ใบความรูท้ ี่ 1 การช้ีแจงการจดั กระบวนการเรยี นร้หู ลักสูตรการศึกษานอกระบบระดบั การศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน 2551 การจัดการเรียนรู้ ตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 มุ่งเน้นการจัดการเรียนรู้ตามปรัชญา “คิดเป็น” และยึดหลักว่าผู้เรยี นทกุ คนสามารถเรียนรู้และพฒั นาตนเอง ได้ ผู้เรียนแต่ละคนมีธรรมชาติที่แตกต่างกัน ทั้งด้านวัย วุฒิภาวะ ความถนัด คว ามสนใจ วิธีการเรียนรู้ ตลอดจนมีการดำเนินชีวิตและสิ่งแวดล้อมที่แตกต่างกัน ซึ่งส่งผลต่อการเรียนรู้ของผู้เรียน ดังนั้นการจัดการ เรียนรู้จึงต้องยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนได้พัฒนาความสามารถของตนเอง ตามธรรมชาติ เตม็ ตามศกั ยภาพที่มีอยู่ และเรียนรู้อย่างมีความสขุ ขัน้ ตอนการจัดการเรยี นรู้ ตามหลักสตู รการศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ขัน้ พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 มี 4 ข้นั ตอน ดังน้ี ขั้นตอนที่ 1 การแนะแนว การแนะแนวเป็นขั้นตอนแรกที่มีความสำคัญ สถานศึกษา ต้องจัดบริการแนะแนว เกี่ยวกับหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 เพราะเป็นข้อมูลเบื้องต้นที่ประชาชนหรือกลุ่มเป้าหมายควรจะได้มีความเข้าใจเกี่ยวกับ วิธีเรียน กศน. ซงึ่ มกี ารจดั การเรยี นรทู้ หี่ ลากหลาย ท่ีกลุม่ เป้าหมายสามารถเลอื กเรยี นได้ และจะตอ้ งให้ขอ้ มลู เก่ียวกับการจบ หลักสูตรการศึกษา การเทยี บโอนความรู้และประสบการณ์ การเทียบโอนผลการเรียน ท่ผี ู้เรียนสามารถนำผล การเรยี น หรอื นำประสบการณ์ มาขอเทยี บโอนความรู้ตามหลักสูตรฯ และเรยี นเพ่มิ เตมิ บางสาระที่ไม่สามารถ เทียบโอนได้ สถานศึกษาจะต้องจัดบริการแนะแนวให้กับกลุ่มเป้าหมายได้เข้าใจแต่เริ่มต้น เพื่อเขาจะได้ ตดั สินใจเลอื กเรยี นได้อยา่ งเหมาะสมสอดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการและวิถีชวี ิตของตนเอง ขั้นตอนที่ 2 การรับสมัครผู้เรียน และการตรวจสอบหลักฐานการศึกษา การรับสมัครผู้เรียน และการตรวจสอบหลักฐานการศึกษา สถานศึกษาจะต้องตรวจสอบหลักฐานการสมัครให้ถูกต้องครบถ้วน เช่น การกรอกใบสมัครเป็นนักศึกษา กศน. วุฒิการศึกษา สำเนาทะเบียนบ้านผู้สมัครที่มีชื่อบิดามารดา บตั รประจำตัวประชาชน ใบเปลยี่ นช่อื – ชือ่ สกลุ หรอื ใบทะเบยี นสมรส ใบหยา่ รปู ถา่ ยหน้าตรงไม่สวมแว่นตา ดำและไม่สวมหมวก เป็นต้น เมื่อตรวจสอบหลักฐานและใบสมัครเป็นนักศึกษา กศน. ถูกต้องครบถ้วนแล้ว ให้กรอกใบลงทะเบียนเรียน การลงทะเบียนเรียนนั้น นักศึกษาต้องยื่นขอลงทะเบียนเรียนตามสาระรายวิชา ที่สถานศึกษาเปิดสอนและตามจำนวนหน่วยกิตที่กำหนดให้ลงทะเบียนได้ตามวันเวลาที่ระดับประถมศึกษา ลงทะเบียนเรียนได้ภาคเรยี นละ 12 – 14 หน่วยกิต ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ลงทะเบียนเรียนได้ภาคเรยี น ละ 14 – 16 หนว่ ยกิต ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย ลงทะเบียนเรียนไดภ้ าคเรียนละ 18 – 20 หน่วยกิต
ขั้นตอนที่ 3 การปฐมนิเทศ และการวางแผนการเรียน การปฐมนิเทศและการวางแผนการเรียน เป็นขั้นตอนที่มีความสำคัญมากสำหรับผู้เรียน สถานศึกษาต้องชี้แจงให้ผู้เรียนเข้าใจเกี่ยวกับวิธีเรียน กศน. การวัดผลและประเมินผล ตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนที่ลงทะเบียนเรียนได้เลือกรปู แบบการเรียนรูท้ ี่เหมาะสม ตามความต้องการ สอดคล้อง กับวิถีชีวิต และการทำงานของผู้เรียน เช่น การเรียนแบบพบกลุ่ม การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้ แบบทางไกล การเรียนรู้แบบชั้นเรยี น และการเรียนรูร้ ปู แบบอืน่ ๆ ซึ่งการเรียนรู้ตามรูปแบบต่าง ๆ ดังกล่าว ในแต่ละรายวิชาผู้เรียนสามารถเลือกเรียนรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง หรืออาจเลือกการเรียนหลาย ๆ รูปแบบ ได้ตามความต้องการและความเหมาะสมของผู้เรียน ที่ผู้เรียนคิดว่าจะทำให้ประสบความสำเร็จในการเรียน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความพร้อมของสถานศึกษา สถานศึกษาจะต้องชี้แจงให้ผู้เรียนเข้าใจถึงวิธีการเรียนรู้รูปแบบ ต่าง ๆ ดังกล่าว ขนั้ ตอนที่ 4 การวัดและประเมินผล การวัดและประเมินผลการเรียนตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบ ระดับการศึกขัน้ พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 มีเป้าหมายสำคัญเพือ่ นำผลการประเมินไปพัฒนาผูเ้ รียนให้บรรลุ มาตรฐานการเรียนรู้ของหลักสูตรฯหรือนำไปใช้เป็นข้อมูลในการปรับปรุงแก้ไข ส่งเสริมการเรียนรู้ และพฒั นาการของผูเ้ รยี น โดยตรง และนำไปปรับปรงุ แก้ไขการจัดกระบวนการเรียนรู้ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รวมทั้งการนำไปใช้ในการพิจารณาตัดสินความสำเร็จทางการศึกษาของผู้เรียน การวัดผลและประเมินผล การเรียนตามหลักสตู รการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 มี 2 ลกั ษณะ ดังน้ี 1. การวัดและประเมินผลการเรียน 1.1 การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรายวิชา 1.2 การประเมนิ กจิ กรรมพฒั นาคณุ ภาพชีวิต 1.3 การประเมินคุณธรรม 2. การประเมนิ คุณภาพการศกึ ษานอกระบบระดับชาติ สถานศึกษาต้องจัดทำระเบียบการประเมินผลการเรียนของสถานศึกษา รวมทั้งจัดทำหลักเกณฑ์ และแนวปฏิบัติในการวัดผลและประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียนตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับ การศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 ของสถานศึกษาให้ชัดเจนเพ่อื ให้บุคลากรที่เกี่ยวขอ้ งทุกฝ่ายถือปฏิบัติ รว่ มกนั และเป็นไปตามมาตรฐานเดียวกัน
วธิ เี รียน กศน. การจัดการเรียนรูต้ ามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดบั การศกึ ขั้นพ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ยึดหลกั การ ดงั นี้ 1) พระราชบญั ญัติการศึกษาแห่งชาตพิ ุทธศกั ราช 2542 และแกไ้ ขเพม่ิ เติม(ฉบบั ที่ 2) พ.ศ. 2545 2) พระราชบัญญตั ิการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั พทุ ธศักราช 2551 3) หลกั ปรชั ญา “คิดเป็น” วิธีเรียน กศน. ตามตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ที่เหมาะสมกับผู้เรียน เช่น การเรียนรู้แบบพบกลุ่ม การเรียนรูด้ ้วยตนเอง การเรียนรู้แบบทางไกล การเรียนรู้ แบบชัน้ เรยี น ซ่ึงการเรยี นรแู้ ต่ละรปู แบบมีลกั ษณะ ดังต่อไปน้ี 1 การเรียนรู้แบบพบกลมุ่ การเรยี นรแู้ บบพบกลมุ่ เป็นการจัดการเรยี นรูท้ ก่ี ำหนดให้ผู้เรยี นมาพบกัน โดยมีครูเป็นผู้ดำเนินการให้เกิดกระบวนการกลุ่ม เพื่อให้มีการอภิปราย แลกเปลี่ยนเรียนรู้และหาข้อสรุป รว่ มกัน ทกุ สัปดาหค์ รูจะตอ้ งจัดให้มีการพบกลุ่มอย่างน้อยสปั ดาห์ละ 3 ชว่ั โมง 2 การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้ด้วยตนเอง เป็นการเรียนรู้ที่ผู้เรียนแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง โดยผเู้ รียนกำหนดแผนการเรยี นรู้ของตนเองให้สอดคลอ้ งกับรายวิชาที่ลงทะเบียน โดยระบุข้ันตอนการเรียนรู้ ตั้งแตต่ ้นจนจบ และมีครูเป็นทป่ี รกึ ษา ใหค้ ำแนะนำในการศกึ ษาหาความรูจ้ ากสอ่ื ตา่ ง ๆ และแหล่งการเรียนรู้ 3. การเรียนร้แู บบทางไกล การเรียนร้แู บบทางไกล เป็นการจดั การเรยี นรู้ ท่ีผูเ้ รียนจะเรยี นรู้จากส่ือ ตา่ ง ๆ โดยผู้เรียนและครูจะสอ่ื สารทางสือ่ อิเลก็ ทรอนกิ ส์เปน็ สว่ นใหญ่ เช่นการเรยี นรแู้ บบ e – learning 4. การเรียนรู้แบบชั้นเรียน การเรียนรู้แบบชั้นเรียน เป็นการเรียนรู้ในลักษณะแบบห้องเรียน ที่สถานศึกษากำหนดรายวิชา เวลาเรียน และสถานที่ที่เรียนชัดเจน การเรียนรู้แบบชั้นเรียนเหมาะสำหรับ ผู้เรียนที่มีเวลามาเข้าชั้นเรียนสม่ำเสมอการเรียนรู้ทั้ง 4 รูปแบบ ดังที่กล่าวข้างต้น สถานศึกษาและผู้เรี ยน จะร่วมกันกำหนดว่าในแต่ละรายวิชาจะเรียนรู้แบบใด ซึ่งขึ้นอยู่กับความยากง่ายของเนื้อหาสาระของแต่ละ รายวิชานั้น ๆ โดยให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตและการประกอบอาชีพของผู้เรียน และขึ้นอยู่กับความพร้อม ของสถานศึกษาในการจัดสอนเสริมเพื่อเติมเต็มความรู้ให้กับผู้เรียนได้ เรียนรู้ให้บรรลุมาตรฐานการเรียน รู้ ที่กำหนดไว้ นอกจากนั้นสถานศึกษาสามารถออกแบบการเรียนรู้แบบอื่น ๆ ได้ตามความต้องการของผู้เรียน และความพร้อมของสถานศึกษาแต่ละแห่ง สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอธั ยาศัย,(2553).
ใบความรู้ การจัดการเรียนรูแ้ บบบูรณาการ บูรณาการ หมายถงึ การนำศาสตรห์ รือความรู้วิชาตา่ ง ๆ ท่สี มั พันธ์กันนำมาเข้าด้วยกันผสมผสาน ไดอ้ ยา่ งกลมกลืน เพื่อนำมาจดั เปน็ การเรียนการสอนภายใตห้ ัวขอ้ เดียวกนั เชอื่ มโยงกนั เพอ่ื ให้เกิดประโยชน์ สูงสุด โดยมีการเน้นองค์รวมของเน้ือหามากกว่าองค์ความรู้ของแต่ละรายวิชา และเน้นการสร้างความรู้ ของผ้เู รยี นทมี่ ากกวา่ การให้เน้อื หาโดยครเู ป็นผกู้ ำหนด ลักษณะสำคัญของการสอนแบบบรู ณาการ 1. เป็นการบรู ณาการระหวา่ งความรู้ กระบวนการ และการปฏบิ ัติ 2. เปน็ การบูรณาการระหว่างวิชาได้อย่างกลมกลนื 3. เปน็ การบูรณาการระหวา่ งส่ิงที่เรียนกับชวี ติ จรงิ 4. เปน็ การบูรณาการเพ่ือจดั ความซ้ำซ้อนของเนอื้ หาต่างๆ 5. เปน็ การบรู ณาการใหเ้ กิดความสมั พันธก์ ันระหว่างความคิดรวบยอดของวชิ าตา่ งๆ เพื่อทำ ใหเ้ กดิ การเรยี นรทู้ ี่มคี วามหมาย การจดั การเรียนการสอนแบบบูรณาการ การจัดการเรียนการสอนในการเขียนแผนการสอนของครูผู้สอนแบ่งออกเป็น 2 ประเภท (การเขยี นแผนแบบบูรณาการมีมากกวา่ น้ี ตามความเหมาะสม) ดังนี้ (1) การบูรณาการภายในวิชา มีจุดเน้นอยภู่ ายในวิชาเดยี วกนั อาจนำวิชาตา่ งๆ ที่สัมพันธ์ กันมาบูรณาการกันเองของวชิ าน้ันและไมแ่ ยกหรือขยายไปกับวิชาอ่นื (2) การบูรณาการระหวา่ งวิชา มีจุดเนน้ อยู่ท่ีการนำวิชาอื่นเข้าเช่ือมโยงด้วยกนั ตั้งแต่ 2 วิชาขน้ึ ไป โดยภายใตห้ ัวขอ้ เดียวกันวา่ วิชาใดท่ีสามารถนำเขา้ มาบรู ณาการด้วยกนั ได้ ไมจ่ ำเป็นว่าต้องทุกวิชา หรอื ทุกกลมุ่ ประสบการณ์เขา้ ด้วยกนั หรอื อาจครบทุกวชิ าหรอื ทุกกลุ่มประสบการณก์ ไ็ ด้ การวางแผนการจดั ทำแผนแบบบูรณาการ การจดั ทำแผนการสอนแบบบรู ณาการ เปน็ การนำวิชาหรือสาระการเรียนรู้ต่าง ๆ ท่ีมีความสัมพันธ์ กันมาเชอื่ มโยงกนั ซึง่ สามารถทำได้โดยการสร้างหัวข้อเรอื่ งทม่ี ีความสอดคลอ้ งกับวิชาน้นั ๆ เข้าดว้ ยกันผู้สอน ต้องคำนงึ ส่งิ ต่อไปนี้ 1.การเลือกหัวเรื่อง จากประเด็นต่างๆ ที่ต้องการเรียน เช่น ประเด็กแนวคิด ประเด็น ของเนื้อหา เมือ่ ไดแ้ ล้วนำจุดประสงค์ของแต่ละรายวิชา ที่ต้องการใหเ้ กิดการเรียนรู้ของผู้เรียน เข้ามาสร้าง เป็นกิจกรรมการเรียนการสอนแบบบรู ณาการ 2.การนำจุดประสงค์ของรายวิชาต่างๆ ที่สัมพันธ์กันมาสร้างเป็นหัวข้อเรื่องและนำมา จดั กิจกรรมการเรยี นการสอนแบบบรู ณาการ
ประโยชนข์ องการบูรณาการ 1. เป็นการนำวิชาหรอื ศาสตรต์ ่างๆ เช่ือมโยงกันภายใตห้ ัวขอ้ เดยี วกัน 2. ช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนท่ลี ึกซ้งึ และมลี ักษณะใกล้เคียงกบั ชีวิตจริง 3. ช่วยใหผ้ ู้เรยี นไดร้ ับความรู้ ความเข้าใจ ในลักษณะองคร์ วม 4. ช่วยให้ผู้เรียนสามารถแสวงหาความรู้ ความเข้าใจ จากส่ิงตา่ งๆ ที่มีอย่รู อบตวั 5. เป็นแนวทางที่ชว่ ยให้ครไู ด้ทำงานร่วมกัน หรือประสานงานร่วมกนั อย่างมีความสขุ 6. ส่งเสรมิ สนับสนนุ ใหค้ รูไดค้ ดิ วิธีการหรือนำเทคนิคใหม่ๆ มาใช้ ทำอย่างไรจงึ จะจัดการเรียนรู้แบบบรู ณาการ 1. ครมู ีความเชื่อมน่ั และเขา้ ใจตรงกนั ในเร่อื งการจดั การเรียนรแู้ บบบรู ณาการ 2. ครูได้วางแผน ได้คดิ กระบวนการเรียนรแู้ ละมกี ารประเมนิ ผลรว่ มกนั 3. ตอ้ งยดึ ผู้เรียนเปน็ ศนู ยก์ ลางให้ผเู้ รยี นสามารถค้นหาคำตอบได้ด้วยตนเองและไดล้ งมือ ปฏิบัติจรงิ 4. เน้นการเรยี นรู้ทเ่ี กิดจากการนำวชิ าตา่ งๆ เชือ่ มโยงกนั มากกว่าทจ่ี ะเกิดจากเน้ือหาใด เน้ือหาหนง่ึ เท่าน้ัน 5. มกี ารนำขอ้ มูล ทรัพยากรทอ้ งถิน่ และภมู ิปญั ญาท้องถิ่นมาจดั การเรียนรูแ้ บบองค์รวม หรอื แบบบรู ณาการ ในกลมุ่ สาระการเรยี นร้ตู ่างๆ จะร้ไู ดอ้ ย่างไรว่าได้มีการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ เราจะทราบได้อย่างไรว่ามีการจัดการเรียนการสอนแบบบูรณาการแล้วหรือยังโดยดู ไดจ้ ากหวั ขอ้ ต่อไปน้ี 1. ผู้เรียนมโี อกาสได้เลือกเรียนตามความถนดั ความสนใจของตนเอง 2. มีการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้อยา่ งหลากหลาย กว้างขวางตามความพรอ้ มของผู้เรียน 3. เปิดโอกาสให้ผู้เรยี นได้คดิ ไดท้ ำ ไดแ้ กป้ ญั หา ไดค้ น้ พบคำตอบด้วยตนเอง และผู้เรียน ลงมอื ปฏบิ ัตเิ องโดยมีครผู ู้สอนเปน็ เพียงใหค้ ำแนะนำ ให้คำปรึกษา 4. มีการเชื่อมโยงเนอ้ื หาในวิชาเดียวกนั หรอื ตา่ งวชิ าของกลุ่มสาระการเรียนรู้ 5. มีการยืดหยนุ่ เวลาเรียนไดต้ ามสถานการณ์ 6. มกี ารเช่ือมโยงสาระสำคัญหรอื ความคดิ รวบยอดต่างๆ อยา่ งมีความหมาย 7. มีการใช้แหล่งความรู้ หรือแหล่งการเรียนได้อย่างหลากหลาย เช่น ห้องสมุด ห้องปฏิบัติการทางภาษา ห้องวิทยาศาสตร์ ชุมชน ฯลฯ อย่างสัมพันธ์กันตามสภาพที่แท้จริงหรือตาม ความเป็นจริง มีการประเมินตามสภาพที่แท้จริง ผู้เรียนได้ร่วมสะท้อนความคิดหรือสรุปความรู้โดยอิสระ ผู้เรียนมวี ิจารณญาณในการคดิ แกป้ ญั หา และอยู่ร่วมกันอย่างมคี วามสขุ
Search
Read the Text Version
- 1 - 5
Pages: