ความหมายของระบบการทาฟารม์หมายถงึ ระบบการเกษตรของเกษตรกรโดยการใช้ประโยชน์จากทรพั ยากรทม่ี ีอยใู่ นครวั เรอื น มีองคป์ ระกอบหรือกจิ กรรมหลาย ๆ อย่างแต่ละกิจกรรมมคี วามสมั พนั ธ์ซงึ่ กันและกนั และแตล่ ะกิจกรรมต่างกม็ ีปจั จยั หลายอย่างมาเก่ียวขอ้ ง
ระบบการปลกู พชื (Cropping System)1. ระบบการปลกู พชื รว่ ม (Intercropping)หมายถึง ระบบการปลกู พืชต้ังแต่สองชนิดร่วมกัน ในเวลาเดียวกนั หรอื เวลาใกลเ้ คยี ง กนั อาจเปน็ รปู แบบใดกไ็ ดใ้ น 2 รปู แบบ ดังน้ี 1.1 การปลูกแบบแซมเป็นแถว (Row Intercropping) หมายถึง ระบบการปลูกพืชร่วมทม่ี อี ย่างนอ้ ยหนึ่งชนดิ ท่ีปลกู เป็นแถว ทีเ่ หลือนอกจากนี้อาจจะปลูกเปน็ แถวสลบั กับพชืแรกหรอื ปลูกไม่เปน็ แถวอยใู่ นระหวา่ งแถวของพชื แรกกไ็ ด้ 1.2 การปลกู แบบผสม (Mixed Intercropping) หมายถึง การปลูกพืชรว่ มท่ไี ม่เปน็แถวเปน็ แนวโดยปลูกผสมกันไปตามความเหมาะสมของสภาพทต่ี อ้ งการตามธรรมชาติเช่นเดยี วกับสภาพป่าไม้ในธรรมชาติ
ระบบการปลกู พืช (Cropping System)2. ระบบการปลูกแบบรบั ชว่ ง (Relay Cropping)หมายถึง ระบบการปลกู พืชท่สี องขณะทพ่ี ชื แรกยงั ไมเ่ ก็บเกี่ยวและหลังจากพชื แรก ออกดอกโดยปลูกในพนื้ ท่ีเดียวกนั ซง่ึ อาจปลูกระหวา่ งแถว (inter – row) หรอื ปลกู ผสม (Mixed) กไ็ ด้ การปลกู แบบรบั ชว่ งรว่ มกัน ใชเ้ ครอ่ื งหมาย – แสดงการรว่ มในระบบเช่น ข้าว– ถั่วเหลือง หมายถึงการปลกู ข้าวแล้วรบั ช่วงโดยการปลกู ถว่ั เหลอื งกอ่ นการเก็บเก่ียวขา้ ว เปน็ตน้
ระบบการปลกู พชื (Cropping System)3. การปลูกพืชหมนุ เวียน (Crop Rotation)การปลูกพืชสองชนดิ หรอื มากกวา่ ลงบนพน้ื ทเ่ี ดียวกัน แต่วา่ ปลูกไมพ่ รอ้ มกัน โดยมีการจัด ลาดับพืชทปี่ ลูกอยา่ งมรี ะเบียบ (Regular Sequence)
ระบบการปลกู พชื (Cropping System)3. การปลกู พืชหมุนเวียน (Crop Rotation) ชนดิ ของพืชและหลกั ปฏบิ ตั ใิ นการปลกู พชื หมุนเวียน - เลือกพชื ให้เหมาะสมกับดิน ภูมิประเทศและภมู ิอากาศ - ในระบบการปลูกพืชหมุนเวยี นตอ้ งมีพืชตระกูลถว่ั หรือตระกลู หญ้า - การเลอื กลาดับพชื การจัดลาดบั พชื ทปี่ ลูกก่อนหลงั จะมีอิทธิพลตอ่ ผลผลติพชื ท่ีปลูกตามมา
ระบบการปลกู พชื (Cropping System)4. ระบบการปลูกแบบทวกิ สกิ รรมหรือแบบรวม (Double of SequentialCropping)หมายถงึ ระบบการปลกู พืชแรกจนเก็บเกยี่ วแลว้ จงึ ปลกู พชื ทสี่ องตามทนั ทีหรือเว้นชว่ งไมน่ านนกั โดยเฉพาะในสภาพของพ้ืนท่ีทีย่ งั มีความชื้นและนา้ ในดินเหลือจากการปลกู พชื แรกเพยี งพอต่อการเจรญิ เติบโตและให้ผลผลติ ของพชื ท่สี อง
ระบบการปลกู พืช (Cropping System)5. ระบบการปลกู แบบต่างระดบั (Multi – Storeyed Cropping) หมายถึง การปลกู พืชทมี่ ีความสงู และความต้องการแสงสวา่ งแตกต่างกันในพ้นื ที่เดยี วกนั เช่น พชื ตระกูลถ่วั โกโก้ กาแฟ พรกิ ไทย กานพลแู ละมะพรา้ ว ในพ้นื ที่และในเวลาเดียวกัน ซ่งึ แต่ล่ะชนิดมคี วามสงู และความต้องการแสงแดดแตกตา่ งกันและสามารถอยู่ร่วมกันได้
ระบบการปลูกพชื (Cropping System)6. ระบบการปลกู แบบราทูน (Ratoon Cropping)หมายถึง การใช้พชื ทสี่ ามารถจะยืดระยะเวลาใหผ้ ลผลติ ไดม้ ากกวา่ หนง่ึ ฤดกู าลโดยไม่ตอ้ งมกี ารปลกู ใหม่ โดยใชว้ ธิ ีการตัดใหเ้ หลือตอซึ่งจะแตกกิ่งก้านและให้ผลได้ใหม่ เช่นฝ้าย อ้อย ขา้ วฟา่ ง สับปะรด ละห่งุ เป็นต้น
ประเภทของระบบการทาฟารม์1. ระบบการทาฟาร์มทีม่ ขี า้ วเปน็ พืชหลัก (Rice Base Farming System)เป็นระบบการทาฟารม์ ในสภาพทร่ี าบลมุ่ ท่ีมกี ารปลกู ขา้ วเปน็ พืชหลกั ในฤดฝู นตามด้วยพืชอ่ืนๆ (พืชไร่ พชื ผกั กอ่ นหรือหลังการปลูกข้าว)ตวั อย่าง การปลกู พืชทีม่ ขี ้าวเป็นพชื หลกัขา้ วนาปี – ขา้ วนาปรัง ข้าวนาปี – พชื ผกัถั่วเขียว– ขา้ วนาปี – ขา้ วโพดฝกั ออ่ น งา – ขา้ วนาปี – ถว่ั เหลืองข้าวนาปี – ถ่ัวลสิ ง – ข้าวโพดหวาน
ประเภทของระบบการทาฟารม์2. ระบบการทาฟารม์ ท่มี พี ืชไร่เปน็ พืชหลกั (Field Crop Base Farming System)เป็นระบบการทาฟาร์มในท่ดี อนซึ่งเกษตรกรปลกู พชื ไรเ่ ป็นพชื หลกั แล้วตามดว้ ยพชือน่ื ๆตวั อยา่ ง การปลูกพชื ท่มี พี ืชไร่เป็นพืชหลกัขา้ วโพด – ถั่วลิสง ขา้ วโพด– ข้างฟา่ งขา้ วโพดฝกั อ่อน – ถวั่ เหลอื ง – ขา้ วโพด งา – ขา้ วโพด – ข้าวฟา่ ง
ประเภทของระบบการทาฟารม์3. ระบบการทาฟารม์ ท่มี พี ชื สวนเป็นพืชหลัก (Perennial Crop Base FarmingSystem)เป็นระบบการทาฟาร์มท้งั ในสภาพท่ดี อนและท่ลี มุ่ โดยมพี ชื สวนปลูกเปน็ พชื หลักในการจดั ระบบการทาฟาร์มทมี่ ีพชื สวนเปน็ หลกั นน้ั นยิ มปลูกไมผ้ ลเป็นพชื หลักและปลกู ไมผ้ ล พืชผกั พืชไร่ เป็นพืชแซม ซึง่ พืชแซมเหล่านสี้ ่วนใหญ่จะเป็นพืชที่สามารถทาเงินให้เกษตรกรภายในระยะเวลาอนั สน้ั
ประเภทของระบบการทาฟารม์3. ระบบการทาฟารม์ ทม่ี ีพืชสวนเปน็ พืชหลกั (Perennial Crop Base Farming System)- ไม้ผลที่แนะนาใหป้ ลกู เป็นพชื หลกั ไดแ้ ก่ สม้ โอ กระทอ้ น ขนุน มะขามหวาน มะม่วงมะปรางหวาน ลองกอง มงั คดุ- ไม้ผลท่ีแนะนาใหป้ ลูกเปน็ พชื แซม ไดแ้ ก่ ไมผ้ ลทก่ี ลา่ วในขา้ งต้น แต่ปลกู ระยะชิดเพ่ือการขยายพนั ธุ์ และพทุ รา นอ้ ยหน่า ฝร่งั กลว้ ย มะละกอ- พืชผกั ทีแ่ นะนาใหป้ ลกู เป็นพืชแซม ได้แก่ มะเขอื ฟัก แตงกวามะระ ถ่ัวฝกั ยาวข้าวโพดฝักอ่อน แตงไทย พรกิ ตะไคร้ โหระพา สะระแหน่- พชื ไร่ที่แนะนาใหป้ ลูกเป็นพืชแซม ได้แก่ ถว่ั เหลืองรบั ประทานฝักสด ถวั่ ลสิ ง
ประเภทของระบบการทาฟารม์4. ระบบการทาฟารม์ แบบไรนา่ สวนผสม และการเกษตรแบบผสมผสาน (Mixed Farmingand Integrated Farming System) เปน็ ระบบการเกษตรท่มี ี การปลกู พืชหรือเล้ยี งสัตว์ ประมง และกจิ กรรมอื่นๆหลายชนิดในฟารม์ เพ่ือตอบสนองตอ่ การบริโภค เพ่ือลดความเส่ยี งจากราคาผลผลตทิ ี่ไม่แนน่ อน เช่น การปลูกไมย้ ืนตน้ ในนา การเล้ยี งหมูควบคู่กบั การเลี้ยงปลาในนาข้าว เป็นต้น
รูปแบบระบบการเกษตรแบบยัง่ ยืนที่เหมาะสม• เกษตรกรรมย่งั ยืน (Sustainable agriculture) หมายถงึ การทาการเกษตรที่ ตอบสนองต่อความตอ้ งการของผบู้ ริโภคและเป็นมติ รกบั สภาพแวดลอ้ ม และ ความสมดุลของสภาพธรรมชาติ• ระบบการเกษตรแบบย่งั ยืน หมายถงึ ระบบการผลติ ทางการเกษตรหรือระบบฟารม์ ในรปู แบบตา่ งๆ ท่เี หมาะสมกบั ภูมนิ เิ วศของแต่ละพ้นื ทีจ่ ดั เปน็ ระบบการผลิตท่ี เหมาะสม (Appropriate production system) กับสภาพทรัพยากรและ สงิ่ แวดลอ้ มในไร่นาทีแ่ ตกตา่ งกนั ออกไป
รูปแบบระบบการเกษตรแบบย่ังยืนทีเ่ หมาะสมรปู แบบของระบบการผลติทางการเกษตรแบบย่งั ยืนนั้น จาแนกออกเป็นลกั ษณะต่างๆ ตามองค์ประกอบที่สาคัญและมหี ลากหลายรปู แบบ หรือชือ่ เรียกทไ่ี ม่เหมอื นกันกไ็ ด้ตามแตล่ ักษณะการผลิตวา่ จะเน้นหนกั ดา้ นใด หรอื มจี ดุ เด่นทตี่ ่างกนั ออกไปอยา่ งไร
รูปแบบระบบการเกษตรแบบย่งั ยืนท่ีเหมาะสม1. เกษตรผสมผสาน (Integrated farming) เนน้ กิจกรรมการผลิตมากกว่าสองกิจกรรม ขึ้นไปในเวลาเดยี วกันและกจิ กรรมเหล่านเ้ี กอ้ื กลู ซ่งึ กันและกัน เปน็ การสร้างมลู คา่ เพ่มิ ใหม้ ากขึ้นจากการใช้ประโยชน์ทรพั ยากรทดี่ ินที่มีจากดั ในไร่นาใหเ้ กิดประโยชน์สงู สุด
จุดเดน่ คอื เป็นการจัดการความเส่ียง (Risk management)และการประหยัดทางขอบข่าย(Economy of scope)
รูปแบบระบบการเกษตรแบบยัง่ ยืนทเ่ี หมาะสม2. เกษตรอินทรีย์ (Organic farming) เน้นหนกั การผลิตทีไ่ ม่ใช้สารอนินทรีย์เคมหี รอื เคมสี ังเคราะหแ์ ตส่ ามารถใช้อนิ ทรยี เ์ คมไี ด้ เชน่ สารสกดั จากสะเดา ตะไคร้หอม หรือสารสกัดชวี ภาพ เพื่อเพิ่มความอุดมสมบรู ณ์แก่ทรัพยากรดิน
จดุ เดน่ คอื เปน็ การสรา้ งความปลอดภัยดา้ นอาหาร(Food safety) ให้แกผ่ ู้บริโภค
รูปแบบระบบการเกษตรแบบย่ังยืนท่เี หมาะสม3. เกษตรธรรมชาติ (Natural farming) เนน้ หนกั การทาการเกษตรทีไ่ ม่รบกวนธรรมชาตหิ รือรบกวนให้น้อยท่สี ุดทีจ่ ะทาได้ โดยการไมไ่ ถพรวน ไมใ่ ช้สารเคมไี มใ่ ช้ปยุ๋ เคมีและไมก่ าจดั วชั พชื แต่สามารถมีการคลุมดนิ และใช้ปุ๋ยพชื สดได้
จุดเดน่ คือ เป็นการฟ้นื ฟคู วามสมดลุ ของระบบนิเวศ(Rehabilitation ofecological balance) และลดการพง่ึ พาปจั จยั ภายนอก
รปู แบบระบบการเกษตรแบบยัง่ ยนื ที่เหมาะสม4. เกษตรทฤษฎีใหม่(New theory agricultural) เน้นหนกั การจดั การทรัพยากรนา้ ในไร่นาให้เพียงพอเพื่อผลิตพชื อาหาร โดยเฉพาะข้าวเอาไว้บริโภคในครวั เรือน รวมทั้งมีการผลติ อื่น ๆ เพอ่ื บริโภคแล่ะจาหน่ายส่วนท่เี หลือแกต่ ลาดเพื่อสรา้ งรายได้อย่างพอเพียง
จุดเดน่ คือ เป็นการฟ้นื ฟคู วามสมดลุ ของระบบนิเวศ(Rehabilitation ofecological balance) และลดการพง่ึ พาปจั จยั ภายนอก
รูปแบบระบบการเกษตรแบบย่งั ยนื ทเ่ี หมาะสม5. วนเกษตร (Agroforestry) เนน้ หนกั การมีต้นไม้ใหญ่ และพืชเศรษฐกิจหลายระดบั ทเี่ หมาะสมกบั แต่ละพื้นทเี่ พ่อื การใช้ ประโยชนป์ ่าไม้ของพชื หรอื สตั วช์ นดิตา่ ง ๆ ที่เกอื้ กูลกนั ทง้ั ยังเป็นการเพิ่มพน้ื ทีข่ องทรัพยากรป่าไมท้ มี่ ีจากดั ได้อกี ทางหนึง่
จดุ เด่น คอื เปน็ การคงอยู่ร่วมกันของป่าและการ เกษตรท้ังยังเพ่มิความหลากหลายทางชีวภาพ(Biodiversity)
Search
Read the Text Version
- 1 - 35
Pages: