Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บ้าน วัด โรงเรียน

บ้าน วัด โรงเรียน

Published by artitaya916, 2021-01-09 02:53:52

Description: นิสัยรักศีล รักธรรม รักความถูกต้องดีงาม เป็น
บ่อเกิดของสันติสุขภายในใจของมนุษย์ ถ้าใจของ
ทุกคนสามารถเข้าถึงความสงบภายในตนเองได้แล้ว
สันติภาพโลกก็จะเกิดขึ้นเอง

Keywords: บ้าน วัด โรงเรียน

Search

Read the Text Version

101 เปลา่ ไมม่ ีทางสำเร็จ เนื่องจากยังไมม่ แี ผนสำเร็จอยู่ในใจ เลยว่า เม่ือได้กฎหมายมาแล้ว ได้รัฐธรรมนูญมาแล้ว ผลสำเร็จท่ีจะได้รับคืออะไร ตราบใดที่ครูยังไม่มีแผน สำเร็จกถ็ ือว่าตาบอดด้วยกันทั้งคู่ ทแ่ี น่ๆ กค็ ือลูกศษิ ย์จะ ไมไ่ ด้อะไรเลย www.kalyanamitra.org

หน้าทป่ี ระจำทศิ ๖ www.kalyanamitra.org

๑๐. หน้าทีป่ ระจำทิศ ๖ เมอ่ื เข้าใจถงึ ความสำคัญของทศิ ๖ แล้ว เรากต็ ้อง มาดหู น้าที่ประจำทิศต่างๆ ต้ังแตท่ ิศแรก คอื หน้าทีข่ อง พ่อแมท่ พ่ี ึงมตี อ่ ลกู เหตทุ ี่ต้องพดู เรอื่ งพอ่ แม่มากหน่อยก็ เพราะว่าความบกพร่องในหน้าท่ีของพ่อแม่ก่อให้เกิด ความล้มเหลวของสังคมอยู่ในขณะนี้ หน้าที่ของพ่อแม่ น้นั มีอยู่ ๕ ประการ ได้แก่ www.kalyanamitra.org

104 ๑) ห้ามไมใ่ หท้ ำความชัว่ ๒) ให้ตงั้ อยใู่ นความดี ๓) ให้ศึกษาศิลปวิทยา ๔) หาภรรยาหรือสามที ่ีสมควรให้ ๕) มอบทรพั ยส์ มบัติให้ในเวลาอนั สมควร หน้าที่หลักประการแรก คือ ห้ามลูกไม่ให้ทำ ความช่ัว แต่ก่อนที่จะสามารถห้ามลูกไม่ให้ทำความช่ัว นั้น พ่อแม่ก็ต้องรู้ว่าชั่วกับดีเป็นอย่างไร เพราะฉะน้ัน ตราบใดที่ยังแยกไม่ได้ชัดเจนว่าช่ัวกับดีเป็นอย่างไร อย่า ได้ริไปแต่งงาน อย่าได้อุตริไปมีลูก เพราะลูกท่ีเกิดมาก็ จะโง่เหมอื นพ่อแม่น่ันแหละ และเหตุท่ีพ่อแม่ในสังคมนี้ไม่รู้ว่าดีชั่วเป็นอย่างไร จงึ ไมส่ ามารถทำหน้าที่ข้อ ๒ คือ สอนให้ลกู ทำความดี ยงิ่ ไปกวา่ น้ัน ลึกๆ ในใจยังมีความเห็นผิดวา่ ทำชั่วได้ดมี ี ถมไป กเ็ ลยไมม่ ปี ัญญาไปสอนลูก เม่ือพ่อแม่ไม่ได้ทำหน้าที่ ๒ ข้อแรก จึงมุ่งไปทำ หน้าท่ีในข้อที่ ๓ คือ ต้องการจะให้ลูกเข้าโรงเรียนดีๆ เพ่ือใหค้ รูสอนให้ พ่อแม่มลี กู เพียงหนงึ่ สองหรอื สามคน ยังไม่สามารถสอนลูกของตนเองได้ แล้วจะหวังให้ครูซ่ึง ต้องให้การอบรมดูแลสั่งสอนนักเรียนเป็นจำนวน www.kalyanamitra.org

105 มากมาย ทำหน้าทแ่ี ทนตัวเอง แลว้ ครูจะทำหนา้ ท่สี ำเร็จ ได้อย่างไร ความผิดพลาดของคุณพ่อคุณแม่ในโลก ปัจจุบันนี้ อยู่ท่ีไม่ได้ทำหน้าที่สองข้อแรกตามพุทธ ดำรสั น่ันแหละ ครั้นแล้วก็มุ่งหน้าทำงานหาเงิน เพ่ือใช้สำหรับทำ หน้าที่ข้อท่ี ๓ คือเตรียมส่งลูกไปให้ครูท่ีโรงเรียน ความ ผิดพลาดอยู่ตรงนี้ สำหรับหน้าที่ของลูกท่ีมีต่อพ่อแม่ โดยท่ัวไปพวกเราเข้าใจอยู่แล้ว สำหรับหน้าท่ีของครูท่ีมี ต่อศิษย์ก็ได้อธิบายไว้แล้ว แต่ว่าสิ่งท่ีขาดหายไปก็คือ หน้าที่ที่ศิษย์ต้องมีต่อครู ซ่ึงความจริงเป็นเรื่องท่ีพ่อแม่ ต้องปูพ้ืนฐานมาให้ แต่ปัจจุบันพ่อแม่เขาก็ไม่ได้ปูพ้ืน ฐานจิตใจให้เลย ครูจึงต้องทำหน้าที่หนักเพ่ิมขึ้น ดังนั้น ครกู บั พระต้องหันหนา้ มาชว่ ยกัน สำหรับหน้าท่ีของศิษย์ต่อครูและครูต่อศิษย์ รวม ท้ังหน้าที่ของสามีภรรยาซึ่งต้องมีต่อกันจะไม่ขอกล่าวไว้ ในที่น้ี จะขอกล่าวถึงเฉพาะหน้าที่ของพระต่อชาวโลก หน้าท่ีของพระตามท่ีกำหนดไว้ในทิศ ๖ นั้นมีอยู่ ๖ ข้อ ได้แก่ ๑) ห้ามทำความชว่ั ๒) ให้ตงั้ อย่ใู นความด ี www.kalyanamitra.org

106 ๓) อนเุ คราะห์ดว้ ยนำ้ ใจงาม ๔) ให้ไดฟ้ ังส่ิง (ธรรมะ) ทย่ี งั ไม่เคยฟงั ๕) อธิบายส่งิ ท่เี คยฟังแล้วให้เขา้ ใจแจ่มแจ้งยิง่ ขนึ้ ๖) บอกทางสวรรค์ให ้ สำหรับหน้าที่ ๓ ข้อแรกของพระนั้นคล้ายกับของ ครูและของพ่อแม่ กล่าวคือหน้าที่ของพระข้อท่ี ๑ คือ ห้ามชาวโลกไม่ให้ทำความชั่วเช่นเดียวกับพ่อแม่ห้ามลูก เหมือนกัน ส่วนข้อท่ี ๒ ก็คือสอนให้ชาวโลกทำความดี เช่นเดยี วกับพอ่ แม่สอนลกู เหมอื นกัน สำหรบั ข้อท่ี ๓ คอื มีเมตตาอนเุ คราะหส์ ง่ั สอนอบรม ดังน้ัน จึงเห็นได้ว่า ครู พ่อแม่ และพระทำ หน้าท่ีเหมอื นกนั หรอื ทำงานอย่างเดยี วกนั แต่ไมเ่ คย ได้มานั่งล้อมวงมาวางแผนด้วยกันเลยว่า จะร่วมมือ ช่วยกันปลกู ฝังอบรมอยา่ งไร เพื่อใหล้ กู หลานของเรา หรือเยาวชนของชาติเป็นคนดี มีคุณธรรม เพราะไม่ได้ร่วมกันวางแผน ไม่ได้ร่วมกันทำงานนี่ แหละ ความผิดพลาดจึงได้เกิดขึ้นในสังคมขณะน้ี ดังนั้น ก็อย่าโทษใคร ถ้าโทษพระ ก็ต้องโทษว่าพระเอง ไปไม่ ค่อยถึงโรงเรียน หรือจะกล่าวหาว่ากระทรวงศึกษาธิการ เอาโรงเรียนออกจากวัดไปก็คงไม่ถูก เพราะโรงเรียนบาง www.kalyanamitra.org

107 แหง่ ก็อยู่ในวัด แตว่ ่าพระไมค่ อ่ ยได้เข้าไป เหตุท่ีพระไม่ค่อยได้เข้าไป ก็เพราะครูบางโรงเรียน ไม่ค่อยอยากให้เข้า หรือบางแห่งครูเขาอยากให้เข้าก็ พอดีตอนน้ัน พระยังไม่มีอารมณ์จะสอน จึงไม่เข้าไป ทงั้ ครแู ละพระ ต่างฝา่ ยตา่ งยงุ่ พอกัน เรื่องน้ีก็ไม่ขอโทษใคร แต่อยากจะฝากข้อคิดว่า ตราบใดทีท่ งั้ พระ ท้ังครู และพ่อแม่ ยังไม่ได้จบั มอื กันทำ หน้าที่ของตน ก็ยากที่จะฝึกฝนอบรมลูกหลานของเราให้ เกง่ และดีได้สำเรจ็ www.kalyanamitra.org

ความสำคญั ของ ๓ ทิศหลกั พระ ครู พอ่ แม ่ www.kalyanamitra.org

๑๑. ความสำคัญของ ๓ ทศิ หลัก พระ ครู พอ่ แม ่ พระ (ทิศเบื้องบน) ครู (ทศิ เบอ้ื งขวา) พ่อแม่ (ทศิ เบื้องหน้า) พระ ครู พ่อแม่ คือ ๓ ทิศหลักใน ๖ ทิศท่ี พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสเรียก ทิศ แทนความหมายถึง กลุ่มบุคคลท่ีทรงคุณค่าและความสำคัญต่อคนเราแต่ละ คนตลอดถึงมวลมนษุ ยชาต ิ www.kalyanamitra.org

110 เหตุท่ีกล่าวว่า พระ ครู พ่อแม่เป็นทิศหลักนั้น ถ้า พจิ ารณาอยา่ งรอบคอบยอ่ มจะเขา้ ใจได้ดี ดังเชน่ ในกรณี เดก็ ทเี่ พิ่งเกิดมา ถามว่าใครจะเป็นผปู้ ูพ้นื ฐานศีลธรรมให้ เด็ก คำตอบก็คือต้องเริ่มต้นจากพ่อแม่หรือจากบ้าน ต่อจากพ่อแม่หรือจากบ้านแล้วจึงส่งมาให้ครู นั่นคือพ้ืน ฐานศีลธรรมเบื้องต้น ซ่ึงได้แก่เร่ืองหลักการตัดสินดีช่ัว พ่อแม่ต้องปูให้ก่อน พอส่งมาถึงครู นอกจากครูจะให้ ความรู้ด้านวิชาการแล้ว ก็ย่อมขยายพ้ืนฐานศีลธรรมให้ เด็กอีก โดยเน้นหนกั ในเรอ่ื งของการอยรู่ ่วมกนั เพราะวา่ เด็กอยู่บ้านก็อยู่กับพี่กับน้องสองสามคนเท่าน้ัน แต่มา อยู่โรงเรียนต้องอยู่ร่วมกันเป็นร้อย บางทีก็เป็นพัน จึง จำเป็นต้องสอนศีลธรรมเกี่ยวกับการอยู่ร่วมกันเพื่อให้ สามารถอยู่ร่วมกันด้วยความรักสมัครสมานสามัคคีให้ เกดิ เป็นนิสยั ส่วนการปราบกิเลสเพ่ือความพ้นทุกข์อย่างถาวร ก็เป็นหน้าที่ของพระหรือวัด ต้องแบ่งงานกันทำอย่างน้ี ถ้าเรามองภาพนี้ไม่ชัด ครูก็แยกไปทำเท่าท่ีครูอยากจะ ทำ พระก็แยกไปทำเท่าที่พระเห็นว่าสำคัญ พ่อแม่ก็ทำ ในส่วนทต่ี ัวเอง คดิ ว่าอย่างนจี้ ึงจะดี หรือถ้าทำไมไ่ ดห้ รือ ไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไรบ้าง ก็โยนไปให้ครูท้ังหมด ครูรับ www.kalyanamitra.org

111 ไมไ่ หวกป็ ลอ่ ยให้เป็นเรื่องตวั ใครตวั มนั ครั้นแล้วก็พากันพร่ำบ่นว่าทำไมเด๋ียวนี้บ้านเมือง จึงวุ่นวาย คำตอบก็คือ เพราะทุกคนต่างปล่อยวางให้ เป็นเรอ่ื งตัวใครตัวมันน่ันเอง ตรงกันข้ามถ้าท้ังพ่อแม่ ทั้งครู ทั้งพระ หรือถ้าพูด ถึงสถานที่ ก็ทั้งบ้าน ท้ังวัด ทั้งโรงเรียน หรือที่เราเรียก ย่อๆ ว่า “บวร” ร่วมมือกันก็จะได้เยาวชนท่ีมีมาตรฐาน ทางศีลธรรม เม่ือเขาเหล่าน้ันได้มาตรฐานศีลธรรมจาก บวรนี้มาเรียบร้อยแล้ว ต่อน้ีไป เมื่อถึงคราวจะมีเพ่ือน เขาจะมหี ลักในการเลอื กเพื่อน คอื เลือกคนทม่ี ีมาตรฐาน ศีลธรรมใกล้เคียงกับตัวเอง ไว้คบหาสมาคม เพราะถ้า มาตรฐานต่างกัน ย่อมคบกันไม่ได้ ต่อไปเม่ือเขาจะม ี คู่ครอง จะมีสามี หรือจะมีภรรยาก็ตาม ย่อมต้องเลือก บุคคลที่มีมาตรฐานศีลธรรมใกล้เคียงกับเขา มิฉะน้ัน กจ็ ะอยู่ดว้ ยกันไม่ได้ บุคคลที่ไม่เคยได้รับคำแนะนำฝึกฝนอบรมศีลธรรม ให้แน่นหนาม่ันคงเป็นพ้ืนฐานอยู่ในจิตใจ ครั้นเมื่อถึง เวลาเลือก คู่ครองก็จะขาดหลักทางศีลธรรม ก็คงต้อง เลอื กเอาหลอ่ เอาสวย เอารวยไวก้ ่อน โดยยังไม่รู้วา่ เป็น คนดหี รือไมด่ ี ผลสดุ ทา้ ยกต็ ามมาด้วยปัญหาการหยา่ ร้าง www.kalyanamitra.org

112 ซึง่ จะมีผลร้ายตอ่ บตุ รท่เี กดิ มาต่อไปอกี ดว้ ย แต่ถ้ามีการปูมาตรฐานทางด้านศีลธรรมมาดีแล้ว จากบ้าน วัด โรงเรียน หรือจากบวรน้ี ครั้นถึงคราวจะ ทำงาน เขาก็จะสามารถเลือกหัวหน้าที่ดี ที่มีมาตรฐาน ศลี ธรรมอยใู่ นระดบั ท่ไี ปกนั ได้ อน่ึง ถ้าถามว่าหัวหน้าเหล่านั้นจะได้มาตรฐาน ศีลธรรมมาจากที่ไหน คำตอบก็คือได้มาจากบ้าน วัด โรงเรียน ของเขาน่ันแหละ หรือถึงคราวจะหาลูกน้อง ก็ต้องเลือกลูกน้องท่ีมีมาตรฐานศีลธรรมใกล้เคียงกัน ถ้าต่างกันมาก ย่อมอยู่ด้วยกันไม่ได้ สำหรับมาตรฐาน ศีลธรรมของลูกน้องที่ใกล้เคียงกับเรา พวกเขาจะได้มา จากที่ไหน ก็จะต้องได้มาจากบ้าน วัด โรงเรียน เช่นกัน เหลา่ น้คี อื การเกดิ ข้นึ ของมาตรฐานทางดา้ นศีลธรรม ถ้าเรามองภาพความสัมพันธ์ด้านศีลธรรมระหว่าง บุคคลได้ชัดเจนแล้ว โลกนี้จะให้เป็นอย่างไรในอนาคต ย่อมอยู่ในมือของบุคคล ๓ กลุ่ม คือ ครูต้นแบบ พระต้นแบบ พ่อแม่ต้นแบบ ไม่ใช่กลุ่มใดกลุ่มหน่ึงจะ บุกเดี่ยวตามลำพัง แต่ต้องยึดคติท่ีว่า “รวมกันเราอยู่ แยกกันอยู่จะตายไม่เหลือ” คือทำงานไม่สำเร็จเลย ไม่ว่าพระ ครู หรือพ่อแม่ ในที่สุด ก็จะได้เห็นลูกยักษ์ www.kalyanamitra.org

113 ตาเหลือกเขี้ยวลากดินออกมาเพ่นพ่านเต็มถนนไป หมด ดังนั้น เม่ือเห็นสภาพบ้านเมืองของเราที่มีปัญหา เกิดข้ึนมากมายในปัจจุบันน้ี อย่าไปโทษใคร ถ้าไปโทษ ว่าเป็นความผิดของคนนั้นคนนี้ แล้วเอานิ้วช้ีว่าเป็น ความผิดของใครละก็ หนึ่งนิ้วชี้ท่ีเขา สามนิ้วช้ีท่ีตัวเรา คือ สามนว้ิ มันชว้ี า่ เป็นความผิดของสามเรา กค็ อื บา้ น วัด โรงเรียน น่ันแหละ ยังทำหน้าท่ีไม่สมบูรณ์ ขอให้ มองกนั ชัดๆ อย่างน้ี ปัจจุบันน้ีได้มีประเทศมหาอำนาจใหม่เกิดข้ึนถึง ๓ ด้าน คือ ประเทศท่ีเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ ประเทศท่ีเป็นมหาอำนาจทางเทคโนโลยี และประเทศ ท่ีเป็นมหาอำนาจทางการเมือง ท้ัง ๓ ด้านนี้ ประเทศ ไทยย่อมไม่สามารถเป็นมหาอำนาจในด้านใดได้เลย นอกจากจะเปน็ มหาอำนาจทางดา้ นศีลธรรม ดังน้ัน ขอเชิญพวกเราชาวไทยตั้งใจช่วยกันทำ ประเทศไทยให้เป็นแหล่งผลิตศีลธรรมเอาไปแจกจ่าย คนทงั้ โลกกันเถดิ เราจะทำได้สำเร็จอยา่ งแน่นอน เพราะ ขณะนี้พระพุทธศาสนาได้หยั่งรากลึกมากท่ีสุดที่ประเทศ ไทย เพียงแต่คนไทยที่ยังไม่สนใจเปิดพระไตรปิฎกอ่าน www.kalyanamitra.org

114 ขอให้พวกเรารีบไปเปิดอ่านกันให้เข้าใจ ถ้าอ่านแล้วยัง ไม่ค่อยเข้าใจ ก็ยังพอมีผู้ทรงภูมิรู้ภูมิธรรม ช่วยชี้แนะให้ เข้าใจได้เป็นอย่างดี จนเกิดศรัทธาสามารถนำไปปฏิบัติ ให้เป็นนิสัยได้ ถ้าเป็นเช่นนี้ ประเทศไทยก็มีโอกาสท่ีจะ เป็นมหาอำนาจทางดา้ นศลี ธรรมในอนาคตอันใกลน้ ี้ได้ www.kalyanamitra.org

www.kalyanamitra.org

อานสิ งสข์ องครตู ้นแบบ www.kalyanamitra.org

๑๒. อานสิ งส์ของครูต้นแบบ ถา้ เราชว่ ยกนั ทำอย่างนแี้ ลว้ อานสิ งส์หรือผลดีกจ็ ะ เกิดขน้ึ กับครอู ยา่ งมากมาย ซ่ึงอาจกลา่ วโดยยอ่ ได้ดังนี ้ ๑. มีความปล้ืมปีติอยู่ทุกลมหายใจเข้าออกตลอด ชีวติ ของเรา เพราะเราเป็นตน้ แบบแหง่ ความด ี ๒. ได้ตำแหน่งปูชนียบุคคล คือเป็นบุคคลท่ีควร แก่การกราบไหว้บูชาของมนุษย์และเทวดา www.kalyanamitra.org

118 ตลอดไป ๓. จะมีลูกศิษย์คอยกราบเท้าอยู่ทุกแห่งที่เหยียบ ย่างไป ด้วยความกตญั ญูรู้คณุ ๔. ทแี่ นๆ่ เมอื่ ละโลกแล้วย่อมไปสวรรค์ ส่วนลูกศิษย์เม่ือได้ครูต้นแบบเช่นเรา ตั้งแต่หัว เท่ากำป้นั เขาเหล่านนั้ ก็จะ ๑. มสี ำนึกรับผดิ ชอบตอ่ ตนเอง ต่อเศรษฐกจิ ต่อสังคม ต้ังแต่ยังเล็ก เพราะสำนึกรับผิด ชอบเหล่าน้ี ไม่ได้ตกลงมาเองจากท้องฟ้า เหมือนฝน เหมือนแสงแดด แต่จะต้องได้ครู ดีเปน็ ตน้ แบบ ๒. ความคิด คำพูด และการกระทำท่ีปราศ จากกรรมลามก ๑๔ ประการ ก็จะปรากฏ ข้ึนในตัวพวกเขา พูดง่ายๆ ก็คือกรรมชั่ว ต่างๆ จะไม่เกิดจากลูกศิษย์ของเราเลย มี แต่ดลี ้วนๆ ๓. บรรดาลูกศิษย์ซึ่งเราปั้นข้ึนมาย่อมสามารถ สรา้ งบญุ สร้างบารมีไดต้ ลอดชวี ิต เพราะมี ครูดอี ย่างเราเป็นต้นแบบ ๔. ลูกศิษย์จะมีเป้าหมายชีวิตท่ีถูกต้องดีงาม www.kalyanamitra.org

119 ต้งั แต่เลก็ ไม่ต้องไปพ่งึ พายาเสพติด ไมต่ ้อง ไปหาแหล่งสำราญยามราตรี บ่อนหรือ อบายมขุ อื่นๆ เปน็ ทีพ่ งึ่ ๕. สามารถปิดนรกได้สนิท เปิดสวรรค์ได้กว้าง ถากถางทางไปพระนพิ พานตามครไู ดง้ ่าย www.kalyanamitra.org

บทสรุป www.kalyanamitra.org

๑๓. บทสรปุ บทบาทการปลูกฝังศีลธรรมลงในจิตใจของเยาวชน โดยผา่ นการทำหนา้ ท่ขี องครูต้นแบบ เปน็ ภารกิจท่สี ำคัญ อยา่ งยงิ่ ยวด บา้ น วดั โรงเรียน จะกลับมาเปน็ สถาบนั หลักของสังคมทำหน้าท่ีเป็นต้นแบบในการฟ้ืนฟู ศีลธรรมโลก ให้แก่เยาวชนได้อย่างแท้จริงก็ต่อเม่ือ ทุกคนที่เป็นพ่อแม่ พระ ครูบาอาจารย์ ตระหนักว่า www.kalyanamitra.org

122 เป็นภารกิจของตนเองที่จะต้องเข้าไปมีส่วนร่วมในการ ปลกู ฝังศลี ธรรมลงในจติ ใจของเยาวชน โดยทำหนา้ ที่เป็น ครูต้นแบบ เริ่มต้นท่ีการรักท่ีจะปรับปรุงแก้ไขตนเอง ดำรงตนอยู่ในศีลธรรม และพร้อมที่จะเป็นต้นแบบให้แก่ คนรอบขา้ งและเยาวชน โดยมีมโนปณิธานเดียวกันวา่ สกั วันหนง่ึ ศลี ธรรมจะสถติ อยู่ในดวงใจของเยาวชนทงั้ โลก ภาระหน้าท่ีของครูต้นแบบท้ังหมดน้ี แม้ว่าจะ ลำบากยากเข็ญเพียงไร แต่ก็ไม่มีผู้ใดสามารถทำให้ สำเร็จได้ นอกจากครูต้นแบบท้ัง ๓ กลุ่มเท่านั้น นี่คือ ความสำคัญอย่างย่ิงยวดของครู สมดังคำกล่าวของ พระเดชพระคณุ พระภาวนาวริ ิยคุณ (เผดจ็ ทตตฺ ชีโว) ว่า “ครู รกั ษาคนโงใ่ หก้ ลบั ฉลาดได้ พลกิ ใจคนชวั่ ซึง่ ตายทง้ั เป็นแลว้ ใหก้ ลบั ฟน้ื เปน็ คนดี ลกุ ขึน้ สรา้ งบญุ บารมีไดใ้ หม่ เพราะฉะน้ัน คนทงั้ โลกจึงสรรเสรญิ และพรอ้ มใจกนั กราบเทา้ คร ู ด้วยความเตม็ ใจและภูมใิ จท่ไี ด้เป็นศษิ ยท์ า่ น” www.kalyanamitra.org

พระภาวนาวิรยิ คุณ (เผด็จ ทตฺตชีโว) l ปจั จุบนั ดำรงสมณกจิ รองเจ้าอาวาสวดั พระธรรมกาย l รองประธานมูลนิธิธรรมกาย และ President of Dhammakaya International Meditation Center (U.S.A.) l เกิดเมื่อวันที่ ๒๑ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๔๘๓ l สำเร็จการศึกษาปริญญาตรี คณะกสิกรรมและสตั วบาล มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ บางเขน และ Diploma of Dairy Technology Hawkesbury College, Australia l อุปสมบทเมอื่ วันที่ ๑๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๔ ณ พทั ธสีมาวัดปากน้ำ ภาษเี จรญิ กรงุ เทพมหานคร www.kalyanamitra.org

วธิ ฝี กึ สมาธเิ บอื้ งตน้ สมาธิ คือความสงบ สบาย และความรู้สึก เป็นสุขอย่างยิ่งท่ีมนุษย์สามารถสร้างขึ้นได้ด้วย ตนเอง เป็นสิ่งที่พระพุทธศาสนากำหนดเอาไว้เป็นข้อ ควรปฏิบัติ เพื่อการดำรงชีวิตทุกวันอย่างเป็นสุข ไม่ ประมาท เต็มไปด้วยสติสัมปชัญญะและปัญญา อันเป็น เรื่องไม่เหลือวิสัย ทุกคนสามารถปฏิบัติได้ง่ายๆ ดังวิธี www.kalyanamitra.org

125 ปฏิบัติท่ี พระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนี (สด จนทฺ สโร) หลวงปวู่ ดั ปากนำ้ ภาษีเจริญ ได้เมตตาสง่ั สอน ไว้ ดงั น ้ี ๑. กราบบูชาพระรัตนตรัย เป็นการเตรียมตัว เตรียมใจให้นุ่มนวลไว้เป็นเบ้ืองต้น แล้ว สมาทานศีลห้า หรือศีลแปด เพ่ือย้ำความ มน่ั คงในคุณธรรมของตัวเอง ๒. คุกเข่าหรือนั่งพับเพียบสบายๆ ระลึกถึง ความดี ที่ได้กระทำแล้วในวันนี้ ในอดีต และที่ ตั้งใจจะทำต่อไปในอนาคต จนราวกับว่า ร่างกายทั้งหมด ประกอบขึ้นด้วยธาตุแห่ง คุณงามความดีลว้ นๆ ๓. น่งั ขัดสมาธิ ขาขวาทบั ขาซ้าย มือขวาทับมือ ซ้าย น้ิวชี้ขวาจรดหัวแม่มือซ้าย นั่งให้อยู่ใน จังหวะพอดี ไม่ฝืนร่างกายมากจนเกินไป ไม่ถึง กับเกรง็ แตอ่ ยา่ ให้หลงั โคง้ งอ หลับตาพอสบาย คล้ายกับกำลังพักผ่อน ไม่บีบกล้ามเนื้อตาหรือ ว่าขมวดคิ้ว แล้วต้ังใจมั่น วางอารมณ์สบาย สร้างความรู้สึกให้พร้อมทั้งกายและใจ ว่ากำลัง จะเข้าไปสภู่ าวะแหง่ ความสงบสบายอยา่ งย่ิง www.kalyanamitra.org

126 { ฐานที่ m๑ ปากชอ่ งจมกู หญงิ ขา้ งซา้ ย ชายขา้ งขวา เพลาตา หญงิ ขา้ งซา้ ย ๓ { ฐานที่ m๒ ชายขา้ งขวา ๒ ๔ ๑ ๕ ฐานท่ี m๓ จอมประสาท ฐานท ่ี m๔ ชอ่ งเพดาน ฐานที่ m๕ ปากชอ่ งลำคอ ฐานที่ m๖ ศนู ยก์ ลางกายทตี่ ง้ั จติ ถาวร ฐานที่ m๗ ศนู ยก์ ลางกายระดบั สะดอื ๗๖ ๒ นว้ิ มอื ภาพแสดงทตี่ งั้ จติ ทง้ั ๗ ฐาน ๔. นึกกำหนดนิมิต เป็น “ดวงแก้วกลมใส” ขนาดเท่าแก้วตาดำ ใสสนิท ปราศจากราคี หรือรอยตำหนิใดๆ ขาวใส เย็นตาเย็นใจ ดัง ประกายของดวงดาว ดวงแก้วกลมใสนี้เรียกว่า บริกรรมนิมิต นึกสบายๆ นึกเหมือนดวงแก้ว www.kalyanamitra.org

127 นั้นมานิ่งสนิทอย ู่ ณ ศูนย์กลางกายฐานท่ี ๗ นึกไปภาวนาไปอย่างนุ่มนวลเป็นพุทธานุสติว่า “สมั มาอะระหัง” หรอื ค่อยๆ นอ้ มนกึ ดวงแกว้ กลมใส ให้ค่อยๆ เคลื่อนเข้าสู่ศูนย์กลางกาย ตามแนวฐาน โดยเร่ิมต้นต้ังแต่ฐานที่หนึ่ง www.kalyanamitra.org

128 เป็นต้นไป น้อมด้วยการนึกอย่างสบายๆ ใจเยน็ ๆ ไปพรอ้ มๆ กบั คำภาวนา อนึ่ง เมื่อนิมิตดวงใสและกลมสนิท ปรากฏแล้ว ณ กลางกาย ให้วางอารมณ์สบายๆ กับนิมิตนั้น จน เหมือนกับว่า นิมิตเป็นส่วนหน่ึงของอารมณ์ หากดวง นิมิตน้ันอันตรธานหายไป ก็ไม่ต้องนึกเสียดาย ให้วาง อารมณ์สบาย แล้วนึกนิมิตน้ันขึ้นมาใหม่แทนดวงเก่า หรือเมื่อนิมิตน้ันไปปรากฏที่อื่นที่มิใช่ศูนย์กลางกาย ให้ ค่อยๆ น้อมนิมิตเข้ามาอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่มีการ บังคับ และเม่ือนิมิตมาหยุดสนิท ณ ศูนย์กลางกาย ให้ วางสติลงไปยังจุดศูนย์กลางของดวงนิมิต ด้วยความรู้สึก คล้ายมีดวงดาวดวงเล็กๆ อีกดวงหน่ึงซ้อนอยู่ตรงกลาง ดวงนิมิตดวงเดิม แล้วสนใจเอาใจใส่แต่ดวงเล็กๆ ตรง กลางน้ันไปเร่ือยๆ ใจจะปรับจนหยุดได้ถูกส่วน แล้ว จากน้ันทุกอย่างจะค่อยๆ ปรากฏให้เห็นได้ด้วยตนเอง เป็นภาวะของดวงกลม ทที่ ้งั ใสท้งั สวา่ งผดุ ซ้อนข้นึ มาจาก กึง่ กลางดวงนมิ ติ ตรงทเ่ี ราเอาใจใสอ่ ยา่ งสมำ่ เสมอ ดวงน้ีเรียกวา่ “ดวงธรรม” หรอื “ดวงปฐมมรรค” อันเป็นประตูเบ้ืองต้น ที่จะเปิดไปสู่หนทางแห่งมรรคผล นิพพาน การระลึกนึกถึงนิมิต หรือดวงปฐมมรรค www.kalyanamitra.org

129 สามารถทำได้ในทุกแห่งทุกท่ี ทุกอิริยาบถ เพราะ ดวงธรรมนี้คอื ที่พง่ึ อันเป็นทีส่ ดุ แลว้ ของมนุษย ์ ข้อแนะนำ คือ ต้องทำให้สม่ำเสมอเป็นประจำ ทำเร่ือยๆ ทำอย่างสบายๆ ไม่เร่ง ไม่บังคับ ทำได้แค่ ไหน ให้พอใจแค่นั้น อันจะเป็นเคร่ืองสกัดก้ันใจมิให้เกิด ความอยากจนเกนิ ไป จนถึงกับทำให้ใจต้องสูญเสียความ เป็นกลาง และเม่ือการปฏิบัติบังเกิดผลแล้ว ให้หมั่นตรึก ระลึกนึกถึงอยู่เสมอจนกระท่ังดวงปฐมมรรค กลายเป็น อันหนึ่งอันเดียวกับลมหายใจ หรือนึกเม่ือใดเป็นเห็นได้ ทุกที อย่างน้ีแล้ว ผลแห่งสมาธิจะทำให้ชีวิตดำรงอยู่บน เส้นทางแหง่ ความสขุ ความสำเรจ็ และความไมป่ ระมาท ได้ตลอดไป ทั้งยังทำให้สมาธิละเอียดอ่อนก้าวหน้าไป เรอ่ื ยๆ ได้อกี ด้วย www.kalyanamitra.org

130 ขอ้ ควรระวัง ๑. อยา่ ใชก้ ำลัง คือไมใ่ ชก้ ำลังใดๆ ทง้ั สน้ิ เชน่ ไม่ บีบกล้ามเนื้อตา เพ่ือจะให้เห็นนิมิตเร็วๆ ไม่ เกร็งแขน ไมเ่ กร็งกล้ามเน้ือหนา้ ท้อง ไม่เกร็งตัว ฯลฯ เพราะการใช้กำลังตรงส่วนไหนของ ร่างกายก็ตาม จะทำใหจ้ ติ เคล่อื นจากศนู ย์กลาง กายไปสู่จุดนัน้ ๒. อย่าอยากเห็น คือทำให้ใจเป็นกลาง ประคอง สติมิให้เผลอจากบริกรรมภาวนาและบริกรรม นิมิต ส่วนจะเห็นนิมิตเมื่อใดน้ัน อย่ากังวล ถ้า ถึงเวลาแล้วย่อมเห็นเอง การบังเกิดของดวง นิมิตน้ัน อุปมาเสมือนการข้ึนและตกของดวง อาทิตย์ เราไม่อาจเรง่ เวลาได ้ ๓. อย่ากังวลถึงการกำหนดลมหายใจเข้าออก เพราะการฝึกสมาธิ เจริญภาวนาวิชชาธรรม กาย อาศัยการเพ่ง “อาโลกกสิณ” คือกสิณ ความสว่าง เปน็ บาทเบอ้ื งตน้ เม่อื เกดิ นิมิตเป็น ดวงสว่าง แล้วค่อยเจริญวิปัสสนาในภายหลัง www.kalyanamitra.org

131 จึงไม่มีความจำเป็นต้องกำหนดลมหายใจเข้า ออก แตป่ ระการใด ๔. เม่ือเลิกจากน่ังสมาธิแล้ว ให้ต้ังใจไว้ท่ี ศูนย์กลางกายที่เดียว ไม่ว่าจะอยู่ในอริยาบถ ใดกต็ าม เชน่ ยืนกด็ ี เดินกด็ ี นอนก็ดี หรือน่งั ก็ ดี อย่าย้ายฐานท่ีต้ังจิตไปไว้ท่ีอ่ืนเป็นอันขาด ให้ตั้งใจบริกรรมภาวนา พร้อมกับนึกถึง บริกรรมนิมิตเปน็ ดวงแก้วใสควบคู่กนั ตลอดไป ๕. นิมิตต่างๆ ที่เกิดข้ึน จะต้องน้อมไปต้ังไว้ที่ ศูนย์กลางกายท้ังหมด ถ้านิมิตท่ีเกิดขึ้นแล้ว หายไป ก็ไม่ต้องตามหา ให้ภาวนาประคองใจ ต่อไปตามปกติ ในท่ีสุดเม่ือจิตสงบ นิมิตย่อม ปรากฏขึน้ ใหม่อีก สำหรับผู้ที่นับถือพระพุทธศาสนาเพียงอาภรณ์ ประดับกาย หรือเพื่อเป็นพิธีการชนิดหน่ึง หรือผู้ท่ี ต้องการฝึกสมาธิเพียงเพื่อให้เกิดความสบายใจ จะได้ เป็นการพักผ่อนหลังจากการปฏิบัติหน้าท่ีภารกิจประจำ วัน โดยไม่ปรารถนาจะทำให้ถึงที่สุดแห่งกองทุกข์ ยังคิด อยู่ว่าการอยู่กับบุตรภรรยา การมีหน้ามีตาทางโลก การ ท่องเท่ียวอยู่ในวัฏฏสงสาร เป็นสุขกว่าการเข้านิพพาน www.kalyanamitra.org

132 เสมือนทหารเกณฑ์ที่ไม่คิดจะเอาดีในราชการต่อไปอีก แลว้ การฝึกสมาธิเบื้องต้นเท่าที่กล่าวมาท้ังหมดนี้ ก็พอ เป็นปัจจัย ให้เกิดความสุขได้พอสมควร เม่ือซักซ้อม ปฏบิ ัติอยเู่ สมอๆ ไมท่ อดทิ้ง จนได้ดวงปฐมมรรคแล้ว ก็ ให้หม่ันประคองรักษาดวงปฐมมรรคนั้นไว้ตลอดชีวิต และอยา่ กระทำความชั่วอกี เป็นอนั มนั่ ใจได้ว่าถึงอยา่ งไร ชาตนิ ้ี กพ็ อมีทพ่ี งึ่ เกาะทด่ี ีพอควร คือเปน็ หลักประกนั ได้ วา่ จะไมต่ ้องตกนรกแลว้ ทงั้ ชาตินี้ และชาติต่อๆ ไป www.kalyanamitra.org

133 ประโยชน์ของการฝกึ สมาธ ิ ๑. ผลต่อตนเอง ๑.๑ ด้านสขุ ภาพจติ l ส่งเสริมให้คุณภาพของใจดีขึ้น คือ ทำให้ จิตใจผ่องใส สะอาด บริสุทธิ์ สงบ เยอื กเยน็ ปลอดโปร่ง โลง่ เบา สบาย มีความจำ และ สตปิ ัญญาดขี ้นึ l ส่งเสริมสมรรถภาพทางใจ ทำให้คิดอะไรได้ รวดเร็ว ถูกต้อง และเลือกคิดแต่ในสิ่งท่ีดี เทา่ นน้ั ๑.๒ ดา้ นพัฒนาบุคลกิ ภาพ l จะเป็นผู้มีบุคลิกภาพดี กระฉับกระเฉง กระปรี้กระเปร่า มีความองอาจสง่าผ่าเผย มีผิวพรรณผ่องใส l มคี วามมนั่ คงทางอารมณ์ หนกั แนน่ เยอื กเยน็ และเชอ่ื มน่ั ในตนเอง www.kalyanamitra.org

134 l มมี นุษยสัมพันธ์ดี วางตวั ไดเ้ หมาะสมกับกาล เทศะ เป็นผู้มีเสน่ห์ เพราะไม่มักโกรธ มี ความเมตตากรณุ าต่อบุคคลทว่ั ไป ๑.๓ ดา้ นชีวิตประจำวัน l ช่วยให้คลายเครียด เป็นเคร่ืองเสริม ประสิทธิภาพ ในการทำงาน และการศึกษา เลา่ เรยี น l ช่วยเสริมให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง เพราะ ร่างกายกับจิตใจย่อมมีอิทธิพลต่อกัน ถ้า จิตใจเข้มแข็ง ย่อมเป็นภูมิต้านทานโรคไป ในตัว ๑.๔ ดา้ นศลี ธรรมจรรยา l ย่อมเป็นผู้มีสัมมาทิฏฐิ เช่ือกฎแห่งกรรม สามารถคุ้มครองตนให้พ้นจากความช่ัว ท้ังหลายได้ เป็นผู้มีความประพฤติดี เนื่อง จากจติ ใจดี ทำให้ความประพฤติทางกายและ วาจาดีตามไปด้วย l ย่อมเป็นผู้มีความมักน้อย สันโดษ รักสงบ และมีขนั ตเิ ป็นเลศิ www.kalyanamitra.org

135 l ย่อมเป็นผู้มีความเอ้ือเฟ้ือเผ่ือแผ่ เห็น ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตัว ย่ อ ม เ ป็ น ผู้ มี สั ม ม า ค า ร ว ะ แ ล ะ มี ค ว า ม อ่อนนอ้ มถ่อมตน ๒. ผลตอ่ ครอบครวั ๒.๑ ทำให้ครอบครัวมีความสงบสุข เพราะ สมาชิกในครอบครัวเห็นประโยชน์ของการ ประพฤติธรรม ทุกคนตั้งมั่นอยู่ในศีล ปกครองกันด้วยธรรม เด็กเคารพผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่เมตตาเด็ก ทุกคนมีความรักใคร่ สามคั คเี ปน็ นำ้ หนงึ่ ใจเดียวกนั ๒.๒ ทำให้ครอบครัวมีความเจริญก้าวหน้า เพราะสมาชิกต่างก็ทำหน้าท่ีของตนโดยไม่ บกพร่อง เป็นผู้มีใจคอหนักแน่น เมื่อมี ปัญหาครอบครัวหรือมีอุปสรรคอันใด ย่อม ร่วมใจกนั แกไ้ ขปัญหาให้ลุล่วงไปไดด้ ้วยด ี www.kalyanamitra.org

136 ๓. ผลต่อสงั คมและประเทศชาติ ๓.๑ ทำให้สังคมสงบสุข ปราศจากปัญหา อาชญากรรม และปัญหาสังคมอ่ืนๆ เพราะ ปัญหาทั้งหลายที่เกิดข้ึนในสังคม ไม่ว่าจะ เป็นปัญหาการฆ่า การข่มขืน โจรผู้ร้าย การ ทุจริตคอรัปช่ัน ล้วนเกิดขึ้นมาจากคนที่ขาด คณุ ธรรม เป็นผทู้ ่ีมจี ติ ใจออ่ นแอ หว่ันไหวต่อ อำนาจส่ิงย่ัวยวน หรือกิเลสได้ง่าย ผู้ที่ฝึก สมาธิย่อมมีจิตใจเข้มแข็ง มีคุณธรรมในใจสูง ถ้าแต่ละคนในสังคมต่างฝึกฝนอบรมใจของ ตนให้หนักแน่น ม่ันคง ปัญหาเหล่าน้ีก็จะไม่ เกิดขึน้ สง่ ผลให้สงั คมสงบสขุ ได ้ ๓.๒ ทำให้เกิดความมีระเบียบวินัย และเกิด ความประหยัด ผู้ที่ฝึกใจให้ดีงามด้วยการทำ สมาธิอยู่เสมอ ย่อมเป็นผู้รักความมีระเบียบ วินัย รกั ความสะอาด มคี วามเคารพกฎหมาย บ้านเมือง ดังนั้น บ้านเมืองเราก็จะสะอาด น่าอยู่ ไม่มีคนมักง่ายทิ้งขยะลงบนพื้นถนน จะข้ามถนนก็เฉพาะตรงทางข้าม เป็นต้น www.kalyanamitra.org

137 เป็นเหตุให้ประเทศชาติไม่ต้องส้ินเปลืองงบ ประมาณ เวลา และกำลังเจ้าหน้าทที่ จ่ี ะไปใช้ สำหรับแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจากความไม่มี ระเบียบวนิ ัยของประชาชน ๓.๓ ทำให้สังคมเจริญก้าวหน้า เมื่อสมาชิกใน สังคมมีสุขภาพจิตดี รักความเจริญก้าวหน้า มีประสิทธิภาพในการทำงานสูง ย่อมส่งผล ให้สังคมเจริญก้าวหน้าตามไปด้วย และจะ สละความสุขสว่ นตน ให้ความร่วมมอื กบั สว่ น รวมอย่างเต็มที่ และถ้ามีผู้ไม่ประสงค์ดีต่อ สงั คม จะมายแุ หยใ่ ห้เกิดความแตกแยก กจ็ ะ ไม่เป็นผลสำเร็จ เพราะสมาชิกในสังคมเป็น ผู้มีจิตใจหนักแน่น มีเหตุผล และเป็นผู้รัก สงบ ๔. ผลตอ่ ศาสนา ๔.๑ ทำให้เข้าใจพระพุทธศาสนาได้อย่างถูก ต้อง และรู้ซึ้งถึงคุณค่าของพระพุทธศาสนา รวมทั้งรู้เห็นด้วยตัวเองว่า การฝึกสมาธิไม่ใช่ www.kalyanamitra.org

138 เรื่องเหลวไหล หากแต่เป็นวิธีเดียวที่จะทำให้ พ้นทกุ ข์เข้าส่นู ิพพานได้ ๔.๒ ทำให้เกิดศรัทธาต้ังมั่นในพระรัตนตรัย พ ร้ อ ม ที่ จ ะ เ ป็ น ท น า ย แ ก้ ต่ า ง ใ ห้ กั บ พ ร ะ ศาสนาอันจะเป็นกำลังสำคัญในการเผยแผ่ การปฏิบัติธรรมที่ถูกต้อง ให้แพร่หลายไป อย่างกว้างขวาง ๔.๓ เป็นการสืบอายุพระพุทธศาสนาให้เจริญ รุ่งเรืองตลอดไป เพราะตราบใดที่พุทธ ศาสนิกชนยังสนใจปฏิบัติธรรม เจริญภาวนา อยู่ พระพุทธศาสนาก็จะเจริญรุ่งเรืองอยู่ ตราบนนั้ ๔.๔ จะเปน็ กำลงั ส่งเสรมิ ทะนุบำรุงศาสนา โดย เมื่อเข้าใจซาบซ้ึงถึงประโยชน์ของการปฏิบัติ ธรรมด้วยตนเองแล้ว ย่อมจะชักชวนผู้อื่นให้ ทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนาตามไปด้วย และเมื่อใดที่ทุกคนในสังคมต้ังใจปฏิบัติธรรม ทำทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา เม่ือนั้น ย่อมเป็นที่หวังได้ว่า สันติสุขที่แท้จริงก็จะ บังเกิดขึ้นอย่างแน่นอน www.kalyanamitra.org

บันทกึ ประโยชน์ www.kalyanamitra.org

บนั ทึกประโยชน์ www.kalyanamitra.org


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook