จากป่าลา้ นไร่ สู่ ‘โครงการปา่ ในกรงุ ’ เพ่ือพลิกฟ้นื ปา่ นเิ วศ ในเมอื ง สถาบันปลกู ปา่ ปตท. มีบทบาทรบั ผดิ ชอบภารกจิ สาคญั ในการส่งเสริมและสนับสนุน การจัดการทรพั ยากรป่าไม้อย่างยง่ั ยนื ควบค่กู ับการสร้างนวัตกรรมและฐานความรู้ พรอ้ ม ถา่ ยทอดศาสตรด์ ้านนิเวศวทิ ยาป่าไมส้ ู่คนรุ่นใหม่ ซึ่งเปน็ ปณิธานแหง่ การปลูกปัญญาให้กับคนใน สังคม และยังตงั้ เป้าหมายการเพ่ิมพ้นื ทปี่ า่ คุณภาพในประเทศไทยอกี อยา่ งต่อเนอ่ื งจาก ประสบการณค์ วามรกู้ ารปลกู ป่า ๑ ลา้ นไร่ ที่ผ่านมา สถาบนั ปลูกป่า ปตท. ได้ตอ่ ยอดแนวคดิ ใน การพัฒนาจากความเช่อื ว่าทุกพื้นทข่ี องประเทศสามารถสร้างปา่ ที่สมบรู ณไ์ ด้ทกุ แหง่ และความท้า ทายในการเพิ่มพนื้ ที่สีเขียวใหก้ บั กรุงเทพมหานครเพือ่ พฒั นาสิ่งแวดลอ้ มใหด้ ีขน้ึ ด้วตระหนักถงึ ความต้องการเพ่มิ พื้นท่ีป่าในเมอื งใหญ่เพือ่ บรรเทาภาวะโลกร้อนท่ีทวคี วามรุนแรงมากข้ึนทกุ ขณะ รวมถงึ การสร้างผลสัมฤทธ์ิเรอื่ งหลกั ประกันการดารงอยขู่ องผืนปา่ ธรรมชาตใิ นประเทศไทยอย่าง ยงั่ ยืนตามแนวพระราชดารัสเรอ่ื ง “ปลกู ป่าในใจคน” โดยการสรา้ งแหลง่ เรยี นรเู้ รื่องนิเวศวิทยาป่า ไมส้ าหรบั ประชาชน ให้ไดม้ คี วามรคู้ วามเขา้ ใจถึงบทบาทหน้าท่ี และความสาคัญของทรพั ยากรป่า ไม้ท่มี ีต่อทุกๆ ชีวิตจากแนวคดิ หลักดังกลา่ ว โดยการดาเนินการของสถาบนั ปลูกป่า ปตท. ได้ ร่วมกับนกั วชิ าการผูเ้ ช่ียวชาญดา้ นวนศาสตร์ และพฤกษศาสตร์ช้นั นาของประเทศ ทมี ออกแบบ และก่อสร้าง ทั้งทางด้านภูมิสถาปัตยกรรม สถาปัตยกรรมภายใน งานวิศวกรรม งานสอ่ื ความหมายนิทรรศการ งานดา้ นการประเมนิ มาตรฐานอาคารเขียว ได้รว่ มมือร่วมใจกันสร้างสรรค์ งานชิน้ สาคัญที่ท้าทาย“โครงการป่าในกรุง” เป็นการพฒั นาท่ีดิน ๑๒ ไร่ บนถนนสขุ าภิบาล ๒ เขต ประเวศ ห่างจากถนนวงแหวนตะวันออกราว 200 เมตร ซงึ่ ปตท. เลง็ เห็นถึงศกั ยภาพของที่ดินผนื นีท้ จ่ี ะพฒั นาใหเ้ ปน็ ป่าธรรมชาตทิ ี่สมบูรณ์ในเมืองผืนใหญ่ทีส่ ุดเท่าท่ีเคยมมี าแนวคดิ สาคญั ที่ถูก นามาประยกุ ตใ์ ช้กบั “โครงการปา่ ในกรุง” กค็ ือ แนวคดิ การปลูกป่านิเวศและไดผ้ ลอย่างรวดเร็ว ของศาสตราจารย์ดร.อาคริ ะ มยิ าวากิ ซึง่ ณ วันนี้ “ปา่ เชิงนิเวศ” ยังถือเป็นของใหมส่ าหรับ สงั คมไทย แต่ในอนาคตข้างหนา้ ทาง ปตท. เชอ่ื มัน่ ว่ารูปแบบของป่านิเวศ ทีไ่ ด้ริเรมิ่ ทานจ้ี ะ ขยายตัวเติบโตคู่ไปกบั ความเจริญในเมืองใหญไ่ ด้อย่างกลมกลืน ปตท. ได้วางวตั ถุประสงคท์ ีช่ ัดเจน ในการพัฒนาพ้นื ที่โครงการป่าในกรุง 12 ไร่ แห่งน้ี ให้เปน็ ป่าในเมืองแห่งแรกของ ปตท. ท่มี กี าร สร้างและบริหารจัดการอย่างเหมาะสมโดยต้องนาไปสกู่ ารสร้างความสัมพนั ธ์ท่ีย่ังยนื ระหวา่ งป่า และเมือง วางเปา้ หมายให้โครงการนเ้ี ปน็ แหลง่ เรียนรแู้ นวทางการปลูกป่าตามวิถี ปตท.ซ่งึ เปน็
ประสบการณ์ความรู้ทเ่ี กิดจากโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติฯ ๑ ล้านไร่ ให้แก่ ประชาชน นิสติ นักศึกษา และนักเรยี นทีส่ นใจ รวมถึงการพฒั นาให้เป็นพ้ืนท่ีสาธติ และแสดงถงึ พฒั นาการ ของการปลกู ปา่ นิเวศแบบ ปจั จบุ นั โครงการฯ ไดเ้ ขา้ ร่วมเกณฑ์การประเมนิ อาคารประหยัดพลงั งาน และเปน็ มติ รตอ่ ส่ิงแวดลอ้ ม LEED (Leadership in Energy and Environmental Design) ของหน่วยงาน USGBC (US Green Building Council) ซ่ึงระดับคะแนนท่คี าดวา่ จะไดร้ บั อยใู่ นระดบั Platinum ชนิดพนั ธไ์ุ ม้ที่ใชป้ ลกู ในโครงการ
สดั ส่วนของพนื้ ที่แบ่งเปน็ พื้นท่ีป่า 75% (จานวน 9 ไร่) พน้ื ท่นี ้า 10% (จานวน 1.2 ไร)่ พื้นที่ ใช้งาน 15% (จานวน 1.8 ไร)่ ในพ้ืนทม่ี ีการจัดสรรให้มีพนั ธไ์ุ มต้ ามลกั ษณะปา่ ชนิดตา่ งๆ เช่น ป่า ดบิ ทีล่ มุ่ ป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง ป่าน้ากร่อย ป่าชายเลน ป่ารอบน้าตก/เขาหินปูน ซ่งึ ความ หลากหลายของพนั ธ์ุไม้ทใ่ี ชป้ ลูกมีทั้งพนั ธไ์ุ ม้หายาก พันธ์ุไม้พื้นเดิมของกรุงเทพมหานคร และพันธ์ุ ไม้ปา่ ตามประเภทป่าชนดิ ต่างๆ มจี านวนกว่า 200 ชนดิ เช่น กรวยปา่ กระเจียว ขันทองพยาบาท พระเจ้าห้าพระองค์ แคแสด จันทนช์ ะมด ชุมแสง ชามะเรียง เต็งรัง ตะเคียนทอง มะกอกน้า มะ เมา่ สะตือ นนุ่ สมพง ยางนา เหียง ฉนวน จัน-อนิ สมอไทย ทองพนั ชา่ ง เป็นต้น นอกจากน้ันยงั มีการบริหารจัดการระบบน้าสาหรบั ใช้ในพนื้ ทโี่ ครงการ โดยสดั สว่ นพ้ืนท่ขี องนา้ 10% (จานวน 1.2 ไร่) เพ่ือรองรับปรมิ าณน้าฝน และเกดิ ระบบนิเวศอย่างครบวงจรของสง่ิ มชี ีวิต
สาระความรู้ในอาคารนทิ รรศการ จดุ ท่ี 1 : หอ้ งภาพยนตรส์ ้ัน ภาพยนตร์สั้น เป็นเรือ่ งราวของ “ครอบครัวไม้” ท่ีปลูกฝังตระหนักเก่ยี วกับธรรมชาตจิ ากป่าในกรุง และมีแรงบนั ดาลใจในการสง่ ตอ่ ทศั นคตใิ นการเปล่ยี นโลกให้เป็นสเี ขียวไปยงั คนอน่ื ๆ จดุ ที่ 2 : ผนงั ดนิ บดอัด และนิทรรศการเมลด็ พนั ธ์ุไม้ ผนังดินบดอัด
เป็นอกี จุดยอดนิยมสาหรับการถ่ายภาพ อีกทงั้ ผนงั ดินยังเป็นฉนวนกนั ความร้อนใหก้ ับตวั อาคาร เปน็ เทคนคิ การก่อสรา้ งโดยใชว้ ัสดดุ นิ ธรรมชาติ ซ่งึ เป็นฉนวนกันความร้อน ซึ่งการออกแบบนี้อยภู่ ายใตม้ าตรฐานอาคาร อนุรักษ์พลงั งานดเี ดน่ ตามมาตรฐาน LEED ภายใต้การรบั รองของ สภาอาคารเขยี ว สหรฐั อเมรกิ า 1. ลักษณะพเิ ศษคือมปี ีก 2. เมลด็ ไม้พชื ชายน้า ลักษณะพเิ ศษคือเล็กและมนี า้ หนักเบา 3. เมลด็ ไม้ทเี่ ปน็ อาหารและสมนุ ไพร สามารถรบั ประทานได้ 4. เมล็ดไม้ผลัดใบ เปน็ เมลด็ ไม้ของกลมุ่ พืชท่มี ีการผลดั ใบในช่วงฤดูแล้ง 5. เมลด็ พันธุไ์ ม้ทอ้ งถิ่นไทย ควรคา่ แก่การอนุรักษ์ เป็นไมท้ ี่มีถ่ินกาเนดิ หรือคน้ พบทป่ี ระเทศไทยเป็นที่ แรก เชน่ มะค่าแต้ เปน็ ตน้ 6. เมลด็ ไมเ้ ศรษฐกจิ เช่น สกั พะยงู เปน็ ตน้ 7. เมลด็ ไม้ยืนตน้ ทมี่ ีดอกสวยงาม เชน่ ราชพฤกษ์ กลั ปพฤกษ์ เปน็ ตน้ 8. เมลด็ ไม้พืชนา้ กร่อย เปน็ กลุ่มพืชทส่ี ามารถเจริญเตบิ โตอยใู่ นบรเิ วณที่มีความเค็ม
จดุ ท่ี 3 : หอ้ งนิทรรศการ หอ้ งนิทรรศการจะแบง่ ออกเป็น 3 สว่ นหลัก คือ ส่วนแรก นาเสนอเรอ่ื งราวการขยายตัวของเมืองใหญ่ และผลกระทบทเี่ กดิ ขน้ึ การขยายตัวของเมอื งใหญ่และผลกระทบที่ไดร้ ับ (การปลดปล่อยก๊าซคารบ์ อนไดออกไซด์, เกาะ ความร้อน การกัดเซาะชายฝง่ั , มาตรฐานพ้ืนที่สีเขียว, ประโยชน์ของต้นไม้ 1 ต้น และความสมั พันธ์ ของปา่ น้า ดิน และมนุษย์) สว่ นท่ีสอง เปน็ ประโยชนข์ องต้นไม้ เร่ืองราวปา่ บางกอก หรือปา่ ดั้งเดิมของกรุงเทพ ป่าบางกอก บรรยากาศ และวิถชี วี ติ ของคนในกรงุ เทพในอดตี (ป่านา้ กร่อย, ป่าดิบลมุ่ และภาพยนตร์ สนั้ เรือ่ งของยายกับหลาน) ส่วนท่สี าม เรอ่ื งราวการปลูกปา่ ของ ปตท. และองคค์ วามรู้ตา่ งๆ Timeline การปลูกปา่ ของ ปตท. นทิ รรศการเจ้าฟ้านักอนรุ ักษ์ และ 3 องคค์ วามรู้หลกั (ทฤษฎกี ารพัฒนาฟนื้ ฟปู ่าไมจ้ ากพระราชดาริ, ผืนปา่ 1 ลา้ นไร่ของ ปตท. และทฤษฎีการปลกู ป่าของ ศ.ดร.อาคริ ะ มิยาวากิ)
“ปา่ ในกรงุ ” จากทฤษฎีสร้างปา่ นเิ วศ… มิยาวากิ หนึ่งในแนวคิดและแรงบันดาลใจท่ี ปตท.ไดน้ ามาประยุกตส์ รรคส์ รา้ งผนื ปา่ ในกรุงขึ้นมาก็คือ “ทฤษฎีปลกู ปา่ นิเวศ” ของ “ศ.ดร.อาคิระ มยิ าวากิ” ศาสตราจารย์เกียรติคุณมหาวทิ ยาลัยแหง่ ชาตโิ ยโกฮามา่ และ ผู้อานวยการสถาบนั การเรยี นร้ดู า้ นนเิ วศวทิ ยานานาชาตปิ ระจาประเทศญปี่ ุน่ หลักคิดทฤษฎีนไ้ี ดถ้ ูกนาไป ประยกุ ต์ใช้กบั โครงการปลูกป่าในพื้นที่เมืองจนประสบความสาเรจ็ แพร่หลายไปทวั่ โลกแลว้ กว่า ๑,๕๐๐ แห่ง สาหรับความหมายของ “ป่านิเวศ” ตามแนวทางของ ศ.ดร.อาคิระ มิยาวากิ นั้น “ดร.สิรนิ ทร์ แกว้ ละเอยี ด” ผู้เชยี่ วชาญการปลกู ปา่ นเิ วศของไทยได้กล่าวไว้ว่า คอื ป่าที่มนษุ ย์สรา้ งข้นึ เพ่ือฟน้ื ฟูป่าธรรมชาติ โดยมีหลักการ คอื พันธ์ุไมท้ ี่ปลกู ต้องเปน็ พนั ธุ์ไม้ท้องถิ่นด้งั เดมิ ในพืน้ ที่ ต้องเตรยี มกลา้ ไม้มาเพาะชาในถงุ เพอ่ื ให้ระบบราก แขง็ แรงก่อนนากล้าไมล้ งไปปลกู ในดินและต้องปลูกพันธไุ์ ม้หลากหลายชนดิ ปะปนกนั แบบสมุ่ (random) และ ใหเ้ สมอื นอยใู่ นธรรมชาติ ไม่ปลกู เป็นแถวเปน็ แนวทเี่ ป็นระเบยี บ โดยพันธุ์ไมท้ ีป่ ลูกตอ้ งมีหลายระดบั ทง้ั ไมย้ นื ตน้ (tree) ไม้พุ่ม (shrub) และไม้พนื้ ลา่ ง (herb) ผสมผสานกับเทคนิคพเิ ศษบางอยา่ งในการปลูก เชน่ การสร้างเนินดนิ ท่ีมสี ว่ นผสมของป๋ยุ คอกหรือป๋ยุ หมัก การนากล้าไมจ้ ุ่มนา้ การคลุมดว้ ยฟางข้าว จดุ เดน่ ของการปลูกปา่ นเิ วศ ตามหลักของ ศ.ดร. อาคริ ะ มิยาวากิ • ป่าปลกู เจรญิ เตบิ โตและฟ้ืนฟไู ด้อย่างรวดเร็ว • ฟ้ืนคืนความหลากหลายทางชีวภาพใหเ้ ปน็ สภาพปา่ ดัง้ เดมิ • ปลกู ได้ในพืน้ ทีจ่ ากัด
เสน้ ทางชมผนื ปา่ กบั นวัตกรรมการเรยี นรยู้ ุคใหม่ Sky Walk และ Observation tower ท่ามกลางความร่มเยน็ ของผืนป่าในกรุง ท่เี กดิ จากพรรณไม้หลายร้อยชนดิ นับหมืน่ ต้นทมี่ ีความสงู ตา่ แตกตา่ ง กันไปนนั้ ในด้านหนง่ึ ผนื ป่าแหง่ น้ีไดท้ าหนา้ ทเี่ ปน็ สว่ นหน่ึงของระบบนเิ วศในการสร้างความสมดลุ ให้แก่ สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ ไมว่ ่าจะเปน็ การดูดซบั กา๊ ซคาร์บอนไดออกไซด์ ช่วยสรา้ งออกซเิ จนหรือเปน็ ปอด แห่งใหม่ของกรงุ เทพมหานครแลว้ ยงั เป็นเสมือนบ้านหลังใหญส่ าหรับอกี หลายชวี ิตทง้ั นก แมลง สตั วเ์ ล้ียงลูก ดว้ ยนมขนาดเลก็ รวมถึงสัตว์น้าอกี สว่ นหน่ึง บทบาททส่ี าคัญอยา่ งหน่งึ ท่ตี ้องยกไวเ้ ป็นความพิเศษ ย่งิ กวา่ ก็คือ การทาหน้าท่เี ป็นแหลง่ เรยี นรู้ของชาวเมืองหลวงใหไ้ ดร้ ้จู ักและไดส้ ัมผสั หลากหลายชนิดพันธ์ุของต้นไม้ ระบบ นเิ วศป่าไม้ ทง้ั ในด้านชีววทิ ยา รวมไปถงึ คุณคา่ ของทรัพยากรป่าไมท้ ั้งดา้ นนันทนาการ และการพทิ ักษส์ ภาพ แวดล้อมใหส้ ะอาดสดใสสาหรับวถิ คี วามเป็นอยู่ทดี่ ขี องคนในเมอื ง แน่นอนว่าภารกิจสาคัญของผนื ป่าในกรุง แห่งนยี้ ่อมอยูท่ ่ีความสาเรจ็ ในการปลกู ฝังแนวคดิ ตามนยั ยะ “การปลูกป่าในใจคน” เพราะเมอื่ คนรจู้ ักต้นไม้ รจู้ ักป่า และตระหนักถงึ คุณค่าของผืนปา่ แลว้ ย่อมหมายถึงพ้ืนทีส่ ีเขียวทจี่ ะเพิ่มขึ้นในอนาคต เอกลักษณ์ท่ีสาคญั ของป่าในกรุงจึงอยู่ท่ีการเรยี นรนู้ ิเวศวทิ ยาป่าไม้ทเี่ ปน็ ธรรมชาตเิ ป็นสังคมปา่ ที่ประกอบดว้ ย พรรณไม้ทม่ี ีระดับความสูงต่าแตกตา่ งกันไป มไี ม้ช้ันเรือนยอดช้ันบน ไม้ช้ันกลาง รวมไปถึงไม้ชน้ั ลา่ ง จาก ลักษณะความสูงต่าของต้นไม้เฉกเชน่ ผืนปา่ ธรรมชาตนิ ้เี อง ทาให้ ปตท. ได้สรา้ งเทคนิควิธที ถ่ี ือเป็นนวตั กรรม สาหรบั การเรยี นรูส้ ังคม ปา่ ไม้เพ่ือสร้างเสรมิ ประสทิ ธิภาพและเอาชนะอปุ สรรคการศึกษาเรยี นรู้นิเวศวทิ ยาป่า ไมด้ ้วย เส้นทางเดินชมเรือนยอด (sky walk) และหอชมป่า (observation tower) นิทรรศการป่าในกรุง ภายนอกจัดอย่ใู นพ้นื ทโี่ ซน ๖ ทถี่ อื เปน็ นวตั กรรมแหง่ การเรยี นรู้ และเปน็ พิพธิ ภณั ฑ์ทางนเิ วศวิทยากลางแจง้ ที่เกดิ ข้นึ ครั้งแรกในเมืองหลวงของประเทศไทย ผ้มู าเยือนจะได้สัมผสั กับระบบปา่ นิเวศอย่างใกล้ชดิ ในสอสถานี โดยมีปา้ ยส่อื ความหมายตดิ ต้ังกากบั บอกเลา่ และถ่ายทอดความนา่ สนใจของสังคมพืชทีห่ ลากหลายใน ประเทศไทยทั้ง 7 จดุ 9 ประเภทสงั คมป่าทีป่ ลูกอยู่ บนเนนิ ดนิ ในระดับความสูงระหวา่ ง ๑ - ๔ เมตร ทง้ั หมด 12 เนิน แวดล้อมด้วยน้าตกสวย และลาธารคดเคี้ยวที่ไหลเวียนใหค้ วามชมุ่ ชืน้ อยู่ในพื้นที่ ในมุมมองจาก เส้นทางเดินชมเรือนยอดที่มคี วามยาวท้งั ส้นิ 200 เมตร โดยผเู้ ข้าเยีย่ มชมไม่ต้องเหยยี บยา่ ไปบนพ้ืนที่ ป่าดา้ นลา่ งแต่อยา่ งใดเสน้ ทางเดินชมเรือนยอด (sky walk) ภายใน “โครงการปา่ ในกรงุ ” ได้รับการออกแบบ ประกอบไปดว้ ย จุดชมวิว A ซ่ึงมีพ้ืนที่ 20 ตารางเมตร มคี วามสูงจากระดับถนน 4.87 เมตร จดุ ชมวิว B มี พ้ืนท่ี 20 ตารางเมตร สูงจากระดับพ้ืน 10.20 เมตร จุดชมวิว C เป็นช่วงทางเดนิ ท่ีถูกขยายพน้ื ทใี่ ห้มคี วาม กว้างขึ้นเป็น 2.5 เมตร และ จุดชมวิว D มพี นื้ ท่ี 16 ตารางเมตร สงู จากระดบั พน้ื ดนิ ๗.๕๓ เมตร เส้นทางเดินชมเรือนยอด (sky walk) มีโครงสรา้ งเป็นเสาเข็มเจาะ ไดมเิ ตอร์ขนาด ๓๕ เซนติเมตร ความยาว ลกึ ลงไปในดิน ๒ ๑ เมตร โครงสร้างคานใชว้ ัสดเุ หล็ก H-Beam ออกแบบเสาทางเดินเป็นเหลก็ กลมใหม้ ีขนาด เล็กทสี่ ดุ ทาสีใหก้ ลมกลนื กับตน้ ไมใ้ นผนื ปา่ บนั ไดใช้วัสดุเหล็กฉาก และใช้ไม้เทียมปูภายนอกอยา่ งสวยงาม ใน สว่ นของพน้ื ทางเดนิ ถกู ออกแบบใหด้ เู บา บาง เพื่อใหเ้ กิดการพรางตวั โครงสรา้ งกลมกลนื เปน็ หนึง่ เดียวกับ สภาพปา่ โดยรอบและใช้ไมเ้ ทียมสธี รรมชาตปิ เู ปน็ พ้นื ทางเดินเส้นทางเดินชมเรือนยอด (sky walk) ออกแบบใหผ้ มู้ าเยอื นสามารถเดินเชือ่ มต่อเข้าไปยงั หอชมป่า (observation tower) ที่มคี วามสูง 23 เมตร โครงสร้างใชเ้ สาเขม็ เจาะไดมิเตอร์ขนาดและความยาวเดียวกนั กบั เส้นทางเดินชมเรือนยอด จานวน 11 ตน้ เป็นสถาปัตยกรรมรปู ทรงกระบอกที่ด้านบนสอบเข้าเลก็ น้อยเพอื่ ใหเ้ กดิ ความโปรง่ เบา บางสามารถพราง โครงสรา้ งไปกบั ป่าได้อย่างดีท่ีสุด วัสดทุ ใ่ี ชส้ รา้ งหอชมปา่ ประกอบดว้ ยเหล็ก H-Beam เหล็กกลม เหล็กฉากตวั แอลและใช้ไม้แบบธรรมชาติเปน็ โครงสรา้ งเสรมิ โดยมบี นั ไดวนขน้ึ เปน็ เหล็ก Plate และราวจบั แบบเหล็กกลม
โดยทางเดินชมเรอื นยอด และหอชมปา่ ได้รบั การออกแบบให้จากดั ผูข้ ึ้นชมต่อหนงึ่ รอบคร้ังละไม่เกิน 30 คน โดยสามารถรองรับนา้ หนักของเฉลีย่ 1,500 กิโลกรัม แหล่งศกึ ษาเรยี นรู้ “โครงการป่าในกรงุ ” ผ่านมมุ มองและการสมั ผสั จากเสน้ ทางเดินชมเรือนยอด และหอชมป่า นบั เปน็ เสน้ ทางศึกษาธรรมชาติระบบ นิเวศป่าไม้ทใ่ี ห้มุมมองความแตกตา่ งท่นี ่าต่ืนตาต่นื ใจและได้อรรถรส ซึง่ แนน่ อนว่า นบั แต่น้ไี ป “ปา่ ในกรงุ ” จะ กลายเปน็ สญั ลักษณ์ทรงคุณค่าในฐานะแหล่งเรียนรูด้ ้านทรัพยากรปา่ ไม้ใจกลางกรงุ เทพมหานคร ทอ่ี ยู่ในใจคน เมอื งหลวงและจุดประกายความคิดดา้ นการอนุรักษป์ า่ อย่างย่ังยนื ได้ตลอดไป
Search
Read the Text Version
- 1 - 10
Pages: