As Muslims, we are advised the best example to follow is that of Prophet Muhammad (peace be uponhim), for his daily habits not only had spiritual benefits, but also physical and physiological benefits too.And this is spot on. Allah says:“Indeed in Prophet Muhammad (peace be upon him), you have an excellent example to follow for him whohopes for (the Meeting with) Allah and the Last Day, and remembers Allah much.” [Al-Qurán 33:21]Many of these benefits have already been affirmed by science too. Here are some of them.ในฐานะมุสลิมแบบอย่างท่ีดีท่ีสุดคือแบบอย่างของท่านศาสดามูฮัมหมัด (ซ.ล.) กิจวัตรประจาวันของท่านไม่เพียงแต่มีประโยชน์ทางด้านจิตวิญญาณ แต่ยังคงมีประโยชน์ทางด้านร่างกายและทางสรีรวิทยาเช่นกัน ดังท่ีอัลลอฮ์ตรัสว่า “โดยแน่นอนในรอซู้ลของออัลลอฮ์มีแบบฉบับอันดีงามสาหรับพวกเจ้าแล้ว สาหรับผู้ที่หวัง(จะพบ) อัลลอฮแ์ ละวันปรโลกและราลึกถงึ อลั ลอฮ์อย่างมาก” (อัลอะฮ์ซาบ : 21) คุณประโยชน์เหล่าน้ีได้ผ่านการรับรองแล้วทางวิทยาศาสตร์และน่ีคือเคล็ดลับสุขภาพ 10 ประการท่ีสนุ นะห์และวทิ ยาศาสตรค์ ้นพบ1. Early Riser: 1. การตื่นนอนตัง้ แต่เช้าตรู่Prophet Muhammad (peace be upon him) slept ท่านศาสดามฮู ัมหมัด (ซ.ล.) เป็นผ้ทู เ่ี ข้านอนเร็ว และท่านearly and woke up with the Adhan (call of prayer) จะตื่นนอนเมื่อได้ยินเสียงอาซาน (เสียงเชิญชวนมาof Fajr (the morning prayer) each day. Being an ละหมาด) ของละหมาดซบุ ฮิ (ละหมาดเม่ือมีแสงอรุณข้ึน)early riser has scientifically been correlated with ตามหลักวิทยาศาสตร์แล้วคนที่ตื่นนอนตอนเช้าจะมีbetter productivity, as well as better mental health ประสิทธิภาพในการทางานมากกว่า รวมท้ังจะมีin general. So, waking up early may be hard but สขุ ภาพจติ ทดี่ ีข้นึ ถงึ แมว้ า่ การตนื่ นอนตอนเชา้ อาจจะเป็นwith baby steps, even if it’s just waking up 15 สง่ิ ท่ยี าก แตก่ ็มขี นั้ ตอนทสี่ ามารถทาได้ง่ายๆ เช่น การต่ืนminutes earlier to start with, you can begin นอนเร็วขึ้นเพียง 15 นาที ก็สามารถปรับเปล่ียนคุณภาพimproving your quality of life. ชีวติ ของคุณได้
2. Eating Less: 2. การรบั ประทานอาหารแตน่ ้อย“The son of Adam does not fill any vessel worse ท่านศาสดามูฮมั หมดั (ซ.ล.) กล่าววา่than his stomach. It is sufficient for the son of \"ไม่มีภาชนะใดที่มนุษย์จะเติมเต็มสิ่งไม่ดีลงไปAdam to eat a few morsels to keep him alive. Ifhe must fill it, then one-third for his food, one-third ได้มากไปกว่าท้องของเขา เป็นการเพียงพอแล้วfor his drink, and one-third for air.” [Al-Tirmidhi & สาหรบั ลกู หลานอาดัม ที่เขาจะบริโภคอาหารแต่น้อยIbn Majah] ให้พอพยุงร่างกายได้ แต่ถ้าหากว่าจาเป็นต้องบริโภคThe practice of eating less to prevent sickness มากกว่านั้น ก็ให้แบ่ง หน่ึงส่วนสามสาหรับอาหารand disease was emphasized by Prophet หนึ่งส่วนสามสาหรับเครื่องดื่ม และอีกหนึ่งส่วนสามMuhammad (peace be upon him), and now สาหรับลมหายใจ“ (บันทึกโดยติรมิซีย์ และอิบนูbacked heavily by science much later. The Islamic มาญะห์)concept ‘1/3 for your food, 1/3 for your liquids,and 1/3 for your breath’ matches very closely to ทั้งน้ีท่านศาสดามูฮัมหมัด (ซ.ล.) ได้เน้นย้าให้the Japanese ‘hara hachi bu’ concept, which รับประทานอาหารแต่น้อยเพื่อป้องกันโรคภัยไข้เจ็บmeans eat until you are only 80% full. ซ่ึงสอดคล้องกับหลักการทางวิทยาศาสตร์ปัจจุบัน อย่างย่ิง อิสลามมีแนวคิดในการแบ่งกระเพาะอาหาร ออกเป็น 3 ส่วน คือ 1 ส่วนสาหรับอาหาร 1 ส่วน สาหรับนา้ และอกี 1 ส่วนสาหรับลมหายใจ แนวคิดนี้ มีความใกล้เคียงอย่างมากกับแนวคิดฮารา ฮาชิ บู (วัฒนธรรมการกินแบบเกือบอ่ิม) ของชาวญี่ปุ่นเกาะ โอกินาวา ซึ่งก็คือการกินให้อ่ิมเพียง 80% ของขนาด กระเพาะอาหาร
3. Eating Slowly: 3. การรบั ประทานอาหารอยา่ งชา้ ๆ เราต่างก็รู้ดีว่าการส่งสัญญาณจากกระเพาะWe now know that it takes our body 20 minutes tosend signals to our brain that it is full. Slow eating อาหารไปยงั สมอง เพื่อให้รับรู้ได้ถึงความอิ่ม จะต้องใช้will help you eat less food and improve your เวลาประมาณ 20 นาที ดังน้ันการรับประทานอาหารdigestion, and it is a practice Muhammad (peace อย่างช้า ๆ จะช่วยใหร้ ับประทานอาหารได้ในปริมาณท่ีbe upon him) did himself and strongly advocated. ลดลงและมีการเผาผลาญไขมันในร่างกายเพิ่มข้ึน และ นี่คือสิ่งที่ ท่านศาสดามูฮัมหมัด (ซ.ล.) ได้ปฏิบัติและ4. Mindful Eating: สนบั สนนุ ใหก้ ระทาอยา่ งยิ่ง“Eat together and not separately, for the blessing 4. การรบั ประทานอาหารเป็นญามาอะฮ์is associated with the company.” [Ibn Majah]The Prophet (peace be upon him) stressed this, ทา่ นศาสดามฮู ัมหมดั (ซ.ล.) กล่าววา่and today sharing and enjoying food has been “จงร่วมวงกันรับประทานอาหารเถิด พวกท่านอย่าได้proven to reduce stress, improve family and แยกกันทาน และพระองค์จะประทานความจาเริญแก่romantic relationships, and build healthy eating พวกท่านจากอาหารน้นั ” (บันทึกโดยอบิ นูมาญะห์)habits within children. ท่านศาสดามูฮัมหมัด (ซ.ล.) ได้เน้นย้าในเรื่องน้ี5. Water: และปัจจุบันการแบ่งปันและการรับประทานอาหาร ร่วมกันได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถลดความตึง“Do not drink in one gulp like a camel, but in two เครียด อีกท้ังยังเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่หอมหวานor three (gulps). Mention the Name of Allah (i.e., ภายในครอบครัว และสร้างลักษณะนิสัยการกินให้say Bismillah) when you start drinking and praise เดก็ ๆเพอ่ื สุขภาพทีด่ ีได้Him (i.e., say Al-hamdu lillah) after you havefinished (drinking).” [Al-Tirmidhi] 5. การดืม่ นา้Science today proves that when a person drinkstoo much water in a short period of time they can “อยา่ ดื่มน้ารวดเดียวแบบอูฐด่ืม แต่ควรจิบสองถึงสามexperience headaches, imbalance in blood คร้ัง ก่อนเริ่มดื่มให้กล่าวพระนามของอัลลอฮ์ด้วยการelectrolyte levels and sometimes dizziness too. กล่าวว่า “บิสมิลลาฮ์” และเม่ือดื่มเสร็จให้กล่าวว่าDrinking slowly helps you actually absorb the fluid “อัลฮัมดุลิลลาฮฺ” เป็นการขอบคุณอัลลอฮ์” (บันทึกand get the most benefit out of it. โดยติรมิซยี )์ วิทยาศาสตร์ในปัจจุบันได้พิสูจน์แล้วว่าการด่ืม น้าในปริมาณมากอย่างรวดเร็ว จะทาให้มีอาการปวด หัว และมภี าวะระดบั เกลอื แรใ่ นเลอื ดไมส่ มดุลพร้อมทง้ั เป็นสาเหตใุ ห้เกิดอาการวิงเวียนศรี ษะ ดังนน้ั การด่ืมน้า อย่างช้าๆจะทาให้ร่างกายสามารถดูดซึมของเหลวได้ อย่างแท้จรงิ อกี ทัง้ รา่ งกายยังได้รบั ประโยชน์สงู สดุ
6. Pomegranates: 6. ทบั ทมิ ผลไมเ้ พ่อื สขุ ภาพ“Pomegranate and its rind strengthen digestion รายงานจากท่านอาลี (ร.ฎ.) ว่าท่านศาสดามูฮัมหมัด(stomach).”[Abu Nuaim | Narrated by `Ali] (ซ.ล.) กล่าวว่า “ผลทับทิมและเปลือกของมันทาให้ระบบย่อยModern scientific research has proven อาหารแข็งแรง (กระเพาะอาหาร)”pomegranates to be one of the healthiest foodson the planet. They contain manganese, which งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์สมัยใหม่พิสูจน์แล้วว่าทับทิมhelps in the formation of bone structures during เป็นหนึ่งในผลไม้ท่ีดีต่อสุขภาพที่สุดในโลก เนื่องจากในทับทิมthe metabolic process, and potassium, which aids ประกอบไปด้วยแมงกานีสท่ีช่วยในการสร้างสุขภาพกระดูกให้in maintaining cellular function and keeps a แข็งแรงระหว่างกระบวนการเผาผลาญอาหาร และbalance in fluid levels. They are also potent in โพแทสเซียมที่ช่วยในการบารุงเซลล์และรักษาระดับความflavonoids and polyphenols, antioxidants which สมดุลของน้าในร่างกาย ย่ิงไปกว่าน้ันในทับทิมยังมีฟลาโวprotect our bodies against heart disease. นอยด์ โพลีโฟนอล และสารต้านอนุมูลอิสระที่สามารถป้องกัน โรคหวั ใจไดอ้ ีกด้วย7. Fasting: 7. การถอื ศลี อด“The Messenger of Allah (peace and blessings ofAllah be upon him) was keen to fast on Mondays รายงานจากอาอชิ ะฮ์ (ร.ฎ.) วา่and Thursdays.” [Al-Nasaa’i, 2320] “ท่านศาสดามูฮัมหมัด (ซ.ล.) จะกระตือรือร้นในการถือศีลอด“If you fast any part of the month then fast on the ในวันจันทร์และพฤหัสบดี” (บันทึกโดยอันนะสาอีย์, 2320)thirteenth, fourteenth and fifteenth.” [Al-Nasaa’i, และมีรายงานจากท่านอบูซัรริน อัลฆิฟารีย์ (ร.ด.) ว่าท่าน2424; Ibn Maajah, 1707; Ahmad, 210] ศาสดามูฮัมหมัด (ซ.ล) กล่าวว่า “หากต้องการจะถือศีลอดช่วงRecent evidence is showing that not just the food ใดช่วงหน่ึงของเดอื น ให้ถือศีลอดในวันท่ี 13, 14 และ 15 ของwe eat, but our eating timings and patterns also เดือน” (บันทึกโดยอันนะสาอีย์, 2424; อิบนูมาญะห์, 1707;have a profound impact on our health. Fasting อะห์หมัด, 210)was a regular practice of Prophet Muhammad(peace be upon him)’s life, not just during หลักฐานล่าสุดได้เผยว่านอกจากอาหารที่รับประทานRamadan. He would fast until every Monday and แล้ว ช่วงเวลาและรูปแบบการกินก็สามารถส่งผลกระทบต่อThursday, and also on the 13th, 14th and 15th of สุขภาพได้เช่นกัน การถือศีลอดคือส่ิงท่ีท่านศาสดามูฮัมหมัดeach Islamic month. This is similar to the (ซ.ล.) ไดป้ ฏบิ ัติอยู่เป็นกจิ วัตร ไม่ใช่เฉพาะแคใ่ นเดือนรอมฎอนintermittent fasting practice, which has been เท่านั้น แต่ทว่าท่านจะถือศีลอดในทุกวันจันทร์ และวันproven to balance hormone levels, prevent พฤหัสบดี นอกจากนี้ ท่านยังถือศีลอดในทุกๆวันท่ี 13, 14oxidative stress, and reduce overall inflammation. และ 15 ของทุกเดือนตามปฏิทินอิสลาม ซ่ึงมีความคล้ายคลึงWhen you think about it, the less food you put กับ The intermittent fasting practice (การจากัดเวลาในinto your body the less it focuses on digestion and การรับประทานอาหาร) กล่าวคือการอดอาหารเป็นเวลา 14-the more it can focus on healing itself from certain 16 ชั่วโมง นับจากมื้ออาหารท่ีรับประทานล่าสุด และ Theailments! intermittent fasting practice ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า สามารถสร้างความสมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย ช่วยป้องกันIslamic Healthy Lifestyle การเกิดสภาวะ oxidative stress (ภาวะความไม่สมดุลของ การเกิดอนุมูลอิสระ และระบบต้านออกซิเดชั่นในร่างกาย) และช่วยลดอาการอักเสบได้ ดังนั้นการรับประทานอาหารแต่ น้อยจะทาให้กระเพาะมีสุขภาพแข็งแรง อีกท้ังยังสามารถ รักษาโรคต่างๆไดอ้ กี เชน่ กนั
8. Dates: 8. อนิ ทผลัม“Allah’s Messenger (peace be upon him) used to “ท่านศาสดามูฮัมหมัด (ซ.ล) ละศีลอดด้วยbreak his fast with fresh dates before going to อินทผลัมทส่ี ุกงอมก่อนท่ีจะไปละหมาด...” (บันทึกprayer…” [Sunan Abu Dawud, 2356] โดย อบดู าวดู , 2356)Dates are the perfect foods to break your fast asthey stabilize your blood sugar levels, rebalance อินทผลัมถือเป็นผลไม้ท่ีประเสริฐที่สุดในการblood electrolyte levels, and help kick start your ละศีลอด เนื่องจากช่วยรักษาสมดุลของระดับdigestive system in preparation for food. Dates น้าตาลในเลือด ปรับสมดุลของภาวะระดับเกลือแร่were also the food that Maryam (may Allah be ในเลือด และยังช่วยเร่ิมการทางานของระบบย่อยpleased with her) was told to eat in the lead up to อ า ห า ร เ พ่ื อ เ ต รี ย ม พ ร้ อ ม ส า ห รั บ อ า ห า ร ท่ี จ ะchildbirth. Dates are now proven to boost oxytocin รับประทานตอ่ ไปproduction in your body and speed up labour. อินทผลัมคือผลไม้ที่พระนางมัรยัม (ร.ฎ.) ได้ สนับสนุนให้รับประทานก่อนคลอดบุตร และใน ปัจจุบันนี้อินทผลัมได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถ ช่วยเพิ่มฮอร์โมน Oxytocin (ฮฮร์โมนท่ีออกฤทธ์ิ อย่างมากท่ีมดลูก ช่วยทาให้กล้ามเนื้อมดลูกบีบตัว และยังกระตุ้นการหล่ังน้านม) ในร่างกาย อีกท้ังยัง ชว่ ยให้คลอดงา่ ยและปลอดภยั 9. หลีกเลย่ี งการนอนควา่9. Avoid sleeping on the stomach: “ในขณะที่ท่านศาสดามูฮัมหมัด (ซ.ล.) ได้เดิน ออกมาตรวจตราแขกที่มาเยือนในเวลากลางคืน“The Messenger of Allah (s) came out in the night ท่านเห็นฉันนอนคว่าอยู่ จากน้ันท่านก็ได้มาสะกิดto check up on his guests, and saw me lying on ฉันด้วยขา แล้วกล่าวว่า: “ท่านอนน้ีเป็นท่านอนmy stomach. He prodded me with his foot and ทีอ่ ัลลอฮท์ รงกริ้ว” (บันทึกโดย อตั -ตริ มีซีย์, 2798)said, ‘Do not lie in this manner, for it is a way oflying that Allah hates.’” [Al-Tirmidhi, 2798] ปัจจุบันค้นพบแล้วว่าแพทย์ไม่สนับสนุนให้Due to the weight of the spine, adults and even นอนคว่าท้ังในผู้ใหญ่หรือแม้กระท่ังทารก เน่ืองจากbabies are told not to sleep on their stomachs by น้าหนักของกระดูกสันหลัง และลักษณะของการdoctors, since this manner of sleeping has a นอนท่านี้จะส่งผลกระทบที่รุนแรงต่ออวัยวะภายในsevere effect on the internal organs and the และกระดกู สนั หลงัspine. Advise to mothers is not to make their *คาแนะนา : คุณแม่ไม่ควรให้ลูกๆนอนคว่าchildren sleep on their stomachs.
10. Staying Active: Fulfilling three of the five pillars of Islam requires that Muslims be of sound health and fitness; the five times prayer in itself is a form of exercise that requires movement of your body’s muscles and joints. Good health is also necessary if you intend to fast or participate in the Hajj pilgrimage. Prophet Muhammad (peace be upon him) strongly encouraged physical exercise and told parents to encourage physical activity in their children too by “Teach your children swimming, archery and horse riding”. In another narration, he said, “Practice archery and horseback riding.”[Sahih Muslim]Islamic Healthy Lifestyle 10. กระฉบั กระเฉงอยู่เปน็ นิจ การเตมิ เตม็ สามในห้าประการของรูก่น(กฎ)อิสลาม ให้สมบูรณ์นั้น กล่าวคือมุสลิมจะต้องมีสุขภาพท่ีดี และออกกาลงั กายอย่างสม่าเสมอ และการละหมาด 5 เวลาถือเป็นการออกกาลังกายรูปแบบหน่ึงที่ จาเป็นจะต้องเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อและข้อต่อต่างๆ ของร่างกาย ดังนั้นการมีสุขภาพดีจึงถือเป็นส่ิง สาคัญอย่างยิ่ง หากท่านใดมีเจตนาท่ีจะถือศีลอด หรือไปร่วมประกอบพิธีฮัจญ์ นอกจากน้ีท่าน ศาสดามูฮัมหมัด (ซ.ล) ได้ส่งเสริมให้ออกกาลังกาย แ ล ะ ก า ชั บ ใ ห้ คุ ณ พ่ อ คุ ณ แ ม่ ส่ ง เ ส ริ ม เ ด็ ก ๆ ใ ห้ มี กิจกรรมท่ีต้องเคล่ือนไหวร่างกายเช่นเดียวกัน ท่าน ศาสดามูฮมั หมดั (ซ.ล) กลา่ วว่า “จงสอนลกู หลานของท่านให้ว่ายน้า การยิงธนู และข่มี ้า” และอกี สายรายงาน“ฝกึ ยงิ ธนแู ละขมี่ า้ ” (บันทกึ โดยมุสลิม)
อภิธานศพั ท์อัลลอฮ์ ศาสนาอิสลามเรียกพระเป็นเจ้าว่า อัลลอฮ์ บ้างก็สะกดว่า อัลลอฮฺ, อัลลอหฺ หรือ อัลเลาะห์ ตรงกับภาษาอังกฤษ \"God\" เช่ือว่าทรงเป็นพระผู้สร้างมนุษย์ สิ่งมีชีวิต สิ่งไม่มีชีวิต และทุกสรรพสิ่งในจักรวาล พระองค์ทรงมีโดยไร้จุดเร่ิมต้น และทรงมีอยู่นิรันดร์โดยไม่มีจุดจบพระองคแ์ ตกต่างกับทกุ สรรพส่งิ อย่างส้นิ เชงิ ทรงดารงด้วยพระองค์เอง(ซ.ล.) คือ อักษรยอ่ แทนประโยค \"ซอ็ ลลัลลอหุ อะลยั ฮิ วะอาลิฮี วะซลั ลมั \" ความว่า อัลลอฮ์ทรงประทานพรและความสันติแก่มุฮัมมัดและวงศ์วานของท่าน ซึ่งใช้ต่อท้ายช่ือของท่านศาสดามูฮัมหมดั (ซ.ล.) เพอื่ เปน็ การให้เกียรตแิ ละยกยอ่ งทา่ น(ร.ฎ.) ย่อมาจาก ร่อฎิยัลลอฮุอันฮา/ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮู – เป็นการขอพรให้แด่บรรดาท่านสาวก(ศอฮาบะห)์ “ขออัลลอฮ์ทรงใหค้ วามปติ แิ ด่ท่านด้วยเทอญ” เปน็ การขอพรจากอลั ลอฮุให้บรรดาทา่ นสาวกทง้ั หลายอัลกุรอาน (อาหรับ แปลว่า การรวบรวม หรือการอ่าน) หมายถึงคัมภีร์ของอิสลามซึ่งถือว่าเป็นธรรมนญู แหง่ ชวี ิต เปน็ คัมภีร์ทอี่ ลั ลอฮ์ทีไ่ ด้ทรงประทานให้ทา่ นศาสดาการถอื ศลี อด ตามความหมายทางศาสนาของอิสลาม คือการงดเว้นจากการกิน การด่ืม การเสพและการมคี วามสมั พันธท์ างเพศ ตั้งแตด่ วงอาทิตยข์ ้นึ จนถงึ ดวงอาทิตย์ตกตลอดท้ังเดือนรอมฎอนของทกุ ปซี ึ่งอาจจะมรี ะยะเวลา 29 หรือ 30 วันรอมฎอน คือ เดือนท่ี 9 ของปฏิทินฮิจเราะห์ศักราช หรือปฏิทินอิสลาม เป็นเดือนท่ีมุสลิมถือศีลอดท้งั เดอื นละหมาดหรือนมาซ แปลว่าการวิงวอนขอพรจากอัลลอหฺท่ีมุสลิมทุกคนจาเป็นต้องปฏิบัติ วันละห้าเวลา) การนมาซถือว่าเป็นการทาอิบาดะหฺท่ีสาคัญท่ีสุดข้อหน่ึง เป็นหลักอิสลามข้อหนึ่งซึ่งมสุ ลิมต้องปฏบิ ัติ
วาญิบ (อาหรับ) ท่บี งั คับ หมายถงึ การปฏิบตั ภิ าคบงั คับในศาสนาศอฮาบะฮ์ คือ คือ สาวก (ชาย) ของนบีท่ีได้พบเห็นท่านนบีมูฮัมหมัด (ซ.ล.)หรือเหล่าผู้ท่ีมีความศรัทธาต่อศาสนาอิสลามในขณะที่ท่านศาสดามูฮัมหมัด(ซ.ล.) มีชีวติ อย่แู ละตายในฐานะมสุ ลมิสุนนะห์ หมายถึง คาพูด การกระทา หรือการยอมรับของท่านศาสดามูฮัมหมัด(ซ.ล.) หรือการเจริญรอยท่านศาสดามูฮัมหมัด (ซ.ล.) ด้วยการปฏิบัติตามส่ิงท่ีท่านศาสดามูฮัมหมัด (ซ.ล.) เคยปฏิบัติ ซ่ึงถือว่าหากทาแล้วจะได้รับผลบุญ แต่ถา้ ละทิง้ ก็ไม่เป็นบาปแตป่ ระการใดอีบาดะฮ์ คาทับศัพท์จากภาษาอาหรับ แปลว่า การบูชาสักการะ หมายถึงการบูชาสักการะต่ออัลลอฮ์ ผู้ทรงยิ่งใหญ่ท่ีสุด ด้วยการปฏิบัติตามคาส่ังใช้และละทิ้งคาสง่ั ห้าม เช่น นมาซ และถือศลี อดฮะรอม (อาหรับ แปลว่า ส่ิงต้องห้าม) ส่ิงที่กฎบัญญัติศาสนาอิสลามห้ามไม่ให้ทา อาหารฮะรอม คอื อาหารทผ่ี ดิ กบั หลกั ศาสนาอิสลาม เชน่ สุรา หรอื เน้ือสกุ รฮาดิษ (อาหรับ คาพูด) คาพูด การกระทา และการยอมรับของศาสนทูตมูฮัมหมดั นยิ มแปลวา่ พระวจนะของศาสนทูตรายงานโดย หรอื บนั ทึกโดย (ชอ่ื เขา) ... – คือผ้ทู ี่รวบรวมบันทึกฮาดิษตา่ งๆไว้
ReferencesMisbah Ghous and Arshad Nawaz Malik. (2016, August). HEALTH BENEFITS OF SALAT (PRAYER); Neurological rehabilitation. Retrieved from https://www.researchgate.net/publication/306124412_HEALTH_BENEFI TS_OF_SALAT_PRAYER_Neurological_rehabilitationOmar Hasan Kasule. (2008, December 20). 0812-Physical Activity and Exercise: An Islamic Perspective. Retrieved from http://omarkasule- 05.tripod.com/id295.htmlHafiz Mohammed Zahid. (n.d.). Healthy Eating: An Islamic Perspective. Retrieved from http://www.islamgate.org/?p=1435THE QURAN IS UPLIFTING AND HERE’S WHY. (n.d.). Retrieved from https://leanandhealthy.me/quran-uplifting-and-heres-why/M.H. Al-Khayat. (2004). Importance of health in Islam. Retrieved from http://applications.emro.who.int/dsaf/dsa217.pdfNida. (2009, August 29). What does Islam say about \"Dental Health\"?. Retrieved from https://questionsonislam.com/question/what-does-islam-say-about- dental-healthMuallim Mag. (2013, March 8). Qaylulah the blessed Sunnah of Prophet (saw). Retrieved from https://muallimmagazine.blogspot.com/2013/03/qaylulah- blessed-sunnah-of-prophet-saw.htmlJonathan Wells. (2016, Aril11). The eight surprising health benefits of getting married. Retrieved from https://www.telegraph.co.uk/health-f itness/body/the-eight-surprising-health-benefits-of-getting-married/Muslim Council of Hong Kong. (2016, Apr 26). 10 health tips where Sunnah and Science meet. Retrieved from https://muslimvillage.com/2016/04/26/118125/10-health-tips-science- sunnah-meet/
Sobareeyah Sama 562424007Zainab Phattanawiwat 562424015Faleelah Akesoonthonwong 562424050Maiyidah Cheni 562424051 Translators
Search
