หลกั การสรา้ งภาพยนตร์CG โดย นาย รณรงค์ รทั ชนี รายงานนเ้ี ปน็ สว่ นหนง่ึ ของการศกึ ษา วชิ าเทคโนโลยแี ละสารสนเทศเพอื่ การจดั การวชิ าชพี รหสั วชิ า 30001-2001 สาขาวชิ าคอมพวิ เตอรแ์ ละมลั ติมเี ดยี ภาคเรยี นที่ 1ปกี ารศกึ ษา 2564 วทิ ยาลยั อาชวี ศึกษานครสวรรคส์ ำนักงานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา
ก คำนำ รายงานฉบบั น้เี ปน็ ส่วนหนึ่งของวิชา เทคโนโลยสี ารสนเทศ ระดบั ชนั้ ประกาศนยี บัตรวชิ าชพี ชนั้ สูง โดยมจี ุดประสงค์ เพ่อื การศึกษาความรเู้ กี่ยวกบั การสบื ค้นและจดั เกบ็ ข้อมูลสารสนเทศ ตลอดจนการ ประยุกต์ใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อการจัดการงานอาชพี ผ้จู ดั ทำไดเ้ ลือกหัวข้อ หลกั การสร้างภาพยนตร์สน้ั เนอื่ งมาจากเป็นเรื่องท่ีน่าสนใจ รวมถึงเป็นการ ขอขอบคุณครูอาจารยผ์ ู้ใหค้ วามรู้ และแนวทางการศึกษาเรียนรูท้ ่ีให้ ความช่วยเหลอื มาโดยตลอด ผู้จดั ทำหวงั วา่ รายงานฉบบั นี้จะให้ความรู้ และเปน็ ประโยชนแ์ กผ่ ู้สนใจทกุ ท่าน รณรงค์ รชั นี
สารบญั ข เรอ่ื ง หนา้ คำนำ ก ข สารบัญ ค 1 สารบญั ภาพ 1 1 ความหมายของการทำ CG 15 หลักการสร้างภาพยนตร์ CG 15 อุปกรณ์ท่ใี ช้ในการทำ CG 17 ข้ันตอนการผลิตภาพยนตร์ CG 18 ประเภทของงานทใ่ี ช้ CG 19 บรรณานุกรม ภาคผนวก ประวัตผิ ู้จดั ทำ
สารบญั ภาพ ค ภาพท่ี หนา้ ภาพท่ี 1 ตัวอยา่ งการใช้ฉาก Green Screen 2 ภาพท่ี 2 ฉาก Green Screen 3 ภาพท่ี 3 ตัวอย่างไฟประเภท 4 ภาพที่ 4 การวางไฟ 5 ภาพที่ 5 ตัวอยา่ งไฟ 6 ภาพที่ 6 ขาตงั้ ไฟ 8 ภาพท่ี 7 กล้อง 10 ภาพท่ี 8 รเี ฟค 13 ภาพท่ี 9 ไมค์ 14
1 1.ความหมายของการทำ CG Ensure communication ได้กล่าวว่า CG ย่อมาจากคำว่า Computer Generated แต่ในปัจจุบันจะ เรียกว่า Computer Graphic สองคำนี้มีความหมายเดียวกัน ก็คือการใช้คอมพิวเตอร์ในการออกแบบงาน ไม่ ว่าจะเป็นภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหว เราจะเห็นงานพวกนี้อยู่ทั้งในภาพยนตร์ ละคร หรือแม้กระทั้งโฆษณา ตา่ ง ๆ 2.หลกั การสรา้ งภาพยนตร์ CG หลักการการสร้างฉากด้วย CG เราจะเรียกเทคนิคนี้ว่า Green Screen (พื้นหลังสีเขียว) หรือ Blue Screen (พื้นหลังสีฟ้า) เหตุผลที่ใช้สีเขียวกับฟ้านั้น เพราะร่างกายของเรามีสองสีนี้น้อยที่สุด การทำงานของ CG คือการสร้างฉากด้วยการใช้คอมพิวเตอร์ โดยที่ไม่ต้องไปถ่ายในสถานที่จริง เช่น นักแสดงยืนมองฉากสี เขียว ๆ อยู่ ก็จะต้องจินตนาการว่ากำลงั ยนื มองการต่อสู้ ดังนั้นการตัดต่อจะออกมาเนียนหรือไมเ่ นียนก็ข้นึ อยู่ กับการแสดงของนักแสดงเชน่ กนั CG ไม่ไดส้ ร้างแคฉ่ ากเท่านน้ั CG ยงั สร้างตัวละครตา่ ง ๆ เชน่ สตั ว์ประหลาด มนษุ ยต์ ่างดาว และอนื่ ๆ 3.อปุ กรณส์ ำหรับการทำภาพยนต์ CG อปุ กรณท์ ี่ใช้สำหรับการสรา้ งภาพยนตร์ CG เท่าทีจ่ ำเป็นจะต้องใชอ้ ุปกรณ์บันทึกภาพ เสียง อปุ กรณ์เสรมิ ตา่ งๆ ดังต่อไปนี้ ฉาก : เป็นอปุ กรณ์ท่ีสำคัญในการถ่ายภาพต่างๆตลอดจนการถา่ ยวีดีทัศน์ฉากมหี นา้ ท่ีในการเปน็ พ้นื หลัง สามารถบง่ บอก โทนสีอารมณ์และสามารถทำกราฟฟิก ฉากแบ่งเปน็ 2 ประเภทใหญ่ ได้แก่ ฉากแบบสพี นื้ เปน็ ฉากที่มสี โี ทนเดยี ว เหมาะสำหรบั การถา่ ยภาพบคุ คลหรอื ภาพโฆษณาสนิ คา้ ต่างๆ ฉาก green screen : คอื ฉากหลังทีใ่ ช้สำหรับทำพืน้ หลงั ที่เราสามารถตดั ต่ออะไรก็ไดล้ งไป ในฉากหลงั ของตัว ละคร ไมว่ า่ จะเปน็ ถำ้ น้ำตก มังกร ฯลฯได้ทั้งน้นั โดยเรามกั จะเหน็ การตดั ต่อแบบน้ีในหนังฝรัง่ หรอื หนังHollywood ต่างๆ เชน่ the adventures ,Batman อะไรเทือกนี้ แตต่ อนนี้เทนนิคนก้ี ลายเปน็ อดตี ไปแล้ว เพราะปจั จบุ นั เราสามารถใชเ้ ทคนิคใหม่ คือการทำฉาก หลังแบบโค้ง พาโนรามา มาฉายฉากหลงั กันสดๆตั้งแตต่ อนถ่ายต้นฉบับกอ่ นตัดตอ่ กนั เลยทีเดยี ว เราเรียกเทคนิคนวี้ ่า the volumeโดยเราจะตัง้ led panel เอาไว้รอบฉากทีเ่ ราตอ้ งการจะถ่ายแล้วฉายพื้น หลงั อยา่ งท่ีเราต้องการลงไป (สมยั กอ่ นเราไม่สามารถทำได้เพราะตอนน้นั จอledยังไม่มี) ข้อดีของมันคือ ลด ขัน้ ตอนการทำงาน โดยปกตเิ ราจะตอ้ งถ่ายตวั ละครพร้อมฉากเขียว แลว้ เอาไปตัดต่อ แล้วกใ็ ชแ้ อฟเฟค เอา ฉากสเี ขียวออกแล้วตดั เอาฉากที่เราต้องการลงไป แต่ปัญหาคอื มันต้องมขี ั้นตอนมากมาย และตอ้ งใช้motion
2 tacking เพอ่ื ให้เกิด parallaxการลบฉากสีเขยี วออก เหมือนจะทำได้งา่ ยเมื่อเราใชง้ านด้วยโปรแกรม คอมพิวเตอร์ แต่ในสว่ นของรายละเอียดอยา่ ง ปลายใบหญ้า หรอื วา่ เส้นผม เม่ือใชโ้ ปรแกรมมันจะถูกลบ ออกไปด้วย หากตอ้ งการความละเอียดตรงนี้เอาไว้ ตอ้ งทำการตกแตง่ มล่ี ะเฟรมเลยทีเดียว แตด่ ว้ ยเทคนดิ ใหม่น้ีจะชว่ ยกำจัดขอ้ ด้อยตรงนี้ออกไปได้ ทำใหเ้ ราใช้เวลาในการตัดต่อน้อยลง แต่ใช่วา่ จะมีแต่ขอ้ ดเี สมอไป ขอ้ เสียของเทคนิคน้ีคือแสงสะท้อนจากจอLed นั้นเอง เพราะแสงสะท้อนจากจอ ไม่สามารถกำจดั ออกไดห้ มด ทำใหภ้ าพท่ีออกมาดไู ม่สมจริง เชน่ แหล่งกำเนิดแสงอกี แหลง่ หนง่ึ แต่กลับมีแสง สะทอ้ นจากแหลง่ อนื่ มาดว้ ย โดนเฉพาะฉากท่ีตวั แสดงใสเ่ กราะ ย่ิงมองเห็นจดุ บอดของเทนนคิ นี้ได้ชดั ในความเปน็ จรงิ เราอาจจำเป็นตอ้ งใชเ้ ทคนคิ ทั้งฉากเขยี น และ เทคนิคการใช้จอledแบบโคง้ น้ีเข้ามาชว่ ย เพ่อื ให้ผลติ หนงั ออกมาไดร้ วดเร็วและสมจริงทีส่ ุด แต่ดว้ ยเทคนิคน้ีเราจะได้เหน็ ซรี ่ียด์ ังออกมาฉาย ทันใจคนดู สว่ นกรีนสกรีนแบบเดิมอาจใช้สำหรบั หนังโรงได้ดี เพราะส่วนใช้กว่าจะได้ฉายก็ถ่ายทำต่ำๆกเ็ กือบสามปีเลย ทีเดยี ว ภาพที่ 1 ตวั อยา่ งการใช้ฉาก Green Screen ทีม่ า : https://www.blockdit.com/posts/5fa1f76f6a8b280cac8c2bb4 วนั ทส่ี บื คน้ 1 ตลุ าคม 2564
3 เหตผุ ลทต่ี อ้ งสเี ขยี ว ความจรงิ แล้ว สแี ดง, สีเขยี ว, และสนี ้ำเงนิ สามารถนำมาใช้เปน็ สฉี ากหลงั ได้ทั้งสนิ้ แต่สีน้ำเงินเปน็ สที ีไ่ ม่ เป็นสว่ นหนึ่งสว่ นใดของร่างกายโดยเฉพาะสผี ิว เราอาจเปล่ยี นเส้อื ผ้าใหม่ได้แต่ไม่สามารถเปลย่ี นสผี ิวได้ สีท่ี อาจเปน็ ส่วนหน่งึ ส่วนใดของร่างกายไดเ้ ชน่ สดี ำ แดง เหลือง นำ้ ตาล และชมพู เปน็ ตน้ นอกจากนน้ั กลอ้ งและ ฟิล์มในยคุ แรกนัน้ จะมคี วามไวตอ่ สีนำ้ เงินมากเป็นพิเศษ สว่ นสเี ขยี ว แมว้ ่าไม่ใช่สีตรงข้ามกับสีเน้อื แตก่ ็ไม่พบว่าเปน็ สว่ นหนง่ึ สว่ นใดของสีบนรา่ งกาย อีกทัง้ ยังมี ข้อดีท่ีสะท้อนแสงไดม้ ากกวา่ สีน้ำเงินจึงประหยัดไฟมากกว่า ภาพท่ีมคี วามเปรยี บต่างสูง ง่ายต่อการแยกวัตถุ และฉากออกจากกัน นอกจากน้ัน กล้องวดิ ีโอจะมีความไวตอ่ สีเขียวมากทส่ี ุด สเี ขยี วจึงนิยมใชใ้ นงานโทรทัศน์ มากกว่าสนี ำ้ เงนิ ถงึ แมว้ ่าการสะทอ้ นแสงทมี่ ากกว่าของมันจะทำใหเ้ กดิ การสะท้อนเลอะ ไปตามส่วนตา่ งๆของ ร่างกายได้ง่ายกต็ าม อยา่ งไรกต็ าม การเลือกใช้สฉี ากหลงั อาจขนึ้ อยูก่ ับปัจจยั อืน่ ๆ ดว้ ย เชน่ สตดู ิโอท่ใี ช้ไมม่ สี ฉี ากให้เลือก หรือถกู บังคบั จากชดุ ฟอร์มของหน่วยงานทเี่ ปล่ียนเปน็ สีอน่ื ไม่ได้ หรอื กรณีที่ถา่ ยกลางแจง้ ที่ต้องการสว่ นของ ทอ้ งฟา้ สีน้ำเงินดว้ ยเราจึงใชฉ้ ากหลังสนี ้ำเงนิ ไม่ได้ เปน็ ต้น หลกั สำคญั ก็คือพยายามหลีกเล่ียงไมใ่ ห้วัตถหุ รือคน ในฉากหน้ามีสไี ปคลา้ ยกบั สีของฉากหลัง ภาพที่ 2 ฉาก Green Screen ทมี่ า : https://www.progettov.com/index.php?main_page=product_info&products_id=578626 วนั ทส่ี ืบคน้ 1 ตลุ าคม 2564
4 ไฟในสตดู โิ อ : การท่จี ะเลอื กใช้ ไฟสตดู ิโอ แฟลช แบบไปใช้งาน ต้องทำความเข้าใจถึงความหมาย ของอุปกรณ์ ตัวไฟสตูดโิ อเสยี ก่อน ไฟสตูดโิ อ หลกั ๆ หมายถึง อุปกรณ์ท่ีกำเนิดแสงสว่าง “ทุกแบบ” ท่ีใชเ้ ปน็ ไฟหลกั เพ่ือ สอ่ งสวา่ ง ในการถ่ายภาพนิ่ง หรอื ถ่ายภาพวดี โี อ ในสถานท่ีท่ีเป็น “สตดู โิ อถา่ ยภาพ” ได้ ก็นับเปน็ “ไฟ สตดู โิ อ” ไดท้ ้ังหมด ไฟสตดู โิ อ ในความเขา้ ใจของคนไทย จะมี 2แบบ คือ ไฟสตูดโิ อ แบบไฟแฟลช และ ไฟสตดู ิโอ แบบไฟต่อเน่ือง ส่ิงทต่ี ่างกันหลกั ๆคอื รูปแบบของแสงท่ีปล่อย ออกมา และชนดิ ของหลอดไฟทสี่ รา้ งแสงออกมา โดยแตล่ ะชนิดจะมีการใช้งานท่ีแตกต่างกนั ภาพที่ 3 ตวั อยา่ งไฟประเภท ที่มา : https://www.google.co.th/search?hl=th&tbs=simg: วนั ทส่ี บื คน้ 1 ตลุ าคม 2564 แบบที่1 “ไฟสตดู โิ อ แฟลช” หรอื “ไฟแฟลชสตดู โิ อ” เป็นไฟแสงแฟลช ที่ยงิ แสงจากหลอดแฟลช ท่ีความสวา่ งสงู มาก ออกมาในเสี้ยววินาที เป็น “ไฟถา่ ย ภาพนง่ิ ” เปน็ หลักอยา่ งเดียว จากรปู ข้างบน จะเห็นวา่ ตัวหวั ไฟสตูดโิ อ แฟลช จะเปน็ ลักษณะเหมือน ทรงกระบอก ตง้ั อยบู่ นขาตงั้ สว่ นซอฟบ๊อก เปน็ โครงผ้าสีดำ เอามาสวมครอบ หัวไฟสตูดิโออกี ทีหนงึ่ ตวั ซอ ฟบ๊อกจะมีทางออกของแสง ในด้านท่ผี า้ เปน็ สขี าว เม่ือซูมเข้าไปดู ตรงหวั ไฟ ท่ีหลอดไฟแฟลช กจ็ ะเหน็ วา่ มีไฟ 2 ดวง ที่มลี กั ษณะของหลอดแตกต่างกนั ดวงแรก เปน็ ลักษณะวงแหวนใส มเี สน้ ลวด พันรอบๆ อนั นจี้ ะ เรยี กว่า “หลอดไฟแฟลช” ซ่ึงหลอดไฟแฟลชน้ี เปน็ หลอดที่ ยิงแสงแฟลชออกมาในชว่ งเสีย้ ววินาที สรา้ งกำลัง
5 ความสวา่ งสงู มาก แตป่ กติ ในช่วงทยี่ ังไมม่ ีการกดชัตเตอร์ถ่ายรูป หลอดไฟแฟลชนก้ี ็จะไม่มแี สงออกมา กำลงั ไฟจะถูก เก็บอยใู่ นตวั เก็บประจุ ในกระบอกหัวไฟ รวบรวมกำลัง เพื่อยงิ ออกมาในตอนที่กดชตั เตอรเ์ ทา่ นัน้ ส่วนหลอดไฟอกี ดวงนึง ซึ่งอยู่ตรงกลาง หลอดไฟนี้จะเรียก “Model Light” หรอื เรียก “หลอดไฟนำ” จะมี แสงเปล่งออกมาตลอดเวลา แตก่ ำลงั ความสว่างไม่สูง สวา่ งเพียงแค่มองเห็นวา่ มีแสง ใชเ้ พื่อทำใหช้ ่างภาพ มองเหน็ รูปแบบของแสง ท่ีออกมาจาก หลอดไฟแฟลช วา่ ทศิ ทางของแสงจะมุ่งไปทางไหน ความคมของแส เงาเปน็ อยา่ งไร เพ่ือให้ช่างภาพไดป้ ระมาณการ ทิศทางและลกั ษณะของแสงได้ แต่กต็ ้องไปคำนวณกบั ความ สว่างจริงที่ถูกยงิ ออกมาจากหลอดไฟแฟลชดว้ ย ภาพที่ 4 การวางไฟ ท่มี า : https://www.nationsphotolab.com/blog/tips-selecting-photography-studio-space/ วนั ที่สืบคน้ 1 ตลุ าคม 2564 โดยเมอ่ื ก่อนอุปกรณ์ ไฟสตดู ิโอ แฟลช เป็นอุปกรณ์ที่มรี าคาสงู และมกี ารใช้งานโดย ชา่ งภาพมืออาชพี เปน็ หลัก คนทวั่ ไป มักจะไม่ค่อยซื้อ ไฟสตดู ิโอ แฟลช มาใช้งานสว่ นตวั เพราะด้วยความที่ มคี วามซบั ซ้อน ใน การใชง้ าน ตอ้ งมีความรู้ และเขา้ ใจหลกั การของแสง และการถา่ ยภาพเป็นอยา่ งดี กล้องท่ีใช้งานร่วมกับตวั ไฟ แฟลชสตดู โิ อ มกั จะเป็นกล้อง DSLR แต่ในปจั จบุ นั คนทวั่ ไป จะเข้าใจหลกั การของแสง และการใช้งานกลอ้ ง DSLR บา้ งแล้ว ด้วยเพราะ กล้อง DSLR/Mirrorless มีการใช้อยา่ งแพรห่ ลาย และเพราะในมอื ถอื สมาร์ทโฟน App ของกลอ้ งถ่ายรูปในมือถือ จะมีการบอกรายละเอียด ของค่าชัตเตอร์ค่า ISO และค่าแสง ทำให้ คนท่วั ไป เขา้ ใจหลกั การของแสง ในการถา่ ยรปู เบอ้ื งต้น ซ่ึงถ้าใหเ้ ปล่ียนมาใชก้ ล้อง DSLR/Mirrorless ทำงานคกู่ ับไฟ แฟลชสตูดิโอ กเ็ ปน็ การต่อยอดความรู้จากเดิม ไดง้ ่าย ดังน้ัน การทค่ี นทวั่ ไป ทีไ่ ม่ใช่ช่างภาพอาชีพ เชา่ ไฟ สตูดิโอ มาใชถ้ า่ ยงานสว่ นตวั กเ็ ปน็ เรื่องทีไ่ มย่ ากแล้ว
6 แบบท่2ี คอื “ไฟสตดู โิ อ แบบไฟตอ่ เนอื่ ง” บางคนเรยี ก “ไฟสตดู โิ อ Softbox” ไฟสตูดิโอ แบบไฟตอ่ เนื่อง เป็นไฟที่มีแสงสวา่ งตลอดเวลา ซึ่งหลอดไฟ ทเี่ ปน็ หลอดไฟต่อเน่ือง มหี ลาย ชนิด มีทง้ั แบบ หลอดฟลอู อเรสเซน, หลอด LED, LED COB ฯลฯ ซง่ึ จะเปน็ “ไฟถ่ายวดี ีโอ” เพื่อใช้ถ่ายงาน ภาพเคลอ่ื นไหว งานถา่ ยวดี โี อ เปน็ หลกั ซ่งึ ในชว่ งเร่มิ แรก ไฟสตูดโิ อ แบบไฟต่อเนื่อง ตวั ด้านใน Soft Box จะมีช่องเสยี บหลอด แบบ e27 ที่เป็น ขว้ั หลอดไฟมาตรฐานทวั่ ไป ซ่ึงทำใหเ้ รา สามารถทีจ่ ะ เอาหลอดฟลูออเรสเซนต์ แบบตะเกยี บ หรือแบบขด เกลยี ว มาใสก่ ็ได้ แต่ก็มี ผผู้ ลติ หลอดไฟ ผลติ หลอดฟลูออเรสเซนต์ ความสวา่ งสงู สำหรบั งานถ่ายภาพ/วีดโี อ บางทเี รียกว่า photo ฟลอู อเรสเซนต์ มีขนาดต้ังแต่ 35 วัตต์ ไปจนถงึ 150 วตั ต์ ต่อดวง และได้พัฒนา ตวั ข้วั เสยี บ ด้านใน softbox มีไดม้ ากถึง 5 ข้ัวขนึ้ ไป ซ่ึงถ้าลองคำนวณ ใช้หลอด 150 วัตต์ คูณจำนวน 5 ดวง ก็จะ ได้ 750 วัตต์ สามารถทำความสว่างไดถ้ ึง 18,000 lumen ซ่งึ นับว่าสว่างมากๆ ไฟของทางร้าน Sonlightstudio ทมี่ จี ะเป็นชุด Set G ตอ่ มามีการพัฒนาหลอด LED เป็นแบบรูปทรงฝักข้าวโพด ข้วั e27 เพ่ือ สามารถที่จะเสียบกับ ชอ่ งเสียบหลอดแบบเดิมได้ หลอด LED ซ่งึ กินไฟน้อยลง และความสว่างเพิม่ ข้นึ ทั้งตวั ไฟสตดู ิโอ แบบฟลูออเรสเซ้นตแ์ ละแบบหลอด LED สง่ ผักขา้ วโพด จะใช้ซอฟบ๊อกที่มากับตัว ฐานของหลอด ซงึ่ ทำให้ ไมส่ ามารถใช้ ซอฟบ๊อกแบบอืน่ ๆได้ ภาพที่ 5 ตวั อยา่ งไฟ ที่มา : https://www.nationsphotolab.com/blog/tips-selecting-photography-studio-space/ วนั ทส่ี บื คน้ 1 ตลุ าคม 2564
7 ต่อมากม็ ีหวั ไฟสตูดิโอ แบบ LED COB เขา้ มา ซึ่ง COB ย่อมาจาก Chip On Board คือรูปแบบชปิ LED สมัยใหม่ที่มีการนำเอาชิปหลายๆตวั มารวมกันไว้ในแผ่นเดยี ว เพื่อเพ่ิมค่าความสวา่ ง ลดต้นทนุ การผลิต และสะดวกต่อการระบายความร้อน และการนำไปใชง้ าน ตัวไฟจะมาในรูปทรงของหัวไฟ ทรงคล้ายกบั ไฟ แฟลชสตดู ิโอท่ัวไป ซง่ึ จะเรยี ก ไฟสตดู โิ อ แบบ LED COB วา่ ไฟสตดู โิ อ Monolight ก็ได้ และ ไฟสตูดโิ อ Monolight น้ี ตรงหวั ไฟ จะมีข้วั ต่ออุปกรณ์กระจายแสงแบบ Bowen ทำใหเ้ ราสามารถ นำอุปกรณก์ ระจาย แสง ทีใ่ ชก้ บั ไฟสตูดโิ อแบบแฟลช มาใช้กับหัวไฟแบบนี้ไดท้ ั้งหมด เชน่ ซอฟบ๊อกขนาดต่างๆ, สนูท, ซอฟบอ๊ ก 8 เหล่ียม, ซอฟบ๊อกทรงกลม Lantern ฯลฯ นอกจากนั้น เม่อื หัวไฟสตูดิโอใช้หลอด LED ทกี่ ินไฟน้อย ผู้ผลติ ก็ ผลติ หัวไฟสตดู ิโอ แบบทใ่ี ช้แบตเตอร่ี ไม่ตอ้ งต่อปลั๊กไฟ ได้เล็กกระทดั รดั แต่ใช้งานไดย้ าวนาน ทำให้สะดวก ในการนำไปใช้งานนอกสถานที่กไ็ ด้ นอกจากนี้ ตัวไฟสตูดิโอ Monolight ยงั เป็นไฟท่ีควบคมุ ค่า CRI ไดด้ ีมากๆ (คา่ CRI หรอื เรยี กวา่ ค่าความเท่ยี งตรงของแสง เพอ่ื ใหไ้ ด้สีจริง แสงไมเ่ พ้ียน) ไฟ LED Monolight ยังมีความ สวา่ งสูงมาก หวั ไฟขนาด 150 ก็มคี วามสวา่ งขนาด 15000 lumen ซงึ่ สวา่ งกวา่ ไฟสตูดโิ อ softbox เม่ือเทียบ เฉลีย่ ตอ่ วตั ต์ ขากลอ้ ง : ขาตัง้ กล้องจัดเปน็ ส่งิ ท่มี คี วามสำคญั มากและขาดไม่ไดเ้ ลย เพราะวา่ ถา้ จะตอ้ งไปถา่ ยรปู ในท่ีใด นานๆตลอดท้ังวัน หรือการถ่ายรปู ววิ บางครงั้ ต้องใช้เวลารอแสงหรือองคป์ ระกอบครบจงึ จะไดภ้ าพทส่ี วย โดย ทเี่ ราไมต่ ้องมาถือกล้องไว้ตลอดใหเ้ มอื่ ย ช่วยให้ภาพมีความนง่ิ และคมชดั มากข้ึน ช่วยในการตัง้ กล้องถา่ ยภาพ ในสถานการณท์ ่ยี ากลำบากต่อการถอื กลอ้ งถ่าย ชว่ ยให้มโี อกาสในการได้ภาพจากสภาพของแสงที่ตำ่ หรือภาพ จากการใช้ ISO ตำ่ ในการถ่าย 1. ความสูงของขาตงั้ กลอ้ ง การเลือกความสูงของขาต้องกล้องนั้นข้นึ ตรงกบั สรรี ะความสูงของผ้ใู ช้ เพราะเวลา เราใชง้ านกล้องจะต้องอยู่ในระดบั ใกล้เคียงกับสายตาเราที่มองเขา้ ไปในช่องมองภาพ ซงึ่ มีวธิ ดี ูก็คอื นำความสูง ของเราลบด้วยความสงู ของขาตัง้ กล้องเม่ือกางสูงสดุ โดยไม่ยืดแกนกลาง ไม่ควรมากกว่า 10 เซนตเิ มตร เช่น หากคณุ สงู 155 เซนติเมตร ขาตงั้ กล้องที่เหมาะสมกับคุณ ควรสงู ประมาณ 145 เซนติเมตร จะทำใหเ้ รา สามารถถ่ายภาพโดยไม่ต้องก้มแล้ว ยงั ให้ความม่นั คงมากกว่าการยดื แกนกางขึน้ แตป่ ัจจุบนั การถา่ ยภาพโดย ระบบ Live View ไม่ว่าจะในกล้อง DSLR หรือ Mirrorless มีการออกแบบหนา้ จอให้สามารถฟลบิ ได้ เพ่ิม ความสะดวกสบายในการถ่ายภาพให้มากข้ึน ซงึ่ ระยะความสูงของขาตัง้ กล้องกไ็ มไ่ ด้เป็นผลในกล้องรุ่นใหม่สัก เท่าใด 2. การรบั นำ้ หนักของขาต้ังกลอ้ ง ขาต้ังกลอ้ งท่ดี คี วรมีความแข็งแรงและมนั่ คงสามารถรับนำ้ หนกั ของกล้องได้ เปน็ อย่างดี โดยวธิ ีการคำนวณนำ้ หนกั ขาตง้ั กล้อง จะคดิ จาก “บอดกี้ ลอ้ ง+เลนสท์ ่มี นี ำ้ หนักมากท่สี ุดท่ผี ใู้ ช้ม+ี แบตเตอร่ี,กรปิ ,แฟลชหรือ อุปกรณอ์ ่ืนๆ(ถ้ามี)” โดยผู้ใช้สามารถเช็คนำ้ หนักของพวกอุปกรณต์ ่างๆทม่ี ีไดจ้ ากใน เวบ็ ไซต์ของแบรนด์นน้ั ๆ โดยขาตงั้ กล้องควรจะรับนำ้ หนักได้ 2 เทา่ จากนำ้ หนักกล้องและอุปกรณท์ ้ังหมด
8 3. จำนวนทอ่ นขา จำนวนทอ่ นของขาตั้งเป็นอกี เรื่องหนึ่งท่ีสำคญั เพราะมนั จะเกี่ยวข้องกบั การพกพา ปัจจุบนั ขาตง้ั กล้องในตลาดจะมีตั้งแต่ 3 ทอ่ นไปจนถึง 5-6 ท่อน ซงึ่ ขาตง้ั กล้องท่ีมจี ำนวนทอ่ นเยอะจะสะดวกในการ พับเกบ็ สามารถหดไดส้ น้ั พกพาได้ง่าย แตเ่ สียตรงท่ี การมีท่อนขาทม่ี ากจำนวนตวั ลอ็ คก็จะมากตามไปด้วย จะ เกดิ การสัน่ ไหวได้ง่ายกว่าขาตั้งกล้องที่มีจำนวนท่อนน้อย ภาพท่ี 6 ขาตงั้ ไฟ ทม่ี า : https://www.nationsphotolab.com/blog/tips-selecting-photography-studio-space วนั ทสี่ ืบคน้ 1 ตลุ าคม 2564 กลอ้ งฟลิ ์ม แนะนำกล้อง แบบแรกกันก่อน กอ่ นท่ีจะมาเป็นกลอ้ งดจิ ิตอลในปจั จุบนั มีกล้องท่ีเกดิ มากอ่ นคือ กล้องฟิล์ม กลอ้ งฟิล์มมีววิ ัฒนาการมาเปน็ ร้อยปกี ่อนจะมาเปลี่ยนเปน็ ดจิ ติ อลในชว่ ง 10 กว่าปนี ้เี อง หลายๆ คนน่าจะมโี อกาสได้ใช้ กลอ้ งทใ่ี ช้ฟลิ ์มมีหลายแบบท้งั Large format , Medium format , Rangefinder และ ท่ไี ดร้ บั ความนิยมอยา่ งแพรห่ ลายคอื SLR กลอ้ งแบบน้ีสามารถเปล่ยี นเลนส์ได้เรยี กว่า single lens reflex (SLR) reflex แปลวา่ สะท้อน หมายความวา่ เมื่อเรามองเขา้ ไปท่ีช่องมองภาพ (Viewfinder) เราจะเห็นภาพ ผา่ นเลนสโ์ ดยกระจก (Mirror) สะทอ้ นภาพที่อยูภ่ ายในตวั กล้อง เมอื่ เรากดชัตเตอรถ์ ่าย กระจกจะยกขึ้น แสง จะเข้าสู่ฟิล์ม เป็นอนั จบกระบวนการการบันทึกภาพ แลว้ จากนน้ั จงึ นำฟลิ ์มไปลา้ งและอัดเปน็ รปู หรอื สมัยนีน้ ำ ฟลิ ม์ ท่ีลา้ งแลว้ ไปสแกนและเปดิ ดใู นคอมได้
9 กลอ้ งดจิ ติ อล (DSLR) แนะนำกล้อง ตัวตอ่ มา เป็นกลอ้ งดจิ ติ อลแบบเปลยี่ นเลนส์ได้ (Digital single lens reflex : DSLR) ได้รับการ พัฒนามาจากกล้องฟิล์ม (SLR) โดยใชเ้ ซนเซอรใ์ นการรบั แสงแทนฟิล์ม มชี ิพประมวลผลแปลงค่าสัญญาณที่ไดจ้ ากเซนเซอร์มาสรา้ งเป็นภาพ มีโหมดออโต้ให้ใชง้ านและยงั ใช้โหมดเแม นวลเพ่อื ตง้ั ค่าตา่ งๆ ไดเ้ อง มีระบบออโตโ้ ฟกัส เพอ่ื ชว่ ยให้โฟกัสได้แม่นยำและเร็วขึน้ ต่างจากกล้องฟลิ ์มท่ีต้อง หมนุ เลนสห์ าความชัดดว้ ยตัวเอง ทำให้ช้าและบางครั้งอาจจะโฟกัสผดิ จดุ ได้ ตอ้ งใช้พลังงานจากแบตเตอร่ี ตา่ ง กบั กล้องฟิลม์ ที่ไม่ตอ้ งใช้ก็นำมาถ่ายไดเ้ ลย แต่ยงั ใช้กระจกสะทอ้ นในการมองภาพเช่นเดิม เปลย่ี นเลนสไ์ ด้ ข้อดี ของการเปลี่ยนเลนส์ไดค้ ือสามารถเลอื กช่วงความยาวโฟกัสของเลนส์ให้เหมาะสมกบั สถานการณ์ เชน่ ไปเทย่ี ว ในเมืองทีม่ ีตึกสูงหรอื ถ่ายววิ ทว่ั ไป เลนส์ที่ให้มากับกลอ้ งอาจจะเก็บภาพได้ไม่หมดตามที่เราต้องการ เราจงึ ต้อง เปล่ยี นเปน็ เลนสม์ มุ กว้าง (Wide) หรอื อยากจะถ่ายส่ิงที่ไกลๆ กต็ อ้ งใชเ้ ลนสเ์ ทเล (Tele) เพ่อื ขยายภาพให้ใหญ่ ข้นึ เลนสเ์ ทเล จริงๆ แล้วไมไ่ ดเ้ รียกว่า เลนส์ซมู นะ เลนสซ์ มู หมายถึงเลนส์ทเ่ี ปลยี่ นชว่ งทางยาวโฟกัสได้เชน่ 18-55 mm , 70-200mm สว่ นเลนสท์ เี่ ปล่ยี นทางยาวโฟกัสไม่ได้เรียกว่าเลนสฟ์ กิ ซ์ (Fix) ตาของคนเราขา้ ง เดียวมีมมุ รบั ภาพเท่ากบั เลนส์ 50mm เรยี กว่าเลนส์นอมอล (Normal) ส่วนทมี่ ากกว่า 50 mm เรยี กว่าเลนส์ เทเล นอ้ ยกว่าเรียกว่าเลนส์มุมกวา้ ง (Wide) ไหนๆ กบ็ อกไปแลว้ ว่าตาขา้ งเดียวเท่ากับ 50 mm เดี๋ยวจะมคี น อยากรู้วา่ แล้ว 2 ขา้ งล่ะเทา่ กับเท่าไร บอกต่อก็ได้วา่ ตา 2 ข้างเท่ากับ 35 mm เราสามารถนำเลนส์ตัง้ แตส่ มยั กลอ้ งฟิลม์ มาใสใ่ นกล้องดจิ ิตอลได้ บางย่หี อ้ ใส่ไดเ้ ลยโดยตรง แต่ถา้ ใสโ่ ดยตรงไมไ่ ด้ ต้องใชอ้ แดปเตอรม์ าต่อ กอ่ นจึงจะใส่ได้ กลอ้ ง DSLR ใช้เซนเซอรร์ ับภาพแบ่งเปน็ 2 แบบหลักๆ ตามขนาดคือใชเ้ ซนเซอร์เท่ากบั ฟลิ ์ม 35 มม. เรยี กวา่ กล้องฟลู เฟรม และเซนเซอรอ์ ีกแบบทม่ี ีขนาดเล็กกว่าเรียกวา่ กลอ้ งตัวคูณ (APS-C) คอื เม่ือเรา นำกล้องตวั คูณมาถา่ ย ช่วงทางยาวโฟกัสทบี่ อกบนเลนส์ และมุมรับภาพ จะไมเ่ ท่ากบั ท่ีใช้กบั กล้องฟลู เฟรม เชน่ ใช้เลนสท์ างยาวโฟกัส 100 mm กล้อง Canon ต้องคูณ 1.6 เทา่ กบั ว่าชว่ งทางยาวโฟกสั และมมุ รบั ภาพท่ี แทจ้ รงิ จะเท่ากับ 160 mm สว่ นNikon คณู 1.5 เท่ากับ 150 mm กลอ้ งตัวคูณจะไดเ้ ปรียบกลอ้ งฟลู เฟรม เม่อื ถ่ายวัตุท่ีอยู่ไกล จะได้ขนาดท่ีใหญก่ ว่าเมือ่ ยนื เท่ากนั เซนเซอร์ถือว่าเป็นหวั ใจสำคัญของกล้องดจิ ิตอล เซนเซอร์ฟูลเฟรมให้คณุ ภาพโดยรวมทดี่ กี ว่า แบบตวั คูณไม่วา่ จะเปน็ สี มติ ิความชดั ตื้น (หน้าชดั หลงั เบลอ มากกวา่ ) สัญญาณรบกวน (Noise) เม็ดจดุ สีเลก็ ๆ ทม่ี องเห็นได้ในภาพเมื่อใชค้ วามไวแสง (ISO) สงู ๆ ดงั นัน้ กล้องฟลู เฟรมส่วนมากจะมรี าคาสงู บนเซนเซอรจ์ ะมีเมด็ pixel จำนวนมากอยู่ บอกถึงความละเอียดและ ขนาดของภาพ เช่น Canon 6D มีความละเอยี ด 20 ล้านพิกเซล ในยุคแรกๆของกล้องดิจติ อลแต่ละค่ายจะ แขง่ กนั ผลติ กลอ้ ง และโฆษณาเกทบั กนั ผลติ กล้องทมี่ คี วามละเอียดสงู กวา่ อีกค่าย จนเรียกว่าสงครามพิกเซล และสงครามจบลงตั้งแต่ผลติ กันไดท้ ่ี 8-10 ลา้ นพิกเซลแล้ว ในปจั จุบนั แทบจะไมต่ ้องไปใส่ใจกบั จำนวนพิกเซล แล้ว เพราะแค่ 12 ล้านพิกเซลกเ็ พยี งพอต่อการใช้งานท่วั ๆ ไป
10 กลอ้ ง DSLR สำหรับมืออาชีพ และระดบั ผูใ้ ช้งานท่ัวไปนอกจากขนาดเซนเซอร์แล้ว ยงั มีเรอื่ งระบบโฟกัสที่ กลอ้ งระดบั มืออาชพี จะแมน่ ยำและรวดเรว็ กวา่ ปมุ่ ควบคุมต่างๆ จะมีมากและใชง้ านไดค้ ลอ่ งตัว ในขณะท่ี กล้องระดับใชง้ านทั่วไปอาจต้องเขา้ ไปปรบั ทห่ี น้าจอเมนู วัสดุท่ใี ช้ทำตวั กลอ้ งระดับมืออาชีพจะเปน็ โลหะท่ีมี ความทนทานต่อสภาพอากาศและพนื้ ทตี่ า่ งๆ ได้ดี กลอ้ งมเิ รอรเ์ ลส (Mirrorless) คอื กล้องถ่ายรปู ที่ได้รับการพัฒนาต่อยอดมาจากกล้อง DSLR เปล่ียนเลนสไ์ ด้ เหมอื นกนั แต่จดุ ทีส่ ำคัญ คือ ตดั กระจกสะท้อนภาพออก ทำให้ไดต้ วั กล้องที่มีขนาดเล็กลงและมีนำ้ หนักเบา พกพาสะดวก เลนสท์ ี่ใชก้ ็มขี นาดเลก็ ลงตามไปดว้ ย เม่อื ไม่มีกระจกสะท้อนภาพจำเปน็ ต้องใชจ้ อ LCD ในการ ถ่ายภาพ หรอื ใชช้ อ่ งมองภาพแบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Viewfinder) ผลทตี่ ามมาทำให้แบตหมดเรว็ ควรจะซื้อแบตเพ่ิมเลยหากจะใช้กล้องมิเรอรเ์ ลส ส่วนใหญใ่ ช้เซนเซอร์แบบตวั คูณ (APS-C) แตม่ ี Sony ทผ่ี ลติ กล้องมเิ รอร์เลสที่ใช้เซนเซอร์แบบฟลู เฟรม (ข้อมลู ปี 2015) ยังมเี ซนเซอร์อกี แบบคือ Micro Four Thirds เป็น เซนเซอร์ที่มสี ัดสว่ นภาพ 4:3 ต่างจากปกตทิ ่เี ป็น 3:2 ข้อดีของเซนเซอรแ์ บบน้ีคือ สามารถใชเ้ ลนส์ร่วมกนั ได้ หมดถึงแม้วา่ จะคนละยห่ี ้อกต็ าม ปัจจบุ นั ยี่ห้อท่ี Micro Four Thirds ได้แก่ Olympus, Panasonicกลอ้ ง ถ่ายภาพยนตร์ กลอ้ งถ่ายภาพยนตร์ เป็นกล้องท่ีใช้สำหรบั บันทึกภาพเคล่อื นไหวลงสอื่ บันทึกต่อเน่ืองเช่นมว้ น ฟลิ ม์ วิดีโอเทป แผน่ ซีดี หรือสอ่ื ดจิ ทิ ัลอืน่ ภาพที่ 7 กลอ้ ง ที่มา : https://www.nationsphotolab.com วนั ทสี่ บื คน้ 1 ตลุ าคม 2564
11 เลนส์ : คอื วตั ถทุ ที่ ำจากแกว้ ชนดิ ดีมลี ักษณะกลม ผวิ เรียบ แบ่งได้ 2 ชนดิ คือ เลนส์นนู และเว้า ใชท้ ำหนา้ ท่ี รับภาพและรับแสงจากภายนอกตวั กล้องไปยงั วสั ดไุ วแสง(Sensitive Material) ฟิลม์ ท่ีบรรจุไว้ภายนอก ตวั เครอ่ื งทำหน้าท่ีเหมือนเปน็ ดวงตาหากกล้องถ่ายภาพปราศจากเลนส์ จะเปน็ กล้องที่สมบูรณ์ไม่ได้เลนส์ของ กล้องถ่ายภาพมีหลายชนดิ ท้ังนี้ เพ่ือใหเ้ หมาะสมกบั การท่ี จะนำไปใชใ้ นงานแตล่ ะประเภทก่อนทจ่ี ะกล่าวถึง คุณสมบัติของเลนส์ต้องทำความเขา้ ใจเกย่ี ว กบั เลนส์ของภาพว่ามคี วามแตกต่างอย่างไรบา้ ง ขนาดขอความ ยาวโฟกัส หรือความยาวระยะ ชัด (Focal Lenght) ช่วงความนีจ้ ะเขยี นไวท้ ขี่ อบตวั เลนส์ เพอื่ ทจ่ี ะแสดงให้ผู้ท่ี จะใช้เลนส์ได้ มีความสะดวก ความยาวโฟกัสของเลนสน์ ้จี ะมีเขยี นไวเ้ ป็นตวั อักษรย่อวา่ \"F\" และมีตัวเลขบอก ความยาวไวม้ ีหนว่ ยเป็นมลิ ลเิ มตรหรอื นิว้ ความยาวโฟกัส คอื ความยาวระยะทางที่วัดได้จาก เลนส์แผน่ ฟลิ ์มท่ี อยู่ บนกลอ่ งพนื้ ที่ราบมีรังสแี สงสว่างผ่านเลนสเ์ ข้าไปสรา้ งภาพคมชัด บนแผน่ ฟิล์มวดั จากแกนมมุ ของเลนส์ ขนาดท่ีโฟกัส ตงั้ ไว้ระยะที่ไกลสุดซ่งึ ภาพของภาพวัตถจุ ะปรากฎ ชัดที่สุด โดยปกติระยะความยาวของเลนส์ มาตราฐานมคี วามยาวของเส้นแทยงมมุ ของภาพที่ ปรากฎบนฟลิ ม์ ของกล้องถ่ายภาพความยาวโฟกัสของ เลนสจ์ ะมีผลตอ่ การถา่ ยภาพคือ เลนส์ ถา่ ยภาพใดกต็ ามที่มีความยาวโฟกัสของเลนส์ ยงิ่ ยาวย่งิ ทำใหม้ มุ ของ การถ่ายภาพแคบ และช่วยย่นระยะของทางที่มองเหน็ ใกล้เขา้ มาเลนส์ดงั กลา่ ว ได้แกเ่ ลนส์ถ่ายไกลเปน็ ตน้ นอกจาก นี้เลนสท์ ี่มีความยาวโฟกัส แตกตา่ งกันนอกจากสร้างผลทางภาพให้มขี นาดต่างกัน ยังสรา้ งผล ทาง ชว่ งความชัดใหม้ ีความแตกต่างความยาวโฟกัสยงิ่ ยาวมากความชดั ยิ่งมากย่ิงตรงกนั ข้าม ชว่ งความชัดยงิ่ สน้ั มา เท่าใดช่วงความชดั ของมากจะมมี ากข้ึนเทา่ น้ันดังนัน้ สรปุ ได้วา่ ความยาวของโฟกัสของเลนส์มผี ลต่อการ ถา่ ยภาพ 2 ประเภท 1. ทำให้มมุ ของภาพ กว้างหรือแคบได้ 2. ทำให้ความชดั มีมากหรือน้อยลงได้ ช่องรับแสงของเลนส์ (Aperture) ขนาดของชอ่ งรับแสง หรอื เลขหน้ากล้องจะบอกไวท้ ี่ขอบเลนส์โดยเฉพาะ อย่างยง่ิ ในเลนส์ ท่ีปรับขนาดของช่องรบั แสง สามารถปรบั ให้เล็กหรอื โตตามต้องการจงึ ทราบไดจ้ ากตัวเลข ท่ี เขียนบอกไว้ การปรบั ช่องรบั แสงใหเ้ ล็ก หรอื โตข้นึ มผี ลตอ่ การถา่ ยภาพ 2 ประการคือ 1. ทำให้แสงสวา่ งผา่ นเลนส์เข้าไปในกล้องไดม้ ากขนึ้ เมือ่ ตงั้ F/stop ไว้ท่คี า่ ตวั เลขนอ้ ยแส สวา่ งจะผา่ นเขา้ กลอ้ งได้น้อย เมอื่ ต้ังคา่ ไวท้ ตี่ วั เลขมากช่องรบั แสงเล็ก 2.การตง้ั ชอ่ งรับแสงเล็กภาพท่ีได้ทชี่ ่องความชดั มาในทางตรงกันขา้ มถา้ ต้งั ช่องรับแสง โดยภาพท่ีไดช้ ่องความ ชดั จะนอ้ ยลงไป
12 จากการที่ทราบขนาดของเลนส์ท่ีกล่าวไปแล้วน้นั แบง่ เลนส์ของกลอ้ งออกตามคุณสมบัติของเลนส์ได้ คือ 1. เลนสม์ าตราฐาน (Standerd Lens) เปน็ เลนส์ที่มีคุณสมบตั ิใช้ถ่ายภาพทว่ั ไปภาพท่ีได้เหมือนกับทตี่ าคน มองดูทว่ั ไป เปน็ เลนสข์ นาดความยาวโฟกสั 50 มม. 2. เลนสถ์ า่ ยไกล (Telephpto Lens) เป็นเลนสเ์ หมือนกล้องส่องทางไกล เป็นเลนส์ทม่ี ีความยาวของโฟกสั ยาว กวา่ เลนส์ธรรมดามากทำใหม้ ุมการถ่ายภาพแคบลง คือ ทำหนา้ ที่ขยายภาพทีอ่ ยู่ไกลใหโ้ ตขน้ึ เสมอื นหนึง่ ทีไ่ ป ตงั้ อยู่ใกล้ ๆ กบั วตั ถุที่ถา่ ย สะดวกในการถ่ายภาพส่งิ ท่ีอยู่ไกล ซง่ึ ขณะนัน้ ผู้ถ่ายไมส่ ามารเขา้ ไปต้งั กลอ่ งใน ระยะ ใกล้ ๆ กับวัตถุน้ันได้ เชน่ การถ่ายภาพสงคราม การแขง่ กีฬา การถ่ายภาพสตั วน์ ำ้ เช่น เลนสท์ ี่ขนาด ความยาวโฟกัส 135 มม. , 500 มม. , 1000 มม. 3. เลนส์มุมกว้าง ( Wid – angle lens) เปน็ เลนสท์ มี่ คี วามยาวโฟกัส สนั้ กว่าเลนสธ์ รรมดา จึงทำให้มุมของการ ถ่ายภาพได้กว้างกวา่ ใชเ้ ลนส์ธรรมดาถา่ ยมาก มีความชัดมากสิง่ ทอ่ี ยู่ใกลจ้ ะเห็นวา่ โตและไมไ่ ด้กับส่วนที่อยู่ไกล ใช้ถ่ายในสถานท่ีอันจำกัดไม่สามารถตง้ั กลอ้ งใหห้ ่างจากท่ีถ่ายได้มาก เช่น การถ่ายภาพสง่ิ กอ่ สร้างสงู ๆ หรือ ยาวมาก ๆ ซ่ึงต้องการถา่ ยอยู่ในภาพท้งั หมด เบื้องหลังของผูถ้ า่ ยมสี ิ่งกีดขวางไมส่ ามารถถอยไปได้อกี เชน่ ติด กำแพง แมน่ ำ้ ในกรณีนี้จำเป็นตอ้ งใช้เลนสข์ นาด ความยาวโฟกสั 16 มม. 18 มม. , 24 มม. , 35 มม. 4. เลนส์ตาปลา ( Fish eye lens) เปน็ เลนส์ที่มลี ักษณะคล้ายตาปลาที่ว่ายในน้ำเป็นเลนสท์ กี่ นิ มุม ในการ ถา่ ยภาพได้กวา้ งกว่าเลนส์ทกุ ชนิด คือกว้างถึง 180 องศา เพ่อื ใหเ้ กิดภาพนนั้ ผิดแผนกแตกตา่ งไปจากภาพถ่าย ธรรมดา และตอ้ งการให้ภาพสะดดุ ตาแกผ่ ้ชู มภาพ มุมของการถ่ายภาพจะกวา้ งกว่าธรรมดามากประมาณ 3-4 เท่า สิง่ ทต่ี ้องระมัดระวังในการถา่ ยภาพชนิดน้ี คือเท้าของผู้ถ่ายจะติดอยูใ่ นภาพ ถา้ ผถู้ ้ายืนในรัศมีของภาพนน้ั วตั ถุถา่ ยดา้ นข้างในภาพจะดใู หญโ่ ตนา่ เกรงขาม เลนส์ชนิดน้ี จะให้ชว่ งความชดั ลกึ มาก ไมม่ เี ลนสช์ นดิ ใดทำได้ แมต้ ้งั ระยะถ่ายไกลสดุ ก็ตาม เช่น เลนสท์ ขี่ นาดความยาวโฟกัส 6 มม. , 8 มม. 5. เลนส์ซูม ( Zoom lens ) เปน็ เลนส์ทม่ี หี ลายชนดิ รวมอยู่ในตัวเดยี วเลนสม์ รี าคาค่อนข้างสงู นยิ มใช้มากใน ปัจจบุ นั ทั้งในการถา่ ยภาพนิ่งและถ่ายภาพยนตร์ตลอด จนกล้องโทรทัศน์ เลนสท์ ำหน้าท่ีเสมือนเปน็ เลนสไ์ กล และเลนสธ์ รรมดา และเลนสม์ มุ กล้องอยู่ในตวั เดยี วสามารถเลือกใชร้ ะยะโฟกัสเทา่ ใดก็ไดต้ ามทีเ่ ลนส์น้นั บอก ไว้ ซึ่งเลนสท์ ่ัวไปไม่สามารถทำได้ เป็นเลนส์ที่ขนาดความยาวโฟกสั 70 -250 มม. , 85 - 300 มม. , 800 - 1200 มม 6. เลนส์แมคโคร ( Macro Lens) คล้ายกับเลนส์ทั่วไปแต่ไม่สามารถใชถ้ ่ายภาพระยะใกล้มาก ๆ เป็นเลนสท์ ่ี สามารถถ่ายภาพ โดยกลอ้ งสามารถเข้าใกลว้ ตั ถุได้เกนิ คร่งึ ฟตุ ได้ และสามารถปรับระยะชดั ได้ เลนสแ์ มคโคร ผลิตขึ้นเพอ่ื ใชก้ ับกล้องงขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ปจั จุบนั มักทำออกมาเป็นแบบของซมู เลนส์ เป็นเลนส์ท่ีขนาด ความยาวโฟกัส 55 มม. ขยายภาพได้ 1:2 เทา่ สว่ น
13 รเี ฟค : เป็นอปุ กรณ์ที่ใชส้ ำหรับการสะท้อนแสงหรือควบคุมแสงและสามารถลบเงาในบริเวณทีไ่ มต่ ้องการได้ หลกั การใชง้ านคือการใหร้ เี ฟคสะท้อนกลับแฟรชหรือไฟ เพอื่ ให้เกดิ การการสะท้อน ภาพที่ 8 รเี ฟค ทม่ี า : https://www.ilovetogo.com/shop/Blog/Detail/use-reflector-like-a-pro วนั ทส่ี ืบคน้ 1 ตลุ าคม 2564 ไมค์ : แบง่ ออกเปน็ 3 ประเภท ไมคท์ ตี่ วั กลอ้ งเปน็ ไมค์ท่ีมาพร้อมกบั กลอ้ งคุณภาพพอใชง้ านไดแ้ ต่ไมต่ อบโจทยใ์ นการใช้งานแบบจริงจัง 1. ไมค์ wireless เชน่ การสมั ภาษณ์อย่างใกล้ชิด การบันทกึ รายการโทรทศั นน์ อกสถานที่ หรอื การแสดง ละครเวที ซงึ่ ต้องการใหม้ ือท้ังสองขา้ งของผูพ้ ูดวา่ ง เพ่อื ทำกิจกรรมหรือท่าทางประกอบ, จะมีการใช้ ไมโครโฟนไรส้ ายชนิดพเิ ศษ เรยี กวา่ ไมคห์ นบี ปกเสื้อ, ซง่ึ สว่ นไมโครโฟนที่ใชร้ บั เสยี งจริงๆ มขี นาดเล็ก และแยกอย่ตู า่ งหาก จะหนบี ซอ่ นไว้ท่ีบรเิ วณคอเสอ้ื ของผู้พูด และมีสายเช่อื มไปยงั กล่องบรรจุ เคร่ืองสง่ วิทยุพรอ้ มแบตเตอร่ี ซึ่งสวมไวท้ ่ีบรเิ วณเข็มขัด, เพ่ือทำให้การพูดดเู ปน็ ธรรมชาติ และไม่มี อปุ กรณร์ บกวนสายตาผู้ชม 2. ไมคต์ ดิ กลอ้ ง คอื ไมคท์ ่ีแยกจากตวั กล้องแต่ไมเ่ หมือนกับไมค์ wireless จะมคี ณุ ภาพทด่ี ีกว่าไวใ้ ช้ตอน ถา่ ยวดิ ที ัศน์
14 3. ไมโครโฟนบูม ไมโครโฟนบมู เปน็ ไมโครโฟนทิศทางท่ีตดิ ตงั้ หรือยดึ ตดิ กบั เสาหรือแขน สว่ นใหญ่ใชใ้ น ภาพยนตร์และโทรทัศนไ์ มโครโฟนบูมช่วยให้มอื ของนักแสดงหรอื นักขา่ วในขณะที่พวกเขาเพลดิ เพลนิ ไปกบั เสยี งท่ีขยายของไมโครโฟนแบบดั้งเดมิ ไมโครโฟนบูมสามารถใชเ้ พื่อขยายการสนทนากลมุ่ ได้ เนื่องจากสามารถวางตำแหนง่ เพ่ือใหไ้ ดย้ ินเสียงของทุกคนบูมไมคน์ ั้นง่ายพอท่จี ะเปน็ แฟชั่นสำหรบั การผลติ มือสมัครเล่น สามารถใชด้ ้ามไมก้ วาด, ไมโครโฟนหรอื เสาตกปลาเพอื่ ยึดไมโครโฟนให้สูงข้ึนได้ ในความเปน็ จริงในการตัง้ ค่าเสาน้ีมักจะเรียกวา่ เสาปลา ข้อกังวลประการหน่งึ ของไมโครโฟนประเภท นค้ี ือการส่นั สะเทือนท่ีอาจทำลายคณุ ภาพเสยี ง ไมโครโฟนบมู มีความไวพอที่จะรบั การส่ันสะเทือนที่ไม่ ต้องการเช่นมอื ท่ีไม่ม่ันคง เพื่อป้องกนั ส่งิ นี้ไมโครโฟนบมู ควรมกี ลไกการแยกบางประเภทเช่นการ บุโฟมหรือสารแขวนลอยแบบยืดหยุนมีปัญหาบางอย่างท่ีต้องพิจารณาขณะทำงานกบั ไมโครโฟนบูม ผู้ ท่ีใช้ไมโครโฟนบูมตอ้ งระวังว่าจะไม่คืบเขา้ ไปในช็อตซง่ึ ทำให้ผชู้ มเสยี สมาธิและดไู มเ่ ปน็ มืออาชพี เพือ่ ใหไ้ ดเ้ สียงท่ดี ีท่สี ดุ ควรเก็บไมโครโฟนบูมไวใ้ กล้กับผูพ้ ดู ทส่ี ุดเทา่ ทจี่ ะทำได้โดยไม่ต้องมองเห็นบน แผน่ ฟลิ ม์ เนื่องจากไมโครโฟนบูมบางรุ่นใช้พลังงานจากแบตเตอร่ีจึงเปน็ ส่ิงสำคญั ท่ีจะต้องตรวจสอบ ใหแ้ น่ใจวา่ ได้ชาร์จแบตเตอรแี่ ลว้ ก่อนเรม่ิ ถ่ายทำ บางครงั้ ไมโครโฟนบมู จำเปน็ ต้องมที ีมเพ่ือทำงาน อย่างถูกต้อง ตัวอยา่ งเช่นเม่ือถ่ายภาพวตั ถทุ ี่กำลงั เดินไปขา้ งหน้าคนทถ่ี ือไมโครโฟนบูมจะตอ้ งเดิน ถอยหลัง เพ่ือหลีกเลยี่ งการล้มหรือจบลงด้วยไมโครโฟนบมู ในการยิงผ้คู วบคุมเครื่องอาจต้องการผู้ชว่ ย ในการแนะนำเขา ภาพที่ 9 ไมค์ ทม่ี า : https://www.ilovetogo.coท วนั ทส่ี ืบคน้ 1 ตลุ าคม 2564
15 4.ขน้ั ตอนการผลติ ภาพยนตร์ CG ส่วนมากจะสรา้ ง \"ฉาก\" ดว้ ย CG ดงั น้ัน ฉากของนักแสดงจรงิ ๆ ในเวลาน้นั ไม่มอี ะไรเลย พูดงา่ ยๆ คอื เปน็ ฉากสีโลง่ ๆ เรยี กวา่ เทคนิคถ่ายแบบ Green Screen (พืน้ หลังสเี ขียว) หรอื Blue Screen (พนื้ หลังสีฟ้า) นักแสดงจะตอ้ งจินตนาการให้เข้าถงึ เน้ือเรื่องในฉากนน้ั ๆ แล้วแสดงออกมา เช่น ยืนมองฉากเขียวเปลา่ ๆ ก็ตอ้ ง ส่ือออกมาให้ไดว้ า่ กำลงั ยนื มองปราสาทแสนสวย ฉะนน้ั ความเนยี นไม่ใชแ่ คเ่ รื่องการตัดตอ่ อารมณ์ของ นักแสดงก็เปน็ เรือ่ งสำคัญ เทคนิค Green Screen หรอื Blue Screen ที่พูดถึง กค็ ือ การเซต็ ฉากสไี ว้ด้านหลงั เวลานำไปตดั ต่อก็ จะเอาส่วนของสเี ขยี วหรือสีฟ้าออกจากภาพ และนำฉากสมมตเิ ขา้ ไปแทนทีน่ ั่นเองค่ะ ซ่งึ ฉากสมมติตรงนีก้ ็มี รายละเอยี ดในการสร้างคอ่ นข้างเยอะมาก ตอ้ งมแี บบจำลอง สี แสงเงา ตำแหนง่ พิกัดต่างๆ ต้องทำออกมาให้ เป๊ะทสี่ ุด หลงั จากนนั้ เราตอ้ งคลปิ ตา่ งๆท่ีได้ถ่ายกบั ฉาก CG มาตัดต่อผ่านโปรแกรมเพ่ือการเปลีย่ นฉากสีเขียวให้ กลายเปน็ ฉากหรือสงิ่ ต่างๆทเ่ี ราต้องการจะสื่อใหก้ ับผ้ชู ม หลังจากนั้นจะต้องปรบั แสงสเี พื่อรกั ษาความสมจรงิ รัหว่างเอฟเฟคท่ีเราสร้างขึ้นบุคคลหรอื ส่ิงของทีเ่ ราถ่ายมา 5. ประเภทของงานทใี่ ช้ CG ปจั จบุ ันมสี ื่อทีอ่ ยู่ในรูปแบบของวดิ ีโอต่างๆ เกิดข้นึ มากมาย เพราะ ส่ือในรูปแบบท่ีมีครบทัง้ ภาพและเสียง นน้ั จะชว่ ย ให้ผชู้ มสามารถรับรูแ้ ละเขา้ ใจข้อมูลทผี่ ู้สรา้ งส่ือ ตอ้ งการส่ือสารถึงผู้ชมไดง้ ่ายมากยิ่งข้ึน นอกจากนี้ ส่ือประสม (Multimedia) ท่ีนำเสนอแบบวดิ โี อ แลว้ ยงั สามารถแสดงภาพเคลื่อนไหว ภาพน่งิ เสียงบรรยาย และข้อความพร้อมกันได้ แต่การมีCG ในงานน้ันจะทำให้เราไดง้ านดูมคี วามสมจริงมากข้ึน ดงั นน้ั ในกิจกรรม นี้จึงยกตวั อยา่ งสื่อประสมที่นำเสนอแบบวดิ โี อ ดงั น้ี 1. มิวสิควิดโี อ (Music Video หรือ MV) เปน็ การถ่ายทอดบทเพลงแบบมีภาพประกอบมาสรา้ งเปน็ เร่อื งราว ซึ่งเพลงในปจั จุบนั นยิ มทำ MV ประกอบเพลง เพ่อื ให้ผู้ชมเขา้ ใจความหมายของเนื้อเพลงไดง้ า่ ยมากย่งิ ขึน้ 2. โฆษณา (Advertisement) เปน็ การถา่ ยทอดเร่ืองราว เพ่ือใหผ้ ชู้ มคล้อยตาม ส่งิ ที่ผสู้ ร้างโฆษณาต้องการ นำเสนอ โดยท่ัวไป โฆษณาท่ีฉายทางโทรทัศนจ์ ะมีความยาวไมม่ ากนัก ข้ึนอยูก่ ับงบประมาณของบริษัทเจา้ ของ สนิ คา้ นอกจากนี้ การประชาสัมพนั ธ์ และรณรงค์ จะเปน็ การชกั จงู ให้ผู้ชมคลอ้ ยตามในเรื่องนั้นๆ เชน่ การ รณรงค์ต่อต้านการทุจรติ กจ็ ะมี การสรา้ งภาพยนตร์ส้ันเก่ยี วกบั การทจุ ริต เพือ่ ชกั จงู ให้ผชู้ มคลอ้ ยตาม และไม่ ทำการทจุ รติ ซ่ึงเปน็ สิ่งท่ีผดิ กฎหมาย
16 3. ภาพยนตรส์ ้ันหรอื หนังสั้น (Short Film) เปน็ การเล่าเรือ่ งราวดว้ ยภาพ และเสียงที่มปี ระเดน็ เดียวสั้นๆ แต่ ไดใ้ จความ ตรงประเด็น มโี ครงเรือ่ งไมส่ ลบั ซบั ซ้อน และไม่ควรมคี วามยาวมากเกินไป อาจเป็นเรอ่ื งทแ่ี ตง่ ขน้ึ มา เอง ตามจินตนาการของคนเขียนบทภาพยนตร์ หรอื เปน็ เร่ืองจริงบางส่วนก็ได้ ข้ึนอยู่กับทีมงานผ้จู ัดทำ 4.Youtude เป็นอกี หน่ึงงานท่มี กี ารใช้ CG อย่างมากในการใหผ้ ู้คนเขา้ ถึงสิ่งต้องการจะสอื่ สารออกไป ท้ัง ในด้านการโฆษณาหรือเอฟเฟคเพ่ือความสนุกสนาน 5.ภาพยนตร์ เป็นอกี หนึ่งงานที่ในปจั จบุ นั น้นั ไม่สามารถขาดการทำงานรว่ มกบั CG ไดเ้ พราะงานภาพยนตร์น้ัน ต้องการความอลงั การและความสมจริงท่ีไมส่ ามารถหาได้ในความเปน็ จรงิ เชน่ การปลอ่ ยพลงั ฉากต่อสู้ รวมถงึ ฉากอนั ตรายๆทตี่ ้องการความสมจริง ผู้กำกับส่วนใหญจ่ ึงเลือกใช้ CG มากกว่าการใหน้ ักแสดง แสดงเองเพราะ จะได้ฉากท่สี มจรงิ กวา่ และอีกทงั้ ยังสามารถปอ้ งกันอุบัติเหตุทอ่ี าจจะเกดิ กลบั นกั แสดงได้
17 บรรณานุกรม ความหมายของการทำ CG https://www.facebook.com/ensurecommunication/posts/2160984927257761/ วนั ทีส่ บื ค้น 1 ตุลาคม 2564 หลกั การสร้างภาพยนตร์ CG c/share-1/2018/11/14/cg-cgi-vfx-compositing- วนั ที่สืบค้น 1 ตุลาคม 2564 อุปกรณ์ท่ใี ชใ้ นการทำ CG https://www.clubstudiob.com วันที่สืบค้น 1 ตุลาคม 2564 ขั้นตอนการผลิตภาพยนตร์ CG https://sites.google.com/site/cokwitthaya1998/home/kar-si-cg- phayni-chak วันที่สืบค้น 1 ตลุ าคม 2564 ประเภทของงานทใี่ ช้ CG https://www.beartheschool.com/share-1/2018/11/14/cg-cgi-vfx- compositing- วันทีส่ ืบคน้ 1 ตุลาคม 2564
18 ภาคผนวก
19 ประวตั ผิ จู้ ดั ทำ ชอ่ื -สกุล นายรณรงค์ รัทชนี วัน เดอื น ปเี กดิ 1 พฤษภาคม 2543 ทอ่ี ยู่ปจั จบุ ัน บ้านเลขท่ี 2/317 หมูท่ ี1่ 3 ต.วัดไทรย์ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ 60000 ประวตั กิ ารศกึ ษา สำเรจ็ การศกึ ษาระดบั ประกาศนยี บัตรวิชาชีพ (ปวช.) สาขาแอนิเมชน่ั . อาชวี ศึกษานครสวรรค์ อำเภอเมอื ง จังหวัดนครสวรรค์
Search
Read the Text Version
- 1 - 23
Pages: