Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สื่อการสอนเสมือนจริง

สื่อการสอนเสมือนจริง

Published by anusorn.maestozo, 2019-09-05 23:30:16

Description: Orchestra Percussion Instrument

Search

Read the Text Version

ส่ือเสมือนจริง Orchestra Percussion Instrument

ผจู้ ดั ทำ นำย อนุสรณ์ ปรำบหนองบวั่ รหสั นกั ศึกษำ 4008614056

Timpani กลองทมิ ปานี (Timpani) เป็นกลองที่ปรับระดบั เสียงได้ มีรูปร่ำงคลำ้ ย กระทะหรือกำตม้ น้ำ จึง มีชื่อเรียกอีกช่ือหน่ึงวำ่ {Kettle Drum} ต้งั อยบู่ นฐำน ตวั กลองทำดว้ ยทองแดง ใชห้ นงั ลูกววั ขึง มีสกรูอยรู่ อบๆ ขอบกลองเพ่ือใชบ้ งั คบั หนงั กลองใหต้ ึงมำกนอ้ ยใหเ้ กิดระดบั เสียง ที่ตอ้ งกำร นอกจำกสกรูแลว้ ท่ีฐำนยงั มีกระเด่ืองไวใ้ หผ้ เู้ ล่นเหยยี บเปล่ียนระดบั เสียงอุปกรณ์ ที่สำคญั อีกอยำ่ งหน่ึงคือ ไมต้ ีกลอง (Drum Sticks)ซ่ึงมีขนำดแตกต่ำงกนั (เลก็ กลำง และ ใหญ่) หวั ไมต้ ีกลองมกั จะหุม้ ดว้ ยสักหลำด ผำ้ สำลี ไมก้ ๊อก หรือ ฟองน้ำเสียงของทิมปำนี จะทุม้ มำกหรือนอ้ ยข้ึนอยกู่ บั เสน้ ผำ่ ศูนยก์ ลำง ของหนำ้ กลอง ถำ้ เส้นผำ่ ศูนยก์ ลำงยำวมำก เสียงกจ็ ะทุม้ มำกถำ้ เส้นผำ่ ศูนยก์ ลำงส้นั เสียงจะมีควำมทุม้ นอ้ ย เสียงของกลองทิมปำนี เทียบไดก้ บั เสียงเบสเป็นเสียงที่แสดงอำนำจตื่นเตน้ เร้ำใจ กลองทิมปำนีจะใชบ้ รรเลงในวงออเคสตร้ำ ในกำรบรรเลงตอ้ งใชก้ ลองทิมปำนีอยำ่ งนอ้ ย 2 ใบ จึงมีรูปพหูพจนอ์ ยเู่ สมอคือ \"Timpani\" ถำ้ เป็นเอกพจนห์ รือกลองลูกเดียวเรียกวำ่ \"Timpano\" กลองทิมปำนีเป็นกลองท่ีมีระดบั เสียงท่ีนิยมมี 4 ขนำด คือ 20 นิ้ว, 23 นิ้ว, 26 นิ้วและ29นิ้ว กลองแต่ละใบจะมีช่วงห่ำงของเสียงอยรู่ ำว คู่ 5 เพอร์เฟค (Perfect) และถำ้ ตอ้ งกำรจะใหม้ ีเสียงที่ดีควรจดั ใหเ้ สียงอยชู่ ่วงกลำง

Snare Drum กลองเลก็ (Snare Drum) เครื่องตีกระทบ มี 2 หนำ้ ขึงดว้ ยหนงั กลอง ลกั ษณะเฉพำะกค็ ือ หนำ้ กลองดำ้ นลำ่ งขึงคำดไวด้ ว้ ยสำยสแนร์ ทำดว้ ยเอน็ สัตว์ ในปัจจุบนั สำยสแนร์มีท้งั ที่ทำ ดว้ ยไนล่อนและทำดว้ ยเส้นลวดโลหะ กลองเลก็ มีช่ือเรียกหลำยชื่อ เช่น Snare drum มีขำต้งั รองรับตวั กลองใชเ้ ป็นส่วนหน่ึงของกลองชุด หรือนำมำใชบ้ รรเลง ประกอบจงั หวะสำหรับวงออเคสตร้ำหรือวงดนตรีอื่น ๆ ที่นงั่ บรรเลง สำหรับวงโยธวำทิต และแตรวงมีตวั ยดึ กลองทำดว้ ยโลหะคลอ้ งยดึ ไวก้ บั ลำตวั ของผตู้ ี กลองจะอยดู่ ำ้ นหนำ้ ของ ผตู้ ี Side Drum ใชส้ ำหรับเรียกกลองเลก็ ท่ีผตู้ ีตอ้ งใชส้ ำยสะพำยคลอ้ งกลองไวข้ ำ้ งลำตวั ตะขอ ที่อยตู่ ิดกบั ขอบกลอง ใชค้ ลอ้ งเก่ียวกบั ตวั กลองไวก้ บั สำยสะพำยขอบกลองดำ้ นบนอยใู่ น ระดบั เดียวกบั เอวของผตู้ ี ตวั กลองอยใุ่ นลกั ษณะเฉียงกบั ลำตวั ของผตู้ ี

Orchestra Cymbals ฉาบ เป็นเคร่ืองดนตรีประเภทเพอร์คสั ชนั่ มีลกั ษณะเป็นแผน่ โลหะบำงๆ รูปร่ำงคลำ้ ยจำน โดย ส่วนมำกจะเป็นเคร่ืองดนตรีไมม่ ีระดบั เสียงเป็นเคร่ืองดนตรีที่ใชใ้ นดนตรีหลำยชนิด เช่นวงออเค สตร้ำสมยั ใหม่ วงมำร์ชิ่ง วงคอนเสิร์ต ดนตรีทหำร รวมถึงเขำ้ มำเป็นส่วนหน่ึง ของกลองชุดใน ปัจจุบนั ดว้ ย ในวงโยธวำทิต สำมำรถแบ่งฉำบท่ีใชค้ แขวนกบั ขำต้งั นิยมตีดว้ ยไมแ้ บบหวั มลั เลต็ หุ้ม ในกลองชุด กใ็ ชฉ้ ำบแบบน้ีเช่นเดียวกนั

Bass Drum กลองใหญ่ (Bass Drum) คือ เคร่ืองตีกระทบ มี 2 หนำ้ ขึงดว้ ยหนงั กลอง กลองใหญท่ ่ีใชใ้ นวงออเคสต ร้ำและเป็น กระเด่ืองในกลองชุดด้วย จะมีขนำดใหญท่ ่ีสุดกวำ่ 32 นิ้ว ถำ้ ใชใ้ นวงโยธวำทิตและแตรวง จะมี ขนำดต้งั แต่ 24 – 32 นิ้ว ตีดว้ ยไมต้ ี ปลำยไมข้ ำ้ งหน่ึงทำเป็นปมไวสั ำหรับใชต้ ีกระทบกบั หนงั กลอง ปมน้นั อำจหุม้ ดว้ ยสกั หลำด ไมก้ อ็ ก ผำ้ นวมหรือฟองน้ำ เสียงกลองตีเนน้ ย้ำจงั หวะเพื่อใหเ้ กิดวำม หนกั แน่นหรืออำจจะใชร้ ัวเพื่อใหเ้ กิดควำมตื่นเตน้ รัวเพ่ือสร้ำงจุดสนใจในบทเพลงเพิ่มข้ึนกไ็ ด้

Tambourine

Marimba มำริมบำ้ (Marimba)ไดเ้ ร่ิมเขำ้ มำมีบทบทในวงออเคสตร้ำในช่วงศตวรรษที่ 19 ท้งั ในฐำนะของ เคร่ืองประกอบ และเครื่องดนตรีโซโล่ ถือว่ำเป็ นระยะเวลำท่ีชำ้ มำก จึงทำให้มำริมบำ้ ไม่ค่อย เป็ นท่ีนิยมเท่ำไหร่สำหรับนกั เปอคสั ชนั่ เครื่องดนตรีเปอคสั ชน่ั ที่นิยมและเป็ นท่ีรู้จกั สำหรับ บุคคลทวั่ ไปส่วนใหญ่จะเป็ นเคร่ือง ทิมพำนี (Timpani) กลองสแนร์ (Snare Drum) ฉำบ (Cymbal) และไทรแองเก้ิล (Triangle) เพรำะเคร่ืองดนตรีจำพวกน้ีมีอำยุควำมเป็ นมำท่ียำวนำก ว่ำ รวมถึงมีผูป้ ระพนั ธ์หลำยท่ำนไดเ้ ขียนบทเพลงสำหรับวงดนตรีต่ำงๆ ท่ีมีเครื่องดนตรีเหล่ำน้ี ประกอบอยู่ ลว้ นเป็ นบทเพลงที่สำคญั และน่ำสนใจ แต่ทว่ำเครื่องดนตรีเหล่ำน้ีก็ไม่นิยมนำมำใช้ สำหรับกำรแสดงเด่ียว ดงั น้ันนกั เปอคสั ชนั่ จึงไม่ค่อยไดม้ ีโอกำสออกมำแสดงเดี่ยวเหมือนกบั เครื่องดนตรีอ่ืนๆ โอกำสในกำรแสดงก็มีเพียงแต่เล่นเป็ นวงดนตรีเท่ำน้นั เม่ือมำริมบำ้ ไดถ้ ูกเผยแพร่เป็ นที่รู้จกั เพ่ิมมำกข้ึน ทำให้นกั เปอคสั ชนั่ หลำยๆคนสนใจที่ จะนำมำใชบ้ รรเลงเดี่ยว และบรรเลงร่วมกบั วงต่ำงๆ ดว้ ยเหตุน้ีเอง ท้งั นักเปอคสั ชน่ั และ ผูป้ ระพนั ธ์เพลงจึงเริ่มสนใจที่จะประพนั ธ์บทเพลงสำหรับมำริมบำ้ เพ่ิมมำกข้ึนเรื่อยๆดว้ ย เช่นกนั ทำให้มำริมบำ้ เร่ิมเป็ นท่ีรู้จกั และแพร่หลำยมำกข้ึนเรื่อยๆดว้ ยกำรแสดงของนกั มำริมบำ้ หลำยๆท่ำน และกำรแสดงของวงออเคสตร้ำต่ำงๆท่ีมีเคร่ืองดนตรีชนิดน้ีประกอบ

Vibraphone

Xylophone ไซโลโฟน (Xylophone) เป็ นเคร่ืองดนตรีประเภทเครื่องกระทบ(Percussion Instruments) ชนิดที่มี ระดบั เสียงแน่นอน (Definite Pitch) เป็นระนำดไมข้ นำดเลก็ ของดนตรีตะวนั ตก ลกั ษณะทวั่ ไปจะ คลำ้ ยกบั Marimba หรือVibraphone แต่ไวบรำโฟนทำจำกโลหะ และมีขนำดใหญ่กวำ่ ไซโลโฟน ลูกระนำดของไซโลโฟนทำดว้ ยไมเ้ น้ือแขง็ เช่น โร้สวดู เป็นตน้ จดั เรียงลำดบั เสียงตำมบนั ไดเสียง โครมำติก (Chromatic) เช่นเดียวกบั เปี ยโนหรือออร์แกน ใตล้ ูกระนำดมีท่อโลหะติดอยเู่ พื่อเป็นตวั ขยำยเสียง คำดวำ่ มีตน้ กำเนิดมำจำกแอฟริกำ และเอเชีย ไม้ 2 อนั ท่ีใชต้ ีเรียกวำ่ ลูกคอ้ น ลกั ษณะตรงปลำยเป็นหวั กลม ควำมกวำ้ งของช่วงเสียงข้ึนอยกู่ บั ขนำดของไซโลโฟน ซ่ึงมีดว้ ยกนั 3 ลกั ษณะคือ เลก็ กลำง ใหญ่ เสียงของไซโลโฟน คลำ้ ยเสียง ระนำดของบำ้ นเรำ คือ แกร่ง คม ส้นั หว้ น และชดั เจน ใชเ้ ลน่ ไลเ่ สียง และเลน่ “กลิสซำนโต” ไดด้ ี เป็นพิเศษ และเหมำะที่จะใชเ้ ป็นเคร่ืองดนตรีเล่นเด่ียวทำนองเพลงหรือเพิ่มสีสนั ของวงดุริยำงคใ์ ห้ งดงำมข้ึน แซงท-์ ซองส์ไดน้ ำมำใชใ้ นวงดุริยำงคเ์ ป็นคร้ังแรกเม่ือ ค.ศ. 1874 ในเพลง “danse macabre” บรรยำยถึงโครงกระดูกผีกระทบกนั

Orchestra Bells,Glockenspiel กล็อคเคนสปิล (Glockenspiel)รูปร่ำงคลำ้ ยไซโลโฟนแต่มีขนำดเลก็ กวำ่ ลูกระนำดเป็นแผน่ เหลก็ ไมต้ ีเรียกวำ่ “Mallet” มีหวั ตีทำดว้ ยวสั ดุต่ำงๆ กนั เช่น ไม้ ยำง โลหะ กลอ็ คเคนสปิ ลเหมำะท่ีจะเล่นเสียงสูงของแนวทำนอง เพรำะมีเสียงใสกงั วำนคลำ้ ยระฆงั เลก็ ๆ สำหรับใชเ้ ลน่ ในวงออเคสตร้ำ ซ่ึงเป็นเคร่ืองท่ีนกั แต่งเพลงนิยมนำมำใชใ้ นบทเพลงมำกท่ีสุดใน กลุม่ เครื่องเพอร์คสั ชนั่ ท่ีมีระดบั เสียง ปัจจุบนั ไดม้ ีกำรนำไปใชใ้ นวงโยธวำทิต วงเมโลเดียน และ แตรวง มีกลอ็ คเคนสปิ ลชนิดหน่ึงเรียกวำ่ เบล-ไลรำ (Bell-Lyra)

Tubular bells,Chimes ระฆงั รำว (Tubular Bells) ในภำษำองั กฤษเรียกระฆงั รำววำ่ “Orchestral Bells” และ “Chimes” เครื่องดนตรีชนิดน้ีประดิษฐข์ ้ึนเพื่อเลียนเสียงระฆงั จริง ๆ ทำดว้ ยท่อโลหะแขวนเรียงตำมลำดบั เสียงต่ำไปยงั เสียงสูงท่อโลหะท่ีมีขนำดส้นั จะเป็นเสียงสูงส่วนทอ่ ยำวจะเป็นเสียงต่ำ แขวนกบั โครงโลหะในแนวดิ่ง ใชไ้ มต้ ีที่ปลำยทอ่ ดำ้ นหวั จะเกิดเป็นเสียงเหมือนเสียงระฆงั

รำยกำรอำ้ งอิง http://th.Wikipedia.org อนุสรณ์ ปรำบหนองบวั่ . เอกสารประกอบการ สอนรายวิชาปฏิบัติเอก Percussion.


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook