Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้1

แผนการจัดการเรียนรู้1

Published by 5915891021, 2019-12-23 22:46:26

Description: แผนการจัดการเรียนรู้1

Search

Read the Text Version

แผนการจัดการเรยี นรู้ สาระ เคมี กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์เพ่ิมเตมิ ระดบั ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 7 เรื่อง แกส๊ และสมบัตขิ องแก๊ส เวลา 50 นาที จานวน 1.5 หน่วยกิต เรือ่ ง ความสมั พันธร์ ะหว่างปริมาตรและและอณุ หภูมขิ องแกส๊ 1. สาระเคมีเพ่มิ เติม ความสัมพนั ธ์ระหว่างปริมาตร ความดัน อุณหภมู ิ และจานวนโมลของแกส๊ อธบิ ายไดด้ ว้ ยกฎของบอยล์ กฎของชาร์ล กฎของเกย์–ลสู แซก และกฎของอาโวกาโดร ความสัมพันธเ์ หล่านี้นา ไปสู่กฎรวมแกส๊ และกฎแก๊ส อุดมคติ ซ่ึงสามารถอธิบายในระดับอนภุ าคได้ด้วยทฤษฎจี ลนข์ องแกส๊ 2.ผลการเรยี นรู้ ม.5/1 อธบิ ายความสัมพนั ธ์และคานวณปรมิ าตร ความดนั หรืออุณหภูมิของแก๊สท่ีภาวะตา่ ง ๆ ตาม กฎของบอยล์ กฎของชาร์ล กฎของเกย์-ลูสแซก 3.สาระการเรียนรเู้ พ่ิมเติม พฤติกรรมของแกส๊ และความสัมพันธ์ระหว่าง ปริมาตร ความดัน และอุณหภูมขิ องแก๊ส อธิบายไดด้ ้วย กฎของบอยล์ กฎของชาร์ล กฎของเกย์-ลูสแซก และกฎรวมแก๊ส ซ่ึงสามารถนามาใช้ ในการคานวณปริมาตร ความดนั หรอื อณุ หภมู ิของแก๊สที่ภาวะต่าง ๆ ได้ 4.จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. สามารถอธบิ ายความสมั พันธร์ ะหวา่ งปริมาตรและอุณหภมู ิของแก๊สตามกฎของชารล์ 2. ผเู้ รียนมที กั ษะในการปฏบิ ัติการทดลองไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง 3. ผเู้ รียนสามารถทางานรว่ มกับผอู้ ืน่ ได้อยา่ งสรา้ งสรรค์ 5.สาระสาคัญหรอื ความคิดรวบยอด กฎของชารล์ กล่าวว่า เมอื่ มวลและความดันของแก๊สคงที่ ปริมาตรของแก๊สจะแปรผันตรงกับ อุณหภมู เิ คลวนิ ความสมั พนั ธ์ตามกฎของชาร์ลเขยี นแสดงไดด้ งั นี้ ������ α T (เมอ่ื ความดนั และมวลคงท)ี่ ������ = ������ โดย k เป็นคา่ คงที่ ������

ตาราง 5.1 ความสมั พนั ธ์ระหว่างอณุ หภมู ใิ นหนว่ ยองศาเซลเซียส (oC) และเคลวนิ (K) กับปริมาตรของแกส๊ การทดลองคร้ังที่ T (oC) T (K) V (cm3) V/T (cm3/K) 1 10 283 100 0.35 2 50 323 114 0.35 3 100 373 132 0.35 4 200 473 167 0.35 จากขอ้ มูลในตารางเม่ือ กาหนดใหอ้ ณุ หภมู ิของแก๊สเร่มิ ต้นเป็น T1 ปริมาตรของแก๊สเป็น V1ถ้า อณุ หภูมิของแก๊สเปลย่ี นเป็น T2 T3 และ T4 ปริมาตรของแก๊สจะเปล่ยี นเป็น V2 V3 และ V4 ตามลาดับ ซ่งึ พบว่าเม่ือความดันและมวลคงท่ี อัตราสว่ นระหวา่ งปริมาตรกบั อณุ หภูมิเคลวนิ มีคา่ คงทีเ่ สมอ เขยี นแสดง ความสัมพนั ธ์ได้ดังน้ี ������1 = ������2 = ������3 … = ������������ = ������ ������1 ������2 ������3 ������������ 6.สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน 6.1 ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ - การใช้จานวน - การทกลอง - การกาหนดและควบคุมตวั แปร 6.2 ทกั ษะแห่งศตวรรษท่ี 21 - การคิดอยา่ งมวี จิ ารณญาณและการแก้ปัญหา 6.3 จติ วทิ ยาศาสตร์ - ความใจกวา้ ง - ความรอบคอบ 7.คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 7.1 มวี ินยั 7.2 ใฝ่เรยี นรู้ 7.3 มงุ่ มั่นในการทางาน 7.4 มจี ติ สาธารณะ

8.กระบวนการจัดการเรียนรู้ วธิ ีการสอนแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) 8.1 ขั้นท่ีสรา้ งความสนใจ (Engagement) ครนู าเขา้ สูบ่ ทเรียนด้วยการทบทวนความสัมพันธร์ ะหว่างปริมาตรและความดันของแก๊ส ตามกฎของบอยล์ จากน้ัน ใช้คาถามว่า หากอุณหภูมิของแก๊สเปลี่ยนแปลง ปริมาตรของแก๊สจะเปล่ียนแปลงหรือไม่ อย่างไร เพื่อนาเข้าสู่กิจกรรม (แนวการทบทวน : จากคาบเรียนที่แล้วที่นักเรียนได้ทาการทดลองศึกษาความสัมพันธ์ ระหวา่ งความดันและปริมาตรของอากาศ ไดผ้ ลเปน็ อยา่ งไรบา้ ง สรุปผลการทดลองไดว้ า่ ท่ีอุณหภูมแิ ละจานวน โมลของอากาศคงที่ เมื่อปริมาตรของอากาศลดลง ความดันของอากาศจะเพ่มิ ข้ึน และเมอ่ื ปริมาตรของอากาศ เพ่ิมขึ้น ความดันของอากาศจะลดลง ตามกฎของบอยล์ แล้วถ้าหากอุณหภูมิของแก๊สเปลี่ยนแปลง ปริมาตร ของแก๊สจะเปลี่ยนแปลงหรอื ไม่ อย่างไร) 8.2 ข้นั สารวจและค้นหา (Exploration) 8.2.1. ครูใหน้ ักเรยี นแบง่ กลุ่มเปน็ 5 กลุ่ม กลมุ่ ละ 4-5 คน โดยใหผ้ ้เู รียนจับกลุม่ เองตามสะดวก หมายเหตุ : ครูบอกว่ากลุ่มไหนช้าจะให้ออกมาเต้นให้เพ่ือนดูหน้าช้ันเรียน เพ่ือกระตุ้นให้นักเรียน เข้ากลุ่มเร็วขึน้ 8.2.2. ให้นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มทากิจกรรม 7.2 การทดลองศึกษาความสมั พันธ์ระหวา่ งปรมิ าตรและอุณหภูมิ ของอากาศ เพื่อศึกษาความสัมพันธ์การเปลี่ยนแปลงของปริมาตรเมื่ออุณหภูมิเปลี่ยนแปลงไปตามลาดับ ขั้นตอนตอ่ ไปน้ี 1) ครูแจกเอกสารกิจกรรมท่ี 7.2 ให้แกน่ ักเรียนกลุ่มละ 1 ชดุ ซงึ่ เอกสารน้ีจะประกอบไปดว้ ย วิธกี ารทาการทดลอง วสั ดุ อุปกรณ์ สารเคมที ี่ใช้และใบงานท่ี 1 เพอ่ื ไวบ้ นั ทกึ ผลการทดลอง 2) ครทู าการอภิปรายก่อนใหน้ ักเรียนทาการทดลองเพ่ือให้เด็กทราบในสิง่ ทจี่ ะทา โดยเรม่ิ จากครู จะถามนักเรียนว่า นักเรียนรู้กันไหมคะว่าวนั น้ีเราจะมาทาการทดลองเร่ืองอะไร และจากนั้นอธิบายใบงานที่ 1 ทใี่ ห้ พรอ้ มกบั ใบกิจกรรม 7.2 นั้นตอ้ งการอะไรบ้างเพื่อให้นักเรยี นเกิดการสังเกตขณะทาการทดลอง เพ่ือนาสง่ิ ที่เห็น มาตอบคาถามในใบงาน โดยการทดลองครั้งนี้ต้องการทราบว่า ตัวแปรต้นและตัวแปรตามของการทดลองนี้คืออะไร เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไรเมื่อตัวแปรต้นเปลยี่ นแปลงไป ข้นั ตอนท่ี 1 ครูทาการอธบิ าย แนะนาวัสดุ อุปกรณ์ และสารเคมีทใ่ี ช้ว่ามีอะไรบ้าง (นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ เปิดดู เอกสารกิจกรรม 7.2 ที่ได้ไปพร้อมกับครูอธิบาย) ซึง่ มีรายการดังนี้ วสั ดุอุปกรณ์ และสารเคมี 1. ขวดพลาสติกใสชนิดไมย่ บุ ตวั เมื่อถูกความร้อน ขนาด 500 มิลลิลิตร 1 ขวด 2. บีกเกอร์ขนาด 500 มลิ ลิลิตร 2 ใบ 3. นา้ 5 มลิ ลิลิตร 4. น้ายาลา้ งจาน 2.5 มลิ ลลิ ิตร

5. นา้ ร้อน (อณุ หภูมปิ ระมาณ 60 องศาเซลเซยี ส) 100 มลิ ลิลิตร 6. น้าแขง็ 60 กรัม 7. แท่งแก้ว 1 อนั ขั้นตอนท่ี 2 ครูทาการอธิบายวิธีการทาการทดลองให้นักเรียนโดยครูจะนาเสนอในรูปแบบสื่อที่เป็น power point ซ่ึงจะสรา้ งเป็นแผนภาพประกอบเพื่อให้นักเรียนเข้าใจมากย่ิงข้ึนในทิศทางเดียวกนั ซึ่งสิง่ เหล่านีจ้ ะส่งผลทาให้ความ ผดิ พลาดที่อาจจะเกิดขึ้น วิธกี ารทดลอง 1. ผสมน้ากับน้ายาล้างจานในอัตราสว่ น 2 : 1 ใส่ในบีกเกอร์ใบท่ี 1 2. จุ่มปากขวดพลาสติกลงในบีกเกอร์ใบที่ 1 ดังรูป เพื่อให้เกิดแผ่นฟิล์มบาง ๆ ของนา้ ยาล้างจาน ปดิ ท่ีปากขวด สงั เกตลักษณะของฟลิ ์มทีป่ ากขวด 3. เทน้าร้อนใส่บีกเกอร์ใบที่ 2 โดยให้นา้ ร้อนมีระดับความสูงประมาณ 2 เซนติเมตร แล้ววางขวด พลาสติกที่เตรียมไว้ในข้อ 2 ลงในบีกเกอร์ โดยหงายปากขวดข้ึน ดังรูป สังเกตการเปล่ียนแปลงและบันทึกผล โดยการวาดรปู ประกอบ 4. ทาการทดลองซา้ ตงั้ แตข่ อ้ 2-3 โดยเปลีย่ นจากนา้ ร้อนเปน็ นา้ ผสมน้าแข็งแทน ข้ันตอนที่ 3 ให้ตัวแทนกลุ่มทุกกลุ่มออกมารับวัสดุและอุปกรณ์ โดยอุปกรณ์ที่นักเรียนแต่ละกลุ่มจะได้รับคือ บีกเกอร์ 2 ใบ แท่งแก้ว และขวดพลาสติกใสชนิดไม่ยุบตัวเมื่อถูกความร้อน 1ขวด โดยสารละลายแต่ละชนิดนนั้ จะถูกวางไว้ท่ีหน้าห้อง จากน้ันครูและนักเรียนเริ่มทาการทดลองไปพร้อมกันโดยครูนั้นจะคอยให้ความ ชว่ ยเหลอื เมือ่ นักเรียนเกดิ ข้อสงสัยขณะทาการทดลอง 8.3 ขนั้ อธบิ ายและลงขอ้ สรุป (Explanation) ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั อภิปรายผลการทดลองจนสามารถสรปุ ไดว้ า่ เป็นกฎท่เี กย่ี วกบั อุณหภูมิ และปริมาตรของแก๊ส เรียกว่า กฎของชาร์ล ซ่ึงมีสาระสาคัญว่า เมื่อมวลและความดันของแก๊สคงที่ ปริมาตร ของแก๊สจะแปรผันตรงกบั อุณหภูมิเคลวิน เขยี นเป็นสมั พันธ์ไดด้ ังนี้ ������ α T (เมื่อความดนั และมวลคงที่) ������ = ������ โดย k เปน็ ค่าคงท่ี ������ ถา้ กาหนดให้อณุ หภมู ขิ องแก๊สเร่ิมต้น เปน็ T1 ปริมาตรของแก๊สเป็น V1ถ้าอณุ หภมู ขิ องแกส๊ เปล่ยี นเปน็ T2 T3และ T4 ปรมิ าตรของแกส๊ จะเปลี่ยนเป็น V2 V3และ V4 ตามลาดบั ซ่ึงพบว่า เมอื่ ความดนั และมวลคงที่ อตั ราสว่ นระหว่างปริมาตรกบั อณุ หภมู ิเคลวิน มีค่าคงที่เสมอ เขียนแสดงความสัมพันธไ์ ด้ดงั น้ี

������1 = ������2 = ������3 … = ������������ ������1 ������2 ������3 ������������ 8.4 ข้นั ขยายความรู้ (Elaboration) ครใู หค้ วามรู้ว่า เมื่อนา กฎของบอยล์และชารล์ มารวมกันจะได้ กฎรวมของแก๊ส ซ่งึ เปน็ ความสัมพันธ์ ระหว่าง (อุณหภมู ิ ความดัน และปริมาตร) เมอื่ มวลคงที่ จากกฎของบอยล์ ������ α 1 (เมื่ออุณหภมู ิและมวลคงที่) จากกฎของชาร์ล (เมื่อความดันและมวลคงท่ี) ������ ������ α T ถา้ รวมกฎของบอยล์และกฎของชารล์ จะได้ความสัมพันธด์ ังนี้ ������ α ������ โดย k เป็นค่าคงท่ี ������ หรือ (เม่ือมวลคงท่ี) ������������ = ������������ หรอื ������������ = ������ จงึ กลา่ วได้วา่ ������ ������1������1 = ������2������2 = ������3������3 … = ������������������������ = ������ ������1 ������2 ������3 ������������ (เมอื่ มวลคงท่ี) 8.5 ขนั้ ประเมิน (Evaluation) 5.1 ครูผสู้ อนประเมนิ ทกั ษะการทดลอง จากใบงานท่ี 1 ซ่ึงเปน็ รายงานการทดลองและทาการสังเกต พฤติกรรมในการทาการทดลองของผู้เรยี น 5.2 ครูประเมินนักเรยี นเป็นรายบุคคลจากการสังเกตพฤติกรรมในขณะทาการเรยี นการสอน และประเมิน การทางานเป็นกลุ่มขณะนกั เรียนทาการทดลองโดยการสงั เกตพฤติกรรม 5.3 ครูผู้สอนประเมินทักษะการร่วมมือ การทางานเป็นทีมและภาวะผ้นู าจากการสังเกตพฤติกรรมในการ ทาการทดลองของผู้เรยี น 9.สอ่ื /วสั ด/ุ อปุ กรณ์/แหลง่ เรียนรู้ สอ่ื /วัสดุ/อุปกรณ์ แหลง่ เรยี นรู้ หนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์ เคมี เลม่ 3 Powerpoint

10.การวดั และการประเมนิ ผล จุดประสงค์การเรยี นรู้ วิธีการวัดและการ เครอื่ งมอื ท่ีใช้วดั และการ เกณฑ์การวัดและ ประเมินผล การประเมินผล ประเมินผล ร้อยละ 60 ใบกจิ กรรมที่ 1 ผ่านเกณฑ์ สามารถอธบิ าย ตรวจใบงานท่ี 1 เรอ่ื ง การทดลองศกึ ษา ความสัมพันธร์ ะหวา่ ง -ระดบั คณุ ภาพ 3 ความสมั พันธ์ระหว่าง แบบทดสอบเรื่อง การ ปรมิ าตรและอุณหภูมิ ผา่ น เกณฑ์ ปรมิ าตรและอณุ หภูมิของ ทดลองศึกษา - แบบสงั เกตพฤติกรรม -ระดับคณุ ภาพ 3 เปน็ รายบคุ คล ผา่ น เกณฑ์ แกส๊ ตามกฎของชารล์ ความสัมพนั ธร์ ะหว่าง -แบบสังเกตพฤติกรรมการ ปรมิ าตรและอณุ หภมู ิ ทางานเป็นกลุ่ม ผู้เรยี นมีทักษะในการ - สังเกตพฤติกรรมเปน็ ปฏบิ ัติการทดลองได้อย่าง รายบุคคล ถกู ต้อง ผู้เรยี นใหค้ วามรว่ มมือใน - สังเกตพฤตกิ รรมการ การทากจิ กรรมระหว่างการ ทางานเป็นกลุ่ม เรียนการสอนได้เป็นอย่างดี หมายเหตุ เกณฑก์ ารให้คะแนน ปฏิบัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 3 คะแนน ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั ให้ 2 คะแนน ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมนอ้ ยครัง้ ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ 9-12 ดี 5-8 พอใช้ 1-4 ปรบั ปรุง

บนั ทึกผลหลังจากการจดั การเรียนรู้ 1. ผลทเี่ กดิ ขึ้นจากการเรยี นรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 2. ปัญหาและอุปสรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….................... 3. แนวทางแก้ไขและขอ้ เสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….................... ลงช่ือ.......................................................ผ้เู ขียนแผนการจกั การเรียนรู้ (.....................................................) ................/................../................ ลงช่อื .......................................................ผตู้ รวจ (......................................................) ................./.................../.................

แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานรายบคุ คล ลาดบั ช่อื -สกุลของ ความสนใจ ความ การตรงต่อ ความ รวม ที่ ผ้รู ับการประเมิน รับผิดชอบ เวลา ซื่อสัตย์ คะแนน 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 12 ลงชอ่ื ...................................................ผ้ปู ระเมนิ (...................................................) ............../................./.............. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน พฤติกรรมท่ที าเปน็ ประจา ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมท่ีทาเปน็ บางครัง้ ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมท่ีทาน้อยคร้ัง ให้ 1 คะแนน เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ 13-15 ดี 8-12 5-7 ปานกลาง ปรับปรุง

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุม่ กลุม่ ที่........... สมาชกิ ของกลมุ่ 1. ................................................................ 2. ....................................................................... 3. ................................................................. 4. ...................................................................... 5. ................................................................. 6. ...................................................................... คาชแ้ี จง : ใหค้ รูประจารายวิชาสงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างการท างานภายในกลุม่ แลว้ ทา เคร่ืองหมาย  ในช่องที่ตรงกบั ความเป็นจรงิ ลาดบั ที่ รายการประเมิน คณุ ภาพการปฏิบตั ิ 3 21 1 มีส่วนรว่ มในการแสดงความคิดเหน็ 2 มีความกระตือรอื รน้ ในการทางาน 3 มีความรับผิดชอบในงานท่ีได้รับมอบหมาย 4 มีข้ันตอนในการทางานอย่างเปน็ ระบบ 5 มกี ารช่วยเหลือซ่ึงกนั และกนั ภายในกลุ่ม รวม ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ (...................................................) ............../................./.............. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน พฤติกรรมท่ีทาเป็นประจา ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมทีท่ าเปน็ บางครั้ง ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมที่ทาน้อยคร้ัง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 13-15 ดี 8-12 5-7 ปานกลาง ปรบั ปรุง

กิจกรรม 7.2 การทดลองศกึ ษาความสัมพนั ธร์ ะหว่างปรมิ าตรและอุณหภมู ิของอากาศ จดุ ประสงคก์ ารทดลอง ทดลองและอธิบายความสัมพนั ธ์ระหวา่ งปริมาตรและอุณหภูมิของอากาศ วสั ดุ อุปกรณ์ และสารเคมี 1. ขวดพลาสตกิ ใสชนดิ ไม่ยบุ ตวั เมื่อถูกความร้อน ขนาด 500 มิลลลิ ิตร 1 ขวด 2. บกี เกอร์ขนาด 500 มิลลลิ ิตร 2 ใบ 3. น้า 5 มลิ ลิลติ ร 4. นา้ ยาลา้ งจาน 2.5 มิลลลิ ิตร 5. น้ารอ้ น (อณุ หภูมิประมาณ 60 องศาเซลเซียส) 100 มลิ ลลิ ิตร 6. นา้ แข็ง 60 กรมั 7. แทง่ แกว้ 1 อัน วธิ ีการทดลอง 1. ผสมน้ากบั น้ายาล้างจานในอตั ราสว่ น 2 : 1 ใส่ในบีกเกอร์ใบที่ 1 2. จุ่มปากขวดพลาสติกลงในบีกเกอร์ใบท่ี 1 ดังรูป เพ่ือให้เกิดแผ่นฟิล์มบาง ๆ ของนา้ ยาล้างจาน ปดิ ทป่ี ากขวด สงั เกตลกั ษณะของฟลิ ม์ ท่ปี ากขวด 3. เทน้าร้อนใส่บีกเกอร์ใบท่ี 2 โดยให้นา้ ร้อนมีระดับความสูงประมาณ 2 เซนติเมตร แล้ววางขวด พลาสติกท่ีเตรียมไว้ในข้อ 2 ลงในบีกเกอร์ โดยหงายปากขวดขึ้น ดังรูป สังเกตการเปล่ียนแปลงและบันทึกผล โดยการวาดรูปประกอบ 4. ทาการทดลองซา้ ตงั้ แตข่ อ้ 2-3 โดยเปล่ียนจากน้าร้อนเป็นน้าผสมน้าแข็งแทน

ใบงานท่ี 1 กิจกรรม 7.2 การทดลองศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปริมาตรและอุณหภูมขิ องอากาศ ผลการทดลอง 1. การเปลยี่ นแปลงของแผน่ ฟิลม์ ท่ีปากขวดเมื่อวางขวดขวดพลาสตกิ ลงใบบกี เกอร์ที่มีนา้ ร้อน 2. การเปลี่ยนแปลงของแผ่นฟลิ ม์ ท่ีปากขวดเม่ือวางขวดขวดพลาสติกลงใบบีกเกอร์ท่ีมนี ้าเย็น คาถามทา้ ยการทดลอง 1. จานวนโมลและความดนั ของอากาศในขวดพลาสตกิ ก่อนทาการทดลองและหลงั การทดลองเสร็จสิ้น มีการเปล่ียนแปลงหรือไม่ อยา่ งไร .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 2. เมอ่ื วางขวดพลาสตกิ ลงในบีกเกอร์ที่มนี ้ารอ้ นและนา้ ผสมน้าแข็ง ปริมาตรและอณุ หภูมิในขวด พลาสตกิ เปล่ยี นแปลงหรือไม่ อย่างไร .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook