การแทนท่ีข้อมูลในคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์มีการทางาน 3 ข้ันตอน ได้แก่ การนาเข้าข้อมูล การประมวลผล และการแสดงผลข้อมูล ซึ่งกระบวนการดังกล่าวเป็นกระบวนการนาเสนอสารสนเทศให้มนุษย์เข้าใจ แต่ความจรงิ แล้วทุกสิ่งทุกอย่างที่นาเสนอ ไม่ว่าจะเป็นตัวเลข ตัวอักษร ข้อความ การเว้นวรรค ภาพ เสียง ภาพเคลื่อนไหว หรือคาสั่งต่าง ๆ นั้นเครื่องคอมพิวเตอร์จะใช้ เก็บ ประมวลผลในรูปแบบตัวเลขเท่านั้น และการแสดงผลต่าง ๆ ท่ีเป็นภาพ ข้อความ หรือเสียง เป็นเพียงหน่ึงในวธิ ีการนาเสนอ โดยใช้กลุ่มข้อมูลตัวเลขมาแปลหรือแสดงผลให้มนษุ ยเ์ ข้าใจ 1. การแทนที่ข้อมุลด้วยตัวเลข (Representint Data as Number) เลขฐานสิบ(Decimal) เป็นตัวเลขท่ีมนุษย์ปัจจุบันใช้ในชีวิตประจาวัน ซ่ึงตัวเลขประกอบด้วยเลข 0, 1,2, 3, .. จนถึงเลข 9 แต่การใช้ตัวเลขดังกล่าวไม่สามารถใช้แทนค่าในคอมพิวเตอรไ์ ด้เนื่องจากคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์ดิจิทัลจึงใช้เลขเพียง 2 ค่า ได้แก่ เลข 0 และ เลข 1 เท่าน้ัน ซ่ึงระบบเลขน้ี เรยี กว่า เลขฐานสอง (Binary Digit หรือ bit) 2. การแทนที่ข้อมูลด้วยรหัสอักขระ (Representing Characters : CharacterCode) รหัสอักขระ (Character Code) เป็นรหัสที่ใช้กาหนดว่าตัวอักขระ (ตัวอักษร ตัวเลขและสญั ลกั ษณ์) แตล่ ะตัวจะแทนด้วยบิตทเ่ี รียงกัน โดยจะแปลงอกั ขระท่ีใชก้ ันอยู่ให้เป็นตัวเลขทางคอมพิวเตอร์ (เลขฐานสอง)
1. ข้อมูลชนิดตวั อักษร (Character) คือ ข้อมูลท่ีเป็นรหสั แทนตวั อักษรหรือค่าจานวนเต็ม ไดแ้ ก่ ตัวอักษร ตัวเลขและกลุ่มตัวอักขระพิเศษใชพ้ ืน้ ทใ่ี นการเกบ็ ข้อมูล 1 ไบต ์2. ข้อมูลชนิดจานวนเต็ม (Integer) คือ ข้อมูลที่เป็นเลขจานวนเต็ม ได้แก่ จานวนเต็มบวก จานวนเต็มลบ และศูนย์ ข้อมูลชนิดจานวนเตม็ ใช้พื้นทใี่ นการเกบ็ ข้อมูล ขนาด 2ไบต์3. ข้อมูลชนิดจานวนเตม็ ที่มีขนาด 2 เท่า (Long Integer) คือ ขอ้ มูลท่เี ป็นเลขจานวนเตม็ ใช้พืน้ ทใี่ นการเกบ็ เป็น 2 เท่าของ Integer คือมขี นาด 4 ไบต ์4. ข้อมูลชนิดเลขทศนยิ ม (Float) คือ ข้อมูลทีเ่ ป็นเลขทศนิยม ขนาด 4 ไบต์5. ข้อมูลชนิดเลขทศนิยมอย่างละเอียด (Double) คือ ข้อมูลท่ีเป็นเลขทศนิยม ใช้พื้นท่ีในการเกบ็ ข้อมูลเป็น 2 เท่าของ float คือมีขนาด 8 ไบต์
สัญญาณอนาล็อก (Analog Signal) หมายถึง สัญญาณที่มีการเปลี่ยนแปลงหรือการเคลื่อนท่ีของ ข้อมูลแบบต่อเนื่อง (Continuouse Data) โดยสัญญาณจะมีขนาดไม่คงที่ มีการเปลี่ยนแปลงขนาดของ สัญญาณแบบค่อยเป็นค่อยไป และจะมีลักษณะเป็นเส้นโค้งต่อเนื่องกนั ไป ยกตัวอย่างเช่น การที่เราโยน ก้อนหนิ ลงน้า บนผวิน้าเราจะเห็นว่า น้าจะมกี ารเคลื่อนตวั เป็นคลื่น กระจายออกเป็นวงกลมรอบจุดทหี่ ินจมระดับคลื่นจะสังเกตุได้ว่าเร่ิมจากจุดกลางแล้วขึ้นสูง แล้วกลับมาที่จุดกลางแล้วลงต่าแล้วกลับมาท่ีจุดกลาง เป็นลักษณะนี้ติดต่อกันไป แต่ละคร้ังของวงรอบเราเรียกว่า 1Cycle โดยการเคลื่อนที่ของสัญญาณ อนาล็อก (Analog Signal) น้ี จะมีระยะทางและเวลาเป็นตัวกาหนดด้วย จึงทาให้มีผลต่อการส่งสัญญาณ อนาลอ็ ก (Analog Signal)ส่วนใหญ่จึงสามารถถูกรบกวนได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นจากส่ิงแวดล้อมภายนอก หรือจากตวั ของระบบอุปกรณ์เอง เพราะสัญญาณท่ีสง่ ออกไปนั้นจะเป็นสัญญาณจริง และเมื่อถูกรบกวนก็อาจ จะทาให้คลื่นสัญญาณมีการเปล่ียนไป จึงทาให้ผู้รับหรือปลายทางน้ันมีการแปลความหมายผิดพลาดได้ เช่น สัญญาณเสยี ง เปน็ ต้น
เป็นสัญญาณทางกายภาพที่เป็นตัวแทดับของค่าท่ีแยกจากกัน (สัญญาณท่ีมีปริมาณไม่ต่อเนื่องในแกนเวลา) เช่น กระแสบิตที่ไม่มีหลักเกณฑ์หรือสัญญาณแอนะล็อกที่ถูกทาเป็นบิตสตรีม สัญญาณดิจิทัลสามารถอ้างถึงอย่างใดอย่างหน่ึงต่อไปนี้ รูปคลื่นสัญญาณตามแกนเวลาท่ีต่อเนื่องใด ๆ ที่ใช้ในการสื่อสารแบบดิจิทัลโดยเป็นตัวแทนของกระแสบิตหรือลาดับอื่น ๆ ของค่าไม่ต่อเนื่อง ขบวนสัญญาณกระตุกที่สลับไปมาระหว่างจานวนไม่ต่อเนื่องของระดับแรงดันไฟฟ้า หรือ ระดับของความเข้มของแสงที่รู้กันว่าเป็นสัญญาณที่เข้ารหัส(อังกฤษ: line coded signal)หรือการส่งสัญญาณเบสแบนด์ ตัวอย่างเช่น สัญญาณที่พบในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ดิจิทัลหรือในการสื่อสารแบบอนุกรม หรือ pulse code modulation (PCM) ท่เี ป็นตัวแทนของสญั ญาณแอนะลอ็ กทีถ่ ูก digitized
สัญญาณรบกวน (Noise) เปน็ ผลกระทบอีกดา้ นหนง่ึ ทีท่ าให้สัญญาณข้อมูลเกิดความสูญเสยี โดยสัญญาณรบกวนมีอยู่หลายชนิด ประกอบด้วย- เทอร์มลั นอยส์ (Thermal Noise)- อิมพลั ส์นอยส์ (Impulse Noise)- ครอสทอล์ก (Crosstalk)- เอกโค (Echo)- จิตเตอร(์ Jitter)
1.การแกไ้ ขแบบไม่สง่ ข้อมูลซา้ (Hamming code)2.การแกไ้ ขแบบสง่ ขอ้ มูลซา้ (Error Detection With Retransmission)เชน่ แบบหยดุ คอย, แบบส่งย้อนกลบั , แบบตอ่ เนือ่ ง มาตรฐานการควบคุมความผดิ เพ้ยี นของข้อมูล เรยี กวา่ MNP : MicrocomNetworking Protocol พฒั นาโดยบริษัท Microcom. เปน็ มาตรฐานแบบde facto
Search
Read the Text Version
- 1 - 7
Pages: