ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ เร่อื ง ของแขง็ ของเหลวและแก๊ส 1 รายวิชาเคมี 2 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 5 ชดุ ท่ี 2 เรอื่ ง การจัดเรียงอนภุ าคของของแขง็
ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ เร่ือง ของแข็ง ของเหลวและแกส๊ 2 รายวิชาเคมี 2 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 5 ชุดท่ี 2 เรอ่ื ง การจดั เรยี งอนุภาคของของแขง็ แบบทดสอบก่อนเรียน ชดุ ท่ี 2 เรอ่ื ง การจดั เรียงอนุภาคของของแขง็ จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. บอกเหตุผลทที่ ำให้ธาตุหรือสารต่างชนดิ กันมผี ลึกตา่ งกันได้ 2. บอกเหตุผลท่ที ำให้ธาตุบางชนดิ ปรากฏอยใู่ นรปู ตา่ งกนั ได้ 3. ยกตวั อยา่ งธาตุท่มี ีหลายรูป พร้อมทง้ั บอกสมบัติได้ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… คำชแ้ี จง 1. แบบทดสอบชดุ นี้เปน็ แบบปรนยั 4 ตวั เลอื ก จำนวน 10 ข้อ คะแนนเตม็ 10 คะแนน 2. เวลาในการทำแบบทดสอบ 10 นาที 3. ใหน้ ักเรยี นเลอื กคำตอบท่ถี กู ตอ้ งทีส่ ดุ เพยี งคำตอบเดียว แล้วทำเครอื่ งหมาย กากบาท () ลงในกระดาษคำตอบทีแ่ จกให้ 1. ขอ้ ใด คอื สมบัติของกำมะถันมอนอคลินกิ ก. รูปผลกึ มีลกั ษณะเปน็ แทง่ คลา้ ยรปู เขม็ ไมน่ ำไฟฟ้า มสี ีเหลือง ข. รปู ผลกึ มลี กั ษณะเป็นแทง่ คลา้ ยรปู เข็ม ไม่นำไฟฟ้า มสี ีแดง ค. รูปผลกึ มลี ักษณะเปน็ แท่งคลา้ ยรูปเข็ม ในธรรมชาติพบไดง้ ่ายกว่ากำมะถนั รอมบกิ ง. รปู ผลึกมลี กั ษณะเปน็ เหล่ียมคล้ายสี่เหล่ียมขนมเปยี กปนู นำไฟฟา้ ได้ มีสีเหลอื ง จากภาพแสดงแบบจำลองโครงสร้างทีก่ ำหนดใหใ้ ช้ตอบคำถามขอ้ 2 - 3 2. ข้อใดต่อไปนกี้ ลา่ วถึงแบบจำลองไดถ้ กู ตอ้ ง ก. โครงสร้างแบบโครงรา่ งตาข่าย ข. โครงสร้างเป็นสายยาวคลา้ ยลกู โซ่ ค. โครงผลกึ ร่างตาขา่ ย โดยอะตอมของคาร์บอนจะเกดิ พันธะโคเวเลนต์ ง. มีโครงสร้างเป็นชนั้ ๆ ในแตล่ ะชนั้ อะตอมของคาร์บอนจะเกิดพันธะโคเวเลนต์
ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ เรอื่ ง ของแขง็ ของเหลวและแกส๊ 3 รายวิชาเคมี 2 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 5 ชดุ ท่ี 2 เร่อื ง การจดั เรียงอนุภาคของของแขง็ 3. ข้อใดคือ สมบัติของฟอสฟอรสั แดง ก. มลี ักษณะนม่ิ คลา้ ยข้ผี ้ึง ว่องไวในการเกิดปฏิกิรยิ า ลกุ ไหม้ได้เองเมือ่ สมั ผสั กบั อากาศ ข. โครงสร้างเป็นสายยาวคล้ายลกู โซ่ ไมล่ ะลายในน้ำ ไม่ลกุ ไหม้ในอากาส ค. มผี ิวดา้ นนอกเป็นสดี ำ ด้านในสีแดง มคี วามมนั วาว ใชท้ ำลกู ระเบดิ ง. แข็งแรงมาก ใชท้ ำหัวไม้ขดี ไฟ นำไฟฟา้ ได้ ไมล่ ะลายในน้ำ 4. ข้อใดกลา่ วถงึ อนุภาคของของแข็งไดถ้ กู ต้อง ก. อนภุ าคของของแข็งสามารถเคลื่อนทไี่ ด้อย่างอสิ ระ ข. อนุภาคของของแข็งอย่อู ย่างเปน็ กลมุ่ ๆ อย่างไมเ่ ป็นระเบียบ ค. อนภุ าคของของแข็งอยูช่ ิดกนั มากและมกี ารจดั เรยี งตวั อย่างเปน็ ระเบียบ ง. อนภุ าคของของแขง็ อยูห่ ่างกันมากจนไมม่ ีแรงยึดเหนย่ี วระหว่างโมเลกลุ 5. กำมะถันรอมบิกและมอนอคลินิกต่างก็มีสตู รโมเลกลุ S8 แต่แตกต่างกนั เพราะเหตุใด ก. การจัดเรยี งตัวของโมเลกุลต่างกนั ข. จุดหลอมเหลวต่างกัน ค. ความหนาแนน่ ตา่ งกัน ง. รปู ผลึกตา่ งกนั 6. ขอ้ ใดคอื เหตผุ ลที่ทำให้ธาตุคารบ์ อน มี 3 รูป คือ เพชร แกรไฟต์ และฟุลเลอรีน ก. มกี ารจัดเรียงตวั ของโมเลกลุ ต่างกัน ข. มีการจัดเรียงตวั ของอะตอมต่างกัน ค. มจี ำนวนอะตอมในโมเลกุลต่างกัน ง. มีขนาดของโมเลกุลไม่เท่ากนั 7. ฟอสฟอรัสในรูปใดนำไฟฟ้าได้ ก. ฟอสฟอรัสขาว ข. ฟอสฟอรสั แดง ค. ฟอสฟอรัสดำ ง. ฟอสฟอรสั เหลอื ง
ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ เรอื่ ง ของแข็ง ของเหลวและแกส๊ 4 รายวิชาเคมี 2 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 5 ชุดที่ 2 เรอื่ ง การจดั เรียงอนุภาคของของแข็ง 8. “ผลกึ ใสไม่มีสมี ีรูปร่างคล้ายทรงแปดเหล่ียม” จากข้อความน้ีกล่าวถึงของแขง็ ชนิดใด ก. สารสม้ ข. กำมะถนั ค. เกลือแกง ง. นำ้ ตาลทรายแดง 9. ข้อใดคอื สาเหตทุ ที่ ำให้สารแต่ละชนิดมีความแตกต่างกัน ก. เน่ืองจากมคี วามหนาแนน่ ตา่ งกนั ข. เน่อื งจากมีคารบ์ อนผสมอยมู่ ากกว่ากนั ค. เนือ่ งจากมีการจดั เรียงอะตอมที่แตกต่างกัน ง. เน่ืองจากมีการเปล่ยี นแปลงของโครงสร้างต่างกัน 10. “ผลกึ ใสสฟี า้ รปู ร่างคล้ายสี่เหล่ียมขนมเปียกปนู ” จากข้อความนี้กล่าวถงึ ของแข็งชนิดใด ก. คอปเปอร์(II)ซัลเฟต ข. กำมะถนั ค. เกลือแกง ง. นำ้ ตาลทรายแดง ต้ังใจทำขอ้ สอบ กันนะครับ
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เร่อื ง ของแขง็ ของเหลวและแก๊ส 5 รายวชิ าเคมี 2 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5 ชดุ ท่ี 2 เรือ่ ง การจดั เรยี งอนภุ าคของของแขง็ กระดาษคำตอบแบบทดสอบก่อนเรยี น ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรแู้ บบสืบเสาะหาความรู้ เรือ่ ง ของแขง็ ของเหลวและแกส๊ กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์ รายวชิ าเคมี 2 ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 5 ชุดที่ 2 เรือ่ ง การจัดเรียงอนภุ าคของของแข็ง ชอ่ื ................................................................เลขท่ี.................ช้ัน................... แบบทดสอบก่อนเรียน ขอ้ คำตอบ คะแนน ก ขคง 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 คะแนนเต็ม 10 คะแนน คะแนนท่ีได้ ผ่าน หมายถงึ ได้คะแนน 8 คะแนน ขึน้ ไป ไม่ผ่าน หมายถงึ ไดค้ ะแนนต่ำกวา่ 8 คะแนน
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ของแขง็ ของเหลวและแกส๊ 6 รายวชิ าเคมี 2 ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 5 ชุดที่ 2 เรื่อง การจดั เรยี งอนุภาคของของแข็ง ใบความร้ทู ี่ 2.1 เร่ือง การเตรียมผลกึ สาร จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. บอกเหตผุ ลทท่ี ำใหธ้ าตุหรือสารต่างชนดิ กนั มีผลึกตา่ งกันได้ การทดลอง 2.1 การเตรยี มผลกึ สารบางชนดิ จุดประสงค์การทดลอง 1. เพื่อศึกษาการเตรียมผลึกกำมะถนั คอปเปอร(์ II)ซลั เฟต และสารสม้ ได้ 2. บอกลกั ษณะของผลกึ กำมะถัน คอปเปอร(์ II)ซัลเฟต และสารสม้ ได้
ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ เรอ่ื ง ของแขง็ ของเหลวและแก๊ส 7 รายวชิ าเคมี 2 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 5 ชุดท่ี 2 เรอื่ ง การจัดเรยี งอนุภาคของของแข็ง อปุ กรณ์และสารเคมี จำนวนตอ่ กลุ่ม รายการ 0.1g สารเคมี 5g 1. กำมะถนั ผง 3g 2. สารสม้ ท่ีบดละเอียด 5 cm3 3. คอปเปอร์(II)ซัลเฟต 20 cm3 4. โทลูอนี 5. นำ้ 1 หลอด 1 อัน อปุ กรณ์ 1 อัน 1.หลอดทดลองขนาดใหญ่ ใบ 2.จกุ สำหรับปดิ หลอดทดลองขนาดใหญ่ 2 ใบ 3.เทอร์มอมิเตอร์ 0-100 oC 4.บกี เกอรข์ นาด 250 cm3 1อนั 5.บกี เกอร์ขนาด 100 cm3 3อนั 6.ทีจ่ บั หลอดทดลอง 3อนั 7.กระจกนาฬิกา 3อัน 8.แท่งแกว้ คนสาร 3อัน 9.ช้อนตักสาร 3แผ่น 10. กรวยแกว้ 2-3 เส้น 11.กระดาษกรอง 1 ตัว 12.ดา้ ยไหมพรม 1 อนั 13.กลอ้ งจุลทรรศน์ 14.แว่นขยาย
ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ เรอ่ื ง ของแข็ง ของเหลวและแก๊ส 8 รายวิชาเคมี 2 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 5 ชุดท่ี 2 เรื่อง การจัดเรยี งอนุภาคของของแข็ง วธิ ีการทดลอง 1. ใส่กำมะถันผง 0.1 g ลงในหลอดทดลองขนาดใหญ่แล้วเติมโทลอู ีนลงไป 5 cm3 2. อุ่นสารในข้อ 1 ในบกี เกอร์น้ำรอ้ นขนาด 250 cm3 ทอ่ี ุณหภมู ิประมาณ 75 ๐C ใช้แทง่ แกว้ คนจนกำมะถนั ละลายหมด 3. ลดอุณหภมู ิของสารละลายในขอ้ 2 อย่างชา้ ๆ จนมีอุณหภมู เิ ทา่ กบั อุณหภมู ิหอ้ ง ขณะที่ลดอณุ หภูมยิ ังคงแช่สารละลายอยู่ในบกี เกอรน์ ำ้ ร้อน สังเกตการเปลย่ี นแปลง 4. เทสารจากขอ้ 3 ทัง้ หมดลงบนกระจกนาฬกิ าแล้วนำไปวางในทอ่ี ากาศถ่ายเทไดด้ ี เพ่อื ให้โทลอู ีนระเหยอย่างรวดเรว็ สังเกตลกั ษณะของผลกึ กำมะถันโดยส่องด้วยกลอ้ ง จลุ ทรรศนห์ รอื แว่นขยาย แลว้ บนั ทึกผลที่สงั เกตได้ 5. ใส่นำ้ ลงในบีกเกอร์ ขนาด 100 cm3 10 cm3 ตกั คอปเปอร์(II)ซัลเฟตใส่ลงไปใน บกี เกอร์ จำนวน 3 กรัม 6. นำสารในข้อ 5 ไปอุ่นท่อี ณุ หภมู ิ ประมาณ 80 OC คนสารใหล้ ะลายจนหมด 7. กรองสารละลายในขอ้ 6 ด้วยกระดาษกรอง แลว้ ตั้งสารที่กรองไดใ้ ห้คอ่ ยๆ เย็นตวั ลงอย่างช้า ๆ สังเกตการเปล่ยี นแปลง 8. กรองผลึกของคอปเปอร์(II)ซัลเฟต ทไ่ี ด้ในขอ้ 7 แลว้ เทสารทกี่ รองได้ทง้ั หมดลงบน กระจกนาฬิกา นำผลึกไปผง่ึ ในที่มแี สงแดดหรือทีอ่ ากาศถา่ ยเทไดด้ ีเพอ่ื ใหน้ ้ำระเหยจนแห้ง สังเกตลกั ษณะของผลึกโดยสอ่ งดว้ ยกล้องจุลทรรศนห์ รือแวน่ ขยาย แลว้ บันทึกผล 9. ทำการทดลองเชน่ เดียวกบั ขอ้ 5-6 แตเ่ ปล่ียนเปน็ สารส้มแทนคอปเปอร(์ II)ซัลเฟต 10. กรองสารละลายสารส้มทอี่ ิม่ ตวั แลว้ ใช้ไหมพรมประมาณ 2-3 เส้น มัดกับไม้แลว้ วางพาดบนปากบกี เกอรใ์ หไ้ หมพรมหย่อนลงบรเิ วณตรงกลางบกี เกอรท์ ่ีมสี ารละลายของ สารส้มอมิ่ ตัวโดยไม่ใหไ้ หมพรมติดกน้ บกี เกอร์ เพื่อให้ผลกึ สารส้มเกาะที่ไหมพรม ตงั้ ทิ้งไว้ให้ เย็นตัวลงอยา่ งชา้ ๆ 11. ใชแ้ ท่งแก้วเข่ียผลึกสารสม้ ทไี่ ด้จากขอ้ 10 ลงบนกระจกนาฬกิ าแล้วนำไปผึ่งแดด ให้แหง้ สังเกตลักษณะของผลึกสารสม้ โดยส่องดว้ ยกลอ้ งจลุ ทรรศนห์ รือแว่นขยาย แล้วบนั ทกึ ผลทส่ี งั เกตได้ ใบกิจกรรมท่ี 2.1 เร่ือง การเตรียมผลึกสาร
ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ เร่ือง ของแขง็ ของเหลวและแกส๊ 9 รายวิชาเคมี 2 ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 5 ชุดที่ 2 เรือ่ ง การจัดเรยี งอนุภาคของของแขง็ คำชแี้ จง จากการทดลองเตรียมผลึกของสารท้ัง 3 ชนดิ ใหน้ ักเรียนบนั ทึกผลการทดลอง และสรปุ ผลการทดลองให้ถูกตอ้ ง (10 คะแนน) กล่มุ ท.่ี ...........ชนั้ .................วนั ที่...........เดือน...............................พ.ศ. ................ สมาชิกในกลุม่ 1. ชือ่ ....................................................................เลขที่.................. 2. ช่ือ...................................................................เลขที.่ ................. 3. ชอื่ ...................................................................เลขที.่ ................. 4. ชือ่ ...................................................................เลขท.่ี ................. 5. ช่ือ…………………………………………………………..เลขที่………………. จุดประสงคก์ ารทดลอง 1. เพอ่ื ศกึ ษาการเตรียมผลกึ กำมะถนั คอปเปอร์(II)ซัลเฟต และสารสม้ ได้ 2. บอกลกั ษณะของผลึกกำมะถนั คอปเปอร์(II)ซลั เฟต และสารส้มได้ สมมติฐานการทดลอง ถ้าสารมกี ารจัดเรยี งอนุภาคตา่ งกนั ดังนั้นลักษณะของผลกึ จึงแตกต่างกนั ตัวแปรในการทดลอง ตัวแปรตน้ ชนดิ ของสาร ( กำมะถนั คอปเปอร์ (II) ซัลเฟต และสารส้ม ) ตวั แปรตาม ลกั ษณะของผลกึ ตวั แปรควบคุม ………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ตารางบันทกึ ผลการทดลอง ชนิดของสาร ลักษณะของผลึกที่สังเกตได้ ............................................ ........................................................................................ ............................................ ........................................................................................ ............................................ ........................................................................................ ............................................ ........................................................................................ ............................................ ........................................................................................ ............................................ ........................................................................................
ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ เรือ่ ง ของแขง็ ของเหลวและแกส๊ 10 รายวิชาเคมี 2 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 5 ชดุ ที่ 2 เรือ่ ง การจัดเรยี งอนุภาคของของแขง็ สรุปผลการทดลอง …………………………………………………………………………………………………………… ................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................ อภิปรายผลการทดลอง ………………………………………………………………………………………………………………….. ................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................ คำถามทา้ ยการทดลอง 1. ลกั ษณะของสารสม้ คอปเปอร์(II)ซลั เฟต และกำมะถัน กอ่ นและหลงั การทดลอง แตกต่างกนั หรือไม่อย่างไร …………………………………………………………………………………………………………. 2. จากผลการทดลอง สารสม้ คอปเปอร(์ II)ซัลเฟต และกำมะถัน มีผลกึ ไดก้ ี่แบบ ………………………………………………………………………………………………………….. คะแนนเต็ม 10 คะแนน คะแนนทไี่ ด้............ ลงชื่อ..................................................ผ้ตู รวจ (.................................................)
ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ เร่อื ง ของแข็ง ของเหลวและแก๊ส 11 รายวชิ าเคมี 2 ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 5 ชุดที่ 2 เร่อื ง การจดั เรยี งอนภุ าคของของแข็ง ใบความรทู้ ี่ 2.2 เรอื่ ง การจัดเรยี งอนุภาคของของแขง็ จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. บอกเหตผุ ลท่ที ำให้ธาตุบางชนิดปรากฏอยใู่ นรูปตา่ งกันได้ 2. ยกตัวอยา่ งธาตทุ มี่ หี ลายรูป พร้อมทั้งบอกสมบตั ไิ ด้ ของแขง็ สว่ นมากมกี ารจัดเรียงตวั ของอนภุ าค (อะตอม ไอออน หรือโมเลกลุ ) อยา่ ง มรี ะเบยี บ ได้โครงสร้างทีเ่ ปน็ รูปผลึกเรียกวา่ ของแข็งผลกึ (Crystalline solid) เช่น กำมะถนั คารบ์ อน โซเดยี มคลอไรด์ น้ำตาล ด่างทบั ทมิ คอปเปอร์(II) ซลั เฟต สารส้ม เป็นตน้ ของแขง็ บางชนิด เช่น กำมะถนั ฟอสฟอรัส คารบ์ อน ถึงแม้ว่าจะประกอบดว้ ย อะตอมชนดิ เดยี วกัน แต่มีผลกึ ไดห้ ลายแบบ เรียกว่ามรี ปู แต่ละรูปมโี ครงสร้างต่างกนั ดังนัน้ แต่ละรูปจึงมสี มบตั ิบางอยา่ ง เช่น รปู รา่ ง จดุ หลอมเหลว จุดเดือด ความหนาแนน่ ตา่ งกนั สาเหตุทีแ่ ต่ละรปู ของของแข็งบางชนิดมโี ครงสร้างต่างกัน เนือ่ งจากมีการจดั เรียง โมเลกุลหรือการจัดเรียงอะตอมต่างกนั โครงสร้างของกำมะถนั กำมะถนั เป็นอโลหะ หนงึ่ โมเลกุลของกำมะถนั ประกอบด้วย 8 อะตอมตอ่ กนั เปน็ วง โดยอะตอมที่ 1, 3, 5, 7 อยู่ในระนาบหน่ึงเหนืออะตอม 2, 4, 6, 8 ซ่ึงอย่อู กี ระนาบ หน่งึ แสดงไดโ้ ดยใชล้ กู กลมดังในรปู ที่ 2.1
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรอ่ื ง ของแข็ง ของเหลวและแก๊ส 12 รายวิชาเคมี 2 ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 5 ชุดที่ 2 เรอ่ื ง การจัดเรยี งอนภุ าคของของแข็ง ภาพที่ 2.1 แบบจำลองโมเลกุลของกำมะถนั (S8 ) กำมะถันมีอยู่หลายรูปเกิดขน้ึ จากโมเลกลุ ของกำมะถันมีการจัดเรียงตวั ตา่ งกัน สามารถแบง่ กำมะถันออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คอื 1. พวกทมี่ ีรูปเป็นผลกึ (Crystalline form) 2. พวกที่มีรูปรา่ งไมเ่ ปน็ ผลึก (Amorphous form) กำมะถันพวกท่มี รี ปู ผลึก กำมะถันพวกท่มี ีรูปเปน็ ผลึกมีอยู่ 2 รูปคือ 1. กำมะถันรอมบิก (Rhombic sulpher) หรอื เรียกว่า กำมะถันแอลฟา ( Sα หรอื α - sulphur ) เป็นรปู ที่อยตู่ วั มากท่ีสดุ ผลึกมลี ักษณะเปน็ รปู สี่เหลีย่ ม คลา้ ยสีเ่ หลี่ยมขนมเปียกปูน ดังภาพ 2.2 ภาพที่ 2.2 ผลกึ กำมะถนั รอมบิก ทีม่ า : การเตรยี มกำมะถนั รอมบกิ กำมะถนั รอมบกิ เตรียมไดโ้ ดยการนำผงกำมะถันใส่ใน หลอดทดลองแล้วเตมิ CS2 เขยา่ จนกระทั่งผงกำมะถนั ละลายหมด เทสารละลายลงบน กระจกนาฬิกาและตัง้ ทง้ิ ไวใ้ นตคู้ วันเพื่อให้ CS2 ระเหยไปจนหมด กจ็ ะได้ Sα ตามต้องการ หรือเตรียมโดยสารละลายกำมะถนั ในโทลอู นี รอ้ น ๆ จนสารละลายอมิ่ ตัว กรอง แลว้ ตง้ั ทิ้งไวใ้ ห้เย็นลงช้า ๆ จะไดผ้ ลึกแยกออกมา สมบัตขิ องกำมะถนั รอมบิก มดี งั น้ี 1. เปน็ ผลึกรูปเหลย่ี มโปรง่ ใสสีเหลืองออ่ น 2. มีจุดหลอมเหลว 112.8 o C และจุดเดือด 444.67 o C 3. มีความหนาแนน่ 2.07 g/cm3 4. ละลายไดใ้ น คาร์บอนไดซลั ไฟด์ (CS2), เบนซนี (C6H6), โทลอู นี (C6H5 CH3) เปน็ ต้น แตไ่ มล่ ะลายน้ำ 5. เสถียรทีส่ ุดท่อี ณุ หภมู ิปกติ แตถ่ ้าใหอ้ ณุ หภูมิสูงกว่า 95.6 o C จะเปลย่ี นไปเปน็ กำมะถันมอนอคลนิ ิก 6. ไม่นำไฟฟ้า 2. กำมะถันมอนอคลินิก (Monoclinic sulphur) หรอื เรียกวา่ กำมะถนั พริสเมติก (Prismatic sulphur) หรอื กำมะถนั บตี า้ (ß - sulphur หรอื Sß) เปน็ รูปท่คี งตวั ทีอ่ ณุ หภูมสิ ูงกว่า 95.6 o C แต่ไม่เกนิ 119 o C มีลกั ษณะผลกึ รูปเข็ม (ดังภาพท่ี 2.3)
ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ เร่อื ง ของแขง็ ของเหลวและแกส๊ 13 รายวิชาเคมี 2 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 5 ชุดท่ี 2 เร่อื ง การจดั เรยี งอนภุ าคของของแขง็ Sß เม่อื ตั้งท้งิ ไว้อุณหภมู ติ ่ำกว่า 95.6 o C Sß จะคอ่ ย ๆ เปลี่ยนเปน็ Sα และเรียก อุณหภมู นิ ว้ี า่ transition temperature ภาพที่ 2.3 ผลกึ กำมะถนั มอนอคลนิ ิก ทม่ี า : การเตรียมกำมะถันมอนอคลินิก กำมะถนั มอนอคลนิ กิ เตรียมไดโ้ ดยเอาผงกำมะถัน ใส่หลอดทดลอง แล้วนำไปเผาให้หลอมเหลวโดยใชไ้ ฟออ่ น ๆ ของเหลวที่ไดจ้ ะมีสีเหลืองออ่ น และใส เทกำมะถนั เหลวลงในกรวยท่มี ีกระดาษกรอง แลว้ ต้ังทงิ้ ไว้สักครู่ พอสังเกตเห็นผลึก เริม่ เกิดขึน้ ทีผ่ ิวหน้าของของเหลวแลว้ จึงเทกำมะถันที่หลอมเหลวอยใู่ นกรวยออก ปล่อยให้ กำมะถนั ทย่ี งั ติดกระดาษกรองในกรวยเย็นจนแข็งตวั หมด ตั้งทงิ้ ไว้ใหเ้ ย็นก็จะไดผ้ ลกึ กำมะถนั มอนอคลินิกตามต้องการ หรือเตรียมได้โดยละลายกำมะถนั ในโทลูอีนรอ้ น ๆ จนสารละลาย อิ่มตัว กรอง แลว้ ทิง้ สารละลายใหเ้ ย็นตวั ลงอยา่ งชา้ ๆ จะได้ผลึกกำมะถนั มอนอคลนิ กิ แยก ออกมา สมบัติของกำมะถนั มอนอคลนิ ิก 1. เปน็ ผลกึ รปู เข็มโปรง่ ใสสีเหลอื งเข้มกว่า Sα 2. มจี ุดหลอมเหลว 119 o C และจุดเดอื ด 444.67 o C 3. มีความหนาแน่น 1.96 g/cm3 4. ละลายได้ในคารบ์ อนไดซลั ไฟด์ โทลูอนี เปน็ ตน้ 5. เสถียรทอี่ ุณหภูมิสูงกว่า 95.6 o C แตไ่ ม่เกนิ 119 o C 6. ไมน่ ำไฟฟ้า การเผากำมะถนั เมอ่ื เผากำมะถัน กำมะถนั จะหลอมเหลวท่ีอุณหภูมิ 112.8 o C กลายเป็น ของเหลวสเี หลืองอ่อนใสเรียกว่า กำมะถันไหลหรอื กำมะถนั แลมดา (Mobile Sulphur or λ - Sulphur) แตเ่ มอ่ื เผาของเหลวนี้ตอ่ ไปของเหลวน้จี ะมสี เี ขม้ ขน้ึ มีความหนาแนน่ และ ความหนดื เพม่ิ ข้ึนท่ี 180 - 220 o C จะได้กำมะถันทมี่ ลี กั ษณะเหนยี ว เรยี กว่า กำมะถัน เหนียว (Viscous sulphur or musulphur) แตเ่ ม่ืออณุ หภมู ิสูงกว่า 200 ๐C ความหนดื จะลดลงและเป็นของเหลวสีดำ และในที่สุดจะเดือดท่ีอณุ หภูมิ 444.67 oC การเปลยี่ นแปลงดังกล่าวอธบิ ายได้ดังน้ี
ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ เร่ือง ของแขง็ ของเหลวและแก๊ส 14 รายวิชาเคมี 2 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 5 ชดุ ท่ี 2 เรื่อง การจัดเรียงอนุภาคของของแขง็ ในกอ้ นของกำมะถนั ประกอบดว้ ยโมเลกลุ ของกำมะถนั (S8) และมแี รงยึดเหนีย่ ว โมเลกุลเหลา่ นไี้ ว้ด้วยกันเม่ือโมเลกุลได้รบั พลงั งานความรอ้ นโมเลกลุ ของกำมะถนั จะมีพลงั งาน จลน์เพ่ิมขึ้นจนกระทั่งสามารถเอาชนะแรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกลุ ในกอ้ นกำมะถนั โมเลกุล กจ็ ะเรมิ่ แยกตัวออกจากกนั ได้กำมะถันเหลวและถ้าโมเลกลุ กำมะถันไดร้ ับพลังงานเพ่มิ ข้ึน โมเลกลุ ก็จะแตกออกเป็นสาย ๆ ละ 8 อะตอม ภาพท่ี 2.4 แบบจำลองโครงสรา้ งโมเลกลุ แบบสายของกำมะถนั ท่มี า : แต่ละสายกจ็ ะต่อเข้าเป็นสายยาวทำให้กำมะถันเหลวหนดื ข้นึ แต่เมอ่ื ไดร้ บั พลังงาน มากข้ึน จะทำให้สายโมเลกลุ แตกออกเปน็ สายสัน้ ๆ ทำใหก้ ำมะถนั หนืดน้อยลงอีกครั้งหนึง่ และเม่ือได้รบั พลงั งานเพม่ิ ขึน้ อีกอนภุ าคยอ่ ย ๆ ซึง่ แตกออกจากสายโมเลกลุ จะแยกจากกัน กลายเปน็ ไอ (จดุ เดอื ดของกำมะถัน) ในขณะทก่ี ำมะถนั เดอื ดท่ีอุณหภมู ิ 444.67 oC ไอของกำมะถัน 1 โมเลกลุ ยังประกอบด้วย 8 อะตอม (S8) แต่เม่อื อุณหภมู เิ ปล่ยี นเป็น 524 o C, 1,000 o C และ 2,000 o C 1 โมเลกลุ ของกำมะถนั จะประกอบด้วย 6 อะตอม, 2 อะตอม และ 1 อะตอมตามลำดับ (S6 , S2 และ S) โครงสรา้ งของคารบ์ อน คารบ์ อนเป็นอโลหะทีม่ ีอยู่หลายรูปได้แก่ เพชร แกรไฟต์ และฟุลเลอรนี ซ่ึงเกดิ ขนึ้ เน่ืองจากอะตอมของคาร์บอนมกี ารจัดเรยี งต่างกนั เพชร (Diamond) โครงสรา้ งของเพชรเป็นโครงผลกึ ร่างตาข่าย โดยอะตอม ของคาร์บอนแตล่ ะอะตอมเกิดพันธะโคเวเลนตก์ ับคาร์บอนอะตอมอน่ื อกี 4 อะตอม เปน็ รูปทรงส่ีหนา้ (Tetrahedral) แบบตอ่ เนอ่ื ง ดังน้นั คาร์บอนแต่ละอะตอมถูกยึดเหนย่ี ว ไวแ้ นน่ เคลื่อนท่ไี มไ่ ด้ เพชรจึงมคี วามแขง็ มากแตเ่ ปราะ มคี วามหนาแนน่ 3.51 g/cm3 มีจดุ หลอมเหลว 3,550 o C มคี า่ ดรรชนีหักเหแสงสูง แตไ่ มน่ ำไฟฟ้าท้ังนเี้ พราะแต่ละอะตอม
ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ เร่อื ง ของแข็ง ของเหลวและแก๊ส 15 รายวิชาเคมี 2 ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 5 ชุดที่ 2 เรือ่ ง การจัดเรียงอนุภาคของของแข็ง ของคาร์บอนในเพชรใช้อิเลก็ ตรอนวงนอกในการยดึ เหนี่ยวซึ่งกนั และกันจนหมดไมม่ ี อิเล็กตรอนอสิ ระ แกรไฟต์ (Graphite) โครงสร้างของแกรไฟตต์ า่ งจากเพชร คอื มีโครงสรา้ งเป็นชน้ั ๆ ในแต่ละชั้นอะตอมของคารบ์ อนแต่ละอะตอมจะเกิดพนั ธะโคเวเลนต์กับคารบ์ อนอะตอมอ่นื 3 อะตอม เป็นโครงร่างตาข่าย 2 มิตริ ะหว่างชั้นกม็ ีแรงยึดเหนยี่ วแต่เป็นแรงแวนเดอร์วาลส์ ซง่ึ เปน็ แรงยึดเหนยี่ วทีไ่ ม่ค่อยแขง็ แรง จงึ ทำใหผ้ ลกึ ของแกรไฟตอ์ ่อนไม่แขง็ เหมือนเพชร ใช้ทำไสด้ นิ สอ ใช้เป็นส่วนผสมในสารหลอ่ ล่ืนได้ มจี ดุ หลอมเหลว 3,652 o C ความหนาแน่น 2.25 g/cm3 และสามารถนำไฟฟา้ ได้ ทง้ั นี้เพราะว่าคาร์บอนอะตอมหนงึ่ ๆ เกิดพันธะ โคเวเลนต์กับคาร์บอนอะตอมอื่น 3 อะตอม แตค่ าร์บอนมีอิเลก็ ตรอนวงนอก 4 ตัว ดงั นั้น คารบ์ อนทุกอะตอมในผลึกแกรไฟต์ จึงมอี ิเล็กตรอนวงนอกเหลืออกี 1 ตัวท่ีสามารถเคล่ือนท่ี ได้ในผลึกแกรไฟต์ จึงทำใหแ้ กรไฟตน์ ำไฟฟ้าได้ เพชร แกรไฟต์ ภาพที่ 2.5 แสดงแบบจำลองโครงสร้างของเพชรและแกรไฟต์ ที่มา : ฟุลเลอรีน (Fullerenes) ธาตุคาร์บอนนอกจากพบในรูปของเพชร และแกรไฟต์ ในปี พ.ศ. 2528 นักวทิ ยาศาสตร์ 3 คน คอื โรเบริ ์ต เคริ ล์ , แฮโรลต์ โกรโต และริชาร์ด สมอลลยี ์ ได้ค้นพบรปู ใหมข่ องคาร์บอนซึง่ ลักษณะเหมือนตะกรอ้ หรอื ลกู ฟตุ บอล และได้ ต้ังชอื่ ว่า ฟุลเลอรีน ฟุลเลอรนี โมเลกุลเลก็ ทส่ี ดุ ประกอบด้วยคารบ์ อน 60 อะตอม ( C60 ) โมเลกุลของ C60 ประกอบด้วยรูปหา้ เหล่ยี ม 12 รูป ลกั ษณะเหมอื นลูกฟตุ บอล จงึ มีชอื่ เรยี กอกี ช่อื หนงึ่ ว่า บักกบี้ อล (Buckyball)
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรอ่ื ง ของแขง็ ของเหลวและแกส๊ 16 รายวชิ าเคมี 2 ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 5 ชดุ ที่ 2 เรื่อง การจดั เรียงอนภุ าคของของแข็ง ภาพท่ี 2.6 ภาพแสดงรปู รา่ งของโมเลกุลฟุลเลอรนี (C60 ) วิธีสังเคราะห์ฟุลเลอรีนทำได้โดยนำแทง่ แกรไฟต์ 2 แท่งบรรจใุ นบรรยากาศของ ฮเี ลียมภายใต้ความดัน 13 kPa จากนนั้ ให้พลงั งานความร้อนโดยใช้ electric discharge ผงละเอียดขนึ้ มา พบวา่ 10% ของผงละเอียดน้ีคอื C60 และ C70 (ตอ่ มานักวิทยาศาสตร์ ได้คน้ พบฟุลเลอรีนที่มีขนาดโมเลกลุ ใหญ่กว่า C60 เพม่ิ ขึ้นอกี เชน่ C240 เปน็ ตน้ ) - + แท่งแกรไฟต์ บรรยากาศ ของฮเี ลยี ม 13 kPa ผงละเอียดของคารบ์ อนทีม่ ี C60 ภาพที่ 2.7 ภาพแสดงวิธีสังเคราะห์ฟุลเลอรีน C60 มมี วลโมเลกลุ 720 มคี วามหนาแนน่ 1.72 g/cm3 มีจุดหลอมเหลว 527 o C (ระเหดิ ) ไม่นำไฟฟ้า มีเส้นผา่ นศนู ยก์ ลางของโมเลกลุ 700 pm ประโยชนข์ อง C60 C60 สามารถรบั อิเลก็ ตรอนกลายเป็นไอออนลบเมอ่ื รวมตวั กบั โลหะแอลคาไลน์ เช่น โพแทสเซยี มเกดิ สารประกอบ K3+ C63−0 มีลกั ษณะเปน็ ผลึก และมี สมบัตเิ ป็นตวั นำย่ิงยวดที่อณุ หภมู ิ 19 เคลวิน C60 เหมาะสำหรับทำหน้าท่เี ปน็ ตวั เรง่ ปฏิกิริยา ในปฏกิ ริ ิยาเคมเี พราะ C60 สามารถรับหรอื ให้อิเลก็ ตรอนไดง้ า่ ย ถา้ นำอะตอมของธาตุ กัมมนั ตรังสีใสเ่ ขา้ ไปในช่องตรงกลางของ C60 จะได้สารทมี่ ปี ระสิทธภิ าพสูงในการรกั ษามะเร็ง ได้ นอกจากน้ัน C60 ยังใชใ้ นอุตสาหกรรมทำแบตเตอรี และใชเ้ ป็นเชื้อเพลิงในจรวดเพราะ การเผาไหม้ของ C60 จะให้พลงั งานไดม้ ากกวา่ การเผาไหม้น้ำมนั เชอ้ื เพลิงทีใ่ ชใ้ นปจั จบุ ัน โครงสร้างของฟอสฟอรัส ฟอสฟอรัสเป็นอโลหะมรี ปู ทีส่ ำคญั 3 ชนดิ คอื 1. ฟอสฟอรัสขาวหรอื ฟอสฟอรัสเหลอื ง 2. ฟอสฟอรัสแดง 3. ฟอสฟอรัสดำ
ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ เรื่อง ของแขง็ ของเหลวและแกส๊ 17 รายวชิ าเคมี 2 ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 5 ชุดที่ 2 เร่ือง การจัดเรยี งอนุภาคของของแขง็ ฟอสฟอรัสขาวหรอื ฟอสฟอรัสเหลอื ง โมเลกุลของฟอสฟอรัสขาวประกอบด้วยฟอสฟอรสั 4 อะตอม มีสตู รโมเลกุล P4 สมบตั ิของฟอสฟอรัสขาว 1. เป็นของแขง็ สขี าวหรือเหลือง 2. มีจุดหลอมเหลว 44 o C 3. มีความหนาแนน่ 1.82 g/cm3 4. ไม่นำไฟฟา้ 5. ละลายนำ้ ได้นอ้ ยแตล่ ะลายได้ในคาร์บอนไดซลั ไฟด์ (CS2) 6. ลุกติดไฟในอากาศที่ 35 o C 7. มีกลิน่ คล้ายกระเทยี ม เปน็ พษิ ถ้าหายใจเข้าไปจะเปน็ โรคขากรรไกรผุ 8. ต้มกับสารละลาย NaOH หรอื KOH ได้ PH3 600 211 pm ภาพท่ี 2.8 ภาพแบบจำลองโมเลกลุ ของฟอสฟอรสั ขาว ที่มา : ฟอสฟอรัสแดง โมเลกุลมีโครงสร้างเป็นสายยาวคล้ายลกู โซ่ ดงั นั้นโมเลกุลของฟอสฟอรัสแดงจึงมี ขนาดโมเลกุลใหญ่กวา่ โมเลกุลของฟอสฟอรัสขาว สมบัติของฟอสฟอรัสแดง 1. เป็นของแขง็ สีแดง 2. มจี ุดหลอมเหลว 590 o C มีความดนั 43 บรรยากาศ 3. มคี วามหนาแน่น 2.34 g/cm3 4. ไมน่ ำไฟฟ้า 5. ไม่ละลายในนำ้ และ CS2 6. ไม่ลกุ ไหม้ในอากาศ 7. ไม่ทำปฏิกิรยิ ากบั กรดหรอื เบส
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เร่อื ง ของแขง็ ของเหลวและแก๊ส 18 รายวิชาเคมี 2 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 ชดุ ที่ 2 เรื่อง การจดั เรยี งอนุภาคของของแข็ง n ภาพท่ี 2.9 ภาพจำลองโมเลกุลของฟอสฟอรสั แดง ฟอสฟอรัสดำ มโี ครงสร้างแบบโครงร่างตาข่าย มีสมบตั ดิ ังนี้ 1. เป็นของแขง็ สีดำ 2. มจี ุดหลอมเหลว 610 o C 3. มคี วามหนาแนน่ 2.699 g/cm3 4. นำไฟฟ้าได้เล็กนอ้ ยเมือ่ อณุ หภูมิสูงขน้ึ จะนำไฟฟา้ ไดด้ ีขึ้น ภาพที่ 2.10 ภาพจำลองของฟอสฟอรัสดำ ที่มา : สำราญ พฤกษส์ ุนทร. คมู่ ือรายวชิ าเพ่มิ เตมิ เคมี ม. 4-6 เลม่ 2. 2554. 371 – 377
ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ เรื่อง ของแขง็ ของเหลวและแกส๊ 19 รายวิชาเคมี 2 ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 5 ชุดที่ 2 เรื่อง การจัดเรียงอนุภาคของของแข็ง สรปุ การจัดเรียงอนุภาคของของแข็ง ทำไมสารจงึ มีผลึกตา่ งกันหรอื มีรปู ตา่ งกนั จ๊ะ การจัดเรียงอนุภาคท่แี ตกตา่ งกัน ของของแข็ง เป็นผลใหข้ องแข็งมผี ลึก ตา่ งกันและของแข็งบางชนิดมีผลกึ ได้หลาย แบบหรอื ปรากฏไดห้ ลายรูปและมีสมบตั ิ บางประการแตกตา่ งกนั สารท่ีมรี ปู ไดห้ ลายรปู มอี ะไรบา้ งครับ กำมะถัน กำมะถันที่มรี ูปผลึก - กำมะถันรอมบกิ - กำมะถันมอนอคลินกิ กำมะถันพวกท่มี ีรูปรา่ งไมเ่ ป็นผลกึ คาร์บอน ฟอสฟอรัส - เพชร - ฟอสฟอรสั ขาวหรือฟอสฟอรัสเหลอื ง - แกรไฟต์ - ฟอสฟอรัสแดง - ฟลู เลอรีน - ฟอสฟอรสั ดำ
ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ของแขง็ ของเหลวและแกส๊ 20 รายวิชาเคมี 2 ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 5 ชดุ ที่ 2 เร่ือง การจดั เรียงอนภุ าคของของแขง็ ใบกิจกรรมท่ี 2.2 เรื่อง การจัดเรียงอนุภาคของของแข็ง จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ อธบิ ายเหตุผลที่ทำให้ธาตุบางชนดิ ปรากฏเป็นรปู ต่าง ๆ ได้ ช่ือ....................................................................เลขที่.................ชน้ั ................ คำช้แี จง จงตอบคำถามต่อไปนใ้ี ห้ถูกตอ้ ง (10 คะแนน) ชนิดของของแขง็ รูปการจดั เรยี งโมเลกลุ สมบัติของของแขง็ 1. กำมะถันรอมบกิ 2. กำมะถนั มอนอคลินกิ 3. เพชร 4. ฟอสฟอรัสแดง คะแนนเต็ม 10 คะแนน คะแนนทีไ่ ด.้ ..............คะแนน ลงช่อื ..................................................ผตู้ รวจ
ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ เร่อื ง ของแขง็ ของเหลวและแก๊ส 21 รายวิชาเคมี 2 ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 5 ชุดท่ี 2 เร่อื ง การจดั เรยี งอนภุ าคของของแข็ง แบบทดสอบหลงั เรยี น ชดุ ท่ี 2 เร่อื ง การจัดเรยี งอนภุ าคของของแขง็ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1.บอกเหตผุ ลที่ทำให้ธาตหุ รอื สารต่างชนดิ กันมผี ลกึ ตา่ งกันได้ 2.บอกเหตุผลทที่ ำให้ธาตุบางชนิดปรากฏอยู่ในรูปต่างกันได้ 3.ยกตัวอย่างธาตทุ ีม่ หี ลายรปู พรอ้ มทั้งบอกสมบตั ิได้ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… คำชแ้ี จง 1.แบบทดสอบชดุ นเี้ ปน็ แบบปรนยั 4 ตวั เลอื ก จำนวน 10 ขอ้ คะแนนเต็ม 10 คะแนน 2.เวลาในการทำแบบทดสอบ 10 นาที 3. ให้นักเรยี นเลือกคำตอบทถี่ ูกตอ้ งทส่ี ุดเพยี งคำตอบเดียว แลว้ ทำเครือ่ งหมาย กากบาท () ลงในกระดาษคำตอบทแ่ี จกให้ 1. ขอ้ ใดกล่าวถงึ อนภุ าคของของแข็งได้ถูกต้อง ก. อนุภาคของของแข็งสามารถเคลือ่ นท่ไี ดอ้ ยา่ งอสิ ระ ข. อนุภาคของของแข็งอยอู่ ยา่ งเป็นกลุ่ม ๆ อย่างไมเ่ ป็นระเบียบ ค. อนภุ าคของของแขง็ อยชู่ ิดกันมากและมกี ารจดั เรยี งตัวอยา่ งเป็นระเบยี บ ง. อนุภาคของของแขง็ อยหู่ ่างกันมากจนไม่มีแรงยดึ เหน่ยี วระหว่างโมเลกลุ 2. กำมะถนั รอมบิกและมอนอคลินิกตา่ งก็มีสูตรโมเลกลุ S8 แต่แตกต่างกนั เพราะเหตใุ ด ก. การจัดเรยี งของโมเลกลุ ตา่ งกนั ข. ความหนาแน่นต่างกัน ค. จดุ หลอมเหลวต่างกัน ง. รูปผลึกต่างกัน 3. “ผลึกใสสีฟ้ารูปร่างคล้ายสเี่ หลี่ยมขนมเปยี กปนู ” จากข้อความนี้กล่าวถึงของแข็งชนิดใด
ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ เร่อื ง ของแข็ง ของเหลวและแก๊ส 22 รายวิชาเคมี 2 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 5 ชุดที่ 2 เรอ่ื ง การจัดเรยี งอนภุ าคของของแข็ง ก. คอปเปอร์(II)ซัลเฟต ข. กำมะถนั ค. เกลือแกง ง. น้ำตาลทรายแดง 4. ขอ้ ใดคือเหตผุ ลที่ทำให้ธาตุคารบ์ อน มี 3 รูป คอื เพชร แกรไฟต์ และฟุลเลอรนี ก. มกี ารจัดเรยี งตวั ของโมเลกลุ ต่างกนั ข. มกี ารจัดเรยี งตัวของอะตอมต่างกนั ค. มีจำนวนอะตอมในโมเลกลุ ต่างกัน ง. มขี นาดของโมเลกุลไม่เท่ากัน 5. ฟอสฟอรัสในรูปใดนำไฟฟ้าได้ ก. ฟอสฟอรัสขาว ข. ฟอสฟอรสั แดง ค. ฟอสฟอรสั ดำ ง. ฟอสฟอรัสเหลอื ง 6. ขอ้ ใดคอื สาเหตุทท่ี ำให้สารแต่ละชนิดมีความแตกต่างกนั ก. เน่อื งจากมคี วามหนาแน่นต่างกัน ข. เน่ืองจากมคี ารบ์ อนผสมอยู่มากกว่ากนั ค. เนอ่ื งจากมีการจดั เรยี งอะตอมท่ีแตกตา่ งกนั ง. เน่อื งจากมกี ารเปล่ียนแปลงของโครงสร้างต่างกนั จากภาพแสดงแบบจำลองโครงสร้างท่ีกำหนดให้ใช้ตอบคำถามข้อ 7 - 8 7. ข้อใดต่อไปน้ีกลา่ วถงึ แบบจำลองไดถ้ ูกตอ้ ง ก. โครงสรา้ งแบบโครงร่างตาข่าย ข. โครงสร้างเปน็ สายยาวคล้ายลูกโซ่ ค. โครงผลึกร่างตาข่าย โดยอะตอมของคาร์บอนจะเกดิ พนั ธะโคเวเลนต์ ง. มโี ครงสร้างเป็นช้นั ๆ ในแตล่ ะช้นั อะตอมของคาร์บอนจะเกดิ พันธะโคเวเลนต์
ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ เร่ือง ของแขง็ ของเหลวและแก๊ส 23 รายวชิ าเคมี 2 ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 5 ชุดที่ 2 เร่อื ง การจัดเรียงอนภุ าคของของแขง็ 8. ขอ้ ใดคือ สมบัติของฟอสฟอรสั แดง ก. มลี ักษณะนม่ิ คล้ายขี้ผ้ึง ว่องไวในการเกดิ ปฏิกริ ยิ า ลกุ ไหม้ได้เองเมอื่ สัมผัส กบั อากาศ ข. มีผิวด้านนอกเปน็ สีดำ ด้านในสแี ดง มคี วามมนั วาว ใชท้ าลกู ระเบิด ค. โครงสรา้ งเปน็ สายยาวคล้ายลูกโซ่ ไม่ละลายในน้ำ ไม่ลุกไหม้ในอากาส ง. แขง็ แรงมาก ใชท้ ำหัวไม้ขดี ไฟ นำไฟฟา้ ได้ ไมล่ ะลายในน้ำ 9. “ผลึกใสไม่มีสมี รี ูปรา่ งคลา้ ยทรงแปดเหลี่ยม” จากข้อความนี้กลา่ วถึงของแข็งชนดิ ใด ก. สารสม้ ข. กำมะถัน ค. เกลอื แกง ง. นำ้ ตาลทรายแดง 10. ขอ้ ใด คอื สมบตั ขิ องกำมะถนั มอนอคลินกิ ก. รูปผลึกมีลักษณะเปน็ แท่งคลา้ ยรูปเข็ม ไม่นำไฟฟ้า มีสีแดง ข. รปู ผลึกมลี กั ษณะเปน็ แท่งคลา้ ยรปู เข็ม ไม่นำไฟฟา้ มีสีเหลอื ง ค. รปู ผลึกมลี กั ษณะเปน็ เหล่ยี มคล้ายส่ีเหลีย่ มขนมเปียกปนู นำไฟฟา้ ได้ มีสีเหลอื ง ง. รปู ผลึกมีลกั ษณะเปน็ แทง่ คล้ายรปู เขม็ ในธรรมชาติพบได้ง่ายกว่ากำมะถันรอมบิก ไปตรวจคำตอบ กนั เถอะ
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรือ่ ง ของแขง็ ของเหลวและแก๊ส 24 รายวิชาเคมี 2 ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 5 ชุดท่ี 2 เรื่อง การจดั เรยี งอนภุ าคของของแขง็ กระดาษคำตอบแบบทดสอบหลังเรยี น ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรแู้ บบสบื เสาะหาความรู้ เรือ่ ง ของแขง็ ของเหลวและแกส๊ กลุม่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ รายวชิ าเคมี 2 ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 5 ชุดท่ี 2 เร่อื ง การจัดเรยี งอนภุ าคของของแข็ง ช่ือ....................................................................เลขท.่ี .............ชั้น.............. แบบทดสอบหลังเรยี น ขอ้ คำตอบ คะแนน ก ขคง 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 คะแนนเตม็ 10 คะแนน คะแนนทไี่ ด้ ผา่ น หมายถงึ ไดค้ ะแนน 8 คะแนน ข้ึนไป ไมผ่ ่าน หมายถงึ ไดค้ ะแนนตำ่ กวา่ 8 คะแนน
ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ เรอ่ื ง ของแขง็ ของเหลวและแกส๊ 25 รายวิชาเคมี 2 ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 5 ชดุ ท่ี 2 เรื่อง การจัดเรียงอนภุ าคของของแขง็ บรรณานกุ รม นิพนธ์ ตังคณานรุ กั ษ์ และคณะ. Compact เคมี ม.4 เล่ม 2. กรงุ เทพฯ : แม็ค, 2554. ______Core รบั ตรง เคมี เลม่ 1. กรงุ เทพฯ : แม็ค, 2556. สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีกระทรวงศึกษาธกิ าร. ค่มู อื ครู สาระการเรยี นรู้พ้นื ฐานและเพ่มิ เตมิ เคมี เล่ม 2 กล่มุ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ สกสค. ลาดพร้าว, 2551. ______คู่มอื ครูสาระการเรียนรู้พนื้ ฐานและเพ่มิ เตมิ เคมี เลม่ 2 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4. พมิ พ์ครั้งที่ 2 ; กรงุ เทพฯ : คุรุสภาลาดพร้าว, 2548. สมพงศ์ จันทร์โพธ์ิศรี. High School Chemistry เคมี ม. 4-6 เลม่ 2 เพ่มิ เตมิ . กรุงเทพฯ : ไฮเอด็ พับลิชชิ่ง, 2554. เสกสรร ศิรวิ ัฒนวิบูลย.์ สาระการเรยี นรู้พนื้ ฐานและเพมิ่ เตมิ เคมี เลม่ 3. กรุงเทพฯ : โรงพิมพอ์ มรการพมิ พ,์ ม.ป.ป. สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา. ตัวชี้วดั และสาระการเรยี นรแู้ กนกลางกลมุ่ สาระ การเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขนึ้ พนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ : โรงพมิ พช์ ุมนมุ สหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย, 2551 สำราญ พฤกษ์สนุ ทร. คมู่ อื รายวชิ าเพม่ิ เติม กลมุ่ สาระเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ เคมี ม.4-6 เลม่ 2. กรงุ เทพฯ : พ.ศ.พัฒนา, ม.ป.ป. ______หนังสอื เรยี นเพิ่มเติม เคมี เลม่ 3 ว037. กรุงเทพฯ : เรอื งแสงการพมิ พ์, 2547. สุทธพิ ร พงษ์รัตนกูล. เคมี เล่ม 2 มธั ยมศึกษาปที ่ี 4-6. กรุงเทพฯ : ไฮเอด็ พับลชิ ชง่ิ , ม.ป.ป.
ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ เรอ่ื ง ของแข็ง ของเหลวและแกส๊ 26 รายวิชาเคมี 2 ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 5 ชุดท่ี 2 เร่ือง การจดั เรยี งอนภุ าคของของแข็ง ภาคผนวก
ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ เรือ่ ง ของแข็ง ของเหลวและแกส๊ 27 รายวชิ าเคมี 2 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 ชดุ ท่ี 2 เรื่อง การจดั เรยี งอนภุ าคของของแขง็ เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น ชุดที่ 2 เรื่อง การจดั เรียงอนภุ าคของของแข็ง 1. ก 2. ง 3. ข 4. ค 5. ข 6. ก 7. ค 8. ก 9. ค 10. ง เฉลยแลว้ ทำได้ไหมครับ
ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ เรอื่ ง ของแข็ง ของเหลวและแกส๊ 28 รายวชิ าเคมี 2 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 5 ชดุ ท่ี 2 เรอ่ื ง การจัดเรยี งอนภุ าคของของแขง็ เฉลยใบกจิ กรรมที่ 2.1 เรอื่ ง การเตรยี มผลึก ตารางบันทึกผลการทดลอง จากการทดลองเตรียมผลึกของสารทั้ง 3 ชนิด ได้ผลการทดลองดังตาราง ชนดิ ของสาร ลักษณะของผลึกที่สงั เกตได้ คอปเปอร์(II)ซัลเฟต ผลกึ สีฟ้าใสมีรูปร่างคล้ายสี่เหล่ียมขนมเปียกปูน สารสม้ ผลึกใสไม่มีสีมีรูปร่างคล้ายทรงแปดเหล่ียม กำมะถัน ผลึกสีเหลอื งใสมีลักษณะเป็นแท่งยาวคล้ายเข็ม และคล้ายสี่เหล่ยี มขนมเปยี กปูน สรุปผลการทดลอง จากผลการทดลองพบว่าสารท้ัง 3 ชนดิ มลี ักษณะของผลึกแตกตา่ งกนั โดยคอปเปอร์(II)ซลั เฟตมลี กั ษณะผลึกเป็นรูปสเ่ี หล่ียมขนมเปยี กปนู สารส้มมีลักษณะ ผลึกแปดเหล่ียม สว่ นกำมะถนั มผี ลึก 2 แบบ คือลกั ษณะแรกเปน็ แทง่ ยาวคล้ายเข็ม เรียกว่า กำมะถนั รูปเข็มหรอื กำมะถนั มอนอคลนิ กิ ส่วนลกั ษณะที่ 2 คล้ายสี่เหล่ียม ขนมเปียกปนู หรือเรียกว่ากำมะถนั รอมบกิ อภปิ รายหลงั การทดลอง จากผลการทดลองพบว่ากำมะถันทเี่ ตรยี มได้มี 2 รูป รปู ท่ีมีลักษณะคล้ายเข็ม เรียกว่า กำมะถนั รปู เขม็ หรอื กำมะถันมอนอคลินิก สว่ นรูปท่มี ีลกั ษณะคล้ายส่ีเหลยี่ มขนม เปียกปูนเรยี กว่า กำมะถนั รอมบกิ เหตุทกี่ ำมะถันดังกล่าวมีรปู ร่างผลึกทีแ่ ตกตา่ งกัน เป็นเพราะการจัดเรยี งอนุภาคท่แี ตกต่างกนั ของกำมะถัน เปน็ ผลใหก้ ำมะถนั ดงั กลา่ วปรากฏ ได้หลายรปู และมสี มบตั ิบางประการแตกต่างกัน ส่วนสารสม้ และคอปเปอร์(II)ซัลเฟต มผี ลกึ เพียงหนึ่งชนิดเทา่ น้ัน
ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ เร่ือง ของแขง็ ของเหลวและแกส๊ 29 รายวชิ าเคมี 2 ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 5 ชดุ ที่ 2 เร่อื ง การจดั เรียงอนุภาคของของแขง็ คำถามท้ายการทดลอง 1. ลกั ษณะของ คอปเปอร(์ II)ซัลเฟต สารส้ม และกำมะถนั กอ่ นและหลัง การทดลองแตกตา่ งกันหรอื ไม่อย่างไร แตกต่างกนั คอื ก่อนการทดลอง คอปเปอร์(II)ซัลเฟต เป็นผงสฟี า้ สารสม้ เปน็ ผงใส ไมม่ ีสี และกำมะถันเป็นผงละเอยี ดสีเหลืองออ่ น หลงั การทดลอง คอปเปอร(์ II)ซลั เฟต เปน็ ผลกึ ส่ีเหล่ียมสฟี า้ ใส สารสม้ เปน็ ผลึก แปดเหลี่ยมใสไมม่ สี ี และกำมะถนั มีผลกึ สีเ่ หลย่ี มและแบบแทง่ ยาวสีเหลอื งออ่ น 2. จากผลการทดลอง คอปเปอร(์ II)ซัลเฟต สารสม้ และกำมะถัน มผี ลึกไดก้ แ่ี บบ กำมะถันมีผลึก 2 แบบ คือลักษณะแรกเปน็ แท่งยาวคล้ายเขม็ เรียกว่ากำมะถนั รปู เข็ม หรอื กำมะถนั มอนอคลนิ กิ สว่ นแบบที่ 2 คล้ายส่เี หลี่ยมขนมเปยี กปูน หรอื เรียกว่ากำมะถนั รอมบิก สว่ นสารสม้ มผี ลึกหน่ึงแบบเปน็ รูปแปดเหลี่ยมใสไมม่ ีสี และคอปเปอร(์ II)ซัลเฟต มผี ลกึ หนึ่งแบบเปน็ ผลึกสี่เหลยี่ มสฟี ้าใส
ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ เรื่อง ของแข็ง ของเหลวและแกส๊ 30 รายวิชาเคมี 2 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 5 ชุดท่ี 2 เรอ่ื ง การจัดเรียงอนุภาคของของแขง็ ภาพประกอบการทดลองการเตรียมผลึกสาร ผลึกกำมะถัน ผลึกคอปเปอร์(II)ซลั เฟต ผลึกสารส้ม
ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ เร่อื ง ของแข็ง ของเหลวและแกส๊ 31 รายวชิ าเคมี 2 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5 ชดุ ที่ 2 เรอื่ ง การจัดเรียงอนภุ าคของของแขง็ ผลึกคอปเปอร์ (II) ซลั เฟต ผลกึ สารส้ม กำมะถนั รอมบกิ กำมะถนั มอนอคลนิ ิก
ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ เรือ่ ง ของแข็ง ของเหลวและแก๊ส 32 รายวิชาเคมี 2 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 5 ชุดที่ 2 เรื่อง การจัดเรียงอนุภาคของของแขง็ เฉลยใบกิจกรรมท่ี 2.2 เรื่อง การจดั เรยี งอนภุ าค คำชแ้ี จง จงตอบคำถามต่อไปนีใ้ หถ้ ูกต้อง ชนิดของของแขง็ รปู การจัดเรียงโมเลกุล สมบัติของของแข็ง 1. กำมะถนั รอมบิก เปน็ ผลกึ รูปเหล่ียมโปร่งใสส่ เี หลอื งอ่อน มีจุด 2. กำมะถนั มอนอ- หลอมเหลว 112.8 oC และจดุ เดอื ด 444.67 oC คลินกิ มคี วามหนาแน่น 2.07 g/cm3 ละลายไดใ้ น คาร์บอนไดซัลไฟด์ (CS2), เบนซีน (C6H6), โทลูอีน 3. เพชร (C6H5 CH3) เปน็ ตน้ แตไ่ ม่ละลายนำ้ เสถียรที่สุด ทอี่ ณุ หภมู ปิ กติ แตถ่ า้ ใหอ้ ุณหภูมิสูงกว่า 95.6 oC จะเปลยี่ นไปเป็นกำมะถันมอนอคลินิกและไมน่ ำไฟฟา้ เป็นผลึกรูปเขม็ โปรง่ ใสสีเหลืองเขม้ กว่า Sα มจี ุดหลอมเหลว 119 o C และจุดเดอื ด 444.67 oC มีความหนาแน่น 1.96 g/cm3 ละลายได้ใน คาร์บอนไดซัลไฟด์ โทลอู นี เป็นตน้ เสถียรที่ อุณหภมู ิสูงกว่า 95.6 o C แต่ไมเ่ กิน 119 oC ไมน่ ำไฟฟา้ อะตอมของคาร์บอนแตล่ ะอะตอมเกดิ พันธะ โคเวเลนตก์ บั คาร์บอนอะตอมอื่นอกี 4 อะตอม เปน็ รูปทรงส่หี นา้ (Tetrahedral) แบบต่อเนอ่ื งมี ความหนาแน่น 3.51 g/cm3 มีจุดหลอมเหลว 3,550 o C มีค่าดรรชนหี ักเหแสงสูง 4. ฟอสฟอรัสแดง เป็นของแขง็ สีแดง มจี ุดหลอมเหลว 590 oC มีความดนั 43 บรรยากาศ มีความหนาแน่น 2.34 g/cm3 ไมน่ ำไฟฟ้า ไมล่ ะลายในนำ้ และ CS2 ไม่ลกุ ไหมใ้ นอากาศ ไมท่ ำปฏกิ ริ ิยากบั กรดหรอื เบส
ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ เร่ือง ของแขง็ ของเหลวและแกส๊ 33 รายวชิ าเคมี 2 ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 5 ชดุ ท่ี 2 เรือ่ ง การจดั เรยี งอนุภาคของของแขง็ เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น ชดุ ท่ี 2 เร่ือง การจดั เรียงอนุภาคของของแขง็ 1. ค 2. ค 3. ง 4. ก 5. ค 6. ค 7. ง 8. ค 9. ก 10. ข ทำถูกก่ขี ้อจะ๊ เดก็ ๆ
ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ เร่อื ง ของแข็ง ของเหลวและแก๊ส 34 รายวิชาเคมี 2 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 ชุดท่ี 2 เรื่อง การจัดเรยี งอนภุ าคของของแข็ง
Search
Read the Text Version
- 1 - 34
Pages: