0013-แบบบันทึกข้อตกลง -PA-ตำแหน่งพนักงานราชการ-คุณครูรัชฎาภรณ์ กองเพ็ช

1

2 คำอธิบายข้อตกลงในการพัฒนางาน (PA) คำชีแ้ จงการจดั ทำขอ้ ตกลงในการพัฒนางาน (PA) ข้อตกลงในการพัฒนางาน” (Performance Agreement : PA) หมายความว่า ข้อตกลงที่ข้าราชการครู ได้เสนอต่อผู้อำนวยการสถานศึกษา เพื่อแสดงเจตจำนงว่าภายในรอบการประเมินจะพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ ของผเู้ รียน เพื่อใหผ้ ้เู รียนมคี วามรู้ ทกั ษะ คณุ ลักษณะประจำวิชา คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ และสมรรถนะ ทีส่ ำคญั ตามหลักสูตร ให้สูงขึ้น โดยสะท้อนให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังของตำแหน่งและวิทยฐานะ ที่ดำรงอยู่ และสอดคล้องกับเป้าหมายและบริบทสถานศึกษา นโยบายของส่วนราชการและกระทรวงศึกษาธิการ โดยผู้อำนวยการสถานศึกษาได้เห็นชอบให้เปน็ ขอ้ ตกลงในการพัฒนางาน ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ดำรงตำแหน่งครูทุกคน ต้องจัดทำข้อตกลงในการพัฒนางาน ตามแบบที่ ก.ค.ศ. กำหนด ทุกปีงบประมาณ เสนอต่อผู้อำนวยการสถานศึกษา เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ โดยขอ้ ตกลงในการพฒั นางาน ประกอบดว้ ย 2 ส่วน ดงั ต่อไปนี้ สว่ นที่ 1 ขอ้ ตกลงในการพฒั นางานตามมาตรฐานตำแหน่ง 1) การปฏิบตั ิงานตามมาตรฐานตำแหนง่ ครู และมภี าระงานตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด 2) ผลการปฏิบัติงาน ด้านการจัดการเรียนรู้ ด้านการส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ และด้านการพฒั นาตนเองและวิชาชีพ ส่วนที่ 2 ข้อตกลงในการพัฒนางานที่เสนอเป็นประเด็นท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน โดยต้องแสดงให้เห็นถึงการปรับประยุกต์ การแก้ปัญหา ริเริ่ม พัฒนา คิดค้น ปรับเปลี่ยน หรือการสร้างการ เปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ ข้อตกลงในการพัฒนางานต้องมีความสอดคล้องกับเป้าหมาย และบริบทสถานศึกษา นโยบาย ของส่วนราชการและกระทรวงศึกษาธิการ การจัดทำข้อตกลงในการพัฒนางาน ควรกำหนดการดำเนนิ การในแต่ละกิจกรรมให้ชัดเจน เพื่อให้สามารถ ประเมินผลการพฒั นางานตามข้อตกลงได้อย่างชัดเจนและเป็นธรรม ทง้ั น้ี ในระหว่างการดำเนนิ การตามข้อตกลงใน การพัฒนางาน กรณีที่ข้าราชการครูย้าย รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา ได้รับมอบหมายให้ทำการ สอนต่างวชิ า/กลุ่มสาระการเรยี นรทู้ ี่ทำขอ้ ตกลงไว้เดมิ ให้ดำเนนิ การดงั น้ี 1. กรณีที่ข้าราชการครูย้ายสถานศึกษาระหว่างปีงบประมาณให้จัดทำข้อตกลงในการพัฒนางาน กบั ผ้อู ำนวยการสถานศึกษาคนใหมใ่ นสถานศึกษาที่ยา้ ยไปดำรงตำแหนง่ 2. กรณีที่ข้าราชการครูได้รบั การแตง่ ต้ังให้รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา ให้จัดทำข้อตกลง ในการพฒั นางานในตำแหน่งครูกับผูอ้ ำนวยการสำนกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษา 3. กรณีที่ข้าราชการครูได้รับมอบหมายให้ทำการสอนต่างวิชา/กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่ทำข้อตกลงไว้เดิม ใหข้ า้ ราชการครจู ัดทำรายละเอยี ดข้อตกลงในการพฒั นางานในวชิ า/กล่มุ สาระการเรยี นรู้ตามที่ได้รับมอบหมายใหม่

3 แบบบันทกึ ข้อตกลงในการพัฒนางาน (Performance Agreement :PA) สำหรับข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา ตำแหน่ง พนกั งานราชการ โรงเรยี นโสตศกึ ษาจงั หวดั รอ้ ยเอด็ สำนักบรหิ ารงานการศึกษาพเิ ศษ สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2565 ระหวา่ งวนั ท่ี 1 เดือน ตลุ าคม พ.ศ. 2564 ถึงวนั ท่ี 30 เดอื น กันยายน พ.ศ.2565 ผจู้ ัดทำขอ้ ตกลง ช่อื นางสาวรัชฎาภรณ์ สกุล กองเพ็ชร ตำแหนง่ พนกั งานราชการ สถานศกึ ษา โรงเรยี นโสตศกึ ษาจังหวัดร้อยเอด็ สงั กดั สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐาน ได้รบั เงนิ เดือนในอนั ดบั - อตั ราเงินเดือน 18,740 บาท ประเภทห้องเรียนทจ่ี ดั การเรียนรู้  หอ้ งเรียนวชิ าสามัญหรือวชิ าพน้ื ฐาน  หอ้ งเรียนปฐมวยั  ห้องเรียนการศกึ ษาพเิ ศษ  หอ้ งเรยี นสายวิชาชีพ  หอ้ งเรียนการศึกษานอกระบบ/ตามอธั ยาศัย ข้าพเจ้าขอแสดงเจตจำนงในการจัดทำข้อตกลงในการพัฒนางาน ตำแหน่ง พนักงานราชการ ซึ่งเป็น ตำแหนง่ ทดี่ ำรงอยใู่ นปัจจุบันกับผ้อู ำนวยการสถานศึกษา ไว้ดังต่อไปน้ี สว่ นท่ี 1 ข้อตกลงในการพฒั นางานตามมาตรฐานตำแหน่ง ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 1. ภาระงาน จะมีภาระงานเปน็ ไปตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด 1.1 ชั่วโมงการสอน จำนวน 29 ช่วั โมง/สัปดาหด์ งั น้ี รายวชิ าพน้ื ฐาน จำนวน 14 ชว่ั โมง/สัปดาห์ - รายวิชาทกั ษะการเคลื่อนไหว จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์ - รายวชิ าทักษะการช่วยเหลือฯ จำนวน 1 ชั่วโมง/สปั ดาห์ - รายวชิ าทักษะภาษาและการส่อื สาร จำนวน 1 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ - รายวชิ าทักษะสงั คมและการดำรงชีวิต จำนวน 2 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ - รายวชิ าทักษะวชิ าการ จำนวน 3 ชวั่ โมง/สัปดาห์ - รายวิชาทักษะอาชีพ จำนวน 5 ช่ัวโมง/สปั ดาห์ - รายวชิ าประวตั ิศาสตร์ จำนวน 1 ชั่วโมง/สปั ดาห์ รายวชิ าเพมิ่ เติม จำนวน 12 ชัว่ โมง/สปั ดาห์ - รายวชิ าเกษตร จำนวน 5 ชวั่ โมง/สปั ดาห์

4 - รายวิชางานทอผ้า จำนวน 5 ชั่วโมง/สัปดาห์ - รายวิชาการเลี้ยงปลานำ้ จดื จำนวน 1 ชั่วโมง/สปั ดาห์ - รายวิชาภาษาและการส่อื สาร จำนวน 1 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ กจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น จำนวน 3 ชวั่ โมง/สัปดาห์ - กิจกรรมแนะแนว จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์ - กิจกรรมลกู เสอื /ยุวกาชาด จำนวน 1 ชั่วโมง/สปั ดาห์ - กจิ กรรมชมุ นุมเพื่อสุขภาพ จำนวน 1 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ 1.2 งานส่งเสรมิ และสนบั สนุนการจัดการเรยี นรู้ จำนวน 8 ชั่วโมง/สัปดาห์ - การมสี ว่ นรว่ มในชมุ ชนการเรียนรูท้ างวชิ าชพี จำนวน 2 ช่วั โมง/สปั ดาห์ - การจดั ทำแผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 2 ชว่ั โมง/สัปดาห์ - การจดั ทำแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบคุ คล(IEP) จำนวน 2 ช่วั โมง/สปั ดาห์ - การจัดทำสอื่ การเรียนรู้ จำนวน 2 ชั่วโมง/สปั ดาห์ 1.3 งานพัฒนาคณุ ภาพการจดั การศึกษาของสถานศกึ ษา จำนวน 22 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ - กรรมการและผูช้ ่วยเลขานกุ ารกลมุ่ บริหารงานบุคคล จำนวน 3 ชัว่ โมง/สัปดาห์ - กรรมการและเลขานุการงานทะเบยี นประวตั ิบคุ ลากร จำนวน 3 ช่วั โมง/สัปดาห์ - กรรมการและผูช้ ว่ ยเลขานกุ ารเครื่องราชอสิ ริยาภรณ์ จำนวน 3 ชัว่ โมง/สปั ดาห์ - กรรมการงานสร้างขวญั และกำลังใจให้กบั บุคลากร จำนวน 3 ชวั่ โมง/สัปดาห์ - งานเวรประจำวันกลางวนั เวรนอกเวลาราชการ จำนวน 5 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ - ปฏิบตั ิหนา้ ที่ครแู นะแนว จำนวน 3 ชั่วโมง/สปั ดาห์ - งานทป่ี รึกษา/งานดูแลนักเรียน/งานโฮมรูม จำนวน 2 ชั่วโมง/สปั ดาห์ 1.4 งานตอบสนองนโยบายและจดุ เน้น จำนวน 3 ชว่ั โมง/สัปดาห์ - กิจกรรมลดเวลาเรียนเพ่ิมเวลารู้ จำนวน 3 ชวั่ โมง/สัปดาห์ ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2565 (คาดการณ)์ 1. ภาระงาน จะมภี าระงานเป็นไปตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด 1.1 ช่วั โมงการสอน จำนวน 29 ช่วั โมง/สัปดาหด์ งั น้ี รายวชิ าพื้นฐาน จำนวน 14 ช่ัวโมง/สปั ดาห์ - รายวชิ าทักษะการเคลอ่ื นไหว จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์ - รายวิชาทกั ษะการชว่ ยเหลือฯ จำนวน 1 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ - รายวิชาทักษะภาษาและการส่ือสาร จำนวน 1 ชวั่ โมง/สปั ดาห์ - รายวิชาทกั ษะสงั คมและการดำรงชีวติ จำนวน 2 ชว่ั โมง/สัปดาห์

5 - รายวิชาทักษะวิชาการ จำนวน 3 ชัว่ โมง/สปั ดาห์ - รายวชิ าทักษะอาชพี จำนวน 5 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ - รายวิชาประวัติศาสตร์ จำนวน 1 ช่ัวโมง/สัปดาห์ รายวชิ าเพมิ่ เตมิ จำนวน 12 ช่ัวโมง/สปั ดาห์ - รายวชิ าเกษตร จำนวน 5 ชั่วโมง/สปั ดาห์ - รายวชิ างานทอผ้า จำนวน 5 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ - รายวชิ าการเลี้ยงปลาน้ำจืด จำนวน 1 ช่ัวโมง/สปั ดาห์ - รายวิชาภาษาและการสอื่ สาร จำนวน 1 ชั่วโมง/สปั ดาห์ กิจกรรมพัฒนาผ้เู รยี น จำนวน 3 ช่ัวโมง/สปั ดาห์ - กิจกรรมแนะแนว จำนวน 1 ชั่วโมง/สปั ดาห์ - กิจกรรมลูกเสือ/ยุวกาชาด จำนวน 1 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ - กิจกรรมชุมนมุ เพอื่ สุขภาพ จำนวน 1 ช่วั โมง/สปั ดาห์ 1.2 งานสง่ เสรมิ และสนบั สนุนการจัดการเรยี นรู้ จำนวน 8 ชว่ั โมง/สัปดาห์ - การมสี ว่ นรว่ มในชุมชนการเรยี นรทู้ างวิชาชีพ จำนวน 2 ชว่ั โมง/สัปดาห์ - การจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 2 ชวั่ โมง/สปั ดาห์ - การจัดทำแผนการจดั การศึกษาเฉพาะบคุ คล(IEP) จำนวน 2 ช่วั โมง/สปั ดาห์ - การจัดทำสือ่ การเรียนรู้ จำนวน 2 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ 1.3 งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศกึ ษาของสถานศึกษา จำนวน 22 ชั่วโมง/สัปดาห์ - กรรมการและผชู้ ่วยเลขานกุ ารกลุม่ บรหิ ารงานบคุ คล จำนวน 3 ชัว่ โมง/สัปดาห์ - กรรมการและเลขานุการงานทะเบยี นประวตั บิ ุคลากร จำนวน 3 ชว่ั โมง/สัปดาห์ - กรรมการและผู้ชว่ ยเลขานุการเครื่องราชอสิ ริยาภรณ์ จำนวน 3 ชัว่ โมง/สัปดาห์ - กรรมการงานสร้างขวัญและกำลงั ใจใหก้ บั บคุ ลากร จำนวน 3 ช่วั โมง/สัปดาห์ - งานเวรประจำวนั กลางวัน เวรนอกเวลาราชการ จำนวน 5 ช่ัวโมง/สปั ดาห์ - ปฏิบตั หิ นา้ ทค่ี รแู นะแนว จำนวน 3 ชั่วโมง/สัปดาห์ - งานทปี่ รกึ ษา/งานดูแลนักเรียน/งานโฮมรูม จำนวน 2 ช่ัวโมง/สปั ดาห์ 1.4 งานตอบสนองนโยบายและจดุ เนน้ จำนวน 3 ชั่วโมง/สัปดาห์ - กจิ กรรมลดเวลาเรียนเพม่ิ เวลารู้ จำนวน 3 ชั่วโมง/สปั ดาห์

6 2. งานที่จะปฏิบัติตามมาตรฐานตำแหน่งครู (ให้ระบุรายละเอียดของงานที่จะปฏิบัติในแต่ละด้าน ว่าจะดำเนินการอย่างไร โดยอาจระบุระยะเวลาทใี่ ชใ้ นการดำเนนิ การด้วยก็ได้ ลกั ษณะงานทปี่ ฏบิ ัตติ าม งาน(Task) ที่จะดำเนนิ การ ผลลพั ธ์(Outcome) ตวั ชว้ี ัด (Indicator)ทจี่ ะเกดิ มาตรฐานตำแหนง่ พัฒนาตามข้อตกลงใน 1 รอบ ของงานตามขอ้ ตกลงท่ี กับผเู้ รียนทแ่ี สดงให้เหน็ ถงึ การ การประเมนิ คาดหวงั ใหเ้ กดิ ข้ึน เปล่ยี นแปลงไปในทางทดี่ ขี น้ึ ภาคเรยี นที่ 2/2564และ1/2565 (โปรดระบ)ุ หรอื มีการพฒั นามากขึ้นหรอื มี ผลสมั ฤทธ์ิท่ีสงู ขนึ้ (โปรดระบุ) 1. ดา้ นการจดั การเรยี นร้ลู กั ษณะงาน การพัฒนาผลสัมฤทธ์ทิ างการ 1.ผเู้ รยี นสามารถอธิบาย 1.ผู้เรียนรอ้ ยละ 70 มี ทเี่ สนอให้ครอบคลมุ ถงึ การสรา้ งและ เรยี น รายวชิ าทักษะอาชีพ เรื่อง เรื่องท่เี รียนรูไ้ ด้ ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นสูงกวา่ ท่ี หรอื พัฒนาหลักสูตร การออกแบบ ความหมายและประเภทอาชพี โรงเรยี นกำหนด การจดั การเรยี นรู้ การจัดกิจกรรม นกั เรยี นระดบั ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ การเรียนรู้ การสร้างและหรอื พฒั นา 5 ดว้ ยบัตรคำเรอ่ื ง อาชพี ต่าง ๆ 2.ผู้เรยี นมคี ุณลักษณะ 2.ผู้เรียนรอ้ ยละ 80 มี ส่อื นวตั กรรมเทคโนโลยี และแหล่ง เพือ่ แก้ไขปญั หาการเรียนร้ขู อง อันพึงประสงค์ คุณลักษณะอนั พึงประสงคส์ งู เรียนรูก้ ารวดั และประเมินผลการ นกั เรยี น กว่าที่โรงเรียนกำหนด จัดการเรียนรู้การศกึ ษา วิเคราะห์ 1.1 การสร้างและพฒั นาหลกั สตู ร สงั เคราะหเ์ พอ่ื แกป้ ญั หาหรือ - วิเคราะห์หลกั สูตร มาตรฐาน 3.ผู้เรยี นสามารถอ่าน 3.ผู้เรียนร้อยละ 70 สามารถ พฒั นาการเรยี นรกู้ ารจัดบรรยากาศท่ี การเรียนรู้ และตวั ช้วี ดั ตาม คดิ วิเคราะห์ เขียนสอื่ อ่าน คดิ วิเคราะห์ เขียนส่อื ส่งเสริมและพฒั นาผ้เู รียน และการ หลกั สูตรสถานศกึ ษา (ทักษะ ความจากเร่ืองท่เี รียนรู้ ความจากเรื่องท่เี รยี นรู้สงู กว่าที่ อบรมและพฒั นาคณุ ลักษณะทด่ี ขี อง อาชีพ สำหรบั นกั เรียนที่มีความ ได้ โรงเรียนกำหนด ผู้เรียน บกพรอ่ งทางสตปิ ญั ญา) และ ตวั ช้วี ัด จัดทำคำอธบิ ายรายวชิ า 4.ผเู้ รียนมีความพงึ พอใจ 4.ผู้เรียนร้อยละ 70 มีความ โครงสร้างรายวิชา และเนื้อหาวชิ า ตอ่ การจดั บรรยากาศ พงึ พอใจต่อการจดั บรรยากาศ ทกั ษะอาชีพ เรื่อง ความหมาย การเรียนรู้ การเรียนรู้ในระดับมาก ขึน้ ไป และประเภทอาชีพ 1.2 การออกแบบการจดั การ เรียนรู้ - จัดทำแผนการจดั การเรยี นรู้ จดั ทำแผนการจัดการศกึ ษาเฉพาะ บคุ คล (IEP) และจัดทำแผนการ สอนเฉพาะบคุ คล 1.3 การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ - จัดกิจกรรมการเรียนตาม แนวทาง active learning อย่างหลากหลาย เนน้ การมีสว่ น รว่ มของผเู้ รยี น ตามแผนการ

7 ลักษณะงานทปี่ ฏิบตั ติ าม งาน(Task) ทีจ่ ะดำเนนิ การ ผลลพั ธ์(Outcome) ตัวช้วี ดั (Indicator)ทจ่ี ะเกดิ มาตรฐานตำแหนง่ พัฒนาตามขอ้ ตกลงใน 1 รอบ ของงานตามขอ้ ตกลงท่ี กับผ้เู รยี นท่ีแสดงใหเ้ หน็ ถงึ การ เปล่ยี นแปลงไปในทางทดี่ ีข้นึ การประเมนิ คาดหวงั ใหเ้ กิดข้ึน หรือมีการพัฒนามากขึ้นหรือมี ภาคเรียนที่ 2/2564และ1/2565 (โปรดระบ)ุ ผลสมั ฤทธิท์ ส่ี งู ขึน้ (โปรดระบุ) จัดการเรยี นรู้ เรื่อง “ความหมาย และประเภทอาชีพ” 1.4 สรา้ งและหรอื พัฒนาส่อื นวตั กรรม เทคโนโลยี และแหลง่ เรียนรู้ - การสรา้ งสอื่ การเรียนการสอน บตั รคำอาชีพ เรอ่ื ง อาชีพตา่ ง ๆ - สรา้ งสื่อการเรยี นรู้ และ เอกสารประกอบการเรยี นรเู้ รอ่ื ง “ความหมายและประเภทอาชพี ” 1.5 การวดั และประเมนิ ผล - วัดและประเมนิ ผลตามสภาพ จรงิ จากการมีส่วนรว่ มในการ เรยี นรู้ - แบบฝึกหัด เรือ่ งความหมาย และประเภทอาชพี - แบบทดสอบกอ่ นเรียน - แบบทดสอบหลังเรยี น - แบบสังเกต - แบบประเมนิ ทักษะการเรียนรู้ - แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1.6 การศึกษา วเิ คราะห์ สงั เคราะห์เพ่ือแกป้ ัญหาหรือ พฒั นาการเรียนรู้ - ศึกษางานวิจยั ทีเ่ กยี่ วขอ้ งกบั การจดั การเรยี นรู้ เรอื่ ง การ พฒั นาผลสมั ฤทธิท์ างการเรียน และเจตคตติ อการจัดกจิ กรรม การเรยี นรู นำความรูท้ ไ่ี ดม้ า

8 ลักษณะงานทปี่ ฏบิ ัตติ าม งาน(Task) ที่จะดำเนินการ ผลลัพธ์(Outcome) ตวั ชว้ี ดั (Indicator)ทจ่ี ะเกดิ มาตรฐานตำแหนง่ พัฒนาตามข้อตกลงใน 1 รอบ ของงานตามขอ้ ตกลงท่ี กบั ผเู้ รียนทแ่ี สดงให้เหน็ ถึงการ เปลยี่ นแปลงไปในทางทดี่ ีข้ึน การประเมิน คาดหวงั ให้เกิดขึน้ หรอื มีการพฒั นามากขึ้นหรือมี ภาคเรียนที่ 2/2564และ1/2565 (โปรดระบ)ุ ผลสมั ฤทธ์ทิ ่สี งู ข้นึ (โปรดระบุ) วางแผนในการจัดทำวิจัยในช้นั เรียน เพอื่ แก้ปญั หานกั เรยี นทม่ี ี ผลการเรียนรู้ไมผ่ า่ นเกณฑ์ที่ กำหนดโดยมีการบันทกึ รายละเอียดไว้ในหลงั แผนการ จดั การเรยี นรู้ 1.7 การจดั บรรยากาศทส่ี ่งเสริม และพัฒนาผเู้ รียน และการอบรม และพัฒนาคณุ ลกั ษณะทีด่ ีของ ผู้เรียน - จัดกิจกรรมการเรยี นร้แู บบมี สว่ นร่วม กจิ กรรมกลมุ่ ส่งเสรมิ การทำงานรว่ มกนั กิจกรรม เพ่อื นชว่ ยเพือ่ น ส่งเสรมิ ความ รับผิดชอบในการสง่ ภาระงาน ใฝ่ เรยี นรู้ มงุ่ ม่นั ในการทำงาน และมี ความซ่ือสตั ย์ตอ่ ตนเอง

ลักษณะงานทปี่ ฏบิ ตั ิ 9 ผลลัพธ์(Outcome)ของ ตัวชี้วดั (Indicator)ท่จี ะเกดิ ตามมาตรฐานตำแหน่ง งาน(Task) ท่จี ะดำเนนิ การพฒั นา งานตามขอ้ ตกลงที่ กบั ผูเ้ รยี นทแี่ สดงให้เห็นถึงการ เปลย่ี นแปลงไปในทางทดี่ ีข้ึน 2. ดา้ นการสง่ เสรมิ และสนบั สนนุ ตามขอ้ ตกลงใน 1 รอบการ คาดหวงั ให้เกิดข้ึน (โปรด หรอื มีการพัฒนามากข้ึนหรอื มี การจดั การเรยี นรลู้ ักษณะงานท่ี ประเมนิ ระบุ) ผลสมั ฤทธ์ิท่สี งู ข้นึ (โปรดระบุ) เสนอใหค้ รอบคลุมถึงการจดั ทำ 1.ผเู้ รยี นรอ้ ยละ 100 ได้รบั การ ขอ้ มูลสารสนเทศของผู้เรยี นและ ภาคเรียนที่ 2/2564 และ1/2565 1.ผเู้ รียนไดร้ บั การดูแล ดแู ลชว่ ยเหลือตามขอ้ มลู รายวชิ า การดำเนนิ การตามระบบ ช่วยเหลือตามขอ้ มูล สารสนเทศทค่ี รจู ัดทำข้นึ ดแู ลช่วยเหลอื ผเู้ รียน การ 2.1 การจัดทำข้อมลู สารสนเทศของ สารสนเทศได้อย่างรวดเร็ว ปฏบิ ตั ิงานวชิ าการ และงานอน่ื ๆ ผู้เรยี นและรายวชิ า 2.ผูเ้ รียนรอ้ ยละ 100 เขา้ ถงึ ขอ้ มูล ของสถานศกึ ษาและการประสาน 2.ผูเ้ รียนมีแหลง่ สารสนเทศ สารสนเทศรายวิชา ความร่วมมือกับผปู้ กครองภาคี - สรปุ คะแนนจากแบบทดสอบหลัง รายวชิ า เครอื ขา่ ย และหรือสถาน เรยี น เรอ่ื ง ความหมายและประเภท 3.ผ้เู รยี นร้อยละ 100 ได้รับการ ประกอบการ ของอาชพี นำมาจดั ทำข้อมลู เป็น 3.ผเู้ รยี นไดร้ ับการจดั การ จดั การเรียนการสอนแบบเนน้ นักเรียนทผ่ี ่านตามเกณฑ์ และไมผ่ า่ น เรียนการสอนแบบเนน้ ผู้เรยี นเป็นสำคญั ตามเกณฑ์ สรุปเป็นตารางและ ผเู้ รยี นเปน็ สำคัญ แผนภมู ิ โดยใชโ้ ปรแกรม Excel 4.ผู้เรียนร้อยละ 80 สามารถ 2.2 การดำเนนิ การตามระบบดูแล 4.ผเู้ รียนมีแหลง่ การเรยี นรูท้ ี่ เข้าถึงแหลง่ เรยี นรทู้ เี่ กิดจากการ ช่วยเหลอื ผเู้ รียน เกิดจากการประสานความ ประสานความรว่ มมอื ร่วมมือเพ่ิมขนึ้ - วเิ คราะหผ์ เู้ รียนรายบุคคลแลว้ นำมาจดั จำแนกนักเรยี นเพอื่ จดั ทำ แผนแผนการจัดการศกึ ษาเฉพาะ บคุ คล (IEP) และจดั ทำแผนการสอน เฉพาะบุคคล(IIP) และออกแบบการจดั กจิ กรรมการเรยี นรูใ้ หเ้ หมาะสมกบั ศกั ยภาพของผู้เรยี น 2.3 การปฏิบัตงิ านวชิ าการ และงาน อื่นๆ ของสถานศกึ ษา - ปฏบิ ัตหิ น้าท่ีกรรมการและ ผชู้ ว่ ยเลขานกุ ารกลมุ่ บริหารงานบคุ คล - ปฏิบัติหน้าท่ี กรรมการและ เลขานุการงานทะเบียนประวตั ิ บคุ ลากร - ปฏบิ ัตหิ น้าที่กรรมการเลขานุการ เคร่ืองราชอิสรยิ าภรณ์ - ปฏิบัติหนา้ ท่ีกรรมการงานสรา้ ง ขวัญและกำลงั ใจให้กับบคุ ลากร งานข้อมูลสารสนเทศนักเรียนประจำ ประสานความรว่ มมือกบั กลมุ่ บรหิ าร ตา่ งๆ มีการกำหนดโครงสร้างการ

10 ลกั ษณะงานทปี่ ฏิบตั ิ งาน(Task) ท่จี ะดำเนนิ การพฒั นา ผลลพั ธ์(Outcome)ของ ตัวชี้วัด (Indicator)ทจ่ี ะเกดิ ตามมาตรฐานตำแหนง่ ตามขอ้ ตกลงใน 1 รอบการ งานตามขอ้ ตกลงที่ กบั ผู้เรียนทแ่ี สดงใหเ้ หน็ ถงึ การ ประเมิน เปล่ยี นแปลงไปในทางทดี่ ีขนึ้ คาดหวงั ให้เกดิ ข้นึ (โปรด หรอื มีการพัฒนามากข้นึ หรือมี ภาคเรยี นท่ี 2/2564 และ1/2565 ระบุ) ผลสมั ฤทธ์ทิ ี่สงู ขนึ้ (โปรดระบุ) บริหารและพรรณนางานท่ีชดั เจน ใน การดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ - ปฏิบตั หิ นา้ ที่ครเู วรประจำวนั ครู เรอื นนอนเฟ่ืองฟ้า อยา่ งตรงเวลาและ ปฏบิ ตั หิ น้าทีอ่ ย่างเต็มความสามารถ 2.4 การประสานงานความร่วมมือกับ ผู้ปกครองภาคเี ครือขา่ ย และหรอื สถานประกอบการ - จดั ทำแผนการจดั การศึกษา เฉพาะบุคคล (IEP) รว่ มกับผูป้ กครอง และคณะกรรมการจดั ทำแผนการจัด การศกึ ษาเฉพาะบคุ คล (IEP) - การประสานงานกบั ผปู้ กครองใน เรอ่ื งการจดั การเรียนการสอน ON HAND

11 ลกั ษณะงานทป่ี ฏิบตั ิ งาน(Task) ทจี่ ะดำเนินการพฒั นา ผลลพั ธ์(Outcome)ของ ตัวชวี้ ดั (Indicator)ที่จะเกดิ ตามมาตรฐานตำแหน่ง ตามข้อตกลงใน 1 รอบการ งานตามข้อตกลงที่ กับผูเ้ รยี นที่แสดงให้เห็นถงึ การ ประเมนิ เปลยี่ นแปลงไปในทางทด่ี ีขึ้น 3. ดา้ นการพัฒนาตนเองและ คาดหวงั ใหเ้ กิดข้นึ (โปรด หรอื มกี ารพัฒนามากขึน้ หรอื มี วชิ าชีพ ภาคเรียนที่ 2/2564 และ1/2565 ระบุ) ผลสมั ฤทธิ์ทสี่ งู ขนึ้ (โปรดระบุ) ลักษณะงานที่เสนอให้ครอบคลุมถงึ - ผู้เรยี นมีความพงึ พอใจในการ การพัฒนาตนเองอย่างเป็นระบบ 3.1 การพฒั นาตนเองอย่างเป็นระบบ 1.ผ้เู รยี นมคี วามพึงพอใจใน จัดการเรยี นการสอนของครู และต่อเนื่อง การมีส่วนร่วมในการ และต่อเนอื่ ง การไดร้ บั การบรกิ ารด้าน โดยรวม ผ่านกจิ กรรม “การ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อ ความรูแ้ ละด้านอืน่ ๆใน ประเมนิ คุณภาพการจดั การเรยี น พัฒนาการจัดการเรียนรู้และการนำ - พัฒนาตนเองด้วยวิธกี ารฝกึ อบรม รูปแบบท่ที ันสมยั ขน้ึ การสอนของครตู ามความคดิ เหน็ ความรู้วามสามารถทักษะที่ได้จาก และหรอื ศกึ ษาด้วยตนเองทัง้ ภายใน 2.ผเู้ รียนมีความพึงพอใจใน ของนกั เรียน” อยู่ในระดับมาก ข้นึ การพัฒนาตนเองและวิชาชีพมาใช้ และภายนอกสถานศึกษาตามแผนการ การไดร้ บั ประสบการณ์ ไป ในการพัฒนาการจัดการเรียนรู้ การ พัฒนาตนเอง ID plan ใหม่ๆท่เี กิดขนึ้ จากกจิ กรรม - ผู้เรยี น ร้อยละ 70 มีผลสมั ฤทธ์ิ พัฒนาคุณภาพผู้เรียน และการ 3.2 การมสี ว่ นรว่ มในการแลกเปลย่ี น นเิ ทศการสอน สูงขน้ึ มีคุณลักษณะทีพ่ งึ ประสงค์ พัฒนานวตั กรรมการจดั การเรียนรู้ เรยี นรทู้ างวชิ าชีพเพื่อพฒั นาการ 3.ผูเ้ รยี นมคี วามพึงพอใจใน สูงข้ึนเปน็ ไปตามหลกั สตู รและ จดั การเรยี นรู้ การไดร้ ับการจดั มาตรฐานการเรยี นรู้ ประสบการณก์ ารเรยี นรู้ - ผู้เรยี น รอ้ ยละ 70 ไดร้ ับการ - เขา้ รว่ มกจิ กรรมการเรยี นรชู้ มุ ชน ใหม่ๆ ดว้ ยนวตั กรรมท่ีครู พัฒนาการจดั การเรยี นรู้เสรมิ วิชาชพี แลกเปลีย่ นเรยี นรกู้ ารจัดการ สร้างข้ึน ทกั ษะอาชพี อยา่ งมคี ุณภาพ และ เรียนรูก้ บั บุคลากรครภู ายในและ เหมาะสม ภายนอก รวมทง้ั เครอื ข่ายวิชาชีพอื่นๆ เพอื่ จะได้นำความรแู้ ละนำ ความสามารถมาใช้ในการพัฒนา กระบวนการจดั การเรยี นรแู้ ละพฒั นา นวัตกรรมเพือ่ การจดั การเรียนรู้และ พัฒนาคุณภาพผ้เู รยี น หมายเหตุ 1. รูปแบบการจัดทำข้อตกลงในการพัฒนางาน.ตามแบบ PA1 ให้เป็นไปตามบริบทและสภาพการจัดการ เรียนรู้ของแต่ละสถานศึกษา โดยความเห็นชอบร่วมกันระหว่างผู้อำนวยการสถานศึกษาและข้าราชการครูผู้จัดทำ ขอ้ ตกลง 2. งาน (Tasks) ที่เสนอเป็นข้อตกลงในการพัฒนางาน ต้องเป็นงานในหน้าที่ความรับผิดชอบหลักที่ส่งผล โดยตรงต่อผลลพั ธ์การเรียนรูข้ องผเู้ รียน และใหน้ ำเสนอรายวิชาหลักท่ีทำการสอน โดยเสนอในภาพรวมของรายวิชา หลกั ท่ีทำการสอนทุกระดับชั้น ในกรณที ่สี อนหลายรายวชิ า สามารถเลือกรายวชิ าใดวิชาหนงึ่ ได้ โดยจะต้องแสดงให้ เห็นถึงการปฏิบัติงานตามมาตรฐานตำแหน่ง และคณะกรรมการประเมินผลการพัฒนางานตามข้อตกลงสามารถ ประเมินไดต้ ามแบบการประเมิน PA2

12 3. การพัฒนางานตามข้อตกลง ตามแบบ PA1 ให้ความสำคัญกับผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน (Outcomes)และตัวชี้วัด (Indicators) ที่เป็นรูปธรรม และการประเมินของคณะกรรมการประเมินผลการพัฒนา งานตามข้อตกลง ให้คณะกรรมการดำเนินการประเมิน ตามแบบ PA2 จากการปฏิบัติงานจริงสภาพการจัดการ เรียนรู้ในบริบทของแต่ละสถานศึกษา และผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียนที่เกิดจากการพัฒนางานตามข้อตกลงเป็น สำคญั โดยไม่เน้นการประเมนิ จากเอกสาร ส่วนท่ี 2 ขอ้ ตกลงในการพฒั นางานท่ีเป็นประเด็นท้าทาย ในการพฒั นาผลลพั ธ์การเรยี นรู้ของผู้เรียน ประเด็นที่ท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียนของผู้จัดทำข้อตกลง ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหนง่ พนักงานราชการ ต้องแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวัง ของ พนักงานราชการ คือ ปรับประยุกต์ การจัดการเรียนรู้และการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือมีการ พัฒนามากขึ้น (ท้งั น้ี ประเด็นทา้ ทายอาจจะแสดงใหเ้ หน็ ถึงระดับการปฏิบตั ทิ ีค่ าดหวงั ในวทิ ยฐานะทีส่ งู กว่าได้) ประเด็นท้าทาย เรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเจตคติตอการจัดกิจกรรม การเรียนรูของ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 5/3 รายวิชา ทักษะอาชีพ ความหมายและประเภทอาชีพ โดยใชชุดการเรียนรู้บัตรคำ ประเภทของอาชีพร่วมกับวิธีสอนแบบเนนทักษะปฏิบัติ เพื่อปรับประยุกต์ให้นักเรียนที่มีความบกพร่องทางด้าน สติปัญญา ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/3 ทราบถึงการทำงานซึ่งมีรายได้ตอบแทนเพื่อบุคคลจะนำรายได้น้ันไปใช้ใน การดำรงชีวิตของตนเองและครอบครัวอาชีพที่เลือกทำต้องเป็นอาชีพที่สุจริต ก่อให้เกิดประโยชน์แก่สังคม โดยไมท่ ำให้ตนเองและผู้อื่นเดือดร้อน ในทกุ ชมุ ชนมีอาชีพและอาชีพในชุมชนน้ีเองทำให้ผู้อยู่อาศัยในชุมชนมีรายได้ มีสมั พันธภาพที่ดีตอ่ กันและชมุ ชนได้รับการพัฒนาในด้านต่าง ๆ 1. สภาพปญั หาการจดั การเรยี นรู้ และปญั หาของผูเ้ รยี น นักเรยี นทีม่ ีความบกพร่องทางสติปัญญา ระดับช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 5/3 โรงเรยี นโสตศึกษาจังหวัด ร้อยเอด็ จากการทีไ่ ด้วิเคราะห์นกั เรยี นเป็นรายบุคคล พบวา่ นักเรียนยงั ไม่สามารถบอกความหมายและประเภทของ อาชีพแต่ละอาชีพได้ และยังไม่ทราบถึงการทำงานซึ่งมีรายได้ตอบแทน เพื่อบุคคลจะนำรายได้นั้นไปใช้ในการ ดำรงชีวิตของตนเองและครอบครัว อาชีพท่ีเลอื กทำต้องเป็นอาชีพท่สี จุ ริต กอ่ ใหเ้ กดิ ประโยชนแ์ กส่ ังคม โดยไม่ทำให้ ตนเองและผู้อื่นเดือดร้อน ในทุกชุมชนมีอาชีพและอาชีพในชุมชนนี้เองทำให้ผู้อยู่อาศัย ในชุมชนมีรายได้มี สัมพันธภาพทด่ี ตี อ่ กันและชุมชนไดร้ บั การพฒั นาในดา้ นตา่ ง ๆ โดยธรรมชาติบุคคลแต่ละบุคคลย่อมมีความแตกต่างกนั ทัง้ ในเรือ่ งชาตกิ ำเนิดของแต่ละคน บุคคล ฐานะความเป็นอยู่ แต่ความแตกต่างที่สำคัญที่สุดในการพัฒนาด้านการศึกษาของมนุษย์ คือ เรื่อง ของ สติปัญญา และความสามารถในการเรียนรู้ของแต่ละบุคคล ความแตกต่างของระดับสติปัญญาในแต่ละบุคคลนี่เองเป็นปัญหา ที่ต้องหาทางแก้ไข ทั้งในด้านของวิธีการและรูปแบบของการจัดการศึกษาเพื่อให้เกิดความเหมาะสมและสามารถ ที่จะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ บุคคลที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา เป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่ต้อง ให้ความสนใจในด้านการวางแผนพัฒนาด้านการศึกษาเพื่อให้เกิดความถูกต้องเหมาะสม และเกิดสัมฤทธิ์ผลอย่าง แท้จรงิ

13 ในการสอนทักษะอาชีพ สำหรับนักเรียนทมี่ ีความบกพร่องทางสติปัญญานั้น ครผู ู้สอนมีความสนใจ ท่ีจะพัฒนาความสามารถในการทำงานใหน้ กั เรยี นมีรายได้ตอบแทน เพอื่ บคุ คลจะนำรายได้นน้ั ไปใชใ้ นการดำรงชีวิต ของตนเองและครอบครัว อาชีพที่เลือกทำต้องเป็นอาชีพที่สุจริต ก่อให้เกิดประโยชนแ์ ก่สงั คม โดยไม่ทำให้ตนเอง และผู้อื่นเดือดร้อน ในทุกชุมชนมีอาชพี และอาชีพในชุมชนนีเ้ องทำใหผ้ ู้อยู่อาศัยในชุมชน มีรายได้มีสัมพันธภาพที่ดี ตอ่ กนั และชุมชนได้รับการพฒั นาในดา้ นต่าง ๆ สามารถดำรงชีวติ ประจำวันอยา่ ง มคี วามสุข และมีความพร้อม ท่ีจะ พฒั นาตนเองในด้านอ่ืน ๆ ตามศักยภาพของตนเอง โดยไม่เป็นภาระต่อบุคคลอื่น โดยผู้สอนใชส้ ือ่ การเรียนการสอน บตั รคำความหมายและประเภทอาชพี เพ่ือเพิ่มผลสมั ฤทธ์ิในรายวชิ ากลุ่มทกั ษะอาชีพใหส้ ูงข้นึ 2. วธิ กี ารดำเนนิ การให้บรรลุผล จากสภาพปัญหาห้องเรียน ระดับชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 5/3 ทีพ่ บว่าผเู้ รียน มีปัญหาทางด้านพบวา่ นักเรียนยัง ไม่ทราบถึงการทำงานซึ่งมีรายได้ตอบแทน เพื่อบุคคลจะนำรายได้นั้นไปใช้ในการดำรงชีวิตของตนเองและ ครอบครัวอาชีพที่เลือกทำต้องเป็นอาชีพที่สุจริต ก่อให้เกิดประโยชน์แก่สังคม โดยไม่ทำให้ต นเองและผู้อ่ืน เดือดรอ้ น ในทุกชมุ ชนมีอาชพี และอาชีพในชุมชนน้ีเองทำให้ผู้อยู่อาศัยในชุมชนมรี ายได้มสี ัมพันธภาพท่ีดีต่อกันและ ชุมชนได้รับการพัฒนาในด้านต่าง ๆ ครูผู้สอนจึงได้สร้าง“สื่อการเรียนการสอนบัตรคำความหมายและประเภท อาชพี ” โดยมกี ระบวนการเรียนรูด้ งั นี้ 1) วิเคราะห์หลักสูตร มาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชี้วัด ตามหลักสูตรสถานศึกษา และหลักสูตร ทักษะภาษาและการสื่อสาร(สำหรับนักเรียนที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา) ในเรื่องมาตรฐานการเรียนรู้และ ตวั ชวี้ ัด จดั ทำคำอธิบายรายวิชา โครงสรา้ งรายวิชา และเน้อื หาวชิ า เรอื่ ง ความหมายและประเภทอาชพี 2) ศกึ ษาการจดั การเรียนรโู้ ดยใชส้ ่ือพัฒนานักเรียนยังไม่สามารถบอกความหมายและประเภทของ อาชีพแต่ละอาชีพด้วยสื่อการสอนบตั รคำความหมายและประเภทอาชีพ สำหรับนักเรียนท่ีมีความบกพร่องทางดา้ น สติปัญญา ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5/3 3) ใชก้ ระบวนการ PLC เขา้ มาช่วยในการแก้ไขปัญหา พัฒนาส่อื และนวตั กรรมทม่ี ีประสิทธภิ าพ 4) ออกแบบสื่อ พัฒนาทักษะนักเรียนยังไม่สามารถบอกความหมายและประเภทของอาชีพแต่ละ อาชีพด้วยสือ่ การสอนบตั รคำความหมายและประเภทอาชพี ในรปู แบบทีห่ ลากหลาย เช่น * เสริมความจำ เพมิ่ คลงั ศัพท์การเลน่ บัตรภาพกับนักเรยี น อาจใช้เทคนคิ เปิดและพูดคำศัพท์ไว ๆ เพื่อให้เด็กฝึกการทำงานของสมองไปพร้อม ๆ กับการทำงานของประสาทสัมผัสต่าง ๆ คือ ตาดู หูฟัง สมองจดจำ ขณะเดียวกันกอ็ าจใช้วิธีเปิดให้ดทู ีละภาพอยา่ งช้า ๆ แลว้ ค่อย ๆ สอนคำศัพท์กนั ไป * ต่อยอดความรู้ เพิ่มพูนหลายวิชา บัตรภาพแต่ละชุดจะมีรูปภาพที่หลากหลาย ทั้งสีสัน ขนาด รูปทรง และปริมาณ ผู้สอนจึงสามารถสอนวิชาเลขผ่านการนับจำนวน สอนศิลปะผ่านการบอกสีสันต่าง ๆ สอน คำศัพท์ภาษาต่าง ๆ ผ่านรูปภาพ เช่น ไทย จีน อังกฤษ รวมทั้งยังสามารถสอนเรื่องรูปร่าง รูปทรง ขนาด เสียง ตำแหนง่ และทิศทางจากบัตรภาพไดอ้ ีกดว้ ย * เล่นสนุก ปลุกจินตนาการ โจทย์ข้อนี้จะพานักเรียนย้อนวัยกลับไปเล่นสนุกผ่านกิจกรรมเสริม จินตนาการด้วยเชน่ กนั ไม่ว่าจะเป็นการชวนเด็ก ๆ เลือกบัตรภาพ แล้วนำมาเป็นแบบวาดรูป ระบายสี ปั้นแป้งโดว์

14 หรือนำบัตรภาพมาช่วยกันแต่งเรื่อง เล่าเป็นนิทานก็สนุกไม่น้อยเลยทีเดียว นอกจากบัตรภาพจะสาม ารถนำมา ใช้ประโยชน์ได้มากมายขนาดนี้แล้ว สิ่งที่นักเรียน ได้รับนอกเหนือจากความรู้ ยังเป็นความสนุกสนาน ส่งเสริม จนิ ตนาการ และท่สี ำคัญยังเป็นการใชเ้ วลาคณุ ภาพรว่ มกันกบั สมาชกิ ในห้องเรียนไดด้ อี ีกด้วย 5) จัดทำสื่อการเรยี นรู้ พัฒนานักเรียนยงั ไม่สามารถบอกความหมายและประเภทของอาชีพแต่ละ อาชีพด้วยสื่อการสอนบัตรคำความหมายและประเภทอาชีพ สำหรับนักเรียนที่มีความบกพร่องทางด้านสติปัญญา ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 5/3 ตามทไ่ี ด้ออกแบบไว้ 6) นำสอื่ ไปทดลองใช้และนำผลท่ไี ด้มาปรับปรุง พัฒนาส่ือการสอนบัตรคำความหมายและประเภท อาชีพ สำหรับนักเรียนที่มีความบกพร่องทางด้านสติปัญญา ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 5/3 ให้มีความน่าสนใจ เข้าใจง่าย และนักเรยี นสามารถเรียนรไู้ ด้ด้วยตนเอง 7) นำผลสะท้อนในการใช้สื่อการสอนบัตรคำความหมายและประเภทอาชีพ สำหรับนักเรียน ที่มีความบกพร่องทางด้านสติปัญญา ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 5/3 บันทึกข้อมูลคะแนนในระบบสารสนเทศผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรยี นเพ่ือประเมนิ การเรียนรู้ นำข้อมูลท่ไี ด้พัฒนาผลการเรยี นร้ใู ห้ผ้เู รยี นบรรลตุ ามวัตถปุ ระสงค์ทีต่ ั้งไว้ 3. ผลลพั ธก์ ารพฒั นาทคี่ าดหวัง 3.1 เชิงปริมาณ ผู้เรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ เรื่อง ความหมายและประเภทอาชีพ ด้วยสื่อการเรียนการสอน บัตรคำอาชีพต่าง ๆ ที่ครูพัฒนาขึ้น มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 และ ผู้เรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ เรื่อง ความหมายและประเภทอาชีพ ด้วยสื่อการเรียนการสอนบัตรคำ อาชพี ต่าง ๆ ทีค่ รพู ฒั นาขนึ้ ในระดบั มาก ขึน้ ไป 3.2 เชิงคณุ ภาพ ผู้เรียนมีสื่อการเรียนการสอนบัตรคำอาชีพต่าง ๆ และสามารถนำความรู้เกี่ยวกับการประกอบ อาชีพไปต่อยอดในการเรียนรู้เรื่องอื่น ๆ ในสาขาวิชาการงานอาชีพ และทักษะอาชีพรวมทั้งสามารถเชื่อมโยงกับ ชวี ติ ประจำวนั เพอื่ ใช้ในการส่อื สารในครอบครัว และชมุ ชนไดอ้ ยา่ งมีประสิทธภิ าพ ลงชอ่ื ...................................................................... (นางสาวรชั ฎาภรณ์ กองเพ็ชร) ตำแหน่ง พนักงานราชการ ผูจ้ ดั ทำขอ้ ตกลงในการพัฒนางาน วันท่ี 1 เดอื น ตลุ าคม พ.ศ. 2564

15 ความเหน็ ของผ้อู ำนวยการสถานศึกษา  เหน็ ชอบใหเ้ ปน็ ขอ้ ตกลงในการพฒั นางาน  ไม่เห็นชอบให้เป็นข้อตกลงในการพัฒนางาน โดยมีข้อเสนอแนะเพื่อนำไปแก้ไขและเสนอเพ่ือพิจารณา อกี คร้ัง ดังนี้ ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ลงชือ่ ...................................................................... (นายวัชรพล มนตรีภักดี) ตำแหน่ง ผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นโสตศกึ ษาจงั หวัดร้อยเอด็ วนั ที่ 1 เดอื น ตลุ าคม พ.ศ. 2564

16