องคค์ วำมรู้ เร่ืองกำรปลูกผักสมุนไพร ในโครงการ ผกั สวนครู ตน้ ขมิน้ ขาว (CURCUMA SP) โดย สำนกั งำนสง่ เสรมิ กำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอธั ยำศัยจงั หวดั พังงำ
กำรปลกู ขมน้ิ ขำว กำรปลูกทีเ่ หมำะสม เปน็ พชื ล้มลุก มลี ำตน้ ใตด้ ินหรอื เหงำ้ ประกอบดว้ ยแง่งหลัก ที่เรียกว่ำแง่งแม่ แขนงท่ีแตกอกมำจำกแงง่ แมถ่ ำ้ มลี กั ษณะ กลมเรียกว่ำ หวั แต่ถ้ำมีลกั ษณะยำวคลำ้ ยน้วิ มือเรยี กวำ่ น้วิ ขมิ้นชันจะมเี หงำ้ เล็กกว่ำขมิน้ อ้อย มีกลนิ่ หอม ใบเปน็ ใบ เดยี่ วออกสลบั กนั อยู่รวมกันเป็นกอ ซงึ่ ขึ้นมำจำกเหงำ้ ใบมี ลักษณะเรียวยำวปลำยใบแหลม ขมน้ิ ชนั มีใบยำวเรยี วแหลม กวำ่ ขม้นิ อ้อย ด้ำนล่ำงของใบมีเส้นใบเห็นไดช้ ัดเจน ออก ดอกเปน็ ช่อ โดยแทงออกมำจำกเหง้ำบริเวณใจกลำงกล่มุ ใบ ลักษณะชอ่ ดอกคล้ำยทรงกระบอก ประกอบดว้ ยดอกยอ่ ย ซ่ึงดอกยอ่ ยของขมน้ิ ชันมีสเี หลืองอ่อนถกู หุ้มด้วยกลีบเล้ียง หรือกลีบประดับ สเี ขียวอมชมพู สว่ นดอกยอ่ ยของขม้นิ อ้อย มีสีขำว มกี ลีบเลีย้ งสชี มพูออ่ นๆ พบไดท้ กุ ภำคของประเทศ ไทย
กำรเตรียมดิน กำรเตรียมดนิ กำรเตรยี มดินปลูกขม้ินชันจำเป็นตอ้ งขดุ หรือ ไถพรวนเพอ่ื ให้ ดินร่วนซุยขนึ้ ถำ้ เป็นพื้นทีท่ ่ีมวี ชั พืชมำกและ หน้ำดนิ แขง็ ควรไถพรวนไมน่ อ้ ยกว่ำ ๒ คร้ัง คอื ไถดะ เพ่ือ กำจัดวัชพืชและเปิดหนำ้ ดนิ ใหร้ ว่ นซยุ แล้วตำกดินไว้๑ - ๒ สปั ดำห์ เพอื่ ทำลำยไขแ่ มลง เช้ือโรคในดิน และไถแปร เพื่อ กลับหนำ้ ดนิ ทำให้ดิน รว่ นซุยและละเอยี ดขน้ึ พรอ้ มกับเกบ็ เศษไมแ้ ละวัชพืชออกจำกแปลงใหห้ มด ถ้ำเป็น ดนิ เหนียวจัด ควรใสป่ ุ๋ยหมกั ปุ๋ยคอก อตั รำ ๑ ตัน/ไร่ เพ่อื ปรับปรงุ สภำพ ดิน กำรเตรียม ดินควรไถพรวนก่อนต้นฤดูฝน ใหม้ สี ภำพ พรอ้ มปลกู ในต้นฤดูฝน
กำรรดนำ้ เมอ่ื ทำกำรปลูกขม้ินขำว เรียบรอ้ ยแล้ว ใหร้ ดนำ้ ประมำณ 2 – 3 ครง้ั โดยในระยะแรกๆแต่ถำ้ ฝนตกชุกกไ็ มจ่ ำเปน็ ตอ้ งรดน้ำอกี แตถ่ ้ำฝนทงิ้ ชว่ งใหท้ ำกำรรดนำ้ เพียงสัปดำหล์ ะ 2 – 3 ครง้ั ก็ เพยี งพอ และด้วยควำมท่ีมันสำมำรถตำ้ นทำน โรคและแมลงได้ เปน็ อยำ่ งดจี งึ ไมต่ อ้ งมกี ำรฉดี สำรเคมใี ดๆ ใหส้ น้ิ เปลอื งและเกดิ อันตรำยตอ่ ผบู้ รโิ ภค กำรใส่ปุ๋ย กำรใส่ปยุ๋ ควรเร่งใส่ปยุ๋ อนิ ทรีย์แตก่ ส็ ำมำรถใชป้ ยุ๋ วทิ ยำศำสตร์ แทนได้เชน่ เดียวกนั ซงึ่ กำรใสป่ ยุ๋ N : P ท่ี ๑๕ : ๑๐ ทำให้ ได้ผลผลติ และปรมิ ำณสำรเคอคิวมิน ในเหง้ำเพ่ิมมำกขึ้น แต่ ต้องระมัดระวังอย่ำใหป้ ยุ๋ สัมผสั กับตน้ ขมน้ิ ทง้ั ลำต้นใต้ดนิ และ ลำตน้ เหนือดนิ ปกติไม่ควรปลูกขมน้ิ ซ้ำอยู่ในทเ่ี ดยี วกันหลำย ๆ ครัง้ ทั้งนี้เพอ่ื หลีก เลี่ยงปัญหำกำรขำดแคลนควำมอดุ ม สมบรณู ข์ องดนิ ซ่งึ จะมผี ลทำใหผ้ ลผลติ ลดตำ่ ลง ระยะเวลำใส่ ปยุ๋ ใส่หลงั กำรปลกู ๑ - ๒ ครั้ง ตำมควำมเหมำะสม ครง้ั ท่ี ๑ เมอื่ อำยุประมำณ ๑ - ๒ เดือน หรือขมน้ิ ชนั ท่ปี ลูกมกี ำรงอก ๕๐ % ข้ึนไป ใสป่ ระมำณครึง่ ชอ้ นแกง (ประมำณ ๑๕ กรมั ) ตอ่ ต้น หรอื ประมำณ ๕ กโิ ลกรมั ตอ่ ไร่ ครั้งที่ ๒ เมื่ออำยุประมำณ ๒ - ๔ เดือน ใสป่ ระมำณ ๑ ช้อนแกง (ประมำณ ๓๐ กรัม) ต่อตน้ วธิ ี ใสป่ ยุ๋ ควรใส่หำ่ งจำกโคนตน้ ๘ - ๑๕ เซนตเิ มตร
กำรเกบ็ เก่ียว หลงั จำกปลูกขม้นิ ชันเมือ่ ชว่ งตน้ ฤดฝู นจนยำ่ งเขำ้ สู่ฤดูหนำวประ ปลำยเดือนธันวำคม ลำตน้ เหนอื ดินเร่มิ แสดงอำกำรเห่ยี ว แห้งจนกระทงั่ แห้งสนทิ จึงเริ่มทำกำรเก็บเก่ียว ในกำรเก็บเกี่ยวหัวขม้ินควรใชเ้ คร่อื งมือทุน่ แรง เช่น รถไถตดิ ผ่ำน ไถอันเดียว และคนงำนเดนิ ตำมเกบ็ หัวขมิ้น จะชว่ ยให้ ประหยัดต้นทนุ คำ่ แรงงำน เนอื่ งจำกกำรเกบ็ เก่ยี วเป็นช่วงฤดู แล้งในสภำพดนิ เหนียว ดินจะแขง็ ทำใหเ้ กบ็ เกี่ยวยำก อำจ ให้น้ำพอดินช้นื ท้งิ ไว้ 1 สปั ดำห์ แล้วจงึ เกบ็ เกย่ี วขม้นิ ใน กรณีทใี่ ชแ้ รงงำนคนงำนขุดหัวขม้ินในดนิ ท่ีไม่แขง็ เกนิ ไป มักจะขดุ ได้เฉลยี่ ประมำณ 116 กโิ ลกรมั /วัน/คน เม่ือทำกำรเก็บเกี่ยวแล้วตอ้ งนำมำตดั แตง่ รำก ทำควำมสะอำดดนิ ออก ในกรณีท่ตี ้องกำรขมน้ิ สดอำจจะขำยส่วนท่ีเป็นแง่ง สว่ น หวั แม่ควรเกบ็ ไวเ้ ปน็ พนั ธ์ุปลกู ในฤดกู ำลต่อไป ถำ้ จะเตรียม ขมน้ิ แหง้ เพื่อนำไปใชท้ ำยำรกั ษำโรคน้นั ตอ้ งเปน็ ขมิน้ ชนั ท่แี ก่ เตม็ ที่ และต้องคำนงึ ถึงควำมสะอำดเป็นสง่ิ สำคัญ รวมทงั้ ตอ้ ง มปี รมิ ำณสำระสำคัญ (เคอร์คูมนิ ) ไมน่ ้อยกว่ำ 8.64 เปอรเ์ ซ็นต์
อำ้ งองิ ทีม่ ำ : จำกเพล ศนู ยร์ วมควำมรกู้ ำรเกษตร https://www.facebook.com/farmlandthai/posts/153652 5796392420 คำสำคัญ : วธิ ปี ลกู ขมิน้ ชัน เผยแพรโ่ ดย : นำยพันโชค พนั ธ์จินดำ ภำพประกอบจำกอนิ เทอรเ์ นต็
Search
Read the Text Version
- 1 - 6
Pages: