www.kalyanamitra.org
“สง่ บญุ ” ค่มู ือจัดงานบำเพญ็ กศุ ลและสลายรา่ งผ้วู ายชนม ์ เสยี ดาย...หากญาติผตู้ ายไม่ได้อา่ น www.kalyanamitra.org
คำนำ ในชีวิตของคนเราจะมีงานใหญ่ ๆ มาเกี่ยวข้องด้วยไม่ก่ีงาน นับต้ังแต่งาน วันคล้ายวันเกิด งานรับปริญญา งานบวช งานแต่งงาน และงานศพ ในขณะที ่ เตรียมงานมงคลต่าง ๆ เป็นอย่างดี แต่เรามักจะมองข้ามงานท่ีสำคัญท่ีสุดงานหน่ึง ของชวี ิตไป คอื “งานศพ” ซึ่งชีวติ หนง่ึ มีไดเ้ พยี งครั้งเดยี วเท่าน้ัน ผ้คู นสว่ นใหญม่ กั จะกลัวงานศพ จึงไมก่ ลา้ พดู ถึง ไม่กลา้ เตรยี มการตา่ ง ๆ ไว้ เพราะเกรงวา่ จะเปน็ ลางไม่ดหี รอื ไม่เป็นสริ มิ งคล ซึง่ แท้จริงแลว้ ไมไ่ ด้เป็นเชน่ นั้นเลย พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอนให้เจริญมรณสติ คือ นึกถึงความตายอยู่เสมอ ครั้งหนึ่งพระพุทธองค์ทรงถามพระอานนท์ว่า นึกถึงความตายวันละก่ีเวลา พระอานนทท์ ลู ตอบวา่ นกึ ถึงความตายวนั ละ 3 เวลา คือ เวลาเชา้ เวลาเทีย่ ง และ เวลาเย็น แต่พระพุทธองค์ทรงนึกถึงความตายตลอดทุกลมหายใจเข้าออก แม้เมื่อ ใกล้ถึงคราวจะดับขันธปรินิพพาน ก็ทรงตรัสบอกแก่พระสาวกล่วงหน้าถึง 3 เดือน และทรงบอกวิธีฌาปนกิจพุทธสรีระ พร้อมท้ังกำหนดสถานที่ปรินิพพานไว้เป็นที่ เรยี บร้อย www.kalyanamitra.org
สำหรับบุคคลท่ัวไป หากไม่มีการเตรียมตัวและเตรียมใจในเรื่องของการตาย เม่ือบุคคลอันเป็นที่รักได้ละโลกไปอย่างกะทันหัน ญาติมิตรท่ีอยู่เบ้ืองหลังมักตกอยู่ ในความสับสน เศร้าโศก ไม่ทราบว่าจะต้องปฏบิ ัตอิ ย่างไร ยิง่ หากไม่มีประสบการณ์ ในการจัดงานศพ ก็มักจะทำอะไรไม่ถูก ด้วยเหตุนี้เอง หนังสือ “ส่งบุญ” เล่มน้ ี จึงเกิดขึ้น เพื่อเป็นคู่มือเสมือนที่ปรึกษาในการจัดงานศพให้บรรลุวัตถุประสงค์ คือ การสร้าง “บุญ” เพ่ือประโยชนข์ องทง้ั ผตู้ ายและญาตมิ ติ ร เน่ืองจากประเพณีและวัฒนธรรมการจัดงานศพในแต่ละภูมิภาคของ ประเทศไทยนั้น มีรายละเอียดแตกต่างกัน หนังสือเล่มน้ีจึงขอนำเสนอเฉพาะ หลักปฏิบัติโดยทั่วไปอันเป็นที่นิยม พร้อมทั้งแนวทางอันเป็นประโยชน์ต่อผู้จัดงาน ซงึ่ สามารถนำไปประยุกตใ์ ช้ไดใ้ นแตล่ ะทอ้ งถน่ิ ขออนโุ มทนาบุญ และขอแบง่ บญุ ให้กบั ผูอ้ า่ นทุกท่าน กองบรรณาธิการอกั ษรตะวัน www.kalyanamitra.org
สารบัญ 1. ขอ้ พงึ ปฏบิ ัตติ อ่ ผู้ใกลล้ ะโลก 1.1 การปรนนิบัติดแู ล และแสดงความกตัญญกู ตเวทอี ย่างถูกวิธี........ 8 1.2 สร้างความสบาย 4 อย่างใหผ้ ู้ใกล้ละโลก......................................11 1.3 ทำบญุ ตอ่ อาย.ุ ..............................................................................16 1.4 ขออโหสิกรรม...............................................................................17 1.5 บอกทางสว่าง...............................................................................18 2. เมือ่ บุคคลอนั เป็นทรี่ ักละสังขาร 2.1 ส่ิงท่ีตอ้ งเตรยี มให้พรอ้ ม................................................................22 2.2 การทำความสะอาดรา่ ง.................................................................23 2.3 แจ้งข่าวการละสงั ขาร....................................................................23 2.4 การแจ้งตายและขอใบมรณบัตร....................................................24 2.5 การจัดพธิ ีรดน้ำผูล้ ะสังขาร............................................................26 2.6 การบรรจรุ ่างลงหีบ........................................................................28 3. การจดั งานบำเพ็ญกศุ ล 3.1 การเตรยี มความพรอ้ มดา้ นตา่ งๆ...................................................33 3.2 ขอ้ ห้ามสำหรบั การจัดงานศพ........................................................39 3.3 การสวดพระอภิธรรมในแตล่ ะคนื ..................................................39 www.kalyanamitra.org
4. การจัดงานสลายรา่ ง (ฌาปนกจิ ) ตวั อยา่ งลำดบั พธิ ีฌาปนกจิ .......................................................................55 รายละเอยี ดเก่ียวกับการเชญิ แขกขนึ้ ทอดผา้ บังสกุ ลุ .................................56 ข้อควรปฏบิ ัติสำหรบั ผ้เู ชญิ และผู้รับเชญิ ...................................................57 การสดดุ ีผวู้ ายชนม์....................................................................................58 5. ขอ้ ควรปฏบิ ตั ิหลังการสลายรา่ ง........................................................................70 6. การอุทศิ บุญแดผ่ ู้ลว่ งลับ 6.1 ประเพณกี ารทำบุญใหผ้ ้ตู าย ในช่วง 7 วนั 50 วนั และ 100 วัน........77 6.2 ทำไมต้องทำบุญในชว่ ง 7 วนั 50 วัน และ 100 วัน............................77 6.3 อุทิศบญุ ให้ในวนั พระ..........................................................................80 7. ภาคผนวก 7.1 ทางมาแห่งบญุ ....................................................................................84 7.2 สังฆทาน หลักสำคญั ทพ่ี ึงทราบ..........................................................86 7.3 รรู้ อบตัวเรื่องบทสวดพระอภธิ รรม......................................................90 8. บทส่งทา้ ย.......................................................................................................100 www.kalyanamitra.org
1h h ข้อพึงปฏิบตั ิต่อผ้ใู กล้ละโลก www.kalyanamitra.org
1.ขอ้ พึงปฏบิ ตั ติ อ่ ผ้ใู กล้ละโลก 1.1 การปรนนิบัติดแู ล และแสดงความกตัญญกู ตเวทีอย่างถกู วธิ ี เราพงึ คดิ อยู่เสมอว่า การเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นของธรรมดาทใ่ี คร ๆ ไมอ่ าจจะหลบเล่ยี งได้ แม้ตวั เรา เองสักวันหนึ่งก็ต้องเจ็บต้องตายดุจเดียวกัน ในเวลาที่เจ็บไข้ได้ป่วย คนไข้จะต้องการกำลังใจมาก ผู้ท่ีจะช่วยให้ กำลังใจได้ดีที่สุดคือญาติพ่ีน้องคนใกล้ชิดทั้งหลาย ถึงแม้ร่างกายจะป่วย แต่อย่าให้ใจต้องเจ็บป่วยไปด้วย ถ้ากายป่วยแต่ใจไม่ป่วย ใจดวงน้ันก็จะเป็นพลังช่วยประคับประคองกายไว้ ยิ่งถ้ามีกำลังใจเข้มแข็ง ก็จะช่วยให้ ร่างกายแขง็ แรงขึ้น ในช่วงเวลาท่ีเจ็บป่วยเป็นช่วงเวลาท่ีสำคัญมากสำหรับชีวิต เพราะหากถึงวาระของการส้ินบุญจริง ๆ ถือเป็นช่วงศึกชิงภพชี้ชะตาผู้ป่วยว่าจะไปดีหรือร้าย ดังนั้น ถือเป็นโอกาสที่เราจะปรนนิบัติดูแลบุคคลอันเป็น ทรี่ กั หรอื ผมู้ ีพระคณุ ใหด้ ที ่สี ุด เปิดประตูสสู่ วรรคแ์ ก่ผใู้ กลล้ ะโลกได้ โดยมีขอ้ ปฏิบตั ิดงั น ้ี 8 www.kalyanamitra.org
การดแู ลคนไขแ้ บง่ เป็น 2 สว่ นด้วยกนั คอื 1.1.1 การดูแลรักษาโรคทางกาย จะต้องหาแพทย์ที่มีความรู้ความสามารถอย่างดีท่ีสุดมา ดูแลรักษาให้เต็มท่ี คนเฝ้าไข้จะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์และพยาบาลอย่างเคร่งครัด ให้การดแู ลด้านตา่ งๆ เป็นอย่างดี เช่น การนอน การขับถ่าย การดแู ลเนอ้ื ตัวใหส้ ะอาด และดแู ลเรอื่ ง อาหารให้เพียงพอ 1.1.2 การดูแลรักษาใจ จะต้องช่วยกันประคับประคองใจของคนไข้ให้ผ่องใสอยู่ตลอดเวลา ใหม้ กี ำลังใจอดทนตอ่ ทุกขเวทนาตา่ งๆ ไมท่ ้อแท้หรอื สน้ิ หวงั ในชวี ติ ดว้ ยวธิ ีการดงั น้ี คือ ป้องกันอยา่ ใหไ้ ดย้ นิ เรื่องร้อนใจใด ๆ ไมว่ า่ จะเรอ่ื งทรัพยส์ นิ เงนิ ทอง เร่ืองมรดก เร่อื งข่าวสาร บ้านเมือง เรื่องทุกข์ของชาวบ้านหรือเร่ืองท่ีฟังแล้วชวนให้คนไข้รู้สึกแสลงใจหรือสลดหดห ู่ ตอ้ งป้องกันอย่างเตม็ ท่ีอย่าให้คนไข้ไดร้ บั รู้ โน้มน้าวใจคนไข้ให้มีจิตใจแช่อิ่มอยู่ในบุญ ด้วยการหมั่นเล่าถึงเร่ืองราวบุญกุศลที่ผู้ป่วยได้เคย กระทำไว้ ท้ังเร่อื ง ทอดกฐนิ ทอดผา้ ป่า บุญบวชพระ การสร้างสาธารณะกศุ ลตา่ งๆ พยายามโน้มน้าวชักจูงให้คนไข้ได้สร้างบุญใหม่ ๆ ถ้าคนไข้ยังพอมีเร่ียวแรง มีสติสัมปชัญญะ มีความสามารถท่ีจะทำบุญได้ ก็บอกเล่าข่าวบุญต่างๆ ชักชวนให้คนไข้ได้สร้างบุญใหม่อยู่เสมอ หรอื พาตกั บาตรยามเช้า แมค้ นไข้จะไมส่ ามารถลกุ มาใสบ่ าตรเองได้ กอ็ าจจะนำข้าวปลาอาหารนั้นให้ คนไขไ้ ด้จบอธษิ ฐาน 9 www.kalyanamitra.org
พยายามชักชวนโน้มน้าวให้คนไข้รักษาศีล 5 อย่างเคร่งครัด แม้แต่การบี้มด ตบยุง ก็ขอร้อง อย่าให้ทำ ประคบั ประคองกาย วาจา ใจ ของคนไข้ใหต้ งั้ อยู่ในศีลอันบริสุทธิ์ พยายามชักชวนคนไข้ให้กำหนดใจให้เป็นสมาธิ โดยอาจจะนำเทปนำน่ังสมาธิ เทปสวดมนต์ หรือเทปธรรมะของพระสงฆม์ าเปิดใหค้ นไขฟ้ งั หากทำเช่นนีเ้ ปน็ ประจำถ้าคนไขย้ งั มบี ุญอยู่ อานุภาพ ของบุญจะช่วยให้ดีขึ้นหรือหายได้ หรือถ้าถึงคราวหมดบุญจริง ๆ จิตใจที่ผ่องใสอันเกิดจากการ ทำสมาธนิ ี้จะนำไปสภู่ พภมู ิที่ดี 10 www.kalyanamitra.org
1.2 สรา้ งความสบาย 4 อยา่ งให้ผูใ้ กลล้ ะโลก ซง่ึ ถือเป็นส่งิ แวดลอ้ มรอบตัวคนไข้ ได้แก ่ 1.2.1 อาวาสเปน็ ท่สี บาย สถานที่พักก่อนใกล้ละสังขาร ควรมีบรรยากาศดี น่าอยู่ สะอาด สงบเงียบเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่รกรุงรัง อากาศถ่ายเทได้สะดวก เอื้อต่อการทำสมาธิภาวนา ภายในห้องควรมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ และส่ิงที่ประดับตกแต่งภายในห้องควรเป็นภาพท่ีก่อให้จิตเป็นกุศลหรือภาพการบำเพ็ญบุญต่าง ๆ ของ ผใู้ กลล้ ะโลก ตดิ ไว้ในจดุ ทีส่ ามารถเหน็ ไดช้ ัด เพือ่ ใหร้ ะลึกนกึ ถึงแตส่ ่ิงท่เี ป็นกุศลตลอดเวลา 1.2.2 บคุ คลเปน็ ท่ีสบาย ผู้ใกล้ชิดหรือผู้ดูแลไข้ ควรเป็นผู้ที่มีศีล มีความเข้าใจในธรรมะและความเป็นจริงในวัฏฏสงสาร มีจิต และอารมณ์ที่แจ่มใส สามารถสร้างความสบายใจและกำลังใจให้กับผู้ใกล้ละโลกได้ ดูแลเอาใจใส่ด้วยจิตเมตตา พูดจาด้วยถ้อยคำที่ดีเป็นอรรถเป็นธรรม ยังจิตของผู้ป่วยให้นึกถึงแต่บุญและความดีท่ีเคยทำมา ไม่กังวลกับ สิ่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเร่ืองคน สัตว์ ส่ิงของ ไม่แสดงอาการเศร้าโศก ไม่ทะเลาะเบาะแว้งกันด้วยเร่ืองมรดก เพราะจะทำใหผ้ ู้ใกลล้ ะโลกร้สู ึกเศร้าหมองไปดว้ ย หากทราบวา่ ผูป้ ว่ ยมีโอกาสรอดนอ้ ยจริง ๆ กไ็ ม่ควรปล่อยให้ ทรมานกับเคร่ืองมือทางการแพทย์ที่มีสายระโยงระยาง ขยับไปไหนก็ไม่ได้ พูดอะไรก็ไม่ได้ ทำให้เกิด ความรำคาญกายและใจ ผู้ป่วยจะเสียโอกาสในการทำความดีครั้งสุดท้ายของชีวิต มีแต่ต้องนอนรอความตาย เทา่ น้นั เอง ควรพาผปู้ ว่ ยมาท่บี ้านคอยกระซิบให้นึกถึงพระรัตนตรัยหรอื บุญกศุ ลตา่ ง ๆ ที่เคยทำมา 11 www.kalyanamitra.org
1.2.3 อาหารเปน็ ทีส่ บาย อาหาร น้ำด่ืม และยารักษาโรค ควรมีอย่างเพียงพอและเหมาะสม เป็นอาหารท่ีถูกปาก รับประทาน แลว้ สบายกาย ไม่ย่อยยาก และไมแ่ สลงโรค เชน่ (ก) ไข้หวัดหรือมีไข้สูง ควรหลีกเลี่ยงอาหารท่ีเย็นจัด อาหารทอด และอาหารมัน ซึ่งเป็นอาหารที่ ย่อยยาก และทำให้เกิดความร้อนสะสม ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นการเติมน้ำมันเข้าไปในกองไฟทำให้มีไข้สูง และตวั ร้อนยงิ่ ขน้ึ (ข) โรคหัวใจและโรคไต ควรหลีกเลี่ยงอาหารรสเค็มจัดหรือรสเผ็ด เพราะจะทำให้มีการเก็บกักน้ำ การไหลเวยี นเลอื ดจะชา้ หวั ใจทำงานหนักข้นึ และไตตอ้ งทำงานขับเกลอื แร่มากข้ึน (ค) โรคตับและถุงน้ำดี หลีกเลี่ยงอาหารมัน เน้ือติดมัน เครื่องในสัตว์ อาหารทอด อาหารหวานจัด เพราะตับและถุงน้ำดีมีความสัมพันธ์กับระบบย่อยอาหาร การรับประทานอาหารประเภทดังกล่าวมากเกินไป จะทำให้ประสิทธิภาพของการย่อยลดลงและเกดิ โทษตอ่ ตบั และถงุ นำ้ ดีอีกต่อหนง่ึ ได ้ (ง) ท้องผูกและโรคริดสีดวงทวาร หลีกเล่ียงอาหารประเภทหอม กระเทียม ขิงสด พริกไทยและพริก เพราะอาหารเหล่าน้ีอาจทำใหท้ ้องผูก หลอดเลอื ดแตก และอาการรดิ สดี วงทวารกำเริบได้ 12 www.kalyanamitra.org
(จ) โรคมะเร็ง มขี อ้ แนะนำดงั นี้ ลดโปรตีน โปรตีนจากสัตว์ เช่น กุ้ง หอย ป ู ปลา หม ู เป็ด ไก ่ โปรตีนจากพืช เช่น เหด็ สดทุกชนิด เตา้ หู้ และจำพวกถ่วั ต่าง ๆ เช่น ถวั่ เขียว ถว่ั ดำ ถ่วั เหลือง ฯลฯ ลดไขมัน ไม่ว่าจะเปน็ ไขมนั จากพชื เช่น น้ำมันงา นำ้ มันถ่วั เหลือง น้ำมันมะพรา้ ว กะทิ ไขมัน จากสัตว์ เช่น นำ้ มนั หมู น้ำมนั ไก่ นม เนย งดของหมักดอง เช่น กะปิ ปลารา้ เต้าเจยี้ ว ผกั กาดดอง หนอ่ ไมด้ อง น้ำปลา ฯลฯ งดเครื่องดืม่ บางชนดิ เชน่ ชา กาแฟ โอวัลติน รังนก ซุปไกส่ กัด ฯลฯ ควรหลกี เลี่ยงสารนโิ คตนิ ซึ่งมอี ยใู่ นบุหร่ ี งดผลไมท้ ่ีมนี ำ้ ตาลและไขมันสูง หรือหวานจัด เชน่ ทุเรยี น อโวคาโด มะพร้าวอ่อน สบั ปะรด งดผกั บางชนิด เชน่ แตงกวา ใบชะพลู อาหารที่ผู้ป่วยโรคมะเรง็ ควรรบั ประทาน ได้แก ่ อาหารจำพวกคารโ์ บไฮเดรต เช่น ขา้ วกลอ้ ง เผอื ก มัน ข้าวโพด ขนมปังโฮลวีต ซ่งึ ปราศจาก ผงฟแู ละเนย ผกั สด ผลไม้สด นำ้ ผัก (ควรใชเ้ ครื่องแยกกาก) เช่น ผกั พน้ื บา้ น ถว่ั ฝักยาว ถ่วั แขก ถัว่ พู ฯลฯ โดยผักสด และผลไม้ทุกชนิดควรผ่านการฆ่าเช้อื โรคและขจดั สารเคมีตกคา้ ง เชน่ แชผ่ งถา่ นนาน 15 นาที 13 www.kalyanamitra.org
1.2.4 ธรรมะเป็นทส่ี บาย การยังจิตของผู้ป่วยให้ผ่องใส ตรึกระลึกนึกถึงแต่เร่ืองบุญกุศลเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ดังนั้น ผู้ใกล้ชิด ควรหาธรรมะในรูปแบบต่างๆ มาให้ผู้ใกล้ละโลกได้ชมหรือได้ฟัง เช่น ดูโทรทัศน์ช่องธรรมะ (DMC) ฟังเทป ธรรมะหรืออ่านหนังสือธรรมะให้ฟัง อาจจะนิมนต์พระสงฆ์มานำอาราธนาศีล สวดสาธยายมนต์ และ รับสังฆทาน หรือนำน่ังสมาธิ (ในกรณีไม่สะดวก อาจเปิดเทปก็ได้) ควรให้สติแก่ผู้ใกล้ละโลกอยู่ตลอดเวลา ด้วยการภาวนาคำวา่ “สมั มา อะระหัง” หรอื นึกถงึ พระพทุ ธรูปไว้กลางกายเปน็ พทุ ธานุสตอิ ยูเ่ สมอ เรือ่ งเล่าจากพระไตรปิฎก : เกิดเป็นเทวดาเพราะจติ เลื่อมใสก่อนละสงั ขาร (จากพระไตรปฎิ กฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย / เล่มที่ 40 หน้า 42) การยังจิตให้เลื่อมใสในพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก่อนละโลกน้ันมีอานิสงส์มาก ดังเช่นเร่ืองของมานพหนุ่ม ผู้หน่ึงที่ช่ือ มัฏฐกุณฑลี ซึ่งกำลังป่วยหนักเกินเยียวยา ขณะที่นอนรอความตายอยู่ท่ีระเบียงหน้าบ้านก็มองเห็น พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซ่ึงมีรัศมีเจิดจ้าเสด็จบิณฑบาตผ่านมา แต่เน่ืองจากพราหมณ์ผู้เป็นพ่อของชายหนุ่มน ี้ มีมิจฉาทิฐิและตระหน่ี จึงไม่เคยอนุญาตให้ลูกชายทำบุญทำทานหรือเข้าเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพื่อฟังธรรม เลย จึงไม่ได้สั่งสมบุญเอาไว้แม้แต่น้อย แม้ในขณะก่อนตายก็ยังยกมือทั้งสองประนมไม่ไหวด้วยพิษไข้ 14 www.kalyanamitra.org
ทำได้เพียงอย่างเดียวคือ ทำจิตให้เลื่อมใสในพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเม่ือพระพุทธองค์เสด็จลับตาไป มัฏฐกุณฑลีก็สิ้นใจ แต่บุญจากการทำใจให้เลื่อมใสในพระพุทธองค์ก่อนละโลกก็ได้ทำให้มัฏฐกุณฑลีไปบังเกิด บนสวรรค์ชั้นดาวดงึ ส์ มีวมิ านทองสูงถงึ 30 โยชน์ หรือ 480 กิโลเมตร อันท่ีจริงแล้ว การทำใจให้ผ่องใสก่อนละโลกนั้นมักเป็นไปได้ยาก เพราะคนส่วนมากต้องประสบ กับทุกขเวทนาจากความเจ็บป่วย แต่ในกรณีของมัฏฐกุณฑลีน้ัน นับเป็นบุญลาภ เพราะเขาได้พบ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก่อนส้ินใจ ดังน้ันเพ่ือความมั่นใจ ทางท่ีดีเราควรเตรียมตัวทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ต้ังแต่ยังมีชีวิตอยู่ พร้อมกับหมั่นนึกถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นภาพนิมิตไว้ท่ีกลางกายตลอดเวลา เพือ่ ใหส้ ามารถนกึ ถงึ บุญและเจรญิ พุทธานุสติได้อยา่ งงา่ ย ๆ กอ่ นละสงั ขาร 15 www.kalyanamitra.org
1.3 ทำบุญต่ออาย ุ เมื่อบุคคลอันเป็นท่ีรักป่วยหนัก ญาติมิตรอาจจัดพิธีทำบุญต่ออายุ โดยนิมนต์พระสงฆ์มาทำพิธี ณ ที่พักของผู้ป่วย มีการเล้ียงพระ ถวายสังฆทาน ปล่อยสัตว์ เช่น ปล่อยนก กบ หอย ปลา หรือโคกระบือ แล้วอุทิศบุญให้กับ “คู่กรรมคู่เวร” ที่เราเคยเบียดเบียนไว้ เพ่ือขออโหสิกรรม นอกจากน้ียังเป็นการเพ่ิมเติม บุญกศุ ลและสร้างกำลังใจใหก้ ับผปู้ ว่ ย ซง่ึ อาจยืดอายขุ องผู้ปว่ ยออกไปได้อีก 16 www.kalyanamitra.org
1.4 ขออโหสิกรรม การขออโหสกิ รรมเปน็ ประเพณีอันดีงามของชาวพทุ ธ ถือเปน็ สิ่งที่สำคญั เพราะการดำเนินชวี ิตของเรา อาจจะเคยกระทำผิดพลาดล่วงเกินซ่ึงกันและกันไม่ทางใดก็ทางหน่ึง ท้ังด้วยกาย ด้วยวาจาและด้วยใจ ทั้งโดยรู้ตัวและไม่รู้ตัว การขออโหสิกรรมก่อนท่ีบุคคลจะละสังขาร ก็ไม่ควรรอจนบุคคลหมดสต ิ หรือมีทุกขเวทนามาก ควรทำในขณะที่ยังมีสติสัมปชัญญะครบถ้วนบริบูรณ์ เพื่อไม่ให้เป็นเวรกรรมติดตัวไป ข้ามภพข้ามชาติ ไมว่ า่ จะเจตนาหรอื ไมเ่ จตนากต็ าม ตัวอย่างคำขอขมาอย่างง่าย ๆ : “หากผมได้เคยผิดพลาดล่วงเกิน ด้วยกาย วาจา ใจ ท้ังเจตนาและไม่เจตนา ไดโ้ ปรดอดโทษและใหอ้ โหสิกรรมแกผ่ มด้วยเถดิ ” ตวั อยา่ งคำขอขมาอยา่ งเปน็ ทางการ (อาจกล่าวพร้อม ๆ กัน โดยมผี ูก้ ลา่ วนำ) : “ขา้ พเจา้ ขอน้อมนำพวงมาลยั ดอกไม้ มากราบขออโหสกิ รรม หากข้าพเจา้ ได้เคยประพฤตผิ ดิ พลาดล่วงเกนิ ดว้ ยกาย วาจา ใจ ทั้งตอ่ หนา้ ก็ดี ทั้งลับหลังก็ดี ทั้งที่มีเจตนาก็ดี ท้ังที่ไม่มีเจตนาก็ดี จะระลึกได้ก็ดี ระลึกไม่ได้ก็ดี ขอท่านได้โปรดอโหสิกรรม ใหแ้ กข่ า้ พเจ้า กรรมใดที่ได้เคยลว่ งเกินต่อกนั และกัน ขอจงเป็นอโหสิกรรมในกาลบัดนเี้ ทอญ” 17 www.kalyanamitra.org
1.5 บอกทางสวา่ ง นาทีสุดท้าย : เมื่อผู้ป่วยอาการหนักมาก เห็นว่าจะไม่มีทางรอด มีอาการใกล้สิ้นใจ ซึ่งกายละเอียด (วิญญาณ) กำลังจะหลุดออกจากร่าง ในนาทีสุดท้ายของชีวิต บุคคลผู้ใกล้ชิดควรจะกล่าวคำอันเป็นสิริมงคล น้อมนำให้ผู้ใกล้ละโลกนึกถึงบุญกุศลอยู่ตลอดเวลา ประคับประคองใจให้อยู่กับพระรัตนตรัย ข่มความเจ็บปวด และความทรมานต่าง ๆ ไว้ จนกว่าจะส้ินใจไป แม้เมื่อสิ้นใจไปแล้ว ก็ให้บอกกล่าวกับดวงวิญญาณ ที่ยังอาจ วนเวียนอยู่น้ัน ให้นึกถึงพระรัตนตรัยและบุญกุศลที่ได้บำเพ็ญไว้ดีแล้ว ปลดห่วงปลดกังวลท้ังปวงแล้วเดินทาง ไปสสู่ ุคติ 18 www.kalyanamitra.org
2h h เมอ่ื บุคคลอันเปน็ ทร่ี ักละสังขาร www.kalyanamitra.org
2. เม่อื บุคคลอันเป็นท่รี ักละสังขาร 2.1 ส่งิ ท่ตี อ้ งเตรียมให้พรอ้ ม 2.1.1 ฉีดยารกั ษาสภาพศพและทำความสะอาดร่าง 2.1.2 จองวดั และศาลา สำหรับสวดพระอภธิ รรม 2.1.3 ตดิ ต่อซอ้ื โลงศพ 2.1.4 ขนย้ายศพจากสถานทถ่ี ึงแก่กรรมไปยงั บ้านหรอื ศาลาวดั ทส่ี วดศพ เพื่อจัดพธิ รี ดน้ำศพ 2.1.5 เตรียมรูปถ่ายของผู้ละสังขารสำหรับงานบำเพ็ญกุศล ซึ่งควรเป็นรูปขนาดใหญ่ ใส่กรอบเรียบร้อย เปน็ รปู ทส่ี ภุ าพ สงา่ งาม ควรแก่การจดจำ 2.1.6 เตรียมของที่ระลึกสำหรับผู้มาร่วมงานบำเพ็ญกุศลและงานฌาปนกิจ นิยมแจกหนังสือประวัติ ผูถ้ งึ แก่กรรมและหนังสือธรรมะ 2.1.7 ตดิ ตอ่ สั่งทำหรือซ้ืออาหารและนำ้ ดื่มสำหรบั ตอ้ นรับแขกทีม่ ารว่ มงานบำเพญ็ กศุ ล 2.1.8 เตรียมเคร่ืองดื่มสำหรับพระสงฆ์ (ปานะ) ผ้าบังสุกุล เครื่องไทยธรรม ดอกไม้ธูปเทียน ปากกา ซองเปลา่ กล้องถ่ายรปู และทฉ่ี ีดละอองนำ้ สำหรบั เพิม่ ความสดช่ืนใหก้ บั พวงหรีด 20 www.kalyanamitra.org
2.2 การทำความสะอาดรา่ ง ปกติแล้วมักจะดำเนินการโดยลูกหลานและญาติใกล้ชิด ด้วยการอาบน้ำอุ่นให้ก่อนแล้วล้างด้วยน้ำเย็น ฟอกสบู่ขัดถูร่างกายศพให้สะอาด จากนั้นใช้น้ำขม้ินทาทั่วร่างกายศพและประพรมน้ำหอม จากน้ันแต่งกาย ตามฐานะของผู้ตายหรือสวมชุดขาวให้ โดยใช้เสื้อผ้าท่ีสะอาดและใหม่ที่สุด แล้วเชิญร่างขึ้นนอนบนเตียงเพ่ือ รอรบั การรดนำ้ ศพต่อไป 2.3 แจง้ ข่าวการละสงั ขาร จัดทำบัตรเชิญงานศพแก่หมู่ญาติ เพ่ือนสนิท มิตรสหาย และบุคคลผู้รู้จักคุ้นเคย โดยจะส่ังทำจาก ร้านที่รับบริการแบบด่วนทันใจ เสร็จภายในวันเดียวหรือบอกกล่าวด้วยวาจาผ่านทางโทรศัพท์ก็ได้ นอกจากน้ี ยังมีวิธีการอ่ืนๆ เช่น ส่งจดหมายอิเลคทรอนิคส์ (อีเมล์) ส่งข้อความผ่านโทรศัพท์เคล่ือนท่ี (SMS) หรอื ประชาสัมพนั ธ์ผ่านหนา้ หนงั สือพมิ พ ์ 21 www.kalyanamitra.org
2.4 การแจง้ ตายและขอใบมรณบัตร 2.4.1 หากถึงแก่กรรมที่โรงพยาบาล ทางโรงพยาบาลจะออกใบรับรองแพทย์ให้ เพ่ือเป็นหลักฐาน แสดงเหตุและพฤติการณ์ตาย แล้วนำใบรับรองแพทย์พร้อมบัตรประจำตัวประชาชนของผู้เสียชีวิตไปยัง สำนักทะเบียนท้องถ่ิน หรือท่ีทำการเขต/อำเภอ ในพื้นที่ที่โรงพยาบาลน้ันต้ังอยู่ เพ่ือขอรับใบมรณบัตร โรงพยาบาลบางแห่งจะออกใบมรณบัตรให้เอง หรือช่วยดำเนินการให้เพ่ืออำนวยความสะดวก โดยญาติของ ผเู้ สียชวี ติ จะต้องนำทะเบียนบา้ นไปทีโ่ รงพยาบาลดว้ ย 2.4.2 หากถึงแก่กรรมตามธรรมชาติที่บ้าน เจ้าของบ้านจะต้องแจ้งตายต่อเจ้าหน้าท่ีสำนักทะเบียน ท้องถิ่น แพทย์ประจำตำบล ผู้ใหญ่บ้านหรือกำนัน ผู้มีหน้าท่ีรับผิดชอบในเขตที่บ้านเรือนน้ันตั้งอยู่ หรือแจ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่รับผิดชอบของสถานีตำรวจน้ัน เพ่ือออกบันทึกประจำวันให้ แล้วนำบันทึกประจำวัน นน้ั ไปยื่นต่อทีท่ ำการเขตหรืออำเภอ เพ่ือขอใบมรณบตั ร 2.4.3 หากถึงแก่กรรมเน่ืองจากอุบัติเหตุหรือฆาตกรรม เจ้าของบ้านจะต้องแจ้งเจ้าหน้าท่ีตำรวจ มาชนั สตู รศพทำหลกั ฐานการเสยี ชวี ติ ในระหวา่ งทเี่ จา้ หนา้ ทต่ี ำรวจ หรอื แพทยย์ งั มไิ ดต้ รวจศพหา้ มเคลอื่ นยา้ ยศพ หรือทำให้ศพเปลี่ยนสภาพ หรือนำยามาฉีดศพ เม่ือเจ้าหน้าท่ีตำรวจหรือแพทย์ ได้ตรวจชันสูตรศพแล้ว ญาติผู้เสียชีวิตจะต้องไปขอหลักฐานจากเจ้าหน้าท่ีตำรวจในท้องที่ที่รับผิดชอบ พร้อมทั้งขอใบชันสูตรศพ จากแพทย์ เพ่ือนำไปแสดงต่อเจ้าหน้าท่ีสำนักทะเบียนท้องถิ่น ในการขอใบมรณบัตร โดยแจ้งด้วยว่าจะนำศพ ไปบำเพญ็ กุศล ณ วดั ใด 22 www.kalyanamitra.org
หลักฐานและเอกสารท่ีต้องใช้ในการแจง้ ตายต่อเจ้าหน้าทสี่ ำนกั งานเขต/อำเภอ มดี ังน ี้ • บัตรประจำตวั ประชาชนของผแู้ จ้ง • หนังสอื รับรองการตาย (ถ้าม)ี • สำเนาทะเบียนบา้ นทมี่ ชี อ่ื ผ้ตู าย (ถ้าม)ี • สำเนาบนั ทกึ ประจำวันสถานตี ำรวจ (ถ้าม)ี • หนังสอื ชนั สตู รศพจากสถาบนั นิติเวช (กรณตี ายผิดธรรมชาต)ิ ใบมรณบตั รมี 2 สว่ น คือ ส่วนที่ 1. (ต้นฉบับ) จะต้องนำมาทำสำเนา โดยอาจทำท่ีสำนักทะเบียนท้องถ่ินที่ออกใบมรณบัตรให้ เพ่ือให้เจ้าหน้าที่ทะเบียนได้รับรองเอกสารด้วย จะได้ไม่เกิดปัญหาในภายหลัง แล้วนำสำเนาไปมอบให้กับ ทางวดั เกบ็ ไว้เปน็ หลักฐานพรอ้ มกับแจ้งช่อื และสถานท่ีติดต่อของเจ้าภาพ สว่ นที่ 2. จะตอ้ งนำไปแสดงตอ่ สำนกั ทะเบยี นทอ้ งถนิ่ ทผี่ เู้ สยี ชวี ติ มภี มู ลิ ำเนาอยู่ พรอ้ มกบั นำทะเบยี นบา้ น ท่ีมีชื่อผู้เสียชีวิตไปด้วย เพ่ือจำหน่ายช่ือออกจากทะเบียนบ้าน โดยระบุว่าเสียชีวิตแล้วเม่ือใด ท้ังน้ีต้องแจ้งให้ เจา้ หน้าท่ที ราบภายใน 15 วนั 23 www.kalyanamitra.org
2.5 การจดั พธิ ีรดนำ้ ผูล้ ะสงั ขาร หากผู้ละสังขารเป็นผู้ใหญ่ของตระกูลและบ้านมีอาณาบริเวณกว้างขวางเพียงพอ อาจจัดสถานที่ สำหรับพิธีรดน้ำศพท่ีบ้านก็ได้ หรือจัดพิธีรดน้ำศพและบำเพ็ญกุศลที่วัด โดยติดต่อกับเจ้าหน้าท่ีของวัด เพ่อื เตรยี มการ ดงั น้ ี 2.5.1 สถานท่ีรดนำ้ ผูล้ ะสังขาร โตะ๊ หมู่บูชา • ทำความสะอาดพระพทุ ธรูปดว้ ยผา้ สะอาด จากนน้ั จงึ ทำความสะอาดเคร่ืองประกอบโต๊ะหมู ่ • ต้ังโต๊ะหมไู่ ว้ดา้ นศรี ษะของรา่ งผูล้ ะสงั ขาร หนั หน้าไปทางทิศใดทศิ หนงึ่ ยกเว้นทิศตะวันตก (ดคู วามเหมาะสมของสถานท่เี ป็นหลัก) • ต้ังโต๊ะหมูไ่ วส้ งู กว่าเตยี งรองรา่ งผลู้ ะสังขารพอสมควร • จัดเครือ่ งสักการบชู าใหป้ ระณีตท่ีสดุ (ดอกไม้ ธปู เทยี น) ที่ตงั้ เตยี งรองรา่ งผู้ละสังขาร • ตง้ั ก่งึ กลางบริเวณพน้ื ทกี่ ว้าง โดยตั้งไว้ดา้ นซ้ายของโต๊ะหมบู่ ูชา • หนั ด้านขวามอื หรอื ดา้ นปลายเทา้ ของผลู้ ะสงั ขารให้ชี้ไปยงั ผู้มาแสดงความเคารพ 24 www.kalyanamitra.org
• ไมค่ วรเดนิ ผ่านศีรษะของรา่ งผลู้ ะสงั ขาร • จัดร่างใหน้ อนหงายเหยียดยาว แขนและมือขวาเหยียดออกหา่ งจากลำตัวเลก็ น้อย โดยให้วางมอื หงายแบเหยยี ดออกคอยรบั การรดนำ้ อาจนำพวงมาลยั คล้องมือผู้ละสังขารไวก้ ไ็ ด้ • ใช้ผ้าแพรสที องคลุมปิดร่างไว้ท้ังหมด เปดิ เฉพาะใบหนา้ และมือขวาของรา่ งเทา่ น้นั • จัดเตรยี มขันโตกหรอื ขันน้ำพานรองขนาดใหญ่ตงั้ ไว้คอยรองรบั น้ำที่รดศพ พร้อมทั้งเตรียมนำ้ อบ น้ำหอม และขนั หรือถว้ ยใบเลก็ สำหรบั ตักนำ้ ให้แก่ผูม้ ารดน้ำ 2.5.2 พธิ ีกรรมชว่ งรดน้ำศพ วธิ ปี ฏิบัติเก่ียวกับการรดน้ำศพ มีดังน้ี ศพคฤหสั ถ์ • หากเป็นศพผมู้ อี าวุโสกว่าตน ผู้รดน้ำควรนั่งคกุ เข่าแล้วน้อมตัวลงยกมอื ไหว้ พรอ้ มกับนกึ ขอขมาลาโทษต่อศพนน้ั • ถือภาชนะสำหรับรดน้ำดว้ ยมือทง้ั สอง เทรดลงทฝี่ ่ามอื ขวาของศพ • รดน้ำศพเสร็จแลว้ นอ้ มตัวลงยกมอื ไหว้ พร้อมกับนกึ อธษิ ฐานวา่ “ขา้ พเจา้ ขออุทศิ บญุ ท่ไี ดเ้ คยทำมาแด่ทา่ น และพรอ้ มกับบญุ ทท่ี า่ นส่ังสมมาดีแลว้ ขอท่านจงไปสู่สุคติเถดิ ” 25 www.kalyanamitra.org
ศพพระภิกษุหรอื สามเณร (เรียกว่าสรงนำ้ ศพ) • สุภาพบุรุษนงั่ คุกเข่าในทา่ เทพบุตร (ตง้ั ฝ่าเท้าชนั ขึ้นแล้วนัง่ ลงบนสน้ ในขณะที่ปลายเท้าจรดพน้ื ) สว่ นสภุ าพสตรีนั่งทา่ เทพธิดา (คกุ เขา่ โดยฝ่าเทา้ ราบไปกับพื้น) กราบ 3 ครั้ง พรอ้ มกับนกึ น้อมขอขมาลาโทษ • ถอื ภาชนะสำหรบั รดนำ้ ดว้ ยมือทั้งสอง เทน้ำรดลงท่ีฝ่ามอื ของศพ • กราบ 3 ครั้ง 2.6 การบรรจุรา่ งลงหบี หลังเสร็จพิธีรดน้ำผู้ละสังขารแล้ว จะเป็นการบรรจุร่างลงหีบ ซ่ึงเป็นหน้าท่ีของสัปเหร่อที่จะทำตาม ประเพณขี องทอ้ งถ่ิน โดยเจ้าภาพจะคอยอำนวยความสะดวก 26 www.kalyanamitra.org
3h h การจัดงานบำเพ็ญกศุ ล www.kalyanamitra.org
3. การจัดงานบำเพญ็ กุศล การจัดงานบำเพ็ญกุศลน้ันควรเป็นไปเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ท้ังผู้ละสังขารและญาติมิตร ท่ียังมีชีวิตอยู่ คือเป็นทางมาแห่งบุญกุศลสำหรับดวงวิญญาณของผู้ละโลก และญาติมิตรผู้ร่วมบำเพ็ญบุญ สามารถคลายความเศร้าโศก และนำมาซึ่งมรณสติ ทำให้ทุกคนเป็นผู้ไม่ประมาทในการดำเนินชีวิต ก่อให้เกิด สติปัญญา สร้างแรงบันดาลใจในการสั่งสมบุญบารมี เพ่ือเตรียมพร้อมรับความตายท่ีอาจมาถึงตนได้ทุกเม่ือ เชน่ กัน การเตรยี มงานมหี ลายดา้ นด้วยกนั คอื 28 www.kalyanamitra.org
3.1 การเตรียมความพร้อมดา้ นต่างๆ สถานที่สำคัญและอปุ กรณ์เครือ่ งใชท้ ่ตี อ้ งเตรยี มไว้ คอื 3.1.1 ศาลาวดั การจองศาลาของวัดเพ่ือจัดงานบำเพ็ญกุศล ควรเป็นวัดที่ญาติมิตรสามารถเดินทางไปมาได้สะดวก ขนาดของศาลาควรพอเหมาะกบั จำนวนแขกที่จะมาร่วมงาน โต๊ะหมู่บชู าพระพทุ ธ • ตั้งไว้ทางดา้ นศรี ษะของศพ หนั หนา้ ไปทางทิศใดทศิ หนง่ึ ตามความเหมาะสมของสถานท่ี ยกเว้นทิศตะวันตก และใหอ้ ยู่ทางด้านหวั ของอาสนะสงฆ์ สูงกวา่ อาสนะสงฆ์และทต่ี ั้งศพพอสมควร จากนน้ั อัญเชญิ พระพุทธรูปทม่ี ขี นาดพอเหมาะมาประดิษฐานไว้ • จัดดอกไมบ้ ชู าพระ ตง้ั เทียนหน่งึ คแู่ ละธูปสามดอก โดยใช้ยาหมอ่ งปา้ ยไส้เทยี นและยอดของดอกธปู เพอื่ ให้จุดติดไฟงา่ ย • เตรยี มเทียนชนวนอีกหนึ่งเลม่ พรอ้ มไฟแชก็ ทดสอบดใู หแ้ น่ใจว่าสามารถจุดติดไดโ้ ดยง่าย • หากบริเวณโต๊ะหมู่บูชามีพดั ลมหรอื บานหน้าตา่ ง ใหป้ ดิ ลงเพอ่ื ป้องกันลมพัดเปลวไฟดับ 29 www.kalyanamitra.org
อาสนะสงฆ ์ ควรยกข้นึ ใหส้ ูงจากพ้ืนประมาณ 1 ศอก โดยจัดตั้งไวด้ า้ นซ้ายของโต๊ะหมบู่ ูชา ตู้พระธรรม • จดั ต้ังตู้พระอภิธรรมไว้บนอาสนะสงฆ์ ข้างประธานสงฆผ์ ูน้ ำสวดโดยต้งั อยู่บนโต๊ะ สงู เหนอื ระดบั อาสนะสงฆเ์ ลก็ น้อย • นำเล่มใบลานหรอื บนั ทกึ พระธรรมมาวางบนตู้ จัดดอกไมบ้ ูชาอย่างสวยงาม เตรียมเทียนตง้ั ไวห้ น่งึ คู่ และธูปสามดอก ปา้ ยไส้เทียนและยอดของดอกธปู ด้วยยาหมอ่ ง เพ่อื ให้จดุ ตดิ ไฟงา่ ย เตรียมเทยี นชนวนหนง่ึ เลม่ พร้อมไฟแช็ก ทดสอบดใู ห้แนใ่ จวา่ สามารถจุดตดิ ไดโ้ ดยงา่ ย • โตะ๊ รองเครอื่ งสกั การบูชานน้ั ไมน่ ิยมใช้โตะ๊ รองที่สงู มากนักเพราะอาจบังพระสงฆ์ ไม่ควรตำ่ มากนกั ซึ่งจะดูไม่เหมาะสม 30 www.kalyanamitra.org
ท่ีต้ังศพ • ต้งั หนั ดา้ นศีรษะของศพไปทางโต๊ะหมูบ่ ชู า โดยให้ตำ่ กว่าโตะ๊ หมู่บูชา และห่างจากข้างฝาประมาณ 1 ศอก เป็นอย่างน้อย เพอ่ื ใหเ้ ดินไดส้ ะดวก (ไมค่ วรเดินด้านศรี ษะของศพ) • หลังที่ต้ังศพ ถ้าข้างฝาไม่สะอาด ใหใ้ ชผ้ ้าม่านขึงปิดไว้เพอื่ ความเรยี บรอ้ ยสวยงาม และใช้แขวนพวงหรีดไดอ้ กี ดว้ ย • ดา้ นหน้าศพใหเ้ ตรยี มดอกไม้ กระถางธูปขนาดใหญ่ พร้อมตะเกียงเลก็ หรอื เทยี นชนวน และธูปจำนวนมากสำหรบั ผู้มาเคารพศพ โดยปักธูปขนาดใหญ่ไวก้ ลางกระถาง ที่ตง้ั รปู ถ่าย • ใชร้ ูปขนาดใหญพ่ อควร ใสก่ รอบใหเ้ รยี บรอ้ ย (หากไม่ใสก่ ระจกอาจใช้วิธีเคลือบแทนได)้ • ตงั้ ไว้ดา้ นเท้าของศพ ขา้ งเคร่ืองตัง้ ศพ ทนี่ ั่งสำหรบั ผู้มารว่ มงาน จัดเรียงอย่างเป็นระเบียบ พอเหมาะกับจำนวนผู้มาร่วมงาน สำหรับประธานในพิธีหรือแขกสำคัญ อาจจัดเป็นเก้าอี้ชุดพิเศษหรือโซฟา ที่มีโต๊ะเล็กวางด้านหน้า เพ่ือวางภาชนะสำหรับกรวดน้ำ นอกจากน ้ี ใหเ้ ตรียมโต๊ะไว้หนา้ งานหนึ่งตัว สำหรบั ต้อนรบั แขก ลงชอ่ื และรับของท่ีระลกึ ด้วย 31 www.kalyanamitra.org
กำหนดการงานสวดพระอภิธรรม ระบุชื่อผู้ละสังขาร พร้อมแจ้งช่ือประธาน และกำหนดงานฌาปนกิจ (สลายร่าง) บนกระดานที่ทางวัด เตรียมไว้หน้าศาลา (อาจเตรียมชอล์ก หรือปากกาเขียนกระดานแบบลบออกได้มาให้พร้อม เพราะบ่อยคร้ัง ที่หมกึ ไมพ่ อ เขียนแล้วอ่านไมช่ ดั เจน) ตวั อย่างขอ้ ความบนกระดาน ************************ งานสวดพระอภธิ รรม นางไปดี มีสุข ************************ เวลา 18.00 น. เริม่ พธิ ี 18.00 – 18.30 น. คณะสงฆ์สวดพระอภิธรรม 18.30 – 19.00 น. พักรับประทานอาหาร วันท ี่ เจ้าภาพ จันทร ์ 10 มกราคม 2552 นายพล เมอื งด ี อังคาร 11 มกราคม 2552 นางบุญ อมุ้ ช ู พุธ 12 มกราคม 2552 นายสขุ สบาย มีอายุ พฤหสั บด ี 13 มกราคม 2552 ครอบครวั สวรรค ์ ศกุ ร์ 14 มกราคม 2552 ฌาปนกิจ 32 ************************************************************************ www.kalyanamitra.org
เคร่อื งใช้อืน่ ๆ ในพธิ ีศพ • ผา้ ภูษาโยง 2 ผืน • ดา้ ยสายสิญจน์ 2 มว้ น • เครอ่ื งทองนอ้ ย 2 ท่ี ที่หนึง่ จดั ต้งั ไว้ทโ่ี ตะ๊ เครอ่ื งตง้ั หน้าศพ อกี ท่หี น่งึ สำหรบั ประธาน • ภาชนะสำหรับกรวดนำ้ อยา่ งนอ้ ย 2 ท่ี (เติมนำ้ ใหเ้ ต็มและอาจผสมน้ำอบไทย) • เครื่องเคารพศพสำหรบั ประธานในพิธี 1 ชดุ ประกอบดว้ ย กระถางธปู 1 ใบ ปกั ธูป 1 ดอก เชงิ เทยี น 1 คู่ พร้อมเทียน 2 เลม่ แจกัน 1 ค่พู ร้อมดอกไม้ • โต๊ะรองกราบ 1 ท่ี สำหรับประธานกราบ 3.1.2 ด้านอาหาร เตรียมอาหารและเครื่องด่ืมเพื่อเลี้ยงแขกที่มาร่วมงาน เช่น ข้าวต้มทรงเครื่อง ข้าวต้มปลา ก๋วยเตี๋ยว ก๋วยจั๊บ หรือถ้าต้องการความสะดวก อาจส่ังอาหารชุดเป็นกล่องท่ีบรรจุน้ำผลไม้และขนม มีกระดาษเช็ดปาก และชอ้ นส้อมพลาสติกเตรยี มเอาไว้ พร้อมรบั ประทาน 33 www.kalyanamitra.org
3.1.3 ด้านบุคคล จดั สรรกำลงั คนทั้งจากญาติมิตรหรืออาสาสมัครเพ่ือรองรบั งานฝา่ ยต่าง ๆ เช่น ฝา่ ยตอ้ นรับ ประจำอยู่ท่ีโตะ๊ ดา้ นหน้างาน เตรียมกระดาษ ปากกา ซองช่วยงาน ของทีร่ ะลึก นำแขกเข้าส่ทู ่ีนงั่ ฝ่ายอาหาร เตรียมน้ำด่มื และอาหารไว้รบั รองแขก ช่างภาพ บันทึกภาพนิง่ หรือภาพเคลือ่ นไหวตลอดงาน ฝา่ ยสถานท ่ี อำนวยความสะดวกด้านเกา้ อ้ี ทีว่ างหรอื แขวนพวงหรีด ที่จอดรถ หอ้ งนำ้ เครื่องเสยี ง ให้เป็นไปด้วยความเรยี บร้อย ฝ่ายพิธีกรรม เตรยี มบทพูดสำหรับงานสวดพระอภิธรรม เตรียมอุปกรณป์ ระกอบพิธกี รรมใหพ้ ร้อม รวมถงึ ผา้ บังสกุ ุล ปจั จยั ไทยธรรม และดอกไม้ สำหรบั ถวายพระสงฆผ์ ู้สวดพระอภิธรรม เตรยี มน้ำปานะ เช่น นำ้ ดม่ื นำ้ ชา หรอื นมกลอ่ ง สำหรบั เล้ียงพระสงฆ์ 3.1.4 ธรรมะ ควรมีการนิมนต์พระมาแสดงธรรมในงานสวดพระอภิธรรม เพ่ือให้ญาติมิตรมีโอกาสได้ฟังธรรม อาจแสดงธรรมเรื่องความหมายของพระอภิธรรมด้วย เพ่ือให้ญาติโยมเกิดความรู้ความเข้าใจ และของที่ระลึก ในงานบำเพญ็ กุศลควรเป็นหนงั สือธรรมะ หรือหนังสือสวดมนต์ (การให้ธรรมทานชนะการให้ทั้งปวง) 34 www.kalyanamitra.org
3.2 ขอ้ ห้ามสำหรบั การจัดงานศพ เจ้าภาพและผู้ร่วมงานไม่ควรดื่มสุราและสิ่งเสพติดทุกชนิด ไม่ควรฆ่าสัตว์ทำอาหารเล้ียงแขก หรอื เลน่ การพนนั แตค่ วรรักษาศีลให้บรสิ ุทธ์ิ นอกจากนี้ยงั ไมค่ วรจดั การแสดงหรือการละเล่นใด ๆ ทจ่ี ะรบกวน การบำเพญ็ สมณธรรมของพระภกิ ษสุ งฆ์ภายในวดั 3.3 การสวดพระอภิธรรมในแตล่ ะคนื การสวดพระอภิธรรม จัดได้ตั้งแต่วันที่ต้ังศพเป็นต้นไปทุกคืน จนถึงวันฌาปนกิจ ระหว่างน้ีถ้า ผู้ละสังขารเป็นที่เคารพนับถือของคนทั้งหลาย ก็ควรเปิดโอกาสให้ผู้อื่นได้รับจองเป็นเจ้าภาพบำเพ็ญกุศลด้วย ความมุ่งหมายก็เพื่อใหเ้ จ้าภาพมีโอกาสไดฟ้ ังธรรมและสนทนาธรรมตามสมควร จะสวด 3 คืน 7 คืน หรือทุกคืน จนถงึ วนั ฌาปนกจิ ก็ได้ เมอื่ พระสวดประจำคืนเสรจ็ แล้วจะนมิ นตฉ์ ันเช้ากไ็ ด้สดุ แต่ความสะดวก 3.3.1 ส่ิงที่ตอ้ งเตรียม จัดสถานที่สำหรับคณะสงฆ์สวดพระอภิธรรม จำนวน 4 รูป ตั้งตู้พระอภิธรรมไว้ที่หัวแถว พร้อมด้วย แจกันดอกไม้ 1 คู่ เชิงเทียน 1 คู่ กระถางธูป 1 ที่ อาสนะสำหรับพระน่ัง 4 ท่ี พร้อมตาลปัตร 4 ด้าม เตรียมผ้าภูษาโยง สายสิญจน์ และผ้ารบั ประเคน นำ้ รอ้ น น้ำชา หรือนำ้ ปานะถวายพระ 35 www.kalyanamitra.org
3.3.2 ลำดบั พิธีในการสวดพระอภธิ รรม (ก) เม่อื ถงึ เวลาใหน้ มิ นตพ์ ระนั่งประจำท่ี (พิธกี รนำกราบ 3 ครั้ง) (ข) พิธกี รเรียนเชิญเจ้าภาพจุดเทียนธูปเครื่องสักการบชู าตามลำดบั ดงั น ี้ (ข1) ที่โต๊ะหมูบ่ ูชาพระพุทธรปู • จดุ เทียนธูปแล้วส่งเทียนชนวนคืนพิธีกร ลำดบั การจุดเร่มิ จาก เทียนเล่มซา้ ยมือ เทียนเลม่ ขวามือ ธูปดอกซา้ ยมือ ธปู ดอกกลาง และธูปดอกขวามอื ตามลำดับ • นงั่ คุกเข่าประนมมือ (กล่าวบชู าพระรัตนตรัยแลว้ กราบ 3 ครง้ั ) (ข2) ที่โตะ๊ บชู าพระธรรม • จุดเทยี นธปู แลว้ ส่งเทียนชนวนคนื พิธกี ร ลำดับการจุดเริ่มจาก เทียนเล่มซ้ายมือ เทียนเล่มขวามอื ธูปดอกซา้ ยมอื ธูปดอกกลาง และธูปดอกขวามือ ตามลำดบั • น้อมตัวลงยกมือไหว้ (กรณจี ดั ทกี่ ราบซง่ึ เป็นชั้นลด ใหน้ ง่ั คกุ เข่าและกราบท่ชี ้นั ลดนนั้ 36 www.kalyanamitra.org
(ข3) ท่โี ต๊ะเครอ่ื งต้งั หน้าศพ • จุดเทียน 1 คู่ ธปู 1 ดอก • นัง่ คกุ เขา่ ประนมมอื จดุ ธปู และยกธปู ขนึ้ จบบชู าศพ โดยปลายนิ้วชจ้ี รดระหว่างค้ิวพรอ้ มกบั กลา่ วขอขมาศพแล้วปักธปู ไว้ ณ กระถางธปู กรณีท่มี พี ิธีกรหรอื เจา้ หนา้ ท่ี เตรยี มเคร่อื งสกั การบชู า (เทียน 1 คู่ และธปู 1 ดอก) ไว ้ ใหผ้ ู้จุด คือ ประธานหรอื เจา้ ภาพ รับเทยี นชนวนจากพิธกี ร เจา้ ภาพจดุ เครือ่ งสกั การบูชานั้น ส่งเทียนชนวนคืนพิธีกรแล้วกราบ 1 คร้งั โดยไม่แบมือ (ศพฆราวาส) สำหรบั ศพพระภกิ ษสุ ามเณรใหก้ ราบ 3 คร้ัง จากน้นั กลับไปยงั ทนี่ ง่ั (ข4) ลำดับขัน้ ตอนพธิ ตี อ่ ไป • พิธีกรนำอาราธนาศลี เจา้ ภาพรบั ศลี จบแลว้ กราบ 3 ครง้ั • พธิ ีกรอาราธนาธรรม • พระสงฆเ์ ริม่ สวดพระอภธิ รรมต่อไป (หากมกี ารแสดงธรรม ควรดำเนนิ การกอ่ นสวดพระอภิธรรม) 37 www.kalyanamitra.org
• เมือ่ ถงึ เวลาเลกิ สวดประจำคนื พระสวดอภิธรรมจบสุดท้ายแล้ว พธิ กี รเชญิ เจา้ ภาพถวายไทยธรรม 38 • พธิ กี รทอดผ้าภูษาโยงหรือดา้ ยสายสญิ จน์ เจ้าภาพทอดผา้ บงั สกุ ุล • พระสงฆพ์ จิ ารณาผา้ บังสกุ ุล • พิธีกรเกบ็ ผา้ ภษู าโยงหรอื ดา้ ยสายสญิ จน์ • พธิ ีกรเชญิ เจ้าภาพถวายปจั จยั และไทยธรรม • พิธีกรเตรยี มภาชนะกรวดนำ้ สำหรับเจา้ ภาพ • พระสงฆ์อนโุ มทนาและให้พร • เจ้าภาพกรวดนำ้ • พิธีกรนำกราบคณะสงฆ์ • คณะสงฆเ์ ดนิ ทางกลบั • คณะเจ้าภาพและหมู่ญาตถิ ่ายรูปเป็นท่ีระลึก • เสร็จพธิ ี www.kalyanamitra.org
3.3.3 ลำดบั พธิ ีกรรมในวนั ฌาปนกิจ พิธีสวดถวายพรพระ • รุง่ ขึ้นเวลาใกล้เพล คณะสงฆ์นง่ั บนอาสนะสงฆ ์ • เจ้าภาพจุดเครอ่ื งสกั การบชู าพระรัตนตรยั และเคารพศพ • พิธีกรนำอาราธนาศลี ผู้รว่ มพธิ รี บั ศีล พระสงฆส์ วดถวายพรพระ • ถวายภัตตาหารเพล ถวายเครื่องไทยธรรม • พระสงฆอ์ นุโมทนา เจ้าภาพกรวดนำ้ พิธสี วดมาตกิ าบงั สกุ ลุ • คณะสงฆ์น่ังบนอาสนะสงฆ ์ • เจา้ ภาพจุดเทียนธูปเครื่องสักการบชู า • พระสงฆ์สวดมาตกิ า • ฝา่ ยเจ้าภาพรว่ มกันถวายไทยธรรม • พธิ กี รทอดผา้ ภูษาโยงหรอื ดา้ ยสายสิญจน์ • ฝา่ ยเจา้ ภาพรว่ มกนั ทอดผา้ บงั สกุ ลุ (วางทบั ไวบ้ นผา้ ภษู าโยงหรอื สายสญิ จนด์ า้ นหนา้ พระสงฆแ์ ลว้ ปลอ่ ยมอื ) เสรจ็ แล้วจะกลับไปน่งั ทีเ่ ดิมหรือนัง่ ข้างหน้าคณะสงฆก์ ไ็ ด้ ประนมมือฟงั พระสงฆก์ ล่าวคำพิจารณาผา้ บังสกุ ลุ • คณะสงฆอ์ นุโมทนา เจ้าภาพกรวดนำ้ 39 www.kalyanamitra.org
3.3.4 บทพูดสำหรับผู้ทำหน้าทพ่ี ิธีกร (1) แจ้งกำหนดการ “ เรยี น ท่านผมู้ เี กยี รตทิ กุ ทา่ น กำหนดการ พิธบี ำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรม ของ คุณเก่งบญุ วมิ านสวา่ ง มีรายละเอยี ดขัน้ ตอนของงานดงั ตอ่ ไปน ี้ 17.30 น. คณะสงฆ์สวดพระอภิธรรม เดนิ ทางมาถงึ หลังจากนั้นประธานในพธิ ี จดุ เทยี นธูปบชู าพระรัตนตรยั และจุดเทยี นธูปบูชาพระธรรม สำหรบั ท่านประธานในพิธวี ันน้ี คอื คณุ ............ จะเปน็ ผ้จู ุดเทยี นธปู บูชาพระรตั นตรัย และคุณ...........จะเป็นผู้จุดเทียนธูปบูชาพระธรรม ตอ่ จากนน้ั พธิ ีกรจะนำทุกทา่ นบูชาพระรตั นตรยั อาราธนาศลี และอาราธนาธรรม คณะสงฆ์สวดพระอภิธรรม 1 จบ เสร็จแลว้ ท่านเจ้าภาพทอดผ้าบังสุกลุ และถวายเครอื่ งไทยธรรม เมอ่ื ถวายเครื่องไทยธรรมเสรจ็ แลว้ คณะสงฆใ์ หพ้ ร พิธีกรรมในวันนีจ้ ะเสร็จในเวลาประมาณ ............. น. ครับ” 40 www.kalyanamitra.org
(2) กล่าวตอ้ นรบั และกราบขอบพระคณุ พระผู้ใหญ่ (ถ้าม)ี ในขณะนนั้ คณะพระเถระกำลงั เดนิ มานั่งทีจ่ ดุ รับรองหรืออาจจะน่งั เรยี บร้อยแลว้ “ ในวันน้ีได้รับความเมตตาจาก…(นามของพระผู้ใหญ่)…ได้เดินทางมาร่วมในพิธีบำเพ็ญกุศล สวดพระอภธิ รรมของ คณุ .......... (บางกรณีเรยี กคุณพ่อ คุณแม่) ขอเรียนเชิญสาธุชนทุกท่าน ประนมมือข้ึน เพ่ือแสดงความเคารพพระเดชพระคุณ………… และคณะพระเถรานุเถระ (หรือใช้คำว่า และคณะสงฆ)์ โดยพร้อมเพรียงกันนะครบั คณะกรรมการจัดงานขอกราบขอบพระคุณในความเมตตาของพระเดชพระคุณท่าน และคณะ พระเถรานุเถระทุกรปู ดว้ ยความเคารพอยา่ งสงู ครบั ” (ถวายน้ำด่มื แดค่ ณะสงฆ์) (3) เม่อื ใกลจ้ ะเรมิ่ พิธี อาจแจ้งกำหนดการอกี ครง้ั และเชญิ ชวนเจา้ ภาพหาทนี่ ัง่ “แขกผ้มู เี กียรตทิ ุกทา่ นครับ... อีกสกั ครู่ พิธบี ำเพญ็ กุศล สวดพระอภธิ รรมกำลงั จะเร่มิ ขึน้ ท่านใดทเี่ พ่งิ เดนิ ทางมาถงึ ขอเชญิ ไดห้ าทีน่ ่งั ให้เรยี บรอ้ ยนะครบั ” 41 www.kalyanamitra.org
(4) คณะสงฆส์ วดพระอภธิ รรมมาถึงศนู ยก์ ลางพธิ ี พิธกี รนำกราบพระประธาน “ขณะน้ี คณะสงฆ์สวดพระอภิธรรม ได้เดินทางมาถึงศูนย์กลางพิธีแล้ว อีกสักครู่จะได้ประกอบพิธี บำเพ็ญกศุ ล สวดพระอภิธรรมเปน็ ลำดับตอ่ ไป” (รอจนคณะสงฆ์สวดพระอภิธรรม กราบพระประธาน และนง่ั เรียบร้อยแลว้ จึงพูดต่อ) “ขอเรียนเชญิ สาธชุ นทกุ ท่าน นัง่ คุกเข่าประนมมอื ตง้ั ใจกราบ (ช่อื ของพระเถรานุเถระทม่ี าร่วมงาน / ถ้ามี) และคณะสงฆโ์ ดยพร้อมเพรียงกันนะครับ” (กราบ 3 คร้ัง) (5) ประธานจดุ เทยี นธปู บูชาพระรัตนตรยั และจุดเทยี นธปู บูชาพระธรรม “เรียนเชิญ………………ไดจ้ ุดเทียนธปู บชู าพระรตั นตรัย ขอเรยี นเชิญครับ” (เมื่อจุดเสร็จแล้วให้เจ้าภาพเดินกลับสักระยะหนึ่งก่อน แล้วค่อยเชิญคนต่อไปโดยไม่ต้องรอให้เขากลับมานั่งที่ ท้ังนเี้ พอื่ ใหพ้ ธิ กี รรมกระชบั ขึน้ ) “เรยี นเชิญ………………………………………… ได้จุดเทยี นธปู บชู าพระธรรม ขอเรียนเชญิ ครับ” (รอให้เจ้าภาพกลับมาน่งั ในพนื้ ท)ี่ 42 www.kalyanamitra.org
(6) นำบชู าพระรตั นตรยั อาราธนาศลี และอาราธนาธรรม “เรยี นเชญิ สาธุชนทกุ ทา่ น ต้งั ใจกลา่ วคำบูชาพระรัตนตรยั โดยพรอ้ มเพรียงกันนะครบั อะระหัง สัมมาสัมพทุ โธ ภะคะวา, พทุ ธัง ภะคะวนั ตงั อะภวิ าเทมิ (กราบ) สวากขาโต ภะคะวะตา ธมั โม, ธัมมัง นะมะสามิ (กราบ) สปุ ะฏปิ นั โน ภะคะวะโต สาวะกะสงั โฆ, สังฆงั นะมามิ (กราบ) ขอเชญิ ทกุ ทา่ น ตั้งใจอาราธนาศีล 5 โดยพร้อมเพรียงกนั นะครบั มะยัง ภนั เต วิสงุ วิสงุ รกั ขะณตั ถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ, ปญั จะ สีลานิ ยาจามะฯ ทุติยัมปิ มะยงั ภนั เต วิสงุ วสิ ุง รกั ขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ, ปญั จะ สีลานิ ยาจามะฯ ตะติยมั ปิ มะยัง ภันเต วิสงุ วิสงุ รกั ขะณตั ถายะ, ตสิ ะระเณนะ สะหะ, ปัญจะ สีลานิ ยาจามะฯ” (พระให้ศีล , เจ้าภาพและสาธชุ นรับศีลจนจบ) 1. ปาณาติปาตา เวระมะณี, สกิ ขาปะทงั สะมาทิยาม ิ 2. อะทนิ นาทานา เวระมะณ,ี สกิ ขาปะทัง สะมาทิยามิ 3. กาเมสมุ ิจฉาจารา เวระมะณี, สิกขาปะทัง สะมาทยิ ามิ 4. มุสาวาทา เวระมะณี, สิกขาปะทงั สะมาทิยามิ 5. สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี, สิกขาปะทงั สะมาทยิ าม ิ 43 www.kalyanamitra.org
หลงั จากพระใหศ้ ลี จบด้วยคำว่า “สีลัง วิโสธะเย…..” พิธกี รรบั ด้วยคำวา่ “สาธุ” แล้วนำกราบ 3 ครง้ั ลำดบั ตอ่ ไป พธิ ีกรกล่าวอาราธนาธรรม พรัมมา จะ โลกาธปิ ะตี สะหัมปะต ิ กตั อญั ชะลี อันธวิ ะรงั (อ่านวา่ อันนะธวิ ะรัง) อะยาจะถะ สันตธี ะ สัตตาปปะระชกั ขะชาตกิ า เทเสตุ ธมั มัง อะนุกัมปมิ ัง ปะชังฯ (เจา้ ภาพและสาธุชนเปลย่ี นเป็นนงั่ พับเพียบ) ***คณะสงฆส์ วดพระอภธิ รรม 1 จบ หรอื มากกว่า 1 จบ ตามแตน่ ดั หมาย*** (7) ทา่ นเจา้ ภาพทอดผา้ บังสกุ ุล พิธีกรกล่าว “ลำดับต่อไป ขอเชิญท่านเจ้าภาพคือ 1.คณุ .... 2.คณุ ... 3.คุณ… 4.คณุ … ไดท้ อดผา้ บงั สุกลุ ในโอกาสนคี้ รบั 44 www.kalyanamitra.org
เมื่อมาถึงดา้ นหน้าอาสน์สงฆ์แลว้ ขอให้ทุกท่านนงั่ ใหต้ รงกบั ตำแหนง่ ดา้ นหนา้ ของคณะสงฆน์ ะครับ ลำดบั ตอ่ ไปขอให้ทุกทา่ นไดท้ อดผ้าพรอ้ ม ๆ กนั โดยวางผา้ ตามแนวยาวไว้บนผ้าภูษาโยง (หรือสายสิญจน์) ด้านหนา้ คณะสงฆ์ และเม่อื ทกุ ทา่ นทอดผา้ เรียบรอ้ ยแลว้ กราบนมิ นต์คณะสงฆพ์ ิจารณาผา้ บงั สกุ ุลครับ” หากเจา้ ภาพชดุ เดียวกนั นเ้ี ป็นผถู้ วายไทยธรรมดว้ ย ใหก้ ล่าวต่อว่า “หลังจากนนั้ จะได้เรยี นเชิญทา่ นเจ้าภาพ ถวายเครือ่ งไทยธรรมเปน็ ลำดบั ต่อไป” เมื่อทา่ นเจ้าภาพพรอ้ ม พิธีกรกล่าว “เรยี นเชิญทุกทา่ นไดท้ อดผา้ บังสกุ ุลในโอกาสนคี้ รับ” เม่อื เจ้าภาพทอดผา้ เสรจ็ คณะสงฆ์ต้งั พดั แลว้ พจิ ารณาผ้าบังสกุ ุล หากเปล่ยี นเจา้ ภาพชดุ ใหมเ่ พื่อถวายไทยธรรม กล่าวดังตอ่ ไปน ้ี “ขอเรียนเชญิ ทา่ นเจ้าภาพไดก้ ลับเข้าทนี่ ่ัง และขอเรยี นเชญิ ทา่ นเจ้าภาพถวายไทยธรรม คอื 1.คุณ.... 2.คุณ... 3.คณุ … 4.คุณ… 45 ไดเ้ ขา้ ประจำพนื้ ท่ดี ้านหน้าอาสนะสงฆ์ เพ่ือเตรียมถวายไทยธรรมครบั ขอเรียนเชญิ ครับ” www.kalyanamitra.org
(8) ถวายเคร่อื งไทยธรรม “ในการถวายเครื่องไทยธรรม ขอให้ทุกท่านรอฟังสัญญาณเพ่ือน้อมนำเคร่ืองไทยธรรมถวายแด ่ คณะสงฆ์พร้อม ๆ กันนะครับ เมื่อถวายเรียบร้อยแล้ว เรียนเชิญทุกท่านได้นั่งรอในพื้นที่ด้านหน้าอาสนะสงฆ์ เพ่ือรอรบั พรจากคณะสงฆ์เป็นลำดบั ตอ่ ไป” เมอ่ื ทา่ นเจา้ ภาพพรอ้ ม “ขอเชิญทกุ ทา่ น ได้ถวายเคร่อื งไทยธรรมแดค่ ณะสงฆ์ ในโอกาสนี้ครบั …สาธ”ุ “เรยี นเชญิ ทกุ ทา่ น ไดเ้ ตรยี มกายวาจาใจใหใ้ สสะอาดบรสิ ทุ ธ์ิ เพอื่ รอรบั พร จากคณะสงฆเ์ ปน็ ลำดบั ตอ่ ไป” คณะสงฆ์ใหพ้ ร ทา่ นเจ้าภาพกรวดน้ำ รบั พร พิธีกรกล่าว “สาธ…ุ ” (9) เมื่อสวดเสรจ็ แล้วเปน็ อนั จบพิธี พิธกี รนำกราบคณะสงฆ์ “ ขอเรียนเชญิ ทุกท่าน ต้ังใจกราบคณะสงฆ์ โดยพร้อมเพรยี งกนั (กราบ 3 คร้ัง)” หรือ “ ขอเรียนเชิญทุกท่านตั้งใจกราบ (ช่ือของพระเถรานุเถระท่ีมาร่วมงาน/ถ้ามี) และคณะสงฆ ์ โดยพร้อมเพรยี งกันนะครับ (กราบ 3 ครั้ง)” 46 www.kalyanamitra.org
(10) คณะสงฆ์สวดพระอภิธรรมเดินทางกลับ (กรณพี ระผ้ใู หญ่ เชน่ พระสงฆท์ รงสมณศกั ด์ิ มานำสวดพระอภธิ รรม) เมื่อทา่ นใหพ้ รเสร็จแลว้ พิธีกรนำสาธุชนกราบพระผูใ้ หญ่ก่อน “ขอเรียนเชญิ ทุกทา่ น นง่ั คุกเข่าประนมมอื ต้งั ใจกราบพระเดชพระคณุ ……….และคณะพระเถรานุเถระ โดยพร้อมเพรยี งกัน กราบ… กราบ… กราบ” “ในวันนี้ได้รับความเมตตาจาก………ได้เดินทางมา (ร่วมในพิธีหรือเป็นประธาน) ในพิธีบำเพ็ญกุศล สวดพระอภิธรรมของ............ท่านเจ้าภาพและคณะญาติมิตรท้ังหลาย ขอกราบขอบพระคุณด้วยความเคารพ อย่างสูง และขอกราบอนโุ มทนาบญุ กบั ทา่ นเจ้าภาพและแขกผูม้ เี กยี รติทุกท่านมา ณ โอกาสนี…้ สาธ”ุ (11) ประชาสัมพนั ธแ์ ละขอความรว่ มมือ แจง้ กำหนดการวา่ มีงานบำเพ็ญกุศลวันใดบา้ ง แจง้ กำหนดการงานฌาปนกจิ 47 www.kalyanamitra.org
4h h การจัดงานสลายรา่ ง (ฌาปนกจิ ) www.kalyanamitra.org
4. การจดั งานสลายร่าง (ฌาปนกจิ ) ในการฌาปนกิจศพของผู้ละสังขารน้ัน เมื่อถึงเวลาที่เจ้าภาพกำหนดแล้ว ให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ ฌาปนสถานและออกบัตรเชิญ โดยกำหนดวันเวลาให้ผู้เคารพนับถือทราบทั่วกัน เม่ือเสร็จพิธีบําเพ็ญกุศลแล้ว ต้องเชิญศพไปสู่เมรุ โดยมีพระสงฆ์ชักศพหรือเดินนําหน้าศพ ส่วนบรรดาญาติจะเดินตามหลังศพไปโดยสงบ ยกเว้นญาติสนิทที่จะถือภาพของผู้ละสังขาร และกระถางธูปเดินนำหน้า ริ้วขบวนจะเวียนรอบเมรุเป็น “อุตราวัฏ” คือเวียนซ้ายทวนเข็มนาฬิกา 3 รอบ เมื่อศพผ่านมา ผู้ท่ีน่ังอยู่พึงลุกขึ้นยืนเพ่ือแสดงความเคารพ ต่อศพนั้นด้วย หลังจากต้ังศพแล้วเป็นพิธีกล่าวสดุดีผู้ละสังขาร จากน้ันก่อนประชุมเพลิง เจ้าภาพจะเชิญ แขกผู้ใหญ่ทเ่ี คารพนับถอื เป็นผทู้ อดผา้ มหาบงั สุกุลท่ีหบี ศพ บนสายสญิ จน์หรือบนภษู าโยง ผทู้ อดผ้าคนสุดท้าย เป็นคนจุด “เพลิงศพหลอก” เป็นการขอขมาศพครั้งสุดท้ายก่อนเผาจริง โดยจะมีพระสงฆ์ 4 รูปสวด พระอภธิ รรม หรือทเ่ี รียกวา่ “สวดหนา้ ไฟ” ในช่วงน้ัน แขกที่มาในงานและญาติมิตรจะทยอยกันขึ้นมาเผาศพหรือขอขมาศพด้วยการวาง ดอกไมจ้ นั ทน์ ธปู และเทยี นตามทเ่ี จา้ ภาพเตรยี มไวเ้ ปน็ ชดุ ๆ แลว้ จงึ ลงจากเมรพุ รอ้ มรบั ของทร่ี ะลกึ จากเจา้ ภาพ เม่ือเผาหลอกเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ฌาปนสถานจะเคล่ือนศพไปยังเตาสําหรับเผาจริง ก่อนเผาจริง เจ้าหน้าท่ีเมรุหรือสัปเหร่อจะทุบหรือต่อยมะพร้าวห้าวที่ปอกเปลือกแล้วเพ่ือให้กะลาแตก แล้วนำน้ำมะพร้าว มาล้างหน้าศพก่อน จากนั้นจงึ เคลื่อนโลงศพเขา้ เตาเผา 49 www.kalyanamitra.org
ตัวอยา่ งลำดบั พิธีฌาปนกจิ ศพ 09.00 น. – เชญิ ศพขึ้นต้งั บนศาลาบำเพ็ญกุศล 10.15 น. – นมิ นตพ์ ระสงฆ์ประจำทีน่ งั่ 10.20 น. – เจา้ ภาพจดุ เทียนธูปบูชาพระรัตนตรยั 10.25 น. – อาราธนาพระปริตร 10.30 น. – พระสงฆ์สวดพระพทุ ธมนต ์ 11.00 น. – ถวายภตั ตาหารเพล, ถวายเครือ่ งไทยธรรม, พระสงฆอ์ นโุ มทนา 12.00 น. – เลี้ยงอาหารกลางวันแกญ่ าตมิ ิตรและแขกทมี่ าในงาน 14.00 น. – นมิ นต์พระเทศนข์ ้ึนพกั บนอาสนะสงฆ ์ 14.05 น. – เจ้าภาพจุดเทียนธปู บูชาพระรัตนตรัย เทียนกัณฑ์เทศน์ และเทยี นธูปหนา้ ศพ 14.10 น. – อาราธนาศีล และอาราธนาธรรม (เทศน์ธรรมดาหรือเทศน์แจงกไ็ ด้) – พระสงฆ์แสดงพระธรรมเทศนาจบแล้ว ถวายกัณฑ์เทศน์ 15.00 น. – นมิ นต์พระสงฆ์ 10 รูป (หรอื ตามแตต่ อ้ งการ) ข้นึ อาสนะสงฆพ์ ร้อมกนั – มาติกาบังสุกลุ 15.30 น. – เคลอื่ นศพเวียนรอบเมรุ 3 รอบ พระสงฆ์นำศพ 1 รปู 50 www.kalyanamitra.org
Search