โคมไฟ.

ก คำนำ หนงั สือเลม่ น้ีจดั ทำข้ึนเพ่ือเป็ นส่วนหน่ึงของวิชำกำรออกแบบและ เทคโนโลยีของระดบั ช้นั มธั ยมศึกษำปี ที่ 5 เพื่อใหไ้ ดศ้ ึกษำหำควำมรู้ในเร่ือง กำรประดิษฐ์โคมไฟกระดำษและไดศ้ กึ ษำอยำ่ งเขำ้ ใจเพื่อเป็นประโยชน์กับ กำรเรียน ผูจ้ ดั ทำคำดหวังอยำ่ งย่ิงว่ำ หนังสือเล่มน้ีจะเป็ นประโยชน์กบั ผู้ท่ี ตอ้ งกำรศึกษำหำขอ้ มลู เรื่องน้ีอยู่ หำกมีขอ้ แนะนำหือข้อผิดพลำดประกำร ใดผูจ้ ดั ทำขอนอ้ มรบั ไวแ้ ละขออภยั มำ ณ ที่น้ีดว้ ย 1

ข สำรบญั หนา้ ก เรื่อง ข คานา 1 สารบญั 2 ทม่ี าและความสาคญั 3 วตั ถุประสงคข์ องโครงงาน 5 ข้นั ตอนการดาเนินงาน 6 วสั ดแุ ละอปุ กรณ์ในการผลิต 7 ผลของการดาเนินงาน 8 บรรณานุกรม รายชอ่ื ผจู้ ดั ทา

1 ทม่ี ำและควำมสำคญั ในปัจจุบนั นผี้ ้คู นทุกเพศทุกวัยทงั้ เดก็ วัยเยาว์ ผู้ใหญแ่ ละผ้สู งู อายุ ตา่ งมภี าระหน้าทที่ ่ีต้องรับผดิ ชอบ เช่น การรับผดิ ชอบหน้าที่การงาน ตามบทบาทของตนเอง ไมว่ ่าจะเป็นนกั เรียนต้องทาการบ้าน พนักงาน บริษัท ผู้บริหาร ที่ต้องทางานส่วนผู้สูงอายนุ นั้ อาจจะอยากใช้เวลาวา่ ง ในการอา่ นหนงั สอื เพอ่ื คลายความเครียดหรือ ศกึ ษาส่งิ ที่ตนเองสนใจ เพิม่ เตมิ ทกุ ๆ คนตา่ งต้องการแสงไฟเพอ่ื ทจี่ ะถนอมสายตาและยงั ทา ให้การทางานตา่ งๆ สะดวกและงา่ ยขนึ้ ซงึ่ ในปัจจุบนั นโี้ ลกมีเทคโนโลยี มากมาย ท่มี นุษย์ประดษิ ฐ์คดิ ค้นมาเพอื่ ตอบสนองความต้องการของ ตนเอง มนุษย์ประดษิ ฐ์สิง่ ของหลายส่งิ ทส่ี ามารถให้แสงสวา่ งได้ซง่ึ สิง่ ของแตล่ ะชนิดมีวตั ถุประสงค์การใช้งานทเ่ี หมือนกันคอื ให้แสงไฟ แต่ วิธกี ารใช้งานแตกตา่ งกนั ไป เช่น หลอดไฟฟลอู อเรสเซนต์และหลอด ตะเกยี บซง่ึ ใช้ตดิ บริเวณบ้านเพือ่ ให้แสงสว่าง หรือไฟฉายทใ่ี ช้พกพาไป ยงั สถานท่ีตา่ งๆ หนงึ่ ในส่งิ ของถูกใช้อยา่ งแพร่หลายคอื โคมไฟคณุ สง่ ซงึ่ เป็นส่งิ ท่ีสาคญั ต้องใช้ในชีวิตประจาวัน โดยเฉพาะอย่าหย่ิง การเป็น นกั เรียนทตี่ ้องมีการใช้โคมไฟเพ่อื อา่ นหนงั สือ หรือทาการบ้านในยาม คา่ คนื เราจงึ เลง็ เห็นความสาคญั ว่าในฐานะท่ีเราเป็นนักเรียน เราก็ สามารถประดษิ ฐ์โคมไฟด้วยตนเองเพื่อประหยัดทรัพยากรทต่ี ้องใช้ใน ชีวิตประจาวนั

2 วัตถปุ ระสงค์ 1.เพ่อื นาสิง่ เหลือใช้มาทาให้เกนิ ประโยชน์สงู สุด ซึ่งเป็นการ ปฏบิ ตั ติ นตามแนวทางเศรษฐกจิ พอเพยี งตามพระราชดารัสของ พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช 2.เพอ่ื ปลูกฝังให้รู้จกั เห็นคณุ คา่ และความสาคญั ของวสั ดเุ หลอื ใช้ 3.เพื่อลดปริมาณขยะและของเหลอื ใช้ในบ้าน โรงเรียน และชุมชน 4.เพื่อส่งเสริมจนิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์ของนกั เรียน 5.รู้จกั ใช้เวลาว่างให้เกดิ ประโยชน์

3 ขนั้ ตอนกำรดำเนนิ งำน 1. นากระดาษมาม้วนให้เป็นรูปทรงหลอด โดยม้วนในแนว เฉียงและเร่ิมจากมุมใดมุมหนึง่ ของกาะดาษ 2. เมือ่ ม้วนสุดปลายกระดาษ นากาวมาทา 3. ทาซา้ ในขัน้ ตอนท่ี 1-2 จนได้กระดาษทใ่ี ช้แล้วประมาณ 150 อัน

4 4. เมื่อกาวทตี่ ดิ แห้งแล้วนาโดมนนั้ มาครอบตดิ กบั หลอดไฟ 5.นากระดาษทม่ี ้วนแล้วมาเรียงทลี ะชนั้ แล้วเชอ่ื กันด้วยปืนกาว ซง่ึ เราสามารถเรียงตามรูปแบบทีเ่ ราต้องการกไ็ ด้ 6.เมอื่ เรียงเสร็จแล้ว เสยี บปลั๊กหลอดไฟและพร้อมใช้งานได้ทันที

5 วสั ดุและอปุ กรณ์ในการผลติ 1. หลอดไฟ 1 หลอด 2. ปืนกำว 3. ใส่ปืนกำว 4. กระดำษเหลือใช้ 5. เทปใส 6. กำว 7. กรรไกร

6 ผลของกำรดำเนินงำน จากการศกึ ษาการสร้างโคมไฟสงิ่ ประดษิ ฐ์ ในการจดั ทาโครงงาน ครัง้ นผี้ ้จู ัดทาได้มีโอกาสนาหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงมาใช้และ นามาประยุกต์ใช้ในชีวติ ประจาวนั ด้วย เชน่ การพอประมาณ โดยทง่ี าน ประดษิ ฐ์ชนิ้ นมี้ คี วามเหมาะสม สามารถใช้งานได้จริงไมย่ ากจนเกนิ ไป และประหยัดเวลาอรกทงั้ ผ้จู ดั ทาสิ่งประดษิ ฐ์นที้ ุกคนได้รับภูมคิ ้มุ กนั ทีด่ ี โดยการทส่ี มาชกิ ในกลมุ่ ทกุ คนเรียนรู้ทีจ่ ะปนะดษิ ฐ์ของใช้ที่มีประโยชน์ จากของเหลอื ใช้ความรู้นสี้ ามารถนาไป ประยกุ ต์ใช้เมือ่ เกิดเหตกุ ารณ์ คบั ขันตา่ งๆได้หรือใช้ในชีวิตประจาวันก็ยอ่ มได้และส่ิงประดษิ ฐ์นี้ สามารถกอ่ ประโยชน์ทางอ้อมตามมาอีกมากมาย เช่น การลดปริมาณ ขยะและของเหลอื ใช้ในบ้าน โรงเรียน และชุมชน สามารถปลูกจติ สานกึ ให้รู้จกั คณุ คา่ และความสาคญั ของวสั ดเุ หลอื ใช้และใช้เวลาวา่ งให้เกิด ประโยชน์

7 บรรณำนุกรม อำ้ งอิงขอ้ มูลมำจำก : http://montri.ac.th/old/ee/04212209/ L- 04.pdf , https://sites.google.com/site/karrsiskheilrecycle/risikheil- khuxเศรษฐกจิ พอเพยี ง. , http://www.chaipat.or.th/site_content/ 34-13/3579-2010-10-08-05-24-39.html

8 รำยช่อื ผ้จู ดั ทำ 1. นำงสำวพชั รพร วงษเ์ นียม เลขที่ 25 ช้นั ม. 5/2 2. นำงสำวศศกิ ำนต์ หอมสมบตั ิ เลขที่ 26 ช้นั ม. 5/2 ช้นั ม. 5/2 3. นำงสำวอรปรียำ สีบตุ รำ เลขท่ี 31 ช้นั ม. 5/2 4. นำงสำวสิริวรรณ มีชยั เลขท่ี 38