ภูมปิ ัญญาไทย 4 ภาค โดย น.ส.ปิ ยธดิ า บญุ เถอ่ื น เลขท่ี 29 ชนั้ ม.5/4
ภูมปิ ัญญาไทย ภาคเหนือ
ผา้ หมอ้ หอ้ ม เป็ นผา้ พนื้ เมอื งของจงั หวดั แพร่ เป็ นทนี่ ิยมในการสวมใสข่ องคนภาคเหนือ และของคนทว่ั ประเทศ ซงึ่ แสดงไดถ้ งึ เอกลกั ษณผ์ า้ ไทย ซงึ่ เป็ นการใชผ้ า้ ฝ้ ายทไี่ ดจ้ ากการทอ ยอ้ มดว้ ยสคี รามทไี่ ดจ้ ากตน้ ฮ่อมหรอื ตน้ คราม ปัจจบุ นั นามาตดั ชดุ ตา่ ง ๆ เชน่ กางเกง กระโปรง เสอื้ ชดุ เดรส สามารถสวมใส่ไดท้ ุกเพศทุกวยั “มอ่ ฮ่อม” หรอื “หมอ้ หอ้ ม” หมายถงึ เสอื้ ผา้ ทที่ าจากผา้ ฝ้ าย มสี นี ้าเงินเขม้ ทไี่ ดจ้ ากการยอ้ ม ดว้ ยตน้ หอ้ มในหมอ้ ดนิ จงึ เรยี กวา่ “หมอ้ หอ้ ม” ตอ่ มามกี ารเพยี้ นมาเป็ น \"ม่อฮ่อม\" หรอื \"มอ่ หอ้ ม\" หมอ้ หอ้ ม จดั เป็ นเครอื่ งแตง่ กายพนื้ บา้ นของไทย มาตง้ั แตย่ ุคไทลอื้ ในสบิ สองปันนา ยุคของลาวใน ประเทศลาว และยคุ ของไทลา้ นนา ทางภาคเหนือของไทย ชาวอสี านเรยี กสคี รามวา่ สนี ิล สหี มอ้ หรอื สหี มอ้ นิล ชาวอสี านตอนบนนิยมนาไปยอ้ มผา้ และมดั เป็ นลาย เรยี กว่า ผา้ ยอ้ มคราม ผา้ สี ครามลา้ คา่ จากภูมปิ ัญญาบรรพบุรุษนี้ เป็ นผา้ พนื้ เมอื งทสี่ าคญั ของจงั หวดั แพร่ ซงึ่ มกี ารถ่ายทอด มาหลายชว่ั อายุคน และแมว้ า่ จะมวี ธิ กี ารเขยี นไดห้ ลายแบบ
ฟ้ อนเล็บ เป็ นการฟ้ อนชนิดหน่ึงของชาวไทยในภาคเหนือ ผูฟ้ ้ อนจะสวมเล็บยาว ลลี าทา่ ราของฟ้ อนเล็บคลา้ ยกบั ฟ้ อนเทยี น ตา่ งกนั ทฟี่ ้ อนเทยี นมอื ทงั้ สอง ถอื เทยี น ตามแบบฉบบั ของการฟ้ อน นางลมุล ยมะคปุ ต ์ ผูเ้ ชยี่ วชาญการ สอนนาฏศลิ ป์ ไทย ไดน้ าลลี าทา่ ฟ้ อนอนั เป็ นแบบแผนมาจากคุม้ เจา้ หลวง มาฝึ กสอน จดั เป็ นชดุ การแสดงทน่ี ่าชมอกี ชดุ หน่ึง แตเ่ ดมิ เรยี ก \"ฟ้ อนเล็บ\" ดว้ ยเห็นว่าเป็ นการฟ้ อนทเ่ี ป็ นเอกลกั ษณข์ อง \"คนเมอื ง\" ซงึ่ หมายถงึ คนใน ถนิ่ ลา้ นนาทม่ี เี ชอื้ สายไทยวน และเน่ืองจากการเป็ นการแสดงทม่ี กั ปรากฏ ในขบวนแห่ครวั ทานของวดั จงึ มชี อ่ื เรยี กอกี ชอื่ หน่ึงว่า \"ฟ้ อนแหค่ รวั ทาน\" ตอ่ มามกี ารสวมเล็บทท่ี าดว้ ยทองเหลอื งทง้ั 8 นิว้ (ยกเวน้ นิว้ หวั แม่มอื ) จงึ ไดช้ อ่ื วา่ \"ฟ้ อนเล็บ\"
น้าพรกิ หนุ่ม คอื นา้ พรกิ อาหารพนื้ บา้ นลา้ นนาทร่ี จู ้ กั กนั ท่วั ไป ทาจากพรกิ ชนิดหนึ่งทเี่ รยี กวา่ พรกิ หนุ่มอาจจะใชพ้ รกิ หนุ่มทแ่ี กจ่ ดั หรอื ยงั ไม่แกจ่ ดั ก็ไดแ้ ตส่ ว่ นมากใชพ้ รกิ หนุ่มทย่ี งั ไม่แกจ่ ดั หอม และกระเทยี ม นามา ยา่ งและโขลกสว่ นผสมและเกลอื รบั ประทานกบั แคบหมู ผกั ขา้ วเหนียว บางสตู รใส่ปลารา้ สบั และกะปิ ห่อใบตองยา่ งไฟ บางสตู รใสน่ า้ ปลากบั เกลอื
ภูมปิ ัญญาไทย ภาคกลาง
บา้ นเรอื นไทยภาคกลาง น้ัน เป็ นหนึ่งในสร่ี ปู แบบของเรอื นไทยทง้ั สภ่ี าคทไี่ ดร้ บั ความนยิ มสรา้ งขนึ้ เพอ่ื อยอู่ าศยั มา ตงั้ แตส่ มยั โบราณ เรถอื อื นเไปท็ นยแภบาบคฉกบลบัางขนอ้ันงเจรดัอื วนา่ไเทปย็ นเดเรมิ อื ทนไเี่ รทายคทนุ ้ ไ่ี เดคย้ รกบั นัคดวาี ใมนนริยปู มแมบาบกเกรวอื า่ นเฝรอืานปไะทกยนถภอืาเคปอ็ นนื เรๆอื นไทย เรอื นไทยในภาคกลาง เคราอื จเระอพื นบทเหฝี่ ็นาเทราอื จนาไกทไยมภส้ ากั คมกไลี มาลง้ กู รปตู แง้ั แบลบะตลา่กู งนๆอนอาแทลิ ะมแี เรผอื ่นนไมเดบ้ ย่ี าวงเเขรอาื้ ลนนิห้ ปมรู่ เะรกอื บนกหนั มสู่คนหิทบหดนี แา้ ลจะว่ั แท ้ เรอื นไทยฝาปะกน ก็ทาดว้ ยวธิ เี ดยี วกนั จากการดาเนินชวี ติ ของคนไทยในอดตี ผูกพนั กบั แม่นา้ ลาคลอง อนั เป็ นทางคมนาคมทส่ี ะดวกในเขตภาคกลางจงึ เกดิ เรอื นพกั อาศยั เชน่ เรอื น แพ
การละเลน่ พนื้ บา้ น เป็ นกจิ กรรมนันทนาการประเภทเกม ทสี่ ามารถสง่ เสรมิ พฒั นา อารมณส์ ขุ สนุกสนาน การละเลน่ พนื้ บา้ นของไทยเป็ นกจิ กรรมทยี่ อมรบั รว่ มกนั ในสงั คมวา่ เป็ นภมู ปิ ัญญาทอ้ งถนิ่ มกี ารถา่ ยทอดจากคนรนุ่ หนึ่งไปยงั คน อกี รนุ่ หนึ่ง การละเลน่ พนื้ บา้ นเป็ นกจิ กรรมทเี่ นน้ ความสนุกสนานไม่เนน้ การแพช้ นะ
ไตทม้ยยขาอกงงุ ้คเนปภ็ นาคคากโลดาดงในแภสาดษงใาหไเท้ หย็นมถางึ วจถิากชี ควี ติาวขา่ อตงชม้ มุ แชลนะทยอ่ี ายหตู่ มดิ ากยบั ถรงึมิ กแรมะ่นบาว้ นมกวี าฒั รทนาธอรารหมการารแบสรดโิ งภอคตั อลากั หษาณรดค์ ว้ วยากมาเรปน็ นา วตั ถดุ บิ ในทอ้ งถนิ่ มาใช ้ เชน่ กงุ ้ ในแม่นา้ ตม้ ลงในนา้ เดอื ด ปรงุ รสดว้ ยสมุนไพร รบั ประทานกบั ขา้ วสวยรอ้ น ถอื เป็ น อาหารเพอ่ื สขุ ภาพทชี่ ว่ ยรกั ษาสมดลุ ของรา่ งกายได ้
ภูมปิ ัญญาไทย ภาค ตะวนั ออกเฉียงเหนือ
แพรวา หรอื ผา้ ไหมแพรวาเป็ นผา้ ทอมอื อนั เป็ นเอกลกั ษณข์ องชาวผูไ้ ทยหรอื ภไู ท การทอผา้ แพรวามมี าพรอ้ มกบั วฒั นธรรมของชาวภไู ท ซงึ่ เป็ นชนกลมุ่ หนึ่ง มถี น่ิ กาเนิดในบรเิ วณแควน้ สบิ สองจไุ ทย (ดนิ แดนสว่ นเหนือของ ลาว และ เวยี ดนาม ซง่ึ ตดิ ตอ่ กบั ดนิ แดนภาคใตข้ องจนี ) อพยพเคลอ่ื นยา้ ยผ่านเวยี ดนาม ลาว แลว้ ขา้ มฝ่ังแม่นา้ โขงเขา้ มาตงั้ หลกั แหลง่ อยแู่ ถบเทอื กเขาภพู านทางภาคอสี านของไทย ซงึ่ สว่ นใหญอ่ ยใู่ นจงั หวดั กาฬสนิ ธุ ์ นครพนม มุกดาหาร สกลนคร โดยยงั คงรกั ษาวฒั นธรรมประเพณี ความเชอื่ การแตง่ กาย และการทอผา้ ไหมทมี่ ภี มู ปิ ัญญาในการทอดว้ ย การเก็บลายจากการเก็บขดิ และการจก ทมี่ ลี วดลายโดดเดน่ ทม่ี ภี มู ปิ ัญญาทไี่ ดร้ บั การถา่ ยทอดมาจาก บรรพบรุ ษุ และ พฒั นามาอยา่ งตอ่ เน่ือง ผา้ แพรวาจงึ เปรยี บเสมอื นเป็ นสญั ลกั ษณข์ องกลมุ่ ชนทสี่ บื เชอื้ สายมาจาก กลมุ่ ภไู ท
หมอลา เป็ นรปู แบบวฒั นธรรมทางภาคอสี านของประเทศไทย สามารถแบง่ ออกไดห้ ลายอยา่ ง ตามลกั ษณะทานองของ กาไรดลแ้ากเ่ช“หน่ มลอา”เตหยม้ าลยาถกงึ ลผอูมน้ คี ลวาาเมรอชื่ งานลาาญเรอื่ แงลตะอ่ “กลลา”อหนมลาายเพถลงึ นิ กาลราบซรง่ิ รคยาายวา่เร“อ่ื หงมราอวลตาา่ ”งมๆาดจวา้ ยกทคาาน2องคอานั มไาพรเวรมาะกนั
หชวาวดบกา้ ็เนป็ น(ผขเคผู้ า้ รวลอ่ืเติ หงใ)นชสียอ้าวยมดา่ าวง้ รยหถหนสว่ึงรดทา้ นเี่งกร้ันยา่ี ยวนไขับดอ้วใ้ งา่หกเก้ปบั ็บันชคววี รธิ ติ องี ปา่บรยคะแจรลวาั โะวดสนั ะยขดทอวากงเชปท็ นาส่ี วอดุ บาดาช้ นงั พี นทเ้ันสกุ รวหมนิั วไดจดะ้นเตพึ่งอ้รขงาใาะช้ นวห้ อวจกดงึ จเนปาึ่็งกนขจเคา้ ะวใรเชอ่ืปงห็ ้นใชวปดทร้ นะ่ี จ่ึงขา า้กวาแรลนว้ึ่ง ยงั สามารถดดั แปลงหวดเป็ นเครอ่ื งใชอ้ ยา่ งอน่ื ไดด้ ว้ ย
ภูมปิ ัญญาไทย ภาคใต ้
\"ชงิ เปรต\" เป็ นประเพณีของภาคใตท้ ก่ี ระทากนั ในวนั สารท เดอื น ๑๐ เป็ นประเพณีสาคญั ทจ่ี ดั ขนึ้ เพอ่ื ทาบญุ อทุ ศิ แก่ บรรพบุรษุ ผูล้ ว่ งลบั ไปแลว้ พระยาอนุมานราชธนไดก้ ลา่ วไวใ้ นสารานุกรมฉบบั ราชบณั ฑติ ยสถานว่า การชงิ เปรตที่ ปฏบิ ตั กิ นั ในประเพณีสารทเดอื น ๑๐ นี้ มลี กั ษณะคลา้ ยกบั การทงิ้ กระจาดของจนี
การแสดงโนรา เป็ นการละเลน่ ทม่ี ที ง้ั การรา่ ยรา บทรอ้ งประกอบดนตรี บทเจรจา และบางทกี ็มกี ารแสดงเรอื่ งดว้ ย เครอื่ งดนตรขี องโนราคลา้ ยกบั เครอ่ื งดนตรขี องหนังตะลงุ คอื มี ทบั กลอง ป่ี โหม่ง ฉ่ิง และแตระ เครอ่ื งดนตรเี หลา่ นีจ้ ะ ใชป้ ระกอบจงั หวะและเสยี งรอ้ งใหเ้ ขา้ กนั กบั การรา การแสดงจะเรม่ิ ดว้ ยการโหมโรงและกาศครู กอ่ นตวั แสดงจะออกมารา่ ยราหนา้ เวที มกี ารกลา่ วบทหนา้ ม่านทเี่ รยี กวา่ \"กาพรดั หนา้ ม่าน\" โดยใชล้ ลี ากลอนหนังตะลงุ
หนงั ตะลุง คอื ศลิ ปะการแสดงประจาทอ้ งถน่ิ อยา่ งหนึ่งของภาคใต ้เป็ นการเลา่ เรอื่ งราวทผ่ี ูกรอ้ ยเป็ นนิยาย ดาเนินเรอื่ ง ดแว้สยดบงทเงราอ้บยนกจรออผงทา้ เข่ี ป็บั นรสอ้ ง่ิ งดเปงึ ็ดนดู สสาาเนยียตงาทขอ้ องงถผน่ิ ูช้ มหรซอื งึ่ทกเี่ ารรยี วกา่ กบนั ทวา่กกาารรสน\"ทวา่ นบาทแ\"ลมะกบี าทรสแนสทดนงเางแาทนรี้ นกาเปย็ นหรนะังยตะะแลลงุ เะปใ็ ชนกค้ านร แสดงเองทง้ั หมด หหมนู่บังตา้ นะลองุ ยเปา่ ็งนในมปหัจรสจพบุ นัทนี่ หิยนมังแตพะลรงุห่ แลสาดยงอไดยทา่้ งง้ั ใยนงิ่ มงาานเปบ็ นุญเวแลลาะนงาานนศโพดยดเงัฉนพ้ันางะาในนวยดั คุ งสามนยั ศกพอ่ นหทรจี่อื ะงมาไนี ฟเฉฟล้ ามิ ใชฉกล้ อนั งททว่ั ส่ี ถางึ คทญัุก จงึ มกั มหี นังตะลงุ มาแสดงใหช้ มดว้ ยเสมอ
Search
Read the Text Version
- 1 - 17
Pages: