รายงานการประเมนิ การจัดกจิ กรรมสง่ เสรมิ ทักษะอาชพี วชิ า การทาขนม หลกั สตู ร 6๐ ชว่ั โมง ระหวา่ งวนั ที่ 15 กมุ ภาพนั ธ์ 2564 ถงึ วนั ที่ 9 มนี าคม 2564 ณ สถาบนั ศึกษาปอเนาะมรั ดยี ะห์ ตาบลปาเสมสั อาเภอสไุ หงโก-ลก จดั ทำโดย นำงสำวพชิ ำมญช์ุ เรอื งโรจน์ ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอสุไหงโก-ลก สานักงานสง่ เสรมิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยจังหวัดนราธวิ าส สานกั งานปลัดกระทรวงศกึ ษาธกิ าร กระทรวงศกึ ษาธิกา
คานา เอกสารสรุปผลการดาเนินงานฉบับนี้ ได้จัดทาข้ึนเพื่อรายงานผลการประเมินการ ดาเนินงานกจิ กรรมอาชพี ระยะส้ันในสถาบันศึกษาปอเนาะมัรดียะห์ ศูนย์การศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอสุไหงโก-ลก ปีงบประมาณ 2564 และใช้เป็นข้อมูลประกอบการ พจิ ารณาจัดทาแผนดาเนินงานกจิ กรรมต่าง ๆ ในปตี ่อไป การดาเนินงาน และการจัดทาเอกสารฉบับน้ี สาเร็จและเป็นรูปเล่มได้ด้วยความร่วมมือ จากบุคลากรศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอสุไหงโก-ลก ขอขอบคุณ บุคลากร ทุกท่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้อานวยการศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อธั ยาศัยอาเภอสไุ หงโก-ลก ทีไ่ ดใ้ ห้คาแนะนา จนการจดั กจิ กรรมดังกล่าวสาเร็จลุล่วงไปด้วยดี และ หวงั วา่ เอกสารฉบับนี้ จะใชเ้ ปน็ ข้อมลู อ้างองิ ตอ่ ไป ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอสุไหงโก-ลก มนี าคม 2564
สารบัญ หน้า บทท่ี ๑ บทนา - ความเป็นมาและความสาคัญของโครงการ - วัตถุประสงค์ - เปา้ หมาย - งบประมาณ - ผู้รบั ผดิ ชอบโครงการ - เครือขา่ ยที่เกย่ี วข้อง - โครงการท่ีเก่ยี วข้อง - ผลลัพธ์ บทท่ี ๒ เอกสารทเี่ กีย่ วข้อง บทที่ ๓ วิธดี าเนนิ การ บทท่ี ๔ ผลการศกึ ษา บทท่ี ๕ สรุปผลการศกึ ษา - ขอ้ เสนอแนะ บรรณานุกรม ภาคผนวก - ขออนุญาตจัดตง้ั กลุ่มผู้เรียน - แบบประเมนิ โครงการอาชีพ - ภาพประกอบกจิ กรรม
บนั ทกึ ขอ้ ความ ส่วนราชการ ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอาเภอสุไหงโก-ลก ท่ี ศธ.0210.4012/........................... วนั ที่ 31 มีนาคม 2564 เรอื่ ง รายงานผลโครงการจัดการศกึ ษาตลอดชีวิตในสถาบันศึกษาปอเนาะ (กจิ กรรมส่งเสริมทกั ษะอาชีพ วิชาการทาขนม) --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- เรียน ผู้อานวยการศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อาเภอสไุ หงโก-ลก. 1.เร่ืองเดิม ตามท่ีศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอสุไหงโก-ลก ได้รับการจัดสรรงบประมาณ เพื่อดาเนินการจัดกิจกรรมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยตาม แผนปฏบิ ัตงิ านประจาปงี บประมาณ ๒๕64 นั้น ๒.ขอ้ เทจ็ จรงิ ข้าพเจ้า นางสาวพชิ ามญช์ุ เรืองโรจน์ ไดด้ าเนนิ กจิ กรรมส่งเสริมทกั ษะอาชพี วชิ าการทาขนม จานวน 60 ชั่วโมง ระหวา่ งวันที่ 15 กมุ ภาพนั ธ์ 2564 ถึงวนั ท่ี 9 มนี าคม 2564 ณ สถาบันศึกษาปอเนาะมัรดียะห์ ดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว จึงได้จัดทารายงานผลกิจกรรมการดาเนินงานใน สถาบันศกึ ษาปอเนาะ ประจาปีงบประมาณ 2564 รายละเอยี ดดังแนบ ๓.ขอ้ กฎหมาย – ๔.ขอ้ เสนอแนะ - จึงเรยี นมาเพื่อโปรดทราบ ลงช่ือ………………………………..... (นางสาวพชิ ามญชุ์ เรอื งโรจน์) ครอู าสาฯประจาสถาบนั ศึกษาปอเนาะ ทราบ ลงชอื่ ........................................ผู้อานวยการ กศน.อาเภอสไุ หงโก-ลก (นางสาวพีรภาว์ ทองแดง)
บทท่ี๑ บทนา ความเป็นมาและความสาคัญ สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ได้มีแผนการจัดกิจกรรม ตามนโยบายของรัฐบาล ท่ีจัดให้มีแผนงานการบริการขั้นพื้นฐานแก่ประชาชน ให้ครอบคลุมท้ังด้านสาธารณสุข การศึกษา การฝกึ อาชีพ และการอานวยความสะดวกอนื่ ๆ ประกอบกับปัจจุบันจากสภาพเศรษฐกิจที่ตกต่า ทา ให้ครอบครัวไม่สามารถส่งเงินมาจุนเจือนักศึกษาที่มาศึกษาเล่าเรียนในสถาบันศึกษาปอเนาะประกอบกับ นักศึกษาในสถาบนั ศึกษาปอเนาะมีเวลาวา่ งจากการเรียนมาก ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอสุไหงโก-ลก ได้เล็งเห็นถึงสภาพปัญหาจุดน้ี จึงไดจ้ ดั ทากิจกรรมส่งเสริมอาชพี ระยะส้ันใหก้ ับนักศึกษาสถาบันศึกษาปอเนาะข้ึน ตามความเหมาะสมกับสภาพ ปัญหาและความต้องการ เพ่ือให้นักเรียนมีอาชีพติดตัว ใช้เป็นพ้ืนฐานในการประกอบอาชีพ และเพ่ือช่วยให้ นกั ศึกษาได้มอี าชพี สามารถนารายได้ไปจุนเจอื ครอบครัว วัตถปุ ระสงค์ ๑. เพือ่ ใหผ้ ู้เรยี นได้มีความรูแ้ ละทักษะดา้ นอาชพี การพัฒนาอาชีพ ความร้ดู า้ นเทคโนโลยี การมองเหน็ ชอ่ งทางการประกอบอาชพี ท่ีสอดคล้องกับความต้องการของตนเองไดด้ ียิ่งขึ้น ๒. เพอื่ ให้ผเู้ รยี นสามารถนาความรู้และทักษะไปปฏบิ ตั ไิ ดจ้ รงิ มคี ุณธรรมในการประกอบอาชพี และ มีคณุ ภาพชวี ติ ท่ดี ขี ึน้ ๓. เพื่อให้นกั เรยี นมอี าชีพติดตวั ใชเ้ ปน็ พน้ื ฐานในการประกอบอาชีพ เปา้ หมาย ๑. เชงิ ปริมาณ - นักศึกษาสถาบนั ศึกษาปอเนาะมัรดียะห์ จานวน 15 คน ๒. เชงิ คุณภาพ - ร้อยละ 80 ของนักศึกษาสถาบันศึกษาปอเนาะมัรดียะห์ มีคุณภาพชีวิตท่ีดีขึ้น มองเห็น ช่องทางในการประกอบอาชีพ เพอ่ื นามาใชใ้ นชีวิตประจาวนั งบประมาณ แผนงบประมาณ : บรู ณาการขับเคลือ่ นการแกไ้ ขปัญหาในจงั หวดั ชายแดนใต้ โครงการส่งเสริมสร้าง ภูมิคุ้มกันเพื่อสันติสุขในพ้ืนท่ีจังหวัดชายแดนภาคใต้ กิจกรรมการศึกษาเพ่ือความม่ันคง งบรายจ่ายอ่ืน รหัส งบประมาณ 20002040D1700001 โครงการจัดการศึกษาตลอดชีวิตในสถาบันศึกษาปอเนาะ(กิจกรรม สง่ เสริมทกั ษะอาชีพ) จานวนเงิน 10,800 บาท (หน่ึงหม่นื แปดรอ้ ยบาทถ้วน)) ดังนี้ 1. ค่าวสั ดุ จานวน 5,000.-บาท 2. ค่าวทิ ยากร จานวน 10,800.-บาท ผรู้ บั ผดิ ชอบโครงการ นางสาวพชิ ามญชุ์ เรืองโรจน์ ครอู าสาฯประจาสถาบันศึกษาปอเนาะ
เครือข่าย ๑. ผนู้ าชมุ ชน ๒. วทิ ยาลยั การอาชีพสไุ หงโก-ลก ๓. กศน.ตาบลปาเสมัส โครงการท่เี กยี่ วข้อง - โครงการสง่ เสรมิ ทกั ษะวชิ าชีพ ผลลัพธ์ นักศึกษาสถาบันศึกษาปอเนาะมัรดียะห์ มีคุณภาพชีวิตท่ีดีขึ้น มองเห็นช่องทางในการประกอบ อาชีพ เพอื่ นามาใชใ้ นชีวติ ประจาวนั
บทท๒่ี เอกสารทีเ่ ก่ียวขอ้ ง การตดั สนิ ใจเลอื กอาชพี เพ่อื จะไปศึกษาเพิ่มเติม หรือเพื่อหางานทาน้ัน เป็นเร่ืองสาคัญต่อชีวิตคนเรา มาก การเลือกอาชีพควรพิจารณาใหร้ อบคอบทั้งตวั เองและทั้งงานอาชพี วา่ เหมาะสมกนั เพยี งใด ถ้าตัดสินใจเลือก อาชีพอย่างรีบร้อนไม่รอบคอบ อาจต้องทางานท่ีไม่ตรงกับอุปนิสัย ซ่ึงเป็นผลให้ทางานน้ันไม่ดีเท่าท่ีควร ไม่มี ความเจริญก้าวหน้า ก่อให้เกิดความเบ่ือหน่ายต่อการทางานนั้นๆ เป็นเหตุให้อยากเปลี่ยนงาน และอาจเป็นผู้ ว่างงานในทีส่ ดุ ซง่ึ จะเปน็ ผลเสียหายต่อตนเองต่อสงั คมและเศรษฐกิจของประเทศชาติอย่างมาก ท่านจะทราบได้ อย่างไรว่า ตัวท่านเองเหมาะสมกับงานอาชีพประเภทไหน ในเมื่ออาชีพต่างๆ ในประเทศไทยนั้น มีมากกว่าสอง พันอาชีพ เพ่อื ชว่ ยให้ท่านไดท้ ราบแนวทางในการพจิ ารณาเลือกอาชพี อย่างถูกต้องเหมาะสมกับตัวท่านเอง ขอให้ ท่านอ่านเอกสารนี้อย่างละเอียดถ่ีถ้วน และใช้ดุลยพินิจพิจารณาข้อเท็จจริงต่างๆ โดยรอบคอบ อย่าลืมว่า อนาคตของท่านขึ้นอยู่กบั การตัดสนิ ใจเลือกอาชีพอย่างถูกต้อง การเลือกประกอบอาชีพจึงมีความสาคัญต่อมนุษย์เป็นอันมาก คนท่ีเลือกประกอบอาชีพท่ีเหมาะสม กับตน ย่อมก่อให้เกิดความเพลิดเพลิน และก่อให้เกิดความสุขในการทางาน และยังมีโอกาสท่ีจะประสบ ความสาเร็จในการประกอบอาชีพมาก ในทางตรงกันข้าม ถา้ บุคคลประกอบอาชีพที่ไม่เหมาะสมกับตนเองแล้ว ก็ จะเกิดความเบ่ือหน่ายในการทางาน และเน่ืองจากคนเราต้องใช้เวลาในการประกอบอาชีพ ภา ยหลังจาก การศึกษาเป็นเวลาช้านานถึงหนึ่งในสามของชีวิต หรือประมาณ 100,000 ช่ัวโมง การท่ีจะต้องอดทนต่อ กิจกรรมที่นา่ เบื่อหนา่ ย เปน็ ระยะเวลาอันแสนนานเช่นน้ี จึงทาให้ชีวิตของตนไม่มีความสุข การประกอบอาชีพท่ี ไม่เหมาะสมหรือไม่สอดคล้องกับบุคลิกภาพ ความสนใจและความถนัด นอกจากจะมีโอกาสประสบความสาเร็จ ในการประกอบอาชีพน้อยแล้ว ยังเป็นการทรมานชีวิตอย่างหนึ่งอีกด้วย การเลือกอาชีพท่ีไม่เหมาะสมกับบุคลิก ลักษณะอุปนสิ ัย ความรู้ ความสามารถ ความสนใจ และความถนัดในงานอาชีพของตนเองและความต้องการของ ตลาดแรงงาน อาจกอ่ ให้เกดิ ผลเสยี หายหลายประการ เช่น เรยี นไมส่ าเรจ็ ต้องเปลีย่ นวิชาใหม่ ทาให้เสียเวลาและ ทุนทรัพย์ไปโดยเปล่าประโยชน์ หางานทายาก หางานทาไม่ได้ หรือไม่อยากทางานอาชีพตามท่ีได้รับการศึกษา อบรมมา ทางานไม่กา้ วหนา้ เนอื่ งจากการทางานอาชีพจะต้องทาด้วยใจรัก ต้ังใจและมีความรับผิดชอบในหน้าที่ หากไดง้ านทาท่ไี มเ่ หมาะสมกบั บุคลิกลักษณะอุปนิสัย ความสามารถ ความถนัด หรือความสนใจแล้วโอกาสที่รัก งาน ตั้งใจทางาน หรือรับผิดชอบในหน้าที่การงานก็จะมีน้อย มีแต่ความเบ่ืองานไม่อยากทางานหรือทาไปอย่าง แกนๆ โอกาสก้าวหน้าจึงมีน้อย เปล่ียนบ่อย เมื่อเกิดความเบ่ืองาน ไม่อยากทางานก็จาเป็นต้องหางานใหม่ที่ นา่ สนใจและถูกใจกวา่ จึงต้องเปล่ียนงานบ่อยไปเร่ือยๆ จนกว่าจะถูกใจ ผลเสียที่เกิดขึ้นทั้งหมดน้ี ก่อให้เกิดการ สูญเปล่าท้ังเวลาความเจริญก้าวหน้าของบุคคล เศรษฐกิจของครอบครัว และของประเทศชาติเป็นส่วนรวมอีก ด้วย การเลือกประกอบอาชีพเป็นกระบวนการที่สลับซับซ้อน ซ่ึงบุคคลที่จะตัดสินใจเลือกอาชีพ จะต้องรู้จัก ตวั เองในด้านความสนใจ ความสามารถ และความถนัดเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นการยากสาหรับปุถุชนทั่วไป นอกจาก จะต้องรู้จักตัวเองแล้ว ผู้เลือกอาชีพจะต้องรู้จักโลกของงาน คือ รู้จักอาชีพโดยละเอียดหลายอาชีพ จึงมีความ จาเป็นต้องจัดบริการแนะแนวอาชีพ เพื่อช่วยเหลือบุคคลให้สามารถเลือกอาชีพท่ีเหมาะสมกับตนเอง เพ่ือให้ ประสบความสาเร็จในการประกอบอาชีพ สามารถทาประโยชน์ให้แก่ตนเองและสังคม คนเรามีความถนัด ความสามารถ และความสนใจในงาน อาชีพแตกต่างกัน ดังน้ัน ท่านต้องรู้จักตัวเอง และรู้จักงานอาชีพต่างๆ อย่างกว้างขวาง รวมทั้งรู้จกั พิจารณาดูว่า มีงานอะไรบา้ งท่ีท่านชอบ และสนใจมากที่สุด และงานนั้นๆ เหมาะสม กับอปุ นิสยั และบุคลกิ ลักษณะของทา่ นหรอื ไม่ กอ่ นก่อนสนิ ใจเลือกอาชีพ มี 2 ประการท่ที า่ นต้องพจิ ารณา คือ
ประการที่ 1 ผู้ท่ีจะตัดสินใจเลือกอาชีพควรรู้จักตัวเองให้ดีเสียก่อน โดยเฉพาะในด้านอุปนิสัย ความรู้ ความถนดั ความสามารถ ความสนใจ บุคลิกลักษณะ สุขภาพ นิสัย ทัศนคติท่ีเก่ียวกับอาชีพนั้นๆ และฐานะทาง เศรษฐกิจของครอบครัว ประการท่ี 2 ควรมีความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับอาชีพต่างๆ ลักษณะของงานอาชีพ สถานท่ีที่จะศึกษา เพื่อประกอบอาชีพนั้นๆ ค่าจ้าง สวัสดิการ ความก้าวหน้าและความมั่นคงของงาน ตลอดจนความต้องการของ ตลาดแรงงานการเลอื กอาชีพและสาขาวิชาทีจ่ ะศกึ ษา ใหเ้ หมาะสมกับตัวเอง โดยเน้นเร่ืองของบุคลิกภาพ บุคคล แตล่ ะบคุ ลกิ ภาพทแ่ี ตกตา่ งกนั แต่ละคนจะมลี ักษณะท่ีช้ีเฉพาะตนไมว่ า่ จะเปน็ รูปร่าง หน้าตา ผิวพรรณ หรือนิสัย ใจคอ มีนักวิชาการบางท่านได้ให้ความหมายของคาว่า \"บุคลิกภาพ\" คือ ลักษณะส่วนรวมของบุคคล ซึ่ง ประกอบด้วยส่ิงทีป่ รากฏทางรา่ งกาย นิสยั ใจคอ ความรู้สึกนึกคิด และพฤติกรรมรวมของบุคคลนั้น ซึ่งได้รวมอยู่ ดว้ ยกันอย่างผสมกลมกลืนในตัวบุคคลน้ัน รวมถึงส่ิงท่ีเขาชอบและไม่ชอบ ส่ิงท่ีเขาสนใจและไม่สนใจ เป้าหมาย ตา่ งๆ ในชวี ิตของเขา สิง่ จงู ใจต่างๆ ของเขา ความสามารถด้านตา่ งๆ ของเขาลักษณะบคุ ลิกภาพเฉพาะของแต่ละ คนน้ัน หากบุคคลรู้จักและเข้าใจบุคลิกภาพของตนเอง จนสามารถมองตนได้ตามสภาพความเป็นจริง ย่อมช่วย ให้บุคคลตัดสนิ ใจเลอื กแนวทางชีวิตการศกึ ษาและอาชีพได้อย่างสอดคล้องกับตัวเองมากท่ีสุด เพราะบุคลิกภาพ มีอทิ ธิพลต่อการเลอื กอาชีพ โดยบุคคลจะเลอื กอาชพี ที่เหมาะสมกบั บคุ ลิกภาพของตน บุคลิกภาพเฉพาะอย่างจะ มีความสัมพันธ์กับอาชีพเฉพาะอย่าง ทฤษฎีการเลือกอาชีพของจอห์นแอล ฮอล แลนด์ มีแนวคิดพื้นฐาน 4 ประการ ประการท่ี 1 อาชีพเป็นเคร่ืองแสดงออกทางบุคลิกภาพบุคคลจะเลือกอาชีพใด ย่อมแสดงว่าบุคลิกภาพของเขา จะปรากฏออกมาในทศิ ทางเดียวกนั ประการท่ี 2 บุคลิกภาพของเขาแต่ละบุคคลมีความสัมพันธ์กับชนิดของส่ิงแวดล้อมในการทางานของบุคคลน้ัน ดังน้นั บคุ คลจึงมีแนวโน้มจะหันเขา้ หางาน หรืออาชีพท่สี อดคลอ้ งกับบคุ ลกิ ภาพของเขา ประการที่ 3 บุคคลจะค้นหาสิ่งแวดล้อมที่เอ้ืออานวยให้เขาได้ฝึกทักษะ และใช้ความสามารถของเขา ท้ังยังเปิด โอกาสให้เขาได้แสดงเจตคติ ค่านยิ ม และบทบาทของเขา ประการท่ี 4 บุคลิกภาพและสิ่งแวดล้อมจะเป็นตัวกาหนดพฤติกรรมของแต่ละบุคคล ดังน้ัน เม่ือสามารถทราบ บุคลิกภาพและส่ิงแวดล้อมของบุคคลแล้ว ก็จะทาให้ทราบผลท่ีจะติดตามมา ของบุคคลนั้นด้วย เช่น การเลือก อาชีพ ความสาเร็จในอาชีพ ตลอดจนทั้งพฤตกิ รรมต่างๆ ท้งั การศกึ ษาอาชีพและสงั คมดว้ ย ความรู้ เร่ือง การทาขนม ประวัติความเปน็ มาของขนมไทย ในสมัยโบราณคนไทยจะทาขนมเฉพาะวาระสาคัญเทา่ นนั้ เปน็ ต้นว่างานทาบญุ งานแต่ง เทศกาลสาคัญ หรือต้อนรบั แขกสาคญั เพราะขนมบางชนดิ จาเป็นต้องใช้กาลังคนอาศัยเวลาในการทาพอสมควร สว่ นใหญ่เปน็ ขนบประเพณี เป็นต้นวา่ ขนมงาน เนือ่ งในงานแต่งงาน ขนมพ้ืนบา้ น เชน่ ขนมครก ขนมถว้ ย ฯลฯ สว่ นขนมใน ร้วั ในวงั จะมหี นา้ ตาสวยงาม ประณตี วจิ ิตรบรรจงในการจดั วางรปู ทรงขนมสวยงาม ขนมไทยดั้งเดมิ มีส่วนผสมคอื แปง้ น้าตาล กะทิ เท่านั้น ส่วนขนมทใี่ ชไ้ ขเ่ ปน็ สว่ นประกอบ เชน่ ทองหยบิ ทองหยอด เม็ดขนุน น้นั มารี กมี าร์ เดอ ปนี า (ทา้ วทองกีบม้า) หญงิ สาวชาวโปรตุเกส เปน็ ผ้นู าสตู รมา จากโปรตุเกส เปน็ ผู้คิดค้นข้นึ มา ขนมไทยท่นี ยิ มทากันทกุ ๆ ภาคของประเทศไทย ในพิธีการตา่ งๆ กค็ ือขนมจากไข่ และเชอ่ื กันวา่ ชื่อและ ลักษณะของขนมนน้ั ๆ เช่น รับประทานฝอยทอง เพื่อหวังให้อยดู่ ้วยกันยืดยาว มีอายยุ นื รับประทาน ขนมชนั้ ก็ ให้ไดเ้ ลื่อนข้นั เงินเดือน รับประทาน ขนมถ้วยฟูกข็ อให้เจริญ รับประทานขนมทองเอก ก็ขอให้ไดเ้ ปน็ เอก เป็นต้น
ในสมัยรชั กาลท่ี 1 มีการพมิ พ์ตาราอาหารออกเผยแพร่ รวมถึงตาราขนมไทยดว้ ย จึงนับไดว้ า่ วฒั นธรรม ขนมไทยมกี ารบนั ทึกเปน็ ลายลกั ษณ์อกั ษรครั้งแรก ตาราอาหารไทยเลม่ แรกคือแม่ครวั หวั ปา่ ก์ ในสมัย ตอ่ มาเมื่อการคา้ เจริญข้นึ ในตลาดมขี นมนานาชนิดมาขาย และนับว่าเปน็ ยคุ ท่ีขนมไทยเปน็ ท่นี ิยม การแบ่งประเภทของขนมไทย ขนมหวานไทย จะมีความหวานนา หรือมีความหวานจนร้สู ึกในล้นิ ของผรู้ บั ประทานการทาขนมหวานไทยเปน็ เรอื่ งทตี่ ้องศึกษาและฝึกฝน ต้องใชศ้ ลิ ปะ วิทยาศาสตรแ์ ละความอดทน และความเป็นระเบยี บ ความพิถีพิถนั ใน การประกอบ ขนมไทยแท้ ๆ ตอ้ งมีกล่ินหอม หวาน มนั มีความประณีต ทเี่ กดิ ข้ึนต้งั แต่การเตรียมส่วนผสม จนกระทง่ั วธิ ีการทา ขนมไทย สามารถจัดแบง่ เปน็ ชนิดต่าง ๆ ได้ตามลกั ษณะของเครื่องปรุง ลักษณะกรรมวิธีในการ ทา และลกั ษณะการหงุ ต้ม ไดด้ งั น้ี ประเภทกวน สว่ นมากใชก้ ระทะทอง กวนตงั้ แต่เป็นน้าเหลวใสจนงวด แลว้ เทใส่พมิ พ์หรอื ถาดเมื่อเย็นจึงตดั เป็นชิ้น เชน่ ตะโก้ ขนมลืมกลืน ขนมเปียกปนู ขนมศลิ าอ่อน และผลไม้กวน ต่างๆ รวมถงึ ข้าวเหนยี วแดง ข้าวเหนียวแก้ว และกะละแม ประเภทการน่งึ โดยใช้ลังถึง บางชนดิ เทสว่ นผสมใสถ่ ว้ ยตะไลแลว้ นง่ึ บางชนดิ ใส่ถาดหรอื พมิ พ์ บางชนดิ หอ่ ด้วยใบตองหรือใบมะพร้าว เช่น ช่อมว่ ง ขนมชัน้ ข้าวต้มผดั สาลอ่ี ่อน สงั ขยา ขนมกลว้ ย ขนมตาล ขนมใส่ไส้ ขนมเทยี น ขนมน้าดอกไม้
ประเภทเชือ่ ม เปน็ การใสส่ ว่ นผสมลงในนา้ เชอื่ มท่ีกาลงั เดือดจนสุก ได้แก่ ทองหยอด ทองหยิบ ฝอยทอง เมด็ ขนุน กลว้ ยเชือ่ ม จาวตาลเช่ือม ประเภททอด เปน็ การใส่สว่ นผสมลงในกระทะทมี่ นี า้ มนั ร้อน ๆ จนสุก เช่น กล้วยทอด ขา้ วเม่าทอด ขนมกง ขนมคา้ งคาว ขนมฝักบวั ขนมนางเล็ด ประเภทอบ ได้แก่ ขนมหม้อแกง ขนมหนา้ นวล ขนมกลบี ลาดวน ขนมทองมว้ น สาลีแ่ ขง็ ขนมจ่ามงกุฎ นอกจากน้ี อาจรวม ขนมครก ขนมเบอ้ื ง ขนมดอกลาเจยี ก ที่ใช้ความร้อน บนเตาไว้ในกลุ่มน้ีดว้ ย
ประเภทตม้ ขนมประเภทนีจ้ ะใชห้ มอ้ หรือกระทะต้มน้าใหเ้ ดือด ใส่ขนมลงไป จนสุกแล้วตักขึ้น นามาคลุกหรอื โรยมะพรา้ ว ได้แก่ ขนมถว่ั แปบ ขนมต้ม ขนมเหนียว ขนมเรไร นอกจากน้ยี ัง รวมขนมประเภทน้า ทน่ี ิยมนามาต้มกับกะทิ หรอื ใส่แปง้ ผสมเปน็ ขนมเปยี ก และขนมที่กินกับนา้ เชอื่ มและ นา้ กะทิ เช่น กล้วยบวชชี มันแกงบวด สาคูเปยี ก ลอดช่อง ซ่าหริ่ม วตั ถุดบิ ในการปรุงขนมไทย ขนมไทยสว่ นใหญท่ ามาจากข้าวและจะใชส้ ว่ นประกอบอื่นๆ เชน่ สี ภาชนะ กลน่ิ หอมจากธรมชาติ ข้าว ที่ใช้ในขนมไทยมีทง้ั ใช้ในรูปข้าวท้งั เมด็ และข้าวที่อยู่ในรูปแป้ง นอกจากน้นั ยงั มวี ัตถุดิบอ่ืนๆ เชน่ มะพรา้ ว ไข่ น้าตาล ซง่ึ จะกล่าวถึงรายละเอียดดงั ต่อไปน้ี ขา้ วและแปง้ การนาข้าวมาทาขนมของคนไทยเร่ิมตั้งแต่ขา้ วไม่แกจ่ ัด ข้าวออ่ นทีเ่ ป็นนา้ นม นามาทาขา้ วยาคู พอแก่ขนึ้ อีก แต่เปลอื กยังเปน็ สีเขยี วนามาทาข้าวเมา่ ข้าวเม่าที่ไดน้ าไปทาขนมไดอ้ ีกหลายชนิด เชน่ ข้าวเมา่ คลุก ข้าวเม่าบด ขา้ วเม่าหม่ี กระยาสารท ขา้ วเจ้าท่ีเหลือจากการรับประทาน แปง้ ที่ใชไ้ ด้แก่ สว่ นแป้งสาลีมีใช้น้อย มกั ใช้ในขนมท่ีได้รบั อิทธิพลจากตา่ งชาติ
มะพร้าวและกะทิ มะพร้าว นามาใชเ้ ปน็ ส่วนประกอบของขนมไทยได้ต้ังแตม่ ะพร้าวอ่อนจนถงึ มะพรา้ วแกด่ ังน้ี มะพร้าวอ่อน ใช้เนอ้ื ผสมในขนม เช่น เปียกสาคู วุน้ มะพร้าว สงั ขยามะพรา้ วอ่อน มะพรา้ วทึนทึก ใช้ขดู ฝอยทาเป็นไส้กระฉีก ใช้คลุกกบั ขา้ วตม้ มัดเป็นข้าวต้มหวั หงอก และใช้เป็น มะพรา้ วขดู โรยหนา้ ขนมหลายชนิด เชน่ ขนมเปยี กปูน ขนมขห้ี นู ซ่ึงถือเปน็ เอกลักษณ์อย่างหน่ึงของ ขนมไทย มะพร้าวแก่ นามาค้นั เป็นกะทิก่อนใส่ในขนม นาไปทาขนมได้หลายแบบ เช่น ต้มผสมกบั ส่วนผสม เช่น กล้วยบวชชี แกงบวดตา่ งๆ หรอื ตักหัวกะทริ าดบนขนม เช่น สาคเู ปยี ก ซ่าหร่ิม บวั ลอย น้าตาล แตเ่ ดมิ นั้นนา้ ตาลทน่ี ามาใช้ทาขนมคือน้าตาลจากตาลหรอื มะพรา้ ว ในบางท้องท่ีใช้น้าตาลอ้อย น้าตาลทรายถูกนามาใชภ้ ายหลัง ไข่ เริ่มเป็นส่วนผสมของขนมไทยต้ังแต่สมัยสมเด็จพระนารายณม์ หาราชซง่ึ ได้รบั อิทธิพลจากขนมของ โปรตเุ กส ไขท่ ใี่ ช้ทาขนมนี้จะตีใหข้ ึ้นฟู ก่อนนาไปผสม ขนมบางชนิดเช่น ทองหยบิ ทองหยอด ฝอยทอง ต้องแยก ไข่ขาวและไข่แดงออกจากกนั แล้วใช้แตไ่ ข่แดงไปทาขนม
ถัว่ และงา ถว่ั และงาจดั เป็นส่วนผสมท่ีสาคัญในขนมไทย การใช้ถว่ั เขียวน่งึ ละเอยี ดมาทาขนมพบไดต้ ั้งแต่สมัย อยธุ ยา เช่นขนมพิมพ์ถ่ัวทาด้วยถัว่ เหลอื งหรอื ถวั่ เขียวกวนมาอดั ใส่พิมพ์ ถ่วั และงาทนี่ ิยมใช้ในขนมไทยมีดงั นี้ ถว่ั เขยี วเลาะเปลอื ก มีชอ่ื เรียกหลายชอื่ เชน่ ถ่ัวทอง ถัว่ ซีก ถว่ั เขียวทใี่ ชต้ ้องลา้ งและแช่น้าคา้ งคนื กอ่ น เอาไปนึ่ง ถ่วั ดา ใชใ้ ส่ในขนมไทยไม่กี่ชนิด และใส่ทั้งเมด็ เชน่ ข้าวต้มมดั ขา้ วหลาม ถ่วั ดาตม้ น้าตาล ขนมถัว่ ดา ถั่วลสิ ง ใช้น้อย สว่ นใหญใ่ ชโ้ รยหน้าขนม งาขาวและงาดา ใสเ่ ปน็ สว่ นผสมสาคญั ในขนมบางชนดิ เชน่ ขนมเทยี นสลดั งา ขนมแดกงา กล้วย กล้วยมสี ่วนเกีย่ วขอ้ งกบั ขนมไทยหลายชนิด ไมว่ า่ จะเปน็ ขนมกล้วย กล้วยกวน กลว้ ยเชอ่ื ม กล้วยแขก ทอด หรือใช้กลว้ ยเปน็ ไส้ เช่น ขา้ วตม้ มดั ข้าวเหนียวปิ้งไสก้ ล้วย ขา้ วเมา่ กล้วยที่ใชส้ ่วนใหญ่เป็น กล้วยนา้ ว้า กล้วยแตล่ ะ ชนิดเมื่อนามาทาขนมบางครั้งจะใหส้ ตี ่างกัน เช่น กล้วยนา้ ว้าเมอ่ื นาไปเชื่อมใหส้ ีแดง กล้วยไข่ใหส้ เี หลือง เปน็ ต้น
สี สีท่ไี ด้จากธรรมชาติและใชใ้ นขนมไทย มดี งั นี้ สีเขยี ว ไดจ้ ากใบเตยโขลกละเอียด คน้ั เอาแต่น้า สนี า้ เงนิ จากดอกอญั ชนั เด็ดกลีบดอกอญั ชนั แช่ในนา้ เดือด ถา้ บบี นา้ มะนาวลงไปเล็กน้อยจะได้สีมว่ ง สีเหลืองจากขม้ินหรอื หญ้าฝร่ัน สแี ดงจากครั่ง สดี าจากกาบมะพรา้ วเผาไฟ นามาโขลกผสมน้าแลว้ กรอง กล่นิ หอม กล่ินหอมที่ใช้ในขนมไทยได้แก่ กล่นิ น้าลอยดอกมะลิ ใช้ดอกมะลิทเี่ ก็บในตอนเชา้ แชล่ งในนา้ ต้มสกุ ท่ีเยน็ แล้วใหก้ า้ นจุม่ อยูใ่ นนา้ ปดิ ฝา ท้ิงไว้ 1 คนื รงุ่ ขึ้นจงึ กรอง นานาไปใชท้ าขนม
กลน่ิ ดอกกระดังงา นิยมใชอ้ บขนมแหง้ โดยเด็ดกลีบกระดังงามาลน เทยี นอบใหห้ อม ใสข่ วดโหลที่ใส่ขนมไว้ ปดิ ฝาใหส้ นทิ กลนิ่ เทยี นอบ จดุ ไฟท่ปี ลายเทียนอบทั้งสองข้างให้ลุกสกั ครู่หนงึ่ แลว้ ดบั ไฟ วางลงในถ้วยตะไล ใส่ในขวดโหลทีใ่ ส่ขนม ปิดผาใหส้ นทิ กล่ินใบเตย ใช้ตน้ ใบเตยหมอ หนั่ ใบเตยทลี่ า้ งสะอาดเปน็ ท่อนยาว ใส่ลงไปในขนม หรอื หัน่ ใบเตยเปน็ ชิน้ เลก็ เพ่ือคน้ั เอานา้ ใบเตย หมายเหตุ https://sites.google.com/site/cookinginroom/watthudib/khwam-pen-ma
บทที่ ๓ วธิ ีการดาเนนิ การ การจัดอบรมอาชีพระยะสั้นในสถาบันศึกษาปอเนาะ ของศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อัธยาศัยอาเภอสุไหงโก-ลก ได้จัดทาข้ึนเพื่อให้นักศึกษาสถาบันศึกษาปอเนาะมัรดียะห์ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มองเห็นชอ่ งทางในการประกอบอาชีพ เพื่อนามาใช้ในชวี ิตประจาวนั โดยมีขน้ั ตอนการดาเนนิ งาน ดังนี้ ขน้ั ท่ี ๑ ข้นั ตอนการเตรียมการ ๑.๑ สารวจสภาพ ปัญหาและความต้องการของกลมุ่ เปา้ หมาย ๑.๒ ประชมุ วางแผนการดาเนินโครงการ ๑.๓ เขียนโครงการเพือ่ เสนอขออนุมัตงิ บประมาณในการดาเนนิ โครงการ ข้นั ท่ี ๒ ข้ันดาเนินการ ดาเนนิ การจดั อบรมอาชีพระยะสั้นในสถาบันศึกษาปอเนาะ ขัน้ ที่ ๓ นิเทศติดตามผล รายงานผลและประเมนิ ผล 3.1 การนิเทศ ติดตามผลการดาเนนิ โครงการ 3.2 การประเมินผลและสรุปผลการดาเนินโครงการ 3.3 การรายงานและเผยแพร่ผลการดาเนินโครงการ ดชั นีวัดผลสาเร็จของกิจกรรม ( Key Performance Indicator : KPI ) ตัวชว้ี ดั ความสาเร็จ สอดคลอ้ งกับมาตรฐาน วิธีการประเมิน เครอื่ งมือทีใ่ ช้ แบบบันทึกการสังเกต กศน. ท่ี การสงั เกต แบบประเมินประเมนิ ผลผลลิ ผลผลติ (outputs)นักศึกษา ๑,๒,๓,๔,๕,๖ แบบประเมนิ ความ ความพงึ พอใจ พึงพอใจของ สถาบันศึกษาปอเนาะมรั ดียะห์ ผเู้ ข้ารว่ มโครงการ จานวน 15 คน ผลลัพธ์(outcomes) รอ้ ยละ ๘๐ ๑,๒,๓,๔,๕,๖ นกั ศึกษาสถาบนั ศึกษาปอเนาะมรั ดี ยะห์ มีคณุ ภาพชวี ติ ทด่ี ีขึน้ มองเห็น ชอ่ งทางในการประกอบอาชีพ เพอ่ื นามาใชใ้ นชีวติ ประจาวัน
สาหรับเกณฑ์การใหค้ ะแนนสาหรับแบบสอบถามในการสรุปผลการดาเนนิ งานของการจัดอบรมอาชพี ระยะส้นั ในสถาบันศึกษาปอเนาะ วิชา การทาขนม จานวน 60 ชว่ั โมง โดยแบ่งค่าในการประเมนิ ออกเป็น 5 ระดบั ตามแบบของ ลเิ คริ ์ต (Likert’s five point rating scale)ดังนี้ น้าหนักคะแนน ๕ หมายถงึ มีความเหน็ อยู่ในระดับมากที่สุด น้าหนกั คะแนน ๔ หมายถึง มคี วามเห็นอยู่ในระดับมาก นา้ หนักคะแนน ๓ หมายถึง มคี วามเหน็ อยู่ในระดับปานกลาง นา้ หนกั คะแนน ๒ หมายถงึ มีความเห็นอยู่ในระดับน้อย นา้ หนักคะแนน ๑ หมายถึง มคี วามเห็นอยู่ในระดับน้อยที่สุด ในสว่ นของการวเิ คราะห์ผลการปฏิบัตงิ านในการจดั อบรมอาชีพระยะส้ันในสถาบนั ศึกษาปอเนาะ วชิ า การทาขนม จานวน 60 ช่วั โมง ในพ้ืนที่ สถาบนั ศกึ ษาปอเนาะมรั ดยี ะห์ หมทู่ ี่ 5 บ้านบาโงวเปาะเลง็ ตาบลปาเสมัส อาเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธวิ าส และระดบั ความคดิ เห็นของผูเ้ ข้าร่วมโครงการถือว่าเปน็ คา่ เฉลีย่ ของคะแนนท่ไี ดจ้ ากการตอบแบบสอบถาม ทง้ั น้ีผูจ้ ัดกิจกรรมได้กาหนดการวเิ คราะห์ตามแนวคดิ ของ เบสท์ (อ้างถึงใน พวงรตั น์ ทวรี ตั น,์ ๒๕๔๓ : ๓๐๓) ดงั นี้ คา่ เฉลยี่ ความหมาย ๑.๐๐ – ๑.๔๙ น้อยทีส่ ดุ ๑.๕๐ – ๒.๔๙ น้อย ๒.๕๐ – ๓.๔๙ ปานกลาง ๓.๕๐ – ๔.๔๙ มาก ๔.๕๐ – ๕.๐๐ มากทส่ี ดุ
บทท่ี ๔ ผลการศกึ ษา ผลการศึกษาความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมการจัดอบรมอาชีพระยะส้ันในสถาบันศึกษาปอเนาะ ใน สว่ นนีเ้ ป็นการนาเสนอผลการการศึกษาในการจัดการจัดอบรมอาชีพระยะส้ันในสถาบันศึกษาปอเนาะ ของศูนย์ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส โดยมีผู้เข้าร่วมอบรม จานวน 15 คน ผศู้ กึ ษาแบง่ ผลการศกึ ษาออกเปน็ 2 ส่วน ดังน้ี สว่ นท่ี 1 ข้อมูลท่ัวไปเกย่ี วกับสถานภาพของผตู้ อบแบบสอบถาม ส่วนที่ 2 ข้อมูลเก่ียวกับผลการศึกษาระดับความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมโครงการท่ีมีต่อการจัดอบรม อาชพี ระยะส้นั ในสถาบนั ศึกษาปอเนาะ ผลการศึกษาในแต่ละส่วนจะนาเสนอข้อมูลในรูปแบบตารางแจกแจงเป็นค่าเฉลี่ย และค่าร้อยละจาก ขอ้ มูลทไี่ ดเ้ ปน็ สาคญั ซงึ่ มรี ายละเอียดของผลการศึกษา ดังนี้ สว่ นที่ 1 ขอ้ มลู ท่วั ไปเกีย่ วกบั สถานภาพของผตู้ อบแบบสอบถาม ผู้ตอบแบบสอบถามในการศึกษาคร้ังนี้ เป็นนักศึกษาสถาบันศึกษาปอเนาะมัรดียะห์ ของศูนย์ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ที่เข้าร่วมกิจกรรม โดยใช้ ค่าร้อยละดังปรากฏ ในตารางท่ี ๑ ดังนี้ ตาราง ท่ี 4.๑ จานวนและร้อยละของผูเ้ ข้าร่วมโครงการจาแนกตามเพศ ขอ้ มูลพ้นื ฐาน จานวน ร้อยละ เพศ -- ๑.๑ ชาย 15 100 ๑.๒ หญิง 15 ๑๐๐ รวม จากตารางท่ี ๔.๑ ประชากรกลมุ่ ตัวอย่างท้งั หมดเป็นเพศหญิง จานวน 15 คน คดิ เป็นร้อยละ 100 ของกล่มุ ประชากรตวั อยา่ งทงั้ หมด ตารางที่ ๔.๒ จานวนและรอ้ ยละของผูเ้ ข้าร่วมโครงการจาแนกตามช่วงอายุ ขอ้ มูลพน้ื ฐาน จานวน รอ้ ยละ อายุ 4 26.67 ๒.๑ อายุ ตา่ กว่า 15 ปี 11 73.33 ๒.๒ อายุ 15-39 ปี ขน้ึ ไป รวม 15 ๑๐๐ จากตารางที่ ๔.2 ประชากรกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด จาแนกตามอายุ ตา่ กว่า 15 ปี จานวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 26.67 และอายุ 15-39 ปี ข้ึนไป จานวน 11 คน คิดเป็นร้อยละ 73.33 ของกลุ่มประชากร ตัวอยา่ งท้ังหมด
ตารางที่ ๔.๓ จานวนและรอ้ ยละของผูเ้ ข้าร่วมโครงการจาแนกตามระดบั การศึกษา ข้อมูลพน้ื ฐาน จานวน รอ้ ยละ ระดับการศกึ ษา ประถมศกึ ษา 10 66.67 มัธยมศกึ ษาตอนตน้ 4 26.67 มัธยมศกึ ษาตอนปลาย 1 6.66 รวม 15 ๑๐๐ จากตารางท่ี ๔.๓ ประชากรกลุ่มตัวอย่างท้ังหมดมีการศึกษาในระดับประถม จานวน 10 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 66.67 ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น จานวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 26.67 และระดับมัธยมศึกษา ตอนปลาย จานวน 1 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 6.66 ของกล่มุ ประชากรตวั อยา่ งทง้ั หมด
ส่วนที่ 2 ข้อมลู เก่ยี วกบั ผลการศกึ ษาระดับความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมโครงการท่ีมีต่อการจัดอบรม อาชพี ระยะสัน้ ในสถาบนั ศึกษาปอเนาะ ของศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอาเภอ สุไหงโก-ลก จงั หวดั นราธวิ าส ตารางท่ี ๔.๔ จานวนร้อยละ และคา่ เฉล่ยี จาแนกตามปจั จยั ท่ีมีผลต่อความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมอบรมอาชีพระยะสั้น ในสถาบันศึกษาปอเนาะ ของศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอสุไหงโก-ลก จงั หวดั นราธิวาส มีดังนี้ รายการ ระดบั ความคิดเห็น แปลผล มาก มาก ปาน นอ้ ย นอ้ ย ท่ีสุด กลาง ท่ีสุด ความพงึ พอใจของผ้เู ข้าร่วมอบรมอาชีพระยะส้ันในสถาบันศึกษาปอเนาะ 4.52 มากทสี่ ดุ 1. ความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ 10 5 - - - 4.66 มากที่สุด ของคร/ู วิทยากร (3.33) (1.33) 2. ความเหมาะสมของสถานทจ่ี ดั 11 4 - - - 4.72 มากทสี่ ดุ กิจกรรมฝึกอาชพี (3.66) (1.06) 3. ความเหมาะสมของส่อื อปุ กรณใ์ น 7 62 - - 4.33 มาก การฝึกอาชพี (2.33) (1.60) (0.40) 4. สาระความรู้ทไ่ี ดร้ บั จากการฝกึ 8 52 - - 4..39 มาก อาชพี (2.66) (1.33) (0.40) 5. ความเหมาะสมของระยะเวลาทใี่ ช้ 9 4 - - - 4.60 มากทส่ี ดุ จัดกิจกรรมฝึกอาชีพ (3.00) (1.60) 6. ความพึงพอใจในการใหบ้ ริการดา้ น 9 42 - - 4.46 มาก การรับสมคั ร (2.69) (1.06) (0.40) 7. ความพึงพอใจต่อการวดั ผล 8 52 - - 4.39 มาก ประเมนิ ผล (2.66) (1.33) (0.40) 8. ความรู้และทักษะท่ีไดร้ ับจากการฝึก 12 3 - - - 4.80 มากทส่ี ดุ อาชีพสามารถนาไปปรบั ปรงุ และพฒั นา (4.00) (0.80) อาชีพ 9. ความรแู้ ละทักษะท่ีได้รบั จากการฝึก 8 7 - - - 4.52 มากทส่ี ุด อาชีพสามารถนาไปใชใ้ นชีวิตประจาวัน (2.66) (1.86) ได้ 10. ความรู้และทักษะท่ีได้รับจากการ 7 62 - - 4.33 มาก ฝึกอาชีพทาให้ได้รบั การจา้ งงาน (2.33) (1.60) (0.40) จากตาราง ๔.๔ ผลการศึกษาความคิดเห็นของผู้เข้าร่วมโครงการต่อความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมอบรม อาชีพระยะสั้นในสถาบันศึกษาปอเนาะ ของศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอสุไหง โก-ลก สามารถจาแนกการอธิบายผลการศึกษาไดด้ งั น้ี
ความคดิ เหน็ ของผเู้ ขา้ ร่วมอบรมอาชพี ระยะสัน้ ในสถาบันศึกษาปอเนาะ ของศูนย์การศึกษา นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอสุไหงโก-ลก พบว่า ค่าเฉลี่ยของความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมอบรม อาชีพระยะส้ันในสถาบันศึกษาปอเนาะ ของศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอสุไหง โก-ลก อยู่ในระดับมากท่ีสุด 4.52 แสดงว่าผู้เข้าร่วมอบรมอาชีพระยะสั้นในสถาบันศึกษาปอเนาะ ดังกล่าว และเป็นประโยชน์ต่อผู้เข้าร่วมโครงการภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนประเด็นอื่น ๆ ได้จาแนกการอธิบาย ตามขอ้ คาถามดังน้ี ประเด็นคาถามท่ี ๑ ความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ของครู/วิทยากร พบว่า ผู้เข้าร่วม อบรม มีความพึงพอใจในการถ่ายทอดความรู้ของครู/วิทยากรอาชีพ โดยคิดเป็นค่าเฉล่ียอยู่ในระดับ 4.60 แสดงว่าผู้เขา้ รว่ มโครงการมคี วามพึงพอใจอยูร่ ะดับมากทส่ี ดุ ประเด็นคาถามท่ี ๒ ความเหมาะสมของสถานท่ีจัดกิจกรรมฝึกอาชีพ พบว่า ผู้เข้าร่วมอบรม มคี วามพึงพอใจกบั สถานทใี่ นการจัดอบรมอาชพี โดยคิดเป็นค่าเฉล่ียอยู่ในระดับ 4.72 แสดงว่าผู้เข้าร่วมอบรม อาชพี มีความพึงพอใจอยู่ระดบั มากทส่ี ุด ประเด็นคาถามท่ี ๓ ความเหมาะสมของส่ืออุปกรณ์ในการฝึกอาชีพ พบว่า ผู้เข้าร่วมอบรม อาชีพ มีความพึงพอใจในความเหมาะสมของส่ืออุปกรณ์ในการฝึกอาชีพ โดยคิดเป็นค่าเฉล่ียอยู่ในระดับ 4.33 แสดงวา่ ผเู้ ข้ารว่ มโครงการมีความพึงพอใจอยรู่ ะดบั มาก ประเด็นคาถามที่ ๔ สาระความรู้ที่ได้รับจากการฝึกอาชีพ พบว่า ผู้เข้าร่วมอบรม มีความพึง พอใจตอ่ สาระความร้ทู ี่ได้รบั จากการฝกึ อาชพี โดยคิดเปน็ ค่าเฉลีย่ อยใู่ นระดบั 4.39 แสดงว่าผู้เข้าร่วมโครงการ มีความพงึ พอใจอยรู่ ะดับมาก ประเด็นคาถามท่ี ๕ ความเหมาะสมของระยะเวลาท่ีใช้จัดกิจกรรมฝึกอาชีพ พบว่า ผู้เข้าร่วม อบรม มีความพึงพอใจกับความเหมาะสมของระยะเวลาท่ีใช้จัดกิจกรรมฝึกอาชีพ โดยคิดเป็นค่าเฉลี่ยอยู่ใน ระดับ 4.60 แสดงวา่ ผเู้ ขา้ รว่ มโครงการมคี วามพงึ พอใจอยู่ระดับมากที่สุด ประเด็นคาถามที่ ๖ ความพึงพอใจในการให้บริการด้านการรับสมัคร พบว่า ผู้เข้าร่วมอบรม อาชีพ มีความพึงพอใจในความพึงพอใจในการให้บริการด้านการรับสมัคร โดยคิดเป็นค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับ 4.46 แสดงว่าผ้เู ขา้ รว่ มโครงการมคี วามพงึ พอใจอยู่ระดบั มากท่ีสุด ประเด็นคาถามที่ ๗ ความพึงพอใจต่อการวัดผลประเมินผล พบว่า ผู้เข้าร่วมอบรมอาชีพ มี ความพึงพอใจต่อความพึงพอใจต่อการวัดผลประเมินผล โดยคิดเป็นค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับ 4.39 แสดงว่า ผูเ้ ขา้ ร่วมโครงการมีความพึงพอใจอยูร่ ะดับมาก ประเด็นคาถามท่ี ๘ ความรู้และทักษะที่ได้รับจากการฝึกอาชีพสามารถนาไปปรับปรุงและ พฒั นาอาชีพ พบว่า ผู้เขา้ ร่วมอบรมอาชีพ มีความพึงพอใจและสามารถนาความรู้และทักษะท่ีได้รับจากการฝึก อาชีพสามารถนาไปปรับปรุงและพัฒนาอาชีพ โดยคิดเป็นค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับ 4.80 แสดงว่าผู้เข้าร่วม โครงการมคี วามพึงพอใจอยรู่ ะดบั มากทสี่ ดุ ประเด็นคาถามท่ี ๙ ความรู้และทักษะท่ีได้รับจากการฝึกอาชีพสามารถนาไปใช้ใน ชีวิตประจาวันได้พบว่า ผู้เข้าร่วมอบรม มีความพึงพอใจในความรู้และทักษะที่ได้รับจากการฝึกอาชีพสามารถ นาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ได้โดยคดิ เปน็ ค่าเฉล่ยี อยู่ในระดับ 4.52 แสดงว่าผู้เข้าร่วมโครงการมีความพึงพอใจอยู่ ระดบั มากที่สดุ ประเด็นคาถามท่ี ๑๐ ความรู้และทักษะที่ได้รับจากการฝึกอาชีพทาให้ได้รับการจ้างงาน พบวา่ ผ้เู ขา้ รว่ มอบรมอาชพี มีความพึงพอใจ และมีความรู้และทักษะท่ีได้รับจากการฝึกอาชีพทาให้ได้รับการจ้าง งาน โดยคิดเป็นค่าเฉลย่ี อยใู่ นระดับ 4.33 แสดงวา่ ผู้เขา้ ร่วมโครงการมคี วามพงึ พอใจอยู่ระดับมาก
จากตารางสามารถสรปุ ความพงึ พอใจของผ้เู ข้ารว่ มอบรมวชิ าชพี ระยะสนั้ ในสถาบันศึกษา ปอเนาะ ของศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อาเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธวิ าส โดย ภาพรวมอยู่ในระดบั มากท่ีสดุ และเม่อื พิจารณารายด้านพบวา่ มคี วามพึงพอใจอยใู่ นระดับมากท่ีสดุ โดย เรยี งลาดับค่าเฉลีย่ จากมากไปหาน้อย คอื 1.ความรแู้ ละทักษะท่ีได้รับจากการฝึกอาชีพสามารถนาไปปรบั ปรงุ และพัฒนาอาชพี 2.ความเหมาะสมของสถานทจ่ี ัดกจิ กรรมฝึกอาชีพ3.ความรู้และทักษะที่ได้รบั จากการฝึกอาชีพ สามารถนาไปปรบั ปรงุ และพัฒนาอาชีพ 3.ความสามารถในการถ่ายทอดความรขู้ องครู/วิทยากร 4.ความ เหมาะสมของระยะเวลาทใี่ ชจ้ ัดกจิ กรรมฝกึ อาชีพ 5.ความรู้และทักษะที่ไดร้ ับจากการฝึกอาชีพสามารถนาไปใช้ ในชวี ติ ประจาวันได้ 6.ความพึงพอในในการใหบ้ ริการด้านการรบั สมคั ร 7.สาระความรู้ที่ไดร้ บั จากการฝกึ อาชพี 8.ความพงึ พอใจต่อการวดั ผลประเมินผล 9.ความเหมาะสมของสื่ออุปกรณ์ในการฝึกอาชีพ 10.ความรแู้ ละ ทักษะที่ได้รบั จากการฝึกอาชีพทาให้ได้รับการจ้างงาน ตามลาดบั
บทท่ี ๕ บทสรุปผลการศึกษาและข้อเสนอแนะ จากการจดั อบรมวิชาชพี ระยะสนั้ วชิ าการทาขนม จานวน 60 ช่ัวโมง ของศนู ย์การศึกษานอกระบบและ การศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอสไุ หงโก-ลก จังหวดั นราธิวาส มีวัตถุประสงค์เพอ่ื ให้ผู้เข้าร่วมอบรม มคี ุณภาพ ชีวติ ที่ดีข้ึน มองเห็นช่องทางในการประกอบอาชีพ เพ่ือนามาใชใ้ นชวี ิตประจาวันมีความรู้ พบว่า มผี ู้เข้ารว่ ม อบรมจานวน 15 คน มผี ู้ตอบแบบประเมนิ ความพงึ พอใจหลงั การอบรม จานวน 15 คน โดยเปน็ เพศหญงิ คดิ เป็นรอ้ ยละ 100 มอี ายุต่ากว่า 15 ปี คิดเป็นรอ้ ยละ 26.67 และอายุ 15-39 ปขี ึน้ ไป คิดเป็นร้อยละ 73.33 ผูเ้ ขา้ รว่ มอบรมอาชพี ระยะสัน้ ในสถาบนั ศกึ ษาปอเนาะ ของศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศยั อาเภอสุไหงโก-ลก จังหวดั นราธวิ าส มีความพึงพอใจโดยโดยภาพรวมอย่ใู นระดับมากทส่ี ดุ มี คา่ เฉล่ีย 4.52คดิ เปน็ รอ้ ยละ 90.40 โดยเรยี งลาดบั คา่ เฉลยี่ จากมากไปหาน้อย คอื 1.ความรแู้ ละทักษะท่ี ไดร้ ับจากการฝกึ อาชพี สามารถนาไปปรับปรงุ และพัฒนาอาชีพ 2.ความเหมาะสมของสถานท่ีจัดกิจกรรมฝึก อาชพี 3.ความร้แู ละทักษะท่ีได้รบั จากการฝกึ อาชีพสามารถนาไปปรับปรุงและพฒั นาอาชีพ 3.ความสามารถใน การถา่ ยทอดความรู้ของครู/วิทยากร 4.ความเหมาะสมของระยะเวลาทใี่ ช้จดั กจิ กรรมฝึกอาชีพ 5.ความรแู้ ละ ทกั ษะท่ีไดร้ บั จากการฝกึ อาชีพสามารถนาไปใช้ในชวี ิตประจาวนั ได้ 6.ความพงึ พอในในการให้บริการด้านการ รับสมัคร 7.สาระความรทู้ ี่ได้รับจากการฝึกอาชพี 8.ความพึงพอใจตอ่ การวดั ผลประเมนิ ผล 9.ความเหมาะสม ของสื่ออุปกรณ์ในการฝกึ อาชีพ 10.ความรแู้ ละทักษะที่ไดร้ ับจากการฝึกอาชีพทาให้ไดร้ ับการจ้างงาน ตามลาดบั ประโยชน์ทไ่ี ดจ้ ากการจดั ฝกึ อบรมอาชพี ระยะสัน้ คอื 1. สามารถนาไปใชใ้ นชวี ิตประจาวนั ได้ 2. สามารถลดรายจา่ ย และเพ่มิ รายไดใ้ ห้กับครอบครวั 3. สามารถถ่ายทอดวชิ าให้กับคนรนุ่ ต่อไปได้ ข้อคิดเหน็ /ข้อเสนอแนะของผ้เู ข้ารว่ มการอบรม ๑. ควรเพิ่มระยะเวลาในการฝึกอบรม ๒. ควรมีการตดิ ตามและใหค้ าแนะนาเพม่ิ เตมิ หลังการผา่ นการฝึกอบรม ๓. ควรมกี ารดาเนินกิจกรรมอย่างตอ่ เนือ่ งทุกภาคเรียน
บรรณานกุ รม พินโย พรมเมือง. (2554). แนวทางการตัดสนิ ใจเลือกอาชีพ. คน้ เมื่อวนั ที่ 1 เมษายน 2556, จาก https://sites.google.com/.../bthkhwam-keiyw-kab- serst... ความรู้ เรอ่ื ง การทาขนม https://sites.google.com/site/cookinginroom/home/pra-wat
แบบประเมนิ ความพึงพอใจ การจัดอบรมวิชาชีพ ระยะส้ัน หลักสตู ร 60 ชัว่ โมง วชิ า การทาขนม วันท่ี 15 กมุ ภาพนั ธ์ 2564 ถงึ วนั ที่ 9 มนี าคม 2564 ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอาเภอสุไหงโก-ลก ..................................................................... คาช้ีแจงใหผ้ ้เู ข้าร่วมอบรมวชิ าชีพระยะส้ัน ตอบแบบสอบถาม โดยใสเ่ ครอ่ื งหมาย ลงในช่องตามความร้สู กึ ของทา่ นท่ีเป็นจริง ตอนที่ ๑ ข้อมูลท่ัวไป ๑. เพศ ชาย หญงิ ๒. อายุ 13-25 ปี 26 ปีข้ึนไป ๓. ระดบั การศึกษา ประถม ม.ตน้ ม.ปลาย ตอนที่ ๒. ใหผ้ ู้เข้าร่วมอบรมวิชาชพี ระยะส้ัน ใสเ่ ครื่องหมาย ลงในช่องตามความรู้สึกของทา่ นท่ีเปน็ จริง ระดับความพึงพอใจ ท่ี รายการ มาก มาก ปาน นอ้ ย นอ้ ย ทีส่ ดุ (๕) (๔) กลาง (๒) ที่สดุ (๓) (๑) ๑ ความสามารถในการถา่ ยทอดความรูข้ องคร/ู วทิ ยากร ๒ ความเหมาะสมของสถานทจ่ี ดั กจิ กรรมฝึกอาชพี ๓ ความเหมาะสมของสื่ออุปกรณ์ในการฝึกอาชพี ๔ สาระความรู้ทีไ่ ดร้ ับจากการฝกึ อาชีพ ๕ ความเหมาะสมของระยะเวลาทีใ่ ชจ้ ัดกจิ กรรมฝกึ อาชีพ ๖ ความพึงพอใจในการใหบ้ รกิ ารดา้ นการรบั สมคั ร 7 ความพงึ พอใจต่อการวัดผลประเมนิ ผล 8 ความรแู้ ละทกั ษะทไี่ ดร้ ับจากการฝึกอาชีพสามารถนาไปปรับปรุงและ พัฒนาอาชพี 9 ความรู้และทักษะที่ได้รับจากการฝึกอาชีพสามารถนาไปใช้ใน ชวี ิตประจาวนั ได้ 10 ความรแู้ ละทักษะทไ่ี ดร้ บั จากการฝกึ อาชพี ทาให้ไดร้ ับการจา้ งงาน รวมระดับความพึงพอใจ ตอนที่ ๓ ข้อเสนอแนะ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ..................................................
ภาคผนวก
ภาพประกอบกจิ กรรม วชิ า การทาขนม หลักสูตร 60 ชว่ั โมง ณ สถาบันศกึ ษาปอเนาะมรั ดยี ะห์ ต.ปาเสมสั อ.สไุ หงโก-ลก จ.นราธวิ าส
ภาพประกอบกจิ กรรม วชิ า การทาขนม หลกั สตู ร 60 ชวั่ โมง ณ สถาบนั ศกึ ษาปอเนาะมรั ดยี ะห์ ต.ปาเสมสั อ.สไุ หงโก-ลก จ.นราธวิ าส
ภาพประกอบกจิ กรรม วชิ า การทาขนม หลกั สตู ร 60 ชว่ั โมง ณ สถาบนั ศกึ ษาปอเนาะมรั ดยี ะห์ ต.ปาเสมสั อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธวิ าส
ภาพประกอบกจิ กรรม วชิ า การทาขนม หลักสูตร 60 ชว่ั โมง ณ สถาบันศกึ ษาปอเนาะมรั ดยี ะห์ ต.ปาเสมสั อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธวิ าส
แบบ กศ.ตน.๒๖ (๑) แบบรายงานผลการจัดการศึกษาตอ่ เน่ือง ประจาปงี บประมาณ ๒๕๖4 สถาบนั ศึกษาปอเนาะมัรดียะห์ ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอสไุ หงโก-ลก ************************************** ๑. ชอ่ื หลักสตู ร วิชาการทาขนม จานวน 60 ชัว่ โมง ๒. ชอื่ วิทยากร นางแอเสาะ เซง็ วฒุ กิ ารศกึ ษา ป.๖ อายุ 47 ปี อาชีพ ธรุ กจิ สว่ นตัว ๓. ประเภทของวิทยากร ( ) ขา้ ราชการ ( ) ลูกจา้ ง () วทิ ยากรภายนอก ( ) อ่ืนๆ โปรดระบุ . ๔. พน้ื ท่ีดาเนินการ ( .) ในเขตเทศบาล ชื่อชมุ ชน หมทู่ ่ี - ตาบล อาเภอ . จงั หวัด ........ ( ) นอกเขตเทศบาล ชื่อหมู่บ้าน บาโงวเปาะเล็ง หมู่ที่ 5 ตาบล ปาเสมสั อาเภอ สุไหงโก-ลก จงั หวดั นราธิวาส ๕. ระยะเวลาดาเนนิ การ เมื่อวันที่ 15 เดือน กมุ ภาพนั ธ์พ.ศ.๒๕๖4 ส้ินสดุ เมอ่ื วนั ท่ี9 เดือน มนี าคม พ.ศ.๒๕๖4 ๖. อนุมัติเบกิ จากงบประมาณ ประเภท งบรายจ่ายอ่ืน รหัสงบประมาณ 20002040D1700001 จานวน 15,800 บาท คา่ วสั ดุ 5,000 บาท ค่าตอบแทนวิทยากร 10,80๐ บาท ๗. วิธีการสารวจความตอ้ งการเรียน ดาเนินการอย่างไร ( ) ประชาคม ( ) แนะแนว ( ) สารวจความตอ้ งการ ( ) อ่นื ๆ (โปรดระบ)ุ . ๘. จานวนผเู้ รียนและผู้ผ่านการเรยี น จาแนกตามอายแุ ละเพศ อายุ ตา่ กว่า ๑๕ ปี ๑๕-๓๙ ปี ๔๐-๕๙ ปี ๖๐ ปี ข้ึนไป รวม รวม เพศ ช ญ ช ญ ช ญ ช ญ ช ญ ทง้ั ส้นิ จานวนผเู้ รยี น - 4 - 11 - - - - - 15 15 จานวนผผู้ า่ น - 4 - 11 - - - - - 15 15 ๙. จานวนผู้เรียนและผู้ผ่านการเรียน จาแนกตามกลมุ่ อาชพี และเพศ อ่นื ๆ อาชีพ รับราชการ พนักงาน คา้ ขาย เกษตรกรรม รบั จา้ ง (โปรดระบุ) รวม รวม รฐั วิสาหกจิ นักศึกษา ทง้ั ส้ิน ปอเนาะ เพศ ช ญ ช ญ ช ญ ช ญ ช ญ ช ญ ช ญ จานวนผู้เรียน - - - - - - - - - - - 15 - 15 15 จานวนผูผ้ า่ น - - - - - - - - - - - 15 - 15 15 ๑๐. จานวนผ้เู รียนและผูผ้ า่ นการเรยี น จาแนกตามกลุม่ เปา้ หมายและเพศ เป้าหมาย ผ้นู า อบต. ผู้ตอ้ งขงั ทหารกอง แรงงาน แรงงาน เกษตรกร อสม. นักศกึ ษา รวม ร ท้องถ่ิน ประจาการ ไทย ต่างด้าว ปอเนาะ ทง้ั เพศ ช ญ ช ญ ช ญ ช ญ ช ญ ช ญ ช ญ ช ญ ช ญ ช ญ 1 1 จานวนผเู้ รียน - - - - - - - - - - - - - - - - - 15 - 15 จานวนผู้ผา่ น - - - - - - - - - - - - - - - - - 15 - 15 ๑๑. จานวนผูเ้ รยี นและผู้ผ่านการเรยี น จาแนกตามระดับการศึกษาและเพศ การศกึ ษา ต่ากว่า ป.๔ ประถม ม.ต้น ม.ปลาย อนุปริญญา ปริญญาตรี สงู กว่า รวม รวม เพศ ป.๔ ชญ ชญ ทั้งส้นิ ชญ ชญ ปริญญาตรี ช ญ ช ญช ญ ชญ ชญ
จานวนผู้เรียน - - - - - 10 - 4 - 1 - - - - - - - 15 15 จานวนผู้ผ่าน - - - - - 10 - 4 - 1 - - - - - - - แบ1บ5กศ.ตน.๒1๖5(๒) ๑๒. การติดตามผจู้ บหลกั สตู ร ๑๒.๑ มีการตดิ ตามผูจ้ บหลักสูตรหรือไม่ ( ) ไม่มี เพราะ . ( ) มี ดาเนินการอย่างไร เย่ียมเยียนกลุ่มผู้เรียนและช้ีแนะการประกอบอาชีพท่ีตนเองถนัดและ ชอบ . ๑๒.๒ ผลการประเมนิ ความพึงพอใจในการจัดการศึกษาต่อเน่ือง อยู่ในระดบั ใด พอใจ . ๑๒.๓ ผจู้ บหลกั สตู รไดน้ าความรไู้ ปใชจ้ ริง เพมิ่ รายได้ - คน ลดรายจา่ ย - คน พัฒนาคุณภาพชีวติ - คน ใช้เวลาวา่ งใหเ้ กดิ ประโยชน์ 15 คน นาไปประกอบอาชพี อ่นื ๆ ระบุ - ประกอบเปน็ อาชีพหลัก - คน - ประกอบเปน็ อาชีพเสรมิ - คน ๑๓. ปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะ ๑๓.๑ ปัญหา อุปสรรค ( ) ไม่ มี . () มี (โปรดระบุ) ผู้เรียนมีความประสงค์ให้มีการต่อยอดและปฎิบัติอย่างต่อเน่ือง วัสดุ อุปกรณ์ บางอยา่ งไม่พอ . ๑๓.๒ ข้อเสนอแนะ ลงชอื่ วทิ ยากร (นางแอเสาะ เซง็ ) ลงชือ่ ครูอาสาฯประจาปอเนาะ (นางสาวพิชามญช์ุ เรืองโรจน์) ลงชอ่ื เจา้ หนา้ ที่งานการศกึ ษา ต่อเนือ่ ง (นายอาดือนา เจะ๊ อาแซ) ลงชอื่ ผบู้ ริหารสถานศกึ ษา (นางสาวพรี ภาว์ ทองแดง)
Search
Read the Text Version
- 1 - 36
Pages: