หลกั ฐาน ทางประวัติศาสตร์ Historical Evidence
ฆาตกรรมในโรงเรยี น ในวันเปดิ เทอมวนั แรก อาจารยส์ อนวิชาภูมิศาสตรท์ า่ นหนง่ึ ถกู ฆาตกรรมอยา่ งเปน็ ปริศนา ตารวจจบั ผู้ตอ้ งสงสัยได้ 4 คนไดแ้ ก่ ช่างทาสวน คณุ ครูคณติ ศาสตร์ คณุ ครูพละ และครใู หญข่ อง โรงเรยี น ซง่ึ ตอนทเี่ กดิ เหตฆุ าตกรรมขนึ้ ทัง้ 4 คนกอ็ า้ งว่าตนเองได้ทากิจกรรมบางอยา่ งอยู่ 2
• คนสวนอา้ งว่าตนกาลงั ตดั พุม่ ไม้ • คณุ ครูคณติ ศาสตรอ์ า้ งวา่ กาลงั ตรวจขอ้ สอบกลาง ภาค • คุณครพู ละอ้างวา่ กาลงั เล่นบาสเก็ตบอลอยู่ • คณุ ครใู หญอ่ ้างวา่ กาลังอยู่ในห้องทางานของเขา ฆาตกรถกู จับทนั ทจี ากคาท่กี ล่าวอ้างมา แล้วใครละ่ เป็นฆาตกรท่ฆี ่าคุณครูภูมศิ าสตร์ และทาไมตารวจถึงรู้ ? 3
เฉลยฆาตกรรมในโรงเรยี น ฆาตกรคือคณุ ครคู ณิตศาสตร์ เพราะจากคากล่าวอ้างท่วี ่า เขากาลงั ตรวจข้อสอบกลางภาค แตฆ่ าตกรรม เพ่ิงขนึ้ ในวันเปดิ เรียนวันแรกเท่าน้นั 4
หลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์ Historical Evidence หลักฐานทางประวัตศิ าสตรค์ อื อะไร ทาไมตอ้ งใช้หลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตร์ ? 5
หลักฐานทางประวัตศิ าสตร์ Historical Evidence ถา้ เราตอ้ งการศกึ ษาเร่อื งราวทางประวัตศิ าสตร์ เราสามารถสืบค้นหาหลกั ฐานทางประวัตศิ าสตร์ได้จาก แหลง่ ใดได้บา้ ง? 6
หลักฐานทางประวัติศาสตร์ “หลักฐาน” อา้ งองิ “ความรู้” “ประวัติศาสตร์” เป็นความรู้แบบ “ศาสตร์” คือ เป็นความรทู้ ี่มี การจดั ระเบยี บ (Organized) 7
ตัววตั ถุ บคุ คล หรือ เอกสารท่ี อา้ งอิง “หลักฐาน” ทิ้งร่องรอยของอดีตใหป้ รากฎ อยู่ในปจั จบุ ัน เครื่องนาทางในการศึกษา สบื คน้ แสวงหา ข้อเทจ็ จริงเกี่ยวกับเรอื่ งราวในอดตี ของมนษุ ยไ์ ดใ้ นระดบั หน่ึง ร่องรอยจากพฤติกรรมของมนุษย์ในอดีต ได้แก่ ร่องรอยการกระทา การพูด การเขยี น การสรา้ งสรรค์ การอย่อู าศัยของมนษุ ย์ ความคิด โลกทศั น์ ความรู้สึก ประเพณี รวมทง้ั สงิ่ ต่างๆ ตามธรรมชาตทิ ่มี ีสว่ นเกีย่ วข้องกบั สงั คมมนุษย์ 8
ประเภทหลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตร์ จำแนกตำมควำมสำคญั ของหลักฐำน 1. หลักฐานชัน้ ตน้ (Primary Source) หลกั ฐานทเ่ี กิดข้ึนในช่วงเวลาทต่ี อ้ งการศึกษา และบันทึกหรอื จัดทาขึ้นโดยบคุ คลท่ี รูเ้ หน็ หรอื รว่ มอยูใ่ นเหตุการณ์นน้ั ๆ ด้วยตนเอง เปน็ ได้ลายลกั ษณอ์ กั ษรและทไ่ี ม่เป็นลายลักษณอ์ ักษร แตต่ อ้ งไมเ่ ปน็ หลกั ฐานดัง้ เดิม(Original) ความนา่ เชือ่ ถือมาก (แตไ่ ม่เสมอไป) 9
1. หลกั ฐานช้นั ตน้ (Primary Source) 10
ประเภทหลกั ฐานทางประวัตศิ าสตร์ จำแนกตำมควำมสำคัญของหลักฐำน 2. หลักฐานชน้ั รอง (Secondary Source) หลักฐานทผี่ ู้บนั ทกึ ได้รับรไู้ ม่ไดอ้ ยใู่ นเหตกุ ารณ์โดยตรง รวมทั้งงานเขยี นทางประวตั ิศาสตร์ทีศ่ ึกษาข้อมลู จากหลกั ฐานชน้ั ตน้ 11
2. หลกั ฐานช้นั รอง (Secondary Source) 12
ประเภทหลกั ฐานทางประวัติศาสตร์ จำแนกตำมลกั ษณะของหลกั ฐำน 1.หลักฐานท่ีเปน็ ลายลกั ษณอ์ กั ษร (Written Records) คือ หลักฐานที่เป็นตวั หนงั สือ เชน่ จารึก ตานาน บนั ทกึ ความทรงจา เอกสารทางราชการ ชวี ประวัติ จดหมายส่วนตัว หนงั สอื พมิ พ์ นิตยสาร วารสาร กฎหมาย วรรณกรรม งานเขยี นทางประวัตศิ าสตร์ 13
จารกึ • เปน็ หลกั ฐานประเภทลายลกั ษณอ์ ักษร • อาศยั การบันทึกบน เนือ้ ศิลา แผ่นอฐิ แผน่ เงิน แผ่นทอง แผน่ โลหะ • วิธีการใชโ้ ลหะแหลมขูดเน้ือศิลาใหเ้ ปน็ ตัวอกั ษร เรยี กวา่ จาร หรือ การจารึก • ภาษาและตัวอักษรทพี่ บลว้ นแตกตา่ งจาก ปจั จบุ ัน 14
ตานาน พจนานกุ รม ฉบับราชบัณฑติ ยสถาน พ.ศ. 2554 ได้ให้นยิ ามของคา \"ตานาน\" ไวว้ า่ • เร่ืองแสดงความเป็นมาแตป่ างหลังของสถานท่ี บุคคล หรอื พิธกี รรม เปน็ ต้น • เร่อื งราวนมนานทีเ่ ล่ากนั สบื ๆ มาเช่น ตานานพุทธเจดยี ์, ตานานเจ้าแม่ล้ิมกอเหนย่ี ว • นิยมจารลงบนใบลาน และคดั ลอกกนั ต่อ ๆ มา ทาใหเ้ ร่ืองราวผิดเพ้ยี น 15
พงศ์ + อวตาร พงศาวดาร • การอวตารของเทพเจ้า (พระนารายณ์) 16 • เรอ่ื งราวที่บนั ทกึ เนน้ พระมหากษัตรยิ ์เปน็ ศนู ยก์ ลาง นยิ มบนั ทึกเร่ือง การเมือง, สงคราม • เป็นหลกั ฐานชัน้ รอง เพราะผ่านการชาระ • ลกั ษณะการบันทึก เรยี งตามลาดบั เวลา
พระราชพงศาวดาร • ฉบับหลวงประเสริฐอักษรนิต์ิ 17 เปน็ ฉบบั เกา่ แก่ทีส่ ดุ ท่คี น้ พบในปจั จุบัน เขียนในสมัยพระนารายณ์ นา่ เชอื่ ถือที่สุด เร่อื งความแมน่ ยา • ฉบับพระจกั รพรรดิพงษ(์ จาด) เน้ือหาเริม่ ตั้งแตแ่ รกสถาปนากรงุ ศรีอยธุ ยาจนถึงปลายรัชสมัยพระเจ้าทา้ ยสระ • จดหมายเหตวุ ันวลิต แตง่ โดยนายเยเรเมียส ฟาน ฟลตี • จดหมายเหตลุ าลูแบร์ แตง่ โดยซิมง ลา ลูแบร์ อคั รราชทูตชาวฝร่งั เศส
พระราชพงศาวดาร • คาให้การขนุ หลวงวดั ประดู่ทรงธรรม 18 เป็นคาให้การของขุนหลวงวดั ประดทู่ รงธรรม คอื สมเดจ็ พระเจ้าอทุ ุมพร • คาใหก้ ารชาวกรงุ เก่า ไดต้ น้ ฉบบั มาจากประเทศพม่า ตน้ ฉบบั ดงั้ เดิมเป็นคาใหก้ ารเป็นภาษามอญและไดแ้ ปลเป็นภาษาพมา่ อกี ทอดหนึ่ง แลว้ แปลเปน็ ภาษาไทย • ฉบับสมเด็จพระพนรตั น์ วดั พระเชตพุ น เนื้อหาเริ่มต้ังแต่พระเจา้ เชียงรายและชาวเมืองอพยพมาสร้างกรงุ ศรอี ยุธยา จนถึง นายบญุ เรอื งเผาตวั ในปี พ.ศ. 2333
พระราชพงศาวดาร • ฉบบั หมอบรดั เล 19 เน้ือหาใกล้เคียงกับฉบบั พระพนรตั น์ • ฉบบั ของบรติ ชิ มวิ เซียม ถูกชาระโดยอาศัยพงศาวดาร 3 เรื่องมาคัดรวมกนั คอื พงศาวดารเมืองสวรรค โลก พระราชพงศาวดารกรงุ ศรีอยธุ ยา ฉบบั พันจนั ทนมุ าศ (เจิม) และพระราช พงศาวดารกรุงธนบุรี ฉบับพันจนั ทนมุ าศ (เจิม) • ฉบับพนั จนั ทนุมาศ (เจิม) เนอื้ หาเร่ิมตั้งแต่แรกสถาปนากรงุ ศรอี ยุธยาจนสิ้นสดุ รัชกาลสมเด็จพระเจา้ กรงุ ธนบรุ ี เปน็ ตน้ ฉบับในการชาระพงศาวดารในยุคหลงั แต่เนอ้ื หาขาดหายไปบางส่วน
พระราชพงศาวดาร • ฉบับพระราชหัตถเลขา สันนิษฐานว่าพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจา้ อยหู่ วั ทรงชาระ • พระราชพงศาวดารกรุงรตั นโกสนิ ทร์ฉบับเจ้าพระยาทพิ ากรวงศ์ • พระราชพงศาวดารเหนือ ฉบับพระวเิ ชยี รปรชี า(น้อย) • พงศาวดารโยนก ฉบบั พระยาประชากิจกรจกั ร(แช่ม บุนนาค) 20
เอกสารการปกครอง หรือ เอกสารราชการ เอกสารเกยี่ วกับการบรหิ าร ราชการฝา่ ยปกครอง หอสมดุ แหง่ ชาติและหอจดหมายเหตแุ หง่ ชาตริ วบรวมไว้ ใบบอก คือ รายงานจากหัวเมอื งเข้ามายงั สว่ นกลาง สารตรา คอื หนงั สือของเสนาบดีมีไป ถงึ เจ้าเมือง ศุภอักษร คือ หนังสือจากเสนาบดไี ปถึงเจา้ ประเทศราช หนงั สือโตต้ อบราชการ รายงานการประชมุ เอกสารการทตู • สว่ นใหญเ่ ปน็ เอกสารสมัยรตั นโกสินทร์ • เอกสารราชการของสมยั อยุธยาส่วนใหญ่สญู หายไป เม่อื ครัง้ เสยี กรงุ 21
เอกสารอนื่ ๆ • จดหมายเหตุหรอื บันทึกของชาวตา่ งชาติ • วรรณกรรม • บันทกึ ความทรงจา • หนงั สอื พิมพ์ • งานนิพนธ์ประวตั ศิ าสตร์ 22
ประเภทหลักฐานทางประวตั ศิ าสตร์ จำแนกตำมลกั ษณะของหลกั ฐำน 2. หลกั ฐานท่ีไมเ่ ปน็ ลายลกั ษณอ์ ักษร (Material Remains) คือ หลกั ฐานทเ่ี ปน็ วตั ถุ ไมเ่ ปน็ หลักฐานท่มี ตี วั หนังสือ ซ่งึ เป็นหลักฐานทางโบราณคดี เชน่ รปู เคารพ มหาวิหาร โครงกระดกู มนุษย์ กระดกู สตั ว์ 23
หลกั ฐานโบราณคดี แหล่งโบราณคดี คือ สถานท่ที ก่ี ่อสรา้ งโดยฝมี อื มนุษย์ หรอื สถานทท่ี ี่พบร่องรอยของกิจกรรมของมนุษยใ์ นอดตี ทม่ี ีคุณคา่ ในทาง ศิลปะ ประวตั ศิ าสตร์ และโบราณคดี 24
หลกั ฐานดา้ นศลิ ปกรรม 25
ขนบธรรมเนยี ม ประเพณี ความเช่อื 26
ประเภทหลักฐานทางประวตั ศิ าสตร์ จำแนกตำมจุดมุ่งหมำยของกำรผลติ 1. หลักฐานท่มี นุษย์ตัง้ ใจสร้างขึน้ คอื หลักฐานที่มนุษย์สร้างข้ึนเพือ่ ใช้ในการดารงต 2. หลกั ฐานที่มิได้เปน็ ผลผลิตทมี่ นษุ ย์สรา้ งหรอื ตัง้ ใจสร้าง คือ วธิ ีการทางประวตั ิศาสตร์ กระบวนการสืบคน้ เรื่องราวในอดตี ของสังคมมนุษยเ์ ร่ิมต้นท่ี ความอยากร้อู ยากเหน็ ของผู้ตอ้ งการ ศกึ ษาและตอ้ งการสอบสวนค้นคว้า หาคาตอบดว้ ย ตนเอง จากรอ่ งรอยทค่ี นในอดีตไดท้ าไวแ้ ละตกทอดเหลอื มาถงึ ปัจจุบนั 27
แบบฝึ กหดั 1. เหตุใดการศกึ ษาประวัตศิ าสตร์จึงจาเป็นต้องใช้หลักฐานทางประวัตศิ าสตร์(2) 2. หลกั ฐานทางประวัตศิ าสตรท์ ี่เป็นลายลกั ษณ์อักษร เป็นขอ้ มูลทางประวตั ศิ าสตร์ทีต่ อ้ งนามา ดาเนนิ การ อย่างไรตอ่ ไป ก่อนที่จะนาไปใช้อา้ งอิง (2) 3. ในปจั จบุ ันการรบั รู้ขอ้ มลู ขา่ วสารจากแหล่งตา่ ง ๆ ของนกั เรียนต้องใหค้ วามสาคัญในเรื่องใด เพ่ือไม่ให้ การรบั รูน้ นั้ ผดิ พลาด (2) 4. หลักฐานทางประวัตศิ าสตร์ทีม่ ีความน่าเช่อื ถอื ควรมลี กั ษณะอยา่ งไร ตอบตามความคิดเหน็ ของตนเอง (2) 5. เพราะเหตุใดจึงจาเปน็ ตอ้ งให้ความสาคัญกบั การจาแนกหลักฐานทางประวตั ศิ าสตร์(2) 28
กิจกรรม ตอบคาถาม หลกั ฐานทางประวัตศิ าสตร์ https://wordwall.net/th/resource/4398885 29
เอกสารอ้างอิง เฉลมิ มลิลา นิติเขตต์ปรชี า. (2559). เทคนคิ วิธกี ารสอนประวตั ิศาสตร์. กรุงเทพฯ : สานกั พิมพ์แหง่ จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลัย. ทวศี ลิ ป์ สบื วฒั นะ. (2554). แนวคิดและแนวทางการศึกษาประวัตศิ าสตร์ท้องถนิ่ . กรุงเทพฯ : อินทนิล. ธงชยั วนิ ิจจะกลู . (2562). ออกนอกขนบประวัติศาสตร์ไทย. นนทบรุ ี : ฟา้ เดียวกนั . นิธิ เอยี วศรวี งศ,์ อาคม พฒั ิยะ. (2525). หลักฐานประวัติศาสตร์ในประเทศไทย. กรงุ เทพฯ : บรรณกิจ. พลบั พลึง คงชนะ. (2532). หนว่ ยที่ 1 กระบวนการเรียนร้แู ละการใช้หลักฐานทางประวตั ศิ าสตร์/ ประวตั ศิ าสตร์ไทย เล่มที่ 1 : หนว่ ยที่ 1-8. ฉบบั ปรบั ปรุงคร้งั ท่ี 3. นนทบรุ ี : มหาวทิ ยาลยั สโุ ขทยั ธรรมาธริ าช. มทั นา เกษกมล. (2541). ประวัตศิ าสตรแ์ ละวธิ กี ารทางประวตั ศิ าสตร์. ชลบุรี : ภาควิชาประวัตศิ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั บรู พา. วงเดือน นาราสจั จ์. (2549). ประวัติศาสตร์ : วธิ กี ารและพฒั นาการ. กรงุ เทพฯ: ภาควชิ าประวัตศิ าสตร์ คณะสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ศรีนครนิ ทรวโิ รฒ. สายชล สัตยานรุ กั ษ์. (2532). หนว่ ยที่ 1 การศึกษาประวตั ศิ าสตรไ์ ทยและการใช้หลักฐานทางประวตั ิศาสตร์ / ประวัติศาสตร์ ไทย เล่มท่ี 1 : หนว่ ยท่ี 1-8. นนทบรุ ี : มหาวิทยาลยั สโุ ขทยั ธรรมาธริ าช. 30
Search
Read the Text Version
- 1 - 30
Pages: