1 เพ่ิมเตมิ 1 ครูได้วางแผนการจัดกจิ กรรมการทดลอง 2 ครจู ดั เตรียมวสั ดุอปุ กรณ์ในการทดลอง 3 ครแู นะนำสื่อ อปุ กรณ์ ให้แกเ่ ด็กก่อนจดั กิจกรรมการทดลอง 4 ครตู ง้ั คำถามเชอ่ื มโยงจากประสบการณเ์ ดมิ ของเด็ก 5 ครสู ่งเสริม สนับสนุนการตั้งสมมตฐิ านก่อนการปฏบิ ัติกจิ กรรม 6 ครเู ปดิ โอกาสให้เด็กได้สังเกตและค้นควา้ และหาคำตอบดว้ ยตนเอง 7 ครใู ชค้ ำถามกระตุ้นใหเ้ ด็กคิดขณะปฏิบตั ิกจิ กรรมการทดลอง 8 ครจู ดั ใหเ้ ด็กไดป้ ฏบิ ตั กิ ิจกรรมร่วมกนั เป็นกลมุ่ 9 ครเู ปิดโอกาสให้เดก็ ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นภายในกลุ่ม 10 ครูจัดกจิ กรรมให้เด็กได้ฝึกบันทกึ ผลการทดลอง 11 ครไู ดส้ รปุ ทบทวน ผลการทดลอง 12 ครูประเมนิ พฒั นาการเดก็ ที่ครอบคลมุ พฒั นาการทกุ ด้าน ตอนท่ี 3 ดา้ นพัฒนาการของเด็กที่เกิดจากการเรยี นรู้กจิ กรรมสบื เสาะ คำช้ีแจง ใหค้ รูสรปุ ผลการเรียนรูข้ องเด็กโดยทำเคร่อื งหมาย✓ลงในชอ่ งระดับคุณภาพตามสภาพจริง เกณฑ์ระดับคุณภาพ ระดับดเี ยีย่ ม : 5 หมายถึง เด็กร้อยละ 90 -100 มีความสามารถตามรายการประเมิน ระดบั ดมี าก : 4 หมายถึง เดก็ ร้อยละ 75 -89 มีความสามารถตามรายการประเมนิ ระดบั ดี : 3 หมายถึง เดก็ ร้อยละ 60 -74 มีความสามารถตามรายการประเมนิ ระดับพอใช้ : 2 หมายถึง เดก็ ร้อยละ 50 -59 มคี วามสามารถตามรายการประเมนิ ระดับปรับปรงุ : 1 หมายถงึ เด็กมคี วามสามารถตามรายการประเมนิ ต่ำกว่าร้อยละ 50
50 รายการประเมิน ระดับคุณภาพ ขอ้ มูล 5432 1 เพ่มิ เตมิ 1. คณุ ลักษณะตามวัยด้านรา่ งกาย 1.1 เดก็ ได้ใช้ประสาทสมั ผัสทั้งห้าในการสำรวจสิง่ ต่าง ๆ รอบตัว 1.2 เด็กใชอ้ ปุ กรณว์ ทิ ยาศาสตร์อยา่ งง่ายในการสำรวจ 1.3 เด็กใช้กลา้ มเนื้อมดั เล็กได้อย่างคล่องแคล่ว 1.4 เด็กใช้กล้ามเนื้อมดั ใหญ่ไดอ้ ย่างคล่องแคล่ว 1.5 การประสานสมั พนั ธร์ ะหวา่ งมือกบั ตาของเด็กอย่าง คล่องแคล่ว 2. คุณลกั ษณะตามวยั ด้านอารมณ์ จติ ใจ 2.1 เด็กไดร้ บั การฝกึ ฝนใหร้ ู้จักบทบาทหน้าทข่ี องตนเองในการทำ กจิ กรรม 2.2 เดก็ รู้จักใช้เหตุผลในการทำการสำรวจและอธบิ ายสง่ิ ต่าง ๆ 2.3 เดก็ รจู้ ักตดั สินใจในการเลือกวิธีการทดลอง และยอมรรับผลที่ เกิดข้ึน 2.4 เด็กได้แสดงผลงานจากการสำรวจ และการทดลอง 2.5 เด็กได้แสดงความสามารถของตนเอง 3. คุณลักษณะตามวัยดา้ นสงั คม 3.1 เดก็ ไดฝ้ ึกการช่วยเหลือตนเองในการทำกิจกรรม 3.2 เด็กได้ฝึกการช่วยเหลือตนเองในการทำกจิ กรรม 3.3 เด็กรู้จักการให้และการรับ 3.4 เดก็ รูจ้ กั การปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ หรอื ข้อตกลงร่วมกัน 3.5 เด็กเหน็ คณุ คา่ ของส่ิงแวดล้อมรอบตัว และชว่ ยกันรกั ษา 4. คณุ ลกั ษณะตามวยั ด้านสติปัญญา 4.1 เด็กได้ใชป้ ระสาทสมั ผสั ท้ังหา้ ในการสงั เกต สำรวจ ส่ิงต่าง ๆ รอบตัวได้ 4.2 เด็กจำแนกความเหมือน ความแตกต่าง และความสัมพันธร์ ่วม ของส่งิ ต่างๆ รอบตวั ได้ 4.3 เด็กใช้อปุ กรณ์ต่าง ๆ ในการ (ชัง่ ตวง วดั ) จำนวนของสิง่ ท่ี ต้องการทราบได้
51 รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ ขอ้ มูล 5 4 3 2 1 เพม่ิ เติม 4.4 เด็กสอ่ื ความหมาย (การพดู การเขยี นรปู ภาพ และภาษา ทา่ ทาง) และรับข้อมลู ได้ ตามวยั 4.5 เดก็ เพ่ิมเติมความคดิ เห็นใหก้ บั ข้อมลู ทีม่ ีอยู่อยา่ งมีเหตุผลตาม วยั 4.6 เดก็ มที ักษะในการหาความสัมพนั ธร์ ะหว่างสเปสกับสเปส และสเปสกบั เวลาได้ เช่น บอกทิศทางของการเกดิ เงาได้ กะ ระยะเวลาของการข้ามถนนได้ 4.7 เดก็ มีความสามารถในการนบั จำนวนของวตั ถุได้ ***** หมายเหตุ รอ้ ยละของนักเรยี นคิดจากนักเรียนทง้ั หมดที่ได้ร่วมกจิ กรรมวทิ ยาศาสตร์ปฐมวัย ตอนที่ 5 ปญั หา อปุ สรรคและข้อเสนอแนะ 5.1 ปญั หา และอปุ สรรคของโรงเรยี น หรือ ครูทจ่ี ดั กิจกรรม …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 5.2 ข้อเสนอแนะ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
52 แบบทดสอบการจดั กจิ กรรมวัฏจกั รสบื เสาะตามแนวทางบา้ นนักวทิ ยาศาสตร์นอ้ ย คำช้ีแจง จงเลือกคำตอบที่ถูกต้องเพียงข้อเดียว จำนวน 20 ข้อ 1. การเรยี นรทู้ เ่ี หมาะสมทีส่ ุดสำหรบั เด็กปฐมวยั ก. การเรียนรจู้ ากการลงมือปฏิบตั ิจรงิ ข. เด็กมโี อกาสเลอื กและตัดสนิ ใจ ค.จัดให้เด็กเป็นสว่ นหน่งึ ของทีม มีส่วนรว่ มในการทำงาน ง. ถูกทุกข้อ 2. การสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry) จุดเน้นสำคัญคือขอ้ ใด ก. ครตู ้ังคำถามใหเ้ ด็กสนใจ ข. ครูบอกวิธีการหาคำตอบที่เด็กสงสัยหรอื อยากรู้ ค. ครูแนะนำให้เดก็ ได้ทำกิจกรรมดว้ ยตนเอง ง. ครปู ล่อยใหเ้ ด็กทดลองดว้ ยตนเอง 3. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ขัน้ ตอนในในกิจกรรมวัฏจกั รสืบเสาะ (Inquiry Cycle) ก. ตง้ั คำถามจากปรากฏการณ์ธรรมชาติ ข. ต้ังจดุ ประสงค์ ค.ระดมความคิดหรือตงั้ ข้อสันนษิ ฐาน ง. ทดสอบและปฏบิ ตั กิ ารสืบเสาะ 4. ข้อใดเปน็ ขนั้ ตอนแรกของกิจกรรมวฏั จกั รสบื เสาะ ก. ตงั้ คำถาม ข. ระดมความคิด/ต้งั ข้อสันนษิ ฐาน ค. ทดลอง ง. สรุปและอภปิ รายผล 5. การต้ังข้อสันนษิ ฐานของเด็กคือขอ้ ใด ก. การต้งั คำถามทสี่ งสยั ของเด็กไวล้ ่วงหน้า ข. เด็กแตล่ ะคนรว่ มกนั เสนอความคิดของตน ค. เด็กบอกสิ่งท่ีคิดวา่ จะเกดิ ขึน้ จากส่ิงที่เป็นปญั หา/คำถาม/ข้อสงสัย ง. ถา่ ยทอดการคดิ จากการอภิปรายแลกเปล่ียนกับเพ่ือน 6. ครูถามวา่ “จะใช้อะไรเก็บอากาศไดบ้ ้าง” และเด็กแต่ละคนรว่ มกันตอบคำถาม เป็นการจัดกิจกรรมใน ขัน้ ตอนใด ก. ตั้งคำถามจากปรากฏการณ์ธรรมชาติ ข. ระดมความคิด ค. ปฏิบตั กิ ารสบื เสาะ
53 ง. สรปุ และอภปิ รายผล 7. ข้อใดเปน็ การใชค้ ำถามในข้ันท่ี 1 ตั้งคำถามเกยี่ วกบั ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ก. ในถุงมีถ่ัวกี่ชนิด ข. อะไรเร่ิมงอกออกมาเป็นส่งิ แรก ค. ถวั่ ชนดิ ใดนำมาปลูกถ่วั งอกได้ ง. การปลูกถั่วงอกมีขั้นตอนอยา่ งไร 8. ข้นั ตอนใดทีท่ ำใหเ้ กดิ การเรียนรคู้ ิด (Meta – Cognition) ก. การฝกึ ใชป้ ระสาทสัมผสั ข. การสำรวจ สังเกตอปุ กรณ์ ค. การจดั กจิ กรรมทดลองใหเ้ ด็กทำงานเปน็ กลุ่ม ง. การบันทกึ ขอ้ มลู และถ่ายทอดความคิดจากการอภิปรายแลกเปล่ยี นกบั เพื่อน 9. ข้อใดไม่ใช่เป็นการบันทึกผลของเด็ก ก. วาดภาพ ข. Power point ค. ตาราง ง. ถ่ายรูป 10. ขอ้ ใดถูกต้อง ก. การทดลองทกุ ครั้งต้องฝึกการสังเกตโดยใชป้ ระสาทสมั ผสั ให้ครบทงั้ 5 ดา้ น ข. การสงั เกตและบรรยายขณะทดลองให้เปน็ ไปตามข้อสันนษิ ฐาน ค. การจดั กจิ กรรมสืบเสาะกบั เด็กสง่ิ ท่ยี าก สามารถขา้ มขนั้ ตอนใดขัน้ ตอนหนง่ึ ได้ ง. กอ่ นลงมือทดลอง ควรให้เด็กสำรวจ สงั เกตวัสดุอุปกรณ์ ต้ังข้อสนั นิษฐานและเสนอวิธกี ารหา คำตอบก่อน 11. ขอ้ ใดเปน็ บทบาทของครใู นการจัดกิจกรรมสบื เสาะ ก. ครูต้องอธบิ ายตวั แปรต้น ตวั แปรตามใหเ้ ด็กไดร้ ู้ก่อนทดลอง ข. ออกแบบการเรยี นรู้ให้เด็กไดล้ งมอื ปฏบิ ตั ิ ค. ครเู ป็นผู้สรุปเน้ือหาและสร้างความคิดรวบยอดให้กบั เดก็ ง. จดั กิจกรรมที่ยาก เพ่ือให้เกิดแรงจูงใจในการสบื คน้ หาคำตอบ 12. กจิ กรรมใดท่ที ำใหเ้ ด็กเกิดความสงสยั ซง่ึ นำไปสู่การสืบเสาะ ก. สวนปลูกพืชผักสวนครัว ข. รบั ประทานอาหาร ค. ปัน้ ดนิ นำ้ มัน ง. ถูกทุกข้อ
54 13. ข้อใดเป็นกจิ กรรมวฏั จักรสืบเสาะเรื่อง น้ำ ตามแนวทางบา้ นนกั วิทยาศาสตรน์ อ้ ย ก. เรือแบบใดบรรทกุ น้ำหนักไดม้ ากที่สุด ข. ทำนำ้ ใหเ้ ปน็ นำ้ แข็ง ค. นำ้ เป็นทำละลาย ง. หยดนำ้ 14. การฟังเสียงน้ำหยดลงในภาชนะตา่ ง ๆ สามารถพัฒนาการเรยี นรเู้ ร่อื งใด ก. การเปรียบเทียบและเรียงลำดับ ข. การเปรยี บเทยี บและจำแนก ค. การสงั เกตและเปรียบเทียบ ง. การสงั เกตและจำแนก 15. กจิ กรรมให้เด็กสัมผสั น้ำเย็นและน้ำอุ่น เปน็ การส่งเสริมเร่ืองใด ก. การทดลองเร่อื งน้ำ ข. การเปรียบเทียบปริมาณของน้ำ ค. การสงั เกตดา้ นผวิ สมั ผสั ง. การจำแนกลกั ษณะของนำ้ 16. กิจกรรมนำ้ เป็นตวั ทำละลาย หากไม่มีนำ้ ตาล จะใชส้ ่ิงใดแทนได้ ก. ปุ๋ยเม็ด ข. เกลอื ค. ผงซกั ฟอก ง. ทราย 17. ขอ้ ใดเปน็ กจิ กรรมวฏั จกั รสบื เสาะเร่อื ง อากาศ ตามแนวทางบา้ นนักวิทยาศาสตรน์ อ้ ย ก. พึ่บ ๆ ข. สัมผัสอากาศ ค. อากาศมตี วั ตน ง. มอี ากาศอยู่ในฟองสบ่เู ท่าใด 18.จุดมุ่งหมายหลักของกิจกรรมวงิ่ หุบรม่ /กางร่ม ตอ้ งจัดอุปกรณ์รม่ 3 ขนาด คือ เลก็ กลาง ใหญ่คือขอ้ ใด ก. เพ่อื เปรียบเทยี บลักษณะของรม่ ทีม่ ีผลต่อการวง่ิ ข. เพือ่ เปรียบเทยี บลกั ษณะของรม่ ท่ีมีผลต่ออากาศที่กดปะทะรม่ ค. เพ่ือจำแนกลกั ษณะของอากาศที่มีผลตอ่ การวิง่ ง. เพ่อื จำแนกลกั ษณะอากาศที่กดปะทะร่ม
55 19. “เดก็ จะวาดรูปต้นถวั่ ที่งอกออกมาอย่างไร” คำถามน้กี ระตุ้นใหเ้ ด็กเกิดทกั ษะทางวทิ ยาศาสตรข์ ้อใด ก. ทกั ษะการหาความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งสเปสกับเวลา ข. ทกั ษะการลงความเหน็ จากข้อมูล ค. ทักษะการตีความของขอ้ มลู ง. ทกั ษะการตง้ั สมมตุ ฐิ าน 20. คำถามใดกระตุ้นใหเ้ ด็กเกิดทกั ษะการสังเกต ก. ควรใช้ถ่วั แต่ละชนิดอย่างละเทา่ ไร ข. มเี มลด็ ถวั่ งอกออกมาชนิดละกต่ี น้ ค. ลักษณะของเมลด็ ถัว่ เปน็ อยา่ งไร ง. ถว่ั ชนิดใดนำมาปลกู และจะไดต้ น้ ถว่ั งอก
56 ภาพการดำเนนิ งาน การอบรมเชงิ ปฏิบัตกิ ารพัฒนาครูดว้ ยกิจกรรมสบื เสาะ โครงการบา้ นนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย ตัวอย่างการจดั กิจกรรมสืบเสาะของเดก็ ปฐมวยั เรื่อง ภเู ขาไฟระเบดิ 1. เด็กร้จู ักวัสดุอปุ กรณ์ 2. เดก็ ลงมอื ปฏิบตั ิกจิ กรรมด้วยตนเอง 3. การนำเสนอผลงาน
Search