ก คำนำ วิชางานจักรยานยนต์ รหัสวิชา 20101-2102 จัดอยู่ในหมวดวิชาสมรรถนะ วิชาชีพ กลุ่มวิชาชีพเลือก ประเภทวิชาอุตสาหกรรม สาขาวิชาช่างยนต์ สาขางานยาน ยนต์ ตามหลกั สูตรประกาศนียบตั รวิชาชีพ พุทธศกั ราช 2562 สานกั งานคณะกรรมการ การอาชีวศึกษา(สอศ.) กระทรวงศึกษาธิการ ผูเ้ ขียนไดบ้ ริหารสาระการเรียนรู้แบ่งเป็ น 12 เล่ม ตรงตามจุดประสงค์รายวิชา สมรรถนะรายวิชา คาอธิบายรายวิชา ในแต่ละ บทเรียนมุ่งใหค้ วามสาคญั ส่วนที่เป็นความรู้ทฤษฎี หลกั การ กระบวนการ แบบฝึกปฏิบตั ิ และมีคาถามเพ่ือการทบทวน เพ่ือฝึ กทกั ษะประสบการณ์ เร่งพฒั นาบทบาทของผูเ้ รียน เป็นผจู้ ดั การแสวงหาความรู้ เป็นผสู้ อนตนเองได้ สร้างองคค์ วามรู้ใหม่ และบทบาทของ ผูส้ อนเปลี่ยนจากผูใ้ ห้ความรู้มาเป็ นผูจ้ ดั การช้ีแนะ จดั ส่ิงแวดลอ้ มเอ้ืออานวยต่อความ สนใจเรียนรู้ และเป็ นผูร้ ่วมเรียนรู้ จดั ห้องเรียนเป็ นสถานที่ทางานร่วมกนั จดั กลุ่มเรียนรู้ ให้รู้จกั ทางานร่วมกนั ฝึ กความใจกวา้ งมุ่งสร้างสรรค์คนรุ่นใหม่ สอนความสามารถที่ นาไปทางานได้ สอนความรักความเมตตา ความเชื่อมน่ั ความซ่ือสัตย์ เป้าหมายอาชีพอนั ยงั ประโยชน์ เป็นคนดีท้งั กายวาจาใจ มีคุณธรรมจรรยาบรรณทางธุรกิจและวิชาชีพ ส่งเสริมสนับสนุนยทุ ธศาสตร์การพฒั นาระบบคุณวุฒิวิชาชีพให้สอดคลอ้ งตาม มาตรฐานอาชีพ เพอ่ื สร้างภูมิคุม้ กนั เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขนั ของประเทศ การ พฒั นามาตรฐานการปฏิบตั ิงานระดบั ชาติและการวิเคราะห์หนา้ ที่การงาน เพื่อใหเ้ กิดผล สาเร็จในภาคธุรกิจอุตสาหกรรมและทุกสาขาอาชีพ เป็ นการเตรียมความพร้อมของ ผเู้ รียนเขา้ สู่สนามการแขง่ ขนั ในประชาคมอาเซียน ขอขอบพระคุณท่านอาจารยผ์ ูส้ อนผูป้ ระสาทวิชาความรู้ เอกสารหนังสือท่ีใช้ ประกอบในการเรียบเรียงไว้ ณ โอกาสน้ี ประสาน แซ่หลี
ข สำรบญั หน้ำ ก เรื่อง ข คานา 1 สารบญั 2 คาช้ีแจงสาหรับการใชเ้ อกสารประกอบการเรียน วชิ างานจกั รยานยนต์ 3 คาช้ีแจงสาหรับครู 4 คาช้ีแจงสาหรับนกั เรียน 5 บทบาทของนกั เรียน 6 มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้ีวดั ช้นั ปี 6 สาระสาคญั 7 จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 10 แบบทดสอบก่อนเรียน 11 กระดาษคาตอบแบบทดสอบก่อนเรียน 26 ใบความรู้เร่ือง งานระบบจ่ายน้ามนั เช้ือเพลิงแบบคาร์บเู รเตอร์ 27 แบบฝึกหดั ที่ 1 28 แบบฝึกหดั ที่ 2 43 ใบงานที่ 1 46 แบบทดสอบหลงั เรียน 47 กระดาษคาตอบแบบทดสอบหลงั เรียน ภาคผนวก
สำรบญั (ต่อ) ค เรื่อง หน้ำ เฉลยแบบฝึกหดั ที่ 1 48 เฉลยแบบฝึกหดั ท่ี 2 49 เฉลยใบงานที่ 1 50 เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน 52 เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน 53 บรรณานุกรม 54
1 คำชี้แจงสำหรับกำรใช้เอกสำรประกอบกำรเรียน วชิ ำงำนจกั รยำนยนต์ เอกสารประกอบการเรียน วชิ างานจกั รยานยนต์ ไดด้ าเนินการจดั ทาท้งั หมด 12 เล่ม ประกอบดว้ ย เลม่ ท่ี 1 เครื่องมือที่ใชใ้ นงานจกั รยานยนต์ เลม่ ท่ี 2 หลกั การทางานและการถอด – ประกอบเคร่ืองยนตช์ ่วงบน เลม่ ที่ 3 ระบบส่งกาลงั เลม่ ที่ 4 งานระบบจ่ายน้ามนั เช้ือเพลิงแบบคาร์บูเรเตอร์ เลม่ ที่ 5 ระบบหลอ่ ล่ืน เล่มท่ี 6 ระบบฉีดเช้ือเพลิงแบบอิเลก็ ทรอนิกส์ในรถจกั รยานยนต์ เล่มที่ 7 งานระบบระบายความร้อน เลม่ ที่ 8 งานระบบไฟฟ้าในรถจกั รยานยนต์ เลม่ ที่ 9 โครงรถ งานระบบบงั คบั เล้ียวและระบบรองรับน้าหนกั เล่มที่ 10 งานระบบเบรก ลอ้ และยาง เลม่ ที่ 11 การบารุงรักษารถจกั รยานยนตแ์ ละการประมาณราคาคา่ บริการ เล่มท่ี 12 การแกไ้ ขขอ้ ขดั ขอ้ งรถจกั รยานยนต์ เอกสารประกอบการเรียน วิชางานจกั รยานยนต์ อยู่ในหมวดวิชาสมรรถนะวิชาชีพ กลุ่ม สมรรถนะวิชาชีพเลือก สาขางานจกั รยานยนต์ หลกั สูตรประกาศนียบตั รวชิ าชีพ ( ปวช.) จานวน 12 เล่ม เป็ นเอกสารประกอบการเรียนที่มีการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ท่ีแปลกใหม่ ผูเ้ รียนสามารถลงมือ ปฏิบตั ิไดด้ ว้ ยตนเอง และไดร้ ับประสบการณ์จากการเรียนรู้โดยตรง ซ่ึงเอกสารประกอบการเรียนเล่มน้ี เป็ นเร่ืองที่เกี่ยวข้องกับระบบจ่ายน้ามนั เช้ือเพลิงแบบคาร์บูเรเตอร์ ทาให้ผูเ้ รียนเรียนรู้ด้วยความ สนุกสนาน ไดร้ ับความรู้และความเพลิดเพลินโดยยึดหลกั การวา่ ผเู้ รียนทุกคนมีความสามารถในการ เรียนรู้และพฒั นาตนเองได้ รวมท้งั การยดึ หลกั ผเู้ รียนเป็นศูนยก์ ลาง ตลอดจนสอดคลอ้ งกบั หลกั สูตร ประกาศนียบตั รวิชาชีพ พุทธศกั ราช 2562 นกั เรียนสามารถนาความรู้และทกั ษะในการเรียนรู้ ที่ได้ จากการทากิจกรรมไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวิตประจาวนั และการศึกษาหาความรู้ตอ่ ไปในอนาคต
2 คำชี้แจงสำหรับครู เอกสารประกอบการเรียน วชิ างานจกั รยานยนต์ เล่มท่ี 4 งานระบบจ่ายน้ามนั เช้ือเพลิงแบบ คาร์บูเรเตอร์ น้ี ใช้ประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนสาหรับหลกั สูตรประกาศนียบัตร วชิ าชีพ ( ปวช.) วิทยาลยั การอาชีพนาทวี โดยมีข้นั ตอนการจดั กิจกรรมการเรียนการสอน ดงั น้ี 1. ครูแจกเอกสารประกอบการเรียน วิชางานจกั รยานยนต์ เล่มที่ 4 งานระบบจ่ายน้ามนั เช้ือเพลิงแบบคาร์บเู รเตอร์ ใหน้ กั เรียน 2. ครูใหน้ กั เรียนศึกษาคาช้ีแจงการใชเ้ อกสารประกอบการเรียน และช้ีแจงเพ่มิ เติม ก่อนลง มือปฏิบตั ิ 3. ครูใหน้ กั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน เพอื่ ดูวา่ นกั เรียนมีพ้ืนฐานความรู้ ความเขา้ ใจ เกี่ยวกบั เร่ืองที่เรียนมากนอ้ ยเพยี งใด 4. ครูใหน้ กั เรียนศึกษาเอกสารประกอบการเรียน วิชางานจกั รยานยนต์ เล่มท่ี 4 งานระบบ จ่ายน้ามนั เช้ือเพลิงแบบคาร์บูเรเตอร์ และใบงานท่ี 1 เพ่ือใหน้ กั เรียนไดท้ บทวนและเกิดความรู้ ความ เขา้ ใจอยา่ งถกู ตอ้ ง 5. ครูใหน้ กั เรียนทาแบบทดสอบหลงั เรียน เพอ่ื ดูวา่ นกั เรียนมีความรู้ ความเขา้ ใจหลงั เรียน มากนอ้ ยเพยี งใด 6. ครูสังเกตพฤติกรรมคณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ และบนั ทึกผล 7. ครูตรวจคะแนนและบนั ทึกผลลงในแบบเก็บคะแนนการทาเอกสารประกอบการเรียน วชิ างานจกั รยานยนต์ เลม่ ที่ 4 งานระบบจ่ายน้ามนั เช้ือเพลิงแบบคาร์บเู รเตอร์ เล่มน้ี 8. ครูแจง้ คะแนนใหน้ กั เรียนทราบและชมเชยนกั เรียนพร้อมใหค้ าแนะนาเพม่ิ เติม
3 คำชี้แจงสำหรับนกั เรียน เอกสารประกอบการเรียน วิชางานจกั รยานยนต์ เล่มท่ี 4 งานระบบจ่ายน้ามนั เช้ือเพลิง แบบคาร์บูเรเตอร์ เล่มน้ี ใชป้ ระกอบการจดั กิจกรรมการเรียนรู้สาหรับนกั เรียนระดบั ประกาศนียบตั ร วิชาชีพ ( ปวช.) วิทยาลยั การอาชีพนาทวี โดยมีข้นั ตอนการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ดงั น้ี ศึกษำก่อนลงมือปฏิบตั ิกจิ กรรม 1. นกั เรียนศึกษาคาช้ีแจงการใชเ้ อกสารประกอบการเรียน วิชางานจกั รยานยนต์ ใหเ้ ขา้ ใจ 2. ใหน้ กั เรียนรับเอกสารประกอบการเรียน วชิ างานจกั รยานยนต์ เลม่ ท่ี 4 งานระบบจ่าย น้ามนั เช้ือเพลิงแบบคาร์บูเรเตอร์ 3. นกั เรียนเริ่มทาแบบทดสอบก่อนเรียน เพ่ือประเมินดูวา่ นกั เรียนมีพ้ืนฐานความรู้ ความ เขา้ ใจมากนอ้ ยเพียงใด 4. นกั เรียนศึกษาเน้ือหาทาความเขา้ ใจใหด้ ีต้งั แต่หนา้ แรกถึงหนา้ สุดทา้ ยตามลาดบั อยา่ ขา้ ม ข้นั ตอนและทากิจกรรมทา้ ยเลม่ 5. เม่ือพบคาช้ีแจงหรือคาถามในแตล่ ะเล่มของเอกสารประกอบการเรียน ควรอ่านและทา กิจกรรมอยา่ งรอบคอบ 6. ส่งผลงานการทากิจกรรมการเรียนรู้จากทา้ ยเล่มเอกสารประกอบการเรียน วิชางาน จกั รยานยนต์ เลม่ ที่ 4 งานระบบจ่ายน้ามนั เช้ือเพลิงแบบคาร์บูเรเตอร์ เพ่ือใหค้ รูตรวจและบนั ทึกผล 7. เมื่อทาแบบฝึกหัดและใบงานเสร็จแลว้ ควรจดั เกบ็ อปุ กรณ์ใหเ้ รียบร้อย 8. เม่ือนกั เรียนทกุ คนทากิจกรรมการเรียนรู้ครบแลว้ ใหน้ กั เรียนทาแบบทดสอบหลงั เรียน ดว้ ยความต้งั ใจและซื่อสัตย์ 9. รับฟังการแจง้ คะแนน คาชมเชยและคาแนะนาเพ่ิมเติมจากครู
4 บทบำทของนกั เรียน ครูต้องแจ้งให้นกั เรียนทรำบถงึ บทบำทของนักเรียน ดังต่อไปนี้ 1. นกั เรียนตอ้ งอา่ นคาสง่ั และปฏิบตั ิตามข้นั ตอนอยา่ งรอบคอบ 2. นกั เรียนควรพยายามทากิจกรรมต่าง ๆ ดว้ ยความกระตือรือร้น 3. นกั เรียนตอ้ งต้งั ใจปฏิบตั ิงานอยา่ งจริงจงั ไม่ชวนเพือ่ นพูดคุยออกนอกเรื่อง 4. หลงั จากปฏิบตั ิกิจกรรมแลว้ นกั เรียนจะตอ้ งจดั เกบ็ อุปกรณ์ทกุ ชิ้นเขา้ ที่ใหเ้ รียบร้อย 5. เน่ืองจากมีเวลาจากดั นกั เรียนตอ้ งต้งั ใจทากิจกรรมใหเ้ สร็จอยา่ งรวดเร็ว 6. นกั เรียนตอ้ งใชส้ ื่อหรืออุปกรณ์อยา่ งระมดั ระวงั
5 มำตรฐำนกำรเรียนรู้/ตวั ชี้วดั ช้ันปี มำตรฐำน มีความรู้ ความเขา้ ใจงานระบบจ่ายน้ามนั เช้ือเพลิงแบบคาร์บูเรเตอร์ สามารถตรวจสอบและ บริการขอ้ ขดั ขอ้ งตามคมู่ ือไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง ดว้ ยความรอบคอบและระมดั ระวงั ตวั ชีว้ ัด 1.นกั เรียนมีความรู้ความเขา้ ใจระบบจ่ายน้ามนั เช้ือเพลิงแบบคาร์บเู รเตอร์ มีผลการประเมิน ไม่ต่ากวา่ ร้อยละ 60 2.นกั เรียนปฏิบตั ิกิจกรรมที่กาหนด มีผลการประเมินไม่ต่ากวา่ ร้อยละ 60 3.นกั เรียนมีคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ มีผลการประเมินไม่ต่ากวา่ ร้อยละ 60
6 สำระสำคญั เคร่ืองยนต์จักรยานยนต์ เป็ นเครื่องยนต์สันดาปภายใน ชนิดใช้น้ามันแก๊สโซลีนเป็ น เช้ือเพลิง ทาหน้าที่เปล่ียนพลงั งานความร้อนที่เกิดการเผาไหมส้ ่วนผสมของน้ามันเช้ือเพลิงกับ อากาศให้เป็นพลงั งานกล ดงั น้นั วิธีการ ข้นั ตอนและกระบวนการในการจดั ส่งส่วนผสมของน้ามนั เช้ือเพลิงกบั อากาศหรือไอดีเขา้ สู่หอ้ งเผาไหม้ จึงเป็นหนา้ ท่ีของอุปกรณ์และชิ้นส่วนในระบบน้ามนั เช้ือเพลิง จุดประสงค์กำรเรียนรู้ ด้ำนควำมรู้ 1.บอกชื่อและหนา้ ที่ของโครงสร้างในระบบน้ามนั เช้ือเพลิงได้ 2.บอกชื่อชิ้นส่วนของก๊อกน้ามนั เช้ือเพลิงได้ 3.อธิบายหลกั การทางานของกอ๊ กน้ามนั เช้ือเพลิงได้ 4.อธิบายหลกั การทางานเบ้ืองตน้ ของคาร์บเู รเตอร์ได้ 5.จาแนกชนิดของคาร์บเู รเตอร์ได้ 6.บอกช่ือโครงสร้างของคาร์บเู รเตอร์แบบ SU ได้ 7.อธิบายหลกั การทางานของคาร์บูเรเตอร์แบบ SU ได้ ด้ำนทักษะ 1.ถอดประกอบชิ้นส่วนในระบบน้ามนั เช้ือเพลิงได้ 2.ตรวจสอบชิ้นส่วนในระบบน้ามนั เช้ือเพลิงได้ ด้ำนคุณธรรม 1. นกั เรียนมีกิจนิสัยท่ีดีในการทางาน มีความรับผิดชอบทางานดว้ ยความประณีต รอบคอบ ตรงต่อเวลา สะอาด คานึงถึงความปลอดภยั ในการปฏิบตั ิงานและ รักษาสิ่งแวดลอ้ ม 2. นกั เรียนมีความซื่อสัตย์ ประหยดั มีน้าใจ รู้จกั ทางานเป็นทีม รักษาสมบตั ิ ส่วนรวม และมีจิตอาสา
7 แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง งานระบบจ่ายนา้ มนั เชื้อเพลงิ แบบคาร์บูเรเตอร์ คาส่ังใหน้ กั เรียนเลือกคำตอบที่ถูกท่ีสุดเพยี งคำตอบเดียว และทำเครื่องหมำยกำกบำท ()ลงใน กระดำษคำตอบ (10 คะแนน) 1. กอ๊ กน้ำมนั เช้ือเพลิงชนิดอตั โนมตั ิจะเปิ ดช่องทำงน้ำมนั เช้ือเพลิงเม่ือใด ก. เกิดกำลงั อดั ในกระบอกสูบ ข. เกิดสุญญำกำศในท่อไอดี ค. เกิดกำรเผำไหมใ้ นกระบอกสูบ ง. เกิดกำรดูดไอดีในกระบอกสูบ 2. ก๊อกน้ำมนั เช้ือเพลิงชนิดธรรมดำ เมื่อเปิ ดไปยงั ตำแหน่ง ON น้ำมนั จะไหลไปสู่คำร์บูเรเตอร์ได้ ดว้ ยแรงใด ก. แรงดึงดูดของโลก ข. แรงของของเหลว ค. แรงลอยตวั ง. แรงดนั บรรยำกำศ 3. กำรไหลของอำกำศเม่ือผำ่ นคอคอดของคำร์บูเรเตอร์จะส่งผลอยำ่ งไร ก. อำกำศหมนุ วน ข. ควำมเร็วอำกำศลดลง ค. แรงดนั อำกำศสูงข้ึน ง. ควำมเร็วอำกำศเพ่ิมข้นึ
8 4. คำร์บเู รเตอร์แบง่ ตำมระบบลิ้นควบคมุ กำรไหลของอำกำศคือขอ้ ใด ก. แบบลิน้ ลูกเร่งและเขม็ เร่ง ข. แบบลิ้นลูกเร่งและลิน้ ปี กผเี ส้ือ ค. แบบลิ้นปี กผเี ส้ือและเขม็ เร่ง ง. แบบสุญญำกำศและเขม็ เร่ง 5. ก๊อกน้ำมนั เช้ือเพลิงชนิดอตั โนมตั ิจะเร่ิมทำงำนเมื่อใด ก. เร่งเคร่ืองยนต์ ข. สตำร์ตเครื่องยนต์ ค. เบำเครื่องยนต์ ง. ดบั เคร่ืองยนต์ 6. หนำ้ ที่ของคำร์บูเรเตอร์ขอ้ ใดกลำ่ วไม่ถกู ตอ้ ง ก. กำหนดปริมำณส่วนผสมของไอดี ข. ทำใหส้ ่วนผสมไอดีเป็นฝอยละออง ค. จ่ำยส่วนผสมไอดีใหเ้ หมำะสมกบั กำรทำงำนของเครื่องยนต์ ง. สร้ำงสุญญำกำศในท่อไอดี 7. กำรเก็บสะสมน้ำมนั เช้ือเพลิงและรักษำระดบั น้ำมนั เช้ือเพลิงในคำร์บูเรเตอร์เป็นหนำ้ ที่ของวงจร ใด ก. วงจรลูกลอย ข. วงจรหลกั ค. วงจรน้ำมนั ง. วงจรควำมเร็ว
9 8. คำร์บูเรเตอร์แบบ SU นิยมใชก้ บั เคร่ืองยนตช์ นิดใด ก. เคร่ืองยนตข์ นำดเลก็ ข. 2 จงั หวะ ค. ท้งั 2 จงั หวะ และ 4 จงั หวะ ง. 4 จงั หวะ 9. คำร์บเู รเตอร์แบบลิ้นลกู เร่งนิยมใชก้ บั เคร่ืองยนตช์ นิดใด ก. เคร่ืองยนต์ 4 จงั หวะ ข. เคร่ืองยนต์ 2 จงั หวะ ค. เคร่ืองยนต์ 2 จงั หวะ และ 4 จงั หวะ ง. เครื่องยนตร์ อบต่ำ 10. คำร์บเู รเตอร์แบบ SU ลิ้นลูกเร่งจะถกู ยกตวั ข้ึนไดด้ ว้ ยอะไร ก. แรงดูดสุญญำกำศ ข. สำยเร่ง ค. ลิ้นปี กผเี ส้ือ ง. แรงดนั บรรยำกำศ
10 กระดาษคาตอบแบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง งานระบบจ่ายน้ามันเชื้อเพลงิ แบบคาร์บูเรเตอร์ ชื่อ - สกลุ ........................................................................ช้นั ................ เลขท่ี................. ข้อ ก ข คง 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. รวม เกณฑก์ ำรประเมิน ผำ่ น (5-10 คะแนน) ไมผ่ ำ่ น (0-4 คะแนน)
11 ใบความรู้ เรื่อง งานระบบจ่ายน้ามนั เชื้อเพลงิ แบบคาร์บูเรเตอร์ โครงสร้างและหน้าท่ีของส่วนประกอบระบบนา้ มนั เชื้อเพลงิ ส่วนประกอบของระบบน้ำมนั เช้ือเพลิงที่สำคัญ ประกอบดว้ ย กรองอำกำศ ก๊อกน้ำมัน เช้ือเพลิงและคำร์บเู รเตอร์ รูปท่ี 4.1 แสดงส่วนประกอบของระบบน้ำมนั เช้ือเพลิง ที่มำ : สุรพงษ์ พงษศ์ รี.2562. หลกั กำรทำงำนเบ้ืองตน้ ของระบบน้ำมนั เช้ือเพลิง เม่ือเครื่องยนตท์ ำงำนจะเกิดแรงดูดหรือ สุญญำกำศ ข้ึนภำยในห้องกระบอกสูบ แรงดูดน้ีจะดูดผ่ำนมำยงั แผ่นไดอะแฟรมของก๊อกน้ำมนั เช้ือเพลิงโดยผ่ำนมำตำม ท่อสุญญำกำศซ่ึงต่ออยู่กบั ท่อไอดี ขณะที่แรงดูดเพ่ิมข้ึนจะส่งผลใหส้ ปริง ลิ้นควบคุมภำยในก๊อกน้ำมนั เช้ือเพลิงถูกเปิ ด น้ำมนั เช้ือเพลิงจะไหลผ่ำนไปยงั ห้องลูกลอยของ คำร์บเู รเตอร์ได้ กรองอากาศ (Air cleaner) กรองอำกำศเป็ นชิ้นส่วนที่สำคัญอีกชิ้นส่วนหน่ึงของระบบน้ำมันเช้ือเพลิง เนื่องจำก ส่วนผสมของเป็ นส่วนผสมระหว่ำงน้ำมันกับอำกำศ ดังน้ันอำกำศที่จะถูกดูดและจ่ำยเขำ้ ไปใน เคร่ืองยนตซ์ ่ึงเป็ นชิ้นส่วน กำรเคลื่อนท่ีอยู่ตลอดเวลำน้ัน จะตอ้ งเป็ นอำกำศท่ีสะอำดปรำศจำกฝ่ ุน ละอองและสิ่งสกปรก หำกอำกำศมีฝ่ นุ ละอองส่ิงสกปรกปะปนเขำ้ ไปในเคร่ืองยนต์ จะส่งผลใหเ้ กิด
12 กำรสึกหรอของกระบอก กำ้ นสูบ ลูกสูบ และแหวนลูกสูบเร็วกวำ่ ปกติ กรองอำกำศแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ 1. กรองอำกำศชนิดแห้ง (Dry type) เป็นไส้กรองท่ีทำดว้ ยกระดำษกรอง พบั ซ้อนกนั หลำย ช้นั เพ่ือเพ่ิมพ้ืนท่ีในกำรกรองสิ่งสกปรกและฝ่ นุ ละออง เป็นที่นิยมใชก้ บั รถจกั รยำนยนตใ์ นปัจจุบนั มีลกั ษณะดงั รูปท่ี4.2 2. กรองอำกำศชนิดเปี ยก (Wet type) เป็นไส้กรองที่ทำมำจำกฟองน้ำเน้ือละเอียด ก่อนกำร ใชง้ ำน จะตอ้ งชโลมดว้ ยน้ำมนั หล่อลื่นเพอื่ ดกั จบั สิ่งสกปรกและฝ่นุ ละออง ไส้กรองสำมำรถลำ้ งทำ ควำมสะอำดไดม้ ีลกั ษณะดงั รูปท่ี 4.3 รูปท่ี 4.2 แสดงลกั ษณะกรองอำกำศชนิดแหง้ รูปท่ี 4.3 แสดงลกั ษณะกรองอำกำศชนิดเปี ยก ท่ีมำ : สุรพงษ์ พงษศ์ รี.2562. ที่มำ : สุรพงษ์ พงษศ์ รี.2562. ก๊อกน้ามนั เชื้อเพลงิ ก๊อกน้ำมันเช้ือเพลิงที่ใช้ในรถจักรยำนยนต์โดยท่ัวไป แบ่งออกเป็ น 2 ชนิด คือ ชนิด ธรรมดำและชนิดทำงำนโดยอตั โนมตั ิ 1. กอ๊ กน้ำมนั เช้ือเพลิงชนิดธรรมดำ ในรถจกั รยำนยนตส์ ่วนใหญ่จะไม่มีป้ัมน้ำมนั เช้ือเพลิง แตน่ ้ำมนั จะไหลจำกถงั น้ำมนั ไปสู่คำร์บูเรเตอร์โดยแรงดึงดูดของโลก ดว้ ยเหตุน้ีจึงจำเป็นตอ้ งมีกอ๊ ก น้ำมนั เชื่อเพลิงเพ่ือเปิ ดและปิ ดท่อน้ำมนั ติดต้งั อยใู่ นตำแหน่งท่ีต่ำกวำ่ ถงั น้ำมนั เช้ือเพลิง ก๊อกน้ำมนั เช้ือเพลิง ดำแหน่ง ON (เปิ ด) OFF (ปิ ด) หรือ RES (ถงั สำรอง) โดยทำหน้ำที่ควบคุมกำรไหลของ น้ำมนั เช้ือเพลิงจำกถงั น้ำมนั ไปสู่คำร์บูเรเตอร์ รูปท่ี 4.4 แสดงโครงสร้ำงของก๊อกน้ำมนั ท่ีมำ : สุรพงษ์ พงษศ์ รี.2562.
13 รูปท่ี 4.5 แสดงกำรทำงำนของกอ๊ กน้ำมนั เช้ือเพลิงตำแหน่ง ON และ RES ท่ีมำ : สุรพงษ์ พงษศ์ รี.2562. 2 ชนิดทำงำนโดยอตั โนมตั ิ (The suction-type automatic fuel cock) หลักกำรทำงำนของ ก๊อกน้ำมนั เช้ือเพลิงชนิดทำงำนโดยอตั โนมตั ิ จะทำงำนโดยใชส้ ุญญำกำศจำกเครื่องยนตม์ ำควบคุม กำรเปิ ดและปิ ดช่องทำงน้ำมันโดยอตั โนมัติตำมกำรทำงำนของเคร่ืองยนต์ ก๊อกน้ำํ มนั จะมีอยู่3 ตำแหน่ง : ON (เปิ ด)RES (ถงั สำรอง) และ PRI (ส่งน้ำมนั โดยตรง) ในตำแหน่งONและ RESน้ำำมนั จะไหลจำกถงั ไปสู่คำร์บูเรเตอร์โดยผ่ำนก๊อกอตั โนมตั ิ ส่วนในตำแหน่ง PRI น้ำมนั จะไหลจำกถงั ไปสู่คำร์บูเรเตอร์ โดยไม่ผำ่ นกอ๊ กอตั โนมตั ิ รูปที่ 4.6 แสดงโครงสร้ำงของก๊อกน้ำมนั เช้ือเพลิง รูปท่ี 4.7 แสดงกำรทำงำนของก๊อกน้ำมนั เช้ือเพลิง ชนิดทำงำนโดยอตั โนมตั ิON และ RES ชนิดทำงำนโดยอตั โนมตั ิ ท่ีมำ : สุรพงษ์ พงษศ์ รี.2562. ท่ีมำ : สุรพงษ์ พงษศ์ รี.2562.
14 กำรเลือกใชต้ ำแหน่งกำรทำงำนของก๊อกน้ำมนั เช้ือเพลิงชนิดทำงำนโดยอตั โนมตั ิ ตาแหน่ง ลกั ษณะการใช้งาน ON (เปิ ด) เมื่อหมุนก๊อกมำตำแหน่ง ON จะใชส้ ำหรับกำรขบั ขป่ี กติในตำแหน่งน้ี RES/Reserve น้ำมนั จะไหลผำ่ นไปยงั คำร์บูเรเตอร์ไดก้ ต็ ่อเม่ือมีกำรสตำร์ตหรือช่วงที่ (ถงั สำรอง) เครื่องยนตท์ ำงำน และน้ำมนั จะหยดุ ไหล เมื่อเครื่องยนตห์ ยดุ ทำงำน PRI/Priming ตำแหน่งน้ีจะใชเ้ ม่ือน้ำมนั ในถงั หมด โดยหมุนกอ๊ กน้ำมนั มำในตำแหน่ง (ส่งโดยตรง) RES ก่อน เพ่อื ส่งน้ำมนั ไปยงั คำร์บเู รเตอร์ก่อนกำรสตำร์ต ในตำแหน่งน้ีใชส้ ำหรับกำรสตำร์ตเคร่ืองยนตเ์ ม่ือน้ำมนั หมดถงั หรือกรณีที่ มีกำรซ่อมคำร์บูเรเตอร์ เนื่องจำกจอดรถทิง้ ไวเ้ ป็นเวลำนำน คาร์บูเรเตอร์ (Carburetor) 1. หน้ำท่ีของคำร์บูเรเตอร์ สำหรับกำรทำงำนของเครื่องยนต์เบนซินจำเป็ นอย่ำงย่ิงท่ีจะตอ้ งใช้ ส่วนผสมระหว่ำงน้ ำมันเบนซินกับอำกำศ เพ่ือเป็ นเช้ือเพลิงในกำรเผำไหม้ของเคร่ืองยนต์ คำร์บเู รเตอร์จึงเป็นอปุ กรณ์ท่ีทำหนำ้ ที่ 1. กำหนดปริมำณของส่วนผสมระหว่ำงน้ำมนั เบนซินกับอำกำศ ตำมควำมตอ้ งกำรของ เครื่องยนต์ 2. ปรับส่วนผสมน้ำมนั เบนซินกบั อำกำศใหเ้ หมำะสมตำมสภำวะกำรทำงำนของเคร่ืองยนต์ 3. ทำใหส้ ่วนผสมระหวำ่ งน้ำมนั เบนซินกบั อำกำศกลำยเป็นฝอยละอองเลก็ ๆ 2. หลกั กำรเบ้ืองตน้ ของคำร์บูเรเตอร์ คำร์บูเรเตอร์จะทำให้น้ำมนั เช้ือเพลิงกลำยเป็ นฝอยละออง เลก็ ๆ ผสมกบั อำกำศเพอื่ ใหก้ ลำยเป็นไอไดง้ ำ่ ยข้ึน เป็นหลกั กำรเดียวกบั กำรฉีดสเปรย์ รูปท่ี 4.8 แสดงหลกั กำรเบ้ืองตน้ ของคำร์บูเรเตอร์ ที่มำ : สุรพงษ์ พงษศ์ รี.2562.
15 จำกรูปที่ 4.8 แสดงหลกั กำรของกำรฉีดสเปรย์ โดยอำกำศท่ีพ่นออกจำกปลำยท่อ A จะทำ ให้เกิดสุญญำกำศข้ึนที่ปลำยท่อ B โดยควำมแตกต่ำงระหวำ่ งสุญญำกำศกบั ควำมดนั บรรยำกำศท่ี C ทำใหน้ ้ำถูกดูดและพ่นออกมำเป็นฝอยละอองที่บริเวณปลำยท่อ B ในกรณีน้ีถำ้ อำกำศถูกพ่นออกมำ ดว้ ยควำมเร็วสูงข้ึนก็จะทำใหเ้ กิดสุญญำกำศมำกข้ึน ส่งผลให้น้ำถูกดูดและพ่นออกมำท่ีปลำยท่อ B มำกข้นึ ตำมไปดว้ ย 3. ส่วนผสมระหว่ำงน้ำมนั เบนซินกับอำกำศในจงั หวะดูดของเครื่องยนต์ ควำมดันใน กระบอกสูบ จะต่ำกว่ำควำมดนั บรรยำกำศ อำกำศจะไหลผ่ำนคำร์บูเรเตอร์ผ่ำนท่อไอดีและไปสู่ กระบอกสูบ ตำมเส้นทำงกำรไหลของอำกำศ ถำ้ อำกำศไหลผ่ำนส่วนที่แคบ ของท่อ ซ่ึงเรียกว่ำ คอ คอด (Venturi) อำกำศจะไหล เร็วข้นึ ทำใหเ้ กิดสุญญำกำศท่ีส่วนของคอคอด ที่จุดน้ีจะมีท่อฉีดน้ำมนั (Nozzle)ติดต้งั อยู่ ซ่ึงน้ำมนั เช้ือเพลิงจะถูกดูดผำ่ นท่อฉีดน้ำมนั และพ่นออกมำเป็นฝอยละอองเลก็ ๆ ในคำร์บูเรเตอร์ท่ีใชก้ นั อยู่ทวั่ ไป จะมีกลไกที่สลบั ซับซ้อนมำก ละอองน้ำมนั จะไหลผ่ำนท่อไอดี และกลำยเป็ นไอเข้ำผสมกับอำกำศอย่ำงสมบูรณ์ก่อนไหลเข้ำสู่กระบอกสูบ ปกติในขณะเกิด กระบวนกำรน้ี ถำ้ ลิ้นปี กผีเส้ือ (Throttle valve)เปิ ดกวำ้ งเต็มที่อำกำศจะไหลเขำ้ สู่กระบอกสูบไดเ้ ร็ว ข้ึน เครื่องยนตก์ ็จะหมุนเร็วข้ึน ซ่ึงจุดน้ีเป็ นจุดท่ีดีท่ีสุดท่ีทำให้เกิดละอองฝอย เม่ือลิ้นปี กผีเส้ือเริ่ม ปิ ด เครื่องยนตจ์ ะหมุนชำ้ ลง อตั รำส่วนผสมสำหรับกำรทำงำนจริง คือ • เม่ือสตำร์ตเครื่องยนต(์ ขณะเยน็ ) : 2-3 : 1 เปิ ดโชก้ • อุน่ เคร่ือง :7-8 :1 • เม่ือเดินเบำ:8-12 : 1 •ขบั ดว้ ยควำมเร็วต่ำ : 12-14 : 1 • ขบั ปกติขณะบรรทุกเบำ: 15-17 : 1 •บรรทกุ หนกั :11-13 : 1 • ขณะเร่ง : อตั รำส่วนผสมจะข้นึ อยกู่ บั กำรเร่ง แตจ่ ะเป็นอตั รำส่วนผสมหนำ รูปท่ี 4.9 แสดงอำกำศไหลผำ่ นคอคอดทำงำนโดยอตั โนมตั ิON และ RES ที่มำ : สุรพงษ์ พงษศ์ รี.2562.
16 4. ชนิดคำร์บูเรเตอร์ โดยปกติกำรแบ่งชนิดของคำร์บูเรเตอร์ สำมำรถแบ่งออกได้หลำย แบบ ไดแ้ ก่ แบ่งตำมทิศทำงกำรเคลื่อนท่ีของอำกำศท่ีดูดเขำ้ แบ่งตำมระบบของลิ้นควบคุมกำร ไหลของอำกำศแบ่งตำมจำนวนท่ออำกำศ (ท่อท่ีอำกำศไหลผ่ำน) และแบ่งตำมลกั ษณะของกำร ทำงำน 4.1 แบ่งตำมทิศทำงกำรดูดอำกำศ คำร์บูเรเตอร์จะติดต้งั อยู่ทำงท่อไอดีของเครื่องยนตแ์ ละ จะจ่ำยส่วนผสมของน้ำมนั เช้ือเพลิงกบั อำกำศเขำ้ สู่กระบอกสูบ สำมำรถแบ่งคำร์บูเรเตอร์ออกตำม ทิศทำง กำรไหลของอำกำศที่ถูกดูดเขำ้ มำผสมกบั น้ำมนั เช้ือเพลิงไดเ้ ป็ น 2 แบบ คือ แบบดูดเขำ้ ใน แนวระดบั และแบบดูดลง คำร์บูเรเตอร์แบบดูดเขำ้ ในแนวระดบั ส่วนใหญ่ จะใชใ้ นรถจกั รยำนยนต์ มีลกั ษณะดงั รูปที่ 4.10 รูปที่ 4.10 แสดงคำร์บูเรเตอร์แบบดูดในแนวระดบั อตั โนมตั ิON และ RES ท่ีมำ : สุรพงษ์ พงษศ์ รี.2562. ในรถยนตส์ ่วนมำกจะใช้คำร์บูเรเตอร์แบบดูดลง เพรำะละอองน้ำมนั เช้ือเพลิงจะเคล่ือนที่ ในทิศทำงตำมแรงโน้มถ่วงของโลก ทำให้ประสิทธิภำพกำรดูดสูงข้ึน ดังรูปที่ 4.11 ปัจจุบันน้ี คำร์บูเรเตอร์แบบดูดลงก็เร่ิมนำเขำ้ มำใชก้ บั รถจกั รยำนยนตม์ ำกข้นึ รูปที่ 4.11 แสดงคำร์บเู รเตอร์แบบดูดลงอตั โนมตั ิ ที่มำ : สุรพงษ์ พงษศ์ รี.2562.
17 4.2 แบง่ ตำมระบบของลิ้นควบคุมกำรไหลของอำกำศ ในคำร์บเู รเตอร์จะตอ้ งมีอปุ กรณ์ ที่ ใชใ้ นกำรเพิม่ และลดปริมำณของส่วนผสมของน้ำมนั เช้ือเพลิงกบั อำกำศท่ีไหลเขำ้ สู่กระบอกสูบ อปุ กรณ์ในกำรปรับปริมำณของส่วนผสมน้ี เรียกวำ่ สิ้นควบคมุ กำรไหลของอำกำศ ลิ้นควบคมุ กำร ไหลน้ีมี 2 แบบ คือ แบบลิน้ ลูกเร่งและแบบลิ้นปี กผเี ส้ือ • แบบลิน้ ลูกเร่ง มีลกั ษณะเป็นลกู สูบทรงกระบอกต้งั อยใู่ นแนวดิ่ง ใชเ้ พ่มิ หรือลดปริมำณ ส่วนผสมของน้ำมนั เช้ือเพลิงกบั อำกำศโดยกำรยกลิ้นแบบลูกเร่ง ส่งผลใหข้ นำดของคอคอดเกิดกำร เปลี่ยนแปลงไป เรียกวำ่ คำร์บูเรเตอร์แบบ VM ดงั รูปท่ี 4.12 •แบบลิน้ ปี กผเี ส้ือ มีลกั ษณะเป็นแผน่ กลมหมนุ ได้ (เหมือนปี กผเี ส้ือ) เพอ่ื ปรับช่องอำกำศ เขำ้ ใหก้ วำ้ งหรือแคบได้ ลิน้ แบบปี กผีเส้ือจะมีส่วนท่ีเป็นคอคอดและลิ้นควบคมุ กำรไหลแยกจำกกนั ส่วนที่เป็นคอคอดจะมีท้งั แบบคอคอดคงท่ีและแบบคอคอดปรับอตั โนมตั ิ สำมำรถเปล่ียนขนำดได้ โดยอตั โนมตั ิดว้ ยกำรใชส้ ุญญำกำศ ซ่ึงเรียกวำ่ คำร์บูเรเตอร์แบบ SU ดงั รูปท่ี 4.13 รูปท่ี 4.12 แสดงคำร์บูเรเตอร์แบบ VM รูปท่ี 4.13 แสดงคำร์บเู รเตอร์แบบ SU ที่มำ : สุรพงษ์ พงษศ์ รี.2562. ที่มำ : สุรพงษ์ พงษศ์ รี.2562. 4.3 แบง่ ตำมจำนวนท่ออำกำศ (Classification by number of barrels and barrel action) กำร แบง่ แบบน้ีสำมำรถแบง่ คำร์บูเรเตอร์ออกได้ 2 แบบ แบบที่หน่ึงจะมีทอ่ อำกำศเพียงท่อเดียวเรียกวำ่ คำร์บูเรเตอร์แบบท่อเดียว ดงั รูปที่ 4.14 และแบบที่สองจะมีท่ออำกำศที่ทำงำนพร้อมกนั จำนวน 2 ทอ่ เรียกวำ่ คำร์บูเรเตอร์แบบท่อคู่ ดงั รูปที่ 4.15 รูปที่ 4.14 แบบท่อเดี่ยว Single barrel รูปที่ 4.15 แบบท่อคู่ Two barrels ที่มำ : สุรพงษ์ พงษศ์ รี.2562. ที่มำ : สุรพงษ์ พงษศ์ รี.2562.
18 5. โครงสร้ำงและกำรทำงำนของคำร์บูเรเตอร์ จำกที่ได้กล่ำวมำแลว้ คำร์บูเรเตอร์มีหลำย ชนิด ซ่ึงแตล่ ะชนิดใชใ้ นจุดประสงคท์ ี่ตำ่ งกนั เพื่อใหเ้ หมำะสมกบั สภำวะกำรใชง้ ำนของเครื่องยนต์ คำร์บูเรเตอร์แบบ VM ซ่ึงใชล้ ิ้นแบบลูกเร่งจะนิยมใชใ้ นเครื่องยนต์ 2 จงั หวะ ส่วนในเครื่องยนต์ 4 จงั หวะนิยมใชค้ ำร์บเู รเตอร์แบบ SU 5.1โครงสร้ำงและกำรทำงำนของคำร์บูเรเตอร์แบบ VM-type รูปที่ 4.16 แสดงโครงสร้ำงของคำร์บูเรเตอร์แบบ VM-type ท่ีมำ : สุรพงษ์ พงษศ์ รี.2562. คำร์บูเรเตอร์แบบ VM ช่องน้ำมนั เช้ือเพลิงและช่องทำงอำกำศเขำ้ จะเปลี่ยนแปลงตำมระยะ ท่ีลูกเร่งเปิ ด เพื่อใหป้ ริมำณส่วนผสมของน้ำมนั เช้ือเพลิงกบั อำกำศเพียงพอตอ่ สภำวะกำรทำงำนของ เคร่ืองยนต์ และมีอตั รำส่วนผสมท่ีพอเหมำะ คำร์บูเรเตอร์แบบ VM น้ี จะเป็ นแบบที่มีห้องลูกลอย ใชส้ ำหรับเก็บสะสม น้ำมนั ไวช้ วั่ ครำว ซ่ึงอยู่ดำ้ นใตข้ องห้องผสม (ห้องที่น้ำมนั เบนซินกบั อำกำศ ผสมกนั เป็ นส่วนผสมของน้ำมนั เช้ือเพลิงกบั อำกำศ) ลิ้นลูกเร่งที่ใช้ ออกแบบใหเ้ ลื่อนข้นึ และลงใน ทิศทำงต้งั ฉำกกบั กำรไหลของอำกำศ ซ่ึงอตั รำกำรไหลของอำกำศจะถูกกำหนดโดยระยะท่ีลูกเร่ง เล่ือนเปิ ด ประกอบดว้ ย 4 วงจร คือวงจรโชก้ น้ำมนั วงจรเดินเบำ วงจรหลกั และวงจรลกู ลอย 1.วงจรโช้กน้ำมนั โดยปกติขณะท่ีเคร่ืองยนตท์ ำงำน น้ำมนั เช้ือเพลิงจะถูกทำให้เป็ นฝอย ละอองโดยคำร์บูเรเตอร์ และจะกลำยเป็ นไอดว้ ยควำมร้อนจำกท่อไอดี กระบอกสูบ และชิ้นส่วน อื่นๆ ท่ีร้อน แต่ในขณะที่เคร่ืองยนตเ์ ยน็ น้ำมนั เช้ือเพลิงจะกลำยเป็ นไอไดย้ ำก ดงั น้นั จึงจำเป็ นตอ้ ง จ่ำยน้ำมนั มำกข้ึน เพื่อให้มีปริมำณไอน้ำมนั มำกเพียงพอต่อกำรจุดระเบิด ซ่ึงกลไกท่ีใช้ในกำรทำ หน้ำที่น้ี เรียกว่ำ โช้กน้ำมนั โครงสร้ำงของวงจรโช้กน้ำมนั ประกอบดว้ ย นมหนูโช้ก (Starter jet) ลูกโชก้ น้ำมนั (Starter plunger) และส่วนอ่ืนๆ ท่ีทำงำนร่วมกนั ดงั รูปที่ 4.17
19 รูปท่ี 4.17 แสดงโครงสร้ำงของวงจรโชก้ น้ำมนั ที่มำ : สุรพงษ์ พงษศ์ รี.2562. กำรทำงำน เม่ือปิ ดลูกเร่ง เปิ ดลูกโช้กน้ ำมัน และรูในช่องจ่ำยน้ ำมันจะเปิ ด แรงดูด สุญญำกำศจำกเคร่ืองยนต์ จะดูดผ่ำนทำงช่องจ่ำยน้ำมนั ทำให้น้ำมนั ถูกดูดเขำ้ มำในท่อโชก้ ผำ่ นนม หนูโชก้ ท่ีใช้ควบคุมปริมำณน้ำมนั และผสมกบั อำกำศจำกช่องทำงอำกำศหลกั ในท่อโชก้ ส่งผลให้ ส่วนผสมหนำไหลเขำ้ สู่ห้องลูกโชก้ น้ำมนั จำกน้นั อำกำศจำกช่องทำงอำกำศรองจะเขำ้ ผสมอีกคร้ัง เพ่ือให้ได้ส่วนผสมที่พอเหมำะสำหรับกำรสตำร์ตเครื่องยนต์ ส่วนผสมของน้ำมันเช้ือเพลิงกับ อำกำศท่ีออกจำกช่องจ่ำยเช้ือเพลิงเขำ้ สู่เครื่องยนต์ จะมีลกั ษณะเป็ นฝอยละอองเม็ดเล็กๆ ดงั รูปที่ 4.18 รูปท่ี 4.18 แสดงกำรทำงำนของวงจรโชก้ น้ำมนั ที่มำ : สุรพงษ์ พงษศ์ รี.2562. 2. วงจรเดินเบำ ช่วงท่ีเคร่ืองยนต์เดินเบำไปจนถึงช่วงควำมเร็วต่ำลูกเร่งจะเปิ ดเพียง เลก็ นอ้ ย ดงั น้นั ระยะช่องวำ่ งระหวำ่ งเขม็ เร่งกบั เส้ือเขม็ เร่งจึงแคบดว้ ย เพรำะวำ่ เครื่องยนตห์ มุนอยำ่ ง ช้ำๆ สุญญำกำศที่ใช้ในกำรดึงน้ำมนั เช้ือเพลิงเขำ้ มำทำงเข็มเร่งจึงเกิดข้ึนน้อย ระหว่ำงน้ันน้ำมัน เช้ือเพลิง จะถูกจ่ำยออกมำโดยระบบเดินเบำ ดงั รูปท่ี 4.19
20 รูปท่ี 4.19 แสดงกำรทำงำนของวงจรเดินเบำ รูปที่ 4.20 แสดงกำรทำงำนของวงจรหลกั ที่มำ : สุรพงษ์ พงษศ์ รี.2562. ที่มำ : สุรพงษ์ พงษศ์ รี.2562. 3.วงจรหลกั จะจ่ำยน้ำมนั ในช่วงควำมเร็วปำนกลำงถึงควำมเร็วสูง เม่ือลูกเร่งเปิ ดกวำ้ ง อำกำศท่ีไหลผ่ำนคอคอดจะมีควำมเร็วเพ่ิมสูงข้ึนและน้ำมนั จะถูกดูดข้ึนมำทำงนมหนูหลกั ผ่ำนเส้ือ เข็มเร่ง ดงั รูปที่ 4.20 คำร์บูเรเตอร์แบบVM ประกอบดว้ ย ระบบเดินเบำและวงจรหลกั ซ่ึงอิสระต่อ กนั วงจรหลกั สำมำรถแบ่งออกไดเ้ ป็ น 2 แบบ คือ แบบบลีด (Bleed type) และไพรมำรี (Primary type) • แบบบลีด (Bleed type) รูอำกำศจะอยบู่ ริเวณช่องตรงกลำงของเส้ือเขม็ เร่ง อำกำศจะไหล จำกช่องทำงอำกำศมำเขำ้ ที่รูอำกำศของเส้ือเขม็ เร่ง ในจงั หวะท่ีเคร่ืองยนตท์ ำงำนที่ควำมเร็ว ปำน กลำงและควำมเร็วสูง ดงั รูปที่ 4.21 • แบบไพรมำรี (Primary type) แบบน้ีจะไมม่ ีรูอำกำศที่นมหนูเขม็ เร่ง อำกำศจำกนมหนู อำกำศจะไหลผำ่ นช่องแคบระหวำ่ งเขม็ เร่งกบั นมหนูเขม็ เร่ง และผสมกบั น้ำมนั เช้ือเพลิง ลกั ษณะ ดงั รูปท่ี 4.22 รูปที่ 4.21 วงจรหลกั แบบบลีด รูปที่ 4.22 วงจรหลกั แบบไพรมำรี ท่ีมำ : สุรพงษ์ พงษศ์ รี.2562. ที่มำ : สุรพงษ์ พงษศ์ รี.2562.
21 การทางานตามตาแหน่งของลูกเร่ง เม่ือลูกเร่งเปิ ดอยู่ในระดบั 1/8 ถึง 1/4 น้ำมนั เช้ือเพลิงซ่ึงถูกควบคุมปริมำณดว้ ยนมหนูตวั ใหญ่ (Main jet)และถูกดูดผ่ำนเข้ำมำทำงช่องว่ำงระหว่ำงเส้ือเข็มเร่ง (Needle jet) กับเข็มเร่ง (Jet needle) เส้ือเขม็ เร่งมีรูปร่ำงเป็นรูปทรงกระบอก ส่วนเข็มเร่งมีลกั ษณะเหมือนเข็มปลำยเรียวและติด แน่นอยู่กบั ลูกเร่ง ทำให้เข็มเร่งเคล่ือนท่ีข้ึนลงพร้อมกบั กำรเคล่ือนที่ของลูกเร่ง ส่งผลให้พ้ืนที่ช่อง จ่ำยน้ำมนั เพ่ิมข้นึ หรือลดลงตำมไปดว้ ย ที่ตวั ของลูกเร่งดำ้ นอำกำศไหลเขำ้ จะมีรอยบำก (Cut Away) อยู่ ซ่ึงรอยบำกน้ีมีไวเ้ พอื่ ใหเ้ กิดสุญญำกำศ ท่ีเส้ือเขม็ เร่ง และควบคุมแรงที่ดูดน้ำมนั • เม่ือลูกเร่งเปิ ดอยทู่ ่ีระดบั 1/8 ถึง 1/4 ปริมำณของน้ำมนั เช้ือเพลิงจะถูกควบคุมโดยรอยบำก ที่ลกู เร่งช่องวำ่ งระหวำ่ งเส้ือลกู เร่งกบั เขม็ เร่ง และส่วนอื่นๆ ร่วมกนั ดงั รูปท่ี 4.23 รูปท่ี 4.23 แสดงตำแหน่งลูกเร่งเปิ ด 1/8 ถึง 1/4 ท่ีมำ : สุรพงษ์ พงษศ์ รี.2562. •เมื่อลูกเร่งเปิ ดอยทู่ ่ีระดบั 1/4 ถึง 3/4 ที่ตำแหน่งน้ี ลูกเร่งจะเปิ ดมำกข้ึนผลจำกรอยบำกจะมี น้อยลง ซ่ึงปริมำณของน้ำมนั ท่ีจ่ำยออกมำจะข้ึนอยู่กบั ขนำดของนมหนูอำกำศหลกั และช่องว่ำง ระหวำ่ ง เส้ือเขม็ เร่งกบั เขม็ เร่ง ดงั รูปท่ี 4.24 รูปที่ 4.24 แสดงตำแหน่งลกู เร่งเปิ ด 1/4 ถึง 3/4 ที่มำ : สุรพงษ์ พงษศ์ รี.2562. • เม่ือลูกเร่งเปิ ดอยู่ท่ีระดับ 3/4 ถึงเปิ ดสุด เม่ือลูกเร่งเปิ ดจนเกือบสุดและต้องกำรให้ เคร่ืองยนต์ มีกำลงั สูงสุด ปริมำณของน้ำมนั ท่ีจ่ำยออกมำจะข้ึนอยู่กบั ขนำดของนมหนูตวั ใหญ่และ นมหนูอำกำศหลกั เป็ นส่วนใหญ่ ส่วนระยะช่องว่ำงระหว่ำงเข็มเร่งกับเส้ือเข็มเร่ง จะมีผลอยู่บำ้ ง บำงส่วน ดงั รูปท่ี 4.25 รูปที่ 4.25 แสดงตำแหน่งลกู เร่งเปิ ด 3/4 ถึงเปิ ดสุด ท่ีมำ : สุรพงษ์ พงษศ์ รี.2562.
22 4. วงจรลูกลอย ขณะที่เคร่ืองยนตท์ ำงำนชุดลูกลอยจะทำหนำ้ ที่รักษำระดบั น้ำมนั เช้ือเพลิง ในห้องลูกกลอยให้คงท่ีตลอดเวลำ ดว้ ยกำรเคลื่อนท่ีของเข็มลูกลอย ลูกลอย และกลไกต่ำงๆ ใน หอ้ งลูกลอย สำหรับคำร์บูเรเตอร์ แบบ VM หอ้ งลูกลอยจะอย่ใู ตห้ อ้ งผสมและระดบั น้ำมนั จะลดลง ต่ำสุดเม่ือเร่งเครื่องยนต์อยำ่ งทนั ทีทนั ใด น้ำมนั เช้ือเพลิงจะไหลจำกถงั น้ำมนั ผำ่ นมำทำงก๊อกน้ำมนั และสำยน้ำมนั เช้ือเพลิงลงสู่หอ้ งลกู ลอย เมื่อน้ำมนั เช้ือเพลิงไหลเขำ้ สู่หอ้ งลูกลอย ลกู ลอยจะลอยข้ึน ทำให้เข็มลูกลอยเลื่อนข้ึนติดแน่นกับบ่ำเข็มลูกลอย และปิ ดกำรไหลของน้ำมันเช้ือเพลิง เมื่อ เครื่องยนต์ทำงำนและน้ำมนั เช้ือเพลิงในห้องลูกลอยลดลง ลูกลอยและเข็มลูกลอยเลื่อนต่ำลงดว้ ย ทำให้เกิดช่องวำ่ งข้ึนระหว่ำงเข็มลูกลอยกบั บ่ำเขม็ ลูกลอย ดงั น้นั น้ำมนั เช้ือเพลิงจะสำมำรถไหลเขำ้ สู่ห้องลูกลอยไดอ้ ีกคร้ัง และจะกระทำต่อเนื่องเพ่ือรักษำระดบั น้ำมนั เช้ือเพลิงให้คงที่ ตลอดกำร ทำงำนของเคร่ืองยนต์ ดงั รูปท่ี 4.26-4.27 รูปท่ี 4.26 แสดงโครงสร้ำงของวงจรลกู ลอย รูปที่ 4.27 แสดงกำรทำงำนของวงจรลกู ลอย ท่ีมำ : สุรพงษ์ พงษศ์ รี.2562. ที่มำ : สุรพงษ์ พงษศ์ รี.2562. 5.2โครงสร้ำงและหลกั กำรทำงำนของคำร์บูเรเตอร์แบบลูกเร่งสุญญำกำศ ในคำร์บูเรเตอร์ แบบเร่งสุญญำกำศ (SU) ทำงำนโดยใช้แรงดูดสุญญำกำศท่ีเกิดจำกระยะท่ีลิ้นปี กผีเส้ือเปิ ดและ ควำมเร็วรอบเครื่องยนต์ คำร์บูเรเตอร์แบบน้ีเป็ นแบบคอคอดเปล่ียนแปลงได้ ซ่ึงพ้ืนที่หน้ำตดั ของ คอคอดสำมำรถเปลี่ยนแปลงไดโ้ ดยอตั โนมตั ิ คำร์บูเรเตอร์แบบ SU จะมีลกั ษณะเหมือนกบั คำร์บูเรเตอร์แบบ VM ยกเวน้ แต่ลิ้นปี กผีเส้ือ และลูกเร่งสุญญำกำศ ซ่ึงกำรทำงำนของระบบต่ำงๆ ของคำร์บูเรเตอร์ ประกอบด้วย 4 วงจรคือ วงจรโชก้ น้ำมนั วงจรเดินเบำ วงจรหลกั และวงจรลูกลอย เช่นเดียวกบั คำร์บเู รเตอร์แบบ VM
23 รูปที่ 4.28 แสดงโครงสร้ำงและชิ้นส่วนของคำร์บเู รเตอร์แบบลูกเร่งสุญญำกำศ ที่มำ : สุรพงษ์ พงษศ์ รี.2562. 1. วงจรโช้กน้ำมนั คำร์บูเรเตอร์แบบ SU จะใช้ลูกโช้กน้ำมนั เช่นเดียวกับคำร์บูเรเตอร์ แบบ VM เมื่อสตำร์ตเคร่ืองยนตโ์ ดยปิ ดลิน้ ปี กผเี ส้ือและเปิ ดลกู โชก้ น้ำมนั น้ำมนั เช้ือเพลิงซ่ึงกำหนด ปริมำณ โดยนมหนูโช้กจะเขำ้ ผสมกบั อำกำศส่วนแรกในท่อโชก้ และไหลเขำ้ สู่ห้องลูกโช้กน้ำมนั เพ่ือผสมกบั อำกำศที่มำจำกช่องอำกำศอีกคร้ังหน่ึง จะไดส้ ่วนผสมของน้ำมนั เช้ือเพลิงกบั อำกำศที่ เหมำะสมกบั กำรสตำร์ตเคร่ืองยนตแ์ ละจ่ำยส่วนผสมน้ีเขำ้ สู่เครื่องยนตท์ ำงช่องจ่ำย รูปท่ี 4.29 แสดงวงจรโชก้ น้ำมนั สุญญำกำศ ท่ีมำ : สุรพงษ์ พงษศ์ รี.2562.
24 2. วงจรเดินเบำน้ำมนั เช้ือเพลิงสำหรับวงจรเดินเบำจะไหลจำกหอ้ งลกู ลอยผำ่ นทำงนมหนู หลกั และควบคุมปริมำณโดยนมหนูเดินเบำ น้ำมนั เช้ือเพลิงจะผสมกบั อำกำศที่ควบคุมปริมำณดว้ ย นมหนู อำกำศเดินเบำ และจ่ำยเขำ้ สู่เครื่องยนตผ์ ำ่ นทำงช่องบำยพำสและช่องทำงออก รูปที่ 4.30 แสดงกำรทำงำนของวงจรเดินเบำ ท่ีมำ : สุรพงษ์ พงษศ์ รี.2562. 3. วงจรหลกั หรือวงจรควำมเร็ว น้ำมนั เช้ือเพลิงในวงจรหลกั จะควบคุมปริมำณกำรไหล จำกห้องลูกลอยด้วยนมหนูตวั หลักและผ่ำนทำงเส้ือเข็มเร่ง น้ำมนั เช้ือเพลิงจะผสมกบั อำกำศท่ี ควบคุม ปริมำณด้วยนมหนูอำกำศเพ่ือให้กลำยเป็ นฝอยละออง เมื่อควำมเร็วรอบของเครื่องยนต์ เพ่ิมข้ึน ควำมดันสุญญำกำศจำกด้ำนใตข้ องลูกเร่งจะกระทำต่อแผ่นปะเก็นยำงและทำให้ลูกเร่ง เคลื่อนท่ีสูงข้ึน เมื่อลูกเร่งยกสูงข้ึน พ้ืนที่หน้ำตดั ของคอคอดจะเพิ่มข้ึนยอมให้อำกำศไหลเข้ำ เคร่ืองยนต์ไดม้ ำกข้ึน ส่วนเรียวของเข็มเร่ง ที่ติดอยทู่ ่ีจุดศูนยก์ ลำงของลูกเร่ง จะช่วยขยำยช่องว่ำง เส้ือเข็มเร่ง ทำให้ไดป้ ริมำณส่วนผสมของน้ำมนั เช้ือเพลิงกบั อำกำศท่ีเหมำะสมกบั กำรทำงำนของ เคร่ืองยนต์ รูปท่ี 4.31 แสดงกำรทำงำนของวงจรหลกั รูปท่ี 4.32 แสดงกำรทำงำนของวงจรหลกั ตำแหน่งเร่งสุด ที่มำ : สุรพงษ์ พงษศ์ รี.2562. ที่มำ : สุรพงษ์ พงษศ์ รี.2562.
25 4. วงจรลูกลอย ห้องลูกลอยจะอยู่ด้ำนล่ำงของคำร์บูเรเตอร์ และมีชุดลูกลอยทำหน้ำท่ี รักษำระดบั ของน้ำมนั เช้ือเพลิงให้สูงคงท่ีอยู่ตลอดเวลำท่ีเครื่องยนตท์ ำงำน โดยน้ำมนั จะไหลผ่ำน เขม็ ลูกลอยเขำ้ สู่หอ้ งลูกลอย เมื่อน้ำมนั เขำ้ สู่หอ้ งลูกลอย ลูกลอยจะลอยข้ึน กดเขม็ ลูกลอยใหต้ ิดกบั บ่ำเข็มลูกลอย ทำให้ช่องทำงเขำ้ น้ำมนั ถูกปิ ด และเม่ือเร่งเครื่องยนต์สูงข้ึน ระดบั น้ำมนั เช้ือเพลิง ต่ำลง ลูกลอยจะเคลื่อนลงพร้อมกบั เขม็ ลูกลอย บ่ำเขม็ ลกู ลอยจะเปิ ดใหน้ ้ำมนั ไหลเขำ้ มำเก็บในหอ้ ง ลกู ลอยอีกคร้ัง รูปท่ี 4.33 แสดงโครงสร้ำงของวงจรลกู ลอย ท่ีมำ : สุรพงษ์ พงษศ์ รี.2562.
26 แบบฝึ กหัดที่ 1 คาสั่ง บอกช่ือโครงสร้ำงก๊อกน้ำมนั เช้ือเพลิง ตำมหมำยเลขท่ีกำหนด 1. ชื่อ......................................................................... 2. ชื่อ......................................................................... 3. ช่ือ......................................................................... 4. ชื่อ......................................................................... 5. ช่ือ.........................................................................
27 แบบฝึ กหดั ที่ 2 คาสั่ง บอกชื่อโครงสร้ำงของคำร์บูเรเตอร์แบบ VM ตำมหมำยเลขที่กำหนด 1. ................................................................................... 2. ................................................................................... 3. ................................................................................... 4. ................................................................................... 5. ................................................................................... 6. ................................................................................... 7. ................................................................................... 8. ................................................................................... 9. ................................................................................... 10 ...................................................................................
28 ใบงานที่ 1 ชื่องาน งำนบริกำรคำร์บูเรเตอร์แบบ VM จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม/บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง 1. เลือกใชเ้ ครื่องมือบริกำรคำร์บูเรเตอร์แบบ VM ได้ 2. ถอดแยกชิ้นส่วนคำร์บเู รเตอร์แบบ VM ได้ 3. ประกอบคำร์บูเรเตอร์แบบ VM ได้ 4. ตรวจสอบชิ้นส่วนของคำร์บูเรเตอร์แบบ VM ได้ 5. ประเมินผลกำรตรวจวสอบชิ้นส่วนของคำร์บเู รเตอร์แบบ VM ได้ 6. ปรับรอบเดินเบำเคร่ืองยนตร์ ถจกั รยำนยนตไ์ ด้ 7. แสดงพฤติกรรมกำรปฏิบตั ิงำนเป็นกลมุ่ ท่ีดีได้ คาสั่ง 1. ใหน้ กั เรียนแบง่ กลุ่มเป็น 5 กลุม่ ๆละ 4 คน ปฏิบตั ิตำมใบงำนแบบมีส่วนร่วม 2. ปฏิบตั ิงำนดว้ ยควำมประณีต ถกู ตอ้ งเหมำะสมและปลอดภยั 3. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ ปฏิบตั ิงำนใหแ้ ลว้ เสร็จภำยในเวลำ 50 นำที 4. ปฏิบตั ิงำนเสร็จทุกคร้ังตอ้ งทำควำมสะอำดและจดั อุปกรณ์ใหเ้ ป็นระเบียบเรียบร้อย
29 เคร่ืองมือ-อุปกรณ์ 1. รถจกั รยำนยนต์ Honda Wave 110 7.คมี ตดั ขำ้ ง 2. เครื่องมือวดั รอบ 8.คีมปลำยแหลม 3. ไขควงแฉก 9.ปื นเป่ ำลม 4. ไขควงแบน 10.แปรงลำ้ งชิ้นส่วน 5. ไขควงแบนดำ้ มยำว 11.ถำดสแตนเลส 6. ประแจรวมเบอร์ 7,8,10 12.ผำ้ สะอำด ข้อควรระวงั 1. ควรตรวจสอบสภำพเครื่องมือก่อนใชง้ ำน 2. ศึกษำเอกสำรประกอบกำรเรียนใหล้ ะเอียดก่อนกำรปฏิบตั ิงำน ข้นั ตอนการปฏบิ ัตงิ าน 1. นำรถจกั รยำนยนต์ Honda Wave 110 เขำ้ จอดในพ้นื ท่ีปฏิบตั ิงำนดว้ ยขำต้งั คู่ 2. หมุนก๊อกน้ำมนั เช้ือเพลิงไปที่ตำแหน่ง OFF
30 3. ถอดฝำครอบเคร่ืองยนตด์ ำ้ นซำ้ ยและขวำออก โดยคลำยสกรูยดึ ฝำครอบ 4. ถอดทอ่ น้ำมนั เช้ือเพลิง เขม็ ขดั รัดท่ออำกำศคำร์บเู รเตอร์จำกกรองอำกำศ 5. ถอดโบลยดึ คำร์บเู รเตอร์กบั ท่อไอดี ฉนวนคอทอ่ ไอดีออก
31 6. ถอดฟรีสำยโชก้ ออกจำกตวั ยดึ สำยโชก้ ถอดปลำยสำยโชก้ ออก 7. คลำยเกลียวฝำครอบลกู เร่ง ดึงสปริงลกู เร่งพร้อมชุดลกู เร่ง เขม็ ลกู เร่งออก 8. ถอดคำร์บูเรเตอร์ใส่ถำดเพ่ือถอดแยกและลำ้ งทำควำมสะอำด
32 การถอดแยกชิน้ ส่วนคาร์บูเรเตอร์ 9. ถอดฝำครอบกรองน้ำมนั เช้ือเพลิง ถอดสกรูถำ่ ยน้ำมนั เช้ือเพลิงที่ฝำครอบลูกลอย 10. ถอดสกรูฝำครอบห้องลกู ลอย ถอดฝำครอบหอ้ งลูกลอย โอริง 11. ถอดสลกั ลูกลอยและลกู ลอยออก ดึงเขม็ ลูกลอยออกจำกเส้ือเขม็ ลูกลอย
33 12. ถอดนมหนูใหญ่ เส้ือเขม็ เร่ง 13. ถอดนมหนูเดินเบำ 14. ถอดสกรูปรับอำกำศพร้อมสปริง แหวน โอริงออก 15. ถอดสกรูปรับเดินเบำพร้อมสปริง แหวน โอริงออก
34 16. ตรวจสอบชิ้นส่วนของคำร์บูเรเตอร์ ตำมตำรำงกำรตรวจสอบ
35 17. ลำ้ งทำควำมสะอำดเส้ือคำร์บูเรเตอร์และเป่ ำช่องทำงเดินน้ำมนั และอำกำศ 18. ลำ้ งทำควำมสะอำดนมหนูเดินเบำ นมหนูเดินเร็ว 19. ลำ้ งทำควำมสะอำดชิ้นส่วนต่ำงๆและเป่ ำลมใหแ้ หง้
36 การประกอบชิน้ ส่วนคาร์บูเรเตอร์ 20. ประกอบนมหนูเดินเบำ เส้ือเขม็ เร่ง นมหนูใหญ่ 21. ประกอบเขม็ ลกู ลอยเขำ้ กบั ลกู ลอย วำงลงในเส้ือเขม็ ลูกลอยแลว้ สอดสลกั เขม็ ลกู ลอย
37 22. ประกอบฝำครอบห้องลกู ลอย โอริง และขนั สกรูใหแ้ น่น 23. ประกอบสกรูปรับเดินเบำและสปริง แหวน โอริง 24. ประกอบสกรูปรับอำกำศและสปริง แหวน โอริง โดยขนั เขำ้ ใหแ้ น่นและคลำยออก 2 ½ รอบ
38 ประกอบคาร์บูเรเตอร์ 25. จดั ร่องลกู เร่งและเดือยลอ็ คใหต้ รงกนั แลว้ ทำกำรสวมลกู เร่งเขำ้ กบั คำร์บูเรเตอร์ และขนั ฝำ ครอบลูกเร่งใหแ้ น่น 26. ประกอบปลำยสำยโชก้ ประกอบฟรีสำยโชก้ จำกตวั ยึดสำยโชก้ 27. เปล่ียนโอริงท่ีฉนวนคอท่อไอดีใหม่และทำจำระบี ประกอบฉนวนหนั โอริงไปทำงท่อไอดี
39 28. ประกอบคำร์บูเรเตอร์เขำ้ กบั ทอ่ ไอดี แลว้ ขนั โบลยดึ คำร์บเู รเตอร์ใหแ้ น่น 29. ประกอบทอ่ ยำงจำกกรองอำกำศและเขม็ ขดั รัด 30. ประกอบทอ่ น้ำมนั เช้ือเพลิงและเขม็ ขดั รัดท่อน้ำมนั เช้ือเพลิง 31. ประกอบฝำครอบเคร่ืองยนตด์ ำ้ นซำ้ ยและขวำ ขนั สกรูยดึ ใหแ้ น่น
40 32. หมุนกอ๊ กน้ำมนั เช้ือเพลิงไปตำแหน่ง “ON” 33. คลำยสกรูถำ่ ยน้ำมนั เพือ่ ใหน้ ้ำมนั จำกก๊อกน้ำมนั เช้ือเพลิงเขำ้ มำในหอ้ งลกู ลอยจนเตม็ เม่ือ น้ำมนั เช้ือเพลิงไหลออกมำทำงสกรูถำ่ ยน้ำมนั ใหร้ ีบปิ ดทนั ที
41 34. เปิ ดสวติ ชก์ ญุ แจ สตำร์ทเคร่ือง อุน่ เครื่องยนตป์ ระมำณ 5 นำที ท่ี 1,500-2,000 รอบ/ นำที จำกน้นั ให้เครื่องยนตอ์ ยู่ในตำแหน่งเดินเบำ ขนั สกรูปรับเดินเบำให้รอบเดินเบำอยทู่ ี่ 1,500 ±100 รอบ/นำที 35. สมำชิกในกลมุ่ ช่วยกนั ทำควำมสะอำดเครื่องมือ-อุปกรณ์-ชุดฝึก และจดั วำงใหเ้ ป็นระเบียบ
42 ตารางบันทกึ ผล ช่ืองาน งานบริการคาร์บูเรเตอร์แบบ VM รำยกำรตรวจสอบ ผลกำรตรวจสอบ ค่ำมำตรฐำน ผลกำรประเมิน นมหนูเดินเบำ ไมอ่ ุดตนั ปกติ ผดิ ปกติ นมหนูใหญ่ เส้ือเขม็ เร่ง ไม่อุดตนั ปกติ ผดิ ปกติ เขม็ เร่ง ช่องทำงวงจรเดินเบำ ไม่อดุ ตนั ปกติ ผดิ ปกติ ช่องทำงวงจรโชก้ ลกู ลอย ไมช่ ำรุด ปกติ ชำรุด เขม็ ลูกลอย ปะเกน็ ฝำครอบลกู ลอย ไมอ่ ดุ ตนั ปกติ ผิดปกติ รอบเดินเบำเครื่องยนต์ ไมอ่ ดุ ตนั ปกติ ผิดปกติ ไมช่ ำรุด ปกติ ชำรุด ไมช่ ำรุด ปกติ ชำรุด ไมช่ ำรุด ปกติ ชำรุด 1,500 ±100 รอบ/นำที ปกติ ผิดปกติ
43 แบบทดสอบหลงั เรียน เรื่อง งานระบบจ่ายนา้ มนั เชื้อเพลงิ แบบคาร์บูเรเตอร์ คาสั่งใหน้ กั เรียนเลือกคำตอบที่ถกู ท่ีสุดเพยี งคำตอบเดียว และทำเครื่องหมำยกำกบำท ()ลงใน กระดำษคำตอบ (10 คะแนน) 1.คำร์บเู รเตอร์แบ่งตำมระบบลิน้ ควบคุมกำรไหลของอำกำศคอื ขอ้ ใด ก. แบบลิน้ ลกู เร่งและเขม็ เร่ง ข. แบบลิน้ ลกู เร่งและลิน้ ปี กผีเส้ือ ค. แบบลิน้ ปี กผีเส้ือและเขม็ เร่ง ง. แบบสุญญำกำศและเขม็ เร่ง 2. ก๊อกน้ำมนั เช้ือเพลิงชนิดอตั โนมตั ิจะเปิ ดช่องทำงน้ำมนั เช้ือเพลิงเม่ือใด ก. เกิดสุญญำกำศในท่อไอดี ข. เกิดกำลงั อดั ในกระบอกสูบ ค. เกิดกำรเผำไหมใ้ นกระบอกสูบ ง. เกิดกำรดูดไอดีในกระบอกสูบ 3. คำร์บูเรเตอร์แบบ SU นิยมใชก้ บั เคร่ืองยนตช์ นิดใด ก. ท้งั 2 จงั หวะ และ 4 จงั หวะ ข. 2 จงั หวะ ค. 4 จงั หวะ ง. เครื่องยนตข์ นำดเลก็
44 4. หนำ้ ที่ของคำร์บูเรเตอร์ขอ้ ใดกล่ำวไมถ่ กู ตอ้ ง ก. กำหนดปริมำณส่วนผสมของไอดี ข. ทำใหส้ ่วนผสมไอดีเป็นฝอยละออง ค. จ่ำยส่วนผสมไอดีใหเ้ หมำะสมกบั กำรทำงำนของเครื่องยนต์ ง. สร้ำงสุญญำกำศในท่อไอดี 5. กอ๊ กน้ำมนั เช้ือเพลิงชนิดธรรมดำ เม่ือเปิ ดไปยงั ตำแหน่ง ON น้ำมนั จะไหลไปสู่คำร์บูเรเตอร์ได้ ดว้ ยแรงใด ก. แรงของของเหลว ข. แรงดึงดูดของโลก ค. แรงลอยตวั ง. แรงดนั บรรยำกำศ 6. คำร์บเู รเตอร์แบบลิน้ ลกู เร่งนิยมใชก้ บั เคร่ืองยนตช์ นิดใด ก. เครื่องยนต์ 2 จงั หวะ ข. เครื่องยนต์ 4 จงั หวะ ค. เคร่ืองยนต์ 2 จงั หวะ และ 4 จงั หวะ ง. เครื่องยนตร์ อบต่ำ 7. คำร์บูเรเตอร์แบบ SU ลิ้นลกู เร่งจะถกู ยกตวั ข้ึนไดด้ ว้ ยอะไร ก. ลิ้นปี กผเี ส้ือ ข. สำยเร่ง ค. แรงดูดสุญญำกำศ ง.แรงดนั บรรยำกำศ
45 8. กำรไหลของอำกำศเมื่อผำ่ นคอคอดของคำร์บูเรเตอร์จะส่งผลอยำ่ งไร ก. อำกำศหมุนวน ข. ควำมเร็วอำกำศเพ่ิมข้ึน ค. ควำมเร็วอำกำศลดลง ง. แรงดนั อำกำศสูงข้นึ 9. กอ๊ กน้ำมนั เช้ือเพลิงชนิดอตั โนมตั ิจะเร่ิมทำงำนเมื่อใด ก. เร่งเครื่องยนต์ ข. สตำร์ตเครื่องยนต์ ค. เบำเครื่องยนต์ ง. ดบั เครื่องยนต์ 10. กำรเก็บสะสมน้ำมนั เช้ือเพลิงและรักษำระดบั น้ำมนั เช้ือเพลิงในคำร์บูเรเตอร์เป็นหนำ้ ท่ีของ วงจรใด ก. วงจรหลกั ข. วงจรควำมเร็ว ค. วงจรน้ำมนั ง. วงจรลูกลอย
46 กระดาษคาตอบแบบทดสอบหลงั เรียน เรื่อง งานระบบจ่ายน้ามันเชื้อเพลงิ แบบคาร์บูเรเตอร์ ชื่อ - สกลุ ........................................................................ช้นั ................ เลขท่ี................. ข้อ ก ข คง 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. รวม เกณฑก์ ำรประเมิน ผำ่ น (5-10 คะแนน) ไมผ่ ำ่ น (0-4 คะแนน)
Search