แผนภาพ
แผนภาพ 57
58
59
แผนภาพคอื อะไร? storyแผนภาพคอื กราฟกิ ท่ีเอาแผนผังและคาสนั้ ๆมาประกอบกบั อธบิ ายเรอื่ งราว ซึง่ สามารถชว่ ยแก้ไขปญั หาตอ่ ไปนี้ได้ 60
• มีแต่ตวั หนงั สือทาดนู ่าเบอื่• ดูเป็นการเขียนบรรยายมากเกนิ ไป• ไม่รู้จะเรยี บเรยี งหรอื อธิบายออกมาอยา่ งไรดี 61
ทาไมต้องใชแ้ ผนภาพ?ข้อดีของแผนภาพแบง่ กว้างๆเปน็ 4 ขอ้1. อยากทาความเข้าใจ 2. อยากแชร์ขอ้ มลูเราเขา้ ใจเร่ืองราวได้งา่ ยขน้ึ เมอ่ื ดู เราสามารถนาแผนภาพน้นั ไปข้อมลู ที่จดั ระเบียบและเรยี บ ส่อื สารตอ่ ไดร้ าบร่นืเรยี งมาแลว้3. อยากคิด 4. อยากเอากลบั มาใชซ้ ้าเราสามารถคิดไอเดียใหมไ่ ด้อีก เรานาแผนภาพหรือกราฟทเ่ี คยทานาจากการนาแผนภาพทท่ี าไวแ้ ล้ว กลบั มาดูใหม่ แม้ว่าจะผา่ นมานานมาเตมิ หรอื ตดั ขอ้ มูลบางส่วนออก แล้ว แต่เรากเ็ ข้าใจไดใ้ นทนั ที 62
ทักษะทจี่ าเป็นในการทาแผนภาพ ทกั ษะ การวเิ คราะห์ ทักษะ ทักษะในการเรียบเรียง ดา้ นดีไซน์ 63
ชนิดของแผนภาพแผนผงั ตาราง กราฟ แผนภาพแผนภาพไมว่ ่าจะแบบไหน ก็ไมไ่ ดใ้ ชแ้ คต่ วั อกั ษรอย่างเดยี วในการให้ขอ้ มลู แตใ่ ชภ้ าพประกอบการเลา่ เรื่องดว้ ย 64
65
66
ความแตกตา่ งของอินโฟกราฟิกกับแผนภาพ …………………… …………………… …………………… …………………… ………… Aa …………………… …………………… …………………… …………………… …………แผนภาพ อินโฟกราฟกิแผนภาพกเ็ หมอื นอนิ โฟกราฟกิ คือใชส้ ่อื สารข้อมลู ให้เขา้ ใจง่าย จึงมกั ถูกนามาใชร้ ว่ มกัน บางคนกว็ า่ แผนภาพคือตน้ กาหนดของอนิ โฟกราฟกิ วิธสี ือ่ สารกบั ผรู้ บั สารอนิ โฟกราฟกิ ตงั้ ใจสง่ สารใหผ้ อู้ า่ นเขา้ ใจ ด้วยการปรายตามองเพยี งครง้ั เดยี วอนิ โฟกราฟกิ คาดหวงั ที่จะทาใหผ้ ทู้ ่ีไมส่ นใจเนอื้ หานนั้ ๆมากอ่ น เกดิ ความร้สู ึกอยากอา่ น 67
การจัดระเบียบข้อมูลความแตกตา่ งของอนิ โฟกราฟกิ กบั แผนภาพอาจอยู่ทก่ี ารนาเสนอขอ้ มลู แต่ไม่วา่ จะอนั ไหนกจ็ าเปน็ ตอ้ งจดั ระเบยี บขอ้ มลู กอ่ นทั้งนนั้ การจัดระเบยี บ ส่ิงทจี่ าเปน็ สาหรบั ขนั้ ตอนนคี้ ือ ความสามารถในการตดั สนิ ใจ การทาใหเ้ รยี บรอ้ ย การนาสง่ิ ที่เหลอื อยู่ มาจัดเรยี งเปน็ หมวดหมู่ 68
องค์ประกอบโครงสร้างขอ้ มูลข้อมูลแตล่ ะชน้ิ จะประกอบไปดว้ ยขอ้ มลู หนว่ ยยอ่ ยเล็กๆ ทนี่ ามารวมกนัขอ้ มูลยอ่ ยอาจเป็นตัวเลข ตวั อักษร คาพูดของคนก็ได้ เชน่ เม่อื เราพดู ถึงขอ้ มลู เกี่ยวกับห้องสมุด เราจะนึกถงึ อะไรบา้ ง • เวลาเปดิ /ปิด • สถานทต่ี ้งั • การเดนิ ทาง • สิทธิการยมื • ขอ้ ระเบียบการเข้าใช้ • บรกิ ารตา่ งๆทีม่ ีใหบ้ ริการ เป็นตน้ 69
ขั้นตอนการทาแผนภาพ เช็คจดุ ประสงค์ ในการทาแผนภาพวเิ คราะห์/เรยี บเรียง จัดระเบียบขอ้ มลู เรียบเรยี งขอ้ มลู ใหเ้ รยี บรอ้ ย การสรา้ งสตอรีดีไซน์ ออกแบบ ตรวจสอบ 70
การจัดระเบยี บขอ้ มลู และเรียบเรยี งขอ้ มลู ให้เปน็ ระเบยี บ
รวบรวมข้อมลู ต้องเปน็ ขอ้ มูลท่ีประโยชน์ เน้อื หาทเ่ี ปน็ จรงิ และมคี ุณภาพอันไหนควรเก็บ อันไหนควร สดใหมแ่ ละทนั กระแส ท้งิ เราควรมขี อ้ มูลใหม้ าก ท่สี ุดกอ่ นนามาคดั ออก แหลง่ ขอ้ มูลมคี วามน่าเชอ่ื ถอื
คัดของเสียท้ิง เขา้ ใจงา่ ย นาขอ้ มูลดบิ ทห่ี าได้มาจับใจความสาคัญของเนอ้ื หา และย่อยใหก้ ระชบั ตรง ประเดน็
Groupยอ่ ยขอ้ มูลให้ กระชับแยกประเภทของข้อมลู ให้เปน็ หมวดหมู่
จดั หมวดหมู่ จดั ลาดบั ใจความสาคัญ
Draftการใสเ่ ทคนคิ ทาแผนภาพง่ายๆ สาหรบั เพอ่ื วางแผน ในการจดั วางเลเอาท์ ทั้งขอ้ มลู และรปู ภาพ
Draft ดไี ซน์ Designนาแผนภาพทีไ่ ด้มาออกแบบ ดว้ ยโปรแกรมเฉพาะทาง
แผนภาพสัมพันธก์ บั อนิ โฟกราฟิกแผนผงั ตาราง กราฟแผนภาพ การทาแผนภาพจะทาใหเ้ รา มที กั ษะทีจ่ าเป็น ทกั ษะการวิเคราะห์ ในการทาอนิ โฟกราฟกิ ครบทง้ั 3 อยา่ ง ทกั ษะ ทกั ษะในการเรียบเรยี ง ดา้ นดไี ซน์ 78
การจาแนกประเภทแผนภาพสามารถแบ่งประเภทแผนภาพเปน็ 6 ประเภทกรอบคิดเชิงนามธรรม กรอบคิดเชงิ รูปธรรมการไหล โครงสร้าง แบบรปู ภาพกลุม่ ก้อน แบบรัศมี การแสดงขอ้ มลู
กรอบคดิ เชงิ นามธรรม การไหล เชิงเส้น แบบวงกลม แยกออก/บรรจบกัน หลายทิศทาง
กรอบคดิ เชิงนามธรรม การไหล แบบเชิงเส้น เปน็ การไหลซึ่งมลี ักษณะเป็นกระบวนการ โดยมีจุดเรมิ่ ต้นและ จดุ สนิ้ สดุ ที่แนน่ อน แผนภาพแบบนส้ี ามารถเรยี งตามกนั เปน็ เส้นตรง หรือแสดงจุดของข้ันตอนตา่ งๆไปบนเส้นนั้นก็ได้
กรอบคดิ เชิงนามธรรม การไหล แบบวงกลม เป็นการไหลซ่งึ มลี กั ษณะต่อเนอื่ งโดยไม่มีจุดส้ินสดุ สามารถใชร้ ปู ทรงอะไรก็ไดท้ ม่ี ีลักษณะเปน็ วงบรรจบกนั
กรอบคิดเชิงนามธรรม การไหล แบบแยกออกและบรรจบ เป็นการไหลซงึ่ มลี ักษณะเป็นกระบวนการเดยี วแล้วมาแยก ออกจากกนั หรอื มากกว่า 1 กระบวนการแลว้ มาบรรจบกัน
กรอบคดิ เชงิ นามธรรม การไหล แบบหลายทิศทาง เปน็ การไหลซงึ่ มลี ักษณะแสดงถึงวามสัมพนั ธท์ ี่ซา้ ซ้อน เชน่ Flowchart ส่วนใหญเ่ ปน็ ผลมาจากแผนภาพประเภท Divergent และ Convergent
กรอบคดิ เชิงนามธรรม โครงสรา้ ง แบบตาราง แบบต้นไม้ แบบแยกกนั
กรอบคดิ เชงิ นามธรรม โครงสร้าง แบบตาราง เป็นโครงสร้างเชงิ เปรยี บเทียบระหวา่ งขอ้ มูลทแี่ ตกตา่ งกัน อย่างน้อย 2 ชุด อาจะเปน็ ข้อมลู ประเภทใชห่ รอื ไม่ใช่ ท่ีอยู่ ในรปู แบบ Checklist--------- -------- --------- ------------ -------- --------- ------------ -------- --------- ---
กรอบคดิ เชิงนามธรรม โครงสรา้ ง แบบต้นไม้ เป็นโครงสรา้ งเชงิ ระดบั ชนั้ ของความสมั พนั ธ์ ซึ่งความสัมพันธ์อาจแสดงออกระหวา่ งจดุ ใดจดุ หนึ่งกไ็ ด้
กรอบคดิ เชงิ นามธรรม โครงสรา้ ง แบบชน้ั เป็นโครงสร้างซึ่งแสดงองค์ประกอบทีซ่ ับซอ้ นกนั ข้ึนไป หรือ สร้างข้ึนอีกองค์ประกอบหน่งึ มนั สามารถอธิบายไดร้ ะดับ บงั คับบญั ชาและระดับการทางาน
กรอบคิดเชงิ นามธรรม กลุ่มกอ้ น แบบซ้อนเหล่อื ม แบบปดิ แบบลอมวง แบบเช่ือมต่อ
กรอบคิดเชิงนามธรรม กลมุ่ ก้อน แบบซอ้ นเหลือ่ ม เปน็ โครงสรา้ งซึง่ แสดงสว่ นซ้อนเหลื่อมกันและบ่งช้ีว่ามกี ล่มุ สนใจหรือความรับผดิ ชอบร่วมกัน บางคร้ังมันอาจกอ่ เป็น รปู ทรงหรือพน้ื ทใ่ี หมข่ ้นึ ในสว่ นทซี่ อ้ นเหล่อื มได้
กรอบคดิ เชิงนามธรรม กลุ่มก้อน แบบปดิ กลุ่มก้อนซง่ึ ปรากฏเม่ือรปู ทรงต่างๆประสานรวมเขา้ เป็นอีกรปู หน่ึง หลักภาพรวม (Principle of Gestalt) ทางจิตวิทยา ใช้ประโยชน์ ในการแสดงความคิดเห็น “การรวมกนั ของส่วนยอ่ ย เปน็ เร่อื งหน่งึ ท่มี ากกวา่ การมีแคส่ ่วนยอ่ ยท้ังหมด”
กรอบคดิ เชงิ นามธรรม กลมุ่ กอ้ น แบบลอ้ มวง กลุม่ กอ้ นซ่งึ มอี งคป์ ระกอบหนึ่งอย่าง ล้อมหรอื หอ่ ห้มุ องค์ประกอบ อน่ื ไว้ การรวมกลุ่มลักษณะนบ้ี ่งชว้ี า่ องคป์ ระกอบยอ่ ยชนั้ ไหนบ้าง ทเ่ี ปน็ ส่วนของลาดับที่ใหญ่ขน้ึ แลว้ ช้นิ ไหนบา้ งท่อี ยโู่ ดยลาพงั
กรอบคดิ เชิงนามธรรม กลุ่มกอ้ น แบบเชื่อมต่อ กล่มุ ก้อนซ่ึงมีการต่อเชื่อมกันเป็นองคป์ ระกอบ ท่มี ารวมหน่วย เดียวกันของกลุม่ รายการ องค์ประกอบทร่ี วมกันนี้ จะเชอื่ มโยงกับ กลมุ่ รายการตา่ งๆมันอาจจะอยู่ในลกั ษณะเส้น รูปทรง หรอื ตวั ตอ่ เช่ือมแบบไหนกไ็ ด้
กรอบคดิ เชิงนามธรรม แบบรศั มี แบบแตกออกจากจดุ ๆหนง่ึ แบบมแี กน แบบไมม่ ีแกน
กรอบคิดเชงิ นามธรรม กลุ่มรัศมี แตกออกจากจุดๆหน่งึ เกดิ ขึ้นเม่อื มกี ารระเบดื ออกในทศิ ทางเดียวกนั จากภาพหรอื จุด ซ่งึ เหน็ ไดช้ ดั เจนวา่ มกี ารจดุ ระเบิด
กรอบคิดเชิงนามธรรม กลมุ่ รศั มี แบบมแี กน เป็นความสัมพันธ์แบบแมก่ บั ลูก องค์ประกอบซงึ่ อยู่รอบนอจะ เชื่อมตอ่ กบั องคป์ ระกอบศูนยก์ ลาง เพ่อื รักษาครอบครัวให้อยู่ ด้วยกัน
กรอบคดิ เชิงนามธรรม กลมุ่ รัศมี แบบไม่มีแกน หมายถึงองค์ประกอบทง้ั หลายเชอื่ มโยงกนั ด้วยความใกล้ชดิ หรอื ความสนใจซ่ึงกนั องคป์ ระกอบเหล่านี้ผกู โยงทพ่ี ้นื ท่ีเดียวกนั
กรอบคดิ เชงิ รูปธรรม แบบรปู ภาพ บอกการทางาน เผยใหเ้ หน็ บอกทิศทาง บอกตาแหนง่ แสดงอิทธพิ ล
กรอบคิดเชงิ รูปธรรม แบบรปู ภาพ บอกการทางาน ภาพนง่ิ แสดงการทางานโดยลาดับในการผลิตหรอื ระบบ
กรอบคดิ เชิงรปู ธรรม แบบรปู ภาพ เผยให้เหน็ อธบิ ายถงึ ขอ้ มลู ท่ีซ่อนอยู่ด้วยการหน่ั ออก ลอกเปลือกหรือวิธใี ดๆท่ี เผยให้เหน็ การทางานดา้ นใน
กรอบคดิ เชงิ รปู ธรรม แบบรูปภาพ บอกทิศทาง เป็นการแสดงว่าจะไปทไี่ หนหรือจะไปถงึ อย่างไร ผังภาพแบบนีจ้ ะ แสดงจดุ เรม่ิ ตน้ แลปลายทางไว้ อาจบรรจุดว้ ยข้อความบอกทศิ ทาง
กรอบคิดเชิงรปู ธรรม แบบรปู ภาพ บอกแหนง่ แสดงวา่ สิ่งใดส่งิ หนึ่งอยทู่ ีใ่ ดในบรบิ ททางภมู ิศาสตร์ แผนที่ ระบบ หรือ รปู ทรง แผนภาพเหล่านตี้ อ้ งการให้ใส่ใจกับตาแหน่งท่ตี ้ัง ขณะเดยี วกนั ก็ให้ขยายความอธิบายไวด้ ้วย
กรอบคิดเชิงรปู ธรรม แบบรปู ภาพ บอกอิทธพิ ล เป็นการแสดงถงึ ผลกระทบจากปฏสิ มั พันธข์ องอคป์ ระกอบตา่ ง
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165