Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เฉลยข้อสอบข้อเขียนพระอภิธรรม

เฉลยข้อสอบข้อเขียนพระอภิธรรม

Published by artitaya916, 2021-01-05 14:54:40

Description: 3-2MahaTo(43-61)_2nd+

Keywords: เฉลยข้อสอบข้อเขียนพระอภิธรรม

Search

Read the Text Version

เฉลยขอ สอบขอ เขยี นพระอภิธรรม ภาคเรียนท่ี ๒ ปการศกึ ษา ๒๕๔๓-๖๑ อภิธรรมโชตกิ ะวทิ ยาลยั มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั ชนั้ มหาอาภธิ รรมมิกะโท สอบวนั เสาร ที่ ...... ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕....... วชิ า : สจั จยมกะ ๗ ขอ ๗๐ คะแนน เวลา ๔ ชว่ั โมง (วนั ที่ ๒) ขอ ๑ (ปณณัติวาระ) ๑. จงวิสชั นา แปล และแสดงองคธ รรมในปณ ณัตตวิ าระโดยยก ทุกขสจั จยมกะ ขึ้นแสดงในบทบาลดี ังตอ ไปน้ี ก. ทุกขฺ ํ ทุกขฺ สจจฺ นฺติ ? 44 สจจฺ ํ ปณ ณัตตวิ าระ ปทโสธนวาระ อนโุ ลม ปจจนกิ ตอบ ก. อามนตฺ า ใช (ใน อนุ.ปุ.) อ.สัน.และอ.สงั . ไดแก ๑. ทุกขสจั จยมกะ ทุ จํ จํ ทุxทxุ จํxจxํ ทุ กายกิ ทุกข คือ เวทนาเจตสิกทใี่ นทุกขสหคตกายวิญญาณจติ ๑ ทกุ ข กายกิ ทกุ ข คอื เว.>ทุ.กาย.จิต๑ ทุกขํ  เจตสกิ ทุกข คอื เว.>โทสมูล.๒ เจตสกิ ทกุ ข คือ เวทนาเจตสกิ ทใ่ี นโทสมูลจิต ๒ สจฺจํ โลกีย.๘๑+๕๑ อินทริยพัทธรปู ๘๑กเาป๕ยตกิ ๑วฺ ําทออกุ วฺขินเํสทเจสตรํ ทสยิ กิุกฯํขทสท๒ุกจจฺขุก๘ํํ ฺขสกจาฺจยกิํ .=เว.ท->ุกทขฺ ุ.เกกจํ าาตยยสิก.ิกวํ ํทิญทกุ ุก.ข๑ขฺํ ํ สจั จะ ๔ ๒๘ (-โลภะ + ทุกขทง้ั ๒)  ๑.โลกยี .๘๑ เจ.๕๑(-1) ๒๘ น สจั จะทง้ั ๓ น  ๒. โลภะ ทุกข สัจจวมิ ุติ คอื ม.๒๙ ผ.๓๗ ทกุ ขํ อุตุชกลาป ๒ >อนินทรยิ พัทธรูป ๓. นิพพาน สจจฺ ํ บญั ญตั ิ (-ทกุ .๒+ทุกขสจั จะ) ๔. อม.๘ ->ม.๔ (-โลภะ กับ ทุกขทั้ง ๒) เจตสกิ .=เว.->โทสมูล. ๒ สัจ.วิมุต. ม.ตุป.๒๙/ผ.ตปุ .๓๗ อตุ .ุ๒ อนินทรยิ ฯ บัญญตั ิ (เวนฯ) ๑. จงแสดง วิสัชนา พรอมท้ังคําแปล ปล. ตัวเชอื่ ม อธ.๒ บท และองคธ รรม ในขอปจุ ฉาตอไปน้ี ไมต อ งจําแนกโกฏฐาส ? /XX ..... เจว ......จ ข. น ทุกฺข,ํ น ทุกฺขสจฺจนตฺ ิ ? 44, 46, 47, 57, 61 ตอบ ข. วิสัชนา กายกิ ํ ทกุ ฺขํ เจตสกิ ํ ทุกฺขํ เปตวฺ า อวเสสํ ทกุ ฺขสจฺจํ น ทุกฺขํ ทกุ ขฺ สจฺจ,ํ ทกุ ฺขจฺ ทุกฺขสจจฺ จฺ เปตวฺ า อวเสสํ น เจว ทกุ ขฺ ํ น จ ทกุ ขฺ สจฺจํ. แปล ยกเวน กายกิ ทุกข เจตสิกทกุ ขเสยี แลว ทุกขสจั จะทเ่ี หลอื นอกนัน้ ไมช อ่ื วา ทุกข แตช่อื วา ทุกขสัจจะ, ยกเวนทุกขและทกุ ขสัจจะเสยี แลว ธรรมท่ีเหลอื นอกนัน้ ไมช อ่ื วา ทกุ ข และไมชอ่ื วาทุกขสัจจะ. ในอนุโลมปจุ ฉา อ.ธ. สัน. ไดแ ก โลกียจติ ๘๑ เจตสกิ ๕๑ อนิ ทรยิ พัทธรูป ๒๘ (เวนโลภะ กบั ทกุ ขท ้งั ๒) และ สัจจะท้งั ๓ สัจจวิมุตติ คือ มรรคจติ ตุปบาท ๒๙ ผลจติ ตุปบาท ๓๗ อุตุชกลาป ๒ ทเ่ี ปนอนนิ ทรยิ พัทธรูป บญั ญตั ิ (เวน ทุกขท ้งั ๒ กบั ทุกขสจั จะ) อ.ธ. สัง. ไดแ ก องคธรรมหมวดหลงั เทา น้นั ๑. จงแสดงวสิ ัชนา พรอ มท้ังคาํ แปล และองคธรรม ในขอปุจฉาตอ ไปนี้ ไมต อ งจาํ แนกโกฏฐาส สมุทยสจจฺ ํ เปตฺวา สมุทโย สจั จะ ๔ ก. สมุทโย, สมุทยสจฺจนฺติ ? 45, 48, 49, 50, 51, 52, อวเสโส สมทุ โย ๑. โลกีย๘๑ เจ.๕๑(-1) รูป๒๘ สมทุ ยสจฺจํ ๒. โลภะ 53, 54, 55, 56, 57, 58, 59, 60, 61 สมุทยสามัญ ๓. นพิ พาน ๔. อม.๘ ->ม.๔ ปณ ณตั ติวาระ ปทโสธนวาระ อนุโลม xมปุ xจจํ จxจนํกิxมุ กเิ ลส ๙ (-โลภะ) สมทุ ยสจั จะ สจั .วิมุต. ม.ตุป.๒๙/ผ.ตุป.๓๗ สจจฺ ํ ๒. สมุทยสัจจยมกะ มุ จํ จํ มุ อกุ.๑๒ จิตตปุ .+กิ.๙ คอื ตัณหา อตุ .ุ ๒ อนินทริยฯ บญั ญตั ิ (-สม๒ุ ) สม.ุ สมทุ ยสัจจะ คือ ตณั หา  โลกยี กุ.๑๗ จติ ตปุ .อา.อก.ุ จติ ตปุ สมุทัยสามญั คอื ตอบ ก. วิสัชนา สมทุ ยสจฺจํ เปตวฺ า อวเสโส สมุทโย น - กิเลส ๙ (-โลภะ) สมุ   น - อุก.๑๒ จิตตุปบาททเ่ี กิด+กิ.๙ ทโย สมทุ ยสจฺจ,ํ สมุทยสจจฺ ํ สมทุ โย เจว สมุทยสจจฺ จฺ . สมุ - โลกียกุ.๑๗ จติ ตปุ .อา.อกุ.จิตตุป. น แปล = ยกเวน สมุทยสจั จะเสยี แลว ธรรมท่เี หลอื นอกน้ัน ชื่อวา ทย สจั จะท้งั ๓ สมุ ทโย สมทุ ยั แตไมช อ่ื วาสมทุ ยสจั จะ, (หรืออกี นยั หนึง่ ) ยกเวน สจจฺ ํ สจั จวิมตุ ิ คอื ม.๒๙ ผ.๓๗  สมทุ ยสัจจะเสยี แลว สมทุ ยั ทเ่ี หลอื นอกน้นั ไมช ่อื วาสมุทย อุตุชกลาป ๒ >อนนิ ทริยพัทธรูป สัจจะ, สมทุ ยสจั จะชื่อวาสมทุ ยั กใ็ ช ชือ่ วา สมทุ ยสจั จะก็ใช. บัญญตั ิ (-สม.ุ สา+สม.ุ สจั จะ) ใน อนุ.ปุ. องคธรรมของสันนฏิ ฐานบท ไดแก สมุทัยสามัญ คอื กิเลส ๙ (เวนโลภะ) อกุศล ๑๒ จติ ตปุ บาทท่เี กดิ พรอม ดว ยกเิ ลส ๙ โลกียกุศล ๑๗ จิตตุปบาทที่เปนอารมณของอกุศลจิตตุปบาท และ สมุทยสจั จะ คือ ตณั หา ตดิ ตอนดั ตวิ ท่ี กัญรศิ (หลิว) 081-860 2466

สจั จยมกะ 43 องคธ รรมของสงั สยบท ไดแ ก สมุทยสัจจะ คอื ตัณหา เทา นนั้ ๑. จงวสิ ัชนา พรอมคําแปล แสดงองคธ รรมไมต อ งจาํ แนกโกฏฐาส ในยมกะดงั ตอไปน้ี ? 46 สมทุ ยสจจฺ ํ เปตวฺ า สมุทโย สจั จะ ๔ ข. น สมุทโย, น สมุทยสจฺจนตฺ ิ ? 46 อวเสโส สมทุ โย ๑. โลกยี ๘๑ เจ.๕๑(-1) รปู ๒๘ สมุทยสจฺจํ ๒. โลภะ ตอบ ข. วสิ ชั นา อามนตฺ า ใช ในอนุโลมปจุ ฉา สมทุ ยสามัญ ๓. นพิ พาน องคธรรมของสนั นฏิ ฐานบท และอ.ธ.สัง. ไดแก ๔. อม.๘ ->ม.๔ สัจจะทัง้ ๓ สัจจวมิ ุตติ คอื มรรคจิตตุปบาท ๒๙ ผล กเิ ลส ๙ (-โลภะ) สมุทยสัจจะ สัจ.วิมุต. ม.ตุป.๒๙/ผ.ตุป.๓๗ จติ ตปุ บาท ๓๗ อตุ ชุ กลาป ๒ ทเี่ ปนอนนิ ทรยิ พทั ธรปู บัญญตั ิ (เวนสมทุ ัยสามญั และสมุทยสจั จะ) อกุ.๑๒ จิตตุป.+กิ.๙ คอื ตณั หา อตุ .ุ ๒ อนินทรยิ ฯ บญั ญตั ิ (-สม๒ุ ) โลกยี กุ.๑๗ จิตตุป.อา.อก.ุ จติ ตุป ๑. จงวิสชั นา พรอมคําแปล และองคธรรม ในขอปจุ ฉา ดังตอไปนี้ ไมต องจําแนกโกฏฐาส ? 42 ก. น สมุทยสจจฺ ํ, น สมุทโยติ ? 42 ปล. ตวั เช่อื ม อธ.๒ บท ตอบ ก. วสิ ชั นา พรอ มทง้ั คาํ แปล และองคธ รรม ดงั นี้ /XX ..... เจว ......จ ว.ิ สมทุ ยสจฺจํ เปตฺวา อวเสโส สมทุ โย น สมุทยสจจฺ ํ สมุทโย, สมทุ ยจฺ สมทุ ยสจจฺ ฺจ เปตวา อวเสโส น เจว สมุทโย น จ สมุทยสจฺจํ. แปล = ยกเวนสมุทยสจั จะเสยี แลว สมทุ ัยทเ่ี หลือนอกนน้ั ไมช ่ือวา สมทุ ยสจั จะ แตชื่อวา สมทุ ยั , ยกเวน สมทุ ัยและสมุทยสัจจะเสียแลว ธรรมทีเ่ หลอื นอกน้ัน ไมช ่ือวาสมุทัย, และ ไมชือ่ วา สมทุ ยสจั จะ. องคธ รรมของสนั นฏิ ฐานบท ไดแ ก สมทุ ัยสามญั คอื กิเลส ๙ (เวนโลภะ) อกศุ ล ๑๒ จิตตุปบาททเ่ี กดิ พรอมดวย กเิ ลส ๙ โลกยี กศุ ล ๑๗ จิตตปุ บาทท่เี ปน อารมณข องอกุศลจิตตุปบาท และ สจั จะทง้ั ๓ สจั จวมิ ตุ ติ คอื มรรคจิตตุปบาท ๒๙ ผลจติ ตปุ บาท ๓๗ อตุ ชุ กลาป ๒ ทเี่ ปนอนินทรยิ พัทธรปู บัญญัติ (เวน สมทุ ยั สามัญ และสมุทยสจั จะ) องคธ รรมของสังสยบท ไดแก องคธ รรมหมวดหลัง เทานนั้ ๑. จงวิสัชนา พรอมคําแปล และองคธรรม ในขอ ปุจฉา สจจฺ ํ ปณ ณตั ติวาระ ปทโสธนวาระ อนโุ ลม xมปุ xจจํ จxจนํิกxมุ ดงั ตอไปนี้ ไมตองจําแนกโกฏฐาส ? 42 ๒. สมทุ ยสัจจยมกะ มุ จํ จํ มุ ข. น สมุทโย, น สจฺจนฺติ ? 42 สม.ุ สมุทยสัจจะ คือ ตณั หา  ตอบ ข. วสิ ัชนา พรอมท้งั คาํ แปล และองคธ รรม ดงั น้ี ว.ิ สมุทยํ เปตฺวา อวเสสา สจฺจา น สมุทโย สจจฺ า, สมุทัยสามญั คือ สมุ  - กเิ ลส ๙ (-โลภะ) ทโย  น - อกุ .๑๒ จติ ตปุ บาท+กิ.๙ สมุ - โลกยี กุ.๑๗ จิตตปุ .อา.อกุ.จิตตุป. สมุทยฺจ สจฺจจฺ เปตวา อวเสสา ทย น เจว สมุทโย น จ สจจฺ า. สัจจะท้งั ๓ น  แปล = ยกเวน สมุทัยเสยี แลว สัจจะทเ่ี หลอื นอกนน้ั ไมช ื่อวา สจจฺ ํ สจั จวิมุติ คือ ม.๒๙ ผ.๓๗ สมุ สมทุ ยั แตช ื่อวา สจั จะ, ยกเวน สมุทยั และสัจจะเสียแลว อตุ ุชกลาป ๒ >อนินทรยิ พัทธรูป ทโย บัญญัติ (-สม.ุ สา+สม.ุ สจั จะ) ธรรมท่ีเหลือนอกน้นั ไมชื่อวา สมทุ ัย, และ ไมช อื่ วาสัจจะ. องคธ รรมของสันนฏิ ฐานบท ไดแ ก สจั จะทง้ั ๓ (เวนสมุทยั สามญั และ สมุทยสจั จะ) และ สจั จวมิ ุตติ อุตุชกลาป ๒ ที่เปน อนินทริยพัทธรปู บัญญตั ิ องคธ รรมของสงั สยบท ไดแก องคธ รรมหมวดหลัง เทา นน้ั ๑. จงวิสชั นา พรอมคาํ แปล และองคธ รรม ในขอปจุ ฉา ดังตอ ไปนี้ ไมต อ งจาํ แนกโกฏฐาส ? 42 ค. น สจจฺ า, น สมุทยสจฺจนฺติ ? 42 ตอบ ค. วิสชั นา อามนตฺ า ใช องคธรรมของสนั นฏิ ฐานบท ไดแ ก สจั จวมิ ตุ ติ อตุ ชุ กลาป ๒ ทเี่ ปน อนนิ ทริยพทั ธรูป บัญญตั ิ องคธ รรมของสงั สยบท เหมือนกัน  ดาวนโ หลดขอมลู ตา งๆท่ี ขอความเพิ่มเตมิ Youtube, Post, fb: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ที่แปะไว) ๑๗ ธ.ค. ๖๑

สัจจยมกะ 44 ๑. จงแสดงวสิ ัชนา พรอมทัง้ คําแปล และองคธรรม ในขอปุจฉาตอไปนไี้ มต อ งจําแนกโกฏฐาส ? 43 ก. นิโรโธ, นิโรธสจฺจนตฺ ิ ? 43 สจจฺ ํ ปณ ณัตตวิ าระ ปทโสธนวาระ อนุโลม xนปิxจจํ จxจนํxิกนิ ตอบ ก. ว.ิ นิโรธสจฺจํ เปตวฺ า อวเสโส นิโรโธ น นโิ รธสจจฺ ,ํ ๓. นโิ รธสจั จยมกะ นิ จํ จํ นิ นโิ รธสจจฺ ํ นโิ รโธเจว นิโรธสจฺจจฺ . นิโรธ นโิ รธสจั จะ คือ นพิ พาน   แปล ยกเวนนโิ รธสจั จะเสียแลว ธรรมท่เี หลอื นอกนั้นชือ่ วา นิโรธสามัญ มี นโิ รธ แตไ มช อ่ื วา นโิ รธสจั จะ (หรืออีกนยั หนึ่ง) ยกเวน นิโรธสจั จะเสียแลว นิโรธท่เี หลอื นอกนัน้ ไมช ่ือวานโิ รธ น ตทังค. กิเลส<=กามกุศล, นิ  วขิ ัมภน. นิวรณ<=มหัค.กุ., โรโธ สมุเฉท. กเิ ลส<=มรรค, สัจจะ, นโิ รธสัจจะชือ่ วา นโิ รธกใ็ ช ชือ่ วานโิ รธสจั จะกใ็ ช นโิ รธ ปฏปิ สสัทธิ. กิเลส<=ผล, น  ใน อนุ.ปุ. อ.สัน. ไดแก นิโรธสามัญ มี นิ สจจฺ ํ ขณะ. = ภงั คัก. จิต เจ. ตทังคนิโรธ คือ ความไมม ีภาวะแหง กเิ ลสทีไ่ ดถ ูก สจั จะทงั้ ๓ สัจจวิมุติ ๒๙/๓๗ ประหาณดว ยกามกศุ ล, อุตชุ กลาป ๒ >อนินทริยพัทธรปู บญั ญัติ (-น.ิ สามัญ+น.ิ สจั จะ) โรโธ วกิ ขมั ภนนโิ รธ คือ ความไมม ีภาวะแหงนวิ รณท ่ไี ดถกู ประหาณดว ย มหคั คตกศุ ล, สมุจเฉทนโิ รธ คอื ความไมมภี าวะแหงกิเลส นิโรธสจจฺ ํ เปตฺวา นโิ รโธ สจั จะ ๔ อวเสโส นิโรโธ ๑. โลกยี .๘๑ เจ.๕๑(-1) รปู ๒๘ ปฏปิ สสัทธนิ โิ รธ ทไ่ี ดถกู ประหาณดว ยมรรค, นิโรธสจจฺ ํ ๒. โลภะ คอื ความไมม ภี าวะแหง กเิ ลสที่ นิโรธสามัญ นโิ รธสจั จะ ๓. นิพพาน คอื นพิ พาน ๔. อม.๘ ->ม.๔ ไดถ ูกประหาณดวยผล ตทังค. วิกขัมภน. สมทุ เฉท. ปฏิปสสัทธิ. ขณะนโิ รธ สัจ.วิมตุ . ม.ตุป.๒๙/ผ ตุป.๓๗ ขณะนิโรธ คือ ภงั คักขณะของจติ เจตสกิ (เตา วง่ิ สะเปะสะปะ ขณะ นโิ รธ) อตุ .ุ ๒ อนนิ ทริยฯ บญั ญตั ิ (-น๒ิ ) และ นิโรธสจั จะ คือ นิพพาน อ.สงั . ไดแก นโิ รธสจั จะ คอื นิพพาน เทานน้ั ปล. ตวั เช่ือม อธ.๒ บท /XX ..... เจว ......จ ๑. จงวสิ ัชนา พรอมทงั้ คาํ แปล และองคธรรมในปุจฉาดงั ตอไปนี้ (ไมตองจาํ แนกโกฏฐาส) ? 45, 51, 55, 56 ข. น นิโรโธ, น นิโรธสจฺจนตฺ ิ ? 45, 51, 55, 56 ตอบ ข. วิสัชนา = อามนฺตา ใช ในอน.ุ ปุ. อ.สัน. และอ.สงั . ไดแก สจั จะทง้ั ๓ สจั จวมิ ตุ ติ อตุ ชุ กลาป ๒ ที่เปน อนนิ ทรยิ พัทธรปู บญั ญัติ (เวน นโิ รธสามัญกับนโิ รธสัจจะ) ๑. จงแสดงวสิ ัชนา พรอมทง้ั คําแปล และองคธรรม ในขอปุจฉาตอ ไปน้ีไมตองจําแนกโกฏฐาส ข. น นิโรธสจฺจ,ํ น นิโรโธติ ? 43, 49, 52, 58, 59, 60 ตอบ ข. ว.ิ นโิ รธสจจฺ ํ เปตวฺ า อวเสโส นโิ รโธ น นิโรธสจจฺ ํ นิโรโธ, นโิ รธจฺ นโิ รธสจฺจจฺ เปตวฺ า อวเสโส น เจว นิโรโธ น จ นิโรธสจฺจ.ํ แปล ยกเวนนโิ รธสจั จะเสยี แลว นิโรธท่เี หลอื นอกน้ันไมช ่อื วานิโรธสัจจะ แตช่อื วา นิโรธ, ยกเวน นโิ รธและนิโรธสจั จะเสียแลว ธรรมที่เหลือนอกนน้ั ไมชอ่ื วานโิ รธ และไมช อื่ วา นโิ รธสัจจะ. องคธรรมของสันนฏิ ฐานบท ไดแก นิโรธสามญั มี ตทังคนิโรธ คือ ความไมมภี าวะแหงกเิ ลส ท่ไี ดถกู ประหาณดว ย กามกศุ ล, วกิ ขัมภนนโิ รธ คือ ความไมม ีภาวะแหงนวิ รณ ที่ไดถูกประหาณดวย มหคั คตกศุ ล, สมุจเฉทนิโรธ คือ ความไมม ีภาวะแหง กเิ ลส ทไี่ ดถ ูกประหาณดว ย มรรค, ปฏปิ ส สัทธนิ โิ รธ คือ ความไมมภี าวะแหง กเิ ลส ทไ่ี ดถ ูกประหาณดวย ผล, ขณะนิโรธ คอื ภงั คักขณะของจติ เจตสกิ และ สจั จะทงั้ ๓ สัจจวมิ ุติ อุตชุ กลาป ๒ ทเี่ ปน อนินทริยพทั ธรปู บัญญตั ิ (เวนนโิ รธสามญั กับนิโรธสจั จะ) [(59) ͧ¤¸ ÃÃÁ¢Í§Êѹ¹Ô¯°Ò¹º· ä´áŒ ¡‹ ¹ÔâøÊÒÁÑ­ áÅÐ Ê¨Ñ ¨Ð·§éÑ ó ÊѨ¨ÇÔÁµØ Ô ÍµØ ªØ ¡ÅÒ» ò ·èàÕ »š¹Í¹Ñ¹·ÃÂÔ ¾·Ñ ¸Ã»Ù ºÑ­­ÑµÔ (ànj¹¹âÔ Ã¸ÊÒÁ­Ñ ¡ºÑ ¹âÔ Ã¸ ÊѨ¨Ð)]  ดาวนโหลดขอมลู ตา งๆท่ี ขอ ความเพ่ิมเตมิ Youtube, Post, fb: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ท่แี ปะไว) ๑๗ ธ.ค. ๖๑

สัจจยมกะ 45 องคธ รรมของสังสยบท ไดแก องคธ รรมหมวดหลัง เทา น้ัน ๑. จงวิสชั นา แปล และแสดงองคธ รรม ในปจุ ฉาดังตอไปน้ี ? ข. มคฺโค, มคคฺ สจฺจนฺต?ิ 47, 48 มคคฺ สจฺจํ เปตวฺ า มคโฺ ค สจั จะ ๔ อวเสโส มคฺโค ตอบ ข. วสิ ชั นา มคฺคสจจฺ ํ เปตวฺ า อวเสโส มคฺโค มคฺคสจจฺ ํ ๑. โลกีย.๘๑ เจ.๕๑(-1) รปู ๒๘ มรรคสามัญ ๒. โลภะ น มคคฺ สจฺจ,ํ มคคฺ สจฺจํ มคโฺ ค เจว มคคฺ สจจฺ จฺ ปญ จงั คกิ . อัฏฐังคิก. มรรคสัจจะ ๓. นิพพาน ยกเวน มคั คสจั จะเสยี แลว ธรรมท่เี หลอื นอกนนั้ ช่ือ มจิ ฉา.๔ ชังค. สกฏ. อริยมรรคมอี งค ๘ ๔. อม.๘ ->ม.๔ วามรรค แตไ มช่ือวามรรคสจั จจะ, มรรค- (๕ ๘ ๔ เทา เกวียน) ทใ่ี นมรรคจติ ๔ สัจ.วมิ ุต. ม.ตุป.๒๙/ผ.ตปุ .๓๗ สจั จะชอ่ื วามรรคกใ็ ช ชอื่ วามรรคสจั จะก็ใช อตุ .ุ ๒ อนินทริยฯ บญั ญตั ิ (-มคั ๒) ในอนุ.ปุ. อ.สัน. ไดแ ก มรรคสามัญ คือ สจจฺ ํ ปณ ณตั ตวิ าระ ปทโสธนวาระ อนุโลม xมปxจจ ํ จxจนํxิกม ปญจังคกิ มรรค ท่ใี นมหาวบิ าก มหากิรยิ า และมหัคคตจติ , ๔. มคั คสัจจยมกะ ม จํ จํ ม อัฏฐังคกิ มรรค ทใ่ี น มหากศุ ล และผลจติ , มคฺ มรรคสจั จะ คือ อม.๘=> ม.๔   มจิ ฉามรรคทงั้ ๔ มี มจิ ฉาทฏิ ฐมิ รรค เปนตน มรรคสามัญ มี (๕ ๘ ๔ เทา เกวยี น) ชังคมรรค คอื ทางเทา , สกฏมรรค คอื ทางเกวยี น เปนตน น ปญ จัง.-> ม.วิ ม.กิ มหคั .จิต, มคฺ  และ มัคคสจั จะ คอื องคมรรค ๘ ท่ใี นมรรคจติ ๔ อัฏฐัง.-> ม.กุ. ผลจิต, โค  อ.สงั . ไดแ ก มคั คสัจจะ คือ องคมรรค ๘ มจิ ฉา.๔ –มิจฉาทฏิ ฐิ ฯ, มคคฺ ชงั ค. = ทางเทา , สจฺจํ สกฏ. = ทางเทาเกวียน ฯ สัจจะทัง้ ๓ สจั จวมิ ุติ ๒๙/๓๗ น อตุ ุชกลาป ๒ >อนินทรยิ พัทธรปู มคฺ ทใี่ น มรรคจติ ๔ เทานัน้ บญั ญัติ (-ม.สามัญ+ม.สจั จะ) โค  ๑. จงวิสชั นา แปล และแสดงองคธ รรม ในปุจฉาดังตอไปน้ี ? ค. น มคโฺ ค, น มคฺคสจจฺ นฺต?ิ 48 ตอบ ค. วสิ ัชนา อามนฺตา ใช ในอน.ุ ปุ. อ.สนั . และ อ.สัง. ไดแก สัจจะท้ัง ๓ สัจจวมิ ุติ อุตุชกลาป ๒ ทีเ่ ปน อนนิ ทริยพัทธรปู บัญญตั ิ (เวนมรรคสามัญ กบั มรรคสจั จะ) ๑. จงวสิ ัชนา พรอมท้ังคําแปล และองคธรรมในปจุ ฉาดงั ตอ ไปนี้ (ไมต องจาํ แนกโกฏฐาส) ? ปล. ตัวเชือ่ ม อธ.๒ บท ค. น มคฺคสจจฺ ,ํ น มคฺโคติ ? 45, 50(ข), 51, 53, 54, 55, 56 /XX ..... เจว ......จ ตอบ ค. วิสชั นา มคฺคสจจฺ ํ เปตวฺ า อวเสโส มคฺโค น มคคฺ สจจฺ ํ มคโฺ ค, มคคฺ จฺ มคฺคสจฺจจฺ เปตฺวา อวเสโส น เจว มคโฺ ค น จ มคคฺ สจฺจํ. แปล ยกเวนมรรคสจั จะเสียแลว มรรคทเ่ี หลอื นอกน้ันไมช อื่ วา มรรคสัจจะ แตช ื่อวามรรค, ยกเวน มรรคและมรรคสจั จะเสยี แลว ธรรมท่ีเหลือนอกนั้นไมชือ่ วามรรค และไมช อ่ื วา มัคคสจั จะ ในปฏิ.ปุ.องคธรรมของสันนิฏฐานบท ไดแก มรรคสามญั และ สจั จะท้งั ๓ สัจจวมิ ตุ ิ อุตชุ กลาป ๒ ที่เปน อนินทรยิ พัทธรปู บญั ญตั ิ (เวน มรรคสามญั กับ มรรคสจั จะ) องคธ รรมของสังสยบทไดแก องคธ รรมหมวดหลงั เทา นัน้ ๒. จงแสดงทกุ ขสจั จมลู ะ สมุทยสัจจมูลี ทงั้ บาลแี ละคาํ แปล (ไมตองแสดงองคธรรม) ในปทโสธนมูลจักกวาระ อนโุ ลม แหง ปณณตั ิวาระ ? 48 ตอบ อนุ.ปุ. ทุกขฺ ํ ทุกฺขสจจฺ นตฺ ิ ? ธรรมท่ชี ือ่ วาทกุ ข, ช่ือวา ทุกขสัจจะ ใชไหม ? ว.ิ อามนฺตา ใช ปฏ.ิ ปุ. สจฺจา, สมทุ ยสจฺจนตฺ ิ ? ธรรมท่ชี ่ือวาสัจจะ, ชื่อวาสมุทยสัจจะ ใชไ หม ? ว.ิ สมทุ ยสจจฺ ํ สจฺจเฺ จว สมุทยสจฺจจฺ , อวเสสา สจจฺ า น สมทุ ยสจจฺ .ํ สมุทยสจั จะ ชอ่ื วา สจั จะกใ็ ช ชอ่ื วาสมุทยสจั จะกใ็ ช, สจั จะที่เหลอื นอกนนั้ ไมช ่ือวาสมุทยสจั จะ (หรอื อีกนัยหน่ึง) ธรรมท่ีเหลอื นอกนน้ั ช่อื วา สจั จะ แตไ มช่อื วา สมทุ ยสัจจะ ฯ  ดาวนโหลดขอมลู ตา งๆที่ ขอ ความเพมิ่ เตมิ Youtube, Post, fb: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ทีแ่ ปะไว) ๑๗ ธ.ค. ๖๑

สัจจยมกะ 46 โอกาสวาระ กาล (๑-๖) ๓. จงแสดงวิสัชนาไมต อ งแปล และแสดงองคธ รรม ในขอ ปจุ ฉาตอ ไปน้ี ไมต องจาํ แนกโกฏฐาส ? 51 ๕. จงแสดงวสิ ัชนา พรอมทง้ั คาํ แปล และองคธ รรมในขอ ปจุ ฉาดงั ตอ ไปนี้ (ไมต องจําแนกโกฏฐาส) ? 42(4), 46(4), 47, 49, 51 [(3)ไมตองแปล] ก. ยตฺถ ทกุ ฺขสจจฺ ํ อปุ ปฺ ชชฺ ต,ิ ตตฺถ สมุทยสจจฺ ํ นริ ุชฌฺ ตีติ ? 42(4), 46, 47, 49, 51 (ว อนุ ิ 1 โอ) ตอบ แสดงวสิ ชั นาพรอ มท้งั คาํ แปลและองคธ รรมในปุจฉา ดังนี้ ก. ว.ิ อสฺ สตเฺ ต ตตถฺ ทกุ ขฺ สจฺจํ อปุ ปฺ ชชฺ ติ โน จ ตตถฺ สมุทยสจจฺ ํ นริ ชุ ฺฌต,ิ ว อ/ุ น/ิ อนุ ิ ทกุ สมุ มคคฺ จตุโวกาเร ปฺจโวกาเร ตตฺถ ทุกขฺ สจจฺ ฺจ อปุ ปฺ ชฺชติ สมทุ ยสจจฺ จฺ นิรชุ ฌฺ ต.ิ ๑-๖ โอ แปล ในอสัญญสัตตภูมนิ ้ัน ทกุ ขสจั จะกําลงั เกิด แตสมทุ ยสจั จะไมใชกําลงั ดับ ในภูมนิ จัน้ ต,ุโวการเร อรูป 4    ในจตุโวการภูมิ ปญ จโวการภมู ินั้น ทกุ ขสจั จะก็กําลงั เกดิ สมุทยสัจจะก็กําลงั ดบั  1  - -อวเสเส ุตป ปญ 22    องคธ รรมของสนั นิฏฐานบท ไดแ ก อสัญญสตั ตภูมิ ๑ ปฺจโวกาเรบาย 4   - และ จตโุ วการภมู ิ ๔ ปญจโวการภูมิ ๒๖ รวม 31 30 26 องคธรรมของสังสยบท ไดแก องคธ รรมหมวดหลงั เทา นนั้ ๕. จงแสดงวิสัชนา แปล และแสดงองคธรรม ในขอ ปุจฉาตอไปนี้ (ไมตองจาํ แนกโกฏฐาส) ? 53, 56 ก. ยตฺถ ทกุ ฺขสจฺจํ อปุ ปฺ ชฺชต,ิ ตตถฺ สมุทยสจจฺ ํ อปุ ปฺ ชชฺ ิสสฺ ตีติ ? 53, 56 (ว อุ 5 โอ) ว อ/ุ น/ิ อนุ ิ อนุโลม ปจจนกิ ตอบ ก. วสิ ชั นา อสฺ สตเฺ ต ตตถฺ ทุกฺขสจฺจํ อุปปฺ ชชฺ ติ โน จ ตตฺถ ๑-๖ โอ ทุ สส ทุทุ สส ทุ สมุทยสจฺจํ อุปปฺ ชชฺ สิ สฺ ต,ิ จตุโวกาเร ปฺจโวกาเร ตตฺถ จตโุ วการเร อรปู 4  อวเสเส ุตป  1  ทกุ ฺขสจฺจจฺ อปุ ปฺ ชฺชติ สมทุ ยสจจฺ จฺ อปุ ปฺ ชชฺ สิ สฺ ต.ิ  แปล ใในนอจสตญัุโวญกสารตั ภตมูภิ ูมปินญ ้นั จทโวกุ กขาสรัจภจมู ะินกน้ัาํ ลทังเกุ กขิดสจัแจตะส กม็กุทาํ ยลสงั ัจเกจดิะจสักมไทุมเยกสดิ จั ใจนะภกูม็จนิ ัก้ันเก,ปดิ.จฺ โวกาเรบปาญ ย 22  4  องคธรรมของสนั นฏิ ฐานบท ไดแก อสญั ญสตั ตภมู ิ ๑ และ จตโุ วการภมู ิ ๔ ปญ จโวการภูมิ ๒๖. องคธ รรมของสังสยบท ไดแ ก องคธ รรมหมวดหลงั เทาน้ัน. ๖. จงแสดงวิสัชนา พรอมท้ังคาํ แปล และองคธรรม ในขอปจุ ฉาดังตอไปน้ี (ไมตองจําแนกโกฏฐาส) ? (ว นิ 6 โอ) ข. ยตถฺ สมทุ ยสจจฺ ํ นิรชุ ฌฺ ิตฺถ, ตตถฺ มคคฺ สจจฺ ํ นริ ุชฺฌสิ สฺ ตีติ ? 42(ค), 46(4), 47(5), 49, 50(4ข), 57, 61 ตอบ ข. วิสัชนา อปาเย ตตฺถ สมุทยสจจฺ ํ นริ ุชฺฌิตถฺ โน จ ตตฺถ มคฺคสจฺจํ นริ ชุ ฌฺ ิสสฺ ต,ิ อวเสเส จตุโวกาเร ปฺจโวกาเร ตตฺถ สมทุ ยสจจฺ จฺ นิรชุ ฺฌติ ถฺ มคคฺ สจจฺ ฺจ นิรชุ ฌฺ ิสสฺ ต.ิ แปล ในอบายภูมนิ ้ัน สมทุ ยสัจจะเคยดบั แตม รรคสจั จะจักไมดับในภมู นิ ้ัน, ในจตโุ วการภมู ิ ปญ จโวการภมู ทิ น่ี อกจากน้นั สมทุ ยสจั จะก็เคยดับ มรรคสจั จะกจ็ ักดับ องคธ รรมของสันนฏิ ฐานบท ไดแก อบายภมู ิ ๔ และ จตโุ วการภมู ิ ๔ ปญ จโวการภูมิ ๒๒ (เวนอบายภมู ิ ๔) องคธรรมของสงั สยบท ไดแ ก องคธ รรมหมวดหลงั เทา นน้ั ๔. จงแสดงวิสัชนา พรอมทัง้ คาํ แปล และองคธรรม ในขอปจุ ฉาดังตอไปน้ี (ไมตองจําแนกโกฏฐาส) ? 42(6ข), 46, 49(5), 50, 51(3ข), 57(6), 61(6) (ว อุนิ 5 โอ) ว อ/ุ น/ิ อุนิ อนุโลม ปจจนิก ๑-๖ โอ ส ม ม ส ส ม ม ส ก. ยตถฺ วา ปน มคฺคสจจฺ ํ นิรุชฌฺ สิ สฺ ต,ิ ตตถฺ สมุทยสจจฺ ํ อุปฺปชชฺ ตีติ ? จตุโวการเร อรูป 4   ตอบ ก. วสิ ัชนา อามนตฺ า ใช อวเสเส ตุป 1   องคธ รรมของสนั นฏิ ฐานบท ไดแ ก จตุโวการภมู ิ ๔ ปญ 22   ปจฺ โวกาเรบาย 4  องคธรรมของสงั สยบท ปญ จโวการภมู ิ ๒๒ (เวน อบายภูมิ ๔)  เหมอื นกัน ๕. จงแสดงวสิ ัชนา แปล และแสดงองคธ รรม ในขอ ปจุ ฉาตอไปนี้ (ไมตองจาํ แนกโกฏฐาส) ? 53, 56 (ว นิ 6 โอ)  ดาวนโ หลดขอมูลตา งๆที่ ขอ ความเพมิ่ เตมิ Youtube, Post, fb: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ที่แปะไว) ๑๗ ธ.ค. ๖๑

สัจจยมกะ 47 ข. ยตถฺ วา ปน มคคฺ สจจฺ ํ น นิรุชฺฌสิ ฺสติ, ตตฺถ สมุทยสจจฺ ํ น นิรชุ ฌฺ ติ ฺถาติ ? ตอบ ข. วสิ ัชนา อปาเย ตตถฺ มคคฺ สจจฺ ํ น นริ ุชฺฌสิ ฺสติ โน จ ตตถฺ สมทุ ยสจจฺ ํ น นริ ุชฌฺ ติ ฺถ, อสฺ สตเฺ ต ตตฺถ มคคฺ สจจฺ ฺจ น นริ ชุ ฺฌสิ สฺ ติ สมทุ ยสจจฺ จฺ น นริ ุชฌฺ ิตถฺ . แปล ในอบายภูมนิ นั้ มรรคสจั จะจักไมด ับ แตสมุทยสจั จะเคยดบั ในภมู นิ ัน้ , ว อ/ุ น/ิ อุนิ อนโุ ลม ปจ จนกิ ในอสญั ญสตั ตภมู นิ ัน้ มรรคสจั จะก็จักไมดับ สมุทยสัจจะกไ็ มเ คยดบั . ๑-๖ โอ ส ม ม ส ส ม ม ส องคธรรมของสนั นฏิ ฐานบท ไดแ ก อบายภูมิ ๔ และ อสญั ญสัตตภมู ิ ๑. จตุโวการเร อรปู 4   อวเสเส ุตป 1 องคธรรมของสังสยบท ไดแก องคธรรมหมวดหลงั เทา นน้ั .   ปญ 22   ปจฺ โวกาเรบาย 4  ๔. จงแปลและแสดงองคธรรม ในวิภังคบาลี ดังตอไปนี้ ? 49  ก. จตุโวการํ ปจฺ โวการํ อุปปชฺชนฺตานํ เตสํ ตตถฺ ? 49 ข. ปวตฺเต มคฺควปิ ฺปยตุ ตฺ จิตฺตสฺส อปุ ฺปาทกขฺ เณ เตสํ ? 49 ค. อรเู ป มคคฺ สฺส จ ผลสสฺ จ ภงคฺ กขฺ เณ เตสํ ตตถฺ ? 49 ตอบ ก. แปล เมอ่ื บุคคลเหลา นน้ั กําลงั เกิดใน จตโุ วการภมู ิ ปญ จโวการภูมใิ นภมู นิ ั้น องคธ รรมไดแ ก ปถุ ชุ น ๔ ผลเสกขบุคคล ๓ ซง่ึ กาํ ลงั เกดิ ในจตโุ วการภมู ิ ปญ จโวการภมู ิ คอื ในขณะทีถ่ ึงพรอ มดว ย การเกดิ ข้ึนแหง ปฏสิ นธจิ ติ ๑๙ เจตสิก ๓๕ กัมมชกลาป ๓–๗–๔ กบั จตโุ วการภูมิ ๔ ปญจโวการภูมิ ๒๖ ข. แปล ในอปุ ปาทักขณะแหง จติ ทีป่ ราศจากองคม รรคในปวัตติกกาลของบุคคลเหลานัน้ องคธรรมไดแ ก ปุถชุ น ๔ ผลบคุ คล ๔ ท่เี ปน ไปในปวัตตกิ าล ในปญ จโวการภมู ิ คอื ในขณะทถี่ งึ พรอ มดว ยการ เกดิ ข้นึ แหงมรรควิปปยุตตจิต ๘๑ เจตสิก ๕๒ จติ ตชรูป (เวน อรปู วปิ ากจิต ๔) ตเิ หตุกปถุ ุชน ๑ ผลบุคคล ๔ ทีเ่ ปน ไปในปวตั ติกาลในจตุโวการภมู ิ คอื ในขณะถงึ พรอมดว ยการเกดิ ขน้ึ แหงโลภมลู จิต ๘ โมหมลู จิต ๒, มโน ทวาราวัชชนจิต ๑ มหากศุ ลจติ ๘, มหากิรยิ าจิต ๘, อรูปาวจรจติ ๑๒ เจตสิก ๔๓ (เวนวริ ตี อัปปมัญญา) ค. แปล ในภงั คักขณะแหง มรรคจิต ผลจติ ในอรปู ภูมิบุคคลเหลานัน้ ในภูมิน้นั องคธรรมไดแ ก มรรคบคุ คลเบ้ืองบน ๓ ผลบคุ คล ๔ ท่เี ปน ไปในปวัตตกิ าลในอรูปภมู ิ คอื ในขณะท่ีถึงพรอมดวย การดบั แหง มรรคจิตเบอื้ งบน ๓ ผลจิต ๔ เจตสกิ ๓๖ กบั อรปู ภูมิ ๔ ๔. จงแปลและแสดงองคธรรมในวิภังคบาลี ดงั ตอ ไปนี้ ? 45 ก. สทุ ฺธาวาสานํ อุปปตตฺ จิ ิตตฺ สฺส ภงคฺ กฺขเณ เตสํ ตตถฺ ? 45 ข. จตโุ วการํ ปจฺ โวการํ อุปปชชฺ นฺตานํ เตสํ ตตถฺ ? 45 ค. ปวตเฺ ต ตณฺหาวปิ ฺปยุตตจิตตฺ สสฺ อปุ ฺปาทกขฺ เณ เตส,ํ ? 45 ง. อรเู ป มคฺคสสฺ จ ผลสฺส จ ภงคฺ กฺขเณ เตสํ ตตฺถ, ? 45 ตอบ แปลและแสดงองคธ รรมในภงั คบาลี ดงั นี้ ก. ในภงั คกั ขณะแหงปฏสิ นธจิ ิตของสุทธาวาสพรหมเหลา นนั้ ในภมู นิ น้ั องคธ รรมไดแ ก อนาคามิผลบคุ คล ๑ ทีใ่ น สุทธาวาสภูมิ คอื ในขณะท่ีถึงพรอมดวยการดับแหง จติ ๑๙ ดวง คอื รปู าวจรปญ จมฌานปฏสิ นธจิ ติ ๑ ภวงั ค- จติ ๑๖ มโนทวาราวชั ชนจิต ๑ ภวนกิ นั ติกะโลภชวนะดวงท่ี ๑ กบั สทุ ธาวาสภูมิ ๕ ข. เมื่อบคุ คลเหลา นนั้ กาํ ลงั เกิดในจตโุ วการภมู ปิ ญ จโวการภมู ิ ในภูมินน้ั องคธรรมไดแก ปถุ ชุ น ๔ ผลเสกขบคุ คล ๓ ซ่ึงกําลังเกดิ ในจตโุ วการภูมิ ปญจโวการภูมิ คอื ในขณะทถ่ี ึงพรอ มดวยการเกดิ ขน้ึ แหง ปฏิสนธิจติ ๑๙ เจตสกิ ๓๕ กมั มชกลาป ๓-๗-๔ กับจตโุ วการภมู ิ ๔ ปญจโวการภูมิ ๒๑ (เวน สทุ ธาวาสภมู ิ ๕) หรอื ปญจโวการภมู ิ ๒๖ กถ็ ูก ค. ในอุปปาทกั ขณะแหงจติ ทปี่ ราศจากตณั หาในปวัตติกาล ของบคุ คลเหลา นนั้ องคธ รรมไดแก ปุถชุ น ๔ อริย- บุคคล ๘ ทเี่ ปนไปในปวตั ติกาลในปญ จโวการภูมิคอื ในขณะท่ีถึงพรอ มดวยการเกดิ ขนึ้ แหง ตณั หาวิปปยตุ ตจติ ๗๗ เจตสิก ๔๙ จติ ตชรปู (เวนโลตกิ ะ ๓) ติเหตุกปถุ ชุ น ๑ ผลบคุ คล ๔ ที่เปน ไปในปวัตตกิ าลในจตโุ วการภมู ิ คือในขณะท่ถี งึ พรอมดวยการเกิดขึ้นแหงโมหมลู จติ ๒ มโนทวาราวัชชนจติ ๑ มหากศุ ลจติ ๘ มหากิรยิ าจิต ๘ อรูปาวจรจติ ๑๒ เจตสกิ ๓๘ (เวนวริ ตี อัปปมัญญา) ง. ในภังคกั ขณะแหงมคั คจิตผลจิตในอรูปภูมิบุคคลเหลา น้ัน ในภูมนิ น้ั องคธรรมไดแก มคั คบคุ คลเบ้อื งบน ๓ ผล  ดาวนโ หลดขอมลู ตา งๆท่ี ขอ ความเพมิ่ เตมิ Youtube, Post, fb: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ที่แปะไว) ๑๗ ธ.ค. ๖๑

สจั จยมกะ 48 บุคคล ๔ ทใ่ี นอรปู ภมู ิ คอื ในขณะทถ่ี ึงพรอมดวยการดบั แหงมคั คจติ เบอื้ งบน ๓ ผลจติ ๔ กับอรปู ภมู ิ ๔ กาล ๑ ปุคคลวาระ/ ปุคคโลกาสวาระ ภูมิ จติ เกดิ (จิตเกิดได) คือ เจ อรูปภูมิ ๔ ๔๖ โล.๘+โม.๒+ม.๑+มกุ.๘+มกิ๘+อรูป๑๒+โลกตุ .๗(-โส.ม.๑) ๔๖ (-โท.๔, อปั .๒) อสัญญสตั ต.๑ ชี (กํ) ชวี ิตนวกกลาปทเ่ี กดิ ในขณะแรก, ชวี ติ นวกกลาปทีด่ ับครั้งสุดทาย ปญจโวการ.๒๖ ๘๕ จิต ๘๕ (-อรปู วิ.๔), จริ ,ุ ปกํ ๕๒ - รปู ภมู ิ ๖๙ จิต ๖๙ (-โท๒ ฆา๒ ชวิ ๒ กาย๒ ม.ว.ิ ๘ อรูปว.ิ ๔), จริ ,ุ ปกํ ๔๘ (-โทจ.๔) - กามภูมิ ๘๐ จิต ๘๐ (-มหคั .วิ.๙), จิร,ุ ปกํ ๕๒ อรูปภูมิ จติ (เกิดได) ๔๖ + เจ. ๔๖ บุคคล ปญ จโวการ จติ (เกิด) ๘๕ (-อ.ว.ิ ๔)+เจ. ๕๒+จ.ิ รุ บุคคล ๔ ปฏ.ิ โล.๘ ๒+๑+๘+๘+๑๒ มบ.๓ ผ.๔ จตุ .ิ ภูมิ ๒๖ ปฏ.ิ โล.๘ จิต.. ๖๙ ม.๔ ผ.๔ จตุ ิ ทุกข    จติ ตชรูป  ป4ุ ม4 ผ4 ทุกข     ติ1 ผ4 สมุทัย  ติ1 ผ3 สมุทยั  ป4ุ ผ3 มรรค อม.๘ มบ.๓ มรรค อม.๘ ม.๔ 1.3 1.3 1.4 มบ3 ผ4 1.4 4.3 4.3 4.4 ม4 ผ4 4.4 อุปฺปชฺชติ (ก.ก.) นุปปฺ ชชฺ ติ (Xก.ก) นิรุชฺฌติ (ก.ด.) น นิรชุ ฌฺ ติ (Xก.ด.) K1 ปฏ+ิ อปุ าทะ(-ไมม ีใหเกิด) (ดบั )จตุ +ิ ภ+ํ เกดิ ไมได (เกดิ แลว )มใี หด บั ปฏิ+อปุ าทะ+ไมม ใี หด ับ ทกุ ข สอํ ุ วจอิ ปุ ฺ (-อมผอปุ )ฺ สจํ วจิภํ อมผอุปฺ สํจ วจิภํ (-อมผอปุ ฺ) สํอุ วจิอปุ ฺ อมผภํ สมุทยั ตอปุ ฺ สํจ วจภิ ํ อมผอปุ ฺ/ ตภํ สํอุ วจิอุปฺ อมผภ/ํ สํอุ วตวจิ อิ ุป สจํ วตวจิ ิภํ มรรค ปมอุปฺ อมอุปฺ สํจ วจิภํ อผอุปฺ/ ปมภํ อมภํ สอํ ุ วจิอุปฺ อผภ/ํ (=มอปุ ) สํอุ วมวิจอิ ุป (=มภ)ํ สจํ วมวจิ ิภํ 1 ทุกฺ-สมุ อนุโลมนัย 48(3), 52 ปจจนกิ นัย ส๕ัม(ภส)า=ษ>ณ4ข 6อ ,๕50ป,๔5๖3,ฯ อสัญ. 8เจ.2๓๘1=๔8๖-8โลต1ิ.2๓-3ถ๒ี 4-๑(ว-+.วิ.๓ผ๓ิ.๓.๘๔-อัป๒) อปุ าทวาระ สอํอามุ วนตตฺ (ว๒า-ิจ(อลมอิ )ผุป=อุป>ฺ )ฺ 43, 56 อามนตฺ ๒า (ล)=>43 ตอ5ปุ 4, สํอุ วตวิจอิ ปุ สํจ วจิภํ อมผอุปฺ ปอรญปู สจ.๔๔๑สอํ....ุ๒๓๑ุ 85 = 8, 77+๔๙(-โล๔.ต๘ิ๓) นิโรธวาระ โอสนํจาม(วสนตํอฺตวุ๕าวจิ(จสภิ)ิอ=ํุป>ฺ4X3)๓, 4(ตล5ภ),=4ํ >95, 258อสตจํภามํ วนตฺตวาิจภิ ํ สอํ ุ วจิอปุ อมผภํ วตวจิ อิ ปุ อปุ าทะ- วจอิ ปุ ตอปุ ฺ สํจ วตวิจิภํ นิโรธวาระ โน (ตภํ X) สอํ ุ วจิอปุ อมผอุปฺ อุ ๑ นุ อนุโลม ปจุ ฉา ทกุ ขสจั จะ กก. ๒. จงวสิ ัชนา พรอมท้งั แสดงองคธรรมในขอปจุ ฉาตอไปนี้ ? 43, 56, 59, 61 สํอุ วจิอปุ ฺ(-อมผอปุ ฺ) ๒. จงวสิ ชั นาเฉพาะ/เปน ภาษาไทย และแสดงองคธ รรมในปุจฉาตอไปนี้ วตวปิ ฺจิอปุ ฺ ตอุป. (ไมตองจาํ แนกโกฏฐาส) ? 48(3), 52, 54 [ว อุ 1 นุ ล ทุก-สมุ (อนุ.)]    อนุ. ป.ุ ยสฺส ทุกฺขสจฺจํ อปุ ปฺ ชชฺ ต,ิ ตสฺส สมุทยสจฺจํ อุปปฺ ชชฺ ตตี ิ ? 43, 52, 54, 56, 59, 61 ทุกขสจั จะกําลังเกิดแกบ ุคคลใด, สมุทยสจั จะก็กําลังเกดิ แกบคุ คลน้ันใชไหม ? 48(3) ตอบ วสิ ชั นา สพฺเพสํ อปุ ปชชฺ นฺตานํ ปวตฺเต ตณหฺ าวิปฺปยตุ ตฺ จิตตฺ สฺส อปุ ปฺ าทกขฺ เณ เตสํ ทกุ ฺขสจฺจํ อปุ ปฺ ชชฺ ติ โน จ เตสํ สมุทยสจฺจํ อปุ ปฺ ชฺชต,ิ ตณหฺ าย อปุ ปฺ าทกขฺ เณ เตสํ ทกุ ขฺ สจฺจจฺ อปุ ปฺ ชฺชติ สมุทยสจจฺ จฺ อปุ ปฺ ชชฺ ต.ิ √X สํอุ วตวจิ ิอุปฺ (48, 52, 54) เมือ่ บคุ คลเหลา นน้ั ทงั้ หมดกาํ ลงั เกิดก็ดี √√ ตอปุ ฺ ในอุปปาทกั ขณะแหง จิตท่ีปราศจากตัณหาในปวัตติกาลของบคุ คลเหลา นั้นก็ดี ทุกขสัจจะกําลงั เกิด แตส มุทยสจั จะไมใ ชกําลังเกิด แกบุคคลเหลา นั้น, ในอปุ ปาทักขณะแหงตณั หาของบคุ คลเหลา นัน้ ทุกขสจั จะก็กาํ ลงั เกิด สมุทยสัจจะกก็ าํ ลงั เกิด  ดาวนโหลดขอมลู ตา งๆที่ ขอความเพิ่มเติมYoutube, Post, fb: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ทแ่ี ปะไว) ๑๗ ธ.ค. ๖๑

สจั จยมกะ 49 ใน อนุ.ปุ. อ.สนั . ไดแก ป.ุ ๔ ผลเสกขบคุ คล ๓ ซ่ึงกาํ ลงั เกิดใน ๓๑ ภมู ิ คือในขณะท่ีถึงพรอมดว ยการเกดิ ขนึ้ แหง √X สํอุ วตวจิ ิ ปฏสิ นธจิ ิต ๑๙ เจตสกิ ๓๕ กมั มชกลาป ๓-๗-๔ ชวี ิตนวกกลาปท่เี กดิ ในขณะแรก ป.ุ ๔ อรยิ บคุ คล ๘ ท่ีเปน ไปในปวตั ตกิ าล ในปญ จโวการภูมิ คอื ในขณะทีถ่ งึ พรอ มดวยการเกดิ ขึ้นแหง ตัณหาวิปปยตุ ตจติ ๗๗ เจตสิก ๔๙ จติ ตชรปู (เวน โลตกิ ะ ๓) ต.ิ ๑ ผลบคุ คล ๔ ท่ีเปน ไปในปวตั ติกาล ในจตโุ วการภูมิ คอื ในขณะท่ีถงึ พรอมดวยการเกดิ ข้นึ แหง โมหมลู จติ ๒ มโนทวาราวชั ชนจิต ๑ มหากศุ ลจติ ๘ มหากริ ยิ าจิต ๘ อรูปาวจร จติ ๑๒ เจตสกิ ๓๘ (เวน วิรตี อัปปมญั ญา) และ ป.ุ ๔ ผลเสกขบคุ คล ๓ ท่ีเปน ไปในปวตั ติกาล ในปญจโวการภูมิ คอื ในขณะทถ่ี ึงพรอ มดว ยการเกดิ ข้ึน √√ ตอปุ ฺ แหง โลภมูลจิต ๘ เจตสกิ ๒๒ จติ ตชรปู ต.ิ ๑ ผลเสกขบุคคล ๓ ทีเ่ ปนไปในปวตั ตกิ าล ในจตุโวการภูมิ คอื ในขณะทีถ่ งึ พรอมดวยการเกิดขนึ้ แหง โลภมูลจิต ๘ เจตสิก ๒๒ อ.สัง. ไดแก องคธรรมหมวดหลัง เทา น้นั ๒. จงวสิ ัชนา พรอมท้งั แสดงองคธ รรมในขอ ปุจฉาตอไปนี้ ? 43 [ว อุ 1 จ ล ทกุ -สมุ (อนุ.)] ข. ยสสฺ ทุกฺขสจฺจํ นปุ ฺปชฺชติ, ตสสฺ สมุทยฺ สจจฺ ํ นุปปฺ ชฺชตตี ิ ? ปุ.๔ ผ.๔ กต. ๓๑ ภูมิ = ปุ.๔ อริย.๘ ว. = มบ.๓ ผ.๔ ว.อรปู = จุต.ิ ๑๙+๓๕ กํ ช.ี ทาย จิต ๘๙+๕๒ (-จตุ จิ ิต) มบ.๓ ผ.๔ + ๓๖ อุ ๑ ปจจนิกนยั อนุโลม ปจุ ฉา อสญั . ทุกขสจั จะ ไมใ ชX กก. จต.ุ มบ.๓ ผ.4๔6(อมผอปุ ) ปญจ. วจภิ ํ 85 สจํ สํอุ วจ(ิ อปุ ฺ/ภ)ํ สํจ วจิอุปฺ อมผอุปฺ. วจิภ.ํ    ตอบ ข. วสิ ชั นา อามนตฺ า ใช อ.สัน. และ อ.สงั . ไดแ ก ปุ ๔ ผล ๔ กําลังตายใน ๓๑ ภูมิ คือในขณะท่ถี งึ พรอ มดว ยการดับแหง จตุ ิ จติ ๑๙ เจตสิก ๓๕ กมั มชรปู ชีวิตนวกกลาป ทีด่ บั ครงั้ สุดทาย ปุ ๔ อริยบคุ คล ๘ ทเ่ี ปน ไปในปวตั ตกิ าล คอื ในขณะทถ่ี ึงพรอ มดวยการดับแหง จติ ๘๙ เจตสิก ๕๒ (เวน จตุ ิจติ ) มรรคบุคคลเบอ้ื งบน ๓ ผลบคุ คล ๔ ท่เี ปนไปในปวตั ตกิ าล ในอรปู ภูมิ คอื ในขณะที่ถงึ พรอ มดว ยการเกดิ ข้นึ แหง มรรคจิตเบื้องบน ๓ ผลจิต ๔ เจตสิก ๓๖ ๓. จงวสิ ชั นา แปล แสดงองคธ รรมในปจุ ฉาดังตอ ไปนี้ นอ1ปุโิ ทรากุธทะฺ-ะส-ม๕ุ (โโสนน)=>(สอ(4ตอํ3๓นภ,ุ (โุว4ลํ ล5จ)X,=ิอม4)ุป>9น,5ฺ ัยX528) ปจจนกิ นัย (ไมตองจําแนกโกฏฐาส) ? 52 [ว อุนิ 1 นุ ล ทกุ -สมุ (อนุ.)] ยสฺส ทุกขฺ สจฺจํ อปุ ปฺ ชชฺ ต,ิ ตสฺส สมุทยสจฺจํ นริ ชุ ฺฌตีติ ? 52 ตภํ สํจ วตวิจิภํ สํอุ วจิอปุ อมผอปุ ฺ ตอบ วสิ ชั นา โน ไมใช ในอนุโลมปจุ ฉา องคธ รรมของสันนฏิ ฐานบท ไดแก เกดิ ไมใชดบั (คนละสภาวะกนั ) อุ-นิ ๑ นุ อนุโลม ปจุ ฉา ทุกขสจั จะ กก. ปุถชุ น ๔ ผลเสกขบคุ คล ๓ ซงึ่ กาํ ลงั เกิดใน ๓๑ ภมู ิ คอื ในขณะท่ีถงึ พรอ มดว ยการ สอํ ุ วจอิ ุปฺ(-อมผอปุ ฺ) √X สอํ ุ เกิดขนึ้ แหง ปฏสิ นธจิ ติ ๑๙ เจตสิก ๓๕ กัมมชกลาป ๓-๗-๔ อสญั . ชวี ติ นวกกลาปทเ่ี กดิ ในขณะแรก   อปรญปู สจ.๔๔๑สอํ....ุ๒๓๑ุ ปถุ ุชน ๔ อริยบุคคล ๘ ทเี่ ปนไปในปวตั ตกิ าล ในปญจโวการภูมิ คอื ใน 8เจ.2๓๘1=๔8๖-8โลต1ิ.2๓-3ถ๒ี 4-๑(ว-+.วิ.๓ผ๓ิ..๓๘๔-อปั ๒) 85ว=จอิ 8ปุ , 77+๔๙(-โล๔.ต๘ิ๓) √X วจิอุปฺ ขณะท่ีถงึ พรอมดวยการเกดิ ข้ึนแหง จติ ๘๕ เจตสิก ๕๒ จิตตชรปู (เวน อรูปวปิ ากจิต ๔) ติเหตุกปถุ ชุ น ๑ ผลบุคคล ๔ ทเี่ ปนไปในปวตั ติกาล ในจตุโวการภมู ิ คอื ใน ขณะท่ถี ึงพรอมดว ยการเกดิ ขนึ้ แหง โลภมลู จิต ๘ โมหมลู จติ ๒ มโนทวาราวชั ชนจิต ๑ มหากุศล  ดาวนโ หลดขอมลู ตา งๆท่ี ขอความเพ่ิมเติมYoutube, Post, fb: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ท่แี ปะไว) ๑๗ ธ.ค. ๖๑

สัจจยมกะ 50 จติ ๘ มหากิรยิ าจติ ๘ อรปู าวจรจติ ๑๒ เจตสิก ๔๓ (เวน วริ ตี ๓ อปั ปมญั ญา ๒) องคธ รรมของสังสยบท ไมมี ๕. จงปุจฉา วิสัชนา พรอ มท้ังแสดงองคธรรม ในทุกขสัจจมูละ น1อปุิโทรากุธทะฺ-ะส-ม๕ุ (โโสนน)=>(สอ(4ตอํ3๓นภ,ุ (ุโว4ลํ ล5จ)X,=อิม4)ุป>9น,5ฺ ยัX528) ปจจนิกนัย สมทุ ยสัจจะมลู ยี มกะ แหงปจจปุ ปนนวาระ อนโุ ลมปจุ ฉา ปปคจุุ ฉคาโลแกลาะสบวอารกะดวขยอวงาอเปุ ปปนาปทญ นหโิ [ราวธอแวนุลาิ ระ1ะวนิสุเโฉชั ลพนทาากุะอ-อะสนไมรโุุ (ล?อมน4ุ.4)] ตภํ สจํ วตวจิ ภิ ํ สํอุ วจิอุป อมผอุปฺ ตอบ อนุโลมปจุ ฉา ยสสฺ ยตถฺ ทุกฺขสจจฺ ํ อปุ ปฺ ชฺชต,ิ ตสสฺ ตตถฺ สมุทยสจฺจํ นิรชุ ฌฺ ตีติ ?. อุ-นิ ๑ นุ อนุโลม ปุจฉา ทกุ ขสจั จะกําลังเกิดแกบ ุคคลใด ในภมู ิใด, เกดิ ไมใชดบั ทุกขสจั จะ กก. สมทุ ยสัจจะก็กําลงั ดับแกบ ุคคลนน้ั ในภมู นิ ัน้ ใชไหม ? (คนละสภาวะกนั ) สอํ ุ วจิอุปฺ(-อมผอุปฺ) วสิ ัชนา โน ไมใ ช ในอนโุ ลมปุจฉา องคธรรมของสนั . ไดแ ก   ปุ ๔ ผลเสกขบุคคล ๓ ซึง่ กําลงั เกิดใน ๓๑ ภมู ิ คอื ในขณะทีถ่ งึ พรอ มดว ยการเกิดขน้ึ แหงปฏสิ นธิจติ ๑๙ เจตสกิ √X สอํ ุ ๓๕ กัมมชกกลาป ๓-๗-๔ ชวี ติ นวกกลาปทเ่ี กิดในขณะแรก กบั ๓๑ ภูมิ ปุ ๔ อริยบุคคล ๘ ทเ่ี ปน ไปในปวตั ตกิ าล ในปญ จโวการภมู ิ คือในขณะท่ีถงึ ปออรสญูปญั สจ.๔๔๑สอํ.....ุ๒๓๑ุ 8เจ.2๓๘1=๔8๖-8โลต1ิ.2๓-3ถ๒ี 4-๑(ว-+.วิ.๓ผ๓ิ.๓.๘๔-อัป๒) √X วจอิ ุปฺ พรอมดวยการเกิดขน้ึ แหง จิต ๘๕ เจตสิก ๕๒ จิตตช รปู (เวน อรูปวิปากจิต ๔) กบั ปญ จโวการภมู ิ ๒๖ 85 = 8, 77+๔๙(-โล๔.ต๘ิ๓) ติ ๑ ผล ๔ ทเ่ี ปน ไปในปวตั ติกาล ในจตโุ วการภูมิ คือในขณะที่ถึงพรอ มดว ย วจอิ ปุ การเกดิ ขน้ึ แหง โลภมลู จิต ๘ โมหมลู จิต ๒ มโนทวา ราวชั ชนจติ ๑ มหากุศลจิต ๘ มหากิริยาจิต ๘ อรูปาวจรจิต ๑๒ เจตสกิ ๔๓ (เวนวริ ตแี ละอัปปมัญญา) กับจตโุ วการภูมิ ๔ องคธรรมของสงั สยบท ไมมี // ปญ หา เปน โมฆปญ หา และวิสัชนา เปนปฏเิ สธวสิ ัชนา ๒. จงวสิ ัชนา แปล และแสดงองคธ รรม ในทุกขสจั จมูละ มคั คสจั จมลู ียมกะ (แหง ) ปจจปุ ปนนวาระ อนุโลม ปคุ คลวาระ ของอปุ ปาทวาระ เฉพาะอนุโลมปจุ ฉา ? 1ทุกฺ-มคฺ อส๒มอํ (ลุอว)=ุปม>ว4อิจ4อิ,น4ุปโุ 6ลฺ, ม459น5ป,,ัย5ม507อ,,5ปุ 518,อสมํอุอวุปปมจวจจิ อินุปกิ นสอัยผจํ อวปุ จฺ ิภํ 44, 46, 49, 50, 51, 55, 57, 60 [ว อุ 1 นุ ล ทกุ -มคั (อนุ.)] อุปาทะ ๒. จงวสิ ัชนา แปล และแสดงองคธ รรมในคําถามตอไปน้ี ? อนุ.ป.ุ ยสฺส ทกุ ฺขสจฺจํ อปุ ปฺ ชชฺ ต,ิ √X สอํ ุ วมวิจอิ ปุ ฺ นิโรธะ สจํ วมวจิ ิภํ ๒ก(ล)=>45อมภํ สํอุ วจอิ ุป ตสสฺ มคคฺ สจจฺ ํ อุปฺปชฺชตตี ิ ? 47, 58 √√ ปมอปุ ฺ อุปาทะ- อมภํ ปมภํ อผภํ โน (สํอุ วจิอุปฺ X) สม(ลํจภ)ํ=ว>ม4ว6จิ (๓ภิ )ํ, 5ส3(ํจ๒)ว, ม55ว(๕ิจิภ) ํ ๒. เมอื่ บคุ คลเหลา นน้ั ท้งั หมดกาํ ลังเกิดกด็ ี ในอุปปาทัก นโิ รธะ โน (มภํ ๒ข(ลX))=>45 สอํ ุ วจอิ ุปฺ อมผอปุ ฺ ขณะแหง จิตทป่ี ราศจากองคมรรคในปวัตตกิ าลของ บคุ คลเหลา นน้ั กด็ ี ทุกขสจั จะกาํ ลังเกดิ แตม ัคคสจั จะ ไมใ ชกําลังเกิด แกบ คุ คลเหลานั้น, ในอปุ ปาทักขณะแหงมรรคจิตในปญ จโวการภมู ขิ องบคุ คลเหลา นัน้ ทุกข สจั จะกก็ ําลังเกิด คําวิสัชนาดังกลา วน้ี องคธรรมไดแก บุคคลอยางไร ? 42 ออปสรญปู ญั สจ.๔๔๑สอํ.....ุ๒๓๑ุ ว8จ8เจ5อิ .2๓ปุ =๘1=7๔8๖7-+8วโล๔ปมต1+มิ.ว2๓๔อจิ-:3ถ๔ปุอิ ๒ี๙ฺป4ุ -๑((ว๔-+ฺ-.ว.ิ.โ๓ผ๓ลิ.๘๓.๘๔ต-อ๓ิ ปั )๒) ตอบ วิสัชนา สพเฺ พสํ อปุ ปชชฺ นตฺ านํ ปวตฺเต มคคฺ วิปปฺ ยตุ ตฺ จติ ตฺ สสฺ √X สํอุ วมวจิ ิอุปฺ อุปปฺ าทกขฺ เณ เตสํ ทุกฺขสจจฺ ํ อปุ ปฺ ชฺชติ โน จ เตสํ มคคฺ สจฺจํ √√ ปมอปุ ฺ อุปปฺ ชฺชต,ิ ปฺจโวกาเร มคคฺ สฺส อุปปฺ าทกฺขเณ เตสํ ทุกขฺ สจฺจจฺ อุปฺปชชฺ ติ มคคฺ สจจฺ ฺจ อปุ ปฺ ชชฺ ต.ิ เมอ่ื บุคคลเหลา นนั้ ทั้งหมดกาํ ลังเกดิ กด็ ี ในอปุ ปาทกั ขณะแหงจติ ทีป่ ราศจากองคม รรค อุ ๑ นุ อนโุ ลม ปจุ ฉา ในปวตั ติกาลของบคุ คลเหลา นนั้ กด็ ี ทุกขสจั จะกําลงั เกิด แตมัคคสัจจะไมใชก ําลงั เกิด ทุกขสจั จะ กก. แกบุคคลเหลาน้นั , ในอปุ ปาทกั ขณะแหงมรรคจติ ในปญ จโวการภูมิของบุคคลเหลา นน้ั สํอุ วจอิ ุปฺ(-อมผอุปฺ) ทกุ ขสจั จะก็กําลังเกิด มัคคสจั จะก็กาํ ลังเกดิ ในอนุโลมปจุ ฉาองคธ รรมของสันนิฏฐานบท // แสดงองคธ รรมใน อนุ.ปุ. องคธรรม วมวจิ ิอปุ ฺ ปมอปุ ฺ อมผอุป.      ดาวนโหลดขอมลู ตา งๆท่ี ขอความเพิ่มเติมYoutube, Post, fb: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ทีแ่ ปะไว) ๑๗ ธ.ค. ๖๑

สจั จยมกะ 51 ของสันนฏิ ฐานบท ไดแ ก // (42) องคธ รรมของสนั นฏิ ฐานบท ไดแ ก ปุ ๔ ผลเสกขบุคคล ๓ ซ่งึ กาํ ลงั เกดิ ใน ๓๑ ภูมิ คอื ในขณะทถ่ี งึ พรอ มดวยการเกดิ ขน้ึ แหงปฏสิ นธจิ ิต ๑๙ √X สอํ ุ วมวิจิอปุ ฺ เจตสกิ ๓๕ กัมมชกลาป ๓-๗-๔ ชวี ติ นวกกลาปทเ่ี กดิ ในขณะแรก ปุ ๔ ผล ๔ ทเ่ี ปนไปในปวตั ติกาล ในปญจโวการภมู ิ คอื ในขณะทถ่ี งึ พรอมดวยการเกดิ ขนึ้ แหง มัคค- วิปปยตุ ตจิต ๘๑ เจตสิก ๕๒ จติ ตชรปู (เวน อรปู วิปากจิต ๔) ติ ๑ ผล ๔ ท่เี ปนไปในปวตั ตกิ าล ในจตโุ วการภมู ิ คอื ในขณะท่ถี ึงพรอมดว ยการเกดิ ขน้ึ แหงโลภมูลจิต ๘ โมหมูลจิต ๒ มโนทวาราวัชชนจิต ๑ มหากุศลจติ ๘ มหากิริยาจติ ๘ อรูปาวจรจติ ๑๒ เจตสิก ๔๓ (เวน วริ ตี และอปั ปมัญญา) และ มรรคบุคคล ๔ ท่ีในปญจโวการภมู ิ คือในขณะที่ถึงพรอมดวยการเกิดขึ้นแหงมรรคจิต ๔ เจตสกิ ๓๖ จิตตชรปู √√ ปมอุปฺ องคธรรมของสังสยบท ไดแก องคธรรมหมวดหลัง เทา นน้ั ๒. ก. จงวิสัชนา แปล แสดงองคธ รรมใน ทุกขสจั จมลู ะ มัคคสัจจมลู ียมกะ อปอสรญ ปู ญั สจ.๔๔๑สอํ.....ุ๒๓๑ุ ว8จ8เจ5ภิ .2๓ํ=๘1=7๔8๖7-+8วโล๔มปต1+ิ.วม2๓๔จิ-ภ:3ถ๔ภิ ํ๒ี๙4ํ-๑((ว๔-+-.ว.ิ.โ๓ผ๓ลิ.๘๓.๘๔ต-อสิ๓ปั )จํ ๒) แหงปจ จุปปน นวาระ อนุโลม ปุคคลวาระ ของนโิ รธวาระ (เฉพาะอนโุ ลม ปุจฉฺ า) ? 45 [ว นิ 1 นุ ล ทุก-มคั (อนุ.)] ตอบ ก. วิสัชนา สพเฺ พสํ จวนตฺ านํ ปวตเฺ ต มคคฺ วปิ ปฺ ยุตตฺ จิตตฺ สสฺ ภงคฺ กขฺ เณ √X สจํ วมวิจภิ ํ เตสํ ทุกขฺ สจจฺ ํ นิรชุ ฌฺ ติ โน จ เตสํ มคคฺ สจจฺ ํ นิรชุ ฺฌต,ิ √√ ปมภํ ปจฺ โวกาเร มคคฺ สสฺ ภงฺคกฺขเณ เตสํ ทกุ ขฺ สจฺจจฺ นริ ชุ ฌฺ ติ มคคฺ สจฺจฺจ นิรชุ ฌฺ ต.ิ แปล เมอ่ื บคุ คลเหลา นัน้ ทงั้ หมดกาํ ลงั ตายกด็ ี ในภงั คักขณะแหงจิต ที่ปราศจากองคมรรคในปวตั ติกาลของบุคคล เหลา นนั้ ก็ดี ทุกขสจั จะกําลงั ดบั แตม รรคสจั จะไมใชก าํ ลงั ดับแกบ ุคคลเหลา นัน้ , ในภงั คกั ขณะแหงมรรคจติ ในปญ จโวการภูมิ ทุกขสจั จะก็กาํ ลังดับ มรรค นิ ๑ น.ุ อนุโลม ปุจฉา สจั จะก็กาํ ลังดบั แกบ ุคคลเหลา นนั้ ทุกขสจั จะ กําลงั ดบั . ใน อนุ.ป.ุ อ.สัน. ไดแ ก ปุ ๔ ผลบคุ คล ๔ ซงึ่ กําลังตายใน ๓๑ ภูมิ คอื ในขณะท่ี สํอุ วจ(ิ อุปฺ/ภ)ํ สจํ √X สํจ วมวจิ ภิ ํ ถงึ พรอมดวยการดบั แหง จตุ ิจิต ๑๙ เจตสิก ๓๕ วจิอปุ ฺ ปมภํ วมวจิ ภิ ํ อมผภ.ํ    กมั มชรปู ชีวติ นวกกลาป ทดี่ ับคร้งั สุดทา ย ปุ ๔ ผลบคุ คล ๔ ท่ีเปน ไปในปวตั ตกิ าล ในปญ จโวการภูมิ คือในขณะทีถ่ งึ พรอ มดวยการดับแหง มรรค วิปปยุตตจติ ๘๑ เจตสิก ๕๒ จติ ตชรปู ติ ๑ ผลบคุ คล ๔ ทเี่ ปน ไปในปวตั ตกิ าล ในจตโุ วการภมู ิ คอื ในขณะทถี่ งึ พรอ มดว ยการดับแหงโลภมูลจิต ๘ โมหมูลจติ ๒ มโนทวาราวัชชนจิต ๑ มหากุศลจติ ๘ มหากิริยาจิต ๘ อรปู าวจรจิต ๑๒ เจตสิก ๔๓ และ มรรคบุคคล ๔ ทีใ่ นปญจโวการภูมิ คอื ในขณะทถ่ี งึ พรอ มดว ยการดบั แหง มัคคจิต ๔ เจตสกิ ๓๖ จิตตชรปู √√ ปมภํ อ.สงั . ไดแ ก องคธ รรมหมวดหลัง เทา นนั้ . ดบั ไมใชเ กดิ (คนละสภาวะกัน) ๒. ข. จงวิสชั นา แปล แสดงองคธรรม ในขอ ปจุ ฉาดงั ตอไปน้ี ? 1ทกุ ฺ-มคฺ อนโุ ลมนยั (มลภ)=ํ >4ป6จ(๓จ),นส5กิ จํ3(น๒วยั )ม, 5ว5จิ (๕ภิ )ํ อุปาทะ- โน (สอํ ุ วจอิ ุปฺ X) สํอุ วจิอปุ ฺ อมผอุปฺ 45 [ว อนุ ิ 1 นุ ล ทกุ -มคั (ปฏ.ิ )] นโิ รธะ โน (๒มขภ(ํล)=>4X5) ยสฺส วา ปน มคฺคสจจฺ ํ นริ ุชฺฌติ, ตสฺส ทกุ ขฺ สจฺจํ อุปฺปชฺชตตี ิ ? ตอบ ข. วิสชั นา โน ไมใช ใน ปฏิ.ปุ. อ.สัน.ไดแ ก มรรคบคุ คล ๔ คอื ในขณะที่ถงึ พรอ มดวยการดบั แหง มรรคจิต ๔ เจตสกิ ๓๖ อ.สัง. ไมมี ๒. จงปจุ ฉา วสิ ัชนา พรอมคาํ แปล และแสดงองคธรรม ในยมกะดงั ตอ ไปน้ี ? ในอนโุ ลมปจุ ฉา ของปวัตติวาระ อุป ปาท-นโิ รธวาระ ปจ จปุ ปน นวาระ ปจ จนกิ ปุคคลวาระ ทุกขสจั จมูละ มรรคสจั จมูลียมกะ ? 46(3), 53, 55(5) [ว อุ นิ 1 จ ล ทุก-มัค (อน.ุ )] ตอบ อนุ. ปุ. ยสสฺ ทุกขฺ สจฺจํ นุปปฺ ชชฺ ต,ิ ตสฺส มคคฺ สจฺจํ น นริ ชุ ฌฺ ตตี ิ ?  ดาวนโหลดขอมูลตา งๆที่ ขอ ความเพิม่ เติมYoutube, Post, fb: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ท่ีแปะไว) ๑๗ ธ.ค. ๖๑

สัจจยมกะ 52 ทกุ ขสัจจะไมใชกาํ ลงั เกดิ แกบุคคลใด, 1ทกุ ฺ-มคฺ อนโุ ลมนัย ปจจนกิ นยั มัคคสจั จะก็ไมใ ชกําลงั ดับแกบคุ คลน้นั ใชไ หม ? ๒ส(ลอํ )ุ =ว>ม4ว4จิ , อิ46ปุ ,ฺ 49, 50, 51, วิสัชนา. มคคฺ สสฺ ภงคฺ กขฺ เณ เตสํ ทกุ ขฺ สจจฺ ํ นุปปฺ ชชฺ ติ อปุ าทะ อมอปุ อมอุป สจํ วจิภํ โน จ เตสํ มคคฺ สจฺจํ น นิรุชฌฺ ต,ิ 55,ป5ม7,อ5ุป8 สํอุ วมวจิ อิ ปุ อผอุปฺ สพฺเพสํ จวนตฺ านํ ปวตเฺ ต มคฺควปิ ปฺ ยตุ ฺตจิตฺตสสฺ ภงคฺ กขฺ เณ อรเู ป มคฺคสสฺ จ ผลสฺส จ นิโรธะ สํจ วมวิจภิ ํ ๒ก(ล)=>45อมภํ สอํ ุ วจอิ ุป อุปปฺ าทกขฺ เณ เตสํ ทกุ ขฺ สจฺจฺจ นปุ ฺปชชฺ ติ อุปาทะ- อมภํ ปมภํ อผภํ มคคฺ สจฺจจฺ น นริ ุชฌฺ ต.ิ โน (สอํ ุ วจอิ ุปฺ X) สม(ลํจภ)ํ=ว>ม4ว6ิจ(๓ิภ)ํ, 5ส3(ํจ๒)ว, ม55ว(๕จิ ิภ) ํ นิโรธะ โน (มภํ ๒ข(ลX))=>45 สอํ ุ วจิอปุ ฺ อมผอุปฺ แปล ในภังคักขณะแหง มรรคจิตบุคคลเหลา น้ัน ทุกขสจั จะไมใชกําลงั เกดิ แต อนุ ิ ๑ ปจ จนกิ นยั อนโุ ลม ปุจฉา ทกุ ขสจั จะ ไมใชX กก. มรรคสจั จะกําลงั ดับแกบ ุคคลเหลา นน้ั , เมอ่ื บุคคลเหลา นนั้ ท้งั หมดกาํ ลัง ตายก็ดี ในภงั คักขณะแหงมรรควปิ ปยตุ ตจติ ในปวตั ติกาลของบคุ คล สอํ ุ วจ(ิ อปุ ฺ/ภ)ํ สจํ เหลานนั้ กด็ ี ในอปุ ปาทักขณะแหง มรรคจติ ผลจิตในอรูปภมู ิ บคุ คล วจอิ ุปฺ อมผอปุ มภํ วมวจิ ิภํ เหลาน้ันกด็ ี ทุกขสจั จะก็ไมใ ชก าํ ลงั เกดิ มรรคสัจจะก็ไมใชก าํ ลังดบั .     ในอนุโลมปุจฉา อ.ธ.สัน. ไดแ ก มรรคบคุ คล ๔ คือในขณะทถ่ี ึงพรอมดว ยการดับแหง มรรคจติ ๔ เจตสกิ ๓๖ และ ป.ุ ๔ ผลบคุ คล ๔ ซง่ึ กําลงั ตายใน ๓๑ ภูมิ คือในขณะท่ถี งึ พรอ มดวยการดบั แหง จุตจิ ติ ๑๙ เจตสกิ ๓๕ กมั มชรปู ชีวติ นวกกลาปท่ดี บั คร้งั สดุ ทาย ป.ุ ๔ ผลบคุ คล ๔ ทเี่ ปนไปในปวตั ติกาล ในจตโุ วการภูมิ ปญจโวการภมู ิ คอื ในขณะทถี่ ึง พรอ มดวยการดับแหงมรรควปิ ปยุตตจิต ๘๕ เจตสกิ ๕๒ มรรคบคุ คลเบ้อื งบน ๓ ผลบคุ คล ๔ ทใ่ี นอรูปภูมิ คอื ในขณะท่ีถงึ พรอมดวยการเกดิ ขน้ึ แหง มรรคจิตเบอื้ งบน ๓ ผลจติ ๔ เจตสิก ๓๖ อ. สงั . ไดแ ก องคธ รรมหมวดหลงั เทาน้ัน กาล ๒ ปุคคลวาระ ๓. จงวิสชั นา แปล แสดงองคธ รรมในคาํ ปจุ ฉา ดงั ตอไปนี้ ? 43, 59 [ว อุ 2 นุ ล สมุ-มคฺ (อนุ.)] ๒ล ปุ๔ อริย๘ ทกุ /สมุ มคฺ อน=ปุ๔-โสม √ X ก. ยสฺส สมทุ ฺยสจจฺ ํ อปุ ฺปชชฺ ติ ฺถ, ตสสฺ มคคฺ สจจฺ ํ อปุ ฺปชชฺ ิตฺถาติ ? 43, 59 อภ=ิ โสผ-ผ๔ √ √ ตอบ ก. วิสัชนา อนภสิ เมตาวนี ํ เตสํ สมุทยฺ สจจฺ ํ อปุ ปฺ ชชฺ ติ ถฺ โน จ เตสํ มคคฺ สจจฺ ํ อุปปฺ ชชฺ ติ ฺถ, อภสิ เมตาวีนํ เตสํ สมุทฺยสสจจฺ จฺ อุปฺปชชฺ ติ ถฺ มคฺคสจฺจจฺ อุปฺปชชฺ ติ ถฺ . แปล เม่ือบคุ คลเหลา น้ันยงั ไมเขา ถงึ ความเปนผเู คยรู ๓2ทสทล/มกกุุ๔อุ-ฺฺ--(มลสม/ุ )นคม๕ค=/.ิฺฺุ(>อสอ)นุ =ุ 4ิ>ออออ3ออน,าาาุน5มมนมโุ4ินนลน4(๔มฺฺตต7ฺต),นาาา๕อนยัขินุ.(5ปสิ50)1ุ.=,๔,>อ5นุ4อ2ิอ35ภ,ร,25ิยิ455(.๖๘, ) ปจ จนิกนัย อรยิ สัจจ ๔ มานนั้ สมุทยสจั จะเคยเกิด แตมรรค √Xอน นตฺถิ X ไมม ีเหมอื นกนั √√อภิ สัจจะไมเคยเกิด แกบุคคลเหลา นัน้ , นตถฺ ิ เมื่อบุคคลเหลานน้ั เขา ถึงความเปนผเู คยรอู รยิ สจั ๔ มาแลว สมทุ ยสจั จะก็เคยเกดิ มคั คสัจจะก็เคยเกดิ นตถฺ ิ X ไมมีเหมือนกนั อุป.2 เค๖ยเกก=ิด>อ5น0/ X ไมมี องคธรรมของสันนฏิ ฐานบทไดแ ก ปุ ๔ โสดาปต ติมรรค  ดาวนโ หลดขอมูลตา งๆที่ ขอความเพิ่มเติมYoutube, Post, fb: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ท่ีแปะไว) ๑๗ ธ.ค. ๖๑

สัจจยมกะ 53 บคุ คล ๑ ซงึ่ ยงั ไมเ ขา ถึงความเปนผเู คยรอู รยิ สัจ ๔ นับต้งั แตเวียนวา ยตาย เกิดมาทีห่ าเบื้องตน มไิ ด จนถงึ โสดาปต ติมรรคจิตเกดิ , และ มรรคบคุ คลเบือ้ งบน ๓ ผลบคุ คล ๔ ซง่ึ เขา ถึงความเปน ผเู คยรอู รยิ สจั ๔ มาแลว นับตง้ั แตโ สดาปตตผิ ลจติ เปนตน มา จนถึงปจฉิมจติ คอื ปรนิ ิพพาน องคธรรมของสงั สยบทไดแก องคธรรมหมวดหลัง เทา นน้ั ๓. จงวิสชั นา พรอมคําแปล แสดงองคธรรมในขอปจุ ฉา ภาษาไทย ดงั ตอไปน้ี (ไมตอ งจําแนกโกฏฐาส) ? 47 ทกุ ขสจั จะเคยดับแกบ คุ คลใด, มรรคสจั จะก็เคยดบั แกบคุ คลนน้ั ใชไหม ? 47 [ว นิ 2 นุ ล ทุกฺ-มคฺ (อนุ.) ตอบ ว.ิ อนภิสเมตาวีนํ เตสํ ทกุ ขฺ สจฺจํ นริ ชุ ฌติ ถฺ โน ๓2สททล/มุกกุ๔อุ-ฺฺ--(มลสม/ุ )นคม๕ค=/.ิฺฺุ(>อสอ)นุ =ุ 4ิ>ออออ3ออน,าาาุน5มมนมุโ4ินนลน4(๔มฺตฺต7ตฺ ),นาาา๕อนยัขิุน.(5ปสิ50)1ุ.=,๔,>อ5ุน4อ2ิอ35ภ,ร,25ิยิ455(.๖๘, ) ปจ จนิกนยั √X อน จ เตสํ มคคฺ สจฺจํ นริ ชุ ฌติ ถฺ , อภสิ ฺสเมตาวีนํ เตสํ √√อภิ ทุกขสจฺจฺจ นริ ุชฌฺ ติ ถฺ มคคฺ สจฺจจฺ นริ ุชฌฺ ิตฺถ. นตถฺ ิ X ไมม ีเหมือนกัน แปล เมอ่ื บุคคลเหลา น้ันยงั ไมเ ขาถงึ ความเปน ผูเ คยรู นตถฺ ิ อรยิ สจั ๔ มานนั้ ทุกขสจั จะเคยดับ แตมรรคสจั จะ นตฺถิ X ไมม ีเหมือนกนั ไมเคยดบั แกบ คุ คลเหลา นั้น, อุป.2 เค๖ยเกก=ิด>อ5น0/ X ไมม ี เมือ่ บคุ คลเหลา นนั้ เขา ถงึ ความเปน ผูเคยรูอริยสัจ ๔ มาแลว ทกุ ขสจั จะก็เคยดับ มรรคสจั จะก็เคยดับ อ.สัน.ไดแก ปุ ๔ โสดาปตติมรรคบุคคล ๑ ซ่ึงยังไมเขาถึงความเปนผูเคยรูอริยสัจ ๔ ๒ล ปุ๔ อริย๘ ทุก/สมุ มคฺ นับต้ังแตเวียนวายตายเกิดเปนตนมา ที่หาเบ้ืองตนมิได จนถึงโสดา อน=ป๔ุ -โสม √ X ปต ตมิ รรคจติ เกิด อภิ=โสผ-ผ๔ √ √ และ มรรคบุคคลเบ้อื งบน ๓ ผลบุคคล ๔ ซง่ึ เขาถงึ ความเปน ผเู คยรอู ริยสจั ๔ มาแลว นบั ตงั้ แตโ สดาปตตผิ ลจติ เปนตน จนถงึ ปจ ฉิมจิต (คือ ปรนิ ิพพาน) อ.สงั .ไดแก อ.ธ.หมวดหลงั เทานนั้ ๔. จงวสิ ัชนา ทุกขสจั จมูละ มพรรรอคมสทัจ้งั จแมสลู ดียงมอกงะคธ แรหรงมอ?ตตี(เวฉาพราะะออนนุโุโลลมมปปุจฺฉคุ าค)ล?ว5า1ร,ะ5ข2,อ5ง[5อว(ุป6อ)นุปิ 2าทนนุ ลิโรทธุกว-มาครฺ ะ(อนโด.ุ )]ย ภาษาบาลแี ละภาษาไทย ตอบ วสิ ัชนา อนภสิ เมตาวีนํ เตสํ ทกุ ขฺ สจจฺ ํ อปุ ฺปชชฺ ิตถฺ โน จ เตสํ มคคฺ สจจฺ ํ นริ ุชฺฌติ ถฺ , อภสิ เมตาวีนํ เตสํ ทกุ ฺขสจจฺ ฺจ อปุ ฺปชชฺ ิตฺถ มคคฺ สจฺจจฺ นิรุชฌฺ ิตถฺ . ๒ล ปุ๔ อริย๘ ทุก/สมุ มคฺ อน=ปุ๔-โสม √ X แปล เมอ่ื บุคคลเหลาน้นั ยงั ไมเ ขาถงึ ความเปนผเู คยรูอรยิ สัจ ๔ มาน้ัน อภ=ิ โสผ-ผ๔ √ √ √X อน ทกุ ขสัจจะเคยเกดิ แตม รรคสจั จะไมเ คยดับ แกบ คุ คลเหลา นั้น, √√อภิ เมอื่ บุคคลเหลา นน้ั เขาถึงความเปนผูเคยรอู ริยสัจ ๔ มาแลว ทกุ ขสัจจะก็เคยเกิด มรรคสัจจะก็เคยดับ ในอนุ.ปุ. อ.สัน. ไดแ ก ป.ุ ๔ โสดาปตตมิ รรคบคุ คล ๑ ซึ่งยงั ไมเขา ถงึ ความเปนผเู คยรอู รยิ สจั จ ๔ มาน้นั นับตงั้ แต เวยี นวา ยตายเกิดเปน ตน มาท่หี าเบ้อื งตนมิไดจ นถึงโสดาปต ติมรรคจิตเกิด และ มรรคบคุ คลเบ้ืองบน ๓ ผลบคุ คล ๔ ซง่ึ เขาถงึ ความเปนผเู คยรอู รยิ สัจจ ๔ มาแลว นบั ตง้ั แต โสดาปต ตผิ ลจิต เปน ตน มา จนถึงปจ ฉิมจติ (คือ ปรนิ ิพพาน) อธ.สัง ไดแก องคธรรมหมวดหลงั เทา น้ัน ๖. จงวสิ ัชนาเปนภาษาบาลี พรอมท้งั องคธรรมในปจุ ฉาดังตอไปนี้ (ไมต องจําแนกโกฏฐาส) ? 50 ก. ยสฺส วา ปน มคคฺ สจจฺ ํ น นิรุชฌฺ ติ ถฺ , ตสฺส ทุกขสจฺจํ นปุ ปฺ ชฌฺ ติ ถฺ าติ ? 50 [ว อนุ ิ 2 จ ล ทุก-มคฺ (ปฏิ.)] ตอบ ก. ว.ิ อุปปฺ ชชฺ ติ ถฺ เคยเกดิ ใน ปฏิ.ปุ. อ.สัน. ไดแ ก ป.ุ ๔ โสดาปตตมิ รรคบุคคล ๑ ซงึ่ ยงั ไมเขา ถึงความ เปนผูเคยรอู รยิ สัจ ๔ มาน้นั นบั ตั้งแตเวยี นวา ยตายเกิดเปน ตน มา ทห่ี าเบื้องตนมไิ ด จนถึงโสดาปตตมิ รรคจิตเกดิ อ.สงั . ไมมี ๕. จงแสดงเปน ภาษาบาลี และองคธรรม ในวสิ ชั นาท่ีเปนภาษาไทย ดงั ตอ ไปนี้ ? 43 ๑๗ ธ.ค. ๖๑ ก. เม่อื ทตุ ิยจติ คอื ปฐมภวังคเ กดิ ขน้ึ แกบ ุคคลท่ีเกิดอยใู นสทุ ธาวาสภมู ิ ในภูมินั้น  ดาวนโ หลดขอมูลตา งๆท่ี ขอ ความเพิม่ เติมYoutube, Post, fb: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ท่ีแปะไว)

สจั จยมกะ 54 (เฉพาะทกุ ขสัจจมูล-มัคคสัจจมลู ี) ? 43 ตอบ ก. สทุ ธฺ าวาสานํ ทตุ เิ ย จิตฺเต วตฺตมาเน เตสํ ตตถฺ องคธรรมไดแก อนาคามผิ ลบคุ คล ๑ อรหตั ตมรรคบุคคล ๑ ทใ่ี นสุทธาวาสภูมิ คือในขณะท่ีถึงพรอ มดว ยการ เกดิ ขน้ึ แหง ขณะทั้ง ๓ ของมขุ ยทุตยิ จติ คอื ปฐมภวงั ค และตังสทสิ ทุติยจติ - ถา จะไมไ ดอ รหัตตมรรคในภพน้ี ก็นับตง้ั แตทตุ ยิ ภวงั ค เปน ตน จนถงึ จุตจิ ติ - ถา จะไดอ รหัตตมรรคในภพนกี้ ็นับตงั แตทตุ ิยภวงั คเ ปน ตน จนถึงอรหตั ตมรรคจิต กบั สทุ ธาวาสภูมิ ๕ กาล ๒ ปคุ คโลกาสวาระ ๓. จงวิสชั นา แปล แสดงองคธ รรม ในปุจฉาดังตอไปนี้ ? [ว อุ 2 นุ โล ทกุ -สมุ (อนุ.)] ยสสฺ ยตถฺ ทุกฺขสจจฺ ํ อุปปฺ ชชฺ ิตฺถ, ตสฺส ตตฺถ 2โล อ/ุ น/ิ อนุ ิ อนุโลมนยั ปจ จนกิ นัย สมทุ ยสจฺจํ อุปฺปชฺชติ ฺถาติ ? 43, 53, 58, 60, 61 ๓(โลสอ)ุทา=มจุ>นิเอนฺตุ 4อา3ุน,ิ 53, 56, 58/ นิ 4อ5ามนตฺ า ๓. จงวสิ ัชนาพรอมคําแปล และแสดงองคธรรมในขอ ทุกฺ-สมุ 48, สุทุจิเน  สอุ ุ ปจุ ฉาวา ? 56 [ว อุ 2 นุ โล ทุก-สมุ (อน.ุ )] 57อิตปุ ฺ ทกุ ขสจั จะเคยเกิดแกบ คุ คลใดในภูมใิ ด, สมทุ ย- ทกุ ฺ-มคฺ สทุ ุจิเน อน*  อภิ อามนฺตา สุอุ สัจจะกเ็ คยเกิดแกบคุ คลนั้นในภมู นิ นั้ ใชไ หม ? อามนตฺ า สุทุจเิ น อน*  ๔. จงปุจฉา วิสัชนา พรอมคําแปล และแสดงองค สมุ-มคฺ สุทุเลจเิ น อน* อภิ อสทุามเุ ลนจฺติเาน๓อ=น>*44ส, 4ุท9ุจ, เิ5น0, 54 ธรรมในอนโุ ลมปุจฉา ของ อปุ ปาทาวาระ อตตี วา อามนฺตา ระ อนุโลม ปุคคโลกาสวาระ ทกุ ขสจั จมลู ะ สมุทย สจั จมูลยี มกะ ? 47 ตอบ (47) อนุโลม ป.ุ ยสฺส ยตถฺ ทกุ ฺขสจฺจํ อุปปฺ ชชฺ ิตถฺ , ตสสฺ ตตฺถ สมุทยสจฺจํ อุปปฺ ชชฺ ิตฺถาติ ? ทุกขสจั จะ เคยเกดิ แกบ คุ คลใด ในภูมิใด สมทุ ยสัจจะ ก็เคยเกิดแกบุคคลนั้น ในภมู นิ ้ัน ใชไ หม ? ตอบ ว.ิ สทุ ฺธาวาสานํ ทตุ เิ ย จิตเฺ ต วตฺตมาเน อสฺ สตตฺ านํ เตสํ ตตฺถ ทุกขฺ สจฺจํ อุปปฺ ชฺชติ ฺถ โน จ เตสํ ตตฺถ √Xสุทจุ เิ น  สมุทยสจฺจํ อปุ ปฺ ชชฺ ติ ถฺ , อติ เรสํ จตโุ วการานํ ปจฺ โวการานํ เตสํ ตตถฺ ทุกขฺ สจฺจฺจ อปุ ปฺ ชชฺ ติ ถฺ √√อติ ปุ สมทุ ยสจจฺ ฺจ อปุ ปฺ ชชฺ ิตฺถ. เมอ่ื ทตุ ิยจติ คือปฐมภวงั คเกดิ ข้ึนแกบคุ คลทเ่ี กดิ อยใู นสุทธาวาสภูมกิ ด็ ี บุคคลทีเ่ กิดอยูในอสัญญสัตตภูมิ เหลานน้ั ก็ดี ในภมู นิ ั้น ทุกขสจั จะเคยเกดิ แตส มทุ ยสจั จะไมเ คยเกดิ แกบคุ คลเหลานน้ั ในภมู ินัน้ , เมื่อบคุ คลเหลา นนั้ เกดิ อยใู นจตุโวการภมู ิ ปญจโวการภูมิ ทนี่ อกจากบคุ คลทถ่ี งึ พรอมดว ยการเกิดขึ้น แหงทตุ ยิ จติ ในสุทธาวาสภูมิ ในภูมนิ ัน้ ทกุ ขสัจจะก็เคยเกดิ สมุทยสจั จะก็เคยเกิด. (ในอนุ.ปุ.) องคธ รรมของสนั นิฏฐานบท ไดแ ก อนาคามผิ ลบุคคล ๑ ท่ใี นสทุ ธาวาสภูมิ คอื ในขณะทถี่ ึงพรอมดว ย  ดาวนโ หลดขอมลู ตา งๆท่ี ขอ ความเพม่ิ เติมYoutube, Post, fb: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ทแ่ี ปะไว) ๑๗ ธ.ค. ๖๑

สจั จยมกะ 55 การเกิดขึน้ แหง ขณะท้ัง ๓ ของจิต ๑๘ ดวง คอื ปฐมภวังคอันเปน มขุ ยทุตยิ จิต และ ภวงั คจิต ๑๕ ดวง มโนทวาราวชั ชนจติ ๑ ภวนกิ ันตกิ โลภชวนะดวงท่ี ๑ อนั เปนตงั สทสิ ทุตยิ จิต กบั สทุ ธาวาสภมู ิ ๕ ส.ุ ๑ ซงึ่ เกิดอยใู นอสญั ญสัตตภมู ิ กบั อสัญญสตั ตภมู ิ ๑ และ ป.ุ ๔ อรยิ บคุ คล ๘ คอื ในขณะท่ีถึงพรอมดวยการเกิดขนึ้ แหง ขณะท้งั ๓ ของจติ ๘๙ เจตสกิ ๕๒ นับตง้ั แต ภวนิกันติกโลภชวนะดวงท่ี ๒ จนถงึ จตุ จิ ติ ในสุทธาวาสภูมิ และนบั ตง้ั แตป ฏสิ นธจิ ิตเปนตน จนถึง จตุ จิ ิตในจตโุ วการภมู ิ ปญ จโวการภูมิ ทเี่ หลอื กับจตโุ วการภูมิ ๔ ปญ จโวการภมู ิ ๒๖ องคธรรมของสังสยบท ไดแ ก องคธรรมหมวดหลัง เทา น้นั ๓. จงแสดงปจุ ฉาและวสิ ัชนา พรอมทัง้ คาํ แปล และองคธรรมในทกุ ขสัจจะมูละ สมุทยสจั จะมูลียมกะ นิโรธวาระ อตตี วาระ อนุโลม ปุคคโลกาสวาระ? เฉพาะอนโุ ลมปุจฉา ไมตอ งจาํ แนกโกฏฐาส? 45 [ว นิ 2 นุ โล ทกุ -สมุ (อนุ.)] ตอบ อนุ.ป.ุ ยสสฺ ยตฺถ ทุกขฺ สจจฺ ํ นิรุชฌฺ ติ ถฺ , ตสฺส ตตถฺ สมุทยสจจฺ ํ นิรุชฺฌติ ถฺ าติ ? แปล ทกุ ขสัจจะเคยดับแกบ คุ คลใดในภมู ใิ ด, สมุทยสจั จะก็เคยดับแกบคุ คลนน้ั ในภมู นิ ัน้ ใชไหม ? ว.ิ สทุ ธาวาสานํ ทตุ ิเย จิตเฺ ต วตฺตมาเน อสฺ สตตฺ านํ เตสํ ตตฺถ 2 โล ทุก.สมุมคั √Xสทุ ุจิเน  ทกุ ขฺ สจฺจํ นิรุชฌฺ ติ ถ โน จ เตสํ ตตถฺ สมทุ ยสจจฺ ํ นริ ุชฌฺ ติ ถฺ , √√อติ ุป อติ เรสํ จตโุ วการานํ ปจฺ โวการานํ เตสํ ตตถฺ สทุ ธา สอุ ุ √ √ วาส สทุ ุจิเน √ ทกุ ขฺ สจฺจฺจ นริ ุชฺฌติ ฺถ สมทุ ยสจฺจจฺ นริ ุชฺฌติ ฺถ แปล เมือ่ ทตุ ยิ จติ คอื ปฐมภวงั คเ กดิ ขน้ึ แกบคุ คลที่เกดิ อยใู นสทุ ธาวาสภมู กิ ็ดี บุคคลท่ี สทุ เุ ลจิเน เกดิ อยูในอสัญญสตั ตภมู ิก็ดี ในภมู ินน้ั ทกุ ขสจั จะเคยดบั แตส มุทยสจั จะไมเ คย อติ ภิ √ √ √ ดบั แกบุคคลเหลา นัน้ ในภมู นิ ั้น, เมอื่ บคุ คลเหลานนั้ เกิดอยใู นจตโุ วการภมู ิ ปญ จโวการภมู ิ ท่นี อกจากบุคคลทถี่ งึ เรสํ น √ √ อสัญ  √ พรอมดวยการเกดิ ขึน้ แหง ทุตยิ จติ ในสุทธาวาสภูมิ ในภูมนิ น้ั ทุกขสจั จะก็เคยดบั สมทุ ยสจั จะก็เคยดบั ใน อน.ุ ปุ. อ.สัน. ไดแก อนาคามผิ ลบคุ คล ๑ ทใ่ี นสทุ ธาวาสภมู ิ คอื ในขณะทถ่ี งึ พรอ มดวยการเกิดข้นึ แหงขณะท้ัง ๓ ของจิต ๑๘ ดวง คือปฐมภวังคอ นั เปน มุขยทุติยจิตและภวงั คจิต ๑๕ ดวง มโนทวารา- วชั ชนจิต ๑ ภวนิกนั ตกิ ะโลภชวนะดวงท่ี ๑ อันเปน ตังสทสิ ทุติยจิต กับสุทธาวาสภมู ิ ๕ สุ ๑ ซึง่ เกดิ อยใู นอสัญญสัตตภมู ิ กับ อสญั ญสัตตภมู ิ ๑ และ ป.ุ ๔ อริยบคุ คล ๘ คอื ในขณะท่ถี ึงพรอ มดวยการเกดิ ขึน้ แหงขณะท้งั ๓ ของจิต ๘๙ เจตสกิ ๕๒ นบั ต้งั แต ภวนกิ ันติกะโลภชวนะดวงที่ ๒ จนถงึ จตุ ิจิตในสุทธาวาสภมู ิ และนับตั้งแตป ฏิสนธจิ ิตเปน ตน จนถึงจุตจิ ิตในจตโุ วการภมู ิ ปญจโวการภูมิที่เหลอื กับจตโุ วการภมู ิ ๔ ปญ จโวการภูมิ ๒๖ อ.สัง.ไดแก องคธ รรมหมวดหลงั เทานัน้ 2โล อ/ุ น/ิ อุนิ อนุโลมนยั ปจ จนิกนยั ๓(โลอส)ทุา=มจุ>นิเอนฺตุ 4อา3นุ ,ิ 53, 56, 58/ นิ 4อ5ามนฺตา ๓. จงวสิ ชั นา แปล แสดงองคธรรมในคําปุจฉา ทกุ ฺ-สมุ 48, สทุ ุจิเน  สุอุ ดงั ตอไปนี้ ? 48(5), 57 [ว อนุ ิ 2 นุ โล ทกุ -สมุ (อนุ.)] 57อิตุปฺ ยสฺส ยตฺถ ทุกขฺ สจจฺ ํ อปุ ปฺ ชชฺ ติ ถฺ , ทกุ ฺ-มคฺ สุทุจิเน อน*  อภิ อามนฺตา สุอุ ตสสฺ ตตฺถ สมุทยสจจฺ ํ นิรุชฺฌติ ฺถาติ ? 57 อามนตฺ า สทุ ุจิเน อน*  ตอบ วิสัชนา สทุ ธฺ าวาสานํ ทตุ เิ ย จิตเฺ ต วตฺตมาเน อสุทามุเลน๓จตฺ ิเ=าน>4อ4น, 4*9,ส5ทุ 0,ุจ5เิ 4น, อสฺ สตฺตานํ เตสํ ตตถฺ ทกุ ขฺ สจฺจํ อปุ ฺปชชฺ ติ ฺถ สมุ-มคฺ สทุ เุ ลจเิ น อน* อภิ 59 อามนตฺ า  โน จ เตสํ ตตถฺ สมุทยสจฺจํ นริ ชุ ฌฺ ิตถฺ , อติ เรสํ จตโุ วการานํ ปจฺ โวการานํ เตสํ ตตฺถ ทุกฺขสจจฺ ฺจ อุปปฺ ชชฺ ติ ถฺ สมทุ ยสจฺจจฺ นิรุชฺฌิตถฺ . แปล เมอื่ ทตุ ยิ จติ คอื ปฐมภวงั คเกดิ ขนึ้ แกบ คุ คลทเี่ กดิ อยูใ นสทุ ธาวาสภูมกิ ็ดี บคุ คลที่เกดิ อยใู นอสญั ญสตั ตภูมิ เหลาน้ันกด็ ี ในภมู นิ นั้ ทุกขสัจจะเคยเกดิ แตสมุทยสจั จะไมเ คยดบั แกบ ุคคลเหลานน้ั ในภมู ิน้นั , เม่อื บคุ คลเหลานน้ั เกิดอยูในจตโุ วการภมู ิ ปญจโวการภมู ิ ทีน่ อกจากบคุ คลที่ถึงพรอมดว ยการเกดิ ขนึ้ แหง ทตุ ยิ  ดาวนโ หลดขอมลู ตา งๆที่ ขอ ความเพ่ิมเตมิ Youtube, Post, fb: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ทีแ่ ปะไว) ๑๗ ธ.ค. ๖๑

สัจจยมกะ 56 จติ ในสุทธาวาสภมู ิ ในภมู นิ น้ั ทกุ ขสัจจะก็เคยเกิด สมทุ ยสจั จะก็เคยดบั ใน อน.ุ ปุ. อ.สนั . ไดแก อนาคามิผลบคุ คล ๑ ทีใ่ นสทุ ธาวาสภูมิ คือในขณะทีถ่ ึงพรอมดว ยการเกิดขึ้นแหงขณะทั้ง ๓ √Xสทุ ุจิเน  ของจติ ๑๘ ดวง คือ ปฐมภวงั คอ ันเปนมขุ ยทตุ ิยจิตและภวงั คจติ ๑๕ ดวง มโนทวาราวชั ชน √√อติ ุป จิต ๑ ภวนิกันตกิ ะโลภชวนะดวงที่ ๑ อันเปนตังสทสิ ทุติยจติ กบั สุทธาวาสภมู ิ ๕ ส.ุ ๑ ซง่ึ เกิดอยูในอสญั ญสตั ตภูมิ กบั อสญั ญสตั ตภมู ิ ๑ และ ป.ุ ๔ อริยบุคคล ๘ คอื ในขณะท่ีถึงพรอมดว ยการเกิดขน้ึ แหง ขณะท้ัง ๓ ของจติ ๘๙ เจตสกิ ๕๒ นบั ตัง้ แตภวนิกนั ติกะโลภชวนะดวงที่ ๒ จนถงึ จุตจิ ติ ในสทุ ธาวาสภมู ิ และนบั ตัง้ แตปฏสิ นธจิ ติ เปนตน จนถึงจุตจิ ิตในจตโุ วการภมู ปิ ญ จโวการภูมทิ เ่ี หลือ กับจตุโวการภูมิ ๔ ปญ จโวการภมู ิ ๒๖ อ.สงั . ไดแ ก องคธ รรมหมวดหลงั เทา นัน้ . ๓. จงแสดงปุจฉาและวสิ ัชนา เปน ภาษาบาลี-ภาษาไทย พรอมทัง้ แสดงองคธรรมใน สมทุ ย 2 โล ทกุ .สมุมัค สวาุทสธาสสทุ สทุ จุอุุเลิเุ จนเิ น สจั จมูละ มรรคสจั จมูลียมกะ แหงอตีตวาระ ปจ จนกิ ปคุ คโลกาสวาระ ของอุปปาท √ √ วาระ เฉพาะอนโุ ลมปจุ ฉา ? 54 [ว อุ 2 นุ โล สมุ-มคฺ (อนุ.) √ ๓. ในสมุทยสัจจมลู ะ มคั คสัจจมูลียมกะ แหง อตตี วาระปจ จนิก ปุคคโลกาสวาระ ของอุป อิต ภิ √ √ √ ปว[าวาอทอยุว2าางนรไุะรโลเ(ฉสไมมพ-ุตามอะคองฺ (จนอาํนุโุ.แล)]นมปกโุจกฉฏาฐทาสาน) จ?ะ4ว2ิส, ัช4น4,า4เป9,น5บ0า[ลวีแอลุ 2ะไนทุ โยล พรอมทั้งแสดงองคธรรม เรสํ น √ √ สมุ-มคฺ (อนุ.)] อสญั  √ ๓. จงวิสัชนา แปล แสดงองคธ รรมในคําปุจฉา ดงั ตอ ไปน้ี ? 59 [ว นิ 2 นุ โล สมุ-มคฺ (อนุ.)] ข. ยสสฺ ยตถฺ สมุทยสจฺจํ นุปฺปชฺชติ ถฺ , ตตฺส ตตฺถ มคคฺ สจฺจํ น นิรุชฌฺ ติ ถฺ าติ ? ตอบ (54) อนุ.ป.ุ ยสสฺ ยตฺถ สมุทยสจจฺ ํ นุปปฺ ชฺชิตฺถ, 2โล อ/ุ น/ิ อนุ ิ อนุโลมนัย ปจจนิกนัย ตตฺส ตตถฺ มคฺคสจฺจํ นุปปฺ ชชฺ ติ ถฺ าติ ? ๓(โลสอ)ทุา=มุจ>นิเอนตฺุ 4อา3ุน,ิ 53, 56, 58/ นิ 4อ5ามนฺตา ทุกฺ-สมุ 48, สุทจุ เิ น  สอุ ุ แปล สมทุ ยสัจจะไมเ คยเกิดแกบคุ คลใดในภมู ใิ ด, 57อิตปุ ฺ มรรคสัจจะก็ไมเ คยเกดิ แกบ คุ คลนนั้ ในภมู ินนั้ ใชไ หม ? สุทุจิเน อน*  อามนตฺ า ตอบ วสิ ชั นา. อามนฺตา ใช ทุกฺ-มคฺ อามนตฺ า อภิ สทุ จุ ิเน อน* สอุ ุ แสดงองคธ รรมในอนุโลมปจุ ฉา องคธรรมของสันนฏิ สมุ-มคฺ  ฐานบท (ในอนุ.ปุ.อ.สนั .และ สงั .) ไดแก สอทุามุเลน๓จฺติเ=าน>4อ4น, 4*9,ส5ทุ 0,ุจ5ิเ4น, อนาคามิผลบคุ คล ๑ ที่ในสทุ ธาวาสภมู ิ คือใน สุทเุ ลจเิ น อน* อภิ 59 อามนตฺ า  ขณะท่ีถงึ พรอ มดว ยการเกิดขนึ้ แหง ขณะท้ัง ๓ ของมขุ ยทุตยิ จติ คอื ปฐมภวงั ค และ ตงั สทิสทุตยิ จิต ๑๘ ดวง ไดแก ปฏสิ นธิจติ ๑ ภวงั คจติ ๑๕ มโนทวาราวชั ชนจิต ๑ ภวนิกันตกิ โลภชวนะดวงท่ี ๑ กับสุทธาวาสภมู ิ ๕ สคุ ตอิ เหตกุ บคุ คล ๑ ซึง่ เกิดอยใู นอสัญญสตั ตภูมิ กบั อสัญญสตั ตภูมิ ๑ องคธ รรมของสงั สยบท เหมอื นกนั กาล ๓  ดาวนโหลดขอมูลตา งๆท่ี ขอ ความเพิ่มเตมิ Youtube, Post, fb: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ทีแ่ ปะไว) ๑๗ ธ.ค. ๖๑

สัจจยมกะ 57 3ล อุ อนโุ ลมนัย ปจ จนกิ นัย ทุกฺ-สมุ คี ห ยจริ าคํฏ*ิ อิ*(เยมฏิ อามนฺตา ฉิจิคี ทกุ ฺ-มคฺ ๔คอ/ี า๕หม=น>เยฺต4จ3า,ป4มุ 4,น4ฏ5,ิ ฉจิ ิคี อามนฺตา เยจปมุ นฏิ คี ห ยจริ าคฏํ *ิ อ57ามนฺตา ยเ5ย50จ5เ,ิร(5๓า5มขค, ฏ)5ฏํ 4ิ ิ , คี ห เยจปมุ นฏิ สมุ-มคฺ เยจปมุ นฏิ เยมฏิ / ยจริ าคฏํ *ิ คี ห ยจริ าคฏํ *ิ เยเมฏิ เยจปุมนฏิ (ฉิจิค)ี ๖. องคธรรมของบาลีท่ีวา ยสฺส จติ ตฺ สฺส อนนฺตรา อคคฺ มคฺคํ ปฏิลภิสสฺ นฺติ เตสํ (โดยมุขยนัย) ทราบแลว แตอ ยาก ทราบวา ยสฺส จิตฺตสฺส อนนตฺ รา อคคฺ มคคฺ ํ ปฏิลภิสฺสนฺติ (โดยสทิสปู จารนยั ) นน้ั ไดแกบ คุ คลใดบา ง จงแสดงมา ใหถูกตอ ง ? 45 [ว อุ 3 สมุ] ตอบ บาลที วี่ า ยสฺส จติ ฺตสสฺ อนนฺตรา อคคฺ มคฺคํ ปฏลิ ภสิ สฺ นตฺ ิ เตสํ โดยสทิสูปจารนยั นน้ั ไดแ ก บคุ คลตอไปนผ้ี ูท ี่ จะไดมรรคท้งั ๔ ตามลําดบั โดยไมมตี ณั หาคน่ั ในระหวางนั้น ไดแก ติ ๑ มรรคบคุ คลเบอื้ งตํา่ ๓ ผลบคุ คลเบอื้ งตํา่ ๓ คือ ในขณะที่ถึงพรอมดวยการเกดิ ขน้ึ แหงขณะทง้ั ๓ ของจติ นบั ตั้งแตต ัณหาทเ่ี กิดข้ึนครง้ั สดุ ทา ย จนถงึ อนโุ ลมในอรหัตตมรรควิถี.  ถามีตณั หาคนั่ หลงั จากสาํ เรจ็ เปนโสดาบันแลวกไ็ ดแ ก โสดาปต ตผิ ลบุคคล ๑ มรรคบคุ คลเบ้ืองกลาง ๒ ผลบคุ คลเบ้ืองกลาง ๒  ถา มตี ัณหาคั่นหลงั จากสาํ เรจ็ เปนสกทาคามีแลว ก็ไดแ ก สกทาคามผี ลบุคคล ๑ อนาคามมี รรคบคุ คล ๑ อนาคามผี ลบุคคล ๑  ถา มตี ณั หาคนั่ หลงั จากสาํ เรจ็ เปนอนาคามแี ลวกไ็ ดแ ก อนาคามผี ลบุคคล ๑ คอื ในขณะท่ีถึงพรอ มดวยการเกิดข้นึ แหงขณะทั้ง ๓ ของจิต นับต้ังแตตัณหาทเ่ี กิดขึน้ ครั้งสดุ ทา ย จนถงึ อนโุ ลมในอรหตั ตมรรควิถีฯ ๔. จง(แสดง)ปุจฉาและวสิ ัชชนาใน ทกุ ขสจั จมูละ มรรคสัจจมูลียมกะ แหงอนาคต วาระ อนุโลม ปุคคลวาระ อุปปาทวาระ พรอมคาํ แปลและองคธรรมมาดู (เฉพาะ อนุโลมปุจฉา ไมตอ งจําแนกโกฏฐาส) ? 44, 60 ๕. จงแสดงทกุ ขสจั จะมูละ มัคคสัจจะมลู ียมกะ แหงอนาคตวาระ อนโุ ลม ปุคคลวาระ อุปปาทวาระ โดยใหวสิ ชั ชนา แปล และแสดงองคธ รรม (เฉพาะอนุโลมปุจฉา) ? 45, 61 [ว อุ 3 นุ ล ทกุ -มคฺ (อน.ุ ปุ.)] ๔. จงแสดงทกุ ขสัจจมูละ มรรคสัจจมลู ยี มกะ แหงอนาคตวาระ อนุโลม ปคุ คลวาระ อุปปาทวาระ โดยใหวิสัชนา เปนบาลี (ไมตอ งแปล) และแสดงองคธ รรม ? (เฉพาะ อนโุ ลมปุจฉา) ? 50(5), 54, 57 [ว อุ 3 นุ ล ทกุ -มคฺ (อนุ.ปุ.)] ๓ ล อนุโลม ปจ จนกิ ๕. จงแสดงองคธ รรมของคําวสิ ัชนา ภาษาไทย ดงั ตอ ไปน้ี ? 42 ทกุ -มคฺ ทุ ม ม ทุ ทุ ม ม ทุ ก. บคุ คลเหลาใดจะไดอรหัตตมรรคในลําดับแหงโวทาน บคุ คลทถ่ี ึงพรอมดวย คี   โวทานเหลา น้ันก็ดี บุคคลเหลาใดจะไดมรรค ที่นอกจากโวทานสมังคีอนาคามี ฉิ หา   บุคคลเหลานนั้ กด็ ี ทกุ ขสัจจะก็จักเกดิ มรรคสัจจะกจ็ ักเกดิ ? 42  ฉจิ ิคี   ตอบ (44, 60) อนุ.ปุ. ยสฺส ทกุ ฺขสจฺจํ อุปปฺ ชชฺ สิ ฺสต,ิ ตสฺส มคฺคสจจฺ ํ อปุ ปฺ ชชฺ สิ ฺสตีติ ? ยจิราคฏํ ิ   เยเมฏิ   ตอบ ทกุ ขสัจจะจักเกดิ แกบ ุคคลใด, มรรคสจั จะกจ็ ักเกิดแกบุคคลน้ัน ใชไหม ? อิ เยปุมนฏิ  วสิ ัชนา อคฺคมคฺคสมงคฺ นี ํ อรหนฺตานํ เย จ ปถุ ชุ ชฺ นา มคคฺ ํ น ปฏลิ ภสิ สฺ นตฺ ิ √X คี ห เตสํ ทุกขฺ สจจฺ ํ อุปฺปชชฺ ิสฺสติ โน จ เตสํ มคคฺ สจจฺ ํ อุปปฺ ชชฺ สิ ฺสต,ิ เยจปุมนฏิ ยสสฺ จติ ตฺ สสฺ อนนฺตรา อคคฺ มคคฺ ํ ปฏลิ ภสิ ฺสนฺติ เย จเฺ  มคคฺ ํ ปฏิลภิสสฺ นฺติ  ดาวนโ หลดขอมลู ตา งๆท่ี ขอ ความเพ่ิมเติมYoutube, Post, fb: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ท่ีแปะไว) ๑๗ ธ.ค. ๖๑

สัจจยมกะ 58 เตสํ ทุกฺขสจจฺ จฺ อุปปฺ ชชฺ สิ สฺ ติ มคฺคสจจฺ จฺ อปุ ปฺ ชชฺ สิ สฺ ต.ิ (45) แปล บคุ คลท่ถี งึ พรอมดวยอรหตั ตมรรคเหลา น้นั กด็ ี พระอรหนั ตทงั้ หลายกด็ ี ปุถชุ นเหลา ใดจะไมไ ดมรรค √√ยจิราคํ ปุถุชนเหลา นัน้ กด็ ี ทกุ ขสจั จะจักเกดิ แตมรรคสจั จะจักไมเกิดแกบ ุคคลเหลา นัน้ , บคุ คลเหลา ใดจะได เยเมฏิ อรหตั ตมรรคในลําดบั แหงโวทาน บุคคลท่ีถงึ พรอ มดวยโวทานเหลาน้นั กด็ ี บคุ คลเหลา ใดจะไดมรรค ที่ นอกจากโวทานสมงั คอี นาคามบี คุ คลเหลา นนั้ ก็ดี ทกุ ขสัจจะก็จักเกดิ มรรคสจั จะกจ็ กั เกิด แสดงองคธ รรมในอนุโลมปจุ ฉา องคธ รรมของสนั นฏิ ฐานบท ไดแ ก อรหัตตมรรคบคุ คล ๑ คือในขณะทีถ่ งึ พรอ มดว ยการเกิดขึ้นแหงขณะทั้ง ๓ ของอรหัตตมรรคจติ ๑ เจตสิก ๓๖ อรหัตตผลบุคคล ๑ คอื ในขณะทถี่ งึ พรอ มดว ยการเกิดขน้ึ แหง ขณะท้งั ๓ ของจิต นบั ตั้งแตอรหตั ตผลจติ ใน อรหัตตมรรควถิ ีเปน ตน จนถึงจติ ทเ่ี กิดกอนปรนิ ิพพานจิต (ปจ ฉิมอนนั ตรจิต) อภพั พปถุ ุชน ๔ คอื ในขณะทถ่ี งึ พรอ มดว ยการเกิดขน้ึ แหง ขณะทั้ง ๓ ของจิต นบั ตัง้ แตเวยี นวา ยตายเกดิ เปนตน มาจนหาทส่ี ดุ มิได [(42) ข. องคธรรม ไดแก] และ อนาคามผิ ลบคุ คล ๑ คอื ในขณะทถี่ ึงพรอมดว ยการเกิดขนึ้ แหงขณะทัง้ ๓ ของโวทานทใ่ี นอรหตั ตมรรควถิ ี ภพั พปถุ ุชน ๔ มรรคบคุ คลเบอื้ งต่ํา ๓ ผลบคุ คลเบอ้ื งตา่ํ ๓ คอื ในขณะทีถ่ ึงพรอ มดวยการเกดิ ขึ้นแหง ขณะ ท้ัง ๓ ของจิต นบั ตง้ั แตเ วยี นวายตายเกิดเปน ตนมาท่หี าเบอ้ื งตน มไิ ด จนถงึ อนุโลมในอรหัตตมรรควถิ ี องคธ รรมของสงั สยบท ไดแ ก องคธ รรมหมวดหลัง เทา นนั้ . ๔. จงแสดงองคธ รรมของคําวิสัชนา ภาษาไทย ดงั ตอไปนี้ ? 42(5), 43, 55(3) [ว อุ 3 นุ ล ทกุ -มคฺ (อน.ุ ปุ.)] ก. บคุ คลทถ่ี ึงพรอมดว ยอรหัตตมรรคเหลา นน้ั กด็ ี พระอรหันตท ้ังหลายกด็ ี ปุถุชนเหลาใดจะไมไดม รรค ปุถชุ น เหลา นนั้ กด็ ี ทุกขสจั จะจักเกิด แตม รรคสัจจะจักไมเ กิด แกบคุ คลเหลา นนั้ ? 42(5), 43, 53(3) ตอบ ก. อ.ธ. ไดแก อรหตั ตมรรคบคุ คล ๑ คือในขณะท่ถี ึงพรอ มดวยการเกิดขึน้ แหงขณะท้ัง ๓ ของ อรหัตตมรรคจิต ๑ เจตสิก ๓๖ อรหตั ตผลบุคคล ๑ คอื ในขณะท่ีถงึ พรอมดวยการเกิดขนึ้ แหง ขณะท้ัง ๓ ของ √X คี ห จติ นับตงั้ แตอ รหตั ตผลจิตที่ในอรหัตตมรรควถิ ีเปน ตน จนถึงจติ เยจปุมนฏิ ทเี่ กิดกอนปรินิพพานจิต อภพั พปุถุชน ๔ คอื ในขณะทถ่ี งึ พรอ มดว ยการเกิดขึ้นแหง ขณะทัง้ ๓ ของจิต นบั ต้ังแตเ วียนวา ยตายเกิดเปน ตน มาจนหาท่สี ดุ มไิ ด ๓. จงแสดงองคธ รรมของคาํ วิสัชชนา ภาษาไทย ดังตอไปน้ี ? 43(4ก), 55 [ว อุ 3 นุ ล ทุก-มคฺ (อน.ุ ปุ.)] ข. บคุ คลเหลาใดจะไดอรหตั ตมรรคในลาํ ดับแหงโวทาน บคุ คลท่ีถงึ พรอมดวยโวทานเหลา นนั้ กด็ ี บคุ คลเหลา ใดจะไดม รรคท่ีนอกจากโวทานสมังคีอนาคามบี คุ คลเหลา นนั้ ก็ดี ทุกขสัจจะกจ็ ักเกิด มัคคสัจจะกจ็ ักเกดิ ? 55 ตอบ ข. อ.ธ. ไดแก อนาคามิผลบคุ คล ๑ คือในขณะที่ถึงพรอ มดว ยการเกดิ ข้นึ แหงขณะทัง้ ๓ √√ ยจริ าคํ มรรคบุคคลเบอื้ งต่ํา ๓ ของโวทานท่ีในอรหตั ตมรรควถิ ี ภพั พเยปเถุ มชุ ฏนิ ๔ ผลบุคคลเบอ้ื งต่ํา ๓ คอื ในขณะทถ่ี งึ พรอ มดว ยการเกิดข้ึนแหง ขณะ ท้งั ๓ ของจิตนับตง้ั แตเ วยี นวายตายเกิดเปนตน มาทหี่ าเบอื้ งตน มิได จนถงึ อนโุ ลมในอรหัตตมรรควถิ .ี ๔. จงวิสชั นา เปน ภาษาไทย และแสดงองคธรรม ในปุจฉาดังตอไปนี้ ? 48, 56 ๑๗ ธ.ค. ๖๑ ๕. จงวิสัชนาเฉพาะภาษาบาลี ไมต องแปล และแสดงองคธรรม ในปุจฉาดงั นี้ ? 52, 58(4) ๕. จงวสิ ัชนา เปน ภาษาบาลี และแสดงองคธ รรม ในปจุ ฉาดงั นี้ ? 59 ยสสฺ สมุทยสจฺจํ น นริ ุชฺฌสิ สฺ ต,ิ ตสสฺ มคฺคสจฺจํ น นริ ุชฺฌสิ สฺ ตีติ ? 48, 52, 56, 58, 59 ตอบ (52) อคคฺ มคฺคสสฺ อุปปฺ าทกฺขเณ ยสสฺ จติ ฺตสสฺ อนนตฺ รา อคฺคมคคฺ ํ ปฏลิ ภิสฺสนตฺ ิ เตสํ สมทุ ยสจฺจํ น นริ ุชฌฺ สิ ฺสติ โน จ เตสํ มคคฺ สจจฺ ํ น นริ ชุ ฌฺ สิ ฺสต,ิ  ดาวนโ หลดขอมลู ตา งๆท่ี ขอ ความเพมิ่ เตมิ Youtube, Post, fb: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ท่แี ปะไว)

สจั จยมกะ 59 อคฺคมคคฺ สฺส ภงคฺ กขฺ เณ อรหนฺตานํ เตสํ สมุทยสจฺจจฺ น นริ ชุ ฌฺ สิ ฺสติ มคคฺ สจฺจจฺ น นริ ชุ ฌิสสฺ ต.ิ (48) แปล ในอปุ ปาทกั ขณะแหงอรหัตตมรรคจติ บุคคลเหลา นนั้ กด็ ี บคุ คลเหลา ใดจะไดอ รหัตตมรรคในลําดบั แหง โวทาน บคุ คลทถี่ ึงพรอมดว ยโวทานเหลา นัน้ ก็ดี สมุทยสจั จะจักไมดับ แตม รรคสจั จะจะดับแกบ คุ คลเหลา นนั้ , ในภังคักขณะแหงอรหตั ตมรรคจติ เหลาน้นั ก็ดี พระอรหนั ตทั้งหลายก็ดี สมทุ ยสจั จะก็จักไมด ับ มรรคสัจจะก็จะไมดบั อ.สัน. ไดแก อรหตั ตมรรคบุคคล ๑ คอื ในขณะทถ่ี ึงพรอมดวยการเกิดขนึ้ แหงอปุ ปาทกั ขณะของอรหัตตมรรคจติ ๑ เจตสกิ ๓๖ อนาคามิผลบคุ คล ๑ คือในขณะทถ่ี งึ พรอมดว ยการเกิดขนึ้ แหง ขณะทั้ง ๓ ของโวทานในอรหัตตมรรควถิ ี ผูท จ่ี ะไดม รรคทั้ง ๔ ตามลาํ ดบั โดยไมม ตี ณั หาคนั่ ในระหวางนนั้ ไดแ ก ต.ิ ๑ มรรคบคุ คลเบือ้ งตา่ํ ๓ ผลบุคคลเบ้ืองตาํ่ ๓ คอื ในขณะทถ่ี งึ พรอ มดวยการเกดิ ขน้ึ แหง ขณะทัง้ ๓ ของจิต นบั ตั้งแตภ งั คกั ขณะของตณั หาทีเ่ กิดขนึ้ ครง้ั สุดทา ยเปน ตน จนถึงอนโุ ลมในอรหตั ตมรรควถิ ี  ถามตี ณั หาคน่ั หลังจากสําเรจ็ เปน โสดาบนั แลวกไ็ ดแก โสดาปต ติผลบคุ คล ๑ มรรคบคุ คลเบ้ืองกลาง ๒ ผลบุคคลเบอ้ื งกลาง ๒  ถา มตี ณั หาคน่ั หลังจากสําเร็จเปน สกทาคามแี ลวก็ไดแก สกทาคามผิ ลบคุ คล ๑ อนาคามิมรรคบคุ คล ๑ อนาคามผิ ลบุคคล ๑  ถามตี ัณหาคน่ั หลงั จากสาํ เรจ็ เปน อนาคามีแลว กไ็ ดแ ก อนาคามผิ ลบคุ คล ๑ คือ ในขณะทถ่ี งึ พรอมดวยการเกิดขึ้นแหง ขณะทง้ั ๓ ของจติ นับต้งั แตภงั คกั ขณะของตณั หาท่ีเกดิ ขึ้นคร้งั สดุ ทา ย เปนตน จนถงึ อนุโลมในอรหตั ตมรรควถิ ี 3ล นิ อนุโลมนยั ปจ จนิกนัย และ อรหัตตมรรคบคุ คล ๑ คือในขณะที่ถึงพรอม ทกุ -ฺ สมุ คี ห ยจริ าคํฏ*ิ อิ*(=เยมฏิ อามนตฺ า ฉิจภิ ํ ดวยการดบั แหง อรหตั ตมรรคจติ ๑ เจตสิก ๓๖ อามนตฺ า เยจปุมนฏิ) คี ห ยจริ าคฏํ *ิ อรหัตตผลบุคคล ๑ คือในขณะทีถ่ งึ พรอ มดวย ทกุ -ฺ มคฺ คภํ ห เยจปุมนฏ*ิ คอปุ ฺ ยจริ าคํฏิ* อามนฺตา ฉจิ ภิ ํ การเกิดขึน้ แหง ขณะทัง้ ๓ ของจติ นับต้งั แตอรหัตตผล อามนตฺ า เยเมฏิ 43(๕)คี ห เยจปุมนฏ*ิ จิตในอรหัตตมรรควถิ เี ปน ตน จนถงึ ปรินพิ พานจิต สมุ-มคฺ เยจปุมนฏ*ิ เยมฏ*ิ คอุปฺ 4ย8จ(๔ิรา)ค/ ฏํ52*ิ (๕ค)ภ5ํ6ห58 อ.สงั . ไดแ ก องคธรรมหมวดหลงั เทา นัน้ คอปุ ฺ ยจิราคฏํ *ิ ปา เยจปุมนฏ*ิ (ฉจิ ิภ)ํ ๕. จงแสดงเปนภาษาบาลีและองคธ รรมในวสิ ัชนาทเ่ี ปน ภาษาไทย ดังตอไปนี้ ? 43 ข. บคุ คลเหลาใดจะไดอรหัตตมรรคในลาํ ดบั แหงโวทาน บคุ คลท่ถี ึงพรอ มดวยโวทานเหลา นน้ั กด็ ี บุคคลเหลา ใดจะไดม รรคทน่ี อกจากโวทานสมังคอี นาคามี บคุ คลเหลานัน้ ก็ดี ทกุ ขสัจจะกจ็ กั ดบั มัคคสัจจะกจ็ ักดับ ? ตอบ ข. ยสสฺ จติ ตฺ สสฺ อนนตฺ รา อคฺคมฺคํ ปฏลิ ภสิ ฺสนฺติ เย จเฺ  มคคฺ ํ ปฏลิ ภิสสฺ นฺติ เตสํ ทกุ ขฺ สจฺจฺจ อุปปฺ ชฺชิสฺสติ มคคฺ สจจฺ จฺ นิรุชฺฌิสฺสต.ิ อธ.ไดแ ก อนาคามิผลบุคคล ๑ คอื ในขณะท่ถี งึ พรอ มดวยการเกดิ ขนึ้ แหง ขณะท้ัง ๓ ของโวทานทีใ่ นอรหตั ตมรรควถิ ี ภพั พปุถชุ น ๔ มรรคบคุ คลเบ้อื งตํา่ ๓ ผลบคุ คลเบ้อื งต่ํา ๓ คือในขณะทถ่ี ึงพรอมดวยการเกดิ ขน้ึ แหง ขณะท้งั ๓ ของจิต นบั ตง้ั แตเ วยี นวา ยตายเกดิ เปน ตน มาทห่ี าเบื้องตน มิได จนถงึ อนุโลมที่ในอรหัตตมรรควถิ ี ๖. จงวสิ ัชนาเปน ภาษาบาลี พรอ มทง้ั องคธรรม 3ล อนุ ิ อนโุ ลมนัย ปจ จนกิ นัย ในปุจฉาดังตอ ไปน้ี (ไมตองจําแนกโกฏฐาส) ? ข. ยสสฺ ทุกขสจจฺ ํ นปุ ฺปชชฺ ิสฺสต,ิ ทุกฺ-สมุ คี ห ยจิราคฏํ *ิ อิ*(เยมฏิ อามนฺตา ฉ๖ิจ=ิค>ี 50 ตสฺส สมุทยสจฺจํ น นริ ุชฌฺ สิ ฺสตีติ ? 50 อามนตฺ า คี ห ยจิราคฏํ *ิ เยจปมุ นฏิ) ตอบ ข. ว.ิ อามนฺตา ใช ในอนุ.ปุ. อ.สงั . ทกุ ฺ-มคฺ คภํ ห เยจปมุ นฏิ* คอุปฺ ยจริ าคฏํ *ิ อามนตฺ า ฉิจิคี อามนฺตา เยเมฏิ คี ห เยจปมุ นฏ*ิ และอ.สงั .ไดแ ก อรหตั ตผลบคุ คล ๑ คือ ในขณะ สมุ-มคฺ เยจปุมนฏิ* เยมฏิ* คอุปฺ ยจิราคฏํ ิ* คภํ ห ทถ่ี งึ พรอ มดวยการเกดิ ข้ึนแหง ขณะทง้ั ๓ ของติ คอุปฺ ยจิราคํฏิ* ปา เยจปุมนฏิ* (ฉจิ ิภ)ํ เหตุกจุตจิ ิต ๑๓ เจตสกิ ๓๕  ดาวนโหลดขอมลู ตา งๆท่ี ขอ ความเพ่ิมเตมิ Youtube, Post, fb: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ท่ีแปะไว) ๑๗ ธ.ค. ๖๑

สัจจยมกะ 60 ๕. ยสสฺ จิตฺตสฺส อนนตฺ รา อคคฺ มคฺคํ ปฏลิ ภสิ สฺ นตฺ ิ อสฺสตฺตานํ เตสํ ตตถฺ ทุกขสจฺจํ นริ ชุ ฌฺ ิสสฺ ติ โน จ เตสํ ตตฺถ สมทุ ยสจฺจํ นริ ุชฺฌสิ สฺ ต.ิ จงแปลและแสดงองคธ รรมของโกฏฐาส พระบาลที ่ียกมาน้ใี หถูกตองตามสภาวะ ? 46 ตอบ โกฏฐาส พระบาลีนี้แปลวา บุคคลเหลา ใดจะไดอ รหตั ตมรรคในลาํ ดับแหง โวทาน บคุ คลทถี่ ึงพรอมดว ย โวทานเหลา นนั้ กด็ ี บคุ คลท่เี กดิ อยใู นอสญั ญสตั ตภูมเิ หลานน้ั ก็ดี ในภมู นิ ัน้ ทกุ ขสัจจะจกั ดบั แตส มุทยสจั จะจกั ไมดับแกบคุ คลเหลา นนั้ ในภูมนิ น้ั องคธ รรมไดแ ก อนาคามผิ ลบุคคล ๑ คือในขณะท่ถี งึ พรอมดว ยการเกดิ ขึ้นแหงขณะทัง้ ๓ ของโวทานท่ใี นอรหตั ต- มรรควถิ ี กับจตุโวการภูมิ ๔ ปญ จโวการภูมิ ๒๒ (เวน อบายภมู ิ ๔) (มุขยนยั นัยโดยตรง), ผทู ่ีจะไดม รรคทง้ั ๔ ตามลาํ ดบั โดยไมม ีตณั หาคน่ั ในระหวา งนน้ั ไดแก ต.ิ ๑ มรรคบคุ คลเบ้ืองตาํ่ ๓ ผลบคุ คลเบ้อื งต่ํา ๓ คือในขณะที่ถงึ พรอ มดวยการเกิดขนึ้ แหงขณะท้ัง ๓ ของ จติ นับตง้ั แตภ งั คกั ขณะแหง ตัณหาท่เี กดิ ข้นึ ครั้งสุดทาย เปน ตน จนถงึ อนุโลมในอรหัตตมคั ควิถี  ถา มีตัณหาคัน่ หลงั จากสาํ เร็จเปนโสดาบนั แลวก็ ไดแ ก โสดาปต ตผิ ลบุคคล ๑ มรรคบคุ คลเบ้อื งกลาง ๒ ผลบคุ คลเบ้อื งกลาง ๒  ถา มีตัณหาคัน่ หลงั จากสาํ เร็จเปน สกทาคามแี ลวก็ ไดแก สกทาคามผิ ลบุคคล ๑ อนาคามมิ รรคบุคคล ๑ อนาคามผิ ลบคุ คล ๑ 3โล นิ คี ห ยจริ าค46ํฏอ(๕*ิ น)ุโ/ล4ม5(น๖ยั ) ปจจนกิ นยั  ถามีตัณหาคน่ั หลงั จาก ทกุ ฺ-สมุ อามนฺตา อิตปุ (ฉิต ฉิอ อามนฺตา ฉจิ คิ ี*  สาํ เรจ็ เปนอนาคามแี ลว ก็ ไดแ ก อนาคามผิ ลบุคคล ๑ ไมฉ)ิ คี ห ยจิราคฏํ *ิ  ฉจิ ภิ *ํ  คอื ในขณะท่ีถึงพรอมดวยการ เกิดขนึ้ แหงขณะทัง้ ๓ ของจติ ทกุ ฺ-มคฺ คภํ ห เยจปมุ นฏ*ิ ปา  คอปุ ฺ ยจิราคฏํ ิ อามนตฺ า ฉจิ ภิ *ํ  นับตัง้ แตภงั คกั ขณะของตณั หาท่ี อามนตฺ า เยเมฏิ คภํ ห เยจปุมนฏ*ิ เกิดขึน้ ครงั้ สุดทา ยเปนตน จนถึง ปา  สมุ-มคฺ ปา เยจปุมนฏิ* เยมฏิ* คอปุ ฺ ยจริ าคฏํ ิ* คภํ ห* คอุปฺ ยจริ าคฏํ ิ* ปา เยจปมุ นฏ*ิ  อนุโลมในอรหตั ตมคั ควถิ ี กบั จตโุ วการภูมิ ๔ ปญ จโวการภมู ิ ๒๒ (เวนอบายภูมิ ๔) (อปุ จารนยั นยั โดยออม) ภัพพปถุ ชุ น ๔ อภพั พปถุ ุชน ๔ มรรคบคุ คลเบอ้ื งตํา่ ๓ ผลบุคคลเบ้ืองตา่ํ ๓ ทจี่ ะไมเ กิดในภูมทิ ่ตี นเกิดอยูอกี คอื ในขณะที่ถึงพรอ มดวยการเกดิ ขึน้ แหง ขณะทัง้ ๓ ของจิต ถา มรณาสนั นชวนของบุคคลเหลา น้ี เปนโลภชวนะ กน็ บั ตงั้ แตภงั คักขณะของภงั คักขณะของชวนะดวงท่ี ๕ เปน ตน จึงถงึ อปุ ปาทกั ขณะของจุตจิ ิต ถาเปนโทสะ โมหะ มหากศุ ลชวนะ กน็ บั ตงั้ แตภ ังคกั ขณะของตณั หาท่ีเกดิ ขึ้นคร้งั สดุ ทายเปนตนจนถึงอุปปาทกั ขณะของ จตุ ิจิต กบั จตโุ วการภูมิ ๔ ปญ จโวการภมู ิ ๒๕ (เวนอกนิฏฐาภูม)ิ (อุปจารนยั นัยโดยออมชนิด สทสิ ปู จารนยั ) สุคตอิ เหตกุ บุคคล ๑ ซงึ่ เกดิ อยใู นอสญั ญสตั ตภมู ิ และจะเกดิ ในอสญั ญสตั ตภูมิอกี กับอสัญญสตั ตภูมิ ๑ กาล ๔ ๕. ก. จงวิสชั นาและแปล พรอ มแสดงองคธรรมในทุกขสัจจมลู ะ สมทุ ยสจั จมูลยี มกะ แหงปจจุปปนนาตีตวาระ อนโุ ลม ปุคคลวาระ ของอุปปาทวาระ 4ล อุ อุนิ อามนตฺ อานุโล๕มกน=ยั >ส52อํ ,ุ 57 ปจจนกิ นัย สํจ วจิภXํ อมผอปุ ฺ อนุโลมปจุ ฉา (ไมตองจําแนกโกฏฐาส) ? ทุกฺ-สมุ สจํ วจิภํ อมผอุปฺ วจอิ ุปฺ อุปปฺ ชชฺ ติ ฺถ เคยเกิด 52(6ก), 57, 61 นตฺถิ ไมมี X ไมมเี หมอื นกัน ตอบ ก. วสิ ชั นา อามนฺตา. ใช. ทกุ ฺ-มคฺ นอุ วจิอุปฺ ภิอุ ภิจ วจิภํ* อมผอปุ ฺ นจ วจภิ *ํ ใน อนุ.ปุ. อ.สัน. และ อ.สงั . ไดแ ก สมุ-มคฺ ภจิ วจิภํ อมผอุปฺ วจภิ *ํ นอุ วจิอปุ ป.ุ ๔ ผลเสกขบคุ คล ๓ ซง่ึ กําลงั เกดิ ใน ๓๑ ภูมิ นตอปุ ฺ ภิต ภิตภํ ตวจิ เิ น นิ นตภํ ตวจิ เิ น คอื ในขณะทีถ่ ึงพรอมดว ยการ เกดิ ขน้ึ แหง ปฏสิ นธจิ ติ ๑๙ เจตสิก ภติ ภํ ตวิจิเน นิ อปุ ฺ นตอุปฺ  ๓๕ กมั มชกลาป ๓-๗-๔ ชวี ติ นวกกลาปทเ่ี กิดในขณะแรก ป.ุ ๔ อริยบุคคล ๘ ทีเ่ ปนไปในปวตั ตกิ าล ในจตโุ วการภมู ิ ปญ จโวการภมู ิ คือในขณะที่ถึงพรอ มดวยการเกิดขึน้ แหง จิต นบั ตง้ั แตป ฐมภวงั คเปนตน จนถงึ จุตจิ ิต (เวน ขณะที่เกิดขน้ึ แหงมรรคจิต ผลจติ ในอรปู ภมู ิ)  ดาวนโหลดขอมูลตา งๆท่ี ขอ ความเพม่ิ เตมิ Youtube, Post, fb: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ท่ีแปะไว) ๑๗ ธ.ค. ๖๑

สจั จยมกะ 61 ๔. จงแสดงปุจฉาและวสิ ชั นา ทง้ั บาลีและไทย พรอมทัง้ แสดงองคธ รรม (ไมตองจําแนกโกฎฐาสะ) ในปวตั ติวาระ นโิ รธวาระ ปจ จปุ ปนนาตีตะวาระ อนโุ ลมนัย ปคุ คโลกาสวาระ เฉพาะอน.ุ ป.ุ ของสมุทยสัจจมูละ มรรคสจั จะ มูลียมะ มาดู ? 51(5), 53, 55, 58, 60(5) ตอบ อนุ.ปุ. ยสสฺ ยตถฺ สมทุ ยสจจฺ ํ นิรุชฌฺ ต,ิ ตสสฺ ตตถฺ มคคฺ สจฺจํ นิรชุ ฌฺ ิตถฺ าติ ? สมุทยสัจจะกําลงั ดับแกบ คุ คลใดในภูมใิ ด, มรรคสัจจะก็เคยดับแกบ ุคคลน้ันในภูมนิ ้นั ใชไหม ? ว.ิ อนภสิ เมตาวีนํ ตณฺหาย ภงคฺ กขฺ เณ เตสํ ตตถฺ สมุทยสจจฺ ํ นิรชุ ฺฌติ โน จ เตสํ ตตถฺ มคฺคสจจฺ ํ นริ ุชฺฌติ ฺถ, อภสิ เมตาวีนํ ตณหฺ าย ภงคฺ กขฺ เณ เตสํ ตตถฺ สมุทยสจฺจจฺ นริ ชุ ฌฺ ติ มคฺคสจจฺ จฺ นริ ชุ ฌติ ฺถ. ในภังคักขณะแหงตณั หาของผทู ย่ี ังไมเขา ถงึ ความเปน ผูเ คยรูอรยิ สัจ ๔ มาน้นั ในภูมนิ น้ั สมทุ ยสจั จะกาํ ลงั ดบั แตมรรคสัจจะไมเคยดบั แกบคุ คลเหลานนั้ ในภูมินน้ั , ในภงั คกั ขณะแหง ตณั หาของผทู ี่เขา ถงึ ความเปน ผูเ คยรู อรยิ สัจ ๔ มาแลวเหลา นั้น ในภูมนิ ัน้ สมทุ ยสจั จะก็กาํ ลังดบั มรรคสัจจะก็เคยดบั . ใน อน.ุ ปุ. อ.สัน. ไดแก ป.ุ ๔ คอื ในขณะทถ่ี งึ 4ล นิ อนุโลมนัย ปจ จนกิ นัย พรอ มดว ยการดับแหง ตัณหา คือ โลภมลู จิตตปุ บาท กับ จตโุ วการภูมิ ๔ ปญ จโวการภมู ิ ๒๑ ทกุ ฺ-สมุ อามนฺตา สํจ นิรชุ ฌิตถฺ เคยดบั สอํ ุ วจอิ ปุ ฺ อมผภํ X (เวนสุทธาวาสภูมิ ๕) (มขุ ยนยั ) สํอุ วจิอปุ ฺ X ไมมเี หมอื นกัน ผลเสกข. ๓ ท่เี คยไดม รรคเบ้ืองต่ําในภมู อิ นื่ ๆ อมผภํ วจิภํ นตฺถิ ไมม ี มาแลว แตไ มเคยไดม รรคในภมู ทิ ีต่ นเกิด ทุกฺ-มคฺ นจ วจภิ *ํ ภิจ ภิอปุ วจิอุป* อมผภํ นอุ วจิอปุ ฺ* อยู คอื ในขณะที่ถึงพรอ มดวยการดบั ภอิ ปุ ฺ วจิอุป*ฺ วจิภ*ํ นจ วจิภ*ํ แหงทฏิ ฐคิ ตวิปปยตุ ตจิต ๔ กับจตโุ วการ อมผภํ สมุ-มค๔ฺ ภน(โตติล)ภอ=ุปํ>ฺ5ต1(ว๕จ)ิเ,น53น, 5ิ 5, 58ภติ ภํ ภิตอปุ ตวิจิเน นิ นตอปุ ฺ ตวิ นตภํ จเิ น  ภูมิ ๔ ปญจโวการภมู ิ ๒๒ (เวนอบายภมู ิ ๔) (สทสิ ูปจารนยั ) และ ผลเสกข. ๓ ทเ่ี คยไดม รรคในภมู ทิ ี่ตนเกดิ อยู คือในขณะท่ีถึงพรอ มดว ยการดบั แหงตณั หา คือทิฏฐคิ ตวปิ ปยุตต- จติ ๔ กับจตโุ วการภมู ิ ๔ ปญ จโวการภูมิ ๑๗ (เวน สทุ ธาวาสภมู ิ ๕ อบายภูมิ ๔) อ.สงั . ไดแ ก องคธ รรมหมวดหลงั เทานั้น ๕. จงแปลและแสดงองคธรรม ในปุริมโกฏฐาส และปจ ฉิมโกฏฐาสในคาํ วิสชั นาท่วี า ดงั ตอไปน้ี? 54, 59 สทุ ธฺ าวาสานํ อุปปตตฺ ิจิตฺตสฺส อปุ ฺปาทกฺขเณ อสฺสตตฺ ํ อปุ ปชฺชนตฺ านํ เตสํ ตตถฺ ทุกขฺ สจฺจํ อปุ ปฺ ชชฺ ติ โน จ เตสํ ตตถฺ สมทุ ยสจจฺ ํ อปุ ปฺ ชชฺ ติ ถฺ , อิตเรสํ จตโุ วการํ ปฺจโวการํ อุปปชชฺ นตฺ านํ ปวตเฺ ต จติ ฺตสฺส อปุ ฺปาทกขฺ เณ เตสํ ตตฺถ ทกุ ขฺ สจฺจฺจ อปุ ปฺ ชชฺ ติ สมุทยสจจฺ จฺ อปุ ฺปชฺชติ ฺถ. ตอบ ในอุปปาทักขณะแหงปฏสิ นธิจิตของสทุ ธาวาสพรหมเหลา นน้ั กด็ ี บุคคลที่กําลังเกดิ ในอสญั ญสตั ตภูมเิ หลาน้นั ก็ดี ในภูมนิ ั้น ทุกขสัจจะกาํ ลงั เกดิ แตส มุทยสจั จะไมเ คยเกิดแกบ คุ คลเหลา น้ันในภูมนิ ้ัน, บคุ คลทก่ี ําลงั เกิดในจตโุ วการภมู ิ ปญจโวการภมู ิท่ีนอกจากสทุ ธาวาสภมู เิ หลานน้ั กด็ ี ในอปุ ปาทกั ขณะแหง จติ ในปวตั ตกิ าลของบคุ คลเหลา น้ันกด็ ี ในภูมนิ ้นั ทกุ ขสัจจะก็กาํ ลงั เกิด สมุทยสจั จะก็เคยเกดิ ใน อนุ.ปุ. อ.สนั . ไดแก อนาคามผิ ลบคุ คล ๑ ทีใ่ นสุทธาวาสภูมิ คือในขณะทถ่ี งึ พรอมดวยการเกิดข้นึ แหงจติ ๑๙ ดวง คือ ปฏสิ นธจิ ติ ๑ ภวงั คจิต ๑๖ มโนทวาราวัชชนจิต ๑ ภวนกิ ันตกิ โลภชวนะดวงที่ ๑ กับสุทธาวาสภมู ิ ๕ ส.ุ ๑ ซ่ึงกําลงั เกดิ ในอสญั ญสตั ตภมู ิ คอื ในขณะที่ถงึ พรอมดว ยการเกิดข้ึนแหง ชวี ติ นวกกลาปทเี่ กดิ ในขณะแรก กับอสญั ญสตั ตภมู ิ ๑ และ ป.ุ ๔ ผลเสกข. ๓ ซ่ึงกาํ ลังเกดิ ในจตโุ วการภูมิ ปญจโวการภมู ิ คอื ในขณะทถี่ ึงพรอมดวยการเกิดขึ้นแหง ปฏิสนธิ- จติ ๑๙ เจ ๓๕ กัมมชกลาป ๓-๗-๔ กับจตโุ วการภมู ิ ๔ ปญ จโวการภมู ิ ๒๑ (เวน สทุ ธาวาสภูมิ ๕) ป.ุ ๔ อรยิ บคุ คล ๘ ท่เี ปน ไปในปวตั ตกิ าล คอื ในขณะทถี่ ึงพรอ มดวยการเกดิ ขึน้ แหง จติ - ถา ในสุทธาวาสภูมิ ก็นับตัง้ แตภวนกิ ันตกิ โลภชวนะดวงที่ ๒ เปนตน จนถึงจตุ จิ ติ - ถา ในจตุโวการภมู ิ ปญ จโวการภูมทิ ่เี หลือ กน็ ับตงั้ แตป ฐมภวงั คเ ปน ตนจนถึงจตุ จิ ติ (เวน มรรคจิต ผลจติ ในอรูปภมู )ิ กับ จตโุ วการภมู ิ ๔ ปญ จโวการภูมิ ๒๖ อ. สัง. ไดแก องคธ รรมหมวดหลงั เทา นนั้  ดาวนโหลดขอมูลตา งๆที่ ขอความเพ่ิมเติมYoutube, Post, fb: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ทแ่ี ปะไว) ๑๗ ธ.ค. ๖๑

สัจจยมกะ 62 กาล ๕ 5ล อุ อนโุ ลมนยั ปจจนิกนยั สท๖ิส=ู) >4อ7อิ ,ุ 58 คอุปฺ หจิอุปฺ ยจิราคํฏิ สจิอปุ *(มขุ ย สจํ วจิภ*ํ อมผอุปฺ คภํ หจิภํ ยจิราคํฏิ (=สํอ)ุ สจภิ *ํ อคผอปุ ฺ* ทุกฺ-สมุ คอปุ ฺ หจิอปุ ฺ สจํ วจิภ*ํ อมผอุปฺ วจอิ ปุ ฺ*(ฉิ เยม เยป)ุ ยจริ าคํฏิ สจอิ ปุ ฺ* คอปุ ฺ หจิอุปฺ ยจิราคฏํ ิ สจภิ ํ เยเมฏิ คภํ หจิภํ ยจริ าคํฏิ สจิอุปฺ เตจ วจิภ*ํ อมผอปุ ฺ เยจปุมนฏิ เตจ ทุกฺ-มคฺ เยปมุ นฏิ เตอุ วจอิ ปุ ฺ เยเมฏิ เตอุ วจอิ ปุ ฺ* คอปุ ฺ หจิอุปฺ วจภิ *ํ อคผอุปฺ ยจิราคํฏิ สจภิ ํ เยเมฏิ เตจ เยจปมุ นฏิ วจอิ ปุ ฺ วจภิ *ํ อมผอุปฺ เยปมุ นฏิ เต ตอปุ ฺ เยมฏิ เต ตอุปฺ ยจิราคฏํ *ิ เยเมฏิ เต คี ห เยปุมนฏิ เต ตภํ ตวิจิเน นิ  ตภํ ตวจิ เิ น (นิ ) สมุ-มคฺ ยจริ าคฏํ *ิ เยเมฏิ เต ตภํ ตวจิ เิ น นิ  เยปมุ นฏิ เต ตอปุ ฺ ๖. จงวิสัชนา และแปลในปจุ ฉาดังตอไปน้ี ? 47, 58 อนุ.ป.ุ ยสฺส ทุกฺขสจจฺ ํ อุปฺปชฺชต,ิ ตสฺส สมุทยสจฺจํ อปุ ปฺ ชชฺ สิ สฺ ตีติ ? 47, 58 ตอบ ว.ิ อคฺคมคคฺ สฺส อปุ ปฺ าทกขฺ เณ อรหนฺตานํ จิตตฺ สสฺ อุปฺปาทกขฺ เณ ยสฺส จติ ตฺ สสฺ อนนฺตรา อคคฺ มคคฺ ํ ปฏลิ ภิสสฺ นฺติ ตสสฺ จติ ตฺ สฺส อุปปฺ าทกขฺ เณ เตสํ ทุกขสจจฺ ํ อุปปฺ ชฺชติ โน จ เตสํ สมุทยฺ สจฺจํ อปุ ปฺ ชชฺ สิ ฺสติ, อติ เรสํ อปุ ปฺ ชชฺ นตฺ านํ ปวตฺเต จติ ฺตสสฺ อุปปฺ าทกขฺ เณ เตสํ ทุกฺขสจจฺ จฺ อปุ ปฺ ชชฺ ติ สมทุ ยฺ สจจฺ จฺ อปุ ฺปชชฺ สิ สฺ ต.ิ แปล ในอุปาทักขณะแหงอรหัตตมรรคจิต บุคคลเหลาน้นั ก็ดี ในอุปาทกั ขณะแหงจิตของพระอรหันตทั้งหลายก็ดี บคุ คลเหลา ใดจะไดอรหตั ตมรรคในลําดับแหงโวทาน ในอุปาทักขณะแหงโวทานของบุคคลเหลานน้ั ก็ดี ทกุ ข สัจจะกําลงั เกดิ แตสมทุ ยั สัจจะจักไมเกดิ แกบ คุ คลเหลาน้ัน, บคุ คลทน่ี อกจากบคุ คลเหลา นนั้ กาํ ลังเกดิ กด็ ี ในอุปาทกั ขณะแหง จิตในปวตั ติกาลของบคุ คลเหลา นั้นกด็ ี ทกุ ขสัจจะก็กําลังเกิด สมทุ ัยสจั จะก็จกั เกิด กาล ๖ 6ล อุ อนโุ ลมนัย ปจ จนกิ นัย ทุกฺ-สมุ คี ห ยจริ าคฏํ *ิ อิ*(เยมฏิ เยปมุ นฏิ) นตฺถิ ไมม ี เคยเกิด X ไมม ีเหมอื นกัน อามนฺตา อปุ ปฺ ชชฺ ิตถฺ คี ห ยจริ าคฏํ ิ X นตถฺ ิ ไมมี๖ก=>43, 48, 5X1ไม, ม5เี3ห,ม5อื 4น,ก5นั 6 ทกุ ฺ-มคฺ คี ห เยจปุมนฏิ ยจริ าคฏํ ิ เยเมฏิ อปุ ปฺ๖ชขชฺ=ิต>ถฺ43๖เ,ค4=8ย>,เ45ก61ดิ,,4592, 5ค3ี ,ห54เ,ย5ป6,ุม5น7(ฏ๕ิ ข) อามนตฺ า 6ล นิ อนุ ิ อนโุ ลมนยั ปจ จนิกนยั ทุกฺ-สมุ คี ห ยจิราคํฏ*ิ อิ* (=เยมฏิ นตฺถิ ไมมี X ไมม เี หมอื นกนั อามนตฺ า เยปุมนฏิ) นิรุชฺฌิตถฺ เคยดบั คี ห ยจิราคฏํ *ิ X ทุกฺ-มคฺ คภํ ห เยจปมุ นฏิ คอุปฺ ยจิราคํฏิ นตฺถิ ไมม ี X ไมม เี หมอื นกัน อามนตฺ า เยเมฏิ นริ ุชฌฺ ติ ถฺ เคยดบั คภํ ห เยจปุมนฏิ X ๖. จงแสดงปจุ ฉาและวิสัชนาแปล แสดงองคธ รรมในทกุ ขสจั จมูละ มรรคสจั จมูลียมกะ แหงอตตี านาคตวาระ ปจ จนิก ปคุ คลวาระ ของอปุ ปาทวาระ ทั้งอนโุ ลมและปฏิโลมปจุ ฉา (ไมต องจาํ แนก) ? 42, 46, 49, 59, 60 ๖. ข. จงแสดงปุจฉาและวิสัชนา พรอมคาํ แปลและแสดงองคธ รรมในทกุ ขสจั จมลู ะ มรรคสจั จมลู ียมกะ แหง อตตี านาคตวาระปจ จนกิ ปคุ คลวาระ ของอปุ ปาทวาระ ปฏิโลมปจุ ฉา (ไมต องจําแนกโกฏฐาส) ? 61 ตอบ แสดงปจุ ฉาและวสิ ชั นา เปน ตน ดงั นี้  ดาวนโ หลดขอมลู ตา งๆที่ ขอความเพ่ิมเติมYoutube, Post, fb: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ท่ีแปะไว) ๑๗ ธ.ค. ๖๑

สัจจยมกะ 63 อนุ.ปุ. ยสสฺ ทกุ ฺขสจฺจํ นปุ ปฺ ชฺชติ ฺถ, ตสฺส มคคฺ สจจฺ ํ นุปปฺ ชฺชิสสฺ ตีติ ? แปล ทกุ ขสจั จะไมเ คยเกดิ แกบ ุคคลใด, มรรคสจั จะกจ็ ักไมเกดิ แกบุคคลน้นั ใชไ หม ? ว.ิ นตฺถิ ไมม ี ใน อนุ.ปุ. องคธ รรมของสนั นิฏฐานบท ไมมี เมอื่ องคธ รรมของสันนฏิ ฐานบทไมม ีแลว องคธ รรมของสงั สยบท ก็ไมมีเหมอื นกัน (61) ปฏ.ิ ปุ. ยสฺส วา ปน มคคฺ สจจฺ ํ นุปฺปชชฺ สิ ฺสต,ิ ตสสฺ ทุกฺขสจจฺ ํ นปุ ปฺ ชชฺ ติ ถฺ าติ ? แปล หรอื วามรรคสัจจะจกั ไมเ กดิ แกบ ุคคลใด, ทุกขสจั จะก็ไมเ คยเกิดแกบุคคลนัน้ ใชไหม ? ว.ิ อุปปฺ ชฺชติ ฺถ เคยเกิด ใน ปฏิ.ปุ. องคธ รรมของสนั นฏิ ฐานบท ไดแ ก อรหัตตมรรคบุคคล ๑ คือในขณะท่ีถงึ พรอ มดว ยการเกิดข้ึนแหง -√คี ห ขณะทั้ง ๓ ของอรหตั ตมรรคจิต ๑ เจตสิก ๓๖ เยจปุมนฏิ อรหตั ตผลบุคคล ๑ คอื ในขณะทถ่ี งึ พรอ มดวยการเกดิ ขนึ้ แหงขณะทั้ง ๓ ของจิต นบั ตั้งแต อรหัตตผลจิตท่ีในอรหตั ตมรรควถิ ีเปน ตนจนถงึ ปรนิ พิ พานจิต ปถุ ชุ น ๔ ทจ่ี ะไมไดม รรค คอื ในขณะท่ถี ึงพรอ มดว ยการเกิดขึน้ แหงขณะทั้ง ๓ ของจิต นับต้งั แตเวยี นวา ยตายเกดิ เปน ตนมาจนหาทีส่ ดุ มิได องคธรรมของสงั สยบท ไมม ี ๖. จงวิสชั นา พรอมทง้ั แปล และแสดงองคธรรมในขอ ปจุ ฉาดงั ตอไปน้ี (ไมตองจาํ แนกโกฏฐาส) ? 43, 48, 53, 54, 56 ก. ยสฺส ทุกฺขสจฺจํ นปุ ฺปชชฺ ิตถฺ , ตสฺส มคคฺ สจฺจํ นุปปฺ ชฺชิสสฺ ตตี ิ ? 43, 48, 51, 53, 54, 56 ตอบ ก. ว.ิ นตถฺ ิ ไมมี องคธ รรมของสันนฏิ ฐานบท ไมมี เมอื่ องคธ รรมของสันนฏิ ฐานบทไมมแี ลว องคธรรมของสังสยบท ก็ไมมเี หมือนกนั ๕. ข. จงแสดงปจุ ฉาและวิสัชนา พรอ มคําแปลและแสดงองคธ รรมในทุกขสจั จมูละ มรรคสจั จมลู ี ยมกะ แหง อตีตานาคตวาระปจ จนิก ปคุ คลวาระ ของอปุ ปาทวาระ ปฏิโลมปุจฉา (ไมตอ งจําแนกโกฏฐาส) ? 52(6ข), 57 ๖. จงวสิ ัชนา พรอมทั้งแปล และแสดงองคธรรมในขอ ปุจฉาดงั ตอ ไปนี้ (ไมตองจําแนกโกฏฐาส) ? ข. ยสฺส วา ปน มคฺคสจจฺ ํ นุปปฺ ชชฺ สิ ฺสต,ิ ตสสฺ ทุกฺขสจจฺ ํ นุปปฺ ชฺชิตถฺ าติ ? 43, 48, 51, 53, 54, 56 ตอบ ข. ปฏ.ิ ปุ. ยสสฺ วา ปน มคคฺ สจจฺ ํ นปุ ปฺ ชชฺ สิ สฺ ต,ิ ตสสฺ ทกุ ขฺ สจจฺ ํ นปุ ฺปชชฺ ิตถฺ าติ ? แปล หรอื วา มรรคสจั จะจกั ไมเ กดิ แกบคุ คลใด, ทุกขสจั จะก็ไมเ คยเกิดแกบุคคลนน้ั ใชไ หม ? (43, 48, 51, 53, 54, 56) วิสชั นา อปุ ปฺ ชฺชติ ถฺ . เคยเกิด. ใน ปฏ.ิ ปุ. องคธ รรมของสนั นฏิ ฐานบท ไดแ ก อรหตั ตมรรคบุคคล ๑ คอื ในขณะท่ถี ึงพรอ มดว ยการเกดิ ขน้ึ แหงขณะทั้ง ๓ ของอรหัตตมรรคจิต ๑ เจตสิก ๓๖ อรหตั ตผลบคุ คล ๑ คอื ในขณะทถ่ี ึงพรอ มดวยการเกิดขึน้ แหง ขณะท้งั ๓ ของจิต นับต้งั แตอรหัตตผลจิตทใ่ี น อรหัตตมรรควถิ เี ปน ตน จนถงึ ปรินพิ พานจิต ปุถุชน ๔ ท่ีจะไมไ ดมรรค คอื ในขณะที่ถงึ พรอมดว ยการเกดิ ข้นึ แหงขณะทั้ง ๓ ของจติ นับต้งั แตเวียนวา ยตายเกดิ เปน ตน มาจนหาทส่ี ดุ มไิ ด องคธ รรมของสงั สยบท ไมม .ี ปรญิ ญาวาระ กาล ๑-๖ ๗. ในปริญญาวาระน้ี พระพุทธองคทรงแสดงแตท กุ ขสจั จมลู ะ สมุทยสจั จะมูลี เทา น้ัน นิโรธสจั จะ และมรรคสจั จะ พระองคไ มทรงแสดง เปน เพราะเหตใุ ด จงอธิบาย ? 49 (จงวสิ ัชนาในปุจฉาดงั ตอ ไปนี้ ? มขี อ ก. ข. อกี ดวย) ตอบ ในปรญิ ญาวาระน้ี พระพุทธองคท รงแสดงแตทุกขสจั จะมลู ะ สมุทยสจั จะมูลเี ทานั้น นิโรธสัจจะและมรรคสัจจะ พระองคไ มทรงแสดง เพราะสัจจะท้งั ๒ น้ี เปน โลกุตตรธรรม ธรรมท่ีจะเปน ปริญญากิจไดน น้ั จะตองเปน โลกยี ธรรมเทา น้ัน กาล ๑ ๒ ๓ วสิ ชั นา อามนฺตา ใช อนุโลมนัย อธ.ไดแก อรม.๑ / อรผ.๑ / ๗ = ภัพ.๑ มต.๓ ผต. ๓  ดาวนโหลดขอมลู ตา งๆท่ี ขอความเพิม่ เตมิ Youtube, Post, fb: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ทีแ่ ปะไว) ๑๗ ธ.ค. ๖๑

สจั จยมกะ 64 ปจจนิกนยั อธ.ไดแ ก ๙ (-อรม) / ๙ (-อรผ) / ๓ = อภัพ.๑ อรม.๑ อรผ.๑ ปจ จุบันนวาระ (กาล ๑) อตตี วาระ (กาล ๒) อนาคตวาระ (กาล ๓) บุคคล ๑๐ นุ. จ X ๑ ๒ ๓ ปริชานาติ ปชหติ ปริชานติ ถฺ ปชหติ ฺถ ปรชิ านิสฺสติ ปชหสิ สฺ ติ อภพั อภัพ๑ นฏิ X X X กําลงั รูรอบ กาํ ลงั ละ เคยรรู อบ เคยละ จกั รูรอบ จกั ละ ภพั คิญ ภัพ๑ เย มต.๓ ม XX อรม. ๑ อรผ. ๑ ๗=ภพั ๑ มต.๓ ผต.๓  อรยิ ผต.๓ ฏิ ๗. จงแสดงวสิ ชั นา เปนภาษาไทย และแสดงองคธ รรมในขอปจุ ฉาดังตอไปน้ี (ไม ๘ คี อรม.๑ คี  X X ตองจําแนกโกฏฐาส) ? 42, 46, 47 (ญ ๑ นุ อน.ุ ) ก. โย ทกุ ขฺ สจจฺ ํ ปรชิ านาต,ิ โส สมุทยสจฺจํ ปชหตตี ิ ? 42, 46, 47 หา อรผ.๑ หา X  X ตอบ ก. วสิ ชั นา ใช อ.สัน. อ.สงั . ไดแก อรหัตตมรรคบคุ คล ๑ ๗. จงแปลและวสิ ัชนา พรอมทัง้ แสดงองคธ รรม ในขอปุจฉาดังตอไปนี้ ? 44(6), 50, 53, 54, 57, 59 ก. โย ทกุ ขฺ สจจฺ ํ ปรชิ านสิ ฺสต,ิ โส สมทุ ยสจฺจํ ปชหิสฺสตตี ิ ? (ญ ๓ นุ อนุ.) ตอบ ก. แปล บคุ คลใดจักรรู อบทุกขสจั จะ, บุคคลนน้ั จกั ละสมทุ ยสัจจะใชไ หม ? วสิ ัชนา อามนตฺ า. ใช ในอนโุ ลมปุจฉา องคธ รรมของสันนิฏฐานบทไดแ ก ภพั พปถุ ชุ น ๑ มรรคบคุ คลเบอื้ งต่ํา ๓ ผลบคุ คลเบื้องต่าํ ๓ องคธรรมของสังสยบท เหมือนกัน กาล ๑ ๒ ๓ ๗. จงแปลและวิสัชนา พรอมทงั้ แสดงองคธ รรม ในขอ ปุจฉาดงั ตอไปนี้ ? 44(6), 50, 53, 54, 57, 59 วิ. อามนฺตา ข. โย วา ปน สมุทยสจฺจํ นปฺปชหสิ ฺสต,ิ โส ทกุ ฺขสจฺจํ น ปริชานิสสฺ ตีติ ? (ญ ๓ จ อน.ุ ) ใช (ทงั้ หมด) อนโุ ลม ๑/๑/๗ ตอบ ข. แปล หรือวา บุคคลใดจกั ไมละสมทุ ยั สจั จะ บุคคลนั้นกจ็ กั ไมร รู อบทุกขสัจจะ ใชไหม ? ปจจนกิ ๙/๙/๓ วิสชั นา อามนตฺ า. ใช น ปริชานาติ นปปฺ ชหติ น ปรชิ านติ ฺถ นปปฺ ชหิตถฺ น ปริชานิสสฺ ติ นปปฺ ชหิสฺสติ ในปฏโิ ลมปจุ ฉา องคธรรมของสนั นฏิ ฐาน Xไมใชก ําลังรรู อบ Xไมใ ชก าํ ลงั ละ Xไมเคยรูร อบ Xไมเคยละ จกั Xไมรูร อบ จักXไมละ บทไดแ ก อภัพพปุถชุ น ๑ อรหตั ตมรรค ๙=ภัพ๑ อภพั .๑ ๙=ภัพ๑ อภพั .๑ ๓=อภพั .๑ บุคคล ๑ อรหตั ตผลบคุ คล ๑ อรยิ .๗ (-อรม.๑) อรยิ .๗ (-อรผ.๑) อรม.๑ อรผ.๑ องคธรรมของสงั สยบท เหมือนกัน กาล ๔, ๕, ๖ อนุโลมนยั วสิ ัชนา “โน” ไมใ ช (ท้ังหมด) กาล ๔ ๕ ๖ อนโุ ลมนยั วิสัชนา โน ไมใ ช อธ.สนั .ไดแ ก อรม.๑ /อรผ.๑ /(๗=)ภพั .๑ มต.๓ ผต. ๓ อธ.สงั . ไมมี ๗. จงวิสัชนาในปุจฉา ดงั ตอไปน้ี ? 49 (ยังมีขอคาํ ถามอ่ืนดว ย) (ญ ๔ นุ อนุ.) บุคคล ๑๐ นุ. จ X ๑ ๒ ๓ ก. โย ทกุ ขฺ สจฺจํ ปรชิ านาต,ิ โส สมุทยสจจฺ ํ ปชหิตฺถาต?ิ 43, 49, 60 อภัพ อภพั ๑ นฏิ X X X ตอบ ก. วสิ ชั นา โน ไมใ ช ภัพ คญิ ภพั ๑ เย มต.๓ ม ในอนโุ ลมปุจฉา องคธ รรมของสนั นฏิ ฐานบท ไดแก อรหัตตมรรคบคุ คล ๑ X X  องคธรรมของสงั สยบท ไมมี อริย ผต.๓ ฏิ ๘ คี อรม.๑ คี  X X ๗. จงวิสัชนา เปน ภาษาไทย และแสดงองคธรรม ในคาํ ปุจฉาดงั ตอไปน้ี หา อรผ.๑ หา X  X (ไมต องจําแนกโกฏฐาส) ? 55, 56 (ญ ๔ นุ อน.ุ ) อนุโลมนัย ๑ ๑ ๗ ปจ จนิกนัย ๙ ๙ ๓ ก. โย ทกุ ขฺ สจฺจํ ปริชานาต,ิ โส สมุทยสจฺจํ ปชหิตถฺ าติ ? 55, 56 ตอบ ก. ว.ิ ไมใ ช องคธ รรมของสนั นิฏฐานบท ไดแ ก อรหัตตมรรคบคุ คล ๑ องคธรรมของสงั สยบท ไมม ี ๗. จงแสดงวิสชั นา เปนภาษาไทย และแสดงองคธ รรมในขอปจุ ฉาดังตอไปนี้ (ไมต อ งจําแนกโกฏฐาส) ?46, 47  ดาวนโ หลดขอมลู ตา งๆที่ ขอ ความเพิม่ เติมYoutube, Post, fb: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ทแ่ี ปะไว) ๑๗ ธ.ค. ๖๑

สัจจยมกะ 65 ข. โย วา ปน สมทุ ยสจฺจํ ปชหสิ สฺ ต,ิ โส ทกุ ฺขสจฺจํ ปรชิ านาตตี ิ ?47 / ปริชานิตถฺ าติ ? 46 (ญ ๕ นุ ปฏ.ิ ) ตอบ ข. วิสัชนา ไมใช อ.สนั .ไดแก ภพั พปถุ ชุ น ๑ มรรคบคุ คลเบื้องต่ํา ๓ ผลบคุ คลเบอ้ื งตาํ่ ๓ อ.สงั . ไมมี กาล ๔ ปจจนกิ นัย อนุ.ปุ. อธ.ไดแ ก ๙ (-อรม) => √Xหา √√คญิ (๘= ๑ ๑ ๓ ๓) 48, 49, 51, 58อนุโลม น ปริชานาติ ๙ (-อรม.๑) กาล ๔ ปจจนกิ นัย ปฏิ.ปุ. อธ.ไดแ ก ๙ (-อรผ) => √Xคี √√คิญ (๘= ๑ ๑ ๓ ๓) ภพั .๑ อภัพ.๑ มต.๓ ผต.๓ อรผ.๑ ๗. จงวสิ ชั นาในปุจฉา ด๙ังต(-ออไรปม.น๑้ี)? 49 (ญ ๔ จ อนุ.) (ยัง๙มีค(ํา-อถราผม.๑อ)่นื ดว ย) ข. โย ทุกขฺ สจฺจํ น ปริชานาต,ิ โส สมทุ ยสจฺจํ นปปฺ ชหิตถฺ าติ ? 49, 60   ๗. ก. จงแปลวสิ ัชนาตอไปน้ี (ให) เปน ภาษาไทย ? 48, ปรญิ ญาวาระ กาล ๔ (๑+๒) ปจจนกิ นัย และแสดงองคธรรม ? 51, 58 (ญ ๔ จ อน.ุ ) อนโุ ลม ปุจฉา ปฏิโลม ปุจฉา อรหา ทกุ ฺขสจจฺ ํ น ปรชิ านาติ โน จ สมุทยสจจฺ ํ นปฺปชหิตถฺ , ท๙ุก(.-4อน8ม,.ป๑4ร9)ิ1, 5ส1๙ม, (ุ.5-น8อผป.ฺป๑ช) 2 สมุ. นปฺปช2 ทุก. น1 อคฺคมคคฺ สมงคฺ ิ จฺ อรหนฺตจฺ เปตฺวา อวเสสา ปคุ คฺ ลา ๙(-อผ.๑) ๙(-อม.๑) ทุกขฺ สจฺฺจ น ปรชิ านนฺติ สมทุ ยสจจฺ ฺจ นปฺปชหติ ฺถ.? อรผ.๑ ส 44, 47, 49, ๘ อรม.๑ ตอบ ข. วสิ ชั นา อรหา ทุกขฺ สจจฺ ํ น ปรชิ านาติ โน จ สมุทยสจฺจํ ๘ หา X- 54 คิ ฺ XX คี X- ส 47 คิฺ XX นปฺปชหิตถฺ , อคคฺ มคคฺ สมงคฺ ิ จฺ อรหนตฺ ฺจ เปตวฺ า อวเสสา ปุคคฺ ลา ทกุ ฺขสจจฺ จฺ น ปริชานนตฺ ิ สมุทยสจฺจฺจ นปปฺ ชหิตถฺ . ปล. แปล อธ.๒ บท ไมใ ช ก.็ .ก.็ . แปล พระอรหนั ตไ มใชกําลงั รูร อบทกุ ขสจั จะ แตเ คยละสมทุ ยสัจจะ, หา. แปล พระอรหนั ต อธ.อรหัตตผลบคุ คล ยกเวน อรหตั ตมรรคบุคคล และพระอรหนั ตเ สยี แลว บคุ คลที่ เอก พหุวจน เหลือนอกนัน้ ไมใชกาํ ลงั รรู อบทกุ ขสจั จะ และไมเ คยละสมุทยสัจจะ. -ติ -อนฺติ (49, 51) ในอนุโลมปุจฉาองคธ รรมของสนั นิฏฐานบท ไดแ ก อรหัตตผลบคุ คล ๑ กาล ๔ ๕ ๖ ปจ จนิกนัย -สิ -ถ และ ภัพพปถุ ชุ น ๑ อภพั พปุถุชน ๑ มรรคบคุ คลเบื้องตํา่ ๓ ผลบคุ คลเบ้อื งตํา่ ๓ ปร.ิ -สรูป.ตรง -มิ - ม อธ.๑บท+๒บท องคธรรมของสังสยบท ไดแ ก องคธรรมหมวดหลัง เทา นัน้ กาล ๕ ปจจนกิ นัย อน.ุ ปุ. อธ.ไดแ ก ๙ (-อรม) => √Xเยมฏิ (๗=๑ ๓ ๓) √√หา เยจปุมนฏิ (๒) กาล ๕ ปจ จนกิ นยั ปฏ.ิ ปุ. อธ.ไดแ ก ๓ (อภัพ.๑ อรม.๑ อรผ.๑) => √Xคี √√หา เยจปุมนฏิ (๒) ๗. จงวสิ ัชนา เปอภน พั ภ.๑าษอรามไ.ท๑ยอรแผ.ล๑ะแ(-ส๗ด) งองคธ รรมในคาํ ปุจฉา๙ดงั(-ตออรไมป.๑น)้ี (ไมต องจาํ แนกโกฏฐาส) ? 42, 43, 55, 56 ข. โย วา ปน สมุทยสจจฺ ํ นปปฺ ชหิสสฺ ต,ิ โส ทุกฺขสจฺจํ น ปรชิ านาตีติ ? (ญ ๕ จ ปฏิ.) 43, 51, ปฏโิ ลม 55, 56 นปปฺ ชหิสสฺ ติ ๓(-๗) ตอบ ข. วิ. อรหัตตมรรคบุคคลจกั ไมล ะสมุทยสัจจะ แตก ําลังรูรอบทกุ สจั จะ พระอรหนั ตทง้ั หลายกด็ ี ปุถุชนเหลา ใดจะไมไดม รรค ปถุ ชุ นเหลา นั้นก็ดี อภัพ.๑ อรม ๑ อรผ๑.     จักไมล ะสมทุ ยสจั จะ และไมใ ชกาํ ลังรูรอบทกุ ขสัจจะ ปริญญาวาระ กาล ๕ (๑+๓) ปจ จนิกนยั ใน ปฏิ.ปุ. องคธรรมของสนั นฏิ ฐานบท ไดแก อรหตั ตมรรคบุคคล ๑ อนุโลม ปุจฉา ปฏโิ ลม ปุจฉา และ อรหตั ตผลบคุ คล ๑ อภพั พปุถชุ น ๑ ทุก. น ปร1ิ สมุ. นป3ฺ สม4ุ.3น,ป513ฺ , ท55ุก,. น56ปร1ิ องคธรรมของสังสยบท ไดแ ก องคธ รรมหมวดหลงั เทาน้นั ๙(-อม.๑) ๓(-๗) ๓(-๗) ๙(-อม.๑) ๗. จงแปลและแสดงองคธรรมในบาลวี ิสัชนา ดังตอไปนี้ ? 51 (ญ ๕ จ ปฏิ.) ๗=๑ ๓ ๓ สเหย4า5ป,๒มุ X57นXฏิ อรม.๑ ๒ ก. อคฺคมคคฺ สมงคฺ ี สมทุ ยสจฺจํ นปปฺ ชหิสสฺ ติ โน จ ทกุ ฺขสจจฺ ํ น ปริชานาติ ? เยมฏิ X- คี X- เหยาปXุมนXฏิ ตอบ ก. แปล อรหัตตมรรคบคุ คลจักไมล ะสมุทยสจั จะ กาล ๔ ๕ ๖ แตกาํ ลงั รรู อบทุกขสัจจะ ปจจนกิ นยั องคธ รรมไดแก อรหตั ตมรรคบุคคล ๑ ปร.ิ -สรปู .ตรง กาล ๖ ปจจนกิ นัย อน.ุ ปุ. อธ.ไดแ ก ๙ (-อรผ) => √Xเยมฏิ (๗=๑ ๓ ๓) √√คี เยจปมุ นฏิ (๒) อธ.๑บท+๒บท  ดาวนโหลดขอมูลตา งๆที่ ขอความเพ่ิมเติมYoutube, Post, fb: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ทีแ่ ปะไว) ๑๗ ธ.ค. ๖๑

สัจจยมกะ 66 ๗. จงแสดงปจุ ฉา และวสิ ัชนา แปล พรอ มทง้ั องคธ รรม ในปรญิ ญาวาระ 46, 47, 51 อนุโลม ปจจนิก อตีตานาคตวาระ สัจจะยมกะ ? 45 น ปริชานติ ฺถ ๙(-อรผ.๑) ๗. จงแสดงวิสัชนา เปนภาษาไทย และแสดงองคธรรมในขอ ปจุ ฉาดงั ตอไปน้ี ภพั .๑ อภพั .๑ มต.๓ ผต.๓ อรม.๑ (ไมต อ งจําแนกโกฏฐาส) ? 42, 46, 47 (ญ ๖ จ อน.ุ )      ค. โย ทกุ ขฺ สจจฺ ํ น ปริชานติ ถฺ , โส สมทุ ยสจฺจํ นปฺปชหิสสฺ ตตี ิ ? ปริญญาวาระ กาล ๖ (๒+๓) ปจจนกิ นยั ตอบ อน.ุ ป.ุ โย ทุกฺขสจฺจํ น ปรชิ านติ ฺถ, เอก พหวุ จน อนุโลม ปจุ ฉา ปฏิโลม ปุจฉา ว.ิ เย โส สมุทยสจจฺ ํ นปปฺ ชหสิ ฺสตตี ิ ? -ติ -อนฺติ 4ท6ุก,.4น7,ป5ร1ิ2 สมุ. นปปฺ ช3 สม4ุ.3น, ป48ปฺ ,ช535,ท5กุ 6.,น58ปริ2 -สิ -ถ แปล บุคคลใดไมเคยรรู อบทกุ ขสจั จะ, -ม ๙(-อผ.๑) ๗(-๓) ๓(-๗) ๙(-อผ.๑) บคุ คลนนั้ จักไมล ะสมุทยสจั จะ ใชไหม ? จ -มิ โน ๗ = ๑ ๓ ๓ ๒ อรผ.๑ ๒ มคคฺ ํ ปฏลิ ภสิ ฺสนตฺ ิ เต ทกุ ขฺ สจฺจํ น ปรชิ านิตถฺ เยมฏิ X- เคยีปXมุ Xนฏิ หา X- เคยีปXุมXนฏิ สมทุ ยสจจฺ ํ นปฺปชหสิ สฺ นฺต,ิ อคฺคมคคฺ สมงฺคี เย จ ปถุ ชุ ชฺ นา มคคฺ ํ น ปฏลิ ภิสสฺ นตฺ ิ เต ทุกขฺ สจจฺ จฺ น ปริชานิตฺถ สมุทยสจฺจจฺ นปปฺ ชหสิ ฺสนตฺ .ิ (42, 46, 47 ว.ิ ) แปล บุคคลเหลา ใดจะไดมรรค บุคคลเหลา น้ัน ไมเคยรูรอบทกุ ขสัจจะ แตจ กั ละสมทุ ยสจั จะ, อรหัตต- มรรคบคุ คลก็ดี ปุถชุ นเหลา ใดจะไมไ ดมรรค ปถุ ุชนเหลา นน้ั กด็ ี ไมเ คยรรู อบทุกขสัจจะ และจักไมละสมุทยสจั จะ (42, 46, 47 อ.สนั . ไดแก) ใน อนุ.ปุ. อ.สัน.ไดแ ก ภพั พปถุ ชุ น ๑ มรรคบคุ คลเบอ้ื งตาํ่ ๓ ผลบคุ คลเบ้อื งตาํ่ ๓ และ อรหัตตมรรคบคุ คล ๑ อภัพพปถุ ุชน ๑ ปล. แปล อธ.๒ บท ไมใ ช ก.็ .ก.็ . (46, 47) อ.สัง. ไดแ ก องคธรรมหมวดหลัง เทา น้ัน ปฏ.ิ ป.ุ โย วา ปน สมุทยสจจฺ ํ นปปฺ ชหสิ ฺสติ, โส ทุกขฺ สจฺจํ น ปรชิ านิตถฺ าติ ? หา. แปล พระอรหนั ต อธ.อรหัตตผลบคุ คล แปล หรอื วา บุคคลใดจักไมล ะสมุทยสจั จะ, บคุ คลนนั้ กไ็ มเ คยรรู อบทุกขสจั จะใชไหม ? ว.ิ อรหา สมุทยสจจฺ ํ นปปฺ ชหิสฺสติ โน จ ทกุ ฺขสจจฺ ํ น ปรชิ านติ ถฺ , อคคฺ มคสฺ มงคฺ ี เย จ ปถุ ุชชฺ นา มคคฺ ํ น ปฏลิ ภสิ สฺ นตฺ ิ เต สมุทยสจจฺ จฺ นปปฺ ชหิสฺสนตฺ ิ ทกุ ฺขสจฺจจฺ น ปรชิ านติ ฺถ. แปล พระอรหันตจ ักไมล ะสมุทยสัจจะ แตเคยรูรอบทกุ ขสัจจะ, อรหัตตมรรคบคุ คลก็ดี ปถุ ุชนเหลา ใดจะไมไดม รรค ปถุ ชุ นเหลา นน้ั กด็ ี จักไมละสมทุ ยสจั จะ และไมเ คยรูร อบทกุ ขสัจจะ ใน ปฏิ.ปุ. อ.สัน. ไดแ ก อรหตั ตผลบคุ คล ๑ และ อรหตั ตมรรคบุคคล ๑ อภพั พปถุ ชุ น ๑ อ.สงั . ไดแก องคธรรมหมวดหลงั เทานัน้ ๗. จงแปลและแสดงองคธ รรมในบาลวี สิ ัชนา ดังตอไปน้ี ? 51 (ญ ๖ จ อน.ุ ) ข. อคคฺ มคคฺ สมงคฺ ี เย จ ปุถุชฺชนา มคฺคํ น ปฏลิ ภสิ ฺสนตฺ ิ เต ทกุ ขฺ สจฺจจฺ น ปรชิ านติ ถฺ สมุทยสจฺจจฺ นปฺปชหสิ ฺสนตฺ ิ ? เอก พหวุ จน กาล ๔ ๕ ๖ ตอบ ข. แปล อรหัตตมรรคบุคคลกด็ ี ปุถชุ นเหลาใดจะไมไ ดมรรค ปุถุชนเหลา น้ันกด็ ี -ติ -อนฺติ ปจจนิกนัย ไมเ คยรรู อบทุกขสจั จะ และจักไมล ะสมุทยสจั จะ. -สิ -ถ ปร.ิ -สรปู .ตรง องคธรรม ไดแ ก อรหตั ตมรรคบคุ คล ๑ อภพั พปุถชุ น ๑ -มิ - ม อธ.๑บท+๒บท กาล ๖ ปจ จนกิ นัย ปฏ.ิ ปุ. อธ.ไดแก ๓ (อภัพ.๑ อรม.๑ อรผ.๑) => √Xหา √√คี เยจปมุ นฏิ (๒ ๗. ข. จงแปล วิสัชนา ตอ ไปนใ้ี หเปนภาษาบาลี และแสดงองคธ รรม ? 48, 58 43, 48,55, ปฏิโลม พระอรหันตจ กั ไมละสมุทยสัจจะ แตเ คยรูรอบทกุ ขสจั จะ, อรหัตตมรรคบคุ คลกด็ ี 56, 58 นปฺปชหสิ สฺ ต๓ิ (-๗) ปถุ ชุ นเหลาใดจะไมไดมรรค ปถุ ชุ นเหลา น้นั ก็ดี จกั ไมละสมุทยสัจจะ อภัพ.๑ อรม ๑ อรผ๑. และไมเ คยรรู อบทุกขสัจจะ ? 48, 58 (ญ ๖ จ ปฏิ.)    ตอบ ข. อรหา สมุทยสจจฺ ํ นปปฺ ชหสิ ฺสติ โน จ ทกุ ฺขสจจฺ ํ น ปริญญาวาระ กาล ๖ (๒+๓) ปจ จนกิ นยั 46, 47อ,น5โุ ล1ม ปุจฉา ปฏโิ ลม ปุจฉา 43, 48,55, 56, 58  ดาวนโ หลดขอมูลตา งๆที่ ขอ ความเพ่มิ เติมYoutube, Post, fb: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ท่แี ปะไว) ๑๗ ธ.ค. ๖๑

สัจจยมกะ 67 ปรชิ านติ ฺถ, อคคฺ มคฺคสมงคฺ ี เย จ ปถุ ชุ ชฺ นา มคฺคํ น ปฏลิ ภิสฺสนตฺ ิ ทกุ . น ปริ2 สมุ. นปฺปช3 สมุ. นปปฺ ช3 ทกุ . น ปริ2 เต สมุทยสจจฺ จฺ นปปฺ ชหิสสฺ นฺติ ทุกฺขสจจฺ จฺ น ปริชานติ ฺถ ๙(-อผ.๑) ๗(-๓) ๓(-๗) ๙(-อผ.๑) ใน ปฏิ.ปุ. อ.สนั .ไดแ ก อรหตั ตผลบุคคล ๑ ๗ = ๑ ๓ ๓ ๒ อรผ.๑ ๒ และ อรหตั ตมรรคบคุ คล ๑ อภพั พปถุ ชุ น ๑ เยมฏิ X- เคยีปXมุ Xนฏิ หา X- เยคปี Xมุ นXฏิ อ.สัง.ไดแ ก องคธ รรมหลงั หมวด เทานั้น ๗. จงวสิ ชั นา เปนภาษาไทย และแสดงองคธ รรม ในคาํ ปจุ ฉาดังตอไปนี้ (ไมตองจาํ แนกโกฏฐาส) ? 56 ค. โย วา ปน สมทุ ยสจจฺ ํ นปปฺ ชหิสฺสต,ิ โส ทกุ ฺขสจฺจํ น ปริชานิตฺถาติ ? 43, 55, 56 (ญ ๖ จ ปฏ.ิ ) ตอบ ค. ว.ิ พระอรหนั ตจ ักไมละสมุทยสจั จะ แตเ คยรูรอบทุกขสจั จะ, อรหัตตมรรคบคุ คลกด็ ี ปถุ ชุ นเหลา ใดจะ ไมไ ดมรรค ปุถุชนเหลา นัน้ กด็ ี จักไมล ะสมุทยสจั จะ และไมเ คยรรู อบทุกขสจั จะ ใน ปฏิ. ปุ. องคธรรมของสนั นฏิ ฐานบทไดแก อรหัตตผลบคุ คล ๑ และ อรหัตตมรรคบคุ คล ๑ อภพั พปถุ ุชน ๑ องคธรรมของสงั สยบท ไดแก องคธ รรมหมวดหลงั เทา นน้ั ๗. เม่ือทานเรยี นวชิ าสจั จยมกะในชน้ั น้แี ลว ทา นคิดวาจะนาํ หลกั ของวชิ าน้ีไปใชใหเปนประโยชนใ นการดําเนนิ ชวี ิตของทานใหมคี วามสุขในอนาคตไดอยางไร อธบิ ายใหพ อเปน สังเขป ? (ตอบอยา งนอ ย ๕ บรรทดั ขึ้นไป) 44 ตอบ ตอบตามความคิดเหน็ ของนกั ศกึ ษา ไมนอยกวา ๕ บรรทัดขน้ึ ไป ------------------------------------------------------ สง่ิ ที่สําคญั คือการเขาศกึ ษากบั อาจารยผ สู อน เพื่อความรูความเขาใจท่ี ถูกตอง แจมแจง หากสงสยั จะไดสอบถามทนั ที การรวบรวมขอ สอบที่เคยออก มาแลว นี้ เปน เพียงแนวทางสําหรับผูศึกษา นาํ มาเนน +ทรงจาํ ไว (หาก ความสามารถมากกวาน้ี กค็ วรจะทรงจาํ ใหไ ดทั้งหมด จงึ จะชื่อวา สุตะดวยดี เพ่ือ การจินตาและภาวนาตอไป) การสอบไมใ ชท่ีสุดของชีวิต แตข อใหตั้งจติ ศกึ ษาและทรงจาํ เพอื่ ธาํ รงและ รักษาไวซง่ึ พระศาสนา รอู รรถะและพยัญชนะ ทั้งเขา ใจและเขาใหถงึ ธรรมะ แมย งั มิ บรรลุคุณธรรมอนั สงู ถงึ ขัน้ อริยะ ก็ขอจงเปนผรู ธู รรมะ (ตามสมควร) และจงเปนผมู ี ธรรมะ วายเมเถว ปรุ โิ ส ยาว อตถฺ สสฺ นปิ ปฺ ทา เกดิ เปนคนควรจะพยายาม จนกวา จะประสบความสําเรจ็ สําเนาประกอบการเรียนหรอื แจกไดโ ดยไมตอ งขออนุญาต (สงวนสทิ ธิ์ในการนําไปจาํ หนาย) ผดิ -ตกขออภยั และกรณุ าแจง ท่ี 081-860-2466 (Line ID), fb: Kanrasi Sengking E-mail: [email protected], [email protected] (จักขอบพระคณุ อยางสูง) ขออนโุ มทนาในการศึกษาธรรมะ และทกุ ๆกศุ ลที่ทา นกระทําไวด แี ลว และทจ่ี ะกระทาํ ในอนาคต ใหเราน้นั มปี จจัยถงึ พรอมเพ่ือการทํากุศลใหสาํ เรจ็ โดยสะดวก งายดาย และเร็วไว จนถงึ มัคคกศุ ล โดยเร็วพลนั เทอญ ฝกทาํ + ฝกเขยี น +ทรงจาํ (สู ส)ู อยากได ตอ งทาํ เอง  ดาวนโหลดขอมูลตา งๆที่ ขอ ความเพม่ิ เตมิ Youtube, Post, fb: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ที่แปะไว) ๑๗ ธ.ค. ๖๑


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook