Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เรื่อง กีฬา แฮนบอล (1)

เรื่อง กีฬา แฮนบอล (1)

Published by M A N Tinnakron, 2022-12-13 07:36:44

Description: เรื่อง กีฬา แฮนบอล (1)

Search

Read the Text Version

กีฬา แฮนบอล

คำนำ รายงานกีฬาแชร์บอลฉบับนี้ เป็นส่วนหนึ่งของวิชาพละศึกษา กปีัฬจจาุแบัชนรก์บีฬอาลแนัช้นร์เบล่อนลไดเ้ปง็่นาทยี่เแหพมรา่หะลก ัาบ ยกาแรลสะรไ้ดา้งรัคบวคาวมาสมาสมนัคใคจีเนซืึ่่องงในจาก รายงานฉบับนี้ประกอบด้วย ประวัติ กติกา อุปกรณ์ และรายละ เอียดอื่นๆ เกี่ยวกับกีฬาแชร์บอลทั้งสิ้น ผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคงมีประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจไม่มากก็น้อย

สารบัญ 1 3 ประวัตกีฬาแฮนบอล 4 ประวัตกีฬาแฮนบอลในประเทศ 5 กติกาแฮนด์บอล 6 วิธีการเล่น การคิดคะแนน

ประวัตกีฬาแฮนบอล แฮนด์บอล เป็นกีฬาที่หลายคนรู้จักดี เพราะมักถูกนำมาใช้ เป็นหนึ่งในประเภทกีฬา ในการแข่งขันกีฬาสีประจำ โรงเรียน รวมทั้งถูกบรรจุอยู่ในการแข่งขันกีฬาระดับชาติ หลายรายการ ส่วนที่มาที่ไปของกีฬาแฮนด์บอลนั้นจะเป็น อย่างไร วันนี้กระปุกดอทคอมจะพาไปรู้จัก ประวัติ แฮนด์บอล กันจ้า..

ประวัติกีฬาแฮนด์บอล ประวัติกีฬาแฮนด์บอล กีฬาแฮนด์บอล มีที่มาจากประเทศเยอรมนี โดย นาย Konrad Koch ครูพละศึกษาคนหนึ่งแต่ก็ยังไม่ เป็นที่นิยมมากนัก จนกระทั่งปี พ.ศ. 2447 (ค.ศ. 1904) กีฬาแฮนด์บอลก็ถูกพัฒนาขึ้นในทวีปยุโรป และกำหนด กติกาขึ้นโดยอ้างอิงจากกติกาของกีฬาฟุตบอลเป็น หลัก ซึ่งเป็นการดัดแปลงกีฬาฟุตบอลมาเล่นด้วยมือ แทน เดิมใช้ผู้เล่นทีมละ 11 คน แต่ลดลงเหลือทีมละ 7 คนแทน เนื่องจากผู้เล่นมีจำนวนมากจนเกินไปทำให้ เล่นไม่สะดวก จากนั้นจึงค่อย ๆ แพร่หลายเรื่อยมา ในปี พ.ศ. 2471 (ค.ศ. 1928) แฮนด์บอลถูกนำไป สาธิตในงานกีฬาโอลิมปิก และถูกบรรจุเข้าเป็นหนึ่งใน รายการการแข่งขันกีฬาระดับชาติเมื่อปี พ.ศ. 2474 (ค.ศ.1931) และเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายจนถูกบรรจุ เข้าเป็นชนิดกีฬาการแข่งขันในกีฬาโอลิมปิก เมื่อปี พ.ศ. 2479 (ค.ศ. 1936) ก่อนที่จะเจอกับเหตุการณ์ สงครามโลกครั้งที่ 2 จนความนิยมลดลง ต่อมาในปี พ.ศ. 2499 (ค.ศ. 1956) ก็ได้มีการ แก้ไขกติกาแฮนด์บอลใหม่ ด้วยการนำเอากติกาของ กีฬาฟุตบอล และกีฬาบาสเก็ตบอลมาผสมกัน เพื่อฟื้ นฟู ความนิยมกีฬาแฮนด์บอลให้กลับมาอีกครั้ง ปัจจุบัน กีฬาแฮนด์บอลกลายเป็นกีฬาที่นิยมกันไปทั่วโลก

ประวัติแฮนด์บอลในประเทศไทย หลังจากที่กีฬาแฮนด์บอลนิยมเล่นกันอย่างแพร่ หลายไปทั่วโลกแล้ว ประเทศไทยก็เริ่มนำเอากีฬา แฮนด์บอลเข้ามาเมื่อปี พ.ศ. 2482 (ค.ศ. 1939) โดย อาจารย์กอง วิสุทธารมย์ อดีตอธิบดีกรมพลศึกษาใน ขณะนั้น ซึ่งในตอนนั้นยังกติกาแฮนด์บอลยังต้องมีผู้เล่น ทีมละ 11 คน จึงทำให้ไม่สะดวก และไม่เป็นที่นิยมในไทยมาก นัก จนกระทั่งปี พ.ศ. 2500 (ค.ศ. 1957) อาจารย์ชนิต คง มนต์ ได้บรรจุกีฬาแฮนด์บอลเข้าสอนในโรงเรียนฝึกหัดครู พลานามัย และวิทยาลัยพลศึกษาอื่น ๆ ก่อนที่จะแพร่ หลายไปยังโรงเรียนต่าง ๆ จนกลายเป็นหลักสูตรบังคับ ของชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายเมื่อปี พ.ศ. 2518 (ค.ศ. 1975) และใช้กติกาการแข่งขันแบบสากลเมื่อปี พ.ศ. 2524 (ค.ศ. 1981) และเป็นที่นิยมในประเทศไทยในที่สุด

กติกาแฮนด์บอล สนามแข่งขัน ขนาดสี่เหลี่ยมผืนผ้า ยาว 40 เมตร กว้าง 20 เมตร มีเส้น รอบสนามและเขตประตู โดยประตูจะต้องมีขนาดสูง 2 เมตร กว้าง 3 เมตร ตั้งอยู่ทั้งสองฝั่ง มีพื้นที่รอบสนามห่างจาก เส้นขอบสนามอย่างน้อย 1 เมตร ห่างจากหลังประตู 2 เมตร ลูกบอล ต้องทำจากหนังหรือวัสดุสังเคราะห์รูปทรงกลม ผิวไม่ สะท้อนแสงและไม่ลื่น สำหรับผู้ชายลูกบอลต้องมีขนาด เส้นรอบวง 58-60 เซนติเมตร หนักประมาณ 425-475 กรัม สำหรับผู้หญิงลูกบอลต้องมีขนาดเส้นรอบวง 54- 56 เซนติเมตร หนักประมาณ 325-400 กรัม และต้องมี ลูกบอลสำหรับการแข่งขัน 2 ลูก เมื่อการแข่งขันเริ่มต้น ขึ้นแล้วจะเปลี่ยนลูกบอลไม่ได้ นอกจากมีเหตุผลอัน สมควร

ผู้เล่น ทีมหนึ่งต้องส่งตัวผู้เล่น 12 คน (รวมผู้เล่นสำรอง) และ ลงสนามได้ 7 คน คือ ผู้เล่น 6 คน ผู้รักษาประตู 1 คน โดย สามารถเปลี่ยนตัวเข้าเล่นได้ทุกเวลา และสามารถเปลี่ยนตัว กลับเข้าในสนามใหม่ได้ โดยผู้เล่นจะต้องสวมเสื้อทีมที่ติด หมายเลข 1-20 ไว้ที่เสื้อ โดยมีขนาดตัวเลข สูงอย่างน้อย 20 เซนติเมตร กว้างอย่างน้อย 10 เซนติเมตร สีของตัวเลขตัด กับเสื้ออย่างชัดเจน สวมใส่รองเท้ากีฬา และห้ามใส่เครื่อง ประดับทุกชนิด วิธีการเล่น - ใช้มือจับ ขว้าง โยน ลูกบอล ส่งต่อกันกับผู้เล่นในทีม ตนเอง เพื่อขว้างบอลเข้าประตูฝ่ายตรงข้าม - ห้ามใช้ร่างกายส่วนที่ต่ำกว่าหัวเข่าลงไปโดนลูกบอล - ผู้เล่นสามารถถือลูกบอลไว้ในมือได้ไม่เกิน 3 วินาที - ขณะถือลูกบอลสามารถก้าวขาได้ไม่เกิน 3 ก้าว - ห้ามผู้เล่นดึงลูกบอลจากมือของฝ่ายตรงข้าม - ห้ามเข้าไปในเขตประตูของฝ่ายตรงข้าม - ใช้เวลาในการแข่งขันครึ่งละ 30 นาที พัก 10 นาที หากมี การต่อเวลาพิเศษจะเพิ่ม 2 ครึ่ง ครึ่งละ 5 นาที

การคิดคะแนน หากสามารถขว้างบอลเข้าประตูฝั่งตรงข้ามได้จะคิดเป็น 1 คะแนนต่อ 1 ครั้ง หากมีการทำเข้าประตูตนเองก็จะเสีย คะแนนให้กับฝ่ายตรงข้าม เมื่อหมดเวลาใครทำประตูได้ มากกว่าจะเป็นฝ่ายชนะ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook