Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รังสีเอ็กซ์ x-rays

รังสีเอ็กซ์ x-rays

Published by yupawuttha061, 2022-12-28 02:13:31

Description: รังสีเอ็กซ์ x-rays

Search

Read the Text Version

X-RAYรั ง สี เ อ ก ซ์ ฟิสิกส์ ม.6 คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า จัดทำโดย นางสาวยุพา วุฒิทา เลขที่ 36 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่6 โรงเรียนชาติตระการวิทยา เสนอ อาจารย์ ไพโรจน์ ขุมขำ

คำนำ สมุดเล่มเล็กนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา ฟิสิกส์เพื่อให้ศึกษา หาความรู้ในเรื่องรังสีเอกซ์(x-ray) คุณสมบัติของรังสีเอกซ์ ประโยชน์ของรังสีเอกซ์ รังสีเอกซ์กับผลกระทบต่อร่างกายมนุษย์ และแบบฝึกหัดท้ายบท เพื่อให้ได้ศึกษาอย่างเข้าใจ และเป็นประโยชน์ต่อการศึกษา ผู้จัดทำหวังว่าการจัดทำสมุดเล่มเล็กเล่มนี้จะมีข้อมูลที่เป็น ประโยชน์ต่อผู้ที่ได้ศึกษา ผุ้จัดทำ นางสาวยุพา วุฒิทา

@reallygreatsiteส า ร บั ญ รังสีเอกซ์ รังสีเอกซ์คืออะไร เครื่องเอกซเรย์ทั่วไป (General X-ray) ประโยชน์ของรังสีเอกซ์ คุณสมบัติของรังสีเอกซ์ แบบฝึกหัด-เฉลย PEDRO FERNANDES

รังสีเอกซ์ รังสีเอกซ์ (X-ray หรือ Röntgen ray) เป็น รังสีแม่เหล็กไฟฟ้า ที่มีความยาวคลื่น ในช่วง 10 ถึง 0.01 นาโนเมตร ตรงกับ ความถี่ในช่วง 30 ถึง 30,000 เพตะเฮิรตซ์ (10 15 เฮิรตซ์) ในเบื้องต้นมีการใช้รังสีเอกซ์สำหรับถ่ายภาพเพื่อ การวินิจฉัยโรค และงาน ผลึกศาสตร์ (crystallography) รังสีเอกซ์เป็นการแผ่ รังสีแบบแตกตัวเป็นไอออน และมีอันตรายต่อมนุษย์ รังสีเอกซ์ค้น พบโดย วิลเฮล์ม คอนราด เรินต์เกน เมื่อ ค.ศ. 1895 นอกจากเรินต์เกนแล้ว ยังมีนักวิทยาศาสตร์ที่ทำงานร่วมกับรังสี เอกซ์อย่าง Clarence Dally เขาคือผู้ช่วยของโทมัส เอดิสัน ซึ่ง ได้ทำการศึกษาและทำงานร่วมกับหลอดทดลองรังสีเอกซ์เป็น เวลาหลายปี แต่ผลจากการสัมผัสกับรังสีเอกซ์ทำให้ผมของเขา เริ่มร่วง ผิวหนังของเขาเป็นแผลที่ไม่สามารถรักษาได้ มือของเขา ที่สัมผัสกับรังสีเอกซ์ได้ไหม้และกลายเป็นมะเร็ง เขาถูกตัดแขนทั้ง สPrอeงpaขr้าeงd อbyอ:กไป และเป็นมนุษย์คนแรกที่เสียชีวิตลงจากรังสีเอกซ์ ดF้RวAยNวCัยOIเSพีMยEงRC3E9R ปี Predented by: PEDRO FERNANDES

@reallygreatsiteรังสีเอกซ์คืออะไร รังสีเอกซ์เป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าชนิดหนึ่งเช่นเดียวกับคลื่นไมโครเวฟ อินฟราเรด แสงขาว อัลตราไวโอเลต และรังสีแกมมา โดยรังสีเอกซ์ เป็นรังสีที่มีพลังงานสูง มีสมบัติบางประการเหมือนคลื่น และสมบัติ บางประการเหมือนอนุภาค มีความยาวคลื่นอยู่ในช่วง 0.01-10 นาโน เมตร ซึ่งเป็นความยาวคลื่นที่อยู่ระหว่างรังสีอัลตราไวโอเลตกับรังสี แกมมา และมีความถี่อยู่ในช่วง 3x1016 ถึง 3x1019 Hz แหล่งกำเนิดของรังสีเอกซ์ตามธรรมชาติ ได้แก่ ก๊าซเรดอน ปรากฏการณ์ฟ้าผ่า และรังสีคอสมิก ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลง ระดับชั้นพลังงานของอิเล็กตรอน (ออบิทัล) ที่อยู่รอบนิวเคลียสเมื่อ ได้รับการกระตุ้น แต่มันจะพยายามกลับสู่สภาวะปกติโดยการย้ายจาก ระดับชั้นพลังงานที่สูงกว่าไปอยู่ในระดับชั้นพลังงานที่ต่ำกว่าของ อิเล็กตรอน และปลดปล่อยพลังงานจำนวนหนึ่งออกมา พลังงานนี้ เป็นพลังงานพิ เศษที่อยู่ในรูปแบบของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าหรือโฟตอน Pเรrีeยpกaวr่eาd รbังy:สีเอกซ์ (x-rays) FRANCOIS MERCER Predented by: PEDRO FERNANDES

@reallygreatsiteเครื่องเอกซเรย์ทั่วไป (General X-ray) หลอดเอกซเรย์ หลอดแก้ว (Glass envelope) ประกอบด้วย power supply แก้วที่ห่อหุ้มหลอดเอกซเรย์ภายในหลอดแก้วเป็นสูญญากาศ(อากาศ หรือก๊าซทั้งหมดถูกขจัดออก)ป้องกันการชนกันของอิเล็กตรอนและ โมเลกุลของอากาศก่อนที่จะวิ่งไปถึง anode เป็นการเพิ่ม ประสิทธิภาพของหลอด Prepared by: FRANCOIS MERCER Predented by: PEDRO FERNANDES

@reallygreatsiteประโยชน์ของรังสีเอกซ์ ความเสียสละของนักวิทยาศาสตร์นำมาซึ่งการค้นพบที่เป็นประโยชน์ของ มวลมนุษยชาติ โดยเฉพาะประโยชน์ทางการแพทย์ เพราะภายหลังมีการนำ รังสีเอกซ์มาใช้ในการวินิจฉัยทางการแพทย์ เช่น การตรวจหามะเร็งปอด นิ่ว ในไต การถ่ายภาพโครงสร้างกระดูกและฟัน ตลอดจนนำมาใช้ในการรักษา ซึ่งเกิดจากการที่ Emil Grubbe จาก Hahnemann Medical College สังเกตว่า ผิวหนังที่มือของเขาหลุดลอกหลังจากวางมือบนเครื่องผลิตรังสี เอกซ์ เขาจึงแนะนำให้ทดลองใช้รังสีเอกซ์กับผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่หมดหวัง ในการรักษาแล้ว และผลปรากฏว่ามะเร็งของเธอหดเล็กลงและดูเหมือน อาการจะดีขึ้น การรักษาด้วยรังสีเอกซ์จึงถือกำเนิดขึ้น นอกจากนี้ยังมีการใช้ประโยชน์จากรังสีเอกซ์อีกมากมายอย่างการถ่ายภาพ รังสีอุตสาหกรรม การรักษาความปลอดภัยสนามบิน การสร้างสรรค์งาน ศิลปะ การถ่ายภาพทางดาราศาสตร์ เป็นต้น

@reallygreatsiteคุณสมบัติของรังสีเอกซ์ เป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าชนิดหนึ่งสามารถทะลุทะลวง (penetrate)ผ่านวัตถุได้สามารถทำให้โมเลกุลของกาซเกิดการแตก ตัวได้ เคลื่อนที่เป็นเส้นตรงด้วยความเร็ว 3x10[8] m/s และบาน ออกจากจุดโฟกัส มีผลต่อฟิล์มเอกซเรย์ ทำให้ฟิล์มดำเมื่อกระทบกับ สารเรืองแสง (Fluorescence) จะเปลี่ยนเป็นแสงที่ มองเห็นได้ ด้วยตาเปล่า (Visible light) เมื่อกระทบกับสิ่งอื่นทำให้เกิดแสง กระจัดกระจาย (Secondary or scatered radiation) ทำให้เกิด การเปลี่ยนแปลงทางเคมีขึ้นในวัตถุที่รังสีเอกซ์ผ่านไปมีผลทาง ชีววิทยา (Biological effect) ต่อสิ่งมีชีวิต เช่ ต่อเซลร่างกาย (Somatic cells) โดยตรงหรือบริเวณใกล้เซล โดยมีผลทำให้มีการเปลี่ยนแปลงทางเคมีเกิดขึ้นเซลอาจตายหรือเสีย หายถ้าถูกกับเซลสืบพันธุ์ มีผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในยีนส์ได้ ค่าความเข้มที่ระยะห่างใดๆจากจุดกำเนิดจะเป็นไปตามกฏกำลังสอง ผกผัน (Inverse square law) ไม่หักเหในสนามแม่เหล็กและสนาม ไฟฟ้าสามารถเดินทางผ่านสูญญากาศได้

แบบฝึกหัดท้ายบท 1. ข้อใดไม่ใช่ข้อบ่งชี้ในการตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ของสมอง (Brain) ก. Sinusitis ข. Hydrocephalus ค. Acute head trauma ง. Intracranial infection @reallygreatsite2. ข้อใดเป็นการจัดท่าผู้ป่วยในการตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ของสมอง (Brain) ก. ผู้ป่วยนอนหงาย แขนทั้งสองข้างวางข้างลำตัว จัดศีรษะผู้ป่วยให้ตั้งตรง โดยให้เส้นมาตรฐาน Infraorbitomeatal line (IOML) ขนานกับพื้น ข. ผู้ป่วยนอนหงาย แขนทั้งสองข้างวางข้างลำตัว จัดศีรษะผู้ป่วยให้ตั้งตรง โดยให้เส้นมาตรฐาน Orbital-meatal line (OML) ขนานกับพื้น ค. ผู้ป่วยนอนหงาย แขนทั้งสองข้างวางข้างลำตัว จัดศีรษะผู้ป่วยให้ตั้งตรง โดยให้เส้นมาตรฐาน Infraorbitomeatal line (IOML) ตั้งฉากกับพื้น ง. ผู้ป่วยนอนหงาย แขนทั้งสองข้างวางข้างลำตัว จัดศีรษะผู้ป่วยให้ตั้งตรง โดยให้เส้นมาตรฐาน Orbital-meatal line (OML) ตั้งฉากกับพื้น 3. การใช้สารทึบรังสีประเภทฉีดเข้าหลอดเลือดดำ สำหรับการตรวจเอกซเรย์ คอมพิ วเตอร์ข้อใดถูกต้อง ก. การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ของ Brain ใช้สารทึบรังสีปริมาตร 30-100 ml ข. การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ของ Chest ใช้สารทึบรังสีปริมาตร 60-100 ml ค. การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ของ Abdomen ใช้สารทึบรังสีปริมาตร 100- 500 ml ง. ถูกทุกข้อ 4. ข้อบ่งชี้ใดไม่ต้องฉีดสารทึบรังสีร่วมในการตรวจ ก. Intracranial hemorrhage ข. Lung metastasis ค. Liver mass ง. Cranial tumor 5. ข้อใดคือระยะในการสแกนสำหรับการตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ของช่องอก (Chest) ก. ตั้งแต่ base of skull ถึง above diaphragm ข. ตั้งแต่ top of shoulder ถึง iliac crest ค. ตั้งแต่ top of lung ถึง mid-liver ง. ตั้งแต่ mid-aortic arch ถึง ASIS Prepared by: FRANCOIS MERCER Predented by: PEDRO FERNANDES

เฉลยแบบฝึกหัดท้ายบท 1. ข้อใดไม่ใช่ข้อบ่งชี้ในการตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ของสมอง (Brain) ก. Sinusitis ข. Hydrocephalus ค. Acute head trauma ง. Intracranial infection @reallygreatsite2. ข้อใดเป็นการจัดท่าผู้ป่วยในการตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ของสมอง (Brain) ก. ผู้ป่วยนอนหงาย แขนทั้งสองข้างวางข้างลำตัว จัดศีรษะผู้ป่วยให้ตั้งตรง โดยให้เส้นมาตรฐาน Infraorbitomeatal line (IOML) ขนานกับพื้น ข. ผู้ป่วยนอนหงาย แขนทั้งสองข้างวางข้างลำตัว จัดศีรษะผู้ป่วยให้ตั้งตรง โดยให้เส้นมาตรฐาน Orbital-meatal line (OML) ขนานกับพื้น ค. ผู้ป่วยนอนหงาย แขนทั้งสองข้างวางข้างลำตัว จัดศีรษะผู้ป่วยให้ตั้งตรง โดยให้เส้นมาตรฐาน Infraorbitomeatal line (IOML) ตั้งฉากกับพื้น ง. ผู้ป่วยนอนหงาย แขนทั้งสองข้างวางข้างลำตัว จัดศีรษะผู้ป่วยให้ตั้งตรง โดยให้เส้นมาตรฐาน Orbital-meatal line (OML) ตั้งฉากกับพื้น 3. การใช้สารทึบรังสีประเภทฉีดเข้าหลอดเลือดดำ สำหรับการตรวจเอกซเรย์ คอมพิ วเตอร์ข้อใดถูกต้อง ก. การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ของ Brain ใช้สารทึบรังสีปริมาตร 30-100 ml ข. การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ของ Chest ใช้สารทึบรังสีปริมาตร 60-100 ml ค. การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ของ Abdomen ใช้สารทึบรังสีปริมาตร 100- 500 ml ง. ถูกทุกข้อ 4. ข้อบ่งชี้ใดไม่ต้องฉีดสารทึบรังสีร่วมในการตรวจ ก. Intracranial hemorrhage ข. Lung metastasis ค. Liver mass ง. Cranial tumor 5. ข้อใดคือระยะในการสแกนสำหรับการตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ของช่องอก (Chest) ก. ตั้งแต่ base of skull ถึง above diaphragm ข. ตั้งแต่ top of shoulder ถึง iliac crest ค. ตั้งแต่ top of lung ถึง mid-liver ง. ตั้งแต่ mid-aortic arch ถึง ASIS Prepared by: FRANCOIS MERCER Predented by: PEDRO FERNANDES

@reallygreatsiteแบบฝึกหัด 1.who discuvered x-rays ................................................................................................................................ ................................................................................................................................ 2.การค้นพบโดยบังเอิญเกิดจากการทดลองเกี่ยวกับอะไร .................................................................................................................................. ................................................................................................................................. 3.รังสีที่เกิดขึ้นนั้น เขาคิดว่าไม่ใช่รังสีแคโทดเพราะเหตุใด ................................................................................................................................ ................................................................................................................................ 4.ปัจจุบันเรานำรังสีเอกซ์ไปใช้ทำประโยชน์อะไรบ้าง ................................................................................................................................ ................................................................................................................................ Prepared by: FRANCOIS MERCER Predented by: PEDRO FERNANDES

@reallygreatsiteเฉลยแบบฝึกหัด 1.who discovered x-rays? W.C. Röntgen 2.การค้นพบโดยบังเอิญเกิดจากการทดลองเกี่ยวกับอะไร การค้นพบโดยบังเอิญมี10อย่าง 1.ไมโครเวฟ 2.เทฟลอน 3.หมากฝรั่ง 4.คุ้กกี้ช็อกโกแลตชิพ 5.ขัณฑสกร (Saccharin) 6.กาวซุปเปอร์กลู (Super Glue) 7.รังสีเอกซ์เรย์ 8.ยางรถยนต์ 9.ไม้ขีดไฟ 10.Corn Flakes 3.รังสีที่เกิดขึ้นนั้น เขาคิดว่าไม่ใช่รังสีแคโทดเพราะเหตุใด รังสีแคโทด คือกระแสของ อิเล็กตรอน ที่สังเกตได้ใน ท่อสุญญากาศ ถ้าเราติดตั้งอิเล็กโทรดสองชุดเข้ากับท่อแก้วที่เป็นสุญญากาศแล้วจ่าย โวลต์เข้าไป จะสังเกตได้ว่าแก้วทางฝั่ งตรงข้ามของ อิเล็กโทรด ขั้วลบ จะเรืองแสง ซึ่งเกิดจากการปลดปล่อยอิเล็กตรอนและเดินทางตั้งฉาก กับ แคโทด 4.ปัจจุบันเรานำรังสีเอกซ์ไปใช้ทำประโยชน์อะไรบ้าง ในทางการแพทย์เอกซเรย์สามารถนำไปใช้ตรวจภาพของเนื้อเยื่อ/ อวัยวะได้ทุกส่วนของร่างกาย และตรวจได้ทุกเพศ ทุกวัย ซึ่งถือว่าให้ ประโยชน์อย่างมากต่อการรักษาเพราะแพทย์จะได้นำไปใช้ในการหา แนวทางรักษาโรคได้ตรงกับอาการมากที่สุด และเพื่อการรักษาที่มี ประสิทธิภาพ Prepared by: FRANCOIS MERCER Predented by: PEDRO FERNANDES

@reallygreatsite Prepared by: FRANCOIS MERCER Predented by: PEDRO FERNANDES


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook