Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือความปลอดภัยในการทำงาน สำหรับพนักงานใหม่

คู่มือความปลอดภัยในการทำงาน สำหรับพนักงานใหม่

Published by chanin.thonkhong, 2021-11-04 09:51:21

Description: คู่มือความปลอดภัยในการทำงาน

Search

Read the Text Version

1

นโยบายความปลอดภยั 1. บริษทั จะประกอบธุรกิจและดำเนินงำนในดำ้ นต่ำง ๆ โดยคำนึงถงึ ควำมปลอดภยั เป็น พ้ืนฐำนสำคญั และพยำยำมที่จะเพิม่ ขีดควำมสำมำรถในกำรป้ องกนั อบุ ตั ิเหตอุ นั ตรำย ควำมเจบ็ ป่ วยอนั เน่ืองมำจำกกำรทำงำน ตลอดจนควำมเสียหำยท่ีจะเกิดแก่พนกั งำน ทรัพยส์ ินและสภำพแวดลอ้ มอยำ่ งตอ่ เนื่อง 2. พนกั งำนทุกคน ทกุ ระดบั จะตอ้ งมีส่วนร่วมในกำรรับผิดชอบตอ่ ควำมปลอดภยั ใน กำรปฏิบตั ิงำน เพอ่ื สวสั ดิภำพของตนเองและเพ่ือนร่วมงำน 3. บริษทั จะจดั หำอุปกรณ์ป้ องกนั อนั ตรำยส่วนบคุ คลที่จำเป็นตอ่ กำรปฏบิ ตั ิงำนใหม้ ี จำนวนเพยี งพอกบั งำนแตล่ ะชนิด เพื่อท่พี นกั งำนจะไดใ้ ชอ้ ปุ กรณ์ดงั กลำ่ วในกำร ปฏิบตั ิงำนไดอ้ ยำ่ งเตม็ ที่ 4. บริษทั จะสนบั สนุน ส่งเสริม กำรดำเนินงำนในดำ้ นต่ำง ๆ ซ่ึงเก่ียวขอ้ งกบั ควำม ปลอดภยั เพ่ือใหส้ อดคลอ้ งกบั กฎระเบียบ หน่วยงำนควำมปลอดภยั อำชีวอนำมยั และสภำพแวดลอ้ มในกำรทำงำน Occupational Safety Health and Environment (OSHE) 2

นโยบายการอนุรักษ์พลงั งาน 1. กำรอนุรักษพ์ ลงั งำนเป็นส่วนหน่ึงของกำรดำเนินงำนท่ีพนกั งำนทุกคนตอ้ งยดึ ถือ ปฏิบตั ิ 2. บริษทั ฯ จะปฏิบตั ิตำมกฎหมำย ขอ้ กำหนดตำ่ งๆ ที่เก่ียวขอ้ งกบั กำรอนุรักษพ์ ลงั งำน 3. บริษทั ฯ จะส่งเสริมใหม้ ีกำรใชพ้ ลงั งำนอยำ่ งคุม้ คำ่ และเกิดประโยชนส์ ูงสุด 4. บริษทั ฯ จะสนบั สนุนกำรใชเ้ ทคโนโลยี เครื่องจกั รหรืออปุ กรณ์ที่มีประสิทธิภำพสูง ตลอดจนระบบควบคุมกำรทำงำนที่ช่วยในกำรอนุรักษพ์ ลงั งำน 5. บริษทั ฯ จะทำกำรเผยแพร่ ประชำสัมพนั ธ์ผลกำรดำเนินงำนดำ้ นกำรอนุรักษพ์ ลงั งำน ใหก้ บั พนกั งำนทุกระดบั 6. บริษทั ฯ จะทำกำรทบทวน นโยบำย วตั ถุประสงคแ์ ละเป้ ำหมำย เพอ่ื กำรปรับปรุง อยำ่ งตอ่ เน่ือง 3

บทนา หนงั สือคู่มือควำมปลอดภยั ในกำรทำงำนฉบบั น้ี บริษทั อำร์เซลิก ฮิตำชิ โฮม แอพพลำยแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกดั ไดจ้ ดั ทำข้ึนเพอ่ื มงุ่ หวงั ใหพ้ นกั งำนทุกทำ่ นใชเ้ ป็น แนวทำงในกำรปฏิบตั ิงำนในอนั ที่จะปลอดจำกเหตอุ นั ตรำยตำ่ งๆ ทอี่ ำจจะเกิดข้ึนระหวำ่ ง ปฏิบตั ิงำนดว้ ยควำมมงุ่ หวงั ท่ีจะเสริมสร้ำงควำมปลอดภยั และสุขภำพอนำมยั ท่ีดีในกำร ทำงำน บริษทั หวงั เป็นอยำ่ งยง่ิ วำ่ พนกั งำนทกุ ทำ่ นจะใชห้ นงั สือเลม่ น้ีเสมือนเป็นพ้ืนฐำน ควำมรู้เบ้ืองตน้ ของควำมปลอดภยั และสุขภำพอนำมยั รวมท้งั เพ่มิ เติมควำมรู้ที่จำเป็นในแต่ ละชนิดของงำนและเรียนรู้ถึงกำรนำไปปฏิบตั ิเพือ่ ท่ีจะประสบแตค่ วำมสุขและควำม ปลอดภยั ในชีวติ 4

สารบัญ หน้า สำเหตกุ ำรเกิดอุบตั ิเหตุ 6 มำตรกำรดำ้ นควำมปลอดภยั 7 - กำรแตง่ กำย 8 - อปุ กรณ์คุม้ ครองควำมปลอดภยั ส่วนบุคคล 11 - สถำนที่ปฏิบตั ิงำน 12 - สำนกั งำน 13 - คอมพิวเตอร์ 14 - กำรยกเคล่ือนยำ้ ยสิ่งของ กฎควำมปลอดภยั ในกำรทำงำน 15 - ไฟฟ้ ำและอุปกรณ์ 16 - สำรเคมี 17 - เครื่องมือและเคร่ืองมือกล 18 - รถยก 19 - เคร่ืองจกั ร 20 - ภำชนะบรรจุกำ๊ ซ 21 - รอก, เครนหรือป้ันจน่ั 22 - ลิฟทโ์ ดยสำรและลิฟทข์ นส่งวสั ดุ 23 - กำรปฏิบตั ิงำนบนท่ีสูง 24 - กำรเชื่อมตดั ดว้ ยแกส๊ หรือกระแสไฟฟ้ ำ 25 กำรป้ องกนั อคั คีภยั 30 กำรปฐมพยำบำล 34 กำรใชย้ ำนพำหนะ 36 5ส. เพื่อควำมปลอดภยั 37 กิจกรรม KYT 38 สีและสญั ลกั ษณ์ควำมปลอดภยั 39 กำรรำยงำนอุบตั ิเหตุ 41 นโยบำยระบบบริหำรจดั กำรดำ้ นคุณภำพและส่ิงแวดลอ้ ม 42 กำรจดั กำรขยะ 5

สาเหตขุ องการเกิดอุบตั ิเหตุ กำรกระทำที่ไมป่ ลอดภยั (Unsafe Acts) • ใชอ้ ปุ กรณ์เครื่องมือท่ีชำรุด • หยอกลอ้ เลน่ กนั ในขณะปฏิบตั ิงำน • ทำ่ ทำงกำรยกไมถ่ ูกตอ้ ง • ปฏิบตั ิงำนโดยไม่มีหนำ้ ที่เกี่ยวขอ้ ง • ถอดอปุ กรณ์ป้ องกนั หรือกำร์ดครอบออก • ไม่สวมอุปกรณ์ป้ องกนั อนั ตรำยขณะปฏิบตั ิงำน • ไมห่ ยดุ เครื่องขณะทำกำรซ่อมเคร่ือง • ไม่ติดป้ ำยเตือนอนั ตรำยขณะซ่อมเคร่ือง • ไมม่ ีควำมเขำ้ ใจในข้นั ตอนหรือวธิ ีกำรทำงำนที่ถกู ตอ้ งและปลอดภยั สภำพกำรที่ไมป่ ลอดภยั (Unsafe conditions) • อปุ กรณ์, เครื่องมือ, เครื่องจกั รชำรุด • แต่งกำยไม่เหมำะสม • เสียงดงั , ฝ่ นุ มำก, แสงสวำ่ งนอ้ ย • กำรวำงสิ่งของกีดขวำงทำงเดิน • ไม่มีเคร่ืองป้ องกนั อนั ตรำยจำก เคร่ืองจกั ร • สถำนท่ีปฏิบตั ิงำนคบั แคบ • ขำดป้ ำยเตือนอนั ตรำยหรือขอ้ หำ้ มตำ่ งๆ • อปุ กรณ์เคร่ืองใชไ้ ฟฟ้ ำไม่มีฉนวน หรือไม่มีสำยดิน • พ้ืนที่ปฏิบตั ิงำนสกปรก ไมม่ ีกำรทำ 5ส 6

การแต่งกาย 1. ควรแตง่ กำยอยำ่ งรดั กุมขณะปฏิบตั ิงำน, สวมหมวกและรองเทำ้ หุม้ สน้ 2. ผปู้ ฏิบตั ิงำนทุกคนตอ้ งแตง่ กำยใหเ้ หมำะสมกบั ชนิดของงำนที่ไดร้ ับมอบหมำยใหท้ ำ 3. หำ้ มสวมเส้ือผำ้ ที่หลวม รุ่มร่ำม เพอื่ ไม่ใหถ้ กู ดึงหรือมว้ นพนั เขำ้ ไปในเคร่ืองจกั ร 4. สวมหมวกตลอดระยะเวลำกำรปฏิบตั ิงำนและเก็บผมใหเ้ รียบร้อยสำหรับพนกั งำนหญิง 5. สวมรองเทำ้ หุม้ สน้ หรือรองเทำ้ นิรภยั เพื่อป้ องกนั อนั ตรำยที่จะเกิดข้ึนกบั เทำ้ 6. หำ้ มสวมใส่เครื่องประดบั ประเภทหอ้ ยไวห้ ลวมๆ เช่น ตุม้ หู กำไล สร้อยขอ้ มือ สร้อยคอ เขำ้ ใกลเ้ ครื่องจกั รท่กี ำลงั หมนุ 7. สวมใส่อุปกรณ์คุม้ ครองควำมปลอดภยั ส่วนบคุ คล เช่น หมวกนิรภยั , ถงุ มือนิรภยั , หนำ้ กำกหรืออปุ กรณ์อ่ืน ที่จำเป็นและเหมำะสมกบั ลกั ษณะงำนท่ีปฏิบตั ิ 8. ถำ้ หำกไมส่ ำมำรถสวมใส่ชุดทำงำนท่ีกำหนดได้ เน่ืองจำกกำรบำดเจบ็ หรือเจบ็ ป่ วย ใหร้ ำยงำนกบั หวั หนำ้ งำนเพ่ือขออนุญำต 9. หำ้ มพนกั งำนท่ีสวมเส้ือแขนยำว พบั แขนเส้ือ ในขณะที่ปฏิบตั งิ ำน “กำรแตง่ กำยท่ีไม่เรียบร้อย เป็ นเครื่ องแสดงถึงควำมบกพร่ อง ของผสู้ วมใส่ อำจนำไปสู่กำรเกิดอุบตั ิเหตุได้ ” 7

อปุ กรณ์คุ้มครองความปลอดภยั ส่วนบุคคล Personal Protective Equipment (PPE) หมำยถึง อปุ กรณ์ท่ีสวมใส่ลงบนส่วนหน่ึงส่วนใดของร่ำงกำย เพ่อื ทีจ่ ะป้ องกนั อนั ตรำยตำ่ งๆ ท่ีอำจเกิดข้ึนระหวำ่ งกำรปฏิบตั ิงำน โดยแบง่ เป็นหลำยประเภท ดงั น้ี หมวกนริ ภยั ใชส้ ำหรับป้ องกนั วสั ดุท่ีอำจหลน่ จำกที่สูง หรือป้ องกนั ศรีษะจำกกำรถูกกระแทกระหวำ่ งปฏิบตั ิงำน อุปกรณ์ลดเสียง ใชป้ ้ องกนั อนั ตรำยจำกเสียงดงั เกินกวำ่ 80 เดซิเบลเอ (หน่วยวดั เสียง) * ปลก๊ั อุดหูลดเสียง สำมำรถลดได้ 25-30 dBA ใชใ้ นบริเวณที่มีระดบั เสียงอยทู่ ่ี 80-120 dBA * ท่ีครอบหูลดเสียง สำมำรถลดได้ 35-45 dBA ใชใ้ นบริเวณที่มีระดบั เสียงอยทู่ ่ี 130-135 dBA อปุ กรณ์ป้ องกนั ดวงตา * แวน่ ตำนิรภยั ใชป้ ้ องกนั สะเก็ด ฝ่ นุ ละออง และแรงกระแทก * ครอบตำนิรภยั ป้ องกนั ไอระเหย หรือ ละอองสำรเคมีกระเดน็ เขำ้ ตำ * กระบงั หนำ้ นิรภยั ใชป้ ้ องกนั ใบหนำ้ และดวงตำ ใชส้ ำหรับงำนเจียร ขดั และป้ องกนั กำรกระเดน็ ของสำรเคมี อุปกรณ์ป้ องกนั มอื และแขน ใชส้ ำหรับป้ องกนั อนั ตรำยท่ีอำจเกิดข้ึนกบั มือและแขน * ถงุ มือยำง ใชป้ ้ องกนั กำรสมั ผสั น้ำมนั หรือสำรเคมี * ถุงมือหนงั ใชป้ ้ องกนั ควำมร้อนหรือสะเก็ดไฟจำกงำนเชื่อม * ถงุ มือกนั บำด ใชป้ ้ องกนั ของมีควำมหรือแผน่ เหลก็ ชิ้นงำนบำดมือ * ปลอกแขน ใชป้ ้ องกนั สะเก็ดไฟหรือป้ องกนั ของมีคมหรือแผน่ เหลก็ บำดแขน รองเท้านริ ภยั ใชป้ ้ องกนั ของหนกั ตกกระทบเทำ้ หรือกนั ควำมร้อน ท่ีส่วนหนำ้ ของรองเทำ้ จะมแี ผน่ เหลก็ 8

อุปกรณ์ป้ องกนั ระบบหายใจ ใชส้ ำหรับป้ องกนั กำรสูดดมไอระเหย, ฝ่นุ , ควนั , ละอองสำรเคมี ที่เป็นอนั ตรำยตอ่ ระบบทำงเดินหำยใจ * หนำ้ กำกป้ องกนั ฝ่ นุ และสำรเคมี ใชป้ ้ องกนั ฝ่ นุ และไอระเหยของสำรเคมีที่มีควำมเขม้ ขน้ นอ้ ยหรือ ในกรณีที่ปฏิบตั ิงำนภำยในระยะเวลำอนั ส้นั * หนำ้ กำกป้ องกนั ฝ่ นุ และสำรเคมีชนิดเปล่ียนไส้กรอง ใชป้ ้ องกนั ฝ่ นุ และไอระเหยสำรเคมีท่ีมีควำมเขม้ ขน้ สูง หรือกรณีท่ีปฏิบตั ิงำนเป็นระยะเวลำนำน เช่น งำนพน่ สี เอยี๊ มกนั สารเคมี ใชป้ ้ องกนั สำรเคมีกระเดน็ เป้ื อนลำตวั ข้อควรปฏิบตั ใิ นการใช้อุปกรณ์ป้ องกนั อนั ตรายส่วนบุคคล 1. ใชอ้ ุปกรณ์เหลำ่ น้ีตลอดระยะเวลำกำรปฏิบตั งิ ำน และควรใชอ้ ยำ่ งถูกตอ้ งและ เหมำะสม 2. พยำยำมสร้ำงควำมเคยชินในกำรใช้ ระยะแรกอำจรู้สึกไม่สะดวกสบำย แตไ่ ม่ควร นำมำเป็นขอ้ อำ้ งในกำรปฏิเสธที่จะใช้ 3. ไม่ควรปรับเปลี่ยนหรือดดั แปลงอุปกรณ์ หรือทำใหม้ ีสภำพเปลี่ยนแปลงไปจำกเดิมจนทำให้ ควำมสำมำรถในกำรปัองกนั อนั ตรำยลดลง 4. ควรใชอ้ ปุ กรณ์คุม้ ครองควำมปลอดภยั ดว้ ยควำมระมดั ระวงั และเกบ็ รักษำใหส้ ะอำด ไมใ่ ชอ้ ปุ กรณ์ของผอู้ ื่นโดยไม่ไดร้ ับอนุญำต 9

ภาพตวั อย่างของอุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภยั ส่วนบุคคล ปลก๊ั อดุ หู ที่ครอบหูลดเสียง หนำ้ กำกป้ องกนั ฝ่นุ หนำ้ กำกชนิดเปลี่ยนไสก้ รอง ถุงมือหนงั งำนเชื่อม ถุงมือยำงกนั สำรเคมี แวน่ ตำนิรภยั แวน่ ครอบตำกนั สำรเคมี หมวกนิรภยั เอ๊ียม รองเทำ้ นิรภยั เขม็ ขดั นิรภยั 10

สถานทป่ี ฏิบัติงาน กำรดแู ลควำมสะอำดและควำมเป็นระเบียบเรียบร้อยในสถำนที่ทำงำนเป็นส่ิงสำคญั ซ่ึงจะทำใหก้ ำรทำงำนมีควำมสะดวกสบำยมำกข้ึน ทำงำนไดร้ วดเร็วและปลอดภยั มำกข้ึน ขอ้ ปฏิบตั ิเพื่อให้เกิดควำมปลอดภยั ในสถำนทีป่ ฏิบตั ิงำนไดแ้ ก่ 1. ไมว่ ำงส่ิงของหรือเคร่ืงมือกีดขวำงทำงเดิน 2. เม่ือสงั เกตเุ ห็นสิ่งของทีไ่ มจ่ ำเป็นในกำรใชง้ ำนควรกำจดั ออกไปโดยทนั ที 3. หมน่ั ดแู ลพ้ืนท่ีปฏิบตั ิงำนใหส้ ะอำดอยเู่ สมอ 4. ควรจดั เกบ็ และวำงสิ่งของใหถ้ ูกตอ้ งตำมจุดท่ีกำหนด 5. วตั ถุไวไฟหรือน้ำมนั เช้ือเพลงิ ควรเกบ็ ไวใ้ นที่เฉพำะ หรือเกบ็ ไวใ้ หห้ ่ำงจำกแหลง่ ควำมร้อน หรือท่ีอำจก่อใหเ้ กิดประกำยไฟ 6. กำจดั ขยะ เศษวสั ดุ ครำบน้ำมนั โดยแยก ใส่ภำชนะที่จดั ไวต้ ำมประเภทของขยะ ในสถำนที่ที่กำหนดไว้ 7. วสั ดุอปุ กรณ์ที่วำงไวช้ วั่ ครำว ควรมีป้ ำยหรือเครื่องหมำยแสดงไวอ้ ยำ่ งชดั เจน 8. หำกมีน้ำ หรือน้ำมนั หกควรรีบเชด็ ถใู หแ้ หง้ เพอื่ ป้ องกนั กำรล่ืนลม้ 9. หำ้ มสูบบหุ รี่ในบริเวณโรงงำน ยกเวน้ ในบริเวณท่ีอนุญำตใหส้ ูบไดเ้ ทำ่ น้นั 10.ของใชส้ ่วนตวั ใหเ้ กบ็ ไวใ้ นตู้ (Locker) หรือในที่ท่ีกำหนด 11

สานักงาน 1. ไมว่ ่งิ เล่นหรือหยอกลอ้ กนั ในสำนกั งำนเพรำะอำจทำใหเ้ กิดกำรลืน่ หรือสะดุดลม้ ได้ 2. กำรแบกของข้ึนลงบนั ได ไมค่ วรมีควำมสูงเกินระดบั สำยตำ 3. พ้นื สำนกั งำนควรเกบ็ กวำดทำควำมสะอำดใหเ้ รียบร้อย เมื่อน้ำหกควรเชด็ ใหแ้ หง้ 4. ลิ้นชกั เอกสำรควรปิ ดทนั ทีเม่ือใชเ้ สร็จ และระวงั ไมใ่ หน้ ิ้วมือวำงบนลิน้ ชกั ขณะปิ ด 5. สำยไฟฟ้ ำ สำยโทรศพั ท์ ควรจดั เก็บใหเ้ รียบร้อยหรือใชเ้ ทปกำวปิ ดทบั 6. อุปกรณ์ของมีคม เช่น มีด กรรไกร เขม็ หมดุ ฯลฯ เมือ่ ใชแ้ ลว้ ควรเกบ็ ใส่กล่อง 7. เอกสำรไมค่ วรวำงบนหลงั ตมู้ ำกเกินไป ลิน้ ชกั ตคู้ วรเปิ ดคร้ังละ 1 ช่อง เพือ่ ป้ องกนั ตู้ ลม้ เนื่องจำกไม่สมดุลย์ 8. กำรยกส่ิงของควรยอ่ ตวั ลง จบั ของใหแ้ น่นและชิดลำตวั ใชก้ ำลงั จำกขำยกข้ึน 9. ไม่ยนื อยหู่ นำ้ ประตใู นรัศมีท่ีบำนประตูเปิ ด ซ่ึงอำจเกิดกำรชนและกระแทกได้ 10.บริเวณท่ีทำงำนควรจดั ใหม้ ีแสงสวำ่ งและกำรระบำยอำกำศท่ีเพียงพอ 12

การทางานกบั คอมพิวเตอร์ 1. กำรนงั่ ปฏิบตั ิงำนกบั คอมพวิ เตอร์ ควรนง่ั ลึกใหเ้ ตม็ เกำ้ อ้ีและหลงั พงิ กบั พนกั เกำ้ อ้ี 2. มีกำรหยดุ พกั ระหวำ่ งปฏิบตั ิงำน โดยทำงำนอยำ่ งอ่ืนร่วมไปดว้ ย 3. เลือกสถำนท่ีติดต้งั คอมพิวเตอร์ที่มีแสงสวำ่ งพอเหมำะ ไม่มีแสงสะทอ้ นมำกเกินไป 4. ในช่วงเวลำพกั ควรมีกำรบริหำรร่ำงกำย เพ่ือผอ่ นคลำยควำมตึงเครียด 5. มีกำรพกั สำยตำ โดยกำรมองท่ีไกลๆ เพ่อื ช่วยลดปัญหำกำรลำ้ ของสำยตำลงได้ 6. จดั สภำพสิ่งแวดลอ้ มในกำรทำงำนใหเ้ กิดควำมสบำยในกำรทำงำน อณุ หภูมิภำยใน หอ้ งไมค่ วรสูงหรือต่ำจนเกินไปและจดั ใหม้ ีกำรระบำยอำกำศที่ดี 7. ท่ีจอแสดงภำพตอ้ งไม่ใหม้ ีภำวะที่เกิดแสงริบหร่ี วบู วำบ หรือกระพริบ 8. ตวั อกั ษร ภำพหรือลำยเส้นท่ีแสดงบนจอภำพ ตอ้ งมีกำรปรับใหม้ ีควำมคมชดั อยเู่ สมอ ในกรณีที่อปุ กรณ์ปรับควำมคมชดั เสียตอ้ งรีบแกไ้ ขทนั ที 9. ควรหลีกเลี่ยงกำรใชต้ วั อกั ษร ภำพหรื อลำยเส้นท่ีเป็ นสีแดง ม่วงหรือน้ำเงิน 10.ปรับระดบั ของจอภำพ แป้ นพิมพ์ ใหเ้ หมำะสมกบั ระดบั ท่ำทำง ในกำรปฏิบตั ิงำน 13

การยกเคลอื่ นย้ายส่ิงของ กำรปวดหลงั เกิดข้ึนไดท้ กุ ขณะแต่ก็ป้ องกนั ไดถ้ ำ้ ใหค้ วำมสนใจต่อกำรเคล่ือนไหว ของร่ำงกำย คือ กำรทำงำนใหถ้ ูกวิธี อยำ่ ใหก้ ลำ้ มเน้ือรับแรงมำกเกินไป แนวทำงป้ องกนั อำกำรปวดหลงั เน่ืองจำกกำรยกเคลื่อนยำ้ ยสิ่งของมีดงั น้ี 1. ถำ้ เป็นไปไดค้ วรใชอ้ ุปกรณ์ช่วยยกในกำรเคลื่อนยำ้ ยส่ิงของจะดีกวำ่ ยกดว้ ยแรงคน 2. ถำ้ ส่ิงของท่ีจะยกมีน้ำหนกั มำก ควรมีผอู้ ื่นช่วยในกำรขนยำ้ ย 3. เมื่อยกดว้ ยแรงคน พยำยำมใหห้ ลงั ต้งั ตรง แขนแนบชิดลำตวั ใชก้ ำลงั จำกขำในกำรยก 4. ไม่ควรยกสิ่งของใหส้ ูงจนบดบงั ระดบั สำยตำ ถำ้ จำเป็นตอ้ งเปลี่ยนทศิ ทำงกำร เคล่ือนยำ้ ยใหห้ มนุ ไปท้งั ตวั 5. ก่อนที่จะยกส่ิงของตอ้ งแน่ใจวำ่ ไม่มีสิ่งกีดขวำงทำงเดินและตอ้ งแขง็ แรงพอที่จะรับ น้ำหนกั ตวั ผยู้ กและส่ิงของที่กำลงั ยก 6. กำรยกสิ่งของที่อำจเคลื่อนท่ีหรือตกหลน่ ได้ จะตอ้ งผกู มดั ยดึ โยงดว้ ยเชือกหรือวสั ดุท่ี มีควำมแขง็ แรงเหมำะสมกบั สิ่งของน้นั 7. ตอ้ งใหส้ ญั ญำณและใชค้ วำมระมดั ระวงั เป็นพิเศษ หำกขนยำ้ ยบริเวณที่มียำนพำหนะ และมีผเู้ ดินผำ่ นไปมำ 8. เม่ือตอ้ งยกวสั ดุที่มีควำมแหลมคม ควรสวมถุงมือก่อนทำกำรยก 14

ไฟฟ้ าและอุปกรณ์ อบุ ตั ิเหตทุ ี่เกิดข้ึนส่วนใหญ่น้นั มีสำเหตุมำจำกกำรท่ีมีควำมรู้เก่ียวกบั ไฟฟ้ ำไมเ่ พยี งพอ และเกิดควำมผดิ พลำดในกำรปฏิบตั ิงำน อบุ ตั เิ หตุจำกไฟฟ้ ำสำมำรถป้ องกนั ไดด้ ว้ ยกำรมี ควำมรู้ที่ถกู ตอ้ งและควำมระมดั ระวงั ในกำรใชห้ รือจบั ตอ้ ง 1. ผปู้ ฏิบตั ิงำนท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั ไฟฟ้ ำตอ้ งมีควำมรู้เก่ียวกบั ไฟฟ้ ำ 2. ขณะทำกำรซ่อมอุปกรณ์ไฟฟ้ ำ สำยไฟฟ้ ำ ตอ้ งตดั กระแสไฟฟ้ ำท่ีมำยงั จุดที่ทำงำน พร้อมลอ็ คกุญแจหรือแขวนป้ ำยเตือนป้ องกนั กำรสับสวิตช์ 3. สำยไฟฟ้ ำหรืออุปกรณ์ที่ใชต้ อ้ งเป็นชนิดท่ีไดม้ ำตรฐำนของทำงรำชกำรหรือ มำตรฐำนสำกลซ่ึงเป็ นท่ียอมรับ 4. ตรวจสอบกำรติดต้งั สำยดินและอุปกรณ์ควำมปลอดภยั ใหส้ ำมำรถทำงำนได้ 5. ตรวจสอบสำยไฟฟ้ ำและอปุ กรณ์ไฟฟ้ ำก่อนใชง้ ำนเสมอ ถำ้ พบวำ่ ชำรุดตอ้ งเลิกใช้ และรีบแกไ้ ขหรือซ่อมแซมโดยเร็ว 6. อยำ่ แตะตอ้ งอปุ กรณ์ไฟฟ้ ำและสำยไฟขณะทีม่ ือเปี ยกหรือเทำ้ เปลำ่ 7. บริเวณที่มีวตั ถไุ วไฟตอ้ งทำกำรปิ ดก้นั หรือแยกใหห้ ่ำงจำกกนั เพอื่ ป้ องกนั กำรลกุ ไหม้ 8. หำ้ มใชต้ วั นำอื่นแทนฟิวส์ 9. เม่ือเกิดไฟฟ้ ำชอ็ ตใหป้ ิ ดสวิตช์ หรือแยกคนท่ีไดร้ ับบำดเจบ็ ให้ หลุดพน้ จำกกระแสไฟฟ้ ำ โดยใช้ ไม,้ ผำ้ , เชือกหรือสำยยำงที่แหง้ สนิท ดึงใหห้ ลดุ ออก ระวงั อยำ่ ใชม้ ือเปลำ่ จบั 10. ทำกำรปฐมพยำบำลผทู้ ี่ไดร้ ับบำดเจบ็ โดยวธิ ีใหล้ มหำยใจทำงปำกหรือนวดหวั ใจ เพอื่ ใหป้ อดและหวั ใจทำงำน จำกน้นั ใหน้ ำตวั ผปู้ ่ วยส่งโรงพยำบำล 15

การทางานกบั สารเคมี 1. ก่อนปฏิบตั ิงำนตอ้ งทรำบชนิดและอนั ตรำยท่อี ำจเกิดข้ึนถำ้ สงสยั ใหส้ อบถำม ผบู้ งั คบั บญั ชำที่เกี่ยวขอ้ ง 2. ก่อนขนยำ้ ยสำรเคมีตอ้ งสงั เกตวำ่ ภำชนะบรรจไุ ม่แตกหรือบุบสลำย ซ่ึงอำจทำให้ หกหลน่ ร่ัวไหลสู่ภำยนอกได้ 3. หลีกเล่ียงกำรสัมผสั โดยตรง และใหส้ วมเคร่ืองป้ องกนั เช่น ถุงมือนิรภยั หนำ้ กำก ป้ องกนั ไอระเหยของสำรเคมี แวน่ ตำนิรภยั รองเทำ้ กนั สำรเคมีท่ีเหมำะสม 4. หำ้ มรับประทำนอำหำร เครื่องดื่ม หรือสูบบหุ ร่ีในพ้ืนท่ีปฏิบตั ิงำน 5. หำ้ มผไู้ มม่ ีหนำ้ ท่ีเก่ียวขอ้ งปฏิบตั ิงำนเกี่ยวกบั สำรเคมี 6. หำกสำรเคมีหกหรือรั่วไหลลงบนพ้ืนใหก้ ลบดว้ ยทรำยหรือซบั ดว้ ยวสั ดุดูดซบั และทำ ใหพ้ ้ืนแหง้ ทนั ที จำกน้นั ใหน้ ำทรำยหรือวสั ดุดดู ซบั ที่ดูดซบั สำรเคมแี ลว้ ใส่ถุงแดง และนำไปทิง้ ที่โกดงั ขยะอนั ตรำย เพ่ือส่งกำจดั ต่อไป 7. ภำชนะบรรจุสำรเคมีตอ้ งปิ ดฝำใหม้ ิดชิด 8. ขณะปฏิบตั ิงำนหำกรู้สึกไมส่ บำยหรือเวยี นศรีษะ ใหห้ ยดุ ปฏิบตั ิงำนทนั ทแี ละรีบแจง้ ใหห้ วั หนำ้ งำนทรำบ 9. อปุ กรณ์คุม้ ครองควำมปลอดภยั ท่ีใชแ้ ลว้ ตอ้ งทำควำมสะอำด หรือทำลำยทิง้ ตำมคำแนะนำที่ไดก้ ำหนดไว้ 10. เม่ือเสร็จสิ้นกำรปฏิบตั ิงำนกบั สำรเคมีแตล่ ะคร้ังตอ้ งชำระลำ้ งร่ำงกำยใหส้ ะอำดเสมอ 16

เครื่องมอื และเคร่ืองมือกล เคร่ืองมือ หมำยถงึ อปุ กรณ์ที่ใชง้ ำนโดยอำศยั กำลงั จำกมือและแขน มีขนำดเลก็ น้ำหนกั เบำและพอดีกบั มือหรือ กำลงั ของคน เช่น ตะไบ ไขควง คอ้ น ประแจ และคีม เป็นตน้ เครื่องมือกล หมำยถงึ อปุ กรณ์ท่ีทำงำนโดย อำศยั พลงั งำนจำกไฟฟ้ ำ เคร่ืองยนตห์ รือตน้ กำลงั อื่นมีท้งั ชนิดท่ีสำมำรถเคล่ือนยำ้ ยไดห้ รือชนิดที่ติด ต้งั อยกู่ บั ท่ี เช่น สวำ่ นไฟฟ้ ำ ไขควงลม เคร่ืองเช่ือม เคร่ืองกลึง เครื่องเจียระไน เคร่ืองปั๊มโลหะ เป็นตน้ กำรใชเ้ คร่ืองมอื และเครื่องมือกลดว้ ยควำมปลอดภยั 1. เลือกใชเ้ ครื่องมือ เครื่องมือกลใหถ้ ูกหรือเหมำะสมกบั งำนท่ีทำ 2. ตรวจสอบสภำพก่อนและหลงั กำรใชง้ ำนทุกคร้ังและรักษำใหอ้ ยใู่ นสภำพที่ดีเสมอ 3. ซ่อมแซมหรือเปล่ียนใหมท่ นั ทีเม่ือพบวำ่ ชำรุด 4. ตรวจสอบและปฏิบตั ิตำมขอ้ แนะนำตำมค่มู ือกำรใชง้ ำน 5. เครื่องมือท่ีเป้ื อนน้ำมนั ควรเชด็ ทำควำมสะอำดก่อนและหลงั กำรใชง้ ำน 6. จดั วำงเคร่ืองมือในกลุ่มเดียวกนั เพ่อื ใหง้ ่ำยต่อกำรใชง้ ำนและอยำ่ วำงเกะกะไวร้ อบตวั หรือวำงไวบ้ นเครื่องจกั รขณะทำงำน 7. กรณีท่ีเป็นเครื่องมือใหม่ ควรศึกษำคู่มือ แนะนำกำรใชง้ ำนโดยละเอียดก่อนใช้ 8. หลงั จำกใชง้ ำนใหน้ บั จำนวนและตรวจดู วำ่ ชำรุดหรือไม่และเกบ็ ในท่ีท่ีกำหนด ใหเ้ ป็นระเบียบเพอื่ ใหง้ ำ่ ยต่อกำรนำมำใช้ ในคร้ังต่อไป 17

การขับข่ีรถยกอย่างปลอดภยั 1. ผขู้ บั ข่ีจะตอ้ งเป็นผทู้ ่ีผำ่ นกำรอบรมและมีใบอนุญำตในกำรขบั ขี่โดยเฉพำะเทำ่ น้นั 2. ก่อนที่จะใชง้ ำนรถยกควรทำกำรตรวจสภำพก่อนทุกคร้ังหำกพบควำมผิดปกติใหร้ ีบ ซ่อมแซมหรือแกไ้ ขโดยทนั ที 3. จดั วำงของใหม้ ีขนำดเท่ำกบั แผน่ รองยก ปรับขนำดควำมกวำ้ งของงำใหเ้ หมำะสม และจดั วำงส่ิงของใหม้ นั่ คงก่อนท่ีจะยกและไมบ่ รรทุกของหนกั เกินพกิ ดั ที่กำหนด 4. เมื่อยกของทกุ คร้ัง ตอ้ งใหข้ องท่ียกชิดทพี่ กั ขำ้ งหลงั และใหก้ ระดกปลำยงำข้ึน 5. ขณะรถว่งิ ควรใหร้ ะงบั ของงำยกสูงจำกพ้นื อยำ่ งนอ้ ย 20 เซนติเมตร และไม่ยกสูงจนเกินไป 6. หำ้ มโดยสำรไปกบั รถยกหรือยนื บนงำเพือ่ ข้ึนไปทำงำนบนท่ีสูง 7. บริเวณท่ีเป็นพ้นื ลน่ื และมีน้ำขงั ควรขบั ข่ีดว้ ยควำมระมดั ระวงั 8. ในท่ีท่ีเป็นมุมอบั หรือทำงแยกตอ้ งลดควำมเร็วและหยดุ บีบแตรใหส้ ญั ญำณเสียง และแสง จำกน้นั จึงค่อยออกรถ 9. เมื่อบรรทุกของจำนวนมำกจนบดบงั สำยตำดำ้ นหนำ้ ใหใ้ ชว้ ิธีขบั รถถอยหลงั แทน 10. กำรข้ึนลงทำงลำดชนั ควรมีผชู้ ่วยบอกทิศทำง 11. ขณะเติมน้ำมนั หรือเปล่ียนถงั กำ๊ ซ LPG หำ้ มสูบบหุ ร่ีหรือก่อใหเ้ กิดประกำยไฟ 18

การทางานกบั เคร่ืองจักร 1. ก่อนใชเ้ คร่ืองจกั ร ผปู้ ฏบิ ตั ิงำนจะตอ้ งตรวจฝำครอบกำร์ดเครื่องป้ องกนั ส่วนต่ำงๆ ของเคร่ืองจกั รใหอ้ ยใู่ นสภำพเรียบร้อยก่อน 2. กำรใชเ้ ครื่องจกั รจะตอ้ งใชต้ ำมคู่มือหรือตำมข้นั ตอนที่กำหนด 3. สวมใส่เส้ือผำ้ รัดกมุ อยำ่ สวมเส้ือปล่อยชำยหรือแขนหลุดล่ยุ 4. ใหค้ วำมสนใจตอ่ เสียงและควำมร้อนจดั ของมอเตอร์ท่ีกำลงั ทำงำน เมอ่ื พบสภำพ ควำมผิดปกติ ใหร้ ำยงำนใหห้ วั หนำ้ งำนทรำบทนั ที 5. หำ้ มใชเ้ ครื่องจกั ร เครื่องมือที่มีสภำพชำรุดจนกวำ่ จะแกไ้ ข ใหเ้ รียบร้อยเสียก่อนและระหวำ่ งรอกำรแกไ้ ข จะตอ้ งแขวนป้ ำย “หำ้ มใชเ้ ครื่องจกั รชำรุด” ใหเ้ ห็นชดั เจน หรือทำเครื่องหมำยบอกสภำพไมป่ ลอดภยั 6. หำ้ มเคล่ือนยำ้ ยหรือถอดฝำครอบหรือเครื่องนิรภยั ทุกชนิดออกจำกเครื่องจกั ร 7. หำ้ มทำควำมสะอำดหรือกระทำกำรใด ท่ีใชม้ ือเขำ้ ไปในบริเวณจุดหนีบ จุดหมนุ จุดเคล่ือนไหวของเคร่ืองจกั รขณะทำงำนอยถู่ ำ้ จำเป็นตอ้ งเขำ้ ไปในบริเวณน้นั จะตอ้ ง แน่ใจวำ่ เครื่องจกั รไดห้ ยดุ เดินเครื่องแลว้ 8. เม่ือตอ้ งทำงำนร่วมกนั จะตอ้ งแน่ใจวำ่ ทุกคนเขำ้ ใจในสญั ญำณเพอื่ กำรส่ือสำรอยำ่ ง ชดั เจนและถูกตอ้ งตรงกนั และหำ้ มผไู้ ม่มีหนำ้ ท่ีเก่ียวขอ้ งใชห้ รือควบคุมเครื่องจกั ร การซ่อมเครื่องจกั ร 1. ในกรณีซ่อมเครื่องจกั รท่ีมีควำมจำเป็นตอ้ งถอดหรือเคลื่อนยำ้ ยกำร์ดครอบออก เม่ือซ่อมเสร็จตอ้ งใส่คืนใหเ้ รียบร้อยก่อนที่จะเริ่มงำน 2. กำรหยดุ เครื่องจกั รเพอื่ กำรซ่อมแซมแกไ้ ข ปรับแต่ง ทำควำมสะอำด เพอ่ื ทำกำรใด ก็ตำมผปู้ ฏิบตั ิงำนจะตอ้ งแขวนป้ ำย “หำ้ มเดินเคร่ือง” บน สวทิ ชป์ ิ ด-เปิ ดเคร่ืองจกั ร 3. ผทู้ ่ีทำกำรซ่อมเคร่ืองจกั รตอ้ งสวมหมวกนิรภยั รองเทำ้ นิรภยั ถงุ มือนิรภยั ตลอด ระยะเวลำท่ีปฏิบตั ิงำนและจะตอ้ งแตง่ กำยใหร้ ัดกมุ 19

ภาชนะบรรจุก๊าซ 1. ควรเก็บถงั บรรจุก๊ำซ โดยกำรต้งั ยนื บนพ้นื เรียบ แลว้ ล่ำมหรือผกู ถงั ไวก้ บั เสำ กำแพง หรือสิ่งอื่นที่ติดแน่น เพอื่ ไมใ่ หถ้ งั ลม้ 2. อยำ่ ใหถ้ งั ลม้ หรือกระแทกกนั อยำ่ งเด็ดขำด 3. ควรแยกเกบ็ กำ๊ ซต่ำงชนิดกนั อำจใชช้ ่องทำงเดินแยกหรือแยกเกบ็ คนละที่ 4. อยำ่ เก็บถงั กำ๊ ซท่ีติดไฟไดไ้ วใ้ กลข้ องอยำ่ งอ่ืนที่ติดไฟไดง้ ่ำย 5. ในกำรเคลื่อนยำ้ ยถงั กำ๊ ซ ใชพ้ ำหนะที่ไมท่ ำใหก้ ระแทกหรือกระทบกระเทือนมำกไป 6. ในกำรเคลื่อนยำ้ ยภำชนะบรรจุก๊ำซในระยะทำงส้ันๆ อำจจะกลิง้ ถงั โดยใชข้ อบลำ่ ง ของถงั แตอ่ ยำ่ ลำกถงั โดยเดด็ ขำด 7. ใส่ฝำครอบหวั ถงั กำ๊ ซไวเ้ วลำที่ไม่ไดใ้ ชถ้ งั น้นั 8. เคลื่อนยำ้ ยถงั กำ๊ ซดว้ ยควำมระมดั ระวงั เพรำะถงั ท่ีเขียนวำ่ ถงั เปล่ำ อำจไมเ่ ปลำ่ จริง 9. ในกรณีที่ก๊ำซรั่วออกจำกถงั ใหท้ ำกำรเปิ ดประตู หนำ้ ตำ่ ง เพอ่ื ระบำยอำกำศในบริเวณ ดงั กลำ่ วและระวงั อยำ่ ใหเ้ กิดประกำยไฟ 10.ในสถำนท่ีจดั เกบ็ ถงั กำ๊ ซจะตอ้ งมีกำรระบำยอำกำศท่ีเพียงพอและห่ำงจำกแหลง่ ท่ีมี ควำมร้อนหรือบริเวณท่ีอำจก่อใหเ้ กิดประกำยไฟ 11. เม่ือไมเ่ ขำ้ ใจวิธีกำรเคล่ือนยำ้ ยถงั กำ๊ ซอยำ่ งถกู ตอ้ ง หรือวธิ ีกำรควบคุมก๊ำซเม่ือกำ๊ ซรั่ว จำกถงั ใหส้ อบถำมผรู้ ู้หรือผขู้ ำย 20

รอก, เครนหรือป้ันจ่ัน 1. ผใู้ ชร้ อก เครนหรือป้ันจนั่ จะตอ้ งเป็นผทู้ ี่มีหนำ้ ที่, ไดร้ ับกำรอบรมและไดร้ ับอนุญำต จำกผบู้ งั คบั บญั ชำแลว้ เทำ่ น้นั 2. ก่อนทำกำรใชร้ อก เครนหรือป้ันจน่ั ในแตล่ ะวนั ผใู้ ชจ้ ะตอ้ งตรวจสอบใหแ้ น่ใจวำ่ รอก เครนหรือป้ันจนั่ อยใู่ นสภำพท่ีเหมำะสมกบั กำรใชง้ ำนไดอ้ ยำ่ งปลอดภยั 3. ขณะที่รอก เครนหรือป้ันจน่ั กำลงั ยกคำ้ งอยู่ ผใู้ ชจ้ ะตอ้ งเอำใจใส่ ไม่ปลอ่ ยปละละเลย รอก เครนหรือป้ันจน่ั 4. ผใู้ ชแ้ ละผปู้ ฏิบตั ิงำนในบริเวณที่มีกำรใชร้ อกเครนหรือป้ันจนั่ ตอ้ งสวมใส่หมวก นิรภยั ท่ีจะป้ องกนั อนั ตรำยจำกของหลน่ จำกทีส่ ูงที่อำจจะกระทบกบั ศีรษะรองเทำ้ นิรภยั และถงุ มือนิรภยั ตลอดระยะเวลำที่ปฏิบตั ิงำนกบั ป้ันจนั่ 5. รอก เครนหรือป้ันจน่ั จะตอ้ งไมบ่ รรทกุ น้ำหนกั เกินกวำ่ มำตรฐำนกำรใชง้ ำนที่กำหนด 6. กำรทำงำนเก่ียวกบั รอก เครนหรือป้ันจน่ั จำเป็นตอ้ งมีกำรประสำนงำนกบั เจำ้ หนำ้ ท่ี คนอ่ืนที่ทำงำนอยใู่ นบริเวณเดียวกนั 7. เม่ือใชส้ ลิงยกของที่มีขอบแขง็ คม ตอ้ งใชไ้ มห้ รือสิ่งรองรับอ่ืนๆ ท่ีเหมำะสมรองกนั ไวไ้ มใ่ หส้ ลิงชำรุดเสียหำย 8. ก่อนที่จะใชส้ ลิงจะตอ้ งตรวจดใู หล้ ะเอียดถี่ถว้ นวำ่ จะใชไ้ ดอ้ ยำ่ งปลอดภยั หรือไมห่ ำ้ ม ใชส้ ลิงบิดงอหรือมีเส้นเกลียวขำดจนทำใหค้ วำมแขง็ แรงลดลง 9. ก่อนท่ีจะเล่ือนรอก เครนหรือป้ันจนั่ ตอ้ งแน่ใจวำ่ ไดย้ กของเก่ียวข้ึนสูงพน้ ส่ิงกีดขวำง และแน่นหนำแลว้ 21

ลฟิ ท์โดยสารและลฟิ ท์ขนส่งวสั ดุ ลิฟทโ์ ดยสำร 1. ในขณะเกิดเพลิงไหมห้ ำ้ มทกุ คนใชล้ ิฟท์ ใหใ้ ชบ้ นั ไดหนีไฟเทำ่ น้นั 2. ก่อนใชล้ ฟิ ทท์ กุ คร้ังใหส้ ังเกตวำ่ ลิฟทเ์ ล่ือนมำอยใู่ นระดบั เดียวกบั พ้นื แลว้ หรือไม่ถำ้ ตวั ลิฟทอ์ ยตู่ ำ่ งระดบั กบั พ้นื ใหร้ ะมดั ระวงั กำรสะดุดขณะเดินเขำ้ ลิฟท์ 3. ในกำรใชล้ ิฟท์ ใหเ้ ขำ้ ไปในลิฟทอ์ ยำ่ งรวดเร็วและระมดั ระวงั อยำ่ ลงั เลใจ 4. หำ้ มสูบบหุ ร่ีในลิฟท์ 5. เมื่อลิฟทเ์ ล่ือนถึงช้นั ท่ตี อ้ งกำร ใหร้ อประตลู ิฟทเ์ ปิ ดเตม็ ที่แลว้ จึงกำ้ วออกจำกลิฟท์ 6. หำ้ มใชม้ อื จบั หรือดนั ประตลู ิฟทเ์ พ่อื ใหล้ ิฟทร์ อบุคคลอื่น ใหใ้ ช้ป่ มุ ควบคุมประตลู ิฟท์ ที่ติดต้งั อยภู่ ำยในลฟิ ท์ 7. ในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินขณะอยใู่ นลิฟท์ ใหป้ ฏิบตั ิตำมขอ้ แนะนำท่ีติดอยภู่ ำยในลิฟท์ และพยำยำมควบคุมสติใหไ้ ด้ อยำ่ ตกใจเป็นอนั ขำด ลิฟทข์ นส่งวสั ดุ 1. ใชเ้ ฉพำะกำรขนส่งสินคำ้ หรือวตั ถุดิบเทำ่ น้นั หำ้ มโดยสำรไมว่ ำ่ กรณีใดๆ ท้งั สิ้น 2. หำ้ มบรรทุกของเกินน้ำหนกั ตำมพิกดั ท่ีกำหนดไว้ 3. ผดู้ ูแลรับผิดชอบตอ้ งตรวจสอบกำรข้ึน-ลงของลิฟทต์ ลอดจนอุปกรณ์อ่ืนๆใหอ้ ยใู่ น สภำพปกติก่อนใชง้ ำน 4. ก่อนนำสินคำ้ หรือวตั ถดุ ิบเขำ้ -ออกจำกลฟิ ทต์ อ้ งปิ ดสวิทชค์ วบคุมทุกคร้ัง 5. ตอ้ งวำงสินคำ้ หรือวตั ถดุ ิบอยำ่ งมน่ั คง ไม่เลื่อนหรือเคล่ือนที่ขณะลฟิ ทเ์ คลื่อนตวั 6. ลอ็ คประตูลิฟทใ์ หเ้ รียบร้อยก่อนใชล้ ิฟทท์ กุ คร้งั 22

การปฏิบัติงานบนที่สูง 1. กำรปฏิบตั ิงำนบนท่ีสูงจะตอ้ งไดร้ ับอนุญำตจำกผบู้ งั คบั บญั ชำและอยภู่ ำยใตก้ ำรกำกบั ดูแลอยำ่ งใกลช้ ิดของหวั หนำ้ งำน 2. ใชห้ มวกแขง็ นิรภยั , รองเทำ้ นิรภยั , และเขม็ ขดั นิรภยั เม่ือตอ้ งทำงำนบนที่สูง 3. กำรใชบ้ นั ไดข้ึน-ลงจำกที่สูงตอ้ งตรวจสอบใหแ้ น่ใจ วำ่ มีกำรยดึ อยำ่ งแน่นหนำหรือมีผชู้ ่วยคอยจบั ไวใ้ ห้ 4. บนั ไดท่ีใชจ้ ะตอ้ งมีสภำพมน่ั คงแขง็ แรงและ ตอ้ งแน่ใจวำ่ บนั ไดดงั กลำ่ วน้นั มีแผน่ ยำงรองกนั ล่ืน 5. ในกำรใชข้ ำหยงั่ หรือมำ้ ยนื ขณะปฏิบตั ิงำน ตอ้ งตรวจสภำพควำมแขง็ แรงก่อนใชง้ ำน 6. กำรใชน้ งั่ ร้ำนปฏิบตั งิ ำนบนท่ีสูงจะตอ้ งมนั่ ใจวำ่ นงั่ ร้ำนมีควำมมน่ั คงแขง็ แรง สำมำรถรองรับน้ำหนกั ไดต้ ำมที่มำตรฐำนกำหนด 7. กำรปฏิบตั ิงำนใกลก้ บั สำยไฟหรืออุปกรณ์ไฟฟ้ ำ ควรสวมใส่อปุ กรณ์ป้ องกนั อนั ตรำยจำกกำรสมั ผสั กบั ไฟฟ้ ำ 8. กำรใชเ้ ขม็ ขดั นิรภยั ในกำรปฏิบตั ิงำนบนท่ีสูง ผปู้ ฏิบตั ิงำนควรตรวจสอบก่อนทกุ คร้ังเพอ่ื ดวู ำ่ มีกำรฉีก ปริ ขำด มีรอยตดั หรือไม่ ถำ้ เกิดกำรชำรุดไม่ควรนำไปใชง้ ำน 9. เม่ือปฏิบตั ิงำนบนท่ีสูงต้งั แต่ 3 เมตรข้ึนไป ควรสวมเขม็ ขดั นิรภยั ทกุ คร้ัง 10. เขม็ ขดั นิรภยั และอุปกรณ์ท่ีใชป้ ระกอบควรมีกำรตรวจสอบและเปลี่ยนใหม่เมื่อชำรุด มีกำรตรวจสอบดูระบบลอ็ คของตวั เขม็ ขดั เชือกนิรภยั และจะตอ้ งมีกำรยดึ ติดแน่นกบั โครงสร้ำงของอำคำรหรือบริเวณที่ปฏิบตั ิงำน 23

การเชื่อม ตัดด้วยแก๊สหรือกระแสไฟฟ้ า 1. ขณะที่ทำกำรเช่ือมหรือตดั ดว้ ยแกส๊ หรือกระแสไฟฟ้ ำ ผปู้ ฏิบตั ิงำนจะตอ้ งใชเ้ ครื่อง กำบงั หนำ้ ท่ีเหมำะสม มีเลนส์ป้ องกนั นยั นต์ ำตำมประเภทของกำรเช่ือมหรือตดั น้นั และตอ้ งสวมถุงมือหนงั ดว้ ย 2. ก่อนทำกำรเช่ือมหรือตดั ผปู้ ฏิบตั ิงำนจะตอ้ งเกบ็ วสั ดุท่ีสำมำรถติดไฟไดอ้ อกจำก พ้นื ท่ีปฏิบตั งิ ำนและจะตอ้ งใชอ้ ปุ กรณ์ป้ องกนั สะเกด็ ไฟดว้ ยเพอ่ื ป้ องกนั อคั คีภยั 3. จดั ใหม้ ีอปุ กรณ์ดบั เพลิงท่ีพร้อมใชง้ ำนตลอดเวลำในขณะท่ีมีกำรทำงำนและ ตรวจสอบใหแ้ น่ใจวำ่ ไม่มีไฟหลงเหลอื อยหู่ ลงั งำนเสร็จเรียบร้อยแลว้ 4. ใหห้ ลีกเล่ียงกำรทำงำนใกลก้ บั น้ำมนั เช้ือเพลิงหรือวตั ถุท่ีอำจติดไฟไดง้ ่ำย 5. เมื่อจะใชเ้ ครื่องเช่ือมหรือตดั ดว้ ยกระแสไฟฟ้ ำ ผปู้ ฏิบตั ิงำนจะตอ้ งแน่ใจวำ่ ตนไม่ได้ สมั ผสั กบั พ้นื ที่เปี ยกช้ืน 6. ถำ้ จำเป็นตอ้ งเชื่อมหรือตดั ดว้ ยแก๊สหรือกระแสไฟฟ้ ำ ภำชนะท่ีมีสำรไวไฟอยภู่ ำยใน เช่น ถงั น้ำมนั จะตอ้ งลำ้ งและทำควำมสะอำดเสียก่อน และก่อนเชื่อมหรือตดั ตอ้ ง แน่ใจวำ่ ไมม่ ีไอระเหยของสำรไวไฟตกคำ้ งอยู่ 7. ในกำรเช่ือมหรือตดั ดว้ ยแกส๊ กำรเคลื่อนยำ้ ยถงั บรรจุแก๊สใหป้ ิ ดวำลว์ ใหแ้ น่นและปิ ด ฝำครอบใหเ้ รียบร้อย 8. หลงั จำกเลิกใชแ้ กส๊ จะตอ้ งปิ ดแกส๊ ในถงั เสียก่อน แลว้ ปล่อยแก๊สท่ีคำ้ งอยใู่ นท่อทิง้ 9. ถำ้ ตอ้ งเชื่อมภำชนะหรือวสั ดุท่ีเป็นพษิ ต่อร่ำงกำย เช่น ตะกว่ั โลหะอำบสังกะสี จะตอ้ งมีเครื่องดดู ควนั หรือสวมอปุ กรณ์ป้ องกนั ระบบหำยใจหรือจดั ใหม้ ีกำรระบำย อำกำศที่ 24

การป้ องกนั อคั คภี ยั 1. ปัจจยั ของกำรเกิดเพลิงไหม้ เช้ือเพลิง ควำมร้อน FUEL HEAT ออกซิเจน เกิดปฏิกิริยำลูกโซ่ OXYGEN 2. ประเภทของเพลิงไหม้ 2.1 เพลิงไหมป้ ระเภทเอ (A) เป็นเพลิงไหมจ้ ำกเช้ือเพลิงที่เป็นของแขง็ ทว่ั ไป เช่น ไม้ ถ่ำน กระดำษ ขยะ ผลของกำรเผำไหมจ้ ะเกิดกองถ่ำน คุ ระอรุ ้อนอยู่ 2.2 เพลิงไหมป้ ระเภทบี (B) เป็นเพลิงไหมจ้ ำกของเหลวหรือแกส๊ ที่เป็นสำรไวไฟ เพลิงจะดบั มอดลงเม่ือหมดน้ำมนั หรือแกส๊ เช้ือเพลิงน้นั 2.3 เพลิงไหมป้ ระเภทซี (C) เป็นเพลิงไหมท้ ่ีเกิดกบั อุปกรณ์ไฟฟ้ ำท้งั หมด รวมท้งั เพลิงไหมว้ สั ดุอืน่ ท่ีอยใู่ กลก้ บั แหล่งไฟฟ้ ำ 2.4 เพลิงไหมป้ ระเภทดี (D) เป็นเพลิงไหมท้ ี่เกิดจำกโลหะที่ไวปฏิกิริยำกบั น้ำและลกุ ติดไฟได้ เช่น แมกนิเซียม ไตตำเนียม โครเมียม และอื่นๆ ที่ไวตอ่ ปฏกิ ิริยำ 25

3. แนวทำงปฏิบตั ิกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้ 1. เม่ือพบเหตเุ พลิงไหมใ้ หท้ ำกำรตดั สินใจวำ่ จะทำกำรดบั ไดด้ ว้ ยตนเองไดห้ รือไม่โดย ใชถ้ งั ดบั เพลงิ แบบมือถอื ใหเ้ หมำะสมกบั ชนิดของเพลงิ 2. ถำ้ ดบั ไดก้ ท็ ำกำรแจง้ รำยงำนกำรเกิดอคั คีภยั ใหแ้ ก่กองดบั เพลิงฮิตำชิทรำบทนั ที 3. ถำ้ ดบั ไมไ่ ดก้ ใ็ หท้ ำกำรแจง้ ที่หมำยเลขโทรศพั ท์ 0 หรือตำมหมำยเลขโทรศพั ทฉ์ ุกเฉิน เพอื่ ทำงกองดบั เพลิงฮิตำชิ จะประสำนงำนในกำรใชก้ ำลงั เขำ้ ระงบั กำรเกิดอคั คีภยั 4. ถำ้ อยใู่ นบริเวณที่เกิดเพลิงไหม้ อยำ่ ต่ืนตระหนกตกใจ ใหท้ ำกำรหนีออกจำกบริเวณท่ี เกิดเพลิงไหมใ้ หเ้ ร็วที่สุด เพรำะวำ่ ในกำรเกิดเพลิงไหมจ้ ะทำใหม้ ีปริมำณออกซิเจนใน อำกำศต่ำ อำจทำใหห้ มดสติได้ ในกำรหนีใหป้ ฏิบตั ิตำมหลกั เกณฑก์ ำรหนีไฟ 5. เม่ือออกมำจำกที่เกิดเหตแุ ลว้ ใหแ้ จง้ แก่ผทู้ ี่เขำ้ มำช่วยเหลือถึงสภำพภำยในท่ีพบเห็น แลว้ ออกไปจำกบริเวณน้นั โดยไม่กลบั เขำ้ มำอีก 4. แนวทำงปฏิบตั ิในกำรแจง้ เหตุฉุกเฉิน ผปู้ ระสบเหตหุ รือผปู้ ฏบิ ตั ิงำนที่เห็นเหตุกำรณ์ท่ีจะก่อใหเ้ กิดกำรลกุ ลำม เช่น ไฟไหม้ กำรระเบิด กำ๊ ซหรือสำรพษิ รั่วไหล ใหป้ ฏิบตั ิโดยกำรแจง้ เหตุ คือ 1. กดสญั ญำณเตือนภยั (Fire Alarm) 2. โทรศพั ทแ์ จง้ รำยละเอียดท่ีหมำยเลข 0 หรือตำมหมำยเลขโทรศพั ทฉ์ ุกเฉิน 5. วธิ ีกำรใชถ้ งั ดบั เพลิง (สกดั เพลิงข้นั ตน้ ไมเ่ กิน 3 นำที) 1. หิ้วถงั ดว้ ยมือซำ้ ย สำหรับคนท่ีถนดั ขวำ 2. ดึงสลกั ดว้ ยมือขวำ 3. ใชม้ ือขวำดึงปลำยสำยออก 4. ยนื ห่ำงจำกกองไฟ 2-4 เมตรในทิศทำงเหนือลม 5. กดไกคนั บีบฉีดสำรดบั เพลิงไปท่ีฐำนของไฟ 26

6. ประเภทของถงั ดบั เพลิง 1.ถงั ดบั เพลิงชนิดผงเคมีแหง้ ภำยในบรรจุผงเคมีแหง้ และกำ๊ ซไนโตรเจนในถงั สีแดง ลกั ษณะน้ำยำที่ฉีดออกมำเป็นฝ่ นุ ละอองสำมำรถดบั เพลิง ไหมไ้ ดท้ ้งั ไฟชนิด A B และ C เหมำะสำหรับใชใ้ นท่ีโล่งแจง้ ไม่ควรใชด้ บั ไฟท่ีไหม้ เครื่องจกั ร คอมพวิ เตอร์ หรืออปุ กรณอ์ ิเลก็ ทรอนิกส์ เนื่องจำกทำควำมสะอำดยำก 2. ถงั ดบั เพลิงชนิดกำ๊ ซคำร์บอนไดอ้ อกไซดห์ รือ CO2 ถงั ดบั เพลิง ชนิด CO2 น้ำยำดบั เพลงิ เป็นน้ำแขง็ แหง้ ที่ บรรจุไวใ้ นถงั สีแดง ท่ีทนแรงดนั สูง ที่ปลำยสำยฉีด จะมีลกั ษณะเป็นกระบอกหรือกรวย เวลำฉีด ลกั ษณะ น้ำยำที่ออกมำ จะเป็นหมอกหิมะ ที่ไลค่ วำมร้อน และ ออกซิเจน สำมำรถใชก้ บั ไฟชนิด B และ C เหมำะสำหรับใชภ้ ำยในอำคำร ไฟที่เกิดจำกแกส๊ น้ำมนั และไฟฟ้ ำ 27

6. ประเภทของถงั ดบั เพลิง (ตอ่ ) 3. ถงั ดบั เพลิงชนิด BF 2000 เป็นน้ำยำหรือสำรเหลวระเหย บรรจุในถงั สีเขียว สำมำรถใชไ้ ดก้ บั ไฟชนิด A B และ C ลกั ษณะกำรฉีด ออกเป็นแกส๊ เหลวระเหย น้ำยำชนิดน้ี ไมท่ ิ้งครำบ สกปรก ไมท่ ำลำยส่ิงของเครื่องใช้ หลงั กำรดบั เพลงิ และสำมำรถใชไ้ ดห้ ลำยคร้ัง เหมำะสำหรับ ที่ใชอ้ ุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ ส่ือสำร ในอุตสำหกรรม อิเลคโทรนิกส์ 4. ถงั ดบั เพลิงชนิดน้ำยำโฟม ตวั ถงั ทำดว้ ยสแตนเลส ภำยในเป็นน้ำยำโฟม โดยแรงดนั ที่อดั ไว้ จะดนั น้ำผสมกบั โฟมยงิ ผำ่ นหวั ฉีดฝักบวั พ่นออกมำเป็นฟอง กระจำย ไปปกคลุมบริเวณที่เกิดเพลิงไหม้ ทำใหเ้ กิดกำรอบั อำกำศ มีคุณสมบตั ิพเิ ศษโดยมีแผน่ ฟิ ลม์ น้ำปิ ดไอเช้ือเพลิงปก คลมุ ไมใ่ หไ้ ฟยอ้ นติดข้นึ มำอีก สำมำรถใชไ้ ดก้ บั ไฟชนิด A B เหมำะสำหรับ ดบั ไฟที่เกิดจำกน้ำมนั หำ้ มใชด้ บั เพลิงท่ีเกิดจำก ระบบไฟฟ้ ำเดด็ ขำด เพรำะเป็นสื่อนำกระแสไฟฟ้ ำ 5. น้ำ น้ำสำมำรถใชใ้ นกำรดบั ไฟไดด้ ี คือไฟชนิด A เช่น ไม้ ถำ่ น กระดำษ พลำสติก ผำ้ ยำง เป็นตน้ หำ้ มใชน้ ้ำในกำรดบั เพลิงที่เกิดจำกระบบไฟฟ้ ำเดด็ ขำด เพรำะน้ำเป็นสื่อนำกระแสไฟฟ้ ำ เช่นเดียวกบั ถงั ดบั เพลิงชนิดน้ำยำโฟม 28

ข้นั ตอนกำรปฏิบตั ิเม่ือเกิดไฟไหม้ 29

การปฐมพยาบาล กำรปฐมพยำบำล หมำยถึง กำรช่วยเหลือเบ้อื งตน้ แก่ผปู้ ่ วยหรือผบู้ ำดเจบ็ ก่อนที่จะถงึ มือแพทยห์ รือโรงพยำบำล เพ่ือป้ องกนั อนั ตรำยจนถึงข้นั พกิ ำรหรือเสียชีวติ หลกั ทวั่ ไปในกำรปฐมพยำบำล 1. อยำ่ ต่ืนตกใจ ตดั สินใจใหถ้ ูกและอยำ่ ใหค้ นมุงดู 2. ตรวจดูวำ่ ผบู้ ำดเจบ็ รู้สึกตวั สลบหมดสติ ถำ้ สลบหมดสติ รีบตรวจดูวำ่ ยงั หำยใจไดห้ รือไม่ โดยดทู ี่หนำ้ อกและทอ้ ง หูฟังเสียงหำยใจ เอำหูหรือหลงั มอื รองที่จมูกหรือปำกถำ้ ไมแ่ น่ใจใหร้ ีบยกคำง – แหงนคอ เพือ่ ไมใ่ หล้ ิน้ หลุดลงไปอดุ หลอดลม และคลำ ชีพจรท่ีขำ้ งคอดว้ ย 3. รีบตรวจดใู นปำก คอ อยำ่ ใหม้ ีส่ิงกีดขวำงทำงเดินหำยใจ เช่น เสมหะ เลือด อำเจียน ถำ้ มีตอ้ งรีบเอำออกโดยใชน้ ิ้วสองนิ้วลว้ งออกถำ้ อยลู่ ึกลงไปตอ้ งตบกลำงหลงั ระหวำ่ ง สะบกั ใหไ้ อออกมำ ถำ้ ยงั ไมห่ ำยใจตอ้ งช่วยผำยปอด โดยเป่ ำปำกตดิ ๆ กนั 4 คร้ัง 4. ผปู้ ่ วยที่สลบหมดสติอำจตำยไดจ้ ำกกำรท่ีทำงเดินหำยใจอดุ ตนั ตอ้ งรีบช่วยตำมขอ้ 3 จนสำมำรถหำยใจเองไดแ้ ลว้ พลิกตวั ใหน้ อนในท่ำที่ปลอดภยั โดยใหน้ อนควำ่ ตะแคง หนำ้ ไปขำ้ งใดขำ้ งหน่ึง หรือนอนทำ่ ตะแคง ศีรษะแหงนไปขำ้ งหลงั ใบหนำ้ พลิกคว่ำ เลก็ นอ้ ย คอแหงน เพอื่ ใหห้ ำยใจไดแ้ ละป้ องกนั กำรสำลกั น้ำลำยหรือเลือด ฯลฯ 5. ผบู้ ำดเจบ็ ทุกรำยจะมีอำกำรช็อคไม่มำกก็นอ้ ย ตอ้ งรีบป้ องกนั และแกไ้ ข 6. เม่ือผปู้ ่ วยหำยใจไดเ้ องแลว้ รีบตรวจร่ำงกำยทวั่ ไปวำ่ มีบำดแผลท่ีใด แลว้ รีบใหก้ ำร ปฐมพยำบำล ถำ้ ผปู้ ่ วยยงั รู้สึกตวั กส็ อบถำมดไู ด้ 7. อยำ่ กรอกยำหรือน้ำใหผ้ ปู้ ่ วยท่ีไมร่ ู้สึกตวั เพรำะจะทำใหส้ ำลกั เกิดอนั ตรำยรุนแรงได้ 8. อยำ่ ใหน้ ้ำ ยำหรือส่ิงอน่ื ใดทำงปำกแก่ผทู้ ่ีไดร้ ับบำดเจบ็ อนั ตรำยเกี่ยวกบั ช่องทอ้ ง เพรำะอำจรั่วลงไปในช่องทอ้ งตำมรูทะลุของกระเพำะอำหำร ลำไส้ ทำใหเ้ กิดเยอ่ื บุ ช่องทอ้ งอกั เสบเป็นอนั ตรำยได้ 30

9. รีบใหก้ ำรปฐมพยำบำลตอ่ กำรบำดเจบ็ ที่อำจทำใหเ้ กิดอนั ตรำยถึงแก่ชีวิตโดยเร็ว ก่อน กำรบำดเจบ็ อ่ืนๆ ซ่ึงพอรอได้ กำรบำดเจบ็ ท่ตี อ้ งรีบช่วยเหลือก่อนอ่ืน ไดแ้ ก่ * กำรหำยใจขดั -หำยใจหยดุ และหวั ใจหยดุ เตน้ ทนั ที * กำรตกเลือด * กำรถูกหรือไดร้ ับส่ิงมีพิษตำ่ งๆ 10.(ก) ตอ้ งใหก้ ำรปฐมพยำบำล โดยเรียบร้อยก่อนเคลื่อนยำ้ ยผปู้ ่ วยทุกคร้ัง (ข) ตอ้ งติดตำมดูแลในระหวำ่ งกำรนำส่งโรงพยำบำล (ค) กำรเคล่ือนยำ้ ยหรือนำส่งตอ้ งกระทำใหถ้ กู ตำมวธิ ีกำรแตล่ ะรำย เช่น อมุ้ หรือ ใชเ้ ปลหำม ฯลฯ กำรหำ้ มเลือด 1. หำ้ มเลือดโดยใชผ้ ำ้ สะอำดปิ ดท่ีบำดแผลแลว้ พนั ใหแ้ น่น ถำ้ ยงั มีเลือดไหลซึมให้ ใชน้ ิ้วมือกดลงตรงบำดแผล 2. หำกเลือดไหลบริเวณศรี ษะใหก้ ดที่เสน้ เลือดบริเวณขมบั ดำ้ นที่มีบำดแผล 3. หำกเลือดไหลบริเวณขำใหก้ ดเส้นเลอื ดบริเวณขำหนีบดำ้ นท่ีมีบำดแผล 4. หำกเลือดไหลบริเวณแขนท่อนบน ใหก้ ดลงท่ไี หปลำร้ำ ใกลห้ วั ไหลด่ ำ้ นที่มีแผล 5. หำกเลือดไหลบริเวณแขนทอ่ นล่ำง ใหก้ ดไปที่เสน้ เลือดบริเวณแขนทอ่ นบน ดำ้ นในก่ึงกลำงระหวำ่ งหวั ไหลก่ บั ขอ้ ศอก 31

กำรผำยปอดโดยวธิ ีเป่ ำปำก 1. หนั ศีรษะผปู้ ่ วยไปทำงดำ้ นขำ้ ง ใชน้ ิ้วลว้ งเสมหะ อำหำร หรือสิ่งของอ่ืนๆ ออกมำ 2. จบั ศีรษะผปู้ ่ วยหงำยไปทำงดำ้ นหลงั ใชม้ ือหน่ึงบีบจมูก อีกมือหนุนคำงใหแ้ หงนและ ใชน้ ิ้วหวั แมม่ ือจบั ขำกรรไกรลำ่ งดึงลงใหอ้ ำ้ ปำกออก 3. ผผู้ ำยปอดกม้ ลงครอบปำกลงไปใหแ้ นบสนิกบั ปำกของผปู้ ่ วย เป่ ำลมเขำ้ ไปในปำก ผปู้ ่ วยพร้อมกบั ชำเลืองดหู นำ้ อกของผปู้ ่ วยที่ขยำยตวั สูงข้ึนแลว้ ถอนปำกออกเพื่อให้ ลมในปอดผปู้ ่ วยถ่ำยออกเมื่อหนำ้ อกยบุ ลง 4. ทำซ้ำขอ้ 3 ติดตอ่ กนั ไปใหไ้ ดจ้ งั หวะประมำณ12-15 คร้ัง/นำที ในผใู้ หญ่และ 20 คร้งั /นำที ในเดก็ 5. ตอ้ งผำยปอดโดยวิธีน้ีไปจนกวำ่ ผปู้ ่ วยจะหำยใจไดเ้ องหรือมีผมู้ ำช่วยเหลือ กำรผำยปอดโดยวิธีกดหลงั ยกแขน 1. ใชน้ ิ้วมือลว้ งคอเอำเสมหะ น้ำลำยออก ใหท้ ำงเดินของลมหำยใจสะดวก 2. จบั ผปู้ ่ วยนอนควำ่ แขนท้งั สองขำ้ งงอพบั เขำ้ หำกนั ฝ่ ำมือขำ้ งหน่ึงทบั ฝ่ำมืออีกขำ้ ง หน่ึงตะแคงหนำ้ ผปู้ ่ วยไปขำ้ งใดขำ้ งหน่ึง ใหแ้ กม้ วำงทบั อยบู่ นหลงั มือที่ซอ้ นกนั 3. ผผู้ ำยปอดเขำ้ ทำงศีรษะของผปู้ ่ วยใหช้ ิดชนั เขำ่ ขำ้ งหน่ึงแขนท้งั สองขำ้ งเหยยี ดตรง มือ ชิดกนั วำงฝ่ ำมือตรงชำยสะบกั หวั แมม่ ือวำงไปตำมแนวกระดูกสันหลงั นิ้วท้งั ส่ีชิดติด กนั โนม้ ตวั ไปขำ้ งหนำ้ (อยำ่ งอขอ้ ศอก) ใหน้ ้ำหนกั ตวั กดลงไปกดทรวงอกผปู้ ่ วยยบุ ลง ไปเป็ นกำรหำยใจออก 4. เอนตวั กลบั คืนมำและเอำมือท้งั สองขำ้ ง จบั ท่ีเหนือขอ้ ศอกของผปู้ ่ วยท้งั สองขำ้ ง (แขนเหยยี ดตรง) เอนตวั ไปขำ้ งหลงั ดึงเอำขอ้ ศอกผปู้ ่ วยตำมมำดว้ ยเป็นกำรหำยใจเขำ้ 5. ทำตำมขอ้ 3 และ 4 สลบั กนั ไปประมำณ 12-15 คร้ัง/นำที จนกวำ่ จะหำยใจเองได้ 32

กำรเคลื่อนยำ้ ยผไู้ ดร้ ับบำดเจบ็ 1. กำรเคลื่อนยำ้ ยผบู้ ำดเจบ็ ออกจำกที่เกิดเหตุ ควรพจิ ำรณำกำรช่วยเหลอื ตำมสภำพและ อำกำรของคนเจบ็ เช่น อุม้ แบก หำม พยงุ ตำมควำมเหมำะสมและกระทำดว้ ยควำม ระมดั ระวงั 2. ในกรณีท่ีจำเป็นตอ้ งปฐมพยำบำล เช่น หำ้ มเลอื ด ควรกระทำโดยเร็ว 3. กำรช่วยคนเจบ็ ที่กระดกู หกั แตก เดำะ เคล่ือน หรือเส้นเอน็ ขำด ตอ้ งใหผ้ ทู้ ี่มีควำม ชำนำญเป็นผชู้ ่วยเหลือเท่ำน้นั หำ้ มมีกำรยำ้ ยคนเจบ็ เพรำะกำรช่วยเหลือโดย รู้เทำ่ ไมถ่ ึงกำรณ์จะมีแตผ่ ลร้ำย แตถ่ ำ้ ขำแพลง ขอ้ เทำ้ เคลด็ ขดั ยอก ควรช่วยเหลือดว้ ย กำรพนั ผำ้ ไวแ้ น่นๆ เพอื่ ป้ องกนั กำรบวมมำกข้ึนหรืออำจจะทำเฝือกชว่ั ครำวก็ไดโ้ ดย จำไวว้ ำ่ อยำ่ ไดพ้ ยำยำมดึงขำหรือแขนของผปู้ ่ วยเป็นอนั ขำด 4. ผทู้ ี่ถูกไฟลวก หำ้ มใหค้ นเจบ็ ถกู น้ำเป็นอนั ขำด และรีบส่งใหแ้ พทยเ์ ป็นผชู้ ่วยเหลือ 33

การใช้ยานพาหนะ 1. ผปู้ ฏิบตั ิงำนที่ขบั ข่ียำนพำหนะมำทำงำน ตอ้ งมีใบขบั ขี่ท่ีถกู ตอ้ งตำมกฎหมำย 2. หำ้ มผทู้ ี่ไมม่ ีหนำ้ ที่เก่ียวขอ้ งขบั ขี่ยำนพำหนะ 3. ในกำรขบั รถผปู้ ฏิบตั ิงำนตอ้ งปฏิบตั ิตำมกฎจรำจรอยำ่ งเคร่งครัด 4. หำ้ มขบั รถในอตั รำเร็วเกินกวำ่ ท่ีกฎหมำยกำหนด 5. อยำ่ ขบั รถเร็วบริเวณทำงโคง้ ถนนท่ีมีโคลน มีฝ่ นุ ทรำยหรือน้ำมนั นอง หำกพบ สภำวะดงั กล่ำวใหใ้ ชเ้ กียร์ต่ำช่วย อยำ่ เบรกรถอยำ่ งกะทนั หนั เพรำะจะทำใหร้ ถพลิก ควำ่ ได้ 6. กำรเบรกทกุ คร้ังตอ้ งคอ่ ยๆ เหยยี บเบรกอยำ่ งนุ่มนวลอยำ่ เบรกแบบกะทนั หนั 7. ขณะขบั ลงทำงลำดชนั หรือลงเขำ ใหใ้ ชเ้ กียร์ต่ำ 8. เมื่อขบั รถในเวลำใกลค้ ่ำ หรืออำกำศขมุกขมวั ใหเ้ ปิ ดไฟหร่ีหนำ้ รถทนั ที 9. ไม่ควรปล่อยรถทิ้งไวท้ ้งั ท่ียงั ติดเครื่องยนตอ์ ยู่ หรือติดเครื่องในที่อบั หรือคบั แคบ เพรำะอำจทำใหก้ ๊ำซพษิ จำกทอ่ ไอเสียเพมิ่ มำกข้ึนจนเป็นอนั ตรำยตอ่ ร่ำงกำยได้ 10.ผปู้ ฏิบตั ิงำนตอ้ งขบั ข่ียำนพำหนะอยำ่ งสุภำพและมีกำรเห็นอกเห็นใจผใู้ ชร้ ถคนอื่น 11.ก่อนเคลื่อนรถเดินหนำ้ หรือถอยหลงั ผขู้ บั ข่ีตอ้ งแน่ใจวำ่ ไม่มีคนหรือสิ่งของขวำงท้งั ขำ้ งหนำ้ และขำ้ งหลงั หรือใตท้ อ้ งรถ 12.ผขู้ บั ขี่ตอ้ งไม่ออกรถจนกวำ่ ผโู้ ดยสำรทกุ คนจะอยใู่ นที่นงั่ ที่ปลอดภยั แลว้ 13.ขณะขบั รถตำมรถคนั หนำ้ ใหร้ ักษำระยะห่ำงระหวำ่ งรถไว้ เพอ่ื จะไดห้ ยดุ รถไดโ้ ดย ปลอดภยั หำกรถคนั หนำ้ หยดุ อยำ่ งกะทนั หนั 14.ไม่ควรขบั รถขณะท่ีง่วง มึนเมำแอลกอฮอล์ หรือทำนยำท่ีทำใหเ้ กิดกำรง่วงซึมและไม่ ควรใชโ้ ทรศพั ทข์ ณะขบั ข่ียำนพำหนะ 34

15.กำรขบั ขี่ตอ้ งระมดั ระวงั คนเดินถนนหรือยำนพำหนะอื่นๆ ทอี่ ำจเขำ้ มำใกลอ้ ยำ่ ง กะทนั หนั 16.ตอ้ งไม่เล้ียวซำ้ ยหรือขวำ หรือเปลี่ยนช่องทำงจรำจรจนกวำ่ จะสำมำรถกระทำไดด้ ว้ ย ควำมปลอดภยั และหลงั จำกที่ไดใ้ หส้ ัญญำณอยำ่ ถูกตอ้ งแลว้ 17.เมื่อแล่นผำ่ นรถคนั อ่ืน โดยเฉพำะรถโรงเรียน หรือรถโดยสำรที่จอดใหค้ นข้ึน-ลง ตอ้ งใชค้ วำมระมดั ระวงั เป็นพเิ ศษ 18.ในกรณีที่จำเป็นตอ้ งขบั รถภำยใตส้ ภำพอำกำศหรือสิ่งแวดลอ้ มท่ีผิดปกติ เช่น ควนั ไฟ หมอกลงจดั ผขู้ บั ข่ีตอ้ งเพ่ิมควำมระมดั ระวงั เป็นพเิ ศษ 19.ผขู้ บั ข่ีตอ้ งปฏิบตั ิตำมกฎขอ้ บงั คบั ในกำรจอดรถตำมกฎจรำจรโดยค่อยๆ แลน่ เขำ้ เทียบขอบถนนทีละนอ้ ย และใหส้ ัญญำณอยำ่ งถกู ตอ้ ง 20.เมื่อจำเป็นตอ้ งหยดุ รถบนทำงลำด ทำงชนั หรือในสถำนที่ท่ีรถอำจจะเคล่ือนที่ไดต้ อ้ ง ใชข้ อนไมห้ รือวสั ดุท่ีเหมำะสมวำงขวำงลอ้ ไว้ และใหใ้ ชห้ ำ้ มลอ้ มือดว้ ย เพอื่ กนั ไมใ่ ห้ รถเคล่ือนท่ีหรือถำ้ มีขอบทำงสูงใหห้ นั ลอ้ เขำ้ หำขอบทำงน้นั 35

5ส เพอ่ื ความปลอดภัย สะสำง (Seiri) คือ กำรกำจดั สิ่งของที่ไมจ่ ำเป็นออกไป ใหม้ ำกที่สุดเทำ่ ท่ีจะทำได้ สะดวก (Seiton) คือ เก็บเครื่องมืออปุ กรณ์ไวใ้ นที่ที่ใชง้ ำน ไดส้ ะดวกและเก็บในสภำพที่ปลอดภยั ตอ่ กำรใชง้ ำน สะอำด (Seiso) คือ ดูแลควำมสะอำดของสถำนที่ทำงำน เช่น กำรจดั กำรขยะและส่ิงสกปรกต่ำงๆ สุขลกั ษณะ (Seiketsu) คือ ดแู ลและรักษำสถำนท่ีทำงำน ใหส้ ะอำดเรียบร้อย ถกู สุขอนำมยั สร้ำงนิสยั (Shitsuke) คือ ปฏิบตั ิตำม 4 ส ขำ้ งตน้ เป็ นประจำจนติดเป็ นนิสัย 36

กจิ กรรม KYT K คือ Kiken หมำยถึง อนั ตรำย Y คือ Yoshi หมำยถึง กำรหยง่ั รู้ T คือ Training หมำยถงึ กำรฝึกอบรม “ KYT กำรฝึกอบรมเพอ่ื กำรหยงั่ รู้อนั ตรำย ” ข้นั ท่ี 1 มองดูลกั ษณะงำน แลว้ กล่ำวถงึ อนั ตรำยท่ีแอบแฝงอยู่ และอำจเกิดข้ึนได้ ข้นั ท่ี 2 เลือกจดุ ท่ีมีอนั ตรำยมำกที่สุดเพยี งหน่ึง หรือสองจุด ข้นั ที่ 3 เสนอมำตรกำรต่ำงๆ เพอื่ ควบคุมอนั ตรำยเหลำ่ น้นั ข้นั ท่ี 4 เลือกมำตรกำรป้ องกนั ทด่ี ีที่สุด แลว้ นำมำใชใ้ นกำรทำ “ การชี้นวิ้ ปากยา้ ” 37

สีและสัญลกั ษณ์ความปลอดภัย สีแดง หมำยถึง หำ้ ม, หยดุ , อนั ตรำยสูง, สญั ญำณอนั ตรำย, ป้ องกนั อคั คีภยั หรือ อุปกรณ์ต่ำงๆที่ใชใ้ นกำรดบั เพลิง สีเหลือง หมำยถึง ป้ ำยเตือนช้ีบง่ วำ่ มีอนั ตรำย, เตอื นใหร้ ะวงั , อปุ กรณ์เครื่องมือท่ีใชย้ กหรือเคลื่อนยำ้ ย สีส้ม หมำยถึง เตือนอนั ตรำยท่ีจะเกิดข้ึนอยำ่ งเฉียบพลนั , งำนก่อสร้ำง สีเขียว หมำยถึง สุขภำพอนำมยั , กำรปฐมพยำบำล, สภำวะท่ีปลอดภยั เครื่องมือหรืออุปกรณ์ท่ีปลอดภยั (ยกเวน้ อปุ กรณ์ดบั เพลิง) สีฟ้ ำ/น้ำเงิน หมำยถึง ป้ ำยบงั คบั หรือสัญลกั ษณ์ป้ ำยทวั่ ๆไป สีมว่ ง หมำยถึง อนั ตรำยจำกกำรแผร่ ังสี สีขำว หมำยถึง ทำงผำ่ นเขำ้ -ออก ป้ ำยแสดงทิศทำง, จรำจร, ช่องวำ่ ง ขอ้ แนะนำเพอื่ ใหเ้ กิดควำมปลอดภยั 1. เอำใจใส่ต่อสัญลกั ษณ์และป้ ำยแสดงในโรงงำนและจดจำควำมหมำยใหไ้ ด้ 2. ปฏิบตั ิตำมคำส่ังท่ีระบใุ นสัญลกั ษณ์และป้ ำยแสดงตำ่ งๆ 3. ถำ้ พบวำ่ สญั ลกั ษณ์และป้ ำยแสดงชำรุดเสียหำยใหร้ ำยงำนหวั หนำ้ งำนทรำบทนั ที ป้ ายห้าม ป้ ายเตือนอนั ตราย ป้ ายบงั คบั ป้ ายความปลอดภัย 38

การรายงานอบุ ัติเหตุ 1. เม่ือเกิดอบุ ตั ิเหตุควรรำยงำนใหห้ วั หนำ้ งำนทรำบโดยไมป่ ิ ดบงั หรือสร้ำงหลกั ฐำนเทจ็ 2. เมื่อพบอุบตั ิเหตุ ตะโกนแจง้ ผทู้ ่ีอยขู่ ำ้ งเคียง และหวั หนำ้ งำนในขณะเดียวกนั ให้ หยดุ เคร่ืองจกั รและรีบช่วยเหลือผไู้ ดร้ ับบำดเจบ็ โดยนำตวั รับรับกำรปฐมพยำบำลเบ้ืองตน้ ที่ หอ้ งพยำบำลของบริษทั ฯ 3. ใหป้ ฏิบตั ิตำมคำสงั่ ของหวั หนำ้ งำน ในกำรช่วยเหลือ ผบู้ ำดเจบ็ หยดุ เครื่องจกั รและรำยงำนใหห้ น่วยงำน ที่เก่ียวขอ้ งทรำบ 4. ใหล้ อ้ มบริเวณที่เกิดอบุ ตั ิเหตใุ หอ้ ยใู่ นสภำพเดิม จนกวำ่ กำรสอบสวนจะแลว้ เสร็จหำ้ มมิใหม้ ีกำรเคล่ือนยำ้ ยหรือเปล่ียนแปลงใดๆ 5. หวั หนำ้ งำนจะตอ้ งเขียนรำยงำนกำรเกิดอุบตั ิเหตุ และส่งใหเ้ จำ้ หนำ้ ท่ีควำมปลอดภยั 6. อุบตั ิเหตตุ อ่ ไปน้ีจะตอ้ งจดั ใหม้ ีกำรเขียนรำยงำนกำรเกิดอุบตั ิเหตุ * อบุ ตั ิเหตเุ ลก็ นอ้ ยข้นั ปฐมพยำบำล * อุบตั ิเหตุท่ีก่อใหเ้ กิดกำรบำดเจบ็ ถงึ ข้นั หยดุ งำน * อุบตั ิเหตทุ ี่ทำใหท้ รพั ยส์ ินของบริษทั ไดร้ ับควำมเสียหำย * กำรเกิดอคั คีภยั หรือกำรระเบิด * เสียชีวติ 7. ภำยหลงั กำรเกิดอบุ ตั ิเหตุเจำ้ หนำ้ ที่ควำมปลอดภยั จะตอ้ งสอบสวนอบุ ตั ิเหตุร่วมกบั หวั หนำ้ งำนและผทู้ ี่เก่ียวขอ้ ง ณ สถำนที่เกิดอุบตั ิเหตุ 39

ผทู้ ่ีมีหนำ้ ที่ในกำรสอบสวนอบุ ตั ิเหตุ ไดแ้ ก่ * หวั หนำ้ สำยหรือพนกั งำนระดบั 8 ข้ึนไป * กรรมกำรในคณะกรรมกำรควำมปลอดภยั ประจำบริษทั * เจำ้ หนำ้ ท่ีควำมปลอดภยั ประจำบริษทั * ตวั แทนกองบงั คบั กำรกองดบั เพลิงบริษทั ในกรณีที่เกิดอคั คีภยั หรือระเบิด * ตวั แทนจำกผรู้ ับเหมำ กรณีที่เกิดอุบตั ิเหตุกบั ผรู้ ับเหมำ * ผจู้ ดั กำรฝ่ ำย/ผนก กรณีท่ีมีกำรบำดเจบ็ ถึงข้นั สูญเสียอวยั วะ, ทุพพลภำพ, เสียชีวติ , เกิดอคั คีภยั , ระเบิด, สำรเคมีรั่วไหล หรือทรัพยส์ ินของบริษทั ไดร้ ับ ควำมเสียหำยเป็นมูลคำ่ มำกกวำ่ 2,000 บำท ข้นึ ไป 40

นโยบายระบบบริหารจดั การด้านคุณภาพและสิ่งแวดล้อม “ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ลูกค้าพอใจ ม่งุ มั่นให้ได้ ผลติ ภณั ฑ์ที่ดี” 1. บริษทั จะดำเนินธุรกิจ โดยมงุ่ คำนึงถึงควำมตอ้ งกำรของลูกคำ้ และปฏิบตั ิตำม กฎหมำย ขอ้ กำหนด รวมท้งั มำตรฐำนตำ่ งๆ ของบริษทั ท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั ระบบกำร บริหำรจดั กำรดำ้ นคุณภำพและส่ิงแวดลอ้ ม 2. บริษทั จะดำเนินกำรปรับปรุงแกไ้ ข ระบบกำรบริหำรจดั กำร มงุ่ เนน้ ควบคุมระบบกำร บริหำรจดั กำรดำ้ นคุณภำพและสิ่งแวดลอ้ มพร้อมกบั ดำเนินกำรเชิงแกไ้ ข และป้ องกนั เพอื่ ยกระดบั คุณภำพ ป้ องกนั และลดผลกระทบทำงดำ้ นมลพษิ ตอ่ ส่ิงแวดลอ้ ม 3. บริษทั จะดำเนินกิจกรรมดำ้ นกำรประหยดั พลงั งำน (โดยเฉพำะอยำ่ งยงิ่ น้ำ ไฟฟ้ ำ และ เช้ือเพลิง) และใชท้ รัพยำกรอยำ่ งมีคุณค่ำ (โดยเฉพำะอยำ่ งยง่ิ พลำสติก) เพื่อลด ผลกระทบที่จะเกิดข้ึนกบั สิ่งแวดลอ้ มอยำ่ งต่อเนื่อง 4. บริษทั จะผลกั ดนั กิจกรรม เพอื่ ดำเนินกำรจดั กำรกำจดั กำกของเสียอนั ตรำย และลด ปริมำณขยะที่เกิดข้ึนพร้อมกบั ทำกำรกำจดั ดว้ ยวธิ ีท่ีปลอดภยั และถูกตอ้ งตำมกฎหมำย 5. บริษทั จะดำเนินกำรประชุมทบทวน และปรับปรุงวตั ถุประสงค์ เป้ ำหมำย และระบบ กำรบริหำรจดั กำรดำ้ นคุณภำพและส่ิงแวดลอ้ มของบริษทั ใหม่ทกุ งวดงบประมำณ หรือเม่ือมีกำรเปลี่ยนแปลงเน้ือหำกำรประกอบกำรของบริษทั 6. บริษทั จะจดั สรรงบประมำณที่จำเป็น เพือ่ ใหบ้ รรลุผลสำเร็จตำมเป้ ำหมำย ของระบบ กำรบริหำรจดั กำรดำ้ นคุณภำพและสิ่งแวดลอ้ ม 7. บริษทั จะดำเนินกำรปรบั ปรุง แกไ้ ขระบบกำรบริหำรจดั กำรคุณภำพ และส่ิงแวดลอ้ ม อยำ่ งตอ่ เนื่อง พร้อมกบั แจง้ นโยบำยและผลกำรดำเนินกำรดงั กลำ่ วใหพ้ นกั งำนทกุ คน ไดร้ ับทรำบอยำ่ งทวั่ ถึง และจะส่ือสำรขอ้ มูลเกี่ยวกบั ควำมตอ้ งกำรของลกู คำ้ รวมท้งั เผยแพร่ขอ้ มลู ใหแ้ ก่สำธำรณะชนทวั่ ไปดว้ ยวธิ ีกำรที่เหมำะสม 41

การจัดการขยะ การจดั การของเสียท่ีเกดิ ขนึ้ จากการเข้ามาปฏบิ ัตงิ าน กำรทิ้งขยะในโรงงำน แบง่ ตำมลกั ษณะขยะ ดงั น้ี 1) ขยะทว่ั ไป - ขยะทวั่ ไปท่ีเกิดจำกกำรอปุ โภค บริโภค เช่น เศษอำหำร ทิ้งใน ถงั ขยะสีเหลือง - ภำชนะบรรจุอำหำร, กลอ่ งโฟมใส่อำหำร ทิง้ ใน ถงั ขยะสีเทำ - ขยะทว่ั ไปท่ีเกิดจำกกระบวนกำรผลิตหรือจำกกำรทำงำน เช่น ถงุ พลำสติก, เศษกระดำษ, เศษผำ้ ทิง้ ใน ถงั ขยะสีเขียว 2) ขยะอนั ตรำยที่มีสำรพษิ ปนเป้ื อน เช่น เศษผำ้ , กระดำษพลำสติก, ถุงมือ ท่ีเป้ื อนน้ำมนั หรือสำรเคมี กระป๋ องน้ำมนั จำระบีหรือสำรเคมี, สำยไฟฟ้ ำ, หลอดไฟ, ถ่ำนไฟฉำย, แบตเตอรี่ เป็นตน้ ทิง้ ใน ถงั ขยะสีแดง “ขยะในมอื ของท่านทงิ้ ลงถังให้ถูกประเภท” 42

66001 037-280-227 66030 66043 66002 037-211-099 037-283-171 66031 1 037-291-750 66029 66008 037-288-196 66032 66010 037-289-117 ,037-651-461 2 66024 66023 66013 66014 037-480-814 17 1 66015 037-455-451 2 66016 66028 .. ( ) 610/1 . 9 . 25110 . 037-284-000 . 037-284-174 43


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook