ความปลอดภยั ในงานเชอ่ื มหรอื ตัดโลหะ (WELDING & CUTTING) การเชื่อม หรือ การตัดโลหะ เป็นงานที่จาเป็นอย่างย่ิง สาหรับการก่อสร้างอาคาร ร้านค้า ป้ายโฆษณา รวมถงึ โครงสร้างตา่ งๆท่ีเราพบเหน็ กนั อยู่ทกุ วนั ทั้งนก้ี เ็ พ่อื ตัดโลหะออกจากกัน หรือ เพ่ือยึดติด โลหะเข้าด้วยกันให้แน่นแข็งแรง ซึ่งในการเช่ือม/ตัดโลหะจะก่อให้เกิดมลพิษทางสภาพแวดล้อมในการ ทางานประเภทต่างๆ มากมาย ต่อตัวผู้ปฏิบัติงานโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นการเช่ือมด้วยไฟฟ้า หรือแก๊ซ ล้วนก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ ซ่ึงอาจจะทาให้เสียชีวิตทันทีหากได้ รับอันตรายจากไฟฟ้าดูด หรอื การระเบดิ และยังส่งผลต่อสุขภาพ ก่อให้เกิดโรคจากการทางาน เน่ืองจากแสง หรือ รังสี ตลอดจนฟูม ของโลหะซ่งึ มผี ลโดยตรงต่อระบบทางเดินหายใจ ก่อให้เกิดโรคเรื้อรัง รักษาไม่หายขาดเป็นอันตรายถึงชีวิต ไดใ้ นระยะเวลาไมก่ ่ีปี หากไมม่ กี ารป้องกนั อย่างถกู ตอ้ ง ซง่ึ วิธีการปฏบิ ัติ เพ่ือความปลอดภัยในการทางานที่ เก่ยี วกับการเช่ือม และตัดโลหะ มดี งั น้ี 1. อนั ตรายจากไฟฟา้ ดูด ระบบไฟฟ้าในการเชื่อมชนิดเช่ือมไฟฟ้า จะเร่ิมจากแหล่งจ่ายไฟและจบลงท่ีสายดิน กระแสไฟฟ้า จะไหลผ่านสู่ชิ้นงาน กระแสท่ีมีประจุตรงกันข้ามจะไหลในทิศทางกลับกัน กระแสไฟฟ้าจะต้องไหลลงสู่ดิน เพ่ือให้วงจรสมบูรณ์ และในการไหลลงสู่ดินนี้กระแสไฟฟ้า จะเลือกทางเดินท่ีสะดวกที่สุดเสมอ กระแสไฟฟ้าท่ีใช้จะมีความต่างศักย์ 80 โวล์ท การลัดวงจรของกระแสไฟฟ้าท่ีมีความต่างศักย์ดังกล่าว อาจไม่ทาให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิต แต่ก่อให้เกิดอันตรายอ่ืน ๆ ได้ เช่น เป็นแหล่งความร้อน ทาให้เกิด อัคคีภัยได้ ไม่ควรใช้เครื่องเชื่อมที่ใช้ในไฟฟ้ากระแสตรงและไฟฟ้ากระแสสลับบนช้ินงานเดียวกัน ในเวลาเดยี วกัน ในกรณีทร่ี ่างกายของผูเ้ ชอื่ มสัมผสั กับขว้ั ไฟฟา้ ที่ตา่ งกัน กระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านตัวผู้เชื่อม อาจสูงถึง ข้ันเป็นอันตรายได้ ตามที่ได้กล่าวแล้วว่ากระแสไฟฟ้า 80 โวล์ท ไม่มีอันตรายถึงกับชีวิต แต่จะมีผลต่อ การควบคุมกล้ามเน้ือซ่ึงอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุ เช่น การพลัดตกจากน่ังร้าน อย่าพันสายไฟไว้รอบตัว เพราะฉนวนหุ้มสายไฟอาจอยู่ในสภาพชารุด เลือกใช้มือจับลวดเชื่อมให้เหมาะสมกับไฟฟ้าท่ีใช้ เพ่ือหลกี เลย่ี งการเกดิ ความรอ้ นสงู แตถ่ ้าเกิดความรอ้ นสงู ขึ้นแล้วอย่าแช่มือจับลวดเช่ือมลงในน้า อย่าท้ิงมือ จบั ลวดเช่ือมไว้โดยไม่ดแู ล ควรระวังการเกิดเพลงิ ไหม้ เตรยี มเครื่องดบั เพลิงไว้ในบริเวณทางาน ถ้าหลีกเลี่ยง
ไดไ้ มค่ วรเช่ือมวสั ดทุ ต่ี ิดไฟไดเ้ ปน็ แนวยาวเกิน 35 ฟตุ ถ้าจาเป็นต้องทาจะต้องแต่งตั้งคนคอยระวังเพื่อตรวจ ตราและแจ้งเหตุเพลิงไหม้ เพราะผู้เชื่อมไม่สามารถมองเห็นไฟได้ขณะทาการเช่ือม จะพบเห็นต่อเมื่อลุกลาม จนยากต่อการควบคมุ อาจเกดิ การระเบิดขณะทาการเชื่อม ผงฝนุ่ เลก็ ๆ ท่ลี อยอยู่ในอากาศเกดิ การลุกไหม้ 2. อันตรายจากแสงจากการเชอื่ ม แสงจ้าจากการเชื่อมเป็นอันตรายต่อดวงตาและอาจทาให้ผิวหนังไหม้ได้รังสีในห้องเชื่อมท่ีเป็น อันตรายจะอยู่ในช่วงความถ่ีตามองไม่เห็น คือช่องรังสีใต้แดง (infrared) และรังสีเหนือม่วง (ultraviolet) รังสีท้ังสองชนิดนี้ทาให้เกิดอันตรายต่อสายตาและผิวหนังได้อย่างรุนแรง คือ ดวงตาระคายเคืองถึงกับ อักเสบและนา้ ตาไหล ผวิ หนังส่วนท่ีได้รับรงั สจี ะเปน็ เหตใุ ห้ผวิ ไหม้และรู้สึกปวดแสบปวดร้อนเป็นเวลา 24 – 48 ชั่วโมงข้ึนไป ยาวนานตามระยะเวลาท่ีได้รับรังสีน้ัน ๆ ก๊าซบางชนิ ด เช่น คาร์บอนไดออกไซด์ จะสามารถกรองและดูดซับรังสีนี้ได้มาก แต่ในทางตรงกันข้าม อาร์กอนจะไม่มีผลต่อการลดความเข้ม ของรังสเี หนอื ม่วง ดังนั้นบุคคลที่เช่ือมโดยใช้อาร์กอนจึงมีความเสี่ยงต่อรังสีเหนือม่วงมากกว่าบุคคลท่ีเชื่อมโดยใช้ คาร์บอนไดออกไซด์ สารที่เคลือบลวดเช่ือมหลายชนิดจะให้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นส่ิงที่เกิดข้ึนมา ขณะเกิดการเผาไหม้ นอกจากนี้ สารท่ีเคลือบลวดเช่ือมบางชนิดจะมีผลต่อการลดการแพร่รังสีเหนือม่วง อกี ด้วย แต่โดยท่วั ไปแล้วอัตราการแพร่รังสีของรังสีเหนือม่วงในงานเชื่อมประเภทการเชื่อมด้วยก๊าซยังมีค่า สูง ดังน้ันควรปกป้องสายตาโดยการใช้กระจกค่าตัดแสงท่ีเหมาะสมกับชนิดของงาน American Welding Society ได้กาหนดระดับความเข้มข้นของแผ่นตัดแสงท่ีเหมาะสมกับงานเชื่อมแต่ละประเภท ดังน้ันจึงควร เลือกใช้แผ่นตัดแสงท่ีมีความเข้มสูงกว่าที่กาหนดได้เสมอ แต่อย่าใช้แผ่นท่ีมีความเข้มต่ากว่าที่กาหนด แผ่นกรองแสงนี้อาจทามาจากกระจก พลาสติก อาจมีการเคลือบทองในลักษณะท่ีมนุษย์อวกาศใช้ ถ้าใช้แผ่นกรองแสงเคลือบทอง ควรตรวจสอบการเคลือบว่าไม่มีรอยขีดข่วนใด ๆ เน่ืองจากดวงตา จะไม่สามารถรับรู้อาการเจ็บป่วยได้จนกว่าดวงตาจะถูกรังสีต่าง ๆ จะทาลายอย่างรุนแรงและอาจเป็นการ ทาลายโดยถาวร แสงจ้าจากการเช่ือมสามารถทาอันตรายต่อผิวหนังได้เช่นกัน ผู้เชื่อมควรสวมใส่เส้ือผ้าสีเข้มไม่ สะท้อนแสง ถ้าสวมใส่ชุดสีอ่อนขณะทาการเช่ือมอาจสะท้อนแสดงจากการเชื่อมจะเกิดอาการไหม้ บริเวณ ลาคอได้ การเลือกใช้อุปกรณ์ป้องกัน และเลือกสีเสื้อผ้าท่ีเหมาะสมสามารถช่วยป้องกันได้ควรมีการปกปิด ผิวหนงั ทุกสว่ น 3. อันตรายจากฟมู (FUME) และก๊าซที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ฟูม (Fume) เป็นอนุภาคของแข็งท่ีเกิดข้ึนจากการควบแน่นของสารท่ีอยู่ในสถานะท่ีเป็นก๊าซ โดยทั่วไปสารน้ันๆ จะอยู่ในสถานะของแข็งที่อุณหภูมิห้อง เมื่อได้รับความร้อนก็จะระเหยและจะควบแน่น ทันที ตัวอย่างฟูมท่ีพบในการทางาน ได้แก่ ฟูมของตะกั่วออกไซด์ ฟูมของเหล็กออกไซด์ฯลฯ มนุษย์ได้
เรียนรู้วิธีการเช่ือมมานานแล้ว แต่ไม่ค่อยได้ตระหนักถึงอันตรายของฟูมและก๊าซท่ีเกิดข้ึนในงานเชื่อม สักเท่าไร การศึกษาในประเภทนี้เพิ่งจะเร่ิมข้ึนในช่วงปี ค.ศ. 1970-1980 เท่านั้น จากการวิเคราะห์พบว่า สารเหล่านี้มีส่วนประกอบของโลหะออกไซด์และสารที่เคลือบบนลวดเชื่อม ซ่ึงสารเหล่าน้ีจะปะปนอยู่ใน อากาศทใี่ ช้ในการหายใจและอาจผ่านเข้าสู่ปอดได้ พัดลมดูดอากาศสามารถใช้เพื่อกาจัดฟูมเหล่านี้ออกจาก บริเวณทางานได้ แต่ควรระวังอย่างให้ฟูมเหล่านี้หมุนเวียนเข้ามาสู่บริเวณหายใจ สิ่งหนึ่งที่ควรระวังคือ ถ้า ปริมาณมากข้ึนอัตราการถ่ายเทอากาศควรมีค่าสูงข้ึนเช่นกัน ค่าความเข้มข้นของฟูมในบรรยากาศรอบๆ บริเวณทางานจะต้องถูกควบคุมให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัยแต่ในทางปฏิบัติแล้วควรจะกาจัดออกให้หมด จะต้องระวังท่ีจะไม่หายใจเอาฟูมนี้เข้าไป นอกจากนี้ในระหว่างการเชื่อมอาจเกิดก๊าซพิษร่วมกับควัน ก๊าซ ต่าง ๆ ท่เี กิดข้นึ คอื 1) ก๊าซไนโตรเจนออกไซด์ มักเกิดในบรรยากาศแต่อาจเกิดได้ขณะทาการเชื่อม จะก่อให้เกิดการ ระคายเคอื งทต่ี า จมูกและลาคอ อาจทาให้หมดสติได้ ควรตดิ ตงั้ ระบบระบายอากาศเฉพาะทเี่ พื่อแกป้ ญั หานี้ 2) ก๊าซโอโซน (เกิดจากรังสีอัลตราไวโอเลตทาปฏิกิริยากับออกซิเจน) มักเกิดจากการเชื่อมที่ใช้ อาร์กอน ซ่ึงเปน็ ก๊าซท่ใี ช้ตัดเหลก็ ในการเช่ือมควันจากการเช่ือมทังสเตนหรือการเชื่อมด้วยก๊าซ ก๊าซโอโซน จะก่อให้เกิดการระคายเคืองตาและเย่ือบุโดยจะทาให้เกิดโรค Pulmonary edema โรคเกี่ยวกับทางเดิน หายใจเรื้อรงั 3) ก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์ เกิดจากการใช้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นก๊าซเช่ือมหรือเกิดจาก การเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ของสารบางชนิด เช่น สี หรือ ไข อาจเกิดอันตรายจากการได้รับก๊าซนี้มีอาการมึนงง เวียนศรีษะ หรอื หมดสตแิ ละเสยี ชวี ิตได้ ฯลฯ 4. อนั ตรายจากการลกุ ไหม้ และการระเบิด อาจเกิดข้ึนได้ในขณะทาการเช่ือม ถ้าไม่หาวิธีควบคุม และป้องกันอันตรายที่ดีพอ การเช่ือมแบบ ต่างๆ ย่อมทาให้เกิดประกายไฟ และสะเก็ดไฟกระเด็น ซ่ึงเป็นจุดให้เกิดไฟไหม้และการระเบิดได้ ถ้าไม่หาทางป้องกันไว้ก่อน ดงั นนั้ จงึ ต้องมอี ุปกรณ์ในการดับเพลิงวางไว้ใกลก้ บั บริเวณที่ทาการเชื่อม หรือจัด ให้มีผู้สังเกตุการณ์เฝ้าระวังไฟไหม้ (Fire Watcher) อีกส่ิงหน่ึงท่ีผู้เช่ือมควรคานึงให้มากก็คือ การเช่ือม ภาชนะท่ีเคยบรรจุเช้ือเพลิงไว้ หรือการเช่ือมในหลุมในบ่อท่ีอาจมีแก๊ซติดไฟอยู่ในหลุมในบ่อนั้น (เช่น แก๊ซ H2S ท่ีเรียกกันว่าแก๊ซไข่เน่า) ซึ่งอาจเป็นเหตุทาให้เกิดไฟไหม้ และการระเบิดขึ้นได้ ฉะนั้นผู้ทางานเช่ือม ด้านน้จี งึ ควรคานึงถงึ และแน่ใจว่าจะไม่เกิดอนั ตรายขน้ึ 5. อนั ตรายท่เี กิดจากการทาความสะอาดรอยเชอ่ื ม หลังเลกิ งาน ภายหลังการเชอ่ื มเสร็จแลว้ จะตอ้ งเคาะเอาสะแลค (ภาษาชา่ งจะเรยี กวา่ ขี้เชื่อม) ออก หรอื การเจยี ร เพื่อตกแต่งรอยเช่อื ม กจิ กรรมเหลา่ นอิ้ าจทาให้เศษโลหะกระเด็นเข้าตาได้หากไม่ใส่แว่นนิรภัย ป้องกันดวงตา รวมไปถึงสุขอนามัยส่วนบุคคล ซึ่งแนะนาว่าให้ชาระล้างทาความสะอาดร่างกายทันทีหลัง
เสร็จงาน และเปล่ียนเส้ือผ้าก่อนกลับบ้าน และงดนาอาหาร หรือเคร่ืองดื่มทุกชนิดเข้ามารับประทาน หรือ ดม่ื ในบรเิ วณทมี่ กี ารทางานเชอื่ ม • ก่อนการตัด หรือเชื่อมโดยเฉพาะบริเวณท่ีอันตราย (Hazardous Zone) เช่น ใกล้กับบริเวณ ท่ีมีไอน้ามัน หรือสารเคมีไวไฟ จะต้องมีใบอนุญาตทางาน (Permit) มีการกั้นพื้นท่ีทางานชั่วคราว และปฏบิ ัตตามข้ันตอนและข้อกาหนเดท่ีระบใุ นคู่มอื การทางาน หรอื จากการเรยี นรู้ การอบรม • เม่ือทาการเชื่อมหรือตัดบนท่ีสูง จะต้องระวังและป้องกันลูกไฟ หรือสะเก็ดไฟหล่นใส่ผู้ท่ีอยู่ ด้านล่าง หรืออุปกรณ์ที่ไวไฟอยู่ด้านล่างหรือใกล้เคียงสาหรับงานท่ีต้องตัด เช่ือม เจียร์บนท่ีสูงในบริเวณ ท่ีห้ามเกิดประกายไฟ (hot work) จะต้องจัดให้มีผู้เฝ้าระวังประกายไฟด้านล่างอย่างน้อยหน่ึงคน หรือให้ เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทางานเดินตรวจตราด้านล่างบริเวณรอบๆท่ีกาลังทาการเชื่อ ม ตัด หรือเจียร์อยู่ • ให้ใช้ถาดชนิดที่เป็นโลหะไม่ติดไฟ หรือท่ีไม่มีปฏิกริยากับความร้อน รองไว้ใกล้กับบริเวณท่ีเช่ือม หรือตัดเพ่ือปอ้ งกนั สะเกด็ ไฟ • ให้ใช้วัสดุท่ีไม่ติดไฟ คลุมอุปกรณ์ทางด้านล่างและพรมด้วยน้า และก่อนเร่ิมจะต้องมีเครื่อง ดบั เพลงิ เตรยี มไวพ้ รอ้ ม ต้องมฉี ากท่ีทาจากวัสดไุ มต่ ิดไฟ สาหรบั ปอ้ งกันสะเกด็ ลูกไฟ • ผ้ปู ฏบิ ัติงานตอ้ งใชอ้ ปุ กรณ์ป้องกนั อนั ตรายส่วนบุคคลที่เหมาะสมกับงาน และมีคุณสมบัติสาหรับ ป้องกนั สะเก็ดลูกไฟ • ต้องสวมเส้ือแขนยาวและกางเกงขายาว ที่สามารถป้องกันสะเก็ดลูกไฟ และไม่ลุกติดไฟง่ายต้อง สวมถุงมอื หนังชนดิ ที่ไม่เปดิ ปลายนิว้ และ ต้องสวมรองเทา้ นิรภยั ชนิดหมุ้ ขอ้ • เม่ือต้องทางานเช่ือมหรืองานตัดบนท่ีสูงต้องดาเนินการภายใต้สภาพที่ปลอดภัย และใช้เข็มขัด นริ ภัยแบบรดั ลาตวั ตลอดเวลา • เคร่ืองเชื่อมโลหะแต่ละเคร่ืองต้องมีอุปกรณ์ป้องกัน หรือสวิตซ์ตัดตอนไฟฟ้า เพื่อป้องกันการใช้ กระแสไฟฟา้ เกินขนาด และห้ามใช้ลวดทองแดงมาใชแ้ ทนฟิวส์ตะกวั่ เดด็ ขาด • พืน้ ท่ีทางานเชื่อมตอ้ งเปน็ วสั ดุทนไฟ พื้นผิวไม่ขรุขระ หรือมีน้าขัง และต้องจัดให้มีแสงสว่าง และ การระบายอากาศทีด่ ใี นบรเิ วณท่เี ชอ่ื มอย่างเพยี งพอ และเหมาะสม • ห้ามนาถังแกส๊ เขา้ ไปวางใช้งานในสถานทอี่ บั อากาศ หรือวางบนนัง่ ร้านเดด็ ขาด • เมอื่ ทางานเชื่อม หรืองานตดั ในบรเิ วณท่มี ีอากาศไม่เพียงพอในเวลานานๆ ต้องจัดให้มีการระบาย อากาศที่ดี ในระหวา่ งการทางาน ปริมาณออกซิเจนในอากาศตอ้ งไมน่ ้อยกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ และต้องปฏิบัติ ตามกฎความปลอดภยั การทางาน
Search
Read the Text Version
- 1 - 4
Pages: