แหล่งศนู ยเ์ รียนร้ตู ามหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง บา้ นหวั นา หมูท่ ี 2 ตาํ บลโนนขา่ อาํ เภอพล จงั หวดั ขอนแก่น จดั ทาํ โดย ครู กศน.ตาํ บลโนนข่า ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาํ เภอพล สาํ นักงานส่งเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั จงั หวดั ขอนแกน่ กระทรวงศึกษาธิการ
ประวตั คิ วามเป็ นมา โครงการชีววถิ ีเพือการพฒั นาอยา่ งยงั ยนื ตามแนวพระราชดาํ ริเศรษฐกิจพอเพียงบา้ นหวั นา (สวน เกษตรหัวนาโมเดล) ตาํ บลโนนขา่ อาํ เภอพล จงั หวดั ขอนแก่น เริมดาํ เนินการก่อตงั เมือเดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2548 โดยไดร้ บั การสนบั สนุนเบืองตน้ จากวทิ ยาลยั เกษตรและเทคโนโลยจี งั หวดั ขอนแก่น ตามโครงการ 108 อาชีพ การดาํ เนินการโดยการปรึกษาหารือ โดยนายสุรศกั ดิ สิทธิชยั ผใู้ หญ่บา้ นบา้ นหวั นา และนายเชียวชาญ ชามะรัตน์ เป็ นผรู้ ิเริมโครงการ โดยมีการลงมติผา่ นเวทีประชาคมชาวบา้ นใหใ้ ชพ้ ืนทีสาธารณะประโยชน์บริเวณ หนองป่ ตู า จาํ นวน 15 ไร่ จดั สรรแบ่งพืนทีใหแ้ ก่ราษฎรในหมบู่ า้ นทีไดล้ งทะเบียน สย.ในเรืองไม่มีทีดินทาํ กิน และชาวบา้ นทีมีความตงั ใจทีจะปฏิบตั ิตามกิจกรรม จาํ นวน 80 ครัวเรือน จาํ นวน 80 แปลง ๆ ละ 100 ตาราง เมตร (10x10) โดยในแต่ละแปลงจดั สรรไดด้ งั นีคือ 1. จดั ทาํ เป็ นบ่อเลียงปลาดุก ขนาด 2x4x1 เมตร เลียงปลาดุก 400 ตวั 2. จดั ทาํ เป็ นบ่อเลียงกบ ขนาด 1x2x.50 เมตร เลียงกบ 300 ตวั 3. จดั สรรพนื ทีวา่ งไวป้ ลกู ผกั สวนครัวปลอดสารพิษ วัตถปุ ระสงค์การจดั ตัง 1. เพอื เป็ นแหล่งเรียนรู้ดา้ นการเกษตรแบบพอเพียง โดยเนน้ ดา้ นการผลิตตามโครงการชีววถิ ีเพอื การ พฒั นาอยา่ งยงั ยนื 2. เพอื เป็ นแหล่งแลกเปลียนเรียนรู้ดา้ นอาชีพต่างทีมีในชุมชน 3. เพอื เป็ นแหล่งรวบรวมขอ้ มูลขา่ วสาร ความรู้ของชุมชน เพอื นาํ ไปส่งเสริมการเรียนรู้ของประชาชน 4. เพอื สร้างความผกู พนั และสามคั ครี ะหวา่ งคนในชุมชน กจิ กรรมภายในสาวนเกษตรหวั นาโมเดล กิจกรรมตา่ ง ๆ ทีสมาชิกสวนเกษตรหัวนาโมเดลจะตอ้ งปฏบิ ตั อิ ย่างสมาํ เสมอและเป็นประจาํ คือ 1. การปลกู ผกั ปลอดภยั จากสารพษิ (ไม่ใชป้ ๋ ุยเคมี และสารเคมีสังเคราะหใ์ ด ๆ) 2. การเลียงปลาดุกในบอ่ พลาสติก 3. การเลียงกบและเพาะพนั ธุ์ลูกอ๊อด 4. การทาํ ป๋ ยุ ชีวภาพ 5. เนน้ การผลิตนาํ จุลินทรียช์ ีวภาพ (EM) ไปใชใ้ นการเลียงสตั วแ์ ละบาํ บดั นาํ เสีย เพือเป็ นการรักษา สิงแวดลอ้ ม 6. การทาํ ป๋ ยุ หมกั ใชเ้ อง 7. การเพาะเห็ดในถุงพลาสติก 8. ปลกู ผกั ขนึ คา้ งเพือคลุมบอ่ ปลา
ประชุมคณะกรรมการศูนย์เรียนรู้
การเลยี งปลาดุกในบ่อพลาสตกิ การเลยี งปลาดกุ ในบ่อพลาสติก 1.1 ขันตอนการเตรียมบ่อ ขนาดกวา้ ง 2 เมตร ยาว 4 เมตร ลึก 1 เมตร - ขดุ บอ่ ดินขนาด กวา้ ง 2 เมตร ยาว 4 เมตร - ขดุ ลึกประมาณ 50 เซนติเมตร และทาํ ใหเ้ ป็นทีพกั กวา้ งขนาด 20 เซนติเมตร และขดุ บ่อลึกลง ไปอีก 50 เซนติเมตร - ปูบ่อดว้ ยผา้ พลาสติก จดั ขอบบอ่ ให้เรียบรอ้ ย 1.2 ขันตอนการเตรียมนาํ - เปิ ดนาํ ใส่บอ่ ประมาณความสูงของนาํ 3 ใน 4 ส่วน และทิงไวป้ ระมาณ 4-7 วนั 1.3 การคดั เลอื กพันธ์ุปลาดุก - ขนาดปลาทีจะนาํ มาเลียง ปลาทีเริมเลียงยาวตงั แต่ 1.5 นิวขึนไปไม่ควรนาํ ปลามาเลียงในฤดู หนาวเพราะปลามีความตา้ นทานต่อโรคตาํ - อตั ราการเลียงปล่อยลูกปลาในอตั รา 200 - 400 ตวั ตอ่ บ่อ - การปลอ่ ยปลาแช่ถุงลกู ปลาไวใ้ นบ่อเลียง 30 นาที จึงค่อยๆ ปล่อยลงบ่อ ช่วงแรกทีปล่อยให้ เติมนาํ ลงบ่อมีความสูงประมาณ 10 ซม.แลว้ ค่อยเพมิ ระดบั นาํ ขึนไปเรือยๆ ทกุ ๆ อาทิตยจ์ นมี ระดบั สูงสุด - การถ่ายเทนาํ ไมต่ อ้ งเปลียนนาํ แต่ใช้ EM เทลงในบ่อประมาณอาทิตยล์ ะ 1 ครังเพอื ป้องกนั ไม่ใหน้ าํ ในบ่อเสีย และสามารถนาํ ไปรดผกั ในแปลงไดอ้ ีก -
การเลยี งกบในบ่อพลาสติก บา้ นหวั นาโมเดล ไดจ้ ดั ทาํ โครงการส่งเสริมการเลียงกบในบ่อพลาสติก โดยประสบการณ์การเลียงกบที ประสบผลสาํ เร็จ จากการเรียนรู้และประสบการณ์จากการปฏิบตั ิ การเลียงกบในบ่อพลาสติกเป็นอาชีพหนึงที สามารถทาํ รายไดใ้ หก้ บั เกษตรกร สิงทีควรคํานึงก่อนการเลยี งกบ 1. ความพร้อมในดา้ นความรู้และการลงทนุ 2. มีตลาดรองรับผลผลิตทีแน่นอน 3. มีการวางโปรแกรมการผลิตทีดีเพือใหส้ ามารถจาํ หน่ายในช่วงทีกบมีราคาดี และมีตน้ ทุนในการผลติ ตาํ ทีสุด ขันตอนในการเตรียมบ่อ .จดั การทาํ ความสะอาดพืนทีทีตอ้ งการขดุ บ่อใหส้ ะอาดปราศจากหญา้ .ขดุ บ่อขนาดกวา้ ง เมตร ยาว เมตร ลึก 60 เซนติเมตร .ใชผ้ า้ พลาสติกขนาด x เมตรสําหรบั ปู .การปูผา้ ตอ้ งเกบ็ ชายผา้ พลาสติกไวบ้ นขอบบ่อประมาณ เซนติเมตร .เติมนาํ ใหเ้ ตม็ ทิงไวป้ ระมาณ - วนั เติม จลุ ินทรีย์ EM เพอื ปรบั สภาพนาํ การคัดเลอื กพ่อพนั ธ์ุ - แม่พันธ์ุกบ พนั ธุ์กบทีเหมาะสม คอื กบนา ทีไดม้ ีการพฒั นาสายพนั ธุ์ให้มีสีเหลือง มีอตั ราการเจริญเติบโตดี
การจดั การระหว่างการเลยี ง - ไม่เปลียนถ่ายนาํ แตเ่ ติมนาํ จุลินทรีย์ EM และนาํ นาํ ไปรดผกั ทาํ ความสะอาดทีใหอ้ าหาร - จดั ขนาดกบแตล่ ะบ่อใหใ้ กลเ้ คยี งกนั โดยการคดั ขนาดกบสมาํ เสมอ เก็บบนั ทึกขอ้ มูลระหวา่ งการเลียง เช่น วนั ทีเพาะฟัก ปริมาณกบต่อบอ่ ปริมาณกบทีตาย ปริมาณอาหารทีใหใ้ นแต่ละวนั ปริมาณอาหารทีใชท้ งั หมด ปริมาณ กบทีจบั ไดท้ งั หมด ขนาดกบทีจบั วนั ทีจบั ฯลฯ การเตรียมบ่อ พ่อพนั ธ์ุ –แม่พนั ธ์ุ กบ
ส่วนประกอบ การทําจลุ นิ ทรีย์นาํ EM ใช้ทันที 1. จลุ ินทรีย์ EM 2 ชอ้ นโตะ๊ 2. กากนาํ ตาล 2 ชอ้ นโต๊ะ 3. นาํ สะอาด 1 ลิตร วธิ ที ํา ผสมจุลินทรีย์ EM กากนาํ ตาล และนาํ เขา้ ดว้ ยกนั ใส่ขวดพลาสติกชนิดฝาเกลียวปิ ดฝาใหแ้ น่น เกบ็ ไว้ 3 – 5 วนั จะเป็นหวั เชือขยายเป็นการนาํ จลุ ินทรียม์ าขยายใหไ้ ดจ้ าํ นวนมาก ลดตน้ ทุนนาํ ไปใชห้ รือขยายตอ่ ไดอ้ ีก ( เก็บไวไ้ ดน้ าน 3 เดือน) วธิ ใี ช้ ใชท้ าํ ป๋ ุยนาํ ฮอร์โมน สารไลแ่ มลง และป๋ ุยแหง้ ฯลฯ หมายเหตุ 1. แกว้ ประมาณ 250 ซีซี 2.ชอ้ นโตะ๊ ประมาณ 10 ซีซี วิธีใช้ พชื ผกั ใช้ ฉีด พ่น รด ราด ทุก 3 วนั ไมด้ อกไมผ้ ล พืชสวน ฉีด พ่น ทกุ 7 วนั เดือนละ 1 – 2 ครัง ใชใ้ ห้หมด ภายใน 1 วนั หากไม่หมดให้นาํ ไปราดห้องนาํ ลา้ งพนื ซีเมนตห์ รือเทลงท่อระบายนาํ
การทําป๋ ุยแห้ง (โบกาฉิ) ส่ วนผสม 1. มลู สัตว์ (ทกุ ชนิด) 1 ส่วน ( กระสอบ) 2. แกลบดิบ 1 ส่วน ( กระสอบ) 3. รําละเอียด 1 ส่วน ( กระสอบ) 4. จลุ ินทรีย์ EM 20 ซีซี (2 ชอ้ นโตะ๊ ) 5. กากนาํ ตาล 20 ซีซี (2 ชอ้ นโต๊ะ) 6. นาํ สะอาด 10 ลิตร หรือ 1 ถงั วธิ ที าํ ขันที 1 เตรียมจุลินทรีย์ EM , กากนาํ ตาล , นาํ สะอาด , ผสมไวใ้ นถงั นาํ ขันที 2 นาํ มลู สตั ว์ + รําละเอยี ดผสมคลุกเคลา้ ให้เขา้ กนั ขันที 3 นาํ แกลบดิบใส่ลงในนาํ ทีขยายจุลินทรีย์ EM ในขนั ที 1 จ่มุ ใหเ้ ปี ยกแลว้ บีบพอหมาดๆ นาํ มาคลุกกบั ส่วนผสม ขนั ที 2 ใหเ้ ขา้ กนั จะไดค้ วามชืน 40 – 50 %( กาํ แลว้ ไมม่ ีนาํ หยดจากง่ามมือ) การหมกั เอาส่วนผสมทงั หมดบรรจุลงในกระสอบป่ าน , ถุงป๋ ยุ ทีอากาศถา่ ยเทได้ โดยบรรจุลงไป ? ของกระสอบไม่ ตอ้ งกดใหแ้ น่น นาํ ไปวางลงในทีมีฟางรอง เพือการระบายอากาศในส่วนส่วนล่างพลิกกลบั กระสอบ ในวนั ที 2,3,4 ทกุ ๆ วนั ในวนั ที 2 – 3 อณุ หภมู ิ จะสูงถึง 50 องศาเซนเซียส – 60 องศาเซนเซียส วนั ที 4 และวนั ที 5 อุณหภูมิเยน็ ลง จนปกติตรวจดูไมใ่ หอ้ ุณหภูมิเกิน 36 ป๋ ยุ แหง้ สนิทสามารถนาํ ไปใชไ้ ด้ การเกบ็ รักษา เก็บรักษาเมือโบกาฉิแหง้ สนิทควรเกบ็ รักษาในทีร่ม ไม่โดนฝนและไมโ่ ดนแดด สามารถเก็บรักษาไดน้ าน ประมาณ 1 ปี วธิ ีใช้ 1. ใชป้ ๋ ยุ แหง้ ในแปลงปลูกตน้ ไมท้ กุ ชนิดในอตั ราส่วนป๋ ุยแห้ง 1 กาํ มือ/พนื ที 1 ตรม. แลว้ ทาํ การเพาะปลูกได้ 2. พืชผกั ทีมีอายเุ กิน 2 เดือน เช่น ฟักทอง , แตงกวา , ถวั ฝักยาว , กะหลาํ ปลี ใชป้ ๋ ยุ แหง้ รองกน้ หลุมกอ่ นปลูก ใชป้ ระมาณ 1 กาํ มือ 3. ไมย้ นื ตน้ , ไมผ้ ล ควรรองกน้ หลุมดว้ ย เศษหญา้ – ใบไม้ ฟางแหง้ และป๋ ยุ แหง้ ประมาณ 1 – 2 บงุ้ กี ส่วนไม้ ยนื ตน้ , ไมผ้ ลทีปลกู แลว้ ใหใ้ ส่ป๋ ุยแหง้ รอบ ๆ โคนตน้
การปลกู ผักปลอดสารพษิ ขันตอนที การเตรียมแปลงปลูก ในการปลูกผกั ไม่วา่ พนื ทีจะเป็นพืนทีเปิ ดใหม่หรือพืนทีทีไม่ไดม้ ีการทาํ การเกษตรมาก่อนหรือแมแ้ ต่ พนื ทีทีปลูกผกั มานาน จาํ เป็นตอ้ งมีการไถพลิกดินขึนมา ทาํ การย่อยดินให้ร่วนโปร่ง ส่วนการขึนรูปแปลงผกั นนั จะสามารถขึนรูปแปลงผกั ยกร่องกวา้ งแบบร่องจีนหรือขึนรูปแปลงปลูกผกั บนทีดอนแบบยกร่องก็ได้ ขึนอยู่กบั ลกั ษณะของพืนที ทงั นี ตอ้ งมีการปรับปรุงคุณภาพดิน โดยการใส่ป๋ ยุ คลุกให้เขา้ กบั เนือดิน เพือให้ดินมีความสมบูรณ์ ก่อนปลูก ทังนี สภาพดินทีมีความเหมาะสมต่อการปลูกผกั ตอ้ งมีสภาพดินทีร่วนซุย โดยมีบาํ รุงดินโดยการใช้ ป๋ ุยคอก แกลบดิบทีหมกั แลว้ ป๋ ุยหมกั ป๋ ุยนาํ ขันตอนที การเพาะเมลด็ และการเตรียมกล้า ในปัจจุบนั มีการผลิตพนั ธุ์พืชทีดีออกมาใช้ ซึงเมล็ดมีราคาแพงมาก แต่มีคุณภาพดี การปลูกจึงนิยมใชว้ ธิ ีการเพาะกลา้ ก่อน แลว้ จึงทาํ การยา้ ยกลา้ ทีแข็งแรง นาํ ไปปลูกในแปลงปลกู อกี ที ซึงวธิ ีนี ช่วยประหยดั เมล็ดพนั ธุ์ และยงั ไดต้ น้ พืช ทีแขง็ แรงสมาํ เสมอกนั ขันตอนที การดูแลรักษาแปลงผกั การปลกู ผกั สิงทีสาํ คญั และตอ้ งเอาใจใส่มาก คือ การดูแลแปลงผกั ไดแ้ ก่ การใหน้ าํ การใหป้ ๋ ยุ การเกบ็ เกียว และการปฏบิ ตั ิหลงั การเก็บเกียว การให้นํา ผกั เป็นพืชอวบนาํ จงึ ตอ้ งการนาํ มาก ถา้ ขาดนาํ ผกั จะเหียวเฉาอยา่ งรวดเร็ว โดยเฉพาะ วนั ทีอากาศร้อนมาก ๆ ผกั จะคายนาํ ออกมามาก ทาํ ใหผ้ กั ชะงกั การเจริญเติบโต ถา้ ผกั ไดน้ าํ ไมเ่ พยี งพอ ผลผลติ จะ ลดลงอยา่ งมาก การใหน้ าํ จะเพมิ ปริมาณการใหน้ าํ ตามอายขุ องผกั โดยการให้นาํ จะใหแ้ บบฉีดพ่นฝอยหรือแบบ ปลอ่ ยลงในแปลงกไ็ ด้ ตามลกั ษณะของรูปแปลง การให้ป๋ ุย สามารถใหป้ ๋ ยุ ไดท้ งั ป๋ ุยอินทรีย์ ไดแ้ ก่ป๋ ุยหมกั ป๋ ุยคอก ป๋ ุยพืชสด การเก็บเกียว การเก็บเกียวผกั กินใบมกั จะดูจากอายนุ บั ตงั แต่ปลูก ตงั แต่ - วนั ตามสภาพของ แต่ละชนิด การปฏบิ ัตหิ ลงั การเกบ็ เกยี ว ผกั เป็นพชื ทีอวบนาํ จึงบอบบาง ไม่ทนทานต่อแรงกระแทก การเกบ็ เกียวและ การปฏบิ ตั หิ ลงั การเก็บเกียวควรกระทาํ อยา่ งระมดั ระวงั รวดเร็ว มีขนั ตอนทีนอ้ ยทีสุด จงึ จะช่วยลดความเสียหายลงได้
ประชุมสมาชกิ ศูนยเรียนรู ฯ นางณฐั นิธิ อกั ษรวิทย ครู กศน.ตำบลโนนขา ท่ปี รกึ ษา
Search
Read the Text Version
- 1 - 10
Pages: