หลกั สูตรการเลยี้ งไหมป่ าสอื่ หนงั สอื เรียนรายวิชาเลอื ก การเผาถา่ นด้วยถงั ๒๐๐ ลติ ร จากใบมนั สาปะหลงั ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย อาเภอมัญจาครี ี สานักงานส่ งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อธั ยาศัยจังหวดั ขอนแก่น
คานา เอกสารหลกั สูตรการสเลือ่ ห้ียนงงัไสหือเมรียปน่ ารจาายกวชิใาบเลมอื นั กสากปาะรหเผลาถงั า่ นฉดบ้วบัยถนงั ้ีจ๒ดั ๐ท๐าขล้ึนิตรเพื่อเป็นขอ้ มูล เน้ือหาสาระเกี่ยวกบั ความเป็นมาของการเล้ียงไหมป่ าจากใบมนั สาปะหลงั กระบวนการเล้ียง ไหมป่ าจากใบมนั สาปะหลงั เพื่อใหผ้ ทู้ ่ตี อ้ งการศึกษาหาความรู้ไดศ้ ึกษาเพมิ่ เติมไดด้ ว้ ยตนเอง ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอมญั จาคีรี หวงั เป็นอยา่ งยงิ่ ว่า เอกสารฉบบั น้ี คงเป็นประโยชน์ต่อประชาชนทวั่ ไปไดใ้ ชเ้ ป็ นวทิ ยาทานในการที่จะศึกษา คน้ ควา้ หาความรู้ต่อไป ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอมญั จาคีรี ขอขอบคุณ ผอู้ านวยการศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอมญั จาคีรี , ครู กศน. , กรรมการสถานศึกษา , เจา้ หนา้ ท่ีท่เี กี่ยวขอ้ งและผเู้ ช่ียวชาญดว้ ยเน้ือหาสาระรวมท้งั ภมู ิปัญญา ชาวบา้ นท่ไี ดม้ ีส่วนช่วยใหเ้ อกสารฉบบั น้ีสาเร็จลุลว่ งดว้ ยดีมา ณ โอกาสน้ี ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอมญั จาคีรี 2555
หลกั สูตรการเลยี้ งไหมป่ าด้วยใบมนั สาปะหลงั ส่ือหนงั สือเรียจนารนายววนชิ าเ5ล0อื กชั่วโกมารงเผาถ่านด้วยถงั ๒๐๐ ลติ ร ความสาคญั คาวา่ ไหม คอื เสน้ ใยทพี่ น่ ออกมาจากปากของตวั หนอนไหมทีโ่ ตเตม็ วยั เพอื่ มาห่อหุม้ ตวั ป้องกนั ศตั รูทางธรรมชาตใิ นขณะที่หนอนไหมลอกคราบจากหนอนไหมเป็ นตวั ดกั แด้ และไมส่ ามารถ เคล่ือนท่ไี ด้ หนอนไหมเป็นแมลงชนิดหน่ึงซ่ึงมีการเจริญเติบโตจากไขไ่ หม (ขนาดเท่าเมลด็ งา) และเป็นตวั หนอนไหม ในขณะทีเ่ ป็นตวั หนอนไหมจะเจริญเตบิ โตโดยการลอกคราบประมาณ 3-4 คร้ังในระยะเวลา ประมาณ 20-22 วนั และจะมีน้าหนกั ตวั เพม่ิ ข้ึน 10,000 เทา่ โดยการกินอาหารเพยี งอยา่ งเดียว คอื ใบหม่อน ไหมเม่ือเจริญเตบิ โตเตม็ ท่แี ลว้ จะหยดุ กินอาหาร แลว้ พน่ เสน้ ใยออกมาห่อหุม้ ตวั เอง ท่ีเราเรียกวา่ รัง ไหม ซ่ึงมีลกั ษณะกลมรีคลา้ ยเมลด็ ถว่ั และหากเรานารงั ไหมมาตม้ ในน้าทมี่ ีอุณหภูมิต้งั แต่ 80◦C ข้ึนไปจะ สามารถทาใหก้ าวไหม (sericin) อ่อนตวั และดึงออกมาเป็นเสน้ ยาวได้ ความยาวของเสน้ ใยจะข้ึนอยกู่ บั สาย พนั ธุแ์ ละการดูแลในช่วงท่เี ป็นหนอนไหม
ความเป็ นมาของไหมไทย สอ่ื หนงั สอื เรยี นรายวชิ าเลอื ก การเผาถ่านดว้ ยถัง ๒๐๐ ลติ ร ประเทศไทยสนั นิษฐานวา่ มีการปลูกหม่อนเล้ียงไหมมานานกวา่ 3,000 ปี มาแลว้ โดยการพบหลกั ฐาน เศษผา้ ท่ีติดอยกู่ บั กาไรสาริดของมนุษยย์ คุ ก่อนประวตั ิศาสตร์ทบ่ี า้ นเชียงและบา้ นนาดี อาเภอหนองหาน จงั หวดั อุดรธานี โดยไหมไทยพนั ธุพ์ น้ื เมืองท่ีเล้ียงมาแตโ่ บราณเป็ นไหมที่ไม่มีการฟักตวั ตามธรรมชาติ สามารถฟักออกเป็นตวั ไดป้ ี ละหลายคร้ัง รงั มีรูปร่างเรียว ขนาดเลก็ สีเหลือง แตกตา่ งจากไหมของจีนทเี่ ป็ น ไหมท่มี ีการฟักออกปี ละ 2 คร้ัง รังสีขาว ยกเวน้ ทางตอนใตข้ องจีนที่พบไหมฟักออกไดป้ ี ละหลายคร้ัง เช่นเดียวกบั ไทย ลาว เวยี ดนามและเขมร การปลูกหม่อนเลีย้ งไหมในประเทศไทย การปลูกหมอ่ นเล้ียงไหมในประเทศไทย มีแหล่งสาคญั อยใู่ นภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ ซ่ึงเดิมมีการ เล้ียงไหมเป็ นอาชีพรองจากการทานาและเล้ียงไหมเพอ่ื ผลิตเสน้ ไหมเพอ่ื ทอเป็ นเคร่ืองนุ่งห่มไวใ้ ชเ้ องเท่าน้นั เสน้ ไหมทผ่ี ลิตไดเ้ ป็ นเสน้ ไหมหยาบและส้นั ใชเ้ ป็ นเสน้ ไหมพงุ่ ไดเ้ พยี งอยา่ งเดียว ทาใหต้ อ้ งสงั่ ซ้ือเสน้ ไหม ยนื จากตา่ งประเทศ ตอ่ มาในสมยั รัชกาลพระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั รัชกาลท่ี 5 จึงไดเ้ ริ่มการพฒั นาส่งเสริม การปลูกหม่อนเล้ียงไหมสาวไหมและทอผา้ ไหมข้นึ โดยในปี พ.ศ. 2433 ไดม้ ีการจา้ งผเู้ ชี่ยวชาญดา้ นไหม จากประเทศญี่ป่ ุนมาปรบั ปรุงคุณภาพไหมทม่ี ีอยเู่ ดิมใหด้ ีพอทีจ่ ะเป็ นสินคา้ ส่งออกไดแ้ ละเพม่ิ พนู ฝีมือใหก้ บั
ชาวไทย โดยเร่ิมท่พี ระราชวงั ดุสิต ซ่ึงนบั เป็นกา้ วแรกของการพฒั นาการส่งเสริมการปลูกหม่อนเล้ียงไหมใน ประเทศไทย ส่ือหนังสือเรยี นรายวชิ าเลอื ก การเผาถา่ นด้วยถัง ๒๐๐ ลติ ร สายพันธ์ุไหม สายพนั ธุไ์ หมในโลกน้ีมีการแบ่งตามมาตรฐานของนกั วทิ ยาศาสตร์ไดห้ ลายอยา่ ง เช่น แบ่งตามจานวน คร้ังในการลอกคราบของหนอนไหม แบง่ ตามสีของรงั ไหม แบ่งตามรูปร่างของรังไหม แบง่ ตามถ่ินกาเนิด และแบง่ ตามจานวนคร้ังในการฟักของไขไ่ หมใน 1 ปี การแบง่ ตามจานวนคร้ังในการฟักไข่ใน 1 ปี อาจจะ 1 คร้ังหรือหลายคร้ังซ่ึงลกั ษณะของสายพนั ธุท์ ีม่ ี การฟักของไขไ่ หมทตี่ า่ งกนั ก็บง่ บอกถึงลกั ษณะทางพนั ธุกรรท่แี ตกตา่ งกนั ไปดว้ ย รวมท้งั ผลจาก สภาพแวดลอ้ มก็จะแตกตา่ งกนั ไปดว้ ยตามสายพนั ธุ์ ในปัจจบุ นั สามารถใชเ้ ทคโนโลยเี ขา้ มาช่วยในการฟัก ของไขไ่ หมสายพนั ธุท์ ฟี่ ักปี ละ 1 คร้ัง เราสามารถฟักไดห้ ลายคร้งั ข้นึ ตามความตอ้ งการ แตป่ ระเด็นของการ แบ่งในลกั ษณะน้ี คือพนั ธุกรรมท่ีอยใู่ นแตล่ ะสายพนั ธุท์ ี่ไม่เหมือนกนั คอื Monovoltine (ฟักปี ละ 1 คร้ัง) เป็นพนั ธุท์ อี่ ยใู่ นแถบอากาศหนาว เช่น ประเทศในแถบยโุ รป หนอนไหมจะมีอายยุ าวกวา่ สายพนั ธุอ์ ื่น หนอนไหมตวั ใหญเ่ สน้ ไหมมีคุณภาพดี แตห่ นอนไหมไม่แขง็ แรง โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนช้ืนความ ยาวเสน้ ไหมตอ่ รัง ประมาณ 1,200-1,500 เมตร Bivoltine (ฟักปี ละ 2 คร้ัง) เป็นพนั ธุท์ อ่ี ยใู่ นแถบอากาศอบอุ่น เช่น จีน ญ่ปี ่ นุ เกาหลี หนอนไหมมอี ายสุ ้นั กวา่ เมื่อเปรียบเทียบกบั พนั ธุ์ Monovoltine หนอนไหมแขง็ แรง แตเ่ สน้ ไหมมีคุณภาพดอ้ ยกวา่ Monovoltine ดงั น้นั จึงนิยมนามาผสม กบั Monovoltine เพอ่ื ใหไ้ ดพ้ นั ธุไ์ หมทีม่ ีคุณภาพเสน้ ทดี่ ีข้ึน รงั ไหมมีสีขาว เหมาะสาหรบั เล้ียงในประเทศ เขตอบอุ่น และนิยมเล้ียงในฤดูรอ้ นของประเทศในเขตอบอุ่น ความยาวเสน้ ไหมต่อรงั ประมาณ 1,000-1,200 เมตร Ployvoltine(ฟักปี ละหลายคร้ัง) เป็นพนั ธุไ์ หมทอี่ ยใู่ นแถบอากาศร้อนช้ืนเช่น ไทย ลาว หนอนไหมมีอายสุ ้นั กวา่ ท้งั 2 สายพนั ธุข์ า้ งตน้ และมีความแขง็ แรงมาก รังมีขนาดเลก็ รังไหมมีท้งั สีขาวและสีเหลือง สามารถสาวเป็นเสน้ ไหมไดป้ ริมาณ นอ้ ย แตเ่ สน้ ไหมมีความมนั เงาสูง แต่จะมีป่ ุมปมมาก และเป็ นสายพนั ธุท์ ่ไี ม่สามารถ Hibernate (จาศีล) ได้ เหมือน 2 สายพนั ธุข์ า้ งตน้ ดงั น้นั ไข่ไหมจึงไม่สามารถเก็บรกั ษาไวไ้ ด้ ตอ้ ใชไ้ ขไ่ หมต่อเน่ืองท้งั ปี ความยาว เสน้ ไหมต่อรังประมาณ 200-400 เมตร ดงั น้นั สายพนั ธุไ์ หมท่ีใชใ้ นอุตสาหกรรมปัจจบุ นั จงึ มีการนาสายพนั ธุต์ ่างๆ มาผสมกนั เพอ่ื ใหไ้ ด้ ลูกผสมทต่ี รงตามความตอ้ งการ และลกู ผสมทไี่ ดร้ บั ความนิยมในการพฒั นาสายพนั ธุค์ อื ลูกผสมของพนั ธุ์ จนี กบั พนั ธุญ์ ี่ป่ ุน ซ่ึงอาจจะเป็น Bivoltine อยา่ งเดียวกนั หรือมีการผสมโดยเลือดของ Monovoltine เขา้ ไป บา้ งเพอ่ื ใหร้ งั ไหมมีขนาดใหญ่ข้ึน เสน้ ไหมมีความยาวมากข้นึ
และคูท่ ่ีผสมท่ีน่าจบั ตามองอีกคูห่ น่ึงกค็ ือ การนาสายพนั ธุ์ Polyvoltine ไปผสมกบั สายพนั ธุ์ Bivoltine จนสามารถไดล้ ูกผสมท่มี ีความยสาอ่ื วหเสนน้ังสไือหเรมียตน่อรรายงั วทิช่ีา9เ0ล0อื -ก1,20ก0ารเมเผตารถ่ารนังดมว้ีขยนถาังด๒ใ๐ห๐ญ่ ลหติ นรอนไหมแขง็ แรง สามารถเล้ียงไดใ้ นสภาพอากาศรอ้ นช้ืน รงั ไหมท่ไี ดอ้ าจมีท้งั สีขาวหรือสีเหลือง แลว้ แตค่ วามตอ้ งการในการ พฒั นา และที่สาคญั เสน้ ไหมท่ีไดจ้ ะมีความมนั เงาสูง เสน้ เรียบสม่าเสมอ เมื่อเทยี บกบั เสน้ ไหมจากพนั ธุ์ ลูกผสมอ่ืนๆ จึงน่าจะเป็นอนาคตของอุตสาหกรรมไทย ทจี่ ะหนั มาพฒั นาสายพนั ธุแ์ ละส่งเสริมการใชเ้ สน้ ไหม ทเ่ี ป็นท้งั พนั ธุไ์ ทยพ้นื เมือง ท่มี ีเอกลกั ษณ์ด้งั เดิมของไหมไทย และการส่งเสริมการใชเ้ สน้ ไหมทีม่ ีการ พฒั นาจากพนั ธุไ์ ทยทีเ่ ป็นลูกผสม ทจี่ ะสามารถนามาทาเป็นสินคา้ ไดห้ ลากหลาย สามารถใชเ้ ป็นเสน้ ยนื ได้ ทาใหส้ รา้ งความแตกต่างใหก้ บั สินคา้ ไหมไทยไดอ้ ีกดว้ ย ตอ่ มาไดม้ ีการววิ ฒั นาการจากการเล้ียงไหมดว้ ยใบหม่อนมาเป็นการเล้ียงไหมป่ าดว้ ยใบมนั สาปะหลงั เป็นท่นี ิยมของประชาชนในพ้นื ท่ตี าบลโพนเพก็ จึงไดจ้ ดั ต้งั กลุ่มกลุ่มผเู้ ล้ียงไหมป่ า การเลยี้ งไหมในประเทศไทย การเล้ียงไหมปัจจุบนั มี 2 แบบคอื การเล้ียงไหมแบบครวั เรือน และการเล้ียงไหมแบบอุตสาหกรรม การเลยี้ งไหมแบบครัวเรือน แหล่งท่เี หมาะสมสาหรับการเลยี้ งไหม สภาพแวดลอ้ มทเ่ี หมาะสมสาหรบั เล้ียงไหม อุณหภูมิอยใู่ นช่วง 20 – 35 องศาเซลเซียส ความช้ืน สมั พทั ธ์ 65 – 80 เปอร์เซ็นต์ โรงเล้ียงไหมตอ้ งห่างไกลจากแหล่งการใชส้ ารเคมีทางการเกษตร และโรงงานอุตสาหกรรม สภาพโรงเลยี้ ง 1) สรา้ งในแนวตะวนั ออกและตะวนั ตก 2) สะดวกต่อการทาความสะอาด และสามารถท่ีจะฉีดอบสารเคมีเพอ่ื ฆ่าเช้ือโรค 3) มีการถ่ายเทอากาศไดด้ ี 4) สามารถป้องกนั ศตั รูหนอนไหมได้ เช่นแมลงวนั ลาย จง้ิ จก ตกุ๊ แก หนู และมด 5) ควรปลูกตน้ ไมย้ นื ตน้ รอบ ๆ โรงเล้ียงเพอ่ื ลดความร้อนจากแสงแดด ขนาดโรงเล้ียง สาหรบั เล้ียงไหม 2 แผน่ :ไหมพนั ธุไ์ ทยลูกผสม ใชข้ นาด 4 x 7 เมตร ช้นั เล้ียง ขนาด 1.2 x 5 เมตร จานวน 3 ช้นั (2 ชุด) ปัจจยั สาคญั ในการสร้างโรงเลยี้ งไหม 1) โรงเล้ียงไหมควรอยหู่ ่างจากบา้ นพกั อาศยั ประมาณ 10 – 20 เมตร เพอ่ื สะดวกในการรกั ษาความ สะอาดและการฉีดอบสารเคมีฆ่าเช้ือโรค 2) หลงั คาควรเลือกวสั ดุท่เี ป็นฉนวนกนั ความร้อน และน้าไดด้ ี พ้นื หอ้ งควรใชค้ อนกรีต ผนงั โรงเล้ียง ก่อดว้ ยคอนกรีตสูงจากพ้นื ประมาณ 50 ซม. ส่วนทเ่ี หลือใชต้ าขา่ ยไนล่อนตเี ป็นผนงั ถึงระดบั เพดานหอ้ ง 3) ควรมีหอ้ งมืดขนาด 1.5 x 1.0 เมตร สาหรบั ดกั แมลงวนั ลาย
4) ควรมีหอ้ งเกบ็ ใบหม่อนทสี่ ามารถเล้ียงไหมได้ 2 เวลา สือ่ หนังสอื เรียนรายวชิ าเลอื ก การเผาถา่ นด้วยถัง ๒๐๐ ลติ ร วสั ดุและอุปกรณ์ วสั ดุและอุปกรณ์การเล้ียงไหมทจ่ี าเป็นสาหรับเล้ียงไหมจากไข่ไหม 1 แผน่ มีดงั น้ี อุปกรณ์วดั อุณหภูมิความช้ืน 1 ชุด มีดและเขยี ง( หรือเครื่องหน่ั ใบหม่อน ) 1 ชุด เคร่ืองฉีดฟอร์มาลีน 1 เครื่อง กรรไกรตดั แตง่ ก่ิงไม้ 1 อนั เครื่องลอกปยุ ไหม 1 ชุด
เคร่ืองชง่ั (ขนาดชง่ั น้าหนกั สูงสุด 15 กิโลกรมั ) 1 เคร่ือง ตะแกรงร่อนแป้ง (ชนิดสทือ่ ี่มหีตนางั ถสอื่ี) เ1รยีอนนั รายวชิ าเลอื ก การเผาถา่ นด้วยถงั ๒๐๐ ลิตร ตาข่ายสาหรับถ่ายมูลไหมวยั อ่อน (ขนาดช่องตาข่าย1 x 1 ซม.2) ขนาด 100 ซม. X 80 ซม.10 ผนื ตาขา่ ยสาหรบั ถ่ายมูลไหมวยั แก่ (ขนาดช่องตาขา่ ย 3 x 3 ซม.2) ขนาด 100 ซม. X 80 ซม.30 ผนื จ่อแบบลูกคลื่น 50 อนั จ่อกระดง้ ขนาดเสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลาง 1.50 เมตร 20 อนั ตะกร้าเก็บใบหม่อน 2 ใบ เข่งใส่ใบหม่อน 8 ใบ ตะกร้าใหอ้ าหาร 4 ใบ ขนนก 1 อนั รองเทา้ แตะ 1-2 คู่ ผา้ คลุมหม่อน 5 ผนื ตะเกียบไมไ้ ผ่ 2 คู่ ปนู ขาวชนิดผงละเอียด 2 - 3 กิโลกรมั หรือแกลบเผา 100 ลิตร สารเคมีป้องกนั โรคไหมชนิดผง 1 กิโลกรมั กระดาษรองกระดง้ (ขนาด 80 ซม. x 100 ซม.) 40 แผน่ กระดาษหนงั สือพมิ พเ์ ก่า 5 กก. ผงซกั ฟอก 1 กิโลกรัม สบลู่ า้ งมือ 1 กอ้ น สารฟอร์มาลีน 3 % (ฟอร์มาลีน 40 % จานวน 1 ส่วน ผสมน้า 13 ส่วน หรือน้าคลอรีน (คลอรีน 60% 1 กิโลกรัม ผสมน้า 200 ลิตร) ใชฉ้ ีดพน่ อตั รา 1 ลิตร / ตารางเมตร ผงซกั ฟอก 1-2 กิโลกรมั สบู่ลา้ งมือ 1 กอ้ น พันธ์ุไหม พันธ์ุไหมไทย 1) พนั ธ์ุไหมไทยนางน้อยศรีสะเกษ 1 ลกั ษณะดีเด่น เล้ียงไดง้ ่าย มีความแขง็ แรงสูง อายหุ นอนไหมส้นั เวลาในการเล้ียงประมาณ 18 วนั ผลผลิตตอ่ แผน่ /กล่อง 10 -12 กิโลกรมั สาวไหมง่าย เสน้ ไหมสีเหลืองเขม้
2) พนั ธ์ุไหมไทยนางน้อยสกลนคร ลกั ษณะดีเด่น ส่ือหนงั สอื เรียนรายวชิ าเลอื ก การเผาถา่ นดว้ ยถงั ๒๐๐ ลิตร ใหผ้ ลผลิตต่อแผน่ ไข่ไหม 15 -20 กิโลกรมั พอ่ แม่พนั ธุแ์ ยกเพศไดใ้ นระยะหนอนไหม ทาใหส้ ะดวกในการผลิตไขไ่ หม พันธ์ุไหมไทยลูกผสม 1) พนั ธ์ุไหมไทยลูกผสมอบุ ลราชธานี 60-35 (ดอกบวั ) ลกั ษณะดีเด่น เล้ียงไดง้ ่าย มีความแขง็ แรงสูง อายหุ นอนไหมส้นั เวลาในการเล้ียงประมาณ 18 วนั ผลผลิตตอ่ แผน่ /กล่อง 15 -16 กิโลกรมั เปอร์เซ็นตก์ ารสาวง่าย 63 % 2) พนั ธ์ุไหมไทยลูกผสมสกลนคร ลกั ษณะดีเด่น มีความยาวเสน้ ใยยาวและสาวงา่ ย มีความแขง็ แรงเล้ียงไดต้ ลอดปี ผลผลิตตอ่ แผน่ /กล่อง 21.4 กิโลกรมั เปอร์เซ็นตก์ ารสาวงา่ ย 71% 3) พันธ์ุไหมไทยลูกผสมอดุ รธานี ลกั ษณะดีเด่น มีความแขง็ แรงเล้ียงไดต้ ลอดปี มีความตา้ นทานตอ่ โรคแกรสเซอร่ี (โรคเตอ้ ) ผลผลิตตอ่ แผน่ /กลอ่ ง 15 – 16 กิโลกรมั เปอร์เซ็นตก์ ารสาวงา่ ย 66% 4) พันธ์ุไหมไทยลูกผสมสกลนคร 2 ลกั ษณะดีเด่น เป็ นพนั ธุไ์ หมไทยลูกผสมทีม่ ีความแขง็ แรงตา้ นทานต่อเช้ือทท่ี าใหเ้ กิดโรคแกรสเซอร่ี มีเสน้ ใยยาวและสาวงา่ ย ใหผ้ ลผลิตต่อแผน่ / กล่อง (1 แผน่ = 2000 ตวั ) 25 -30 กิโลกรมั การจองและรับไข่ไหม
1) การสง่ั จองไขไ่ หม ควรทาแผนการเล้ียงไหมตลอดปี กบั ศนู ยห์ ม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ โดยแจง้ ชื่อทอี่ ยู่ วนั เดือน ปี ทเี่ ล้ียงแต่ละสรอ่ื ุ่นหแนลงั สะือจเารนยี นวรนาไยขวไ่ิชหาเมลอื สก่งใหกท้ ารรเาผบาลถ่า่วนงดหว้ นยา้ถตังน้ ๒ป๐ี ๐ ลิตร 2) การยนื ยนั ความตอ้ งการไขไ่ หมทกุ รุ่น ควรแจง้ ก่อนการเล้ียงไหมอยา่ งนอ้ ย 20 วนั 3) การรบั ไขไ่ หม ควรจะตรงเวลาและปฏบิ ตั ิตามคาแนะนาของเจา้ หนา้ ท่ี โดยเคร่งครัด 4) การขนส่ง ช่วงเวลาที่เหมาะสมคอื ช่วงเชา้ หรือเยน็ 5) ปฏิบตั ิตามระเบยี บสถาบนั หม่อนไหมแห่งชาติเฉลิมพระเกียรตฯิ ในการจาหน่ายจา่ ยแจกพนั ธุ์ วธิ ีการเลยี้ งไหม การเตรียมการเลยี้ งไหม 1) เตรียมสวนหม่อนเล้ียงไหมในระดบั ครวั เรือนซ่ึงจะตอ้ งใชใ้ บหม่อนในการเล้ียงจนถึงไหมทารงั ประมาณ 300 – 400 กิโลกรัม/แผน่ (กล่อง) 2) ทาความสะอาดโรงเล้ียงและอุปกรณ์ตา่ งๆ โดยการลา้ งทาความสะอาด หรือนาไปผ่งึ แดดแลว้ นาไป ฉีดอบฟอร์มาลีน 3 %ในโรงเล้ียงอตั รา 1 ลิตร/ตารางเมตร โดยอบทงิ้ ไวอ้ ยา่ งนอ้ ย 2 วนั จงึ เปิ ดโรงเล้ียงให้ กล่ินฟอร์มาลีนระเหยอยา่ งนอ้ ย 1 วนั จึงจะเขา้ เล้ียงไหมได้ (ส่วนผสมฟอร์มาลีน 3 % = ฟอร์มาลนี 40% 1 ส่วน ต่อน้า 13 ส่วน) 3) เตรียมสารเคมีโรยตวั ไหม เพอ่ื ใชโ้ รยบนตวั ไหมตอนเล้ียงแรกฟัก และไหมตน่ื ทุกวยั ใชป้ ระมาณ 1 กิโลกรมั /แผน่ (กล่อง) หรือคลอรีนผง 3.5 % (คลอรีน 60% จานวน 1 ส่วนผสมกบั ปนู ขาว 17 ส่วน) 4) เตรียมแกลบเผาและ/หรือ ปูนขาวโรยบนตวั ไหมในระยะหนอนไหม เพอื่ ลดความช้ืน 5) เตรียมภาชนะใส่เศษใบหม่อนและมูลไหม การเลยี้ งไหม วิธีการเลยี้ งไหมวยั อ่อน(วัย 1 – 3) - ใหใ้ บหม่อนหนั่ ประมาณ 80 กรมั โรยใหส้ ม่าเสมอ หลงั จากน้นั ใหใ้ บหม่อนเล้ียงไหมอีก 2 คร้ังใน วนั แรกน้ี - เพอื่ ป้องกนั ใบหม่อนเหี่ยวเร็วและควบคุมความช้ืนใหเ้ หมาะสมกบั หนอนไหมวยั อ่อนควรคลุมดว้ ย ใบตองหรือผา้ ชุบน้าหมาดๆ หรือแผน่ พลาสติกทส่ี ะอาด การให้อาหาร ไหมจะเจริญเติบโตไดด้ ีตอ้ งกินใบหม่อนสด มีคุณภาพดี ปริมาณเพยี งพอ ตามเวลาท่ี กาหนดโดยเล้ียงวนั ละ 3 ม้ือ กลางวนั ให้ 2 เท่าของม้ือเชา้ ส่วนม้ือเยน็ ให้ 4 เทา่ ของม้ือเชา้ เน่ืองจาก ระยะเวลากินยาวกวา่ ใชป้ ริมาณใบหม่อนประมาณ 22 – 25 กิโลกรมั /แผน่ (กล่อง) สาหรบั การเล้ียงไหมแบบ สหกรณ์ จะใชใ้ บหม่อนประมาณ 8 – 9 กิโลกรัม/แผน่ (กล่อง) วิธีเลยี้ งไหมวยั แก่ (วยั 4 – 5) 1. ระยะการเล้ียงแตล่ ะวยั
วยั ที่ 4 ใชเ้ วลาเล้ียงประมาณ 3 วนั นอน 11/2 วนั วยั ที่ 5 ใชเ้ วลาเล้ียงประสม่ือาหณนัง6ส–อื เ7รียวนนั ราไยหวมิชจาะเลสอื ุกกทารกงั ารเผาถ่านด้วยถัง ๒๐๐ ลติ ร การเก็บและการให้ใบหม่อน การเกบ็ ใบหม่อนเล้ียงไหมวยั อ่อน ควรเก็บใบหม่อนใหเ้ หมาะสมกบั วยั ดงั น้ี วยั ที่ 1 เก็บใบใตย้ อดลงมาใบท่ี 1 – 3 หรือเด็ดยอด วยั ที่ 2 เก็บใบต่าลงมาใบท่ี 4–6 หรือใชก้ รรไกรตดั กิ่งใบที่ 1 – 6 วยั ที่ 3 เก็บใบต่าลงมาใบที่ 7–10 หรือใชก้ รรไกรตดั ก่ิงใบที่1–10 หรือตดั ใบก่ิงสีเขยี ว การให้ใบหม่อน วยั ที่ 1 ใหห้ ม่อนหนั่ มีขนาดกวา้ ง 0.5 – 1.0 ซม.ความยาว 3 – 4 เท่าของความกวา้ ง วยั ท่ี 2 ใหห้ ม่อนหน่ั กวา้ ง 1.50 – 2 ซม. วยั ที่ 3 ใหห้ ม่อนหนั่ กวา้ ง 2.5 – 3 ซม. การเลยี้ งไหมแบบอุตสาหกรรม แหล่งทีเ่ หมาะสมสาหรับการเลยี้ งไหม สภาพภมู ิอากาศท่เี หมาะสมตอ่ การเล้ียงไหม ควรเป็ นสถานท่ีไมม่ ีฝนตกชุกตลอดปี มีสภาพอุณหภมู ิ อยใู่ นช่วง 25 – 28 องศาเซลเซียส ความช้ืนสมั พทั ธ์ 70 – 90 % โรงเล้ียงไหมตอ้ งห่างไกลจากแหล่งการใชส้ ารเคมีการเกษตร และแหล่งอุตสาหกรรม สภาพโรงเลยี้ ง สร้างในแนวตะวนั ออกและตะวนั ตก สะดวกตอ่ การทาความสะอาด และสามารถทจี่ ะฉีดอบสารเคมีเพอ่ื ฆ่าเช้ือโรค มีการถ่ายเทอากาศไดด้ ี สามารถป้องกนั ศตั รูหนอนไหมได้ เช่น แมลงวนั ลาย จ้ิงจก ตุก๊ แก หนู และมด ควรปลูกตน้ ไมย้ นื ตน้ รอบ ๆ โรงเล้ียง เพอ่ื ลดความรอ้ นจากแสงแดด ขนาดโรงเลยี้ ง ข้ึนอยกู่ บั จานวนไหมที่ตอ้ งการเล้ียง เช่น โรงเล้ียงไหมขนาด 6 x 8 ตารางเมตร เล้ียงไหมได้ 4 กล่อง/แผน่ (1 กล่อง = 20,000 ตวั ) โรงเล้ียงไหมขนาด 8 x 12 ตารางเมตร เล้ียงไหมได้ 9 กล่อง/แผน่ (1 กลอ่ ง = 20,000 ตวั ) ช้ันเลยี้ งไหม ขนาดของช้นั เล้ียงไหมข้นึ อยกู่ บั ขนาดของโรงเล้ียงไหม และความสะดวกในการปฏบิ ตั ิงาน ช้นั เล้ียง แตล่ ะช้นั ควรสูงห่างกนั 60 – 70 เซนตเิ มตร เช่น โรงเล้ียงไหมขนาด 6x8 ตารางเมตร ใชช้ ้นั เล้ียงไหมขนาด 1.5 x 6 ตารางเมตร (3 ช้นั ยอ่ ย 2 แถว)
โรงเล้ียงไหมขนาด 8 x12 ตารางเมตร ใชช้ ้นั เล้ียงไหมขนาด 2.0 x 9.0 ตารางเมตร (3 ช้นั ยอ่ ย 2 แถว) ปัจจยั สาคญั ในการสร้างโรงเลยี้ สงือ่ไหหนมังสอื เรียนรายวิชาเลอื ก การเผาถา่ นดว้ ยถัง ๒๐๐ ลติ ร โรงเล้ียงไหมควรอยหู่ ่างจากบา้ นพกั อาศยั ประมาณ 10 – 20 เมตร เพอื่ สะดวกในการรักษาความ สะอาด และการฉีดอบสารเคมีฆ่าเช้ือโรค หลงั คาควรเลือกใชว้ สั ดุทีเ่ ป็ นฉนวนกนั ความรอ้ นและน้าไดด้ ี พ้นื หอ้ งควรใชค้ อนกรีต ผนงั หอ้ งก่อ ดว้ ยคอนกรีตสูงจากพน้ื ประมาณ 50 เซนติเมตร ส่วนทีเ่ หลือบดุ ว้ ยมุง้ ลวด หรือมุง้ ไนล่อนตีเป็นผนงั ถึงระดบั เพดานหอ้ ง ปิ ดทบั ดว้ ยผา้ หรือผา้ พลาสติกทีส่ ามารถมว้ นเก็บได้ เมื่อตอ้ งการใหม้ ีการ ระบายอากาศและปิ ดในเวลาฉีดอบสารเคมีฆ่าเช้ือโรคหรือเพอื่ ป้องกนั แสง ควรมีหอ้ งเก็บใบหม่อนสาหรับการเล้ียงไหมได้ 2 เวลา มีหอ้ งมืดขนาด 1.0 x 1.5 เมตร สาหรบั ดกั แมลงวนั ลาย มีพ้นื ท่ีวา่ งประมาณ 20-30 เปอร์เซ็นต์ วสั ดแุ ละอุปกรณ์สาหรับการเลีย้ งไหม วสั ดุและอุปกรณ์การเล้ียงไหมที่จาเป็นสาหรับเล้ียงไหมจากไขไ่ หม พนั ธุล์ ูกผสมรังสีขาว 1 กล่อง/ แผน่ (ประมาณ 20,000 ฟอง) มีดงั น้ี อุปกรณ์วดั อุณหภูมิความช้ืน 1 ชุด มีดและเขียง (หรือเครื่องหน่ั ใบหม่อน) 1 ชุด เคร่ืองฉีดฟอร์มาลีน 1 เคร่ือง กรรไกรตดั แตง่ ก่ิงไม้ 1 อนั เคร่ืองลอกปยุ ไหม 1 ชุด เคร่ืองชงั่ ขนาด 50 กิโลกรัม 1 เครื่อง กระบะเล้ียงไหมวยั อ่อน ขนาด 90 x 100 x 12 ซม. 4กล่อง หรือกระดาษพาราฟิ น 4 ตารางเมตร ตะแกรงร่อนแป้ง (ชนิดตาถ่ี) 1 อนั ตาข่ายสาหรบั ถ่ายมูลไหมวยั อ่อน 8 ผนื (ขนาดชอ่ งตาขา่ ย 1 x 1 ซม.2) ขนาด 100 x 80 ซม. จอ่ หมุน 15 ชุด หรือจอ่ ลวด /จอ่ พลาสติก 60 ชุด ถงั น้าขนาด 200 ลิตร 1 ใบ รองเทา้ แตะ 1-2 คู่ เข่งหรือตะกรา้ เกบ็ ใบหม่อน 2 ใบ ตะกรา้ ใหอ้ าหาร 4 ใบ ผา้ คลุมหม่อน (1x1.5 เมตร) 10 ผนื ขนไก่/ขนนก 1-2 อนั ตะเกียบไมไ้ ผ่ 2 คู่
ปนู ขาวชนิดผงละเอียด 2 - 3 กิโลกรัม หรือแกลบเผา 100 ลิตร สารเคมีป้องกนั โรคไหมสช่อื หนนิดังผสงือเ(รเพียนบรโาซยวลชิ)า1เลกอื ิโกลกรกมั ารเผาถา่ นด้วยถัง ๒๐๐ ลิตร สารฟอร์มาลีน 3% (ฟอร์มาลีน 40% จานวน 1 ส่วนผสมน้า 13 ส่วน) ใชฉ้ ีดพน่ อตั รา 1 ลิตร/ตาราง เมตร มุง้ ไนล่อน (มุง้ เขียว) 16 ตารางเมตร กระดาษหนงั สือพมิ พเ์ ก่า 5 กิโลกรมั ผงซกั ฟอก 1-2 กิโลกรัม สบลู่ า้ งมือ 1 กอ้ น เชือกเสน้ ผา่ ศูนยก์ ลาง 0.5 ซ.ม. ยาว 2 เมตร 6 เสน้ หรือตาข่ายถ่ายมูลสาหรับถ่ายมูลไหมวยั แก่ (ขนาดช่องตาข่าย 3 x 3 ซม2) ขนาด 80 ซม. x 100 ซม. 40 ผนื
ส่อื หนงั สือเรยี นรายโวรชิงาเลเลยี้อื งกไหกมาปร่ เาผาถา่ นด้วยถงั ๒๐๐ ลติ ร ตวั บี้ ผเี สือ้
ส่อื หนงั สือเรียนรายวิชาเลอื ก การเผาถา่ นด้วยถัง ๒๐๐ ลิตร รังไหม การสาวไหม ตวั หนอน
สื่อหนังสือเรยี นรายวชิ าเลอื ก การเผาถา่ นด้วยถงั ๒๐๐ ลติ ร วทิ ยากรผู้สอน นางทองเลิศ สอนจันทร์ การสบื หกู
ส่อื หนังสอื เรยี นรายวชิ กาเาลรอื กมดั หกามรเ่ี ผาถ่านดว้ ยถัง ๒๐๐ ลิตร การทอผา้
ส่อื หนงั สือเรยี นรกายาวริชยาอ้เลมอื กไหมการเผาถ่านดว้ ยถงั ๒๐๐ ลิตร การค้นไหม
ส่อื หนงั สือเรยี นรายผวชิลาิตเลภอื กณั ฑกผ์าร้าเไผหาถมา่ นดว้ ยถงั ๒๐๐ ลิตร
สื่อหนังสอื เรคียานรราับยวรชิ อางเลหอื กลกั สกาูตรเรผาถ่านดว้ ยถงั ๒๐๐ ลิตร ....................................................................................................................................................... ลงช่ือ………………………………… ( นางทองเลศิ สอนจนั ทร์ ) วทิ ยากร ความเหน็ กรรมการสถานศึกษา เห็นควรอนุมตั ิ อน่ื ๆ…………………………….. ลงชื่อ……………………………….. ( พ.ต.สุวทิ ย์ แรมลี ) ประธานคณะกรรมการสถานศึกษา ความเหน็ ผู้บริหารสถานศึกษา อนุมตั ิ ไม่อนุมตั ิ อืน่ ๆ…………………… ลงช่ือ……………………………. ( นายสุรินทร์ หว่างจติ ร ) ผู้อานวยการศูนย์การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอธั ยาศัยอาเภอมญั จาครี ี
คณะผู้จดั ทา ส่ือหนงั สือเรียนรายวิชาเลอื ก การเผาถ่านด้วยถงั ๒๐๐ ลติ ร ทป่ี รึกษา 1. นายสุรินทร์ หวา่ งจิตร ผอ. กศน.อาเภอมญั จาคีรี คณะผ้จู ดั ทา ครูอาสาสมคั ร กศน. 1. นางเพลินจิตร สุดชา หวั หนา้ กศน.ตาบลโพนเพก็ 2. นางภชั ราภรณ์ คาหวาน 3. คณะครู กศน.อาเภอมญั จาคีรี ผ้จู ดั ทารูปเล่มและออกแบบรูปเล่ม หวั หนา้ กศน.ตาบลโพนเพก็ 1. นางภชั ราภรณ์ คาหวาน ครู กศน.ตาบลโพนเพก็ 2. นายภาคภูมิ ศิริสุจริตกลุ ครูศูนยก์ ารเรียนชุมชน 3. นายสุชิน หมอกชยั
Search
Read the Text Version
- 1 - 21
Pages: