Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore MahachanokChadok

MahachanokChadok

Published by memee72323, 2018-08-28 07:34:14

Description: MahachanokChadok

Search

Read the Text Version

พระมหาชนก 1



คานา หนงั สอื ฉบบั นจ้ี ดั ทาขน้ึ เพอื่ นาเสนอความรู้เรอื่ งพระมหาชนกในรูปแบบของ E-Book เพอ่ื ให้เข้าถงึ กลุ่มคนยุคใหม่มากขน้ึ และ เพอื่การศกึ ษาค้นคว้าทส่ี ะดวก และ ว่องไว รวมถงึ เพอื่ เป็นรายงานการค้นคว้าในวชิ าพระพุทธศาสนาไปพร้อมๆกบั วชิ าวทิ ยาการคานวณอกีด้วย คณะผูจ้ ดั ทาหวงั เป็นอย่างยงิ่ ว่าผูอ้ ่าน หรอื ผูส้ บื ค้นจะได้ประโยชน์จากหนงั สอื ฉบบั น้ไี ม่มากกน็ ้อย หากผดิ พลาดประการใดขออภยั มา ณ ทน่ี ด้ี ้วย คณะผูจ้ ดั ทา

สารบญัเร่ือง หน้าเรอ่ื งย่อ 1เนอ้ื เรอื่ ง 4สรุป 11ธรรมะจากเรอื่ งพระมหาชนก 12ขอ้ คดิ 13สมาชกิ 14

เรอ่ื งย่อ พระเจา้ มหาชนกกษตั รยิ ์แห่งกรุงมถิ ลิ า มพี ระราชโอรสสองพระองค์ พระนามว่า อรฏิ ชนก และ โปลชนก เมอื่ สวรรคตแลว้ พระอรฏิ ชนกได้ครองราชสมบตั แิ ละทรงตง้ั พระโปลชนกเป็นอุปราช อมาตย์ผูใ้ กลช้ ดิ ได้กราบทูลใส่ร้ายว่า พระอุปราชโปลชนกคดิ ไมซ่ อ่ื พระอรฏิชนกกห็ ลงเชอ่ื สงั่ จองจาพระโปลชนก แต่พระโปลชนกตง้ั จติ อธษิ ฐานและหลบหนไีปได้ ภายหลงั ได้รวบรวมพลมาพร้อมส่งสารขอเจรจา แต่อมาตย์ชว่ั ร้ายแปลงสารเป็นขอท้ารบ ทาให้พระอรฏิ ชนกแต่งทพั ออกรบกบั พระโปลชนก ทง้ั สองพระองค์รู้ความจรงิ ในระหว่างการรบ แต่พระอรฏิ ชนกสน้ิ พระชนมใ์ นทร่ี บ พระเทวที ก่ี าลงั ทรงครรภจ์ งึ ปลอมตวั หนีออกนอกเมอื งด้วยความช่วยเหลอื ของทา้ วสกั กเทวราชจงึ เสดจ็ หนไีปจนถงึ เมอื งกาลจมั ปากะ ได้พราหมณ์ผูห้ นง่ึ อุปการะไว้ในฐานะนอ้ งสาวต่อมามพี ระประสูตกิ าล ตงั้ พระนามพระโอรสตามพระอยั ยกิ าว่า \"มหาชนก\" จวบจนกระทงั่ มหาชนกเตบิ ใหญ่ และได้ทราบความจรงิ กค็ ดิ จะไปค้าขายตง้ั ตวั แลว้ จะไปเอาราชสมบตั คิ นื 1

จงึ นาสมบตั กิ งึ่ หนง่ึ ของพระมารดาไปขาย แลกเป็นสนิ ค้าออกเรอื ไปยงั สุวรรณภมู ิ ระหว่างทางในมหาสมุทร เรอื ต้องพายุลม่ ลง ลูกเรอืตายหมดยงั แต่พระมหาชนกรอดผูเ้ดยี ว ทรงอดทนว่ายน้าในมหาสมุทรด้วยความเพยี ร 7 วนั 7 คนื จนได้พบนางมณเีมขลาในทส่ี ุดนางมณีเมขลาได้อุม้ พระมหาชนกไปส่งยงั มถิ ลิ านคร ฝ่ ายมถิ ลิ านคร พระโปลชนกได้สวรรคตเหลอื เพยี งพระราชธดิ านาม \"สวี ลเีทว\"ี ก่อนสวรรคตทรงตง้ั ปรศิ นาเรอ่ื งขุมทรพั ยท์ ง้ั สบิ หกไวส้ าหรบั ผูจ้ ะขน้ึ ครองราชย์ต่อไปแต่ไมม่ ผี ูใ้ ดไขปรศิ นาได้ เหลา่ อมาตยจ์ งึ ได้ประชุมกนั แลว้ ปลอ่ ยราชรถราชรถกแ็ ลน่ ไปยงั ทมี่ หาชนกบรรทมอยู่ เหลา่ อมาตยจ์ งึ เชญิ เสดจ็ ขน้ึครองราชยแ์ ละอภเิษกกบั สวี ลเีทวี ทรงไขปรศิ นาต่างๆ ได้ และทรงครองราชสมบตั โิดยธรรม 2

3

พระมหาชนก เป็นเรอื่ งหนงึ่ ในทศชาตชิ าดก อนั เป็นชาดก10 ชาตสิ ุดทา้ ยก่อนทพี่ ระโพธสิ ตั ว์จะมาประสูตเิป็นเจา้ ชายสทิ ธตั ถะและตรสั รู้เป็นพระสมั มาสมั พุทธเจา้ ชาดกเรอ่ื งนเ้ีป็นการบาเพญ็ ความเพยี รเป็นบารมี พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยูห่ วั ทรงสนพระราชหฤทยั จงึ ทรงค้นเรอ่ื งพระมหาชนกในพระไตรปิฎกและทรงแปลเป็นภาษาองั กฤษตรงจากมหาชนกชาดก ตงั้ แต่ต้นเรอื่ ง โดยทรงดดั แปลงเลก็ ๆ นอ้ ย ๆ เพอื่ ให้เขา้ ใจงา่ ยขน้ึ 4

พระเจา้ มหาชนกกษตั รยิ แ์ ห่งกรุงมถิ ลิ า มพี ระราชโอรสสองพระองค์ พระนามว่า อรฏิ ชนก และ โปลชนก เมอ่ืสวรรคตแลว้ พระอรฏิ ชนกได้ครองราชสมบตั แิ ละทรงตง้ัพระโปลชนกเป็นอุปราช อมาตย์ผูใ้ กลช้ ดิ ได้กราบทูลใส่ร้ายว่าพระอุปราชโปลชนกคดิ ไมซ่ อ่ื พระอรฏิ ชนกกห็ ลงเชอ่ื สงั่ จองจาพระโปลชนก แต่พระโปลชนกตงั้ จติ อธษิ ฐานและหลบหนไีปได้ ภายหลงั ได้รวบรวมพลมาพร้อมส่งสารขอเจรจา 5

เสดจ็ หนไีปจนถงึ เมอื งกาลจมั ปากะ ได้พราหมณ์ผูห้ นง่ึ อุปการะไว้ในฐานะนอ้ งสาว ต่อมามพี ระประสูตกิ าล ตงั้ พระนามพระโอรสตามพระอยั ยกิ าว่า \"มหาชนก\" จวบจนกระทง่ั มหาชนกเตบิ ใหญ่ และได้ทราบความจรงิกค็ ดิ จะไปค้าขายตง้ั ตวั แลว้ จะไปเอาราชสมบตั คิ นื จงึ นาสมบตั กิ งึ่ หนงึ่ของพระมารดาไปขาย แลกเป็นสนิ ค้าออกเรอื ไปยงั สุวรรณภมู ิ ระหว่างทางในมหาสมุทร เรอื ต้องพายุลม่ ลง ลูกเรอื ตายหมดยงั แต่พระมหาชนกรอดผูเ้ดยี ว ทรงอดทนว่ายน้าในมหาสมุทรด้วย 6

แต่อมาตย์ชวั่ ร้ายแปลงสารเป็นขอทา้ รบ ทาใหพ้ ระอรฏิ ชนกแต่งทพั ออกรบกบั พระโปลชนก ทง้ั สองพระองค์รู้ความจรงิ ในระหว่างการรบ แต่พระอรฏิ ชนกสน้ิ พระชนมใ์ นทร่ี บพระเทวที กี่ าลงั ทรงครรภ์จงึ ปลอมตวั หนอี อกนอกเมอื งด้วยความช่วยเหลอื ของทา้ วสกั กเทวราช 7

นางมณเีมขลาในทส่ี ุดนางมณเีมขลาได้อุ้มพระมหาชนกไปสง่ ยงั มถิ ลิ านครฝ่ ายมถิ ลิ านคร พระโปลชนกได้สวรรคตเหลอื เพยี งพระราชธดิ านาม \"สีวลเีทว\"ี ก่อนสวรรคตทรงตง้ั ปรศิ นาเรอ่ื งขุมทรพั ย์ทงั้ สบิ หกไวส้ าหรบัผูจ้ ะขน้ึ ครองราชยต์ ่อไป แต่ไมม่ ผี ูใ้ ดไขปรศิ นาได้ เหลา่ อมาตย์จงึ ได้ประชุมกนั แลว้ ปลอ่ ยราชรถ ราชรถกแ็ ลน่ ไปยงั ทมี่ หาชนกบรรทมอยู่ 8

หลา่ อมาตยจ์ งึ เชญิ เสดจ็ ขน้ึ ครองราชย์และอภเิษกกบั สีวลเีทวี ทรงไขปรศิ นาต่างๆ ได้ และทรงครองราชย์สมบตั โิดยธรรม วนั หนง่ึ พระมหาชนก ทรงประทบั บนคอชา้ งเพอ่ืทอดพระเนตรอุทยาน ใกลป้ ระตูอุทยานมมี ะม่วง 2 ต้น ต้นหนง่ึ มีผล ต้นหนง่ึ ไมม่ ผี ล ผลนนั้ มรี สหวานเหลอื เกนิ พระมหาชนกทรงเกบ็ มาเสวยผลหนง่ึ แลว้ เสดจ็ เขา้ อุทยาน คนอนื่ ๆ ตง้ั แต่พระอุปราชลงมาต่างกแ็ ยง่ เกบ็ ผลมะม่วง จนมะมว่ งต้นนน้ั โค่นลง 9

พระมหาชนกทอดพระเนตรเหน็ ดงั นน้ั กเ็กดิ ความสงั เวชทคี่ นทงั้ หลายหวงั แต่ประโยชนอ์ ยา่ งขาดปญั ญา ราลกึ ได้ว่านางมณเีมขลาเคยสงั่ ให้พระองค์ตง้ั มหาวทิ ยาลยั จงึ ได้ปรกึ ษากบั พราหมณ์ ในทส่ี ุดได้ตงั้ มหาวชิ ชาลยั ปูทะเลยข์ น้ึ โดยราลกึ ว่าขณะทที่ รงว่ายน้าในมหาสมุทรทง้ั 7 วนั7 คนื มเีทพธดิ าองค์หนง่ึ ชอื นางมณเีมขลาระหว่างทวี่ ่ายไปเกาะสวนั นะภูมแิ ละได้ชท้ี างพระองค์ไปจนถงึ มถิ ลิ านคร 10

สรุป พระศาสดาตรสั ว่า มใิช่แต่ชาตนิ เ้ีท่านนั้ ทต่ี ถาคตออกบวช แมใ้ นชาตกิ ่อน ตถาคตกอ็ อกบวชเช่นกนั แลว้ สรุปชาดกว่า “ท้าวสกั กเทวราชในอดตี ชาตนิ น้ั ได้เกดิ มาเป็น พระอนุรุทธะในชาติน้ี พราหมณ์ทศิ าปราโมกขไ์ ด้มาเกดิ เป็นพระมหากสั สปะ นางมณเีมขลาเทพธดิ าผูร้ กั ษาสมุทรได้มาเกดิ เป็นอุบลวรรณภกิ ษุณี นารทะฤาษไีด้เกดิ มาเป็นพระโมคคลั ลานะ เดก็ หญงิ ได้เกดิ มาเป็นนางเขมาภกิ ษุณี ช่างศรได้เกดิ มาเป็นพระอานนท์ ราชบรษิ ทั ท่ี เหลอื ได้มาเป็นพุทธบรษิ ทั สวี ลเีทวไีด้เกดิ มาเป็นพระนางพมิ พา ทฆี าวุได้เกดิ เป็นราหุล พระชนกพระชนนไีด้มาเกดิ เป็นมหาราชศากยสกุล ส่วนพระมหาชนกนรนิ ทรราช คอื เราพระสมั มาสมั พุทธเจา้ นเี่อง” 11

ธรรมะจากเร่ืองพระมหาชนก การต้ังสัตยาธิษฐานของพระโปลชนกทว่ี ่า \"ถา้ ขา้ พเจา้คดิ ไมซ่ อื่ กบั พระเชษฐาจรงิ ขอใหเ้ ครอื่ งจองจาจงคงตรงึ มอื และเท้าของข้าพเจ้าไว้ แม้ประตูก็จงปิ ดสนิท แต่ถ้าข้าพเจ้ามิได้มีจิตคิดทรยศ ขอใหเ้ ครอ่ื งจองจาจงหลุดจากมอื และเทา้ ของขา้ พเจา้ แมป้ ระตูก็จงเปิดออก\" คาว่า \"สัตยาธิษฐาน\" แยกได้สองคาดงั นค้ี อื สจั จะ +อธิษฐาน หมายความว่า ให้ตงั้ สจั จะข้นึ มาก่อน แล้วจงึ อธิษฐานตามหลงั ดงั เช่นทพี่ ระโปลชนกต้ังสัจจะว่า \"ถ้าข้าพเจ้าคิดไมซ่ ื่อกับพระเชษฐาจริง\" แล้วจงึ อธิษฐานตามหลังว่า \"ขอให้เคร่ืองจองจาจงตรึงมือและเท้าของข้าพเจ้า แม้ประตูก็จงปิ ดสนิท\" ดงั นเ้ีป็นต้น 12

แนข้ลึน้าก้วชลื่อาควง่างทคจะวักเลาไมจมไน่เดพถ้รยีึงาวรชันสทคม่ี วบ๗รตั ทินา้ีเ\"แรนา่แคทง้ ตถา้ายเไรปากไมลพ่ างยทาะยเลามว่าย เมอ่ื พระองค์ทรงอนุสรณ์ถงึ ความเพยี รนน้ั กเ็กดิปีตโิสมนสั ซาบซ่าน จงึ ทรงเปลง่ อุทานด้วยพระกาลงั ปีตวิ ่า \"บุรุษผูเ้ป็นบณั ฑติ ควรพยายามร่าไป ไม่ควรเบอ่ื หน่ายในกจิของตน จงดูเราซงึ่ ได้ขน้ึ สู่บกและได้ครองราชสมบตั เิป็นตวั อย่าง คนเป็นอนั มากเมอื่ กาลงั ประสบทุกข์ จะไม่ตงั้ ใจทาสง่ิ ทเี่ป็นประโยชน์ แต่เมอื่ ได้รบั ความสุข จงึ ตงั้ ใจทาสง่ิ ทเ่ีป็นประโยชน์ ส่วนบุคคลผูม้ ปี ญั ญา ถงึ แมก้ าลงั ประสบทุกขก์ ไ็มส่ น้ิ หวงั ว่าจะไมไ่ ด้ประสบสุข เพยี รสูท้ นทาหนา้ ทข่ี องตนอย่างสุดความสามารถ ย่อมจะประสบความสาเรจ็ แนน่ อน เพราะว่าสงิ่ ทม่ี ไิด้คดิ ไวล้ ว่ งหนา้ อาจเกดิ ขน้ึ กไ็ด้ สงิ่ ทคี่ ดิ ไวล้ ว่ งหนา้ อาจไมเ่ กดิ ขน้ึ กไ็ด้ ทรพั ยส์ มบตั ทิ งั้ หลายของบุรุษหรอื สตรี ไม่อาจสาเรจ็ (เกดิ ขน้ึ )ได้เพยี งแค่ความคดิ (แต่สาเรจ็ ลงได้ด้วยการลงมอื กระทาเท่านนั้ )\" 13

ข้อคิดที่ได้รับ 1. ในยามวกิ ฤต ต้องคดิ พง่ึ ตนเอง เทวดาจะช่วยผูท้ ชี่ ่วยตวั เองเท่านนั้ 2. ความเพยี รอนั บรสิ ุทธ์ิ หมายถงึ ต้องพยายามอยา่ งถงึทส่ี ุด เพอ่ื ทจ่ี ะกา้ วผา่ นวกิ ฤต สร้างเศรษฐกจิ จรงิ ด้วยงานหรอื ความเพยี รอนั บรสิ ุทธิ์ 3. สร้างเศรษฐกจิ ด้วยการอนุรกั ษ์และเพม่ิ พูุนทรพั ยากร 4. โมหภูมแิ ละมหาวชิ ชาลยั หมายถงึ มนุษย์จะสามารถปฏริ ูปการเรยี นรู้ของมนุษยต์ ้องหลุดพน้ จากอวชิ ชา เพอื่ ก้าวไปสู่การพฒั นาอยา่ งแทจ้ รงิ 14

สมาชกิ ม.4/2ศริ พิ ร กระจายศรี เลขที่ 1ณฏั ฐณชิ า เสรวี ฒั น์ เลขท่ี 6ณฐั ภทั ร เอยี่ มงาม เลขที่ 7พุทธดิ า วชั ชริ ะนาวนิ เลขท่ี 10ศศภิ า เฟ่ื องกาญจน์ เลขท่ี 11ธญั พชิ ชา เวชกร เลขที่ 24ศศธิ ร วงิ ประวตั ิ เลขที่ 25ศริ นิ ภา มาลา เลขท่ี 26ณฏั ฐณชิ า ศรที อง เลขที่ 28นชิ ญานนั ท์ สุขจรสั วงศ์ เลขที่ 37กฤตมิ า มเีงนิ ทอง เลขที่ 43 15

20


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook