Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วิชาเลือกไกท่าวังผา

วิชาเลือกไกท่าวังผา

Published by Apichaya Pengkasukanto, 2023-08-08 12:34:24

Description: วิชาเลือกไกท่าวังผา

Search

Read the Text Version

1

2 คาํ อธิบายรายวชิ า อช03128 ไกท่าวงั ผา จาํ นวน 3 หน่วยกติ ระดบั ประถมศึกษา มธั ยมศึกษาตอนต้น มัธยมศึกษาตอนปลาย มาตรฐานการเรียนรู้ระดับ 1. มีความรู้ ความเขา้ ใจ และสามารถจดั ทาํ แผนงานและโครงการธุรกิจเขา้ สู่ตลาดการ แข่งขนั ตามแนวคิดปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพอ.ื การมีอยมู่ ีกิน 2. มีความรู้ ความเขา้ ใจ และสามารถจดั ทาํ แผนงานและโครงการธุรกิจ เพ.ือพฒั นาอาชีพ เขา้ สู่ตลาดการแข่งขนั ตามแนวคิดปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพ.ือสู่ความเขม้ แขง็ 3. มีความรู้ ความเขา้ ใจ และสามารถจดั ทาํ แผนงานและโครงการธุรกิจ เพื.อขยายอาชีพ เขา้ สู่ตลาดการแข่งขนั ตามแนวคิดปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง เพือ. สู่ความมนั. คง ศึกษาและฝึ กทกั ษะเกยี- วกบั เร-ืองดงั ต่อไปนี/ ความหมาย ประวตั ิ และความสําคญั ของไกท่าวงั ผา ประเภทของไกท่าวงั ผา วตั ถุดิบและ อุปกรณ์ที.เกี.ยวขอ้ งกบั การทาํ ไกท่าวงั ผา ข8นั ตอนการทาํ ไกท่าวงั ผา การแปรรูปผลิตภณั ฑ์ไกท่าวงั ผา และการจดั ทาํ โครงการไกท่าวงั ผา เพอื. ใหผ้ เู้ รียนมีความรู้ความเขา้ ใจ สามารถแปรรูปไกท่าวงั ผาในรูปแบบต่าง ๆ และเขียน โครงการไกท่าวงั ผาได้ ตลอดจนภาคภูมิใจและเห็นความสาํ คญั ของการแปรรูปไกท่าวงั ผา เพื.อเพิ.ม มูลค่าตามแนวทางปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ บรรยาย อภิปราย ศึกษาคน้ ควา้ จากเอกสารดว้ ยตนเองและ ณ แหล่งเรียนรู้ในชุมชน สัมภาษณ์ภูมิปัญญา ฝึ กปฏิบตั ิการทาํ ไกท่าวงั ผาและแปรรูปผลิตภณั ฑ์ไกท่าวงั ผาในรูปแบบต่างๆ ดว้ ยตนเองจนเกิดความชาํ นาญ ณ แหล่งเรียนรู้ในชุมชนและที.บา้ น ตลอดจนเขียนและนาํ เสนอ โครงการไกท่าวงั ผา การวดั และประเมนิ ผล ประเมินความกา้ วหนา้ ดว้ ยวธิ ีการสังเกต ซกั ถาม และประเมินผลรวมดว้ ยการตรวจสอบ ผลิตภณั ฑแ์ ปรรูปไกท่าวงั ผา ตรวจสอบการเขียนโครงการไกท่าวงั ผา ทาํ แบบทดสอบ ตอบแบบสอบถาม และสะทอ้ นผล

รายละเอยี ดคาํ อธิบายรายวชิ า อช03128 ไกท่าวงั ผา จาํ นวน 3 หน่วยกติ ระดบั ประถมศึกษา ระดบั มธั ยมศึกษาตอนต้น ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย มาตรฐานการเรียนรู้ระดับ 1. มีความรู้ ความเขา้ ใจ และสามารถจดั ทาํ แผนงานและโครงการธุรกิจเขา้ สู่ตลาดการ แข่งขนั ตามแนวคิดปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพอ.ื การมีอยมู่ ีกิน 2. มีความรู้ ความเขา้ ใจ และสามารถจดั ทาํ แผนงานและโครงการธุรกิจ เพื.อพฒั นาอาชีพ เขา้ สู่ตลาดการแข่งขนั ตามแนวคิดปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพ.ือสู่ความเขม้ แขง็ 3. มีความรู้ ความเขา้ ใจ และสามารถจดั ทาํ แผนงานและโครงการธุรกิจ เพื.อขยายอาชีพ เขา้ สู่ตลาดการแข่งขนั ตามแนวคิดปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพอ.ื สู่ความมนั. คง ที- หัวเร-ือง ตวั ชี/วดั เนือ/ หา จํานวน (ชั-วโมง) 1 ความหมายและ 1. บอกความหมายของไกท่าวงั ผาได้ 1. ความหมายของ 10 ประวตั ิความเป็นมา 2. บอกประวตั ิของไกท่าวงั ผาได้ ไกท่าวงั ผา ของไกท่าวงั ผา 2. ประวตั ิความเป็น มาของไกท่าวงั ผา 2 ความสาํ คญั ของ 1. อธิบายความสาํ คญั ของไกท่าวงั ผา 1.โภชนาการ 10 ไกท่าวงั ผา ดา้ นโภชนาการ วฒั นธรรม 2. ดา้ นเภสชั กรรม ดา้ นอาหาร และเศรษฐกิจได้ 3.วฒั นธรรมดา้ นอาหาร 2. ตระหนกั ถึงความสาํ คญั ของ 4. เศรษฐกิจ ไกท่าวงั ผา 3 ประเภทของ 1. บอกความแตกต่างของลกั ษณะ 1.ไกเหนียวหรือไกคา้ ง 10 ไกท่าวงั ผา ของไกท่าวงั ผาแต่ละประเภทได้ 2.ไกเป8ื อยหรือไกไหม 3. ไกตะ๊ 4 วตั ถุดิบและอุปกรณ์ที. 1. เลือกวตั ถุดิบและอุปกรณ์ที. 1.วตั ถุดิบ 10 เก.ียวขอ้ งกบั ไกท่าวงั ผา เก.ียวขอ้ งกบั การทาํ ไกท่าวงั ผาได้ 2. อุปกรณ์ 5 ข8นั ตอนการทาํ 1. ปฏิบตั ิการทาํ ไกท่าวงั ผาใน 1. ข8นั เตรียมการ 30 ไกท่าวงั ผา ข8นั เตรียม ข8นั ทาํ ไก และข8นั การดูแล 2. ข8นั ทาํ ไกท่าวงั ผา รักษาไกได้ 3. ข8นั ดูแลเก็บรักษา

4 6 การแปรรูปผลิตภณั ฑ์ 1. ปฏิบตั ิการแปรรูปผลิตภณั ฑ์ 1. รูปแบบของอาหาร 20 ไกท่าวงั ผา ไกท่าวงั ผาในรูปแบบอาหารคาว สดคาว 30 หวานได้ 2. ปฏิบตั ิการแปรรูปผลิตภณั ฑ์ 1.1 ห่อน.ึงไก ไกท่าวงั ผารูปแบบอาหารแบบแหง้ 1.2 ควั. ไก 1.3 ส้าไก 7 โครงการไกท่าวงั ผา 1. เขียนโครงการเขา้ สู่อาชีพ 2. รูปแบบอาหาร ไกท่าวงั ผาได้ แบบแหง้ 2. เขียนโครงการพฒั นาอาชีพ 2.1 ไกแผน่ ของวา่ ง ไกท่าวงั ผาได้ 2.2 ไกยี 3. เขียนโครงการขยายอาชีพ 1.โครงการเขา้ สู่อาชีพ ไกท่าวงั ผาได้ ไกท่าวงั ผา 2.โครงการพฒั นาอาชีพ ไกท่าวงั ผา 3.โครงการขยายอาชีพ ไกท่าวงั ผา

5 โครงสร้างรายวชิ า อช03128 ไกท่าวงั ผา ระดบั ประถมศึกษา มธั ยมศึกษาตอนต้น มธั ยมศึกษาตอนปลาย สาระสําคญั 1. ไก หมายถึง สาหร่ายน8าํ จืดที.ข8ึนอยบู่ นกอ้ นหินในน8าํ ไหลเอ.ือยๆที.ค่อนขา้ งใสและเป็ นน8าํ ที.มีคุณภาพดี “ไก” มีลกั ษณะเป็นเส้นสายยาวสีเขียวสด 2. ประวตั ิความเป็ นมาของไกท่าวงั ผา ในอดีตไกเป็ นอาหารพ8ืนบ้านของประชาชนใน อาํ เภอท่าวงั ผา แต่ในปัจจุบนั ไกเป็นท8งั อาหารสดคาว และอาหารรูปแบบแบบแหง้ เช่น ไกแผน่ ไกยี เป็ นตน้ 3. ไกท่าวงั ผามีความสําคญั ทางดา้ นโภชนาการ ดา้ นเภสัชกรรม วฒั นธรรมดา้ นอาหารและ ดา้ นเศรษฐกิจ 4. ไกท่าวงั ผามีหลากประเภทไดแ้ ก่ ไกเหนียวหรือไกคา้ ง ไกเป8ื อยหรือไกไหม ไกตะ๊ 5. วตั ถุดิบท.ีเก.ียวขอ้ งกบั ไกท่าวงั ผา ไดแ้ ก่ (1) ไกดิบ (2) งาขาว (3) งาดาํ (4) ซีอิ8ว (5) น8าํ มนั พืช (6) น8าํ ปรุงรส (7) เกลือ (8) กระเทียม (9) หอมแดง (10) พริก (11) ใบมะกรูด (12) ตระไคร้ (13) น8าํ ผกั ใบ ยา่ นาง อุปกรณ์ท.ีเก.ียวขอ้ งกบั ไกท่าวงั ผา ไดแ้ ก่ (1) ถุงป๋ ุย (2) เข่งหรือตะกร้า (3) เส8ือแขนยาว (4) หมวก (5) เชือก (6) กระทะ (7) ทพั พี (8) ชาม (9) ไมก้ ลดั (10) ใบตอง (11) ลงั ถึง (12) เคร.ืองปั.นไก (13) เขียง (14) มีด (15) เตาแก๊สหรือเตาถ่าน (16) ตะแกรง (17) ตูอ้ บ (18) เครื.องบรรจุภณั ฑ์ (19) ครก 6. ข8นั ตอนการทาํ ไกท่าวงั ผา ประกอบดว้ ย ข8นั การเตรียมการ ข8นั การทาํ และข8นั การดูแล เก็บรักษา 7. การแปรรูปผลิตภณั ฑ์ไกท่าวงั ผา ไดแ้ ก่ รูปแบบของอาหารสดคาวและรูปแบบอาหาร แบบแหง้ 8. โครงการไกท่าวงั ผามี 3 โครงการ ไดแ้ ก่ 1. โครงการเขา้ สู่อาชีพไกท่าวงั ผา 2. โครงการ พฒั นาอาชีพไกท่าวงั ผา 3. โครงการขยายอาชีพไกท่าวงั ผา ส่วนองคป์ ระกอบของโครงการประกอบดว้ ย (1) ชื.อโครงการ (2) หลกั การและเหตุผล (3) วตั ถุประสงค์ (4) เป้ าหมาย (5) วิธีดาํ เนินการ (6) ระยะเวลา (7) สถานท.ีดาํ เนินงาน (8) งบประมาณ (9) การวดั และประเมินผล (10) ประโยชน์ที.คาดวา่ จะไดร้ ับ (11) ผรู้ ับผดิ ชอบ

6 ผลการเรียนรู้ทคี- าดหวงั 1. บอกความหมายของไกท่าวงั ผาได้ 2. บอกประวตั ิของไกท่าวงั ผาได้ 3. อธิบายความสาํ คญั ของไกท่าวงั ผาดา้ นโภชนาการ วฒั นธรรมดา้ นอาหาร และเศรษฐกิจได้ 4. ตระหนกั ถึงความสาํ คญั ของไกท่าวงั ผา 5. บอกความแตกต่างของลกั ษณะของไกท่าวงั ผาแต่ละประเภทได้ 6. เลือกวตั ถุดิบและอุปกรณ์ท.ีเก.ียวขอ้ งกบั การทาํ ไกท่าวงั ผาได้ 7. ปฏิบตั ิการทาํ ไกท่าวงั ผาในข8นั เตรียม ข8นั ทาํ และข8นั การดูแลรักษาได้ 8. ปฏิบตั ิการแปรรูปผลิตภณั ฑไ์ กท่าวงั ผาในรูปแบบอาหารสดคาวได้ 9. ปฏิบตั ิการแปรรูปผลิตภณั ฑไ์ กท่าวงั ผารูปแบบอาหารแบบแหง้ 10. เขียนโครงการเขา้ สู่อาชีพไกท่าวงั ผาได้ 11. เขียนโครงการพฒั นาอาชีพไกท่าวงั ผาได้ 12. เขียนโครงการขยายอาชีพไกท่าวงั ผาได้ ขอบข่ายเนือ/ หา เรื.องท.ี 1 ความหมายและประวตั ิความเป็ นมาของไกท่าวงั ผา เรื.องที. 2 ความสาํ คญั ของไกท่าวงั ผา เร.ืองท.ี 3 ประเภทของไกท่าวงั ผา เรื.องท.ี 4 วตั ถุดิบและอุปกรณ์ที.เก.ียวขอ้ งกบั ไกท่าวงั ผา เร.ืองที. 5 ข8นั ตอนการทาํ ไกท่าวงั ผา เรื.องท.ี 6 การแปรรูปผลิตภณั ฑไ์ กท่าวงั ผา เรื.องที. 7 โครงการไกท่าวงั ผา การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ 1. บรรยาย 2. อภิปราย 3. ศึกษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเองจากเอกสารและแหล่งเรียนรู้ในชุมชน 4. สมั ภาษณ์ภมู ิปัญญา 5. ฝึกปฏิบตั ิการทาํ และแปรรูปผลิตภณั ฑไ์ กท่าวงั ผาในรูปแบบต่างๆ ณ แหล่งเรียนรู้ใน ชุมชนและท.ีบา้ น 6. เขียนและนาํ เสนอโครงการไกท่าวงั ผา

7 ส-ือและแหล่งเรียนรู้ 1. พฒั นาการและการเปล.ียนแปลงการแปรรูปผลิตภณั ฑส์ าหร่ายไกทา่ วงั ผา บา้ นหนองบวั 2. กลุ่มวสิ าหกิจชุมชนแปรรูปอาหารจากสาหร่ายน8าํ จืด (ไก) บา้ นหนองบวั 3. ภูมิปัญญาทอ้ งถิ.น ไดแ้ ก่ นางนงเยาว์ ปรารมภ์ นางต่อม จนั ตะ๊ ยอด นางติLบ ภิมาลย์ นางบุญชู เทพเสน นางดวงศรี วชิ า นางขนั คาํ อินตะ๊ เสน และนางบวั แยง จนั ตะ๊ ยอด 4. ซีดี เร.ือง ไกท่าวงั ผา การวดั และประเมนิ ผล 1. การประเมนิ ผลความก้าวหน้า 1.1 สังเกต 1.2 ซกั ถาม 1.3 สัมภาษณ์ 2. การประเมนิ ผลรวม 2.1 ตรวจสอบผลิตภณั ฑแ์ ปรรูปไกท่าวงั ผา 2.2 ตรวจสอบการเขียนโครงการไกท่าวงั ผา 2.3 ทาํ แบบทดสอบ 2.4 ตอบแบบสอบถาม 2.5 สะทอ้ นผล

8 เรื-องที- 1 ความหมายและประวตั คิ วามเป็ นมาของไกท่าวงั ผา สาระสําคญั 1. ไก หมายถึง “สาหร่ายน8าํ จืด สีเขียวสดมีลกั ษณะเป็ นเส้นสายยาวเป็ นกระจุกเจริญบน ก้อนหินในลักษณะน8ําท.ีใสสะอาด เมื.อเจริญเติบโตเต็มที.จะมีสีเขียวสด มีคุณค่าทางอาหารสูง โดยเฉพาะโปรตีนซ.ึงเทียบไดก้ บั เน8ือสตั ว์ และจะพบมากในแม่น8าํ น่านบริเวณอาํ เภอท่าวงั ผาในช่วง ฤดูหนาว ระหวา่ งเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกมุ ภาพนั ธ์ของทุกปี ” 2. ประวตั ิของไกท่าวงั ผา เร.ิมตน้ มาจาก “ไก เป็ นอาหารพ8ืนบา้ นของชาวไทล8ือมานานนบั ร้อยกวา่ ปี เพราะไกเป็ นวตั ถุดิบท.ีเกิดข8ึนเองตามธรรมชาติในบริเวณแม่น8าํ น่าน ซ.ึงพบมากท.ีสุดใน อาํ เภอท่าวงั ผา คนไทล8ือสมยั รุ่นทวด ป่ ูยา่ ตายาย จะนาํ ไกมาปรุงอาหารในชีวิตประจาํ วนั ดว้ ย ภูมิปัญญา ทอ้ งถ.ิน จนกระทง.ั ปี 2545 ทางคณะกรรมการกลุ่มแม่บา้ นบา้ นหนองบวั ตาํ บลป่ าคา อาํ เภอท่าวงั ผา จาํ นวน 20 คนไดร้ ่วมกนั จดั ต8งั กลุ่มแปรรูปผลิตภณั ฑส์ าหร่ายน8าํ จืดข8ึน โดยการนาํ ของ ครูนทั ธมน คาํ ครุฑ ทาํ การแปรรูปไกเพ.ือการบริโภคและจดั จาํ หน่ายให้เป็ นรายไดเ้สริมแก่สมาชิก จนมาถึงปัจจุบนั ทางกลุ่มไดพ้ ฒั นาผลิตภณั ฑใ์ ห้มีคุณภาพเพ.ิมข8ึน มีผลิตภณั ฑท์ .ีหลากหลาย สามารถยกระดบั สินคา้ เป็น “ หน.ึงตาํ บล หน.ึงผลิตภณั ฑ์ ” ระดบั 4 ดาว และส่งผลใหไ้ กท่าวงั ผา เป็นที.รู้จกั ในระดบั ประเทศ ” ผลการเรียนรู้ทค-ี าดหวงั 1. บอกความหมายของไกท่าวงั ผาได้ 2. บอกประวตั ิของไกท่าวงั ผาได้ ขอบข่ายเนือ/ หา 1. ความหมายของไกท่าวงั ผา มีความหมายจากการศึกษาเอกสาร และภูมิปัญญาท้องถิ-น ดังนี/ 1.1 ความหมายของไกท่าวงั ผาทไี- ด้จากการศึกษาเอกสาร มดี งั นี/ กลุ่มวสิ าหกิจชุมชนแปรรูปอาหารจากสาหร่ายน8าํ จืด(ไก) (2547:12) ไดใ้ ห้ความหมาย ไวว้ า่ “ไก เป็ นวตั ถุดิบท.ีเกิดข8ึนเองตามธรรมชาติในแม่น8าํ น่านที.ใสสะอาด สาหร่ายไกเป็ นสาหร่าย ขนาดใหญ่ที.ข8ึนอยู่บนกอ้ นหิน ทอ้ งน8าํ มีลกั ษณะเป็ นเส้นยาว สีเขียวสด อาจจะยาว ถึง 1-2 เมตร เมื.อ เจริญเตม็ ท.ีจะมองเห็นเป็ นเส้นสายสีเขียวเตม็ ทอ้ งน8าํ มกั เจริญอยใู่ นบริเวณที.เป็ นหาดหินและกรวดที.มี ความลึกระหวา่ ง 30-50 เซนติเมตร ตามสภาพน8าํ อยใู่ นระดบั ดีถึงปานกลาง ลกั ษณะน8าํ ใสและน8าํ ไหล

9 ซ.ึงพบในช่วงฤดูหนาวจนถึงฤดูร้อนระหวา่ งเดือนพฤศจิกายน ถึงเดือนพฤษภาคมของทุกปี จะมีมาก ท.ีสุดบริเวณอาํ เภอท่าวงั ผา” อนุชา ไชยฮงั. ( 2553:21) ไดใ้ หค้ วามหมายไวว้ า่ “ ไก เป็ นสาหร่ายสีเขียว (Green algae) อยใู่ นกลุ่ม Chlorophyta จดั เป็นพืชช8นั ต.าํ ที.มีคลอโรฟิ ลลจ์ ึงสามารถสงั เคราะห์แสง สร้างอาหาร ไดเ้อง เป็ นสาหร่ายที.มีลกั ษณะเป็ นเส้นสาย บางชนิดแตกแขนง บางชนิดไม่แตกแขนงซ.ึงเกิดข8ึนใน ลาํ น8าํ ที.ใสและน8าํ ไหล อีกท8งั มีแสงส่องถึง เส้นสายของสาหร่ายไกมีความยาวมากประมาณ 1-2 เมตร บางคร8ังอาจยาวไดถ้ ึง 3 เมตร เม.ือเจริญเต็มท.ีจะมองเห็นเป็ นเส้นสายสีเขียวสดใส ยาวพลิ8วไปตาม กระแสน8าํ ” นทั ธมน คาํ ครุฑ (2553) ไดใ้ ห้ความหมายไวว้ ่า “ ไก หรือสาหร่ายน8าํ จืด หมายถึง พืชขนาดใหญ่ข8ึนอยบู่ นกอ้ นหินที.อยพู่ 8ืนทอ้ งน8าํ มีลกั ษณะเส้นสายยาว สีเขียวสด อาจจะยาวถึง 1-3 เมตร เม.ือเจริญเต็มท.ีจะมองเห็นเป็ นเส้นสายสีเขียวเต็มทอ้ งน8าํ มกั เจริญอยู่ในบริเวณท.ีเป็ นหาดหินและ กรวดท.ีมีความลึกระหว่าง 30-50 เซนติเมตร คุณภาพน8าํ อยู่ในระดบั ปานกลางถึงดี ลกั ษณะน8าํ ใส สะอาดและไหลเอื.อยๆในช่วงฤดูหนาวถึงฤดูร้อน ระหวา่ งเดือนพฤศจิกายนถึงพฤษภาคมของทุกปี ” จากผรู้ ู้ท.ีไดใ้ หค้ วามหมายของไกดงั กล่าว สามารถสรุปความหมายของไกท่าวงั ผา ไดว้ า่ “ไก เป็ นสาหร่ายสีเขียว (Green algae) อยใู่ นกลุ่ม Chlorophyta เป็ นพืชช8นั ต.าํ ท.ีมีคลอโรฟิ ลล์ ข8ึน อยใู่ นพ8ืนทอ้ งน8าํ มีลกั ษณะเป็ นเส้นสายยาว ประมาณ 1-3 เมตร มกั เจริญอยใู่ นบริเวณท.ีเป็ นหาดหิน และกรวด ท.ีมีความลึกระหวา่ ง 30-50 เซนติเมตร ในลกั ษณะน8าํ ใสและน8าํ ไหล มีแสงส่องถึง บางชนิด แตกแขนง บางชนิดไม่แตกแขนง เม.ือเจริญเติบโตเตม็ ท.ีจะมีสีเขียวสด กระจายเตม็ พ8ืนทอ้ งน8าํ สามารถ สังเคราะห์แสง และสร้างอาหารเองได้ พบในช่วงฤดูหนาวถึงฤดูร้อนระหวา่ งเดือนพฤศจิกายนถึง เดือนพฤษภาคมของทุกปี และจะพบมากท.ีสุดในบริเวณอาํ เภอท่าวงั ผา ” 1.2 ความหมายของไก ได้มาจากการสัมภาษณ์ภูมปิ ัญญาท้องถ-นิ จํานวน 3 คน ดังนี/ บุญชู เทพเสน (2554) ไดใ้ หข้ อ้ มูลในวนั ท.ี 28 ธนั วาคม 2554 ณ ท.ีทาํ การกลุ่มแปรรูป ผลิตภณั ฑส์ าหร่ายน8าํ จืด บา้ นหนองบวั หมู่ท.ี 5 ตาํ บลป่ าคา เวลา 09.25 น. ไวว้ า่ “ ไก คือสาหร่ายน8าํ จืด อยู่ในแม่น8าํ น่านพบมากท.ีสุดในอาํ เภอท่าวงั ผา และจะพบมากในฤดูหนาว ระหว่างเดือนพฤศจิกายน ถึงเดือนกุมภาพนั ธ์ ลกั ษณะเป็นเส้นยาวมีสีเขียวสด” ดวงศรี วชิ า (2554) ไดใ้ หข้ อ้ มูลในวนั ท.ี 28 ธนั วาคม 2554 ณ ท.ีทาํ การกลุ่มแปรรูป ผลิตภณั ฑส์ าหร่ายน8าํ จืด บา้ นหนองบวั หมู่ท.ี 5 ตาํ บลป่ าคา เวลา 09.40 น. ไวว้ า่ “ ไก คือสาหร่ายท.ีมี คุณค่าทางอาหารสูง เจริญเติบโตบริเวณแม่น8าํ น่านลกั ษณะน8าํ ใสสะอาด มีสีเขียวสดเส้นยาวพบใน ฤดูหนาวมากท.ีสุด ใชท้ าํ อาหารมาต8งั แต่บรรพบุรุพ ”

10 บวั แยง จนั ต๊ะยอด (2554)ไดใ้ ห้ขอ้ มูลในวนั ที. 28 ธนั วาคม 2554 ณ ที.ทาํ การกลุ่ม แปรรูปผลิตภณั ฑ์สาหร่ายน8าํ จืดบา้ นหนองบวั หมู่ที. 5 ตาํ บลป่ าคา เวลา 11.25 น.ไวว้ า่ “ ไก คือสาหร่าย สีเขียวสด เกิดบนกอ้ นหินซ.ึงอยใู่ นแม่น8าํ น่านในช่วงฤดูหนาว มีลกั ษณะเป็ นเส้นสายยาวรวมตวั กนั เป็นกระจุก พบมากในอาํ เภอท่าวงั ผาบริเวณน8าํ ใส มีโปรตีนสูงมากเทียบไดก้ บั เน8ือสตั ว์ ” จากความหมายของไกท่าวงั ผาที.ไดจ้ ากการสัมภาษณ์ภูมิปัญญาทอ้ งถ.ินสามารถสรุป ไดว้ า่ ไกท่าวงั ผา หมายถึง “ไก คือสาหร่ายน8าํ จืด สีเขียวสดมีลกั ษณะเป็ นเส้นสายยาวเป็ นกระจุกเจริญ บนกอ้ นหินและมีลกั ษณะน8าํ ท.ีใสสะอาด ซ.ึงพบมากในแม่น8าํ น่านที.บริเวณอาํ เภอท่าวงั ผา ไก มีคุณค่า ทางอาหารสูง โดยเฉพาะมีโปรตีนสูงมากเทียบไดก้ บั เน8ือสตั ว์ และไกจะเจริญเติบโตมากในช่วงฤดูหนาว ระหวา่ งเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกมุ ภาพนั ธ์ของทุกปี ” จากความหมายของไกท่าวงั ผาที.ไดจ้ ากการศึกษาเอกสาร อินเตอร์เน็ต และสัมภาษณ์ ภูมิปัญญาทอ้ งถ.ิน สามารถสรุปความหมายของไกท่าวงั ผา ไดค้ ือ “ไก เป็ นสาหร่ายสีเขียว (Green algae) อยใู่ นกลุ่ม Chlorophyta เป็นพืชช8นั ต.าํ ที.มีคลอโรฟิ ลล์ ข8ึนอยใู่ นพ8ืนทอ้ งน8าํ ซ.ึงพบมากในแม่น8าํ น่าน ที.บริเวณอาํ เภอท่าวงั ผา มีลกั ษณะเป็ นเส้นสายยาว ประมาณ 1-3 เมตร เจริญบนกอ้ นหินเป็ นกระจุก ในแหล่งน8าํ ท.ีใสสะอาด ท.ีมีความลึกระหวา่ ง 30-50 เซนติเมตร ไก เมื.อเจริญเติบโตเต็มท.ีจะมีสีเขียวสด กระจายเต็มพ8ืนทอ้ งน8าํ สามารถสังเคราะห์แสง และสร้างอาหารเองได้ มีคุณค่าทางอาหารสูง โดย เฉพาะมีโปรตีนสูงมากเทียบไดก้ บั เน8ือสตั ว์ โดยมากจะพบในฤดูหนาว ระหวา่ งเดือนพฤศจิกายนถึง เดือนกุมภาพนั ธ์ ” 2. ประวตั คิ วามเป็ นมาของไกท่าวงั ผา ได้มาจากหลายแหล่งเรียนรู้ดังนี/ 2.1 จากการศึกษาเอกสารทเ-ี กยี- วข้อง มีดังนี/ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปรรูปอาหารจากสาหร่ายน8าํ จืด (ไก) (2547:2)ไดเ้ ขียน ประวตั ิของไกท่าวงั ผา ไวว้ า่ “ไกเป็ นอาหารพ8ืนบา้ นของชาวไทล8ือมานานนบั ร้อยกวา่ ปี เพราะเป็ น วตั ถุดิบท.ีเกิดข8ึนเองตามธรรมชาติในแม่น8าํ น่านที.ใสสะอาด จะมีมากที.สุดบริเวณอาํ เภอท่าวงั ผา ต8งั แต่เดือนตุลาคมถึงเดือนเมษายน คนไทล8ือสมยั รุ่นทวด ป่ ูย่า ตายาย นาํ ไกมาปรุงอาหาร โดยการ ทาํ ห่อน.ึงไก ควั. ไก ไกแผน่ และไกยเี ท่าน8นั และสืบทอดกนั มาจนถึงปัจจุบนั ปี 2545 ครูนทั ธมน คาํ ครุฑ ร่วมกบั กลุ่มแม่บา้ นไดส้ ืบสานภูมิปัญญาที.กาํ ลงั จะหายไปจดั ต8งั กลุ่มแม่บา้ นนาํ ไกมาแปรรูปหลายๆ อยา่ ง เช่นขา้ วตงั หนา้ ไก น8าํ พริกไก คุกก8ีไก กรอบเคม็ กะหร.ีปLัป ฯลฯ ” อนุชา ไชยฮงั. (2553:24) ไดเ้ ขียนประวตั ิของไก ไวว้ า่ “ สาหร่ายไกเป็ นอาหาร พ8ืนบา้ นของชาวไทล8ือมานานนบั ร้อยกวา่ ปี เพราะเป็ นวตั ถุดิบท.ีเกิดข8ึนเองตามธรรมชาติในแม่น8าํ น่านที.ใสสะอาด เป็ นสาหร่ายน8าํ จืดสีเขียว จะพบมากที.สุดบริเวณอาํ เภอท่าวงั ผา โดยเฉพาะต8งั แต่ เดือนตุลาคมถึงเดือนเมษายน ของทุกปี คนไทล8ือสมยั รุ่นทวด ป่ ูยา่ ตายาย จะพากนั เก็บสาหร่าย

11 ที.เกิดข8ึนเองตามธรรมชาติในแม่น8าํ ของหมู่บา้ นของตนเอง และหมู่บา้ นใกลเ้ คียง แลว้ นาํ มาปรุงอาหาร เช่น การทาํ ห่อน.ึงไก การยาํ ไก เป็ นตน้ ชาวไทล8ือบา้ นหนองบวั หมู่ท.ี 5 ตาํ บลป่ าคา มีการนาํ สาหร่ายไก มารับประทานโดยการประกอบอาหารในชีวติ ประจาํ วนั จนไดม้ ีจดั ต8งั กลุ่มการแปรรูปสาหร่ายไกข8ึน เม.ือวนั ท.ี 19 ธนั วาคม 2545 โดยมีแม่บา้ นกลุ่มหน.ึงโดยการนาํ ของครูนทั ธมน คาํ ครุฑ ร่วมกนั สืบสาน ภมู ิปัญญาทอ้ งถ.ินที.กาํ ลงั สูญหายไปโดยนาํ สาหร่ายไกมาแปรรูป เพื.อเก็บไวร้ ับประทานในฤดูท.ีไม่มีไก ตามธรรมชาติ อีกท8งั เป็ นการสร้างรายไดเ้ สริมและความสามคั คีในกลุ่ม ต่อมากลุ่มแม่บา้ นนาํ ไกมา แปรรูปหลาย ๆ อยา่ งเช่น ขา้ วตงั หนา้ ไก น8าํ พริกไก คุกก8ีไก กรอบเคม็ กะหร.ีปLัป ฯลฯ” กลุ่มวสิ าหกิจชุมชนแปรรูปอาหารจากสาหร่ายน8าํ จืด(ไก) (2547:12) ไดเ้ ขียนประวตั ิ ของไก ไวว้ า่ “ไกเป็นอาหารพ8ืนบา้ นของชาวไทล8ือมานานนบั ร้อยกวา่ ปี เพราะเป็ นวตั ถุดิบท.ีเกิดข8ึนเอง ตามธรรมชาติในแม่น8าํ น่านท.ีใสสะอาด จะมีมากที.สุดบริเวณอาํ เภอท่าวงั ผา คนไทล8ือสมยั รุ่นทวด ป่ ูยา่ ตายาย นาํ ไกมาปรุงอาหาร โดยการทาํ ห่อน.ึงไก คว.ั ไก ไกแผน่ และไกยเี ท่าน8นั สืบทอดกนั มา จนถึงปัจจุบนั เพราะไกเป็ นอาหารท.ีมีคุณค่าทางโภชนาการ ทาํ ให้มีสุขภาพแข็งแรงและอายุยืน ต่อมากลุ่มแม่บา้ นนาํ ไกมาแปรรูปหลายๆอย่าง เช่น ขา้ วตงั หน้าไก น8าํ พริกไก คุกก8ีไก กรอบเค็ม กะหร.ีปัLป ฯลฯ” จากการศึกษาเอกสารที.เก.ียวขอ้ งสามารถสรุปไดว้ า่ “ประวตั ิความเป็ นมาของไก เริ.มตน้ มาจากไกเป็ นอาหารพ8ืนบ้านของชาวไทล8ือมานานนบั ร้อยกว่าปี เพราะไกเป็ นวตั ถุดิบที. เกิดข8ึนเองตามธรรมชาติในบริเวณแม่น8าํ น่าน ซ.ึงจะพบมากที.สุดในอาํ เภอท่าวงั ผา คนไทล8ือสมยั รุ่น ทวด ป่ ูยา่ ตายาย จะนาํ ไกมาปรุงอาหารในชีวิตประจาํ วนั โดยการทาํ ห่อน.ึงไก คว.ั ไก ไกแผน่ และไกยี เท่าน8ัน ทางกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบา้ นหนองบวั จึงได้รวมตวั กันจดั ต8งั กลุ่มข8ึน โดยการนาํ ของ ครูนทั ธมน คาํ ครุฑ โดยเกิดความคิดท.ีจะนาํ ไกมาแปรรูปเพื.อจาํ หน่ายและเป็ นรายไดเ้ สริมให้แก่ ครอบครัว ตลอดจนเป็ นการอนุรักษอ์ าหารพ8ืนบา้ นใหเ้ ป็ นที.รู้จกั กนั อย่างแพร่หลาย ทางกลุ่มจึงได้ นาํ ไกมาพฒั นาผลิตภณั ฑ์ โดยการแปรรูปเพิ.มเติม เช่น ขา้ วตงั หนา้ ไก น8าํ พริกไก คุกก8ีไก กรอบเค็มไก และกะหร.ีปLับไก จนสืบทอดกนั มาถึงปัจจุบนั การแปรรูปผลิตภณั ฑ์จากไก เป็ นการร่วมกนั สืบสาน ภูมิปัญญาทอ้ งถิ.นที.กาํ ลงั จะสูญหายไป รวมไปถึงเป็ นวิธีการรักษาคุณค่าของอาหารเพื.อเก็บไว้ รับประทานในฤดูท.ีไม่มีไกตามธรรมชาติ ตลอดจนเป็ นการสร้างรายไดเ้ สริม สร้างความสามคั คีให้ เกิดข8ึนในกลุ่มอีกดว้ ย”

12 2.2 จากการศึกษาจากอนิ เตอร์เน็ต ได้ข้อมูลประวตั ิความเป็ นมาของไก ดังนี/ ศิริพร คาํ หวา่ ง (2554) ไดใ้ หข้ อ้ มูลประวตั ิความเป็ นมาของไกไวว้ า่ “ไกเป็ นอาหาร พ8ืนบา้ นของชาวไทล8ือมานานนบั ร้อยกวา่ ปี เพราะเป็ นวตั ถุดิบที.เกิดข8ึนเองตามธรรมชาติในแม่น8าํ น่านท.ีใสสะอาด คนไทล8ือสมยั รุ่นทวดป่ ูยา่ ตายาย นาํ ไกมาปรุงเป็ นอาหารโดยการทาํ ห่อน.ึงไก ควั. ไก ไกแผน่ และไกยเี ท่าน8นั สืบทอดกนั มาจนถึงปัจจุบนั เพราะไกเป็นอาหารที.มีคุณค่าทางโภชนาการทาํ ใหม้ ีสุขภาพแขง็ แรงและอายุยนื ต่อมากลุ่มแม่บา้ นนาํ ไกมาแปรรูปหลายๆอยา่ ง เช่น ขา้ วตงั หนา้ ไก น8าํ พริกไก คุกก8ีไก กรอบเคม็ กะหรี.ปับ ฯลฯ กลุ่มแม่บา้ นเกษตรกรบา้ นหนองบวั จึงเกิดความคิดที.จะ นาํ มาแปรรูปเพื.อจาํ หน่ายเป็ นรายไดเ้ สริมใหแ้ ก่ครอบครัวและอนุรักษอ์ าหารพ8ืนบา้ นให้เป็ นที.รู้จกั กนั แพร่หลาย” นทั ธมน คาํ ครุฑ (2552) ไดใ้ ห้ขอ้ มูลประวตั ิความเป็ นมาของไกไวว้ า่ “ไกหรือ สาหร่ายน8าํ จืด เป็ นอาหารพ8ืนบา้ นของชาวไทล8ือบา้ นหนองบวั ต.ป่ าคา อ.ท่าวงั ผา จ.น่าน มานานนบั ร้อยกว่าปี เพราะเป็ นวตั ถุดิบท.ีเกิดข8ึนเองตามธรรมชาติในแม่น8ําน่านที.ใสสะอาดจะมีมากที.สุด บริเวณอาํ เภอท่าวงั ผา ต8งั แต่เดือนตุลาคม ถึงเมษายน คนไทล8ือสมยั รุ่นทวด ป่ ูยา่ ตายาย นาํ ไกมาปรุง อาหารโดยการทาํ ห่อน.ึงไก ควั. ไก ไกแผ่นและไกยีเท่าน8ัน 9 ธันวาคม 2545 ครูนทั ธมน คาํ ครุฑ ร่วมกบั กลุ่มแม่บา้ นได้ สืบสานภูมิปัญญาที.กาํ ลงั จะสูญหายไปต8งั คณะกรรมการกลุ่มแม่บา้ นนาํ ไก มาแปรรูปเพ.ิมข8ึนไดห้ ลายๆอยา่ งเช่น ขา้ วตงั หนา้ ไก น8าํ พริกไก คุกก8ีไก กรอบเคม็ กะหร.ีปัLบ ฯลฯ ” ธงชยั พุม่ พวง (2548) ไดใ้ หข้ อ้ มูลประวตั ิความเป็ นมาของไกไวว้ า่ “เกษตรกรและ สมาชิกกลุ่มแม่บา้ นเกษตรกรบา้ นหนองบวั หมู่ท.ี 5 ตาํ บลป่ าคา อาํ เภอท่าวงั ผา จงั หวดั น่าน เป็ นกลุ่ม ประชาชนและแม่บา้ นท.ีมีเช8ือสายไทยล8ือมาแต่ดึกดาํ บรรพ์ มีขนบธรรมเนียมประเพณี การละเล่น พ8ืนบา้ น การแต่งกาย ภาษาพูด ฯลฯ ท.ีสืบทอดกนั มาช้านาน โดยเฉพาะอาหารการกิน ชาวไทยล8ือ รู้จกั คุณค่าของสาหร่ายน8าํ จืดชนิดน8ีและนาํ มาประกอบอาหารต8งั แต่บรรพบุรุษ โดยเฉพาะบริโภค กนั ในครัวเรือน จนกระทงั. วนั ท.ี 9 ธนั วาคม 2545 ไดร้ ับคาํ แนะนาํ จากเจา้ พนกั งานเคหกิจเกษตร สํานักงานเกษตร อาํ เภอท่าวงั ผา ทาํ การแปรรูปเพ.ือการบริโภคและจาํ หน่ายเป็ นรายไดเ้ สริมแก่ สมาชิก อีกท8งั ยงั เป็นการอนุรักษอ์ าหารพ8ืนบา้ นใหเ้ ป็นท.ีรู้จกั แก่คนทว.ั ไประดบั ประเทศ จึงเกิดกลุ่ม แปรรูปอาหารจากสาหร่ายน8าํ จืด จนถึงปัจจุบนั มีสมาชิกจาํ นวน 180 คนไดร้ ับการคดั สรรให้เป็ น ผลิตภณั ฑ์ “หน.ึงตาํ บล หน.ึงผลิตภณั ฑ์” ระดับ 4 ดาว ผลิตภณั ฑ์ที.จาํ หน่าย ไดแ้ ก่ สาหร่ายแผ่น ทรงเคร.ือง สาหร่ายเลิศรส (ไกย)ี ห่อหมกไก (ห่อน.ึงไก) กะหร.ีปLับสาหร่ายไก กรอบเคม็ สาหร่ายไก ขา้ วตงั หนา้ สาหร่ายไก กลว้ ยตากผสมสาหร่ายไก น8าํ พริกน8าํ ผกั น8าํ พริกปลาร้าตาแดง น8าํ พริกข่า น8าํ พริกไก”

13 จากการศึกษาทางอินเตอร์เน็ตสามารถสรุปขอ้ มูลประวตั ิความเป็ นมาของไก ไดว้ ่า “ไกหรือสาหร่ายน8าํ จืด เป็ นอาหารพ8ืนบา้ นของชาวไทล8ือบา้ นหนองบวั ต.ป่ าคา อ.ท่าวงั ผา จ.น่าน มานานนบั ร้อยกวา่ ปี เพราะเป็ นวตั ถุดิบท.ีเกิดข8ึนเองตามธรรมชาติในแม่น8าํ น่าน และจะพบ มากที.สุดในบริเวณอาํ เภอท่าวงั ผา คนไทล8ือสมยั รุ่นทวด ป่ ูยา่ ตายาย นาํ ไกมาปรุงอาหารโดยการทาํ ห่อน.ึงไก ควั. ไก ไกแผ่นและไกยีเท่าน8นั จนกระทงั. วนั ที. 9 ธันวาคม 2545 ครูนทั ธมน คาํ ครุฑ ได้ จดั ต8งั คณะกรรมการกลุ่มแม่บา้ น เพื.อนาํ ไกมาแปรรูป โดยไดร้ ับคาํ แนะนาํ จากเจา้ พนกั งานเคหกิจ เกษตร สํานกั งานเกษตร อาํ เภอท่าวงั ผา ทาํ การแปรรูปไกเพื.อการบริโภคและจาํ หน่ายเป็ นรายได้ เสริมแก่สมาชิก อีกท8งั ยงั เป็ นการอนุรักษอ์ าหารพ8ืนบา้ นและภูมิปัญญาทอ้ งถิ.นให้เป็ นท.ีรู้จกั แก่คน ทว.ั ไปในระดบั ประเทศ ปัจจุบนั ทางกลุ่มมีสมาชิกจาํ นวน 180 คน และไดร้ ับการคดั สรรให้เป็ น ผลิตภณั ฑ์ \" หน.ึงตาํ บล หน.ึงผลิตภณั ฑ์ \" ระดบั 4 ดาว โดยผลิตภณั ฑท์ ี.จาํ หน่าย ไดแ้ ก่ สาหร่ายแผน่ ทรงเครื.อง สาหร่ายเลิศรส (ไกย)ี ห่อหมกไก (ห่อน.ึงไก) กะหรี.ปLับสาหร่ายไก กรอบเค็มสาหร่ายไก คุกก8ีไก ขา้ วตงั หน้าสาหร่ายไก กล้วยตากผสมสาหร่ายไก น8ําพริกน8ําผกั น8าํ พริกปลาร้าตาแดง น8าํ พริกข่า และน8าํ พริกไก ” 2.3จากการสัมภาษณ์ภูมปิ ัญญาท้องถนิ- ได้ให้ข้อมูลประวตั ไิ กท่าวงั ผา จํานวน3คนดังนี/ นงเยาว์ ปรารมภ์ (2554) ไดใ้ หข้ อ้ มลู ในวนั ที. 28 ธนั วาคม 2554 ณ ที.ทาํ การกลุ่ม แปรรูปผลิตภณั ฑส์ าหร่ายน8าํ จืดบา้ นหนองบวั หมู่ที. 5 ตาํ บลป่ าคา เวลา 13.15 น.ไวว้ า่ “เดิมสมาชิก กลุ่ม แปรรูปผลิตภณั ฑ์สาหร่ายน8าํ จืดบา้ นหนองบวั มีอาชีพเกษตรกรรม พอมีการรวมกลุ่มโดย คณะกรรมการแม่บา้ น ซ.ึงร่วมกนั จดั ต8งั กลุ่มข8ึนจึงไดห้ นั มาสนใจแลว้ เขา้ เป็ นสมาชิกกลุ่ม แรกเริ.ม ทางกลุ่มได้รับการสนบั สนุนส่งเสริมอาชีพในชุมชนและคาํ แนะนาํ จาก เจา้ หน้าท.ีในสํานกั งาน เกษตรอาํ เภอท่าวงั ผา ส่งเสริมการแปรรูปไก เพ.ือบริโภคและจาํ หน่ายเพ.ือเป็ นรายไดเ้ สริมแก่สมาชิก เพราะทางกลุ่มเห็นวา่ ไกมีอยมู่ ากในลาํ น8าํ น่านอยแู่ ลว้ อีกท8งั ยงั เป็ นการอนุรักษอ์ าหารพ8ืนบา้ นโดย ใชภ้ ูมิปัญญาทอ้ งถิ.นอีกดว้ ย” ติLบ ภิมาลย์ (2554) ไดใ้ หข้ อ้ มูลในวนั ที. 28 ธนั วาคม 2554 ณ ท.ีทาํ การกลุ่มแปรรูป ผลิตภณั ฑส์ าหร่ายน8าํ จืดบา้ นหนองบวั หมู่ท.ี 5 ตาํ บลป่ าคา เวลา 13.35 น. ไวว้ ่า “ทางกลุ่มแปรรูป ผลิตภณั ฑ์สาหร่ายน8ําจืด บา้ นหนองบวั ไดเ้ ร.ิมก่อต8งั คร8ังแรกเฉพาะกลุ่มคณะกรรมการแม่บา้ น จาํ นวน 20 คน ซ.ึงส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกรรมเป็ นหลกั โดยทางกลุ่มเห็นว่าสาหร่ายไกท.ี เจริญเติบโตในแม่น8ําน่านมีจาํ นวนมากพอที.จะนาํ มาแปรรูป เพ.ือรักษาคุณค่าทางอาหารไว้ จึง ร่วมกนั ก่อต8งั กลุ่มแปรรูปผลิตภณั ฑส์ าหร่ายน8าํ จืดข8ึน นาํ โดย ครูนทั ธมน คาํ ครุฑ เม.ือปี 2545 โดยใน เริ.มแรกก่อต8งั ทางกลุ่มยงั ไม่มีอุปกรณ์ใดๆท.ีทนั สมยั ตอ้ งใช้แรงงานคนเป็ นหลกั ต่อมาไดร้ ับการ

14 สนบั สนุนจากหน่วยงานราชการต่างๆ จนมีอุปกรณ์ท.ีทนั สมยั มีเงินทุนหมุนเวียน และมีการพฒั นา ผลิตภณั ฑใ์ หม้ ีชื.อเสียงยกระดบั เป็นสินคา้ “หน.ึงตาํ บล หน.ึงผลิตภณั ฑ”์ ใหเ้ ป็นท.ีรู้จกั โดยทว.ั ไป” ต่อม จนั ต๊ะยอด (2554) ไดใ้ หข้ อ้ มูลในวนั ท.ี 28 ธนั วาคม 2554 ณ ท.ีทาํ การกลุ่ม แปรรูปผลิตภณั ฑส์ าหร่ายน8าํ จืดบา้ นหนองบวั หมู่ที. 5 ตาํ บลป่ าคา เวลา 12.10 น. ไวว้ า่ “ในช่วงแรกกลุ่ม แปรรูปผลิตภณั ฑส์ าหร่ายน8าํ จืด บา้ นหนองบวั ไดใ้ ชภ้ ูมิปัญญาทอ้ งถิ.น ทางดา้ นอาหารจาก บรรพบุรุษ ท.ีสืบทอดกนั มาแปรรูปไกที.มีมากในบริเวณลาํ น8าํ น่านเขา้ สู่ตลาดเพื.อจาํ หน่าย โดยไดร้ ับการสนบั สนุน จากหน่วยงานราชการ ต่อมาก็ได้พฒั นาผลิตภณั ฑ์ให้มีคุณภาพ มีความหลากหลาย ทาํ ให้กลุ่มมี ชื.อเสียงมากข8ึน ส่งผลใหร้ ายไดข้ องสมาชิกกลุ่มเพิ.มข8ึนอีกดว้ ย” จากการสัมภาษณ์ภมู ิปัญญาทอ้ งถิ.น สามารถสรุปประวตั ิไกท่าวงั ผา ไดว้ า่ “เร.ิมแรก สมาชิกกลุ่มแปรรูปผลิตภณั ฑส์ าหร่ายน8าํ จืดบา้ นหนองบวั ส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกรรมเป็ นหลกั และ ทางกลุ่มเห็นวา่ ไกที.เจริญเติบโตในแม่น8าํ น่านมีจาํ นวนมากพอท.ีจะนาํ มาแปรรูปเป็ นผลิตภณั ฑ์และ ยงั เป็นการอนุรักษอ์ าหารพ8ืนบา้ นโดยใชภ้ ูมิปัญญาทอ้ งถิ.น จึงไดร้ ่วมกนั ก่อต8งั กลุ่มข8ึน ในปี พ.ศ.2545 โดยการรวมกลุ่มของคณะกรรมการแม่บา้ นหมู่บา้ นหนองบวั จาํ นวน 20 คน นาํ โดยครูนทั ธมน คาํ ครุฑ ผูร้ ิเริ.มก่อต8งั กลุ่ม โดยระยะแรกท.ีเริ.มก่อต8งั ทางกลุ่มตอ้ งใช้แรงงานคนเป็ นหลัก ในการแปรรูป ผลิตภณั ฑ์ต่อมาจึงไดร้ ับการสนบั สนุนจากหน่วยงานราชการต่างๆ รวมไปถึงไดร้ ับคาํ แนะนาํ จาก เจา้ หนา้ ท.ีในสาํ นกั งานเกษตรอาํ เภอท่าวงั ผา จึงเร.ิมมีอุปกรณ์ที.ทนั สมยั มีเงินทุนหมุนเวยี น ส่งผลให้ ทางกลุ่มไดพ้ ฒั นาผลิตภณั ฑ์ให้มีคุณภาพ มีความหลากหลายยิ.งข8ึน จนสามารถยกระดบั สินคา้ เป็ น “หน.ึงตาํ บล หน.ึงผลิตภณั ฑ์” ช่วยเพิ.มรายได้ของสมาชิกในกลุ่มให้เพ.ิมมากข8ึนตลอดจน สามารถสร้างช.ือเสียงของกลุ่มใหเ้ ป็นที.รู้จกั โดยทว.ั ไป” จากประวตั ิของไกท่าวงั ผาท.ีไดจ้ ากการศึกษาเอกสาร อินเตอร์เน็ต และสัมภาษณ์ ภมู ิปัญญาทอ้ งถิ.น สามารถสรุปประวตั ิของไก ไดค้ ือ “ไกหรือสาหร่ายน8าํ จืด เป็นอาหารพ8ืนบา้ นของ ชาวไทล8ือบา้ นหนองบวั ต.ป่ าคา อ.ท่าวงั ผา จ.น่าน มานานนบั ร้อยกว่าปี เพราะไกเป็ นวตั ถุดิบที. เกิดข8ึนเองตามธรรมชาติในแม่น8าํ น่าน โดยพบมากท.ีสุดในบริเวณอาํ เภอท่าวงั ผา คนไทล8ือสมยั รุ่น ทวด ป่ ูยา่ ตายาย ไดน้ าํ ไกมาปรุงอาหารโดยการทาํ ห่อน.ึงไก ควั. ไก ไกแผน่ และไกยเี ท่าน8นั ต่อมาใน ปี 2545 กลุ่มแม่บา้ นเกษตรกรบา้ นหนองบวั ไดร้ วมกลุ่มคณะกรรมการแม่บา้ น จาํ นวน 20 คน ได้ จดั ต8งั กลุ่มแปรรูปไกข8ึน โดยใชช้ .ือวา่ “กลุ่มแปรรูปผลิตภณั ฑ์สาหร่ายน8าํ จืดบา้ นหนองบวั ” โดยการ นาํ ของ ครูนทั ธมน คาํ ครุฑ และเกิดแนวความคิดที.จะนาํ ไกมาแปรรูปเป็ นผลิตภณั ฑ์ เพราะทาง สมาชิกกลุ่มเห็นว่าไกที.เจริญเติบโตในแม่น8าํ น่านมีจาํ นวนมากพอท.ีจะนาํ มาแปรรูปเพื.อเป็ นการ อนุรักษอ์ าหารพ8ืนบา้ นโดยการใชภ้ มู ิปัญญาทอ้ งถิ.น ในช่วงแรกทางกลุ่มไดร้ ับคาํ แนะนาํ จาก

15 เจา้ พนกั งานเคหกิจเกษตร สํานกั งานเกษตรอาํ เภอท่าวงั ผา ทาํ การแปรรูปเพ.ือการบริโภคและจดั จาํ หน่ายให้เป็ นรายได้เสริมแก่สมาชิก โดยแรกเริ.มตอ้ งใช้แรงงานคนเป็ นหลัก ในการแปรรูป ผลิตภณั ฑ์ต่อมาไดร้ ับการสนบั สนุนจากหน่วยงานราชการต่างๆ จึงมีอุปกรณ์ท.ีทนั สมยั มีเงินทุน หมุนเวียนส่งผลให้ทางกลุ่มไดพ้ ฒั นาผลิตภณั ฑ์ให้มีคุณภาพ มีความหลากหลาย ยกระดบั สินคา้ “หน.ึงตาํ บล หน.ึงผลิตภณั ฑ์” ระดบั 4 ดาว เป็ นท.ีรู้จกั แก่คนทว.ั ไปในระดบั ประเทศ และในปัจจุบนั ทางกลุ่มมีสมาชิกจาํ นวน 180 คน สมาชิกมีรายได้เพิ.มข8ึน โดยผลิตภณั ฑ์ที.ทางกลุ่มจดั จาํ หน่าย ไดแ้ ก่ สาหร่ายแผน่ ทรงเครื.อง สาหร่ายเลิศรส (ไกย)ี ห่อหมกไก (ห่อน.ึงไก) กะหร.ีปัLบสาหร่ายไก กรอบเคม็ สาหร่ายไก คุกก8ีไก ขา้ วตงั หนา้ สาหร่ายไก กลว้ ยตากผสมสาหร่ายไก น8าํ พริกไก ” การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. การบรรยาย 2. การศึกษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง 3. สมั ภาษณ์ภมู ิปัญญา ตามใบงานท.ี 1 การวดั และประเมนิ ผล 1. ประเมินความกา้ วหนา้ 1.1 สัมภาษณ์ 1.2 สงั เกต 2. ประเมินผลรวม 2.1 ทาํ แบบทดสอบปลายภาค

16 เร-ืองที- < ความสําคญั ของไก สาระสําคญั 1. ความสําคัญของไกด้านโภชนาการ ไกมีคุณค่าของสารอาหารพ8ืนฐาน วติ ามินและเกลือแร่ พบว่าไกมีโปรตีนค่อนขา้ งสูง มีเส้นใยอยู่ในปริมาณท.ีพอเหมาะมากกว่าผกั หรือผลไมท้ ว.ั ไป คาร์โบไฮเดรตวติ ามินบีโดยเฉพาะบี 2 กรดโฟลิคและกรดแพนโทธีนิก ซ.ึงเป็ นกลุ่มวติ ามินท.ีสําคญั อยใู่ นปริมาณท.ีเหมาะสม นบั ไดว้ า่ ไกมีคุณค่าทางโภชนาการโดยทวั. ไปสูงกวา่ ผกั และผลไม้ ซ.ึงถือ ไดว้ า่ เป็นอาหารกลุ่มที.ใหโ้ ปรตีน เส้นใย และวติ ามินค่อนขา้ งสูงทีเดียว คุณค่าของไก มีปริมาณโปรตีนสูงกว่าปลาน8าํ จืดทวั. ไป ทดแทนการกินปลาไดเ้ ป็ น อยา่ งดี และที.โดดเด่นคือ มีซิลีเนียม ซ.ึงเป็ นสารป้ องกนั การเกิดอนุมูลอิสระสูงมาก มีเบตา้ แคโรทีน ที.มากกวา่ แครอทถึง 4 เท่า ช่วยลดคลอเลสเตอรอลจึงไม่ทาํ ใหอ้ ว้ น 2. ความสําคัญของไกด้านเภสัชกรรม ไกมีคุณสมบตั ิเป็ นยาอายุวฒั นะนอกจากจะรักษาโรค ต่างๆ เช่น โรคมะเร็ง ระบายความร้อน ดบั กระหาย รักษาพิษของแผลสดอนั เนื.องจากบาดแผลจากคม มีดหรือจากแมลงสัตวก์ ดั ต่อย การเกิดแผลในกระเพาะอาหาร ทาํ ใหร้ ่างกายกระชุ่มกระชวยชะลอ ความแก่ ผมดกดาํ ไม่หงอกง่าย อีกท8งั ยงั มีแนวโนม้ ท.ีมีฤทธbิยบั ย8งั การหดเกร็งของกลา้ มเน8ือ ขยาย หลอดลม การอกั เสบ ระงบั ปวดและลดความดนั โลหิต 3. ความสําคัญของไกวฒั นธรรมด้านอาหาร ไกเป็ นอาหารของคนในทอ้ งถิ.นของคนทาง ภาคเหนือโดยเฉพาะจงั หวดั น่าน แพร่ ลาํ ปาง เชียงราย พบมากในลาํ น8าํ โขง อาํ เภอเชียงของจงั หวดั เชียงราย และในลาํ น8าํ น่าน อาํ เภอท่าวงั ผา จงั หวดั น่าน ทาํ ให้เกิดภูมิปัญญาชาวบา้ นนําไกมา รับประทานเป็ นอาหารหลากหลายชนิด มีท8งั การนาํ มารับประทานสด การนาํ มาแปรรูปเป็ นอาหาร สดคาวหรือการนาํ มาตากแหง้ แลว้ จึงนาํ มาแปรรูป อาหารด8งั เดิมที.ชาวบา้ นท8งั 2 แหล่งน8าํ ทาํ มาจาก ไก คือ “ไกย”ี และ “ห่อน.ึงไก” ต่อมาก็มีการประยกุ ตโ์ ดยการแปรรูปไกใหเ้ ป็ นไกแผน่ กรอบปรุงรส ขา้ วเกรียบไก ขนมปังไก เส้นบะหม.ีไก หมยู อไก ลูกชิ8นหมไู ก น8าํ พริกไก เป็นตน้ 4. ความสําคัญของไกด้านเศรษฐกจิ ผลิตภณั ฑ์การแปรรูปไกเป็ นสินคา้ พ8ืนบา้ นเป็ นสินคา้ หน.ึงตาํ บลหน.ึงผลิตภณั ฑ์ระดบั ส.ีดาว และจาํ หน่ายเป็ นอาหาร สินคา้ ของฝากสําหรับบุคคลหรือ ญาติมิตร ทาํ ใหเ้ ป็นท.ีรู้จกั มากยงิ. ข8ึน ส่งผลใหย้ อดการจาํ หน่ายมากข8ึนและทาํ ใหม้ ีรายไดเ้ พ.ิมข8ึนจาก การจาํ หน่าย

17 ผลการเรียนรู้ทค-ี าดหวงั 1. อธิบายความสาํ คญั ของไกดา้ นโภชนาการ วฒั นธรรมดา้ นอาหารและดา้ นเศรษฐกิจได้ 2. ตระหนกั ถึงความสาํ คญั ของไก ขอบข่ายเนือ/ หา 1. ความสําคญั ของไกด้านโภชนาการ มีคุณค่าของสารอาหารพนื/ ฐาน วติ ามินและเกลือแร่ดงั น8ี คณะวิจยั ของ รองศาสตราจารย์ ดร. ยุวดี พีรพรพิศาล (2552) ไดท้ าํ การวิเคราะห์ คุณค่าทางโภชนาการของสาหร่ายไกไวอ้ ย่างละเอียดดงั ขอ้ มูลที.แสดงไว้ พบว่าสาหร่ายชนิดน8ีมี โปรตีนค่อนขา้ งสูงถึง 20% มีเส้นใยอยใู่ นปริมาณท.ีพอเหมาะมากกวา่ ผกั หรือผลไมท้ ว.ั ไป คือ มี 21% มีคาร์โบไฮเดรตราว 31% มีวติ ามินบีโดยเฉพาะบี 2 ถึง 355 ไมโครกรัมต่อ 100 กรัม นอกจากน8นั ก็ มีกรดโฟลิคและกรดแพนโทธีนิก ซ.ึงเป็ นกลุ่มวติ ามินที.สาํ คญั อยใู่ นปริมาณที.เหมาะสมอีกดว้ ย นบั ไดว้ า่ สาหร่ายไกมีคุณค่าทางโภชนาการโดยทว.ั ไปสูงกวา่ ผกั และผลไม้ ซ.ึงถือไดว้ า่ เป็ นอาหารกลุ่มท.ี ใหโ้ ปรตีน เส้นใย และวติ ามินค่อนขา้ งสูงทีเดียว คุณค่าของไก มีปริมาณโปรตีนสูงกว่าปลาน8าํ จืดทว.ั ไป ทดแทนการกินปลาไดเ้ ป็ น อยา่ งดี และท.ีโดดเด่นคือ มีซิลีเนียม ซ.ึงเป็ นสารป้ องกนั การเกิดอนุมูลอิสระสูงมาก มีเบตา้ แคโรทีนที. มากกวา่ แครอทถึง 4 เท่า ช่วยลดคลอเลสเตอรอลจึงไม่ทาํ ให้อว้ น คุณค่าทางโภชนาการของสาหร่ายไก ไดแ้ สดงไวใ้ นตารางดงั น8ี คุณค่าทางโภชนาการของไก ปริมาณ สารอาหารพืน/ ฐาน (กรัม/100 กรัม นํา/ หนักแห้ง) ความช8ืน 6.61 ไขมนั 6.14 โปรตีน 20.60 กาก (ใยอาหาร) 21.20 เถา้ 14.20 คาร์โบไฮเดรต (โดยการคาํ นวณ) 31.25 ค่าพลงั งานความร้อน (กิโลกรัม/100 กรัม น8าํ หนกั แหง้ ) 262.70 วติ ามิน (ไมโครกรัม/100 กรัม นํา/ หนักแห้ง) วติ ามินบี 1 7.30 วติ ามินบี 2 355.60 กรดโฟลิก 128.20

18 คุณค่าทางโภชนาการของไก ปริมาณ 349.30 กรดแพนโทธีนิก 21.60 วติ ามินซี ไนอะซิน (มิลลิกรัม/100 กรัม น8าํ หนกั แหง้ ) 4.59 เกลอื แร่ (มิลลกิ รัม/100 กรัม นํา/ หนักแห้ง) แคลเซียม 768.00 โซเดียม 474.30 โพแทสเซียม (กรัม/100 กรัม น8าํ หนกั แหง้ ) คลอโรด์ (กรัม/100 กรัม น8าํ หนกั แหง้ ) 2.61 แมกนีเซียม 1.04 แมงกานีส 194.80 เหลก็ 21.20 สงั กะสี 195.20 ทองแดง (ไมโครกรัม/100 กรัม น8าํ หนกั แหง้ ) 1.13 ซีลีเนียม (ไมโครกรัม/100 กรัม น8าํ หนกั แหง้ ) 250.00 9.60 อนุชา ไชยฮงั. (2553:22) จากผลการวิเคราะห์คุณค่าทางโภชนาการของสาหร่ายไก พบวา่ มีคุณค่าทางโภชนาการค่อนขา้ งสูง โดยมีโปรตีนสูงใกลเ้ คียงกบั เน8ือปลา ที.น่าสนใจคือกากหรือ ใยอาหาร ซ.ึงค่อนขา้ งสูงกว่าในผกั ทว.ั ๆ ไปและมากกว่าผลไมบ้ างชนิด ในกลุ่มของวิตามิน วิตามีนซี มากที.สุดซ.ึงเป็นปริมาณใกลเ้ คียงกบั ผลไมป้ ระเภทส้ม ไนอะซินจะมีปริมาณค่อนขา้ งสูง วิตามีนบี 2 และกรดแพนโทธีนิก เป็ นกลุ่มวิตามีนอีก 2 ชนิดที.มีปริมาณมาก รองลงมาอีกคือ กรดโฟลิก ส่วนกลุ่ม เกลือแร่ โปตสั เซียม มีมากท.ีสุด รองลงมาคือ คลอไรด์ แคลเซียม โซเดียม เหล็ก และแมกนีเซียม มี มากพอๆ กบั ผกั ทว.ั ไป ส่วนซีลีเนียมซ.ึงไดช้ .ือวา่ เป็นสารตา้ นอนุมูลอิสระท.ีรู้จกั กนั ดีมีอยใู่ นสาหร่ายไก เป็นปริมาณพอสมควร ซ.ึงสูงกวา่ พชื ผกั บางชนิด จากการศึกษาคุณค่าทางโภชนาการของอาหารไทย (กรมอนามยั , 2545) โดยนาํ การบริโภคผกั และผลไมม้ าเปรียบเทียบกับสาหร่ายไกพบว่าถ้ารีบ รับประทานสาหร่ายไกสดจะไดร้ ับสารอาหารใกลเ้ คียงกบั การรับประทานผกั และผลไมท้ ว.ั ไป แต่ถา้ รับประทานสาหร่ายไกแหง้ ในปริมาณใกลเ้ คียงกบั สาหร่ายสดจะใหค้ ุณค่าทางโภชนาการสูงกวา่ ผกั และผลไมท้ ว.ั ไป ไม่ว่าจะเป็ นกลุ่มสารอาหารพ8ืนฐานทุกชนิดโดยเฉพาะโปรตีนและใยอาหาร รวมท8งั กลุ่มวติ ามินและเกลือแร่ คุณค่าทางโภชนาการของสาหร่ายไกไดแ้ สดงไวใ้ นตารางดงั น8ี

19 คุณค่าทางโภชนาการของไก ปริมาณ สารอาหารพืน/ ฐาน (กรัม/100 กรัม นํา/ หนักแห้ง) ความช8ืน 6.61 ไขมนั 4.63 โปรตีน 19.90 กาก (ใยอาหาร) 21.50 เถา้ 16.90 คาร์โบไฮเดรต (โดยการคาํ นวณ) 30.8 ค่าพลงั งานความร้อน (กิโลกรัม/100 กรัม น8าํ หนกั แหง้ ) 262.70 วติ ามนิ (ไมโครกรัม/100 กรัม นํา/ หนักแห้ง) วติ ามินบี 1 0.12 วติ ามินบี 2 0.45 กรดโฟลิก 0.14 กรดแพนโทธีนิก 0.30 วติ ามินซี 14.2 ไนอะซิน (มิลลิกรัม/100 กรัม น8าํ หนกั แหง้ ) 4.40 เกลอื แร่ (มิลลกิ รัม/100 กรัม นํา/ หนักแห้ง) แคลเซียม 856.00 โซเดียม 595.60 โปตสั เซียม (กรัม/100 กรัม น8าํ หนกั แหง้ ) 3.61 คลอโรด์ (กรัม/100 กรัม น8าํ หนกั แหง้ ) 1.30 แมกนีเซียม 182.60 แมงกานีส 13.28 เหลก็ 178.60 สงั กะสี 0.89 ทองแดง (ไมโครกรัม/100 กรัม น8าํ หนกั แหง้ ) 0.28 ซีลีเนียม (ไมโครกรัม/100 กรัม น8าํ หนกั แหง้ ) 460.40 ชรินรัตน์ อุดเมืองคาํ (2552:7) สาหร่ายไกมีโปตีน กากใยอาหาร ไขมนั วติ ามินและ เกลือแร่ นอกจากน8นั สาหร่ายไกยงั มีซีลีเนียมซ.ึงเป็ นเกลือแร่ที.สามารถตา้ นการเกิดอนุมูลอิสระใน ปริมาณที.สูงมากคุณค่าทางโภชนาการของสาหร่ายไกไดแ้ สดงไวใ้ นตารางดงั น8ี

20 สารอาหารพนื/ ฐาน ปริมาณ(กรัม/100 กรัม นํา/ หนักแห้ง) ความช8ืน 6.61 ไขมนั 3.12 โปรตีน(N×6.25) hi.jk กาก (ใยอาหาร) lh.ik คาร์โบไฮเดรต (โดยการคาํ นวณ) 30.34 วติ ามิน (ไมโครกรัม/100 กรัม นํา/ หนักแห้ง) วติ ามินเอ ไม่พบ วติ ามินซี (มิลลิกรัม/100 กรัม น8าํ หนกั แหง้ ) 6.78 วติ ามินบี 1 hmi.nk วติ ามินบี 2 541.10 เกลอื แร่ (มิลลกิ รัม/100 กรัม นํา/ หนักแห้ง) แคลเซียม 943.90 โซเดียม 716.90 แมกนีเซียม 170.50 เหลก็ 162.00 ซีลีเนียม (ไมโครกรัม/100 กรัม น8าํ หนกั แหง้ ) 460.40 ดดั แปลงมาจากความก้าวหน้าโครงการวิจยั . (2547). ศกั ยภาพของสาหร่ายน8าํ จืด ขนาดใหญ่ : นานาสตั วน์ 8าํ ปี ท.ี 8. ฉบบั ท.ี 2 จากการศึกษาคน้ ควา้ จากอินเทอร์เน็ตท.ีเกี.ยวขอ้ งสามารถสรุปไดว้ า่ ไกมีมีคุณค่าของ สารอาหารพ8ืนฐาน วติ ามินและเกลือแร่ ซ.ึงคุณค่าทางโภชนาการสูงกวา่ ผกั และผลไมท้ วั. ไป ไม่วา่ จะเป็ น กลุ่มสารอาหารพ8ืนฐานทุกชนิดโดยเฉพาะโปรตีนและใยอาหาร รวมท8งั กลุ่มวติ ามินและเกลือแร่ จากการสัมภาษณ์ภมู ิปัญญาทอ้ งถิ.นไดใ้ หข้ อ้ มูลความสาํ คญั ของไกท.ีมีต่อโภชนาการดงั น8ี ต่อม จนั ตะ๊ ยอด (2554) ไดใ้ ห้ขอ้ มูลในวนั ท.ี 28 ธนั วาคม 2554 ณ ท.ีทาํ การกลุ่มแปรรูป ผลิตภณั ฑส์ าหร่ายน8าํ จืด บา้ นหนองบวั หมู่ที. 5 ตาํ บลป่ าคา อาํ เภอท่าวงั ผา จงั หวดั น่าน เวลา 13.30น. ไวว้ า่ “ไกเป็นอาหารที.มีประโยชน์ต่อร่างกาย มีโปรตีนสูง รับประทานแลว้ ทาํ ใหร้ ่างกายแขง็ แรง” ติLบ ภิมาลย์ (2554) ไดใ้ ห้ขอ้ มูลในวนั ท.ี 28 ธันวาคม 2554 ณ ที.ทาํ การกลุ่มแปรรูป ผลิตภณั ฑ์สาหร่ายน8าํ จืด บา้ นหนองบวั หมู่ที. 5 ตาํ บลป่ าคา อาํ เภอท่าวงั ผา จงั หวดั น่าน เวลา 13.30 น. ไวว้ า่ “ เมื.อรับประทานไกแลว้ ทาํ ใหร้ ่างกายแขง็ แรง เพราะไกมีวิตามินเหมือนผกั หรือผลไมท้ ว.ั ไป มีโปรตีนสูง และหาไดง้ ่ายจากลาํ น8าํ น่านใกลบ้ า้ น ”

21 บุญชู เทพเสน (2554) ไดใ้ ห้ขอ้ มูลในวนั ท.ี 28 ธนั วาคม 2554 ณ ที.ทาํ การกลุ่มแปรรูป ผลิตภณั ฑส์ าหร่ายน8าํ จืด บา้ นหนองบวั หมู่ที. 5 ตาํ บลป่ าคา อาํ เภอท่าวงั ผา จงั หวดั น่าน เวลา 13.30 น. ไวว้ า่ “เม.ือรับประทานไกแลว้ ร่างกายจะแขง็ แรง มีโปรตีนสูงเหมือนเน8ือปลา และมีวิตามินเหมือน ผกั ทวั. ไป” จากการสัมภาษณ์ภูมิปัญญาท้องถิ.นสรุปได้ว่า ไกใช้รับประทานเป็ นอาหารซ.ึงมี คุณค่าทางโภชนาการคือ เมื.อรับประทานแลว้ ร่างกายจะแขง็ แรง เพราะสารอาหารในไกมีโปรตีนสูง และมีวติ ามินเหมือนผกั หรือผลไมท้ ว.ั ไป 2. ความสําคญั ของไกด้านเภสัชกรรม ชรินรัตน์ อุดเมืองคาํ (2552:7) ไดเ้ ขียนความสําคญั ของไกดา้ นเภสัชกรรม ไวว้ ่า “ชาวบา้ นโดยทว.ั ไปนิยมนาํ มาบริโภคกนั มาก เพราะเช.ือวา่ ไกมีคุณสมบตั ิเป็ นยาอายุวฒั นะนอกจาก จะรักษาโรคต่างๆ เช่น โรคมะเร็ง ระบายความร้อน ดบั กระหาย รักษาพิษของแผลสด อนั เนื.องจาก บาดแผลจากคมมีด หรือจากแมลงสัตวก์ ดั ต่อยแลว้ ยงั ทาํ ให้ร่างกายกระชุ่มกระชวย ชะลอความแก่ ผมดกดาํ ไม่หงอกง่าย” ยวุ ดี พรี พรพศิ าล (2547) ไดเ้ ขียนความสาํ คญั ของไกดา้ นเภสัชกรรม ไวว้ า่ ฤทธbิทาง ยาของไก ศกั ยภาพของไกในการนาํ มาเป็ นยารักษาโรคน8นั ไดศ้ ึกษาฤทธbิทางเภสัชวิทยาพบวา่ ฤทธbิ ด้านการเกิดแผลในกระเพาะอาหารอย่างชัดเจนและมีแนวโน้มที.มีฤทธbิยบั ย8งั การหดเกร็งของ กลา้ มเน8ือ ขยายหลอดลม ดา้ นการอกั เสบ ระงบั ปวดและลดความดนั โลหิต จากที.ผูร้ ู้ได้ให้ข้อมูลความสําคัญของไกด้านเภสัชกรรมสามารถสรุปได้ว่าไกมี คุณสมบตั ิเป็นยาอายวุ ฒั นะนอกจากจะรักษาโรคต่างๆ เช่น โรคมะเร็ง ระบายความร้อน ดบั กระหาย รักษาพษิ ของแผลสดอนั เน.ืองจากบาดแผลจากคมมีด หรือจากแมลงสัตวก์ ดั ต่อย ดา้ นการเกิดแผลใน กระเพาะอาหาร ทาํ ให้ร่างกายกระชุ่มกระชวย ชะลอความแก่ ผมดกดาํ ไม่หงอกง่าย อีกท8งั ยงั มี แนวโนม้ ที.มีฤทธbิยบั ย8งั การหดเกร็งของกลา้ มเน8ือ ขยายหลอดลม ดา้ นการอกั เสบ ระงบั ปวดและลด ความดนั โลหิต จากการสัมภาษณ์ภูมิปัญญาทอ้ งถิ.นไดใ้ ห้ขอ้ มูลความสําคญั ของไกดา้ นเภสัชกรรม ดงั น8ี ดวงศรี วิชา (2554) ไดใ้ ห้ขอ้ มูลในวนั ที. 28 ธนั วาคม 2554 ณ ที.ทาํ การกลุ่มแปรรูป ผลิตภณั ฑส์ าหร่ายน8าํ จืด บา้ นหนองบวั หมู่ท.ี 5 ตาํ บลป่ าคา อาํ เภอท่าวงั ผา จงั หวดั น่าน เวลา 13.30 น. ไวว้ า่ “เม.ือรับประทานไกแลว้ ทาํ ใหร้ ่างกายแขง็ แรงและเป็นยาช่วยใหร้ ะบบขบั ถ่ายดี”

22 ขนั คาํ อินตะ๊ แสน (2554) ไดใ้ หข้ อ้ มลู ในวนั ท.ี 28 ธนั วาคม 2554 ณ ท.ีทาํ การกลุ่มแปรรูป ผลิตภณั ฑส์ าหร่ายน8าํ จืด บา้ นหนองบวั หมู่ท.ี 5 ตาํ บลป่ าคา อาํ เภอท่าวงั ผา จงั หวดั น่าน เวลา 13.30 น. ไวว้ า่ “ ถา้ รับประทานไกแลว้ จะทาํ ใหผ้ มดกดาํ ผมไม่หงอกง่าย” บวั แยง จนั ต๊ะยอด (2554) ไดใ้ ห้ขอ้ มูลในวนั ที. 28 ธันวาคม 2554 ณ ที.ทาํ การกลุ่ม แปรรูปผลิตภณั ฑ์สาหร่ายน8าํ จืด บา้ นหนองบวั หมู่ท.ี 5 ตาํ บลป่ าคา อาํ เภอท่าวงั ผา จงั หวดั น่าน เวลา 13.30 น. ไวว้ า่ “รับประทานไกแลว้ จะทาํ ใหผ้ มดกดาํ ผมไม่หงอกง่าย และไม่แก่เร็ว” จากการสัมภาษณ์ภูมิปัญญาทอ้ งถิ.นไดใ้ ห้ขอ้ มูลความสําคญั ของไกดา้ นเภสัชกรรม สรุปไดว้ า่ ถา้ รับประทานไกแลว้ จะทาํ ใหร้ ่างกายแข็งแรง ระบบขบั ถ่ายดี ผมดกดาํ ไม่หงอกง่าย และ ทาํ ใหไ้ ม่แก่เร็ว B. ความสําคัญของไกวฒั นธรรมด้านอาหาร ชรินรัตน์ อุดเมืองคาํ (2552:7) ไดเ้ ขียนความสําคญั ของไกดา้ นวฒั นธรรมดา้ นอาหาร ไวว้ า่ ไกเป็นสาหร่ายน8าํ จืดท.ีพบมากในลาํ น8าํ โขง อาํ เภอเชียงของ จงั หวดั เชียงราย และในลาํ น8าํ น่าน อาํ เภอท่าวงั ผา จงั หวดั น่าน ทาํ ใหเ้ กิดภูมิปัญญาชาวบา้ นนาํ ไกมารับประทานเป็ นอาหารหลากหลาย ชนิด มีท8งั การนาํ มารับประทานสด การนาํ มาแปรรูปเป็ นอาหารสดคาวหรือการนาํ มาตากแหง้ แลว้ จึงนาํ มาแปรรูป อาหารด8งั เดิมท.ีชาวบา้ นท8งั 2 แหล่งน8าํ ทาํ มาจากไก คือ “ไกยี” และ “ห่อน.ึงไก” ต่อมาก็มีการประยกุ ตโ์ ดยการแปรรูปสาหร่ายไกให้เป็ นสาหร่ายไกแผน่ กรอบปรุงรส ขา้ วเกรียบไก ขนมปังไก เส้นบะหม.ีไก หมยู อสาหร่ายไก ลูกชิ8นหมสู าหร่ายไก น8าํ พริกสาหร่ายไก เป็นตน้ จากการสัมภาษณ์ภูมิปัญญาทอ้ งถิ.นไดใ้ ห้ขอ้ มูลความสําคญั ของไกดา้ นวฒั นธรรม ดา้ นอาหาร ดงั น8ี ต่อม จนั ตะ๊ ยอด (2554) ไดใ้ ห้ขอ้ มูลในวนั ที. 28 ธนั วาคม 2554 ณ ที.ทาํ การกลุ่มแปรรูป ผลิตภณั ฑส์ าหร่ายน8าํ จืด บา้ นหนองบวั หมู่ท.ี 5 ตาํ บลป่ าคา อาํ เภอท่าวงั ผา จงั หวดั น่าน ไวว้ า่ ไกเป็ น อาหารพ8ืนบา้ นของชาวไทยล8ือมานานนบั ร้อยกวา่ ปี ต8งั แต่สมยั รุ่นทวด ป่ ูยา่ ตายาย นาํ ไกมาปรุงเป็ น อาหารรับประทานในชีวติ ประจาํ วนั เช่น ห่อหมกไกหรือห่อน.ึงไก คว.ั ไก ไกแผน่ และไกยี สืบทอด กนั มาจนถึงปัจจุบนั นงเยาว์ ปรารมภ์ (2554) ไดใ้ ห้ขอ้ มูลในวนั ท.ี 28 ธนั วาคม 2554 ณ ที.ทาํ การกลุ่มแปรรูป ผลิตภณั ฑส์ าหร่ายน8าํ จืด บา้ นหนองบวั หมู่ท.ี 5 ตาํ บลป่ าคา อาํ เภอท่าวงั ผา จงั หวดั น่าน เวลา 13.30 น. ไวว้ า่ “ไกเกิดข8ึนเองตามธรรมชาติ ซ.ึงเกิดข8ึนในลาํ น8าํ น่านและลาํ น8าํ ยาวในเขตอาํ เภอท่าวงั ผา เดิม ชาวบา้ นนิยมนาํ ไกมาปรุงเป็ นอาหารรับประทานในชีวิตประจาํ วนั เช่น นาํ ไกมาปรุงรส ห่อดว้ ยใบ ตอง และนาํ ไปน.ึงใหส้ ุกแลว้ นาํ มารับประทานกบั ขา้ วเหนียว เรียกวา่ “ห่อหมกไกหรือห่อน.ึงไก”นาํ ไกมา ตากแหง้ เป็นแผน่ ขย8ใี หเ้ ป็นผงแลว้ ปรุงรส เรียกวา่ “ไกย”ี นาํ ไกมาควั. ในกระทะแลว้ ปรุงรสเรียกวา่ “ควั. ไก”

23 ดวงศรี วชิ า (2554) ไดใ้ หข้ อ้ มูลในวนั ที. 28 ธนั วาคม 2554 ณ ท.ีทาํ การกลุ่มแปรรูป ผลิตภณั ฑ์สาหร่ายน8าํ จืด บา้ นหนองบวั หมู่ที. 5 ตาํ บลป่ าคา อาํ เภอท่าวงั ผา จงั หวดั น่าน เวลา 13.30 น. ไวว้ ่า “เดิมรุ่นป่ ูย่า ตายาย นาํ ไกมาแปรูปเป็ นอาหาร เช่น ไกยี ส้าไก ห่อน.ึงไกหรือห่อหมกไก ใช้ รับประทานเป็ นอาหารในชีวิตประจาํ วนั แต่ปัจจุบนั ได้นาํ ไกมาแปรรูปหลากหลายรูปแบบ ท8งั อาหารคาวสด เช่น ห่อน.ึงไกหรือห่อหมกไก ส้าไก ควั. ไก และอาหารวา่ ง เช่น ไกแผน่ ทรงเคร.ือง ” จากการสัมภาษณ์ภูมิปัญญาทอ้ งถิ.นไดใ้ ห้ขอ้ มูลความสําคญั ของไกดา้ นวฒั นธรรม ดา้ นอาหารสรุปไดว้ า่ ไกใชร้ ับประทานเป็ นอาหารในชีวิตประจาํ วนั ต8งั แต่รุ่นป่ ูยา่ ตายาย ชาวบา้ น นาํ ไกมาแปรรูปรับประทานเป็นอาหารโดยวธิ ีต่างๆ 4. ความสําคัญของไกด้านเศรษฐกิจ จากการสัมภาษณ์ภูมิปัญญาทอ้ งถิ.น เร.ืองความ สาํ คญั ของไกดา้ นเศรษฐกิจ จาํ นวน 3 คน และไดใ้ หข้ อ้ มูลดงั น8ี 4.1 เพิ.มรายได้ ติLบ ภิมาลย์ (2554) ไดใ้ หข้ อ้ มูลในวนั ท.ี 28 ธนั วาคม 2554 ณ ท.ีทาํ การกลุ่มแปรรูป ผลิตภณั ฑ์ สาหร่ายน8าํ จืด บา้ นหนองบวั หมู่ท.ี 5 ตาํ บลป่ าคา อาํ เภอท่าวงั ผา จงั หวดั น่าน เวลา 13.30 น. ไวว้ า่ “การเป็ นสมาชิกกลุ่มแปรรูปผลิตภณั ฑส์ าหร่ายน8าํ จืด บา้ นหนองบวั ทาํ ให้ตวั เองและครอบครัวมี รายไดเ้ พิ.มข8ึนและทาํ ใหม้ ีเงินออม” 4.2 พฒั นาช่องทางการตลาด ช่องทางการตลาด หมายถึง กลุ่มของบุคคลหรือองค์กร ธุรกิจที.เก.ียวขอ้ งกบั กระบวนการในการเคลื.อนยา้ ยกรรมสิทธbิในตวั สินคา้ หรือบริการ จากผผู้ ลิตไปยงั ผบู้ ริโภคคนสุดทา้ ย หรือผใู้ ชท้ างอุตสาหกรรม ขนั คาํ อินตะ๊ แสน (2554) ไดใ้ หข้ อ้ มูลในวนั ที. 28 ธนั วาคม 2554 ณ ที.ทาํ การกลุ่ม แปรรูปผลิตภณั ฑส์ าหร่ายน8าํ จืด บา้ นหนองบวั หมู่ท.ี 5 ตาํ บลป่ าคา อาํ เภอท่าวงั ผา จงั หวดั น่าน เวลา 13.30 น. ไวว้ า่ “ การจดั จาํ หน่ายผลิตภณั ฑ์การแปรรูปไกไปยงั ผบู้ ริโภคหรือผใู้ ชท้ างอุตสาหกรรม มีท8งั ผา่ นและไม่ผา่ นคนกลาง คือลูกคา้ สามารถซ8ือสินคา้ ดว้ ยตนเอง ณ กลุ่มวิสาหกิจแปรรูปผลิตภณั ฑ์ สาหร่ายน8าํ จืดบา้ นหนองบวั ” และซ8ือผลิตภณั ฑก์ ารแปรรูปไกไดจ้ ากศนู ย์ OTOP 4.3 รายไดก้ บั คุณภาพที.ดีข8ึน บุญชู เทพเสน (2554) ไดใ้ ห้ขอ้ มูลในวนั ที. 28 ธนั วาคม 2554 ณ ที.ทาํ การกลุ่ม แปรรูปผลิตภณั ฑส์ าหร่ายน8าํ จืด บา้ นหนองบวั หมู่ท.ี 5 ตาํ บลป่ าคา อาํ เภอท่าวงั ผา จงั หวดั น่าน เวลา 13.30 น. ไวว้ ่า “จากการเป็ นสมาชิกกลุ่มแปรรูปผลิตภณั ฑ์สาหร่ายน8าํ จืด บา้ นหนองบวั ทาํ ให้ ครอบครัวมีรายไดเ้ พิ.มข8ึน ช่วยใหก้ ารเป็นอยดู่ ีข8ึน มีเงินใชส้ อยสะดวกข8ึน

24 จากการสัมภาษณ์ภูมิปัญญาทอ้ งถิ.นในเรื.องความสําคญั ของไกดา้ นเศรษฐกิจ สรุปไดว้ า่ ผลิตภณั ฑก์ ารแปรรูปไกเป็นสินคา้ ท.ีสร้างรายไดใ้ ห้กบั สมาชิกกลุ่มแปรรูปผลิตภณั ฑ์สาหร่าย น8าํ จืด บา้ นหนองบวั ทาํ ใหต้ วั เองและครอบครัวมีรายไดเ้ พิ.มข8ึนส่งผลใหม้ ีคุณภาพชีวติ ท.ีดีข8ึน การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. บรรยาย 2. การศึกษาดว้ ยตนเองและสมั ภาษณ์ ตามใบงานท.ี l 3. นาํ เสนอ อภิปราย การวดั และประเมนิ ผล 1. ประเมินความกา้ วหนา้ 1.1 สมั ภาษณ์ 1.2 สังเกต 2. ประเมินผลรวม 2.1 การทาํ แบบทดสอบ 2.2 สะทอ้ นผล

25 เร-ืองที- 3 ประเภทของไกท่าวงั ผา สาระสําคญั 1.ไกท่าวงั ผา มี 3 ประเภทไดแ้ ก่ (1) ไกเหนียวหรือไกคา้ ง (2) ไกเป8ื อยหรือไกไหม (3) ไกตะ๊ 2. ไกเหนียวหรือไกคา้ ง มีสีเขียวเขม้ ยาว ไม่แตกแขนง เน8ือไม่ฟู มีน8าํ หนกั พอสมควรยาว ประมาณ l เมตร 3. ไกเป8ื อยหรือไกไหม เกาะหินเป็ นกระจุกแล้วกระจาย แผ่ออกไปเป็ นเส้นเล็กฝอยมี จาํ นวนเส้นมาก เส้นเหนียวและลื.น สีเขียวซีด ยาวประมาณ 80 เซนติเมตร 4. ไกตะ๊ ลกั ษณะออกเป็นกระจุกอยปู่ นกบั ไกไหม เส้นส8ันและมีความลื.นมาก ผลการเรียนรู้ทคี- าดหวงั 1.บอกความแตกต่างของลกั ษณะของไกแต่ละประเภทได้ ขอบข่ายเนือ/ หา 1.ไกเหนียวหรือไกคา้ ง ดึงขอ้ มูลท.ีไดจ้ ากการสัมภาษณ์ภมู ิปัญญาทอ้ งถ.ินดงั น8ี นงเยาว์ ปรารมภ์ (2554) ได้ให้ขอ้ มูลในวนั ที. 28 ธันวาคม 2554 ณ ที.ทาํ การกลุ่ม ผสู้ ูงอายบุ า้ นหนองบวั หมู่ 5 ตาํ บลป่ าคา อาํ เภอท่าวงั ผา จงั หวดั น่าน วา่ ไกเหนียวหรือไกคา้ ง มีลกั ษณะ มีสีเขียวเขม้ ยาวประมาณ 1 เมตรจบั กนั เป็นกอ้ นชาวบา้ นไม่นิยมนาํ มาประกอบอาหาร ต่อม จนั ตะ๊ ยอด (2554) ไดใ้ หข้ อ้ มูลในวนั ท.ี 28 ธนั วาคม 2554 ณ ที.ทาํ การศูนยโ์ อท็อป บา้ นหนองบวั หมู่ท.ี 5 ตาํ บลป่ าคา อาํ เภอท่าวงั ผา จงั หวดั น่าน ว่า ไกเหนียวหรือไกคา้ ง มีลกั ษณะ เป็นเส้นมีสีเขียวเขม้ ยาว ไม่แตกแขนง บุญชู เทพเสน (2554) ไดใ้ หข้ อ้ มูลในวนั ท.ี 28 ธนั วาคม 2554 ณ ท.ีทาํ การศูนยโ์ อท็อป บา้ นหนองบวั หมู่ที. 5 ตาํ บลป่ าคา อาํ เภอท่าวงั ผา จงั หวดั น่าน วา่ ไกเหนียวหรือไกคา้ ง มีลกั ษณะมี สีเขียวเขม้ ยาวประมาณ 2 เมตร จากการสัมภาษณ์ภูมิปัญญาทอ้ งถิ.นในเรื.อง ไกเหนียวหรือไกคา้ ง สรุปไดว้ า่ “มีลกั ษณะ เป็นสีเขียวเขม้ จบั ตวั กนั เป็นกอ้ น ยาวประมาณ 2 เมตรไม่นิยมมาประกอบอาหาร” สรุป ไกเหนียวหรือไกคา้ ง มีลกั ษณะเป็นเส้นท.ีออกเป็นกระจุกเส้นส8ัน ดงั ภาพประกอบ 2

26 ภาพประกอบ 2 ไกเหนียวหรือไกคา้ ง 2. ไกเป8ื อยหรือไกไหม ดึงขอ้ มูลท.ีไดจ้ ากการสัมภาษณ์ภูมิปัญญาทอ้ งถิ.นดงั น8ี บวั แยง จนั ตะ๊ ยอด (2554) ไดใ้ หข้ อ้ มูลในวนั ที. 28 ธนั วาคม 2554 ณ ที.ทาํ การกลุ่มผสู้ ูงอายุ บา้ นหนองบวั หมู่ 5 ตาํ บลป่ าคา อาํ เภอท่าวงั ผา จงั หวดั น่าน วา่ ไกเป8ื อยหรือไกไหม มีลกั ษณะ เป็ นเส้น สีเขียวอ่อนท.ีแตกแขนงออกเป็นกระจุกใตก้ อ้ นหินในน8าํ ลึกบริเวณแม่น8าํ น่านหรือบริเวณแม่น8าํ ยาว นงเยาว์ ปรารมภ์ (2554) ได้ให้ข้อมูลในวนั ที. 28 ธันวาคม 2554 ณ ท.ีทาํ การกลุ่ม ผสู้ ูงอายบุ า้ นหนองบวั หมู่ 5 ตาํ บลป่ าคา อาํ เภอท่าวงั ผา จงั หวดั น่าน วา่ ไกเป8ื อยหรือไกไหม มีลกั ษณะ เป็นเส้นเขียวเขม้ ออกบริเวณแม่น8าํ ยาว ดวงศรี วิชา (2554) ไดใ้ ห้ขอ้ มูลในวนั ท.ี 28 ธันวาคม 2554 ณ ที.ทาํ การกลุ่มผูส้ ูงอายุ บา้ นหนองบวั หมู่ 5 ตาํ บลป่ าคา อาํ เภอท่าวงั ผา จงั หวดั น่าน วา่ ไกเป8ื อยหรือไกไหม มีลกั ษณะ เป็ นเส้น อ่อนคลา้ ยกบั เส้นผมไหมออกเป็นแขนงใตก้ อ้ นหินบริเวณน8าํ ต8ืนและออกที.น8าํ เช.ียว จากการสัมภาษณ์ภูมิปัญญาทอ้ งถิ.นในเรื.อง ไกเป8ื อยหรือไกไหม สรุปไดว้ า่ “มีลกั ษณะ เป็ นเส้นสีเขียวอ่อนและสีเขียวเขม้ เส้นจะอ่อนคลา้ ยกบั เส้นผมที.แตกแขนงออกเป็ นกระจุกใตก้ อ้ น หินในน8าํ ลึกและท.ีน8าํ เช.ียวในบริเวณแม่น8าํ น่านและแม่น8าํ ยาว” ดงั ภาพประกอบ3และ4 ภาพประกอบ 3 ไกเป8ื อยหรือไกไหมลาํ น8าํ ยาว ภาพประกอบ 4 ไกไหม ลาํ น8าํ น่าน

27 3. ไกตะ๊ ดึงขอ้ มลู ที.ไดจ้ ากการสัมภาษณ์ภูมิปัญญาทอ้ งถิ.นดงั น8ี นางนงเยาว์ ปรารมภ์ (2554) ไดใ้ หข้ อ้ มูลในวนั ที. 28 ธนั วาคม 2554 ณ ที.ทาํ การกลุ่ม ผสู้ ูงอายบุ า้ นหนองบวั หมู่ 5 ตาํ บลป่ าคา อาํ เภอท่าวงั ผา จงั หวดั น่าน ไกต๊ะ มีลกั ษณะ เป็ นไกที.ออก ตามแขนงน8าํ น่านและน8าํ ยาวซ.ึงออกในบริเวณน8าํ ลึก ซ.ึงไกชนิดน8ีจะมีความเหนียว นางขนั คาํ อินต๊ะเสน (2554) ไดใ้ ห้ขอ้ มูลในวนั ที. 28 ธนั วาคม 2554 ณ ที.ทาํ การศูนย์ โอทอ็ ป บา้ นหนองบวั หมู่ที. 5 ตาํ บลป่ าคา มีลกั ษณะออกเป็นกระจุกอยปู่ นกบั ไกไหม นงเยาว์ ปรารมภ์ (2554) ได้ให้ขอ้ มูลในวนั ท.ี 28 ธันวาคม 2554 ณ ท.ีทาํ การกลุ่ม ผูส้ ูงอายุบา้ นหนองบวั หมู่ 5 ตาํ บลป่ าคา อาํ เภอท่าวงั ผา จงั หวดั น่าน ว่า ไกเหนียวหรือไกคา้ ง มี ลกั ษณะออก เป็นกระจุกอยปู่ นกบั ไกไหม เส้นจะส8ัน จากการสมั ภาษณ์ภมู ิปัญญาทอ้ งถิ.นในเร.ือง ไกตะ๊ สรุปไดว้ า่ “ มีลกั ษณะเป็ นกระจุก อยปู่ นกบั ไกไหม เส้นจะส8ันและออกตามแขนงของแม่น8าํ น่านและแม่น8าํ ยาว” สรุป ไกตะ๊ มีลกั ษณะเป็น เส้นท.ีแตกแขนงยาวที.ออกเป็นแขนงตามแม่น8าํ น่าน ดงั ภาพประกอบ 5 ภาพประกอบ 5 ไกตะ๊ ลาํ น8าํ น่าน การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ศึกษาและสมั ภาษณ์ความแตกต่างสาหร่ายไกประเภทต่างๆตามใบงานท.ี 3 2. อภิปราย การวดั ผลประเมนิ ผล 1. การวดั ประเมินผลความกา้ วหนา้ 1.1 การสังเกต 1.2 สัมภาษณ์ภมู ิปัญญาทอ้ งถิ.น 2. การวดั ผลประเมินผลรวม 2.1 ทาํ แบบทดสอบปลายภาค

28 เรื-องที- 4 วตั ถุดบิ และอปุ กรณ์ทเ-ี กย-ี วข้องกบั ไกท่าวงั ผา สาระสําคญั 1. วตั ถุดิบในการทาํ ไกท่าวงั ผา ไดแ้ ก่ (1) ไกดิบ (2) งาขาวหรืองาดาํ (3) ซีอิ8วขาว (4) น8าํ มนั พืช (5) น8าํ ปรุงรส (6) เกลือ (7) กระเทียม (8) หอมแดง (9) พริก (10) ใบมะกรูด (11) ตระไคร้ (12) น8าํ ผกั ยา่ นาง (13) ตระไคร้ 2. อุปกรณ์ท.ีเกี.ยวขอ้ งกบั การเก็บไกท่าวงั ผา ไดแ้ ก่ (1) ถุงสําหรับเก็บไก (2) เข่งหรือตะกร้า (3) หมวก (4) เส8ือแขนยาว (5) เชือก (6) ถุงเทา้ 3. อุปกรณ์ที.แปรรูปในการทาํ ไกท่าวงั ผาไดแ้ ก่ (1) กระทะ (2) ทพั พี (3) ตะกร้า (4) ไมก้ ลดั (5) ชาม (6) เขียง (7) ใบตอง (8) ไมก้ ลดั (9) ลงั ถึง (10) กรรไกร (12) มีด (13) ไมก้ ลิ8ง (14) เตา (15) ครก (16) พลาสติกใส(17) หญา้ คา (18) ไมก้ ลิ8ง (19) เคร.ืองปันไก (20) อุปกรณ์ในการรีดไก (21) ตูอ้ บ (22) เคร.ืองบรรจุภณั ฑ์ ผลการเรียนรู้ทค-ี าดหวงั 1. เลือกวตั ถุดิบและอุปกรณ์ที.เกี.ยวขอ้ งกบั อาชีพการทาํ ไกท่าวงั ผาได้ ขอบข่ายเนือ/ หา 1. วตั ถุดิบที.เก.ียวขอ้ งกบั การทาํ ไกท่าวงั ผา มีดงั น8ี 1.1. วตั ถุดิบการทาํ อาหารสดคาวจากไก 1.1.1. การทาํ ห่อหมกไกหรือห่อน.ึงไก ประกอบดว้ ย 1) ไกดิบ เป็ นไกท.ีเก็บมาจากแม่น8าํ แลว้ ไม่ผา่ นการตากแห้งซ.ึงมีความสด และส่วนใหญ่นิยมใชไ้ กประเภทไกไหม (มีลกั ษณะส8ันและไม่ล.ืน) และไกต๊ะ (มีลกั ษณะยาวค่อนขา้ ง ลื.นและมีสีเขม้ ) ส่วนไกเหนียวไม่นิยมมาทาํ เน.ืองจากทาํ ทานแลว้ เหนียว ดงั ภาพประกอบ 6 และ 7 ภาพประกอบ 6 ไกไหม ภาพประกอบ 7 ไกตะ๊

29 2) น8าํ ผกั ยา่ นาง เป็นน8าํ ที.ค8นั จากผกั ยา่ นาง มีลกั ษณะใบคลา้ ยไข่ ใบเรียวแหลม มีสรรพคุณเป็ นสมุนไพรรักษาลา้ งพิษช่วยขยายหลอดเลือด ใชใ้ ส่เพ.ือให้มีรสหวานและมีรสชาติ กลมกล่อม ดงั ภาพประกอบ 8 และ 9 ภาพประกอบ 8 ใบยา่ นาง ภาพประกอบ 9 น8าํ ใบยา่ นาง 3) กระเทียม เป็ นเครื.องเทศประจาํ ครัวของคนไทยมาชา้ นาน อาหารทุกชนิด มกั จะมีกระเทียมเป็ นส่วนประกอบดว้ ยเสมอกระเทียมมีหลายชนิดที.นิยมใช้ใส่ห่อน.ึงไกนิยมใช้ กระเทียมไทยมากกวา่ กระเทียมจีนเพราะมีกล.ินหอมกวา่ ดงั ภาพประกอบ 10 และ 11 ภาพประกอบ 10 กระเทียมจีน ภาพประกอบ h1 กระเทียมไทย r) พริก เป็ นพืชพ8ืนเมือง คนไทยนิยมนาํ พริกมาประกอบอาหารไดห้ ลาย รูปแบบ ท8งั ในลกั ษณะสด แห้ง ดอง เผา และแกง พริกท.ีนิยมมาทาํ ห่อหมกไกน8นั นิยมท8งั พริกสด และพริกแหง้ ตามความชอบของแต่ละบุคคลหรือหาไดต้ ามทอ้ งถิ.น ดงั ภาพประกอบ 12 และ 13 ภาพประกอบ h2 พริกสด ภาพประกอบ h3 พริกแหง้

30 5) เกลือ เป็ นแร่ธาตุทางโภชนาการชนิดหน.ึงโดยหลกั แลว้ คือ โซเดียมคลอไรด์ (เกลือแกง) ซ.ึงสามารถสกดั ไดจ้ ากสัตวแ์ ละพืชแต่เกลือจากพืชบางคร8ังอาจเป็ นพิษเกลือท.ีบริโภค สามารถผลิตไดจ้ ากน8าํ ทะเลหรือดินเค็ม มีลกั ษณะเป็ นเม็ด และป่ น เกลือท.ีนิยมใชท้ าํ ห่อหมกจะใช้ เกลือป่ น ดงั ภาพประกอบ 14 และ 15 ภาพประกอบ 4 เกลือเมด็ ภาพประกอบ 15 เกลือป่ น 1.1.2. การทาํ ควั. ไก ประกอบดว้ ย 1) ไกดิบ เป็นไกท.ีเก็บมาจากแม่น8าํ แลว้ ไม่ผา่ นการตากแหง้ ซ.ึงมีความสดและ ส่วนใหญ่นิยมใชไ้ กประเภทไกไหม (มีลกั ษณะส8ันและไม่ล.ืน) และไกต๊ะ (มีลกั ษณะยาวค่อนขา้ งลื.น และมีสีเขม้ ) ส่วนไกเหนียวไม่นิยมมาทาํ เนื.องจากทาํ ทานแลว้ เหนียว ดงั ภาพประกอบ 6 และ 7 หนา้ 27 2) กระเทียม เป็ นเคร.ืองเทศประจาํ ครัวของคนไทยมาช้านาน อาหารทุก ชนิดมกั จะมีกระเทียมเป็ นส่วนประกอบดว้ ยเสมอ กระเทียมมีหลายชนิดท.ีนิยมใชใ้ ส่ห่อน.ึงไกนิยม ใชก้ ระเทียมไทยมากกวา่ กระเทียมจีนเพราะมีกล.ินหอมกวา่ ดงั ภาพประกอบ 10 และ 11 หนา้ 28 3) พริก เป็ นพืชพ8ืนเมือง คนไทยนิยมนาํ พริกมาประกอบอาหารไดห้ ลาย รูปแบบ ท8งั ในลกั ษณะสด แห้ง ดอง เผา และแกง พริกท.ีนิยมมาทาํ ห่อหมกไกน8นั นิยมท8งั พริกสดและ พริกแหง้ ตามความชอบของแต่ละบุคคลหรือหาไดต้ ามทอ้ งถ.ิน ดงั ภาพประกอบท.ี 12 และ 13 หนา้ 28 4) หอมแดง เป็ นพืชที.มีลาํ ตน้ ส8ันและฝังอยู่ใตด้ ิน ขนาดสูงประมาณ 30ซม. หอมแดง มีสรรพคุณ ช่วยขบั ลม แกท้ อ้ งอืดช่วยยอ่ ยและเจริญอาหาร นิยมหนั. ฝอยใส่คว.ั ไกเพื.อเป็ น ยาสมุนไพร ดงั ภาพประกอบ 16 และ 17 ภาพประกอบที. 16 หอมแดง ภาพประกอบที. 17 หอมแดงหนั. ฝอย

31 5) ตะไคร้ เป็นพืชลม้ ลุก มีความสูงประมาณ 4-6 ฟุต ใบยาวเรียว ปลายใบ มีขนหนาม ลาํ ตน้ รวมกนั เป็ นกอ มีกลิ.นหอมนิยมใชส้ ่วนหวั ไปประกอบอาหารประกอบอาหาร นิยม หนั. ฝอยใส่เพ.ือใหม้ ีกล.ินหอม ดงั ภาพประกอบ 18 และ 19 ภาพประกอบที. 18 ตระไคร้ ภาพประกอบท.ี h9 ตระไคร้หนั. ฝอย 6) ใบมะกรูด เป็ นไมย้ ืนตน้ ขนาดเล็ก นิยมใช้ใบมะกรูดและผิวมะกรูด นาํ มาประกอบเป็ นเคร.ืองปรุงของอาหารหลายชนิด การทาํ คว.ั ไกในบางพ8ืนที.ก็ไม่นิยมใส่เพราะมี กล.ินฉุน ดงั ภาพประกอบ 20 และ 21 ภาพประกอบ 20 ใบมะกรูด ภาพประกอบ 21 ใบมะกรูดหน.ั ฝอย 1.1.3. การทาํ ส้าไก ประกอบดว้ ย 1) ไกดิบ เป็ นไกท.ีเก็บมาจากแม่น8าํ แลว้ ไม่ผา่ นการตากแหง้ ซ.ึงมีความสด และส่วนใหญ่นิยมใชไ้ กประเภทไกไหม (มีลกั ษณะส8ันและไม่ล.ืน) และไกตะ๊ (มีลกั ษณะยาวค่อนขา้ งลื.น และมีสีเขม้ ) ส่วนไกเหนียวไม่นิยมมาทาํ เน.ืองจากทาํ ทานแลว้ เหนียว ดงั ภาพประกอบ 6 และ 7 หนา้ 27 2) พริก เป็ นพืชพ8ืนเมือง คนไทยนิยมนาํ พริกมาประกอบอาหารไดห้ ลาย รูปแบบ ท8งั ในลกั ษณะสด แห้ง ดอง เผา และแกง พริกท.ีนิยมมาทาํ ห่อหมกไกน8นั นิยมท8งั พริกสดและ พริกแหง้ ตามความชอบของแต่ละบุคคลหรือหาไดต้ ามทอ้ งถิ.น ดงั ภาพประกอบ 12 และ 13 หนา้ ls

32 3) หอมแดง เป็ นพืชท.ีมีลาํ ตน้ ส8ันและฝังอยใู่ ตด้ ิน ขนาดสูงประมาณ 30 ซม. หอมแดง มีสรรพคุณ ช่วยขบั ลม แกท้ อ้ งอืดช่วยยอ่ ยและเจริญอาหาร นิยมหนั. ฝอยใส่คว.ั ไกเพื.อเป็ น ยาสมุนไพร ดงั ภาพประกอบ 16 และ 17 หนา้ 29 4) เกลือ เป็นแร่ธาตุทางโภชนาการชนิดหน.ึงโดยหลกั แลว้ คือ โซเดียคลอไรด์ (เกลือแกง) ซ.ึงสามารถสกดั ไดจ้ ากสัตวแ์ ละพืชแต่เกลือจากพืชบางคร8ังอาจเป็ นพิษเกลือท.ีบริโภค สามารถผลิตไดจ้ ากน8าํ ทะเลหรือดินเคม็ มีลกั ษณะเป็ นเมด็ และป่ น เกลือท.ีนิยมใชท้ าํ ห่อหมกจะใช้ เกลือป่ น ดงั ภาพประกอบ 14 และ 15 และ หนา้ 29 1.2. วตั ถุดิบการทาํ อาหารในรูปแบบแหง้ ไดแ้ ก่ 1.2.1. การทาํ ไกแผน่ ทรงเครื.อง ประกอบดว้ ย 1) ไกดิบ เป็นไกท.ีเก็บมาจากแม่น8าํ แลว้ ไม่ผา่ นการตากแหง้ ซ.ึงมีความสดและ ส่วนใหญ่นิยมใชไ้ กประเภทไกไหม (มีลกั ษณะส8ันและไม่ล.ืน) และไกตะ๊ (มีลกั ษณะยาวค่อนขา้ งล.ืนและ มีสีเขม้ ) ส่วนไกเหนียวไม่นิยมมาทาํ เนื.องจากทาํ ทานแลว้ เหนียว ดงั ภาพประกอบ 6 และ 7 หนา้ 27 l) งาขาว / งาดาํ งาเป็ นธญั พืชทรงคุณค่า อุดมไปดว้ ยธาตุ สังกะสี ทองแดง แคลเซียม วติ ามินบีh วติ ามินอี มีสารตา้ นอนุมูลอิสระ ช่วยตา้ นความเสื.อมของร่างกาย และตา้ นมะเร็ง มี ส่วนช่วยลดระดบั คลอเรสเตอรอลในเลือดได้ นิยมมาใส่ในไกแผ่นเพ.ือให้ความสวยงามและเพิ.ม สารอาหารดงั ภาพประกอบ 22 และ 23 ภาพประกอบ 22 งาขาว ภาพประกอบ 23 งาดาํ 3) เกลือ เป็นแร่ธาตุทางโภชนาการชนิดหน.ึงโดยหลกั แลว้ คือ โซเดียม คลอไรด์ (เกลือแกง) ซ.ึงสามารถสกดั ไดจ้ ากสัตวแ์ ละพืชแต่เกลือจากพืชบางคร8ังอาจเป็ นพิษเกลือที. บริโภคสามารถผลิตไดจ้ ากน8าํ ทะเลหรือดินเคม็ มีลกั ษณะเป็นเมด็ และป่ น เกลือท.ีนิยมใชท้ าํ ห่อ หมกจะใชเ้ กลือป่ น ดงั ภาพประกอบ 14 และ h5 หนา้ li 4) น8าํ ปรุงรส เป็ นน8าํ ปรุงที.นิยมใส่เพ.ือให้รสชาติกลมกล่อมและสีสันน่า รับประทานมากข8ึน ดงั ภาพประกอบ 24

33 ภาพประกอบ 24 น8าํ ปรุงรส 1.2.2. การทาํ ไกยี ประกอบดว้ ย 1) ไกดิบ เป็นไกท.ีเก็บมาจากแม่น8าํ แลว้ ไม่ผา่ นการตากแหง้ ซ.ึงมีความสดและ ส่วนใหญ่นิยมใชไ้ กประเภทไกไหม (มีลกั ษณะส8ันและไม่ล.ืน) และไกตะ๊ (มีลกั ษณะยาวค่อนขา้ งล.ืน และมีสีเขม้ ) ส่วนไกเหนียวไม่นิยมมาทาํ เนื.องจากทาํ ทานแลว้ เหนียว ดงั ภาพประกอบ 6 และ 7 หนา้ 27 2) งาขาว / งาดาํ งาเป็ นธญั พืชทรงคุณค่า อุดมไปดว้ ยธาตุ สังกะสี ทองแดง แคลเซียม วติ ามินบีh วติ ามินอี มีสารตา้ นอนุมูลอิสระ ช่วยตา้ นความเสื.อมของร่างกาย และตา้ นมะเร็ง มี ส่วนช่วยลดระดบั คลอเรสเตอรอลในเลือดได้ นิยมมาใส่ในไกแผ่นเพ.ือให้ความสวยงามและเพ.ิม สารอาหารแต่ในบางพ8ืนท.ีก็ไม่นิยมใส่ ดงั ภาพประกอบ 22 และ 23 หนา้ 31 3) เกลือ เป็ นแร่ธาตุทางโภชนาการชนิดหน.ึงโดยหลกั แล้วคือ โซเดียม คลอไรด์ (เกลือแกง) ซ.ึงสามารถสกดั ไดจ้ ากสัตวแ์ ละพืชแต่เกลือจากพืชบางคร8ังอาจเป็ นพิษเกลือที. บริโภคสามารถผลิตไดจ้ ากน8าํ ทะเลหรือดินเค็ม มีลกั ษณะเป็ นเม็ด และป่ น เกลือท.ีนิยมใช้ทาํ ห่อ หมกจะใชเ้ กลือป่ น ดงั ภาพประกอบ 14 และ 15 หนา้ 29 4) กระเทียม เป็ นเคร.ืองเทศประจาํ ครัวของคนไทยมาช้านานอาหารทุก ชนิดมกั จะมีกระเทียมเป็ นส่วนประกอบดว้ ยเสมอกระเทียมมีหลายชนิดที.นิยมใช้ใส่ห่อน.ึงไกนิยม ใชก้ ระเทียมไทยมากกวา่ กระเทียมจีนเพราะมีกล.ินหอมกวา่ ดงั ภาพประกอบ 10 และ h1 หนา้ 28 5) น8าํ มนั พืช คือ ผลิตภณั ฑน์ 8าํ มนั ท.ีสกดั ไดจ้ ากพืช ส่วนใหญ่นาํ มาใชป้ ระกอบ อาหารการเลือกใชน้ 8าํ มนั ข8ึนอยกู่ บั ชนิดของอาหาร และผูร้ ับประทาน ถา้ ชนิดของอาหารเป็ น ชนิดท.ี ตอ้ งใชเ้ วลาทอดนาน ควรเลือกน8าํ มนั ท.ีเป็ นไข แต่ถา้ เป็ นอาหารที.ใชเ้ วลาทอดไม่นาน ควรใชน้ 8าํ มนั ชนิดไม่เป็นไขแต่ในบางพ8ืนที.ก็ไม่นิยมใชเ้ พราะจะมีกลิ.นหืนของน8าํ มนั ดงั ภาพประกอบ 25 ภาพประกอบ 25 น8าํ มนั พชื

34 2. อุปกรณ์ที.เก.ียวขอ้ งกบั การทาํ ไกท่าวงั ผา แบ่งได้ 2 ประเภท ดงั น8ี 2.1 อุปกรณ์เก็บไก ไดแ้ ก่ 2.1.1 ถุงสําหรับเก็บไก มีลกั ษณะเป็ นตาข่ายถ.ี ใชใ้ นการเก็บไกที.มีจาํ นวนมาก และสะดวกในการเก็บ ดงั ภาพประกอบ 26 ภาพประกอบ 26 ถุงสาํ หรับเก็บไก 2.1.2 เข่ง เป็ นผลิตภณั ฑ์จากไมไ้ ผ่ สามารถบรรจุของไดม้ าก และระบายน8าํ ได้ เข่งในการเก็บไกนิยมใชต้ ามความเหมาะสมของแต่ละพ8ืนท.ีและหาไดต้ ามทอ้ งถ.ิน ดงั ภาพประกอบl7 ภาพประกอบ 27 เข่งท.ีทาํ มาจากไมไ้ ผ่ 2.1.3 เส8ือแขนยาว ท.ีนิยมมาเก็บไกจะเป็ นเส8ือท.ีหุ้มแขนไม่หนามากเกินไปใช้ เก็บไกเพ.ือกนั แดด ดงั ภาพประกอบ 28 ภาพประกอบ 28 เส8ือแขนยาวที.เหมาะกบั การเก็บไก

35 2.1.4 หมวก ที.นิยมใชใ้ นการเก็บไก เป็ นหมวกที.หาไดง้ ่ายในทอ้ งถิ.นและราคา ไม่แพง และสามารถกนั แดดไดด้ ี ดงั ภาพประกอบ 29 ภาพประกอบ 29 หมวกท.ีนิยมใชเ้ ก็บไก 2.1.5 เชือก มีหลายรูปแบบเรียกช.ือตามวตั ถุประสงคข์ องการใชง้ านเชือกท.ีนิยม ใชเ้ ก็บไกมกั จะใชเ้ ชือกไนลอน เพราะเป็นเชือกท.ีใชม้ ดั ส.ิงของ ดงั ภาพประกอบ 30 ภาพประกอบ 30 เชือกที.นิยมใชเ้ ก็บไก 2.1.6 ถุงเทา้ ท.ีใช้เวลาเก็บไก ใชแ้ ทนรองเทา้ เพราะสะดวกในการเก็บไกและ เคลื.อนไหวไดค้ ล่องดงั ภาพประกอบ 31 ภาพประกอบ 31 ถุงเทา้ แบบยาว

36 2.2 อุปกรณ์ท.ีแปรรูปในการทาํ ไกท่าวงั ผาไดแ้ ก่ 2.2.1 อุปกรณ์การทาํ ห่อน.ึงไก 1) ใบตอง ใบตองที.นิยมมาทาํ ห่อหมกไกนิยมใชใ้ บตองจากตน้ กลว้ ยที.หาได้ ในทอ้ งถิ.นและควรมีสีเขียวสดไม่นิยมเอาใบตองแห้งมาห่อเพราะจะทาํ ให้ดูสีสันน่ารับประทาน และควรตดั ใหร้ ูปทรงปลายแหลมเพื.อจะไดห้ ่อใหส้ วยงาม ดงั ภาพประกอบท.ี 32 และ 33 ภาพประกอบ 32 ใบตองสีเขียวสด ภาพประกอบ 33 รูปทรงใบตองท.ีทาํ ห่อหมกไก 2) ชาม ชามเป็ นภาชนะที.มีปากกวา้ งชามจะมีรัศมีประมาณ 3-5 เซนติเมตร ชาม มีความลึกประมาณ 5 เซนติเมตร ทาํ ดว้ ยวสั ดุที.แตกต่างกนั เช่น เมลามีน เซรามิก ดินเผา ฯลฯ การ ทาํ ห่อหมกไกใชช้ ามเพ.อื ใส่วสั ดุการทาํ ห่อหมกไกแลว้ คลุกเคลา้ ใหเ้ ขา้ กนั ดงั ภาพประกอบ 34 ภาพประกอบ 34 ชาม 3) ลงั ถึง คือภาชนะมีฝาสําหรับใชน้ .ึงอาหาร ทาํ มาจากอะลูมิเนียม ใชเ้ พื.อน.ึงห่อ หมกไก ดงั ภาพประกอบ 35 ภาพประกอบ 35 ลงั ถึง

37 4) ไมก้ ลดั ทาํ มากา้ นมะพร้าว ใชเ้ พือ. กลดั ใบตองเวลาห่อหมกไก ดงั ภาพประกอบ 36 และ 37 ภาพประกอบ 36 ไมก้ ลดั ทาํ มาจากกา้ นมะพร้าว ภาพประกอบ 37 ห่อหมกท.ีใชไ้ มก้ ลดั 2.2.2 อุปกรณ์การทาํ ควั. ไก 1) กระทะ ที.นิยมทาํ ควั. ไกคือกระทะเหล็ก เพราะเป็ นกระทะที.นิยมทาํ อาหาร ประเภทสดคาว ดงั ภาพประกอบ 38 และ 39 ภาพประกอบ 38 กระทะทองเหลือง ภาพประกอบ 39 กระทะเหลก็

38 2) เตา มีหลายชนิด อาทิเช่น เตาไฟฟ้ า เตาถ่าน เตาแก๊ส เตาอบ เตาปิ8 ง เตาเผาถ่าน เป็นตน้ ส่วนเตาที.นิยมใชท้ าํ คว.ั ไกคือเตาถ่าน และเตาแก๊ส ดงั ภาพประกอบ40-41 ภาพประกอบ 40 เตาถ่าน ภาพประกอบ r1 เตาแก๊ส 3) ตะหลิว เป็ นอุปกรณ์ท.ีทาํ มาจากวสั ดุจาก ไม้ และอะลูมิเนียม มีหลายรูปแบบ ส่วนทพั พีท.ีนิยมใชท้ าํ คว.ั ไกคือ ตะหลิวไมแ้ ละตะหลิวอะลูมิเนียมที.หาไดง้ ่ายในทอ้ งถิ.นหรือประดิษฐ์ ข8ึนเอง ดงั ภาพประกอบ 42-43 ภาพประกอบ 42 ตะหลิวท.ีทาํ มาจากไม้ ภาพประกอบ 43 ตะหลิวที.ทาํ มาจากอะลูมิเนียม 4) ครกหิน เป็นอุปกรณ์สาํ หรับตาํ เคร.ืองปรุงใหม้ ีความละเอียด ท.ีนิยมใชค้ รกหิน เพราะช่วยทุ่นแรงในการตาํ ดงั ภาพประกอบ 44 ภาพประกอบ 44 ครกหิน

39 2.2.3 อุปกรณ์การทาํ ส้าไก 1) ชาม ชามเป็ นภาชนะที.มีปากกวา้ งชามจะมีรัศมีประมาณ 3-5 เซนติเมตร ชาม มีความลึกประมาณ 5 เซนติเมตร ทาํ ดว้ ยวสั ดุที.แตกต่างกนั เช่น เมลามีน เซรามิก ดินเผา ฯลฯ การทาํ ห่อหมกไกใชช้ ามเพอื. ใส่วสั ดุการทาํ ห่อหมกไกแลว้ คลุกเคลา้ ใหเ้ ขา้ กนั ดงั ภาพประกอบ 34 หนา้ 35 2) ทพั พี ทพั พีเป็นอุปกรณ์ท.ีทาํ มาจากวสั ดุหลายชนิด อาทิเช่น พลาสติก ไม้ และ ทพั พีอะลูมิเนียม เป็นตน้ ส่วนทพั พีท.ีนิยมใชท้ าํ คว.ั ไกคือ ทพั พไี มแ้ ละทพั พอี ะลูมิเนียม ดงั ภาพประกอบ 45 และ 46 ภาพประกอบ 45 ทพั พีท.ีทาํ มาจากไม้ ภาพประกอบ 46 ทพั พีท.ีทาํ มาจากอะลูมิเนียม 3) เขียง เป็ นอุปกรณ์ท.ีทาํ มาจากไม้ และพลาสติก ซ.ึงมีหลายรูปแบบส่วนเขียงท.ี นิยมใชท้ าํ ส้าไกคือเขียงไม้ หาไดง้ ่ายในทอ้ งถ.ิน ดงั ภาพประกอบ 47 ภาพประกอบ 47 เขียงท.ีทาํ มาจากไม้ 4) มีด เป็ นอุปกรณ์ที.ทาํ มาจากอะลูมิเนียม ซ.ึงมีหลายรูปแบบใช้หน.ั วสั ดุท.ีทาํ ส้า ไกและหาไดง้ ่ายในทอ้ งถ.ิน ดงั ภาพประกอบ 48 ภาพประกอบ 48 มีด

40 2.2.4 อุปกรณ์การทาํ ไกแผน่ ทรงเครื.อง 1) ตระแกรง เป็นอุปกรณ์ท.ีทาํ มาจากสแตนเลส ใชส้ าํ หรับใส่ไกเขา้ ตูอ้ บ ดงั ภาพ ประกอบ r9 และ 50 ภาพประกอบ 49 ตระแกรง ภาพประกอบ 50 ตระแกรงใส่ไกแผน่ เขา้ ตูอ้ บ 2) ตูอ้ บ เป็นอุปกรณ์ท.ีใชแ้ ก๊สในการอบไกแผน่ ดงั ภาพประกอบ 51 ภาพประกอบ 51 ตูอ้ บ 3) เคร.ืองปั.นไก เป็ นอุปกรณ์ท.ีใช้ป.ันไกเพ.ือทาํ ความสะอาดไกก่อนนาํ ไปปรุง เคร.ืองเขา้ ตูอ้ บ ดงั ภาพประกอบ 52 ภาพประกอบ 52 เครื.องปั.นไก 4) กระทะ ที.นิยมนาํ มาทอดไกแผ่นทรงเคร.ือง คือกระทะเหล็ก เพราะเป็ น กระทะที.นิยมทาํ อาหารประเภทสดคาว ดงั ภาพประกอบ 38 และ 39 หนา้ ที. 36

41 5) กรรไกร เป็ นเคร.ืองมือท.ีใชส้ ําหรับตดั วสั ดุบางๆ โดยใชแ้ รงกดเล็กนอ้ ยโดย ใชต้ ดั วสั ดุเช่น กระดาษ กระดาษแข็ง แผ่นโลหะบาง พลาสติกบาง อาหารบางอย่าง ผา้ เชือกและ สายไฟ เป็นตน้ กรรไกรที.นิยมใชค้ วรเป็นกรรไกรที.มีขนาดกลางพอมือกบั คนใชง้ านโดยใชต้ ดั แผน่ ไกใหเ้ ป็นแผน่ เพ.ือบรรจุภณั ฑ์ ดงั ภาพประกอบ 53 ภาพประกอบ 53 กรรไกร m) พลาสติก ใชส้ าํ หรับรีดส่วนผสมไกตากแดดก่อนนาํ ไปอบให้แหง้ พลาสติกท.ี นิยมมารีดส่วนผสมไกตากแดดก่อนนาํ ไปอบให้แห้ง คือพลาสติกหนา เพราะจะไม่ขาดง่าย ดงั ภาพ ประกอบ 54 ภาพประกอบ 54 พลาสติก 7) เครื.องบรรจุภณั ฑ์ เป็ นอุปกรณ์ท.ีบรรจุภณั ฑ์ไกแผ่นเพื.อให้ไดผ้ ลิตภณั ฑ์ไก แผน่ ท.ีมีรูปร่างสวยงามน่าซ8ือ ดงั ภาพประกอบ 55 ภาพประกอบ 55 เคร.ืองบรรจุภณั ฑ์

42 8) หญา้ คา เป็ นพืชลม้ ลุกชนิดหน.ึง จดั อยู่ในตระกูลหญา้ มีลาํ ตน้ สูงประมาณ 50-100 เซนติเมตร ลกั ษณะลาํ ตน้ เป็นทรงกลมเรียวยาวขนาดเล็ก ลกั ษณะใบเป็ นขนกระจุก ขอบใบ มีลกั ษณะคมกริบ ออกดอกเป็ นช่อกา้ นยาวสีขาว คลา้ ยหางกระรอก นิยมใชท้ าํ ไกแผน่ คือหญา้ คาที. ตากแหง้ แลว้ นาํ มาไพ เพือ. เป็นที.รองตากไกใหแ้ หง้ ดงั ภาพประกอบ 56 และ 57 ภาพประกอบ 56 หญา้ คา ภาพประกอบ 57 หญา้ คาตากแหง้ ที.ไพแลว้ 2.2.5 อุปกรณ์การทาํ ไกยี 1) กระทะ ท.ีนิยมทาํ ไกยีคือกระทะเหล็ก เพราะเป็ นกระทะท.ีนิยมทาํ อาหาร ประเภทสดคาว ดงั ภาพประกอบ 38 และ 39 หนา้ 37 2) ชาม ชามเป็ นภาชนะท.ีมีปากกวา้ งชามจะมีรัศมีประมาณ 3-5 เซนติเมตร ชาม มีความลึกประมาณ 5 เซนติเมตร ทาํ ดว้ ยวสั ดุท.ีแตกต่างกนั เช่น เมลามีน เซรามิก ดินเผา ฯลฯ การทาํ ห่อหมกไกใชช้ ามเพอื. ใส่วสั ดุการทาํ ห่อหมกไกแลว้ คลุกเคลา้ ใหเ้ ขา้ กนั ดงั ภาพประกอบ 34 หนา้ 36 3) ทพั พี ทพั พีเป็นอุปกรณ์ท.ีทาํ มาจากวสั ดุหลายชนิด อาทิเช่น พลาสติก ไม้ และ ทพั พีอะลูมิเนียม เป็ นตน้ ส่วนทพั พีท.ีนิยมใช้ทาํ คว.ั ไกคือ ทพั พีไม้และทพั พีอะลูมิเนียม ดงั ภาพ ประกอบ 44 และ 45 หนา้ 39 การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ 1. การบรรยาย 2. การอภิปราย 3. ปฏิบตั ิการเตรียมวตั ถุดิบและอุปกรณ์ที.เกี.ยวกบั อาชีพไกท่าวงั ผา การวดั ผลประเมนิ ผล 1. การวดั ประเมินผลความกา้ วหนา้ 1.1 การสงั เกต 2. การวดั ผลประเมินผลรวม 2.1 ทาํ แบบทดสอบปลายภาค

43 เร-ืองท-ี 5 ข/นั ตอนการทาํ ไกท่าวงั ผา สาระสําคญั 1. ข8นั เตรียมการ ไดแ้ ก่การเตรียมอุปกรณ์ในการเก็บไก เช่น ถุงสาํ หรับเก็บไก เข่งหรือ ตะกร้า เส8ือแขนยาว หมวก เชือก 2. ข8นั การทาํ ไก มี 2 วธิ ี ไดแ้ ก่ (1) การเก็บไกในน8าํ ต8ืนและ (2) การเก็บไกในน8าํ ลึก 3. ข8นั การดูแลเก็บรักษา มี 4 ขอ้ ไดแ้ ก่ (1) การตากแหง้ (2) การบรรจุในถุงพลาสติกสีขาว (3) เก็บในที.ไม่มีแสงแดดส่องถึงและเป็ นที. ทึบแสงและลมเพราะจะทาํ ใหไ้ กท.ีไดย้ งั คงสีและความสด อยเู่ สมอ (4) เก็บในช8นั วาง ผลการเรียนรู้ทคี- าดหวงั 1. ปฏิบตั ิการทาํ ไกในข8นั เตรียมการ ข8นั ทาํ ไก และข8นั การดูแลเก็บรักษาไกได้ ขอบข่ายเนือ/ หา 1. ข8นั เตรียมการ เตรียมอุปกรณ์ในการเก็บไก เช่น ถุงสาํ หรับเก็บไก หมวก เส8ือแขนยาว และถุงเทา้ เพ.ือการเก็บไกต่อไป ดงั ภาพประกอบ 26-31 เร.ืองอุปกรณ์การเก็บไก หนา้ 35-37 2. ข8นั ทาํ ไก เป็นข8นั การเก็บไก ซ.ึงมีวธิ ีเก็บ 2 วธิ ี 2.1 การเก็บไกในน8าํ ต8ืน น8าํ ประมาณหนา้ ขาถึงเอว โดยการใชม้ ือกม้ เก็บไกจากแม่น8าํ และเม.ือไดไ้ กมาจะนาํ มาทาํ ความสะอาดกบั น8าํ และดูวา่ มีหินหรือทรายติดอยหู่ รือไม่ ถา้ สะอาดแลว้ นาํ ไกท.ีไดม้ าวางไวท้ ี.แขนอีกขา้ งหน.ึง ทาํ อย่างน8ีไปเร.ือยๆ เม.ือไดไ้ กท.ีพอสมควรก็จะนาํ ไกมาใส่ ตะกร้าท.ีเตรียมไวร้ ิมแม่น8าํ ดงั ภาพประกอบ 58 ภาพประกอบ 58 การเก็บไกน8าํ ต8ืน

44 2.2 การเก็บไกท.ีน8าํ ลึก ประมาณคอ โดยใช้ท่ายืน แลว้ ใช้เทา้ ขา้ งหน.ึงในการสาวไก แทนมือเน.ืองจากน8าํ ลึกแลว้ สาวมาใชม้ ือขา้ งใดขา้ งหน.ึงมาจบั ไกที.ไดน้ าํ มาวางไวท้ ี.แขนอีกขา้ ง หรือ คอแลว้ แต่ถนดั และเมื.อไดไ้ กพอประมาณแลว้ จะข8ึนจากน8าํ ลึกมาในน8าํ ต8ืน และทาํ การลา้ งให้สะอาด อีกคร8ังหน.ึงถึงจะนาํ ไกที.ไดไ้ ปทาํ การทิ8งน8าํ ในตะกร้าท.ีเตรียมไวร้ ิมน8าํ ดงั ภาพประกอบ 59 ภาพประกอบ 59 การเก็บไกน8าํ ลึก 3.ข8นั ดูแลเก็บรักษาไก 3.1 ข8นั การดูแลเก็บรักษา มี 4 ขอ้ ไดแ้ ก่ (1) การตากแหง้ (2) การบรรจุในถุงพลาสติกสีขาว (3) เก็บในที.ไม่มีแสงแดดส่องถึงและเป็ นที. ทึบแสงและลมเพราะจะทาํ ให้ไกท.ีไดย้ งั คงสีและความ สดอยเู่ สมอ (4) เก็บในช8นั วาง ดงั ภาพประกอบ 60 และ 61 ภาพประกอบ 60 การตากไกใหแ้ หง้ ภาพประกอบ m1 การบรรจุในถุงพลาสติกสีขาว สรุปข8นั ตอนการทาํ ไกท่าวงั ผาไดด้ งั น8ี 1. ข8นั เตรียมการ ไดแ้ ก่การเตรียมอุปกรณ์ในการเก็บไก เช่น ถุงสาํ หรับเก็บไก เข่งหรือ ตะกร้า เส8ือแขนยาว หมวก เชือก 2. ข8นั การทาํ ไก มี 2 วธิ ี ไดแ้ ก่ (1) การเก็บไกในน8าํ ต8ืนและ (2) การเก็บไกในน8าํ ลึก 3. ข8นั การดูแลเก็บรักษา มี 4 ขอ้ ไดแ้ ก่ (h) การตากแหง้ (2) การบรรจุในถุงพลาสติกสีขาว (3) เก็บในที.ไม่มีแสงแดดส่องถึงและเป็ นที. ทึบแสงและลมเพราะจะทาํ ให้ไกท.ีไดย้ งั คงสีและความ สดอยเู่ สมอ (4) เก็บในช8นั วาง

45 การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ 1. บรรยาย 2. สมั ภาษณ์ภมู ิปัญญาทอ้ งถิ.น ตามใบงานท.ี 5 3. ฝึกปฏิบตั ิการทาํ ไก ณ แหล่งเรียนรู้ในชุมชน การวดั และประเมนิ ผล 1. การวดั ประเมินผลความกา้ วหนา้ 1.1 การสังเกต 1.2 ซกั ถาม สัมภาษณ์ 2. การวดั ผลประเมินผลรวม 2.1 ทาํ แบบทดสอบปลายภาค

46 เร-ืองที- 6 การแปรรูปผลติ ภณั ฑ์ไกท่าวงั ผา สาระสําคญั 1. การแปรรูปของอาหารสดคาว ไดแ้ ก่ ทาํ ห่อหมกไกหรือห่อน.ึงไก คว.ั ไก และส้าไก 2. การแปรรูปของอาหารแบบแหง้ ไดแ้ ก่ อาหารประเภทของวา่ ง ไกแผน่ ตากแหง้ และ อาหารประเภทไกยี ผลการเรียนรู้ทค-ี าดหวงั 1. ปฏิบตั ิการแปรรูปผลิตภณั ฑไ์ ก ในรูปแบบอาหารสดคาวได้ 2. ปฏิบตั ิการแปรรูปผลิตภณั ฑไ์ ก ในรูปแบบอาหารแบบแหง้ ได้ ขอบข่ายเนือ/ หา 1. การแปรรูปผลิตภณั ฑไ์ กในรูปแบบของอาหารสดคาว ไดแ้ ก่ ห่อหมกไกหรือห่อน.ึงไก ควั. ไก ซ่าไก ไดม้ ีรายละเอียดดงั น8ี 1.1 ห่อหมกไกหรือห่อน.ึงไก มีวธิ ีการแปรรูปตามลาํ ดบั ข8นั ตอนดงั น8ี 1.1.1 นาํ พริกแห้ง กระเทียม หอมแดง พริกข8ีหนู ตะไคร้ เกลือ โขลกให้ละเอียด ดงั ภาพประกอบ 62 และ 63 ภาพประกอบ 62 พริก กระเทียม ตะไคร้หอมแดง ภาพประกอบ 63โขลกส่วนผสม

47 1.1.2 นาํ ไกดิบท.ีจดั เตรียมไวม้ าสบั ใหล้ ะเอียด ดงั ภาพประกอบ 64 ภาพประกอบ 64 การสับไกใหล้ ะเอียด 1.1.3 นาํ ไกท.ีสบั ใหล้ ะเอียดแลว้ นาํ เกลือมาคลุกเคลา้ พอประมาณ ดงั ภาพประกอบ 65 ภาพประกอบ m5 คลุกไกที.สบั ละเอียดกบั เกลือ 1.1.4 นาํ ไกท.ีคลุกเคลา้ กบั เกลือมาป8ันเอาน8าํ ออกแลว้ นวดไปเรื.อยๆเพอื. ใหไ้ กตาย (ภาษาชาวบา้ น) ในที.น8ีไกจะมีลกั ษณะน.ิม ดงั รูปประกอบ 66 ภาพประกอบ m6 ไกที.คลุกเคลา้ เกลือแลว้ ป8ันน8าํ ออกและนวดใหน้ ิ.ม

48 1.1.5 นวดไกใหน้ ิ.มแลว้ นาํ ไกมายอี อกจากกนั และนาํ มาผสมกบั น8าํ ใบยา่ นาง ดงั ภาพประกอบ m7 ภาพประกอบ m7 การผสมไกกบั น8าํ ใบยา่ นาง 1.1.6 นาํ ส่วนผสมที.โขลกเสร็จมาผสมกบั ไกที.ผสมกบั น8าํ ใบยา่ นางพร้อมปรุงรส ดว้ ยเกลือ ใหถ้ ูกปากจะไดร้ สชาติที.เคม็ เผด็ พร้อมเขา้ สู่ข8นั ตอนทาํ ห่อน.ึงไก ดงั ภาพประกอบ 68 และ 69 ภาพประกอบ 68 โขลกส่วนผสม ภาพประกอบ 69 นาํ ส่วนผสมกบั ใบยา่ นางและปรุงรส 1.1.7 นาํ ใบตองมาตดั หัวมุมให้เรียบร้อยแลว้ นาํ เอาใบตอง l ใบมาวางซ้อนกนั นาํ ไกมาวางบนใบตองที.เตรียมไวพ้ อประมาณห่อใหเ้ ป็นรูปสี.เหล.ียมแลว้ นาํ ไมก้ ลดั มากลดั พร้อมนาํ ไปน.ึงบนลงั ถึง น.ึงประมาณคร.ึงชวั. โมงใหใ้ บตองเป็นสีหม่นสุก ดงั ภาพประกอบ 70 71 72 และ 73 ภาพประกอบ 70 ใบตอง l แผน่ มาซอ้ นกนั ภาพประกอบ 71 ตกั ไกพอประมาณใส่ใบตอง

49 ภาพประกอบ 72 ห่อและนาํ ไมก้ ลดั มากลดั ใบตอง ภาพประกอบ 73 นาํ ห่อน.ึงไกไปน.ึง 1.1.8 ยกหมอ้ น.ึงลงและพกั ไวใ้ ห้หายร้อนและนาํ ผลิตภณั ฑ์ห่อน.ึงไกมาจดั ใส่ ภาชนะเพ.ือรับประทานต่อไป ดงั ภาพประกอบ 74 และ 75 ภาพประกอบ 74 นาํ ห่อน.ึงไกยกลงพกั ไวใ้ หเ้ ยน็ ภาพประกอบ 75 ผลิตภณั ฑห์ ่อน.ึงไก 1.2 ส้าไก มีวธิ ีการแปรรูปตามลาํ ดบั ข8นั ตอนดงั น8ี 1.2.1 นาํ ไกท.ีสบั ละเอียดลงชามแลว้ นาํ ส่วนผสมที.เตรียมไวล้ งคลุกใหเ้ ขา้ กนั ดงั ภาพประกอบ 76 ภาพประกอบ 76 สบั ไกใหล้ ะเอียด 1.2.2 เตรียมส่วนผสมไว้เช่น ตะไคร้ หอมแดง กระเทียม พริกสด ดงั ภาพประกอบ 77 ภาพประกอบ 77 เคร.ืองปรุงส้าไก 1.2.3 นาํ ส่วนผสมท8งั หมดมาใส่ลงในไกและใบยา่ นางแลว้ ปรุงรสตามชอบ

50 1.3 ควั. ไก มีวธิ ีการแปรรูปตามลาํ ดบั ข8นั ตอนดงั น8ี 1.3.1 นาํ พริก กระเทียม หอมแดงมาโขลกใหเ้ ขา้ กนั ดงั ภาพประกอบ 78 ภาพประกอบ 78 การโขลกพริก กระเทียม หอมแดง 1.3.2นาํ ไกที.สบั เสร็จแลว้ มาใส่ชามและนาํ น8าํ ใบยา่ นางมาผสมใหเ้ ขา้ กนั ดงั ภาพ ประกอบ 79 80 และ 81 ภาพประกอบ 79 นาํ ไกมาสบั ใหล้ ะเอียด ภาพประกอบ80 นาํ ไกที.สับละเอียด มาใส่ในชาม ภาพประกอบ 81 นาํ น8าํ ใบยา่ นางมาผสมใหเ้ ขา้ กนั


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook