Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ศาสนพิธีของศาสนาอิสลาม

ศาสนพิธีของศาสนาอิสลาม

Published by วาธิญา วิงวอน, 2020-02-23 10:23:25

Description: ศาสนพิธีของศาสนาอิสลาม

Search

Read the Text Version

วชิ าพระพทุ ธศาสนา เรื่องศาสนพธิ ี ศาสนาอิสลาม ครูผสู้ อน นางสาวพชิ ชาภา เพญ็ ธง กลุ่มสาระ สงั คมศึกษาศาสนา และวฒั นธรรม

คานา รายงานเล่มน้ีจดั ทาข้ึนเพอื่ เป็นส่วนหน่ึงของวชิ าพระพุทธศาสนา ช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 5เพ่อื ใหไ้ ดศ้ ึกษาหาความรู้ในเร่ือง ศาสนพธิ ี ของศาสอิสลามและไดศ้ ึกษาอยา่ งเขา้ ใจเพ่อื เป็นประโยชน์กบั การ เรียน ผูจ้ ดั ทาหวงั ว่า รายงานเล่มน้ีจะเป็ นประโยชน์กับผูอ้ ่าน หรือ นกั เรียน นกั ศึกษา ท่ีกาลงั หาขอ้ มูลเรื่องน้ีอยูห่ ากมีขอ้ แนะนาหรือ ขอ้ ผิดพลาดประการใด ผูจ้ ดั ทาขอนอ้ มรับไวแ้ ละขออภยั มาณ ที่น้ี ดว้ ย นางสาวพชิ ชาภา เฑญ็ ธง ผจู้ ดั ทา

สารบัญ หนา้ ก เร่ือง ข คานา 1 สารบญั 2 ความหมายของศาสนพธิ ีศาสนาอิสลาม 3 การละหมาด 6 การถือศีลอด 8 การจ่ายซะกาต 10 การประกอบพธิ ีฮจั ญ์ 11 การแตง่ งานแบบอิสลามหรือพธิ ีนิกะห์ สรุป

ศาสนพธิ ีของศาสนาอสิ ลาม ศาสนาอิสลาม เป็ นศาสนาท่ีไม่มีนกั บวชหรือนกั พรตในการ ประกอบพิธีกรรม แต่มุสลิมทุกคนเป็นท้งั ฆราวาสและนกั บวช อยใู่ นตวั คนเดียวกนั และถือหลกั การของศาสนาเป็ นธรรมนูญ สูงสุดในการดารงชีวติ หลกั ปฏิบตั ิทางศาสนกิจที่สาคญั ไดแ้ ก่ หลกั ปฏบิ ตั ิ ๕ ประการ

การละหมาด การละหมาด เป็ นการปฏิบตั ิศาสนกิจอย่างหน่ึงในศาสนา อิสลาม เพ่ือเป็ นการภกั ดีต่ออลั ลอฮฺ มุสลิมทุกคนจะตอ้ งละหมาด วนั ละ 5 เวลา เรียกวา่ ละหมาดฟัรฎู ละหมาด หมายถึง การขอพร ความหมายทางศาสนาหมายถึง การกล่าวและการกระทา ซ่ึง เร่ิมตน้ ด้วยตกั บีร และ จบลงด้วยสะลาม การละหมาดเป็ นการ สร้างเอกภาพอยา่ งหน่ึงของมุสลิม เม่ือละหมาดมุสลิมทว่ั โลก หนั หนา้ ไปทางกิบละฮฺ เพื่อเคารพภกั ดีต่ออลั ลอฮฺ ไม่ประพฤติสิ่งหน่ึง ส่ิงใดในทางชวั่ ร้าย ดงั อลั กรุ อานระบุไว้ ความวา่ \" และจงละหมาด แทจ้ ริงการละหมาดจะยบั ย้งั ความลามกอนาจาร และสิ่งตอ้ งหา้ ม \" อลั - องั กะบูต : 45

การถือศีลอด โดยการถือศีลอด เป็นหลกั ปฏิบตั ิในศาสนบญั ญตั ิ 1 ใน 5 ประการ (ประกอบไปดว้ ย 1.นับถือพระเจา้ (อลั ลอฮฺ)องค์เดียวและนบีมูฮา หมดั เป็นศาสนฑูตคนสุดทา้ ย 2.ดารงละหมาด 3.บริจาคทาน 4.ถือศีลอด 5.บาเพ็ญฮจั ยท์ ่ี นคร เมกกะ) ซ่ึงชาวมุสลิมจะร่วมกนั ประพฤติปฏิบตั ิตน

งดอาหาร น้า เพ่ือจะไดร้ ับรู้ความยากลาบากคนท่ียากไร้ โดยจะ เริ่มต้งั แต่แสงพระอาทิตยข์ ้ึน แสงพระอาทิตยเ์ ริ่มตกดิน จากการ คานวนดูเวลาแสงพระอาทิตย์ ข้ึน-ตก ตามการคานวณของหลัก ดาราศาสตร์อิสลาม วดั ตามพิกดั องศาแต่ละพ้ืนที่ และเมื่อถึงเวลา ละศีลอด มักจะรับประทานอินทผลัม โดยได้แบบอย่างมาจาก ท่านนบีมูฮามดั ท้งั น้ี ผลอินทผลมั น้ัน ประกอบดว้ ย น้าตาลฟรุก โตส กลูโคส น้า วิตามิน และแร่ธาตุ โดยเฉพาะน้าตาลฟรุกโตส จดั เป็ นสารอาหารท่ีให้พลงั งานแก่ร่างกายเป็ นอยา่ งมาก และเขา้ สู่ ร่างกายไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว

- งด ละ เลิก จากส่ิงท่ีไม่ดีท้ังหมด ได้แก่ มือ(ทาร้ายหรือ ขโมย), เทา้ (เดินไปสู่สถานท่ีตอ้ งหา้ ม), ตา (ดูสิ่งลามก), หู ( การฟังส่ิงไร้สาระ ,ฟังเร่ืองชาวบา้ นนินทากนั ), ปาก (การ นินทาวา่ ร้ายคนอื่น โกหกโป้ปด) - ทาความดี บริจาคทานแก่คนยากจน - อา่ นคมั ภีร์อลั กรุ อาน เน่ืองจากในเดือนน้ีเป็นเดือนศกั ด์ิสิทธ์ิที่ พระเจา้ ประทานคมั ภีร์อลั กรุอานมาให้แก่มนุษย์ ดงั น้ัน ชาว มุสลิมจึงตอ้ งอ่านอลั กุรอาน เพ่ือศึกษาถึงส่ิงท่ีพระเจา้ ตอ้ งการ ให้มนุษยร์ ู้ว่าการเป็ นอยูใ่ นโลกน้ีและโลกหนา้ จะเป็ นอยา่ งไร และจะตอ้ งทาตวั อยา่ งไรบา้ ง

การจ่ายซะกาต ให้จ่ายซะกาตเม่ือถึงเวลาท่ีวาญิบตอ้ งจ่าย และจ่ายดว้ ยความพึง พอใจ โดยจ่ายส่ิงท่ีดีและมีคุณภาพมากท่ีสุดจากทรัพยท์ ่ีตอ้ งจ่าย เป็ นส่ิงที่เขารักที่สุด ที่มีความเป็ นหะลาลมากท่ีสุด ทาให้ผูร้ ับพึง พอใจ ให้ผูจ้ ่ายมองว่าสิ่งท่ีให้ไปเป็ นสิ่งท่ีเล็กน้อยเพ่ือให้พน้ จาก ความลาพองใจ และพยายามปิ ดบงั เพื่อให้พน้ จากการโออ้ วด แต่ เปิ ดเผยบา้ งเป็นบางคร้ังเพ่ือเป็นการส่งเสริมใหเ้ ห็นสิ่งที่เป็นวาญิบ น้ี(ซะกาต) และเป็ นการกระตุน้ ให้คนร่ารวยไดป้ ฏิบตั ิตาม และ ต้อ ง ไ ม่ ท า ล า ย ( ผ ล บุ ญ ) มัน ด้ว ย ก า ร ล า เ ลิ ก แ ล ะ ก า ร ก่ อ ค ว า ม เดือดร้อนแก่ผรู้ ับ

ผรู้ ับซะกาตที่ดีที่สุด ที่ดีท่ีสุดก็คือให้ผูจ้ ่ายซะกาตเลือกจ่ายแก่คนท่ีมีความยาเกรง ต่ออัลลอฮฺมากที่สุด คนท่ีเป็ นญาติใกล้ชิดท่ีสุ ด มีความจา เป็ นมากท่ีสุด และเลือกใหท้ านของเขาแก่คนท่ีจะทาใหท้ านน้นั เจริญงอกงามจากบรรดาญาติท่ีใกลช้ ิด มีความยาเกรง เป็ นผู้ ศึกษาหาความรู้ คนยากจนท่ีไม่ยอมขอ ครอบครัวใหญ่ท่ีมีความ ขดั สนเป็นตน้

การประกอบพธิ ีฮัจญ์ พธิ ีฮจั ญจ์ ะทาในเดือน ซุล-ฮิจยะห์ (เดือนท่ี 12 ของปี ฮิจเราะห์ศกั ราช) ของแต่ละปี การกาหนดพธิ ีฮจั ยน์ ้นั จะใช้ การดูเดือน เพ่อื กาหนดวนั ต่างๆ โดยจะดูเดือนกนั ในวนั ท่ี 29 เดือน ซุลเกี๊ยะดะห์ เพอ่ื กาหนด วนั ที่ 1 เดือนซุลฮิจยะห์ และวนั ที่ 10เดือนซุลฮิจยะห์ จะเป็นวนั อีดิ้ลอฎั ฮา หรือ อีด ใหญ่(รายอ)ท่ีบา้ นเรา ผทู้ ี่ไม่ไดไ้ ปประกอบพิธีฮจั ยจ์ ะทากรุ บาน (เชือดสตั ว์ และแบ่งปันเน้ือใหก้ บั ผยู้ ากไร้)

การประกอบพธิ ีฮจั ญม์ ี 3 แบบ 1.ตะมตั ตวั ะอฺ คือผคู้ รองอิหฺรอมต้งั เจตนาทาอุมเราะฮฺก่อนการทา ฮจั ย์ ขณะที่เขา้ สู่เทศกาลฮจั ญแ์ ลว้ 2.อิฟร้อด คือผคู้ รองอิหฺรอมหลงั จากการทาการตอวาฟกุดูมแลว้ เขาจะต้องสวมชุดอิหฺรอมจนกระท้ังถึงวันที่ 10 ซุลฮิจญะฮฺ หลงั จากน้นั จึงทาอุมเราะฮ 3.กิรอน คือผูค้ รองอิหฺรอมต้งั เจตนาทาอุมเราะฮฺและการทาฮจั ย์ พร้อมกนั หลงั จากการทาอุมเราะฮฺคือตอวาฟและสะแอแลว้ ไม่ ตอ้ งโกนศีรษะหรือตดั ผม แต่ให้เขาครองอิหฺรอมกระท้งั ถึงวนั ที่ 10 ซุลฮิจญะฮฺ สถานที่สาคญั ที่ใชใ้ นการประกอบพธิ ีฮจั ยค์ ือ ทุ่งอารอฟะห์, ตาบลมุซดะลิฟะห์, ตาบลมีนา, และอลั - กะบะฮฺ (การตอวาฟรอบกะบะห์น้ีไม่ไดก้ ระทาพร้อมกนั ในเวลา เดียวกนั )

การแตง่ งานแบบอิสลามหรือพธิ ีนิกะห์ พธิ ีแต่งงานแบบอสิ ลาม จะเรียกวา่ นิกะห์ จะเกิดข้ึนไดเ้ ม่ือ ฝ่ ายชายและฝ่ ายหญิงตกลงปลงใจท่ีจะแต่งงานกนั โดยมี เง่ือนไขวา่ ท้งั ฝ่ ายชายและฝ่ ายหญิง ท้งั คู่ตอ้ งเป็นอิสลามท้งั คู่ ซ่ึงถา้ หากฝ่ ายใดไม่ไดเ้ ป็ นอิสลาม ตอ้ งทาพิธีเข้ารับอิสลาม ก่อน ถึงจะทาพิธีนิกะห์ได้ ถา้ ไม่ใช่อิสลามท้งั คู่หรือทาพิธี เขา้ รับอิสลาม พิธีนิกะห์จะถือวา่ เป็นโมฆะ

ในการเตรียมพิธีนิกะห์น้นั พิธีก็จะเริ่มจากการแห่ขนั หมากของ ฝ่ ายเจ้าบ่าวตามปกติ โดยพิธีต่างๆ แขกต่างศาสนาสามารถเขา้ ร่วมเป็ นพยานในพิธีไดค้ ่ะ ไม่จาเป็ นตอ้ งเป็ นคนศาสนาอิสลาม เท่าน้ันจึงจะเขา้ ร่วมได้ พอขบวญขนั หมากมาถึงบา้ นเจ้าบ่าวก็ จะต้องเข้ามาในที่ประชุม โดยที่ประชุมจะต้องประกอบด้วย องคป์ ระกอบดงั น้ีค่ะ 1. ตวั แทนทาพธิ ี จะเป็นอิหม่ามหรืออาจารยท์ ่ีเป็นตวั แทนกไ็ ด้ 2. เจา้ บ่าว 3. เจา้ สาว 4. พ่อเจา้ สาว หรือตวั แทนของพ่อเจา้ สาว โดยตอ้ งมีการซกั ซ้อม บทสนทนาในพธิ ีร่วมกบั เจา้ บ่าว 5. มีพยานรับรู้ ซ่ึงตอ้ งเป็ นคนอิสลาม เป็ นชายต้งั แต่ 2 คนข้ึนไป และเป็นหญิงต้งั แต่ 4 คนข้ึนไป 6. นกั อ่านกรุ อา่ นหรืออิสลามท่ีสามารถอ่านกลุ อ่านได้

ข้ันตอนในพธิ ีนิกะห์ 1. องคป์ ระชุมครบกส็ ามารถเริ่มอ่านกรุ อ่านได้ 2. ฟังคุตบะห์ หรือโอวาทสอนคูบ่ ่าวสาวจากผรู้ ู้ อาจจะเป็นคน เดียวกบั คนอ่านกรุ อา่ นหรือเป็นผใู้ หญ่ที่นบั ถือกไ็ ด้ 3. เจา้ บ่าวและ พอ่ เจา้ สาวหรือตวั แทน (ที่ไดร้ ับการแต่งต้งั จากอนุ ตาโตตุลาการมาแทนพอ่ เพ่ือมาเป็นผปู้ กครอง หรือ อิหมา่ ม/ผนู้ า ศาสนา) จะตอ้ งทานิกกะห์ โดยจะมีบทสนทนาโตต้ อบกนั ซ่ึง เปรียบเสมือนพธิ ีมอบลูกสาวใหฝ้ ่ ายชาย ตรงน้ีตอ้ งมกี ารเตรียม ตวั ก่อนวนั งานค่ะ สามารถทาเป็นภาษาอาหรับกไ็ ด้ 4. หลงั จากน้นั กจ็ ะมีการช้ีแจงสินสอดท่ีเรียกวา่ มะฮรั ใหท้ ่ี ประชุม ที่เป็นพยานรับทราบ 5. จบแลว้ กจ็ ะมีการขอดุอา คือการขอพรจากพระผเู้ ป็นเจา้ จากผรุ้ ู้ 6. เจา้ บ่าวกไ็ ปรับตวั หรือเชิญเจา้ สาวออกมาได้ กจ็ ะมีบทสนทนา บ่าวสาวอีกนิดหน่อยเป็นอนั จบพิธีคะ่

ศาสนพิธีของศาสนาอิสลาม เป็ นศาสนาท่ีไม่มีนักบวชหรือ นกั พรตในการประกอบพิธีกรรม แต่มุสลิมทุกคนเป็นท้งั ฆราวาส และนกั บวชอยใู่ นตวั คนเดียวกนั และถือหลกั การของศาสนาเป็ น ธรรมนูญสูงสุดในการดารงชีวิต


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook