193 การทดลอง 1. นาํ ตวั ตา้ นทานแหลง่ จ่ายไฟฟ้ ากระแสตรงทีปรับค่าไดต้ ่อวงจร ดงั รูป . ปรับค่าโวลตท์ ีแหล่งจ่ายไฟประมาณ ค่า และแต่ละครังทีปรับค่าโวลตใ์ หว้ ดั ค่ากระแสไฟที ไหลผา่ นวงจร บนั ทึกผลการทดลอง . หาค่าระหว่าง . นาํ ค่าทีไดไ้ ปเขียนกราฟระหวา่ ง V กบั ดงั รูป . หาค่าความชนั เปรียบเทียบกบั ค่าทีไดใ้ นขอ้ เปรียบเทียบตวั ตา้ นทาน และทาํ การทดลอง เช่นเดียวกนั กบั ขอ้ - คาํ ถาม ค่า V ทีทดลองไดเ้ ป็นไปตามกฎของโอห์มหรือไม่ เพราะเหตุใด I 6. การเดนิ สายไฟฟ้ า วิธีการเดินสายไฟฟ้ า แบ่ งออกได้ 2 แบบ คือแบบเดินบนผนังและแบบฝังในผนัง 6.1 การเดนิ สายไฟบนผนัง การเดินสายไฟแบบนีจะมองเห็นสายไฟ อาจทาํ ให้ดูไม่เรียบร้อย ไม่สวยงาม หากช่างเดิน สายไฟไมเ่ รียบตรง ยงิ จะเสริมให้ดูไม่เรียบร้อยตกแต่งหอ้ งใหด้ ูสวยงามยาก มีขอ้ ดีทีค่าใชจ้ ่ายถกู กว่า แบบฝังในผนงั สามารถตรวจสอบและซ่อมแซมไดง้ ่าย ขันตอนที 1 กาํ หนดรูปแบบจุดตาํ แหน่งของปลกั ทีตอ้ งการเพิมและแนวการเดินสายไฟ ควรให้อย่ใู นแนว เดิมของสายทีเดินอยแู่ ลว้ ในกรณีทีมีสายแบบเดินลอยอยแู่ ลว้ ใหใ้ ชแ้ นวสายไฟเดิมก็ได้ แลว้ ค่อยแยกเขา้ ตาํ แหน่งทีตอ้ งการ ขันตอนที 2 การเดินแนวใหม่ ควรเดินลากจากจุดต่อขึนบนเพดาน ก่อนแลว้ จึงเดินลงตาํ แหน่งทีตอ้ งการวดั ระยะจากขอบผนงั แลว้ ตีแนวสายไฟดว้ ยดา้ ยตีเสน้
194 ขนั ตอนที 3 ตอกตะปเู ข็มขดั สายไฟตามแนวทีตีเสน้ เขา้ ทีผนงั และแนวทีจะลงตาํ แหน่งทีติดตงั ใหม่ดว้ ยโดย พบั เข็มขดั ทบั หวั ตะปเู พือจบั ขณะตอก ขนั ตอนที 4 เวน้ ระยะห่างของเข็มขดั รัดสายไฟประมาณ 10 - 15ซม. ใ นส่วนโคง้ หรือหกั มุมของเพดานให้ ตอกเขม็ ขดั ถปี ระมาณช่องละ1 - 2 ซม. เพือทีจะรัดสายไฟใหแ้ นบสนิท กบั ผนงั ไมโ่ ก่งงอ ขนั ตอนที 5 ติดตงั เตา้ เสียบทีตาํ แหน่งใหม่ เจาะยดึ ตวั บลอ็ คดว้ ยสวา่ นไฟฟ้ าและขนั ดว้ ยสกรู ยดึ ใหแ้ น่น หากเป็นผนงั ไมค้ วรหาโดรงไมท้ าบในผนงั ก่อนเพือความแขง็ แรง ขนั ตอนที 6 เดินสายไฟในแนวตอกเข็มขดั ไวแ้ ละรัดสายไฟเขา้ กบั เข็มขดั ใหแ้ น่น ต่อสายใส่เขา้ กบั เตา้ เสียบ ใหมใ่ หเ้ รียบร้อยประกอบเขา้ บลอ็ ค ขันตอนที 7 ปิ ดเมนสวทิ ชก์ ่อนเชค็ ดูวา่ ไม่มีไฟเขา้ ปลกั ทีจะต่อพว่ ง โดยใชไ้ ขควงเช็คไฟเชค็ ดวู า่ ไม่มแี สงไฟ ในดา้ มไขควง แลว้ จึงทาํ การพว่ งสายไฟเขา้ กบั ปลกั เดิม และทดลองเปิ ดสวทิ ชแ์ ลว้ ใชไ้ ขควงเช็คไฟที ปลกั จุดใหม่ 6.2 การเดินแบบฝังในผนัง การเดินแบบฝังในผนงั เป็นการเดินสายไฟโดยร้อยสายผา่ นท่อสายไฟซึงฝังในผนงั อาคาร ทาํ ใหด้ ู เรียบร้อยและตกแต่งหอ้ งไดง้ ่ายเพราะมองไมเ่ ห็นสายไฟจากภายนอก การเดินท่อร้อยสายตอ้ งทาํ ควบคู่ไป พร้อมการก่อ- ฉาบ ไม่ควรประหยดั หรือปล่อยใหม้ กี ารลกั ไก่โดยการเดินสายไฟแบบฝังในผนงั โดยไม่ร้อย ใส่ท่อร้อยสายไฟ เพราะหากเกิดไฟรัวอาจเกิดอนั ตรายกบั ผอู้ าศยั เมอื ไปสมั ผสั กาํ แพง การติดตงั มีค่าใชจ้ ่าย สูงกว่าแบบเดินสายบนผนงั การติดตงั มีความยงุ่ ยากและซบั ซอ้ นการเปลียนแปลงและซ่อมแซมภายหลงั จาก ทีไดต้ ิดตงั ไปแลว้ ทาํ ไดย้ ากและเสียค่าใชจ้ ่ายมากกวา่ แบบแรกมาก การเดินสายไฟมกั จะใชว้ ธิ ีเดินสาย ลอยตามผนงั อาคาร ขณะทีการเดินท่อนาํ จะเดินท่อลอยตาม ขอบพืนและขอบผนังเมือใช้งานไป หากเกิดการชาํ รุดเสียหายขึนการตรวจสอบและการซ่อมแซมก็ สามารถทาํ ไดไ้ ม่ยาก แต่ในปัจจุบนั บา้ นเรือนสมยั ใหม่ มคี วามพิถีพิถนั ในดา้ นความสวยงามมากขึน การเดินสายไฟมกั จะใชว้ ธิ ีเดินสายร้อยท่อ ซึงฝังอยภู่ ายในผนงั หรือเหนือเพดานขณะทีการเดินท่อนาํ จะใชว้ ธิ ีเดินท่อฝัง อยภู่ ายในผนงั หรือใตพ้ นื เพอื ซ่อนความรกรุงรัง ของสายไฟและท่อนาํ เอาไว้ การ เดินสายไฟและท่อนาํ แบบฝังนีแมจ้ ะเพมิ ความสวยงาม และความเป็นระเบียบเรียบร้อย ใหแ้ ก่ตวั บา้ น แต่กม็ ขี อ้ เสียแฝงอยู่ เพราะถา้ เกิดปัญหาไฟชอ็ ต ไฟรัว หรือท่อนาํ รัว ซึงอาจจะมีสาเหตุมาจาก การใช้ วสั ดุทีดอ้ ยคุณภาพ การติดตงั อย่างผดิ วิธี หรือการชาํ รุดเสียหายอนั เนืองมาจากการใชง้ านก็ตาม การ
195 ตรวจสอบ หรือการซ่อมแซมยอ่ มทาํ ไดล้ าํ บาก อาจถึงขนั ตอ้ งทาํ การรือฝ้ าเพดานรือกาํ แพงหรือพืนที บางส่วนเพือทาํ การตรวจสอบและ แกไ้ ขปัญหาทีเกิดขึน ซึงทาํ ใหเ้ กิด ความเสียหายต่อตวั บา้ น เสียเวลา และเสียค่าใชจ้ ่ายสูงในการวางระบบไฟฟ้ า วธิ ีหลีกเลยี งปัญหาขา้ งตน้ อยา่ งง่าย ๆ วิธีหนึงก็คือการเลือก เดินสายไฟแบบลอย ซึงอาจจะดไู มเ่ รียบร้อยนกั และเหมาะสาํ หรับ อาคารบา้ นเรือนขนาดเล็กเท่านัน แต่สาํ หรับผทู้ ีตอ้ งการความประณีตสวยงามหรือบา้ นขนาดใหญ่ทีมีการเดินสายไฟ เป็นจาํ นวนมาก การ เดินสายไฟแบบฝัง ดูจะมีความเหมาะสมกว่า อยา่ งไรก็ตาม ปัญหาต่าง ๆ ดงั กล่าวอาจจะป้ องกนั หรือ ทาํ ให้ ลดนอ้ ยลงไดโ้ ดยการเลือกใชว้ สั ดุทีมีคุณภาพ ใชว้ สั ดุทีถกู ตอ้ ง และมีขนาดทีเหมาะสม รวมทงั มี การติดตงั อยา่ งถกู วิธีและมีระบบ แบบแผน ข้อแนะนําในการออกแบบระบบวงจรไฟฟ้ าภายใน ระบบวงจรไฟฟ้ าภายในบา้ นควรแยกวงจรควบคุมพนื ทีต่าง ๆ เป็นส่วน ๆ เช่น แยกตามชนั หรือแยกตามประเภทของการใชไ้ ฟฟ้ า ทาํ ใหง้ ่ายต่อการซ่อมแซม ในกรณีไฟฟ้ าขดั ขอ้ ง ระบบวงจรไฟฟ้ า ในหอ้ งครัวควรมกี ารต่อแยกเพราะหากตอ้ งดบั ไฟในบา้ น เพือซ่อมแซมจะไดไ้ มต่ อ้ งดบั ไฟหอ้ งครวั ทีมี ตูเ้ ยน็ ทีแช่อาหารไว้ อาหารจะไดไ้ มเ่ สีย 7. การใช้เครอื งใช้ไฟฟ้ าอย่างง่าย ไฟฟ้ าแสงสว่าง - ติดตงั จาํ นวนหลอดไฟฟ้ าเท่าทีจาํ เป็นและเหมาะสมกบั การใชง้ าน - ใชห้ ลอดไฟฟ้ าชนิดทีใชแ้ สงสว่างมากแต่กินไฟนอ้ ย และมอี ายกุ ีใชง้ านยาวนานกว่า เช่น หลอดฟอู อเรสเซนต์ หลอดคอมแพคท์ เป็นตน้ - ทาํ ความสะอาดหลอดไฟฟ้ าหรือโคมไฟเป็นประจาํ - ตกแต่งภายในอาคารสถานทีโดยใชส้ ีออ่ นเพอื เพมิ การสะทอ้ นของแสง - ปิ ดสวติ ซห์ ลอดไฟฟ้ าทุกดวงเมอื เลกิ ใชง้ าน พดั ลม - เลือกขนาดและแบบใหเ้ หมาะสมกบั การใชง้ าน - ปรับระดบั ความเร็วลมพอสมควร - เปิ ดเฉพาะเวลาทีจาํ เป็นเท่านนั - หมนั บาํ รุงดูแลรักษาใหอ้ ยใู่ นสภาพทีดี เครืองรับโทรทัศน์ - ควรเลือกขนาดทีเหมาะสมกบั ครอบครัวและพืนทีในหอ้ ง - ควรเลอื กชมรายการเดียว หรือเปิ ดเมอื ถงึ เวลาทีมรี ายการทีตอ้ งการชม
196 - ถอดปลกั เครืองรับโทรทศั น์ทกุ ครังเมอื ไม่มีคนชม เครืองเป่ าผม - ควรเชด็ ผมใหห้ มาดก่อนใชเ้ ครืองเป่ าผม - ควรขยแี ละสางผมไปดว้ ยขณะใชเ้ ครืองเป่ าผม - เป่ าผมดว้ ยลมร้อนเท่าทีจาํ เป็น เตารีดไฟฟ้ า - พรมนาํ เสือผา้ แต่พอสมควร - ปรับระดบั ความร้อนใหเ้ หมาะสมกบั ชนิดของเสือผา้ - เริมตน้ รีดผา้ บาง ๆ ขณะทีเตารีดยงั ร้อนไมม่ าก - เสือผา้ ควรมปี ริมาณมากพอสมควรในการรีดแต่ละครัง - ถอดปลกั ก่อนเสร็จสินการรีด 2 - 3 นาที เพราะยงั คงมคี วามร้อนเหลือพอ หม้อชงกาแฟ - ใส่นาํ ใหม้ ปี ริมาณพอสมควร - ปิ ดฝาใหส้ นิทก่อนตม้ - ปิ ดสวติ ซท์ นั ทีเมอื นาํ เดือด หม้อหุงข้าวไฟฟ้ า - เลือกใชข้ นาดทีเหมาะสมกบั ครอบครัว - ถอดปลกั ออกเมอื ขา้ วสุกหรือไมม่ คี วามจาํ เป็นตอ้ งอนุ่ ใหร้ อ้ นอกี ต่อไป ต้เู ยน็ - เลอื กใชข้ นาดทีเหมาะสมกบั ครอบครัว - ตงั วางตูเ้ ยน็ ใหห้ ่างจากแหลง่ ความร้อน - ไม่ควรนาํ อาหารทีร้อนเขา้ ตูเ้ ยน็ ทนั ที - ไม่ควรใส่อาหารไวใ้ นตูเ้ ยน็ มากเกินไป - หมนั ละลายนาํ แข็งออกสปั ดาห์ละครัง - หมนั ทาํ ความสะอาดแผงระบายความร้อน - ไมค่ วรเปิ ดประตูตูเ้ ยน็ บ่อย ๆ หรือปลอ่ ยใหเ้ ปิ ดทิงไว้ - ดูแลยางขอบประตตู ูเ้ ยน็ ใหป้ ิ ดสนิทเสมอ
197 เครืองทําความร้อน - เลือกใชข้ นาดทีเหมาะสมกบั ครอบครัว - ไม่ควรปรับระดบั ความร้อนสูงจนเกินไป - ควรปิ ดวาลว์ บา้ งเพือรักษานาํ ร้อนไวข้ ณะอาบนาํ - ไมค่ วรใชเ้ ครืองทาํ ความร้อนในฤดูร้อน - ปิ ดวาลว์ นาํ และสวติ ซท์ นั ทีเมือเลกิ ใชง้ าน เครืองปรับอากาศ - หอ้ งทีติดตงั เครืองปรับอากาศ ควรใชฝ้ ้ าเพดานทีมีคุณสมบตั ิเป็นฉนวนป้ องกนั ความร้อน - เลือกขนาดของเครืองใหเ้ หมาะสมกบั ขนาดพืนทีหอ้ ง - เลือกใชเ้ ครืองปรับอากาศทีไดร้ ับการรับรองคุณภาพและช่วยประหยดั พลงั งาน - ปรับระดบั อณุ หภูมแิ ละปริมาณลมใหเ้ กิดความรู้สึกสบายในแต่ละฤดูกาล - หมนั ดแู ลบาํ รุงรักษาและทาํ ความสะอาดชินส่วนอุปกรณ์และเครืองใหอ้ ยใู่ นสภาพทีดีอยเู่ สมอ - ดแู ลประตหู นา้ ต่างใหป้ ิ ดสนิทเสมอ - ใชพ้ ดั ลมระบายอากาศเท่าทีจาํ เป็น - ปิ ดเครืองก่อนเลกิ ใชพ้ นื ทีปรับอากาศประมาณ 2 - 3 นาที เครืองซักผ้า - ในการซกั แต่ละครังควรใหป้ ริมาณเสือผา้ พอเหมาะกบั ขนาดเครือง - ควรใชว้ ิธีผงึ แดดแทนการใชเ้ ครืองอบผา้ แหง้ - ศกึ ษาและปฏบิ ตั ิตามวธิ ีการในคู่มอื การใช้ 8. ความปลอดภยั และอบุ ัตเิ หตุจากอาชีพช่างไฟฟ้ า 1) ก่อนลงมือปฏบิ ตั ิงานกบั อปุ กรณ์ไฟฟ้ า ใหต้ รวจหรือวดั ดว้ ยเครืองมอื วดั ไฟฟ้ าวา่ ในสายไฟ หรืออปุ กรณ์นนั มไี ฟฟ้ าหรือไม่ 2) การทาํ งานกบั อปุ กรณ์ไฟฟ้ าในขณะปิ ดสวติ ซไ์ ฟหรือตดั ไฟฟ้ าแลว้ ตอ้ งต่อสายอปุ กรณ์นนั ลงดินก่อนทาํ งานและตลอดเวลาทีทาํ งาน 3) การต่อสายดินใหต้ ่อปลายทางดา้ นดินก่อนเสมอจากนนั จึงต่อปลายอีกขา้ งเขา้ กบั อปุ กรณ์ไฟฟ้ า 4) การสมั ผสั กบั อุปกรณ์ไฟฟ้ าแรงดนั ตาํ ใด ๆ หากไมแ่ น่ใจใหใ้ ชอ้ ุปกรณ์ทดสอบไฟวดั ก่อน 5) การจบั ตอ้ งอปุ กรณ์ทีมีไฟฟ้ า จะตอ้ งทาํ โดยอาศยั เครืองมือ - อุปกรณ์ และวธิ ีการทีถกู ตอ้ งเท่านนั 6) เครืองมือเครืองใชท้ ีทาํ งานกบั อปุ กรณ์ไฟฟ้ า เช่น คีม ไขควง ตอ้ งเป็นชนิดทีมฉี นวนหุม้ 2 ชนั อยา่ งดี
198 7) ขณะทาํ งานตอ้ งมนั ใจวา่ ไมม่ สี ่วนใดส่วนหนึงของร่างกายหรือเครืองมือทีใชอ้ ยสู่ ัมผสั กบั ส่วนอืนของอปุ กรณ์ทีมกี ระแสไฟดว้ ยความพลงั เผลอ 8) การใชก้ ุญแจป้ องกนั การสับสวิตซ์ การแขวนป้ ายเตือนห้ามสับสวิตซต์ ลอดจนการปลด กุญแจและป้ ายตอ้ งกระทาํ โดยบุคคลคนเดียวกนั เสมอ 9) การขึนทีสูงเพือทาํ งานกบั อุปกรณ์ไฟฟ้ าตอ้ งใชเ้ ข็มขดั นิรภยั หากไม่มีการใชเ้ ชือกขนาด ใหญ่คลอ้ งเอาไวก้ บั โครงสร้างหรือส่วนหนึงส่วนใดของอาคาร 10) การทาํ งานเกียวกบั ไฟฟ้ าหากเป็นไปไดค้ วรมีผชู้ ่วยเหลอื อยดู่ ว้ ย 8.1 ข้อควรระวงั ในการทํางานเกยี วกบั ไฟฟ้ าทวั ๆ ไป - เมอื พบว่าฝาครอบ หรือกล่องสวิตซช์ าํ รุด หรือตกเสียหาย และควรรีบเปลียนและซ่อมแซม ทนั ที - รักษาความสะอาดของพนื บริเวณทีซึงสวติ ซอ์ ยใู่ กล้ ๆ - หมนั สาํ รวจตรวจตราภายในแผงสวิตซ์ ตูค้ วบคุมทางไฟฟ้ า ไม่ใหม้ ีเศษผงทองแดง หรือโลหะทีนาํ ไฟฟ้ าอยแู่ ละอยา่ นาํ ชินส่วนอุปกรณ์ภายในตคู้ วบคุม เช่น ฟิ วส์ ออกจากตูค้ วบคุม - การเปลียนฟิ วส์ ควรใชฟ้ ิ วส์เฉพาะงานนนั ๆ และก่อนเปลียนตอ้ งสับสวิตซ์ (ให้ วงจรไฟฟ้ าเปิ ดใหเ้ รียบร้อยก่อน) - อยา่ ใชฝ้ าครอบทีทาํ ดว้ ยสารทีสามารถลกุ ติดไฟได้ - สวติ ซแ์ ต่ละอนั ควรมปี ้ ายแสดงรายละเอยี ดดงั นี - ใชก้ บั กระแสไฟตรง หรือกระแสสลบั - ความต่างศกั ยท์ างไฟฟ้ า (หรือแรงดนั /แรงเคลอื นไฟฟ้ า) - กระแสไฟฟ้ า - เครืองมอื เครืองใชท้ างไฟฟ้ าทีต่อกบั สวิตซน์ นั - ชือผรู้ ับ - ตอ้ งสบั สวติ ซใ์ หว้ งจรไฟฟ้ าเปิ ด เมอื ตอ้ งการตรวจสอบหรือซ่อมแซมเครืองจกั รแลว้ ใหท้ าํ สญั ลกั ษณ์หรือป้ ายทีสวติ ซว์ ่า “กาํ ลงั ซ่อม” - ก่อนสบั สวติ ซ์ให้วงจรไฟฟ้ าปิ ด ตอ้ งแน่ใจว่าทุกอยา่ งเรียบร้อยและไดร้ ับสญั ญาณ ถกู ตอ้ ง และก่อนเปิ ดทดลองเดินเครืองควรตรวจดูวา่ เครืองจกั รนนั ไมม่ วี ตั ถุอนื ใดติดหรือขดั อยู่ - การส่งสญั ญาณเกียวกบั เปิ ด-ปิ ดสวติ ซ์ ควรทาํ ดว้ ยความระมดั ระวงั - อยา่ ปิ ด - เปิ ดสวติ ซข์ ณะมอื เปี ยกนาํ - การสบั สวิตซใ์ หว้ งจรไฟฟ้ าปิ ดตอ้ งแน่ใจว่าสญั ญาณนนั ถกู ตอ้ ง - การขนั สลกั เกลียวเพือยดึ สายไฟฟ้ า ตอ้ งขนั ใหแ้ น่น - อุปกรณ์ไฟฟ้ าทีชาํ รุดอยา่ ฝืนใชง้ านจะเกิดอนั ตรายได้
199 8.2 ข้อทไี ม่ควรกระทําในการปฏบิ ัตงิ านเกยี วกบั ไฟฟ้ า - ไม่ควรถอดปลกั ไฟดว้ ยการดึงสายไฟ - ไม่ควรใชเ้ ครืองมอื และอุปกรณ์ไฟฟ้ าทีชาํ รุด - ไมค่ วรใชป้ ลกั ไฟทีชาํ รุด - ไม่ควรต่อพว่ งไฟเกินกาํ ลงั - ไมค่ วรต่อปลกั ผดิ ประเภท - ไมค่ วรซ่อมแซมอุปกรณ์ไฟฟ้ าดว้ ยตนเองถา้ หากไมม่ ีความรู้อยา่ งแทจ้ ริง 8.3 ความปลอดภยั เกยี วกบั ตวั ผ้ปู ฏิบัตงิ าน การแต่งกาย - เครืองแบบทีเหมาะสมในการปฏิบตั ิงานเกียวกบั เครืองจกั ร คือ เสือและกางเกงทีเป็นชิน เดียวกนั ซึงอยใู่ นสภาพทีเรียบร้อย เสือผา้ ทีฉีกขาดไมค่ วรนาํ มาใช้ เพราะจะทาํ ใหเ้ ขา้ ไปติดกบั เครืองจกั รทกี าํ ลงั หมุนได้ - ติดกระดุมทุกเมด็ ใหเ้ รียบร้อย - ไมค่ วรใส่เครืองประดบั เช่น สร้อยคอ นาฬกิ า แหวน - ตอ้ งใส่รองเทา้ หุม้ สน้ หรือรองเทา้ บูท เพอื ป้ องกนั เศษโลหะทิมตาํ - ควรสวมแว่นตา เพือป้ องกนั เศษโลหะกระเด็นเขา้ ตา - ไม่ควรไวผ้ มยาวหรือมิฉะนนั ควรสวมหมวก - สภาพการทาํ งานทีมีเสียงดงั ควรสวมทีครอบหู
200 9. การบริหารจดั การและการบริการทีดี บริการทีดี หมายถงึ ความตงั ใจและความพยายามในการใหบ้ ริการต่อผรู้ ับบริการ มีระดบั การ ปฏบิ ตั ิ ดงั นี ระดบั ที 1 สามารถให้บริการแก่ผ้รู ับบริการ ด้วยความเตม็ ใจ - ใหบ้ ริการทีเป็นมิตรภาพ - ใหข้ อ้ มลู ข่าวสารทีถกู ตอ้ งชดั เจนแกผ้ รู้ ับบริการ - แจง้ ใหผ้ รู้ ับบริการทราบความคืบหนา้ ในการดาํ เนินเรือง หรือขนั ตอนงานต่าง ๆ ทีใหบ้ ริการอยู่ - ประสานงานใหแ้ ก่ผรู้ ับบริการไดอ้ ยา่ งต่อเนืองและรวดเร็ว ระดับที 2 ช่วยแก้ปัญหาให้แก่ผ้รู ับบริการ - ช่วยแกป้ ัญหาหรือหาแนวทางแกไ้ ขปัญหาทีเกิดขึนแกผ้ รู้ ับบริการอยา่ งรวดเร็วไม่บ่ายเบียง ไม่แกต้ วั หรือปัดภาระ - ผรู้ ับบริการไดร้ ับความพึงพอใจและนาํ ขอ้ ขดั ขอ้ งทีเกิดจากการใหบ้ ริการไปพฒั นาใหก้ าร บริการดียงิ ขึน ระดบั ที 3 ให้บริการทเี กนิ ความคาดหวงั แม้ต้องใช้เวลาหรือความพยายามอย่างมาก - ใหเ้ วลาแก่ผรู้ ับบริการเป็นพเิ ศษ เพอื ช่วยแกป้ ัญหาใหแ้ ก่ผรู้ ับบริการ - นาํ เสนอวธิ ีการในการใหบ้ ริการทีผรู้ ับบริการจะไดร้ ับประโยชนส์ ูงสุด ระดบั ที 4 เข้าใจและให้บริการทีตรงตามความต้องการทีแท้จริงของผ้รู ับบริการได้ - พยายามทาํ ความเขา้ ใจดว้ ยวิธีต่าง ๆ เพอื ใหบ้ ริการไดต้ รงตามความตอ้ งการทีแทจ้ ริงของ ผรู้ ับบริการ - ใหค้ าํ แนะนาํ ทีเป็นประโยชน์แกผ้ รู้ ับบริการ เพือตอบสนองความตอ้ งการ ระดบั ที 5 ให้บริการทเี ป้ นประโยชน์อย่างแท้จริงให้แก่ผ้รู ับบริการ - คิดถงึ ประโยชน์ของผรู้ ับบริการในระยะยาว - เป็นทีปรึกษาทีมีส่วนช่วยในการตดั สินใจทีผรู้ ับบริการไวว้ างใจ - สามารถใหค้ วามเห็นทีแตกต่างจากวิธีการหรือขนั ตอนทีผรู้ ับบริการตอ้ งการใหส้ อดคลอ้ งกบั ความจาํ เป็น ปัญหา โอกาส เพอื ประโยชน์อยา่ งแทจ้ ริงของผรู้ ับบริการ 10. โครงงานวทิ ยาศาสตร์สู่อาชีพ อาชีพช่างไฟฟ้ า เป็ นอาชีพสาํ คญั จาํ เป็ นกบั สังคมเทคโนโลยีในทุกยุคทุกสมยั ผมู้ ีอาชีพช่าง ไฟฟ้ า ตอ้ งมีความชาํ นาญเฉพาะทาง มคี วามคิดริเริมสร้างสรรค์ สร้างผลงาน นอกเหนือจากการติดตงั ซ่อมแซมอปุ กรณ์ไฟฟ้ า และยงั สามารถสร้างสรรคผ์ ลงานเป็นอุปกรณ์เครืองใชไ้ ฟฟ้ า สาํ หรับครัวเรือน เพอื ความสะดวกสบายในชีวติ ประจาํ วนั ของมนุษย์ ดงั นนั ช่างไฟฟ้ า นอกจากเป็ นอาชีพเพือบริการ ยงั นาํ ไปสู่เพือการพาณิชยไ์ ดด้ ี โดยผเู้ รียนนาํ ความรู้ ผลงาน จากโครงงานเรืองไฟฟ้ า ไปต่อยอดสู่อาชีพได้
201 อยา่ งหลากหลาย อาทิเช่น การประดิษฐโ์ คมไฟเพอื ประดบั ตกแต่ง โคมไฟเพืออ่านหนังสือ เครืองเตือน ภยั นาํ ท่วมอยา่ งง่าย ฯลฯ ตัวอย่างที 1 การประดษิ ฐ์โคมไฟเพอื ประดบั ตกแต่ง วสั ดุทีใช้ ราคาประมาณ 30 บาท 1. สวทิ ซไ์ ฟ สาํ หรับเปิ ดปิ ด ราคาประมาณ 79 บาท 2. หลอดไฟฟลอู อเรสเซนตแ์ บบยาว นาํ กลบั มาใชใ้ หม่ (reuse) 3. แผน่ ซีดี 61 แผน่ ราคาประมาณ 30 บาท 4. สายไฟ 1.8 เมตร วธิ ีทําโคมไฟจากแผ่นซีดี วธิ ีทาํ โคมไฟจากแผน่ ซีดี แผน่ ซีดีทีเสียแลว้ ใครจะเชือว่าสามารถนาํ มาทาํ โคมไฟอนั สวยหรู มีระดบั อยา่ งทีใครนึกไม่ถงึ มากก่อน สนใจละซิ ลองมาทาํ ดูวา่ เขาทาํ กนั อยา่ งไรทาํ ใหไ้ ดโ้ คมไฟสวย สะดุดใจ โดยใชต้ น้ ทนุ ประมาณ 139 บาท ดงั นี
202 หลอดไฟทีใช้ ถอดส่วนประกอบหลอดไฟออก เพือจะไดแ้ ยกเอาสวทิ ซก์ บั หลอดไฟ ไวส้ าํ หรับติดนอกกล่องโคมไฟ
203 นาํ มาวา่ งตาํ แหน่งวา่ สวิทซ์ กบั หลอดไฟจะอยตู่ าํ แหน่งไหน ตดั แผน่ ไมอ้ ดั หนาขนาด 3/8 นิว เป็นรูปวงกลมขนาด แผน่ ซีดี จาํ นวน 18 แผน่ แผน่ ไมอ้ ดั ทีตดั ออกมา
204 ทาดว้ ยกาวร้อน แลว้ ใชส้ กรูอดั ใหแ้ น่น ทิงไวใ้ หก้ าวแหง้ ประมาณ 20 นาที ใชส้ วา่ นเจาะช่องตรงกลางไมใ้ หใ้ ส่หลอดไฟได้ เจาะช่องใหส้ ายไฟ กบั สวิทซไ์ ฟใส่ได้
205 วางหลอดไฟใส่ลงไปในช่องนี ใส่สวทิ ซไ์ ฟ กบั สายไฟตามช่องทีเจาะไว้
206 เจาะรูตรงกลางแผน่ ซีดี ใหก้ วา้ งพอทีจะใส่หลอดไฟได้ เจาะใหใ้ ส่หลอดไฟไดแ้ บบนี
207 จบั แผน่ ซีดีสองแผน่ มาจบั คู่ประกบกนั โดยหนั ดา้ นทีมนั วาวออกทงั สองดา้ น แลว้ ใชก้ าวร้อน ทาทิงไวใ้ หแ้ หง้ แลว้ เจาะรู 3 รู ไวส้ าํ หรับใส่น็อตยาวเป็นเสาขา 3 ขา ดงั ภาพ ชนั แรกใส่แผน่ เดียว จากนนั ค่อยใส่วงแหวน รองเพอื ใหเ้ ป็นชนั ๆ มีช่องวา่ งใหแ้ สงกระจายออก ใส่ไปเรือย ๆ จนถึงชนั สุดทา้ ย ใช้ แผน่ ซีดี 4 แผน่ ทากาวประกบกนั ปิดเป็นฝาขา้ งบน เวลาจะเปลยี นหลอดไฟขา้ งใน ก็ไขน็อตออก แลว้ หยบิ หลอดไฟมาเปลียน ประกอบเสร็จแลว้ เมือเปิ ดไฟ จะไดภ้ าพดงั นี ทีมา http://www.yousaytoo.com/tensionnot/how-to-make-a-cool-cd-lamp/4877 ตวั อย่างที 2 สิงประดิษฐ์เครืองเตอื นภยั นําท่วมอย่างง่าย วสั ดุทีใช้ ราคาประมาณ 100 - 150 บาท 1. สวิทซแ์ ละกริงไฟฟ้ าแบบไร้สาย นาํ กลบั มาใชใ้ หม่ (reuse) 2. เศษโฟม นาํ กลบั มาใชใ้ หม่ (reuse) 3. ถงุ พลาสติก
208 วธิ ที ํา 1. หาซือกริงประตูบา้ นแบบไร้สายมขี ายเกือบทุกหา้ ง (ราคาประมาณร้อยกวา่ บาทถึงหา้ ร้อย บาท) เอาแบบกดคา้ งแลว้ ร้องต่อเนือง นอนหลบั แลว้ จะไดต้ ืน (บางยหี อ้ กดคา้ งแลว้ ร้องครังเดียว) . หาอปุ กรณ์ดงั นี ตะกร้าทรงเตีย แผน่ โฟม ซองซิปกนั นาํ เทปกาว กาวสองหนา้ กอ้ นอิฐหรือ หิน . นาํ กริงตวั ลกู (สวิตซท์ ีกดกริง) มาติดกาวสองหนา้ บริเวณทีกดใหท้ ีกดนูนขึน (ไมต่ อ้ งลอก กระดาษอกี ดา้ นออก) แลว้ ใส่ซองซิปไม่ใหน้ าํ เขา้ . ตดั โฟมใหม้ ขี นาดเลก็ กวา่ ตะกร้าเลก็ นอ้ ย นาํ กริงตวั ลกู ทอี ยใู่ นซองซิปไปวางกลางโฟมแลว้ ติดเทปกาวบนโฟม
209 . หาทีเหมาะ ๆ วางโฟมทีพนื ทีตอ้ งการทราบวา่ นาํ ท่วมแลว้ เช่น ประตรู ัว ครอบโฟมดว้ ย ตะกร้า ทบั ตะกร้าดว้ ยอฐิ หรือหิน (ระยะสญั ญาณประมาณ เมตรจากตวั แม่) . เสียบปลกั ตวั แม่ (สญั ญาณกระดิง) ไวใ้ นบา้ น . เมือนําท่วมโฟมจะลอยตวั ดนั สวิตซ์ทีกดกริงกับกน้ ตะกร้าทีถูกทบั ไวด้ ้วยอิฐหรื อหิน ทาํ ใหส้ ญั ญาณร้องเตือน ทีมา http://www.oknation.net/blog/print.php?id=653105
210 11. คาํ ศัพท์ทางไฟฟ้ า ช่างไฟฟ้ าทุกคนจะตอ้ งเขา้ ใจคาํ จาํ กดั ความทวั ไปของคาํ ศพั ทท์ ีใชใ้ นทางช่างไฟฟ้ า เพือให้การ สังวสั ดุอุปกรณ์ และการอ่านรายละเอียดของวสั ดุอุปกรณ์ของบริษทั ผผู้ ลิตอย่างมีประสิทธิภาพ ผสู้ งั และผอู้ า่ นจะตอ้ งมีความคุน้ เคยกบั ภาษาทีใชใ้ นทางช่างไฟฟ้ าดว้ ย ดงั นนั จึงควรอา่ นคาํ จาํ กดั ความแต่ละ คาํ อยา่ งละเอียดใหเ้ ขา้ ใจ และควรพลิกดูคาํ เหล่านีทุกครังเมือมีความจาํ เป็ น นอกจากนียงั มีรายละเอียด เกียวกบั คาํ นิยามของคาํ ศพั ทเ์ หลา่ นีเพมิ เติมในทา้ ยเล่มของหนงั สือเล่มนีดว้ ย พลงั งาน (energy) : ความสามารถในการทาํ งาน กาํ ลงั ม้า (horsepower) : หน่วยวดั การทาํ งานของเครืองจกั รกลพวกมอเตอร์และเครืองยนต์ เรา จะใชอ้ กั ษรยอ่ HP หรือ hp แทน โดยทวั ไปกาํ ลงั มา้ นีจะใชบ้ ่งบอกเอาทพ์ ุทของมอเตอร์ไฟฟ้ า ไฟฟ้ า (electricity) : การเคลอื นทีของอเิ ลก็ ตรอนผา่ นตวั นาํ ไฟฟ้ า ตวั นําไฟฟ้ า (conductor) : สสารทียอมใหก้ ระแสไฟฟ้ าไหลผา่ นตวั มนั เองไดง้ ่าย ความนาํ ไฟฟ้ าหรือความเป็ นสือไฟฟ้ า (conductance) : ความสะดวกสบายต่อการไหลผา่ นของ กระแสไฟฟ้ าในวงจร ฉนวนไฟฟ้ า (insulator) : วตั ถทุ ีมคี ุณสมบตั ิตา้ นทานการไหลของกระแสไฟฟ้ า อาจจะกลา่ วได้ ว่าสสารนนั ขดั ขวางการเคลอื นทีของอิเลก็ ตรอน อาํ นาจแม่เหลก็ (magnetism) : คุณสมบตั ิอยา่ งหนึงของสสารทีแสดงอาํ นาจดึงดดู เหลก็ ได้ ขัวไฟฟ้ า (polarity) : คุณสมบตั ิของประจุไฟฟ้ าทีแสดงออกมา ซึงจะมคี ่าเป็นบวกหรือเป็นลบ แม่เหลก็ ไฟฟ้ า (electromagnet) : ขดลวดตวั นาํ ไฟฟ้ าทีแสดงอาํ นาจหรือคุณสมบตั ิทางแมเ่ หลก็ เมอื มีกระแสไฟฟ้ า ไหลผา่ นขดลวดนนั ขดปฐมภูมิ (primary) : ขดลวดของหมอ้ แปลงไฟฟ้ า ซึงต่ออย่กู บั แหล่งจ่ายไฟฟ้ าและรับ พลงั งาน นนั กค็ ือดา้ นรับไฟฟ้ าเขา้ ของหมอ้ แปลงไฟฟ้ า ขดทุตยิ ภูมิ (secondary) : ขดลวดของหมอ้ แปลงไฟฟ้ าทีติดอยกู่ บั โหลด (ภาระทางไฟฟ้ า) โดย จะรับพลงั งานดว้ ยหลกั การเหนียวนาํ ทางอาํ นาจแม่เหลก็ ไฟฟ้ าจากขดลวดปฐมภูมิไปสู่โหลดนันก็คือ ดา้ นจ่ายไฟออกของหมอ้ แปลงไฟฟ้ า กาํ ลงั ไฟฟ้ า (electric power) : อตั ราการผลติ หรือใชพ้ ลงั งานทางไฟฟ้ าในหนึงหน่วยเวลา วตั ต์ (watt) : หน่วยวดั กาํ ลงั ไฟฟ้ า เราเรียนอกั ษรยอ่ ตวั พิมพใ์ หญ่ W แทน กาํ ลงั ไฟฟ้ ามีจะเป็ น อกั ษรบอกพลงั งานไฟฟ้ าทีมอี ุปกรณ์ไฟฟ้ าแต่ละตวั ในการทาํ งาน อยา่ งเช่น หลอดไฟ 1,000 วตั ต์ เครือง ปิ งขนมปัง 1,000 วตั ต์ กโิ ลวตั ต์ (kilowatt) : หน่วยกาํ ลงั ไฟฟ้ าทีมีค่าเท่ากบั 1,000 วตั ต์ เราใชต้ วั ย่อว่า KW เพราะเหตุ วา่ ในทางปฏิบตั ินนั โหลด หรือภาระทางไฟฟ้ ามีจาํ นวนมากๆ จึงมีค่าวตั ต์สูง ๆ หน่วยวตั ต์ซึงทาํ ใหก้ าร
211 เรียกหรือบนั ทึกค่าย่งุ ยากและเสียเวลา เราจึงนิยมใชก้ ิโลวตั ตซ์ ึงเป็ นหน่วยทีใหญ่ขึนนีแทน และยงั มี หน่วยใหญ่กว่ากิโลวตั ตอ์ กี ก็คือ เมกกะวตั ต์ (megawatt) ซึงเท่ากบั 1,000 กิโลวตั ต์ หรือเขียนยอ่ ๆ วา่ 1 MW กิโลวัตต์ - ชัวโมง (kilowatt - hour) : หน่วยวดั การใชก้ าํ ลงั ไฟฟ้ าในเวลา 1 ชวั โมง เราจาํ ใช้ อกั ษรย่อพิมพต์ วั ใหญ่ KWH แทน ปกติแลว้ การใชพ้ ลงั งานไฟฟ้ าตามบา้ นจะวดั ค่าออกจากเครืองวดั พลงั งาน (หรือทีเราเรียกกนั วา่ หมอ้ มิเตอร์) มหี น่วยเป็นกิโลวตั ต์ - ชวั โมง หรือทีเรียกกนั ว่า ยนู ิต (unit) แลว้ คิดราคาไฟฟ้ าทีเราตอ้ งจ่ายเท่ากบั จาํ นวนยนู ิตทีเราตอ้ งใชค้ ูณดว้ ยราคาไฟฟ้ าต่อหนึงยนู ิต ไฟฟ้ ากระแสสลบั (alternating current) : ระบบไฟฟ้ าทีทิศทางการวิงของอิเลก็ ตรอนมีการ สลบั ไปมาตลอดเวลา เราใชส้ ญั ลกั ษณ์แทนดว้ ยอกั ษรตวั พิมพใ์ หญ่ AC และมกั นิยมใชเ้ ป็ นระบบไฟฟ้ า ตามบา้ น อาคาร โรงงานทวั ๆ ไป ไฟฟ้ ากระแสตรง (direct current) : ระบบไฟฟ้ าทีอิเล็กตรอนมีการวิงไปทางเดียวกัน ตลอดเวลา และต่อเนืองกัน มกั จะพบว่าใชก้ นั อยู่ทวั ๆ ไป ก็คือ เครืองชาร์จแบตเตอรี ถ่านไฟฉาย แบตเตอรีรถยนตเ์ ป็นตน้ ใชอ้ กั ษรตวั พิมพใ์ หญ่ DC เป็นสญั ลกั ษณ์แทน วงจรไฟฟ้ า (circuit) : ทางเดินไฟฟ้ าทีต่อถงึ กนั และไฟฟ้ าไหลผา่ นไดด้ ี วงจรอนุกรมหรือวงจรอนั ดบั (series circuit) : วงจรไฟฟ้ าทีมีทางเดินไฟฟ้ าไดเ้ พยี งทางเดียว จากแหลง่ จ่ายไฟฟ้ าผา่ นวงจรไฟฟ้ าไปครบวงจรอกี ขวั ของแหล่งจ่ายไฟ และในวงจรนีอาจจะมีอุปกรณ์ พวกฟิ วส์ สวติ ซ์ เซอร์กิต - เบรกเกอร์ โดยต่อเป็นวงจรอนั ดบั เขา้ ไปเพอื ป้ องกนั และควบคุมวงจร วงจรขนาน (parallelcircuit) : วงจรไฟฟ้ าทีมีทางเดินไฟฟ้ าของกระแสไฟฟ้ าผา่ นไดม้ ากกว่า 1 ทางเดินขึนไป และจะมีอุปกรณ์เช่นพวกเตา้ เสียบหลอดไฟต่อขนานกนั และขอ้ ดีของวงจรก็คือ ถา้ อปุ กรณ์ตวั หนึงตวั ใดไมท่ าํ งาน ขดั ขอ้ งหรือเสียขึนมา วงจรทางเดินไฟฟ้ าจะไม่ขนาน ซึงตรงกนั ขา้ มกบั วงจรอนุกรม อุปกรณ์ในวงจรขนานตวั อนื ๆ ยงั คงทาํ งานไดต้ ่อไปดงั รูปที 2 รูปวงจรขนาน วงจรเปิ ด (open circuit) : สภาวการณ์ทีทางเดินไฟฟ้ าเกิดขาดวงจร เกิดวงจร หรือไม่ครบวงจร ทาํ ใหก้ ระแสไฟฟ้ าไหลไม่ได้ วงจรลดั (short circuit) : สภาวการณ์ทีเกิดมีการลดั วงจรทางเดินของกระแสไฟฟ้ า อนั เนืองมาจากรอยต่อของสายต่าง ๆ พลาดถึงกนั มีกระแสไฟฟ้ ารัวต่อถึงกนั เป็นตน้
212 แอมแปร์ (ampere) : หน่วยการวดั ค่าอตั ราการไหลของไฟฟ้ าทีผา่ นตวั นาํ เราจะใชอ้ กั ษรยอ่ ตวั พมิ พใ์ หญ่ A หรือ amp แทน ปกติแลว้ หน่วยแอมแปร์นีนิยมใชร้ ะบุขอบของการใชก้ ระแสไฟฟ้ าดา้ น สูงสุดในการทาํ งานของอปุ กรณ์เครืองใชไ้ ฟฟ้ านนั อยา่ งปลอดภยั อยา่ งเช่น เตา้ เสียบ 15 แอมแปร์ ฟิ วส์ 30 แอมแปร์ เฮริ ์ตซ์ (hertz) : หน่วยความถมี คี ่าเป็นรอบต่อวินาที การทีอเิ ลก็ ตรอนวิงไปในทิศทางหนึงแลว้ วกกลบั มาสู่แหล่งจ่ายไฟฟ้ าจากนนั กม็ ีอิเลก็ ตรอนวิงออกมาจากแหล่งจ่ายไฟไปในทิศทางหนึงวกกลบั มา โดยทิศทางการวิงของอเิ ลก็ ตรอนทงั 2 ครังวิงสวนทางกนั (หรือพดู อีกนับหนึงก็คือ วิงสลบั ไปสลบั มานันเอง) เราเรียกว่า 1 รอบ ความถีของระบบไฟฟ้ าบา้ นเราใชค้ วามถี 50 เฮิร์ตซ์ ใชส้ ญั ลกั ษณ์ HZ แสดงแทน โอห์ม (ohm) : หน่วยความตา้ นทานทางไฟฟ้ าใชส้ ัญลกั ษณ์แทนดว้ ยตวั โอเมกา้ ( Ω ) ความ ตา้ นทานจะพยายามต่อตา้ นการไหลของกระแสไฟฟ้ า ความตา้ นทานเป็นไดท้ งั ผทู้ าํ งานใหห้ รือขดั ขวาง การทาํ งานใหผ้ ใู้ ชไ้ ฟ มนั ทาํ งานใหใ้ นขณะทีใชม้ นั เป็นฉนวนหรือใชค้ วบคุมวงจร ตวั อยา่ งเช่น เทปพนั สายไฟ เตา้ เสียบทีทาํ จากพลาสติก จะป้ องกนั อนั ตรายใหก้ บั ผใู้ ชไ้ ฟได้ และใชค้ วามตา้ นทานแบบปรับ ค่าได้ (rheostat) ปรับความสว่างของหลอดไฟฟ้ า แต่มนั จะขดั ขวางการทาํ งานเมือผใู้ ชไ้ ฟ ใชส้ ายไฟเสน้ เล็ก และยาวมาก ๆ หรือมีสนิมตามจุดสัมผสั ต่าง ๆ ของตวั นาํ จะเป็ นสาเหตุของการเพิมค่าความ ตา้ นทาน ทาํ ใหเ้ กิดความร้อนมากเกินไป พร้อมทงั เกิดการสูญเสียกาํ ลงั ไฟฟ้ าไปในสายตวั นาํ ดว้ ย กฎของโอห์ม (Ohm’s law) : กฎทีว่าดว้ ยความสัมพนั ธ์ระหว่างแรงดนั กระแส และความ ตา้ นทานในวงจรไฟฟ้ า กฎนีกลา่ วว่า ค่ากระแสไฟฟ้ า (I) จะเป็นสดั ส่วนโดยตรงกบั ค่าแรงดนั ไฟฟ้ า (E) และเป็นสดั ส่วนผกผนั กบั ค่าความตา้ นทาน (R) สูตร I = E / R โวลต์ (volt) : หน่วยวดั แรงดนั ไฟฟ้ า แรงดนั ไฟฟ้ าหรือแรงดนั ทีทาํ ให้เกิดมีการเคลือนทีของ อิเล็กตรอนภายในตวั นาํ ไฟฟ้ า เราใชต้ วั ยอ่ แทนแรงดนั ไฟฟ้ าดว้ ย V, E หรือ EMF ปกติจะใช้ E และ EMF แทนแรงดนั ทีเกิดจากการเคลือนทีของประจุไฟฟ้ าหรือ electromotive force (ซึงเป็นอีกนิยามหนึง ของคาํ ว่า โวลต์) เช่นเดียวกับคาํ ว่า แอมแปร์แรงดันซึงระบุไวท้ ีตัวอุปกรณ์เครืองใช้ไฟฟ้ าจะเป็ น ตวั กาํ หนดขอบเขตการใชแ้ รงดนั ไฟฟ้ าขณะทาํ งานไดโ้ ดยปลอดภยั เช่น มอเตอร์ 220 โวลต์ เครืองเป่ า ผม 110 โวลต์ เราจะตอ้ งใชอ้ ปุ กรณ์ไฟฟ้ ากบั แรงดนั ไฟฟ้ าตามทีระบุไวเ้ ท่านนั แอมมเิ ตอร์ (ammeter) : เป็นเครืองวดั ทางไฟฟ้ าชนิดหนึง ใชว้ ดั ค่ากระแสไฟฟ้ าทีไหลในวงจร ทีเราตอ้ งการวดั โดยปกติเราจะใชเ้ ครืองมือนีต่ออนุกรมกบั วงจรทีเราตอ้ งการวดั ค่ากระแส แต่ก็มี เครืองมือวดั ชนิดพิเศษทีไม่ตอ้ งต่อวงจรอนั ดบั เขา้ กบั วงจรไฟฟ้ านนั จะไดก้ ลา่ วถงึ ในบทต่อ ๆ ไป โอห์มมิเตอร์ (ohm meter) : เป็ นเครืองวดั ทางไฟฟ้ าชนิดหนึง ใชว้ ดั ค่าความตา้ นทานไฟฟ้ า เวลาใชจ้ ะตอ้ งไม่มีการจ่ายไฟจากแหล่งจ่ายไฟใดในวงจรไฟฟ้ านนั โวลต์มเิ ตอร์ (volt meter) : เป็นเครืองมอื วดั ทางไฟฟ้ าชนิดหนึง ใชว้ ดั ค่าแรงดนั ไฟฟ้ า
213 มลั ตมิ เิ ตอร์ (multimeter) : เป็นเครืองมือวดั ทางไฟฟ้ าชนิดหนึงทีสามารถวดั ค่าแรงดนั กระแส และความตา้ นทานไดใ้ นเครืองวดั ตวั เดียวกนั National Electric Code : เป็ นหนงั สือคู่มือรวบรวมขอ้ แนะนาํ และกฎขอ้ บงั คบั ในการติดตงั อปุ กรณ์ไฟฟ้ าใหม้ ีความปลอดภยั แมว้ ่าจะมเี นือหามากมายแต่หนงั สือคู่มือนีก็ไม่มีจุดมุ่งหมายสาํ หรับ การสอน หรือใช้แก่บุคคลทีไม่เคยผ่านการอบรมมาก่อน ส่วนของไทยเราก็มีคู่มือพวกนีหลายแห่ง ดว้ ยกนั เช่น คู่มอื ของการไฟฟ้ านครหลวง การพลงั งานแห่งชาติ การไฟฟ้ าส่วนภมู ิภาค ซึงหลกั การและ กฎขอ้ บงั คบั ส่วนใหญ่ก็คลา้ ย ๆ กบั ของ NEC (National Electric Code) ของต่างประเทศนนั เอง สวิตซ์อัตโนมัตหิ รือเซอร์กติ เบรกเกอร์ (circuit breaker) : เป็ นอุปกรณ์ป้ องกนั ทีใชจ้ าํ กัด กระแสไฟฟ้ าสูงสุดในวงจร เมือกระแสเกินค่าจาํ กดั เซอร์กิตเบรกเกอร์จะเปิ ดวงจรไม่ใหก้ ระแสไฟฟ้ า ไหลสู่วงจรอีก จนกว่าจะกดป่ ุมทาํ งานใหม่ ปัจจุบนั ใชแ้ ทนสวิตซ์ฟิ วส์กนั มาก เนืองจากสามารถต่อ วงจรเขา้ ไปใหม่ไดท้ นั ที ในขณะทีฟิ วส์ตอ้ งสลบั เปลยี นตวั ใหมเ่ ขา้ ไปแทน และยงิ ในระบบไฟฟ้ า 3 เฟส ดว้ ยแลว้ ถา้ เกิดขาดทีฟิ วส์เพียงเส้นเดียวเหลือไฟฟ้ ามาแค่ 2 เฟสเท่านัน อาจเกิดการเสียหายไหมข้ ึนที มอเตอร์ 3 เฟสได้ หลกั การทาํ งานของเซอร์กิตเบรกเกอร์จะทาํ งานโดยอาศยั อาํ นาจแม่เหลก็ เมือมี กระแสไฟฟ้ าในวงจรไหลเขา้ มามาก ๆ สนามแม่เหลก็ จะดึงสวติ ซใ์ หต้ ดั วงจรออก และบางแบบจะมีตวั ป้ องกนั กระแสเกินขนาดดว้ ยความร้อนต่อร่วมมาดว้ ยโดยอาศยั การทีมีกระแสไหลผา่ นความตา้ นทาน ของตวั ไบเมตอลลกิ (bimetallic) (ไบเมตอลลกิ เป็นโลหะทีขยายตวั เมืออุณหภมู สิ ูงขึนและหดตวั เมอื อณุ ภมู ติ าํ ลง) เมอื กระแสไหลผา่ นมากจะเกิดความร้อนมาก ตวั ไบเมตอลลกิ จะขยายตวั ดึงให้สวิตซ์ตดั วงจร ออก เราใชต้ วั อกั ษรยอ่ แทนเซอร์กิตเบรกเกอร์ดว้ ย CB ฟิ วส์ (fuse) เป็นอุปกรณ์ป้ องกนั ทีใชจ้ าํ กดั กระแสไฟฟ้ าสูงสุดในวงจร เมือกระแสเกินค่าจาํ กดั ฟิ วสจ์ ะเกิดความร้อนมากขึนจนกระทงั หลอมละลายขาดจากกนั วงจรก็จะเปิ ด ฟิ วส์จะต่ออย่างอนุกรม กบั วงจร หม้อแปลง (transformer) : เป็ นอุปกรณ์ทีใชเ้ ปลียนแรงดนั ไฟฟ้ าให้สูงขึนหรือตาํ ลง เพือให้ ตรงกบั แรงดนั ทีใชก้ บั อุปกรณ์ไฟฟ้ าต่าง ๆ เช่น มเี ครืองซกั ผา้ แรงดนั 110 โวลต์ แต่มีไฟฟ้ าแรงดนั 220 โวลต์ เราก็ตอ้ งใชห้ มอ้ แปลงแรงดนั 220 โวลต์ ให้เป็ นแรงดนั 110 โวลต์ จึงจะใช้เครืองซกั ผา้ ได้ นอกจากนีเรายงั นิยมใชห้ มอ้ แปลงกบั เครืองติดต่อภายใน และระบบเสียงกริงเรียก เป็นตน้ เฟส (phase) : หมายถงึ ชนิดของระบบไฟฟ้ าทีใชม้ ีทงั ระบบ 1 เฟส 2 สาย และ 3 เฟส 4 สาย อปุ กรณ์ไฟฟ้ า 1 เฟส 2 สาย จะใชต้ ามบา้ นทีอยอู่ าศยั ส่วนระบบไฟฟ้ า 3 เฟส 4 สาย นิยมใชก้ บั ธุรกิจ ใหญ่กบั โรงงานอุตสาหกรรม
214 ภาคผนวก 1. แนวทางการพฒั นาศักยภาพทางวทิ ยาศาสตร์เพอื การประกอบอาชีพ การประกอบอาชีพมคี วามสาํ คญั ต่อการดาํ รงชีวติ ของมนุษยเ์ ป็นอนั มาก ทงั นี เพราะอาชีพไม่ใช่ จะสนองตอบความตอ้ งการของมนุษยเ์ พยี งดา้ นเศรษฐกิจเท่านนั แต่ยงั สนองความตอ้ งการดา้ นอืน เช่น ดา้ นสงั คม และจิตใจ เป็ นตน้ การเลือกอาชีพจึงมีความสาํ คญั ต่อชีวิตของบุคคล ถา้ เราเลือกอาชีพได้ เหมาะสมก็มีแนวโนม้ ทีจะประสบความสาํ เร็จในการประกอบอาชีพมีความเจริญกา้ วหน้าเป็ นอนั มาก ในทางตรงกนั ขา้ ม ถา้ เลอื กอาชีพไดไ้ มเ่ หมาะสมโอกาสทีจะประสบความลม้ เหลวในการประกอบอาชีพ กม็ ีมาก ซึงไดก้ าํ หนดแนวทางแท่งหลกั สูตรของ 5 กลมุ่ อาชีพ ดงั นี ตาราง วเิ คราะหก์ ารพฒั นาศกั ยภาพทางวทิ ยาศาสตร์เพอื การประกอบอาชีพ ด้านกล่มุ อาชีพ ลกั ษณะอาชีพ เนือหาตามสาระ อาชีพทเี กยี วข้อง 1. เกษตรกรรม . กสิกรรม หมายถงึ การ 1. กระบวนการทาง .ปศสุ ตั ว์ เพาะปลกู พชื เช่น การทาํ นา วทิ ยาศาสตร์ ในการนาํ ตวั อยา่ ง อาชีพทางดา้ นการ การทาํ สวน การทาํ ไร่ เป็นตน้ ความรู้เกียวกบั กระบวนการ ปศสุ ตั ว์ ฟาร์มขนาดใหญ่ . ปศสุ ตั ว์ หมายถงึ การ ทางวทิ ยาศาสตร์และ ไดแ้ ก่ เลียงไก่พนั ธุพ์ นื เมอื ง ประกอบอาชีพเลียงสตั วบ์ น โครงงานไปใช้ เทคโนโลยี เลยี งหมู เลียงโคเนือ โคนม บก เช่น เลยี งววั เลยี งหมู กบั ชีวิต เลยี งผงึ เลียงแพะ เลยี งกบ หรือเลยี งสตั วจ์ าํ พวกสตั วป์ ี ก 2. สิงมีชีวติ และสิงแวดลอ้ ม เลยี งหอยแมลงภู่แบบแขวน เป็นตน้ ในการจดั กลมุ่ ของสิงมีชีวติ เชือก หอยนางรม เลียงไหม . การประมง หมายถึง การ ระบบนิเวศ เลยี งปลาเก๋า ปลาดุก ปลา ประกอบอาชีพการเกษตร ทรัพยากรธรรมชาติ ตะเพียน เลียงเป็ดเทศ เป็นตน้ ทางนาํ เช่น การเลียงสตั วน์ าํ สิงแวดลอ้ ม การอนุรักษ์ .ทาํ ไร่ ทาํ สวน การจบั สตั วน์ าํ เป็นตน้ ภมู ปิ ัญญาทอ้ งถนิ และ .ทาํ นา . ดา้ นป่ าไม้ หมายถึง การ เทคโนโลยชี ีวภาพ ตวั อยา่ ง อาชีพการทาํ ไร่ทาํ ประกอบอาชีพเกียวกบั ป่ า 3. พลงั งานใน สวน เช่น การทาํ ไร่ออ้ ย เช่น การปลกู ป่ าไมเ้ ศรษฐกิจ ชีวติ ประจาํ วนั และการ ไร่กระชาย สวนสม้ โอ สวน การนาํ ผลผลติ จากป่ ามาแปร อนุรักษพ์ ลงั งาน มะมว่ ง สวนมงั คดุ สวน รูปใหเ้ กิดประโยชน์ เป็นตน้ 4. ดาราศาสตร์เพือชีวติ ทุเรียน สวนมะลิ สวนไม้ ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งดวง ดอกไมป้ ระดบั ปลกู พชื สวน
215 ด้านกล่มุ อาชีพ ลกั ษณะอาชีพ เนอื หาตามสาระ อาชีพทเี กยี วข้อง 2. อตุ สาหกรรม อาทิตย์ โลก และดวงจนั ทร์ ครัว เป็นตน้ และปรากฎการณ์ . อาชีพช่างอตุ สาหกรรม 1. กระบวนการทาง 1. การผลิตสินคา้ แปรรูป เกษตร เชน่ ฟาร์มโคนม การ วทิ ยาศาสตร์ ในการนาํ ผลิตภณั ฑ์ อตุ สาหกรรมหรือ ปลกู พืชไร้ดิน โรงงานผลิต ความรู้เกียวกบั กระบวนการ หตั ถกรรมในครัวเรือน ลาํ ไยกระป๋ อง และ ทางวทิ ยาศาสตร์และ อตุ สาหกรรมแปรรูปผลติ ผล โครงงานไปใช้ เทคโนโลยี ทางเกษตรฯลฯ กบั ชีวิต . อาชีพช่างอตุ สาหกรรม 2. สิงมชี ีวิตและสิงแวดลอ้ ม 2. การผลิตสินคา้ จาํ พวก ผลติ สินคา้ สาํ เร็จรูป เช่น ในการจดั กลมุ่ ของสิงมีชีวิต อะไหล่ อุปกรณ์ไฟฟ้ า และ โรงงานผลิตเครืองใชไ้ ฟฟ้ า ระบบนิเวศ ซ่อมบาํ รุง โรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์ ทรัพยากรธรรมชาติ และ โรงงานผลติ รถจกั รยาน ฯลฯ สิงแวดลอ้ มและการอนุรักษ์ . อาชีพช่างอตุ สาหกรรม ภูมปิ ัญาทอ้ งถนิ และ 3. การผลติ สินคา้ ในครัวเรือน ผลิตวตั ถุดิบ เช่น เทคโนโลยชี ีวภาพ เช่นนาํ มนั พชื ปาลม์ ฯลฯ โรงงานผลติ ยางดิบ 3. สารเพอื ชีวิต ธาตุ โรงงานผลติ นาํ มนั ปาลม์ สารประกอบ สารละลาย . อาชีพช่างอุตสาหกรรม สารและผลิตภณั ฑใ์ นชีวติ 4. การผลิตเครืองนอน การ ผลิตสินคา้ อตุ สาหกรรม เช่น สารสงั เคราะห์ ผลกระทบที ผลิตตุ๊กตาผา้ โรงงานผลติ เสน้ ใยสงั เคราะห์ เกิดจากสาร และผลิตภณั ฑ์ โรงงานผลติ เหลก็ รีดร้อนและ ทีมตี ่อสิงแวดลอ้ ม เหลก็ รีดเยน็ 4. แรงและพลงั งานเพือชีวติ . อาชีพช่างอุตสาหกรรม การอนุรกั ษพ์ ลงั งาน และ 5. การผลติ สินคา้ พลาสติก นาํ มนั เช่น การสาํ รวจแหลง่ พลงั งานทดแทน ผงซกั ฟอก ขวดนาํ ฯลฯ นาํ มนั และการขุดเจาะนาํ มนั โรงกลนั นาํ มนั เพือผลิตนาํ มนั ชนิดต่าง ๆ ฯลฯ . อาชีพช่างอุตสาหกรรม 6. การรับช่วงงานบาง เครืองจกั รกล เช่น ขนั ตอนของการผลติ มา โรงงานผลติ คอมเพลสเซอร์ ดาํ เนินการ เครืองปรับอากาศ ตวั อย่าง การผลิตสินค้าด้าน
216 ด้านกล่มุ อาชีพ ลกั ษณะอาชีพ เนอื หาตามสาระ อาชีพทีเกยี วข้อง 3. พาณิชยกรรม โรงงานผลิตปัมนาํ อุตสาหกรรมในครัวเรื อน โรงงานผลิตเครืองยนตเ์ ลก็ เช่น ทอผา้ ตีนจก ผา้ มดั หมี โรงงานประกอบ ผา้ ไหม จกั สาน ทอเสือ เย็บ รถจกั รยานยนต์ เป็นตน้ ผา้ ใบ ทาํ ยางแผ่น ทาํ เสือยืด . อาชีพช่างอุตสาหกรรม ผา้ บาติก ประดิษฐ์ทีติดผม รถยนต์ เช่น โรงงาน ประดิษฐส์ ิงของจากกระดาษ ประกอบรถยนต์ โรงงาน สา ประดิษฐข์ องทีระลึกและ ประกอบตวั ถงั รถยนต์ ฯลฯ ของชําร่ วย ร้อยพวงมาลัย ดอกพุดส่งร้านขายพวงมาลยั เยบ็ เสือสาํ เร็จรูป เผาถ่าน ทาํ ไสก้ รอกอีสาน ทาํ ขนมจีบ เป็ นตน้ การคา้ และบริการทีเกียวกบั 1. กระบวนการทาง 1. คา้ ขายสินคา้ รับจา้ งทาํ การคา้ ทกุ ชนิดไมว่ า่ จะเป็น วิทยาศาสตร์ ในการนาํ บญั ชี การคา้ ปลกี คา้ ส่ง การส่งออก ความรู้เกียวกบั กระบวนการ 2. บริการ การธนาคาร การประกนั ภยั ทางวิทยาศาสตร์และ ผลิตอาหารสําเร็จรูป เช่น - และปัญญาประดิษฐใ์ นวงการ โครงงานไปใช้ คา้ ขายของทีระลึก ขายสินคา้ คอมพิวเตอร์เพือพาณิชย 2. สิงมีชีวติ และสิงแวดลอ้ ม พืนเมือง ขายก๋วยเตียว ขาย กรรม ในการจดั กล่มุ ของสิงมีชีวติ อาหาร ขายสินคา้ เบด็ เตลด็ ระบบนิเวศ ขายของชาํ ขายสินคา้ ทรัพยากรธรรมชาติ และ สาํ เร็จรูป ขายขนม ขายผลไม้ สิงแวดลอ้ มและการอนุรักษ์ ขายอาหารและเครืองดืม ขาย 3. พลงั งานใน ลอตเตอรี ขายตุ๊กตา ขาย ชีวติ ประจาํ วนั และการ ปาท่องโก๋ ขายอาหารทะเล อนุรักษพ์ ลงั งาน สด 4. เทคโนโลยี 3. เป็นคนกลางรับซือ - ขาย ตัวอย่าง อาชีพค้าขาย เช่น อาชีพพอ่ คา้ แม่คา้ คนกลาง การบริการลกู คา้ ขายสตั วเ์ ลยี ง ขายตวั เครืองบิน ขายเฟอร์นิเจอร์
217 ด้านกล่มุ อาชีพ ลกั ษณะอาชีพ เนอื หาตามสาระ อาชีพทีเกยี วข้อง 4. ความคดิ 4. เวชภณั ฑ์ เช่น ขายยา สร้างสรรค์ ขายเครืองสาํ อาง ขาย เครืองประดบั ทาํ ดว้ ยเงิน ขายทองรูปพรรณ ขาย ดอกไมส้ ด ขายแก๊สหุงตม้ ขายตรงเครืองสาํ อาง ขายผลผลิตทางการเกษตร สินคา้ อุตสาหกรรมทีตนเอง เป็นผผู้ ลิต เป็นตน้ กล่มุ อาชีพทีส่งเสริมความคิด 1. กระบวนการทาง แบ่งออกเป็น 9 กลมุ่ ไดแ้ ก่ สร้างสรรค”์ (Creative วิทยาศาสตร์ ในการนาํ 1) งานฝีมือและหตั ถกรรม Profession) ความรู้เกียวกบั กระบวนการ (Crafts) 1) ประเภทมรดกทาง ทางวิทยาศาสตร์และ 2) งานออกแบบ (Design) วฒั นธรรม (Heritage or โครงงานไปใช้ เทคโนโลยี 3) แฟชนั (Fashion) Cultural Heritage) เป็นกลมุ่ กบั ชีวติ 4) ภาพยนตร์และวดิ ีโอ (Film อุตสาหกรรมทีเกียวเนืองกบั 2. สิงมีชีวติ และสิงแวดลอ้ ม & Video) ประวตั ิศาสตร์ โบราณคดี ในการจดั กลุ่มของสิงมชี ีวติ 5) การกระจายเสียง วฒั นธรรม ประเพณี ความ ระบบนิเวศ (Broadcasting) เชือ และสภาพสงั คม เป็นตน้ ทรัพยากรธรรมชาติ และ 6) ศิลปะการแสดง แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลมุ่ สิงแวดลอ้ มและการอนุรักษ์ (Performing Arts) การแสดงออกทางวฒั นธรรม 3. สารเพือชีวติ ธาตุ 7) ธุรกิจโฆษณา แบบดงั เดิม (Traditional สารประกอบ สารละลาย (Advertising) และ Cultural Expression) เช่น สารและผลติ ภณั ฑใ์ นชีวิต ธุรกิจการพมิ พ์ (Publishing) ศิลปะและงานฝีมือ เทศกาล สารสงั เคราะห์ ผลกระทบที 9) สถาปัตยกรรม งานและงานฉลอง เป็นตน้ เกิดจากสาร และผลิตภณั ฑ์ (Architecture) และกลมุ่ ทีตงั ทางวฒั นธรรม ทีมีต่อสิงแวดลอ้ ม (Cultural Sites) เช่น 4. แรงและพลงั งานเพอื ชีวิต โบราณสถาน พิพธิ ภณั ฑ์ การอนุรกั ษพ์ ลงั งาน และ หอ้ งสมดุ และการแสดง พลงั งานทดแทน นิทรรศการ เป็นตน้
ด้านกล่มุ อาชีพ ลกั ษณะอาชีพ เนอื หาตามสาระ 218 อาชีพทีเกยี วข้อง 2) ประเภทศิลปะ (Arts) 5. พลงั งานใน เป็ นกลุ่มอุตสาหกรรม ชีวิตประจาํ วนั และการ สร้างสรรคบ์ นพนื ฐานของ อนุรักษพ์ ลงั งาน ศลิ ปะ และวฒั นธรรม แบ่ง ออกเป็น 2 กุล่ม คือ งาน ศิลปะ (Visual Arts) เช่น ภาพวาด รูปปัน ภาพถา่ ย และ วตั ถโุ บราณ เป็นตน้ รวมทงั ศิลปะการแสดง (Performing Arts) เช่น การแสดงดนตรี การแสดงละคร การเตน้ ราํ โอเปร่า ละครสตั ว์ และการ เชิดหุ่นกระบอก เป็นตน้ 3) ประเภทสือ (Media) เป็น กล่มุ สือผลิตงาน สร้างสรรคท์ ีสือสารกบั คน กลุ่มใหญ่ แบ่งออกเป็น 2 กลมุ่ คือ งานสือสิงพมิ พ์ (Publishing and Printed Media) เช่น หนงั สือ หนงั สือพมิ พ์ และสิงตีพมิ พ์ อนื ๆ เป็นตน้ และงานโสต ทศั น์ (Audiovisual) เช่น ภาพยนตร์โทรทศั น์ วทิ ยุ และ การออกอากาศอืนๆ เป็นตน้ 4) ประเภทสร้างสรรคง์ าน (Functional Creation) เป็น กลุ่มของสินคา้ และบริการที ตอบสนองความตอ้ งการของ ลกู คา้ ทีแตกต่างกนั แบ่ง ออกเป็น 3 กลมุ่ คือ
219 ด้านกล่มุ อาชีพ ลกั ษณะอาชีพ เนอื หาตามสาระ อาชีพทีเกยี วข้อง 5. บริหารจดั การ กลุ่มการออกแบบ (Design) และบริการ เช่น การออกแบบภายใน กราฟฟิ ค แฟชนั อญั มณี และ ของเด็กเลน่ เป็นตน้ ส่วนกลมุ่ New Media ไดแ้ ก่ ซอฟตแ์ วร์ วิดีโอเกม และ เนือหาดิจิตอล เป็นตน้ และกลมุ่ บริการทางความคดิ สร้างสรรค์ (Creative Services) ไดแ้ ก่ บริการทาง สถาปัตยกรรม โฆษณา วฒั นธรรมและนนั ทนาการ งานวิจยั และพฒั นา และ บริการอนื ทีเกียวขอ้ งกบั ดิจิตอล และความคดิ สร้างสรรค์ เป็นตน้ อาชีพการใหบ้ ริการ (Service 1. กระบวนการทาง ตวั อยา่ ง อาชีพบริการ Sector) เป็นอาชีพที วิทยาศาสตร์ ในการนาํ ช่างซ่อม เช่น ช่างซ่อม ผปู้ ระกอบการมสี ินคา้ เป็น ความรู้เกียวกบั กระบวนการ มอเตอร์ไซด์ ช่างซ่อมรถยนต์ การบริการ เพืออาํ นวยความ ทางวทิ ยาศาสตร์และ ช่างเคาะปะผแุ ละพ่นสี สะดวกใหแ้ ก่ผซู้ ือบริการหรือ โครงงานไปใช้ เทคโนโลยี รถยนต์ ช่างซ่อมเบาะรถยนต์ ลกู คา้ คุณภาพของสินคา้ กบั ชีวติ ช่างซ่อมโทรทศั น์ วทิ ยุ ช่าง บริการ คือความพงึ พอใจจาก 2. สิงมีชีวติ และสิงแวดลอ้ ม ซ่อมเครืองใชไ้ ฟฟ้ า การใชบ้ ริการนนั ๆ รายได้ ในการจดั กลุ่มของสิงมชี ีวติ ช่างเชือมโลหะ ช่างทาํ หลงั คา คือ ค่าตอบแทนทีไดจ้ ากการ ระบบนิเวศ อลมู ิเนียม บริการ การประกอบอาชีพ ทรัพยากรธรรมชาติ และ เสริมสวยความงาม เช่น ช่าง ประเภทนีตอ้ งการเงินลงทุน สิงแวดลอ้ มและการอนุรักษ์ ตดั เยบ็ เสือผา้ ช่างเสริมสวย - ไม่มากนกั เมือเทียบกบั การ 3. สารเพือชีวิต ธาตุ ช่างแต่งหนา้ นวดหนา้ ลงทุนดา้ นการผลติ สินคา้ สารประกอบ สารละลาย ช่างทาํ ผม ช่างตดั ผมบุรุษ ช่าง กระบวนการไมซ่ บั ซอ้ น สารและผลิตภณั ฑใ์ นชีวติ ศลิ ป์ ช่างเขียนภาพเหมอื น เพยี งแต่ผใู้ หบ้ ริการตอ้ งเป็นผู้ สารสงั เคราะห์ ผลกระทบที ช่างศลิ ป์ ทาํ โปสเตอร์โฆษณา
220 ด้านกล่มุ อาชีพ ลกั ษณะอาชีพ เนือหาตามสาระ อาชีพทีเกยี วข้อง ทีมีความรู้ความสามารถและ มีประสบการณ์ หรือ เกิดจากสาร และผลิตภณั ฑ์ ช่างก่อสร้าง ช่างจดั ดอกไมส้ ด, เชียวชาญในอาชีพ ทีมีต่อสิงแวดลอ้ ม ดอกไมแ้ หง้ 4. แรงและพลงั งานเพือชีวิต รับจา้ งทวั ไป เช่น รับเลียงเด็ก การอนุรักษพ์ ลงั งาน และ ออ่ น บริการซกั อบรีด พลงั งานทดแทน พลงั งาน บริการใหเ้ ช่าวดี ีโอ,หนงั สือ ไฟฟ้ า พลงั งานแสง อ่านเลน่ บา้ นพกั ตากอากาศ พลงั งานเสียง พลงั งานใน หอพกั สกตู เตอร์ชายหาด ชีวติ ประจาํ วนั และการ รถเช่า ขบั รถแทก็ ซี,มอเตอร์ อนุรักษพ์ ลงั งาน ไซดร์ ับจา้ ง รถรับจา้ งระหวา่ ง หมบู่ า้ น สามลอ้ บริการถา่ ย เอกสาร รับพมิ พร์ ายงาน เลน่ ดนตรีในร้านอาหาร รับเหมา แกะหอยนางรม รับเหมาสบั ตะไคร้ส่งโรงงาน รับเหมา ก่อสร้าง เป็นตน้
221 บรรณานุกรม การไฟฟ้ าแห่งประเทศไทย. (2551). ระบบไฟฟ้ า การเดินสายไฟฟ้ าภายในบ้านแบบติดผนังลอยตัว. กรุงเทพฯ. ------------. (2551). ระบบไฟฟ้ า การเดินสายไฟฟ้ าภายในอาคารแบบติดผนังลอดท่อ. กรุงเทพฯ. จินดา ภทั รพงษ์ และอจั ฉริยา ทองป้ อง. (2551). สือและสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ระดับมธั ยมศึกษา ตอนต้น การศึกษานอกโรงเรียน. พิมพท์ ี 3 กรุงเทพฯ. หนา้ 221-223. บญั ชา แสนทวี และคณะ. ( 50).สือการเรียนรู้การศึกษานอกโรงเรียน(กศน.) หมวดวิชาวิทยาศาสตร์ SC ระดับมธั ยมศึกษาตอนต้น. บริษทั วฒั นาพานิช จาํ กดั , กรุงเทพฯ. หนา้ . สราวุธ ญาณยทุ ธ. (2547). หนังสือเรียนสาระการเรียนรู้พืนฐาน กล่มุ สาระการเรียนรู้ช่วงชันที 3 ระดับ มธั ยมศึกษาตอนต้น การงานอาชีพและเทคโนโลยี งานช่าง. สาํ นกั พมิ พแ์ มค๊ จาํ กดั . หนา้ 59-62. สาํ นกั งาน กศน. ( ). ชุดการเรียนทางไกล หมวดวิชาพัฒนาอาชีพ รหัส พอ ระดับมธั ยมศึกษา ตอนต้น. โรงพิมพอ์ งคก์ รการรับส่งสินคา้ และพสั ดุภณั ฑ,์ กรุงเทพฯ. หนา้ , 79 – . ------------. ( 53). หนังสือเรียนสาระทักษะความรู้พืนฐาน รายวิชาวิทยาศาสตร์ พว. หลักสูตร การศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษาขันพืนฐาน พุทธศักราช . พิมพค์ รังที / . บริษทั เอกพิมพไ์ ท จาํ กดั กรุงเทพฯ. หนา้ – . สาํ นกั งานพฒั นาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยแี ห่งชาติ. 2549. รู้ใช้ รู้เทคนิค ในห้องปฏบิ ตั กิ าร. กรุงเทพ ฯ : รักลกู แฟมิลีกรุ๊ป จาํ กดั . สุชาติ วงศส์ ุวรรณ.( ). การเรียนรู้สาํ หรับศตวรรษที การเรียนรู้ทีผู้เรียนเป็ นผู้สร้ างความรู้ด้วย ตนเองโครงงานเอกสารประกอบการอบรมเชิงปฏิบัติการ การพัฒนาการจัดกระบวนการ เรียนรู้แบบบูรณาการ. โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลยั สมบูรณ์กลุ กนั ยา จงั หวดั สงขลา. เอกรินทร์ สีมหาศาล และคณะ. วทิ ยาศาสตร์ ป.6 .กรุงเทพฯ : อกั ษรเจริญทศั น์ อจท. จาํ กดั . http://media.photobucket.com/image/ http://my.thaimail.com/mywebboard/readmess.php3?user=mr.neo&idroom=2&idforum=45&login=& keygen=&nick= http://gotoknow.org/file/chiew-buncha/salt_farm.jpg http://th.wikipedia.org/wiki http://www.bloggang.com/data/oordt/picture/1228099928.jpg http://www.boatbook.co.th/prdimg/600-6075.jpg http://www.dbh2008.com/lesson/show.php?id=21 http://www.lancome-th.com/upload/product/thumbnail/pm-299-5421.jpg
222 http://www.igetweb.com/www/shoppergirl/catalog/p_32791.jpg http://www.maceducation.com/e-knowledge/2412212100/16.htm http://www.nc.ac.th/WEB%20E_BOOK/unit1_4_4.htm http://www.panyathai.or.th/wiki/index.php http://www.panyathai.or.th/wiki/index.php http://www.siamonlineshop.com/picpost/Qshow51637.jpg http://www.thaidbmarket.com/uploads/20090309-130917-.jpg http://www.thaitambon.com/thailand/Trat/230103/0683184742/FB849_1674A.jpg http://www.thaitarad.com/shop/kaisong/images/product/711996b4c4e3881b5dd42c07395cc02e.jpg http://www.school.net.th/library/create-web/ /science/ - .html
223 คณะผู้จัดทาํ ทปี รึกษา บุญเรือง เลขาธิการ กศน. อมิ สุวรรณ์ รองเลขาธิการ กศน. . นายประเสริฐ จาํ ปี รองเลขาธิการ กศน. 2. นายชยั ยศ จนั ทร์โอกุล ผเู้ ชียวชาญเฉพาะดา้ นพฒั นาสือการเรียนการสอน 3. นายวชั รินทร์ ผาตินินนาท ผเู้ ชียวชาญเฉพาะดา้ นเผยแพร่ทางการศึกษา 4. นางวทั นี ธรรมวิธีกุล หวั หนา้ หน่วยศกึ ษานิเทศก์ 5. นางชุลพี ร งามเขตต์ ผอู้ าํ นวยการกล่มุ พฒั นาการศกึ ษานอกโรงเรียน 5. นางอญั ชลี 6. นางศุทธินี ผ้เู ขียนและเรียบเรียง อทุ ยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกลา้ ณ หวา้ กอ จงั หวดั ประจวบคีรีขนั ธ์ . นายสงดั ประดิษฐส์ ุวรรณ์ ศนู ยว์ ทิ ยาศาสตร์เพือการศึกษาสมทุ รสาคร ศนู ยว์ ทิ ยาศาสตร์เพือการศึกษาพระนครศรีอยธุ ยา . นายประกิต จนั ทร์ศรี ศนู ยว์ ทิ ยาศาสตร์เพือการศกึ ษาตรัง . นายสุชาติ มาลากรรณ์ . นายชยั กิจ อนนั ตนิรัติศยั ผ้บู รรณาธิการ และพฒั นาปรับปรุง อุทยานวทิ ยาศาสตร์พระจอมเกลา้ ณ หวา้ กอ จงั หวดั ประจวบคีรีขนั ธ์ . นายสงดั ประดิษฐส์ ุวรรณ์ ศนู ยว์ ทิ ยาศาสตร์เพอื การศกึ ษาสมทุ รสาคร ศนู ยว์ ทิ ยาศาสตร์เพือการศกึ ษาพระนครศรีอยธุ ยา . นายประกิต จนั ทร์ศรี ศนู ยว์ ทิ ยาศาสตร์เพือการศกึ ษาตรัง . นายสุชาติ มาลากรรณ์ ขา้ ราชการบาํ นาญ . นายชยั กิจ อนนั ตนิรัติศยั ขา้ ราชการบาํ นาญ . นางธญั ญวดี เหลา่ พาณิชย์ . นางสาวชนิตา จิตตธ์ รรม คณะทาํ งาน กลุ่มพฒั นาการศึกษานอกโรงเรียน กลุม่ พฒั นาการศกึ ษานอกโรงเรียน . นายสุรพงษ์ มนั มะโน กล่มุ พฒั นาการศกึ ษานอกโรงเรียน . นายศภุ โชค ศรีรัตนศิลป์ กลมุ่ พฒั นาการศกึ ษานอกโรงเรียน . นางสาววรรณพร ปัทมานนท์ กลุม่ พฒั นาการศึกษานอกโรงเรียน 4. นางสาวศริญญา กลุ ประดษิ ฐ์ . นางสาวเพชรินทร์ เหลอื งจิตวฒั นา
224 คณะบรรณาธิการและพฒั นาปรับปรุง ครังที 2 1. นายสงดั ประดิษฐสุวรรณ ผอู้ าํ นวยการอุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกลา้ ณ หวา้ กอ จงั หวดั ประจวบคีรีขนั ธ์ 2. นายมาโนชฐ์ ลาภจิตร รองผอู้ าํ นวยการศนู ยว์ ทิ ยาศาสตร์เพอื การศกึ ษานครราชสีมา 3. นางจนั ทร์ศรี อาจสุโพธิ รองผอู้ าํ นวยการศนู ยว์ ทิ ยาศาสตร์เพอื การศึกษาอุบลราชธานี 4. นางณฐั พร มนูประเสริฐ ครูชาํ นาญการพิเศษ ศนู ยว์ ิทยาศาสตร์เพือการศกึ ษาขอนแก่น 5. นางอญั อฑิกา คชเสนีย์ ครูชาํ นาญการพเิ ศษ ศนู ยว์ ทิ ยาศาสตร์เพือการศกึ ษาสมุทรสาคร 6. นายชยั พฒั น์ พนั ธุว์ ฒั นสกลุ นกั วิชาการศึกษาชาํ นาญการพเิ ศษ กลุ่มพฒั นาการศกึ ษานอกโรงเรียน
225 คณะผู้ปรับปรุงข้อมูลเกยี วกบั สถาบันพระมหากษัตริย์ ปี พ.ศ. ทปี รึกษา จาํ จด เลขาธิการ กศน. หอมดี ผตู้ รวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ปฏิบตั ิหนา้ ที . นายสุรพงษ์ รองเลขาธิการ กศน. 2. นายประเสริฐ ผอู้ าํ นวยการกลมุ่ พฒั นาการศกึ ษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอธั ยาศยั 3. นางตรีนุช สุขสุเดช ผ้ปู รับปรุงข้อมูล ศรีนวล กศน.เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร นางทิพวลั ย์ คณะทาํ งาน มนั มะโน กลมุ่ พฒั นาการศึกษานอกระบบและการศกึ ษา ตามอธั ยาศยั . นายสุรพงษ์ กล่มุ พฒั นาการศกึ ษานอกระบบและการศึกษา ตามอธั ยาศยั . นายศภุ โชค ศรีรัตนศิลป์ กลมุ่ พฒั นาการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอธั ยาศยั . นางสาวเบญ็ จวรรณ อาํ ไพศรี กลุ่มพฒั นาการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอธั ยาศยั . นางเยาวรัตน์ ปิ นมณีวงศ์ กลมุ่ พฒั นาการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษา ตามอธั ยาศยั . นางสาวสุลาง เพช็ รสว่าง กลมุ่ พฒั นาการศึกษานอกระบบและการศกึ ษา ตามอธั ยาศยั . นางสาวทิพวรรณ วงคเ์ รือน กลุม่ พฒั นาการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอธั ยาศยั . นางสาวนภาพร อมรเดชาวฒั น์ กลุ่มพฒั นาการศกึ ษานอกระบบและการศึกษา ตามอธั ยาศยั . นางสาวชมพนู ท สงั ขพ์ ิชยั
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234