Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ตำบลคลองน้อย อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ตำบลคลองน้อย อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี

Published by aompp_123, 2021-11-27 12:18:24

Description: ตำบลคลองน้อย อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี

Search

Read the Text Version

ตำบล คลองน้อย อำ เ ภ อ เ มื อ ง สุ ร า ษ ฎ ร์ ธ า นี จังหวัดสุราษฎร์ธานี Suratthani ,Thailand

ผู้จัดทำ นักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขารัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎสุราษฎร์ธานี ชั้นปีที่ 4 1. นางสาวอนิตยา เพชรเรียง รหัสนักศึกษา 6116209001121 2. นางสาวผกากรอง ชมพูแดง รหัสนักศึกษา 6116209001125 3. นางสาวเกวริน พรหมพันธ์ รหัสนักศึกษา 6116209001151

คำนำ หนังสือเล่มนี้ จัดทำขึ้นเพื่อเป็นแนวทางในการศึกษาหาความรู้ เกี่ยวกับตำบลคลองน้อย อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในหนังสือเล่มเล็กนี้มีเนื้อหาประกอบด้วย ข้อมูลโครงสร้างพื้นฐานของ ชุมชน ประชากร เศรษฐกิจ อาชีพ สถานที่ต่าง ๆ รวมถึงภาพรวมของ ศักยภาพชุมชนตำบลคลองน้อย โดยผู้เขียนได้จัดเรียงข้อมูลเป็นลำดับ ขั้นตอน เพื่อให้ง่ายต่อการศึกษาและเพื่อนำข้อมูลที่ได้จากหนังสือเล่มนี้ ไปใช้ประโยชน์ได้ในอนาคต ทางผู้เขียนได้เลือกหัวข้อนี้ในการทำหนังสือเล่มเล็กเนื่องมาจาก เป็นเรื่องที่น่าสนใจ ต้องขอขอบคุณมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานีที่ ให้การสนับสนุนในการดำเนินการในนามมหาวิทยาลัยอาจารย์และเพื่อน ๆ ที่ให้คำแนะนำ ให้ความรู้ และแนวทางการศึกษา ทางผู้เขียน มีความ เชื่อมั่นว่าหนังสือเล่มนี้จะเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านทุก ๆ ท่าน หากมีข้อ เสนอแนะประการใด ผู้เขียนขอรับไว้ด้วยความขอบพระคุณยิ่ง คณะผู้จัดทำ ก

สารบัญ ก ข คำนำ ง สารบัญ สารบัญตาราง 1 ส่วนที่ 1 ข้อมูลพื้นฐาน 3 4 - ประวัติความเป็นมาของตำบล 5 - ขนาดและที่ตั้งของตำบล 6 - ทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญ 8 - ลักษณะภูมิประเทศและลักษณะภูมิอากาศ - การเดินทาง / การคมนาคม 9 - ด้านสาธารณูปโภค 10 ส่วนที่ 2 โครงสร้างของชุมชน 11 - ด้านการเมืองการปกครอง 13 - ข้อมูลประชากร 17 - ด้านการศึกษา / ศาสนา / วัฒนธรรม - บริบททางสังคม / ความเป็นอยู่ 29 - ความเชื่อ ประเพณี และพิธีกรรม 30 ส่วนที่ 3 โครงสร้างเศรษฐกิจและอาชีพ 31 - แหล่งทุนทางธรรมชาติ - แหล่งอาหาร - ผลิตภัณฑ์ชุมชน ของดี ของขึ้นชื่อ ข

สารบัญ (ต่อ) 35 45 ส่วนที่ 4 สถานที่สำคัญ ๆ 45 - แหล่งท่องเที่ยว 47 - แหล่งโบราณสถาน - ศาสนสถานของทุกศาสนา - แหล่งเรียนรู้ / โรงเรียน / ห้องสมุดชุมชน 50 ส่วนที่ 5 การวิเคราะห์ศักยภาพชุมชน - การวิเคราะห์แบบสัมภาษณ์เพื่อประเมิน 71 83 ศักยภาพชุมชน 84 - สรุปการวิเวิคราะห์ศักยภาพชุมชน บรรณานุกรม ภาคผนวก ค

สารบัญตาราง 10 ส่วนที่ 2 โครงสร้างชุมชน - จำนวนประชากรตำบลคลองน้อย (ตามแผนพัฒนาท้องถิ่น พ.ศ. 2561 – พ.ศ. 2565) ง

..การศึกษาในมหาวิทยาลัย กล่าว ตามหลัก ควรจะได้แก่การสร้าง เสริมความสามารถและความ เจริญงอกงามของบุคคลในทาง วิชาการส่วนหนึ่ง ในทางความคิด อีกส่วนหนึ่ง ซึ่งเมื่อรวมกันแล้วจะ ทำให้บุคคลมีพละกำลัง สามารถ นำไปใช้ปฏิบัติงานใหญ่ๆ ของ ส่วนรวมให้สำเร็จได้.. ค ว า ม ต อ น ห นึ่ ง ใ น พ ร ะ บ ร ม ร า โ ช ว า ท ใ น พิ ธี พ ร ะ ร า ช ท า น ป ริญ ญ า บั ต ร ข อ ง ม ห า วิท ย า ลั ย ร า ม คำ แ ห ง วั น พ ฤ หั ส บ ดี ที่ ๒ ๖ ตุ ล า ค ม ๒ ๕ ๒ ๑

ส่วนที่ 1 ข้อมูลพื้นฐาน 1.1 ประวัติความเป็นมาของตำบล ตำบลคลองน้อย แรกเริ่มเดิมมีชื่อว่า ตำบลป่าเหล้า โดยการตั้งชื่อตามเจ้า ที่คือ พ่อตาเหล้า แม่ยายเศร้าสร้อย โดยเอาชื่อของตามาตั้งคือ พ่อตาเหล้า มา ตั้งเป็นชื่อตำบลป่าเหล้า เพราะสภาพในตอนนั้นเป็นป่ามาก ตำบลป่าเหล้า มี กำนันคนแรกชื่อ ขุนรัตนมาล เป็นกำนันจนครบเกษียณอายุราชการ ต่อมามี พันเขียน เทพพิพิธ เป็นกำนันแทน สมัยนั้นมีการตั้งเป็นก๊กอั้งยี่ (เจ้าพ่อใน ปัจจุบัน) สามารถคุ้มครองหมู่บ้านได้ และมีลูกบ้านเป็นสมาชิก ถ้าหากใครเป็น สมาชิกจะมีที่ตักน้ำซึ่งเรียกว่า หมาตักน้ำ (ทำด้วยกาบหมาก) แขวนไว้ที่หน้า บ้านริมคลอง การปกครองสมัยนั้นบ้านเมืองยุ่งเหยิงมาก และกำนันได้ถูกทาง ราชการจับตัวไปทิ้งที่แม่น้ำโขง (ตามข่าวที่ทราบ) เมื่อสิ้นสมัยของ พันเขียน เทพพิพิธ บุตรชายพันเขียน เป็นกำนันแทน และได้เปลี่ยนชื่อตำบลป่าเหล้ามา เป็นตำบลคลองน้อย จนกระทั่งปัจจุบันมี นายครองลาภ พร้อมประเสริฐ เป็นกำนันแบ่งเขตการ ปกครองเป็น 9 หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่ที่ 1 บ้านท้องถ่วง หมู่ที่ 2 บ้านแทงแรด หมู่ที่ 3 บ้านคลองน้อย หมู่ที่ 4 บ้านหัวแหลม หมู่ที่ 5 บ้านปากคลองน้อย หมู่ที่ 6 บ้านทอนหญ้าปล้อง หมู่ที่ 7 บ้านค้อบน หมู่ที่ 8 บ้านดอนตะโก หมู่ที่ 9 บ้านค้อล่าง ชาวตำบลคลองน้อยมีทั้งคนพื้นเพดั้งเดิมและคนที่อพยพมาจาก ถิ่นฐานที่อื่น เช่น เพชรบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสาคร ซึ่งภาษาพูดมีทั้ง ภาษากลางและภาษาท้องถิ่นของภาคใต้ 1

ชาวบ้านเมื่อก่อนส่วนใหญ่จะมีอาชีพปลูกมะพร้าว ทำสวนผสมและทำ อาชีพประมง ประเพณีดั้งเดิมมีการทำบุญเดือนสิบ วันสงกรานต์ วันขึ้นปี ใหม่ วันตรุษไทย การบวชนาค เป็นต้น การตั้งถิ่นฐานมีเมื่อใดไม่ทราบแต่ ชาวบ้าน ณ ปัจจุบันจะนับและเริ่มใช้การตั้งถิ่นฐานของตำบลคลองน้อย ตั้งแต่การก่อตั้งวัดบุญบันเทิงเมื่อปี พ.ศ.2378 ตั้งอยู่ หมู่ที่ 2 บ้านบาง แทงแรดวัด บุญบันเทิงเป็นวัดที่เก่าแก่ซึ่งชาวบ้านให้ความสำคัญในทาง พระพุทธศาสนาในวัดจะมีต้นไทรขนาดใหญ่ที่มีอายุนานกว่า 200 ปี วัดบุญบันเทิงจะอยู่ห่างมาจากที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบล คลองน้อยประมาณ 4.3 กิโลเมตร องค์การบริหารส่วนตำบลคลองน้อยจะ ตั้งอยู่ เลขที่ 9 ม.3 บ้านคลองน้อย ตำบลคลองน้อย อำเภอเมือง จังหวัด สุราษฎร์ธานี ตำบลคลองน้อยจะแบ่งแยกเป็นโซนหมู่บ้าน 2 ฝั่ งทาง คือ หมู่ที่ 4,5,6,7 จะอยู่ฝั่ งเดียวกันส่วนหมู่ที่ 1,2,3 8,9 จะอยู่มาทางในบาง ถ้าเดินทางผ่านเซ็นทรัลตำบลวัดประดู่จะเดินทางอีกประมาณ5-6กิโลเมตร จะถึงตำบลคลองน้อยโดยผ่านถนนหมายเลข 417 (สำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลคลองน้อย.ประวัติความเป็นมา. ออนไลน์].2557,สืบค้นเมื่อ 3 สิงหาคม 2564 จาก WWW.KLONGNOI.GO.TH) 2

1.2 ขนาดที่ตั้งของตำบล ตำ บ ล ค ล อ ง น้ อ ย มี พื้ น ที่ เ ป็ น ที่ ร า บ ลุ่ ม ริม ฝั่ ง แ ม่ น้ำ มี แ ห ล่ ง น้ำ ธ ร ร ม ช า ติ ก ร ะ จ า ย อ ยู่ ทั่ ว มี แ ม่ น้ำ แ ล ะ ลำ ค ล อ ง ล้ อ ม ร อ บ ห ล า ย ส า ย มี เ นื้ อ ที่ ทั้ ง ตำ บ ล ป ร ะ ม า ณ 1 8 , 1 2 5 ไ ร่ ห รือ 2 9 ต า ร า ง กิ โ ล เ ม ต ร ตำ บ ล ค ล อ ง น้ อ ย ตั้ ง อ ยู่ ท า ง ทิ ศ ต ะ วั น ต ก เ ฉี ย ง เ ห นื อ ข อ ง ตั ว อำ เ ภ อ เ มื อ ง สุ ร า ษ ฎ ร์ ธ า นี อ ยู่ ห่ า ง จ า ก ว่ า ที่ ก า ร อำ เ ภ อ ป ร ะ ม า ณ 9 กิ โ ล เ ม ต ร อ ยู่ ห่ า ง จ า ก ศ า ล า ก ล า ง จั ง ห วั ด ป ร ะ ม า ณ 1 9 กิ โ ล เ ม ต ร ( ท า ง ร ถ ย น ต์ ) มี อ า ณ า เ ข ต ติ ด ต่ อ ดั ง นี้ N ทิศเหนือ E ทิศตะวันออก ติดกับตำบล ติดกับตำบลบางไทร และ บางโพธิ์ อำเภอเมือง ตำบลบางใบไม้ อำเภอเมือง S Wทิศใต้ ทิศตะวันตก ติดกับแม่น้ำตาปี อำเภอพุนพิน และ ติดกับคลองพุนพิน อำเภอ พุนพิน และตำบลบางโพธิ์ ตำบลวัดประดู่ อำเภอเมือง อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี (แผนพัฒนาท้องถิ่น พ.ศ.2561 - พ.ศ.2565) 3

1.3 ทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญ ใ น เ ข ต พื้ น ที่ อ ง ค์ ก า ร บ ริห า ร ส่ ว น ตำ บ ล ค ล อ ง น้ อ ย ไ ม่ มี น้ำ ต ก ภู เ ข า ท ะ เ ล ดั ง นั้ น ท รั พ ย า ก ร ธ ร ร ม ช า ติ ที่ สำ คั ญ ข อ ง พื้ น ที่ ตำ บ ล ค ล อ ง น้ อ ย คื อ ดิ น ในเขตพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลคลองน้อย มีดินที่มีลักษณะคุณภาพ สมบูรณ์ เนื่องจากเป็นดินสองน้ำ น้ำทะเลและน้ำจืด จึงทำให้มีสารอาหารไหลมา กับน้ำซึมลงไปกับพื้นดิน ทำให้ดินมีสารอาหารตามธรรมชาติที่ดี เหมาะแก่การ ปลูกพืชหลายชนิดด้วยกัน สามารถปลูกได้ทั้ง ไม้ผล ไม้ยืนต้น และพืชผักเกือบ ทุกชนิด แ ห ล่ ง น้ำ ในเขตพื้นที่ของตำบลทุกหมู่บ้านมีลำคลองและแม่น้ำไหลผ่านหลายสายมีน้ำ สำหรับทำการเกษตรตลอดปี มีสภาวะการขึ้นลงของน้ำตามอิทธิพลของน้ำทะเล นับเป็นทรัพยากร ที่สำคัญต่อการเกษตรและใช้สอยประจำวัน แต่มีบางฤดูกาล ที่เกิดน้ำท่วมในช่วงสั้น ๆ ทำให้เกิด ผลกระทบต่อพืชผลทางการเกษตรบางชนิด เสียหายบ้าง มีแม่น้ำ 1 สาย ลำคลอง 19 สาย คูส่งน้ำเข้าสวนอีกเป็นจำนวนมาก ป่ า ไ ม้ มีป่าจาก เพราะตำบลคลองน้อยมีลำคลองและแม่น้ำไหลผ่านจึงทำให้มีต้น จากตามลำคลองเป็นจำนวนมาก สั ต ว์ น้ำ จากสภาพพื้นที่ล้อมรอบไปด้วยน้ำ และมีแม่น้ำลำคลองเชื่อมติดต่อกันตลอด ทำให้ มีสัตว์น้ำนานา ชนิด ซึ่งเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญของราษฎรในตำบล (แผนพัฒนาท้องถิ่น พ.ศ.2561 - พ.ศ.2565) 4

1.4 ลักษณะภูมิประเทศและลักษณะภูมิอากาศ ภูมิประเทศ ภูมิประเทศของตำบลคลองน้อยมีลักษณะพื้นที่เป็นพื้นที่ ราบลุ่มริมฝั่งแม่น้ำ มีแหล่งน้ำธรรมชาติกระจายอยู่ทั่ว มีแม่น้ำและ ลำคลองล้อมรอบหลายสาย ไม่มีทรัพยากรป่าไม้ น้ำตก ภูเขาและ ทะเล แต่จะมีพันธุ์ไม้ที่เจริญได้ดีในเขตน้ำกร่อย เช่นต้นจาก ต้น ลำพูและป่าโกงกาง มีเนื้อที่ทั้งตำบลประมาณ 18,125 ไร่ หรือ 29 ตารางกิโลเมตร แม่น้ำสำคัญ ได้แก่ แม่น้ำตาปี ลักษณะภูมิอากาศของตำบลคลองน้อย อำเภอเมือง ภูมิอากาศ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ลักษณะอากาศ มีลักษณะร้อนบริเวณใกล้ ศูนย์สูตร จึงมีอากาศแบบโซนร้อน ได้รับอิทธิพลของลมมรสุมตะวันตก เฉียงใต้ และมรสุมตะวันตกเฉียงเหนือ จากอิทธิพลของลมมรสุมทั้งสอง ทำให้ในปีหนึ่งๆจังหวัดสุราษฎร์ธานีมีเพียง 2 ฤดู ดังนี้ คือ ฤดูร้อน จะ เริ่มเดือนกุมภาพันธ์ – เมษายน ฤดูฝน อยู่ในช่วงเดือน พฤษภาคม - ตุลาคม และ เดือนพฤศจิกายน – กุมภาพันธ์ ฤดูกาล สุรแพาิลษจ้วาฎสรรแ์ณาธมตา่าลานตเีรนะืา่ถตฤอัม้แดงงลูอบจัก่กยางาูษ่อกใลนณอตจึภำกงะาบไเลปมคล็่มแนใคฟตต้้ล2แากออลตฤง่าะาดนกตู้งิกอากดัายศนกลัโบมอดคำาทยือกเะทภัน่เวัฤอลกไดเูปมลรอืั้ขอกอย่งอษนางณงอปแไยะรูลร่ใกอะะ็นตาเจทฤกาังศดามูหศไฝเทมวใืนั่นดอย 5

1.5 การเดินทาง/การคมนาคม การเดินทาง ตำบลคลองน้อย เป็นหนึ่งในตำบลที่ขึ้นชื่อว่า คลองร้อยสาย เดิมคมนาคมทาง น้ำ โดยใช้เรือเป็นหลัก แม้ว่าตอนนี้จะมีถนนตัดผ่านหลายสาย แต่ก็ยังมีการใช้เส้นทาง เรืออยู่มาก คลองร้อยสาย เป็นชื่อเรียกลำน้ำเล็กๆ ที่แตกแขนงมาจากแม่น้ำตาปีซึ่งมี คลองเล็กคลองน้อยนับร้อยคลอง คลองร้อยสาย ประกอบไปด้วยพื้นที่ ตำบลของอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี ได้แก่ บางใบไม้ บางชนะ คลองฉนาก บางไทร คลองน้อย และบางโพธิ์ ชุมชนเหล่านี้อยู่ใน อำเภอเมืองที่ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมง และทำสวน ตำบลนี้คือพื้นที่ที่มีคลองเล็กคลองน้อยจำนวนกว่าร้อยสายเชื่อมโยงกันไหลไป ออกแม่น้ำ ตาปี ชุมชนเก่าแก่ริมคลองแห่งนี้มีวิถีชีวิตที่พึ่งพาแม่น้ำลำคลองมาตั้งแต่ ในอดีต ชีวิตตลอดสองฟากฝั่ งคลองยังมีเรือแจว เรือพาย และเรือห่างยาวสัญจรอยู่ เป็นประจำ ซึ่งเป็นสิ่งไม่น่าเชื่อว่าบริเวณใกล้กับตัวเมืองจะยังมีวิถีชีวิตที่มีเสน่ห์เรียบ ง่ายเช่นนี้ ตำบลคลองน้อยมีเส้นทางคมนาคมที่สำคัญสามารถเดินทางติดต่อกันระหว่าง เทศบาลตำบลวัดประดู่ และอำเภอต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว โดยสามารถเดินทางได้ทาง รถยนต์ บนถนนทางหลวงหมายเลข 417 และทางเรือผ่านเส้นทางแม่น้ำตาปี ตำบลคลองน้อยมีถนนสายต่าง ๆ สำหรับประชาชนใช้สัญจรไปมาภายในหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ และจังหวัด 6

ถนนสายต่าง ๆ 1. ถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก มี 4 สาย - สายถนนคอนกรีต ( แยกจากทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 420 - เข้า องค์การ บริหารส่วนตำบลคลองน้อย หมู่ที่ 3 ) ระยะทาง 1,475 เมตร - สายแยกจากถนนคอนกรีตองค์การบริหารส่วนตำบล - เข้าซอยตาเหน่ หมู่ที่ 3 ระยะ ทาง 525 เมตร - สายแยกจากทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 420 – บ้านปากคลองน้อย หมู่ที่ 5 ระยะ ทาง 1,000 เมตร - สายแยกทางหลวงท้องถิ่นสายบ้านบางใบไม้ – บ้านบางโพธิ์เข้าสถานีอนามัย ตำบล คลองน้อย หมู่ที่ 8 ระยะทาง 1,116 เมตร 2. ถนนลาดยาง มี 9 สาย - ถนนลาดยางสายแยกจากทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 417 – ท่าอากาศยาน สุราษฎร์ธานีเข้าหมู่ที่ 5 – หมู่ที่ 6 ระยะทาง 3,900 เมตร - สายแยกจากทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 417 ท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานีเข้าหมู่ที่ 5 - หมู่ที่ 4 ระยะทาง 3,600 เมตร - สายแยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 420 สุราษฎร์ธานีปากน้ำผ่าน หมู่ที่ 6, หมู่ที่ 7 ระยะทาง 2,800 เมตร - สายบ้านบางใบไม้ - บ้างบางโพธิ์ หมู่ที่ 8 ระยะทาง 1,000 เมตร - สายบ้านบางมะพร้าว - บ้านไวแหลม ระยะทาง 700 เมตร - สายแยกจากทางหลวงชนบท หมายเลข 2007 - เข้าบ้านบางแทงแรด หมู่ที่ 2 ระยะทาง 3,500 เมตร - สายบ้านปากคลองน้อย หมู่ที่ 5 ตำบลคลองน้อย เชื่อมโรงเรียนบ้านปลายคลอง หมู่ ที่ 2 ตำบลบางใบไม้ ระยะทาง 1,050 เมตร - สายบ้านบางแทงแรด หมู่ที่ 2 จดถนนทางหลวงหมายเลข 417 (หมู่ที่ 3) ระยะ ทาง 3,500 เมตร - สายแยกจากถนนลาดยางสายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 420 – เข้า องค์การ บริหารส่วนตำบลคลองน้อย หมู่ที่ 8 ระยะทาง 360 เมตร 3. ถนนหินผุ มี 15 สาย 4. ถนนดินดาน มี 30 สาย (แผนพัฒนาท้องถิ่น พ.ศ.2561 - พ.ศ.2565) 7

1.6 ด้านสาธารณูปโภค 1.6.1. การโทรคมนาคม - ไม่มีสำนักงานไปรษณีย์โทรเลข - โทรศัพท์สาธารณะขององค์การโทรศัพท์ จำนวน 15 แห่ง - มีโทรศัพท์บ้าน (ใช้ระบบสัญญาณไม่มีคู่สาย) หมู่บ้าน 3 , 4 , 5 , 6 , 7 แต่ยังไม่เพียงพอกับความต้องการ เพราะไม่มีช่องสัญญาณ - หอกระจายข่าว จำนวน 9 แห่ง - อินเตอร์เน็ตตำบล จำนวน 1 แห่ง (ตั้งอยู่ที่ทำการ อบต. คลองน้อย) 1.6.2 การมีไฟฟ้าใช้ การขยายเขตไฟฟ้า ปัจจุบันในเขตพื้นที่องค์การบริหาร ส่วนตำบลคลองน้อย มีไฟฟ้าใช้ ไม่ครบทุกครัวเรือน เนื่องจากมี การก่อสร้างบ้านเรือนเพิ่มขึ้นนอกเขตพื้นที่ที่มีไฟฟ้าทั้งนี้ องค์การ บริหารส่วนตำบลได้ตั้งงบประมาณในส่วนนี้ไว้แล้วและได้แจ้ง ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบถึงเหตุผลเพื่อที่จะได้ช่วย กันแก้ไขปัญหาให้กับตำบล ทั้งนี้ไฟฟ้ายังขาดใน หมู่ที่ 2 จำนวน 1 ครัวเรือน, หมู่ที่ 3 จำนวน 1 ครัวเรือน, หมู่ที่ 5 จำนวน 2 ครัว เรือน, หมู่ที่ 6 จำนวน 1 ครัวเรือน, หมู่ที่ 7 จำนวน 6 ครัวเรือน, หมู่ที่ 8 จำนวน 2 ครัวเรือน, หมู่ที่ 9 จำนวน 1 ครัวเรือน 1.6.3 การประปา มีประปาส่วนภูมิภาค 9 แห่ง คือหมู่ที่ 1 ,2 ,3, 4, 5, 6, 7, 8, 9 (แต่มีน้ำประปาใช้ ไม่ครบทุกครัวเรือน) และไม่มีบ่อน้ำตื้น บ่อบาดาล 8

ส่วนที่ 2 โครงสร้างของชุมชน 2.1 ด้านการเมืองการปกครอง ได้จัดตั้งหมู่บ้านในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลคลองน้อย มีทั้งหมด 9 หมู่บ้าน ประชาชน ให้ความร่วมมือด้านการเลือกตั้งเป็นอย่างดี เช่น การเลือกตั้งสมาชิกสภา องค์การบริหารส่วนตำบล ปัญหา คือ การแข่งขันทางการเมืองค่อนข้างสูง มีจุดที่น่า สังเกต คือ มีการย้ายเข้า ย้ายออก ช่วงที่จะมีการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นการเลือกผู้ใหญ่บ้าน สมาชิกสภา นายกองค์การบริหารส่วนตำบล โดยเฉพาะการคัดเลือกผู้ใหญ่บ้าน การแก้ไขปัญหาขององค์การบริหารส่วนตำบล คือ ขอความร่วมมือจากผู้นำและเจ้า หน้าที่ ที่มีหน้าที่รับผิดชอบให้ระมัดระวังสอดส่องพฤติกรรม และให้รายงานทางอำเภอ ให้รับทราบ และการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับข้อกฎหมายของการ เลือกตั้งที่กระทำได้และทำไม่ได้ให้ประชาชนได้รับทราบปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นองค์การ บริหารส่วนตำบลก็ได้พยายามแก้ไขโดยเรื่องจากการประชุมประชาคมท้องถิ่นทุกหมู่บ้าน ในการจัดทำแผนพัฒนาองค์การบริหารส่วนตำบลจากผลการประชุมทุกครั้งที่องค์การ บริหารส่วนตำบลจัดขึ้น มีประชาชนสนใจเข้าร่วมประชุม รวมทั้งแสดงความคิดเห็นที่หลาก หลายส่งผลให้องค์การบริหารส่วนตำบลดำเนินงานตามความต้องการของประชาชนและ ประชาชนได้รับและมีส่วนร่วมในการพัฒนาองค์การบริหารส่วนตำบล นอกจากนี้ องค์การ บริหารส่วนตำบลได้จัดโครงการอบรม โครงการต่างๆ สำหรับประชาชน อีกหลาย โครงการเพื่อนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับมาพัฒนาองค์การบริหารส่วนตำบลให้ เจริญเท่าเทียมกับที่อื่นๆ และองค์การบริหารส่วนตำบลมีโครงการจัดซื้อเครื่องมือเครื่องใช้ ในการปฏิบัติงานให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ โครงการบางโครงการต้องระงับไว้ เนื่องจากข้อจำกัดด้านงบประมาณมีอัตรากำลังพนักงานส่วนตำบลที่จำกัด ไม่เพียงพอต่อ การตอบสนองความต้องการของประชาชนในด้านบริการ (แผนพัฒนาท้องถิ่น พ.ศ.2561 - พ.ศ.2565) 19

2.2 ข้อมูลประชากร องค์การบริหารส่วนตำบลคลองน้อย มีจำนวนประชากรทั้งสิ้น 3,728 คน จำแนกเป็น เพศชาย 1,824 คน เพศหญิง 1,904 คน จำนวนครัวเรือน 1,334 ครัวเรือน จำนวนประชากรแฝงประมาณ 1,000 คน ดังนี้ หมู่ที่ ชื่อหมู่บ้าน ชื่อผู้ใหญ่บ้าน ประชากร ประชากร ประชากร ครัวเรือน ชาย หญิง รวม 1 บ้านท้องถ่วง นายจักษณ์ขจร ชนะทัพ 129 107 236 107 2 บ้านบางแทงแรด นายสุรศักดิ์ รุ่งคลัง 154 153 307 112 3 บ้านคลองน้อย นายวสันต์ สมสกุล 288 302 590 182 4 บ้านหัวแหลม นายประทุม ลอยประเสริฐ 352 364 716 219 5 บ้านปากคลอง นายสุวัฒน์ บุญช้าง 246 316 562 195 น้อย 6 บ้านทอนหญ้า นายครองลาภ พร้อมประเสริฐ 163 117 334 159 ปล้อง (กำนัน) 7 บ้านค้อบน นายจำนง พร้อมประเสริฐ 169 182 351 128 8 บ้านดอนตะโก นายพงศธร อนุจันทร์ 131 122 253 91 9 บ้านค้อล่าง นายมานัส อินทร์เมือง 192 187 379 141 รวม 1,824 1,904 3,728 1,334 2.2.1 ช่วงอายุและจำนวนประชากร ประชากรส่วนใหญ่ในตำบลคลองน้อย อยู่ในวัยทำงาน อายุ 35 – 55 ปี 10

2.3 ด้านการศึกษา / ศาสนา / วัฒนธรรม 2.3.1 การศึกษา แต่เดิมในพื้นที่มีสถานศึกษาจำนวน 4 แห่งด้วยกัน ประกอบด้วย โรงเรียนวัดบุญ บันเทิง โรงเรียนบ้านทอนหญ้าปล้อง ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน (กศน.) และศูนย์ พัฒนาเด็กเล็กองค์การบริหารส่วนตำบลคลองน้อย - มีโรงเรียนประถมศึกษา จำนวน 1 แห่ง คือ โรงเรียนวัดบุญบันเทิง ตั้งอยู่ใน หมู่ ที่ 2 บ้านบางแทงแรด - มีโรงเรียนอนุบาลถึงมัธยมศึกษาตอนต้น จำนวน 1 แห่ง คือ โรงเรียนบ้านทอน หญ้าปล้อง ตั้งอยู่ใน หมู่ที่ 6 บ้านทอนหญ้าปล้อง - ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน (กศน.) ตั้งอยู่ใน หมู่ที่ 5 และ มีที่อ่านหนังสือพิมพ์ ประจำหมู่บ้าน จำนวน 9 แห่ง - มีศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จำนวน 1 แห่ง ตั้งอยู่ใน หมู่ที่ 3 บ้านคลองน้อย 2.3.2 ศาสนา การนับถือศาสนาของประชากรใน 9 หมู่บ้านของตำบลคลองน้อย ส่วนใหญ่จะนับถือ ศาสนาพุทธ โดยคิดเป็นร้อยละ 95 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนประชากรทั้งหมด และมีข้อมูล ของศาสนสถานในพื้นที่ จำนวน 2 แห่งด้วยกัน ได้แก่ วัดบุญบันเทิงและวัดธาราวดี (ดอน ตะโก) 1. วัดบุญบันเทิง เดิมมีชื่อว่า วัดบางแทงแรด ก่อตั้งเมื่อวันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2378 ได้รับ พระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อ พ.ศ. 2469 ตั้งอยู่ หมู่ที่ 2 ตำบลคลองน้อย อำเภอเมือง สุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย มีเนื้อที่ประมาณ 28 ไร่ 89 ตารางวา มีพระพุทธรูปสำคัญ ซึ่งเป็นที่เคารพบูชาของชาวบ้านเรียกกันว่า หลวงปู่ชอน (ภาษาใต้\"หลวงปู่ซอก\") สร้างเมื่อ ร.ศ.139 ประดิษฐานในมณฑป ใกล้ๆ กันนั้นมีศาลทวดชู เล่ากันว่าทวดชูเป็นผู้ที่ได้บริจาคที่ดินในการสร้างวัดแห่งนี้ หลังจากนั้นท่านได้บวชและปฏิบัติตนอยู่ในพระพุทธศาสนามาตลอดบริเวณท่าน้ำของวัด แห่งนี้มีต้นไทรยืนต้นอายุกว่า 200 ปี เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวคลองน้อย ซึ่งชาวบ้านจะ นำเอาอัฐบรรพบุรุษฝากไว้บนต้นไทร ให้รุกขเทวดาคอยปกปักรักษา และในช่วงเทศกาล บุญเดือนสิบของทุกปีชาวบ้านจะมารวมตัวกันที่ต้นไทรนี้เพื่อทำบุญให้กับบรรพบุรุษ 11

2. วัดธาราวดี (ดอนตะโก) วัดธาราวดี ตั้งอยู่บ้านดอนตะโก หมู่ที่ 8 ตำบลคลองน้อย อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัด สุราษฎร์ธานี สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ที่ดินตั้งวัดมีเนื้อที่ 10 ไร่ 3 งาน 15 ตารางวา มีที่ธรณีสงฆ์ จำนวน 1 แปลง เนื้อที่ 5 ไร่ 2 งาน อาคารเสนาสนะ ประกอบ ด้วย อุโบสถ สร้างเมื่อ พ.ศ.2592 เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ศาลาการเปรียญ กว้าง 13 เมตร ยาว 16 เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ. 2511 กุฎิสงฆ์ จำนวน 6 หลัง เป็น อาคารไม้ 5 หลัง ครึ่งตึกครึ่งไม้ 1 หลัง ศาลาบำเพ็ญกุศล จำนวน 1 หลัง สร้างด้วย คอนกรีตเสริมเหล็ก นอกจากนี้มี หอระฆัง โรงครัว และกุฎิเจ้าอาวาส ปูชนียะวัตถุ มีพระประธานประจำ อุโบสถปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง 40 นิ้ว สูง 79 นิ้ว พระประธานประจำศาลา การเปรียญปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง 20 นิ้ว สูง 30 นิ้ว วัดธาราวดี ตั้งเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2455 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อ พ.ศ. 2473 (วัดธาราวดี. ประวัติวัดธาราวดี.ออนไลน์].2015,สืบค้นเมื่อ 8 สิงหาคม 2564. จาก https://sites.google.com/site/happinessdish/wad-thara-wdi) 2.3.3 วัฒนธรรม สิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญยิ่ง ซึ่งแสดงถึงความเป็นชุมชนคลองน้อย คือ ความคิด ความ เชื่อ และค่านิยม แต่เดิมชาวบ้านในชุมชนนี้ ผูกพันอยู่กับศาสนาและธรรมเนียมนิยมเก่า ๆ ซึ่งสืบต่อกันมายาวนาน เช่น เรื่องบุญ กรรม สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เทพยดาฟ้าดิน การเคารพใน ธรรมชาติ ไสยศาสตร์ โหราศาสตร์ ฯลฯ ความคิด ความเชื่อที่ว่านี้ มีอิทธิพลต่อวิถีการดำเนินชีวิต ความเป็นอยู่ของชาวบ้าน ตั้งแต่ เกิดจนตาย ชุมชนคลองน้อยส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ จึงยึดมั่นในประเพณี ที่ เกี่ยวกับพุทธศาสนา โดยประกอบกิจกรรมตามวัฒนธรรมประเพณีทั้งที่เกี่ยวกับชีวิตและ ตามเทศกาล ประเพณี ที่ยึดถือปฏิบัติ ได้แก่ ประเพณีเกี่ยวกับการเกิด การบวช การ แต่งงาน การแต่งกาย อาหารการกิน การตาย การสวดคำตัก วันสงกรานต์ วันจบปีจบ เดือน วันรับ-ส่งตายาย การลากพระ การไหว้แม่ย่านางเรือ เป็นต้น (นางสาวอรอุมา อินคชสาร,7 กันยายน 2564) 12

2.4 บริบททางสังคม / ความเป็นอยู่ 2.4.1 อาชีพของประชากรในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลคลองน้อย การทำสวนมะพร้าว อาชีพหลักของคนในตำบลคลองน้อย คือการทำสวนมะพร้าว ซึ่งส่วนใหญ่จะมีการปลูกมะพร้าวกันแทบทุกครัวเรือน รายได้หลักจึง มาจากมะพร้าว อาชีพรองของคนในตำบลคลองน้อย คือ การปลูกไม้ ผล พืชไร่พืชผัก พืชสำคัญที่ทำรายได้ให้กับเกษตรกร ได้แก่ กระท้อน มังคุด ส้มโอ มะนาว ชมพู่ทูนเกล้า กล้วย พืชผักต่างๆ และสวนปาล์ม อาชีพทำการประมง การปศุสัตว์ ตำบลคลองน้อย เป็นการประกอบการใน ลักษณะเลี้ยงในครัวเรือนเป็นอาชีพหลักและอาชีพเสริม เช่น การ เลี้ยงสัตว์น้ำ การเลี้ยงไก่ เป็ด โค สุกร กระบือ การปศุสัตว์ ตำบลคลองน้อย เป็นการประกอบการในลักษณะเลี้ยงในครัว เรือนเป็นอาชีพหลักและอาชีพเสริม เช่น การเลี้ยงสัตว์น้ำ การเลี้ยงไก่ เป็ด โค สุกร กระบือ 113

2.4.1 อาชีพของประชากรในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลคลองน้อย (ต่อ) รับจ้าง อาชีพรับจ้าง ได้แก่รับจ้างทั่วไป และทำงานตาม โรงงานอุตสาหกรรมนอกเขตพื้นที่ค้าขาย ได้แก่ ขาย ผัก ผลไม้ ขายของชำ ขายอาหาร ตัดผมเสริมสวย เป็นต้น รับราชการ อาชีพรับราชการ เช่น ครู หมอ พยาบาล เป็นต้น 114

2.4.2 หน่วยธุรกิจในเขตองค์การบริหารส่วนตำบล ในองค์การบริหารส่วนตำบลคลองน้อย มีหน่วยธุรกิจน้อยมาก เนื่องจากอยู่ในเขตควบคุมของผังเมืองรวมเมืองสุราษฎร์ธานี (ประเภทชนบท และเกษตรกรรม) ประกอบกับความยากลำบากในการคมนาคมขนส่งเป็น อุปสรรคต่อการลงทุน แต่ในช่วงปีที่ผ่านมา มีการพัฒนาความเจริญเข้ามาสู่ ตำบลคลองน้อย และเริ่มมีหน่วยธุรกิจเกิดขึ้นใหม่ๆ ตามมา เช่น - ปั้ มน้ำมัน 1 แห่ง - ร้านค้าขายของชำ 25 ร้าน - โรงงานผลิตขุยมะพร้าว 1 แห่ง - โกดังเก็บสินค้า 1 แห่ง - โชว์รูมรถ 1 แห่ง - อู่ซ่อมรถ 6 แห่ง - ร้านขายอาหารสัตว์ 1 ร้าน - โรงเลี้ยงสัตว์ 2 แห่ง - ร้านค้าจำหน่ายสินค้าเพื่อการเกษตรและสารเคมี 3 ร้าน - ห้องเช่า 5 แห่ง - ร้านจำหน่ายอาหาร 5 แห่ง - ลานรับซื้อปาล์ม 4 แห่ง - โรงมะพร้าว 8 แห่ง 15

2.4.2 หน่วยธุรกิจในเขตองค์การบริหารส่วนตำบล (ต่อ) - อู่ต่อเรือ 1 แห่ง - ร้านเสริมสวย 2 แห่ง - คาร์แคร์ 2 แห่ง - ร้านขายเครื่องดื่ม 2 แห่ง - เต็นท์รถ 3 แห่ง 2.4.3 สาธารณสุข - ตำบลคลองน้อยมีโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล 1 แห่ง ตั้งอยู่ หมู่ที่ 8 มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุข จำนวน 4 คน - ศูนย์บริการสุขภาพชุมชน 1 แห่ง หมู่ที่ 5 และมีกองทุนยาและ เวชภัณฑ์ประจำทุกหมู่บ้าน - มี อสม.ครบ ทุกหมู่บ้านตามเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุข 2.4.5 ยาเสพติด ปั ญหายาเสพติดในตำบลคลองน้อย พบว่ามีผู้ที่ติดยาเสพติด น้อย เมื่อเทียบกับพื้นที่อื่นๆ และยังไม่พบผู้ค้า เหตุผลก็เนื่องมาจาก ว่าได้รับความร่วมมือกับทางผู้นำ ประชาชน หน่วยงานต่างๆ ที่ช่วย สอดส่องดูแลอยู่เป็นประจำ การแก้ไขปั ญหาขององค์การบริหารส่วน ตำบลสามารถทำได้เฉพาะตามอำนาจหน้าที่เท่านั้น เช่น การณรงค์ การประชาสัมพันธ์ การแจ้งเบาะแส การฝึกอบรมให้ความรู้ ถ้านอก เหนือจากอำนาจหน้าที่ก็เป็นเรื่องของอำเภอหรือตำรวจแล้วแต่กรณี ทั้งนี้ องค์การบริหารส่วนตำบลคลองน้อยก็ได้ให้ความร่วมมือมาโดย ตลอด 16

2.5 ความเชื่อ ประเพณี และพิธีกรรม “วันจบปีจบเดือน” เป็นประเพณีที่สืบทอดกันมาเป็นเวลานานและเป็นประเพณีที่ยิ่ง ใหญ่ของหมู่บ้าน โดยมีกิจกรรมการทำบุญ รดน้ำผู้สูงอายุในหมู่บ้านหรือ เรียกว่า “วันกตัญญู” โดยจัดเป็นประจำทุกปีและมีการละเล่นพื้นบ้าน และการแสดงมหรสพ วันดังกล่าวจะจัดขึ้นในวันสุดท้ายของเดือน 5 ถือว่าเป็นวันจบปีจบ เดือน ที่บ้านจะมีการไหว้เทวดาที่ปกป้องดูแลในปีที่ผ่านมา และส่งเทวดา กลับสู่สวรรค์ และรับเทวดาที่มาปกป้องดูแลในปีต่อไป มีอุปกรณ์อย่างหนึ่งที่ต้องทำกัน ที่บ้านเรียกว่า กะ ทำจากไม้ไผ่ ผ่า เป็นซี่ๆ แล้วกางออกให้ปากกว้างเป็นทรงกรวย แล้วใช้ไม้ไผ่มาขัดสานกัน เรียกว่า กะ ภายใน กะ ก็จะมี หมาก พลู ดอกไม้ ธูป เทียน เวลาในการไหว้บูชาเทวดา จะไหว้กันในช่วงเวลาพลบค่ำ 17

“วันสงกรานต์” เป็นพิธีกรรมที่เกิดขึ้นภายในครอบครัว หรือชุมชนบ้านใกล้ เรือนเคียง ในพิธีสงกรานต์จะใช้ น้ำ เป็นสัญลักษณ์ที่เป็นองค์ประกอบ หลักของพิธี แก้กันกับความหมายของ ฤดูร้อน ช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ เคลื่อนเข้าสู่ราศีเมษ ในวันนี้จะใช้น้ำรดให้แก่กันเพื่อความชุ่มชื่น มีการขอ พรจากผู้ใหญ่ มีการรำลึกและกตัญญูต่อบรรพบุรุษที่ล่วงลับ ในตำบล คลองน้อยจะมีการเละเล่นทอยลูกสะบ้าและว่าเพลงบอก ซึ่งในปั จจุบัน สูญหายไปแล้วตามกาลเวลาสงกรานต์ 18

“ไหว้ครู” ในพื้นที่หมู่ 4 ของตำบลคลองน้อย อำเภอเมือง จังหวัด สุราษฎร์ธานีในโซนติดแม่น้ำตาปี จะมีพิธีดังกล่าวในช่วงเดือน 6 ของ ทุกปี จัดทำเพื่อบูชาครูและเจ้าที่ ที่อนุญาตให้อาศัยทำมาหากินในพื้นที่ หากปีไหนไม่มีการไหว้ครู ก็จะมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝั นเกิดขึ้นกับบรรดา ลูกหลาน 19

“ไหว้ศาลพระภูมิ” ในพื้นที่หมู่ที่ 4 ฝั่ งติดแม่น้ำตาปี มีการสั่งสอนจากรุ่นสู่รุ่น ถึง เรื่องการไหว้ศาลพระภูมิ เป็นความเชื่อที่ว่า พื้นที่ที่ได้อาศัยทำมาหากินใน ทุกวันนี้ ในสมัยก่อนไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ ซึ่งมีบรรพบุรุษได้ทำการขอ จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในพื้นที่ เพื่ออยู่อาศัยและทำมาหากิน และได้สัญญาว่า จะตั้งศาลพระภูมิ และจะต้องมีการไหว้ศาลพระภูมิทุกๆปี เพื่อนำเครื่อง สังเวยมาบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 20

“ไหว้สวน” เป็นความเชื่อที่ว่า ในการทำเกษตรของคนดั้งเดิมในพื้นที่ มีเจ้าที่ เจ้าทางปกปั กษ์รักษาสวนไร่นาไม่ให้เกิดความเสียหาย ซึ่งชาวสวนจะมี การไหว้สวนในทุกๆปี ซึ่งจะทำการไหว้หลังจากที่มีการไหว้ศาลพระภูมิ แล้วเสร็จ 21

“วันตรุษไทย” ประเพณีตรุษไทย มีกำหนดคือ วันแรม 14-15 ค่ำ เดือน 4 ถือว่าเป็นวันสิ้นปี และกำหนดให้วันสงกรานต์เป็นวันปีใหม่ คือวันแรม14 หรือ 15 ค่ำเดือน 4 และวันขึ้น 1ค่ำเดือน 5 ตามแต่ความนิยมของแต่ละ ท้องถิ่น ซึ่งจะให้ความสำคัญกับการทำบุญตักบาตรบำเพ็ญกุศลเพื่ออุทิศ ให้บรรพชนผู้ล่วงลับ 22

“วันสารทเดือนสิบ” พิธีกรรม เริ่มตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือนสิบ ซึ่งถือว่าเป็นวันที่ พญายมปล่อยตัวผู้ล่วงลับไปแล้วที่ (เรียกว่า “เปรต”) มาจากนรก สำหรับวันนี้บางคนก็ประกอบพิธี บางคนจะประกอบพิธีในวันแรม 13 ค่ำ 14 ค่ำ และ 15 ค่ำ โดยการนำอาหารไปทำบุญที่วัดเรียกว่า “หมรับ เล็ก” เป็นการต้อนรับบรรพบุรุษ และญาติมิตรที่ขึ้นมาจากนรกเท่านั้น การเตรียมการสำหรับประเพณีสารทเดือนสิบ เริ่มขึ้นในวันแรม 13 ค่ำ เดือน 10 วันนี้ เรียกว่า “วันจ่าย” เป็นวันที่เตรียมหมรับ และจัด หมรับ คือการเตรียมสิ่งของต่าง ๆ ที่ใช้ในการจัดหมรับ เมื่อได้ของตาม ที่ต้องการแล้วก็เตรียมจัดหมรับ การจัดหมรับแต่เดิมใช้กระบุงเตี้ย ๆ ขนาดเล็กหรือใหญ่ก็ได้ แต่ภายหลังใช้ภาชนะได้หลายชนิด เช่น กระจาด ถาด กะละมัง ถัง หรือ กระเชอ สำหรับสิ่ง ชั้นแรกใส่ข้าวสาร รองกระบุงแล้วใส่หอม กระเทียม พริก เกลือ กะปิ น้ำตาล และเครื่อง ปรุงอาคาว หวานที่เก็บไว้ได้นาน ๆ เช่น มะพร้าว ฟัก มัน กล้วย (ที่ยัง ไม่สุก) อ้อย ข้าวโพด ข่า ตะไคร้ ขมิ้น และพืชผักอื่น ๆ นอกจากนั้นก็ ใส่ของใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น น้ำมันมะพร้าว น้ำมันก๊าดไต้ ไม้ขีดไฟ หม้อ กระทะ ถ้วยชาม เข็ม ด้าย เครื่องเชี่ยนหมาก ได้แก่ หมาก พลู ปูน กานพลู กานบูน พิมเสน สีเสียด ยาเส้น บุหรี่ ยาสามัญประจำบ้าน ธูปเทียน แล้วใส่สิ่งอันเป็นหัวใจอันสำคัญของหมรับคือ ขนม 5 อย่างมี ดังนี้ 23

ขนมลา ขนม 5 อย่าง ขนมพอง เป็นสัญลักษณ์แทนแพรพรรณเครื่องนุ่งห่ม ขนมบ้า ขนมกง เป็นสัญลักษณ์แทนแพสำหรับบุรพชน ใช้ล่องข้ามห้วงมหรรณพ เป็นสัญลักษณ์แทนสะบ้า สำหรับบุรพชน จะได้ใช้เล่นสะบ้า ในวัน สงกรานต์ (ขนมไข่ปลา) เป็นสัญลักษณ์แทนเครื่องประดับ ขนมดีซำ เป็นสัญลักษณ์แทนเงินเบี้ย สำหรับใช้สอย 24

“ประเพณีชักพระ” วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 อันเป็นวันสุดท้ายของพรรษา พระพุทธ องค์ได้เสด็จกลับมนุษยโลกทางบันได ทิพย์ที่พระอินทร์นิมิตถวาย บันไดนี้ทอดจากภูเขาสิเนนุราชที่ตั้งสวรรค์ ชั้นดุสิตมายังประตูนครสัง กัสสะ ประกอบด้วยบันไดทอง บันไดเงินและบันไดแก้ว บันไดทองนั้น สำหรับเทพยดา มาส่งเสด็จอยู่เบื้องขวาของพระพุทธองค์ บันไดเงิน สำหรับพรหมมาส่งเสด็จอยู่เบื้องซ้ายของพระพุทธองค์ และบันไดแก้ว สำหรับพระพุทธองค์อยู่ตรงกลาง เมื่อพระพุทธองค์เสด็จมาถึง ประตู นครสังกัสสะตอนเช้าตรู่ของวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ซึ่งเป็นวันออก พรรษานั้น พุทธศาสนิกชนที่ทราบกำหนดการเสด็จกลับของพระพุทธ องค์จากพระโมคคัลลานได้มารอรับเสด็จ อย่างเนืองแน่นพร้อมกับ เตรียมภัตตาหารไปถวายด้วย แต่เนื่องจากพุทธศาสนิกชนที่มารอรับเสด็จมีเป็นจำนวนมากจึง ไม่สามารถจะเข้าไปถวายภัตตาหารถึงพระพุทธองค์ได้ทั่วทุกคน จึง จำเป็นที่ต้องเอาภัตตาหารห่อใบไม้ส่งต่อ ๆ กันเข้าไปถวายส่วนคนที่อยู่ ไกลออกไปมาก ๆ จะส่งต่อ ๆ กันก็ไม่ทันใจ จึงใช้วิธีห่อภัตตาหารด้วย ใบไม้โยนไปบ้าง ปาบ้าง ข้าไปถวายเป็น ที่โกลาหล โดยถือว่าเป็นการ ถวายที่ตั้งใจด้วยความบริสุทธิ์ด้วยแรงอธิษฐานและอภินิหารแห่ง พระพุทธองค์ ภัตตาหารเหล่านั้นไปตกในบาตรของพระพุทธองค์ทั้งสิ้น เหตุนี้จึงเกิด ประเพณี \"ห่อต้ม\" \"ห่อปั ด\" ขึ้น เพื่อเป็นการแสดงถึง ความปิติยินดีที่พระพุทธองค์เสด็จกลับจากดาวดึงส์ พุทธศาสนิกชน ได้อัญเชิญพระพุทธองค์ขึ้นประทับบนบุษบกที่เตรียมไว้ แล้วแห่แหน กันไปยังที่ประทับของพระพุทธองค์ ครั้นเลยพุทธกาลมาแล้วและเมื่อมี พระพุทธรูปขึ้น พุทธศาสนิกชนจึงนำเอาพระพุทธรูปยกแห่แหนสมมติ แทนพระพุทธองค์ 25

ในส่วนของตำบลคลองน้อย ชาวบ้านก็จะจัดเตรียมขนมต่างๆ เพื่อนำไปตักบาตรทางน้ำ ตามที่เรือพนมพระล่องผ่าน ซึ่งปั จจุบันเรือ พนมพระก็เริ่มน้อยลง เหลือไม่กี่วัดแล้ว 26

“เข้าพรรษา ออกพรรษา” ประมาณเดือน กรกฎาคม ตุลาคม พฤศจิกายน วันเข้าพรรษา ตรงกับวันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 พรรษา แปลว่า ฝน หรือปี โดยใจความ หมายถึงฤดูฝน เข้าพรรษา หมายถึง การอยู่ประจำที่ของพระสงฆ์ตลอด 3 เดือนฤดูฝน ซึ่งเป็นธรรมเนียมทางพระวินัย พระภิกษุต้องอยู่ประจำที่ วัดใดวัดหนึ่งตามเวลาที่กำหนดไว้ ระยะกาลเข้าพรรษามี 2 ครั้ง คือ เข้า วันแรม 1 ค่ำเดือน 8 ออกวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 11 เรียกว่า เข้าปุริมพรรษา หรือวันเข้าพรรษาต้น และเข้าวันแรม 1 ค่ำเดือน 9 และออกวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 เรียกว่าเข้าปั จฉิมพรรษาหรือวันเข้าพรรษาหลัง พระสงฆ์ส่วน ใหญ่นิยมเข้าพรรษาต้น วันออกพรรษา คือ วันพ้นกำหนดระยะเวลาการเข้าพรรษาครบ 3 เดือนแล้ว ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 11 ในวันออกพรรษานั้นมีข้อ อนุญาตให้สงฆ์ทำปวารณาแทนอุโบสถได้ โดยปกติธรรมดาสงฆ์จะทำ อุโบสถสวดปาฏิโมกข์ (คือทบทวนพระวินัย 227 ข้อให้ที่ประชุมสงฆ์ฟังว่า ใครมีข้อบกพร่องอะไรบ้าง) ทุก 15 วัน คือ เดือนละ 2 ครั้ง แต่ในวันออก พรรษานี้ให้ทำปวารณาแทนการสวดปาฏิโมกข์ 27

“ประเพณีลอยกระทง” ประมาณเดือน พฤศจิกายน ลอยกระทง เป็นพิธีอย่างหนึ่งที่ มักจะทำกันในคืนวันเพ็ญ เดือน 12 หรือวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 12 อันเป็น วันพระจันทร์เต็มดวง และเป็นช่วงที่น้ำหลากเต็มตลิ่ง เป็นประเพณีที่ จัดขึ้นเพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์และขอขมาต่อพระแม่คงคา โดยจะมี การนำดอกไม้ ธูป เทียนหรือสิ่งของใส่ลงในสิ่งประดิษฐ์รูปต่างๆ ที่ไม่ จมน้ำ เช่น กระทง เรือ แพ ดอกบัว ฯลฯ แล้วนำไปลอยตามลำน้ำ โดย มีวัตถุประสงค์ และความเชื่อต่างๆ กัน (แผนพัฒนาท้องถิ่น พ.ศ.2561 - พ.ศ.2565) 28

ส่วนที่ 3 โครงสร้างเศรษฐกิจและอาชีพ 3.1 แหล่งทุนทางธรรมชาติ ชุมชนคลองน้อยมีฐานทรัพยากรอันหลากหลาย อุดมสมบูรณ์ อย่างเหลือเฟือ ซึ่งเกื้อกูลต่อการดำรงชีวิต ได้แก่ ลำน้ำ สัตว์น้ำ พืชผัก สัตว์ทะเล ฯลฯ มีเครือข่าย ทางสังคม คือ อยู่รวมกันเป็นกลุ่มบ้านตามแนวลำน้ำ ตั้งบ้านเรือนอยู่ในพื้นที่ใกล้ กัน เป็นกลุ่มเครือญาติ เพื่อนพ้อง มีผู้นำตามธรรมชาติ และมีระบบความเชื่อร่วม กัน นับถือศาสนาเดียวกัน ดิน ในเขตพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลคลองน้อย มีดินที่มีลักษณะคุณภาพ สมบูรณ์เนื่องจากเป็นดินสองน้ำ น้ำทะเลและน้ำจืด จึงทำให้มีสารอาหารไหลมากับ น้ำซึมลงไปกับพื้นดิน ทำให้ดินมีสารอาหารตามธรรมชาติที่ดี เหมาะแก่การปลูกพืช หลายชนิดด้วยกัน สามารถปลูกได้ทั้ง ไม้ผล ไม้ยืนต้น และพืชผักเกือบทุกชนิด ทั้งนี้เมื่อมีการอาศัยอยู่ติดกับแนวลำน้ำ และเพื่อสะดวกต่อการติดต่อ จึงใช้ทาง น้ำในการเดินทาง วิถีชีวิตดำรงอยู่อย่างเรียบง่ายชาวบ้านส่วนใหญ่ ทำสวนและ การ ทำประมง เป็นต้น ส่วนการทำประมง ชาวบ้านทำทั้งประมงน้ำจืด การประมงน้ำจืด ใช้เครื่องมือพื้นบ้านแบบเดิมจับปลา กุ้ง ปู หอย ส่วนการประมงทะเล ส่วนใหญ่ใช้ เครื่องมือประมงแบบทันสมัย เป็นแหล่งทุนทางธรรมชาติที่ชาวบ้านตำบลคลองน้อย ทำการประกอบอาชีพสืบกันมา ปัจจุบันชุมชนคลองน้อยมีวิถีชีวิตที่ผูกพันกับสายน้ำ เป็นที่มาของการสืบทอดภูมิปัญญาในการประมงหลากหลายรูปแบบ (แผนพัฒนาท้องถิ่น พ.ศ.2561 - พ.ศ.2565) 29

3.2 แหล่งอาหาร แต่เดิมชาวบ้านในพื้นที่คลองน้อยส่วนใหญ่ ตั้งบ้านเรือนที่อยู่อาศัยใกล้กับ แม่น้ำลำคลองชาวบ้านตำบลคลองน้อย มีทั้งคนพื้นเพดั้งเดิม และคนที่อพยพ ถิ่นฐานมาจากที่อื่น ชุมชนคลองน้อย มีฐานทรัพยากรอันหลากหลาย อุดมสมบูรณ์ อย่างเหลือเฟือ ซึ่งเกื้อกูลต่อการดำรงชีวิต ได้แก่ พืชผัก ลำน้ำ สัตว์น้ำ จากสภาพ พื้นที่ล้อมรอบไปด้วยน้ำ และมีแม่น้ำลำคลองเชื่อมติดต่อกันตลอด ทำให้มีสัตว์น้ำ นาๆชนิด ซึ่งเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญของราษฎรในตำบล (นายครองลาภ พร้อมประเสริฐ, 11 ตุลาคม 2564) 30

3.3 ผลิตภัณฑ์ชุมชน ของดี ของขึ้นชื่อ เมื่อพูดถึงตำบลคลองน้อยสิ่งแรกที่เราต้องนึกถึงนั่นก็คือ ”กระท้อน” ซึ่งเป็นผล ไม้ขึ้นชื่อของที่นั่น กระท้อนเป็นผลผลิตทางการเกษตรที่องค์การบริหารส่วนจังหวัด สุราษฎร์ธานียกให้เป็นผลไม้ขึ้นชื่อของจังหวัด โดยชาวบ้านส่วนใหญ่ปลูกกระท้อน เป็นจำนวนมากบางหลังปลูกถึงจำนวน 1-2 ไร่ ความแตกต่างของกระท้อนคลอง น้อยแตกต่างจากกระท้อนทั่วไปตรงที่เนื้อของกระท้อนจะมีรสชาติหวานฟูและ สามารถใช้ช้อนตักได้เลยไม่มีรสชาติฝาด และที่สำคัญมีขนาดใหญ่มาก บางลูกหนัก ถึง 2 กิโลกรัม ซึ่งหาไม่ได้จากที่ไหนยกเว้นที่นี้ด้วยความที่พื้นที่เหมาะกับการปลูก กระท้อนเพราะเป็นพื้นที่สองน้ำเป็นทั้งน้ำเค็มและน้ำจืด ปัจจุบันองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี กำลังส่งเสริมในเรื่องของผลไม้ ที่เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัด ซึ่งกระท้อนคลองน้อยก็เป็นอีกหนึ่งผลไม้ที่องค์การ บริหารส่วนจังหวัด จะให้ตราสัญลักษณ์โลโก้ติดให้ที่กระท้อน เพื่อเป็นตัวการันตรีว่า นี้คือผลไม้ชั้นยอดอีก 1 ชนิดของจังหวัด สุราษฎร์ธานี (กำนันพงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว – คนรักสุราษฎร์. [ออนไลน์].2021,สืบค้นเมื่อ 1 กันยายน 2564 https://www. facebook.com/lovesurat2019/) อีกทั้งยังมี สินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึกที่ประชาชนในเขตพื้นที่องค์การบริหาร ส่วนตำบลคลองน้อยได้ผลิตของใช้พื้นที่ขึ้นใช้ในครัวเรือน ได้แก่ เครื่องจักรสาน เย็บ จาก และผลิตภัณฑ์จากกะลา (แผนพัฒนาท้องถิ่น พ.ศ.2561 - พ.ศ.2565) 31

การพาณิชย์และ กลุ่มอาชีพ - ธนาคาร 0 แห่ง - สถานีบริการน้ำมัน 1 แห่ง - บริษัท 2 แห่ง - ศูนย์การค้า/ห้างสรรพสินค้ำ 0 แห่ง - ห้างหุ้นส่วนจำกัด 0 แห่ง - ตลาดสด 0 แห่ง - ร้านค้าต่างๆ 25 แห่ง - โรงฆ่าสัตว์ 0 แห่ง - ซุปเปอร์มาเก็ต 0 แห่ง 32

มีกลุ่มอาชีพ จำนวน 24 กลุ่ม 1. กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต หมู่ที่ 1-9 2. กลุ่มท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ทางการเกษตร 3. กลุ่มผู้ใช้ประโยชน์จากกาบมะพร้าว หมู่ที่ 3 4. กลุ่มปรับปรุงสวนปาล์มน้ำมัน หมู่ที่ 8 5. กลุ่มปรับปรุงสวนปาล์มน้ำมัน หมู่ที่ 2 6. กลุ่มปลูกกล้วยพอลาขายใบ หมู่ที่ 5 7. กลุ่มแปรรูปมะพร้าวขาว หมู่ที่ 3 8. กลุ่มเลี้ยงปลาในบ่อดินและเลี้ยงสุกร หมู่ที่ 9 9. กลุ่มทำมะพร้าวขาว หมู่ที่ 3 10. กลุ่มเลี้ยงปลาในกระชัง หมู่ที่ 3 11. กลุ่มเพาะเห็ดแครง หมู่ที่ 3 33

แรงงาน ราษฎรส่วนใหญ่ในตำบลคลองน้อยประมาณร้อยละ 80 ประกอบอาชีพทำการเกษตรกรรม ได้แก่ ปลูกมะพร้าว ปาล์มน้ำมัน กระท้อน รวมทั้งปลูกข่า ที่เหลือประกอบอาชีพ ส่วนตัวและรับจ้าง จากการสำรวจข้อมูลพื้นฐานพบว่า ประชากรที่มีอายุ 15 – 60 ปี อยู่ในกำลังแรงงาน ร้อยละ 90 ประชากรอายุ ระหว่าง 25 – 50 ปี บางส่วน ไปรับจ้างทำงานนอกพื้นที่ ปัญหา ที่พบคือ ประชากรต้องไปทำงานนอกพื้นที่ในเมืองที่มี โรงงานอุตสาหกรรม บริษัท ห้างร้านใหญ่ๆ เพราะในพื้นที่ไม่มี โรงงานอุตสาหกรรมที่มีการจ้างแรงงานเยอะ เพราะพื้นที่ส่วน มากเป็นที่อยู่อาศัย ซึ่งปัญหานี้ยังไม่สามารถแก้ไขได้ (แผนพัฒนาท้องถิ่น พ.ศ.2561 - พ.ศ.2565) 34

ส่วนที่ 4 สถานที่สำคัญๆ 4.1 แหล่งท่องเที่ยว ตำบลคลองน้อยเป็นชุมชนที่ใช้ชีวิตริมสองฝั่ งคลอง แบบดั้งเดิม ถึงแม้จะอยู่ไม่ไกลจากในเมืองมากนัก คนภายนอกชุมชนเรียกคนย่านนี้ว่า “ คนในบาง “ ซึ่งชาวชุมชนก็ยอมรับสรรพนาม ดังกล่าว และบอกตัวตน ว่า “เราเป็นคนในบาง” มีวิถีเหมือนพี่น้องผองชาวสำพรำ (สวนผสมผสาน) 4.1.1 ล่องเรือชมวิถีชีวิตของชาวคลองน้อย ชมวิถีชีวิต ริมสองฝั่ งคลองที่ใช้ชีวิตแบบพึงพาอาศัยกันร่วมกับ แม่น้ำลำคลอง เป็นการเรียนรู้และสัมผัสธรรมชาติ เรียนรู้การใช้ชีวิต การ ทำ ประมงพื้นบ้าน ในลำคลอง (สำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลคลองน้อย. การท่องเที่ยวตำบลคลองน้อย. ออนไลน์].2562,สืบค้นเมื่อ 24 กันยายน 2564 จาก WWW.KLONGNOI.GO.TH) 35

4.1.2 สวนกระท้อน สวนผลไม้นานาพันธุ์ ตำบลคลองน้อยเป็นพื้นที่ที่ได้ชื่อว่าเป็นที่ที่ปลูก ผลไม้แล้วผลไม้จะมีรสชาติดี เพราะเป็นพื้นที่ปากแม่น้ำ เป็นแหล่งรวมของแร่ ธาตุ กระท้อนเป็นผลไม้ที่มีชื่อเสียงของตำบล กระท้อน ที่เลื่องชื่อของตำบล คลองน้อยเป็นกระท้อนพันธ์ ปุ้ยฝ้าย ,อีร้า ,กำมะหยี มีกิจกรรมชมการสาธิต การห่อกระท้อนที่เป็นภูมิปัญญาของชาวบ้านตั้งแต่การเริ่มห่อจนเก็บผลผลิต และ ชิมชมผลไม้หวาน เช่น มังคุด มะพร้าว ชมพู่ ฝรั่ง มะละกอ (สำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลคลองน้อย. การท่องเที่ยวตำบลคลองน้อย. ออนไลน์].2562,สืบค้นเมื่อ 24 กันยายน 2564 จาก WWW.KLONGNOI.GO.TH) 36

4.1.3 การสาธิตการฝึกลิงเพื่อการเกษตร การเกษตร การฝึกลิงเพื่อช่วยเก็บมะพร้าว เป็นภูมิปัญญา ที่ ควรถ่ายทอด รักษา และพัฒนาให้มีมูลค่าซึ่งเป็นปฏิสัมพันธ์ที่น่ามหัศจรรย์ ระหว่างผู้ฝึก - ผู้ใช้ - ผู้ว่าจ้าง มิใช่การเลี้ยงแบบใช้แรงงานทรมานสัตว์ ขาดความเมตตา กรุณา แต่เป็นเสมือนหนึ่งของครอบครัว การฝึกลิง มี 4 หลักสูตร ด้วยกันจึงจะสามารถเก็บมะพร้าวได้ 1) การเข้าปั่ น 2) การห้อย ปั่ น 3) การขึ้นราว และ 4) การขึ้นต้นจริง โดยผู้ฝึกจะต้องเป็นผู้รักลิง และ มีความอดทนสูง (สำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลคลองน้อย. การท่องเที่ยวตำบลคลองน้อย. ออนไลน์].2562,สืบค้นเมื่อ 24 กันยายน 2564 จาก WWW.KLONGNOI.GO.TH) 37

4.1.4 อู่ต่อเรือช่างกบ ช่างกบ เป็นช่างต่อเรือฝีมือเอก ที่มีชื่อเสียงระดับตำบล และระดับ จังหวัด โดยได้สืบต่ออาชีพนี้มามากกว่า 3 ชั่วอายุคน และจะสืบต่อให้ลูก หลานต่อไป โดยเรือออกทะเลแต่ละลำต้องใช้เวลาต่อเป็นแรมเดือน ซึ่งมี หลายขั้นตอน ตั้งแต่การวางกระดองหมึก ใส่ราวคู่ แรกใส่ทวนหัวทวนใต้ ขึ้น ดานวางกงยึด และอีกหลายขั้นตอน ซึ่งมีความน่าสนใจในการศึกษาหาความ รู้ภูมิปัญญาของชาวคลองน้อย (สำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลคลองน้อย. การท่องเที่ยวตำบลคลองน้อย. ออนไลน์].2562,สืบค้นเมื่อ 24 กันยายน 2564 จาก WWW.KLONGNOI.GO.TH) 38

4.1.5 ฟาร์มชุมชนคนคลองน้อย เป็นการเรียนรู้ในแบบตามทฤษฏีเศรษฐกิจพอเพียง ที่นำเอาหลัก การมาใช้ในการดำรงชีวิต ที่สามรถทำได้จริง เป็นการรวมตัวกัน ปลูกผัก อินทรีย์ เลี้ยงสัตว์ ปลูกใบกระเพรา อ้อย เลี้ยงปลา ฯลฯ ฟาร์มแห่งนี้จะเป็น แหล่งเรียนรู้ให้กับผู้ที่สนใจในการศึกษา และลงมือปฏิบัติจริง (สำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลคลองน้อย. การท่องเที่ยวตำบลคลองน้อย. ออนไลน์].2562,สืบค้นเมื่อ 24 กันยายน 2564 จาก WWW.KLONGNOI.GO.TH) 39

4.1.6 กลุ่มผลิตภัณฑ์กะลามะพร้าว กลุ่มผลิตภัณฑ์กะลามะพร้าว ของนางสุวรรณี ณ พัทลุง ได้นำกะลา มะพร้าว ซึ่งเป็นเศษวัสดุที่เหลือใช้จากมะพร้าว สามารถนำมาประดิษฐ์ เป็น งานศิลปะและของใช้ได้อย่างหลากหลาย เช่นโคมไฟ กระบวยตักน้ำ ช้อน ซ้อม ทัพพี สามารถซื้อหาได้เป็นของขวัญ ของฝากแก่ญาติสนิท มิตรสหาย ได้ (สำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลคลองน้อย. การท่องเที่ยวตำบลคลองน้อย. ออนไลน์].2562,สืบค้นเมื่อ 24 กันยายน 2564 จาก WWW.KLONGNOI.GO.TH) 40

4.1.7 บ้านจาก เป็นแหล่งรวบรวมประโยชน์ของต้นจาก ให้เป็นรูปธรรม โดยต้นจาก มีประโยชน์หลายประการ ใบสามารถนำมาห่อขนมจาก มุงหลังคา พาชนะตัก น้ำ ทำมวนยาสูบ ลูกจากสามารถรับประทานสด ทำขนม ต้นจากช่วยให้ชาว บ้านในบางมีรายได้ โดยเฉพาะคนชรา สามารถเย็บจาก เพื่อเป็นการหาราย ได้ โดยรายได้จะได้ค่าขนมหลาน ไม่ต่ำกว่า 4,000 บาท อีกทั้งก่อจากช่วย ป้องกันการเซาะพังของตลิ่งได้ดีกว่าเขื่อนซีเมนต์ (สำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลคลองน้อย. การท่องเที่ยวตำบลคลองน้อย. ออนไลน์].2562,สืบค้นเมื่อ 24 กันยายน 2564 จาก WWW.KLONGNOI.GO.TH) 41

4.1.9 โรงปอกมะพร้าว ตำบลคลองน้อยเป็นแหล่งปลูกมะพร้าวที่ดีที่สุดของชุมชนในบาง มะพร้าวมีความผูกพันกับคนในบางเป็นอย่างยิ่ง โรงปอกมะพร้าวของคุณลุง วิทย์ เหมวิเศษ เป็นแหล่งรับซื้อมะพร้าวของสวนในบาง และนำมาปอกส่ง ขายในหลายจังหวัด เปลือกที่เหลือจากการปอกขายจะย่อยเป็นวัสดุปลูก ต้นไม้ และกะลามะพร้าวจะนำไปทำถ่านอัดแท่ง (สำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลคลองน้อย. การท่องเที่ยวตำบลคลองน้อย. ออนไลน์].2562,สืบค้นเมื่อ 24 กันยายน 2564 จาก WWW.KLONGNOI.GO.TH) 42

4.1.10 วัดบุญบันเทิง ต้นไทรเก็บกระดูก วัดนี้สร้างขึ้น เมื่อ พ.ศ. 2378 มีพระพุทธรูป หลวงปู่ซ่อนเป็นที่เคารพของชาวบ้าน และบริเวณท่าน้ำมีต้นไทรยืนต้นอายุ กว่า 200 ปี ในอดีตเป็นแหล่งรวมจิตใจของชาวคลองน้อย ซึ่งชาวบ้านจะ เอาอัฐิบรรพบุรุษฝากไว้บนต้นไทร ให้รุกเทวดาคอยปกป้องรักษา และในช่วง เทศกาลบุญเดือนสิบของทุกปี ชาวบ้านจะมารวมตัวกันที่ต้นไทรเพื่อทำบุญ ให้บรรพบุรุษ (สำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลคลองน้อย. การท่องเที่ยวตำบลคลองน้อย. ออนไลน์].2562,สืบค้นเมื่อ 24 กันยายน 2564 จาก WWW.KLONGNOI.GO.TH) 43