หมเู่ กาะพีพี อยหู่ า่ งจากอาเภอเมอื ง 42 กิโลเมตร เป็ นหมเู่ กาะกลางทะเล ทอ่ี ยใู่ นเขตรับผิดชอบของอทุ ยานแหง่ ชาติหาด นพรัตน์ธารา-หมเู่ กาะพีพี ซงึ่ ประกอบด้วยเกาะ 6 เกาะ คือ เกาะพพี ีเล เกาะพีพดี อน เกาะยงู เกาะไม้ไผ่ เกาะบิดะนอก และเกาะบดิ ะใน เลา่ กนั วา่ เดมิ ชาวทะเลเรียกหมเู่ กาะแหง่ นวี ้ า่ “ปเู ลาปิ อาปิ ” คาวา่ “ปเู ลา” แปลวา่ เกาะ คาวา่ “ปิ อาปิ ” แปลวา่ ต้นไม้ทะเลชนิดหนง่ึ จาพวกแสม และโกงกาง ตอ่ มา เมื่อชาวมสุ ลมิ และผ้คู นจากแผน่ ดนิ ใหญ่เข้ามาอยู่ จึงเรียกช่ือ เกาะนสี ้ นั้ ๆวา่ “ปี ปี ” ซงึ่ ภายหลงั กลายเสยี งมาเป็ น “พพี ”ี หมเู่ กาะพีพี ได้ช่ือวา่ เป็ นอาณาจกั รแหง่ บปุ ผาใต้สมทุ ร นกั ทอ่ งเทยี่ วที่เดนิ ทางมาเที่ยวหมเู่ กาะแหง่ นสี ้ ว่ นใหญ่ มาเพอ่ื ดา นา้ ดปู ะการัง ดอกไม้ทะเล และปลาหลากสสี นั ทสี่ วยงาม เกาะพีพดี อน เวงิ ้ อา่ วคทู่ ม่ี คี วามสวยงามตดิ อนั ดบั โลกของอา่ วต้นไทรและอา่ วโละดาลมั คอื ความงามทสี่ ร้างชื่อให้เกาะท่ีมี พนื ้ ที่ประมาณ ๒๘ ตารางกิโลเมตรแหง่ นี ้โดง่ ดงั ไปทวั่ โลก บริเวณที่ราบแคบๆระหวา่ งอา่ วทงั้ สองทวี่ าดโค้งเข้าหากนั ตรง กลางเกาะพีพีดอนนี ้คือ ศนู ยก์ ลางการทอ่ งเที่ยวของเกาะ และถือวา่ เป็ นสสี นั การทอ่ งเทยี่ วทโี่ ดดเดน่ ทสี่ ดุ ของจงั หวดั กระบ่ี เลยก็วา่ ได้ จากอา่ วต้นไทร เราสามารถเดินขนึ ้ เขาไปยงั จดุ ชมววิ เพื่อชมทศั นยี ภาพท่ีงดงามของเวงิ ้ อา่ วคใู่ นขณะทีต่ ะวนั ลบั ฟ้ าได้เช่นกนั อา่ วต้นไทร สถานท่ีตงั้ ของทา่ เรือเกาะพพี ี คือ ศนู ย์รวมของสถานทีพ่ กั และร้านค้า ด้วยเหตนุ ี ้บรรยากาศที่น่จี งึ คกึ คกั ทงั้ กลางวนั และกลางคืน หาดทรายขาวสะอาด ร่มร่ืนด้วยทวิ มะพร้าวเขียวขจี ทก่ี ว้างและยาวเกือบ ๒ กิโลเมตร เชือ้ เชิญ นกั ทอ่ งเที่ยวให้มาพกั ผอ่ น นอนอาบแดด และ เลน่ นา้ ทะเลสเี ขียวใส บริเวณปี กของอา่ วทงั้ สองข้างเป็ นจดุ ดานา้ ตนื ้ เลย ออกไปทางปลายปี กเป็ นจดุ ดานา้ ลกึ ซง่ึ ได้รับผลกระทบจากคลน่ื ยกั ษ์สนึ ามไิ มม่ ากนกั ยง่ิ หา่ งไกลชายหาด สภาพความ สมบรู ณ์ของปะการังยงิ่ มมี ากขนึ ้ แม้วา่ บางสว่ นอาจจะอยใู่ นสภาพเสยี หายบ้าง นา้ ทะเลก็สวยใสกวา่ จนสามารถมองเห็น ปะการังได้อยา่ งชดั เจน ปะการังที่พบสว่ นมากเป็ นปะการังก้อน ปะการังกิ่ง และปะการังจาน จดุ ดานา้ ลกึ ทเ่ี ดน่ ท่สี ดุ ในอา่ ว นอี ้ ยทู่ ปี่ ลายปี กของอา่ วทางฝั่งตะวนั ตก ใต้ผืนนา้ สเี ขยี วทบึ เป็ นหน้าผาดง่ิ ลกึ ราว ๔๕ ฟตุ มหี อยนางรมขนาดใหญ่ ฟองนา้ ดอกไม้ทะเล กลั ปังหา และแส้ทะเล บริเวณที่พนื ้ ของหน้าผามโี พรงลกึ เป็ นทอ่ี าศยั ของปลาหลายชนดิ เช่น ปลากะพง ปลา เก๋า เหมาะแก่การถา่ ยภาพใต้นา้ อา่ วโละดาลมั ชายหาดผ้นู ้อง ฝาแฝดของอา่ วต้นไทร ท่รี ่วมกนั สร้างตานานความงามของเวงิ ้ หาดคแู่ หง่ เกาะพพี ีนี ้ก็มี ชื่อเสยี งไมน่ ้อยไปกวา่ แฝดผ้พู ่ีเลย ดงั นนั้ นกั ทอ่ งเที่ยวจึงนยิ มมาพกั ผอ่ นท่นี ่ีด้วยเช่นกนั ทิวทศั น์ทสี่ วยงาม เวงิ ้ อา่ วกว้าง ใหญ่ มขี นุ เขาโอบล้อมเป็ นรูปเกือกม้า เม็ดทรายขาวละเอยี ดถกู พดั มารวมกองกนั นานนบั ปี จนกลายเป็ นชายหาดยาว ประมาณ ๑ กิโลเมตร เหมาะสาหรับนงั่ เลน่ ดื่มดา่ กบั บรรยากาศ หน้าหาดนา้ ตืน้ เลน่ นา้ ได้ ในยามนา้ ลด ตวั หาดจะทอด กว้างออกไปจนเกือบถงึ ปากอา่ ว ระหวา่ งช่วงบา่ ยจนถงึ เย็น มกั จะพบวา่ ชายทะเลด้านนี ้ได้ถกู นกั ทอ่ งเทยี่ วยดึ พนื ้ ที่ไว้เป็ น สนามฟตุ บอล และสนามวอลเลย์บอลชายหาดไปโดยปริยาย กอ่ นเหตกุ ารณ์ธรณีพิบตั ิ บริเวณปากอา่ วโละดาลมั เคยเป็ น จดุ ดานา้ ตืน้ ทด่ี จี ดุ หนง่ึ แตป่ ัจจบุ นั เสอ่ื มโทรมลงบ้าง เกาะพพี ดี อนยงั มหี าดทราย และอา่ วท่ีสวยงามกระจายอยรู่ อบเกาะ บางแหง่ มีที่พกั บริการ เช่น หาดแหลมหิน หาดยาว อา่ วโละบาเกา แหลมตง หลายหาดแม้จะไมม่ ีปะการงั ให้ชมมากเหมือนเม่ือก่อน แตก่ ็โดดเดน่ ด้วยความงามของหาดทราย นา้ ตืน้ เลน่ นา้ ได้อยา่ งปลอดภยั และมบี รรยากาศทเี่ งียบสงบเป็ นสว่ นตวั เหมาะจะไปนอนพกั ผอ่ นชมธรรมชาติ
อา่ วหยงกาเสม็ (อา่ วลงิ ) เวงิ ้ อา่ วเลก็ ๆ ยาวประมาณ ๓๐๐ เมตร ทนี่ กั ทอ่ งเท่ียวนยิ มมานอนพกั ผอ่ น เลน่ นา้ ทะเล และดา นา้ ดปู ะการังบริเวณหน้าหาด สภาพปะการงั อนั สวยงาม กบั ปลาการ์ตนู เจ้าเลห่ ์ท่ีแหวกวา่ ยเวยี นวนทา่ มกลางกอของ ดอกไม้ทะเล กาลงั สนกุ สนานกบั การใช้ความงามของตนคอยหลอกลอ่ เหยอื่ ให้เข้ามาตดิ กบั ดกั ของเจ้าดอกไม้ทะเลท่ีมพี ษิ น่ีคอื ระบบนเิ วศน์ท่ีคอยเกือ้ หนนุ กนั ตามธรรมชาติ ทผี่ ้มู าเยือนได้เรียนรู้จากห้องเรียนกลางแจ้งแหง่ นี ้มองกลบั ไปยงั หาด ทรายขาวเบอื ้ งหน้า เหลา่ สมนุ วานรของหนมุ านชาญสมรทหารเอกของพระราม กาลงั งวยงงกบั มนษุ ย์เผอื กผมทอง ที่ครัง้ หนงึ่ ก่อนสมยั ทพ่ี ระเจ้าอเลก็ ซานเดอร์ยกทพั เข้ามาอนิ เดยี มนษุ ยเ์ ผือกผมทองเหลา่ นี ้ก็ไมเ่ คยรู้จกั มนษุ ย์ขนร่างเลก็ เหลา่ นี ้ เชน่ กนั ในวนั นี ้มนษุ ย์เผือกผมทองทเ่ี ดินทางมาจากโพ้นทะเล กระตอื รือร้นทจ่ี ะสร้างสมั พนั ธ์กบั มนษุ ย์ขนร่างเลก็ ณ ที่แหง่ นี ้ด้วยการนาชื่อมนษุ ย์ขนร่างเลก็ มาเป็ นชื่อของเวงิ ้ อา่ วอนั งามงดแหง่ นี ้ อา่ วรันตี ทางด้านทศิ ตะวนั ออกของเกาะพีพดี อน หาดเลก็ ๆ ขาวสะอาด กาลงั นอนหลบั ใหลเคยี งคกู่ บั นา้ ทะเลตืน้ ๆสเี ขียว ฟ้ า จากหน้าหาดออกมาในทะเลประมาณ ๑๕๐ - ๒๐๐ เมตร ใต้ผืนนา้ แหง่ นี ้สง่ิ มีชีวติ ตวั น้อยกาลงั สร้างที่พกั อาศยั ของ มนั มานานนบั ล้านๆปี แนวปะการังนา้ ตืน้ ท่ีสมบรู ณ์ในระดบั นา้ ลกึ ประมาณ ๒ เมตร คือท่ชี มุ นมุ ของเหลา่ ปลาน้อยใหญ่ ปะการังสว่ นใหญ่ทพี่ บเป็ นพวก ปะการังจานท่ีแผก่ ว้าง และปะการังก่งิ ท่ไี ด้ยดึ ฐานทม่ี น่ั บนผนื ทรายใต้นา้ ไว้อยา่ งเหนยี ว แนน่ กระแสนา้ ทไี่ หลแรง คอยปกป้ องพวกมนั มใิ ห้เหลา่ ผ้มู าเยือนได้มีโอกาสได้มายลโฉมพวกมนั ได้บอ่ ยนกั ธรรมชาตใิ ต้ นา้ ทนี่ จ่ี งึ คงสวยงาม และปราศจากการรบกวนจากมนษุ ย์ แหลมตง อยทู่ างเหนือสดุ ของเกาะ เป็ นท่ตี งั้ ของหมบู่ ้านชาวเลประมาณ ๑๕-๒๐ ครอบครัว สว่ นใหญ่อพยพมาจากเกาะลิ เป๊ ะ ในอทุ ยานแหง่ ชาตติ ะรุเตา ท่จี งั หวดั สตลู ปัจจบุ นั ยงั คงดารงชีวติ แบบเรียบง่าย ปลกู บ้านเป็นกระต๊อบเลก็ ๆ หากิน ด้วยการออกหาปลาในท้องทะเล พวกเขามภี าษาพดู เป็ นของตนเอง แตล่ ะวนั มีนกั ทอ่ งเทยี่ วมาชมวิถีชีวิตของพวกเขามไิ ด้ ขาด บริเวณแหลมตงมีธรรมชาตใิ ต้ทะเลท่สี วยงาม และบนหาดมที ่พี กั ให้บริการแกน่ กั ทอ่ งเทย่ี ว อา่ วโละลานะ เป็ นอา่ วทโ่ี ค้งลกึ เข้าไปในแผน่ ดิน จนเป็ นรูปเกือกม้า บริเวณปลายอา่ วทงั้ สองด้านมขี นุ เขาโอบล้อม ชายหาดยาวประมาณ ๕๐๐ เมตร ทรายขาวละเอียด นา้ ตืน้ เหมาะแกก่ ารเลน่ นา้ อา่ วน้ยุ หาดเลก็ ๆยาวประมาณ ๑๐๐ เมตร นา้ ตืน้ และใสมาก มบี รรยากาศเงียบสงบ เป็ นธรรมชาติ เหมาะสาหรับผู้ ต้องการความเป็ นสว่ นตวั โดยมี เกาะอฐู เกาะเลก็ ๆ ด้านหน้าอา่ ว เป็ นจดุ ดานา้ ลกึ ทส่ี มบรู ณ์ไปด้วยปะการังแขง็ ปะการัง ออ่ นพวกแส้ทะเล ดอกไม้ทะเล อา่ วโละบาเกา ยาวประมาณ ๕๐๐ เมตร ร่มรื่นด้วยทิวมะพร้าว หาดทรายสะอาด นา้ ทะเลใส บริเวณนมี ้ ที ่พี กั เพยี งแหง่ เดยี ว บรรยากาศจึงคอ่ นข้างเงียบสงบ ผ้คู นไมพ่ ลกุ พลา่ น อา่ วผกั หนาม หาดเลก็ ๆยาวประมาณ ๓๐๐ เมตร เงียบสงบ ลงเลน่ นา้ ได้ อา่ ววงั หลง เป็ นหาดที่เลก็ ท่สี ดุ หาดทรายขาวสะอาด บรรยากาศเงียบสงบมาก เหมาะแกผ่ ้ตู ้องการความเป็ นสว่ นตวั มา นอนอาบแดด เลน่ นา้ ทะเล
หาดยาว อยตู่ ดิ กบั อา่ วต้นไทรจงึ มีความคกึ คกั ไมแ่ พ้กนั ชายหาดมคี วามยาวเกือบ ๗๐๐ เมตร เป็นชายหาดท่ยี าวสมช่ือ นกั ทอ่ งเท่ยี วนยิ มไปนอนอาบแดดและเลน่ นา้ ทะเลกนั มาก นอกจากนยี ้ งั มแี หลง่ ดานา้ ท่เี ดน่ ที่สดุ อยทู่ ีป่ ลายหาดทางด้าน ทิศตะวนั ออกบริเวณ “หนิ แพ” ซงึ่ เป็ นกองหินใต้นา้ ทม่ี ีปะการังหลากหลายชนดิ เชน่ ปะการงั ก่ิง ปะการังสมอง สามารถ ดาได้ทงั้ แบบนา้ ตืน้ และนา้ ลกึ ถดั จากหาดยาวอ้อมหวั เกาะไปอกี ฝั่ง มหี าดเลก็ ๆท่ีเงียบสงบ ยาวประมาณ ๔๐๐ เมตร ช่ือ อา่ วโละมดู ี มีหาดทรายท่ีขาวสะอาด สามารถเลน่ นา้ ได้ เดนิ ทางได้โดยนงั่ เรือมาจากอา่ วต้นไทร อา่ วโละมดู ี เป็ นหาดท่เี งียบสงบ ยาวประมาณ ๔๐๐ เมตร หาดทรายขาวสะอาด นา้ ทะเลใส นกั ทอ่ งเทยี่ วนิยมมาพกั ผอ่ น หรือเดนิ ตามทางเลก็ ๆ มาจากหาดยาว รวมระยะทางยาวประมาณ ๖๐๐ เมตร จดุ ชมววิ อยบู่ นยอดเขาทางด้านตะวนั ออก สงู ประมาณ ๑๘๐ ม. จากระดบั นา้ ทะเลปานกลาง ทางขนึ ้ อยดู่ ้านหลงั ตลาด บริเวณบอ่ บาบดั นา้ เสยี จากอา่ วต้นไทรให้เดนิ ไปทางอา่ วโละดาลมั ทางทศิ ตะวนั ออก ทางไปชว่ งแรกนคี ้ อ่ นข้างหายาก เนอ่ื งจากป้ ายบอกทางไมช่ ดั เจน ควรสอบถามจากคนในพนื ้ ที่ เมือ่ ถงึ ตีนเขาแล้วจะเห็นทางขนึ ้ เป็ นบนั ไดปนู สลบั ทางดิน เส้นทางไมช่ นั มาก ใช้เวลาเดินประมาณ ๒๐ - ๔๐ นาที กถ็ งึ เมอื่ ขนึ ้ ไปด้านบนจะมองเห็นเวงิ ้ อา่ วคอู่ นั งดงาม โดยเฉพาะ ในยามพระอาทติ ย์ตกดิน เกาะพีพเี ล พนื ้ ท่ีเพยี ง ๖.๖ ตารางกิโลเมตร ของเกาะทเี่ ตม็ ไปด้วยภเู ขาหินปนู โดยรอบเกือบทงั้ เกาะ หน้าผาสงู ชนั ตงั้ ฉากกบั ผิวนา้ ทะเลทม่ี คี วามลกึ เฉลยี่ ประมาณ ๒๐ เมตร โดยมีบริเวณที่นา้ ลกึ สดุ ประมาณ ๓๔ เมตรอยทู่ างตอนใต้ ทาให้กลายเป็ น แหลง่ ชมุ ชนของตวั มวลปะการังมากมาย นบั แตแ่ นวด้านตะวนั ออกเฉียงใต้ ไปตลอดถงึ ชายฝั่งตะวนั ออก ในขณะท่บี าง ชว่ งเป็ นหน้าผามีแนวปะการงั เคลอื บอยเู่ ลก็ น้อย และยงั มกี ลั ปังหา อกี ทงั้ หอยมือหมรี วมอยดู่ ้วย ปะการังทเี่ คยหนาแนน่ อยู่ ในท้องทะเลแถบนี ้เทา่ ทม่ี ีการสารวจพบวา่ จะเป็ นจาพวกปะการังโขดปะการังผวิ ยยู่ ่ี ปะการังดาวใหญ่ ปะการังสนี า้ เงิน ปะการังดอกไม้ทะเล ปะการังถ้วยสมอง ปะการังไฟ ปะการงั ดอกเห็ด ปะการังเขากวางทรงพมุ่ พาน สง่ิ ตา่ งๆเหลา่ นี ้คอื อญั มณีเมด็ งามท่ไี ด้ถกู ซุกซอ่ นไว้ภายในเกาะแหง่ นี ้มานานนบั แรมปี รอคอยผ้คู นมาค้นพบขมุ ทรัพย์ลา้ คา่ แหง่ นี ้ ถา้ ไวกงิ ้ เม่ือปี พ.ศ. ๒๕๑๕ พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ วั ภมู ิพลอดลุ ยเดช เสดจ็ ประพาสถา้ แหง่ นี ้และทรงพระราชทาน นามใหมว่ า่ “ถา้ พญานาค” ตามรูปร่างหินก้อนหนงึ่ ทคี่ ล้ายเศยี รพญานาค อนั เป็ นท่เี คารพสกั การะของชาวบ้านทมี่ าเก็บรัง นกนางแอน่ บนเกาะแหง่ นี ้ภายในถา้ เป็ นห้องโถงขนาดใหญ่ สงู ประมาณ ๘๐ เมตร มีหนิ งอกหินย้อยทีส่ วยงาม จงึ เป็ นท่ี อาศยั ของนกนางแอน่ ทางทิศตะวนั ออกและทศิ ใต้พบภาพเขยี นสสี มยั ประวตั ศิ าสตร์ประมาณ ๗๐ ภาพ เป็ นรูปช้างและ รูปเรือชนิดตา่ งๆ เช่น เรือใบยโุ รป เรือใบอาหรับ เรือสาเภา เรือกาป่ัน เรือใบใช้กงั หนั และเรือกลไฟ เป็ นต้น เน่อื งจากภาพ สว่ นใหญ่เป็ นภาพเรือ จงึ มีคนคดิ วา่ เป็ นเรือของพวกไวกิง้ นกั รบและนกั เดนิ เรือชาวยโุ รป เลยตงั้ ชื่อวา่ “ถา้ ไวกิง้ ” สนั นษิ ฐานวา่ ภาพเขียนเหลา่ นเี ้ป็นฝี มือของนกั เดินเรือหรือพวกโจรสลดั เพราะจากการศกึ ษาเส้นทางเดินเรือจากฝั่ง ตะวนั ตกไปยงั ฝั่งตะวนั ออก บริเวณนอี ้ าจเป็ นจดุ ทเ่ี รือสามารถแวะพกั หลบลมมรสมุ ขนถ่ายสนิ ค้าหรือซอ่ มแซมเรือได้ อา่ วมาหยา เกิดขนึ ้ ด้วยกระบวนการเดยี วกนั กบั อา่ วปิ เละ แตส่ ว่ นหนงึ่ ของหน้าผาท่โี อบล้อมพงั ทลายกลายเป็ นช่องเปิ ด ขนาดใหญ่เชื่อมตอ่ กบั ทะเลภายนอก นา้ ทะเลไหลเวียนเข้าออกได้ดี เกาะหินปนู แหง่ นยี ้ งั ตงั้ อยหู่ า่ งชายฝั่งหลายสบิ
กิโลเมตร ตะกอนทม่ี าจากอา่ วพงั งามอี ิทธิพลน้อยมาก นา้ ทะเลใสชว่ ยให้แสงสอ่ งผา่ นในระดบั เหมาะสม ตวั ออ่ นของ ปะการังทล่ี อ่ งลอยอยทู่ ว่ั บริเวณพากนั ลงเกาะบนหนิ ท่ีทบั ถมอยกู่ ลางอา่ ว เมื่อยดึ ท่มี น่ั ได้ แตล่ ะตวั สบื พนั ธ์แุ บบไมอ่ าศยั เพศแบง่ ตวั จากหนงึ่ เป็ นสอง...สองเป็ นสี่ เวลาผา่ นไปหลายพนั ปี แนวปะการังขยายขนาดปกคลมุ ทวั่ อา่ วมาหยา ในเวลา เดยี วกบั ท่ที ะเลมีการเปลยี่ นแปลง กระบวนการของธรรมชาตยิ งั เกิดขนึ ้ บนชายฝ่ัง ตะกอนทรายตกทบั ถมรวมกนั กลายเป็ น หาด ผลของพชื ชายทะเลท่ลี อ่ งลอยมากบั นา้ บ้าง มากบั สตั ว์ตา่ งๆ บ้าง เจริญงอกงามกลายเป็ นป่ าชายหาด กินพนื ้ ที่ตอน ในของอา่ วประมาณ ๕๐ ไร่ เวงิ ้ อา่ วมาหยา ทม่ี ีพนื ้ ทห่ี ลบอยใู่ นภเู ขาหินประมาณความยาว ๒๕๐ เมตรนนั้ สว่ นหนงึ่ ถกู ตกแตง่ โดยธรรมชาติให้เป็ น พนื ้ ทหี่ าดทรายกว้างประมาณ ๕-๑๕ เมตร ทนั ทที ก่ี ้าวลงจากเรือและย่าลงไปบนพนื ้ หาดทราย จะรู้สกึ ได้วา่ หาดทรายผนื เลก็ ผนื นี ้มนั ชา่ งนมุ่ เท้าและขาวสะอาด ถงึ ขนาดต้องหลบั ตาให้มา่ นตาได้ทเุ ลาลงจากแสงแดดท่ีสอ่ งสะท้อนขนึ ้ มากระทบ บ้างในบางครัง้ หากลองย้อนกลบั ไป ความผอ่ งใสพิสทุ ธ์ิ เนอื ้ ทรายท่เี ป็ นปยุ นมุ่ นวลเท้าของหาดทรายแหง่ นี ้ล้วนเป็ นผล พวงอยา่ งหนง่ึ ท่เี กดิ จาก ซากของปะการังทถี่ กู ทาลายจนยอ่ ยยบั แหลกละเอียดเป็ นชิน้ เป็ นผง ตามวฏั จกั รแหง่ ธรรมชาติ ในท้ายทีส่ ดุ ถึงถกู เกลยี วคลนื่ สาดซดั ขนึ ้ มากองทบั ถมมานานนบั แรมปี การเดนิ ทางเข้ามาถา่ ยทาภาพยนตร์ของทีมงานตา่ งประเทศ เรื่อง “เดอะบชี ” กลายเป็ นสาเหตขุ องการเปลย่ี นแปลงครงั้ ใหญ่ สอื่ มวลชนแทบจะทกุ แขนง ได้พากนั นาเสนอขา่ วภาพยนตร์เรื่องนี ้ยิ่งกวา่ นนั้ การกาหนดตวั นายลโี อนาโอ ดิ คาปิ โอ ท่ีเขยา่ โลกในบทของ “แจ็ค” จากภาพยนตร์เรื่อง “ไททานคิ ” ให้เป็ นตวั พระเอก ยงิ่ ทาให้ขา่ วดงั กลา่ วลกุ กระพอื กลายเป็ น ทีส่ นใจของประชาชน ด้วยความงามของหาด และความโดง่ ดงั จากภาพยนตเ์ ร่ือง “เดอะบชี ” ทาให้ในแตล่ ะวนั มี นกั ทอ่ งเทีย่ วมาเยือนอา่ วแห่งนมี ้ ากมาย อา่ วปิ เละ เมอ่ื หลายพนั หลายหมนื่ ปี มาแล้ว ผนงั ถา้ ใต้ทะเลของเกาะแหง่ นที ้ นรับนา้ หนกั หินปนู หลายหม่นื ตนั ทีอ่ ยดู่ ้านบน ไมไ่ หว ถงึ แกก่ าลพงั ทลายยบุ ตวั ลงมาพร้อมกนั เกิดเป็ นแอง่ กว้างเกือบเป็ นรูปทรงกลม การยบุ ตวั ในลกั ษณะดงั กลา่ ว เกิดขนึ ้ ทว่ั ประเทศไทย บางบริเวณท่ีอยบู่ นบก แอง่ ใหญ่ท่ีเกดิ ขนึ ้ กลายเป็ นบงึ เช่น ทะเลบนั (สตลู ) บงึ แฝด (อ้มุ ผาง)ฯลฯ ขณะที่แอง่ กลางเกาะในทะเลกลาย เป็ น Lagoon หรือ “ทะเลใน” มถี า้ ทะเลเชื่อมตอ่ กบั ด้านนอก นา้ ทะเลไหลผา่ นเข้าถงึ ภายในแอง่ เหลา่ นเี ้ป็ นเสมอื นอกี โลกหนงึ่ ทโ่ี อบล้อมไว้ด้วยผาหินปนู แต่ครัง้ อดีต ไม้ชายเลนเติบโตในทตี่ นื ้ จนกลายเป็ นป่ า ชายเลนขนาดยอ่ ม มนษุ ย์ใช้ทะเลในเป็ นแหลง่ ทอ่ งเท่ียว หลายแหง่ โดง่ ดงั มชี ่ือเสยี งขจรไกล เชน่ ทะเลใน (หมเู่ กาะอา่ งทอง สรุ าษฎร์ฯ) ถา้ มรกต (ตรัง) เกาะห้อง (พงั งา)เกาะห้อง (กระบ)ี่ ฯลฯ และรวมถึงสถานท่แี หง่ นดี ้ ้วยเชน่ กัน เรือแลน่ อ้อมหน้า ผาสงู ใหญ่ จนมาถงึ ปากทางเข้าแคบๆ ทนั ทที ี่เรือผา่ นเข้าไป อา่ วใหญ่ปรากฏตรงหน้า มีหน้าผาสงู ชนั ปิ ดล้อมเกือบรอบ ด้าน นา้ ทะเลลงต่าและเรียบกริบ ปราศจากคลนื่ ลม ดแู ล้วชา่ งเหมอื นสระวา่ ยนา้ ทโ่ี รงแรม นา้ ทะเลใสสะอาด พนื ้ นา้ นง่ิ จน มองเห็นพนั เห็นหมน่ื ปะการังอยดู่ ้านลา่ ง ปะการงั หลากหลายรูปทรง ทงั้ ปะการงั แผน่ ปะการังเขากวาง ปะการังพมุ่ สเี ขยี ว สเี ทา สฟี ้ า มใี ห้เลอื กเกือบทกุ สี กลายเป็ นทีอ่ ยอู่ าศยั และแหลง่ หากินของปลาไมร่ ู้กี่สบิ ก่ีร้อยชนดิ อา่ วโละซามะ อกี มมุ หนงึ่ ของทะเลอนั ดามนั ซง่ึ เงียบสงบ กลางท้องนา้ ท้องฟ้ า และภเู ขาหนิ ทีต่ ระหงา่ นเหนอื เวงิ ้ ทะเล บริเวณชายหาดเลก็ ๆทางด้านขวาทอดตวั อยเู่ คียงคเู่ กลยี วคลน่ื ทีเ่ คลอ่ื นตวั ตามลมพลวิ ้ ไหว โดยมหี มแู่ มกไม้พมุ่ และไม้ เลอื ้ ยสเี ขยี วสดโลมเลยี เข้ามาเป็ นสว่ นประกอบ ถดั ตอ่ ไปในบางสว่ น คลน่ื ทะเลกาลงั พดั เข้าปะทะ หน้าผาหนิ ที่ประดบั ด้วย
เรียวหนิ ย้อยที่งามราวกบั ถกู ออกแบบบรรจง แตกตวั กลายเป็ นฟองสขี าวสาดกระเซ็นเห็นเป็ นภาพที่เหนือกวา่ งาน จิตรกรรมของจิตรกรใดๆ ในขณะท่ี ใต้ผนื นา้ ตนื ้ ๆเบอื ้ งลา่ ง ปะการังแข็งหลายประเภท เช่น ปะการังก้อน ปะการังแผน่ ปะการังถ้วย ได้ใช้โขดหินท่ผี ดุ ขนึ ้ เป็ นหยอ่ มๆเป็ นที่สร้างอาณาจกั ร เลยลกึ ลงไปใต้ท้องนา้ คือชมุ ชนของปะการังออ่ น ดอกไม้ทะเล และแส้ทะเล แม้วา่ เวงิ ้ อา่ วที่สวยงามแหง่ นี ้มีขนาดไมใ่ หญ่ และไมส่ วยงามเทา่ อา่ วมาหยา แตค่ วามสงบ เงียบ ณ ทแี่ หง่ นี ้ได้สร้างจินตนาการให้ลอ่ งลอยเข้าไปสคู่ วามเคลอ่ื นไหวของท้องทะเล
Search
Read the Text Version
- 1 - 8
Pages: