วิทยาการคานวณSlide PPT61-NEW ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 1 Slide PowerPoint_สือ่ ประกอบการสอน บรษิ ทั อักษรเจริญทัศน์ อจท. จำกดั : 142 ถนนตะนำว เขตพระนคร กรงุ เทพฯ 10200 Aksorn CharoenTat ACT.Co.,Ltd : 142 Tanao Rd. Pranakorn Bangkok 10200 Thailand โทรศัพท์ : 02 622 2999 โทรสำร : 02 622 1311-8 [email protected] / www.aksorn.com
1หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี แนวคดิ เชงิ คานวณในการพฒั นาโครงงาน ตวั ชี้วดั • ประยกุ ต์ใช้แนวคดิ เชงิ คำนวณในกำรพัฒนำโครงงำนท่มี ีกำรบรู ณำกำรกบั วชิ ำอืน่ อยำ่ งสรำ้ งสรรค์ และเช่อื มโยงกบั ชีวติ จริง
1 แนวคิดเชงิ คานวณ แนวคดิ เชิงคานวณ (Computational Thinking) คือ กระบวนการคดิ ในการแก้ไขปัญหาที่ทัง้ มนษุ ย์และคอมพิวเตอรส์ ามารถเขา้ ใจรว่ มกนั ได้ 1 Decomposition (แนวคดิ การแยกย่อย) แตกปญั หากระบวนการออกเป็นส่วนยอ่ ย 2 Pattern Recognition (แนวคิดการจดจารูปแบบ) ดูความเหมือน ความแตกตา่ งของรปู แบบการเปล่ียนแปลง 3 Abstraction (แนวคดิ เชงิ นามธรรม) มุ่งเน้นความสาคญั ของปญั หาโดยไม่สนใจรายละเอยี ดทีไ่ มจ่ าเปน็ 4 Algorithm Design (แนวคดิ การออกแบบขัน้ ตอน) แกป้ ัญหาโดยการออกแบบกระบวนการทางานอยา่ งเปน็ ลาดบั ขน้ั ตอน
ตวั อย่าง “ตะวัน” เป็นชายวยั ทางานที่ขยันขนั แขง็ และพยายามทาทกุ อย่างเพ่ือเปน็ พลเมืองดตี อ่ สงั คม แตว่ นั นี้ตะวนั ประสบปญั หา โดยรถยนต์ของตะวนั ไม่สามารถเคลอ่ื นทไี่ ด้ เนอ่ื งจากเกดิ ปญั หา 2 ประการ ได้แก่ • รถยนต์ยางแบน • รถยนตว์ ิง่ ชา้ เพราะนา้ มันใกลห้ มด ตะวันจะใช้แนวคิดเชิงคานวณแกไ้ ขปัญหาทเ่ี กิดขนึ้ ดงั น้ี แนวคดิ การแยกยอ่ ย การแยกแยะปญั หา โดยตะวนั สามารถแยกแยะ ปญั หาได้เปน็ 2 ประเด็น ได้แก่ • ยางรถแบน • นา้ มนั รถใกลห้ มด
แนวคดิ การจดจารูปแบบ การเขา้ ใจรูปแบบ ตะวนั ควรตอ้ งจัดการกับ ยางรถกอ่ นเติมนา้ มัน เนอื่ งจากน้ามนั ที่เหลอื อยู่ ไมม่ ากพอ ที่ตะวันจะขบั รถยนตไ์ ปถึงสถานี บริการน้ามัน ดังนนั้ ตะวนั ควรมุ่งแก้ไขปัญหา ยางรถแบนกอ่ น
แนวคดิ เชิงนามธรรม หาแนวคดิ รวบยอดของแตล่ ะปญั หายอ่ ย เป็นการมุ่งเน้นความสาคัญของปัญหาโดยไม่ สนใจรายละเอียดที่ไมจ่ าเป็น การคิดรวบยอด ของปัญหาดังกล่าวจะไดว้ า่ ตะวนั ตอ้ งทาการ เปล่ียนยางรถยนต์
แนวคดิ การออกแบบขนั้ ตอน เมือ่ ตะวนั ต้องการเปล่ยี นยางรถยนต์ ตะวนั จะตอ้ งออกแบบลาดับข้นั ตอนในการเปลยี่ นยาง ดังนี้ • หมุนบลอ็ กเพ่อื คลายนอ็ ต • ใช้แม่แรงยกรถขนึ้ และถอดน็อตออก • ถอดล้อออก เปล่ียนล้ออะไหลแ่ ทนท่ี • ใสน่ ็อตแล้วปล่อยแม่แรง • ขันนอ็ ตให้แน่น
2 การพัฒนาโครงงานทางด้านเทคโนโลยี การพฒั นาโครงงานทางดา้ นเทคโนโลยีจาเปน็ ตอ้ งใช้แนวคิดเชงิ คานวณเพอ่ื แก้ปัญหาตา่ งๆ ได้อย่างเป็นระบบ มีขน้ั ตอนเบอื้ งต้น 6 ขน้ั ตอน ไดแ้ ก่ กาหนดปญั หา กำหนดปัญหำ วิเครำะห์ควำมเป็นไปได้ และวำงแผน บารุงรักษาระบบ วิเคราะห์ระบบ ข้ันตอนกำรดูแลระบบต่ำง ๆ แก้ไข เพ่ิมเติม หรือ ขั้นตอนกำรทำควำมเข้ำใจกับระบบงำน ทั้งระบบงำน ปัจจุบันและระบบงำน ท่ีจะพัฒนำข้ึนมำแทนที่ หรือ ระบบงำนทพ่ี ัฒนำขึ้นใหม่ ปรับเปลย่ี นระบบในกำรทำงำน ออกแบบระบบ ติดต้ังระบบ ขน้ั ตอนกำรกำหนดวิธีกำรแก้ปัญหำต่ำงๆ จำกข้ันตอน ข้ันตอนกำรนำซอฟต์แวร์และระบบงำนใหม่ท่ีเสร็จ กำรวิเครำะหร์ ะบบ สมบรู ณม์ ำติดตง้ั ในสภำพแวดล้อมกำรทำงำนจริง จัดทำ เอกสำรกำรติดตง้ั ระบบงำนใหมแ่ ละคูม่ ือกำรใช้งำน พฒั นาระบบ และทดสอบระบบ ข้ันตอนกำรดำเนินงำนต่ำง ๆ เพื่อพัฒนำระบบ โดย ดำเนินงำนตำมกำรออกแบบจำกขั้นตอนกำรออกแบบ ระบบ
Search
Read the Text Version
- 1 - 8
Pages: