Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บันทึกเรื่องราว…จากวันนั้น ถึงวันนี้ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี History of Suratthani Rajabhat University

บันทึกเรื่องราว…จากวันนั้น ถึงวันนี้ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี History of Suratthani Rajabhat University

Published by srulibrary2015, 2021-09-22 07:36:10

Description: หนังสือที่บันทึกเรื่องราว เกี่ยวกับประวัติ ความเป็นมา
เหตุการณ์สำคัญ ตลอดจนความเป็นเอกลักษณ์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน

Search

Read the Text Version

คนที่ 7 นายชาญชัย ภกั ดีเจรญิ วันที่ 15 สิงหาคม 2531 คนท่ี 8 นายวิลาศ เมอื งนอ้ ย วันที่ 15 มีนาคม 2532 คนที่ 9 รศ.สุณีย์ ล่องประเสรฐิ วนั ท่ี 21 พฤศจิกายน 2535 พุทธศักราช 2538 (ร่าง) พระราชบัญญัติสถาบันราชภัฏผ่านความ เห็นชอบของรัฐสภาและได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ฉบับกฤษฎีกา เล่มที่ 112 ตอนที่ 4 ก วันที่ 24 มกราคม พุทธศักราช 2538 มีผลให้วิทยาลัยครูสุราษฎร์ธานี เปลี่ยนเป็น “สถาบันราชภัฏสุราษฎร์ธานี” และมีการเปลี่ยนแปลงการแบ่งส่วน ราชการภายในสถาบัน โดยสำนักงานอธิการ เปลี่ยนเป็น “สำนักงานอธิการบดี” มี “ผู้อำนวยการสำนักงานอธิการบดี” เป็นผบู้ ริหารสงู สุด ต่อมาเปล่ยี นสถานะภาพ เป็นมหาวิทยาลัยราชภัฏ เมื่อพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พุทธศักราช 2547 ได้ประกาศในพระราชกิจจานุเบกษา ฉบับกฤษฎกี า เล่ม 121 ตอนพิเศษ 23 ก หน้า 1 ลงวนั ที่ 14 มถิ ุนายน พุทธศักราช 2547 ซ่ึงสำนักงานอธิการบดียังมีช่ือคง เดิมเป็นไปตามกฎกระทรวงจัดตั้งส่วนราชการภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ ธานี กระทรวงศึกษาธกิ าร พทุ ธศกั ราช 2548 ลงวันท่ี 1 มีนาคม พทุ ธศักราช 2548 โดยมผี อู้ ำนวยการสำนักงาน เปน็ ผู้บรหิ ารสงู สดุ ดงั นี้ รายนามผู้ดำรงตำแหน่งบรหิ ารสำนักงานอธกิ ารบดี (พทุ ธศกั ราช 2538 ถึง ปจั จบุ นั ) คนท่ี 1 นายชัยราช จลุ กลั ป์ วันที่ 9 มถิ นุ ายน 2538 คนท่ี 2 รศ.สณุ ีย์ ล่องประเสรฐิ วนั ที่ 1 กนั ยายน 2540 คนท่ี 3 ผศ.ดร.สนุ ทร พนู เอยี ด วันท่ี 28 มกราคม 2542 คนท่ี 4 นายชยั ราช จลุ กลั ป์ วันที่ 28 มกราคม 2546 (ช่วงเปลี่ยน สถานะจากสถาบนั ราชภฏั เป็นมหาวทิ ยาลยั ราชภฏั ) คนที่ 5 ผศ.อภชิ าติ พัฒนวริ ิยะพิศาล วนั ที่ 1 มนี าคม 2552 คนที่ 6 นายวสนั ต์ สุทธโส วันท่ี 1 มิถนุ ายน 2553

คนท่ี 7 ผศ.ดร.สุนทร พูนเอยี ด (รก.) วนั ท่ี 7 มกราคม 2556 คนที่ 8 ดร.บรรเจิด เจริญเวช (รก.) วันท่ี 29 กรกฎาคม 2556 คนท่ี 9 นางโสภา ปุ่นสวุ รรณ (รก.) วนั ท่ี 1 กรกฎาคม 2558 คนที่ 10 ดร.บรรเจิด เจรญิ เวช (รก.) วันท่ี 1 ตลุ าคม 2558 คนที่ 11 นายสมชาย สหนิบุตร (รก.) วันท่ี 1 ธนั วาคม 2560 คนท่ี 12 นายศักดา ศิริพันธ์ุ วันท่ี 1 พฤษภาคม 2562 ถึง ปัจจบุ ัน ปีพุทธศักราช 2561 สำนักงานอธิการบดี ได้จัดพิธีเปิดอาคารสำนกั งาน อธิการบดีหลังใหม่ซึ่งตรงกับวันสถาปนาราชภัฏ เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ พทุ ธศักราช 256121 21 มหาวทิ ยาลัยราชภฏั สรุ าษฎรธ์ านี สำนกั งานอธิการบดี. (2564). รายงานการประเมนิ ตนเอง รายงานการศึกษาตนเอง : Self Study Report ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 (รอบ 6 เดือน) เพอ่ื รบั การติดตาม ตรวจสอบและประเมนิ ผลงาน ในตำแหนง่ ของผอู้ ำนวยการ สำนักงานอธกิ ารบดี. สรุ าษฎรธ์ านี : มหาวทิ ยาลยั .

สำนกั สง่ เสรมิ วชิ าการและงานทะเบยี น

สำนักส่งเสรมิ วิชาการและงานทะเบียน สำนกั สง่ เสรมิ วชิ าการและงานทะเบียน ต้ังอยู่ท่ีชั้น 1 อาคารกาญจนาภิเษก อนสุ รณ์ เป็นหนว่ ยงานท่ีได้รับความเห็นชอบจากสภามหาวิทยาลัยราชภัฏสรุ าษฎร์ ธานี ให้ปฏบิ ัติหน้าท่ีในการสนับสนนุ การจัดการเรียนการสอนรวมทง้ั ปฏิบัติหน้าที่ เป็นกลไกในการขับเคลื่อนงานทางด้านวิชาการด้วยการกำกับมาตรฐานหลักสูตร การศึกษาระดับปริญญาตรใี ห้สอดคลอ้ งกบั มาตรฐานอดุ มศึกษาและเป็นที่ยอมรับ ในระดับสากลซึ่งสำนักส่งเสริมวิชาการและงานทะเบียน เริ่มต้นมาจากเดิม คอื ฝ่ายทะเบียน ซง่ึ มีนายทะเบยี นเป็นผู้กำกับดูแล อาคารกาญจนาภเิ ษกอนุสรณ์ ภาพ : มหาวทิ ยาลัยราชภฏั สุราษฎร์ธานี พทุ ธศักราช 2519 เปิดรบั นกั ศกึ ษาในระดับประกาศนียบตั รวิชาการศึกษา (ป.กศ.) พุทธศักราช 2521 เปิดรับนักศกึ ษาในระดบั ประกาศนียบัตรวิชาการศึกษา ช้นั สูง (ป.กศ.ชนั้ สูง) พุทธศักราช 2522 ได้เปิดโครงการอบรมครูและบุคลากรทางการศึกษา ประจำการ (อคป.) ในวันเสาร์และวนั อาทิตย์ อคป. รุน่ น้ี ไดร้ บั ปรญิ ญาครุศาสตร บณั ฑิต เป็นรุ่นแรก

พุทธศักราช 2523 เปิดรับนักศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาวิชาครุศาสตร์ เพิ่มขึ้นและงดรับนักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาการศึกษาส่วนการเปิด โครงการอบรมครูและบุคลากรทางการศึกษาประจำการในวนั เสาร์และวันอาทิตย์ ยังคงดำเนินการ พุทธศักราช 2524 ถึง 2527 เปิดรับนักศึกษาระดับปริญญาตรีมากข้ึน ตามลำดับ ในส่วนของโครงการอบรมครูและบุคลากรทางการศึกษาประจำการ ได้เปิดศูนย์อบรมขึ้นที่วิทยาลัยพลศึกษา จังหวัดชุมพร ในปีพุทธศักราช 2525 และในปีนี้เองได้เปิดสอนวิชาเอกพลศึกษา ภาคปกติ ซึ่งเป็นโครงการร่วมมือ กับวิทยาลยั พลศึกษา จงั หวดั ชุมพร พุทธศักราช 2526 ได้เปิดรับนักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรเทคนิค การอาชีพ (ป.ทอ.) ภาคสมทบ เข้าศึกษาต่ออีกประเภทหนึง่ และในปีพุทธศักราช 2527 เปิดรบั นักศกึ ษาหลกั สตู รน้ีเข้าศกึ ษาในภาคปกติ พุทธศักราช 2528 ได้ขยายฐานทางการศึกษากว้างขวางขึ้น เนื่องจาก พระราชบัญญัตวิ ิทยาลัยครู (ฉบับที่ 2) พุทธศักราช 2527 กำหนดให้วิทยาลัยครู จัดการศึกษาในสาขาวิชาอื่นได้ จึงเปิดรับนักศึกษาระดับอนุปริญญาและระดับ ปริญญาตรีนอกเหนือจากสาขาครุศาสตร์ ในขณะเดียวกันก็งดรับนักศึกษา หลกั สูตรประกาศนยี บัตรเทคนิคการอาชีพ พุทธศกั ราช 2529 โครงการอบรมครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษาประจำการ เปลี่ยนรูปแบบเป็นการดำเนินงานตามโครงการจัดการศึกษาสำหรับบุคลากร ประจำการ (กศ.บป.) โดยเปิดโอกาสให้ทั้งภาครัฐและเอกชนในอาชีพต่าง ๆ นอกเหนอื จากอาชพี ครูเขา้ ศกึ ษาตามความตอ้ งการ พทุ ธศักราช 2530 ถึง 2532 การจดั การศกึ ษาสำหรบั บุคลากรประจำการ ได้เปิดศูนย์อบรมข้นึ ทโี่ รงเรยี นสอาดเผดิมวทิ ยา จงั หวดั ชุมพร พุทธศักราช 2533 ได้เปิดสอนวิชาเอกวิทยาศาสตร์สุขภาพ ภาคปกติ โดยรว่ มมอื กบั วทิ ยาลยั พลศึกษา จังหวดั ชุมพร พุทธศักราช 2534 การดำเนินงานการจัดการศึกษาสำหรับบุคลากร ประจำการไดเ้ ปล่ยี นไปดำเนินการทโ่ี รงเรยี นศรียาภัย

พุทธศักราช 2535 วันที่ 14 กุมภาพันธ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรณุ าโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามวทิ ยาลยั ครวู า่ “สถาบันราชภฏั ” พุทธศักราช 2537 ดำเนินการรับนักศึกษา โดยขยายปริมาณการรับ ด้านสาขาและจำนวนนักศกึ ษามากข้นึ พุทธศักราช 2538 ประกาศใช้พระราชบัญญัติสถาบนั ราชภัฏ พุทธศักราช 2538 พุทธศักราช 2543 ได้เปิดรับนักศึกษาระดับปริญญาตรี โดยขยายสาขา และปริมาณการรับมากขึ้นทั้งภาคปกติและภาคสมทบและได้ปรับปรุงโครงการ กศ.บป. เป็นโครงการจดั การศึกษาสำหรับบุคลากรท้องถิ่น (กศ.บท.) เพื่อเปิดรับ บุคคลทั่วไปโดยไม่จำกดั อาชพี และได้ขยายการเปิดศูนย์ใหก้ ารศึกษานอกสถาบัน ไปยงั จังหวัดระนองอกี 1 ศนู ย์ พุทธศักราช 2545 เปิดรับนักศึกษาภาคปกติ โดยขยายฐานในสาขา วิทยาศาสตร์มากขึ้น ลดการผลิตในสาขาการศึกษาและได้เปดิ ศูนย์ให้การศึกษา นอกสถาบนั ท่ีอำเภอเกาะสมุย พทุ ธศกั ราช 2546 สถาบันได้พัฒนาเปน็ มหาวทิ ยาลัยโดยสมบรู ณ์ ได้ขยาย ฐานการจดั การศึกษาเพ่มิ ขนึ้ อีกหลายสาขา พุทธศักราช 2547 ประกาศใช้พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พทุ ธศกั ราช 2547 ต้งั แต่วันท่ี 15 มถิ นุ ายน พุทธศักราช 2547 ได้ทำความร่วมมือ กับการบินไทย เพื่อเปิดสอนนักศึกษาสาขาธุรกิจการบินและได้ทำความร่วมมอื กบั วทิ ยาลัยพลศึกษา จงั หวดั กระบ่ี พุทธศกั ราช 2551 เปิดคณะพยาบาลศาสตร์ คณะนิตศิ าสตร์ เปดิ หลักสูตร อุตสาหกรรมท่องเที่ยว (ธุรกจิ การบิน) หลกั สูตรภาษาองั กฤษ พุทธศกั ราช 2553 เปิดการเรียนการสอนสาขาวชิ าอุตสาหกรรมท่องเท่ียว (ธุรกิจการบิน) ที่วิทยาลัยนานาชาติการท่องเที่ยว อำเภอเกาะสมุย จังหวัด สุราษฎรธ์ านี

เมื่อสมัยยังเป็นวิทยาลัยครู สำนักส่งเสริมวิชาการและงานทะเบียน มีสถานะเป็นฝ่ายทะเบียน มีหน้าที่รับผิดชอบในเรื่องรับสมัครนักศึกษา ประวัติ ของนักศกึ ษา จัดตารางเรยี น ตารางสอน ตารางสอบ ประมวลผลการสอบต่าง ๆ ประมวลผลการสำเร็จการศึกษา ในขณะนั้นสิ่งอำนวยความสะดวกยังมีน้อย ต้องใช้บุคลากรปฏิบัติงานเพียงอย่างเดียวและการปฏิบัติงานแต่ละด้าน ใช้ระยะเวลามาก ต่อมาเปล่ียนช่ือเป็นฝ่ายทะเบียนและประมวลผล ในปพี ทุ ธศักราช 2538 ไดม้ ีประกาศใช้พระราชบัญญตั สิ ถาบันราชภฏั พทุ ธศักราช 2538 และเปลีย่ นช่ือเปน็ สำนกั ส่งเสริมวิชาการ ซ่ึงมีผ้อู ำนวยการสำนกั เปน็ ผูก้ ำกบั ดแู ล ภายใตร้ องอธกิ ารฝา่ ยวชิ าการและต่อมาสถาบันราชภัฏได้เปล่ียนสถานะภาพ เป็นมหาวิทยาลัยราชภัฏ เมื่อพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พุทธศักราช 2547 ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ฉบับกฤษฎีกา เล่ม 121 ตอนพิเศษ 23 ก หน้า 1 ลงวันที่ 14 มิถุนายน สำนักส่งเสริมวิชาการและงานทะเบียน ได้รับ การจัดตง้ั ตามกฎกระทรวงจัดตง้ั สว่ นราชการในมหาวทิ ยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี กระทรวงศึกษาธิการ พุทธศักราช 2548 เมื่อวันท่ี 1 มีนาคม พุทธศักราช 2548 โดยมีผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมวิชาการและงานทะเบียนเป็นผู้บริหารสูงสุด และมีรองผูอ้ ำนวยการ พุทธศักราช 2549 มีประกาศกระทรวงศึกษาธิการเรื่อง การแบ่งส่วน ราชการในมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี พุทธศักราช 2549 ได้ประกาศ ในราชกจิ จานุเบกษาและมีผลบงั คับใช้ ต้งั แตว่ นั ท่ี 23 มิถุนายน พุทธศกั ราช 2549 ข้อ 40 ให้แบ่งส่วนราชการสำนักสง่ เสริมวิชาการและงานทะเบียนเป็นสำนักงาน ผู้อำนวยการ โดยมีหัวหน้าสำนักงานผู้อำนวยการเป็นผู้บังคับบัญชา ภายใต้ ผู้อำนวยการสำนกั นน้ั เพอื่ ใหก้ ารบรหิ ารงานบคุ คลของคณะหนว่ ยงานอน่ื ทม่ี ฐี านะ เทียบเท่าคณะและสำนักงานอธิการบดีในมหาวิทยาลัยราชภัฏสุรา ษฎร์ธานี ดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 18 (2) (5) และมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พุทธศักราช 2547 ประกอบกับมติที่ประชุมสภามหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ในคราวประชุม ครง้ั ท่ี 11/2549 เมอื่ วนั ที่ 29 พฤศจิกายน พุทธศกั ราช 2549

จึงออกประกาศมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี เรื่องการแบ่งส่วน ราชการภายในของมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ซึ่งสำนักส่งเสริมวิชาการ และงานทะเบียนเป็นส่วนงานหนึ่งจากการแบ่งส่วนราชการภายในมหาวิทยาลัย ในขณะนั้น โดยมีสำนักงานผู้อำนวยการ มีผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมวิชาการ เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุด รองผู้อำนวยการ 3 ท่าน และหัวหน้าสำนักงาน ผู้อำนวยการอยู่ภายใต้รองอธิการบดี ฝ่ายวิชาการซึ่งมีงานที่ต้องรับผิดชอบ ประกอบด้วย 5 งาน คือ งานบริหารทั่วไป งานการเงิน บัญชีและพัสดุ งานหลักสตู รและแผนการเรยี น งานทะเบียนและประมวลผลและงานเทคโนโลยี สารสนเทศ ต่อมา ได้มีประกาศมหาวทิ ยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี เรือ่ ง การแบ่งส่วน งานภายในของมหาวทิ ยาลัยราชภฏั สรุ าษฎร์ธานี อาศยั อำนาจตามความในมาตรา 18 (2) (5) และมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญตั ิมหาวทิ ยาลัยราชภัฏ พุทธศักราช 2547 และพระราชบัญญัติการบริหารส่วนงานภายในของสถาบันอุดมศึกษา พทุ ธศักราช 2550 มาตรา 4 ประกอบกับมติสภามหาวทิ ยาลัยราชภฏั สุราษฎรธ์ านี ในการประชุมครั้งที่ 15/2560 เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2560 จงึ ยกเลิกประกาศมหาวิทยาลัยราชภัฏสรุ าษฎร์ธานี เรือ่ งการแบง่ สว่ นงานภายใน ของมหาวทิ ยาลยั ราชภัฏสรุ าษฎรธ์ านี ลงวนั ท่ี 29 พฤศจกิ ายน พุทธศักราช 2549 และประกาศเรื่องการแบ่งส่วนงานภายในของมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ออกเป็น 15 ส่วนงานซึ่งสำนักส่งเสริมวิชาการและงานทะเบียนเป็นส่วนงาน ที่ 15 โดยแบ่งงานออกเป็น 6 งาน คือ งานบริหารทั่วไป งานหลักสูตรและแผน การเรียน งานทะเบียนและประมวลผล งานเทคโนโลยีสารสนเทศ งานจัดการ ศึกษาหมวดวชิ าศกึ ษาท่วั ไปและงานสหกิจศึกษา22 22 ประสงค์ หลำสะอาด. (สัมภาษณ์, 14 กรกฎาคม 2564).

สำนกั ศลิ ปะและวฒั นธรรม

สำนกั ศิลปะและวฒั นธรรม สำนักศิลปะและวัฒนธรรม ได้มีพัฒนาการมาตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2519 อันเป็นปีแรกที่สถาบันคือวิทยาลัยครูสุราษฎร์ธานี ในขณะนั้นเปิดทำการสอน โดยที่อาจารย์ผู้สนใจงานวัฒนธรรมกลุ่มหนึ่งได้ก่อตั้งศูนย์วัฒนธรรมบา้ นเราขน้ึ เพอื่ ศึกษา รวบรวม ส่งเสรมิ และเผยแพรว่ ัฒนธรรมทอ้ งถนิ่ สรุ าษฎรธ์ านี ศูนย์วฒั นธรรม ในอดีต ภาพ : อาจารยว์ ริ ยิ ะ กลนิ่ เสาวคนธ์ พุทธศักราช 2520 กรมการศาสนา ได้รับศูนย์วัฒนธรรมบ้านเรา เป็นหน่วยประเคราะห์ ศูนย์ส่งเสริมวัฒนธรรมไทยและจัดสรรงบประมาณ ประจำปีเป็นเงินอุดหนุนในการดำเนินงาน ประกอบกับในเวลาต่อมาสถาบัน และกรมการฝึกหัดครูได้ดำเนินการจัดตั้งศูนย์วัฒนธรรมขึ้นเป็นส่วนราชการ ระดับคณะในระดับวิทยาลัย โดยออกเป็นประกาศกระทรวงศึกษาธิการข้ึน ชื่อของศูนย์วัฒนธรรมบ้านเราจงึ เปลี่ยนเป็นศูนย์วฒั นธรรม วิทยาลัยครูสุราษฎร์ ธานี ทำให้งานวัฒนธรรมเป็นภารกิจหลักด้านหนึ่งของสถาบันที่เริ่มเข้มแข็งขน้ึ ตงั้ แตบ่ ัดน้ัน

พทุ ธศกั ราช 2523 กระทรวงศึกษาธิการ ไดจ้ ดั ตั้งสำนกั งานคณะกรรมการ วัฒนธรรมแห่งชาติขึ้น หน่วยประเคราะห์ ศูนย์ส่งเสริมวัฒนธรรมไทย โอนมา ขึ้นกับสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติและได้ยกฐานะ ขึ้นเป็น ศูนย์วัฒนธรรมประจำจังหวัด ชื่อว่า ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาวัฒนธรรม ในปเี ดยี วกัน โดยใหศ้ นู ยน์ ้ีต้ังอยู่ ณ วิทยาลัยครสู รุ าษฎรธ์ านี พุทธศกั ราช 2534 ได้เปลย่ี นชือ่ เปน็ ศนู ยว์ ัฒนธรรมจงั หวดั สุราษฎร์ธานี พุทธศักราช 2538 วิทยาลัยครูสุราษฎร์ธานี ได้ยกฐานะเป็นสถาบัน ราชภัฏสุราษฎร์ธานี ศูนย์วัฒนธรรม วิทยาลัยครูสุราษฎร์ธานี จึงเปล่ียนเป็น ศูนย์วัฒนธรรม สถาบันราชภัฏสุราษฎร์ธานีและยังคงดำเนินงานร่วมกับ ศูนย์วฒั นธรรม จงั หวัดสุราษฎร์ธานี พุทธศักราช 2538 ได้มีการปรับปรุงโครงสร้างหน้าท่ีความรับผิดชอบ ของส่วนราชการในสังกัดสำนักงานสภาสถาบันราชภั ฏ เพ่ือลดขนาด และเพิ่มประสิทธิภาพขององค์กรจัดอัตรากำลังบุคลากรที่ มีอยู่ให้เหมาะส ม ศูนย์วัฒนธรรมในสถาบันราชภัฏสุราษฎร์ธานี จึงเปลี่ยนชื่อเป็น สำนัก ศิลปวัฒนธรรม มีฐานะเป็นส่วนราชการระดับคณะ ตามพระราชบัญญัติ สถาบนั ราชภัฏ พุทธศักราช 2538 มีบทบาทสำคัญในการศึกษาค้นคว้า ส่งเสรมิ พัฒนา แ ล ะ เ ผ ย แ พ ร่ ศ ิ ลปวั ฒน ธร รม ตา ม ภา รก ิจ หน ึ ่ง ใ น หก ด ้ า น ข อ งสถ า บ ัน ร าชภั ฏ สรุ าษฎร์ธานี สำนักศลิ ปะและวฒั นธรรม ในปัจจุบนั ภาพ : มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สุราษฎรธ์ านี

เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน พุทธศักราช 2547 สถาบันราชภัฏสุราษฎร์ธานี ได้ยกฐานะเปน็ มหาวทิ ยาลัย ตามพระราชบัญญตั ิมหาวิทยาลยั ราชภฏั พุทธศกั ราช 2547 ส่งผลทำใหต้ อ้ งมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างภายในของมหาวิทยาลัยราชภัฏ สุราษฎร์ธานีด้วยและเพื่อให้เป็นไปตามโครงสร้างใหม่ สำนักศิลปวัฒนธรรม จึงได้เปล่ียนช่ือเป็น สำนักศิลปะและวัฒนธรรม ตามกฎกระทรวงจัดตั้ง ส่วนราชการในมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี กระทรวงศึกษาธิการ พทุ ธศักราช 2548 ลงวันท่ี 1 มีนาคม พทุ ธศกั ราช 2548 มฐี านะเทยี บเทา่ กบั คณะ มหี น่วยงานระดับกอง 1 หนว่ ยงาน คอื สำนกั งานผู้อำนวยการ โดยยังคงดำเนินงาน ตามพันธกิจหลัก 3 ประการคือ งานศิลปวัฒนธรรมภาคใต้ งานเกี่ยวกับศาสนา ในภาคใตแ้ ละงานพุทธทาสศึกษา23 หอพทุ ธทาสธรรมโฆษณ์ ภาพ : มหาวทิ ยาลัยราชภฏั สรุ าษฎรธ์ านี 23 มหาวิทยาลัยราชภฏั สรุ าษฎร์ธานี สำนักศลิ ปะและวฒั นธรรม. (2564). รายงานการศึกษา ตนเอง : Self Study Report ประจำปีงบประมาณ 2564. สุราษฎรธ์ านี : มหาวทิ ยาลัย.

สำนกั วทิ ยบรกิ ารและเทคโนโลยีสารสนเทศ

สำนักวทิ ยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ เมื่อปีงบประมาณ 2544 มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ได้รับจัดสรร งบประมาณ สำหรับการก่อสร้างอาคารศูนย์ภาษาและคอมพิวเตอร์จากรัฐบาล เป็นเงินจำนวน 61,156,082 บาท และมหาวิทยาลยั ราชภัฏสุราษฎร์ธานี จัดสรร งบประมาณในการก่อสร้างเพิม่ เติมอีก จำนวน 5,843,918 บาท รวมงบประมาณ ในการกอ่ สรา้ ง ทัง้ สน้ิ 67,000,000 บาท สำนักวทิ ยบริการ ในอดีต ภาพ : อาจารย์วริ ยิ ะ กลน่ิ เสาวคนธ์ เมื่อวันท่ี 7 สิงหาคม พุทธศักราช 2549 มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทร เทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 ทรงพระกรุณา พระราชทานนามอาคารศูนย์ภาษา และคอมพิวเตอร์แห่งนี้ โดยใช้ชื่อ “อาคารทีปังกรรัศมีโชติ” เพื่อเฉลิมฉลอง ในวโรกาสที่สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ทรงเจริญพระชนมายุครบ 1 พรรษา วันที่ 29 เมษายน พทุ ธศกั ราช 2549

เมื่อวันอาทติ ยท์ ี่ 28 ตลุ าคม 2550 สมเดจ็ พระเจ้าอยู่หวั มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 เสด็จพระราชดำเนิน ทรงเปิดอาคารทีปังกร รัศมีโชติ ณ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั สุราษฎร์ธานี ปัจจุบันมี การบริหารงานตามโครงสร้าง 3 ส่วนงาน ได้แก่ หอสมดุ กลาง ศูนย์คอมพวิ เตอร์ และศูนย์ภาษา24 พิธีเปิด อาคารทปี ังกรรัศมีโชติ ภาพ : มหาวิทยาลัยราชภฏั สรุ าษฎร์ธานี 24 มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สรุ าษฎรธ์ านี สำนักวิทยบรกิ ารและเทคโนโลยสี ารสนเทศ. (2564). รายงาน ประจำปี 2563. สุราษฎรธ์ านี : มหาวิทยาลัย.

สถาบันวจิ ัยและพฒั นา

สถาบนั วจิ ยั และพัฒนา วิทยาลัยครูสุราษฎร์ธานี ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีพุทธศักราช 2516 จากนั้น ได้มีพัฒนาการมาตามลำดับ จนกระทั่งในปีพุทธศักราช 2535 พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยูห่ วั ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ พระราชทานนาม วิทยาลัยครสู รุ าษฎรธ์ านี เป็นสถาบันราชภัฏสรุ าษฎรธ์ านี สถาบันราชภฏั สรุ าษฎร์ธานี จงึ ได้จดั ตั้งหนว่ ยงาน เพื่อการวิจัยขนึ้ ช่ือว่า “ศนู ยว์ จิ ัยและบรกิ ารการศึกษา” เพอื่ รองรบั การพัฒนางาน ด้านการวจิ ัยในชว่ งเวลาดงั กล่าว ตอ่ มาในปีพุทธศักราช 2538 ได้มีการประกาศใช้ พระราชบัญญัติสถาบันราชภัฏ “ศูนย์วิจัยและบริการการศึกษา” จึงมีฐานะ เป็น “สำนักวิจัยและบริการวิชาการ” กระท่ังปีพุทธศักราช 2547 ได้มีการ ประกาศใช้พระราชบญั ญัติมหาวทิ ยาลัยราชภฏั สถาบนั ราชภัฏสรุ าษฎรธ์ านี จึงยก ฐานะเป็นมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ส่งผลให้สำนักวิจัยและบริการ การศึกษามีฐานะเป็น “สถาบันวิจยั และพัฒนา” ตามโครงสร้างของมหาวิทยาลัย ราชภัฏสรุ าษฎร์ธานี จนถึงปัจจุบัน25 สถาบนั วิจยั และพัฒนา ในปจั จบุ ัน ภาพ : มหาวิทยาลัยราชภฏั สุราษฎรธ์ านี 25 มหาวทิ ยาลัยราชภฏั สุราษฎร์ธานี สถาบันวจิ ัยและพฒั นา. (2562). รายงานประจำปี 2561. สรุ าษฎรธ์ านี : มหาวทิ ยาลัย.

หอสมุดกลาง

หอสมดุ กลาง หอสมุดกลาง มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี เปิดให้บริการครั้งแรก พร้อมการก่อตั้งวิทยาลัยครูสุราษฎร์ธานี เมื่อปีพุทธศักราช 2517 โดยใช้อาคาร ช่วั คราวเป็นสถานทท่ี ำการ พุทธศักราช 2519 หอสมุดกลาง ย้ายมาทำการที่อาคารชั่วคราวบริเวณ หนา้ หอประชุมวชริ าลงกรณ พุทธศักราช 2522 ได้รับงบประมาณตามโครงการเงินกู้ธนาคารโลก เพือ่ กอ่ สร้างอาคารหลงั ใหม่ลกั ษณะเปน็ รปู หกเหล่ยี ม อาคารหอสมุด ในอดีต ภาพ : อาจารยว์ ริ ยิ ะ กลนิ่ เสาวคนธ์

พุทธศักราช 2533 หอสมุดได้รับงบประมาณจากกรมการฝึกหัดครู จำนวน 1,000,000 บาท และจากวิทยาลยั ครสู ุราษฎร์ธานี จำนวน 700,000 บาท เพือ่ ตอ่ เติมอาคาร และเปิดใช้อาคารเมอื่ วันท่ี 1 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2533 อาคารหอสมุด ในอดีต ภาพ : อาจารยว์ ิรยิ ะ กล่ินเสาวคนธ์ พุทธศักราช 2536 หอสมุดกลาง ได้รับงบประมาณเป็นจำนวนเงิน 22,000,000 บาท ในการกอ่ สร้างอาคารวทิ ยบรกิ าร เป็นอาคาร 4 ชัน้ อาคารบรรณราชนครินทร์ ภาพ : อาจารย์วิรยิ ะ กลนิ่ เสาวคนธ์

พุทธศักราช 2538 หอสมุดกลาง ได้รับพระราชทานนามอาคาร “บรรณ ราชนครินทร์” จากสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวง นราธิวาสราชนครินทร์ และในปีพุทธศักราช 2547 หอสมุดกลาง เป็นหน่วยงาน ย่อยของสำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ ตามพระราชบัญญัติ การจัดตง้ั มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏสรุ าษฎร์ธานี พุทธศักราช 2560 หอสมุดกลาง ย้ายมาอาคารหลังใหม่ชื่อ “อาคาร หอสมุดและศูนย์สารสนเทศเฉลิมพระเกียรติ” โดยเปิดให้บริการเป็นวันแรก เมื่อวันที่ 16 มกราคม พทุ ธศกั ราช 256026 อาคาร หอสมุดและศนู ย์สารสนเทศเฉลิมพระเกยี รติ ภาพ : ธติ ิ พวิ ัฒน์ 26 มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สรุ าษฎรธ์ านี หอสมุดกลาง. (2563). รายงานประจำปี 2563. สุราษฎร์ธานี : มหาวิทยาลยั .

หอประชมุ วชริ าลงกรณ

หอประชุมวชริ าลงกรณ หลังเปลี่ยนสถานะจากสถาบันมาเป็นมหาวิทยาลัย ในปีพุทธศักราช 2547 มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี เติบโตและพัฒนาอย่างก้าวกระโดด มีนักศึกษาเพ่ิมจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว หอประชุมหลังเดิมที่เคยใช้จัดกิจกรรม ต่าง ๆ อาทิ พิธีไหว้ครู ปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่ ปัจฉิมนิเทศผู้สำเร็จการศึกษา ฝึกซ้อมรับพระราชทานปริญญาบัตร ฯลฯ ไม่สามารถรองรับจำนวนนักศึกษา เรอื นหม่ืนได้อีกตอ่ ไป กอปรกบั การทม่ี หาวิทยาลยั ได้ให้บริการวิชาการในวงกว้าง มากขึ้น ทั้งในระดับชาติและนานาชาติ การสร้างหอประชุมหลังใหม่ที่สามารถ รองรับการขยายตัวทางวิชาการของมหาวิทยาลัย จงึ มคี วามจำเปน็ ย่ิง หอประชมุ วิทยาลัยครู-สถาบันราชภฏั ในอดตี ภาพ : อาจารย์วริ ยิ ะ กลิน่ เสาวคนธ์

มหาวิทยาลัยราชัฏสุราษฎร์ธานี ก่อสร้างหอประชุมขึ้นใหม่อีกหลังหน่ึง เป็นอาคารอเนกประสงค์สำหรับใช้สอย เพื่อประโยชน์ทางการศึกษาทั้งภายใน มหาวิทยาลัย ชุมชนท้องถิ่น ภูมิภาคระดับชาติและนานาชาติ ทั้งยังเปิดโอกาส ให้หน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาชนเข้ามาใช้บริการ เพอ่ื ให้เกิดประโยชนเ์ ตม็ ตามศักยภาพของหอประชมุ หอประชมุ วชิราลงกรณ ในปัจจุบนั ภาพ : มหาวิทยาลัยราชภฏั สรุ าษฎร์ธานี หอประชุมดังกล่าว เริ่มกอ่ สร้างเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน พุทธศักราช 2551 และก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อวนั ท่ี 17 มีนาคม พทุ ธศกั ราช 2553 ใชเ้ งนิ งบประมาณ แผ่นดินในการก่อสร้าง จำนวน 149,900,000 บาท ผู้รับจ้างก่อสร้าง คือ บจก. 27 วิศวกรรมและออกแบบอาคารโดย บรษิ ทั พเี อ็ม ดไี ซน์ จำกดั เพ่อื ใหห้ อประชมุ มีความสมบรู ณ์มากทส่ี ุด มหาวทิ ยาลัยจึงได้จดั งบประมาณตกแตง่ ภายในเพิ่มเติม ในวงเงินประมาณ 10 ล้านบาท หอประชุมดังกล่าวเป็นหอประชุมทรงศรีวิชัย ประยุกต์ โดดเด่นคงคุณค่าและความงดงามตามแบบสถาปัตยกรรมศรีวิชัย เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ความสูง 2 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 14,446 ตารางเมตร สามารถจคุ นไดป้ ระมาณ 5,000 คน นับเป็นหอประชมุ ทีม่ ีพน้ื ทีใ่ ช้สอย กวา้ งทีส่ ุดในกลมุ่ มหาวทิ ยาลัยราชภัฏภาคใต้

ภายหลังหอประชุมก่อสร้างแล้วเสร็จ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ได้มีหนังสือถึงสำนักงานราชเลขานุการในพระองค์ กองกิจการในพระองค์ พระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทรรามาธบิ ดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้า เจ้าอยู่หัว รัชกาลที 10 วังศุโขทัย เพื่อขอให้นำความกราบบังคมทูลเร่ือง ขอพระราชทานกราบบังคมทูลเสดจ็ ฯ มาทรงเปิดหอประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฏ สุราษฎร์ธานี ตามวันและเวลาสุดแต่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พร้อมท้ัง ขอพระราชทานนามหอประชุมดงั กล่าววา่ “หอประชมุ วชริ าลงกรณ” ต่อมาเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม พุทธศักราช 2553 สำนักงานราชเลขานุการ ในพระองค์ กองกิจการในพระองค์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยาม มกุฎราชกุมาร วังศุโขทัย มีหนังสือถึงมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี แจ้งว่า ได้นำความกราบบังคมทูลทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทแล้ว ทรงรับเชิญเสด็จฯ ไปในการนใ้ี นวนั พฤหสั บดีท่ี 23 กนั ยายน 2553 เวลา 17.00 น. และพระราชทาน นามหอประชุมดังกล่าวว่า “หอประชุมวชิราลงกรณ” ตามที่มหาวิทยาลัย ขอรบั พระมหากรณุ าธิคณุ 27 หอประชุมวชริ าลงกรณ ในปัจจบุ ัน ภาพ : มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏสุราษฎรธ์ านี 27 มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี สำนักงานอธิการบดี. (2553). หอประชุมวชิราลงกรณ มหาวิทยาลยั ราชภัฏสุราษฎร์ธานี. สรุ าษฎรธ์ านี : โรงพมิ พ์อุดมลาภ.

หลวงพ่อโสธร ศูนยร์ วมจติ ใจ

หลวงพอ่ โสธร ศูนยร์ วมจติ ใจ พระพุทธโสธร หรอื หลวงพ่อโสธร เป็นพระพทุ ธรปู ปางสมาธิ พระพทุ ธรปู ประจำมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวราชภัฏ มาอยา่ งยาวนาน พระพุทธโสธร ในอดีต ภาพ : อาจารย์วริ ิยะ กล่นิ เสาวคนธ์ วิทยาลัยครูสุราษฎร์ธานี ได้รับพระพุทธโสธร (องค์จำลอง) มาจาก พุทธบริษัท กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นเพ่ือนของ เรือโท ดร.อนันต์ ใจสมุทร เมื่อปีพุทธศักราช 2527 โดยได้อัญเชิญมาประดิษฐานที่หอประชุมหลังเก่า เป็นการชั่วคราว หลังจากนั้นจึงก่อสร้างศาลาไม้หลังคาสังกะสีและปัจจุบัน ได้บรู ณะศาลาข้นึ ใหมเ่ ปน็ กระเบื้องแบบถาวร28 พระพทุ ธโสธร ในปจั จุบนั ภาพ : มหาวทิ ยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ภาพ : เฟซบ๊กุ มหาวิทยาลัยราชภัฏสรุ าษฎร์ธานี 28 พงษศ์ กั ดิ์ สอนสังข์. (สัมภาษณ์, 24 กมุ ภาพนั ธ์ 2564).

เร่อื งเลา่ …เม่อื วันวาน

กว่าจะเป็น “ราชภฏั สุราษฎร์ธานี” ผศ.พงษ์ศกั ด์ิ สอนสังข์ อาจารย์เกษยี ณอายรุ าชการ ประธานชมรมอดตี อาจารย์ข้าราชการและบุคลากร มหาวิทยาลัยราชภฏั สรุ าษฎร์ธานี ปี 2435 ในขณะนั้นยังไม่มี ชื่อวิทยาลัยครู แต่จะมีช่ือที่เรียกว่า โรงเรียนฝกึ หัดอาจารย์ อยู่ท่พี ระนคร (มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร ในปัจจุบัน) ขณะนั้นการจบ ปกศ. (ประกาศนยี บัตรวิชาการศึกษาช้ันสูง) เ ท ี ย บ ไ ด ้ ก ั บ ม ั ธ ย ม ศ ึ ก ษ า ต อ น ต้ น ในปัจจุบัน โรงเรียนฝึกหัดอาจารย์ ทางภาคเหนือเรียกว่า มลฑลพายัพ คือ จังหวัดเชียงใหม่ ทางภาคใต้ เรียกว่า มณฑลนครศรีธรรมราช แต่ตัง้ อยทู่ ี่จังหวดั สงขลา มีการขยายวิทยาลัยอาจารย์ไปถึง 17 แห่ง ทางภาคใต้มีจังหวัดสงขลา นครศรีธรรมราช ยะลา ภูเก็ตและสุราษฎร์ธานี เป็นลำดับสุดท้าย โดยสังกัด กรมการฝึกหัดครู กรมการศึกษาธิการและเมื่อพุทธศักราช 2503 เปลี่ยนช่ือ เป็นวทิ ยาลยั ครู ตอนนมี้ หี ลกั สูตร ปกศ.สูง เรยี น 2 ปี วิทยาลยั ครสู ุราษฎร์ธานี ในอดีต ภาพ : อาจารย์วริ ิยะ กลิ่นเสาวคนธ์

กอ่ ตัง้ วิทยาลัยครทู ี่จงั หวดั สุราษฎรธ์ านี ก่อนการก่อตั้งวิทยาลัยครูที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ขณะนั้นทางกรม ศึกษาธิการ มีการเลือกสถานที่ก่อตั้ง 2 แห่ง คือที่จังหวัดชุมพร และจังหวัด สุราษฎร์ธานี ในขณะนั้นทางจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เสนอให้ก่อตั้ง ณ บริเวณ ค่ายวิภาวดีในปัจจุบัน ซึ่งเป็นที่ราชพัสดุ มีเนื้อที่กว่า 300 ไร่ แต่ก็ยังไม่ผ่าน การคัดเลือก จึงมีการเสนอที่ก่อตั้งบริเวณนิคมสร้างตนเอง ต.ขุนทะเล ซึ่งเป็น ที่ราชพัสดเุ ชน่ เดียวกัน พ้นื ท่ีบรเิ วณก่อตง้ั วทิ ยาลัยนั้นบางส่วนเคยเป็นทต่ี ้งั ของค่ายลกู เสอื อำเภอ เมืองสุราษฎร์ธานี (บริเวณคณะครุศาสตร์ปัจจุบัน) และบางส่วนก็ยังเป็นที่ดิน ของหน่วยปฏิบัติการพิเศษ จังหวัดสุราษฎร์ธานี รวมถึงยังมีที่ดินของชาวบ้าน คั่นอยู่ (บริเวณสระว่ายน้ำกรดเกล้า คณะพยาบาลศาสตร์ อาคารสำนักจัดการ ทรัพย์สินและอาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา) โดยเจ้าของที่ดินดั้งเดิมคือ นายร่าน กรดเกล้า ทางจังหวัดจึงได้ประสานชาวบ้าน เพื่อแลกท่ีดินกบั ราชพัสดุ เพื่อให้ทีด่ ินไดต้ ่อให้เป็นผืนเดียวกัน โดยนายร่าน กรดเกลา้ ได้ไปปลูกสร้างบ้าน ใกล้กับมหาวิทยาลัย เมื่อได้ตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วจึงได้ที่ดินมา 680 ไร่ (ไม่นับรวมปัจจุบัน) ทางจังหวัดจึงได้เสนอเพื่อขอก่อตั้งวิทยาลัยครูที่จังหวัด สรุ าษฎร์ธานี ซึ่งก็ไดร้ ับการอนุมตั ิ จึงได้กอ่ ตั้งข้นึ เปน็ “วทิ ยาลัยครสู ุราษฎรธ์ านี” พื้นที่บริเวณนั้นมีป่าไผ่แนะและต้นเคี่ยม (ต้นไม้ประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี) ขน้ึ อยเู่ ปน็ จำนวนมากและบริเวณคณะครุศาสตรใ์ นปัจจุบันกเ็ ปน็ บ่อลูกรังมาก่อน 29 กนั ยายน พทุ ธศักราช 2516 วทิ ยาลยั ครูสรุ าษฎรธ์ านี ไดร้ บั การกอ่ ตง้ั อย่างเป็นทางการ โดยเปิดสอนในระดับประกาศนียบัตรวิชาการศึกษา (ป.กศ.) (ขณะน้นั ภาคใตม้ วี ทิ ยาลัยครูถึง 4 แหง่ และจังหวัดสรุ าษฎรธ์ านีเป็นลำดับที่ 5)

อธิการบดีคนแรก อาจารย์กลาย กระจายวงศ์ ได้รับการแต่งตั้งจากกรมศึกษาธิการให้เปน็ ผู้อำนวยการคนแรก (ขณะนั้น สอนอยู่ทีว่ ิทยาลัยครูยะลา) อาจารย์กลาย จึงเชิญ อาจารย์อีก 3 ท่าน มาช่วยกันก่อตั้งวิทยาลัยครู ได้แก่ อาจารย์ดำเนิน พุ่มวิเศษ ย้ายมาจากวทิ ยาลยั ครสู งขลา อาจารยว์ ไิ ล สุวรรณนาคิณ ยา้ ยมาจากวิทยาลัยครู ยะลา รับตำแหน่ง เจ้าหน้าที่การเงิน และเป็นคนขับรถตู้แดง ซึ่งเป็นรถคันแรก ของวิทยาลัย อาจารย์ประจักษ์ นันทสุคนธ์ มาจากจังหวัดชุมพร และอาจารย์ บญุ ธรรม (เสียชีวติ แลว้ ) รวมทง้ั จ้างคนงานกอ่ สร้างจำนวน 2 คน วิทยาลยั ครูสุราษฎร์ธานี ในอดตี ภาพ : อาจารย์วริ ิยะ กล่นิ เสาวคนธ์ ในขณะนั้นอาคารต่าง ๆ ยังก่อสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ อาจารย์กลาย กระจายวงศ์ อาจารย์ดำเนิน พุ่มวิเศษ และอาจารย์วิไล สุวรรณนาคิณ จึงได้ไป เช่าบ้านที่ซอยออมสิน ซึ่งอยู่ในตัวเมืองและได้ตั้งสำนักงานชั่วคราวขึ้นที่น่ัน โดยใช้ชื่อว่า “สำนักงานชั่วคราววิทยาลัยครูสุราษฎร์ธานี” ตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2516 ถงึ ปีพุทธศกั ราช 2518 สว่ นอาจารย์ประจักษ์ นนั ทสคุ นธ์ และอาจารยต์ ่อม บุญธรรม ไดใ้ ช้อาคารเรียนโรงเรียนศกึ ษาสงเคราะห์เปน็ ท่ีพกั ช่ัวคราว วทิ ยาลัยครสู รุ าษฎรธ์ านี ในอดตี ภาพ : อาจารย์วริ ิยะ กลน่ิ เสาวคนธ์

ปญั หาการกอ่ สร้าง การก่อสร้างอาคารของวิทยาลัยครูในช่วงเริ่มต้นมีปัญหาค่อนข้างมาก เนื่องจากมีอยู่หลายสาเหตุ เช่น ผู้รับเหมาเป็นคนต่างถิ่น (เข้ารับประมูลจาก ส่วนกลาง) และได้รับการประมูลหลายแห่งทำให้ผู้รับเหมาต้องกระจายคนงาน ทำให้ก่อสร้างไม่แล้วเสร็จตามระยะเวลาที่กำหนด จึงต้องต่อระยะเวลาส่งงาน อยู่หลายครง้ั คณุ ภาพของน้ำกิน นำ้ ใช้ก็ไมด่ ีเพราะเปน็ นำ้ เคม็ จึงตอ้ งทำนำ้ ประปาใชเ้ อง โดยการตอ่ ทอ่ น้ำมาใช้จากบงึ ขนุ ทะเล และในขณะน้นั อาจารยก์ ลาย กระจายวงศ์ มีความตั้งใจจะให้อาคารแล้วเสรจ็ ให้ได้ภายในปีพุทธศักราช 2519 จึงแก้ปัญหา โดยการปลูกสร้างอาคารเรียนกันเอง โดยเริ่มเกณฑ์คนงานมาประมาณ 10 คน เริ่มจากตัดไม้ เลื่อยไม้และก่อสร้างเอง จนกระท่ังมีอาคารเรยี นชั่วคราว ชั้นเดียว แบง่ เป็น 4-8 ห้องและเรียกช่ืออยา่ งไม่เปน็ ทางการว่า “เลา้ ไก”่ การกอ่ สร้างอาคาร ในอดตี ภาพ : อาจารยว์ ริ ิยะ กลิน่ เสาวคนธ์ พุทธศักราช 2518 รัฐบาลได้ประกาศใช้พระราชบัญญัติวิทยาลัยครู ให้เป็นสถาบันอุดมศึกษา เปิดสอนได้ถึงระดับปริญญาตรี สาขาครุศาสตร์ ตามหลักสตู รของสภาการฝึกหดั ครู ซึ่งทำให้ครูประจำการในจงั หวัดสุราษฎร์ธานี ต้องเข้าร่วมอบรมในภาคฤดูร้อน อาจารย์กลาย กระจายวงศ์ จึงเชิญอาจารย์ รวมถึงศึกษานเิ ทศกท์ ่ีจบการศึกษาในระดับปริญญาตรมี าเป็นผู้สอน รวมถึงเชิญ ผม (อาจารยพ์ งษ์ศกั ดิ์ สอนสังข์) มาเป็นอาจารย์ชว่ ยสอนด้วย

ผมจึงย้ายมาเป็นอาจารย์ประจำต้ังแต่ปีพุทธศักราช 2519 ซึ่งในขณะนั้น ยังมีอาจารยท์ า่ นอื่น ๆ อีกหลายท่านทไ่ี ดป้ ระจำการพรอ้ มกัน เชน่ อาจารย์สบาย ไสยรินทร์ อาจารย์วิลาส เมืองน้อย ได้มาเป็นอาจารย์รุ่นแรก รวมแล้ว 37 คน และมีคนงาน 12 คน จึงเริ่มเปิดสอน 3 คณะ คือคณะครุศาสตร์ (มีภาควิชา 4 หลกั สตู ร ได้แก่ ภาควชิ าหลักสตู รการสอน ภาควชิ าแนะแนว ภาควิชาเทคโนโลยี และภาควชิ าพลศึกษา) คณะมนุษยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตรแ์ ละคณะวิทยาศาสตร์ โดยมีอาคารเรยี น 3 หลงั ไดแ้ ก่ อาคารครุศาสตร์ อาคารมนษุ ยศาสตร์ และอาคาร วิทยาการจดั การ อาคารครศุ าสตร์ อาคารมนุษยศาสตร์ อาคารวทิ ยาการจดั การ ภาพ : อาจารยว์ ิรยิ ะ กลิ่นเสาวคนธ์

นักศกึ ษารุ่นแรก นักศึกษารุ่นแรกของวิทยาลัยครูสุราษฎร์ธานี เป็นนักศึกษาในโครงการ พิเศษของตำบลต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีและจังหวัดชุมพร คัดเลือก เข้ามาโดยได้รับโควตา (Quota) ศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลยั โดยไม่ต้องผ่าน การสอบคัดเลือก เมื่อจบการศึกษาแล้วจะต้องกลับไปสอนในพื้นที่ของตนเอง เรียกว่า “ครูตำบล” หรือขณะนั้นเรียกว่าครูคึกฤทธิ์ เนื่องจากหม่อมราชวงศ์ คึกฤทธิ์ ปราโมช ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย แต่เม่ือ หม่อมราชวงศ์ คึกฤทธิ์ ปราโมช พ้นจากตำแหนง่ นโยบายครูตำบลจึงถูกยกเลิก และเปล่ียนมาสอบแขง่ ขันเพอื่ เขา้ เรยี น ในปีแรกมีนกั ศึกษาเข้าเรยี น 380 คน ซึ่งก่อนเข้ามาเรียนในวิทยาลยั ครู มีกติกาอยู่หนึ่งข้อคือต้องนำอุปกรณ์มาคนละ 1 ชนิด เช่น จอบหรือเสียม ทั้งนี้ เพือ่ นำมาชว่ ยกนั พฒั นาวิทยาลยั ครตู อ่ ไป พิธมี อบปริญญาแกน่ ักศึกษารนุ่ แรก นกั ศกึ ษารนุ่ แรกของวทิ ยาลยั ครูสรุ าษฎร์ธานี จบการศึกษาวุฒิ ป.กศ. ได้รับมอบปริญญาบัตร โดย ดร.ผดุงชาติ สุวรรณวงศ์ อธิการบดีคนที่ 2 เป็นผู้มอบโดยใช้พื้นที่บริเวณสวนป่าครุธรรม พธิ ีมอบปรญิ ญาบัตร ครัง้ แรก ในขณะนั้นยังเป็นสวนป่าที่มีความร่มรื่น มีต้นไม้ ภาพ : ปฏทิ นิ บันทกึ 39 ปี มรส. ขนาดใหญเ่ ป็นจำนวนมากและมจี อมปลวกใหญ่ บริเวณนั้นมลี ักษณะเป็นเนินสงู และมีลานหินโค้งบนลานดินที่กว้างขวาง ภายใต้ ร่มไม้ (คล้ายลานหินโค้ง สวนโมกขพลาราม อำเภอไชยา) แต่ในปีถัดไปไดเ้ ปลี่ยน สถานทม่ี อบปรญิ ญาบตั ร ณ หอประชุม เน่ืองจากได้กอ่ สรา้ งอาคารแลว้ เสรจ็

เพลงมารช์ “ครั้งอดีต ดินแดนตรงนี้ กว่าหนึ่งพันปี รุ่งเรือง เกรียงไกร สมคำเล่าลือ อาณาจักรศรีวิชัย เราชาวใต้ ภูมิใจในถิ่นฐาน” ส่วนหนึ่งของเนื้อเพลง “มาร์ชวิทยาลัยครูสรุ าษฎร์ธานี” ยังคงตราตรึงอยู่ในความทรงจำของคนรุ่นก่อน อย่างแน่นอน ในขณะนั้นวิทยาลัยครูสุราษฎร์ธานี ยังไม่มีเพลงมาร์ชประจำ วิทยาลัย จึงได้ขอให้อาจารย์จรูญ เผือกสวัสด์ิ ช่วยแต่งเพลง เนื่องจาก เป็นนักดนตรแี ละมีความชำนาญและมีวงดนตรีเป็นของตนเอง โดยได้รวมตัวกัน กบั เพ่ือน ๆ ท่ีมคี วามสามารถด้านดนตรีมาร่วมกนั แต่งเพลง จงึ เกดิ เปน็ เพลงมาร์ช วิทยาลัยครูสุราษฎร์ธานี เป็นเพลงประจำวิทยาลัย ผู้ประพันธ์บทเพลง คือ ทักษิณัย นิยะกุล ขับร้องหมู่โดยอาจารย์และนักศึกษา เน่ืองจากขณะนั้น มีวงดนตรีประจำวิทยาลัยในส่วนของเพลงอื่น ๆ มีอาจารย์หลายท่านช่วยกัน ขับร้อง เชน่ อาจารยพ์ งษศ์ กั ด์ิ สอนสังข์ และอาจารยเ์ ยยี่ มลกั ษณ์ อุดาฤกษ์ สามแยกปาก...(หมา) สามแยกปากหมา หรือบริเวณสามแยกหลังมหาวิทยาลัย มีตำนาน เล่าขานไม่รู้จบมาจนบัดน้ี ใครเป็นผู้ตั้งชื่อก็ยังไม่มีใครทราบแน่ชัดแต่มีตำนาน ท่ีเล่าขานกันมา 2 ตำนานถงึ ที่มาของ สามแยกปากหมา ตำนานแรกคอื นกั ศกึ ษาในยุคเก่ากอ่ นชอบไปน่ังพบปะ พดู คยุ กันบริเวณ นั้น บ้างก็สรวลเสเฮฮาตามประสาคนหนุ่มคนสาว บ้างก็ใช้เป็นท่ีเมยี งมองสาว ๆ ที่เดนิ ผ่านไปผ่านมาและแซวเล่นกันเป็นทีส่ นุกสนาน เวลานกั ศึกษาหญิงเดนิ ผ่าน มกั มกี ารแซวเป็นจงั หวะการเดนิ ซ้าย...ขวา...ซา้ ย ซา้ ย...ขวา...ซ้าย ทำใหน้ กั ศึกษา ที่โดนแซวรวมใจกันเรียกบริเวณนั้นว่า สามแยกปากหมา หรืออีกตำนานคือ บริเวณนั้นมีแม่ค้าชื่อว่า เขียว เวลาขายของก็จะชอบเสียงดัง ชาวบ้านแถวน้ัน รวมถงึ นกั ศึกษาจงึ เรยี ก เขยี วปากหมา เพราะปากไม่คอ่ ยดี กลายมาเปน็ สามแยก ปากหมาจนถงึ ปัจจบุ นั

ความทรงจำทภ่ี าคภมู ใิ จ อาจารยก์ รรณิการ์ นาคอยู่ อาจารยเ์ กษียณอายุราชการ สาขาบรรณารกั ษศาสตรแ์ ละผอู้ ำนวยการสำนักวิทยบรกิ าร ตั้งแต่ทำงานท่ีมหาวิทยาลัย ราชภัฏสุราษฎร์ธานี สิ่งที่ประทับใจ คือ การทำงานที่ห้องสมุด ครูทำงาน อย่างมีความสุข เพราะสมัยน้ัน ผู้บริหารเห็นความสำคญั ของห้องสมุด และให้การสนับสนุนอย่างดี จึงทำให้ การทำงานเป็นไปอย่างราบร่นื รวมถงึ บุคลากรของห้องสมดุ กเ็ ปน็ คนเอาการ เอางานและมีความรักสามัคคีกันดี ในขณะนั้นบุคลากรบางคนทำงาน มานานแต่ไม่เคยได้ 2 ขน้ั เลย พอครูมาทำงานเป็นผู้บริหารสำนักวิทยบริการ บุคลากรหลายคน ก็ได้เลื่อนขั้นเงินเดือนในระดับ 2 ขั้นกันทุกปี เพราะครูป้อนงานให้เขาทำ และเขากท็ ำไดอ้ อกมาดแี ละถงึ แม้จะทำงานบริหารห้องสมดุ ด้วยและสอนด้วย แต่ครูก็มีความสุขเพราะคิดว่า “เราไปทำงานท่ีไหน เราก็ต้องรักงานที่นั่น” และเปน็ ศาสตรท์ เี่ ราถนดั

การเดินทางในความทรงจำ รศ.ดร.ชศู ักด์ิ เอกเพชร อาจารย์เกษยี ณอายรุ าชการ อดีตรักษาราชการแทนอธิการบดี มหาวิทยาลยั ราชภัฏ สรุ าษฎร์ธานี ประมาณปีพุทธศกั ราช 2517 วิทยาลยั ครู สุราษฎร์ธานี ในขณะนั้นยังไม่มีถนนลาดยาง เป็นถนนลูกรัง รถโดยสารก็มีค่อนข้างน้อย ส่วนใหญ่ก็จะเดินทางโดยใช้รถจักรยานยนต์ ส่วนตัวขบั เข้ามาทำงาน แต่เนื่องจากเป็นถนน ลูกรัง ดินแดงและฝุ่นก็เยอะ การขับรถเข้ามา ในแต่ละครั้งเส้นผมก็จะมีฝุ่นติดเป็นสีแดง เตม็ ไปหมด ต้องใช้เสือ้ กันฝนสวมทับชดุ ทำงาน ภาพ : มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏสรุ าษฎร์ธานี โดยทางเข้าวิทยาลัยครูในขณะนั้นอยู่บริเวณ ดา้ นข้างของประตูทางเข้าปจั จุบัน ในปนี นั้ บริษทั ณรงคก์ ารโยธาได้สัมปทานกอ่ สรา้ งวทิ ยาลยั ครูสรุ าษฎร์ธานี แต่ดำเนินการกอ่ สรา้ งไม่สำเรจ็ มปี ัญหาหลายอย่าง ในช่วงกำลังก่อสร้างมขี ่าวลอื เกี่ยวกับการตั้งค่ายเสือเหลือง ซึ่งคนทั่วไปคิดว่าเป็นคอมมิวนิสต์ แต่มาทราบ ภายหลังว่าไม่ใช่คอมมิวนิสต์ แต่เป็นผู้มีผลประโยชน์ในพื้นที่ โดยในขณะน้ัน ได้ก่อสร้างอาคารแล้วเสร็จเพียง 1 หลัง ส่วนอาคารอื่น ๆ ผู้รับเหมาได้ทิ้งงาน จึงต้องหาผู้รับเหมารายอื่นเข้ามาทำการกอ่ สรา้ งตอ่ ใหแ้ ล้วเสร็จ ในขณะนั้นได้ใช้อาคารชั่วคราวเป็นห้องเรียนและเป็นสำนักงาน ของวิทยาลัย เรียกว่าอาคาร ช.1-5 ซึ่งตั้งอยู่บริเวณหอสมุดกลางหลังใหม่ และหอพักนักศึกษา สมัยนั้นวิทยาลัยขาดแคลนน้ำดื่มน้ำใช้เปน็ อย่างมาก จึงมีการขุดสระน้ำ เพื่อใช้เอง โดยเรียกชื่อสระน้ำนี้วา่ “สระน้ำบา้ นนคิ ม” จนกลายมาเป็นแหล่งนำ้ ของชุมชน

สมัยนน้ั กจิ กรรมทุกอย่างเกิดขนึ้ ท่ี “สวนป่าครุธรรม” มีการเชิญพระสงฆ์ และเชิญวิทยากรต่าง ๆ มาอบรมให้ความรู้กันภายในบริเวณสวนป่า ขณะนั้น นักศึกษามีปริมาณไม่มากมีเพียง 100 ถึง 200 คน เท่านั้น โดยสวนป่าครุธรรม มีลักษณะเป็นสวนปา่ โปร่งมีความร่มรื่นและเย็นสบาย ที่นั่นสามารถนัง่ ทำสมาธิ ได้เปน็ อย่างดี บริเวณสวนปา่ ครุธรรม ภาพ : อาจารย์วิรยิ ะ กลนิ่ เสาวคนธ์ พิธีมอบปริญญาบัตรครั้งแรก เกิดขน้ึ ท่ีนั่นและมอบโดย ดร.ผดุงชาติ สุวรรณวงศ์ อธิการสมัยนั้นเป็นผู้มอบ และในปีต่อมา มหาวิทยาลัยมีความจำเป็นต้องขยายอาคาร ต่าง ๆ มากขึ้น จึงปรับพื้นที่บริเวณสวนป่า บางส่วนมากอ่ สร้างอาคาร ซง่ึ ปัจจบุ ันเปน็ ท่ีต้ัง ของศูนย์วิทยาศาสตร์และบางส่วนกลายเป็น หอประชมุ วชิราลงกรณ ภาพ รศ.ดร.ชศู ักดิ์ เอกเพชร และนักศกึ ษา ในพธิ มี อบปรญิ ญาครั้งแรก

เหตกุ ารณ์ในความทรงจำ เหตกุ ารณค์ ร้ังแรกประมาณปีพุทธศักราช 2520 นกั ศกึ ษาลกุ ขึ้นประท้วง ครั้งใหญ่เนื่องจากวิทยาลัยประกาศขึ้นค่าธรรมเนียม (ค่าหน่วยกิต ปฏิบัติ) จนนักศึกษาหยุดเรียนมาประท้วงทั้งวิทยาลัย ในขณะนั้นผมทำงานกิจการ นักศึกษาอยู่พอดีและได้มีอาจารย์สมบูรณ์ ตะปินา เป็นตัวแทนวิทยาลัย เข้าไปเจรจากบั นกั ศกึ ษาเพื่อยตุ ิปัญหาท่ีเกิดข้นึ ภาพ : มหาวทิ ยาลัยราชภัฏสุราษฎรธ์ านี เหตุการณ์ครั้งที่ 2 เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 มีนาคม พุทธศักราช 2552 โดยรถตู้โฟค์สวาเก้น สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน นข-2618 สุราษฎร์ธานี ของมหาวิทยาลัย มีอาจารย์ทรงศักดิ์ ลิ้มสุรัตน์ เป็นผู้ขับขี่นำคณะอธิการบดี เดินทางไปลงเรือเฟอร์รี่ที่อำเภอดอนสัก เพื่อข้ามไปยังวิทยาลัยนานาชาติ การท่องเท่ียว อำเภอเกาะสมุย เพื่อร่วมพิธีลงนามแลกเปลี่ยนนักศึกษาระหว่าง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน และมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ตามโครงการ “THAI CHINESE EDUCATION” ได้ประสบอุบัติเหตุเฉี่ยวชน กับรถยนตก์ ระบะพลกิ คว่ำข้างทางบรเิ วณทางสี่แยกโรงเรยี นบ้านซอย 2 ทำให้รถ หมุนถึง 3 รอบจนรถตกลงในคูน้ำ ผศ.ดร.ณรงค์ พุทธิชีวิน และรศ.ดร.ประโยชน์ คุปต์การจนากุล บาดเจ็บจนสลบไป ส่วนผมใบหูฉีกขาด ขณะนั้นเป็นข่าวใหญ่ ส่วนการลงนามเซ็นสัญญาร่วมมือต้องให้อาจารยน์ ิโรจน์ ไทยทอง เป็นคนลงนาม แทนผศ.ดร.ณรงค์ พุทธชิ ีวนิ ซง่ึ เป็นอธิการบดอี ยู่ขณะนัน้

จากบทเพลงวิทยาลัยครู สู่ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั

เพลง “มาร์ชวิทยาลยั ครูสรุ าษฎรธ์ าน”ี คำร้อง ทักษิณัย นิยะกุล ทำนอง ทกั ษิณยั นิยะกลุ เรียบเรยี ง จรญู เผอื กสวัสด์ิ นกั รอ้ ง ขับร้องหมู่ โดยอาจารยแ์ ละนกั ศึกษา คร้งั อดตี ดนิ แดนตรงน้ี กว่าหนง่ึ พนั ปี รุ่งเรอื ง เกรยี งไกร สมคำเลา่ ลอื อาณาจกั รศรวี ชิ ัย เราชาวใต้ ภมู ิใจในถ่ินฐาน ถึงยคุ ใหม่ ชื่อเมอื งคนดี สุราษฎรธ์ านี พระธีรราชทาน สมบรู ณ์พูนสุข นานาพืชผลยืนนาน ดว้ ยมีธาร แหลง่ รวมสายเลอื ดเดยี วกนั ตาปี ท่ีรวมนำ้ ใจ อยูใ่ กลไ้ กล ส่งใจถงึ กัน ขุนทะเล บงึ ใหญเ่ ฉดิ ฉนั ท์ เปน็ ท่ีเราบากบัน่ หมัน่ ศกึ ษา นอ้ มดวงจิต ตา่ งธูปเทียนธง ก้มกราบตอ่ องค์ พระธาตุไชยา ขอใหเ้ รียนจบ ดำรงสบื สอนวิชา ปรารถนา สง่ิ ใดใหส้ มอรุ า มงุ่ องคส์ ่ีของการศึกษา วิทยาลัยครสู ุราษฎรธ์ านี อกี พลานามยั ใหแ้ ขง็ แรง พทุ ธจิ ริยะ หัตถะ หลกั วชิ า เพอื่ แนวทาง ชาว ฟ้า แดง เตรยี มพรอ้ ม ไว้ทุกอยา่ ง โรจนร์ งุ่ แรง ช่วยเดก็ ไทย เปรียบเหมอื น เทียนสอ่ งแสง เพ่อื แนวทาง ชาวฟ้าแดง เตรยี มพรอ้ ม ไว้ทกุ อย่าง โรจนร์ ุ่งแรง ช่วยชาตไิ ทย เปรยี บเหมอื น เทียนส่องแสง

เพลง “อาลัยฟ้าแดง” คำรอ้ ง ทักษณิ ัย นยิ ะกุล ทำนอง ทักษิณัย นิยะกุล เรยี บเรยี ง จรญู เผือกสวสั ด์ิ นกั รอ้ ง พงษศ์ ักด์ิ สอนสังข์ ขอก้มลงกราบ ลาดิน น้ำตาหล่ังริน อาลัย ถงึ วันจำพราก ฝากใจเคยี งใกล้ จดจำเตอื นไว้ ชาวฟ้าแดง หลายปที ีร่ ่วม เรียนมา ทุกคนศรัทธา เข้มแข็ง แม่พมิ พ์ของชาติ ดว้ ยใจกลา้ แกรง่ อย่าให้ชาตแิ ลง้ ครูไทย ถงึ เราอยหู่ า่ ง ตา่ งแดน ไกลแสนสุดฟา้ แหง่ ไหน มลิ มื ขุนทะเล บึงใหญ่ เมอื งศรวี ชิ ยั แม่น้ำตาปี ไหว้องค์พระธาตุ ไชยา ขอพรเมตตา ปราณี พิทกั ษ์ปกปอ้ ง เพ่อื นพ้องทุกท่ี เพ่ือเป็นศกั ดศ์ิ รี ชาตไิ ทย

เพลง “มาร์ชมหาวิทยาลยั ราชภฏั สุราษฎร์ธานี” คำรอ้ ง ยพุ า พรหมศิร/ิ มนตรี นชุ ดอนไผ่ ทำนอง มนตรี นชุ ดอนไผ่ เรยี บเรียง ปราจนี ทรงเผา่ นกั ร้อง หมู่ ราชภัฏ สุราษฎร์ธานี ศนู ย์รวมชีวี พี่น้องทงั้ หลาย เฉกเช่นตาปี ไม่แหง้ ฉันใด ราชภัฏย่งิ ใหญ่ จะอยูไ่ ปตลอดกาล ราชภัฏ สรุ าษฎรผ์ งาดยงิ่ ศนู ยร์ วมทกุ สิ่ง คณุ ค่ามหาศาล คณุ ธรรมความดี อกี วชิ าการ เช่ียวชาญเป็นเลิศ ชูเชิดเทิดฟา้ แดง ลัญจกร สัญลกั ษณ์สูงค่า พระราชทาน จากราชา ปวงประชาหวงแหน โพธิญาลยั เปรียบประดุจดงั่ แสง สวา่ งไปทกุ ดินแดน แห่งปญั ญา ค่สู ถาบัน ราชภฏั สรุ าษฎร์ธานี สวยงามดว้ ยธรรมชาตทิ ่มี สี สี ัน เมอื งคนดี แหล่งคณุ ธรรม พรอ้ มนำประเทศไทย กา้ วไกล ชัยชโย



ที่ปรึกษา คณะกรรมการจดั ทำหนงั สือ ผศ.ปรญิ ญา นอ้ ยดอนไพร ผู้อำนวยการสำนักวทิ ยบริการและเทคโนโลยสี ารสนเทศ นางนันทนา เดชเกิด ผศ.กานต์ธดิ า บญุ มา นางสาวกง่ิ กาญจน์ สพุ รศริ สิ นิ รองผู้อำนวยการสำนกั วิทยบรกิ ารและเทคโนโลยสี ารสนเทศ ผูจ้ ัดทำ 1. นางสาวเบญจมาศ เทอดวรี ะพงศ์ 2. นางสาวทิพวรรณ อกั ษรทพิ ย์ 3. นางกฤติยา รกั สวสั ดิ์ 4. นางสาวเพชรรัตน์ กมิ ยู่ฮะ 5. นางสาวประทมุ พร วรี ะสุข 6. นางสาวเยาวดี ร่งุ เรอื ง 7. นางสาวสริ วิ ัฒนา น้อยดอนไพร 8. นางสาววราภรณ์ กรดเกลา้ 9. นางโชคดี กรดเกล้า 10. นางวรรนภา ทองสมสี 11. นางกิตตยิ า ใจซ่อื 12. นางสาวจนั ทรจ์ ริ า เครอื สาย 13. นายอนุรกั ษ์ ศรีนาคนลิ 14. นายไตรเพชร พลดี 15. นายณัฐนยั พิลกึ 16. นายกวีวธั น์ เทพทอง ออกแบบปก นายธรี วัฒน์ กิจงาม

บรรณานกุ รม กรรณิการ์ นาคอยู่. (สมั ภาษณ์, 10 พฤศจิกายน 2563). ชูศักดิ์ เอกเพชร. (สัมภาษณ์, 13 พฤศจกิ ายน 2563). ประสงค์ หลำสะอาด. (สมั ภาษณ์, 14 กรกฎาคม 2564). พงษ์ศกั ดิ์ สอนสงั ข์. (สมั ภาษณโ์ ดย, 24 กมุ ภาพนั ธ์ 2564). มหาวทิ ยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี. (2564). แนะนำมหาวทิ ยาลยั . [Online]. เขา้ ถึงได้จาก : https:/ /sru.ac.th/university-info-history/ [2564, กมุ ภาพนั ธ์ 13] มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏสุราษฎรธ์ านี. (2564). มรส. ทลู เกล้าทลู กระหม่อมถวาย ปริญญาศลิ ปะศาสตร ดษุ ฎีบัณฑติ กิตตมิ ศกั ดิ์ สาขาวิชาการจดั การ อุตสาหกรรมบริการ ถวายแก่สมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ .ี [Online]. เข้าถึงได้จาก : https://sru.ac.th/2020/12/16/sru-3/ [2564, กมุ ภาพนั ธ์ 13] มหาวิทยาลัยราชภัฏสรุ าษฎรธ์ านี. (2564). รายงานการศกึ ษาตนเอง : Self Study Report ประจำปงี บประมาณ 2564. สุราษฎร์ธานี : มหาวิทยาลัย. มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สรุ าษฎร์ธานี. (2563). รายงานประจำปี 2563 หอสมดุ กลาง สำนกั วิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏ สรุ าษฎร์ธานี. สรุ าษฎร์ธานี : มหาวิทยาลยั . มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สรุ าษฎรธ์ านี คณะครศุ าสตร์. (2563). รายงานผล การประเมนิ ตนเองระดบั คณะ ปีการศกึ ษา 2562. สรุ าษฎร์ธานี : มหาวทิ ยาลัย. มหาวิทยาลัยราชภัฏสรุ าษฎร์ธานี คณะนติ ิศาสตร์. (2563). รายงานการประเมนิ ตนเองระดับคณะ ปกี ารศึกษา 2563 (1 มิถุนายน 2563 – 31 พฤษภาคม 2564). สุราษฎร์ธานี : มหาวิทยาลัย.

มหาวิทยาลัยราชภฏั สุราษฎรธ์ านี คณะพยาบาลศาสตร.์ (2564). รายงาน การประเมินตนเอง ปี 2564. สุราษฎรธ์ านี : มหาวิทยาลัย. มหาวทิ ยาลัยราชภัฏสรุ าษฎร์ธานี คณะมนุษยศาสตร์และสงั คมศาสตร์. (2563). รายงานการศกึ ษาตนเอง ปกี ารศกึ ษา 2563. สุราษฎรธ์ านี : มหาวทิ ยาลยั . มหาวทิ ยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี คณะวิทยาการจัดการ. (2563). รายงาน การประเมินตนเอง ปีงบประมาณ 2563.สรุ าษฎร์ธานี : มหาวิทยาลยั . มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏสุราษฎร์ธานี คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2564). รายงานการประเมิน ผลงานของคณบดี ปีงบประมาณ 2564 (รอบ 6 เดือน). สรุ าษฎร์ธานี : มหาวิทยาลยั . มหาวิทยาลัยราชภฏั สุราษฎรธ์ านี บณั ฑติ วิทยาลัย. (2563). รายงานผล การประเมนิ ตนเอง ประจำปกี ารศึกษา 2562. สรุ าษฎรธ์ านี : มหาวทิ ยาลัย. มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏสุราษฎรธ์ านี วทิ ยาลยั นานาชาตกิ ารทอ่ งเท่ยี ว. (2564). แผนพฒั นาวทิ ยาลยั นานาชาตกิ ารท่องเทย่ี ว ระยะ 4 ปี (พ.ศ. 2564- 2567). สรุ าษฎร์ธานี : มหาวิทยาลยั . มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สุราษฎร์ธานี สถาบนั วิจัยและพฒั นา. (2562). รายงาน ประจำปี 2561. สรุ าษฎร์ธานี : มหาวทิ ยาลัย. มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี สำนักงานสภา. (2557). ค่มู ือปฏิบัตงิ าน. สรุ าษฎร์ธานี : มหาวิทยาลยั . มหาวทิ ยาลัยราชภฏั สรุ าษฎร์ธานี สำนักงานอธกิ ารบด.ี (2553). หอประชมุ วชริ าลงกรณ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สรุ าษฎรธ์ านี. สรุ าษฎร์ธานี : โรงพมิ พ์อุดมลาภ.

มหาวทิ ยาลัยราชภฏั สรุ าษฎรธ์ านี สำนกั งานอธกิ ารบด.ี (2564). รายงาน การประเมนิ ตนเองรายงาน การศึกษาตนเอง: Self Study Report สำนกั งานอธิการบดี มหาวิทยาลยั ราชภฏั สรุ าษฎร์ธานี ประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2564. สรุ าษฎรธ์ านี : มหาวิทยาลัย. มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎรธ์ านี สำนกั วทิ ยบรกิ ารและเทคโนโลยสี ารสนเทศ. (2564). รายงานประจำปี สำนกั วทิ ยบรกิ ารและเทคโนโลยีสารสนเทศ ประจำปี 2563. สรุ าษฎร์ธานี : มหาวทิ ยาลัย. มหาวิทยาลยั ราชภัฏอุบลราชธานี คณะเกษตรศาสตร์. (2564). พระมหา กรณุ าธิคณุ พระราชทานปริญญาบัตรแก่ บณั ฑติ ราชภฏั กว่าสองลา้ น คน. [Online]. เขา้ ถึงไดจ้ าก : http://agri.ubru.ac.th/news/ content.php?content=N1602819242 [2564, กุมภาพนั ธ์ 13] วิชเทพ ฦาชาฤทธ์.ิ (2563). พระราชลญั จกร ราชภัฏสัญลักษณ์. กรงุ เทพฯ : มลู นิธิศาสตราจารยบ์ ญุ ถ่ิน อตั ถากร. หอสมุดแห่งชาติ นครศรธี รรมราช. (2564). วทิ ยาลัยครสู รุ าษฎรธ์ านี. [Online]. เข้าถึงไดจ้ าก : https://www.finearts.go.th/nakhonsitham- maratlibrary/view/18759 [2564, กมุ ภาพันธ์ 13]