การเรียนการสอน อาทติ ยท์ ี่ 8 ธนั วาคม 2562 1. เชค็ ชื่อออนไลน์ วิชาเศรษฐกจิ พอเพยี ง เวลา 9:00 – 10:00 น. 2. กรอกแบบสารวจเพ่ือวิเคราะหน์ ักศกึ ษารายคน — (แตะ ที่ ลง้ิ ค์ เพ่ือกรอกแบบสารวจ) — https://forms.gle/nWArGYdGJZZKkQMN6
วชิ า เศรษฐกจิ พอเพียง ทช 31001 ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย จานวน 1 หนว่ ยกิต แบบพบกลุ่ม จานวน 6 ชว่ั โมง เรอ่ื ง 1. ความพอเพยี ง 2. ชมุ ชนพอเพยี ง ตวั ชวี้ ดั 1. อธิบายความเป็นมา ความหมายและหลักแนวคิดของปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง 2. รเู้ ขา้ ใจและวิเคราะหแ์ นวคิดหลกั การปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง 3 อธิบายความหมายความสาคญั และการบริหารจดั การชุมชนตามหลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง 4. วิเคราะหก์ ระบวนการ เทคนิคการบริหารจดั การชมุ ชนและประยกุ ต์ใช้ในการดาเนนิ งานชวี ติ อยา่ งสมดลุ พร้อมรับตอ่ การเปลยี่ นแปลงของชุมชน เน้อื หา 1. ความเปน็ มา ความหมายหลกั แนวคดิ 2. ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งกับการจดั การความรู้ 3. ความหมายความสาคญั การบรหิ ารจัดการชมุ ชน 4. รบริหารจดั การชมุ ชนตามหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง 5. กระบวนการ เทคนคิ การบรหิ ารจดั การชุมชน ข้ันตอนการจดั กระบวนการเรยี นรู้ ขั้นท่ี 1 การกาหนดสภาพ ปญั หา ความตอ้ งการในการเรยี นรู้ O : Orientation 1.ครูและผ้เู รียนวิเคราะห์ความยากง่ายและกาหนดปฏิทนิ การเรียนรู้ 2.กาหนดการประเมินและส่งชิ้นงาน 3.ครสู นทนากับผ้เู รยี นถงึ เร่อื งเศรษฐกจิ พอเพยี งว่าเคยทราบเร่อื งน้มี าก่อนหรอื ไมแ่ ละมีความเข้าใจว่า อยา่ งไร -.ผูเ้ รียนตอบคาถามครแู สดงความคดิ เห็นตามความเข้าใจของแตล่ ะคน 4.ครสู นทนากบั ผู้เรยี นถึงเรือ่ งปัญหาทเี่ กิดข้นึ ในครอบครัวว่ามีสามเหตุมาจากเรอื่ งใดบ้าง เช่น ปัญหา ความยากจนการว่างงาน ครอบครวั แตกแยก -ผู้เรยี นรว่ มพูดคุยกับครแู ละแสดงความคดิ เหน็ ในปญั หาทค่ี รูเปิดประเด็น ขน้ั ที่ 2 การแสวงหาข้อมูลและการจดั การเรียนรู้ N : New ways of learning 1.ครแู ละผเู้ รียนระดมปญั หาท่ีเกิดขนึ้ จริงในครอบครวั ชุมชนของตนเอง เขียนลงในกระดาน -ผ้เู รียนนาเสนอประเดน็ ปญั หาทีเ่ กิดขึน้ จรงิ ในครอบครวั ชมุ ชนของผ้เู รยี น 2.เรยี งลาดบั ความสาคัญของ ปญั หาเพอ่ื นาไปสู่การปฏิบัติ
-.ผเู้ รียนร่วมกับครูจดั เรียงลาดับความสาคญั เพือ่ นาไปส่กู ารปฏบิ ตั ิโดยเลือกปัญหา 1-5อันดบั เพอื่ ใชใ้ น การศึกษา 3.ครแู จกใบความรูแ้ นวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง และปรัชญาคดิ เป็น -ศึกษาใบความรู้แนวปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งและปรัชญาคดิ เปน็ ขัน้ ที่ 3 การปฏิบตั แิ ละนาไปประยกุ ต์ใช้ I : Implementation ครแู บ่งกลมุ่ ผ้เู รยี นออกเปน็ กลมุ่ ยอ่ ยกลุ่มละ5-6คนทาการศกึ ษาคน้ คว้า https://www.youtube.com/watch?v=UZ_Imv2QUKU หนังสั้น หวั ขอ้ พอเพียง สาเหตขุ องปญั หา และแนวทางการแกไ้ ขปญั หาโดยใชห้ ลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงตามหัวขอ้ ทค่ี รู กาหนด กล่มุ ละ 1 เรื่อง และใหต้ วั แทนกลมุ่ นาเสนอผลการศึกษาคน้ ควา้ เพือ่ แลกเปลี่ยนเรยี นรู้หน้าช้นั เรียน -.ผู้เรียนแบ่งกลุ่มตามความสนใจกลุ่มละ 5-6 คน ได้ 5 กล่มุ ช่วยกนั ศกึ ษาสาเหตขุ องปญั หาและแนว ทางแก้ไขปญั หาโดยใชห้ ลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งตามหัวขอ้ ทกี่ าหนด กลมุ่ ละ 1 เร่ืองและสง่ ตวั แทน นาเสนอหนา้ ช้นั เรยี น ขัน้ ที่ 4 การประเมนิ ผล E : Evaluation 1.ครใู หป้ ระเมินผลผ้เู รยี นโดยการใหผ้ เู้ รียนนาเสนอหน้าช้นั เรียน 2.ครใู หผ้ ูเ้ รียนทาใบงาน 3.ครูบันทกึ คะแนนลงในสมดุ บันทึกคะแนนเก็บ 4.ครูใหผ้ เู้ รยี นไปศึกษาคน้ คว้าเพิม่ เติมหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและหลกั ปรัชญาคดิ เปน็ รายงานคนละ 1 เลม่ 5.ผู้เรยี นทาแบบทดสอบหลังเรยี น 30 ขอ้ 6.ผ้เู รียนเปลย่ี นกันตรวจแบบทดสอบ 7.ผู้เรยี นบนั ทกึ คะแนน 8.ผู้เรยี นจดบันทึกงานทคี่ รมู อบหมายทาเป็นรายงาน 1 เล่มสง่ ครใู นสัปดาห์ถัดไป สื่อและแหลง่ เรยี นรู้ - หนังสือ - ใบความรู้ - อนิ เตอรเ์ นต็ แหล่งเรียนรู้ - ห้องสมุด - ภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถ่นิ /ภมู ปิ ญั ญาชาวบา้ น - ศูนย์เรยี นรเู้ ศรษฐกจิ พอเพียง
การวดั ผลประเมินผล 1. สงั เกตการณ์มีสว่ นรว่ ม 2. แบบทดสอบ 3. ใบงานและสมดุ บนั ทกึ การเรียนรู้ 4.รายงานเปน็ รูปเล่ม การมอบหมายงานให้ผู้เรียน เรยี นรู้ด้วยตนเอง(กรต.) เรื่องการแก้ปญั หาชมุ ชน ตวั ชี้วัด -มสี ่วนร่วมในการสง่ เสริม เผยแพร่ ขยายผลงานการปฏบิ ัตติ ามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งของ บุคคล ชมุ ชนท่ีประสบผลสาเร็จ เนื้อหา -การส่งเสรมิ เผยแพร่ ขยายผลงานการปฏิบัติตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งของบคุ คล ชุมชนที่ประสบผลสาเร็จ ใหผ้ ู้เรียนไปศกึ ษาเพม่ิ เติมจาก You tube https://www.youtube.com/watch?v=g_2Vfl_9ll4 คนต้นแบบ : สขุ เพียงพอ...ณ บ้านพอเพียง จังหวดั ปทุมธานี ตามหวั ขอ้ และสืบค้นขอ้ มลู เพิ่มเตมิ จาก อินเตอรเ์ น็ต / แหล่งเรยี นรเู้ กีย่ วกบั การหวั ขอ้ ที่ให้ สรปุ องคค์ วามรทู้ ไ่ี ด้รับจากจากถา่ ยทอด เรื่อง สถานการณข์ องประเทศกับความพอเพยี ง ตวั ชี้วัด 1.อธิบายและวเิ คราะห์การพัฒนาประเทศตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง 2.ประยุกตใ์ ช้ในการดาเนินชวี ติ อย่างสมดุลและพรอ้ มรบั ต่อการเปลี่ยนแปลงของประเทศชาติ เน้อื หา 1.การวิเคราะหส์ ถานการณข์ องประเทศโดยใช้หลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง เช่น สถานการณ์ของประเทศท่เี กี่ยวขอ้ งกบั ผู้เรยี น(ภาวะเงนิ เฟอ้ ราคาผลผลิตตกตา่ ค่าครองชพี สงู ฯลฯ) 2.การเลือกแนวทางการดาเนนิ ชีวิตภายใตส้ ถานการณข์ องประเทศโดยใชห้ ลักปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียง เรอ่ื งสถานการณ์โลกกับความพอเพียง ตวั ชี้วดั 1. วเิ คราะห์สถานการณ์ของโลก ประเทศในการการพัฒนาประเทศใหก้ ้าวหน้าไปไดอ้ ยา่ งสมดลุ ภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์ 2.ตระหนกั ในความสาคญั ของการพฒั นาประเทศภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์และเลือกแนวทางหลัก ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งมาประยกุ ตใ์ ชใ้ นการดาเนนิ ชวี ิตอยา่ งสมดลุ และพร้อมรบั ตอ่ การเปลย่ี นแปลงของ ประเทศภายใตก้ ระแสโลกาภวิ ตั น์
เนอื้ หา 1.การวิเคราะห์สถานการณข์ องโลก ประเทศภายใตก้ ระแสโลกาภวิ ตั นท์ ี่เกีย่ วขอ้ ง เชน่ ภาวะโลกรอ้ น การสือ่ สารไรพ้ รมแดน นา้ มันเชื้อเพลิง ฯลฯ 2. การเลอื กแนวทางการดาเนนิ ชวี ิตภายใต้สถานการณ์ของโลกประเทศโดยใชห้ ลักปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพยี ง
ใบความรู้ แนวคดิ เศรษฐกจิ พอเพียง ปรัชญาเศรษฐกิจทที่ าไดจ้ ริง เศรษฐกิจพอเพยี ง เป็นกรอบแนวคิด ซึง่ มุ่งใหท้ กุ คนสามารถพ่ึงพาตวั เองได้ รวมถึงการพัฒนาให้ดีย่ิงขน้ึ จนเกิดความย่ังยนื คา วา่ พอเพยี ง คือ การดาเนินชวี ิตแบบทางสายกลาง โดยต้งั อยูบ่ นหลั กสาคัญสามประการ คอื ความพอประมาณ ความมีเหตุผล และการมีภมู คิ มุ้ กันที่ดี ความพอประมาณ คอื การดารงชวี ิตใหเ้ หมาะสม ซึง่ เราควรจะมีความพอประมาณทงั้ การหารายได้ และพอประมาณในการใชจ้ ่าย ความพอประมาณในการหารายได้ คอื ทางานหารายไดด้ ้วยช่องทางสจุ รติ ทางานใหเ้ ต็มความสามารถ ไม่เบยี ดเบียนผูอ้ ื่น สว่ น ความพอประมาณในการใชจ้ า่ ย หมายถงึ การใช้จา่ ยให้เหมาะกบั ฐานะความเปน็ อยู่ ไม่ใชจ้ ่ายฟุ่มเฟอื ยหรอื ใช้จา่ ยเกินตวั และ ในขณะเดยี วกัน ก็ใช้จ่ายในการดแู ลตนเอง และครอบครวั อย่างเหมาะสม ไมอ่ ยอู่ ยา่ งลาบาก และฝืดเคอื งจนเกินไป ความมีเหตุผล ไม่ว่าจะเป็นการทาธุรกิจ หรือการดารงชีวติ ประจาวนั เราจาเป็นตอ้ งมีการตัดสนิ ใจตลอดเวลา ซ่ึงการตัดสนิ ใจทด่ี ี ควรตั้งอยบู่ นการไตรต่ รองถึงเหตุ รวมทงั้ คานงึ ถงึ ผลที่อาจตามมาจากการตดั สนิ ใจอยา่ งรอบคอบ ไม่ใชต่ ัดสนิ ใจตามอารมณ์ หรอื จากส่งิ ท่ีคนอน่ื บอกมาโดยปราศจากการวเิ คราะห์ การมภี มู ิคุ้มกนั ที่ดี คอื การเตรยี มตัวให้พรอ้ มรบั กับความเปลย่ี นแปลง ในโลกท่ไี มม่ ีอะไรแน่นอน ทงั้ สภาพลม ฟา้ อากาศท่ไี ม่ เออื้ อานวยต่อการทาเกษตร การเปลีย่ นแปลงในบรษิ ัทคูค่ ้า การเลกิ จ้างพนกั งานในบริษทั ใหญ่ หรอื แมแ้ ตค่ วามไม่แน่นอนของ สถานการณท์ ้งั ในและต่างประเทศท่ีมีผลต่อการลงทุน เราจึงจาเป็นตอ้ งเรียนรูท้ จ่ี ะดารงอยูไ่ ดด้ ว้ ยการพึ่งพาตนเอง และตงั้ อยู่ ในความไม่ประมาทอยเู่ สมอ เชน่ เตรียมแผนสารองสาหรับแตล่ ะสถานการณ์ การมีรายได้หลายทางเพ่อื ลดความเสยี่ งในวันที่ ถกู เลกิ จา้ ง หรอื การกระจายความเส่ียงในการลงทนุ โดยการดารงชวี ิตตามหลกั การท้ังสามขอ้ นัน้ จาเปน็ ต้องมคี วามรู้และคุณธรรมประกอบด้วย ความรูช้ ่วยสรา้ ง ภมู คิ ้มุ กันทีเ่ หมาะสม เชน่ ความรูใ้ นการประกอบวชิ าชพี ชว่ ยให้ธรุ กจิ และการงานเจรญิ ก้าวหน้า หรอื ความรู้ในการลงทุนชว่ ย สรา้ งภมู ิคุ้มกนั ใหน้ กั ลงทุน ท้งั นี้ ความร้แู ละประสบการณ์ จะชว่ ยทาใหเ้ ราตั ดสนิ ใจได้อย่างเปน็ เหตุเป็นผล ถึงแม้วา่ พืน้ ฐาน ความคิดและประสบการณ์ที่แตกตา่ งกันอาจทาให้เหตผุ ลของแตล่ ะคนนั้นแตกตา่ งกัน แต่หากทกุ คนยดึ มัน่ อยู่ในหลกั คณุ ธรรม กจ็ ะทาให้การอยู่ร่วมกันในสงั คมเปน็ ไปอย่างสงบสขุ อย่างที่กลา่ วมาข้างตน้ การพง่ึ พาตัวเองไดเ้ ป็นเพียงสว่ น เริ่มต้นของการพัฒนาเศรษฐกจิ พอเพียง โดยเม่ือทุกคนสามารถดูแล ตวั เอง และครอบครวั ไดแ้ ล้ว ขน้ั ต่อไปอาจทาการพัฒนาธรุ กิจ โดยมีการรวมกลุ่มกนั ในวชิ าชพี เดียวกนั เพอื่ แลกเปลย่ี นความรู้ และใหค้ วามชว่ ยเหลอื ซ่ึงกนั และกัน ในการรวมกลุม่ กันนน้ั ไม่จากัดเฉพาะการรวมกลุ่มของชาว บา้ น เกษตรกร ในรูปของ สหกรณ์ การทางานในเมอื งก็สามารถมีการรวมกลุ่มกนั ได้ เชน่ การแบ่งปันความรู้ ประสบการณ์ในการทาธุรกิจของกลุ่ม อุตสาหกรรมเดยี วกัน การแลกเปลยี่ นแนวคิดการลงทนุ เพื่อเป็นการตอ่ ยอดความรู้ รวมไปจนถงึ การแบง่ ปนั ความชว่ ยเหลอื ส่งกลับคืนสู่สงั คม ไปส่กู ลุม่ ที่ยังตอ้ งการความช่วยเหลืออยู่ เชน่ กจิ กรรมจิตอาสา เพื่อสรา้ งสงั คมทีเ่ ขม้ แข็งและอยู่ร่วมกนั อย่างสงบสขุ จะเหน็ ไดว้ า่ แนวคิดเศรษฐกจิ พอเพยี งนั้น เปน็ แนวคดิ ที่ตัง้ อย่บู นความไมป่ ระมาท ดว้ ยการใช้ความร้แู ละคณุ ธรรม เพอื่ ใหเ้ กิด การพ่ึงพาตวั เองได้ และเผอ่ื แผ่ไป ถึงสงั คม ซง่ึ เราสามารถนาหลักการปฏิบตั ิไปปรบั ใช้ได้ทั้งในชีวิตการทางาน และการ ดารงชีวติ
Search
Read the Text Version
- 1 - 8
Pages: