82100410_1_20190423-145355

7 ใบความรู้ เรอื่ ง ความรเู้ บือ้ งตน้ ของโปรแกรม Microsoft Office Excel 2010 โปรแกรม Microsoft Excel 2010 ถือเป็นโปรแกรมท่ีนยิ มใชใ้ นการจดั ดา้ น การ คานวณและมีความสามารถในการคานวณสตู รต่างๆ พรอ้ มท้ังฟังก์ชนั ท่ชี ว่ ย ในการคานวณทางคณติ ศาสตรห์ รือจะจัดทาเป็นตารางงานก็ย่งิ สะดวกมากข้นึ ซึง่ ถือวา่ เปน็ โปรแกรมที่มปี ระโยชน์มากมาย สาหรบั Microsoft Excel เวอร์ชนั 2010 จะมีความคลา้ ย กับ Microsoft Excel 2007 อยพู่ อสมควร แต่กม็ ีการพัฒนาเทคนิคการใช้งานบางประการ เพ่อื ใหเ้ ราสามารถทางานได้อยา่ งสะดวกมากขนึ้ รวมไปถงึ การวเิ คราะหข์ อ้ มูลและทาการ ตดั สนิ ใจทางธรุ กิจ ได้อยา่ งรอบคอบ โดยเฉพาะการใช้ Excel เพื่อตดิ ตามข้อมูล สร้างรปู แบบจาลองสาหรับการวิเคราะหข์ ้อมูล เขยี นสูตรเพื่อทาการคานวณกบั ขอ้ มลู และการจดั รปู แบบข้อมลู ในลักษณะตา่ งๆ และนาเสนอข้อมลู ในแผนภมู ติ ่างๆ อย่างมอื อาชีพ โปรแกรม Microsoft Excel 2010 จดั เป็นโปรแกรมท่ีมปี ระสทิ ธภิ าพ ทีช่ ว่ ยให้ สามารถสรา้ ง และจัดรูปแบบกระดาษคานวณรวมถึงวเิ คราะห์ และใช้ขอ้ มลู รว่ มกันด้วย ลกั ษณะอินเทอรเ์ ฟซแบบใหม่ท่ีมุ่งเน้นผลลัพธ์ทาใหส้ ามารถใช้งานโปรแกรมได้สะดวก และง่ายดายมากขึน้ และไดผ้ ลลัพธ์ของขอ้ มลู ท่ีถูกตอ้ งแมน่ ยา คุณสมบัตขิ องโปรแกรมตารางคานวณ Excel 2010 โปรแกรม Microsoft Excel 2010มกี ารเปล่ยี นแปลงไปจากรนุ่ เดมิ ค่อนข้างมาก ส่ิงท่เี หน็ ไดช้ ดั เจนทีส่ ดุ คือ 1. มีการเพม่ิ แทป็ ไฟล์ (File) เขา้ มาใหม่ โดยจะรวบรวมรายการทใี่ ช้งานบ่อยๆ เชน่ การบันทึกเอกสาร (Save,Save As) การเปิด (Open) เปิดไฟลเ์ อกสารขนึ้ มาทางานต่อได้ เร็วขน้ึ (Recent) การพิมพเ์ อกสาร (Print) เปน็ ตน้

8 2. รบิ บอน (Ribbon) ทไ่ี ด้รบั การปรบั ปรงุ แทป็ รบิ บอน (Ribbon) เริม่ นามาใชเ้ ปน็ ครงั้ แรกใน Microsoft Excel 2007 เพ่อื ช่วยใหค้ น้ หาคาส่ังและคุ ณลกั ษณะตา่ งๆ ซ่ึงก่อน หนา้ นี้ฝังอยูใ่ นเมนูและแถบเคร่ืองมือทีซ่ บั ซอ้ นได้ง่ายขน้ึ แมว้ า่ จะสามารถกาหนดแถบ เครื่องมอื ดว่ นเองไดใ้ น Microsoft Excel 2007 แตไ่ ม่สามารถเพ่มิ แท็ปหรอื กล่มุ ของ เราเองลงในริบบอน (Ribbon) ได้ อย่างไรกต็ าม ใน Microsoft Excel 2010 สามารถ สรา้ งแท็ปและกลมุ่ แบบกาหนดเอง และเปลีย่ นชอ่ื หรือเปลย่ี นลาดบั ของแท็ปและกลมุ่ ท่มี ี อยแู่ ล้วภายในได้ 3. ตัวแบง่ ส่วนขอ้ มูล คอื ตัวควบคมุ แบบเป็นภาพที่ช่วยให้กรองขอ้ มลู ในPivotTable ได้อยา่ งรวดเร็วในแบบโต้ตอบท่ีใช้งานง่าย เมื่อแทรกตัวแบง่ ส่วนข้อมลู สามารถใชป้ ุ่ม ต่างๆ เพอื่ แบ่งสว่ นและกรองขอ้ มูลให้แสดงเฉพาะสงิ่ ท่ีตอ้ งการไดอ้ ย่างรวดเรว็ นอกจากนี้ เมื่อนาตัวกรองมากกวา่ หน่ึงตวั ไปใช้กับ PivotTable เราไม่จาเป็นตอ้ งเปดิ รายการเพือ่ ดูวา่ มีการนาตวั กรองใดไปใช้กบั ขอ้ มลู นน้ั อกี ต่อไป แตข่ อ้ มูลนจี้ ะแสดงอยู่บนหน้าจอในตวั แบง่ สว่ นข้อมูลแทน สามารถทาใหต้ ัวแบง่ ส่วนข้อมลู มีการจดั รูปแบบที่สอดคล้องกับสมุดงาน และนามาใชใ้ หมใ่ น PivotTable, Pivotchart และฟังกช์ ันคิวบ์อน่ื ๆ ไดอ้ ยา่ งง่ายดาย 4. เคร่ืองมือภาษาทไ่ี ดร้ บั การปรบั ปรงุ ในกลอ่ งโต้ตอบ ตัวเลือกของ Microsoft Excel ผใู้ ชแ้ บบหลายภาษาสามารถตั้งคา่ การกาหนดลกั ษณะภาษาสาหรับการแก้ไขภาษา ท่ใี ช้แสดงภาษาของคาแนะนาบนหนา้ จอ และภาษาของวธิ ใี ชไ้ ด้อย่างรวดเรว็ และการเปลย่ี นการต้งั ค่าภาษาใน Excel จะเปลีย่ นภาษาเหล่านนั้ โดยอตั โนมตั ใิ นโปรแกรม ประยุกต์ Microsoft Office 2010 ทัง้ หมดทีส่ ามารถใช้งานได้ ถ้าไมไ่ ดต้ ดิ ตั้งซอฟต์แวร์หรือ รูปแบบแป้นพิมพ์ท่ีจาเป็นตอ้ งใช้ไว้ จะไดร้ ับการแจ้งให้ทราบและระบบจะให้การเชื่อมโยง กับผใู้ ชเ้ พ่อื ใหแ้ กไ้ ขปญั หาดงั กล่าวได้ง่ายขึ้น 5. แสดงตวั อย่างของงานที่สั่งพมิ พ์ (Print Preview) ออกมาไดท้ ันที ช่วยทาใหล้ ด ข้นั ตอนรายละเอยี ดในการสง่ั พิมพ์ 6. ปรับปรุงเคร่ืองมอื ท่ใี ช้ในการแก้ไขและตกแต่งภาพถา่ ยให้มีความสามารถหรือมี ลูกเล่นมากขนึ้ เชน่ การปรับโทนสีภาพ เปลย่ี นภาพถ่ายเปน็ เหมือนภาพวาดได้ 7. การเพิ่ม Screenshot สาหรับจบั ภาพหนา้ จอคอมพิวเตอรม์ าวางไวใ้ นสมุดงาน (Worksheet) ทีเ่ ปิดใช้งานอย่ไู ดอ้ ย่างรวดเร็ว

9 การเรียกใชโ้ ปรแกรม Microsoft Excel 2010 การเริ่มต้นใช้งานโปรแกรม Microsoft Excel 2010 สามารถทาไดด้ งั ข้นั ตอน ตอ่ ไปน้ี 1. คลิกปมุ่ Start 2. เลือก All Programs 3. เลือก Microsoft Office 4. เลือก Microsoft Office Excel 2010 3 4 2 1

10 ทาความร้จู กั ส่วนประกอบของโปรแกรม หลงั จากเปิดโปรแกรม Microsoft Excel 2010 จะไดห้ นา้ จอโปรแกรมซึง่ มี ส่วนประกอบหน้าจอดังน้ี Quick Access Toolbar Title Bar Ribbon Name Box Formula Bar Column Header Row Scroll Bar Worksheet Tab Page Preview Status Bar Zoom Button

11 ส่วนประกอบของโปรแกรม Microsoft Excel 2010 1. Quick Access Toolbar : แสดงป่มุ คาส่งั ทใ่ี ชง้ านบ่อย เพอ่ื ความสะดวกใน การเรียกใชค้ รัง้ ตอ่ ไป 2. Title Bar : แสดงชอ่ื โปรแกรม และช่ือไฟล์ 3. Ribbon : แสดงแถบเคร่อื งมอื ภายใต้เมนคู าส่ังใหค้ ลิกเพื่อใชง้ านได้ ง่าย ไม่ซับซ้อนเหมือนเวอรช์ นั กอ่ นหนา้ 4. Name Box : แสดงชื่อเซลล์และกลมุ่ เซลลท์ เ่ี ลือกไว้ 5. Formula Bar : แสดงสตู รและข้อมูลท่ีมกี ารพมิ พล์ งในเซลล์ 6. Column Header : แสดงชอื่ หวั คอลัมน์ซ่ึงมที ้ังหมด 16,384 คอลัมน์ 7. Row Header : แสดงชือ่ หัวแถวซึ่งมีทง้ั หมด 1,048,576 แถว 8. Worksheet Tab : แสดงแผ่นงานแตล่ ะแผ่นงานซงึ่ เป็นพนื้ ทใี่ นการสรา้ งงาน 9. Scroll Button : ปมุ่ เล่อื นไปยงั แผน่ งานแตล่ ะแผน่ 10. Status Bar : แสดงสถานการณท์ างานของโปรแกรม 11. Scroll Bar : เล่อื นหนา้ จอซง่ึ มีท้งั แนวตั้งและแนวนอน 12. Page Preview : ปรับมุมมอง 13. Zoom Button : ยอ่ หรอื ขยายหน้าจอการทางาน การทางานกับ Ribbon เมนูและแทบ็ คาส่งั Ribbon คือ คาสัง่ ท่จี ดั เรียงเปน็ ชุดแทบ็ Ribbon จะแสดง คาสงั่ ที่เกีย่ วข้องมากท่สี ดุ กับพืน้ ท่งี านแต่ละพนื้ ท่ีในโปรแกรมมีการจัดกลุ่มคาส่งั ตา่ งๆ เชน่ การแทรกวตั ถุ รปู ภาพและตาราง การทาเคา้ โครงหน้า การทางานกับข้อมูลอา้ งองิ การส่ง จดหมาย และการตรวจทานเอกสาร เป็นต้น

12 o File Tab (แฟม้ ) แท็บคาสงั่ สาหรับทางานกับไฟล์เอกสารประกอบด้วยคาสง่ั ยอ่ ยๆ ทใ่ี ชใ้ นการ จดั การไฟล์ อาทิเช่น การสรา้ งไฟล์ใหม่ การบนั ทกึ ไฟล์ การเปิดการปดิ และไฟลเ์ อกสาร o Home Tab (หนา้ แรก) แท็บคาสงั่ ทวั่ ไปสาหรับจัดรูปแบบเอกสารปรับสไตล์ สี ตีกรอบ เปน็ ตน้ o Insert Tab (แทรก) แท็บคาสง่ั สาหรบั แทรกตารางรปู ภาพวัตถุตา่ งๆ การแทรกหมายเลขหน้า เป็นตน้

13 o Page Layout Tab (เคา้ โครงหน้ากระดาษ) แท็บคาส่ังสาหรับจัดการเค้าโครงหนา้ เอกสาร เชน่ ปรบั ขนาด ระยะขอบ ระยะหา่ งของย่อหน้า เป็นตน้ o Formulas Tab (สตู ร) แทบ็ คาส่ังสาหรับป้อนสตู ร และฟงั กช์ นั ตา่ งๆ o DataTab (ข้อมลู ) แท็บคาสั่งสาหรบั จดั การกบั ข้อมลู ในลกั ษณะตา่ งๆ เช่น การเรยี งขอ้ มูล การกรอง ขอ้ มูล การสรุปผลขอ้ มลู o Review Tab (ตรวจทาน) แทบ็ คาสงั่ สาหรับการตรวจทานเอกสาร การแทรกข้อคดิ เหน็ การปอ้ งกันไฟล์และ ขอ้ มลู ในแบบตา่ งๆ

14 o View Tab (มุมมอง) แท็บคาสั่งสาหรบั การปรบั เปลี่ยนมมุ มองขณะทางาน เช่น ย่อ-ขยาย จดั เรยี ง หน้าต่างโปรแกรม เป็นตน้ การเรียกใช้คาสั่งบน Ribbon สามารถคลิกบนปุ่มคาสัง่ ของแต่ละแทบ็ ได้ทันที การเรยี กใช้งานคาส่งั

15 นอกจากน้นั ในแตล่ ะแท็บคาสงั่ จะมคี าสัง่ ยอ่ ยของแต่ละกลุ่มคาส่ังซ่อนอย่สู ามารถ เรียกเปิดคาสง่ั ย่อยได้โดยไปยงั กลุม่ คาสง่ั ทตี่ อ้ งการคลิกสัญลกั ษณ์ จะปรากฏ ไดอะลอ็ กบอ็ กซข์ องกลมุ่ คาสง่ั ในกรณที ่ตี ้องการเรยี กคาสัง่ เพิ่มเตมิ จาก Ribbon สามารถทาไดโ้ ดย 1. คลิกเมาสข์ วาทีป่ ุ่มใดกไ็ ดบ้ น Ribbon 2. จะปรากฏเมนคู าสงั่ ให้เลอื กดงั นี้

16 คาสัง่ จากการคลิกขวา หน้าทกี่ ารทางานของคาสั่ง Add Group to Quick Access Toolbar เพ่ิมปุม่ ท่ีเลอื กไปไวบ้ น Quick Access Toolbar Customize Quick Access Toolbar… เพิ่ม/ยกเลกิ ปมุ่ เครอ่ื งมือบน Quick Access Toolbar คาสั่งจากการคลิกขวา หนา้ ทก่ี ารทางานของคาสั่ง Show Quick Access Toolbar Below the แสดง Quick Access Toolbar ไวใ้ ต้ Ribbon Ribbon Customize the Ribbon กาหนดคา่ ต่างๆ บน Ribbon เอง Minimize the Ribbon ยบุ Ribbon ช่วั คราว ทาใหห้ น้าจอการทางาน กวา้ งขนึ้ การซอ่ น หรือแสดงแถบ Ribbon แท็บ Ribbon นั้นประกอบไปดว้ ยกลุ่มเครือ่ งมือจานวนมาก จึงใชพ้ ้ืนท่บี นหนา้ จอ ค่อนขา้ งมาก ในกรณีทตี่ ้องการซอ่ นแท็บ Ribbon เพอื่ ใหม้ พี นื้ ทก่ี ารใชง้ านมากขึ้น สามารถ ทาไดโ้ ดย 1. คลกิ ขวาบนแท็บ Ribbon (บรเิ วณใดก็ได้) 2. เลือกคาสั่ง Minimize the Ribbon 1 2

17 การใช้สตู รการคานวณ การทางานส่วนใหญใ่ น Microsoft Excel คอื การสรา้ งตารางและคานวณ ซ่งึ นับว่า เป็นอีกความสามารถหน่งึ ท่ีเด่นชดั ของ Microsoft Excel รวมไปถึงฟังกช์ นั ซง่ึ ก็คอื สูตรการ คานวณทถ่ี ูกสรา้ งไว้มีลักษณะเหมอื นคาสงั่ สาเร็จรปู การทางานเพียงแค่ระบุชอ่ื ฟงั ก์ชันลงไป ภายในเซลล์ที่ต้องการ หลงั จากนัน้ ฟังก์ชนั จะคืนค่าผลลพั ธ์กลับมาให้ฟงั ก์ชนั ภายใน Excel มใี หเ้ ลอื กใชม้ ากมาย ทั้งฟังก์ชนั ทางคณิตศาสตร์ ฟงั ก์ชนั ทางการเงิน ฟงั กช์ นั ทางสถติ ิ ฟังก์ชนั ทางข้อความ เป็นต้น รูปแบบของสูตรคานวณ การปอ้ นข้อมลู ประเภทสตู รคานวณ (Formula) นั้นจะต้องนาหนา้ ด้วย เครอ่ื งหมาย เท่ากบั “ = ” และตอ้ งประกอบดว้ ยตวั ถกู ดาเนนิ การ (Operand) และตัว ดาเนนิ การ (Operator) Operator เครื่องหมายเทา่ กบั =B3*22 Operand ตวั ถกู ดาเนินการ (Operand) ตัวถกู ดาเนนิ การ หรอื Operand สามารถกาหนดไดใ้ นสตู รคานวณ แบง่ ออกเปน็ 2 ประเภทคอื 1. คา่ คงท่ี (Constant) คอื ตวั เลข ตัวอักษร หรือขอ้ ความเฉพาะตา่ งๆ 2. ช่ือเซลล์ (Cell Name) คือ ช่อื เซลล์ท่บี รรจุขอ้ มลู อยู่ =B3*22 ช่ือเซลล์ ค่าคงที่

18 ตัวดาเนินการ (Operator) ตัวดาเนินการ หรือ Operator แยกตามประเภทดังน้ี  ตัวดาเนนิ การทางคณติ ศาสตร์ (Mathematics Operator) Operator ความหมาย ตัวอย่าง + บวก = A1 + A3 - ลบ = B3 - B5 * คูณ = C3 * 5 / หาร = A1/100 ^ ยกกาลงั = 2 ^ A2 % = A1 * 20% () เปอรเ์ ซ็นต์ =( (A3+2)*20)/100 วงเล็บ  ตัวดาเนินการทางการเปรียบเทียบ (Comparison Operator) Operator ทางการเปรียบเทยี บนน้ั จะได้คา่ จากการคานวณเป็น TRUE (จรงิ ) หรอื FALSE (เท็จ) เทา่ นั้น โดยทวั่ ไปจะใชเ้ พือ่ นาไปตัดสนิ ใจหาทางเลอื กในฟังก์ช่ัน Operator ความหมาย ตัวอย่าง = เทา่ กับ =5=6 ค่าที่ไดจ้ ะเปน็ False เพราะ 5ไม่เท่ากบั 6 > มากกวา่ =5>6 คา่ ท่ีไดจ้ ะเปน็ False เพราะ 5 นอ้ ยกวา่ 6 < น้อยกวา่ =5<6 ค่าที่ได้จะเป็น True เพราะ 5 น้อยกว่า 6 จริง >= =5>=6 ค่าที่ได้จะเป็น False เพราะ 5 น้อยกวา่ 6 <= มากว่าหรอื เทา่ กบั =5<=6 คา่ ที่ได้จะเปน็ True เพราะ 5 น้อยกวา่ 6 นอ้ ยกวา่ หรอื เทา่ กบั จริง <> =5<>6 ค่าที่ได้จะเปน็ True เพราะ 5 ไม่เทา่ กบั 6 ไมเ่ ท่ากับ

19  ตวั ดาเนนิ การทางข้อความ (Text Operator) เครอื่ งหมายดาเนนิ การทางขอ้ ความคอื เครอ่ื งหมาย & ซึ่งทาหน้าทเ่ี ช่ือมข้อความ หรือสูตรคานวณ ทาให้สามารถแสดงผลที่ตอ่ เนอ่ื งกันได้  ตวั ดาเนินการอ้างองิ (Reference Operator) ใช้ในการอ้างอิงตาแหน่งบนเวริ ์คชีท โดยใช้เครอ่ื งหมาย ,(comma) : (colon) หรอื เว้นวรรค (space) ในการอ้างอิงกล่มุ เซลลบ์ นเวริ ค์ ชีท Operator ความหมาย ตัวอย่าง , (comma) : (colon) ใช้อา้ งองิ ช่วงเซลล์ทั้งหมดท่ีอ้างถงึ =sum(B2:B5,D2:D5) เวน้ วรรค ใช้อา้ งอิงชว่ งเซลล์จากตาแหนง่ แรกไป =sum(B2:B5) (space) จนถงึ ตาแหน่งเซลลส์ ุดท้ายต่อเน่อื งกนั ใช้อา้ งอิงเฉพาะเซลล์ทีซ่ ้ากันในชว่ งเซลล์ =sum(B2:D4 C3:E5) นาข้อมลู ท่ีระบุ ที่ซ้ากันในชว่ ง B2 ถงึ D4 และ C3 ถงึ E5 มาบวกกนั ในที่น้คี อื เซลล์ C3 C4 D3 D4

20 ระดับความสาคญั ของตัวดาเนินการ ตวั ดาเนนิ การต่างๆ นน้ั มลี าดบั ความสาคญั ตา่ งกนั ซง่ึ โปรแกรมจะประมวลผล จากตวั ดาเนินการระดับสูงไปยงั ระดบั รองลงมา หากภายในสตู รคานวณเดยี วกันนัน้ มตี ัว ดาเนนิ การทีม่ ีระดับความสาคัญเทา่ ๆ กัน จะคานวณจากซ้ายไปขวาจนครบ ลาดบั ท่ี ตวั ดาเนนิ การ ความหมาย 1 () วงเลบ็ 2 % เปอรเ์ ซ็นต์ เช่น 50% โปรแกรมจะแปลงค่าเปน็ 0.5 กอ่ น แล้วจงึ คานวณคา่ อื่นๆ 3 ^ ยกกาลงั เช่น 2^5 4 * และ / คณู และหาร 5 + และ - บวก และลบ ลาดับที่ ตัวดาเนนิ การ 6 ความหมาย 7 & นาขอ้ ความตงั้ แต่สองขอ้ ความมาเชอื่ มกัน =, <, >, <=, >=, <> ตัวดาเนนิ การเปรียบเทียบ การสรา้ งสูตรคานวณ (Formula) หากต้องการใชง้ านสูตรคานวณใน Excel นัน้ ส่งิ หนงึ่ ทต่ี ้องทากอ่ นเสมอคอื “คลิก เลือกเซลล์ที่ต้องการใหผ้ ลลัพธ์ แล้วจงึ ปอ้ นสตู รคานวณ” การใสส่ ูตรลงในเซลล์ ทาได้โดยคลิกเซลล์ที่ตอ้ งการ แลว้ พมิ พ์สูตรลงไปในเซลล์ โดยตรง หรอื พิมพบ์ นแถบสูตร (Formula Bar) ซึ่งมีการใช้งานดงั นี้ ใชส้ ูตรท่พี มิ พ์ แถบสาหรับพมิ พ์สูตร ยกเลกิ สตู ร แทรกฟงั กช์ ัน ขยายแถบสูตร

21 การบนั ทึกข้อมลู  การบนั ทกึ สมดุ งานใหม่ เมอื่ เปิดสมดุ งานคร้ังแรก โปรแกรมจะตง้ั ชื่อใหเ้ ปน็ สมดุ งาน...และตามดว้ ยเลข ลาดบั เม่อื ตอ้ งการบันทึก โปรแกรม Excel จะใชห้ น้าจอ บนั ทึกเปน็ เพ่ือใหร้ ะบตุ าแหน่ง ของสมดุ งาน และเปลยี่ นชื่อสมุดงานตามต้องการ วธิ ีการบันทกึ มีดงั นี้ 1. ไปท่ี แฟม้ > บนั ทกึ 2. โปรแกรมจะเปิดหน้าจอ บนั ทกึ เป็น ให้คลกิ ระบุตาแหนง่ ของสมุดงานท่ตี ้องการ บันทึก ดงั ภาพ 3. เปลี่ยนช่ือสมดุ งาน ชอื่ ของสมุ ดงานควรสอดคล้องกับขอ้ มูลในสมุดงาน ถ้าไม่ใส่ นามสกลุ (File extension) โปรแกรม Excel 2010 จะเพิ่มให้เอง เปน็ นามสกลุ xlsx https://youtu.be/PnEvS7rNpjI

22 4. กดป่มุ บันทกึ เปน็ อนั เสร็จส้ินการบนั ทึกสมดุ งานใหม่ จะสังเกตท่ี Title bar ด้านบน จะมชี อ่ื สมุดงานท่ีบันทกึ แล้ว แทนช่ือ สมุดงานเดิม  การบนั ทกึ ขอ้ มลู ตามปกติ การบนั ทึกข้อมลู ตามปกติ เปน็ การบันทึกข้อมูลหลงั จากการบันทึกขอ้ มลู คร้งั แรก หรือเป็นการบันทึกขอ้ มลู จากไฟล์งานที่เปดิ ใช้งานจากไฟล์เก่า การบันทึกสมุดงานทเ่ี คยใช้งานแล้วหรือสมดุ งานเกา่ ทีเ่ ปดิ มาใช้งาน โปรแกรมจะ บนั ทึกขอ้ มูลที่เปลี่ยนแปลง เป็นปัจจบุ นั ณ ขณะใชง้ านขณะนั้นๆ โดยไม่เปดิ กล่อง โต้ตอบ (Dialog box) ใดๆ ทั้งสนิ้ การบนั ทึกข้อมูลมีวิธีการบันทึกได้ หลายวธิ ี ดงั นี้ 1. ใชแ้ ถบเมนูดว่ น ซง่ึ ตามปกติ จะอยดู่ า้ นบนสดุ โดยคลกิ ที่รูปแผ่นข้อมลู ดังภาพ 2. ใช้ Keyboard shortcut โดยกดปุ่ม Ctrl + S 3. ไปท่ี แฟม้ > บนั ทึก ดงั ภาพ

23  การบนั ทกึ ขอ้ มลู เพื่อเปล่ยี นชอ่ื หรือตาแหน่งของไฟล์ เมือ่ ตอ้ งการเปลี่ยนชือ่ สมดุ งาน หรอื เปลย่ี นตาแหนง่ ของสมดุ งานในขณะทางาน ให้ทาดงั นี้ 1. ไปท่ี แฟม้ > บนั ทึกเปน็ 2. จะเปิดหนา้ จอ บนั ทึกเปน็ ใหร้ ะบตุ าแหน่งของสมดุ งาน และช่ือสมุดงาน 3. คลิกปุ่ม บันทึก การปดิ โปรแกรมตารางคานวณ 2010 หลังจากใช้งานโปรแกรมตารางคานวณ (Microsoft Excel 2010) เสรจ็ แล้ว ตอ้ งการจะปิดโปรแกรม สามารถทาไดห้ ลายวธิ ี ดงั น้ี 1. คลกิ ปุ่ม Close ของโปรแกรม Excel เพือ่ ปดิ แผ่นงานท่กี าลงั ทางาน ดังภาพ

24 2. คลิกปุ่ม ปดิ หน้าตา่ งของสมุดงานนนั้ ๆ ซง่ึ อยู่มุมขวาดา้ นบน ดงั ภาพ 3. ในกรณีท่ีแผน่ งานน้นั ๆ มีการเปลย่ี นแปลงขอ้ มูล โปรแกรมจะถามว่า จะบนั ทึก หรอื ไม่ ให้คลิกปุ่มตามตอ้ งการ ถา้ คลิกปุม่ ยกเลกิ โปรแกรมจะยกเลกิ การปดิ โปรแกรม 4. ถ้าแผ่นงานน้ันๆ มีข้อมูลเหมอื นเดิม ไม่มกี ารเปลยี่ นแปลข้อมูลต้งั แต่การบันทกึ ครง้ั ลา่ สุด หรอื เปิดโปรแกรมใหม่ และยังไม่มกี ารเปลี่ยนแปลงใดๆ โปรแกรมจะปิดแผ่น งานน้ันทนั ที โดยไม่แสดงหนา้ จอใดๆ

25 กจิ กรรมการเรียนรู้ที่ 1 คาชแี้ จง ให้นกั เรยี นตอบคาถามต่อไปนีใ้ หไ้ ดใ้ จความสมบรู ณ์ท่สี ดุ (10 คะแนน) 1. จงอธิบายความหมายของโปรแกรม Microsoft Office Excel 2010 มาพอสังเขป .................................................................................................................. ......................... ............................................................................................................................. .............. .......................................................................................... ................................................. 2. จงอธบิ ายขัน้ ตอนการเปดิ ใช้โปรแกรม Microsoft Office Excel 2010 มาพอสังเขป ............................................................................................................................. .............. ............................................................................................................................. .............. ........................................................................................................ ................................... ............................................................................................................................. .............. 3. จงยกตวั อย่างขอ้ แตกตา่ งของ Microsoft Office Excel 2010 กบั รนุ่ Microsoft Office Excel 2010 ............................................................................................................................. .............. ................................................................................................... ........................................ ............................................................................................................................. .............. ........................................................................... ................................................................ ............................................................................................................................. .............. ................................................... ........................................................................................ ............................................................................................................................. .............. ........................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ..............

26 4. จงยกตวั อยา่ งส่วนของ Excel Application Window มา 4 ส่วน ............................................................................................................................. .............. ........................................................... ................................................................................ ............................................................................................................................. .............. ........................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .............. ........................................................................................................................................ ... ............................................................................................................................. .............. ............................................................................................................................. .............. ....................................................................................................... .................................... ............................................................................................................................. .............. ............................................................................... ............................................................ ............................................................................................................................. .............. ....................................................... .................................................................................... ............................................................................................................................. .............. 5. ให้นักเรยี นอธิบายความหมายของคาศพั ท์ตอ่ ไปนี้ 5.1 Ribbon คือ...................................................................................................... ....................................................................................................................... ...................... 5.2 Cell คือ ............................................................................................................ ............................................................................................................... .............................. 5.3 Worksheet คือ ................................................................................................ ............................................................................................................. ................................ 5.4 Formulas Bar คือ ........................................................................................... ............................................................................................................. ................................ 5.5 Sheet Tab คือ ................................................................................................ ........................................................................................................... ...................................

27 กจิ กรรมการเรยี นรู้ที่ 2 คาชแี้ จง ให้นกั เรยี นปฏิบัติตามคาสง่ั ตอ่ ไปน้ี (10 คะแนน) 1. สร้างไฟลใ์ หม่และบันทกึ ไฟลช์ อื่ Worksheet_ตามดว้ ยเลขทข่ี องนกั เรียน 2. เพ่ิม Sheet ตามภาพด้านลา่ ง และพมิ พ์ขอ้ มูลตามรายละเอียดดังน้ี - Sheet Genaral พิมพ์ ลาดบั และรหัส (กาหนดความกวา้ ง=10) - Sheet Text พมิ พ์ ชื่อ สกุล (กาหนดความกว้าง=25) - Sheet Date พิมพ์ วันเกดิ (กาหนดความกวา้ ง=15 - Sheet Time พมิ พ์ เวลาเกิด (กาหนดความกว้าง=12) - Sheet Sum ให้ Copy ทุก Sheet มารวมกนั ไว้ดังภาพดา้ นล่าง - กาหนดรูปแบบการทางานใหถ้ ูกต้อง

28 กจิ กรรมการเรียนรู้ที่ 3 คาชแี้ จง ใหน้ กั เรียนปฏบิ ัตติ ามคาสั่งตอ่ ไปน้ี (10 คะแนน) 1. จากภาพ ให้นกั เรียนสรา้ งไฟลง์ านชอื่ Edit_เลขท่ี Sheet1 พิมพต์ ามแบบท่ี แสดงตามภาพดา้ นลา่ ง 2. เปล่ยี นชือ่ Sheet1 เปน็ Edit Data และเลือกสีใหก้ ับ Sheet (สีทช่ี อบ) กาหนดTabel Headers เป็นรปู แบบ Cell Style แบบ Header1/ Accent1 3. คดั ลอกข้อมลู จาก Edit Data มาวางที่ Sheet2 และทาการเปลีย่ นชือ่ เปน็ DataOK 4. คัดลอกเซลจากกลมุ่ เซล B3:H13 นาไปวางทีเ่ ซล J3 โดยวางสลับจากแนวต้งั เปน็ แนวนอนและกาหนด Table Style เปน็ แบบ Table StyleDark10 5. ค้นหาคาว่า “การเงนิ ” และเปล่ียนเปน็ คาว่า “Finance” ทั้งหมด

29 กิจกรรมการเรยี นร้ทู ี่ 4 คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นตรวจสอบฟังกช์ นั ทก่ี าหนดให้ แล้วนามาใส่ในกรอบให้ถูกตอ้ ง (10 คะแนน) = 5 > 6 = 3 <= 3 = 8 > 9 = 2 >= 1 =4<5 =4<5 =2<>3 = 5 >= 6 = 0 > 1 = 11 > -13 =5 <= 25 True Fals

30 กจิ กรรมการเรียนร้ทู ี่ 5 คาช้แี จง ใหน้ กั เรยี นเติมขอ้ ความเก่ียวกบั สว่ นประกอบของโปรแกรม ให้ถูกต้อง (10 คะแนน)