รายงานเร่อื งแรงเสียดทานจดั ทําโดย นกั เรียนช้นั มัธยมศกึ ษาปท่ี 4/15นส.นันทป ภัทร ชวี าประภารชั ต เลขท่ี 39นส. วรพรรณ สุวรรณนอย เลขท่ี 40นส. วรี นัส สขุ ขงั เลขท่ี 41นายอทิ ธมิ นต พลขันธ เลขที่ 43นส. ศุภสิ รา พนาพิศาล เลขท่ี 44 เสนออาจารยเ ทวนิ ทร วนั เทวนิรายงานนี้เปน สว นหนง่ึ ในวชิ าฟส ิกส (ว31201)โรงเรยี นสตรวี ิทยา ๒
คาํ นาํ รายงานเลมน้ีเปน รายงานเร่อื งแรงเสียดทาน เปน สว นหนึ่งในวชิ าวทิ ยาศาสตรจัดทาํ ขน้ึ เพ่อื ใหความรูเก่ียวกับแรงเสียดทาน คณะผจู ัดทําไดร วบรวมขอมลู จากอนิ เตอรเน็ตและทาํ การทดลอง สดุ ทายนี้ คณะผูจดั ทําหวงั วารายงานเลมนจ้ี ะเปนประโยนชกบั ผทู ส่ี นใจไดและผูท ่ีนาํ ไปใชใหเกดิ ผลสัมฤทธิต์ ามความคาดหวัง ผูจดั ทํานส.นนั ทปภัทร ชวี าประภารัชต เลขที่ 39นส. วรพรรณ สวุ รรณนอ ย เลขที่ 40นส. วรี นสั สขุ ขัง เลขท่ี 41นายอทิ ธมิ นต พลขันธ เลขท่ี 43นส. ศุภสิ รา พนาพศิ าล เลขที่ 44
ทฤษฎีที่เกีย่ วขอ ง สารบญั 1-2การทดลองการหาแรงเสยี ดทาน 3-5คาํ ถามหลังการทดลอง 6
1 ทฤษฎีทเ่ี ก่ียวของแรงเสียดทาน (friction) เปน แรงท่เี กิดขึน้ เมื่อวัตถหุ น่งึ พยายามเคลือ่ นที่ หรือกําลงั เคล่อื นท่ไี ปบนผวิ ของอีกวัตถุเนือ่ งจากมีแรงมากระทํา มีลกั ษณะที่สําคญั ดังน้ี1. เกดิ ขน้ึ ระหวา งผวิ สมั ผสั ของวตั ถุ2.มีทศิ ทางตรงกันขามกับทิศทางทีว่ ัตถเุ คลือ่ นที่หรือตรงขามทศิ ทางของแรงทพี่ ยายามทาํ ใหว ตั ถเุ คลอื่ นที่ประเภทของแรงเสียดทานแรงเสยี ดทานมี 2 ประเภท คอื1. แรงเสียดทานสถติ (static friction) คอื แรงเสยี ดทานทีเ่ กิดขน้ึ ระหวางผิวสมั ผัสของวัตถุ ในสภาวะทว่ี ัตถุไดรบั แรงกระทําแลวอยนู ิง่2. แรงเสยี ดทานจลน (kinetic friction) คอื แรงเสียดทานท่เี กิดข้ึนระหวางผิวสัมผสั ของวัตถุ ในสภาวะทวี่ ัตถุไดรบั แรงกระทําแลวเกดิ การเคล่ือนท่ดี ว ยความเรว็ คงท่ีปจ จยั ที่มีผลตอ แรงเสียดทานแรงเสียดทานระหวา งผิวสัมผสั จะมีคา มากหรอื นอยข้ึนอยูกับ1. แรงกดตัง้ ฉากกบั ผวิ สัมผสั ถาแรงกดต้งั ฉากกบั ผิวสัมผสั มากจะเกิดแรงเสียดทานมาก ถา แรงกดตัง้ ฉากกับผิวสมั ผสั นอ ยจะเกิดแรงเสียดทานนอ ย2. ลกั ษณะของผิวสัมผัส ถาผวิ สัมผสั หยาบ ขรขุ ระจะเกดิ แรงเสียดทานมาก สวนผิวสมั ผสั เรียบลน่ื จะเกดิ แรงเสียดทานนอ ย3. ชนดิ ของผวิ สมั ผสั เชน คอนกรตี กบั เหล็ก เหล็กกบั ไม จะเหน็ วาผิวสัมผสั แตล ะคู มคี วามหยาบ ขรุขระ หรือเรียบล่นื เปน มนั แตกตา งกัน ทําใหเ กดิ แรงเสียดทานไมเทา กันการลดแรงเสยี ดทานการลดแรงเสียดทานสามารถทําไดหลายวธิ ีดังน้ี1. การใชน้ํามันหลอล่ืนหรอื จาระบี2. การใชระบบลกู ปน3. การใชอ ุปกรณต า งๆ เชน ตลับลกู ปน4. การออกแบบรูปรา งของยานพาหนะใหเพรยี วลมทําใหล ดแรงเสียดทาน
2การเพม่ิ แรงเสยี ดทานการเพ่มิ แรงเสียดทานในดานความปลอดภัยของมนุษย เชน1. ยางรถยนตมีดอกยางเปน ลวดลาย มวี ัตถปุ ระสงคเพือ่ เพม่ิ แรงเสียดทานระหวางลอกบั ถนน2.การหยุดรถตองเพม่ิ แรงเสยี ดทานท่ีเบรก เพ่ือหยุดหรือทาํ ใหรถแลนชา ลง3. รองเทา บริเวณพ้ืนตองมีลวดลาย เพอื่ เพิ่มแรงเสยี ดทานทาํ ใหเ วลาเดนิ ไมล่นื หกลม ไดง าย4. การปูพื้นหอ งน้าํ ควรใชกระเบื้องทม่ี ีผิวขรุขระ เพื่อชว ยเพ่ิมแรงเสยี ดทาน เวลาเปยกนํา้ จะไดไมล ่นื ลมสมบัตขิ องแรงเสยี ดทาน1. แรงเสยี ดทานมคี าเปน ศูนย เมื่อวัตถไุ มมีแรงภายนอกมากระทํา2. ขณะทม่ี ีแรงภายนอกมากระทาํ ตอ วตั ถุ และวัตถุยังไมเ คลอื่ นท่ี แรงเสยี ดทานทีเ่ กิดขนึ้ มีขนาดตางๆกันตามขนาดของแรงทม่ี ากระทาํ และแรงเสียดทานท่มี ีคา มากทสี่ ุดคือ แรงเสยี ดทานสถิต เปน แรงเสียดทานที่เกิดขึ้นเมื่อวตั ถเุ ร่มิ เคล่อื นท่ี3. แรงเสียดทานมีทศิ ทางตรงกนั ขามกบั การเคลอ่ื นที่ของวัตถุ4. แรงเสียดทานสถิตมคี าสงู กวาแรงเสยี ดทานจลนเลก็ นอย5. แรงเสยี ดทานจะมีคา มากหรือนอยขน้ึ อยกู ับลกั ษณะของผวิ สมั ผสั ผวิ สมั ผัสหยาบหรอื ขรขุ ระจะมแี รงเสียดทานมากกวาผวิ เรียบและล่นื6. แรงเสยี ดทานขนึ้ อยกู ับน้าํ หนกั หรอื แรงกดของวัตถทุ ีก่ ดลงบนพื้น ถานํา้ หนกั หรือแรงกดมากแรงเสยี ดทานก็จะมากขนึ้ ดวย7. แรงเสยี ดทานไมข ึ้นอยูกบั ขนาดหรือพน้ื ที่ของผิวสมั ผัสการคํานวณหาสัมประสทิ ธข์ิ องแรงเสียดทานสัมประสิทธ์ขิ องแรงเสียดทานระหวา งผวิ สมั ผัสคหู นง่ึ ๆ คอื อตั ราสวนระหวา งแรงเสียดทานตอแรงกดตั้งฉากกบัผิวสมั ผสัขอดีของแรงเสยี ดทานแมวาแรงเสียดทานจะทาใหสนิ้ เปลืองพลงั งานมากในการทําใหวตั ถุเคลอื่ นที่ แตใ นบางกรณีแรงเสียดทานก็มีประโยชนต อ การเคล่ือนที่ของยานพาหนะ เชน ขณะท่ีรถแลน จะตองมีแรงเสียดทานระหวางลอ กับถนน เพ่อื ทําใหรถเคลือ่ นที่ไปไดต ามทิศทางที่ตองการ ยางรถยนตทจ่ี ําเปนตองมดี อกยางเปน ลวดลาย เพือ่ เพม่ิ แรงเสียดทานระหวา งลอกับถนน ขณะหยุดรถหรือเบรกใหรถหยดุ หรอื แลนชา ลง จะตองเกิดแรงเสยี ดทาน เพ่ือทาํ ใหล อ หยุดหมุนหรือหมนุ ชาลงขอเสยี ของแรงเสียดทานแรงเสียดทานทาํ ใหวตั ถเุ คลอ่ื นทช่ี า จึงตอ งใชแ รงมากขึ้นเพ่ือเอาชนะแรงเสยี ดทานทําใหส นิ้ เปลอื งพลงั งานมาก
3 การทดลองเรือ่ ง การหาแรงเสียดทานวัตถุประสงคก ารทดลองเพื่อหาแรงเสยี ดทานอุปกรณก ารทดลอง 1. เครื่องชั่งสปริง 2. ถุงทราย 3. แผนไมเรียบ 4. ถงุ รอน 5. สารหลอ ลื่นโดยการทดลองจะแบงออกเปน สองตอนดว ยกนั ตอนที่ 1 เพ่ือหาแรงเสยี ดทานแตล ะประเภทและหาความสัมพนั ธร ะหวางขนาดของแรงเสยี ดทานกับแรง ปฏิกิรยิ าต้งั ฉากกับผวิ สมั ผสั ตอนท่ี 2 เพื่อหาความสัมพนั ธระหวา งแรงเสียดทานกบั ชนดิ ของผวิ คสู มั ผัสตอนที่ 1 เพื่อหาแรงเสยี ดทานแตละประเภทและหาความสัมพนั ธระหวา งขนาดของแรงเสยี ดทานกบั แรงปฏกิ ิริยาต้ังฉากกับผิวสมั ผสักาํ หนดตัวแปร มวลของถุงทราย ตวั แปรตน แรงทอ่ี านไดจ ากเครือ่ งชัง่ สปรงิ ตัวแปรตาม ลกั ษณะและชนดิ ของผวิ คสู ัมผสั ตวั แปรควบคมุวิธีการทดลอง 1. ชั่งมวลของถงุ ทรายแลวบนั ทกึ คาท่ีไดไว 2. นาํ ถุงทรายดังกลา วมาเกี่ยวกบั ปลายของเครือ่ งชั่งสปรงิ จากนน้ั คอยๆออกแรงดงึ จนถุงทรายเริ่มเคลือ่ นที่ บันทกึ คาแรง ณ ขณะนน้ั 3. เมือ่ ถงุ ทรายเริม่ เคลือ่ นทแี่ ลว ใหด งึ ตอไปดวยอตั ราเรว็ คงท่ีแลว บันทกึ คาที่ไดจากเครอื่ งช่งั สปรงิ ณ ขณะน้นั 4. สงั เกตความแตกตา งระหวางคาท่ีไดจ ากเคร่ืองช่งั สปริงในขอท่ี 2 และ 3 เพิ่มมวลของถงุ ทรายแลว ทําการ ทดลองซ้าํ สงั เกตความสมั พันธร ะหวางมวลของถุงทรายกบั แรงที่อา นไดจ ากเคร่อื งชั่งสปริง
4ตารางบันทกึ ผลการทดลอง µ มวลของถุงทราย (g.) แรงทีอ่ านไดข ณะเริ่มเคล่อื นที่ แรงที่อา นไดห ลงั จากเคล่อื นทไี่ ปแลวสรปุ ผลการทดลองตอนท่ี 1 บนผวิ คูส มั ผสั คเู ดยี วกัน เมื่อมวลของถุงทรายเพม่ิ ข้นึ พบวาแรงที่อา นไดจากเคร่อื งช่ังสปรงิ ก็จะเพ่ิมข้ึนตามไปดวย จึงสามารถสรุปผลการทดลองไดวา แรงเสยี ดทานขึ้นอยกู บั ขนาดของแรงปฏกิ ิรยิ าตง้ั ฉากกับผิวสมั ผสัตอนท่ี 2 เพอื่ หาความสัมพนั ธระหวางแรงเสยี ดทานกบั ชนิดของผิวคูส ัมผัสกาํ หนดตวั แปรตัวแปรตน ลักษณะผวิ คสู มั ผัสตวั แปรตาม แรงที่อานไดจากเครื่องชง่ั สปริงตวั แปรควบคมุ มวลของถงุ ทรายวธิ ีการทดลอง 1. นําถงุ ทรายมาชง่ั มวลแลวบันทึกคาไว 2. นําแผน ไมรองใตถงุ ทรายดงั กลา ว แลวเกี่ยวเขา กับปลายของเครื่องชั่งสปรงิ จากนน้ั คอยๆออกแรงดึงจนถุง ทรายเร่มิ เคล่ือนท่ี บันทกึ คา แรง ณ ขณะน้นั 3. เมือ่ ถงุ ทรายเร่มิ เคล่อื นท่ีแลว ใหด งึ ตอ ไปดว ยอัตราเร็วคงท่ีแลวบันทกึ คาที่ไดจากเครอ่ื งชั่งสปริง ณ ขณะนั้น 4. ทาํ การทดลองในขัน้ ตอนท่ี 2 และ 3 ซ้าํ แตใหเ ปล่ียนพื้นผวิ คสู มั ผัสแลวบนั ทึกผล จากนนั้ ชโลมสารหลอ ล่ืนบางๆบนพื้นโตะ ทําข้นั ตอนท่ี 2 และ 3 ซํ้าอีกคร้ังแลว บนั ทกึ ผล
5วสั ดุรองใตถุง ลักษณะของผิวโตะ กอนวตั ถุ แรงที่อานได µ ทราย มสี าร เคลือ่ นท่ี ปกติ มสี ารหลอล่นื ปกติ หลอ ลืน่ หลงั วตั ถุเคลอ่ื นท่ี หมายเหตุ µ หมายถงึ สมั ประสทิ ธคิ ์ วามเสยี ดทาน หาไดโ้ ดยการนําขนาดของแรงทใ่ี ชด้ งึ หารดว้ ย ขนาดของแรงโน้มถ่วงโลกทก่ี ระทาํ กบั ถุงทรายสรปุ ผลการทดลองตอนที่ 2 จากการทดลองเม่อื เปลีย่ นลักษณะของพน้ื ผวิ คสู ัมผสั คาทอี่ านไดจ ากเครื่องช่ังสปริงก็จะแตกตา งไปดว ยและเมื่อบบี สารหลอลืน่ ลงระหวางผวิ คสู มั ผสั พบวา คา ทอ่ี านไดจ ากเคร่ืองช่งั สปรงิ มีคานอ ยกวาตอนทีย่ ังไมไ ดบ ีบสารหลอลื่นลงไป จงึ สามารถสรปุ ไดวา แรงเสยี ดทานมีความสมั พนั ธกับลักษณะของผวิ คูสัมผสั และวิธหี นง่ึ ในการลดแรงเสยี ดทานคือ “การทาสารหลอ ลนื่ ระหวา งผวิ คสู ัมผสั ของวตั ถุน้ันๆ”
6คาํ ถามหลังการทดลอง 1. เหตใุ ดแรงท่อี านไดห ลงั จากวัตถุเคลอื่ นทีไ่ ปแลวจงึ มคี า ไมเ กินกวาแรงทใ่ี ชดึงกอนทวี่ ัตถุจะเคลอ่ื นที่ 2. ขนาดของแรงทอี่ านไดจากเครอ่ื งช่ังสปรงิ แตกตางกนั หรือไม เมอื่ เปล่ยี นชนิดของผวิ คูสมั ผสั 3. การฉาบสารหลอ ล่นื ระหวา งผวิ คสู ัมผสั มผี ลกบั แรงทอี่ า นไดจากเคร่อื งชั่งสปรงิ หรือไม อยา งไร
Search
Read the Text Version
- 1 - 9
Pages: