สื่อการเรียนรู้เรื่อง บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนวิชาระบบจัดการฐานข้อมูล

บทที่ 1 บทนำ 1.1 ความเป็นมาและความสำคัญ คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (Computer Assisted Instruction :CAI) เป็นกระบวนการเรียนการสอน โดยใช้สื่อคอมพิวเตอร์ CAI ย่อมาจากคำว่า COMPUTER-ASSISTED หรือ AIDEDINSTRUCTION คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) หมายถึง สื่อการเรียนการสอนทางคอมพิวเตอร์รูปแบบหนึ่ง ซึ่งใช้ความ สามารถของคอมพิวเตอร์ในการนำเสนอสื่อประสมอันได้แก่ ข้อความ ภาพนิ่ง กราฟิก แผนภูมิ กราฟ วิดีทัศน์ ภาพเคลื่อนไหว และเสียง เพื่อถ่ายทอดเนื้อหาบทเรียน หรือองค์ความรู้ในลกั ษณะที่ใกล้เคียงกบั การสอนจริงในห้องเรียนมากทีส่ ุด โดยมีเป้าหมายสำคัญคือสามารถดึงดูดความสนใจและกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดความต้องการท่ี จะเรียนรู้ CAI จึงเป็นสื่อการศึกษายุคใหมท่ ีม่ ีประสทิ ธิภาพมากและยังมีข้อได้เปรียบเหนอื สือ่ อื่นๆด้วยกัน หลายประการและสามารถตอบสนองความแตกต่างระหวา่ งผู้เรยี น ซ่งึ ผเู้ รยี นจะมีปฏสิ ัมพนั ธ์หรือการตอบ โต้ พร้อมทั้งได้รับผลย้อนกลับ (feedback) อย่างต่อเนื่องกับเนื้อหาและกิจกรรมต่างๆจึงง่ายต่อการ ประเมินและตรวจสอบความเข้าใจ ของผู้เรียนได้ตลอดเวลาขณะเดียวกันผู้เรียนสามารถนำ CAI ไปใช้ เรียนด้วยตนเอง โดยปราศจากข้อจำกัดดา้ นเวลา และสถานท่ใี นการดำเนินการศึกษาค้นคว้า CAI จึงเป็น สื่อสำคัญที่ช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ในลักษณะที่เน้นนักเรียนเป็นศูนย์กลางได้เป็นอย่างดี โปรแกรม Flash เป็นซอฟต์แวร์ที่ช่วยในการสร้างสื่อมัลติมีเดีย ภาพเคลื่อนไหวต่างๆในการทำ ภาพกราฟฟิกที่มีความ คมชัด เนอ่ื งจากเปน็ กราฟิกแบบเวค็ เตอร์ (Vector) สามารถเล่นเสยี งและวิดโี อแบบสเตอรโิ อได้ สามารถ สร้างงานให้โต้กับผู้ใช้ (interactive Multimedia) มีฟังก์ชั่นสำหรับการเขียนโปรแกรม Action Script และยังทำงานในลักษณะ CGI โดยเชื่อมต่อกับการเขียนโปรแกรมภาษาอื่นๆได้มากมาย เช่นภาษา PHP ,JSP, ASP. NET, 0 C/C++, C#, C#.NET, VB, VB. NET, JAVA และอื่นๆโดยเฉพาะข้อดีของ โปรแกรม Flash คือ ความสามารถในการบบี อัดไฟล์ให้มีขนาดเลก็ มีผลทำให้แสดงผลไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ นอกจากนั้นยัง แปลงไฟล์ไปอยู่ใน Format อื่นได้หลากหลาย เช่น avi, mov, gif, wav, emf, eps, ai, dxf, bmp, jpg, gif, png นอกจากนั้นโปรแกรม Flash ยังสามารถสร้างแอพพลิเคชั่น เพื่อใช้ทำงานต่างๆ รองรับการใช้ งานกบั อุปกรณ์ท่เี ชือ่ มต่อกับระบบเครอื ข่ายอนิ เตอรเ์ น็ต และทำงานไดก้ บั หลายๆ แฟลตฟอร์ม ผู้จัดทำจึงได้นำโปรแกรม Adobe Flash สร้างสื่อการเรียนการสอน เรื่องบทเรียนคอมพิวเตอร์ ช่วยสอนวชิ าระบบจัดการฐานข้อมูลกับนักเรยี นระดับประกาศนียบตั รวิชาชีพขั้นสูง (ปวส.) สาขาคอมพิว เอตร์ธรุ กิจ วิทยาลัยเทคนิคจันทบุรี ได้ใช้ในการศกึ ษา

2 1.2 วัตถุประสงคข์ องวิจัย 1.2.1 เพื่อสร้างบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่องระบบจัดการฐานข้อมูล ด้วยสื่อประยุกต์ Computer–Assisted 1.2.2 เพ่ือกระต้นุ ใหเ้ กิดความสนใจและเป็นการใหค้ วามรพู้ ้ืนฐานดา้ นเทคโนโลยแี กน่ ักศึกษา 1.2.3 เพ่ือใช้เปน็ สื่อการเรียนการสอนในการทบทวนความรู้ 1.3 ขอบเขตการวจิ ยั 1.3.1 ประชากรและกลุ่มตวั อยา่ ง 1.3.1.1 ประชากร คือ ครูและนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพขั้นสูง (ปวส.) สาขาวิชาคอมพวิ เตอรธ์ รุ กิจ วทิ ยาลยั เทคนคิ จนั ทบรุ ี 1.3.1.2 กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพขั้นสูง (ปวส.) ชั้นปีที่ 1 สาขาวชิ าคอมพวิ เตอรธ์ ุรกจิ วทิ ยาลัยเทคนคิ จันทบรุ ี 1.4 สมมติฐานการวจิ ยั 1.4.1 ประสทิ ธภิ าพของบทเรียนคอมพวิ เตอร์ตามเกณฑ์การประเมินประสิทธิภาพ 1.4.2 ผลสัมฤทธิท์ างการเรยี นของผู้เรยี นหลงั การใชบ้ ทเรียนคอมพิวเตอร์มคี ่าสูงกว่าก่อนเรียน 1.4.3 ความพงึ พอใจของกลุ่มผเู้ รียนด้วยบทเรียนคอมพวิ เตอร์ มีค่าอยู่ในเกณฑ์ 1.5 คำจำกัดความทีใ่ ช้ในงานวจิ ยั 1.5.1 คอมพิวเตอร์ช่วยสอน หมายถึง สื่อการเรียนการสอนทางคอมพิวเตอร์รูปแบบหนึ่ง ซึ่งใช้ ความสามารถของคอมพิวเตอร์ในการนำเสนอสื่อประสม ได้แก่ ข้อความ ภาพนิง่ กราฟฟกิ แผนภูมิ กราฟ วิดที ศั น์ ภาพเคล่ือนไหว และเสียง เพ่ือถา่ ยทอดเนอ้ื หาบทเรียน หรอื องค์ความร้ใู นลักษณะท่ี ใกล้เคียงกับ การสอนจรงิ ในหอ้ งเรยี นมากท่สี ดุ และการประมวลผลข้อมูล 1.5.2 ระบบจัดการฐานข้อมูล หมายถึง ซอฟต์แวร์สำหรับบริหารและจัดการฐานข้อมูล เปรียบเสมือนสื่อกลางระหว่างผู้ใช้และโปรแกรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ฐานข้อมูล ซึ่งมีหน้าที่ช่วยให้ ผู้ใช้เข้าถึงข้อมูลได้ง่ายสะดวกและมีประสิทธิภาพ การเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้ อาจเป็นการสร้างฐานข้อมูล การแก้ไขฐานข้อมูล หรือการตั้งคำถามเพื่อให้ได้ข้อมูลมาโดยผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องรับรู้เกี่ยวกับรายละเอียด ภายในโครงสร้างของฐานขอ้ มูล เปรยี บเสมือนเปน็ ส่อื กลางระหว่างผูใ้ ชแ้ ละโปรแกรมตา่ ง ๆ ท่เี กยี่ วขอ้ งกับ การใช้ฐานขอ้ มลู ซ่ึงตา่ งจากระบบแฟม้ ข้อมูลท่ีหน้าทีเ่ หล่านจี้ ะเป็นหน้าทีข่ องโปรแกรมเมอร์

3 1.6 ประโยชน์ทคี่ าดวา่ จะได้รับ 1.6.1 ได้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน วิชาระบบจัดการฐานข้อมูล รหัสวิชา 3204-2004 ทีม่ ีประสิทธภิ าพ 1.6.2 ผู้เรยี นไดท้ บทวนความรนู้ อกเวลาเรยี นตามต้องการ 1.6.3 ได้ส่อื การเรียนการสอนทอ่ี ำนวยความสะดวกต่อการเรียนการสอน



บทที่ 2 แนวคิด ทฤษฎี เอกสารและงานวจิ ยั ทเี่ ก่ียวขอ้ ง แนวคิด ทฤษฎี เอกสารและงานวจิ ัยท่เี กีย่ วขอ้ งการศึกษาค้นควา้ เกย่ี วกับ แบบทดสอบเกมส์ เร่อื ง จบั ค่เู กย่ี วกบั คำศัพท์ของโปรแกรม ในคร้ังน้ี ผูทำการวิจยั ได้ทำการศกึ ษาเอกสารและงานวจิ ัยท่เี ก่ียวข้อง กับงานวจิ ยั ในครง้ั น้ี โดยสามารถแบง่ เป็นหวั ข้อต่างๆไดด้ งั ต่อไปน้ี 2.1 สื่อการสอน หมายถึง 2.2 โปรแกรม Adobe flash professional CS6 2.3 ทฤษฎีเกีย่ วกับการประเมินผลความพงึ พอใจ 2.4 กรอบแนวคิดในการวจิ ัย 2.5 งานวิจัยทเ่ี กี่ยวขอ้ ง 2.1 บทเรยี นคอมพวิ เตอร์ช่วยสอน หมายถึง บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) หมายถึง สื่อการเรียนการสอนทางคอมพิวเตอร์รูปแบบหน่ึง ซึ่งใช้ความสามารถของคอมพิวเตอร์ในการนำเสนอสื่อประสมอันได้แก่ ข้อความ ภาพนิ่ง กราฟิก แผนภูมิ กราฟ วิดีทัศน์ ภาพเคลื่อนไหว และเสียง เพื่อถ่ายทอดเนื้อหาบทเรียน หรือองค์ความรู้ในลักษณะท่ี ใกล้เคียงกับการสอนจริงในห้องเรียนมากที่สุดโดยมีเป้าหมายที่สำคัญก็คือ สามารถดึงดูดความสนใจของ ผู้เรียน และกระตุ้นให้เกิดความต้องการที่ จะเรียนรู้ คอมพิวเตอร์ช่วยสอนเป็นตัวอย่างที่ดี ของ สื่อการศึกษาในลักษณะตัวต่อตัว ซึ่งผู้เรียนเกิดการเรียนรู้จากการมีปฏิสัมพันธ์ หรือการโต้ตอบพร้อมทั้ง การได้รับผลป้อนกลับ (FEEDBACK) นอกจากนี้ยังเป็นสื่อ ที่สามารถตอบสนองความแตกต่างระหว่าง ผู้เรยี นได้เป็นอยา่ งดี รวมทัง้ สามารถท่จี ะประเมิน และตรวจสอบความเข้าใจของผเู้ รียนไดต้ ลอดเวลา 2.1.1 หลักเกณฑ์การเลอื กใชส้ ือ่ การสอน 2.1.1.1 ส่อื นั้นตอ้ งตรงกบั ส่ิงที่ต้องการจะสือ่ สาร ไมน่ อกเรื่องดงึ และดึงความสนใจ 2.1.1.2 มีเนื้อหาที่ถูกต้อง ทันสมัย ไม่ใช่เนื้อหาเก่าเกินไป ต้องไม่ให้ผู้รับสารสับสนและ นำไปประยกุ ตใ์ ช้ได้จริง 2.1.1.3 เหมาะสมกับวัยของผู้เรียนรู้และระดับการศึกษา ซึ่งในช่วงอายุแตกต่างกันมี ความสนใจต่างกันจึงมสี ง่ิ ชักจงู จติ ใจท่ีแตกต่างกันดว้ ย 2.1.1.4 สะดวกในการใชง้ าน ไม่ยงุ่ ยากในการใชม้ ากเกนิ ไป

4 2.1.1.5 เป็นสื่อที่มีคุณภาพ หมายถึงสือ่ นัน้ ต้องใช้ได้จริงๆ ไม่แฮงค์หรือมีความผิดพลาด ไประหว่างการสอนหรือการใช้งานหากเป็นสื่อการสอนประเภทมีเดียวต่างๆประโยชน์ของสื่อการสอนต่อ ผู้รับสารสามารถเข้าใจความหมายได้ง่ายดาย ไม่เกินความงุนงงจากบทเรียนนั้นๆและมีความสนใจที่จะ ศึกษา ซึ่งหากผู้รับสารมีความเข้าใจก็ถือว่าสื่อกาสอนนั้นประสบผลสำเร็จ และหากมีผู้รับสารที่เข้าใจใน บทเรียนมากขึ้นเร่ือยๆกถ็ อื วา่ เพิม่ คุณภาพคนในประเทศมากข้ึนอีกด้วยต่อผู้สอน ผู้สอนเองกไ็ ดร้ ับผลดเี ช่น เพราะได้ทบทวนบทเรียนไปเองด้วยและยังช่วยกระตุ้นให้ตื่นตัวตลอดเวลาเพราะต้อ งคอยตอบคำถาม เพ่ิมเติมจากสื่อน้ันหากสอนดว้ ยปากเปล่าบางครั้งก็จะเกิดความน่าเบอ่ื และหมางเมนิ กันไป สื่อการสอนยัง ช่วยกระชบั ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งผเู้ รยี นและผสู้ อนอีกดว้ ย 2.2 โปรแกรม Adobe flash professional CS6 อะโดบี แฟลช (Adobe Flash) เป็นโปรแกรมทใ่ี ช้ในการเขยี นส่อื มัลติมีเดียท่ีเอาไวใ้ ช้สร้างเนื้อหา เกี่ยวกับ Flash ซึ่งตัว Flash Player พัฒนาและเผยแพร่โดย อะโดบีซิสเต็มส์ (เริ่มต้นพัฒนาโดยบริษัท ฟิวเจอร์แวร์ ตอนหลังเปลี่ยนเป็นแมโครมีเดีย ซึ่งภายหลังถูกควบรวมกิจการเข้ากับอะโดบี) ซึ่งเป็น โปรแกรมที่ทำให้เว็บเบราว์เซอร์ สามารถแสดงตัวมันได้ ซึ่งมันมีความสามารถในการรองรับภาพแบบ เวกเตอร์ และ ภาพแบบแรสเตอร์ และมีภาษาสคริปต์ที่เอาไว้ใช้เขียนโดยเฉพาะเรียกว่า แอ็กชันสคริปต์ (ActionScript) และยังสามารถเลน่ เสียงและวิดโี อ แบบสเตริโอได้ แต่ในความหมายจรงิ ๆแลว้ แฟลช คอื โปรแกรมแบบ integrated development environment (IDE) และ Flash Player คือ virtual machine ที่ใช้ในการทำงานงานของไฟล์ แฟลชซึ่งในภาษาพูดเรา จะเรียกทงั้ สองคำน้ีในความหมายเดียวกนั : \"แฟลช\" ยังสามารถความความถึงโปรแกรมเคร่ืองมือต่างๆตัว แสดงไฟลห์ รือ ไฟล์โปรแกรม Adobe Flash เป็นซอฟต์แวร์ที่ช่วยในการสร้างสื่อมัลติมีเดีย กราฟิกสำหรับงานเว็บ ผลงาน ท่พี ฒั นาด้วย Flash มที ั้งส่ือภาพนิ่งภาพเคลือ่ นไหว ส่ือมลั ติมีเดยี ตลอดจนส่ือท่ีมีระบบโตต้ อบกับผู้ใชง้ าน (interactive multimedia) เชน่ การตอบสนองการกดปุ่มสั่งงาน หรือการป้อนข้อมูลของผู้เข้าชมเว็บไซต์ อีกด้วย จุดเด่นของโปรแกรมนอกจากการจะสร้างภาพที่มีความคมชัดสวยงามแล้ว ชิ้นงานที่สร้างโดย Flash จะมขี นาดเล็กทำใหส้ ามารถน ามาเผยแพรบ่ นอนิ เทอร์เน็ต เพราะโหลดมาแสดงผลได้อยา่ งรวดเรว็ 2.3 ทฤษฎเี กย่ี วกบั การประเมนิ ผลความพึงพอใจ จากการศึกษาค้นคว้างานเอกสารและแนวคิดทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับความพึงพอใจ และมีผู้วิจัย หลายท่าน ได้ให้ความหมายแนวคิดและทฤษฎี ไว้ดังน้ี ค่าเฉลี่ย คือเป็นค่ากลางชนิดหนึ่งซึ่งมาจากการนำ ผลรวมของสมาชิกทุกตัวมาหารด้วยจำนวนสมาชิกในชุดข้อมูล ค่าเฉลี่ยเป็นกลางที่ผู้คนนิยมใช้มากที่สุด

5 สามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างหลากหลาย ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน คือเป็นการวัดการ กระจายแบบหนึ่งของกลุ่มข้อมูล สามารถนำไปใช้กับการแจกแจงความน่าจะเป็น ตัวแปรสุ่ม ประชากร หรอื มลั ตเิ ซต สถติ ทิ ี่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล วธิ ีการหาคา่ เฉลย่ี และคา่ ความเบี่ยงเบนมาตรฐาน -คา่ เฉล่ีย -ค่าความเบยี่ งเบนมาตรฐาน ( s ) เม่ือ แทน คะแนนเฉลยี่ s แทน คา่ เบ่ยี งเบนมาตรฐาน xi แทน คะแนนความพึงพอใจของนักศึกษาคนที่ i n แทน จำนวนนักศกึ ษาในกลุ่มตวั อย่าง ผดุง (2527, 41) กล่าวว่าคอมพิวเตอร์ช่วยสอน หมายถึง การนำเอาเครื่องคอมพิวเตอร์มาใช้ เป็นเครื่องมือช่วยครใู นการเรียนการสอน โปรแกรมสำหรับการเรยี นการสอน มักจะบรรจุเนื้อหาเกี่ยวกบั สิ่งที่ครูสอนแทนที่ครูจะสอนเนื้อหาวิชาด้วยตนเองครูก็บรรจุเนื้อหาที่สอนเหล่านั้นไว้ในโปรแกรมผู้เรียน สามารถเรียนรดู้ ้วยตนเองโดยใช้เครื่องคอมพิวเตอรเ์ ป็นผู้ถา่ ยทอดวิชาแทนครู พรนี ีส (Prenis, 1977: 20) กล่าววา่ คอมพวิ เตอร์ชว่ ยสอน เป็นคอมพวิ เตอร์ที่ทำให้ผู้เรียนเรียนรู้ รายวิชาไปทีละขั้นตอน คอมพิวเตอร์จะทำหน้าที่ถามคำถามเพื่อให้ผู้เรียนมีการตอบสนอง ในระหว่างที่มี การเรียนการสอนอยู่คอมพิวเตอร์สามารถป้อนกลับไปสู่รายละเอียดที่ผ่านมาหรือให้การทบทวนเนื้อหา ฝึกฝนซำ้ แก่ผูเ้ รียน

6 2.4 กรอบความคิดในการวจิ ยั ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนสูงขึ้น และผู้เรียนมีเจตคติที่ดีต่อการเรียนเนื่องจากบทเรียน คอมพิวเตอร์ช่วยสอน มีคุณสมบัติในการสนองต่อความแตกต่างระหว่างบุคคล มีการนำเสนอในรูปแบบ ที่หลากหลายและน่าสนใจ ทำให้ผู้เรียนเกิดความสนใจและมีความกระตือรือร้นในการเรียน ผู้เรียน สามารถที่จะเรียนรูด้ ว้ ยตนเองได้ตามศักยภาพ ทกุ ท่ี ทุกเวลา ตัวแปรต้น การจดั การเรยี นรโู้ ดยใชบ้ ทเรียน ตัวแปรตาม คอมพิวเตอร์ช่วยสอน 5 ขั้นตอน ดงั นี้ 1. การนำเข้าส่บู ทเรยี น 1. ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียน 2. การนำเสนอบทเรยี น 2. ความพึงพอใจของนักเรียนท่มี ตี ่อ 3. คำถามและคำตอบ บทเรยี นคอมพิวเตอร์ชว่ ยสอน 4. การตรวจคำตอบและคิดคะแนน 5. การจบบทเรยี น ภาพที่ 2.1 แผนผงั ตัวแปรอสิ ระและตวั แปรตาม 2.5 งานวจิ ัยที่เก่ียวข้อง ขนิษฐา 2532 กล่าวว่าคอมพิวเตอร์ช่วยสอน หมายถึง การนำคอมพิวเตอรม์ าใช้เป็นเครื่องมอื ใน การเรยี นการสอนโดยทีเ่ นื้อหาวิชา แบบฝกึ หัด และแบบทดสอบจะถูกพฒั นาขึ้นใน รูปแบบของโปรแกรม คอมพิวเตอร์ ซึ่งมักเรียกว่า Courseware โดยที่ผู้เรียนจะเรียนจากบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน โดย บทเรียนคอมพิวเตอร์จะเสนอเนื้อหาวิชาทีอ่ าจจะอยูใ่ นรูปของตัวหนังสือและกราฟิก สามารถถามคำถาม รับคำตอบจากผเู้ รียน ตรวจคำตอบ และแสดงผลการเรียนอยใู่ นรปู ของขอ้ มลู ป้อนกลบั ให้แก่ผู้เรยี น ผดุง (2527, 41) กล่าววา่ คอมพวิ เตอรช์ ว่ ยสอน หมายถึง การนำเอาเครื่องคอมพิวเตอร์มาใช้เป็น เครื่องมือช่วยครูในการเรียนการสอน โปรแกรมสำหรับการเรียนการสอน มักจะบรรจุเนื้อหาเกี่ยวกับ สิ่งที่ครูสอน แทนที่ครูจะสอนเนื้อหาวิชาด้วยตนเอง ครูก็บรรจุเนื้อหาที่สอนเหล่านั้นไว้ในโปรแกรม ผูเ้ รยี นสามารถเรยี นรู้ด้วยตนเองโดยใช้เครอื่ งคอมพิวเตอรเ์ ปน็ ผู้ถา่ ยทอดวชิ าแทนครู พรนี สี (Prenis, 1977: 20) กลา่ วว่าคอมพิวเตอร์ชว่ ยสอน เปน็ คอมพิวเตอร์ทีท่ ำใหผ้ ู้เรียนเรียนรู้ รายวิชาไปทีละขั้นตอน คอมพิวเตอร์จะทำหน้าที่ถามคำถามเพื่อให้ผู้เรียนมีการตอบสนอง ในระหว่างที่มี การเรียนการสอนอยู่ คอมพิวเตอร์สามารถป้อนกลับไปสู่รายละเอียดที่ผ่านมาหรือให้การทบทวนเนื้อหา ฝกึ ฝนซำ้ แก่ผูเ้ รียน



7 บทที่ 3 วธิ ีดำเนนิ การวจิ ยั 3.1 ประชากรการสมุ่ กลมุ่ ตัวอยา่ ง 3.1.1 ประชากร ประชากรที่ใช้ในการทดลองครั้งนี้ คือ ครูและนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพขั้นสูง (ปวส.) สาขาวิชาคอมพวิ เตอรธ์ รุ กจิ วทิ ยาลัยเทคนิคจันทบุรี 3.1.2 กลุม่ ตัวอย่าง กลุม่ ตวอยา่ งในครง้ั นี้ ตวั อย่าง คอื นกั เรยี นระดบั ประกาศนียบัตรวิชาชีพขนั้ สูง (ปวส.) ชน้ั ปี ที่ 1 สาขาคอมพวิ เตอรธ์ รุ กจิ วทิ ยาลัยเทคนคิ จนั ทบรุ ี 3.2 เครื่องมือในการวจิ ัยและการตรวจสอบคณุ ภาพเครอื่ งมอื เครือ่ งมอื ท่ีใชใ้ นการเก็บข้อมูล คอื แบบสอบถมความพึงพอใจ โดยผจู้ ดั ทำสรา้ งขึน้ จากการศึกษาจาก งานวิจัยท่ีเกี่ยวข้อง ซึ่งแบบสอบถามประกอบข้ึนด้วยข้อคำถามทเี่ ปน็ แบบเลือกตอบ แบบมาตราส่วนประมาณ ค่า และคำถามปลายเปิด 3.3 การเกบ็ รวบรวมข้อมลู 3.3.1 รวบรวมและศึกษาข้อมลู ทฤษฎีที่เก่ยี วขอ้ ง 3.3.2 รวบรวมและศึกษาข้อมูลการสร้าง บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน วิชาระบบจัดการฐานข้อมูล รหสั วชิ า 3204-2004 ดว้ ย Adobe Flash ProfessionCC 3.3.3 รวบรวมและศกึ ษาข้อมลู ส่ิงประดษิ ฐ์และงานวิจยั ท่เี กี่ยวข้อง 3.3.4 วเิ คราะห์ ออกแบบ สร้าง บทเรียนคอมพิวเตอร์ชว่ ยสอน วิชาระบบจดั การฐานขอ้ มลู รหัสวชิ า 3204-2004 ด้วย Adobe Flash Profession CC 3.3.5ตรวจสอบและทดลองใช้ บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน วิชาระบบจัดการฐานข้อมูล รหัสวิชา 3204-2004 ด้วย Adobe Flash Profession CC 3.3.6 ปรบั ปรุง แกไ้ ขและจดั ทำคมู่ ือการใชง้ าน 3.3.7 วเิ คราะห์ ออกแบบ สร้างแบบสอบถามความพึงพอใจ 3.3.8 เกบ็ รวมรวมข้อมูลจากกลมุ่ ตวั อยา่ ง 3.3.9 ประเมนิ แบบสอบถามความพงึ พอใจ

8 3.3 การเก็บรวบรวมข้อมลู ผวู้ จิ ัยได้พัฒนา บทเรยี นคอมพิวเตอรช์ ่วยสอนวชิ าระบบจัดการฐานข้อมูล โดยรวบรวมข้อมลู รายละเอยี ดของคอมพิวเตอร์และระบบจดั การฐานข้อมลู เพ่ือนำมาจัดทำบทเรยี นคอมพิวเตอร์ช่วยสอนโดยมี ขน้ั ตอนดัง้ นี้ 3.3.1 ศึกษาและรวบรวมข้อมูลของคอมพวิ เตอร์และระบบจดั การฐานขอ้ มูล 3.3.1.1 ข้อมูลและรายละเอยี ดของคอมพวิ เตอร์และระบบจัดการฐานขอ้ มูล 1) ระบบและแบบจำลองสารสนเทศ 2) ระบบฐานข้อมลู 3) แบบจำลองข้อมูล 4) ฐานข้อมูลเชงิ สมั พันธ์ 5) ภาษาสอบถามขอ้ มลู 6) การออกแบบฐานข้อมลู 7) บรรทดั ฐานของฐานข้อมลู 8) การใช้โปรแกรมสำเรจ็ รปู ระบบฐานข้อมูล 9) การสืบคน้ ขอ้ มลู สารสนเทศเพ่ือพัฒนางานอาชีพด้วยคอมพิวเตอร์ 3.3.2 กำหนดโครงสร้างหน้าแบบทดสอบและออกแบบ เป็นการกำหนดผังโครงสร้างของบทเรียน คอมพิวเตอร์ช่วยสอน โดยเป็นการออกแบบหน้าจอบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนว่าต้องมีองค์ประกอบ อะไรบา้ ง บทเรียนคอมพิวเตอรช์ ว่ ยสอนวชิ าระบบจดั การฐานข้อมลู หน้าแรก ลงทะเบยี น รายละเอียดสื่อการ เรียนการสอน

9 แบบทดสอบ เกมส์ ภาพที่ 3.1 โครงสรา้ งบทเรยี นคอมพวิ เตอร์ช่วยสอน 3.3.3 ออกแบบบทเรยี นคอมพวิ เตอร์ช่วยสอน ภาพที่ 3.2 ออกแบบหน้าบทเรยี นคอมพวิ เตอรช์ ว่ ยสอน 3.3.4 พฒั นาบทเรยี นคอมพวิ เตอรช์ ่วยสอน 3.3.5 ออกแบบและทดลองใช้งาน

10 3.3.6 ปรบั ปรุงและแกไ้ ขบทเรียนคอมพวิ เตอรช์ ่วยสอน ผวู้ จิ ยั ได้ดำเนนิ การรวบรวมข้อมลู ทีใ่ ชใ้ นการวจิ ยั มี 2 ประเภท คือ 3.3.6.1 ข้อมูลปฐมภมู ิ (Primary Data) เป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามความ พงึ พอใจ จำนวน 56 ชดุ โดยผู้วิจยั และผชู้ ่วยเกบ็ รวบรวมข้อมูลแบบประเมินไปรวบรวมด้วยตนเอง 3.3.6.2 ข้อมลู ทุตยิ ภูม (Secondary Data) เปน็ การเก็บรวบรวมขอ้ มลู จากเอกสารงานวิจัยที่ เกย่ี วขอ้ ง 3.4 การวเิ คราะห์ข้อมลู ข้อมูลที่ได้จากการเก็บรวบรวม มาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ และประมวลผลด้วยเครื่ อง คอมพิวเตอร์ โดยโปรแกรมสแปรดชีส ซึ่งใชส้ ถิติในการวิเคราะห์ ดังนี้ 3.4.1 การวิเคราะห์ข้อมูลปริมาณ(Quantitative data) คณะผู้วิจัยดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูลที่ไดรับ จากแบบประเมินคุณภาพ แบบสอบถามความคิดเห็นในการใช้บริการแอพพลิเคชั่นแบบมาตราสวนปราณค่า ด้วยสถิติเชิงพรรณนา (Descriptive statistics) เพื่อหาค่าสถิติพื้นฐานได้แก่ ความถี่ (Frequency) ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ยเลขคณิต(Mean) และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน(Standard deviation) เพื่ออธิบาย ลกั ษณะข้อมูลทว่ั ไปของกลมุ่ ตวั อยา่ ง ซึง่ มาเสนอในรปู ตารางประกอบคำอธบิ าย 3.4.2 เกณฑ์การให้คะแนนและเกณฑ์การแปลความหมายสำหรับข้อมูลแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) คณะผูว้ จิ ัยกำหนดเกณฑก์ ารใหค้ ะแนนของลเิ คอร์ท(Likert,1932) ไว้ดงั น้ี 3.4.2.1 แบบสอบถามความคิดเหน็ ในการใชบ้ ริการแอพพลิเคชัน เกณฑก์ ารให้คะแนนความคดิ เห็นในการใชบ้ รกิ ารแอพพลิเคชัน 5 หมายถึง มากทีส่ ดุ 4 หมายถึง มาก 3 หมายถงึ ปานกลาง 2 หมายถงึ น้อย 1 หมายถงึ น้อยท่ีสุด เกณฑ์การแปลความหมายค่าเฉลี่ยของคะแนนไวด้ ังนี้ 4.50-5.00 หมายถึง มากท่ีสุด 3.50-4.49 หมายถงึ มาก 2.50-3.49 หมายถงึ ปานกลาง 1.50-2.49 หมายถึง นอ้ ย 10.5-1.49 หมายถึง นอ้ ยทีส่ ดุ

11 3.4.3 สถติ ทิ ีใ่ ช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล 3.4.3.1 คา่ เฉล่ีย ( −X ) x̅ = ∑������������ = 1 ������������ ������ 3.4.3.2 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S) S= √∑������������=������(������������−������̅)2 ������−1 เมอ่ื S.D. แทนสว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐาน −X แทนเฉลยี่ เลขคณติ หรอื คา่ เฉลย่ี ������������ แทน คะแนนความพึงพอใจของนักศึกษาคนท่ี i N แทนจำนวนขอ้ มูลทั้งหมด ตารางที่ 3.1 รายละเอียดของ แบบทดสอบเรื่องอปุ กรณ์คอมพิวเตอร์ ลำดบั ท่ี ช่ือบทเรยี น ประเภทวิชา การเกบ็ คะแนน รายละเอียด แบบทดสอบ คอมพิวเตอร์ชว่ ยสอน ใหเ้ ลือกคำตอบที่ 1 ระบบจดั การฐานขอ้ มลู ระบบจดั การ คะแนนเต็ม 15 ถกู ต้อง ฐานขอ้ มลู คะแนนผ่าน แบบทดสอบ 8 คะแนน

11 บทท่ี 4 ผลการวจิ ยั จากการดำเนินงานสร้างบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนวิชาระบบจัดการฐานข้อมูลโดย Adobe Flash จัดทำ Story Board และจัดทำบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนซึ่งจากการดำเนินการ ตา่ ง ๆ สามารถจดั ทำส่ือการเรียนการสอนไดด้ งั นี้ 4.1 บทเรียนคอมพิวเตอรช์ ว่ ยสอนวชิ าระบบจัดการฐานข้อมลู โดย Adobe Flash 4.2 สรปุ ผลการวเิ คราะหแ์ บบสอบถาม 4.1 บทเรยี นคอมพวิ เตอร์ช่วยสอนวิชาระบบจัดการฐานข้อมูล โดย Adobe Flash 4.1.1 หนา้ แรกของบทเรยี นคอมพวิ เตอร์ชว่ ยสอน ภาพที่ 4.1 หนา้ แรกของบทเรียนคอมพวิ เตอร์ช่วยสอน จากภาพที่ 4.1 เปน็ หนา้ ใหเ้ ลอื กเขา้ บทเรยี นคอมพิวเตอรช์ ่วยสอน

12 ภาพท่ี 4.2 หน้าลงทะเบยี น จากภาพท่ี 4.2 เม่ือลงทะเบยี นแลว้ กด Enter จะเข้าสู่เมนูการเรยี นการสอน 4.3 หนา้ แบบทดสอบ จากภาพท่ี 4.3 คลิกบทท่ีต้องการที่จะทำแบบทดสอบ

13 4.1.2 ตวั อยา่ งหน้าสื่อการเรียนการสอน ภาพที่ 4.3 ภาพตวั อยา่ งสือ่ การเรยี นการสอน จากภาพท่ี 4.3 ภาพตวั อย่างหนา้ สื่อการเรียนการสอน 4.1.3 ภาพแบบทดสอบ ภาพท่ี 4.4 ภาพตัวอยา่ งแบบทดสอบ จากภาพท่ี 4.4 ภาพตัวอยา่ งแบบทดสอบ เปน็ ข้อสอบแบบปรนัย

14 4.1.4 หน้าสรปุ ผล ภาพท่ี 4.5 ภาพสรปุ ผลคะแนน จากภาพที่ 4.5 เมื่อทำแบบทดสอบเสรจ็ แลว้ จะสรปุ ผลคะแนนท่ไี ด้ 4.2 สรุปผลการวิเคราะห์แบบสอบถาม จากการสอบถามความพงึ พอใจองนักเรยี นระดับระดับประกษศนียบัตรวิชาชพี ขน้ั สงู (ปวส.) 1 สาขาคอมพิวเตอร์ธรุ กิจ วิทยาลัยเทคนคิ จนั ทบรุ ี จำนวน 56 คน ตอนที่ 1 ข้อมูลทวั่ ไป ตารางท่ี 4.1 แสดงค่ารอ้ ยละของแบบสอบถาม จำแนกข้อตามเพศ ร้อยละ 50 เพศ จำนวน (คน) 50 ชาย 28 100 หญงิ 28 รวม 56 จากตารางที่ 4.1 พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามในภาพรวม เป็นเพศชายจำนวน 28 คน คดิ เปน็ ร้อยละ50 เปน็ เพศหญิง 28 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ100 ตารางที่ 4.2 แสดงร้อยละของแบบสอบถาม จำแนกตามอายุ ร้อยละ อายุ จำนวน

15 ต่ำกวา่ 10 ปี 0 0 10-15 ปี 0 0 16-20 ปี 0 20 ปขี น้ึ ไป 56 0 รวม 56 100 100 จากตารางที่ 4.2 ผู้ตอบแบบสอบถาม ในภาพรวมอายุต่ำกว่า 10 ปี จำนวน 0 คน คิดเป็นร้อยละ 0 อายุ 10-15 ปี จำนวน 0 คน คิดเปน็ ร้อยละ 0 อายุ 16-20 ปี จำนวน 56 คน คิดเปน็ ร้อยละ 100 อายุ 20 ปีข้นึ ไป จำนวน 0 คน คิดเป็นร้อยละ 0 ตารางที่ 4.3 แสดงร้อยละของแบบสอบถาม จำแนกตาม สถานภาพ สถานภาพ จำนวน รอ้ ยละ นักเรียน 56 100 รวม 56 100 จากตารางที่ 4.3 ในภาพรวมเปน็ นกั เรียน จำนวน 56 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 100 และอ่นื ๆ จำนวน 0 คิดเป็นรอ้ ยละ 0 4.4 พบว่าความพงึ พอใจของนกั เรียนระดบั ประกษศนยี บตั รวชิ าชีพขัน้ สงู (ปวส.) หวั ขอ้ เร่อื ง คา่ เฉล่ยี สว่ นเบยี่ งเบน เกณฑ์ ������̅ มาตราฐาน S.D. 1.ดา้ นเนอื้ หา 1.1 ความเหมาะสมของขอ้ มูล 4.96 0.18 มากที่สุด 1.2 เนือ้ หามีความสอดคล้องกบั งานที่ได้รบั มอบหมาย 4.75 0.19 มากที่สดุ 1.3 ความรวดเรว็ ในการดาวน์โหลดขอ้ มลู 4.92 0.26 มากที่สดุ 1.4 ความถูกตอ้ งครบถ้วนของขอ้ มูล 4.85 0.35 มากทีส่ ุด 1.5 เน้อื หามคี วามถูกต้อง แมน่ ยำ 4.78 0.49 มากทส่ี ุด 2. ด้านออกแบบ 2.1 สพี น้ื หลงั สตี ัวอักษรและเสียงเหมาะสม 4.92 0.26 มากทส่ี ุด 2.2 ขนาดตวั อกั ษรของสื่อมีความเหมาะสม 4.96 0.18 มากทส่ี ุด 2.3 ภาพประกอบสือ่ มีความเหมาะสม 4.89 0.31 มากทส่ี ดุ 2.4 การใชส้ ตี ัวอักษรมีความสวยงามและอา่ นได้งา่ ย 4.89 0.41 มากที่สุด

16 2.5 การวางตำแหนง่ ภาพบนหนา้ จอมีความเหมาะสม 4.85 0.44 มากที่สดุ 3..ด้านประโยชน์ 3.1 ชว่ ยให้ประยกุ ตใ์ ชใ้ ชใ้ นชีวิตประจำวนั ได้ 4.96 0.18 มากทส่ี ดุ 3.2 เนอ้ื หามปี ระโยชน์ต่อผู้ใช้งาน 4.85 0.35 มากที่สุด 3.3 สามารถเป็นแหลง่ เรียนรู้ได้ 4.71 0.45 มากทส่ี ดุ 3.4 เปน็ แหลง่ ขอ้ มลู ท่ตี รงกับความต้องการของผใู้ ชง้ าน 4.85 0.35 มากที่สดุ 3.5 เสริมสรา้ งความรูท้ ่มี ีอยู่แลว้ 4.92 0.26 มากทส่ี ุด เฉลีย่ 4.87 0.31 มากทส่ี ุด จากตารางที่ 4.4 พบวา่ ความพงึ พอใจของ นักเรียนระดับประกาศนียบตั รวิชาชีพข้ันสงู (ปวส.) 1 สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ วิทยาลัยเทคนิคจันทบุรี ในการบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนวิชาระบบ จัดการฐานข้อมูลของคอมพิวเตอร์โดยโปรแกรม Adobe Flash ) ในภาพรวมอยู่ในระดับ มากที่สุด 4.9 (S.D. = 0.29) เมือ่ แยกเปน็ รายขอ้ โดยเรียงลำดับจากขอ้ ท่ีไดค้ ่าเฉล่ียมากไปหานอ้ ย 3 อนั ดับแรก ได้แก่ ลำดับที่ 1 ความเหมาะสมของเนื้อหาได้ค่าเฉลี่ย 4.96 (S.D. = 0.18) ,ขนาดตัวอักษรของสื่อมี ความเหมาะสมได้ค่าฉลี่ย 4.96 (S.D. = 0.18) , ช่วยให้ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ ได้ค่าเฉล่ีย 4.96 (S.D. = 0.18) ลำดับที่ 2 เน้ือหามีความสอดคล้องกับบบทดสอบได้ค่าเฉล่ีย 4.75 (S.D. = 0.19) และ ลำดบั ท่ี 3 ความถกู ต้องครบถว้ นของข้อมลู ได้ค่าเฉลี่ย 4.92 (S.D. = 0.26) , สีพื้นหลังสีตัวอักษร และเสียงที่เหมาะสมได้ค่าเฉลี่ย 4.92 (S.D. = 0.26) , เสริมสร้างความรู้ที่มีอยู่ได้ค่าเฉลี่ย ค่าเฉลี่ย 4.92 (S.D. = 0.26)

17

11 บทท่ี 5 สรุปผลการวจิ ัยอภิปรายผลและข้อเสนอแนะ 5,1 สรุปผลการวิจัย จากการสร้างส่ือการเรียนรู้เร่ือง บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนวิชาระบบจัดการฐานข้อมูล มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่สื่อการเรียนรู้ผ่านทางเทคโนโลยีในรูปแบบสื่อผสมให้กับนักเรียนได้ศึกษา ความรู้ที่หลากหลาย และสามารถนำประโยชน์จากสื่อการเรียนรู้ เรื่องพื้นฐานการออกแบบส่ือ มัลตมิ เี ดยี ด้วย adobe flash ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ สอื่ การเรียนรู้เรือ่ ง บทเรียนคอมพวิ เตอรช์ ่วยสอนวชิ าระบบจัดการฐานขอ้ มูล ดว้ ย Adobe flash โดยการทำหนังสือพื้นฐานการเขียนโปรแกรมและนำไปสร้างงานใน Adobe flash ทำการใส่ ภาพ เสียง และลูกเล่นต่าง ๆ ให้เกิดงานที่ดึงดูดและน่าสนใจ และนำความรู้จากวิชาที่ศึกษาสร้างให้ เกิดประโยชน์นั้นผลการวิเคราะห์ความพึงพอใจจากการตอบแบบสอบถามของ นักเรียนระดับ ประกาศนียบัตรวิชาชีพขัน้ สูง (ปวส.) สาขาวชิ าคอมพวิ เตอร์ธรุ กิจ วิทยาลยั เทคนิคจันทบุรี จำนวนรวม 56 คน ในภาพรวมพบวา่ มีเกณฑท์ งั้ หมดอยู่ในระดับ มากทส่ี ุด โดยมีคา่ เฉลีย่ 4.9 (S.D. = 0.29) 5.2 อภิปรายผล จากการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพขั้นสูง (ปวส.) สาขาวิชา คอมพิวเตอร์ธุรกิจ วิทยาลัยเทคนิคจันทบุรี จำนวนรวม 56 คน ในการรับชมบทเรียนคอมพิวเตอร์ ช่วยสอนวิชาระบบจัดการฐานจ้อมูล ด้วย Adobe flash ในภาพรวมอยู่ในระดับ มากที่สุด โดยมี ค่าเฉลี่ย 4.9 (S.D. = 0.29) เมื่อพิจารณาแยกเป็นรายข้อ โดยเรียงลำดับจากข้อที่ได้ค่าเฉลี่ยจากมาก ไปหาน้อย 3 อันดับแรก ได้แก่ ลำดับที่ 1 ความเหมาะสมของเนื้อหาได้ค่าเฉลี่ย 4.96 (S.D. = 0.18) ขนาดตัวอักษรของสื่อมีความเหมาะสมได้ค่าเฉลี่ย 4.96 (S.D. = 0.18) ช่วยให้ประยุกต์ใช้ใน ชวี ติ ประจำวนั ได้ ไดค้ า่ เฉลี่ย 4.96 (S.D. = 0.18) ลำดบั ที่ 2 เนอ้ื หามคี วามสอดคล้องกับบททดสอบได้ คา่ เฉล่ยี 4.75 (S.D. = 0.19) และ ลำดบั ท่ี 3 ความถกู ตอ้ งครบถว้ นของขอ้ มลู ไดค้ ่าเฉลย่ี 4.92 (S.D. = 0.26) , สีพืน้ หลังสตี วั อักษรและเสยี งทเ่ี หมาะสมได้ค่าเฉล่ีย 4.92 (S.D. = 0.26) , เสริมสร้างความรู้ทม่ี ี อยไู่ ด้คา่ เฉล่ีย คา่ เฉลย่ี 4.92 (S.D. = 0.26) ธัญญลกั ษณ์ วลิ ัยปาน การศกึ ษา การใชโ้ ปรแกรม Adobe Flash เพ่ือบทเรียนคอมพิวเตอร์ ช่วยสอน (2558) ปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศได้เข้ามามีบทบาทกับการเรียนรู้ในกลุ่มคนทุกระดับ ทั้งด้านการเผยแพร่ ความรู้ และด้านการพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน การเรียนรู้ให้มี ประสิทธิภาพต้องเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสมโปรแกรม Adobe Flash เป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการ สรา้ งภาพเคลอ่ื นไหว Animation ได้เป็นอยา่ งดี โดยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนที่พัฒนาขึ้นจะมี

12 ลักษณะเด่นหลายประการ เช่น ได้ภาพวาดคนชัด ทำภาพเคลื่อนไหวได้สะดวก ขนาดไฟล์เล็กจึง สามารถแสดงและเผยแพรบ่ นระบบออนไลน์ได้เปน็ อย่างดี ซึ่งจากการดำเนินงานสร้างบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนวิชาระบบจัดการฐานข้ อมูลด้วย Adobe Flash อยู่ในระดับ มากที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับโครงการการศึกษาการใช้โปรแกรม Adobe Flash เพื่อผลิตบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนดังนั้นบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนวิชาระบบจัดการ ฐานขอ้ มลู สามารถนำไปใช้งานได้จริง 5.3 ปัญหาและอปุ สรรค 5.3.1 ความนา่ สนใจของตัวช้นิ งาน 5.3.2 การอธบิ ายเนอ้ื หาให้เกิดความรู้ความเขา้ ใจ 5.4 ข้อเสนอแนะ 5.4.1 ควรมีคำถามให้มากว่าน้ี 5.4.2 ควรมีเนอื้ หามากกวา่ นจ้ี ะดมี าก