45 ปัญญำในระดบั อนุบำล (อำยุ 3-6 ปี) เพ่ือสง่ เสริมกำรเรยี นรู้วิทยำกำรคอมพวิ เตอร์” .................................................. ------------------------------------------------------------------- ยาการคอมพวิ เตอร์ในด้านตา่ ง ๆ โดยทาเครือ่ งหมาย แล้วนาเสนอในท่ปี ระชมุ ทยำกำรคอมพวิ เตอร์ แนวคดิ และทกั ษะทำงวิทยำกำรคอมพวิ เตอร์ กำร กำรใช้ Decompo- Pattern Abstraction Algorithms Coding sition Recognition ยงลำดับ ตัวแทน
ประสบกำรณส์ ำคัญทสี่ ่งเสริมพฒั นำกำรด้ำนสติปญั ญำ พ้นื ฐำนของกำรเรยี นรู้วิท 1.4.1 (13) การสงั เกตทิศทางการอา่ นตวั อักษร คา และข้อความ กำร แบบรูป 1.4.1 (14) การอา่ นและชี้ข้อความ โดยกวาดสายตาตามบรรทัด แก้ปัญหำ เรีย จากซ้ายไปขวา จากบนลงล่าง 1.4.1 (15) การสังเกตตวั อักษรในช่ือของตนหรือคาคนุ้ เคย (สังเกต ป้ายข้อความ สงั เกตบตั รชื่อ) 1.4.1 (16) การสงั เกตตัวอกั ษรทป่ี ระกอบเป็นคาผ่านการอ่านหรอื เขยี นของผู้ใหญ่ 1.4.1 (17) การคาดเดาคา วลี หรอื ประโยคทมี่ ีโครงสรา้ งซ้าๆ กนั จากนิทาน เพลง คาคลอ้ งจอง 1.4.1 (18) การเลน่ เกมทางภาษา (หาภาพกับสญั ลักษณ์ จบั คู่คา กับภาพ ตอ่ เติมตัวอกั ษรในบัตรคา) 1.4.1 (19) การเห็นแบบอย่างของการเขยี นทถี่ กู ต้อง (สงั เกต ตัวอักษรหรือสญั ลกั ษณ์) 1.4.1 (20) การเขยี นรว่ มกันตามโอกาส และการเขยี นอสิ ระ (เขียนหรือลอกตัวอักษรหรอื สัญลกั ษณ์ วาดภาพและเขยี น คาอธิบายภาพร่วมกับคร)ู 1.4.1 (21) การเขยี นคาท่มี ีความหมายกบั ตัวเด็ก/คาคนุ้ เคย (เขียน สัญลกั ษณ์จากการอา่ นนิทาน เรอื่ งราว เนอ้ื เพลง ป้ายสญั ลักษณ์ ตา่ งๆ ร่วมกนั ) 1.4.1 (22) การคิดสะกดคาและเขยี นเพ่อื สื่อความหมายดว้ ย ตนเองอย่างอิสระ 1.4.2 (1) การสงั เกตลกั ษณะ ส่วนประกอบ การเปลี่ยนแปลง และ ความสมั พันธ์ของส่งิ ต่าง ๆ โดยใชป้ ระสาทสมั ผัสอยา่ งเหมาะสม 1.4.2 (2) การสังเกตสงิ่ ตา่ ง ๆ และสถานทีจ่ ากมมุ มองท่ีตา่ งกนั
ทยำกำรคอมพวิ เตอร์ 46 กำร กำรใช้ แนวคิดและทักษะทำงวิทยำกำรคอมพวิ เตอร์ ยงลำดับ ตัวแทน Decompo- Pattern Abstraction Algorithms Coding sition Recognition
ประสบกำรณ์สำคัญทส่ี ่งเสริมพัฒนำกำรด้ำนสติปญั ญำ พ้ืนฐำนของกำรเรียนร้วู ิท 1.4.2 (3) การบอกและแสดงตาแหน่ง ทิศทาง ระยะทางของ กำร แบบรปู ส่งิ ตา่ งๆ ดว้ ยการกระทา ภาพวาด ภาพถ่าย และรปู ภาพ 1.4.2 (4) การเลน่ กับสือ่ ต่างๆ ทีเ่ ป็นทรงกลม ทรงสเี่ หลีย่ มมมุ ฉาก แกป้ ัญหำ เรีย ทรงกระบอก กรวย 1.4.2 (5) การคดั แยก การจดั กลมุ่ และการจาแนกสิ่งต่างๆ ตามลกั ษณะ และรูปร่าง รูปทรง 1.4.2 (6) การตอ่ ของช้ินเล็กเตมิ ในชิน้ ใหญ่ใหส้ มบูรณ์ และ การแยกชน้ิ ส่วน 1.4.2 (7) การทาซา้ การต่อเติม และการสรา้ งแบบรปู 1.4.2 (8) การนับและแสดงจานวนของสง่ิ ตา่ งๆ ในชวี ิตประจาวัน 1.4.2 (9) การเปรยี บเทยี บและเรยี งลาดับจานวนของสิ่งต่างๆ 1.4.2 (10) การรวมและการแยกสงิ่ ตา่ งๆ 1.4.2 (11) การบอกและแสดงอันดับที่ของส่งิ ต่างๆ 1.4.2 (12) การชง่ั ตวง วัดส่งิ ตา่ งๆ โดยใชเ้ ครอ่ื งมือและหนว่ ยท่ี ไมใ่ ชห่ น่วยมาตรฐาน 1.4.2 (13) การจบั คู่ การเปรยี บเทยี บ และการเรยี งลาดบั สง่ิ ตา่ งๆ ตามลักษณะ ความยาว/ความสูง น้าหนัก ปริมาตร 1.4.2 (14) การบอกและเรยี งลาดบั กิจกรรมหรือเหตกุ ารณ์ ตามชว่ งเวลา 1.4.2 (15) การใชภ้ าษาทางคณิตศาสตร์กบั เหตกุ ารณ์ใน ชวี ติ ประจาวนั 1.4.2 (16) การอธิบายเชือ่ มโยงสาเหตแุ ละผลที่เกดิ ข้นึ ใน เหตกุ ารณห์ รอื การกระทา
47 ทยำกำรคอมพวิ เตอร์ แนวคิดและทักษะทำงวิทยำกำรคอมพวิ เตอร์ กำร กำรใช้ Decompo- Pattern Abstraction Algorithms Coding ยงลำดับ ตัวแทน sition Recognition
ประสบกำรณ์สำคญั ทส่ี ่งเสริมพฒั นำกำรด้ำนสติปัญญำ พื้นฐำนของกำรเรียนรู้วิท 1.4.2 (17) การคาดเดาหรอื การคาดคะเนส่ิงท่ีอาจจะเกดิ ขนึ้ อย่าง กำร แบบรูป มีเหตผุ ล 1.4.2 (18) การมีสว่ นร่วมในการลงความเห็นจากข้อมลู อย่างมี แกป้ ัญหำ เรีย เหตุผล 1.4.2 (19) การตดั สินใจและมสี ่วนร่วมในกระบวนการแกป้ ญั หา 1.4.3 (1) การรับรู้และแสดงความคิดความรสู้ ึกผ่านส่ือ วัสดุ ของเลน่ และชน้ิ งาน 1.4.3 (2) การแสดงความคดิ สร้างสรรค์ผ่านภาษา ทา่ ทาง การเคลอื่ นไหว และศลิ ปะ 1.4.3 (3) การสรา้ งสรรค์ชน้ิ งานโดยใช้รปู รา่ งรูปทรงจากวัสดุ ที่หลากหลาย 1.4.4 (1) การสารวจสง่ิ ต่างๆ และแหลง่ เรียนรรู้ อบตัว 1.4.4 (2) การต้ังคาถามในเรื่องทสี่ นใจ 1.4.4 (3) การสบื เสาะหาความรเู้ พอ่ื คน้ หาคาตอบของขอ้ สงสยั ต่างๆ 1.4.4 (4) การมสี ว่ นรว่ มในการรวบรวมข้อมูลและนาเสนอข้อมลู จากการสืบเสาะหาความรู้ในรปู แบบตา่ งๆ และแผนภมู ิอยา่ งง่าย
ทยำกำรคอมพวิ เตอร์ 48 กำร กำรใช้ แนวคิดและทักษะทำงวิทยำกำรคอมพวิ เตอร์ ยงลำดับ ตัวแทน Decompo- Pattern Abstraction Algorithms Coding sition Recognition
49 4 กจิ กรรมพ้ืนฐำนทนี่ ำไปสกู่ ำรเรยี นรวู้ ทิ ยำกำรคอมพวิ เตอร์ เวลำ 6 ชวั่ โมง จุดประสงค์ 1. วเิ คราะหแ์ ละระบุพืน้ ฐานของการเรยี นรวู้ ิทยาการคอมพิวเตอรท์ เี่ ด็กในระดบั อนุบาลได้รับการพัฒนา จากตัวอยา่ งการจัดประสบการณก์ ารเรยี นรู้ 2. วิเคราะห์และระบุองคป์ ระกอบของการคิดเชงิ คานวณและการเขยี นโค้ดที่เดก็ ในระดับอนุบาลได้รบั การพัฒนาจากตัวอยา่ งการจัดประสบการณก์ ารเรียนรู้ สำระสำคัญ 1. การจัดประสบการณ์การเรียนรูเ้ พื่อปูพ้ืนฐานของการเรียนรู้วิทยาการคอมพิวเตอร์ที่เน้นการแก้ปัญหา แบบรูป การเรียงลาดับ การใช้ตัวแทน สาหรับเด็กในระดับอนุบาล สามารถจัดเป็นกิจกรรมเพื่อฝึกให้ เด็กได้คิดและลงมือปฏิบัติกับสื่อต่างๆ รอบตัว เช่น การสังเกต จาแนก เปรียบเทียบ และจัดกลุ่ม ส่ิงของตา่ งๆ การสังเกตแบบรูปของสิง่ ตา่ งๆ การทาซา้ ต่อเติม และสรา้ งแบบรูปของสิ่งของ การสงั เกต และเรียงลาดับเหตุการณ์ในชีวิตประจาวันโดยการใช้สื่อบัตรภาพหรือสัญลักษณ์ การสังเกตและระบุ สญั ลักษณ์ที่พบในชีวิตประจาวัน หรือการกาหนดสัญลักษณ์เพื่อแทนการกระทาบางอย่าง โดยครูควร จัดประสบการณ์ให้สอดคล้องกับบริบทรอบตัวเด็กและใช้ส่ือท่ีเด็กคุ้นเคย รวมถึงควรฝึกให้เด็กได้คิด วางแผนในการแก้ปัญหาด้วยตนเอง และเปิดโอกาสให้เด็กได้พูดส่ือสารและให้เหตุผลประกอบการ ตัดสินใจในการทากิจกรรมต่างๆ 2. การจัดประสบการณ์การเรียนรู้เพื่อพัฒนาการคิดเชิงคานวณและการเขียนโค้ดสาหรับเด็กในระดับ อนุบาล สามารถจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมแต่ละองค์ประกอบของการคิดเชิงคานวณหรือการเขียนโค้ด หรืออาจจัดเป็นกิจกรรมท่ีใช้กระบวนการในการแก้ปัญหาเพื่อพัฒนาทุกองค์ประกอบของการคิดเชิง คานวณและการเขียนโค้ดร่วมกัน แต่กิจกรรมจะมีความซับซ้อนมากข้ึนจึงต้องคานึงถึงประสบการณ์ และความรู้พื้นฐานท่ีเด็กควรมีมาก่อนที่จะร่วมกิจกรรม เช่น ความสามารถในการสังเกต จาแนก เปรียบเทียบ เรียงลาดับ ความสามารถในการบอกตาแหน่ง ทิศทาง และความสามารถในการสื่อสาร ด้วยคาพดู หรือสญั ลักษณ์ ส่ือ 1. Power Point เร่อื ง กจิ กรรมพ้ืนฐานทน่ี าไปส่กู ารเรียนรู้วิทยาการคอมพวิ เตอร์ 2. ตะกรา้ หรอื ถงุ ผ้าทบึ แบบมหี รู ดู 1 ใบต่อกลมุ่ 3. ชดุ สิ่งของสาหรบั จดั กล่มุ เรียงลาดับ ตอ่ บล็อกและร้อยสร้อยคอ 1 ชดุ ตอ่ กลุ่ม ประกอบดว้ ย 3.1 เชือกผูกรองเทา้ แบบยาวหรือไหมพรมเสน้ ใหญย่ าว 1.5 เมตร 1 เส้น 3.2 ไม้บลอ็ กส่ีเหลีย่ มจัตรุ ัสสีแดง สีเหลือง สเี ขยี ว สนี ้าเงนิ สีม่วง สลี ะ 5 ชิน้ 3.3 หลอดชานมไขม่ ุกสีเขียว สัน้ 4 เซนตเิ มตร 6 ช้ิน 3.4 หลอดชานมไขม่ กุ สีเขยี ว ยาว 10 เซนตเิ มตร 6 ช้ิน 3.5 หลอดชานมไข่มุกสีฟา้ สนั้ 4 เซนติเมตร 7 ชิ้น 3.6 หลอดชานมไขม่ กุ สีฟา้ ยาว 10 เซนติเมตร 7 ชน้ิ
50 4. บตั รภาพชุดกิจวัตรประจาวนั 1 ชุดต่อกลมุ่ ประกอบดว้ ย 4.1 บัตรภาพชดุ ท่ี 1 การแต่งตัว 1 ชดุ ประกอบด้วยภาพ ถุงเท้า รองเท้า เส้ือ กระโปรง/กางเกง เส้ือกลา้ ม 4.2 บตั รภาพชดุ ท่ี 2 ไปโรงเรยี น 1 ชดุ ประกอบด้วยภาพ นาฬิกาปลุก โรงเรียน จานช้อน แปรงสฟี นั ยาสฟี ัน ชดุ นกั เรียน 5. บตั รภาพชุดสัญลกั ษณ์รอบตัว 1 ชดุ ตอ่ กล่มุ ประกอบด้วยภาพสัญลักษณ์ หอ้ งนา้ จราจร แยกประเภทขยะ และ หนา้ แสดงอารมณ์ 6. กระดาษ A4 และสีเมจิกสาหรบั ออกแบบสญั ลักษณ์ 1 ชุดตอ่ กลมุ่ 7. ชุดกจิ กรรมถอดรหสั ภาพปรศิ นา 1 ชดุ ต่อกลุ่ม ประกอบดว้ ย 7.1 ภาพปริศนาชดุ ท่ี 1 ตารางกระดาษเลข 0 1 ขนาด A4 ภาพละ 1 แผ่น 7.2 สเี ทยี น 1 สี 5-6 แทง่ 7.3 ภาพปริศนาชดุ ท่ี 2 ตารางกระดาษเลข 0 1 ขนาด A5 ภาพละ 1 แผน่ 7.4 ไม้บล็อกสี่เหล่ยี มจัตุรสั 1 สี 20-30 ชน้ิ 8. บตั รภาพชุดการพับจรวด 1 ชุดตอ่ กลุม่ ประกอบดว้ ย 8.1 บัตรภาพการพบั จรวดแบบที่ 1 1 ชุด 8.2 บตั รภาพการพบั จรวดแบบที่ 2 1 ชดุ
51 กระบวนกำร 1 วิทยากรนาเขา้ สู่ตวั อย่างการจัดประสบการณ์การเรียนรู้วิทยาการคอมพวิ เตอร์ PPT 1-2 10 นำที ทเ่ี นน้ การแก้ปัญหา แบบรปู การเรยี งลาดบั การใช้ตวั แทน โดยชแ้ี จงใหผ้ เู้ ข้า อบรมร่วมทากจิ กรรมซ่ึงเปน็ กิจกรรมสาหรับเดก็ ระดบั อนบุ าล หลังจบแตล่ ะ กิจกรรมให้รว่ มกันอภปิ รายเพื่อวิเคราะห์ว่ากิจกรรมเหล่านี้ส่งเสริมพนื้ ฐาน อะไรให้กบั เดก็ บ้าง อยา่ งไร 2 กจิ กรรมที่ 1 จดั กลุ่มส่ิงของเหล่ำน้ไี ดอ้ ยำ่ งไร PPT 3 30 นำที 1) แต่ละกลมุ่ ดาเนนิ การตามขน้ั ตอน ดงั น้ี ชดุ ส่ิงของ - สงั เกตสิ่งของท่ีได้รับ สาหรับ - รว่ มกันกาหนดเกณฑใ์ นการจัดกล่มุ สงิ่ ของ จดั กลุ่ม - จดั กลุ่มสิง่ ของตามเกณฑ์ โดยวางส่ิงของท่ีจัดกลุ่มไวบ้ นโตะ๊ ของตนเอง เรียงลาดับ - นาเสนอการจดั กลมุ่ โดยใหเ้ พอื่ นกลุ่มอ่นื สงั เกตและระบเุ กณฑ์ ต่อบลอ็ ก ทใี่ ช้แล้วจงึ เฉลย โดยใชเ้ ทคนิค Gallery walk ดงั น้ี ใหส้ มาชกิ ในกลมุ่ และรอ้ ย 1 คนผลดั กันอย่ปู ระจาที่กลุม่ สมาชกิ ท่เี หลือเวียนไปดผู ลงานของกล่มุ สร้อยคอ อื่นๆ เม่ือไปถึงกลุ่มอ่ืนให้สงั เกตส่งิ ของทีจ่ ดั อยู่บนโต๊ะ และระบุวา่ กลุ่ม นนั้ ใชเ้ กณฑ์ใดในการจัดกลุ่มส่งิ ของ แลว้ สมาชิกประจากลุ่มนัน้ จะเปน็ ผ้เู ฉลยวา่ กลุ่มของตนเองใชเ้ กณฑใ์ ดในการจัดกลมุ่ สิ่งของเหล่านัน้ จากน้ันจึงเวยี นไปสังเกตสง่ิ ของในกล่มุ ถัดไปจนครบทุกกลมุ่ 2) ผ้เู ข้าอบรมอภิปรายร่วมกันวา่ กจิ กรรมน้เี ป็นการสง่ เสริมพ้นื ฐานใด ของการเรียนร้วู ทิ ยาการคอมพวิ เตอรใ์ นด้านการแก้ปัญหา แบบรูป การเรียงลาดบั หรือการใชต้ วั แทน จากนนั้ วิทยากรจงึ นาสรุป 3 กจิ กรรมที่ 2 จดั เรียงลำดบั สง่ิ ของเหลำ่ นีไ้ ดอ้ ย่ำงไร PPT 4 30 นำที 1) แต่ละกล่มุ ดาเนนิ การตามขัน้ ตอน ดังน้ี (ใชส้ อ่ื ชดุ - รว่ มกันกาหนดเกณฑ์ในการจัดเรยี งลาดับส่ิงของ เดมิ จาก - จัดเรียงลาดับสิ่งของตามเกณฑ์ กิจกรรม - นาเสนอการเรยี งลาดับสิง่ ของ โดยให้เพื่อนกลมุ่ อ่ืนสังเกตและระบุ ที่ 1) เกณฑ์ทใ่ี ช้ในการจดั เรียงลาดับส่งิ ของแลว้ จงึ เฉลย โดยใช้เทคนิค Gallery walk เช่นเดยี วกบั กิจกรรมท่ี 1 2) ผู้เข้าอบรมอภิปรายร่วมกันว่ากจิ กรรมนี้เป็นการสง่ เสรมิ พื้นฐานใด ของการเรียนรู้วทิ ยาการคอมพิวเตอร์ในด้านการแก้ปญั หา แบบรปู การเรียงลาดบั หรอื การใช้ตวั แทน จากนัน้ วิทยากรจึงนาสรุป
52 4 กจิ กรรมท่ี 3 ต่อบลอ็ กตำมแบบนไ้ี ดอ้ ยำ่ งไร PPT 5-7 20 นำที 1) แต่ละกลุ่มดาเนนิ การตามขั้นตอน ดังน้ี (ใช้สื่อ ชุดเดมิ จาก - สังเกตบล็อกทจ่ี ัดวางไวเ้ ปน็ ต้นแบบ (ตามภาพ ใน PPT 6) กจิ กรรม - สนทนาร่วมกันในกลมุ่ วา่ จะตอ่ บลอ็ กตามแบบได้อย่างไร ที่ 1) - ลงมือทาตามขัน้ ตอนทีช่ ว่ ยกันวางแผน - นาเสนอผลงานโดยอธบิ ายข้ันตอนการต่อบล็อก - สงั เกตบล็อกทจ่ี ดั วางไว้เป็นต้นแบบที่ 2 (ตามภาพ ใน PPT 7) ทากิจกรรมตามขั้นตอนซา้ อีก 1 รอบ 2) ผู้เขา้ อบรมอภิปรายรว่ มกันว่ากจิ กรรมนี้เปน็ การสง่ เสริมพ้นื ฐานใด ของการเรยี นรูว้ ทิ ยาการคอมพิวเตอรใ์ นด้านการแก้ปัญหา แบบรูป การเรยี งลาดบั หรอื การใช้ตัวแทน จากนัน้ วทิ ยากรจึงนาสรุป 5 กจิ กรรมท่ี 4 จะบอกใหเ้ พือ่ นต่อบล็อกตำมแบบได้อย่ำงไร PPT 8-10 30 นำที 1) แตล่ ะกลุม่ ดาเนินการตามขน้ั ตอน ดังน้ี (ใชส้ ื่อ - ตวั แทน 1 คนออกมาสังเกตบล็อกที่จัดและซ่อนไว้ (ตามภาพ ใน PPT 9) ชุดเดิมจาก กิจกรรม - พูดส่อื สารให้เพื่อนคนอนื่ ๆ ต่อบลอ็ กใหไ้ ดต้ ามแบบทส่ี งั เกต - เมือ่ ตอ่ เสร็จรว่ มกันตรวจสอบผลงานเปรียบเทียบกบั บล็อกทเี่ ป็น ที่ 1) ตน้ แบบ - ตวั แทนอีก 1 คนออกมาสังเกตบล็อกท่จี ดั และซ่อนไว้แบบที่ 2 (ตามภาพ ใน PPT 10) ทากิจกรรมตามขัน้ ตอนซา้ อีก 1 รอบ - แตล่ ะกลุม่ ออกแบบการตอ่ บล็อกของกลุ่ม โดยไมใ่ ห้กลุ่มอื่นมองเห็น พดู ส่อื สารใหเ้ พ่อื นกลุ่มอ่ืนทาตามแบบ แล้วจึงเฉลย 2) ผเู้ ข้าอบรมอภิปรายร่วมกันวา่ กิจกรรมน้เี ปน็ การส่งเสรมิ พ้นื ฐานใด ของการเรียนรวู้ ทิ ยาการคอมพิวเตอรใ์ นด้านการแก้ปญั หา แบบรปู การเรยี งลาดบั หรอื การใช้ตวั แทน จากน้นั วิทยากรจงึ นาสรุป 6 กจิ กรรมท่ี 5 ตอ่ เตมิ ใหค้ รบชุด PPT 35 นำที 1) แต่ละกลุ่มดาเนินการตามข้ันตอน กจิ กรรมท่ี 5 ต่อเติมให้ครบชดุ (1) ดงั นี้ 11-19 - สงั เกตบลอ็ กท่จี ัดไวเ้ ป็นต้นแบบและระบุว่ามีอะไรที่เปน็ ชดุ ซ้าๆ (ตามภาพใน PPT 12) (ใช้สอ่ื - สนทนาว่าจะทาตามแบบและต่อเติมจากแบบไดอ้ ยา่ งไร ชดุ เดมิ จาก - ลงมือทาและนาเสนอผลงานโดยอธิบายขัน้ ตอนการต่อ กจิ กรรม - สงั เกตแบบรูปของบล็อกทีต่ ่อไวแ้ ละระบวุ ่ามสี ่วนใดทีห่ ายไปและจะทา ท่ี 1) ให้เปน็ ชดุ ทสี่ มบรู ณ์ไดอ้ ยา่ งไร - ลงมือทาและนาเสนอผลงาน 2) แตล่ ะกลมุ่ ดาเนนิ การตามขั้นตอน กจิ กรรมที่ 5 ต่อเตมิ ให้ครบชุด (2) ดงั น้ี - ตัวแทน 1 คนออกมาสงั เกตบล็อกท่จี ัดเปน็ แบบรูปและซ่อนไว้ - พูดสอ่ื สารให้เพ่ือนคนอื่นๆ ตอ่ ให้ได้ตามแบบรปู ท่ีสังเกต - เม่อื ตอ่ เสรจ็ ร่วมกันตรวจสอบผลงานเปรียบเทียบกบั ต้นแบบ - แต่ละกลมุ่ สร้างแบบรปู ของบลอ็ ก พดู ส่ือสารให้เพอื่ นต่อบล็อกตามแบบ แลว้ เฉลย
53 3) วทิ ยากรทบทวนขนั้ ตอนการทากจิ กรรมทั้งหมดท่ผี า่ นมา และผู้เขา้ อบรม อภปิ รายรว่ มกันวา่ กิจกรรมนีเ้ ป็นสง่ เสรมิ พน้ื ฐานใดของการเรยี นรู้ วทิ ยาการคอมพวิ เตอรใ์ นด้านการแกป้ ัญหา แบบรูป การเรียงลาดบั หรอื การใช้ตวั แทน จากน้ันวิทยากรจงึ นาสรุป 7 กิจกรรมที่ 6 สรอ้ ยคอหลอดกำแฟ PPT 35 นำที 1) แตล่ ะกลุม่ ดาเนนิ การตามขั้นตอน กิจกรรมท่ี 6 สร้อยคอหลอดกาแฟ (1) 20-23 ดงั นี้ - สงั เกตและระบวุ ่าหลอดกาแฟทร่ี ้อยกับไหมพรมมีอะไรทเ่ี ปน็ ชดุ ซ้าๆ (ใช้สื่อ (ตามภาพใน PPT 14) ชดุ เดมิ จาก - สนทนาวา่ จะทาตามแบบและต่อเตมิ จากแบบได้อย่างไร กิจกรรม - ลงมือทาและนาเสนอผลงานโดยอธิบายขัน้ ตอนการต่อ ที่ 1) 2) แตล่ ะกลมุ่ ดาเนินการตามข้นั ตอน กิจกรรมที่ 6 สรอ้ ยคอหลอดกาแฟ (2) ดังนี้ - สังเกตและระบุว่าหลอดกาแฟที่รอ้ ยกบั ไหมพรมมีอะไรที่เป็นชุดซ้าๆ (ตามภาพใน PPT 15) - สนทนาว่าจะทาตามแบบและตอ่ เติมจากแบบได้อย่างไร - ลงมอื ทาและนาเสนอผลงานโดยอธิบายข้นั ตอนการต่อ 3) แต่ละกลุม่ ดาเนนิ การตามขั้นตอน กิจกรรมที่ 6 สร้อยคอหลอดกาแฟ (3) ดงั น้ี - แตล่ ะกลุ่มสร้างสร้อยคอหลอดกาแฟทม่ี สี ีหรือขนาดเปน็ ชุดซา้ ๆ - นาเสนอให้เพ่ือนกลุ่มอื่นสังเกตและระบวุ ่ามีอะไรที่เปน็ ชุดซ้าๆ - ใหเ้ พอื่ นกลุม่ อ่ืนทาตามแบบและตรวจสอบความถกู ต้อง 4) วิทยากรทบทวนขัน้ ตอนการทากจิ กรรมของท้ัง 3 กจิ กรรมย่อยท่ผี า่ นมา และผู้เข้าอบรมอภิปรายรว่ มกันว่ากจิ กรรมสรอ้ ยคอหลอดกาแฟนเี้ ปน็ การสง่ เสริมพ้ืนฐานใดของการเรยี นรู้วทิ ยาการคอมพวิ เตอรใ์ นดา้ นการ แกป้ ัญหา แบบรปู การเรียงลาดบั หรอื การใช้ตวั แทน จากนน้ั วทิ ยากร จงึ นาสรุป 8 กิจกรรมท่ี 7 เรยี งลำดบั ในชีวิตประจำวนั PPT 24 40 นำที 1) แต่ละกลมุ่ ดาเนินการตามขั้นตอน ดังน้ี สื่อบตั ร - สงั เกตภาพในบัตรภาพชุดท่ี 1 การแต่งตัว ภาพชดุ - อภปิ รายว่าภาพเหลา่ นีน้ า่ จะใช้เปน็ สญั ลกั ษณ์แทนกิจกรรมในชีวิต กิจวัตร ประจาวันอะไร ประจาวนั - จดั เรียงบัตรภาพตามลาดับกิจกรรมในชีวิตประจาวนั - นาเสนอและอธบิ ายเหตผุ ลของการจัดลาดับบัตรภาพ - สังเกตภาพในบตั รภาพชุดท่ี 2 ไปโรงเรียน - อภิปรายว่าภาพเหล่าน้นี า่ จะใชเ้ ป็นสญั ลักษณแ์ ทนกจิ กรรมในชีวติ ประจาวันอะไร
54 - จัดเรียงบัตรภาพตามลาดบั กิจกรรมในชีวิตประจาวนั - แต่งเรอ่ื งราวประกอบบัตรภาพชดุ ท่ี 2 และนาเสนอโดยเล่าเรอื่ ง ตามลาดับกิจกรรมในชวี ติ ประจาวัน 2) ผ้เู ข้าอบรมอภปิ รายร่วมกันว่ากิจกรรมนี้เป็นการสง่ เสริมพ้ืนฐานใด ของการเรียนรู้วทิ ยาการคอมพวิ เตอรใ์ นด้านการแกป้ ญั หา แบบรูป การเรยี งลาดับ หรอื การใช้ตวั แทน จากนัน้ วทิ ยากรจงึ นาสรุป 9 กิจกรรมท่ี 8 สญั ลกั ษณ์รอบตวั PPT 25 30 นำที 1) แตล่ ะกล่มุ ดาเนินการตามขนั้ ตอน ดังน้ี สือ่ บตั ร - สังเกตสญั ลกั ษณ์ภาพและจัดกล่มุ สัญลักษณ์ ภาพชุด - นาเสนอพรอ้ มอธิบายเกณฑ์การจัดกล่มุ สัญลกั ษณ์ - สนทนาเก่ียวกบั การใช้งานของสญั ลกั ษณภ์ าพแตล่ ะกลุ่ม รอบตัว - ออกแบบและนาเสนอสัญลักษณ์ภาพของตนเองเพ่ือใชใ้ นการสื่อสารใน สถานการณท์ ี่ร่วมกันกาหนดข้ึน เช่น ห้ามเสียงดังในห้องเรียน ห้ามวงิ่ เลน่ 2) ผเู้ ข้าอบรมอภิปรายรว่ มกันว่ากจิ กรรมน้เี ปน็ ส่งเสริมพนื้ ฐานใดของการ เรียนร้วู ทิ ยาการคอมพวิ เตอรใ์ นดา้ นการแก้ปัญหา แบบรูป การเรยี งลาดบั หรือการใชต้ ัวแทน จากน้ันวิทยากรจงึ นาสรุป 10 กจิ กรรมท่ี 9 ถอดรหัสภำพปริศนำ PPT 26 30 นำที ชดุ 10 นำที 1) แต่ละกล่มุ ดาเนนิ การตามขั้นตอน ดงั นี้ - สงั เกตภาพปรศิ นาชดุ ท่ี 1 และอภิปรายว่าตัวเลข 1 และ 0 น่าจะมี กจิ กรรม ความหมายวา่ อย่างไร ถอดรหัส - รว่ มกันสรา้ งขอ้ ตกลง โดยเลข 1 หมายถึงให้ระบายสี เลข 0 หมายถึง ให้เวน้ ว่างไว้ ภาพ - ระบายสใี นชอ่ งตามข้อตกลง และนาเสนอผลงาน ปรศิ นา - สังเกตภาพปรศิ นาชุดที่ 2 และไม้บล็อก 1 ชุด PPT 27 - แตล่ ะกลุ่มสร้างข้อกาหนดเกย่ี วกบั เลข 1 และ 0 โดยใช้ไม้บล็อก - ลงมอื ทาและนาเสนอผลงาน 2) ผู้เขา้ อบรมอภิปรายร่วมกันวา่ กิจกรรมนี้เป็นการส่งเสริมพน้ื ฐานใด ของการเรยี นรวู้ ิทยาการคอมพวิ เตอรใ์ นด้านการแกป้ ัญหา แบบรูป การเรียงลาดบั หรือการใช้ตัวแทน จากนั้นวิทยากรจึงนาสรุป 11 วิทยากรนาเขา้ ส่ตู ัวอย่างการจัดประสบการณ์การเรยี นรู้วทิ ยาการ คอมพวิ เตอรเ์ พ่ือพัฒนาการคิดเชงิ คานวณและการเขียนโค้ดสาหรับเดก็ ระดบั อนบุ าล โดยทบทวนแนวทางการจัดประสบการณว์ า่ สามารถจัดเป็น กิจกรรมเพ่อื ส่งเสริมแต่ละองค์ประกอบของการคิดเชิงคานวณหรอื การเขยี น โค้ดแยกกัน หรืออาจจดั เปน็ กิจกรรมท่ใี ชก้ ระบวนการในการแก้ปญั หา เพอื่ พฒั นาทุกองคป์ ระกอบของการคดิ เชงิ คานวณและการเขียนโคด้ รว่ มกนั แตก่ ิจกรรมจะมีความซบั ซ้อนมากขึน้ จงึ ตอ้ งคานึงถงึ ประสบการณแ์ ละ ความรพู้ ้นื ฐานทเ่ี ด็กปฐมวัยควรมมี าก่อนท่จี ะรว่ มกิจกรรม
55 วทิ ยากรชี้แจงให้ผเู้ ขา้ อบรมร่วมทากิจกรรมซึง่ เปน็ กจิ กรรมในลกั ษณะ ของการสง่ เสรมิ เฉพาะบางองคป์ ระกอบของการคดิ เชงิ คานวณหรือการเขียน โค้ด หลังจบกจิ กรรมใหร้ ว่ มกันอภปิ รายเพื่อวเิ คราะหว์ ่ากิจกรรมนีส้ ่งเสรมิ การคดิ เชงิ คานวณในองคป์ ระกอบใดหรือส่งเสริมการเขยี นโค้ดหรือไม่ และ กิจกรรมนี้เด็กตอ้ งมีพืน้ ฐานอะไรมาก่อนจงึ จะทากิจกรรมน้ีได้ 12 กิจกรรมพับจรวด PPT 40 นำที 1) แตล่ ะคนดาเนนิ การตามขั้นตอน กิจกรรมพับจรวด (1) (PPT 28) ดังนี้ 28-31 - รับกระดาษคนละ 1 แผ่น - ฟงั คาสั่งของวทิ ยากรท่สี ่งั ให้พบั ครงึ่ กระดาษและทาตาม สอ่ื ชดุ - สังเกตและเปรยี บเทียบผลของการพบั กระดาษของตนเองและเพ่ือนว่า กิจกรรม แตล่ ะคนพับออกมาเหมือนหรือตา่ งกันอยา่ งไร พับจรวด - อภปิ รายร่วมกนั วา่ ถ้าต้องการให้ทุกคนพับออกมาได้เหมือนกนั ควรทา อยา่ งไร - สงั เกตและทาตามแบบการพบั ของวทิ ยากรอีกคร้งั เปรียบเทียบผลกับ ครัง้ แรก 2) แตล่ ะคนดาเนนิ การตามข้ันตอน กิจกรรมพับจรวด (2) (PPT 29) ดงั นี้ - อภปิ รายวา่ ถา้ ต้องการพับจรวดใหอ้ อกมาได้เหมือนกันหมดทุกคน ควร ทาอย่างไร - พบั จรวดโดยทาตามวทิ ยากรทลี ะข้นั ตอน - สงั เกตผลงานของตนเองและเพ่ือน และอภปิ รายวา่ ทกุ คนสามารถพับ จรวดไดอ้ อกมาเหมือนกันหรือไม่ อย่างไร 3) แตล่ ะกลุม่ ดาเนินการตามขนั้ ตอน กจิ กรรมพับจรวด (3) (PPT 30-31) ดังนี้ - อภปิ รายว่านอกจากการมีคนนาให้พับตามทีละขน้ั แลว้ ยังนาเสนอ อยา่ งไรได้อีกบา้ งเพื่อให้คนพับจรวดได้เหมอื นกนั - สังเกตชุดบัตรภาพการพับจรวดแบบที่ 1 และร่วมกันจัดเรียงลาดับให้ ถกู ต้อง - พับตามแบบและอภปิ รายว่าการนาเสนอในรปู แบบน้มี จี ดุ ดีและจดุ ด้อย อยา่ งไร - สังเกตชดุ บัตรภาพการพบั จรวดแบบท่ี 2 และร่วมกันจัดเรยี งลาดบั ให้ ถูกต้อง - พับตามแบบและอภปิ รายเพ่ือเปรยี บเทียบวา่ การนาเสนอในรปู แบบท่ี 1 และแบบท่ี 2 มจี ดุ ดแี ละจดุ ด้อยเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร 4) วิทยากรทบทวนข้นั ตอนการทากิจกรรมของทงั้ 3 กิจกรรมยอ่ ยทีผ่ ่านมา และผเู้ ข้าอบรมอภปิ รายร่วมกันว่ากจิ กรรมพับจรวดนี้เปน็ สง่ เสริมให้เด็ก มีการคดิ เชงิ คานวณในองค์ประกอบใด และส่งเสรมิ การเขียนโค้ดหรอื ไม่ อยา่ งไร และกจิ กรรมนเ้ี ด็กต้องมพี น้ื ฐานใดของการเรยี นรู้วิทยาการ คอมพวิ เตอร์มาก่อนจงึ จะทากิจกรรมน้ีได้ จากนั้นวทิ ยากรจงึ นาสรปุ
56 13 วิทยากรสรุปทบทวนแนวทางการจัดประสบการณ์การเรยี นรูเ้ พื่อปูพ้ืนฐาน PPT 32 20 นำที ของการเรยี นรู้วิทยาการคอมพิวเตอร์ และการส่งเสริมการคดิ เชิงคานวณ และการเขยี นโคด้ สาหรับเด็กระดบั อนบุ าล รวมถงึ นาอภปิ รายเช่อื มโยงไปสู่ การจัดประสบการณ์การเรยี นรใู้ นช้นั เรียนอนุบาล วทิ ยากรชแ้ี จง 2 กจิ กรรมต่อไป ผ้เู ขา้ อบรมจะได้พบกับตัวอยา่ งการจดั ประสบการณ์การเรยี นรู้เพือ่ ส่งเสริมการคดิ เชิงคานวณและการเขยี นโคด้ ที่พฒั นาทุกองค์ประกอบของการคิดเชงิ คานวณและการเขียนโค้ดรว่ มกนั ซึ่งกิจกรรมจะมีความซับซ้อนมากข้ึนจึงตอ้ งคานงึ ถึงประสบการณแ์ ละ ความรพู้ น้ื ฐานท่ีเด็กควรมีมาก่อนทจ่ี ะร่วมกจิ กรรมโดยหลังจบแตล่ ะ กิจกรรม ผเู้ ข้าอบรมจะได้รว่ มกนั อภปิ รายเพอ่ื วิเคราะห์ว่ากิจกรรมน้ี สง่ เสริมการคดิ เชิงคานวณและการเขยี นโค้ดอย่างไร และเด็กควรมพี ื้นฐาน อะไรมาก่อนจึงจะทากิจกรรมนไี้ ด้ ประเมนิ ผลกำรเรยี นรู้ ประเมินผลตามสภาพจรงิ จากการทากิจกรรม
57 Power Point เร่ือง กจิ กรรมพน้ื ฐำนที่นำไปสูก่ ำรเรียนรู้วทิ ยำกำรคอมพิวเตอร์ 1 2
58 3 4
59 5 6
60 7 8
61 9 10
62 11 12
63 13 14
64 15 16
65 17 18
66 19 20
67 21 22
68 23 24
69 ดร.เทพกญั ญา พรหมขตั แิ ก้ว 25 ดร.เทพกญั ญา พรหมขตั ิแก้ว 26
70 27 28
71 29 30
72 31 32
73 บตั รภำพชดุ กิจวตั รประจำวัน ชุดที่ 1 กำรแตง่ ตัว
74 ชดุ ท่ี 2 ไปโรงเรยี น
75
76 บตั รภำพชดุ สญั ลกั ษณร์ อบตวั
77 บตั รภำพชดุ กำรพับจรวด กำรพบั จรวดแบบท่ี 1
78 บตั รภำพชดุ กำรพับจรวด กำรพับจรวดแบบท่ี 2
79 5 กิจกรรมที่ส่งเสรมิ กำรคดิ เชิงคำนวณและกำรเขียนโค้ดระดบั อนุบำล “นิทำนเกำะแสนสุข” เวลำ 3 ชั่วโมง จดุ ประสงค์ 1. เขา้ ใจและใชก้ ารคิดเชงิ คานวณเพ่ือแกป้ ัญหาอย่างเป็นระบบในสถานการณท์ ีก่ าหนด 2. เขา้ ใจและใช้การเขียนโค้ดแบบไมใ่ ช้คอมพิวเตอร์เพื่อแก้ปัญหาในสถานการณ์ที่กาหนด 3. วเิ คราะหต์ วั อยา่ งกจิ กรรมและออกแบบแนวทางการจดั กิจกรรมไปใช้ในระดบั อนบุ าลได้ สำระสำคญั การจัดประสบการณ์การเรียนรู้เพ่ือพัฒนาการคิดเชิงคานวณและการเขียนโค้ดสาหรับเด็กอนุบาล สามารถจดั กิจกรรมผา่ นการเล่นและการทางานร่วมกัน โดยใชน้ ิทานและเกมเพ่ือส่งเสรมิ ทุกองค์ประกอบของ การคดิ เชงิ คานวณและการเขียนโค้ด ในการจัดกิจกรรมต้องคานึงถึงประสบการณ์และความรู้พื้นฐานท่ีเด็กควรมีมาก่อนที่จะร่วมกิจกรรม เช่น ความสามารถในการสงั เกต จาแนก เปรียบเทียบ เรียงลาดับ ความสามารถในการบอกตาแหน่ง ทิศทาง และความสามารถในการสอื่ สารดว้ ยคาพดู หรือสัญลักษณ์ สอ่ื 3 แผ่น 20 ช้ิน/กลุ่ม 1. Power Point เร่อื ง กิจกรรมเกาะแสนสุข 40 ช้นิ /กลุม่ 2. ตารางไวนิลแผนผงั เกาะแสนสุข ขนาด 1.5 X 1.8 เมตร 1 แผน่ /กลุ่ม 3. สัญลกั ษณ์ลกู ศร ขนาดใหญ่ สาหรับวางในชอ่ งตารางไวนลิ 1 แผน่ /กลุ่ม 4. สญั ลักษณ์ลกู ศร ขนาดเล็ก สาหรับวางบนแผนผงั กระดาษ 2 แผ่น/กลมุ่ 5. กระดาษแผนผงั เกาะแสนสุข 1 แผน่ /กลมุ่ 6. ตารางชดุ คาส่งั เกาะแสนสุข 1 ชดุ /คน 7. ตารางชุดคาสงั่ , 8. กระดาษตาราง 30 ช่อง 9. ใบกิจกรรมสะท้อนคดิ
80 กระบวนกำร กิจกรรมที่ 1 นิทำนชวนคิด 1 นาเข้าสู่กจิ กรรมเกาะแสนสุขดว้ ยการเลา่ นทิ านประกอบการนาเสนอ PPT 1-14 3 นำที Power Point นทิ านเกาะแสนสขุ 2 เมอ่ื เลา่ นทิ านจบเร่ืองแล้วรว่ มกันวิเคราะหน์ ทิ าน เพอ่ื เชอื่ มโยงเข้าสู่ 3 นำที การทาแผนท่ีแสดงการเดนิ ทางของแก้วกบั แก่น ให้สามารถกลบั ไป เกาะแสนสุข ปลูกตน้ ไม้ในครั้งต่อไป โดยใชค้ าถามดังนี้ จากนิทานมีเหตุการณ์ใดเกิดขน้ึ บ้าง และเรียงลาดับเหตุการณ์ก่อน-หลัง ได้อย่างไร แกว้ กับแก่นต้องพบกับอุปสรรคอะไรบา้ งในการเดินทางไปเกาะแสนสุข 3 สนทนากบั ผเู้ ขา้ อบรมเกี่ยวกับแผนภาพการเดินทางไปปลกู ตน้ ไม้ที่ PPT 15 3 นำที 3 นำที เกาะแสนสขุ ของแก้วกับแก่น จากนทิ านสามารถแสดงเปน็ แผนภาพ การเดนิ ทางได้ดงั ทีเ่ หน็ นี้ อปุ สรรคทแี่ ก้วกับแกน่ พบระหวา่ งการเดินทางไปเกาะแสนสุข มีอะไรบ้างตามลาดบั แกว้ กับแก่นจะกลบั มาปลูกต้นไมบ้ นเกาะแสนสขุ ในครง้ั ต่อไปได้ อย่างไร 4 ชวนคิดอภิปรายถึงแผนที่หรอื แผนผังท่ปี รากฏอยูใ่ นนิทานว่าแกว้ กับแกน่ ทาขนึ้ มาเพื่ออะไร และใช้เพือ่ แสดงแทนส่งิ ใด 5 รว่ มกนั อภปิ รายเพ่ือวิเคราะห์วา่ กิจกรรมที่ 1 มีการใชก้ ารคิดเชิงคานวณ PPT 3 นำที 1 และการเขียนโคด้ อย่างไร มีการใชแ้ ต่ละองคป์ ระกอบในข้นั ตอนใดบา้ ง 16-17 แลว้ วทิ ยากรสรุปการวเิ คราะห์ตามตาราง กิจกรรมที่ 2 ลองเดนิ พชิ ิตภำรกจิ 1 สนทนากบั ผเู้ ขา้ อบรมเกีย่ วกบั การทาแผนท่ีของแก้วกับแก่นในนทิ าน PPT 18 5 นำที เพื่อเดนิ ทางกลับไปปลกู ต้นไม้อีกคร้ังท่เี กาะแสนสุข ว่าการทาแผนท่ีหรอื แผนผังการเดนิ ทางเปน็ การย่อหรอื การขยายขนาดลงบนกระดาษมีลักษณะ เปน็ ภาพที่มองจากดา้ นบน และสิง่ ท่ีชว่ ยให้เข้าใจไดว้ า่ ระยะทางที่ใช้ เดนิ ทางไปตามเส้นทางทปี่ รากฏในแผนผังนน้ั มีระยะทางเท่าใด จงึ ตอ้ ง เข้าใจเกย่ี วกับตาราง เพราะตารางจะใชเ้ ปน็ หน่วยเปรียบเทียบใหท้ ราบถึง ระยะทางในการเดินทางได้
81 2 แนะนาลกั ษณะของตาราง โดยอธบิ ายว่า ตารางมสี ่วนประกอบทสี่ าคัญ PPT 19 5 นำที คอื “แถว (Row)” จะเห็นเป็นชอ่ งส่ีเหลย่ี มเรยี งกันจากซ้ายไปขวา (แนวนอน) และ “หลกั (Column)” ท่ีเหน็ เป็นช่องสีเ่ หลี่ยมเรยี งกันจากบน ลงลา่ ง (แนวตัง้ ) แลว้ ช่องส่ีเหล่ียมหลายๆ ช่องทีเ่ หน็ น้เี กิดจากเสน้ (ตรง) ท่เี รียงอย่หู ่างกันเปน็ คู่ แนวตั้งกับแนวนอนตัดกนั 3 ตรวจสอบแถวและหลักในตารางเกย่ี วกับจานวนชอ่ งสเี่ หล่ยี มของแต่ละ PPT 19 5 นำที แถวกบั หลัก โดยใชค้ าถามดงั น้ี แถวบนสุดหรอื แถวท่ี 1 น้มี ีช่องสี่เหล่ยี มกีช่ ่อง แถวล่างสุดหรือแถวท่ี 6 น้ีมชี อ่ งส่ีเหลี่ยมกช่ี ่อง และเลอื กถาม แถวใดแถวหนงึ่ อกี หนง่ึ แถว เชน่ แถวกลางหรือแถวที่ 3 หลักซ้ายสดุ หรอื หลักท่ี 1 น้ีมีชอ่ งส่เี หลีย่ มกี่ช่อง หลกั ขวาสุดหรอื หลกั ที่ 5 นมี้ ชี อ่ งสเ่ี หลย่ี มกชี่ ่อง และเลือกถาม หลกั ใดหลกั หน่ึงอกี หนง่ึ หลัก เชน่ หลักตรงกลางหรอื หลักที่ 3 ***เมื่อผ้เู ข้าอบรมตอบจานวนชอ่ งสเี่ หลี่ยมทถี่ ูกต้อง วทิ ยากรรว่ มกันกับ ผเู้ ขา้ อบรมนับจานวนช่องเพื่อตรวจสอบทกุ ครั้ง*** 4 ให้ผ้เู ข้าอบรมสังเกตอุปสรรคในแผนผังซงึ่ มีตารางซ้อนทับบนแผนภาพ PPT 20 5 นำที เกาะแสนสขุ แลว้ โดยสนทนาเก่ยี วกับอุปสรรคกดี ขวางทเี่ ปน็ อนั ตรายและ ไมเ่ ป็นอันตราย ซง่ึ แกว้ กบั แกน่ ต้องหลบหลีกในการเดนิ ทางไปปลกู ต้นไม้ ท่เี กาะแสนสขุ และใช้คาถามดงั น้ี อุปสรรคเหล่านีถ้ ูกจัดวางอยใู่ นตารางอย่างไร สงั เกตเหน็ หรือไมว่ ่าเรอื ถูกวางอยูท่ ่ีตาแหน่งใดในตาราง สะพานอยทู่ ่ีตาแหน่งใดในตาราง และอธบิ ายว่า ชอ่ งที่มีรูปเรือจะเป็นจดุ เริ่มต้น (START) ของแกว้ กบั แกน่ ในการเดนิ ทางไปปลูกตน้ ไม้ท่ีเกาะแสนสขุ และชอ่ งท่มี ีรูปสะพานเปน็ จดุ ส้นิ สุด (FINISH) ในการเดินทาง 5 อธบิ ายและทาความเขา้ ใจเกี่ยวกับสญั ลักษณ์ลกู ศรว่าแต่ละสญั ลักษณ์ ลูกศร 15 นำที 1 มคี วามหมายและใช้อย่างไร โดยจะใช้ลกู ศรนี้แทนทิศทางการเดนิ ตามที่ ขนำดใหญ่ กาหนดให้แทนคาส่งั ดังน้ี แทน เดนิ หนา้ 1 ช่อง แทน ถอยหลัง 1 ช่อง แทน เล้ียวซา้ ย แทน เล้ยี วขวา จะเปน็ การเคล่ือนท่ีอยภู่ ายในชอ่ ง เท่านนั้ ซง่ึ ในแต่ละช่อง ถา้ เป็นลกู ศรแสดงการเดินหน้า หรือ ถอยหลงั จะวางลูกศรได้ 1 ลกู ศร แต่ถ้ามีการเลี้ยวจะสามารถวางลูกศรได้ มากกวา่ 1 ลกู ศร ในช่อง
82 6 สนทนากับผเู้ ขา้ อบรมว่า ถา้ เราจะใชส้ ญั ลกั ษณ์ลูกศรเพื่อแสดงแทนทิศทาง ตำรำง 10 นำที เสน้ ทางเดนิ ของเราไปเกาะแสนสขุ จะวางลูกศรลงในตารางนีอ้ ย่างไร ให้ ไวนิล ผู้เขา้ อบรมออกแบบเสน้ ทางการเดินทางโดยวางลูกศรขนาดใหญ่ในช่อง สีเ่ หลย่ี มของตารางแต่ละช่อง 7 ผเู้ ข้าอบรมแสดงบทบาทสมมติเปน็ แกว้ หรือแก่นเดนิ ทางนาตน้ ไม้ไปปลูก ตำรำง 15 นำที ไวนลิ ท่ีเกาะแสนสุข โดยเดินบนตารางตามลกู ศรทไี่ ด้วางไว้เพื่อตรวจสอบว่า ปฏบิ ตั ภิ ารกิจได้สาเร็จหรือไม่ 8 สนทนากบั ผเู้ ข้าอบรมให้สงั เกตเกีย่ วกบั ลักษณะของแผนผงั ตารางไวนิล กระดำษ 5 นำที แผนผัง ซ่งึ ไมส่ ามารถพกพาได้ ถา้ เราจะมแี ผนผังที่สามารถพกพาไปไดอ้ ย่าง สะดวก จะทาได้อยา่ งไร (แจกกระดาษแผนผงั เกาะแสนสุข หลังจากถาม คาถามเสร็จ) จากนั้นถามเกี่ยวกบั กระดาษแผนผงั เกาะแสนสุขวา่ อุปสรรค ในการเดนิ ทางท่ีพบในกระดาษแผนผังเกาะแสนสขุ นมี้ ีความเหมอื น- แตกตา่ งกบั แผนผังตารางบนพื้นอย่างไร 9 ใหผ้ เู้ ข้าอบรมนาลูกศรขนาดเลก็ วางบนกระดาษแผนผงั เกาะแสนสขุ ลูกศร 5 นำที ขนำดเลก็ โดยวางลกู ศรใหม้ ลี ักษณะทศิ ทางเดียวกันกับท่ีวางบนแผนผงั ตารางไวนลิ และเปรยี บเทียบลูกศรขนาดใหญ่ในแผนผังตารางบนพื้น มีความเหมอื น- แตกต่างกับลูกศรขนาดเล็กในกระดาษแผนผังเกาะแสนสขุ อย่างไร และ มีความเชอ่ื มโยงกนั หรอื ไม่ 10 แจกใบกิจกรรมตารางชุดคาสัง่ (Coding) และสนทนาทาความเข้าใจ PPT 21 3 นำที เกย่ี วกบั สัญลกั ษณล์ ูกศรที่อยู่ในตารางชุดคาสง่ั วา่ แตล่ ะสัญลกั ษณ์ ตำรำง มีความหมายอยา่ งไร และแนะนาวธิ เี ขียนคาสง่ั ในตารางชดุ คาส่ัง ซ่ึงต้อง ชุดคำส่งั เริม่ จากช่องแรกแถวบนซา้ ยสุด และใส่คาส่งั ไดช้ อ่ งละ 1 คาสงั่ โดยเรียง จากซา้ ยไปขวาตามลาดับจนหมดแถวท่ี 1 เมอ่ื เริ่มแถวท่ี 2, 3 ให้เรยี งจาก ซา้ ยไปขวาตามลาดบั จนหมดคาสงั่ โดยใหน้ าสัญลกั ษณ์ลกู ศรท่ีเป็นคาสง่ั วางในตารางชดุ คาสงั่ 11 ใหผ้ ้เู ขา้ อบรมนาสญั ลกั ษณล์ ูกศรขนาดเลก็ วางในช่องของตารางชดุ คาสั่ง ลูกศร 5 นำที ขนำดเลก็ ทลี ะลูกศรตามลาดบั การเดนิ ทางไปปลูกต้นไม้ของแก้วกบั แก่นท่ีแผนผัง เกาะแสนสขุ ตัง้ แต่จุดเริ่มต้น (START) ถึงจุดสน้ิ สดุ (FINISH) 12 ใหผ้ ู้เข้าอบรมนับจานวนลูกศรที่ใช้วางในตารางชดุ คาสั่ง เพ่ือตรวจสอบวา่ 2 นำที แตล่ ะกล่มุ ใชค้ าสง่ั ในการเดินทางกี่คาส่ัง และได้ระยะทางในการเดินทาง ก่ชี อ่ ง 13 รว่ มกันอภิปรายเพื่อวิเคราะห์ว่า กจิ กรรมที่ 2 มกี ารใชก้ ารคดิ เชงิ คานวณ PPT 5 นำที 22-23 และการเขียนโคด้ อย่างไร มีการใชแ้ ต่ละองค์ประกอบในขนั้ ตอนใดบา้ ง แล้ววทิ ยากรสรปุ การวเิ คราะหต์ ามตาราง
83 กิจกรรมที่ 3 ฝกึ เขยี นคำสัง่ อยำ่ งอสิ ระ 1 ให้ผู้เขา้ อบรมออกแบบนิทานหรือเกมที่มีอุปสรรค โดยวาดอปุ สรรค PPT 24 10 นำที ตำรำง ลงในกระดาษตารางกริด 30 ช่อง ที่กาหนดให้ ไม่น้อยกว่า 3 อย่าง 30 ช่อง 2 ให้ผู้เขา้ อบรมแตล่ ะกลุ่มนาเสนอนทิ านหรือเกมทีอ่ อกแบบข้ึนใหม่ และ 5 นำที กาหนดเง่ือนไขในการทาภารกิจ พร้อมทงั้ เขียนชดุ คาสั่งของกลุ่มแล้วเกบ็ ไว้ 3 ผู้เข้าอบรมแต่ละกลมุ่ จับคู่แลกเปลีย่ นแผนผังนิทานหรือเกมท่ีได้ออกแบบไว้ 5 นำที และเขยี นชุดคาสั่งเพื่อคิดแกป้ ัญหาทาภารกจิ ตามนิทานหรือเกม จากนัน้ ลงมือทาตามชดุ คาสงั่ ท่เี ขียนไว้ โดยวางลูกศรขนาดเลก็ ลงบนตารางกริด เพอื่ ตรวจสอบว่าทาภารกิจได้สาเร็จหรอื ไม่ 4 รว่ มกันสรปุ เกยี่ วกบั แผนผังนิทานหรอื เกม และชดุ คาสั่งของแต่ละกลุ่ม 5 นำที โดยเปรยี บเทียบชดุ คาสัง่ ปฏิบัตภิ ารกิจจากแผนผังนทิ านหรือเกมของกลมุ่ ทอ่ี อกแบบ วา่ มีความเหมือนกันหรอื ไม่ อยา่ งไร 5 วิทยากรนาอภิปรายสรุปกจิ กรรม โดยเน้นยา้ ในเร่ืองของการใชค้ าส่งั และ 5 นำที การเขียนโค้ด (coding) และสญั ลักษณ์ วา่ จานวนสัญลกั ษณล์ ูกศรท่ีใชใ้ น การเขยี นชดุ คาสั่ง เพือ่ แสดงแทนทิศทางการเดินทางไปเกาะแสนสุขของ แก้วกับแก่น เปน็ การบอกถึงระยะทางในการเดนิ ทางไปตามเส้นทางเดนิ ในแต่ละเส้นทาง 6 รว่ มกนั อภิปรายเพ่ือวเิ คราะห์วา่ กิจกรรมที่ 3 มกี ารใชก้ ารคิดเชิงคานวณ PPT 5 นำที 25-26 และการเขียนโค้ดอย่างไร มีการใชแ้ ตล่ ะองคป์ ระกอบในข้นั ตอนใดบา้ ง แล้ววิทยากรสรปุ การวเิ คราะห์ตามตาราง กจิ กรรมท่ี 4 วิเครำะหแ์ ละสะท้อนคิด 1 ผ้เู ข้าอบรมร่วมกันอภิปรายสะท้อนคิดเพอื่ วิเคราะห์กิจกรรมเกาะแสนสขุ PPT 27 20 นำที ใบ ในประเดน็ ต่อไปน้ีแล้วนาเสนอพร้อมวิพากษ์ ดังนี้ กิจกรรม 1) การจดั กิจกรรมให้กบั เด็กปฐมวยั เด็กควรมปี ระสบการณ์สาคญั อะไรมา สะทอ้ นคดิ กอ่ นจึงจะสามารถทากจิ กรรมนไ้ี ด้ 2) ถา้ นากจิ กรรมนี้ไปจดั ในช้ันเรียนปฐมวยั ควรนาไปจัดในกจิ กรรม ประจาวันกิจกรรมใดจงึ จะเหมาะสม เพราะเหตุใด
84 2 แต่ละกลมุ่ นาเสนอผลการสะท้อนคดิ แล้ววิทยากรสรปุ การวิเคราะห์ PPT 20 นำที 28-33 แต่ละประเด็นตามตาราง 3 สรุปสิ่งทไ่ี ดร้ บั จากการปฏบิ ตั ิกิจกรรมเกาะแสนสุข PPT 34 5 นำที 1) การคดิ เชงิ คานวณ (Computational Thinking) เป็นวิธกี ารคิด และแกป้ ัญหาเชิงวเิ คราะห์ สามารถใช้จนิ ตนาการมองปญั หาด้วยความคิด เชงิ นามธรรม ซ่งึ จะทาให้เราสามารถเหน็ แนวทางในการแก้ปญั หาอยา่ ง เปน็ ขั้นตอนและมีลาดับวธิ ีคิด สามารถเช่ือมโยงปัญหาต่าง ๆ เปน็ จน สามารถแก้ปัญหาได้อย่างเป็นระบบ 2) การเขียนโคด้ (Coding) เปน็ การเขยี นชุดคาส่ังซ่ึงแสดงแทนโดย ใช้ตัวเลข ตวั อักษร และสัญลกั ษณ์ เพอื่ สื่อสารใหค้ อมพิวเตอรเ์ ข้าใจ และ สามารถปฏบิ ัตติ ามคาสงั่ น้นั ได้ ประเมนิ ผลกำรเรยี นรู้ 1. สงั เกตและประเมนิ การปฏบิ ตั กิ จิ กรรม 2. ประเมินใบกิจกรรมสะทอ้ นคดิ
85 ส่อื ประกอบแผนกำรอบรมที่ 5 1. นิทำน เรอื่ งเกำะแสนสุข แก้วกับแก่นอาศัยอยู่ในหมู่บ้านชายทะเล ตรงข้ามกับ “เกาะแสนสุข” ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยต้นไม้ เขียวขจี มีสัตว์น้อยใหญ่มากมายอาศัยอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข วันหนึ่งเกิดพายุพัดโหมกระหน่า ต้นไม้ หักโค่น สัตว์ต่างๆ ล้มตายเป็นจานวนมาก ทาให้เกาะที่เคยเขียวขจีกลายเป็นเกาะท่ีแห้งแล้ง แก้วกับแก่น ต้องการจะช่วยให้เกาะแสนสุขกลับมาอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง โดยการนาต้นไม้ในหมู่บ้านไปปลูกที่เกาะแห่งนี้ จงึ ช่วยกันขนตน้ ไมข้ นึ้ เรือไปยงั เกาะแสนสุข ในระหว่างการเดินทาง แก้วกับแก่นต้องพบกับอุปสรรคมากมาย ท้ังหินโสโครกก้อนใหญ่ขวางทางอยู่ ฝูงโลมาที่ออกมาเล่นโต้คลื่น แมงกะพรุนไฟมีพิษท่ีว่ายไปมา ปลาฉลามตัวใหญ่ฟันแหลมคม และต้องขึ้นฝั่ง โดยหลบแม่เต่าท่ีกาลังวางไข่บนชายหาด ทาให้การเดินทางล่าช้า แต่ในที่สุดแก้วกับแก่นก็สามารถนาต้นไม้ ไปปลูกบนเกาะได้สาเร็จ แต่เรือมีขนาดเล็กจึงนาต้นไม้มาได้เล็กน้อย ไม่เพียงพอที่จะปลูกให้ท่ัวทั้งเกาะ ต้องข้ึนเรือกลับไปขนต้นไม้มาอีก เพ่ือให้การเดินทางครั้งต่อไปปลอดภัยและรวดเร็วยิ่งข้ึน แก้วกับแก่นจึงได้ ทาแผนท่เี ส้นทางการเดินทางหลบอุปสรรคทัง้ หลายจากหมูบ่ า้ นมายังเกาะ ในเวลาต่อมาผู้ใหญ่และเด็กๆ ของหมู่บ้านชายทะเล ร่วมด้วยช่วยกันนาต้นไม้ไปปลูกเพิ่มอีก โดยเดินทางตามแผนท่เี ส้นทางที่แก้วกับแก่นทาไว้ ต่อมาไม่นาน เมื่อต้นไมเ้ ติบใหญ่ เกาะแห่งน้กี ็มคี วามอุดมสมบูรณ์ กลายเปน็ เกาะแสนสุขดงั เดมิ
86 2. Power Point เรอ่ื ง กิจกรรมเกำะแสน 1 2
87 3 4
88 5 6
89 7 8
90 9 10
91 11 12
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192