Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore โครงสร้างรายวิชาฟิสิกส์2 (รวมเล่ม)

โครงสร้างรายวิชาฟิสิกส์2 (รวมเล่ม)

Published by Tanapat Issarangkul Na Ayutthaya, 2020-12-15 04:30:37

Description: โครงสร้างรายวิชาฟิสิกส์2 (รวมเล่ม)

Search

Read the Text Version

โครงสรา้ งรายวชิ า ฟิสิกส์ 2 (ว31202) โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวดั เชียงใหม่ สานักบรหิ ารงานการศกึ ษาพเิ ศษ สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ

โครงสร้างรายวิชาฟิสิกส์ 2 ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 4 1 โครงสรา้ งรายวิชา รายวชิ า ฟิสกิ ส์ 2 รหสั วิชา ว31202 ระดับช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 กล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกรู ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครผู ชู้ ว่ ย โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวัดเชยี งใหม่ ตำบลชา่ งเคง่ิ อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชยี งใหม่ สำนักบรหิ ารงานการศึกษาพิเศษ สำนกั งานการศกึ ษาข้นั พนื้ ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ครผู สู้ อน นายธนพัฒน์ อศิ รางกูร ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครผู ู้ช่วย กล่มุ สาระฯวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวดั เชยี งใหม่

โครงสรา้ งรายวชิ าฟสิ ิกส์ 2 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 2 คำอธิบายรายวิชา รายวิชา ฟสิ ิกส์ 1 รหสั วชิ า ว 31202 ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 4 ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศึกษา 2563 เวลา 80 ชวั่ โมง จำนวน 2 หนว่ ยกิต คำอธิบายรายวชิ า ศึกษางานของแรงคงตวั จากสมการและพน้ื ที่ใต้กราฟความสัมพันธร์ ะหว่างแรงกบั ตำแหน่ง กำลังเฉล่ีย พลังงานจลน์ พลังงานศักย์ พลังงานกล ความสัมพันธ์ระหว่างงานกับพลังงานจลน์ ความสัมพันธ์ระหว่างงาน กบั พลังงานศกั ยโ์ นม้ ถ่วง ความสัมพันธ์ระหว่างขนาดของแรงที่ใชด้ งึ สปริงกับระยะทีส่ ปริงยดื ออก ความสัมพนั ธ์ ระหว่างงานกบั พลังงานศกั ยย์ ดื หยุ่น ความสมั พนั ธร์ ะหว่างงานของแรงลพั ธ์และพลังงานจลน์ งานที่เกิดขึ้นจาก แรงลัพธ์ กฎการอนุรักษ์พลังงานกล ปริมาณต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนที่ของวัตถุในสถานการณ์ต่าง ๆ โดยใช้กฎการอนุรักษ์พลังงานกล การทำงาน ประสิทธิภาพ การได้เปรียบเชิงกลของเครื่องกลอย่างง่ายบาง ชนิดโดยใช้ความรู้เรื่องงานและสมดุลกลในการพิจารณา โมเมนตัมของวัตถุ การดลจากสมการและพื้นที่ใต้ กราฟความสัมพันธ์ระหว่างแรงลัพธ์กับเวลา ความสัมพันธ์ระหว่างแรงดลกับโมเมนตัม ปริมาณต่าง ๆ ที่ เกยี่ วกบั การชนของวตั ถุในหนึ่งมิติทั้งแบบยืดหยุ่น ไม่ยืดหยุ่น การดีดตัวแยกจากกนั ในหน่ึงมิติที่เป็นไปตามกฎ การอนุรักษ์โมเมนตัม สมดุลกลของวัตถุ โมเมนต์ และผลรวมของโมเมนต์ที่มีต่อการหมุน แรงคู่ควบ ผลของ แรงคู่ควบที่มีต่อสมดุลของวตั ถุ แผนภาพของแรงที่กระทำต่อวัตถุอิสระเม่ือวตั ถุอยู่ในสมดุลกล สมดุลของแรง สามแรง สภาพการเคลอ่ื นท่ขี องวตั ถุเม่ือแรงที่กระทำตอ่ วตั ถุผ่านศนู ย์กลางมวลของวตั ถุ และผลของศูนย์ถ่วงท่ี มีตอ่ เสถียรภาพของวัตถุ โดยอาศัยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต การวิเคราะห์ การอภิปราย การอธิบายและการสรุปผล เพื่อให้ผู้เรียนเกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตของตนเอง ตลอดจนมี จติ วิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และค่านิยมที่ถูกตอ้ ง ผลการเรยี นรู้ 1. วิเคราะห์และคำนวณงานของแรงคงตัวจากสมการและพื้นที่ใต้กราฟความสัมพันธ์ระหว่างแรงกับตำแหน่ง รวมทั้งอธบิ ายและคำนวณกำลังเฉลยี่ ได้ 2. อธิบายและคำนวณพลังงานจลน์ พลังงานศักย์ พลังงานกล ทดลองหาความสัมพันธ์ระหว่างงานกับพลังงาน จลน์ ความสัมพันธ์ระหว่างงานกบั พลังงานศักย์โนม้ ถ่วงความสัมพันธร์ ะหว่างขนาดของแรงท่ีใช้ดึงสปริงกับ ครผู สู้ อน นายธนพัฒน์ อิศรางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครผู ู้ช่วย กลมุ่ สาระฯวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่

โครงสร้างรายวชิ าฟิสกิ ส์ 2 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 3 ระยะที่สปริงยืดออกและความสัมพันธ์ระหว่างงานกับพลังงานศักย์ยืดหยุ่น รวมทั้งอธิบายความสัมพันธ์ ระหว่าง งานของแรงลพั ธ์และพลงั งานจลน์ และคำนวณงานท่ีเกิดขึน้ จากแรงลพั ธ์ได้ 3. อธิบายกฎการอนุรักษพ์ ลังงานกล รวมทง้ั วิเคราะห์ และคำนวณปรมิ าณต่าง ๆ ที่เกย่ี วขอ้ ง กบั การเคลื่อนท่ี ของวตั ถุในสถานการณ์ตา่ ง ๆ โดยใช้กฎการอนุรกั ษพ์ ลงั งานกลได้ 4. อธิบายการทำงาน ประสิทธิภาพ และการได้เปรียบเชิงกลของเครื่องกลอย่างง่ายบางชนิด โดยใช้ความรู้ เรอื่ งงานและสมดลุ กล รวมทั้งคำนวณประสิทธภิ าพและการไดเ้ ปรยี บเชงิ กลได้ 5. อธบิ ายและคำนวณโมเมนตมั ของวัตถุและการดลจากสมการและพน้ื ท่ีใต้กราฟความสัมพันธ์ระหว่างแรงกับ เวลา รวมท้ังอธิบายความสมั พนั ธ์ระหว่างแรงดลกบั โมเมนตัมได้ 6. ทดลอง อธิบาย และคำนวณปริมาณตา่ ง ๆ ท่ีเกยี่ วกบั การชนของวตั ถุในหน่งึ มิติท้ังแบบยืดหยุ่น ไม่ยืดหยุ่น และการดีดตวั แยกจากกนั ในหนง่ึ มติ ซิ ึง่ เปน็ ไปตามกฎการอนุรักษ์โมเมนตัมได้ 7. อธิบายสมดุลกลของวตั ถุ โมเมนต์ และผลรวม ของโมเมนตท์ ่ีมีต่อการหมนุ แรงคูค่ วบและผลของแรงคู่ควบ ที่มีต่อสมดุลของวัตถุเขียนแผนภาพของแรงที่กระทำต่อวัตถุอิสระเมื่อวัตถุอยู่ในสมดุลกล และคำนวณ ปริมาณตา่ ง ๆ ทีเ่ ก่ยี วขอ้ ง รวมทัง้ ทดลองและอธบิ ายสมดลุ ของแรงสามแรงได้ 8. สังเกตและอธิบายสภาพการเคลื่อนที่ของวัตถุ เมื่อแรงทีก่ ระทำต่อวัตถุผา่ นศูนย์กลางมวลของวัตถุ และผล ของศนู ยถ์ ว่ งทม่ี ตี อ่ เสถยี รภาพของวตั ถุได้ รวมทงั้ หมด 8 ผลการเรยี นรู้ ครผู สู้ อน นายธนพัฒน์ อศิ รางกูร ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครผู ู้ช่วย กลุ่มสาระฯวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่

โครงสร้างรายวิชาฟิสิกส์ 2 ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 4 4 โครงสรา้ งรายวิชา รายวชิ า ฟสิ กิ ส์ 2 รหสั วชิ า ว31202 หน่วยกิต 2.0 ระดับชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 4 กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2563 หน่วยการ กจิ กรรมการเรยี นรู้ จำนวน นำ้ หนกั คะแนน ชวั่ โมง (ในการประเมิน) เรียนรู้ท่ี (24) 30 1 งานและพลังงาน 5 7 30 1. แรงและงาน 3 40 3 2. พลงั งาน 2 100 3 3. กฎการอนรุ ักษ์พลงั งานกล 1 (26) 4. การประยุกต์กฎการอนุรกั ษพ์ ลงั งานกล 3 4 5. กำลัง 5 14 6. เคร่อื งกล (30) 2 7. แหลง่ พลังงานและการใช้พลังงาน 4 4 2 โมเมนตัมและการชน 5 3 1. โมเมนตัม 3 9 2. แรงและการเปลีย่ นโมเมนตมั 80 3. การดลและแรงดล 4. การชน 3 สภาพสมดลุ 1. สภาพสมดลุ 2. สมดลุ ตอ่ การเคล่อื นท่ี 3. สมดุลต่อการหมนุ 4. ศนู ย์กลางมวลและศนู ยถ์ ่วง 5. สมดลุ ของวตั ถุ 6. เสถยี รภาพของวตั ถุ 7. การนำหลกั สมดุลไปประยุกต์ รวม ครูผสู้ อน นายธนพฒั น์ อิศรางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครผู ้ชู ่วย กลมุ่ สาระฯวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวดั เชยี งใหม่

โครงสร้างรายวชิ าฟสิ กิ ส์ 2 ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 4 5 ผลการเรียนรู้และสาระการเรียนรเู้ พ่มิ เตมิ สาระฟสิ ิกส์ สาระฟิสิกส์ 1. เขา้ ใจธรรมชาติทางฟิสิกส์ ปรมิ าณและกระบวนการวัด การเคลื่อนที่แนวตรง แรงและกฎการเคลื่อนท่ีของ นิวตัน กฎความโน้มถ่วงสากล แรงเสียดทาน สมดุลกลของวัตถุ งานและกฎการอนุรักษ์พลังงานกล โมเมนตัมและกฎการอนรุ ักษโ์ มเมนตัม การเคล่ือนทีแ่ นวโค้ง รวมทงั้ นำความร้ไู ปใช้ประโยชน์ ชน้ั ผลการเรียนรู้ สาระการเรยี นรเู้ พิม่ เตมิ ม.4 1. สืบค้นและอธิบายการค้นหา • ฟิสิกส์เป็นวิทยาศาสตร์แขนงหนึ่งที่ศึกษาเกี่ยวกับสสาร พลังงาน ความรู้ทางฟิสิกส์ ประวัติความ อันตรกริ ยิ าระหว่างสสารกับพลังงาน และแรงพื้นฐานในธรรมชาติ เป็นมา รวมทั้งพัฒนาการของ • การคน้ คว้าหาความร้ทู างฟสิ กิ ส์ได้มาจากการสังเกต การทดลอง และ หลักการและแนวคดิ ทางฟิสิกส์ที่ เก็บรวบรวมข้อมูลมาวิเคราะห์ หรือจากการสร้างแบบจำลองทาง มีผลต่อ การแสวงหาความรู้ใหม่ ความคดิ เพ่ือสรปุ เปน็ ทฤษฎี หลักการหรือกฎ ความรูเ้ หล่าน้สี ามารถ และการพฒั นาเทคโนโลยี นำไปใชอ้ ธิบายปรากฏการณ์ธรรมชาติ หรือทำนายสิง่ ทอ่ี าจจะเกิดขึ้น ในอนาคต • ประวัติความเป็นมาและพัฒนาการของหลักการและแนวคิดทางฟิสิกส์ เป็นพื้นฐานในการแสวงหาความรู้ใหมเ่ พิม่ เตมิ รวมถึงการพัฒนาและ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีก็มีส่วนในการค้นหาความรู้ใหม่ทาง วิทยาศาสตร์ดว้ ย 2. วดั และรายงานผลการวดั ปริมาณ • ความรู้ทางฟิสกิ ส์สว่ นหนงึ่ ไดจ้ ากการทดลอง ซงึ่ เกี่ยวขอ้ งกับกระบวนการ ทางฟิสิกส์ได้ถูกต้องเหมาะสม วดั ปริมาณทางฟิสกิ ส์ ซง่ึ ประกอบดว้ ยตัวเลข และหน่วยวัด โดยนำความคลาดเคลื่อนในการ • ปริมาณทางฟิสิกส์สามารถวัดได้ด้วยเคร่ืองมือต่าง ๆ โดยตรงหรือ วัดมาพิจารณาในการนำเสนอผล ทางอ้อม หน่วยที่ใช้ในการวัดปริมาณทางวทิ ยาศาสตร์ คือ ระบบหน่วย รวมทั้งแสดงผลการทดลองในรปู ระหว่างชาติ เรียกย่อวา่ ระบบเอสไอ ของกราฟ วิเคราะห์และแปล • ปริมาณทางฟิสิกสท์ ่มี ีค่านอ้ ยกว่าหรือมากกว่า 1 มาก ๆ นยิ มเขยี นใน ความหมายจากกราฟเสน้ ตรง รูปของสัญกรณ์วิทยาศาสตร์ หรือเขียนโดยใช้คำนำหน้าหน่วยของ ระบบเอสไอ การเขียนโดยใช้สัญกรณ์วิทยาศาสตร์เป็นการเขียน เพื่อแสดงจำนวนเลขนัยสำคัญที่ถูกตอ้ ง • การทดลองทางฟิสกิ สเ์ ก่ยี วกับการวัดปริมาณตา่ ง ๆ การบนั ทกึ ปริมาณ ที่ได้จากการวัดด้วยจำนวนเลขนัยสำคัญที่เหมาะสมและค่าความ คลาดเคลื่อน การวิเคราะห์และการแปลความหมายจากกราฟ เช่น การหาความชันจากกราฟเส้นตรง จดุ ตดั แกน พนื้ ที่ใต้กราฟ เป็นต้น ครผู สู้ อน นายธนพัฒน์ อิศรางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครผู ้ชู ่วย กลุ่มสาระฯวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวัดเชยี งใหม่

โครงสรา้ งรายวิชาฟิสิกส์ 2 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 6 ชัน้ ผลการเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้เพิ่มเตมิ • การวัดปรมิ าณตา่ ง ๆ จะมคี วามคลาดเคล่อื นเสมอขึ้นอยกู่ ับเครื่องมือ วิธีการวัด และประสบการณ์ของผู้วัด ซึ่งค่าความคลาดเคลื่อน สามารถแสดงในการรายงานผลทง้ั ในรูปแบบตัวเลขและกราฟ ม.4 • การวัดควรเลือกใช้เครื่องมือวัดให้เหมาะสมกับสิ่งที่ต้องการวัด เช่น การวัดความยาวของวตั ถทุ ีต่ อ้ งการความละเอยี ดสูง อาจใชเ้ วอร์เนียร์ แคลลเิ ปริ ส์ หรือไมโครมเิ ตอร์ • ฟิสิกส์อาศัยคณิตศาสตร์เป็นเคร่ืองมือในการศึกษาค้นคว้า และการ สือ่ สาร 3. ทดลองและอธิบายความสัมพันธ์ • ปริมาณที่เกี่ยวกับการเคล่ือนที่ ได้แก่ ตำแหน่ง การกระจัด ความเรว็ ระหว่างตำแหน่ง การกระจัด และความเรง่ โดยความเร็วและความเรง่ มีทัง้ ค่าเฉลี่ยและค่าขณะหนง่ึ ความเร็ว และความเร่งของการ ซง่ึ คดิ ในช่วงเวลาส้ัน ๆ สำหรับปริมาณตา่ ง ๆ ท่ีเกยี่ วข้องกับการเคล่ือนท่ี เคลื่อนที่ของวัตถุในแนวตรงที่มี แนวตรงด้วยความเร่งคงตวั มีความสมั พนั ธต์ ามสมการ ความเร่งคงตัวจากกราฟและ v = u + at สมการ รวมทั้งทดลองหาค่า u+v ความเร่งโน้มถ่วงของโลก และ ∆x = ( 2 ) t ค ำ น ว ณ ป ร ิ ม า ณ ต่ า ง ๆ ท่ี เกย่ี วขอ้ ง ∆x = ut + 1 at2 2 v2 = u2 + 2a∆x • การอธบิ ายการเคลือ่ นท่ีของวตั ถสุ ามารถเขียนอยใู่ นรูปกราฟตำแหน่ง กับเวลา กราฟความเร็วกับเวลา หรอื กราฟความเรง่ กบั เวลา ความชนั ของเส้นกราฟตำแหน่งกับเวลาเป็นความเร็ว ความชันของเส้นกราฟ ความเรว็ กับเวลาเปน็ ความเรง่ และพนื้ ทใี่ ต้เส้นกราฟความเรว็ กับเวลา เป็นการกระจัด ในกรณีที่ผู้สงั เกตมีความเร็ว ความเร็วของวัตถุท่ีสังเกต ไดเ้ ปน็ ความเร็วที่เทียบกับผู้สังเกต • การตกแบบเสรเี ปน็ ตวั อยา่ งหนึ่งของการเคลื่อนที่ในหนึ่งมิติท่มี ีความเร่ง เทา่ กับความเรง่ โน้มถ่วงของโลก 4. ทดลองและอธิบายการหาแรง • แรงเป็นปริมาณเวกเตอร์จึงมีทั้งขนาดและทิศทางกรณีที่มีแรงหลาย ๆ ลัพธ์ของแรงสองแรงที่ทำมุมต่อ แรงกระทำต่อวตั ถุสามารถหาแรงลัพธ์ทีก่ ระทำต่อวัตถุโดยใช้วิธีเขยี น กัน เวกเตอร์ของแรงแบบหางต่อหัว วิธีสร้างรูปสี่เหลี่ยมด้านขนานของแรง และวิธีคำนวณ 5. เขียนแผนภาพของแรงที่กระทำ • สมบัตขิ องวตั ถุทตี่ ้านการเปล่ียนสภาพการเคล่ือนท่ี เรียกวา่ ความเฉ่ือย ต่อวัตถุอิสระ ทดลองและอธิบาย มวลเป็นปริมาณทบ่ี อกให้ทราบวา่ วัตถใุ ดมีความเฉื่อยมากหรือนอ้ ย กฎการเคลื่อนที่ของนิวตันและ ครผู สู้ อน นายธนพฒั น์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครผู ู้ช่วย กลุ่มสาระฯวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่

โครงสรา้ งรายวิชาฟิสิกส์ 2 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 7 ช้นั ผลการเรยี นรู้ สาระการเรียนรเู้ พมิ่ เติม การใช้กฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน • การหาแรงลัพธ์ที่กระทำต่อวัตถุสามารถเขยี นเป็นแผนภาพของแรงที่ กับสภาพการเคลื่อนที่ของวัตถุ กระทำต่อวัตถุอสิ ระได้ รวมทั้งคำนวณปริมาณต่าง ๆ ที่ • กรณีท่ไี ม่มแี รงภายนอกมากระทำ วตั ถุจะไมเ่ ปลี่ยนสภาพการเคลื่อนที่ ม.4 เก่ียวข้อง ซงึ่ เป็นไปตามกฎการเคล่ือนท่ีขอ้ ที่หนงึ่ ของนิวตัน • กรณีท่ีมีแรงภายนอกมากระทำโดยแรงลัพธ์ท่ีกระทำต่อวัตถุไม่เป็น ศูนย์ วัตถุจะมีความเร่ง โดยความเร่งมีทิศทางเดียวกับแรงลัพธ์ ความสัมพันธ์ระหว่างแรงลัพธ์ มวลและความเร่ง เขียนแทนได้ด้วย สมการ n ∑ F⃑ i = ma⃑ i=0 ตามกฎการเคลอื่ นทข่ี ้อที่สองของนิวตัน • เมื่อวัตถุสองก้อนออกแรงกระทำต่อกัน แรงระหว่างวัตถุทั้งสองจะมี ขนาดเท่ากัน แต่มีทิศทางตรงขา้ มและกระทำต่อวัตถุคนละก้อน เรียกวา่ แรงคกู่ ิริยา-ปฏกิ ริ ิยา ซงึ่ เปน็ ไปตามกฎการเคลือ่ นทข่ี อ้ ท่ีสามของนิวตัน และเกดิ ข้นึ ไดท้ งั้ กรณที ี่วตั ถุท้งั สองสัมผสั กันหรือไมส่ ัมผัสกันกไ็ ด้ 6. อธิบายกฎความโน้มถ่วงสากล • แรงดึงดูดระหวา่ งมวลเป็นแรงที่มวลสองก้อนดึงดูดซึ่งกนั และกันด้วย และผลของสนามโน้มถ่วงที่ทำ แรงขนาดเท่ากันแต่ทิศทางตรงข้ามและเป็นไปตามกฎความโน้มถ่วง ใ ห้ วั ต ถุ มี น้ ำ ห นั ก ร ว ม ทั้ ง สากล เขียนแทนได้ดว้ ยสมการ ค ำ น ว ณ ป ร ิ ม า ณ ต่ า ง ๆ ท่ี FG = G m1m2 เกย่ี วขอ้ ง R2 • รอบโลกมีสนามโนม้ ถ่วงทำใหเ้ กดิ แรงโน้มถว่ ง ซึง่ เป็นแรงดงึ ดูดของโลก ท่ีกระทำตอ่ วัตถุ ทำใหว้ ตั ถุมนี ้ำหนัก 7. วิเคราะห์ อธิบาย และคำนวณ • แรงที่เกิดข้ึนที่ผิวสัมผัสระหว่างวัตถุสองก้อนในทิศทางตรงข้ามกับ แรงเสียดทานระหว่างผิวสัมผัส ทิศทางการเคลือ่ นที่ หรือแนวโน้มท่ีจะเคล่อื นทีข่ องวตั ถุ เรยี กว่า แรง ของวัตถุคู่หนึ่ง ๆ ในกรณีที่วัตถุ เสียดทานแรงเสียดทานระหว่างผิวสัมผัสคู่หนึ่ง ๆ ขึ้นกับสัมประสิทธิ์ หยุดนิ่งและวัตถุเคลื่อนที่ ความเสยี ดทาน และแรงปฏิกิรยิ าต้งั ฉากระหว่างผวิ สัมผัสคนู่ ้ัน ๆ รวมทั้งทดลองหาสัมประสิทธ์ิ • ขณะออกแรงพยายามแต่วัตถุยังคงอยนู่ ่ิงแรงเสียดทานมีขนาดเท่ากับ ความเสียดทานระหว่างผิวสัมผัส แรงพยายามที่กระทำต่อวัตถุนัน้ และแรงเสยี ดทานมีค่ามากท่สี ดุ เมอ่ื ของวัตถุคู่หนึ่ง ๆ และนำความรู้ วัตถุเริ่มเคล่อื นท่ี เรียกแรงเสยี ดทานนว้ี า่ แรงเสียดทานสถิต แรงเสียด เรื่องแรงเสียดทานไปใช้ใน ทานที่กระทำต่อวัตถุขณะกำลังเคลื่อนที่ เรียกว่า แรงเสียดทานจลน์ ชวี ติ ประจำวัน โดยแรงเสียดทานที่เกิดระหว่างผิวสัมผัสของวัตถุคู่หนึง่ ๆ คำนวณได้ จากสมการ fs ≤ μsN fk = μkN ครผู สู้ อน นายธนพฒั น์ อิศรางกรู ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครผู ู้ชว่ ย กล่มุ สาระฯวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวัดเชยี งใหม่

โครงสร้างรายวชิ าฟสิ กิ ส์ 2 ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 4 8 ช้นั ผลการเรียนรู้ สาระการเรยี นรูเ้ พ่มิ เตมิ • การเพิ่มหรือลดแรงเสียดทานมีผลต่อการเคลื่อนที่ของวัตถุ ซึ่งสามารถ นำไปใช้ในชีวิตประจำวัน 8. อธ ิ บ า ย ส ม ด ุ ล ก ล ข อง ว ั ต ถุ • สมดุลกลเปน็ สภาพที่วตั ถุรักษาสภาพการเคลื่อนที่ให้คงเดมิ คือ หยุดน่ิง ม.4 โมเมนต์ และผลรวม ของโมเมนต์ หรอื เคลอ่ื นทด่ี ้วยความเร็วคงตวั หรอื หมุนดว้ ยความเรว็ เชิงมมุ คงตวั ที่มีต่อการหมุน แรงคู่ควบและ • วัตถุจะสมดุลต่อการเลื่อนที่คือหยุดนิ่ง หรือเคลื่อนที่ด้วยความเร็วคง ผลของแรงคู่ควบที่มีต่อสมดุล ตัวเมอื่ แรงลัพธ์ที่กระทำตอ่ วตั ถเุ ปน็ ศนู ย์ เขยี นแทนไดด้ ว้ ยสมการ ของวัตถุเขียนแผนภาพของแรง n ที่กระทำตอ่ วัตถอุ ิสระเม่อื วตั ถุอยู่ ∑ F⃑ i = 0 ในสมดุลกล และคำนวณปริมาณ i=0 ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้ง ทดลองและอธิบายสมดุลของ • วัตถุจะสมดลุ ตอ่ การหมนุ คือไมห่ มนุ หรอื หมุนดว้ ยความเรว็ เชิงมุมคงตวั แรงสามแรง เม่อื ผลรวมของโมเมนต์ท่ีกระทำตอ่ วัตถเุ ป็นศนู ย์ เขียนแทนไดด้ ้วย สมการ n ∑ Mi = 0 i=0 โดยโมเมนตค์ ำนวณไดจ้ ากสมการ M = Fl 9. สังเกตและอธิบายสภาพการ • เมอ่ื ออกแรงกระทำต่อวตั ถทุ ่ีวางบนพื้นที่ไม่มีแรงเสียดทาน ในแนวระดับ เคลื่อนท่ีของวัตถุ เมื่อแรงที่ ถ้ำแนวแรงนั้นกระทำผ่านศูนย์กลางมวลของวัตถุ วัตถุจะเคลื่อนที่ กระทำต่อวัตถุผ่านศูนย์กลาง แบบเลือ่ นทีโ่ ดยไม่หมุน มวลของวัตถุ และผลของศูนย์ • วัตถุที่อยูใ่ นสนามโน้มถว่ งสม่ำเสมอ ศูนย์กลางมวลและศูนยถ์ ่วงอยู่ที่ ถว่ งทีม่ ีตอ่ เสถียรภาพของวตั ถุ ตำแหน่งเดยี วกนั ศูนย์ถ่วงของวตั ถมุ ีผลต่อเสถียรภาพของวตั ถุ 10. วิเคราะห์ และคำนวณงานของ • งานของแรงที่กระทำต่อวัตถุหาได้จากผลคูณของขนาดของแรง แรงคงตัวจากสมการและพน้ื ที่ ใตก้ ราฟความสัมพันธ์ระหว่าง และขนาดของการกระจัดกับโคไซน์ของมุมระหว่างแรงกับ การ แรงกับตำแหน่ง รวมท้ังอธิบาย และคำนวณกำลังเฉลยี่ กระจัด ตามสมการ W = F∆xcosθ หรือหางานได้จากพื้นที่ใต้ กราฟระหว่างแรงในแนวการเคลอ่ื นทกี่ บั ตำแหนง่ โดยแรงทก่ี ระทำอาจ เป็นแรงคงตัว หรือไม่คงตวั ก็ได้ • งานท่ีทำไดใ้ นหน่ึงหน่วยเวลา เรยี กว่า กำลังเฉล่ยี ดังสมการ Pav = W ∆t ครผู สู้ อน นายธนพฒั น์ อิศรางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครผู ้ชู ว่ ย กลุ่มสาระฯวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่

โครงสร้างรายวชิ าฟิสกิ ส์ 2 ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 4 9 ช้นั ผลการเรียนรู้ สาระการเรียนรเู้ พิ่มเติม 11. อธบิ ายและคำนวณพลงั งานจลน์ • พลังงานเป็นความสามารถในการทำงาน พลังงานศักย์ พลังงานกล • พลังงานจลน์เป็นพลังงานของวัตถุที่กำลังเคล่ือนที่คำนวณได้จาก ทดลองหาความสมั พนั ธร์ ะหว่าง งานกับพลงั งานจลน์ สมการ Ek = 1 mv2 ความสมั พันธร์ ะหว่างงานกับ 2 พลังงานศักย์โน้มถ่วง • พลังงานศักย์เป็นพลังงานที่เกี่ยวข้องกบั ตำแหน่งหรือรูปร่างของวัตถุ ความสัมพันธ์ระหว่างขนาด ของแรงที่ใช้ดึงสปริงกบั ระยะท่ี แบ่งออกเป็นพลังงานศักย์โน้มถ่วง คำนวณได้จากสมการ Ep = สปริงยืดออกและความสัมพันธ์ mgh และพลังงานศักย์ยืดหยุ่น คำนวณได้จากสมการ Eps = 1 kx2 2 • พลังงานกลเปน็ ผลรวมของพลังงานจลน์และพลงั งานศักย์ ตามสมการ ม.4 ระหวา่ งงานกับพลังงานศักย์ E = Ek + Ep ยืดหยุ่น รวมทั้งอธบิ าย • แรงที่ทำให้เกิดงานโดยงานของแรงน้ันไม่ขึ้นกับเส้นทางการเคลื่อนที่ ความสัมพันธ์ระหว่าง งานของ เชน่ แรงโน้มถ่วงและแรงสปริง เรียกว่า แรงอนรุ ักษ์ แรงลัพธ์และพลังงานจลน์ และ • งานและพลังงานมีความสัมพันธ์กันโดยงานของแรงลัพธ์เท่ากับ คำนวณงานทเี่ กดิ ขนึ้ จากแรง พลังงานจลน์ของวัตถุที่เปลี่ยนไป ตามทฤษฎีบทงาน-พลังงานจลน์ ลพั ธ์ เขยี นแทนไดด้ ว้ ยสมการ W = ∆Ek 12. อธิบายกฎการอนุรักษ์พลังงาน • ถ้างานที่เกิดขึ้นกับวัตถเุ ป็นงานเนือ่ งจากแรงอนุรักษ์เทา่ นัน้ พลังงาน กล รวมทั้งวิเคราะห์ และ กลของวัตถุจะคงตัว ซึ่งเป็นไปตามกฎการอนุรักษ์พลังงานกล โดยที่ ค ำ น ว ณ ปริมาณต่าง ๆ ที่ พลงั งานศักยอ์ าจเปลี่ยนเปน็ พลงั งานจลน์ เกี่ยวข้อง กับการเคลื่อนที่ของ • กฎการอนุรักษ์พลังงานกลใช้วิเคราะห์การเคลื่อนที่ต่าง ๆ เช่น การ วัตถใุ นสถานการณต์ ่าง ๆ โดยใช้ เคลอ่ื นท่ขี องวตั ถุทีต่ ดิ สปรงิ การเคล่ือนท่ีภายใต้สนามโน้มถว่ งของโลก กฎการอนรุ กั ษ์พลงั งานกล 13. อธิบายการทำงาน ประสิทธภิ าพ • การทำงานของเคร่อื งกลอยา่ งงา่ ย ไดแ้ ก่ คาน รอก พนื้ เอียง ลม่ิ สกรู และการได้เปรียบเชิงกลของ และล้อกับเพลา ใช้หลักการของงานและสมดุลกลประกอบการ เคร่อื งกลอยา่ งง่ายบางชนดิ โดย พจิ ารณาประสิทธภิ าพ และการไดเ้ ปรียบเชงิ กลของเครื่องกลอยา่ งงา่ ย ใช้ความรู้เรื่องงานและสมดุล ประสิทธภิ าพคำนวณได้จากสมการ Efficiency = Wout × กล รวมทงั้ คำนวณประสทิ ธภิ าพ และการได้เปรียบเชงิ กล Win 100% การไดเ้ ปรียบเชงิ กลคำนวณไดจ้ ากสมการ M. A. = =Fout sin Fin sin ครูผสู้ อน นายธนพัฒน์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครผู ชู้ ่วย กลุ่มสาระฯวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่

โครงสรา้ งรายวิชาฟสิ ิกส์ 2 ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 4 10 ช้ัน ผลการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้เพม่ิ เตมิ 14. อธบิ ายและคำนวณโมเมนตัม • วัตถทุ เ่ี คล่อื นทีจ่ ะมีโมเมนตัมซ่ึงเป็นปรมิ าณเวกเตอรม์ ีคา่ เท่ากับผลคณู ของวัตถุและการดลจาก ระหว่างมวลและความเร็วของวตั ถุ ดงั สมการ p⃑ = m⃑v สมการและพน้ื ท่ีใต้กราฟ ความสัมพันธร์ ะหวา่ งแรงกับ • เมื่อมีแรงลัพธ์กระทำต่อวัตถุจะทำให้โมเมนตัมของวัตถุเปลี่ยนไป เวลา รวมท้ังอธิบาย โดยแรงลพั ธ์เท่ากับอตั ราการเปลีย่ นโมเมนตมั ของวัตถุ ความสมั พนั ธร์ ะหว่างแรงดลกบั โมเมนตัม • แรงลัพธ์ที่กระทำต่อวัตถุในเวลาส้ัน ๆ เรียกว่า แรงดล โดยผลคูณ ของแรงดลกบั เวลา เรียกวา่ การดล ตามสมการ n I = (∑ F⃑ i) ∆t i=1 ซง่ึ การดลอาจหาได้จากพน้ื ที่ใตก้ ราฟระหวา่ งแรงดลกบั เวลา 15. ทดลอง อธิบาย และคำนวณ • ในการชนกันของวัตถุและการดีดตัวออกจากกันของวัตถุในหนึ่งมิติ ปริมาณต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการชน เมื่อไม่มีแรงภายนอกมากระทำโมเมนตัมของระบบมีค่าคงตัวซึ่งเปน็ ไป ม.4 ของวัตถุในหนึ่งมิติทั้งแบบ ตามกฎการอนุรกั ษ์โมเมนตมั ยืดหยุ่น ไม่ยืดหยุ่น และการดีด • ในการชนกนั ของวัตถุ พลังงานจลนข์ องระบบอาจคงตัว หรือไม่คงตัว ตัวแยกจากกันในหนึ่งมิติซึ่ง ก็ได้ การชนที่พลังงานจลน์ของระบบคงตัวเป็นการชนแบบยืดหยุ่น เป็นไปตามกฎการอนุรักษ์ ส่วนการชนทพี่ ลังงานจลนข์ องระบบไมค่ งตัวเป็นการชนแบบไม่ยดื หย่นุ โมเมนตัม 16. อธิบาย วิเคราะห์ และคำนวณ •การเคลื่อนที่แนวโค้งพาราโบลาภายใต้สนามโน้มถ่วง โดยไม่คิดแรง ปริมาณต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ ต้านของอากาศเป็นการเคลื่อนที่แบบโพรเจกไทล์ วัตถุมีการเปลี่ยน การเคลื่อนที่แบบโพรเจกไทล์ ตำแหน่งในแนวดิ่งและแนวระดับพร้อมกัน และเป็นอิสระต่อกัน และทดลองการเคลื่อนที่แบบ สำหรับการเคล่อื นที่ในแนวดิง่ เปน็ การเคลอื่ นท่ีทมี่ ีแรงโนม้ ถ่วงกระทำ โพรเจกไทล์ จึงมีความเร็วไมค่ งตัว ปรมิ าณต่าง ๆ มีความสัมพนั ธ์ตามสมการ vy = uy + ayt ∆y = (uy+vy) t 2 ∆y = uyt + 1 ayt2 2 vy2 = uy2 + 2ay∆y ส่วนก ารเคลื่อนที่ในแนวระดับไม่มีแรงกระทำจึงมีคว ามเร็วคงตัว ตำแหนง่ ความเรว็ และเวลา มีความสัมพนั ธต์ ามสมการ ∆x = uxt ครผู สู้ อน นายธนพัฒน์ อศิ รางกูร ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครผู ชู้ ว่ ย กลมุ่ สาระฯวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวดั เชียงใหม่

โครงสร้างรายวชิ าฟสิ ิกส์ 2 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 11 ชั้น ผลการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้เพิ่มเตมิ 17. ทดลองและอธบิ ายความสัมพนั ธ์ • วัตถุที่เคลอ่ื นทเ่ี ปน็ วงกลมหรือส่วนของวงกลม เรียกว่า วัตถุน้ันมีการ ระหว่างแรงสู่ศูนย์กลาง รัศมี ของการเคลื่อนที่ อัตราเร็วเชิง เคลือ่ นทแ่ี บบวงกลม ซึ่งมีแรงลัพธ์ทกี่ ระทำกบั วตั ถุในทศิ เข้าส่ศู ูนย์กลาง เส้น อัตราเร็วเชิงมุม และมวล ของวัตถุในการเคลื่อนที่แบบ เรยี กวา่ แรงสศู่ นู ย์กลาง ทำใหเ้ กิดความเรง่ สู่ศนู ยก์ ลางท่ีมขี นาดสมั พันธ์ วงกลมในระนาบระดับรวมท้ัง ค ำ น ว ณ ป ร ิ ม า ณ ต่ า ง ๆ ท่ี กบั รศั มขี องการเคลอื่ นที่และอตั ราเร็วเชิงเสน้ ของวัตถุ ซ่ึงแรงสศู่ นู ย์กลาง เกี่ยวข้อง และประยุกต์ใช้ ความรู้การเคลื่อนที่แบบวงกลม คำนวณได้จากสมการ Fc = mv2 ในการอธิบายการโคจรของ r ดาวเทียม • นอกจากนี้ การเคลื่อนที่แบบวงกลมยังสามารถอธิบายได้ด้วยอัตราเร็ว เชิงมุม ซึ่งมีความสัมพันธ์กับอัตราเร็วเชิงเส้นตามสมการ v = ωr และแรงสู่ศูนย์กลางมีความสัมพันธ์กับอัตราเร็วเชิงมุม ตามสมการ Fc = mω2r ครูผสู้ อน นายธนพฒั น์ อิศรางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครผู ู้ชว่ ย กลมุ่ สาระฯวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่

โครงสรา้ งรายวชิ าฟิสิกส์ 2 ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 4 12 ผังมโนทัน์ รายวิชา ฟสิ กิ ส์ 2 รหสั วิชา ว31202 ระดับช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2563 ชอ่ื หนว่ ยท่ี 1 งานและพลงั งาน จำนวน 24 ชว่ั โมง : 30 คะแนน รายวชิ าฟิสิกส์ 2 ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 จำนวน 80 ช่ัวโมง ชือ่ หน่วยท่ี 2 โมเมนตมั และการชน ชอื่ หนว่ ยที่ 3 สภาพสมดลุ จำนวน 26 ชว่ั โมง : 30 คะแนน จำนวน 30 ชัว่ โมง : 40 คะแนน ครผู สู้ อน นายธนพัฒน์ อศิ รางกูร ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครผู ู้ชว่ ย กลุม่ สาระฯวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวัดเชียงใหม่

โครงสรา้ งรายวชิ าฟสิ กิ ส์ 2 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 13 โครงสรา้ งรายวชิ า ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 ลำดบั ชื่อหน่วย ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา การเรยี นรู้ (ชม.) 1. งานและ 1. วิเคราะห์ และคำนวณงานของแรงคง เมื่อมีแรงคงตัวกระทำต่อวัตถุให้เคลื่อนที่ได้ 24 พลังงาน ต ั ว จากสมการและพื้นท่ี ใต้กราฟ การกระจัดจะเกิดงานของแรงนั้น ซึ่งหาได้จาก ความสัมพันธ์ระหว่างแรงกับตำแหน่ง ผลคูณระหว่างขนาดของแรงกับขนาดของการ รวมทั้งอธิบายและคำนวณกำลังเฉลี่ย กระจัดและโคไซน์ของมุมระหว่างแรงกับการ ได้ กระจดั หรือหางานไดจ้ ากพนื้ ที่ใตก้ ราฟระหว่าง 2. อธิบายและคำนวณพลังงานจลน์ แรงกับการกระจัด โดยงานท่ีทำได้ในหน่ึงหน่วย พลังงานศักย์ พลังงานกล ทดลองหา เวลา เรยี กว่า กำลงั เฉลี่ย ความสัมพันธ์ระหว่างงานกับพลังงาน พลังงานเป็นความสามารถในการทำงาน จลน์ ความสัมพันธ์ระหว่างงานกับ พลังงานจลน์เป็นพลังงานของวัตถุที่กำลัง พลังงานศักย์โน้มถ่วงความสัมพันธ์ เคลื่อนที่ พลังงานศักย์เป็นพลังงานที่เกี่ยวข้อง ระหว่างขนาดของแรงที่ใช้ดึงสปริงกับ กับตำแหน่งหรือรูปร่างของวัตถุ ซึ่งแบ่ง ระยะที่สปริงยืดออกและความสัมพันธ์ ออกเป็นพลังงานศักย์โน้มถ่วง และพลังงาน ระหว่างงานกับพลังงานศักย์ยืดหยุ่น ศักย์ยืดหยุ่น โดยพลังงานกลเป็นผลรวมของ รวมทั้งอธิบายความสัมพันธ์ระหว่าง พลังงานจลน์และพลังงานศักย์ ซึ่งงานและ งานของแรงลัพธแ์ ละพลงั งานจลน์ และ พลังงานมีความสัมพันธ์กันโดยงานของแรงลัพธ์ คำนวณงานที่เกิดขนึ้ จากแรงลพั ธ์ได้ เทา่ กับพลังงานจลน์ของวัตถุทเ่ี ปลีย่ นไป 3. อธิบายกฎการอนุรักษ์พลังงานกล พลงั งานต่าง ๆ สามารถเปลี่ยนเป็นอีกพลังงาน รวมทั้งวิเคราะห์ และคำนวณปริมาณ หนง่ึ ไดแ้ ตผ่ ลรวมของพลงั งานยังคงเดมิ ซึ่งเปน็ ไป ต่าง ๆ ทเ่ี กีย่ วขอ้ ง กบั การเคล่อื นที่ของ ตามกฎการอนุรกั ษ์พลงั งาน โดยกฎการอนุรักษ์ วัตถุในสถานการณ์ต่าง ๆ โดยใช้กฎ พลังงานกลใช้อธบิ ายการเคล่ือนท่ีของวัตถุ เชน่ การอนุรกั ษ์พลงั งานกลได้ การเคลื่อนที่ของวงกลมในระนาบดิ่ง การ 4. อธิบายการทำงาน ประสิทธิภาพ และ เคลอ่ื นท่ีของวัตถุทีต่ ดิ สปริง การเคลอื่ นทีภ่ ายใต้ การได้เปรยี บเชิงกลของเคร่ืองกลอย่าง สนามโน้มถ่วงของโลก เป็นตน้ ง่ายบางชนิด โดยใช้ความรู้เรื่องงาน เครื่องกลเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้การทำงาน และส ม ด ุ ล ก ล ร ว ม ท ั ้ ง ค ำ น ว ณ สะดวกขึ้นหรือง่ายขึ้น หรือช่วยในการผ่อนแรง ประสิทธิภาพและการได้เปรียบเชิงกล เครื่องกลที่จัดเป็นเครื่องกลอย่างง่าย ได้แก่ ได้ คาน รอก พื้นเอียง ลิ่ม สกรู และล้อกับเพลา โดยการทำงานใช้หลักการของงาน และ สมดุลกลประกอบการพิจารณาประสิทธิภาพ และการได้เปรยี บเชงิ กลของเครอื่ งกลอยา่ งงา่ ย ครผู สู้ อน นายธนพัฒน์ อศิ รางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครผู ชู้ ว่ ย กลุ่มสาระฯวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวดั เชยี งใหม่

โครงสร้างรายวิชาฟสิ กิ ส์ 2 ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 4 14 ลำดบั ชื่อหน่วย ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา การเรียนรู้ (ชม.) 2. โมเมนตมั 5. อธิบายและคำนวณโมเมนตัมของวัตถุ วัตถุที่เคลื่อนที่จะมีโมเมนตัมซึ่งเป็นปริมาณ 26 และการชน และการดลจากสมการและพื้นที่ใต้ เวกเตอร์มีค่าเท่ากับผลคูณระหว่างมวลกับ กราฟความสัมพันธ์ระหว่างแรงกับเวลา ความเร็วของวัตถุ เมื่อมีแรงลัพธ์กระทำต่อวัตถุ รวมทั้งอธิบายความสัมพันธ์ระหว่าง จะทำให้โมเมนตัมเปลี่ยนไป โดยแรงลัพธ์ท่ี แรงดลกบั โมเมนตัมได้ กระทำกับวัตถุเท่ากับอัตราการเปลี่ยนโมเม 6. ทดลอง อธิบาย และคำนวณปริมาณต่าง นตัมของวัตถุ แรงลัพธ์ที่กระทำต่อวัตถุในเวลา ๆ ที่เกี่ยวกับการชนของวัตถุในหนึ่งมิติ ส้ัน ๆ เรยี กวา่ แรงดล โดยผลคูณของแรงดลกับ ทัง้ แบบยืดหยนุ่ ไมย่ ดื หยนุ่ และการดีด เวลา เรยี กวา่ การดล ซ่ึงการดลอาจหาได้จาก ตัวแยกจากกันในหนึ่งมิติซึ่งเปน็ ไปตาม พื้นท่ีใต้กราฟระหว่าง แรงดลกบั เวลา เมื่อวัตถุชนกัน โมเมนตัมก่อนการชนของ กฎการอนุรกั ษ์โมเมนตมั ได้ ระบบเท่ากับโมเมนตัมหลังการชนของระบบ เปน็ ไปตามกฎการอนุรักษโ์ มเมนตัม ซ่งึ ในการชน กันของวัตถุที่พลังงานจลน์ของระบบมีค่าคงตัว เป็นการชนแบบยืดหยุ่น ส่วนการชนที่พลังงาน จลน์ของระบบไม่คงตัวเป็นการชนแบบไม่ ยืดหยุ่น โดยกฎการอนุรักษ์โมเมนตัมช่วยใน การอธบิ ายการชนและการระเบดิ ของวัตถุ 3. สภาพสมดลุ 7. อธิบายสมดุลกลของวัตถุ โมเมนต์ สมดุลกลเป็นสภาพที่วัตถุรักษาสภาพ 30 และผลรวม ของโมเมนต์ที่มีต่อการ การเคล่อื นทใ่ี ห้คงเดมิ หรือหยดุ นงิ่ (สมดุลสถิต) หมุน แรงคู่ควบและผลของแรงคู่ควบ หรือเคลื่อนที่ด้วยความเร็วคงตัวหรือหมุนด้วย ที่มีต่อสมดุลของวัตถุเขียนแผนภาพ ความเร็วเชิงมุมคงตัว (สมดุลจลน์) วัตถุที่ ของแรงที่กระทำต่อวัตถุอิสระเมื่อ สมดุลต่อการเลื่อนที่คือหยุดนิ่ง หรือเคลื่อนที่ วัตถุอยู่ในสมดุลกล และคำนวณ ด้วยความเร็วคงตัวเมื่อแรงลัพธ์ที่กระทำต่อวัตถุ ปริมาณต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมท้ัง เป็นศูนย์ และวัตถุจะสมดุลต่อการหมุนคือไม่ ทดลองและอธิบายสมดุลของแรงสาม หมุนหรือหมุนด้วยความเร็วเชิงมุมคงตัวเม่ือ แรงได้ ผลรวมของโมเมนต์ทก่ี ระทำตอ่ วตั ถุเปน็ ศูนย์ 8. สังเกตและอธิบายสภาพการเคลื่อนที่ เมื่อมีแรงคู่ควบกระทำต่อวัตถุ แรงลัพธ์ ของวัตถุ เมื่อแรงที่กระทำต่อวัตถุผ่าน จะเท่ากับศูนย์ ทำให้วัตถุสมดุลต่อการเลื่อนท่ี ศูนย์กลางมวลของวัตถุ และผลของ แต่ไม่สมดุลต่อการหมนุ ศูนย์ถ่วงที่มีต่อเสถียรภาพของวัตถุได้ การเขียนแผนภาพของแรงที่กระทำต่อวัตถุ อิสระสามารถนำมาใช้ในการพิจารณาแรงลัพธ์ ครผู สู้ อน นายธนพัฒน์ อศิ รางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครผู ชู้ ่วย กลุ่มสาระฯวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวดั เชียงใหม่

โครงสรา้ งรายวชิ าฟิสกิ ส์ 2 ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 4 15 ลำดับ ชอ่ื หน่วย ผลการเรยี นรู้ สาระสำคัญ เวลา การเรยี นรู้ รวม (ชม.) และผลรวมของโมเมนต์ที่กระทำต่อวัตถุเม่ือ วตั ถุอยูใ่ นสมดุลกล เมื่อออกแรงกระทำตอ่ วัตถุทีว่ างบนพ้ืนที่ไมม่ ี แรงเสียดทานในแนวระดับ ถ้าแนวแรงน้ัน กระทำผ่านศูนย์กลางมวลของวัตถุ วัตถุจะ เคลอ่ื นที่แบบเล่ือนท่ีโดยไม่หมนุ วัตถุที่อยู่ในสนามโน้มถ่วงสม่ำเสมอ ศูนย์กลางมวลและศูนย์ถ่วงอยู่ที่ตำแหน่ง เดียวกัน โดยศูนย์ถ่วงของวัตถุมีผลต่อ เสถียรภาพของวัตถุ 80 ครผู สู้ อน นายธนพัฒน์ อศิ รางกรู ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครผู ู้ช่วย กลุ่มสาระฯวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวัดเชยี งใหม่

โครงสรา้ งรายวิชาฟิสกิ ส์ 2 ชน้ั โครงสร้างแผนการจัดการ หนว่ ยการเรยี นรู้ แผนการจัดการเรยี นรู้ แนวคดิ /รูปแบบการสอน/ - ทกั ษะ 5. งานและพลงั งาน แผนที่ 1 แรงและงาน วิธีการสอน/เทคนคิ - ทกั ษะ - ทกั ษะ แบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es - ทกั ษะ (5Es Instructional Model) แผนที่ 2 พลังงาน แบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es - ทักษะ (5Es Instructional - ทกั ษะ Model) - ทกั ษะ - ทักษะ - ทักษะ - ทกั ษะ

นมธั ยมศึกษาปที ี่ 4 16 รเรยี นรู้ ฟิสกิ ส์ ม.4 เล่ม 2 เวลา 80 ชว่ั โมง ทักษะท่ีได้ การประเมนิ เวลา ะการวิเคราะห์ (ชัว่ โมง) ะการสอ่ื สาร ะการสังเกต - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น 5 ะการทำงานร่วมกนั - สงั เกตการอภิปราย เรื่อง งานในทางฟิสิกส์ ะการวิเคราะห์ ะการส่อื สาร - ตรวจผังมโนทัศน์ เรื่อง แรงและงาน ะการสงั เกต ะการทำงานรว่ มกัน - ตรวจใบงานท่ี 5.1 เร่อื ง แรงและงาน ะการคิดอยา่ งมวี ิจารณญาณ ะการนำความรู้ไปใช้ - ตรวจใบงานที่ 5.2 เร่อื ง งานของแรงทท่ี ำมมุ กับ แนวการเคล่อื นที่ - ตรวจใบงานท่ี 5.3 เรอ่ื ง การหางานจากพน้ื ท่ใี ต้ กราฟ - ตรวจแบบฝึกหดั ที่ 1.1-1.3 เรอ่ื ง แรงและงาน - ตรวจการทำแบบฝกึ หดั จาก Unit Question 5 เรื่อง แรงและงาน - สังเกตการทำกจิ กรรมพลงั งานจลน์ พลงั งานศักย์ 7 โน้มถว่ ง และพลงั งานศกั ยย์ ดื หยนุ่ - ตรวจผังมโนทศั น์ เร่ือง พลังงาน - ตรวจแบบฝึกหดั ท่ี 2.1 เร่ือง พลังงาน - ตรวจใบงานท่ีที่ 5.4 แบบบนั ทึกกิจกรรมพลงั งาน จลน์ ครูผสู้ อน นายธนพฒั น์ อศิ รางกรู ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครผู ชู้ ่วย กลุม่ สาระฯวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวัดเชียงใหม่

โครงสรา้ งรายวิชาฟิสิกส์ 2 ชน้ั หน่วยการเรยี นรู้ แผนการจดั การเรยี นรู้ แนวคดิ /รูปแบบการสอน/ วธิ ีการสอน/เทคนิค แผนที่ 3 กฎการอนุรักษ์ แบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es - ทกั ษะ พลังงานกล (5Es Instructional - ทักษะ Model) - ทกั ษะ - ทกั ษะ - ทักษะ แผนท่ี 4 การประยุกตก์ ฎ แบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es - ทักษะ การอนุรักษ์ (5Es Instructional - ทักษะ พลังงานกล Model) - ทกั ษะ - ทกั ษะ - ทักษะ

นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 17 ทกั ษะทีไ่ ด้ การประเมิน เวลา (ชว่ั โมง) ะการวเิ คราะห์ - ตรวจใบงานท่ี 5.5 แบบบนั ทกึ กิจกรรมพลงั งาน ะการสอ่ื สาร ศกั ย์โนม้ ถว่ ง 3 ะการสังเกต ะการทำงานร่วมกัน - ตรวจใบงานท่ี 5.6 แบบบนั ทึกกจิ กรรมพลังงาน 3 ะการนำความรู้ไปใช้ ศกั ยย์ ืดหยุ่น ะการวิเคราะห์ - ตรวจการทำแบบฝกึ หดั จาก Unit Question 5 ะการสอ่ื สาร เรื่อง พลังงาน ะการสงั เกต ะการทำงานรว่ มกนั - สงั เกตการอภิปราย เรื่อง กฎการอนุรักษพ์ ลงั งาน ะการนำความรู้ไปใช้ กล - ตรวจผงั มโนทัศน์ เรอื่ ง กฎการอนุรักษ์พลังงานกล - ตรวจใบงานท่ี 5.7 เร่อื ง กฎการอนรุ ักษพ์ ลังงาน กล - ตรวจการทำแบบฝกึ หดั จาก Unit Question 5 เรื่อง กฎการอนรุ กั ษพ์ ลังงานกล - ตรวจแบบฝกึ หัดท่ี 3.1 เร่ือง กฎการอนุรักษ์พลงั งาน กล - ตรวจการนำเสนอสถานการณ์การเคล่ือนตามกฎ การอนรุ กั ษ์พลงั งานกลจากที่กำหนดให้ - ตรวจผงั มโนทศั น์ เรอ่ื ง การประยกุ ตก์ ฎการ อนุรักษ์พลงั งานกล - ตรวจใบงานที่ 5.8 เรอื่ ง การประยกุ ต์กฎการ อนุรกั ษพ์ ลงั งานกล ครูผสู้ อน นายธนพฒั น์ อศิ รางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครผู ูช้ ่วย กลมุ่ สาระฯวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวดั เชยี งใหม่

โครงสรา้ งรายวิชาฟิสิกส์ 2 ชนั้ หนว่ ยการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ แนวคดิ /รปู แบบการสอน/ วิธกี ารสอน/เทคนิค แผนท่ี 5 กำลงั แบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es - ทักษะ (5Es Instructional - ทักษะ แผนที่ 6 เครือ่ งกล Model) - ทักษะ - ทกั ษะ แผนที่ 7 แหลง่ พลงั งาน แบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es - ทกั ษะ และการใช้ (5Es Instructional - ทกั ษะ พลงั งาน Model) - ทกั ษะ - ทักษะ แบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es - ทกั ษะ (5Es Instructional - ทักษะ Model) - ทักษะ - ทักษะ - ทักษะ - ทกั ษะ - ทกั ษะ - ทกั ษะ

นมธั ยมศึกษาปีที่ 4 18 ทักษะทีไ่ ด้ การประเมิน เวลา (ชัว่ โมง) ะการวิเคราะห์ - ตรวจใบงานท่ี 5.9 เร่อื ง โจทยก์ ารประยุกต์กฎการ ะการสือ่ สาร อนุรักษพ์ ลงั งานกล 2 ะการสงั เกต ะการทำงานร่วมกนั - ตรวจสอบแบบฝึกหดั ท่ี 4.1 เรอื่ ง การประยุกต์กฎ 3 ะการนำความร้ไู ปใช้ การอนรุ กั ษพ์ ลังงานกล ะการวิเคราะห์ 1 ะการสื่อสาร - ตรวจผงั มโนทัศน์ เรอ่ื ง กำลงั ะการสงั เกต - ตรวจใบงานท่ี 5.10 เรือ่ ง กำลัง ะการทำงานร่วมกัน - ตรวจการทำแบบฝึกหดั จาก Unit Question 5 ะการนำความรไู้ ปใช้ ะการคิดอยา่ งมวี จิ ารณญาณ เรอื่ ง กำลัง ะการวิเคราะห์ - ตรวจแบบฝกึ หัดที่ 5.1-5.2 เร่ือง กำลัง ะการส่ือสาร - ตรวจการนำเสนอ เรอื่ ง เคร่ืองกลอย่างง่าย ะการสงั เกต - ตรวจผังมโนทัศน์ เร่ือง เครอ่ื งกล ะการทำงานร่วมกนั - ตรวจใบงานท่ี 5.11 เรอื่ ง เคร่อื งกล ะการนำความรูไ้ ปใช้ - ตรวจการทำแบบฝกึ หดั จาก Unit Question 5 เรอื่ ง เครื่องกล - ตรวจแบบฝึกหดั ที่ 6.1-6.3 เร่อื ง เครือ่ งกล - ตรวจแบบทดสอบหลงั เรียน - ตรวจผงั มโนทัศน์ เรอ่ื ง แหลง่ พลงั งานและการใช้ พลงั งาน - ตรวจใบงานท่ี 5.12 เรอื่ ง แหล่งพลังงานและการ ใช้พลงั งาน ครูผสู้ อน นายธนพฒั น์ อศิ รางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครผู ู้ชว่ ย กลุ่มสาระฯวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวดั เชยี งใหม่

โครงสรา้ งรายวชิ าฟิสกิ ส์ 2 ชน้ั หน่วยการเรยี นรู้ แผนการจัดการเรยี นรู้ แนวคดิ /รูปแบบการสอน/ - ทกั ษะ 6. โมเมนตมั และการชน แผนท่ี 1 โมเมนตมั วิธีการสอน/เทคนคิ - ทักษะ - ทักษะ แบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es - ทักษะ (5Es Instructional - ทกั ษะ Model) แผนท่ี 2 แรงและการ แบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es - ทกั ษะ เปลย่ี นโมเมนตมั (5Es Instructional - ทกั ษะ Model) - ทักษะ - ทกั ษะ - ทกั ษะ แผนที่ 3 การดลและแรง แบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es - ทกั ษะ ดล (5Es Instructional - ทกั ษะ Model) - ทกั ษะ - ทักษะ - ทกั ษะ

นมธั ยมศึกษาปีท่ี 4 19 ทักษะท่ีได้ การประเมิน เวลา ะการวิเคราะห์ (ช่วั โมง) ะการสอื่ สาร - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น ะการสงั เกต - ตรวจผังมโนทัศน์ เร่ือง โมเมนตมั 3 ะการทำงานร่วมกัน - สงั เกตการอภิปราย เรื่อง โมเมนตัม ะการนำความรไู้ ปใช้ - ตรวจใบงานที่ 6.1 เรื่อง โมเมนตัม 4 - ตรวจใบงานที่ 6.2 เรื่อง โจทย์โมเมนตัม ะการวิเคราะห์ - ตรวจแบบฝึกหดั ที่ 1.1-1.3 เร่ือง โมเมนตมั 5 ะการสือ่ สาร - ตรวจการนำเสนอ เรื่อง แรงและการเปลย่ี น ะการสังเกต ะการทำงานร่วมกนั โมเมนตมั ะการนำความร้ไู ปใช้ - ตรวจผังมโนทัศน์ เร่ือง แรงและการเปลย่ี น ะการวเิ คราะห์ โมเมนตัม ะการสอ่ื สาร - ตรวจใบงานที่ 6.3 เรื่อง แรงและการเปลย่ี น ะการสังเกต ะการทำงานรว่ มกนั โมเมนตัม ะการนำความรู้ไปใช้ - ตรวจการทำแบบฝกึ หดั จาก Unit Question 6 เร่อื ง แรงและการเปลยี่ นโมเมนตมั - ตรวจแบบฝกึ หดั ท่ี 2.1 เรอื่ ง แรงและการเปลยี่ น โมเมนตัม - ตรวจการนำเสนอสถานการณ์ตามหลกั ของการดล และแรงดล - ตรวจผังมโนทัศน์ เร่อื ง การดลและแรงดล - ตรวจใบงานท่ี 6.4 เรือ่ ง โจทย์การดลและแรงดล ครูผสู้ อน นายธนพัฒน์ อิศรางกรู ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครผู ูช้ ว่ ย กลมุ่ สาระฯวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวดั เชยี งใหม่

โครงสร้างรายวชิ าฟสิ ิกส์ 2 ชนั้ หน่วยการเรยี นรู้ แผนการจดั การเรียนรู้ แนวคิด/รปู แบบการสอน/ วธิ ีการสอน/เทคนิค แผนที่ 4 การชน แบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es - ทักษะ (5Es Instructional - ทกั ษะ Model) - ทักษะ - ทักษะ - ทกั ษะ - ทกั ษะ 7. สภาพสมดุล แผนที่ 1 สภาพสมดลุ แบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es - ทกั ษะ (5Es Instructional - ทกั ษะ Model) - ทกั ษะ

นมธั ยมศึกษาปีที่ 4 20 ทักษะท่ีได้ การประเมิน เวลา (ช่วั โมง) ะการวิเคราะห์ - ตรวจการทำแบบฝกึ หดั จาก Unit Question 6 ะการสือ่ สาร เร่ือง การดลและแรงดล 14 ะการสังเกต ะการทำงานรว่ มกัน - ตรวจแบบฝึกหดั ท่ี 3.1-3.2 เรอ่ื ง การดลและแรง 2 ะการนำความรูไ้ ปใช้ ดล ะการคดิ อย่างมีวิจารณญาณ - ตรวจแบบทดสอบหลังเรยี น ะการวเิ คราะห์ - สงั เกตการทำกจิ กรรมการชนกนั ของวตั ถุในแนว ะการสื่อสาร ะการสงั เกต เส้นตรง - สังเกตการทำกจิ กรรมการดดี ตัวแยกจากกันของ วัตถุในแนวเสน้ ตรง - ตรวจการนำเสนอผลงาน เรอ่ื ง การชน - ตรวจผังมโนทัศน์ เรอ่ื ง การชน - ตรวจใบงานที่ 6.5 แบบบันทกึ กิจกรรมการชนกัน ของวัตถุในแนวเส้นตรง - ตรวจใบงานที่ 6.6 แบบบนั ทกึ กจิ กรรมการดีดตัว แยกจากกันของวัตถุในแนวเส้นตรง - ตรวจการทำแบบฝกึ หดั จาก Unit Question 6 เรื่อง การชน - ตรวจแบบฝกึ หดั ที่ 4.1-4.2 เร่ือง การชน - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น - สังเกตการอภิปราย เรอื่ ง สภาพสมดลุ พรอ้ ม ยกตวั อย่างสถานการณ์ ครูผสู้ อน นายธนพฒั น์ อศิ รางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครผู ู้ชว่ ย กลมุ่ สาระฯวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวดั เชยี งใหม่

โครงสร้างรายวชิ าฟสิ กิ ส์ 2 ชนั้ หนว่ ยการเรยี นรู้ แผนการจดั การเรียนรู้ แนวคดิ /รูปแบบการสอน/ วิธกี ารสอน/เทคนคิ - ทกั ษะ - ทกั ษะ แผนที่ 2 สมดลุ ตอ่ การ แบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es - ทักษะ เล่อื นที่ (5Es Instructional Model) - ทักษะ - ทักษะ - ทักษะ - ทักษะ แผนที่ 3 สมดลุ ตอ่ การ แบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es - ทักษะ หมุน (5Es Instructional Model) - ทกั ษะ - ทักษะ - ทกั ษะ - ทักษะ - ทกั ษะ

นมธั ยมศึกษาปีที่ 4 21 ทักษะท่ีได้ การประเมิน เวลา ะการทำงานร่วมกัน (ชัว่ โมง) ะการนำความรไู้ ปใช้ - ตรวจผังมโนทัศน์ เร่ือง สภาพสมดลุ - ตรวจใบงานที่ 7.1 เรื่อง สภาพสมดลุ 4 ะการวิเคราะห์ - ตรวจแบบฝกึ หัดที่ 1.1 เร่อื ง สภาพสมดลุ ะการส่ือสาร - สงั เกตการทำกจิ กรรมสมดลุ ของแรงสามแรง 4 ะการสงั เกต - ตรวจการนำเสนอผังมโนทศั น์ เรอ่ื ง สมดุลตอ่ การ ะการทำงานร่วมกนั ะการนำความรู้ไปใช้ เลอื่ นที่ - ตรวจผังมโนทศั น์ เร่ือง สมดลุ ต่อการเลอื่ นที่ ะการวเิ คราะห์ - ตรวจใบงานที่ 7.2 แบบบนั ทกึ กิจกรรมสมดลุ ของ ะการสือ่ สาร ะการสงั เกต แรงสามแรง ะการทำงานรว่ มกัน - ตรวจการทำแบบฝึกหดั จาก Unit Question 7 ะการนำความรไู้ ปใช้ ะการคดิ อยา่ งมีวจิ ารณญาณ เร่ือง สมดลุ ต่อการเลื่อนท่ี - ตรวจแบบฝกึ หดั ที่ 2.1-2.2 เรอื่ ง สมดลุ ต่อการเล่อื น ที่ - สงั เกตการอภิปราย เรื่อง โมเมนต์ - ตรวจการนำเสนอผงั มโนทัศน์ เร่อื ง สมดุลตอ่ การ หมนุ - ตรวจผงั มโนทศั น์ เร่อื ง สมดลุ ตอ่ การหมุน - ตรวจใบงานที่ 7.3 เร่อื ง สมดลุ ต่อการหมุน - ตรวจการทำแบบฝกึ หดั จาก Unit Question 7 เรอ่ื ง สมดลุ ต่อการหมนุ - ตรวจแบบฝึกหดั ท่ี 3.1 เรื่อง สมดลุ ตอ่ การหมนุ ครผู สู้ อน นายธนพฒั น์ อศิ รางกูร ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครผู ชู้ ่วย กลุม่ สาระฯวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวดั เชยี งใหม่

โครงสรา้ งรายวชิ าฟิสกิ ส์ 2 ชนั้ หน่วยการเรียนรู้ แผนการจัดการเรยี นรู้ แนวคิด/รูปแบบการสอน/ วธิ กี ารสอน/เทคนิค แผนที่ 4 ศนู ยก์ ลางมวล และศูนย์ถว่ ง แบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es - ทักษะ (5Es Instructional Model) - ทักษะ - ทักษะ - ทกั ษะ - ทกั ษะ แผนที่ 5 สมดลุ ของวตั ถุ แบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es - ทกั ษะ (5Es Instructional Model) - ทักษะ - ทกั ษะ - ทักษะ - ทกั ษะ แผนที่ 6 เสถยี รภาพของ แบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es - ทักษะ วัตถุ (5Es Instructional Model) - ทกั ษะ - ทกั ษะ - ทกั ษะ - ทักษะ

นมธั ยมศึกษาปีที่ 4 22 ทักษะทไ่ี ด้ การประเมิน เวลา ะการวเิ คราะห์ (ชั่วโมง) ะการสื่อสาร - ตรวจการนำเสนอสถานการณท์ เี่ ก่ียวกับศนู ยก์ ลาง ะการสงั เกต มวลและศนู ยถ์ ่วง 5 ะการทำงานร่วมกัน ะการนำความรไู้ ปใช้ - ตรวจผงั มโนทศั น์ เร่อื ง ศนู ย์กลางมวลและศนู ย์ 3 ถ่วง ะการวิเคราะห์ 3 ะการสอ่ื สาร - ตรวจใบงานท่ี 7.4 เรอื่ ง ศนู ยก์ ลางมวลและศูนย์ ะการสังเกต ถ่วง ะการทำงานร่วมกนั ะการนำความรไู้ ปใช้ - ตรวจการทำแบบฝึกหดั จาก Unit Question 7 เรอ่ื ง ศนู ย์กลางมวลและศูนยถ์ ่วง ะการวิเคราะห์ ะการส่ือสาร - ตรวจแบบฝกึ หัดท่ี 4.1-4.2 เรอ่ื ง ศูนย์กลางมวล ะการสงั เกต และศูนยถ์ ว่ ง ะการทำงานร่วมกนั ะการนำความรู้ไปใช้ - สังเกตการอภปิ ราย เรือ่ ง สมดลุ ของวตั ถุ - ตรวจผังมโนทศั น์ เร่ือง สมดลุ ของวัตถุ - ตรวจใบงานที่ 7.5 เรื่อง สมดลุ ของวตั ถุ - ตรวจการทำแบบฝึกหดั จาก Unit Question 7 เรอ่ื ง สมดลุ ของวัตถุ - ตรวจแบบฝึกหดั ท่ี 5.1 เร่อื ง สมดลุ ของวตั ถุ - ตรวจผลงานการนำเสนอ เรอื่ ง เสถียรภาพของ วตั ถุ - ตรวจผังมโนทศั น์ เร่ือง เสถยี รภาพของวัตถุ - ตรวจใบงานท่ี 7.6 เรอื่ ง เสถยี รภาพของวตั ถุ ครูผสู้ อน นายธนพฒั น์ อิศรางกรู ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครผู ชู้ ว่ ย กลุ่มสาระฯวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวัดเชยี งใหม่

โครงสรา้ งรายวชิ าฟิสกิ ส์ 2 ชนั้ หนว่ ยการเรยี นรู้ แผนการจดั การเรยี นรู้ แนวคดิ /รูปแบบการสอน/ วิธีการสอน/เทคนิค แผนที่ 7 การนำหลกั แบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es - ทักษะ สมดลุ ไป (5Es Instructional Model) - ทักษะ ประยุกต์ - ทักษะ - ทกั ษะ - ทกั ษะ

นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 23 ทกั ษะท่ีได้ การประเมนิ เวลา (ชั่วโมง) ะการวิเคราะห์ - ตรวจการทำแบบฝกึ หดั จาก Unit Question 7 ะการสือ่ สาร เรือ่ ง เสถยี รภาพของวตั ถุ 9 ะการสังเกต ะการทำงานร่วมกัน - ตรวจแบบฝกึ หัดท่ี 6.1 เรอ่ื ง เสถียรภาพของวตั ถุ ะการนำความรู้ไปใช้ - ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน - ตรวจการนำเสนอผลงาน เรอื่ ง เคร่ืองกลทน่ี ำหลัก สมดลุ ไปประยกุ ต์ตามทกี่ ำหนด - ตรวจรายงาน เรอ่ื ง การนำหลักสมดลุ ไปประยกุ ต์ - ตรวจผงั มโนทัศน์ เรอ่ื ง การนำหลกั การไป ประยกุ ต์ - ตรวจใบงานที่ 7.7 เรอื่ ง การนำหลักสมดลุ ไป ประยุกต์ - ตรวจการทำแบบฝกึ หดั จาก Unit Question 7 เรอ่ื ง การนำหลักการไปประยกุ ต์ - ตรวจแบบฝกึ หดั ที่ 7.1 เรอ่ื ง การนำหลกั สมดลุ ไป ประยกุ ต์ ครผู สู้ อน นายธนพฒั น์ อศิ รางกรู ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครผู ู้ช่วย กลมุ่ สาระฯวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวัดเชยี งใหม่

โครงสรา้ งรายวชิ าฟสิ กิ ส์ 2 ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 4 24 Pedagogy สื่อการเรียนรู้รายวิชาเพิ่มเติม ฟิสิกส์ ม.4 ผู้จัดทำได้ออกแบบการสอน (Instructional Design) อันเป็น วิธีการจัดการเรียนรู้และเทคนิคการสอนที่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพและมีความหลากหลายให้กับผู้เรียน เพื่อให้ผู้เรียน สามารถบรรลุผลสัมฤทธิ์ตามมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด รวมถึงสมรรถนะและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของ ผเู้ รียนท่หี ลกั สูตรกำหนดไว้ โดยครสู ามารถนำไปใช้จัดการเรยี นรู้ในช้ันเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซ่ึงในรายวิชานี้ได้ นำรปู แบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) มาใชใ้ นการออกแบบการสอน ดงั นี้ รูปแบบการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) ด้วยจุดประสงค์ของการจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ เพื่อช่วยให้ผู้เรียนได้พัฒนาวิธีคิด ทั้งความคิดเป็นเหตุเป็นผล คิด สร้างสรรค์ คิดวิเคราะห์ วิจารณ์ มีทักษะสำคัญในการค้นคว้าหา ความรู้ และมีความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ ผู้จัดทำจึงได้เลือกใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) ซึ่งเปน็ ขนั้ ตอนการเรียนรูท้ มี่ ุง่ ใหผ้ ู้เรียนได้ มีโอกาสสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองผ่านกระบวนการคิดและการ ลงมือทำ โดยใชก้ ระบวนการทางวิทยาศาสตร์เป็นเครื่องมือสำคัญ เพื่อการพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และทักษะ การเรียนรแู้ ห่งศตวรรษที่ 21 วิธีสอน (Teaching Method) ผ้จู ัดทำเลอื กใช้วิธสี อนท่ีหลากหลาย เช่น การทดลอง การสาธิต การอภปิ รายกลุ่มย่อย เป็นตน้ เพือ่ ส่งเสริม การเรียนรู้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) ให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด ซงึ่ จะเน้นใช้วิธีสอนโดยใช้การทดลองมากเป็นพิเศษ เนื่องจากเปน็ วธิ ีสอนท่ีมุ่งพัฒนาให้ผู้เรียนเกิดองค์ความรู้ จากประสบการณต์ รงโดย การคิดและการลงมอื ทำด้วยตนเอง อนั จะชว่ ยใหผ้ ูเ้ รียนมคี วามร้แู ละเกิดทักษะทาง วทิ ยาศาสตร์ท่ีคงทน เทคนคิ การสอน (Teaching Technique) ผู้จัดทำเลือกใช้เทคนิคการสอนท่ีหลากหลายและเหมาะสมกับเร่ืองที่เรียน เพื่อส่งเสริมวิธีสอนให้มี ประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การใช้คำถาม การเล่นเกม เพื่อนช่วยเพื่อน เป็นต้น ซึ่งเทคนิคการสอนต่าง ๆ จะช่วย ให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้อย่างมีความสุขในขณะที่เรียนและสามารถปฏิบัติกิจกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมท้งั ไดพ้ ัฒนาทักษะในศตวรรษท่ี 21 อีกด้วย ครูผสู้ อน นายธนพฒั น์ อิศรางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครผู ูช้ ่วย กลุ่มสาระฯวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวดั เชยี งใหม่


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook