Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore nature for future พิมพ์ลดา วารีวนิช นนทบุรี

nature for future พิมพ์ลดา วารีวนิช นนทบุรี

Published by miss_pingzz, 2022-07-20 05:17:18

Description: nature for future พิมพ์ลดา วารีวนิช นนทบุรี

Search

Read the Text Version

ช่ือผลงาน : Nature for Future หอ้ งเรยี นธรรมชาติเพ่ืออนาคต ช่อื ผู้นาเสนอผลงาน : นางสาวพมิ พล์ ดา วารีวนิช ตาแหนง่ ครู คศ.1 โรงเรียนวดั โพธ์ิบ้านออ้ ย ( ทองดวี ิทยานุสรณ์ ) ตาบล บางพูด อาเภอ ปากเกรด็ จงั หวัด นนทบรุ ี รหัสไปรษณยี ์ 11120 โทร 02-5844218 /081-552-9190 สงั กัด สานกั งานเขตพื้นท่กี ารศกึ ษาประถมศกึ ษานนทบรุ ี เขต 2 E-mail : [email protected] เวบ็ ไซตโ์ รงเรียน : school.obec.go.th/phoban aoy/ 1

โลกในปัจจุบันท่ีมีการเปล่ียนแปลงเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี นวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์ และเคร่ืองมือสื่อสารหลากหลายชนิด ทาให้สามารถเข้าถึงสิ่งต่างๆได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ทงั้ ดา้ นเศรษฐกิจ สงั คม คมนาคม รวมไปถงึ ดา้ นการศกึ ษา ทีม่ ีการนานวัตกรรมตา่ งๆมาปรับใช้ รวมไปถึงสื่อ อุปกรณ์ อเิ ลก็ ทรอนกิ สต์ ่างๆ ทีท่ าให้สามารถเรยี นรู้ และเข้าถึงแหลง่ ข้อมลู ต่างๆได้อยา่ งสะดวก รวดเรว็ ประเทศไทยเองก็เรียกไดว้ ่าก้าวเขา้ สู่สังคมดิจทิ ัลอย่างเต็มตัว สังเกตจากการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ เช่น โทรศพั ทม์ ือถือ แทป็ เลต็ จนเรียกได้วา่ เปน็ ปจั จัยท่ี 5 ในการดารงชีวิต เน่ืองจากพกพาง่าย สะดวกในการใช้งาน และเขา้ ถงึ ข้อมลู ต่างๆได้อย่างงา่ ยดายเพียงแค่ปลายนิว้ ในด้านการศึกษาก็ได้มีการนาเทคโนโลยีต่างๆเข้า มามีส่วนช่วยในการจัดการเรียนการสอน ซง่ึ นบั ว่าเป็นเรื่องทด่ี ี เพราะทาให้เด็กเกิดความสนใจ สนุก ต่ืนเต้น และเข้าถึงได้ง่าย แต่ในบางครั้งการใช้เทคโนโลยี ตา่ ง ๆ มากเกนิ ไป กเ็ กิดผลเสยี เชน่ กนั โดยเฉพาะในเดก็ ปฐมวัย ซ่ึงเป็นวัยแห่งการเรียนรู้และจดจา ในบางครอบครัว กเ็ ลอื กใชโ้ ทรศัพทม์ ือถือ แท็ปเลต โทรทศั น์ ในการเลยี้ งดูและใหค้ วามรู้บุตรหลาน เพราะเห็นข้อดีว่าเด็กต้ังใจดู ไม่ด้ือ ไม่ซน น่ังนิ่งๆอยู่กับที่ เด็กสามารถเลือกกดดูการ์ตูน หรือเกมต่างๆได้ตามต้องการ ทาให้เกิดความชื่นชมว่าเด็กเก่ง สามารถใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ตั้งแต่ยังเล็ก ทาให้เด็กได้เล่น ได้สัมผัสธรรมชาติ หรือส่ิงรอบๆตัวน้อยลง แต่ได้อยู่กับ จอโทรศัพท์หรือโทรทัศน์มากข้ึนทาให้เด็กขาดจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ ขาดการฝึกกระบวนการคิด และแก้ปัญหา เด็กเคยชินกับการตอบรับที่รวดเร็วของระบบปฏิบัติการในโทรศัพท์ จึงทาให้รอคอยไม่ได้ กลายเป็น เด็กใจร้อน โมโหร้าย ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ในช่วงวัยท่ีกาลังเรียนรู้ด้านภาษา ฝึกการพูด กลับไม่ได้รับการส่งเสริม ท่ีถูกต้อง เด็กจึงเลียนแบบคาพูด หรือพฤติกรรมจากในการ์ตูน ส่งผลให้พูดช้า พูดไม่ชัด สื่อความหมายไม่ได้ พัฒนาการดา้ นตา่ งๆจงึ ไม่ได้เป็นไปในแบบท่คี วรจะเปน็ จากการคัดกรองพัฒนาการเด็กปฐมวัยท่ัวประเทศในปี 2562 ครอบคลุมเด็กปฐมวัยร้อยละ 90 มีพัฒนาการสงสัยล่าช้าร้อยละ 25 โดยจานวนน้ีสามารถติดตามได้ร้อยละ 92 ทั้งน้ี ส่วนใหญ่พบพัฒนาการล่าช้า ดา้ นภาษา และกลา้ มเนอ้ื มัดเล็ก บางสว่ นเป็นมาต้ังแต่คลอด บางส่วนมีปัญหาในภายหลัง (พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าว) จากข้อมูลดังกล่าวทาให้เห็นได้ว่าพัฒนาการท่ีล่าช้าของเด็กปฐมวัยน้ันอาจเกิดได้ จากความผิดปกติแต่กาเนิด หรืออาจเกิดจากการเล้ียงดู เน่ืองด้วยสังคมในปัจจุบันเป็นสังคมเมือง ผู้ปกครองมีเวลาเล้ียงดู เอาใจใส่ลดลง เพราะต้องออกไปทางาน หารายได้ จึงทาให้ไม่ได้ส่งเสริมพัฒนาการเด็ก เท่าที่ควร แตก่ ลับหยิบยื่นโทรศัพท์ ใหเ้ ด็กแทนการอบรมเล้ยี งดู 2

จากขอ้ มลู ดังกล่าว ทาให้เห็นไดว้ ่า เดก็ ปฐมวยั ในยคุ ใหม่ ต้องการการดแู ล เอาใจใส่ และสง่ เสรมิ พัฒนาการ ทส่ี มดุลระหว่างเทคโนโลยีกบั ธรรมชาติ ให้เหมาะสมตามชว่ งวยั ตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย 2560 ได้กาหนดชัดเจนว่า การจัดการศึกษา ต้องเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ ส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตามธรรมชาติและเต็มศักยภาพ โดยต้องจัดกระบวน การเรียนรู้ที่เน้นถึง ความสนใจของเด็ก คานึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล ฝึกทักษะกระบวนการคิด การแก้ปัญหา บรู ณาการความรู้และปลูกฝงั คุณธรรม โดยจะต้องมกี ารประสานความร่วมมือจากผ้ปู กครองและชุมชนร่วมดว้ ย จึงไดศ้ กึ ษาและนาแนวคิดของ รดู อลฟ์ สไตเนอร์ (Rudolf Steiner) ผ้กู อ่ ตง้ั โรงเรียนวอล์ดอลฟ์ แห่งแรก ที่ประเทศเยอรมนีเม่ือปี ค.ศ.1919 โดยสไตเนอร์เน้นการเรียนรูข้ องเดก็ อย่างเปน็ ธรรมชาติ เพราะเชือ่ ว่าเด็กสามารถพฒั นาศกั ยภาพแหง่ ตนไดภ้ ายใตก้ ารเรยี นรู้ อย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องสัมผสั กับเทคโนโลยี Nature For Future ห้องเรียนธรรมชาติเพ่ืออนาคต จึงเป็นแนวทางการปฏิบัติและการจัดประสบการณ์ การเรยี นรูโ้ ดยเน้นเด็กเป็นสาคัญ ให้เด็กได้เล่นอย่างอิสระ เรียนรู้ สัมผัสและใช้ชีวิตเรียบง่ายกลมกลืนกับธรรมชาติ ใช้ธรรมชาติเป็นห้องเรียน เพื่อดึงศักยภาพในตัวเด็กแต่ละคนออกมา โดยมีครูคอยดูแลและอานวยความสะดวก เน้นการจัดบรรยากาศการเรียนการสอนที่เน้นความงดงามของธรรมชาติ ทั้งกลางแจ้งและในห้องเรียน ประ สาน ความร่วมมือจากผปู้ กครองและชุมชน ให้มีส่วนรว่ มในการจดั การเรยี นรู้ รว่ มกันส่งเสรมิ และพัฒนาเด็กให้มีพัฒนาการ ที่เหมาะสมทงั้ ดา้ นร่างกาย อารมณ์ สังคมและสติปญั ญา เพอ่ื เติบโตมาเปน็ มนุษย์ท่ีสมบรู ณ์ 3

“ดึงศักยภาพทซ่ี ่อนเร้นอยูใ่ นตวั เดก็ แต่ละคนใหแ้ สดงออกมา มใิ ช่การนาขอ้ มูลความรู้จากภายนอกใสเ่ ขา้ ไปในตวั เด็กเพยี งอยา่ งเดยี ว” Nature for Future จงึ มีเปา้ หมายทมี่ ่งุ หวังจะสร้างพลเมืองคณุ ภาพ โดยผนึกกาลังร่วมกันท้ัง ครู โรงเรียน ผูป้ กครองและชุมชน เพ่ือช่วยกันสร้างให้เด็กเติบโตเป็นผู้ใหญ่ท่ีสร้างสรรค์ มีอิสระทางปัญญา รู้จักตนเอง รู้จักโลก และสามารถกาหนดแนวทางของชีวิตตนเองได้อย่างอิสระตามศักยภาพที่มี พร้อมที่จะเป็นกาลังสา คัญ ของประเทศชาติตอ่ ไป โดยกาหนดเปา้ หมายเชงิ ปริมาณคือ เดก็ ปฐมวัยโรงเรยี นวดั โพธิ์บา้ นออ้ ย (ทองดีวิทยานสุ รณ)์ ร้อยละ 90 เปน็ ผ้มู ใี จรักธรรมชาติ มีกระบวนความคดิ สามารถลงมือปฏิบัติสง่ิ ตา่ งๆไดด้ ้วยตนเอง มีสขุ ภาพกายและ สขุ ภาพจติ ท่ดี ี และผู้ปกครองเขา้ มามีสว่ นรว่ มในการทากิจกรรม และมเี ป้าหมายเชิงคณุ ภาพ คอื 1. มใี จรักธรรมชาติ ใช้ชีวิตกลมกลนื กบั ธรรมชาติ ไมพ่ ่งึ พาเทคโนโลยจี นมากเกนิ ไป 2. เปดิ รับการเรียนรู้ สิ่งใหม่ๆจากการได้เรียนรใู้ นห้องเรยี นธรรมชาติ จัดการและแกไ้ ขปญั หาได้ มีความคดิ สร้างสรรค์ 3. เดก็ สามารถลงมอื ปฏิบัตกิ ิจกรรมตา่ งๆได้ด้วยตนเอง มคี วามม่ันใจ อดทน มงุ่ มน่ั 4. มีสุขภาพกายและสขุ ภาพจิตท่ดี ี มีพัฒนาการทุกด้าน เหมาะสมตามช่วงวยั ควบคมุ อารมณ์และแสดงอารมณไ์ ด้ อย่างเหมาะสม 5. ผู้ปกครองและชมุ ชน มีสว่ นรว่ มและบทบาทในการดาเนนิ กจิ กรรมเพื่อรว่ มกันพัฒนาเดก็ ปฐมวัย ลงมอื ทา ดว้ ยตนเอง 4

ใน กา รพัฒ น าเด็ก โดย ใช้ห้อ ง เรีย น ธรร มชา ตินั้น จ ะ ต้อง พัฒ น า ทั้ง ร่ าง กา ยและ จิตวิ ญ ญ าณ ควบคู่ กัน ไ ป เพ่ือให้เกิดความสมดุลในการเรียนรู้ และส่งเสริมพัฒนาการให้เหมาะสมตามช่วงวัยอย่างเป็นธรรมชาติ มีการจัดสภาพแวดล้อมท้ังภายในและภายนอกห้องเรียนอย่างเหมาะสม จัดกิจกรรมท่ีเน้นให้เด็กได้แสดงออกทาง ความคดิ ฝกึ การคดิ วเิ คราะห์แกป้ ัญหา ใหเ้ ด็กได้เผชิญกับปัญหาและคิดวิธีแก้ไข เน้นกิจกรรมที่ให้เด็กได้ลงมือปฏิบัติ ให้เด็กได้มีโอกาสทากิจกรรมตามความสนใจ โดยมีครูและผู้ปกครองคอยอานวยความสะดวกและป้องเด็กจาก การรบกวนของโลกสมัยใหม่และเทคโนโลยี โดยใช้หลัก 5 H : Heart Head Hand Health Home นาไปบรู ณาการจดั การเรยี นการสอนควบคู่กับกิจกรรมหลัก 6 กิจกรรมประจาวัน โดยมแี นวทางดงั น้ี กิจกรรมเคลือ่ นไหวและจังหวะ กิจกรรมเสริมประสบการณ์ กจิ กรรมศิลปะสรา้ งสรรค์ กจิ กรรมเลน่ กลางแจ้ง กิจกรรมเลน่ กลางแจ้ง กจิ กรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ กจิ กรรมเล่นตามมุม กจิ กรรมเกมการศึกษา กิจกรรมสารวจธรรมชาติ กิจกรรมศิลปะสรา้ งสรรค์ *แต่ละกิจกรรมสามารถปรับเปลย่ี นได้ตามบรบิ ทและสถานการณ์ กจิ กรรมเสริมประสบการณ์ กิจกรรมเลน่ กลางแจง้ กิจกรรมเกมการศึกษา กิจกรรมเคลอื่ นไหวและจงั หวะ กจิ กรรมเล่นตามมุม กจิ กรรมเล่นตามมุม 5

จดั การเรียนการสอนโดยเน้นไปที่การเรียนรู้แบบธรรมชาติ เป็นไปอย่างมีชีวิตชีวา ให้กาลังใจซึ่งกันและกัน เด็กผู้หญิงหรือเด็กผู้ชายสามารถทากิจกรรมทุกอย่างได้เหมือนกัน ซึ่งจะช่วยเสริมความม่ันในให้กับเด็ก ปลกู ฝังให้เดก็ เกิดความรกั ธรรมชาติด้วยหัวใจ ใหเ้ ด็กเคารพและศรัทธาตอ่ ชีวติ ธรรมชาติ และโลกรอบตัวซึ่งมอบชีวิต และทุกส่งิ ทุกอย่างให้มนุษย์ ผา่ นกิจกรรมต่างๆทบ่ี ูรณาการร่วมกัน เปลยี่ นบรรยากาศจากการเล่านิทานในหอ้ งเรยี น ออกไปใช้ใตร้ ม่ ไม้เปน็ ห้องเรยี น โดยเล่านิทานเกี่ยวกับธรรมชาติและสิ่งมีชีวิต ภายใต้บรรยากาศธรรมชาติ รอบๆตัว ทาให้เด็กคอ่ ยๆซึมซับธรรมชาติไปในจิตใจ กจิ กรรมสารวจธรรมชาตใิ นทุกๆเข้า ก่อนเร่ิมทากิจกรรมประจาวัน ช่วยฝึกทักษะ การสังเกต จดจา ในสิ่งท่ีได้ค้นพบในแต่ละวัน เม่ือทาเป็นประจาอย่างสม่าเสมอ จะทาให้เด็กเกิดความรักและหวงแหนธรรมชาตทิ ี่ตนเองไดส้ ัมผัสทุกวัน สร้างบรรยากาศให้เด็กรู้สึกมีชีวิตชีวา ตื่นตัวอยู่เสมอ เพราะธรรมชาติ 6 จะสรรคส์ ร้างส่ิงแปลกใหม่ในทุกๆวัน การค้นพบบางสิ่งในธรรมชาติ จะทาให้เด็ก เกิดความสนใจใคร่รู้ อยากพบ อยากเห็น อยากสัมผัส อยากเรียนรู้ และอยาก รกั ษา

เมื่อเกิดใจรักก็จะเกิดความสนใจใคร่รู้ในสิ่งน้ัน ครูจึงต้องจัดกิจกรรมท่ีเปิดโอกาสให้เด็กได้เรียนรู้ ในส่ิงที่ตนเองสนใจในสถานการณ์ที่หลากหลายทั้งในและนอกห้องเรียน โดยมีจุดเน้นคือ “จินตนาการของเด็ก คือการเรียนรู้” ไม่มีถูกหรือผิด หากสนใจสิ่งใด ก็หาคาตอบร่วมกันโดยการตั้งคาถาม ข้อสงสัย ข้อสังเกต และระดมความคิดร่วมกัน จะช่วยส่งเสริมให้เด็กรู้จักคิดและวิเคราะห์เป็น กิจกรรมเหล่าน้ีจะทาให้เด็กเห็น กระบวนการทตี่ ่อเนือ่ ง เรียนรู้อยา่ งเปน็ ขั้นเปน็ ตอน จะช่วยให้เด็กรู้จักคิดพลกิ แพลง ยดื หย่นุ เข้ากับสถานการณ์ต่างๆ ทั้งในเชิงความคดิ และวธิ กี ารมองปัญหา สลับหน้าท่ีในการบอกเล่า อธิบายเรื่องต่างๆ กับเด็ก ให้เด็กได้ทาหน้าที่ ในการบอก เล่า หรือแสดงความคิดต่อสิ่งที่พบ ทาให้เด็กเกิดความมั่นใจ และอยากเรียนรู้ เพ่ือก็อยากฟังในสิ่งท่ีเด็กออกมาเล่า เพราะเด็กมีมุมมอง ใน ก าร ม อ ง ส่ิ ง ต่ าง ๆ ที่แ ต ก ต่า ง จ าก ผู้ ใ หญ่ ก า ร ใ ห้เ ด็ ก อ อ ก ม า แสดงความคิดเห็นหรือบอกเล่าเร่ืองราว จะทาให้ครูได้เห็นมุมมองใหม่ๆ จากเดก็ และไดเ้ รยี นรู้ไปพรอ้ มๆกัน สร้างบรรยากาศท่ีเอื้อต่อการเรียนรู้ของเด็ก ให้เด็กได้พบกับสถานการณ์ ต่างๆท่ีแตกต่าง จะทาให้เด็กได้เกิดข้อสงสัย หรือคาถาม จนนาไปสู่ การคิดวิเคราะห์เพ่ือหาคาตอบ ในบางคร้ังหากเด็กตั้งคาถาม ซ่ึงอาจจะมี คาตอบอยแู่ ลว้ เชน่ ทาไมผีเสอ้ื ถึงต้องบนิ ไปหาดอกไม้ ทาไมถงึ มปี ลาตัวเล็ก และตัวใหญ่ ทาไมหินถงึ จม ครูสามารถใช้คาถามเพื่อถามกลับ ให้เด็กๆเกิด ความคิดและหาวิธีในการหาคาตอบด้วยตัวเด็กเอง เช่น แล้วเด็กๆคิดว่า ทาไมถงึ เปน็ เชน่ นนั้ จะทาใหเ้ ด็กเกดิ ความท้าทายและอยากหาคาตอบใหไ้ ด้ 7

เด็กปฐมวัยเรียนรู้ผ่านการเล่นและการลงมือทา การเล่นของเด็กเป็นการเลียนแบบชีวิต เช่นเล่นขายของ เล่นกวาดบ้าน เล่นพ่อแม่ลูก การเล่นเหล่านี้เป็นประโยชน์ในการเรียนรู้ของเด็กเพราะเด็กได้ใช้อวัยวะส่วนต่าง ๆ ของร่างกายเคล่ือนไหวอย่างสัมพันธ์กัน เน้นการจัดกิจกรรมที่เด็กได้ลงมือทามากท่ีสุดเพราะเป็นการเรียนรู้ อย่างเป็นรูปธรรม เมื่อลงมือปฏิบัติแล้วจึงมาสรุปเป็นแนวคิด การได้ทาทุกอย่างด้วยตัวเองจะเป็น การสร้างความอดทนและปลกู ฝงั ใหเ้ ดก็ รู้คุณคา่ ของส่งิ ที่ได้รับ จัดเตรียมส่ือและอุปกรณ์ให้พร้อมต่อการปฏิบัติของเด็ก โดยเน้นของท่ีเป็นวัสดุธรรมชาติ เพราะมีความหลากหลาย มีผิวสัมผัสที่แตกต่าง สามารถหาได้ง่ายและไม่ส้ินเปลือง สามารถเปล่ียนใหม่ ได้ง่าย ทาให้เกิดความหลากหลาย และกระตุ้นความสนใจของเด็ก เช่น ใบไม้ ก่ิงไม้ เปลือกไม้ ก้อนหิน ดอกไมต้ า่ งๆ ซงึ่ สามารถหาไดใ้ นโรงเรยี น ทาใหเ้ กดิ การใช้ทรัพยากรอยา่ งคมุ้ ค่า เชื่อมัน่ และเชื่อใจว่าเดก็ ทาได้ ให้กาลังใจและเปิดโอกาสให้เด็กได้ลองผิดลองถูก ล้มบ้างลุกบ้าง เปียกบ้าง เป้ือนเปรอะบ้าง จะทาให้เด็กได้เรียนรู้ว่าทุกสิ่งล้วนเป็นธรรมชาติ ไม่มีปัญหาใดที่ย่ิงใหญ่เกินไป ทาให้เด็กเป็นคนกล้าคิดกล้าทา มีความมั่นใจ เช่ือว่าตนเองสามารถทาสิ่งต่างๆได้ ไม่เกรงกลัวต่อปัญหา และกลา้ เผชญิ หน้ากับทุกส่ิง 8

เม่ือเด็กได้ใช้ธรรมชาติเป็นห้องเรียน ก็จะทาให้เด็กได้รับอากาศธรรมชาติที่บริสุทธิ์จากใต้ต้นไม้ ได้รับความเย็นจากลมธรรมชาติ ซึ่งดีต่อสุขภาพของเด็ก นอกจากน้ีเด็กยังได้ใช้ประสาทสัมผัสต่างๆ ในการเรียนรู้ รว่ มกบั การซึมซบั ความงามของธรรมชาติ เช่น การดมกลิ่น กล่ินดิน กลิ่นดอกไม้ กล่ินจากแม่น้า กลิ่นฝน การได้ยิน เสียงนก เสียงลม เสยี งใบไม้ การใช้ตามอง และสังเกตสิ่งต่างๆ การใช้มือหรือเท้าสัมผัสพ้ืนผิวต่างๆ ก็จะช่วยส่งเสริม พฒั นาการด้านรา่ งกายของเด็กได้เป็นอย่างดี นาเด็กๆออกสัมผัสธรรมชาติรอบตัว ให้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ ท้ัง ดิน ไม้ ทราย น้า จะทาให้เด็ก เป็นผูท้ ีม่ ีจติ ใจอ่อนโยน ละเอยี ดออ่ น อารมณ์ดี มีปฏิสมั พันธ์กับเพื่อน กับส่งิ รอบตัว ความสะอาดและปลอดภัยสาหรับเด็กเป็นสิ่งสาคัญที่สุด เตรียมสบู่ล้างมือไว้ให้เด็กล้างมือทุกคร้ังหลังสัมผัส ส่ิงสกปรก ต้องปลูกฝังให้เด็กเป็นผู้ท่ีรักความสะอาด ไม่เอาสิ่งของต่างๆเข้าปาก ปลูกฝังให้รู้จักการระมัดระวัง ในการเดนิ สารวจ หรอื ใช้อปุ กรณต์ ่างๆ เพอื่ ชว่ ยให้เดก็ สามารถเรียนรูไ้ ดอ้ ยา่ งเต็มที่และปลอดภัย 9

ในการจัดการเรียนรู้โดยใช้ห้องเรียนธรรมชาติ จาเป็นจะต้องสร้างความเข้าใจกับผู้ปกครอง และชุมชน ให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการส่งเสริมพัฒนาการของเด็กผ่านการเรียนรู้แบบธรรมชาติ ตามความพร้อม และศักยภาพของเด็ก ไม่ใช่การฝึกอ่านเขียน เพ่ือให้การปฏิบัติเป็นไปในแนวทางเดียวกัน นอกจากน้ันผู้ปกครอง และชุมชนยงั มีสว่ นร่วมในการจัดการเรยี นการสอน เชน่ เขา้ ร่วมการอบรม พฒั นาพ่อแมผ่ ู้ปกครอง ,เข้าร่วมชมผลงาน ในการจัดนทิ รรศการ, เปน็ วิทยากรในหนว่ ยการเรียนรตู้ ่างๆ,อานวยความสะดวกในการเดินสารวจชมุ ชนของเดก็ ผ้ปู กครองเป็นอีกส่วนหนง่ึ ท่สี าคัญในการจัดกิจกรรม จึงต้องมีการประชาสัมพันธ์ข่าวสาร และติดต่อกับผู้ปกครอง อยู่อย่างสม่าเสมอ เพื่อสร้างความคุ้นเคย และเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ชมุ ชนเองก็เปน็ อกี หนึ่งกาลังสาคัญในการจัดการเรียนรู้โดยใช้ห้องเรียนธรรมชาติ เพราะนอกจากแหล่งการเรียนรู้ ภายในโรงเรยี นแล้ว บริเวณรอบๆชุมชนก็มีแหล่งเรียนรู้ท่ีน่าสนใจมากมายเช่นกัน จึงนาเด็กออกเดินสารวจชุมชน เป็นประจา เพ่ือทาความรู้จักกับบุคคลต่างๆในชุมชน ได้ใกล้ชิดธรรมชาติภายในชุมชนของตนเอง ทาให้ชุมชน ได้รับร้ถู งึ การดาเนินการ และรว่ มมอื กันในการดูแลเด็กปฐมวยั 10

จากการนาแนวปฏิบัติ Nature For Future มาปรับใช้ในการจัดการเรียนการสอนในปีการศึกษา 2562 พบว่าเด็กปฐมวัยโรงเรียนวัดโพธิ์บ้านอ้อย(ทองดีวิทยานุสรณ์) กว่าร้อยละ90 มีพัฒนาการท่ีดีขึ้นตรงตามเป้าหมาย ของ Nature For Future เพ่มิ ขน้ึ จากปีการศึกษา 2561 ในทุกๆดา้ น ปีการศกึ ษา 2561 ปีการศึกษา 2562 การพฒั นาแนวปฏบิ ัติ Nature For Future กอ่ ใหเ้ กิดการเรยี นรรู้ ่วมกนั ทงั้ โรงเรยี น ทง้ั ครู นกั เรียน ผู้บริหาร และผู้ปกครอง ทาให้เกิดความรู้ความเข้าใจ ในการส่งเสริมพัฒนาการเด็กผ่านการเรียนรู้แบบธรรมชาติ โดยใช้ ห้องเรียนธรรมชาติ ครูในโรงเรียนและผู้บริหาร ตระหนักและเห็นความสาคัญของห้องเรียนธรรมชาติ มกี ารนานกั เรียนในแตล่ ะระดบั ช้นั ออกมาเรียนรู้นอกห้องเรียน สัมผัสกับธรรมชาติมากขึ้น และมีความรู้ความเข้าใจ ในกระบวนการ Nature For Future ทั้ง 5 ข้อ จากการเยย่ี มชมนิทรรศการแสดงผลงานของเด็กปฐมวัย 11

ผู้บรหิ าร ผู้บริหารมีความรู้ความเข้าใจในการส่งเสริมพัฒนาการของเด็กปฐมวัย เปิดโอกาสและส่งเสริมให้ครูได้นา แนวคดิ ใหม่ๆมาปรับใช้ในการจดั การเรยี นการสอน มีส่วนร่วมในการพัฒนา ให้คาแนะนา ช้ีแนะ แนวทางต่างๆในการ พัฒนาผลงาน ส่งผลใหก้ ารดาเนินการตามกระบวนการ Nature For Future ประสบผลสาเร็จเปน็ ท่ีน่าพอใจ ครู ครมู คี วามกระตือรือร้นในการพัฒนาการจดั การเรียนการสอน ศึกษาหาความรเู้ ก่ียวกบั ทฤษฎีการศึกษาต่างๆ เพ่ือให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องในการนามาปรับใช้ ครูทุกคนทางานร่วมกันแบบกัลยาณมิตร มีน้าใจ เอื้อเฟื้อต่อกันแล ะ ทางานเป็นทีม มีการประชุม เพื่อหาแนวทางในการจัดการเรียนการสอนและปฏิบัติไปในทางเดียวกัน รวมถงึ ใหก้ าลงั ใจซึง่ กนั และกันในการพฒั นาและเผยแพร่ผลงาน นกั เรยี น เด็กนกั เรยี นเป็นปจั จยั ความสาเร็จที่สาคัญสุด เพราะการพัฒนากระบวนการต่าง ๆ น้ัน ขึ้นอยู่กับเด็กทั้งส้ิน เด็กให้ความสนใจ และกระตือรือร้นในการทากิจกรรมต่างๆตามแนวปฏิบัติ Nature For Future อยู่เสมอ ทาใหเ้ กดิ การพัฒนาและประสบผลสาเร็จ อีกทั้งนักเรียนยังเป็นส่วนสาคัญในการเก็บข้อมูลการสังเกตพฤติกรรมตาม วตั ถปุ ระสงค์ ตวั อยา่ งแบบประเมนิ พัฒนาการเดก็ ผปู้ กครอง ผปู้ กครองเปิดใจยอมรบั และทาความเข้าใจ ในการจัดการเรียนการสอนโดยใช้ห้องเรียนธรรมชาติ ให้ความ รว่ มมอื ในการเข้าร่วมประชุม การเขา้ ชมนิทรรศการแสดงผลงาน หรือการเป็นวิทยากรให้เด็กในโอกาสต่างๆอยู่เสมอ มีส่วนร่วมในการให้คาแนะนาในการปรับปรุงและพัฒนาผลงาน ผ่านการตอบแบบสอบถาม ทาให้ครูทราบ ถึงความคดิ เห็น ความรู้สึกและขอ้ เสนอของผปู้ กครอง และนามาพฒั นาผลงานต่อไป ตัวอย่างการประเมินความพงึ พอใจของผ้ปู กครอง ผ่าน google form หลงั จากการจัดกจิ กรรมตลอดปีการศกึ ษา ชมุ ชน ชุมชนวัดโพธ์ิบ้านอ้อย และชุมชนวัดหงส์ทอง ให้ความร่วมมือในการจัดการเรียนการสอนเป็นอย่างดี มีการอานวยความสะดวก ใหค้ วามรู้ และช่วยดูแลความปลอดภยั ของเด็กเสมอเมอ่ื มกี ารออกไปทากิจกรรมในชุมชน ทาให้การจดั การเรยี นการสอนเป็นไปอยา่ งเตม็ ประสิทธิภาพ 12

จากการดาเนินการตามแนวปฏิบัติ Nature For Future ห้องเรียนธรรมชาติ เพื่ออนาคต ทาให้ได้เรียนรู้ ถึงศักยภาพของเด็กปฐมวัยผ่านการเรียนรู้แบบธรรมชาติผ่านห้องเรียนธรรมชาติ ได้สังเกตบันทึกและรวบรวมเป็น ขอ้ สรปุ ขอ้ สังเกต และขอ้ เสนอแนะ เพ่อื นาไปปรบั ใช้ในบรบิ ทต่าง ๆ ดงั น้ี 1. ความปลอดภัยมาเป็นอันดบั หน่ึง เน่ืองจากการเรียนรู้โดยใช้ห้องเรียนธรรมชาตินั้น เป็นการจัดการเรียนรู้ในสถานที่กว้างและไม่มีขอบเขต เหมือนในห้องเรียน ครูต้องแน่ใจว่าเด็กจะได้รับความปลอดภัยตลอดการเรียนรู้ ครูต้องหม่ันสังเกตส่ิงต่างๆรอบตัว และตืน่ ตัว อยู่เสมอ ก่อนนาเด็กออกไปเรียนรู้และสัมผัสกับธรรมชาติ ต้องสารวจพ้ืนท่ีและบริเวณรอบๆให้แน่ใจว่า ปลอดภัย ไมม่ สี ัตวม์ พี ิษ หรือสิง่ ที่จะเป็นอนั ตรายตอ่ เดก็ ในบรเิ วณน้นั นอกจากนน้ีครูยังต้องสร้างข้อตกลงร่วมกับ เด็กในการปฏบิ ตั ติ นเมือ่ อยู่นอกหอ้ งเรยี น และให้เดก็ ปฏิบัตติ ามอย่างตอ่ เน่อื งและสม่าเสมอ 2. จงั หวะและความสม่าเสมอ ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวปฏิบัติ Nature For Future ครูจาเป็นต้องวางแบบแผนในการ จัดกิจกรรมและปฏิบัติอย่างสม่าเสมอ เพราะโดยธรรมชาติแล้ว เด็กต้องการความมั่นคงในการดาเนินชีวิตของตน เมอื่ ไดป้ ฏิบัติสงิ่ ใดเป็นประจาและสม่าเสมอ จะทาใหเ้ ด็กสามารถคาดการณ์ได้และเกิดความมั่นคงในจิตใจ การปฏิบัติ กิจกรรมทีไ่ ม่สมา่ เสมอ หรือไมม่ ีแบบแผน จะทาให้เดก็ เกิดความงุนงงและสับสน และเกิดความไม่มั่นคงในจิตใจ ทั้งน้ี ในการวางแผนการจัดกิจกรรมสามารถปรบั เปลย่ี นและยดื หยุน่ ได้บ้างตามสถานการณ์ 3. จนิ ตนาการทีไ่ ม่ควรถูกปิดก้นั เดก็ ปฐมวัยเป็นวัยแหง่ จนิ ตนาการ พลังจนิ ตนาการตา่ งๆของเด็กจะถกู ปล่อยออกมาในรปู ของการคิดฝัน และ เร่ืองสมมุติ ครูจึงควรจัดกิจกรรมท่ีส่งเสริมจินตนาการของเด็กเช่น การเล่านิทาน การเล่นละครหุ่น หรือการเล่น สร้างสรรค์ที่เปิดโอกาสให้เด็กได้ใช้ความคิดของตนเองอย่างเต็มท่ี การระบายสีน้า สีเทียน ที่ไม่มีการกาหนดภาพ หรือกรอบ จะช่วยให้เด็กมีความคิดที่ไม่ตายตัว คล่องแคล่ว เฉียบคม และพัฒนาเป็นความคิดสร้างสรรค์ต่อไป ครจู ะไมเ่ ข้าไปแทรกแซง แนะนา หรือวิพากษว์ ิจารณ์ แก้ไขภาพวาดของเดก็ 4. การรักษาสมดลุ ในการจดั การเรยี นการสอน ในการใชห้ อ้ งเรยี นธรรมชาตินั้นตอ้ งจัดควบค่กู ันไปกับกจิ กรรมหลัก 6 กิจกรรมประจาวัน โดยบูรณาการและ วางแผนการจดั ประสบการณ์ให้สอดคลอ้ งและสมดุลกนั เดก็ จะตอ้ งไดร้ ับความรู้ตามหลักสูตรไปพร้อมๆกับการเรียนรู้ แบบธรรมชาติ 13

จัดนิทรรศการแสดงผลงานร่วมกับโครงการมหิงสาสายสืบปฐมวัย โดยกรมส่งเสริมคณุ ภาพสิง่ แวดลอ้ ม ประจาปีการศึกษา 2562 ผลงานถูกตีพมิ พแ์ ละเผยแพรล่ งในหนงั สือรวบรวมผลงานโครงการมหิงสาสายสบื ปฐมวัย ปีการศกึ ษา 2562 เผยแพร่และนาเสนอผลงานสิ่งแวดล้อมศกึ ษา ในการแขง่ ขนั ศิลปหตั ถกรรมนกั เรยี น ปีการศกึ ษา2562 แกท่ า่ นผู้อานวยการเขตพ้นื ท่กี ารศกึ ษาประถมศึกษานนทบรุ ีเขต 2 และคณะครทู พี่ านักเรียนมารว่ มการแข่งขนั 14

โลร่ างวัลและเกียรตบิ ตั ร ผูผ้ า่ นการเกณฑก์ าร รางวลั ครูต้นแบบ การจดั การเรยี นรู้ ประเมินโครงการมหงิ สา สายสืบปฐมวยั บูรณาการทกั ษะชีวิต ประจาปี2562 ประจาปี 2562 โดยสานกั งานคณะกรรมการ โดยกรมส่งเสรมิ คุณภาพสิ่งแวดลอ้ ม การศึกษาข้นั พนื้ ฐาน รางวัลห้องเรยี นคณุ ภาพ ประจาปี 2561 โดยสานกั งานเขตพ้นื ทก่ี ารศึกษา ประถมศกึ ษานนทบุรเี ขต 2 จากการนาแนวปฏิบัติ Nature for Future ห้องเรียนธรรมชาติเพื่ออนาคต มาบูรณาการร่วมกับ การจดั การเรยี นการสอนในกจิ กรรมหลัก 6 กิจกรรมประจาวัน และไดม้ กี ารติดตามผลจากการประเมินความพึงพอใจ ของผู้ปกครองทม่ี ตี ่อการจัดกิจกรรม รวมถึงการประเมินพัฒนาการเด็กปฐมวัยตามจุดประสงค์ที่ต้ังไว้ ทาให้ทราบถึง ความคิดเห็นของผู้ปกครองและพัฒนาการของเด็ก จึงได้มีการศึกษาข้อมูล ทฤษฎีต่างๆเพ่ิมเติม เพื่อพัฒนาผลงาน รวมถึงการปฏิบตั ิกจิ กรรมทีเ่ ก่ยี วกับการเรยี นรู้ธรรมชาตอิ ยา่ งต่อเน่อื งและขยายผลไปยังห้องเรียนอนุบาลทุกระดับช้ัน ทาให้นักเรียนระดับชั้นอนุบาลปีท่ี 2 และ 3 ของโรงเรียนวัดโพธ์ิบ้านอ้อยในปีการศึกษา 2562 ได้เรียนรู้และนา แนวทางปฏิบัติ Nature for Future ไปปรับใช้ในการจัดการเรียนการสอน ผสานกับการเข้าร่วมโครงการ สิ่งแวดล้อมศึกษา “มหิงสาสายสืบปฐมวัย” โดยการดูแลของกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทาให้ทุกห้องเรียน ปฐมวัย รวมไปถงึ ครูในโรงเรยี น ตระหนักและเหน็ ความสาคัญของการใช้ธรรมชาติเป็นหอ้ งเรยี นและร่วมกันสง่ เสริมให้ เกิดความย่งั ยนื ตอ่ ไป ตอ่ ยอดแนวปฏบิ ัตไิ ปปรับใช้กับนักเรียนปฐมวยั ทกุ ระดับช้ัน 15


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook