0012-แบบบันทึกข้อตกลง -PA -ตำแหน่งพนักงานราชการ-ครูมอส

1

2 คำอธิบำยข้อตกลงในกำรพัฒนำงำน (PA) คำชี้แจงกำรจัดทำข้อตกลงในกำรพฒั นำงำน (PA) ข้อตกลงในการพัฒนางาน” (Performance Agreement : PA) หมายความว่า ข้อตกลงทีข่ ้าราชการ ครู ไดเ้ สนอต่อผอู้ านวยการสถานศกึ ษา เพอ่ื แสดงเจตจานงว่าภายในรอบการประเมินจะพัฒนาผลลัพธ์การ เรยี นรู้ ของผเู้ รยี น เพ่อื ใหผ้ ้เู รยี นมีความรู้ ทกั ษะ คณุ ลักษณะประจาวิชา คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ และ สมรรถนะ ท่ีสาคญั ตามหลกั สูตร ให้สงู ขึ้น โดยสะทอ้ นให้เหน็ ถงึ ระดบั การปฏิบตั ทิ ่ีคาดหวังของตาแหนง่ และ วทิ ยฐานะ ที่ดารงอยู่ และสอดคล้องกับเป้าหมายและบริบทสถานศกึ ษา นโยบายของสว่ นราชการและ กระทรวงศึกษาธิการ โดยผู้อานวยการสถานศกึ ษาได้เหน็ ชอบให้เปน็ ข้อตกลงในการพฒั นางาน ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษาทด่ี ารงตาแหน่งครูทกุ คน ตอ้ งจัดทาขอ้ ตกลงในการพัฒนา งาน ตามแบบท่ี ก.ค.ศ. กาหนด ทกุ ปีงบประมาณ เสนอตอ่ ผู้อานวยการสถานศึกษา เพ่อื พจิ ารณาให้ความ เหน็ ชอบ โดยข้อตกลงในการพฒั นางาน ประกอบดว้ ย 2 ส่วน ดงั ตอ่ ไปนี้ สว่ นท่ี 1 ขอ้ ตกลงในการพฒั นางานตามมาตรฐานตาแหน่ง 1) การปฏิบตั ิงานตามมาตรฐานตาแหนง่ ครู และมภี าระงานตามที่ ก.ค.ศ. กาหนด 2) ผลการปฏบิ ตั ิงาน ด้านการจัดการเรียนรู้ ดา้ นการส่งเสรมิ และสนบั สนุนการจดั การเรียนรู้ และด้านการพัฒนาตนเองและวชิ าชีพ ส่วนท่ี 2 ข้อตกลงในการพัฒนางานท่ีเสนอเป็นประเด็นท้าทายในการพัฒนาผลลพั ธก์ ารเรียนรขู้ อง ผเู้ รียน โดยตอ้ งแสดงให้เห็นถึงการปรบั ประยุกต์ การแกป้ ญั หา รเิ รม่ิ พฒั นา คิดคน้ ปรับเปลี่ยน หรอื การสร้าง การเปลีย่ นแปลง ท้งั น้ี ข้อตกลงในการพฒั นางานต้องมคี วามสอดคลอ้ งกับเปา้ หมาย และบริบทสถานศึกษา นโยบายของส่วนราชการและกระทรวงศึกษาธิการ การจัดทาขอ้ ตกลงในการพฒั นางาน ควรกาหนดการดาเนินการในแตล่ ะกจิ กรรมให้ชัดเจน เพื่อให้ สามารถประเมินผลการพัฒนางานตามข้อตกลงได้อยา่ งชัดเจนและเปน็ ธรรม ทง้ั นี้ ในระหวา่ งการดาเนนิ การ ตามข้อตกลงในการพัฒนางาน กรณีท่ีข้าราชการครูยา้ ย รักษาการในตาแหนง่ ผู้อานวยการสถานศึกษา ไดร้ ับ มอบหมายให้ทาการสอนต่างวิชา/กลุ่มสาระการเรียนร้ทู ่ที าขอ้ ตกลงไว้เดมิ ให้ดาเนนิ การดงั นี้ 1. กรณีทีข่ า้ ราชการครยู า้ ยสถานศกึ ษาระหว่างปีงบประมาณให้จัดทาข้อตกลงในการพฒั นางาน กบั ผ้อู านวยการสถานศกึ ษาคนใหมใ่ นสถานศึกษาทย่ี ้ายไปดารงตาแหนง่ 2. กรณที ขี่ า้ ราชการครไู ดร้ ับการแต่งตั้งให้รกั ษาการในตาแหนง่ ผู้อานวยการสถานศกึ ษา ให้จัดทา ขอ้ ตกลงในการพัฒนางานในตาแหนง่ ครูกับผอู้ านวยการสานกั งานเขตพนื้ ทีก่ ารศกึ ษา 3. กรณีท่ีขา้ ราชการครูไดร้ บั มอบหมายให้ทาการสอนต่างวิชา/กลุม่ สาระการเรียนรทู้ ี่ทาข้อตกลงไว้ เดิม ให้ข้าราชการครูจดั ทารายละเอียดขอ้ ตกลงในการพัฒนางานในวิชา/กล่มุ สาระการเรียนรตู้ ามทไ่ี ดร้ บั มอบหมายใหม่

1 แบบบันทกึ ข้อตกลงในกำรพฒั นำงำน (Performance Agreement :PA) สำหรบั ขำ้ รำชกำรครแู ละบุคลำกรทำงกำรศึกษำ ตำแหน่งครู พนกั งำนรำชกำร โรงเรียนโสตศึกษำจังหวัดรอ้ ยเอด็ สำนกั บรหิ ำรงำนกำรศึกษำพิเศษ สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศกึ ษำขั้นพ้ืนฐำน ประจำปีงบประมำณ พ.ศ. 2565 ระหวำ่ งวนั ท่ี 1 เดือน ตุลำคม พ.ศ. 2564 ถึงวันที่ 30 เดอื น กนั ยำยน พ.ศ.2565 ผจู้ ดั ทำข้อตกลง ชอ่ื นายทศั พล สกุล พระสว่าง ตาแหนง่ พนักงานราชการ สถานศึกษา โรงเรียนโสตศกึ ษาจังหวัดรอ้ ยเอ็ด สงั กดั สานกั บริหารงานการศกึ ษาพิเศษ สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน ได้รบั เงนิ เดือนในอันดับ อตั ราเงินเดอื น 18,000 บาท ประเภทหอ้ งเรียนทีจ่ ดั การเรียนรู้  หอ้ งเรยี นวชิ าสามญั หรือวชิ าพ้ืนฐาน  ห้องเรยี นปฐมวยั  ห้องเรียนการศึกษาพเิ ศษ  ห้องเรยี นสายวชิ าชพี  ห้องเรียนการศึกษานอกระบบ/ตามอธั ยาศัย ข้าพเจ้าขอแสดงเจตจานงในการจัดทาขอ้ ตกลงในการพฒั นางานกับผอู้ านวยการสถานศกึ ษา ไว้ ดังตอ่ ไปนี้ สว่ นที่ 1 ขอ้ ตกลงในกำรพฒั นำงำนตำมมำตรฐำนตำแหนง่ ภำคเรียนที่ 2 ปกี ำรศกึ ษำ 2564 1. ภำระงำน จะมภี ำระงำนเป็นไปตำมที่ ก.ค.ศ. กำหนด 1.1 ชว่ั โมงการสอน จานวน 28 ช่วั โมง/สัปดาห์ดงั น้ี รำยวิชำพ้นื ฐำน กลมุ่ ทักษะการเคลอื่ นไหว จานวน 3 ช่ัวโมง/สัปดาห์ กลมุ่ ทกั ษะการช่วยเหลือตนเองและสุขอนามัย จานวน 3 ชว่ั โมง/สัปดาห์ กลมุ่ ทักษะภาษาและการสอื่ สาร จานวน 3 ชั่วโมง/สปั ดาห์ กลมุ่ ทักษะสังคมและการดารงชีวติ จานวน 3 ชวั่ โมง/สัปดาห์ กลมุ่ ทักษะวชิ าการ จานวน 5 ช่วั โมง/สัปดาห์ กลุม่ ทักษะอาชพี จานวน 4 ช่วั โมง/สปั ดาห์

2 รำยวิชำเพิม่ เติม จานวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์ รายวิชาประวัติศาสตร์ จานวน 1 ชั่วโมง/สปั ดาห์ รายวชิ าหนา้ ทพ่ี ลเมือง จานวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์ รายวชิ างานเกษตร จานวน 1 ชั่วโมง/สปั ดาห์ รายวิชางานทอผ้า จานวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์ กจิ กรรมพัฒนำผู้เรยี น จานวน 1 ชวั่ โมง/สปั ดาห์ กจิ กรรมแนะแนว จานวน 1 ช่วั โมง/สปั ดาห์ กิจกรรมลูกเสอื -ยุวกาชาด กจิ กรรมชมุ ชุมเพือ่ สขุ ภาพ จานวน 2 ชั่วโมง/สปั ดาห์ 1.2 งานสง่ เสรมิ และสนับสนนุ การจดั การเรยี นรู้ จานวน 4 ช่ัวโมง/สปั ดาห์ - กิจกรรม PLC จานวน 3 ชว่ั โมง/สัปดาห์ 1.3 งานพัฒนาคณุ ภาพการจัดการศึกษาของสถานศกึ ษา -ปฏบิ ตั หิ น้าท่ีฝา่ ยบริหารงานกจิ การนกั เรยี น 1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น - กิจกรรมลดเวลาเรียนเพ่ิมเวลารู้ ภำคเรียนท่ี 1 ปกี ำรศกึ ษำ 2565 (คำดกำรณ์) จานวน 3 ชัว่ โมง/สัปดาห์ 1. ภำระงำน จะมภี ำระงำนเปน็ ไปตำมท่ี ก.ค.ศ. กำหนด จานวน 3 ชั่วโมง/สปั ดาห์ จานวน 3 ชวั่ โมง/สัปดาห์ 1.1 ชั่วโมงการสอน จานวน 28 ช่ัวโมง/สปั ดาห์ดงั นี้ จานวน 3 ชั่วโมง/สัปดาห์ รำยวชิ ำพ้นื ฐำน จานวน 5 ชว่ั โมง/สัปดาห์ จานวน 4 ชั่วโมง/สัปดาห์ กลุม่ ทักษะการเคล่อื นไหว กลุ่มทกั ษะการชว่ ยเหลือตนเองและสุขอนามัย กลุ่มทกั ษะภาษาและการสอ่ื สาร กลมุ่ ทักษะสงั คมและการดารงชวี ติ กลุม่ ทกั ษะวิชาการ กลมุ่ ทักษะอาชพี

3 จานวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์ จานวน 1 ช่ัวโมง/สปั ดาห์ รำยวิชำเพิ่มเติม จานวน 1 ชัว่ โมง/สัปดาห์ รายวิชาประวตั ศิ าสตร์ จานวน 1 ชั่วโมง/สปั ดาห์ รายวิชาหน้าทพี่ ลเมือง รายวิชางานเกษตร รายวิชางานทอผ้า กจิ กรรมพฒั นำผู้เรียน จานวน 1 ชัว่ โมง/สปั ดาห์ กจิ กรรมแนะแนว จานวน 1 ช่วั โมง/สปั ดาห์ กจิ กรรมลูกเสือ-ยุวกาชาด จานวน 1 ชั่วโมง/สปั ดาห์ กจิ กรรมชุมชมุ เพ่อื สขุ ภาพ จานวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์ 1.2 งานสง่ เสริมและสนับสนนุ การจดั การเรียนรู้ - กิจกรรม PLC จานวน 4 ช่วั โมง/สปั ดาห์ 1.3 งานพฒั นาคณุ ภาพการจดั การศกึ ษาของสถานศกึ ษา จานวน 3 ช่วั โมง/สัปดาห์ -ปฏบิ ัติหนา้ ท่ีฝ่ายบรหิ ารงานกจิ การนักเรยี น 1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเนน้ - กจิ กรรมลดเวลาเรียนเพ่ิมเวลารู้

4 2. งำนท่จี ะปฏิบัตติ ำมมำตรฐำนตำแหน่งครู (ให้ระบุรายละเอยี ดของงานที่จะปฏบิ ัตใิ นแตล่ ะดา้ น ว่าจะ ดาเนนิ การอยา่ งไร โดยอาจระบุระยะเวลาท่ีใช้ในการดาเนินการด้วยกไ็ ด้ ลักษณะงำนที่ปฏิบตั ิตำม งำน(Task)ทจ่ี ะดำเนนิ กำร ผลลพั ธ(์ Outcome) ตวั ชวี้ ัด (Indicator)ที่จะเกดิ มฐ.ตำแหนง่ พฒั นำตำมข้อตกลงใน 1 รอบ ของงำนตำมขอ้ ตกลง กบั ผ้เู รยี นที่แสดงใหเ้ หน็ ถงึ ทคี่ ำดหวังใหเ้ กิดขึน้ กำรเปลยี่ นแปลงไปในทำงที่ 1. ด้านการจัดการเรียนรู้ลักษณะงานท่ี กำรประเมนิ (โปรดระบุ) ดขี ้ึนหรือมีกำรพัฒนำมำกขน้ึ เสนอให้ครอบคลุมถึงการสร้างและหรือ (โปรดระบุ) หรือมผี ลสัมฤทธ์ทิ ่ีสูงขึ้น พัฒนาหลักสูตร การออกแบบการ 1. ขา้ พเจ้าจะร่วมสร้างและพฒั นา จัดการเรียนรู้ การจัดกิจกรรมการ หลักสูตรสถานศกึ ษารวมท้ังการ 1. ผเู้ รยี น ได้เรยี นร้ตู าม (โปรดระบุ) เรียนรู้ การสร้างและหรือพัฒนาสื่อ วเิ คราะหห์ น่วยการเรียนรู้ตาม แผน ฯ และมผี ลสมั ฤทธิ์ นวัตกรรมเทคโนโลยี และแหล่งเรยี นรู้ หลกั สตู รเพอ่ื นาไปสู่การจดั ทา ทางการเรยี น เปน็ ไปตาม 1.ผเู้ รียนไม่ตา่ กวา่ รอ้ ยละ 80 การวัดและประเมนิ ผลการจดั การเรียนรู้ แผนการจัดการเรยี นรู้ IEP และIIP เป้าหมายที่กาหนดไว้ตาม มผี ลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นสูงขน้ึ การศึกษา วิเคราะห์ สังเคราะห์ ทกั ษะการชว่ ยเหลือตนเองและ มาตรฐานการเรยี นรู้ หรือเป็นไปตามเป้าหมายการ เพ่อื แก้ปัญหาหรอื พัฒนาการเรียนรู้ สุขอนามยั ม.2 แล้วนาแผนไปสกู่ าร 2.ผเู้ รียนสามรถช่วยเหลอื พฒั นาผู้เรยี นตามท่ีเขียนไวใ้ น การจัดบรรยากาศท่สี ง่ เสริมและพฒั นา จัดกจิ กรรมการเรียนการสอนในช้ัน ตนเองในดา้ นการแต่งกาย แผนการจัดการเรียนรู้ ผูเ้ รยี น และการอบรมและพฒั นา เรยี นโดยอาศยั เทคนคิ การสอน ได้ 2.ผเู้ รียนสามรถชว่ ยเหลือตนเอง คณุ ลกั ษณะทีด่ ขี องผู้เรยี น แบบ active learning และการ 3. ผ้เู รียน มคี ุณลกั ษณะที่ ในด้านการแตง่ กายได้ ร้อยละ 80 จดั การเรียนรูท้ ่ีเน้นผู้เรยี นเป็นสาคญั พงึ ประสงค์ตามท่กี าหนด 3.ผู้เรยี น ผ่านการประเมิน สร้างและพฒั นาสื่อ ท่สี อดคล้องกบั ไวใ้ นหลกั สูตร มีมารยาท คุณลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์รอ้ ยละ แผนการจัดการเรยี นรู้ นานักเรียน ในการเขียน 100 ไปศึกษาจากแหล่งเรียนรูท้ ั้งภายใน และภายนอก เพอ่ื การพัฒนา ผู้เรียนและการจดั การเรียนรอู้ ยา่ ง หลากหลายท้ังนจ้ี ะดาเนนิ การวัด และประเมินผลการจัดการเรียนรู้ ตามสภาพจรงิ วิธกี ารทเี่ หมาะสม และสอดคลอ้ งกบั ผเู้ รยี นจดั บรรยากาศในชน้ั เรียนเพอ่ื ให้ผ้เู รยี น ได้เรียนในชน้ั เรยี นอยา่ งมีความสุข ตลอดจนการอบรมบ่มนิสัยใหผ้ เู้ รียน มีคุณลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ตาม หลกั สตู ร

5 ลกั ษณะงำนทปี่ ฏบิ ัตติ ำม งำน(Task)ท่จี ะ ผลลพั ธ(์ Outcome) ตัวชี้วัด (Indicator)ทจี่ ะเกดิ มฐ.ตำแหน่ง ดำเนินกำรพฒั นำตำม ของงำนตำม กับผเู้ รยี นทีแ่ สดงใหเ้ ห็นถงึ ขอ้ ตกลงใน 1 รอบกำร กำรเปลีย่ นแปลงไปในทำงท่ีดี ประเมิน (โปรดระบุ) ข้อตกลงท่คี ำดหวงั ข้ึนหรือมกี ำรพฒั นำมำกขึน้ ให้เกิดขึน้ (โปรด หรอื มีผลสมั ฤทธ์ทิ ่ีสงู ข้ึน ระบุ) (โปรดระบุ) 2. ด้านการส่งเสริมและสนบั สนุน 1.ขา้ พเจ้าจะดาเนนิ การ 1.ผู้เรยี นในหอ้ งเรยี น 1.ผู้เรยี นผู้เรยี นในหอ้ งเรียน การจดั การเรยี นรู้ ลักษณะงานท่เี สนอ จดั ทาสารสนเทศ ขอ้ มลู ม.2/3 ไดร้ ับการดแู ล ม.2/3 รอ้ ยละ 100 มขี อ้ มลู ให้ครอบคลุมถึงการจดั ทาข้อมลู นกั เรียนในห้องเรียน ม.2/3 สนบั สนุนตามระบบ สารสนเทศและผลสัมฤทธิ์ สารสนเทศของผูเ้ รียนและรายวิชา การ รวมถงึ จัดทาสารสนเทศ ดแู ลชว่ ยเหลอื นกั เรยี น ทางการเรยี นครบถ้วนและได้รบั ดาเนนิ การตามระบบดูแลช่วยเหลอื เกีย่ วกบั แผนท่ีบ้านนกั เรยี น 2.ผู้เรียนได้รบั การบริการตามระบบดแู ล ผเู้ รยี น การปฏิบตั ิงานวิชาการ และ สรุปผลสัมฤทธท์ิ างการเรียน ทนุ การศึกษาและการ ชว่ ยเหลอื นกั เรียน งานอ่นื ๆ ของสถานศึกษา ทกุ ทักษะ ข้าพเจา้ จะ ช่วยเหลอื อื่นๆรวมทัง้ 2.ผูเ้ รียน รอ้ ยละ 100 ได้รับการ และการประสานความร่วมมอื กบั ดาเนินการคดั กรองเยยี่ ม การประสานงานกบั บริการจดั กจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น ผู้ปกครอง ภาคเี ครอื ขา่ ย และหรือ บา้ น และใหก้ ารสนบั สนุน ผู้ปกครองเพอื่ ติดตาม รวมถึงการอดุ หนุนอ่ืนๆ สถานประกอบการ ดูแลการจัดการเรยี นรู้ ความกา้ วหน้าตาม ทุนการศกึ ษาและการ แบบ On-Hand ร่วมกับ แผนท่ีกาหนดไว้ใน ประสานงานกบั ผปู้ กครองอย่าง ผู้ปกครองตามระบบดแู ล แผนการจดั การเรียนรู้ ต่อเนื่อง ชว่ ยเหลือนักเรียน รวมไปถงึ มขี อ้ มลู 2.จดั กิจกรรมพัฒนาผ้เู รยี น สารสนเทศของ ตามทไี่ ด้รับมอบหมายใน นกั เรยี นครบถว้ น คาสง่ั และปฏิบัตงิ านอนื่ ๆท่ี ไดร้ บั มอบหมายเชน่ การจดั กจิ กรรมทศั นศกึ ษาการจัด กิจกรรมในช่วงเช้าหน้าเสา ธงและการประสานความ รว่ มมอื กับผปู้ กครอง นักเรียนชมุ ชนและสถาน ประกอบการหรือหนว่ ยงาน ทีเ่ กย่ี วข้อง

6 งำน(Task)ท่จี ะ ผลลพั ธ(์ Outcome) ตวั ช้ีวัด (Indicator)ทจี่ ะเกดิ ดำเนินกำรพัฒนำตำม ของงำนตำม กับผเู้ รียนทแี่ สดงใหเ้ หน็ ถึง ลักษณะงำนท่ีปฏิบัตติ ำม ขอ้ ตกลงใน 1 รอบกำร ขอ้ ตกลงท่คี ำดหวงั กำรเปลย่ี นแปลงไปในทำงท่ีดี มฐ.ตำแหน่ง ประเมนิ (โปรดระบุ) ใหเ้ กิดข้นึ (โปรด ขึ้นหรือมีกำรพัฒนำมำกขึน้ ระบุ) หรอื มีผลสมั ฤทธิ์ที่สูงขึ้น (โปรดระบุ) 3. ดา้ นการพฒั นาตนเองและวิชาชพี 1. ขา้ พเจ้าจะดาเนนิ การ 1. ข้าพเจา้ มีผลการ 1. ผู้เรยี นในหอ้ งเรียน ม.2/3 รอ้ ย ลกั ษณะงานท่ีเสนอใหค้ รอบคลมุ ถงึ พฒั นาตนเองด้วยวิธีการ พฒั นาตามแผนการ ละ 80 มีผลสมั ฤทธสิ์ ูงขึน้ การพัฒนาตนเองอยา่ งเป็นระบบและ ฝกึ อบรมหรอื ศกึ ษาดว้ ย พฒั นาตนเองทาง มีคุณลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์สูงข้ึน ตอ่ เนอื่ ง การมีส่วนร่วมในการ ตนเองตามแผนการพัฒนา วชิ าชพี ID plan ใน เปน็ ไปตามหลกั สตู รและ แลกเปลย่ี นเรียนรู้ทางวิชาชพี เพ่ือ ตนเอง ID plan เรื่องการวดั และ มาตรฐานการเรยี นรู้ พฒั นาการจดั การเรียนร้แู ละการนา 2. ข้าพเจ้าจะเขา้ ร่วม ประเมนิ ผล เรอื่ งการ 2. ผูเ้ รยี นห้องเรียน ม.2/3 ความรคู้ วามสามารถ กิจกรรมการเรยี นรชู้ ุมชน วิจยั ในชน้ั เรยี น รอ้ ยละ 80 ได้รับการพฒั นาการ ทกั ษะที่ไดจ้ ากการพฒั นาตนเอง และ วชิ าชพี แลกเปลยี่ นเรยี นรู้ การสร้างนวัตกรรม จดั การเรียนรู้เสริมทักษะการ วชิ าชีพมาใช้ในการพัฒนาการจัดการ การจัดการเรียนรกู้ บั เพ่อื การจดั การศึกษา ชว่ ยเหลือตนเองและสุขอนามยั เรยี นรู้ การพัฒนาคณุ ภาพผู้เรียน และ บุคลากรครภู ายในและ ทักษะการช่วยเหลือ อย่างมคี ณุ ภาพ และเหมาะสม การพฒั นานวตั กรรม การจัดการเรียนรู้ ภายนอก รวมท้ังเครอื ข่าย ตนเองและสุขอนามัย วิชาชีพอ่นื ๆเพอ่ื จะไดน้ า กจิ กรรม พฒั นาผู้เรียน ความรู้และนาความสามารถ 2. ผ่านการอบรมดา้ น มาใชใ้ นการพฒั นา คุณธรรม จริยธรรม กระบวนการจัดการเรียนรู้ และรว่ มกจิ กรรม PLC และพฒั นานวัตกรรมเพื่อ ทกุ สัปดาห์ รวมท้งั การจัดการเรยี นรูแ้ ละพัฒนา สรา้ งนวตั กรรม การ คณุ ภาพผ้เู รียน จัดการเรยี นรู้ใน รายวิชาทักษะการ ชว่ ยเหลือตนเองและ สุขอนามัย ม.2/3 และ จะนามาพฒั นาให้ ผู้เรยี นได้รบั การ จดั การเรยี นรู้ ท่ี เหมาะสม สอดคลอ้ ง ตามมาตรฐานการ เรยี นรู้

7 หมำยเหตุ 1. รูปแบบการจัดทาข้อตกลงในการพัฒนา ตามแบบ PA 1 ให้เป็นไปตามบริบท และสภาพการ จัดการเรยี นรู้ของแต่ละสถานศึกษา โดยความเห็นชอบรว่ มกนั ระหว่างผูอ้ านวยการสถานศกึ ษา และข้าราชการ ครผู จู้ ัดทาข้อตกลง 2. งาน (Tasks) ที่เสนอเป็นข้อตกลงในการพัฒนางานต้องเป็นงานในหน้าที่ความรับผิดชอบหลัก ที่ส่งผลโดยตรงต่อผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน และให้นาเสนอรายวิชาหลักที่ทาการสอน โดยเสนอใน ภาพรวม ของรายวชิ าหลักทที่ าการสอนทกุ ระดับชัน้ ในกรณที ่ีสอนหลายรายวิชา สามารถเลือกรายวิชาใดวิชา หนึ่งได้ โดยจะต้องแสดงให้เห็นถึงการปฏิบัติงานตามมาตรฐานตาแหน่ง และคณะกรรมการประเมินผลการ พฒั นางาน ตามข้อตกลงสามารถประเมินได้ตามแบบการประเมิน PA 2 3. การพัฒนางานตามข้อตกลง ตามแบบ PA 1 ให้ความสาคัญกับผลลัพธ์การเรียนรู้ ของผู้เรียน (Outcomes) และตัวชี้วัด (Indicators) ที่เป็นรูปธรรม และการประเมินของคณะกรรมการประเมินผลการ พฒั นางานตามขอ้ ตกลง ให้คณะกรรมการดาเนินการประเมิน ตามแบบ PA 2 จากการปฏิบัติงานจริง สภาพ การจัดการเรียนรู้ในบริบทของแต่ละสถานศึกษา และผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียนท่ีเกิดจากการพัฒนางาน ตามขอ้ ตกลงเป็นสาคญั โดยไม่เนน้ การประเมนิ จากเอกสาร สว่ นที่ 2 ขอ้ ตกลงในกำรพฒั นำงำนทีเ่ ปน็ ประเด็นท้ำทำย ในกำรพัฒนำผลลพั ธก์ ำรเรยี นรูข้ องผเู้ รยี น ประเด็นท่ีท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน ของผู้จัดทาข้อตกลง ซ่ึงปัจจุบัน ดารง ตาแหน่ง พนกั งานราชการ ตอ้ งแสดงให้เหน็ ถงึ ระดับการปฏบิ ตั ิที่คาดหวงั ของพนักงานราชการ คือ การแก้ไข ปัญหา การจัดการเรียนรู้และพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางท่ีดีขึ้น หรอื มีการพฒั นามากขึน้ (ท้งั นี้ ประเดน็ ท้าทายอาจจะแสดงใหเ้ หน็ ถงึ ระดบั การปฏิบัติที่คาดหวังในวิทยฐานะท่ี สงู กวา่ ได)้ ประเดน็ ท้ำทำย เรื่อง ความสามารถในการชว่ ยเหลอื ตนเองด้านการรักษาความสะอาดและสุขบัญญัติ 10 ประการ ของนักเรียนท่ีมีความบกพร่องทางด้านสติปัญญา ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 2/3 โดยใช้ชุด กจิ กรรมการรักษาความสะอาดบทบาทหนา้ ทแ่ี ละสุขบัญญัติ 10 ประการ 1. สภำพปญั หำกำรจดั กำรเรียนรู้ และปัญหำของผู้เรยี น นักเรียนท่ีมีความบกพร่องทางสติปัญญา ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 2/3โรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดร้อยเอ็ด จากการท่ีไดว้ เิ คราะหน์ ักเรยี นเป็นรายบคุ คล พบวา่ นักเรยี นยงั ไมส่ ามารถชว่ ยเหลือตนเองในเรือ่ งของการรกั ษา ความสะอาดและสุขอนามยั ได้ โดยธรรมชาติบุคคลแต่ละบุคคลย่อมมีความแตกต่างกัน ทั้งในเร่ืองชาติกาเนิด ของแต่ละคน บคุ คล ฐานะความเปน็ อยู่ แต่ความแตกต่างท่ีสาคัญท่ีสุดในการพัฒนาด้านการศึกษาของมนุษย์

8 คือ เรื่อง ของ สตปิ ญั ญา และความสามารถในการเรียนรู้ของแต่ละบุคคล ความแตกต่างของระดับสติปัญญา ในแตล่ ะบคุ คลนเี่ องเปน็ ปัญหาท่ตี อ้ งหาทางแก้ไข ท้ังในด้านของวธิ ีการและรปู แบบของการจัดการศึกษาเพ่ือให้ เกิดความเหมาะสมและสามารถทจ่ี ะพฒั นาทรพั ยากรมนุษย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะวัยเด็กเป็นช่วง วยั ทสี่ ามารถให้การศึกษาและเกิดการพัฒนาได้มากที่สุด บุคคลที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา เป็นอีกกลุ่ม หน่ึงที่ต้องให้ความสนใจในด้านการวางแผนพัฒนาด้านการศึกษาเพื่อให้เกิดความถูกต้องเหมาะสม และเกิด สมั ฤทธิ์ผลอย่างแทจ้ รงิ การชว่ ยเหลอื เดก็ ท่ีมคี วามบกพรอ่ งทางสตปิ ญั ญาในทุกๆ ด้านควรกระทาทันทีท่ีทราบ ว่า เดก็ มคี วามบกพร่องทางสตปิ ัญญา เพ่ือส่งเสริมใหเ้ ดก็ มีพัฒนาการใกลเ้ คียงกบั เด็กปกตมิ ากทีส่ ดุ ซ่ึงวิธีการน้ี เรียกว่า การส่งเสริมพัฒนาการระยะแรกเริ่ม (Early Intervention) เป็นการส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการให้ ใกลเ้ คียงกับเด็กปกติมากท่ีสุดและเร็วท่ีสุดตามศักยภาพของเด็กท่ีมีอยู่ โดยเฉพาะการเรียนรู้ที่จะดูแลตนเอง ในเรื่องการทากิจวัตรประจาวันซ่ึงเป็นพื้นฐานสาคัญสาหรับเด็กที่มีความบกพร่องทางสติปัญญาเพื่อเป็น พืน้ ฐานในการดาเนนิ ชีวิตประจาวนั และเกิดพฒั นาการในด้านอน่ื ๆ เนอ่ื งจากเด็กทกุ คนมีชว่ งพัฒนาการช้าหรือ เรว็ ตา่ งกัน ในช่วงแรกของชวี ิตเปน็ เวลาทีด่ ีท่ีสุดในการเรียนรู้ท่ีจะดูแลตนเองช่วงเวลานี้เด็กจะต่อสู้ด้ินรนเพื่อ อสิ รภาพเด็กต้องการช่วยเหลอื ตนเอง ซึ่งเปน็ ส่วนหนง่ึ ของการเรียนรู้ สาหรับเดก็ บกพรอ่ งทางสติปญั ญาน้ันการช่วยเหลือตนเองด้านการแต่งกายเป็นสิ่งจาเป็น เพราะการ เรยี นรู้จากประสบการณใ์ นชีวติ ประจาวนั เดก็ ท่บี กพรอ่ งทางสติปัญญาจะต้องเรียนรู้และจะกระทาด้วยตนเอง เพื่อไมเ่ ป็นภาระของผอู้ น่ื เพราะในชีวิตประจาวนั มนุษย์เราต้องสวมใส่เส้ือผ้าเพื่อความสุภาพเรียบร้อย ดังน้ัน การท่ีจะเรียน ร้ฝู กึ ฝนในดา้ นการแตง่ กายจึงเป็นสง่ิ จาเป็นอยา่ งยิ่งสาหรับเดก็ ทม่ี คี วามบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา ในการสอนทกั ษะการช่วยเหลือตนเองดา้ นการแตง่ กายสาหรับเด็กทม่ี ีความบกพร่องทางสติปัญญาน้ัน ครูผู้สอนมีความสนใจท่ีจะพัฒนาความสามารถการช่วยเหลือตนเอง ด้านการแต่งกายโดยใช้ชุดกิจกรรมการ สอนการแต่งกาย เพ่ือให้เด็กท่มี ีความบกพรอ่ งทางสตปิ ญั ญา มีความสามารถท่ีจะช่วยเหลือตนเองในการแต่ง กายด้วยตนเอง สามารถดารงชีวิตประจาวันอย่างมีความสุข และมีความพร้อมที่จะพัฒนาตนเองในด้านอื่นๆ ตามศกั ยภาพของตนเอง โดยไม่เป็นภาระต่อบุคคลอน่ื 2. วธิ กี ำรดำเนนิ กำรให้บรรลุผล จากสภาพปญั หาหอ้ งเรียน ม. 2/3 ท่ีพบวา่ ผู้เรียน มีปญั หาทางด้านการชว่ ยเหลือตนเองดา้ นการรักษา ความสะอาด ครูผู้สอนจึงได้สร้าง “ชุดกิจกรรมการสอนการรักษาความสะอาดบทบาทหน้าที่และสุขบัญญัติ 10 ประการ ” โดยมกี ระบวนการเรียนรดู้ งั น้ี กระบวนการดาเนินการเรียนรู้ โดยใช้แบบแผนการทดลอง Single Subject Research Design แบบ A-B-A Design ซ่งึ ไดแ้ บง่ ระยะการ ทดลองเปน็ 3 ชว่ ง คือ

9 1. ชว่ งเสน้ ฐาน (Basaline หรอื A ตวั แรก) เปน็ ระยะท่ีมกี ารบนั ทึกขอ้ มูลทาการสงั เกตพฤติกรรมโดย ยังไม่มีการจัดกระทาและมีการประเมินความสามารถด้านการใช้อุปกรณ์ของใช้ส่วนตัว โดยใช้แบบประเมิน ความสามารถดา้ นการดแู ลรักษาความสะอาด 2. ช่วงการจดั กระทา (Treatment หรือ B) เป็นระยะท่ีผู้วิจัยได้ดาเนินการทดลอง ผู้วิจัย เริ่มทาการ สอนโดยการใช้ชุดกิจกรรมการสอนการรกั ษาความสะอาดบทบาทหน้าท่ีและสุขบัญญัติ 10 ประการ ซ่ึงทาให้ เราทราบว่า นักเรียนมีพฤติกรรมเป้าหมาย เปลยี่ นแปลงไปหรอื ไม่ เมือ่ เปรียบเทียบกับช่วงเส้นฐาน จากการใช้ ชุดกิจกรรมการสอนการรักษาความสะอาดบทบาทหน้าที่และสุขบัญญัติ 10 ประการ ตามแผนการจัด กิจกรรมและทาการสงั เกตพรอ้ มบันทึกพฤติกรรม เมื่อนักเรียนทาพฤติกรรมท้ังหมดแล้ว จึงเริ่มในช่วงงดการ จดั กระทา 3. ช่วงงดการจัดกระทา (Evaluation หรือ A ตัวหลัง) ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อติดตามผล จากการสอน โดยใช้ชุดกิจกรรมการสอนการรกั ษาความสะอาดบทบาทหน้าท่ีและสุขบัญญัติ 10 ประการ โดยครูหยุดสอน แต่ยังบันทึกข้อมูลเหมือนกับท่ีอยู่ ในระยะเส้นฐานแรก (A ตัวแรก) มีการประเมิน ความสามารถด้านการ ดแู ลรักษาความสะอาดโดยใช้แบบประเมิน วิธีดำเนนิ กำร 1. คัดเลือกกลุม่ ตวั อยา่ งโดยใชผ้ ลการประเมนิ ความสามารถในการชว่ ยเหลอื ตนเองในการ ดแู ลรักษาความสะอาด 2. ทาการประเมนิ ความสามารถพืน้ ฐานก่อนการทดลอง 3. ดาเนนิ การทดลองโดยใชช้ ดุ กิจกรรมการรกั ษาความสะอาด ดงั น้ี α ขัน้ ที่ 1 นาเข้าสบู่ ทเรยี น สรา้ งบรรยากาศในการเรียน α ข้ันท่ี 2 ขั้นสอน ครูสอนขัน้ ตอน ให้นักเรยี นดแู ละปฏิบตั ิตามขัน้ ตอน α ขั้นท่ี 3 นักเรียนฝกึ ปฏบิ ตั ิตามแผนฝกึ กิจกรรม ซึ่งมีระยะเวลาในการดาเนนิ การ ทั้งหมด 8 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 4 วนั คอื วนั จนั ทร์ - วันพฤหสั บดี วนั ละ 1 ช่วั โมง 4. เม่ือดาเนินการครบท้ังหมดแลว้ นาแบบประเมินความสามารถในการชว่ ยเหลอื ตนเองดา้ น การดแู ลรักษาความสะอาด มาประเมนิ ความสามารถในการชว่ ยเหลือตนเองด้านการแต่งกายของนกั เรยี น 5. นาขอ้ มูลทไี่ ด้จากการประเมนิ ความสามารถในการช่วยเหลือตนเองดา้ นการดแู ลรกั ษา ความสะอาด มาสรุปวิเคราะห์

10 3. ผลลพั ธ์กำรพฒั นำท่ีคำดหวงั 3.1 เชิงปรมิ ำณ 3.1.1 นักเรียนช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 2/3 สามารถในการชว่ ยเหลอื ตนเองในการดูแลรกั ษา ความสะอาดได้ รอ้ ยละ 70 3.2 เชิงคณุ ภำพ 3.1.2 นักเรยี นช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 2/3 มคี วามสามารถท่จี ะชว่ ยเหลือตนเองในการดูแลรกั ษา ความสะอาดด้วยตนเอง สามารถดารงชวี ิตประจาวนั อย่างมคี วามสขุ และมีความพร้อมท่ีจะพัฒนา ตนเองในดา้ นอ่ืนๆ ตามศกั ยภาพของตนเอง โดยไมเ่ ป็นภาระตอ่ บุคคลอ่ืน ลงชอ่ื ...................................................................... (นายทัศพล พระสว่าง) ตาแหน่งพนักงานราชการ ผู้จดั ทาข้อตกลงในการพัฒนางาน วนั ท่ี 1 เดอื น ตลุ าคม พ.ศ. 2564 ความเห็นของผอู้ านวยการสถานศกึ ษา  เหน็ ชอบให้เป็นขอ้ ตกลงในการพฒั นางาน  ไมเ่ ห็นชอบใหเ้ ปน็ ข้อตกลงในการพัฒนางาน โดยมขี ้อเสนอแนะเพือ่ นาไปแก้ไขและเสนอ เพือ่ พิจารณาอีกคร้งั ดงั น้ี .............................................................................................................................................. .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... ลงชอื่ ...................................................................... (นายวัชรพล มนตรีภักดี) ตาแหนง่ ผูอ้ านวยการโรงเรยี นโสตศึกษาจังหวัดร้อยเอด็ วนั ที่ 1 เดือน ตลุ าคม พ.ศ. 2564

11