45 สรุปผลการดาเนินงาน โครงการประกวดโครงงานส่ิงประดิษฐ์ นกั ศกึ ษา กศน.อาเภอโชคชยั ปงี บประมาณ 2564 ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอโชคชัย สานักงาน กศน.จังหวัดนครราชสมี า
ก43 คำนำ เอกสารประกอบโครงการประกวดโครงงานสิ่งประดษิ ฐ์ นกั ศึกษา กศน.อาเภอโชคชัย ศูนย์การศึกษา นอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอาเภอโชคชัย จัดทาขึน้ เพ่อื ประกอบการจัดกิจกรรมโครงงานสิ่งประดิษฐ์ เพื่อให้ นักศึกษา กศน.อาเภอโชคชัย ได้รับการพัฒนาทักษะ ความรู้ และกระบวนการจัดทาโครงงาน และส่งเสริมการ แสดงออกถึงความคดิ สรา้ งสรรค์ มีจินตนาการ ในแนวทางที่ถูกตอ้ ง และเหมาะสม คณะผ้จู ดั ทาหวงั เป็นอย่างย่งิ วา่ เอกสารประกอบการจัดกิจกรรม เล่มนี้ จะเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่สนใจ หากมขี อ้ ผดิ พลาดประการใด คณะผจู้ ัดทาจะนาไปปรบั ปรุง เพ่อื ให้เกิดประโยชน์ตอ่ การจัดกิจกรรมครั้งตอ่ ไป ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอโชคชยั มนี าคม 2564
สำรบัญ 4ข4 เน้อื หำ หนำ้ คานา ก ข สารบญั 1 บทที่ 1 บทนา 3 บทที่ 2 เอกสารการศกึ ษาและรายงานทเ่ี ก่ียวข้อง 8 12 บทที่ 3 การดาเนินงาน 19 บทท่ี 4 ผลการวเิ คราะหข์ ้อมูล 22 23 บทท่ี 5 สรปุ ผลและข้อเสนอแนะ 24 บรรณานุกรม 29 ภาคผนวก 30 34 ตารางวิเคราะห์ขอ้ มูลจาก spss 37 แบบประเมินโครงการ 41 42 รายชอื่ ผเู้ ข้ารว่ มโครงการ ภาพถา่ ยกจิ กรรม โครงการ กาหนดการ คณะผจู้ ัดทา
1 บทท่ี 1 บทนำ หลักกำรและเหตุผล แผนการศึกษาแหง่ ชาตฉิ บับปรบั ปรงุ (พ.ศ. 2560 - 2574) กาหนดวสิ ยั ทศั น์ให้คนไทยได้เรียนรู้ตลอด ชีวิตอย่างมีคุณภาพ โดยจดุ มุ่งหมายท่ีสาคญั ของแผนคอื การม่งุ เนน้ การประกันโอกาสและความเสมอภาคทาง การศกึ ษา การพัฒนาคณุ ภาพและมาตรฐานการศึกษา และการศึกษาเพื่อการมีงานทาและสร้างงานได้ภายใต้ บริบทเศรษฐกิจและสังคมของประเทศและของโลกที่ขับเคลือ่ นด้วยนวตั กรรมและความคดิ สรา้ งสรรค์ รวมทั้งมี ความเป็นพลวัต ภายใตส้ ังคมแห่งปญั ญา สังคมแหง่ การเรยี นรู้ และการสรา้ งสภาพแวดลอ้ มท่เี อื้อต่อการเรียนรู้ ตามศกั ยภาพสาหรับประชากรทุกชว่ งวยั ต้ังแต่เกิดจนตลอดชีวติ ทป่ี ระชาชนสามารถแสวงหาความรแู้ ละเรียนรู้ ได้ดว้ ยตนเองอย่างต่อเน่ืองตลอดชีวิต และมีเป้าหมายของการพัฒนาการศึกษา 5 ประการ ได้แก่ การเข้าถึง ความเท่าเทียม คุณภาพประสิทธิภาพ และการตอบโจทย์บริบทท่ีเปลี่ยนแปลงภายใต้บริบทเศรษ ฐกิจและ สังคมของประเทศและของโลกที่เป็นพลวัต ซึ่งกาหนดวิสัยทัศน์จุดมุ่งหมาย ความคาดหวัง เป้าหมายสุดท้าย ของแผน หลักการ/แนวคิด และยุทธศาสตร์/มาตรการ เพื่อการบรรลุเป้าหมายให้พลเมืองสามารถแสวงหา ความรู้และเรียนรู้ได้ดว้ ยตนเองอย่างตอ่ เนอ่ื งตลอดชีวิต สานกั งานส่งเสรมิ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั จดั การศึกษาตามหลกั สูตร การศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 โดยเน้นการฝึกกระบวนการเรียนรู้โดยใช้ กระบวนการ “คิดเป็น” ให้ผู้เรียนฝึกคิดวิเคราะห์สังเคราะห์ และแสวงหาความรู้ด้วยตนเองจากส่ือ เช่น สถานการณ์จรงิ ขา่ ว บทความ ทีเ่ กย่ี วข้องกบั เนือ้ หารายวิชา ท่ีกาลังเรียนรู้ ครูมีหน้าที่เป็นผู้กระตุ้น เสริมแรง ใชก้ ระบวนการเรยี นรู้ แบบมีส่วนร่วม ใหผ้ เู้ รียนทุกคนได้แลกเปล่ยี นเรียนรู้ ร่วมกันตลอดช่วงเวลาการพบกลุ่ม โดยครู ตั้งคาถามปลายเปิด ให้ผู้เรียนได้คิดร่วมอภิปราย เพ่ือ หาคาตอบจากประเด็นปัญหา และ พยายาม เชื่อมโยงเรื่องท่เี รยี นรู้ จากรายวิชานั้นเข้าสวู่ ิถชี ีวติ ของผเู้ รียน เพ่ือใหผ้ ู้เรยี นไดม้ องเห็นประโยชน์จากการมาพบ กลุ่ม การนาเสนอโครงงาน เปน็ อีกรูปแบบวิธเี รียน ท่ใี ห้ผู้เรียนนาเสนอความคิด และความก้าวหน้า ในการทา โครงงานตอ่ กลุ่มใหญ่ เพื่อให้ผู้เรียนคนอื่น และครูช่วยกันวิเคราะห์ซักถาม ให้ข้อเสนอแนะ คาแนะนา ทาให้ เกดิ การแลกเปล่ยี นเรยี นรู้ เปน็ การตอ่ ยอดทางความคิด และ นาไปส่กู ารพฒั นาโครงงานของนักศึกษา ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอโชคชัย ตระหนักถึงความสาคัญ ดังกล่าว ในการส่งเสริมให้นักศึกษามีความรู้ ความสามารถในการรวบรวมความรู้ที่ได้รับ จากการจัดการศึกษานอก ระบบระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน และสามารถเช่ือมโยงความรู้ ประสบการณ์ ที่มี นาไปใช้ในการจัดทา โครงงาน ชน้ิ งาน สง่ิ ประดษิ ฐ์ หรือสง่ิ ใหม่ ๆ ท่ีเกิดข้ึน นาไปใช้ประโยชน์ได้จริง และจากรายงานการประเมิน ตนเอง ประจาปี 2563 ได้มีการกาหนดแนวทาง เพื่อรักษาคุณภาพ หรือพัฒนาคุณภาพการศึกษา ท่ี สถานศึกษาคาดว่าจะนาไปดาเนินการในปีงบประมาณถัดไป ข้อท่ี 1 สถานศึกษาควรจัดแข่งขันประกวด โครงงาน ชน้ิ งาน ส่งิ ประดษิ ฐ์ งานสรา้ งสรรค์ ระดบั กศน.อาเภอ ทุกภาคเรยี นอย่างตอ่ เนื่อง จงึ ไดจ้ ัด โครงการ ประกวดโครงงานส่งิ ประดษิ ฐ์ นักศึกษา กศน.อาเภอโชคชยั ขนึ้ วัตถุประสงค์ เพื่อให้นักศกึ ษา กศน.อาเภอโชคชยั ไดร้ บั การพฒั นาทักษะ ความรู้ และกระบวนการจัดทาโครงงาน และส่งเสริมการแสดงออกถงึ ความคิดสรา้ งสรรค์ มจี ินตนาการ ในแนวทางท่ถี กู ต้อง และเหมาะสม
2 เป้ำหมำย เชงิ ปรมิ าณ นกั ศกึ ษา กศน.อาเภอโชคชัย จานวน 100 คน เชิงคณุ ภาพ นักศึกษา กศน.อาเภอโชคชยั ทีเ่ ข้าร่วมโครงการร้อยละ 90 มีความรู้ ทกั ษะ กระบวนการ จดั ทาโครงงาน กลา้ แสดงออกอยา่ งสร้างสรรค์ พัฒนาความสามารถพิเศษ หรือพรสวรรค์ นาไปใชใ้ นการ ดารงชีวิตของตนเอง ผรู้ บั ผิดชอบโครงกำร ครู อาสาสมคั ร กศน. -นายสมชาย มุ่งภู่กลาง ครู กศน.ตาบล -นายดนพุ ล เจียร์สุคนธ์ ครู กศน.ตาบล -นางสาวสาวิกา ดอกกระโทก ผลลัพธ์ (Outcomes) นักศึกษา กศน.อาเภอโชคชัย มีความรู้ ทักษะ เข้าใจกระบวนการจัดทาโครงงาน กล้าแสดงออกอย่าง สรา้ งสรรค์ ไดร้ บั การพฒั นาความสามารถพเิ ศษ หรือพรสวรรค์ของตนเอง มจี ินตนาการในแนวทางท่ถี ูกตอ้ ง กำรติดตำมและกำรประเมนิ ผลโครงกำรประกวดโครงงำน - แบบประเมินโครงการ - สังเกตการมีส่วนร่วมในกจิ กรรม
3 บทที่ 2 เอกสำรกำรศกึ ษำและงำนวิจยั ที่เกี่ยวขอ้ ง ในการจัดทารายงานคร้ังนไ้ี ดท้ าการศกึ ษาคน้ คว้าเนอื้ หาจากเอกสารการศึกษาและงานวิจัยที่ เก่ยี วขอ้ ง ดงั ต่อไปน้ี - ความหมายของโครงงาน - ประเภทของโครงงาน - ข้นั ตอนการทาโครงงาน - การเขียนรายงานโครงงาน - งานวิจัยที่เกยี่ วขอ้ ง ควำมหมำยของโครงงำน โครงงานหมายถึง กิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้าและลงมือปฏิบัติด้วยตนเองตาม ความสามารถ ความถนัด และความสนใจ โดยอาศยั กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ หรอื กระบวนการอื่นใดไปใช้ ในการศึกษาหาคาตอบในเรอื่ งนน้ั ๆ โดยมคี รผู สู้ อนคอยกระตุ้นแนะนาและให้คาปรึกษาแก่ผู้เรียนอย่างใกล้ชิด ตัง้ แตก่ ารเลือกหัวขอ้ ท่จี ะศกึ ษา ค้นควา้ ดาเนนิ การ วางแผน กาหนดข้ันตอนการดาเนินงาน โดยท่ัวๆ ไป การ ทาโครงงานสามารถทาไดท้ กุ ระดับการศกึ ษา ซง่ึ อาจทาเปน็ รายบุคคลหรือเป็นกลุ่มก็ได้ ท้ังนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะ ของโครงงาน อาจเปน็ โครงงานเล็กๆ ทไี่ มย่ งุ่ ยากซบั ซอ้ นหรอื เป็นโครงงานใหญท่ ่มี คี วามยากและซับซอ้ นข้นึ ประเภทของโครงงำน โครงงานสามารถแบ่งตามลกั ษณะของกจิ กรรมได้ 4 ประเภท ดังน้ี 1 โครงงานประเภทสารวจ โครงงานประเภทสารวจ เป็นโครงงานประเภทเก็บรวบรวมข้อมูลเพ่ือหาสาเหตุของปัญหาหรือ สารวจความคิดเห็น ข้อมูลท่ีรวบรวมได้บางอย่างอาจเป็นปัญหาที่นาไปสู่การทดลองหรือค้นพบสาเหตุของ ปัญหาท่ีต้องหาวิธีแก้ไขปรับปรุงร่วมกัน เช่น โครงงานการสารวจคาที่มักเขียนผิด โครงงานสารวจการใช้คา คะนองในหนังสอื พิมพ์ เปน็ ตน้ 2 โครงงานประเภทการทดลอง โครงงานประเภทการทดลอง เป็นโครงงานท่ีต้องออกแบบทดลอง เพ่ือการศึกษาผลการทดลองว่า เป็นไปตามท่ีตั้งสมมติฐานไว้หรือไม่ โครงงานประเภทนี้ต้องสรุปความรู้หรือผลการทดลองเป็นหลักการหรือ แนวทางการปฏิบตั ิไว้ เชน่ โครงงานการทดลองยากันยุงจากพืชสมุนไพร โครงงานการทดลองปลูกพืชสวนครัว โดยใชป้ ุ๋ยวทิ ยาศาสตร์ เปน็ ต้น 3 โครงงานประเภทสิ่งประดษิ ฐ์ โครงงานประเภทสิ่งประดิษฐ์ เป็นโครงงานท่ีประยุกต์หลักการทางวิทยาศาสตร์เข้าสู่กระบวนการ ปฏบิ ตั ิ โดยอาศยั เคร่อื งมือ วสั ดุ อุปกรณ์ เพือ่ ประดิษฐช์ ิน้ งานใหม่ อาจเปน็ ของใช้ เครื่องประดับจากวัสดุเหลือ ใช้ หรือนาวัสดุท้องถิ่นที่มีมากมายมาใช้ให้เกิดประโยชน์ เช่น โครงงานการประดิษฐ์เคร่ืองจักสานจาก ผกั ตบชวา โครงงานการประดิษฐ์เครอ่ื งชว่ ยสอนวิชาภาษาอังกฤษ เป็นต้น 4 โครงงานประเภททฤษฎี โครงงานประเภททฤษฎี เปน็ โครงงานท่ีมลี ักษณะเปน็ การหาความรใู้ หม่ โดยการรวบรวมข้อมูลและ นามาวเิ คราะหจ์ ากสถติ แิ ล้วอภปิ ราย หรือเป็นโครงงานที่ศกึ ษาคน้ คว้าข้อมูลท่เี กิดจากขอ้ สงสัย อาจเป็นการนา บทเรียนมาขยายเพ่อื ศกึ ษาข้อมูลเพ่ิมเติมให้ได้ความรู้ในแง่มุมที่กว้างและลึกกว่าเดิม เช่น โครงงานการศึกษา คาซ้อนในวรรณคดีรอ้ ยแกว้ โครงงานการศกึ ษาขอ้ คดิ จากเร่ืองพระมโหสถชาดก เป็นตน้
4 ข้นั ตอนกำรทำโครงงำน การทาโครงงานมขี ้นั ตอนการปฏิบัติ ดังนี้ 1 การคดิ และการเลอื กหัวเรอื่ ง ผู้เรียนจะต้องคิด และเลือกหัวเรื่องของโครงงานดว้ ยตนเองว่าอยากจะศกึ ษาอะไร ทาไมจงึ อยากศึกษา หัวเรอ่ื งของโครงงานมักจะได้มาจากปัญหา คาถามหรือความอยากรู้อยากเห็นเก่ียวกับเรื่องต่างๆ ของผู้เรียน เอง หัวเร่ืองของโครงงานควรเฉพาะเจาะจงและชัดเจน เม่ือใครได้อ่านชื่อเร่ืองแล้วควรเข้าใจและรู้เรื่องว่า โครงงานนท้ี าจากอะไร การกาหนดหัวเร่ืองของโครงงานน้ันมีแหล่งท่ีจะช่วยกระตุ้นให้เกิดความคิดและความ สนใจหลายแหล่งด้วยกัน เช่น จากการอ่านหนังสือ เอกสาร บทความ การเย่ียมชมสถานที่ต่างๆ การฟัง บรรยายทางวชิ าการ การเขา้ ชมนิทรรศการหรืองานประกวดโครงงานทางวิทยาศาสตร์ การสนทนากับบุคคล ตา่ งๆ หรือจาการสงั เกตปรากฏการณ์ตา่ งๆ รอบตัว เปน็ ต้น นอกจากน้ี ควรคานงึ ถงึ ประเดน็ ต่อไปน้ี - ความเหมาะสมของระดบั ความรู้ ความสามารถของผู้เรยี น - วสั ดุ อปุ กรณ์ ที่ใช้ - งบประมาณ - ระยะเวลา - ความปลอดภัย - แหลง่ ความรู้ 2 การวางแผน การวางแผนการทาโครงงาน จะรวมถึงการเขียนเค้าโครงของโครงงาน ซึ่งต้องมีการวางแผนไว้ ล่วงหน้า เพ่ือให้การดาเนินการเป็นไปอย่างรัดกุมและรอบคอบ ไม่สับสน แล้วนาเสนอต่อผู้สอนหรือครูที่ ปรึกษาเพ่ือขอความเห็นชอบก่อนดาเนินการขั้นต่อไป การเขียนเค้าโครงของโครงงาน โดยทั่วไป เขียนเพ่ือ แสดงแนวคดิ แผนงาน และขนั้ ตอนการทาโครงงาน ซ่งึ ควรประกอบดว้ ยหัวขอ้ ต่อไปนี้ 1) ชื่อโครงงาน ควรเป็นขอ้ ความท่กี ะทัดรัด ชดั เจน สื่อความหมายได้ตรง 2) ชื่อผูท้ าโครงงาน 3) ช่อื ท่ปี รึกษาโครงงาน 4) หลักการและเหตุผลของโครงงาน เป็นการอธิบายว่าเหตุใดจึงเลือกทาโครงงานเร่ืองนี้ มี ความสาคัญอย่างไร มีหลักการหรือทฤษฎีอะไรที่เก่ียวข้อง เรื่องท่ีทาเป็นเร่ืองใหม่หรือมีผู้อื่นได้ศึกษาค้นคว้า เรอ่ื งนี้ไว้บา้ งแล้ว ถา้ มีได้ผลอยา่ งไร เร่อื งท่ที าได้ขยายเพิ่มเติม ปรับปรุงจากเร่ืองท่ีผู้อ่ืนทาไว้อย่างไร หรือเป็น การทาซา้ เพอื่ ตรวจสอบผล 5) จุดม่งุ หมายหรือวตั ถุประสงค์ควรมคี วามเฉพาะเจาะจง และสามารถวัดได้ เป็นการบอกขอบเขต ของงานทจ่ี ะทาไดช้ ดั เจนขน้ึ 6) สมมตฐิ านของการศึกษาคน้ ควา้ (ถา้ ม)ี สมมติฐานเป็นคาตอบหรือคาอธิบายที่คาดไว้ล่วงหน้า ซึ่ง อาจจะถูกหรือไม่ก็ได้ การเขียนสมมติฐานควรมีเหตุมีผลมีทฤษฎีหรือหลักการรองรับ และที่สาคัญ คือ เป็น ข้อความที่มองเห็นแนวทางในการดาเนินการทดสอบได้ นอกจากนี้ควรมีความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรอิสระ และตวั แปรตามดว้ ย 7) วิธดี าเนินงานและขนั้ ตอนการดาเนนิ งาน จะต้องอธิบายว่า จะออกแบบการทดลองอะไรอย่างไร จะเกบ็ ข้อมลู อะไรบ้างรวมทั้งระบุวสั ดอุ ุปกรณ์ท่ีจาเปน็ ตอ้ งใช้ มอี ะไรบา้ ง 8) แผนปฏิบัติงาน อธิบายเกี่ยวกับกาหนดเวลาต้ังแต่เร่ิมต้นจนเสร็จส้ินการดาเนินงานในแต่ละ ขั้นตอน 9) ผลท่ีคาดว่าจะได้รับ 10) เอกสารอา้ งองิ
5 3 การดาเนนิ งาน เมอ่ื ทปี่ รกึ ษาโครงงานใหค้ วามเหน็ ชอบเค้าโครงของโครงงานแล้ว ต่อไปก็เป็นข้ันลงมือปฏิบัติงานตาม ขั้นตอนที่ระบุไว้ ผู้เรียนต้องพยายามทาตามแผนงานท่ีวางไว้ เตรียมวัสดุอุปกรณ์และสถานที่ให้พร้อม ปฏบิ ัตงิ านด้วยความละเอียดรอบคอบ คานงึ ถงึ ความประหยัดและปลอดภัยในการทางาน ตลอดจนการบันทึก ข้อมลู ต่างๆ ว่าได้ทาอะไรไปบ้าง ได้ผลอย่างไร มีปัญหาและข้อคิดเห็นอย่างไร พยายามบันทึกให้เป็นระเบียบ และครบถ้วน 4 การเขียนรายงาน การเขียนรายงานเกี่ยวกบั โครงงาน เป็นวิธสี อ่ื ความหมายวิธีหนง่ึ ทจี่ ะใหผ้ ูอ้ นื่ ไดเ้ ข้าใจถงึ แนวคิด วิธีการ ดาเนนิ งาน ผลท่ีได้ ตลอดจนข้อสรุปและข้อเสนอแนะต่างๆ ท่ีเก่ียวกับโครงงานนั้น การเขียนโครงงานควรใช้ ภาษาที่อา่ นแล้วเข้าใจงา่ ย ชัดเจนและครอบคลุมประเด็นสาคญั ๆ ทัง้ หมดของโครงงาน 5 การนาเสนอผลงาน การนาเสนอผลงาน เป็นข้ันตอนสุดท้ายของการทาโครงงานและเข้าใจถึงผลงานน้ัน การนาเสนอ ผลงานอาจทาได้หลายรูปแบบ ข้ึนอยู่กับความเหมาะสมต่อประเภทของโครงงาน เน้ือหา เวลา ระดับของ ผู้เรียน เช่น การแสดงบทบาทสมมติ การเล่าเรื่อง การเขียนรายงาน สถานการณ์จาลอง การสาธิต การจัด นิทรรศการ ซึ่งอาจมีทั้งการจัดแสดงและการอธิบายด้วยคาพูด หรือการรายงานปากเปล่า การบรรยาย สิ่ง สาคัญคอื พยายามทาให้การแสดงผลงานนั้นดึงดูดความสนใจของผู้ชม มีความชัดเจน เข้าใจง่าย และมีความ ถูกต้องของเน้ือหา กำรเขยี นรำยงำนโครงงำน การเขียนรายงานโครงงานเป็นรูปแบบหน่ึงของการนาเสนอผลงานของโครงงานที่ผู้เรียนได้ศึกษา คน้ คว้าตง้ั แตต่ น้ จนจบ การกาหนดหวั ข้อในการเขียนรายงานโครงงานอาจไมร่ ะบุตายตัวเหมือนกนั ทุกโครงงาน ส่วนประกอบของหัวข้อในรายงานต้องเหมาะสมกับประเภทของโครงงานและระดับช้ันของผู้เรียน องค์ประกอบของการเขียนรายงานโครงงาน แบ่งกวา้ งๆ เป็น 3 ส่วน ดังนี้ 1. สว่ นปกและส่วนต้น สว่ นปกและส่วนต้น ประกอบดว้ ย 1) ชอ่ื โครงงาน 2) ชอ่ื ผู้ทาโครงงาน ช้ัน โรงเรยี น และวันเดือนปีทีจ่ ัดทา 3) ช่ืออาจารย์ทป่ี รึกษา 4) คานา 5) สารบัญ 6) สารบัญตาราง หรอื ภาพประกอบ (ถ้ามี) 7) บทคดั ย่อสน้ั ๆ ที่บอกเค้าโครงอยา่ งยอ่ ๆ ซึง่ ประกอบดว้ ย เรอื่ ง วตั ถปุ ระสงค์ วธิ ีการศกึ ษา ระยะเวลา และสรุปผล 8) กิตตกิ รรมประกาศ เพื่อแสดงความขอบคุณบุคคล หรือหนว่ ยงานทีใ่ ห้ความชว่ ยเหลือหรือ มีสว่ นเก่ียวข้อง 2. ส่วนเน้ือเรอ่ื ง ส่วนเน้อื เร่ือง ประกอบด้วย 1) บทนา บอกความเป็นมา ความสาคัญของโครงงาน บอกเหตุผล หรอื เหตุจูงใจในการเลือก หวั ข้อโครงงาน 2) วัตถุประสงค์ของโครงงาน
6 3) สมมติฐานของการศกึ ษาค้นควา้ 4) การดาเนินงาน อาจเขียนเป็นตาราง แผนผังโครงงานเพ่ือให้การดาเนินงานเป็นไปตาม หัวข้อเร่ือง ตรงตามวัตถุประสงค์ของโครงงาน และพิสูจน์คาตอบ (สมมติฐาน) ตามประเด็นที่กาหนด ดัง ตวั อย่างการเขยี นแผนผงั โครงงานตอ่ ไปน้ี ในแผนผงั โครงงานทาใหเ้ หน็ ระบบการทางานอย่างมีเป้าหมาย มีการวางแผนการทางาน จะเห็นได้ วา่ สง่ิ ทต่ี ้องการทราบ คือ หัวข้อย่อย หรือคาถามย่อยของหัวข้อโครงงาน ถ้ามีมาก 1 ข้อ ก็จะเรียงลาดับทีละ หวั ขอ้ พรอ้ มทั้งบอกสมมตฐิ าน วธิ ีศึกษา และแหล่งศึกษาคน้ ควา้ ตามแผนผังให้ครบทุกข้อ ส่ิงที่ต้องการทราบ สมมตฐิ าน วธิ ีการศกึ ษา แหลง่ ศกึ ษา/แหล่งข้อมลู หัวข้อย่อยจากหัวขอ้ เร่ืองของโครงงานท่ีต้องการหาคาตอบ การตอบคาถามลว่ งหน้า คน้ คว้า สอบถาม สัมภาษณ์ สังเกต ศึกษาโดยการดู-ฟัง จากสื่อชนิดต่างๆ - เอกสาร หนงั สอื - สถานท่ี บคุ คล 5) สรุปผลการศึกษา เป็นการอธิบายคาตอบท่ีได้จากการศึกษาค้นคว้า ตามหัวข้อย่อยที่ ตอ้ งการทราบ วา่ เปน็ ไปตามสมมตฐิ านหรอื ไม่ 6) อภิปรายผล บอกประโยชน์ หรือคุณค่าของผลงานที่ได้ และบอกข้อจากัดหรือปัญหา อปุ สรรค (ถ้ามี) พร้อมทั้งบอกข้อเสนอแนะในการศกึ ษาค้นคว้า โครงงานลกั ษณะใกล้เคยี งกนั 3. สว่ นทา้ ย สว่ นทา้ ย ประกอบด้วย 1) บรรณานุกรม หรือ เอกสารอ้างอิง หรือเอกสารท่ีใช้ค้นคว้า ซ่ึงมีหลายประเภท เช่น หนังสือ ตารา บทความ หรือคอลมั น์ ซ่งึ จะมีวิธกี ารเขียนบรรณานกุ รมต่างกนั เช่น หนังสอื ชือ่ นามสกุล. ชื่อหนงั สือ. สถานที่พิมพ์ : สานักพมิ พ์, ปีทีพ่ มิ พ์ บทความในวารสาร ช่ือผเู้ ขยี น \"ช่ือบทความ,\" ชือ่ วารสาร. ปที ี่หรือเล่มที่ : หนา้ ;วนั เดอื น ปี. คอลัมนจ์ ากหนังสอื พิมพ์ ช์ ่ือผู้เขียน \"ช่ือคอลมั น์ : ชอ่ื เร่ืองในคอลัมน์\" ช่ือหนังสือพิมพ์.วัน เดือน ปี. หนา้ . 2) ภาคผนวก เช่น โครงรา่ งโครงงาน ภาพกจิ กรรม แบบสอบถาม บทสัมภาษณ์ งำนวิจยั ทีเ่ กี่ยวขอ้ ง สรุ างค์ ตระกูลราษฎร์ (2549, บทคดั ยอ่ ) ไดศ้ กึ ษาการเปรียบเทยี บผลการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์ของ นักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ 5 ระหว่างการสอนแบบโครงงานวิทยาศาสตร์กับการสอนแบบปกติ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบผลการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์ 3 ด้านคือ ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และเจตคติต่อวิทยาศาสตร์ของ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีท่ี 5 ท่ีได้รับ การสอนแบบโครงงานวิทยาศาสตร์กับการสอนแบบปกติ กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีท่ี 5 สังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษานครปฐม เขต 2 ปีการศึกษา 2547 ใช้วิธีสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) ได้นักเรียนช้ันประถมศึกษาปีท่ี 5 โรงเรียนวัดดอนหวาย (นครรัฐประสาท) จานวน 2 ห้องเรียน ซ่ึงนักเรียนมีความสามารถคละกันทุกห้องเรยี น ห้องเรียนละ 36 คน ห้องที่ 1 สอนแบบโครงงานวิทยาศาสตร์ ห้องที่ 2 สอนแบบปกติ ใช้เวลาในการสอนกลุ่มละ 25 ชั่วโมง เคร่ืองมือที่ใช้ในการทดลอง ได้แก่ แผนการ จัดการเรียนรแู้ บบโครงงานวิทยาศาสตร์ และแผนการจัดการเรยี นรแู้ บบปกติ เครื่องมือท่ีใช้ในการเก็บรวบรวม ข้อมูลได้แก่แบบวัดผลการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์ 3 ฉบับ คือ แบบทดสอบความรู้ทางวิทยาศาสตร์ แบบทดสอบทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และแบบสอบถามเจตคติต่อวิทยาศาสตร์ สถิติท่ีใช้ใน การวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าเฉล่ีย ( ) ค่าส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน (S.D) และการทดสอบที (t-test) แบบ Independent ผลการวจิ ัยพบวา่ 1. ผลการเรียนรูท้ างวิทยาศาสตรข์ องนกั เรียนช้ันประถมศึกษาปีท่ี 5 ที่ได้รับ การสอนแบบ โครงงานวทิ ยาศาสตร์ ดา้ นความรทู้ างวทิ ยาศาสตร์ และด้านทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์
7 อยู่ในระดับปานกลาง ส่วนเจตคติต่อวิทยาศาสตร์ อยู่ในระดับดี 2. นักเรียนท่ีได้รับการสอนแบบโครงงาน วทิ ยาศาสตรม์ คี วามร้ทู างวทิ ยาศาสตร์ ทกั ษะ กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ และเจตคติต่อวิทยาศาสตร์สูงกว่า นกั เรยี นทไี่ ดร้ ับการสอนแบบปกติอย่างมีนยั สาคญั ทางสถิตทิ ร่ี ะดบั .05 ปณุ ณวฒั น์ เพช็ รจิตร์ (2552, บทคดั ยอ่ ) ได้ศึกษาการพัฒนาการสอนแบบโครงงาน สาหรับนักเรียน มัธยมศึกษาตอนปลาย กรณีศึกษาโรงเรียนภูหลวงวิทยา อาเภอภูหลวง จังหวัดเลย มีวัตถุประสงค์ 1 เพ่ือ ศกึ ษาและปญั หาการสอน แบบโครงงาน 2 ศึกษาความคาดหวังของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย 3 ศึกษา แนวทางการ พัฒนาการสอนแบบโครงงาน 4 เพ่อื ศกึ ษาการพฒั นาการสอนแบบ โครงงาน สาหรับนักเรียนมัธยมศึกษาตอน ปลาย โรงเรียนภูหลวงวิทยาและ 5 ศึกษาผลการพัฒนาการสอนแบบโครงงาน สาหรับนักเรียน มัธยมศึกษา ตอนปลาย โรงเรียนภูหลวงวิทยา เทคนิคทีใ่ ชใ้ นการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่การสัมภาษณ์เชิงลึก และเทคนิค การสนทนากลุม่ วเิ คราะห์ข้อมูลโดยการ วิเคราะหข์ ้อมูลเชิงคุณภาพ ผลการวิจัยพบว่า การศึกษาสภาพปัญหา การสอนแบบโครงงานสาหรับนักเรียน ผู้บริหารโรงเรียน ครู และคณะกรรมการสถานศึกษา มีความรู้ความ เข้าใจที่ชดั เจนเก่ียวกบั การบรหิ ารหลักสตู ร มคี วามตระหนักถึงความสาคญั ของหลักสูตรการสอนแบบโครงงาน มคี วามร้คู วามเข้าใจในการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่ยึดผู้เรียนเป็นสาคัญ ผู้บริหารมีความสามารถให้คาแนะนา กับครูได้ ครูมีทักษะในการจัดกระบวนการเรียนรู้ทีเ่ นน้ การทาโครงงาน มกี ารนาผลการวัดและประเมินผลมาใช้ ในการพัฒนากระบวนการเรยี นรู้ พฒั นาผู้เรียนและพัฒนาการสอนแบบโครงงาน พบว่า ครูยังขาดการพัฒนา ดา้ นสื่อเทคโนโลยีและแหลง่ เรยี นรู้
8 บทท่ี 3 วิธีกำรดำเนนิ งำน การดาเนินงาน โครงการประกวดโครงงานสิ่งประดิษฐ์ นักศึกษา กศน.อาเภอโชคชัย คณะทางานได้ ดาเนนิ งาน ดังน้ี 1. สารวจกลุ่มเป้าหมาย เพื่อสารวจกลุ่มเป้าหมายนักศึกษา กศน.อาเภอโชคชัย จังหวัด นครราชสีมา จานวน 100 คน ในเดือนมกราคม 2564 ณ กศน.อาเภอโชคชัย อาเภอโชคชัย จังหวัด นครราชสีมา 2. ประชุมและวางแผน เพ่ือชี้แจงวัตถุประสงค์และหาแนวทางในการดาเนินงาน ในเดือน มกราคม 2564 ณ กศน.อาเภอโชคชยั อาเภอโชคชัย จังหวดั นครราชสมี า 3. เสนอขออนุมัติโครงการประกวดโครงงาน/แต่งต้ังคณะทางาน เพ่ือขอรับการสนับสนุน งบประมาณดาเนนิ งาน ในเดอื นมกราคม 2564 ณ กศน.อาเภอโชคชัย อาเภอโชคชยั จงั หวัดนครราชสีมา 4. จัดเตรียมสื่อ/วัสดุ/กิจกรรม/ประสานงานภาคีเครือข่าย เพ่ือจัดเตรียมสื่อ/สถานที่/ ประสานวิทยากร ในเดอื นกุมภาพันธ์ 2564 ณ กศน.อาเภอโชคชยั อาเภอโชคชัย จงั หวัดนครราชสีมา 5. ดาเนนิ การจัดกิจกรรมตามโครงการประกวดโครงงานส่ิงประดิษฐ์ นักศึกษา กศน.อาเภอ โชคชัย ในวันท่ี 19 มีนาคม 2564 ณ กศน.อาเภอโชคชัย อาเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา โดยจัดกิจกรรม ให้ความรู้ และฝกึ ปฏบิ ัตใิ นหวั ขอ้ ดงั ต่อไปน้ี ควำมหมำยของโครงงำน โครงงานหมายถึง กิจกรรมท่ีเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้าและลงมือปฏิบัติด้วยตนเองตาม ความสามารถ ความถนัด และความสนใจ โดยอาศัยกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ หรือกระบวนการอื่นใดไปใช้ ในการศกึ ษาหาคาตอบในเรือ่ งนน้ั ๆ โดยมคี รผู ้สู อนคอยกระตุ้นแนะนาและให้คาปรึกษาแก่ผู้เรียนอย่างใกล้ชิด ต้ังแต่การเลือกหัวขอ้ ท่ีจะศกึ ษา ค้นคว้า ดาเนินการ วางแผน กาหนดข้ันตอนการดาเนินงาน โดยท่ัวๆ ไป การ ทาโครงงานสามารถทาไดท้ ุกระดบั การศกึ ษา ซึ่งอาจทาเป็นรายบคุ คลหรือเป็นกลุ่มก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะ ของโครงงาน อาจเปน็ โครงงานเล็กๆ ท่ไี มย่ งุ่ ยากซบั ซอ้ นหรือเป็นโครงงานใหญท่ ่มี ีความยากและซบั ซอ้ นขนึ้ ประเภทของโครงงำน โครงงานสามารถแบง่ ตามลักษณะของกจิ กรรมได้ 4 ประเภท ดงั นี้ 1 โครงงานประเภทสารวจ โครงงานประเภทสารวจ เป็นโครงงานประเภทเก็บรวบรวมข้อมูลเพ่ือหาสาเหตุของ ปัญหาหรือ สารวจความคิดเห็น ข้อมูลท่ีรวบรวมได้บางอย่างอาจเป็นปัญหาที่นาไปสู่การทดลองหรือค้นพบสาเหตุของ ปัญหาที่ต้องหาวิธีแก้ไขปรับปรุงร่วมกัน เช่น โครงงานการสารวจคาท่ีมักเขียนผิด โครงงานสารวจการใช้คา คะนองในหนังสือพิมพ์ เปน็ ต้น 2 โครงงานประเภทการทดลอง โครงงานประเภทการทดลอง เป็นโครงงานที่ต้องออกแบบทดลอง เพ่ือการศึกษาผลการทดลองว่า เป็นไปตามท่ีตั้งสมมติฐานไว้หรือไม่ โครงงานประเภทนี้ต้องสรุปความรู้หรือผลการทดลองเป็นหลักการหรือ แนวทางการปฏิบตั ไิ ว้ เชน่ โครงงานการทดลองยากันยุงจากพชื สมนุ ไพร โครงงานการทดลองปลูกพืชสวนครัว โดยใชป้ ยุ๋ วิทยาศาสตร์ เป็นตน้ 3 โครงงานประเภทสง่ิ ประดิษฐ์ โครงงานประเภทสิ่งประดิษฐ์ เป็นโครงงานท่ีประยุกต์หลักการทางวิทยาศาสตร์เข้าสู่กระบวนการ ปฏบิ ตั ิ โดยอาศัยเครอ่ื งมือ วัสดุ อุปกรณ์ เพ่อื ประดษิ ฐช์ ้นิ งานใหม่ อาจเป็นของใช้ เครื่องประดับจากวัสดุเหลือ
9 ใช้ หรือนาวัสดุท้องถ่ินท่ีมีมากมายมาใช้ให้เกิดประโยชน์ เช่น โครงงานการประดิษฐ์เครื่องจักสานจาก ผกั ตบชวา โครงงานการประดิษฐเ์ คร่ืองช่วยสอนวชิ าภาษาอังกฤษ เป็นตน้ 4 โครงงานประเภททฤษฎี โครงงานประเภททฤษฎี เป็นโครงงานทมี่ ีลักษณะเปน็ การหาความรูใ้ หม่ โดยการรวบรวมข้อมูลและ นามาวเิ คราะหจ์ ากสถิติแล้วอภปิ ราย หรือเป็นโครงงานท่ีศกึ ษาคน้ ควา้ ขอ้ มลู ทเ่ี กิดจากข้อสงสัย อาจเป็นการนา บทเรียนมาขยายเพ่ือศกึ ษาข้อมูลเพิ่มเติมให้ได้ความรู้ในแง่มุมท่ีกว้างและลึกกว่าเดิม เช่น โครงงานการศึกษา คาซ้อนในวรรณคดรี ้อยแก้ว โครงงานการศึกษาข้อคดิ จากเรอื่ งพระมโหสถชาดก เปน็ ต้น ข้ันตอนกำรทำโครงงำน การทาโครงงานมขี ั้นตอนการปฏบิ ัติ ดังน้ี 1 การคิดและการเลือกหวั เร่อื ง ผเู้ รยี นจะต้องคดิ และเลอื กหัวเรอ่ื งของโครงงานดว้ ยตนเองว่าอยากจะศึกษาอะไร ทาไมจึงอยากศกึ ษา หัวเรื่องของโครงงานมกั จะได้มาจากปัญหา คาถามหรือความอยากรู้อยากเห็นเก่ียวกับเรื่องต่างๆ ของผู้เรียน เอง หัวเร่ืองของโครงงานควรเฉพาะเจาะจงและชัดเจน เม่ือใครได้อ่านช่ือเร่ืองแล้วควรเข้าใจและรู้เรื่องว่า โครงงานนที้ าจากอะไร การกาหนดหัวเรื่องของโครงงานน้ันมีแหล่งท่ีจะช่วยกระตุ้นให้เกิดความคิดและความ สนใจหลายแหล่งด้วยกัน เช่น จากการอ่านหนังสือ เอกสาร บทความ การเยี่ยมชมสถานท่ีต่างๆ การฟัง บรรยายทางวิชาการ การเข้าชมนิทรรศการหรืองานประกวดโครงงานทางวิทยาศาสตร์ การสนทนากับบุคคล ตา่ งๆ หรือจาการสังเกตปรากฏการณต์ ่างๆ รอบตัว เป็นตน้ นอกจากน้ี ควรคานงึ ถงึ ประเด็นตอ่ ไปน้ี - ความเหมาะสมของระดับความรู้ ความสามารถของผู้เรียน - วสั ดุ อปุ กรณ์ ทใ่ี ช้ - งบประมาณ - ระยะเวลา - ความปลอดภัย - แหลง่ ความรู้ 2 การวางแผน การวางแผนการทาโครงงาน จะรวมถึงการเขียนเค้าโครงของโครงงาน ซ่ึงต้องมีการวางแผนไว้ ล่วงหน้า เพื่อให้การดาเนินการเป็นไปอย่างรัดกุมและรอบคอบ ไม่สับสน แล้วนาเสนอต่อผู้สอนหรือครูท่ี ปรึกษาเพื่อขอความเห็นชอบก่อนดาเนินการขั้นต่อไป การเขียนเค้าโครงของโครงงาน โดยทั่วไป เขียนเพ่ือ แสดงแนวคดิ แผนงาน และข้ันตอนการทาโครงงาน ซึ่งควรประกอบดว้ ยหัวข้อต่อไปน้ี 1) ชอ่ื โครงงาน ควรเป็นขอ้ ความทีก่ ะทัดรัด ชดั เจน ส่อื ความหมายไดต้ รง 2) ช่อื ผู้ทาโครงงาน 3) ชอ่ื ทป่ี รกึ ษาโครงงาน 4) หลักการและเหตุผลของโครงงาน เป็นการอธิบายว่าเหตุใดจึงเลือกทาโครงงานเร่ืองนี้ มี ความสาคัญอย่างไร มีหลักการหรือทฤษฎีอะไรที่เก่ียวข้อง เรื่องท่ีทาเป็นเรื่องใหม่หรือมีผู้อ่ืนได้ศึกษาค้นคว้า เรอ่ื งน้ไี ว้บ้างแล้ว ถา้ มไี ดผ้ ลอย่างไร เรอ่ื งทที่ าได้ขยายเพ่ิมเติม ปรับปรุงจากเรื่องท่ีผู้อ่ืนทาไว้อย่างไร หรือเป็น การทาซ้าเพ่อื ตรวจสอบผล 5) จุดมุ่งหมายหรือวัตถุประสงค์ควรมีความเฉพาะเจาะจง และสามารถวัดได้ เป็นการบอกขอบเขต ของงานท่จี ะทาได้ชัดเจนขึ้น 6) สมมติฐานของการศกึ ษาค้นควา้ (ถ้าม)ี สมมติฐานเป็นคาตอบหรือคาอธิบายท่ีคาดไว้ล่วงหน้า ซึ่ง อาจจะถูกหรือไม่ก็ได้ การเขียนสมมติฐานควรมีเหตุมีผลมีทฤษฎีหรือหลักการรองรับ และที่สาคัญ คือ เป็น
10 ข้อความที่มองเห็นแนวทางในการดาเนินการทดสอบได้ นอกจากน้ีควรมีความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรอิสระ และตัวแปรตามดว้ ย 7) วธิ ีดาเนินงานและขนั้ ตอนการดาเนินงาน จะตอ้ งอธิบายว่า จะออกแบบการทดลองอะไรอย่างไร จะเก็บขอ้ มูลอะไรบา้ งรวมทงั้ ระบุวัสดอุ ุปกรณท์ ี่จาเป็นต้องใช้ มอี ะไรบา้ ง 8) แผนปฏิบัติงาน อธิบายเก่ียวกับกาหนดเวลาตั้งแต่เริ่มต้นจนเสร็จสิ้นการดาเนินงานในแต่ละ ขั้นตอน 9) ผลท่ีคาดว่าจะได้รับ 10) เอกสารอา้ งอิง 3 การดาเนินงาน เมือ่ ที่ปรึกษาโครงงานใหค้ วามเห็นชอบเค้าโครงของโครงงานแล้ว ต่อไปก็เป็นข้ันลงมือปฏิบัติงานตาม ขั้นตอนท่ีระบุไว้ ผู้เรียนต้องพยายามทาตามแผนงานท่ีวางไว้ เตรียมวัสดุอุปกรณ์และสถานท่ีให้พร้อม ปฏิบัตงิ านด้วยความละเอยี ดรอบคอบ คานงึ ถงึ ความประหยดั และปลอดภัยในการทางาน ตลอดจนการบันทึก ขอ้ มูลต่างๆ ว่าได้ทาอะไรไปบา้ ง ไดผ้ ลอย่างไร มีปัญหาและข้อคิดเห็นอย่างไร พยายามบันทึกให้เป็นระเบียบ และครบถ้วน 4 การเขียนรายงาน การเขียนรายงานเกี่ยวกบั โครงงาน เปน็ วิธีสือ่ ความหมายวิธีหนงึ่ ทจ่ี ะให้ผู้อื่นไดเ้ ขา้ ใจถึงแนวคิด วิธีการ ดาเนนิ งาน ผลทีไ่ ด้ ตลอดจนข้อสรุปและข้อเสนอแนะต่างๆ ที่เกี่ยวกับโครงงานน้ัน การเขียนโครงงานควรใช้ ภาษาทอี่ ่านแล้วเข้าใจงา่ ย ชัดเจนและครอบคลมุ ประเด็นสาคัญๆ ทั้งหมดของโครงงาน 5 การนาเสนอผลงาน การนาเสนอผลงาน เป็นขั้นตอนสุดท้ายของการทาโครงงานและเข้าใจถึงผลงานน้ัน การนาเสนอ ผลงานอาจทาได้หลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมต่อประเภทของโครงงาน เนื้อหา เวลา ระดับของ ผู้เรียน เช่น การแสดงบทบาทสมมติ การเล่าเรื่อง การเขียนรายงาน สถานการณ์จาลอง การสาธิต การจัด นิทรรศการ ซึ่งอาจมีทั้งการจัดแสดงและการอธิบายด้วยคาพูด หรือการรายงานปากเปล่า การบรรยาย ส่ิง สาคัญคอื พยายามทาให้การแสดงผลงานน้ันดึงดูดความสนใจของผู้ชม มีความชัดเจน เข้าใจง่าย และมีความ ถกู ต้องของเนอื้ หา กำรเขยี นรำยงำนโครงงำน การเขียนรายงานโครงงานเป็นรูปแบบหนึ่งของการนาเสนอผลงานของโครงงานท่ีผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้าต้ังแต่ต้นจนจบ การกาหนดหัวขอ้ ในการเขยี นรายงานโครงงานอาจไม่ระบตุ ายตวั เหมือนกันทุกโครงงาน ส่ ว น ป ร ะ ก อ บ ข อ ง หั ว ข้ อ ใน ร าย ง า น ต้ อ ง เ ห ม าะ สม กั บ ป ร ะ เ ภ ทข อ ง โ คร ง ง าน แ ละ ร ะ ดั บ ชั้ น ข อ ง ผู้ เ รี ย น องคป์ ระกอบของการเขยี นรายงานโครงงาน แบง่ กวา้ งๆ เป็น 3 สว่ น ดงั นี้ 1. สว่ นปกและส่วนตน้ ส่วนปกและส่วนต้น ประกอบดว้ ย 1) ชื่อโครงงาน 2) ชือ่ ผู้ทาโครงงาน ช้นั โรงเรยี น และวันเดือนปที ่ีจัดทา 3) ชอ่ื อาจารยท์ ่ีปรึกษา 4) คานา 5) สารบัญ 6) สารบญั ตาราง หรอื ภาพประกอบ (ถ้าม)ี 7) บทคดั ย่อสัน้ ๆ ที่บอกเค้าโครงอย่างย่อๆ ซงึ่ ประกอบด้วย เรือ่ ง วตั ถปุ ระสงค์ วิธีการศึกษา ระยะเวลา และสรปุ ผล
11 8) กิตติกรรมประกาศ เพื่อแสดงความขอบคุณบุคคล หรอื หนว่ ยงานทใ่ี ห้ความช่วยเหลอื หรอื มสี ่วนเก่ียวขอ้ ง 2. ส่วนเน้ือเรอ่ื ง ส่วนเนอ้ื เรือ่ ง ประกอบด้วย 1) บทนา บอกความเปน็ มา ความสาคญั ของโครงงาน บอกเหตผุ ล หรือเหตุจูงใจในการเลือก หวั ขอ้ โครงงาน 2) วัตถุประสงคข์ องโครงงาน 3) สมมติฐานของการศกึ ษาคน้ ควา้ 4) การดาเนินงาน อาจเขียนเป็นตาราง แผนผังโครงงานเพ่ือให้การดาเนินงานเป็นไปตาม หัวข้อเร่ือง ตรงตามวัตถุประสงค์ของโครงงาน และพิสูจน์คาตอบ (สมมติฐาน) ตามประเด็นที่กาหนด ดัง ตัวอย่างการเขียนแผนผังโครงงานต่อไปนี้ ในแผนผงั โครงงานทาให้เหน็ ระบบการทางานอย่างมีเป้าหมาย มีการวางแผนการทางาน จะเห็นได้ ว่าส่ิงทต่ี ้องการทราบ คือ หัวข้อย่อย หรือคาถามย่อยของหัวข้อโครงงาน ถ้ามีมาก 1 ข้อ ก็จะเรียงลาดับทีละ หัวข้อ พรอ้ มทง้ั บอกสมมตฐิ าน วธิ ีศึกษา และแหล่งศึกษาค้นควา้ ตามแผนผังให้ครบทุกข้อ สิ่งที่ต้องการทราบ สมมติฐาน วิธีการศึกษา แหล่งศึกษา/แหล่งข้อมลู หวั ข้อยอ่ ยจากหวั ข้อเรอ่ื งของโครงงานท่ีต้องการหาคาตอบ การตอบคาถามล่วงหนา้ ค้นควา้ สอบถาม สัมภาษณ์ สังเกต ศึกษาโดยการดู-ฟัง จากส่ือชนิดต่างๆ - เอกสาร หนงั สือ - สถานที่ บคุ คล 5) สรุปผลการศึกษา เป็นการอธิบายคาตอบท่ีได้จากการศึกษาค้นคว้า ตามหัวข้อย่อยที่ ต้องการทราบ ว่าเป็นไปตามสมมติฐานหรือไม่ 6) อภิปรายผล บอกประโยชน์ หรือคุณค่าของผลงานท่ีได้ และบอกข้อจากัดหรือปัญหา อปุ สรรค (ถ้ามี) พร้อมท้งั บอกข้อเสนอแนะในการศกึ ษาคน้ คว้า โครงงานลักษณะใกลเ้ คยี งกนั 3. ส่วนทา้ ย ส่วนทา้ ย ประกอบดว้ ย 1) บรรณานุกรม หรือ เอกสารอ้างอิง หรือเอกสารท่ีใช้ค้นคว้า ซ่ึงมีหลายประเภท เช่น หนงั สอื ตารา บทความ หรอื คอลมั น์ ซ่ึงจะมีวิธกี ารเขียนบรรณานุกรมตา่ งกัน เชน่ หนงั สอื ช่ือ นามสกลุ . ชือ่ หนังสอื . สถานที่พิมพ์ : สานกั พิมพ์, ปที ีพ่ มิ พ์ บทความในวารสาร ชือ่ ผูเ้ ขยี น \"ช่อื บทความ,\" ชื่อวารสาร. ปที ีห่ รือเลม่ ที่ : หน้า ;วนั เดอื น ป.ี คอลมั น์จากหนังสือพมิ พ์ ์ช่ือผเู้ ขยี น \"ชอ่ื คอลัมน์ : ชื่อเรื่องในคอลัมน์\" ช่ือหนังสือพิมพ์.วัน เดือน ปี. หน้า. 2) ภาคผนวก เช่น โครงรา่ งโครงงาน ภาพกิจกรรม แบบสอบถาม บทสัมภาษณ์
12 บทท่ี 4 ผลกำรวเิ ครำะหข์ ้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูลคร้ังน้ี มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินผลกิจกรรมผลการวิเคราะห์ข้อมูล จาก ผตู้ อบแบบประเมิน จานวน 100 คน โดยสุ่มตัวอย่างประชากรตามตารางของ Krejcie & Morgan ตอบแบบ ประเมนิ จานวน 80 คน เคร่ืองมือท่ีใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบประเมินโครงการประกวดโครงงาน ได้นาเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลในแบบตารางความถี่ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ( Standard deviation) ซงึ่ ใช้โปรแกรม SPSS เพอื่ วิเคราะหค์ า่ สถติ ิทง้ั หมด ดงั มีรายละเอียดต่อไปนี้ ตอนท่ี 1 วเิ คราะห์ข้อมลู สว่ นตัวของผู้ตอบแบบประเมินโครงการประกวดโครงงาน โดยการ แจกแจงความถ่ีและคา่ รอ้ ยละของตัวแปร ตอนที่ 2 วเิ คราะห์ผลการประเมินกิจกรรมโครงการประกวดโครงงานสิ่งประดิษฐ์ นักศึกษา กศน.อาเภอโชคชยั ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2563 โดยการแจกแจงคา่ เฉล่ีย และคา่ เบี่ยงเบนมาตรฐาน ตอนที่ 3 วิเคราะห์ความคดิ เหน็ และขอ้ เสนอแนะอนื่ ๆ ตอนที่ 1 วิเครำะห์ข้อมูลส่วนตัวของผู้ตอบแบบประเมินโครงกำรประกวดโครงงำน โดยกำรแจกแจง ควำมถี่และคำ่ รอ้ ยละของตัวแปร ข้อมูลส่วนตัวของผู้ตอบแบบประเมินโครงการประกวดโครงงาน ท่ีเข้าร่วมกิจกรรมตาม โครงการประกวดโครงงานสง่ิ ประดิษฐ์ นักศึกษา กศน.อาเภอโชคชัย โดยการแจกแจงความถ่ีและค่าร้อยละ ของตัวแปร ดังตารางที่ 1 ตำรำงท่ี 1 จำนวน และค่ำร้อยละ ของผตู้ อบแบบประเมินโครงกำร จำแนกตำมเพศ อำยุ ระดับ กำรศกึ ษำ และอำชพี (N=80) ข้อมลู สว่ นตวั จำนวน ร้อยละ 1. เพศ ชาย 47 58.80* หญงิ 33 41.20 รวม 80 100.00 2. อำยุ 15 – 29 ปี 72 90.00* 30 – 49 ปี 8 10.00 มากกวา่ 50 ปขี ้ึนไป - รวม 80 - 100.00
13 3. ระดบั ข้อมลู สว่ นตัว จำนวน รอ้ ยละ กำรศึกษำ ประถมศึกษา - - มธั ยมศึกษาตอนตน้ 37 46.20 มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย 43 53.80* 4. อำชพี รวม 80 100 เกษตรกรรม 4 5.00 ค้าขาย 3 3.80 พนักงานของรฐั รฐั วิสาหกิจ - ธุรกจิ สว่ นตวั - - รับจา้ ง 25 - อน่ื ๆ 48 31.20 60.00* รวม 80 100 หมายเหตุ : * หมายถงึ ข้อมูลสว่ นใหญ่ จากตารางที่ 1 พบวา่ ผู้ตอบแบบประเมินโครงการประกวดโครงงาน จานวน 80 คน เป็นเพศ ชาย จานวน 47 คน คิดเป็นร้อยละ 58.80 เพศหญิง จานวน 33 คน คิดเป็นร้อยละ 41.20 ส่วนใหญ่มีอายุ 15 – 29 ปี จานวน 72 คน คิดเป็นร้อยละ 90.00 รองลงมา คือ 30 – 49 ปี จานวน 8 คน คิดเป็นร้อยละ 10.00 ระดบั การศกึ ษาสว่ นใหญศ่ กึ ษาอยใู่ นระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย จานวน 43 คน คิดเป็นร้อยละ 53.80 รองลงมา คือ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น จานวน 37 คน คิดเป็นร้อยละ 46.20 สาหรับอาชีพส่วนใหญ่ ประกอบอาชีพอ่นื ๆ จานวน 48 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 60.00 รองลงมา คอื รบั จา้ ง จานวน 25 คน คิดเป็นร้อยละ 31.20 เกษตรกรรม จานวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 5.00 และค้าขาย จานวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 3.80 ตามลาดับ
14 ตอนท่ี 2 วิเครำะห์ผลกำรประเมินกิจกรรมโครงกำรประกวดโครงงำนสง่ิ ประดษิ ฐ์ นักศกึ ษำ กศน.อำเภอ โชคชัย การจาแนกระดับ ผลการประเมินโครงการประกวดโครงงาน แบบมาตรฐานประมาณค่า (Rating Scale) มี 5 ระดบั ดงั น้ี 5 คะแนน คอื ระดับผลการประเมินมากท่สี ดุ 4 คะแนน คอื ระดบั ผลการประเมนิ มาก 3 คะแนน คือ ระดบั ผลการประเมินปานกลาง 2 คะแนน คือ ระดับผลการประเมนิ นอ้ ย 1 คะแนน คอื ระดบั ผลการประเมินน้อยทสี่ ดุ N คือ จานวนผ้ตู อบแบบประเมิน ̅ คอื ระดบั ค่าเฉล่ียผลการประเมิน S.D. (Standard deviation) คือ คา่ เบี่ยงเบนมาตรฐาน คา่ เฉล่ยี ระดับผลการประเมนิ ของผ้ตู อบแบบประเมินโครงการประกวดโครงงาน ค่าเฉลยี่ 4.50 – 5.00 คะแนน หมายถึง มีผลการประเมนิ อยู่ในระดับมากทีส่ ุด ค่าเฉลีย่ 3.50 – 4.49 คะแนน หมายถึง มีผลการประเมินอยใู่ นระดับมาก คา่ เฉลี่ย 2.50 – 3.49 คะแนน หมายถงึ มีผลการประเมนิ อย่ใู นระดบั ปานกลาง ค่าเฉลี่ย 1.50 – 2.49 คะแนน หมายถงึ มีผลการประเมินอย่ใู นระดบั นอ้ ย คา่ เฉลี่ย 1.00 – 1.49 คะแนน หมายถึง มีผลการประเมินอยูใ่ นระดับนอ้ ยท่ีสุด
15 ตำรำงท่ี 2 ค่ำเฉล่ีย ค่ำเบี่ยงเบนมำตรฐำน และระดับผลกำรประเมินกิจกรรมโครงกำรประกวด โครงงำนส่ิงประดิษฐ์ นักศึกษำ กศน.อำเภอโชคชัย ของผู้ตอบแบบประเมินโครงกำร ในภำพรวมและ รำยดำ้ น รำยกำร N = 80 ระดบั กำรประเมิน ̅ S.D. /ควำมรทู้ ่ไี ดร้ ับ 1. ดา้ นหลกั สูตร /กำรนำไปใช้ 2. ดา้ นวิทยากร 4.02 0.71 3. ด้านสถานที่ ระยะเวลา และความพงึ พอใจ 4.04 0.69 มาก 4.13 0.68 ภำพรวมเฉลีย่ 4.06 0.69 มาก มาก มำก จากตารางท่ี 2 พบว่า ผู้ตอบแบบประเมินโครงการ จานวน 80 คน มีความคิดเห็นต่อการ ประเมนิ โครงการประกวดโครงงานสิง่ ประดษิ ฐ์ นักศกึ ษา กศน.อาเภอโชคชยั ในภาพรวมมีผลการประเมินอยู่ ในระดบั มาก (̅=4.06) เม่ือพจิ ารณาเป็นรายดา้ นพบวา่ ผลการประเมินโครงการ ดา้ นด้านสถานที่ ระยะเวลา และความพึงพอใจ มีผลการประเมนิ อยใู่ นระดับมาก (̅=4.13) รองลงมาคือ ด้านวิทยากร มีผลการประเมิน อยู่ในระดับมาก (̅=4.04) และผลการประเมินโครงการ ด้านหลักสูตร มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก (̅=4.02) ตามลาดับ
16 ตำรำงที่ 2.1 ค่ำเฉลย่ี คำ่ เบีย่ งเบนมำตรฐำน และระดับผลกำรประเมินกิจกรรมโครงกำรประกวด โครงงำนสง่ิ ประดิษฐ์ นกั ศึกษำ กศน.อำเภอโชคชัย ของผ้ตู อบแบบประเมนิ โครงกำร ด้ำนหลักสตู ร รำยกำร N = 80 ระดับกำรประเมนิ ̅ S.D. /ควำมรู้ทีไ่ ด้รบั ด้ำนเหลกั สูตร /กำรนำไปใช้ 1. กิจกรรมสอดคลอ้ งกบั วตั ถุประสงค์ของหลักสตู ร 4.06 0.66 4.00 0.71 มาก 2. เนอื้ หาของหลักสตู รตรงกบั ความตอ้ งการผรู้ ว่ มกจิ กรรม 4.05 0.76 มาก มาก 3. การจดั กจิ กรรมส่งเสริมให้ผรู้ ่วมกิจกรรมสามารถ คิดเปน็ 4.06 0.68 ทาเปน็ แก้ปญั หาเป็น มาก 4. ผรู้ ่วมกจิ กรรมมสี ่วนร่วมในการแสดงความคดิ เหน็ ต่อ 3.94 0.72 เนอื้ หา กจิ กรรม 4.02 0.71 มาก 5. ผรู้ ่วมกจิ กรรมสามารถนาความรู้ไปปรับใชใ้ น มำก ชวี ิตประจาวนั ได้ รวมเฉลี่ย จากตารางที่ 2.1 พบว่า ผู้ตอบแบบประเมินโครงการ จานวน 80 คน มีความคิดเห็นต่อการ ประเมนิ โครงการประกวดโครงงานส่ิงประดษิ ฐ์ นักศกึ ษา กศน.อาเภอโชคชัย ในภาพรวมมีผลการประเมินอยู่ ในระดบั มาก (̅=4.02) เมือ่ พจิ ารณาเปน็ รายขอ้ พบว่า ผู้ร่วมกิจกรรมมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นต่อ เน้ือหา กิจกรรม มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก (̅=4.06) ค่าเบ่ียงเบนมาตรฐาน (S.D.= 0.68) รองลงมา คือ กจิ กรรมสอดคลอ้ งกับวัตถปุ ระสงค์ของหลักสูตร มผี ลการประเมินอยู่ในระดับมาก (̅=4.06) ค่าเบี่ยงเบน มาตรฐาน (S.D.= 0.66) การจัดกจิ กรรมส่งเสรมิ ใหผ้ รู้ ว่ มกจิ กรรมสามารถ คิดเป็น ทาเป็น แก้ปัญหาเป็น มีผล การประเมินอยู่ในระดับมาก (̅=4.05) เนื้อหาของหลักสูตรตรงกับความต้องการผู้ร่วมกิจกรรม มีผลการ ประเมินอยู่ในระดับมาก (̅=4.00) และผู้ร่วมกิจกรรมสามารถนาความรู้ไปปรับใช้ในชีวิตประจาวันได้ มีผล การประเมนิ อยใู่ นระดบั มาก (̅=3.94) ตามลาดบั
17 ตำรำงที่ 2.2 ค่ำเฉลีย่ ค่ำเบย่ี งเบนมำตรฐำน และระดับผลกำรประเมินกิจกรรมโครงกำรประกวด โครงงำนส่งิ ประดษิ ฐ์ นกั ศึกษำ กศน.อำเภอโชคชยั ของผู้ตอบแบบประเมินโครงกำร ด้ำนวทิ ยำกร รำยกำร N = 80 ระดับกำรประเมิน ̅ S.D. /ควำมรทู้ ี่ไดร้ ับ ด้ำนวิทยำกร /กำรนำไปใช้ 6. วทิ ยากรมคี วามรคู้ วามสามารถในการถ่ายทอดองคค์ วามรู้ 4.16 0.66 7. วิทยากรมเี ทคนคิ วิธีการในการจัดการถา่ ยทอดองคค์ วามรู้ 3.99 0.61 มาก 8. วทิ ยากรมีการใช้สอื่ ทส่ี อดคล้องและเหมาะสมกับกจิ กรรม 4.06 0.64 มาก 9. บคุ ลิกภาพของวิทยากร 3.95 0.84 มาก 4.04 0.69 มาก รวมเฉลย่ี มำก จากตารางที่ 2.2 พบว่า ผู้ตอบแบบประเมินโครงการ จานวน 80 คน มีความคิดเห็นต่อการ ประเมนิ โครงการประกวดโครงงานสง่ิ ประดิษฐ์ นกั ศกึ ษา กศน.อาเภอโชคชยั ในภาพรวมมีผลการประเมินอยู่ ในระดับมาก (̅=4.04) เม่ือพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า วิทยากรมีความรู้ความสามารถในการถ่ายทอดองค์ ความรู้ มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก (̅=4.16) รองลงมา คือ วิทยากรมีการใช้สื่อท่ีสอดคล้องและ เหมาะสมกับกิจกรรม มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก (̅=4.06) วิทยากรมีเทคนิค วิธีการในการจัดการ ถ่ายทอดองค์ความรู้ มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก (̅=3.99) และบุคลิกภาพของวิทยากร มีผลการ ประเมนิ อยู่ในระดบั มาก (̅=3.95) ตามลาดบั
18 ตำรำงที่ 2.3 คำ่ เฉลยี่ คำ่ เบี่ยงเบนมำตรฐำน และระดับผลกำรประเมินกิจกรรมโครงกำรประกวด โครงงำนส่ิงประดิษฐ์ นักศึกษำ กศน.อำเภอโชคชัย ของผู้ตอบแบบประเมินโครงกำรประกวดโครงงำน ด้ำนสถำนที่ ระยะเวลำ และควำมพึงพอใจ รำยกำร N = 80 ระดับกำรประเมิน ̅ S.D. /ควำมรู้ท่ีไดร้ ับ ดำ้ นสถำนที่ ระยะเวลำ และควำมพงึ พอใจ 10. สถานท่ีในการจดั กจิ กรรมเหมาะสม /กำรนำไปใช้ 11. ระยะเวลาในการจัดกจิ กรรมเหมาะสม 4.19 0.62 มาก 12. ความพึงพอใจในภาพรวมของผู้รว่ มกิจกรรมต่อการเขา้ ร่วม 4.13 0.80 มาก กิจกรรม 13. ประโยชนท์ ่ไี ด้รบั จากการเข้าร่วมกจิ กรรมตามหลักสตู ร 4.10 0.67 มาก รวมเฉลยี่ 4.10 0.65 มาก 4.13 0.68 มำก จากตารางที่ 2.3 พบว่า ผู้ตอบแบบประเมินโครงการ จานวน 80 คน มีความคิดเห็นต่อการ ประเมนิ โครงการประกวดโครงงานสิง่ ประดิษฐ์ นักศกึ ษา กศน.อาเภอโชคชัย ในภาพรวมมีผลการประเมินอยู่ ในระดับมาก (̅=4.13) เม่ือพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า สถานที่ในการจัดกิจกรรมเหมาะสม มีผลการประเมิน อย่ใู นระดบั มาก (̅=4.19) รองลงมาคือ ระยะเวลาในการจัดกิจกรรมเหมาะสม มีผลการประเมินอยู่ในระดับ มาก (̅=4.13) ความพึงพอใจในภาพรวมของผู้ร่วมกิจกรรมต่อการเข้าร่วมกิจกรรม มีผลการประเมินอยู่ใน ระดบั มาก (̅=4.10) คา่ เบ่ยี งเบนมาตรฐาน (S.D.= 0.67) และประโยชน์ที่ได้รับจากการเข้าร่วมกิจกรรมตาม หลักสูตร มีผลการประเมินอยูใ่ นระดับมาก (̅=4.10) ค่าเบีย่ งเบนมาตรฐาน (S.D.= 0.65) ตามลาดับ ตอนท่ี 3 วเิ ครำะหค์ วำมคิดเห็นและข้อเสนอแนะอืน่ ๆ 1. สถานทใ่ี นการจัดกจิ กรรมคอ่ นข้างแคบและร้อนอบอ้าว 2. เกยี รติบตั รไม่ระบชุ อ่ื ผจู้ ดั ทาโครงการ ไม่ระบุ กศน.ตาบล ทาให้ไม่สามารถนาไปใช้ประโยชน์ ตอ่ ไปได้ 3. อยากให้มีหวั ข้อโครงงานทห่ี ลากหลาย ไม่จากัดแคโ่ ครงงานส่งิ ประดิษฐ์
19 บทที่ 5 สรุปผล อภปิ รำยผล และขอ้ เสนอแนะ สรุปผล ผลการวเิ คราะห์ สามารถสรปุ ไดด้ งั น้ี ตอนท่ี 1 วเิ คราะห์ข้อมูลส่วนตวั ของผตู้ อบแบบประเมินโครงการ ตอนท่ี 2 วเิ คราะหผ์ ลการประเมนิ กิจกรรมโครงการประกวดโครงงานสงิ่ ประดิษฐ์ นกั ศกึ ษา กศน. อาเภอโชคชยั ตอนท่ี 3 วิเคราะหค์ วามคดิ เห็นและข้อเสนอแนะอน่ื ๆ ตอนที่ 1 วเิ ครำะหข์ ้อมูลส่วนตวั ของผูต้ อบแบบประเมนิ โครงกำรประกวดโครงงำน จากตารางท่ี 1 พบว่า ผตู้ อบแบบประเมินโครงการประกวดโครงงาน จานวน 80 คน เป็นเพศ ชาย จานวน 47 คน คิดเป็นร้อยละ 58.80 เพศหญิง จานวน 33 คน คิดเป็นร้อยละ 41.20 ส่วนใหญ่มีอายุ 15 – 29 ปี จานวน 72 คน คิดเป็นร้อยละ 90.00 รองลงมา คือ 30 – 49 ปี จานวน 8 คน คิดเป็นร้อยละ 10.00 ระดับการศกึ ษาสว่ นใหญ่ศึกษาอย่ใู นระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จานวน 43 คน คิดเป็นร้อยละ 53.80 รองลงมา คือ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น จานวน 37 คน คิดเป็นร้อยละ 46.20 สาหรับอาชีพส่วนใหญ่ ประกอบอาชพี อ่ืนๆ จานวน 48 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 60.00 รองลงมา คอื รับจ้าง จานวน 25 คน คดิ เป็นร้อยละ 31.20 เกษตรกรรม จานวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 5.00 และค้าขาย จานวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 3.80 ตามลาดับ ตอนท่ี 2 วเิ ครำะห์ผลกำรประเมินกิจกรรมโครงกำรประกวดโครงงำนสิ่งประดิษฐ์ นักศึกษำ กศน.อำเภอ โชคชัย จากตารางที่ 2 พบว่า ผู้ตอบแบบประเมินโครงการ จานวน 80 คน มีความคิดเห็นต่อการ ประเมนิ โครงการประกวดโครงงานส่งิ ประดิษฐ์ นกั ศึกษา กศน.อาเภอโชคชัย ในภาพรวมมีผลการประเมินอยู่ ในระดบั มาก (̅=4.06) เมอ่ื พจิ ารณาเป็นรายดา้ นพบวา่ ผลการประเมินโครงการ ด้านด้านสถานท่ี ระยะเวลา และความพงึ พอใจ มีผลการประเมินอยใู่ นระดับมาก (̅=4.13) รองลงมาคือ ด้านวิทยากร มีผลการประเมิน อยู่ในระดับมาก (̅=4.04) และผลการประเมินโครงการ ด้านหลักสูตร มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก (̅=4.02) ตามลาดับ 1. ดา้ นหลักสตู ร จากตารางท่ี 2.1 พบว่า ผู้ตอบแบบประเมินโครงการ จานวน 80 คน มีความคิดเห็นต่อการ ประเมินโครงการประกวดโครงงานสง่ิ ประดษิ ฐ์ นักศกึ ษา กศน.อาเภอโชคชยั ในภาพรวมมีผลการประเมินอยู่ ในระดบั มาก (̅=4.02) เม่อื พจิ ารณาเป็นรายข้อ พบว่า ผู้ร่วมกิจกรรมมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นต่อ เนอื้ หา กิจกรรม มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก (̅=4.06) ค่าเบ่ียงเบนมาตรฐาน (S.D.= 0.68) รองลงมา คือ กจิ กรรมสอดคลอ้ งกับวตั ถุประสงคข์ องหลักสตู ร มผี ลการประเมินอยู่ในระดับมาก (̅=4.06) ค่าเบ่ียงเบน มาตรฐาน (S.D.= 0.66) การจดั กจิ กรรมสง่ เสริมให้ผู้ร่วมกจิ กรรมสามารถ คิดเป็น ทาเป็น แก้ปัญหาเป็น มีผล การประเมินอยู่ในระดับมาก (̅=4.05) เนื้อหาของหลักสูตรตรงกับความต้องการผู้ร่วมกิจกรรม มีผลการ
20 ประเมินอยู่ในระดับมาก (̅=4.00) และผู้ร่วมกิจกรรมสามารถนาความรู้ไปปรับใช้ในชีวิตประจาวันได้ มีผล การประเมินอยู่ในระดบั มาก (̅=3.94) ตามลาดบั 2. ด้านวทิ ยากร จากตารางท่ี 2.2 พบว่า ผู้ตอบแบบประเมินโครงการ จานวน 80 คน มีความคิดเห็นต่อการ ประเมินโครงการประกวดโครงงานสง่ิ ประดิษฐ์ นกั ศกึ ษา กศน.อาเภอโชคชยั ในภาพรวมมีผลการประเมินอยู่ ในระดับมาก (̅=4.04) เม่ือพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า วิทยากรมีความรู้ความสามารถในการถ่ายทอดองค์ ความรู้ มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก (̅=4.16) รองลงมา คือ วิทยากรมีการใช้ส่ือท่ีสอดคล้องและ เหมาะสมกับกิจกรรม มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก (̅=4.06) วิทยากรมีเทคนิค วิธีการในการจัดการ ถ่ายทอดองค์ความรู้ มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก (̅=3.99) และบุคลิกภาพของวิทยากร มีผลการ ประเมนิ อยใู่ นระดับมาก (̅=3.95) ตามลาดบั 3. ด้านสถานที่ ระยะเวลา และความพึงพอใจ จากตารางที่ 2.3 พบว่า ผู้ตอบแบบประเมินโครงการ จานวน 80 คน มีความคิดเห็นต่อการ ประเมินโครงการประกวดโครงงานส่ิงประดษิ ฐ์ นักศกึ ษา กศน.อาเภอโชคชัย ในภาพรวมมีผลการประเมินอยู่ ในระดบั มาก (̅=4.13) เมอ่ื พจิ ารณาเปน็ รายข้อ พบวา่ สถานทใ่ี นการจัดกิจกรรมเหมาะสม มีผลการประเมิน อยใู่ นระดบั มาก (̅=4.19) รองลงมาคือ ระยะเวลาในการจัดกิจกรรมเหมาะสม มีผลการประเมินอยู่ในระดับ มาก (̅=4.13) ความพึงพอใจในภาพรวมของผู้ร่วมกิจกรรมต่อการเข้าร่วมกิจกรรม มีผลการประเมินอยู่ใน ระดบั มาก (̅=4.10) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.= 0.67) และประโยชน์ท่ีได้รับจากการเข้าร่วมกิจกรรมตาม หลกั สูตร มีผลการประเมนิ อยใู่ นระดบั มาก (̅=4.10) ค่าเบ่ียงเบนมาตรฐาน (S.D.= 0.65) ตามลาดบั ตอนท่ี 3 วิเครำะห์ควำมคิดเหน็ และข้อเสนอแนะอ่นื ๆ 1. สถานท่ีในการจดั กิจกรรมค่อนข้างแคบและรอ้ นอบอ้าว 2. เกยี รติบตั รไมร่ ะบุชื่อผูจ้ ัดทาโครงการ ไมร่ ะบุ กศน.ตาบล ทาให้ไม่สามารถนาไปใช้ประโยชน์ ต่อไปได้ 3. อยากให้มหี วั ข้อโครงงานที่หลากหลาย ไมจ่ ากดั แค่โครงงานสิ่งประดิษฐ์
21 อภิปรำยผล จากการวิเคราะหผ์ ลการดาเนนิ โครงการประกวดโครงงานสิ่งประดิษฐ์ นกั ศกึ ษา กศน.อาเภอ โชคชัย พบว่า ผู้เข้าร่วมโครงการประกวดโครงงานมีความพึงพอใจในภาพรวมอยู่ในระดับมาก (̅=4.10) เนอื่ งจากคณะทางานไดป้ ระชุม/ชี้แจงวางแผนการดาเนินงาน แก่บคุ ลากร กศน.อาเภอโชคชัย กาหนดรูปแบบ แผนการดาเนินงานการจัดกิจกรรม การจัดเตรียมความพร้อมในการดาเนินงานโครงการ และตระหนักถึง ความสาคญั ของโครงการประกวดโครงงานส่ิงประดิษฐ์ นักศึกษา กศน.อาเภอโชคชัย ซึ่งเป็นกิจกรรมเพ่ือให้ นกั ศึกษา กศน.อาเภอโชคชัย ไดร้ ับการพัฒนาทกั ษะ ความรู้ และกระบวนการจัดทาโครงงาน และส่งเสรมิ การ แสดงออกถงึ ความคดิ สร้างสรรค์ มีจินตนาการ ในแนวทางทถ่ี กู ตอ้ ง และเหมาะสม จากผลการประเมินดังกล่าว มีประเด็นท่ีน่าสนใจนามาอภิปรายผล ดังน้ี พบว่า ประโยชน์ท่ี ไดร้ บั จากการเข้าร่วมกิจกรรมตามหลกั สตู ร มผี ลการประเมนิ อยใู่ นระดับมาก (̅=4.10) ซึ่งนักศึกษาที่เข้าร่วม กิจกรรมนา ความรู้ และทักษะ ไปใช้ในการดาเนินชีวิต เพราะ โครงการประกวดโครงงานสิ่งประดิษฐ์ นักศึกษา กศน.อาเภอโชคชัย มีลักษณะเป็นกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้าและลงมือปฏิบัติ ด้วยตนเองตามความสามารถ ความถนัด และความสนใจ โดยอาศัยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ หรือ กระบวนการอน่ื ใดไปใช้ในการศกึ ษาหาคาตอบในเร่ืองนน้ั ๆ โดยมคี รูผ้สู อนคอยกระตุ้นแนะนาและให้คาปรึกษา แก่ผู้เรียนอย่างใกล้ชิด ต้ังแต่การเลือกหัวข้อที่จะศึกษา ค้นคว้า ดาเนินการ วางแผน กาหนดข้ันตอนการ ดาเนนิ งาน ซึ่งสอดคลอ้ งกบั งานวิจัยของ สุรางค์ ตระกูลราษฎร์, 2549 ได้ศึกษาการเปรียบเทียบผลการเรียนรู้ ทางวทิ ยาศาสตร์ของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ 5 ระหว่างการสอนแบบโครงงานวิทยาศาสตร์กับการสอน แบบปกติ พบว่า นักเรียนที่ได้รับการสอนแบบโครงงานวิทยาศาสตร์มีความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ทักษะ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และเจตคตติ อ่ วิทยาศาสตร์สูงกว่านักเรียนทไี่ ด้รับการสอนแบบปกติ ขอ้ เสนอแนะ จากการดาเนินโครงการประกวดโครงงานสิ่งประดิษฐ์ นักศึกษา กศน.อาเภอโชคชัย ถือว่า การจดั กิจกรรมประสบผลสาเร็จและบรรลุตามวัตถุประสงค์ ดังนั้นเพื่อให้นักศึกษา กศน.อาเภอโชคชัย ได้รับ การพัฒนาทกั ษะ ความรู้ และกระบวนการจดั ทาโครงงาน และสง่ เสรมิ การแสดงออกถงึ ความคิดสร้างสรรค์ มี จินตนาการ ในแนวทางท่ีถูกต้อง และเหมาะสม จึงควรถอดบทเรียนจากการจัดกิจกรรมท่ีผ่านมาเพื่อพัฒนา กิจกรรมในครงั้ ต่อ ๆ ไป
22 บรรณำนุกรม กติกา ศรที อง. 10 ขนั้ ตอนการทาโครงงานอย่างง่าย. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก https://sites.google.com/ site/krukatika001/wicha-is1/khorng-ngan (วนั ท่ีคน้ ข้อมูล วนั ท่ี 22 มีนาคม 2564) ปุณณวฒั น์ เพ็ชรจิตร์. การพัฒนาการสอนแบบโครงงาน สาหรับนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย กรณีศึกษา โรงเรียนภูหลวงวิทยา อาเภอภูหลวง จังหวัดเลย. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก https:// tdc.thailis.or.th/tdc/browse.php (วันท่คี ้นขอ้ มลู วนั ที่ 22 มีนาคม 2564) สุรางค์ ตระกูลราษฎร์. การเปรียบเทียบผลการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ 5 ระหว่างการสอนแบบโครงงานวิทยาศาสตร์กับการสอนแบบปกติ. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก https://tdc.thailis.or.th/tdc/browse.php (วนั ท่คี ้นขอ้ มลู วนั ที่ 22 มีนาคม 2564) Suthinan. รูปแบบและวิธีการเขียนรายงานโครงงาน. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก http://suthinan.com/ form_report/ (วนั ทีค่ น้ ขอ้ มลู วนั ที่ 22 มนี าคม 2564)
23 ภำคผนวก
24 ผลกำรวิเครำะห์ข้อมูลโปรแกรม SPSS โครงกำรประกวดโครงงำนสิ่งประดิษฐ์ นักศกึ ษำ กศน.อำเภอโชคชัย Frequency Table เพศ Frequency Percent Valid Percent Cumulative Percent Valid ชาย 47 58.8 58.8 58.8 หญงิ 33 41.2 41.2 100.0 Total 80 100.0 100.0 อำยุ Frequency Percent Valid Percent Cumulative Percent Valid 15-29 ปี 72 90.0 90.0 90.0 30-49 ปี 8 10.0 10.0 100.0 Total 80 100.0 100.0 ระดับกำรศึกษำ Frequency Percent Valid Percent Cumulative Percent Valid มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ 37 46.2 46.2 46.2 มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย 43 53.8 53.8 100.0 Total 80 100.0 100.0 อำชพี Frequency Percent Valid Percent Cumulative Percent Valid เกษตรกรรม 4 5.0 5.0 5.0 คา้ ขาย 3 3.8 3.8 8.8 รับจา้ ง 25 31.2 31.2 40.0 อื่น ๆ 48 60.0 60.0 100.0 Total 80 100.0 100.0
25 ขอ้ ที่ 1 กิจกรรมสอดคล้องกับวัตถปุ ระสงค์ของหลกั สูตร Frequency Percent Valid Percent Cumulative Percent Valid ปานกลาง 15 18.8 18.8 18.8 มาก 45 56.2 56.2 75.0 มากที่สดุ 20 25.0 25.0 100.0 Total 80 100.0 100.0 ข้อท่ี 2 เนอ้ื หำของหลักสตู รตรงกับควำมต้องกำรผ้รู ่วมกจิ กรรม Frequency Percent Valid Percent Cumulative Percent Valid ปานกลาง 20 25.0 25.0 25.0 มาก 40 50.0 50.0 75.0 มากทส่ี ดุ 20 25.0 25.0 100.0 Total 80 100.0 100.0 ขอ้ ท่ี 3 กำรจัดกจิ กรรมส่งเสริมใหผ้ ู้ร่วมกิจกรรมสำมำรถ คดิ เปน็ ทำเปน็ แกป้ ญั หำเปน็ Frequency Percent Valid Percent Cumulative Percent Valid ปานกลาง 21 26.2 26.2 26.2 มาก 34 42.5 42.5 68.8 มากทส่ี ดุ 25 31.2 31.2 100.0 Total 80 100.0 100.0 ข้อที่ 4 ผรู้ ว่ มกิจกรรมสำมำรถนำควำมรู้ไปปรบั ใช้ในกำรประกอบอำชพี ได้ Frequency Percent Valid Percent Cumulative Percent Valid ปานกลาง 16 20.0 20.0 20.0 มาก 43 53.8 53.8 73.8 มากท่สี ดุ 21 26.2 26.2 100.0 Total 80 100.0 100.0
26 ขอ้ ท่ี 5 ผู้ร่วมกจิ กรรมสำมำรถนำควำมรไู้ ปปรับใช้ในกำรประกอบอำชพี ได้ Frequency Percent Valid Percent Cumulative Percent Valid ปานกลาง 23 28.8 28.8 28.8 มาก 39 48.8 48.8 77.5 มากท่ีสุด 18 22.5 22.5 100.0 Total 80 100.0 100.0 ขอ้ ท่ี 6 วิทยำกรมคี วำมรู้ควำมสำมำรถในกำรถ่ำยทอดองคค์ วำมรู้ Frequency Percent Valid Percent Cumulative Percent Valid ปานกลาง 12 15.0 15.0 15.0 มาก 43 53.8 53.8 68.8 มากทสี่ ุด 25 31.2 31.2 100.0 Total 80 100.0 100.0 ขอ้ ที่ 7 วทิ ยำกรมเี ทคนิค วิธีกำรในกำรจัดกำรถำ่ ยทอดองคค์ วำมรู้ Frequency Percent Valid Percent Cumulative Percent Valid ปานกลาง 15 18.8 18.8 18.8 มาก 51 63.8 63.8 82.5 มากที่สุด 14 17.5 17.5 100.0 Total 80 100.0 100.0 ขอ้ ท่ี 8 วิทยำกรมีกำรใช้ส่อื ทสี่ อดคล้องและเหมำะสมกบั กจิ กรรม Frequency Percent Valid Percent Cumulative Percent Valid ปานกลาง 14 17.5 17.5 17.5 มาก 47 58.8 58.8 76.2 มากทส่ี ดุ 19 23.8 23.8 100.0 Total 80 100.0 100.0
27 ข้อท่ี 9 บุคลกิ ภำพของวทิ ยำกร Frequency Percent Valid Percent Cumulative Percent Valid ปานกลาง 30 37.5 37.5 37.5 มาก 24 30.0 30.0 67.5 มากทส่ี ดุ 26 32.5 32.5 100.0 Total 80 100.0 100.0 ข้อที่ 10 สถำนท่ีในกำรจัดกจิ กรรมเหมำะสม Frequency Percent Valid Percent Cumulative Percent Valid ปานกลาง 9 11.2 11.2 11.2 มาก 47 58.8 58.8 70.0 มากที่สดุ 24 30.0 30.0 100.0 Total 80 100.0 100.0 ขอ้ ท่ี 11 ระยะเวลำในกำรจัดกจิ กรรมเหมำะสม Frequency Percent Valid Percent Cumulative Percent Valid ปานกลาง 21 26.2 26.2 26.2 มาก 28 35.0 35.0 61.2 มากที่สดุ 31 38.8 38.8 100.0 Total 80 100.0 100.0 ข้อท่ี 12 ควำมพึงพอใจในภำพรวมของผรู้ ว่ มกิจกรรมต่อกำรเขำ้ ร่วมกิจกรรม Frequency Percent Valid Percent Cumulative Percent Valid ปานกลาง 14 17.5 17.5 17.5 มาก 44 55.0 55.0 72.5 มากทส่ี ดุ 22 27.5 27.5 100.0 Total 80 100.0 100.0
28 ข้อที่ 13 ประโยชน์ทไ่ี ด้รบั จำกำรเขำ้ ร่วมกิจกรรมตำมหลักสูตร Frequency Percent Valid Percent Cumulative Percent Valid ปานกลาง 13 16.2 16.2 16.2 มาก 46 57.5 57.5 73.8 มากท่สี ุด 21 26.2 26.2 100.0 Total 80 100.0 100.0 Descriptive Statistics N Std. Minimum Maximum Mean Deviation ขอ้ ท่ี 1 กจิ กรรมสอดคลอ้ งกับวตั ถุประสงค์ของหลักสตู ร 80 3.00 5.00 4.0625 .66263 3.00 5.00 4.0000 .71157 ข้อท่ี 2 เน้ือหาของหลักสูตรตรงกบั ความต้องการผู้ร่วม 80 กจิ กรรม 3.00 5.00 4.0500 .76141 ข้อที่ 3 การจัดกจิ กรรมส่งเสริมให้ผูร้ ่วมกิจกรรมสามารถ 80 3.00 5.00 4.0625 .68147 คดิ เปน็ ทาเปน็ แก้ปญั หาเปน็ 3.00 5.00 3.9375 .71766 ขอ้ ที่ 4 ผ้รู ว่ มกิจกรรมสามารถนาความรู้ไปปรบั ใช้ในการ 80 ประกอบอาชีพได้ 3.00 5.00 4.1625 .66454 ข้อที่ 5 ผรู้ ่วมกิจกรรมสามารถนาความร้ไู ปปรบั ใช้ในการ 80 3.00 5.00 3.9875 .60575 ประกอบอาชีพได้ 3.00 5.00 4.0625 .64325 ข้อท่ี 6 วทิ ยากรมีความรูค้ วามสามารถในการถ่ายทอด 80 3.00 5.00 3.9500 .84043 องค์ความรู้ 3.00 5.00 4.1875 .61816 3.00 5.00 4.1250 .80150 ข้อที่ 7 วทิ ยากรมีเทคนิค วธิ ีการในการจดั การถา่ ยทอด 80 3.00 5.00 4.1000 .66751 องค์ความรู้ 3.00 5.00 4.1000 .64827 ข้อที่ 8 วทิ ยากรมกี ารใชส้ ื่อที่สอดคลอ้ งและเหมาะสมกบั 80 กิจกรรม ขอ้ ท่ี 9 บุคลกิ ภาพของวิทยากร 80 ข้อท่ี 10 สถานทใ่ี นการจัดกิจกรรมเหมาะสม 80 ข้อที่ 11 ระยะเวลาในการจดั กิจกรรมเหมาะสม 80 ขอ้ ที่ 12 ความพงึ พอใจในภาพรวมของผรู้ ว่ มกิจกรรมตอ่ 80 การเขา้ ร่วมกจิ กรรม ข้อที่ 13 ประโยชนท์ ่ีได้รบั จาการเขา้ รว่ มกิจกรรมตาม 80 หลกั สูตร Valid N (listwise) 80
29 แบบประเมินโครงกำรประกวดโครงงำนสง่ิ ประดิษฐ์ นักศึกษำ กศน.อำเภอโชคชยั วันท่ี 19 มนี ำคม 2564 ณ กศน.อำเภอโชคชัย อำเภอโชคชยั จงั หวัดนครรำชสมี ำ ………………………………………………………………………………. คำช้ีแจงแบบประเมนิ น้มี ีวตั ถปุ ระสงค์ เพอ่ื ทรำบควำมพงึ พอใจในกำรร่วมกจิ กรรมและนำขอ้ มลู มำใช้ประโยชน์ในกำร พัฒนำกำรดำเนินงำน ตอนท่ี 1 ข้อมลู ทั่วไป 1.1 เพศ ชาย หญิง 1.2 อายุ 15-29 ปี 30-49 ปี 50 ปีขึน้ ไป 1.3 ระดับการศึกษา ประถมศกึ ษา มัธยมศกึ ษาตอนต้น มธั ยมศึกษาตอนปลาย อน่ื ๆ (ระบ)ุ ......................... 1.4 อาชีพ เกษตรกรรม ค้าขาย รบั ราชการ พนกั งานของรฐั รัฐวสิ าหกจิ ธรุ กจิ สว่ นตวั รบั จา้ ง อื่นๆ(ระบ)ุ ............................ ตอนที่ 2 ดำ้ นควำมพึงพอใจผรู้ ่วมกิจกรรม คำช้ีแจง โปรดทำเคร่ืองหมำย ลงในช่องท่ตี รงกบั ขอ้ มลู ของท่ำนเพียงช่องเดียว ระดบั การประเมิน ท่ี รายการ มากทสี่ ุด มาก ปานกลาง นอ้ ย นอ้ ยทส่ี ุด 543 2 1 ดำ้ นหลักสูตร 1 กิจกรรมสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของหลกั สูตร 2 เนื้อหาของหลักสูตรตรงกบั ความต้องการผรู้ ่วมกิจกรรม 3 การจดั กิจกรรมส่งเสรมิ ให้ผรู้ ่วมกจิ กรรมสามารถ คดิ เป็น ทาเป็น แกป้ ญั หาเปน็ 4 ผ้รู ่วมกิจกรรมมสี ว่ นรว่ มในการแสดงความคิดเหน็ ตอ่ การจัดทาหลกั สตู ร 5 ผรู้ ่วมกจิ กรรมสามารถนาความร้ไู ปปรบั ใชใ้ นชวี ติ ประจาวันได้ ด้ำนวทิ ยำกร 6 วิทยากรมคี วามรคู้ วามสามารถในการถ่ายทอดองค์ความรู้ 7 วทิ ยากรมเี ทคนคิ วิธีการในการจัดการถา่ ยทอดองคค์ วามรู้ 8 วทิ ยากรมกี ารใช้สือ่ ทสี่ อดคลอ้ งและเหมาะสมกบั กจิ กรรม 9 บุคลิกภาพของวิทยากรเหมาะสม ดำ้ นสถำนท่ี ระยะเวลำ และควำมพงึ พอใจ 10 สถานที่ในการจดั กจิ กรรมเหมาะสม 11 ระยะเวลาในการจัดกิจกรรมเหมาะสม 12 ความพงึ พอใจในภาพรวมของผรู้ ว่ มกิจกรรมตอ่ การเขา้ รว่ มกจิ กรรม 13 ประโยชน์ท่ีได้รับจาการเข้ารว่ มกิจกรรมตามหลักสตู ร ตอนที่ 3 ข้อเสนอแนะเพิม่ เตมิ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. . ขอขอบคณุ ที่ให้ความร่วมมอื ตอบแบบสอบถาม
30 รำยชอ่ื ผเู้ ข้ำร่วมโครงกำรประกวดโครงงำนสง่ิ ประดิษฐ์ นักศึกษำ กศน.อำเภอโชคชยั วนั ที่ 19 มีนำคม 2564 ณ กศน.อำเภอโชคชัย ตำบลโชคชัย อำเภอโชคชัย จังหวัดนครรำชสีมำ ท่ี ช่ือ - สกุล หมำยเหตุ 1 นายภูมิพัฒน์ หอมยา 2 นายทรงฤทธ์ิ นวนจนั ทร์ 3 นายธรรมสรณ์ แรมกลาง 4 นายธนาวัฒน์ ภาวิสิทธิ์ 5 นายศภุ โชค อามาตสมบัติ 6 นายสุวฒั น์ ฝอฝน 7 นายกฤษฎา มนต์นาโชค 8 นางสาวปารชิ าติ เจนถูกใจ 9 นางสาวสรลั ลกั ษณ์ รัตนจันทร์ 10 นางสาวนงคราญ ถงุ สะอาด 11 นางสาวจนิ ต จนั ทร์สขุ เจริญ 12 นางสาววารุณี วรไธสง 13 นางสาวอลิเซีย นอร์ดวคิ 14 นางสาวกฤษณา ชาพล 15 นางสาวเสาวลักษณ์ ราชโมธา 16 นายศราวธุ สว่ ยครบุรี 17 นายณฐั วุฒิ เดชนอก 18 นายสมบตั ิ หงสา 19 นายพงษ์เทพ ธีระวัฒนา 20 นายธนวัตร ค่ากระโทก 21 นายสทุ ธินันท์ มุงคุณคาชาว 22 นายพรหมมินทร์ มงุ คณุ คาชาว 23 นายพลพล สบุ งกช 24 นางสาวมารษิ า ชาตจิ ะโป๊ะ 25 นายไกรวชิ ญ์ สวรา 26 นางสาวสุรีย์ กรดิ กระโทก 27 นายวัศพล ปลอดกระโทก 28 นายสิทธิศกั ด์ิ สุดใจ 29 นายพงศกร จาริกาวสิ าล 30 นายชนะพล นาไพรวัน
31 รำยช่อื ผ้เู ขำ้ ร่วมโครงกำรประกวดโครงงำนส่ิงประดษิ ฐ์ นกั ศกึ ษำ กศน.อำเภอโชคชยั วนั ท่ี 19 มีนำคม 2564 ณ กศน.อำเภอโชคชัย ตำบลโชคชัย อำเภอโชคชัย จงั หวัดนครรำชสีมำ ท่ี ชื่อ - สกลุ หมำยเหตุ 31 นางสาวกาญจนา กล่นั สระนอ้ ย 32 นางสาวมขุ ธิดา โชติกระโทก 33 นายธรี นัย ก่ากระโทก 34 นางสาวอาพร ด่านกระโทก 35 นางสาวทพิ ธญั ญา รัตเผา่ พงศ์ 36 นายธนวัฒน์ เหลย่ี มดี 37 นายชลทิศ รสกระโทก 38 นายอนวุ ฒั น์ แกน่ กระโทก 39 นายศิลาชยั เมอื งสวัสดิ์ 40 นายนฐั พงศ์ พรหมทัศ 41 นางสาววรีรตั น์ ครวญกระโทก 42 นางสาวสุกญั ญา จั่นกระโทก 43 นางสาวเกรยี วรัก กลอนกระโทก 44 นายธนากร แก่นกระโทก 45 นางสม หาญสูงเนนิ 46 นายศริ พิ งศ์ ปีถาวร 47 นายศราวธุ เกาะกระโทก 48 นายชนิ วัตร สนุ ทรรัตน์ 49 นางสาวธิดาญา ต่วนกระโทก 50 นางอานาจ โล่ทอง 51 นางสาวเพ็ญศริ ิ ทตั นยั 52 นางสาวณัฐพร จุลพันธ์ 53 นางสาวสปุ ราณี พรรณกระโทก 54 นางสาวหวาน โปร่งกระโทก 55 นางสาววรสิ า สอนเสนา 56 นางสาวศศิธร สุขกระโทก 57 นางสาววธรี ฉุนกระโทก 58 นายจาตุรงค์ นาวงษ์ 59 นายวรชติ ถา่ ยสงู เนนิ 60 นายศกั ดา ส่วยครบรุ ี
32 รำยชื่อผเู้ ข้ำรว่ มโครงกำรประกวดโครงงำนสิง่ ประดษิ ฐ์ นกั ศกึ ษำ กศน.อำเภอโชคชัย วนั ท่ี 19 มีนำคม 2564 ณ กศน.อำเภอโชคชัย ตำบลโชคชัย อำเภอโชคชยั จังหวัดนครรำชสีมำ ท่ี ชื่อ - สกุล หมำยเหตุ 61 นายครรชติ โคประโคน 62 นางสาวกรกนก สนิ ใหม่ 63 นายชาตรี เนื่องกระโทก 64 นายนัฐวฒุ ิ ไขทะเล 65 นายอานนท์ มวยดี 66 นางสาวสมุ ินตรา พิงไธสง 67 นายปรชั ญา แสงพรหม 68 นายสุวทิ ย์ โพธจิ ันทึก 69 นางสาวนฤมล ดอกกระโทก 70 นายกฤษฎา ม่วมกระโทก 71 นายชัยวฒั น์ ดีทะเล 72 นางสาวลลิตา โอบกระโทก 73 นายอเนก ป่วงกระโทก 74 นายพิชิต เจรญิ ยศ 75 นางสาวสดุ ารัตน์ วงค์โพธิ 76 นายศภุ ชัย ชาวสวน 77 นายกิตตศิ ักดิ์ รกั สกุล 78 นางสาวนติ ยา ปลอ้ งกระโทก 79 นายเพิ่มทรพั ย์ มมกระโทก 80 นายรัฐกจิ แปกระโทก 81 นางสาวพชิ าพร ดอกกระโทก 82 นายพัฒนพงษ์ หนเู ต้ีย 83 นายวษิ นุ เอยี นผักแว่น 84 นางสาวกวดิ า อ่าเกตุ 85 นายชนิ าวุฒิ ปลอ่ งกระโทก 86 นางสาวนิลวดี โคสานน 87 นายนพพร บญุ ครอง 88 นายสิทธิโชค กลิ่นกระโทก 89 นายธรี ะธาดา บารุงไทย 90 นายชัยวฒั น์ ดที ะเล
33 รำยช่ือผู้เข้ำร่วมโครงกำรประกวดโครงงำนส่งิ ประดิษฐ์ นักศกึ ษำ กศน.อำเภอโชคชัย วนั ท่ี 19 มีนำคม 2564 ณ กศน.อำเภอโชคชัย ตำบลโชคชยั อำเภอโชคชัย จงั หวัดนครรำชสีมำ ท่ี ช่ือ - สกลุ หมำยเหตุ 91 นางสาวแกว้ ตา เวชสวุ รรณ 92 นางสาววชิ ดุ า อนิ ทรป์ ระเคน 93 นางสาวศริ ินภา ระยับศรี 94 นายอภสิ ิทธ์ เต็งผกั แว่น 95 นายฤทธิชัย ถอยกระโทก 96 นายอภิชาต จนิ ดาบุตร 97 นางศรีสดุ า หลอมทอง 98 นางสาววชิ ชกุ ร แต้วกระโทก 99 นางสาวจรวยพร ไขทะเล 100 นายสุขเกษม จวิ๋ ขนุ ทด
34 ภำพกจิ กรรมโครงกำรประกวดโครงงำนสง่ิ ประดิษฐ์ นักศึกษำ กศน.อำเภอโชคชยั วนั ที่ 19 มีนำคม 2564 ณ กศน.อำเภอโชคชยั ตำบลโชคชยั อำเภอโชคชัย จังหวัดนครรำชสีมำ
35 ภำพกจิ กรรมโครงกำรประกวดโครงงำนสง่ิ ประดิษฐ์ นักศึกษำ กศน.อำเภอโชคชยั วนั ที่ 19 มีนำคม 2564 ณ กศน.อำเภอโชคชยั ตำบลโชคชัย อำเภอโชคชัย จังหวัดนครรำชสีมำ
36 ภำพกจิ กรรมโครงกำรประกวดโครงงำนสง่ิ ประดิษฐ์ นักศึกษำ กศน.อำเภอโชคชยั วนั ที่ 19 มีนำคม 2564 ณ กศน.อำเภอโชคชยั ตำบลโชคชยั อำเภอโชคชัย จังหวัดนครรำชสีมำ
37 ๑. ชอื่ โครงกำร โครงการประกวดโครงงานสิง่ ประดษิ ฐ์ นกั ศึกษา กศน.อาเภอโชคชยั ๒. สอดคลอ้ งกับยุทธศำสตร์ และจุดเน้นกำรดำเนนิ งำนของสำนกั งำน กศน. ประจำปีงบประมำณ พ.ศ. ๒๕๖๔ นโยบาย 12 ภารกจิ “เร่งด่วน”ท่ีจะต้องทา “จบั ตอ้ งได้” ภายใน 6 เดือน ภารกจิ ท่ี 4 พัฒนาหลกั สตู รทุกระดบั ทุกประเภท ให้ทันสมัย สอดคลอ้ งกบั บริบทสภาวะปัจจุบัน และความต้องการของผู้เรียน Credit Bank System / E-exam รวมท้ังส่งเสริมกิจกรรมการพัฒนาผู้เรียนด้วย กระบวนการลูกเสือและยวุ กาชาด เพอื่ สร้างคนดี มีระเบียบวนิ ยั และมีทศั นคติท่ดี ีตอ่ บ้านเมอื ง ๓. หลักกำรและเหตผุ ล แผนการศึกษาแห่งชาตฉิ บบั ปรับปรุง (พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๔) กาหนดวิสัยทัศน์ให้คนไทยได้เรียนรู้ตลอดชีวิต อย่างมีคุณภาพ โดยจุดมุ่งหมายท่ีสาคัญของแผนคือ การมุ่งเน้นการประกันโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษา การพฒั นาคณุ ภาพและมาตรฐานการศึกษา และการศึกษาเพื่อการมงี านทาและสร้างงานได้ภายใต้บริบทเศรษฐกิจและ สังคมของประเทศและของโลกท่ีขับเคล่ือนด้วยนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ รวมทั้งมีความเป็นพลวัต ภายใต้ สังคมแหง่ ปัญญา สงั คมแหง่ การเรียนรู้ และการสรา้ งสภาพแวดล้อมที่เอ้ือต่อการเรียนรู้ตามศักยภาพสาหรับประชากร ทุกชว่ งวัย ตง้ั แต่เกดิ จนตลอดชวี ิตท่ปี ระชาชนสามารถแสวงหาความรู้และเรียนรู้ได้ด้วยตนเองอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต และมเี ป้าหมายของการพฒั นาการศึกษา ๕ ประการ ได้แก่ การเข้าถึงความเท่าเทียม คุณภาพประสิทธิภาพ และการ ตอบโจทย์บริบทท่ีเปลี่ยนแปลงภายใต้บริบทเศรษฐกิจและสังคมของประเทศและของโลกท่ีเป็นพลวัต ซ่ึงกาหนด วิสยั ทศั นจ์ ดุ มุง่ หมาย ความคาดหวงั เป้าหมายสุดท้ายของแผน หลักการ/แนวคิด และยุทธศาสตร์/มาตรการ เพื่อการ บรรลุเปา้ หมายให้พลเมอื งสามารถแสวงหาความรูแ้ ละเรียนรู้ได้ด้วยตนเองอย่างตอ่ เน่อื งตลอดชีวติ สานักงานส่งเสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั จดั การศกึ ษาตามหลักสูตร การศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ โดยเน้นการฝึกกระบวนการเรียนรู้โดยใช้ กระบวนการ “คิดเป็น” ให้ผู้เรียนฝึกคิดวิเคราะห์สังเคราะห์ และแสวงหาความรู้ด้วยตนเองจากสื่อ เช่น สถานการณ์ จริง ข่าว บทความ ท่ีเก่ียวข้องกับเนื้อหารายวิชา ท่ีกาลังเรียนรู้ ครูมีหน้าที่เป็นผู้กระตุ้น เสริมแรง ใช้กระบวนการ เรียนรู้ แบบมีส่วนร่วม ให้ผู้เรียนทุกคนได้แลกเปล่ียนเรียนรู้ ร่วมกันตลอดช่วงเวลาการพบกลุ่ม โดยครู ต้ังคาถาม ปลายเปิด ให้ผู้เรียนได้คิดร่วมอภิปราย เพ่ือ หาคาตอบจากประเด็นปัญหา และ พยายามเชื่อมโยงเร่ืองที่เรียนรู้ จาก รายวิชานน้ั เขา้ ส่วู ิถีชีวิตของผเู้ รียน เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นได้มองเห็นประโยชนจ์ ากการมาพบกลุ่ม การนาเสนอโครงงาน เป็นอีก รปู แบบวิธีเรยี น ท่ีให้ผู้เรียนนาเสนอความคิด และความก้าวหน้า ในการทาโครงงานต่อกลุ่มใหญ่ เพ่ือให้ผู้เรียนคนอ่ืน และครูช่วยกันวิเคราะห์ซักถาม ให้ข้อเสนอแนะ คาแนะนา ทาให้เกิดการแลกเปล่ียนเรียนรู้ เป็นการต่อยอดทาง ความคดิ และ นาไปสู่การพฒั นาโครงงานของนักศกึ ษา ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอโชคชัย ตระหนักถึงความสาคัญ ดังกล่าว ในการ ส่งเสริมให้นักศึกษามีความรู้ ความสามารถในการรวบรวมความรู้ท่ีได้รับ จากการจัดการศึกษานอกระบบระดับ การศึกษาขั้นพ้ืนฐาน และสามารถเชื่อมโยงความรู้ ประสบการณ์ ที่มี นาไปใช้ในการจัดทาโครงงาน ชิ้นงาน สิ่งประดิษฐ์ หรือส่ิงใหม่ ๆ ทเ่ี กิดข้นึ นาไปใชป้ ระโยชน์ได้จรงิ และจากรายงานการประเมินตนเอง ประจาปี ๒๕๖๓ ได้ มีการกาหนดแนวทาง เพ่ือรักษาคุณภาพ หรือพัฒนาคุณภาพการศึกษา ที่สถานศึกษาคาดว่าจะนาไปดาเนินการใน ปีงบประมาณถัดไป ข้อท่ี ๑ สถานศึกษาควรจัดแข่งขันประกวดโครงงาน ช้ินงาน สิ่งประดิษฐ์ งานสร้างสรรค์ ระดับ กศน.อาเภอ ทุกภาคเรียนอย่างต่อเนื่อง จึงไดจ้ ัด โครงการประกวดโครงงานสิ่งประดิษฐ์ นักศึกษา กศน.อาเภอโชคชัย ข้ึน
38 ๔. วตั ถปุ ระสงค์ เพือ่ ให้นกั ศกึ ษา กศน.อาเภอโชคชัย ได้รับการพัฒนาทักษะ ความรู้ และกระบวนการจัดทาโครงงาน และ ส่งเสรมิ การแสดงออกถึงความคิดสรา้ งสรรค์ มจี ินตนาการ ในแนวทางท่ถี กู ตอ้ ง และเหมาะสม ๕. เป้ำหมำย เชงิ ปรมิ ำณ - นกั ศกึ ษา กศน.อาเภอโชคชัย จานวน ๑๐๐ คน เชิงคุณภำพ - นักศึกษา กศน.อาเภอโชคชัย ท่ีเข้าร่วมโครงการร้อยละ ๙๐ มีความรู้ ทักษะ กระบวนการจัดทา โครงงาน กล้าแสดงออกอย่างสรา้ งสรรค์ พฒั นาความสามารถพเิ ศษ หรือพรสวรรค์ นาไปใชใ้ นการดารงชวี ิตของตนเอง ๖. วธิ ดี ำเนินกำร ท่ี กิจกรรมหลัก วตั ถปุ ระสงค์ กลุม่ เป้าหมาย เป้าหมาย พ้นื ท่ี ระยะ งบประมาณ นักศกึ ษา กศน. ๑๐๐ คน ดาเนนิ การ เวลา ๑. สารวจ เพอื่ สารวจกลุม่ เป้าหมาย อาเภอโชคชัย ๒๔ คน กศน.ตาบล ม.ค. ๖๔ แผนงาน : ยทุ ธศาสตร์ ๓ คน ทุกแหง่ สรา้ งความเสมอภาค กล่มุ เป้าหมาย นกั ศกึ ษา กศน.อาเภอ โชค บุคลากร กศน. ๑๖ คน ม.ค. ๖๔ ทางการศกึ ษา อาเภอโชคชยั ๑๐๐ คน กศน.อาเภอ ม.ค. ๖๔ โครงการสนับสนุน ชัย บุคลากร กศน. โชคชยั ค่าใชจ้ า่ ยในการจดั อาเภอโชคชยั ๔ คน กศน.อาเภอ ก.พ. ๖๔ การศกึ ษาตัง้ แตร่ ะดับ ๒. ประชมุ / วางแผน เพอ่ื กาหนดรูปแบบและ ๑๐๐ คน โชคชัย ๑๙ อนบุ าลจนจบ ครู กศน. ๒ คน การศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน การดาเนินงาน แผนการดาเนินงาน อาเภอโชคชยั กศน.อาเภอ ม.ี ค. ๖๔ กจิ กรรมการจดั นักศึกษา กศน. โชคชัย การศกึ ษานอกระบบ ๓. ขออนมุ ัติ เพื่อขอรบั การสนบั สนุน อาเภอโชคชยั กศน.อาเภอ ๑๙ ระดบั การศึกษาขนั้ โชคชัย ม.ี ค. ๖๔ พ้ืนฐาน งบเงนิ โครงการ/แตง่ ต้ัง งบประมาณดาเนนิ งาน -ขา้ ราชการ อดุ หนนุ ค่ากจิ กรรม -ครู อาสาสมคั ร กศน.อาเภอ ๑๙ พัฒนาคณุ ภาพผเู้ รียน คณะทางาน นกั ศึกษา กศน. โชคชัย มี.ค. ๖๔ ภาคเรยี น อาเภอโชคชัย กศน.อาเภอ ท่ี ๒/๒๕๖๓ ๔. ประสานงานภาคี เพอื่ จดั เตรียมสอื่ /ประสาน ผ้เู กีย่ วขอ้ งตาม โชคชยั ๓๑ รหัสงบประมาณ คาส่งั ท่ีไดร้ ับ กศน.อาเภอ ม.ี ค. ๖๔ ๒๐๐๐๒๔๓๐๑๖๕๐ เครือข่าย กลุม่ เปา้ หมาย มอบหมาย โชคชัย ๐๒๗๗ จานวน ๒๒,๙๐๐ บาท ๕. ดาเนินกจิ กรรม เพอ่ื ให้นักศึกษา กศน.อาเภอ (สองหม่ืนสองพนั เกา้ ร้อยบาทถว้ น) ตามโครงการ โชคชัย ไดร้ ับการพฒั นา -ประกวดโครงงาน ทกั ษะ ความรู้ และ นกั ศกึ ษา กระบวนการจัดทาโครงงาน และส่งเสรมิ การแสดงออกถงึ ความคดิ สรา้ งสรรค์ ใน แนวทางที่ถกู ต้อง ๖. การนเิ ทศตดิ ตาม เพ่ือกากับติดตามการ ผล ดาเนินงาน ๗. การวดั ผล เพือ่ ประเมนิ ผลสาเร็จของ ประเมนิ ผล โครงการ ๘. การสรุปผลและ เพ่อื สรุปและรายงานผลการ การรายงานผล จดั กิจกรรมใหผ้ ู้ทีเ่ ก่ียวข้อง การดาเนินงาน ทราบ
39 ๗. วงเงนิ งบประมำณท้ังโครงกำร จำนวน ๒๒,๙๐๐ บำท จากเงินงบประมาณ ประจาปี ๒๕๖๔ แผนงาน : ยุทธศาสตร์สร้างความเสมอภาคทางการศึกษา โครงการ สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลจนจบการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน กิจกรรมการจัดการศึกษานอก ระบบระดับการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน งบเงินอดุ หนนุ คา่ กจิ กรรมพัฒนาคุณภาพผ้เู รยี น ภาคเรียน ที่ ๒/๒๕๖๓ รหสั งบประมาณ ๒๐๐๐๒๔๓๐๑๖๕๐๐๒๗๗ จานวน ๒๒,๙๐๐ บาท (สองหมืน่ สองพนั เกา้ รอ้ ยบาทถว้ น) ดงั น้ี ๑. คา่ อาหารกลางวนั (๑๐๐ คน x ๗๐ บาท x ๑ มอ้ื ) จานวน ๗,๐๐๐ บาท ๒. คา่ อาหารว่างและเคร่ืองดม่ื (๑๐๐ คน x ๒๐ บาท x ๒ ม้อื ) จานวน ๔,๐๐๐ บาท ๓. ค่าตอบแทนคณะกรรมการ (๓ คน x ๕ ช.ม. x ๒๐๐ บาท ) จานวน ๓,๐๐๐ บาท ๔. ค่าปา้ ยโครงการ (ขนาด ๒.๔๐ ม. x ๑.๔๐ ม. x ๑ ผืน) จานวน ๓๕๐ บาท ๕. คา่ วัสดุ จานวน ๕๕๐ บาท ๖. คา่ เช่าเตน้ ท์ (๒ หลงั x ๒,๐๐๐ บาท) จานวน ๔,๐๐๐ บาท ๗. โลร่ างวลั (๒ อัน x ๒,๐๐๐ บาท) จานวน ๔,๐๐๐ บาท รวมท้ังสน้ิ จำนวน ๒๒,๙๐๐ บาท หมายเหตุ ทกุ รายการถวั เฉลย่ี ตามท่จี ่ายจริง ๘. แผนกำรใช้จ่ำยงบประมำณ ไตรมำสท่ี ๑ ไตรมำสท่ี ๒ ไตรมำสที่ ๓ ไตรมำสท่ี ๔ (ต.ค.-ธ.ค.๖๓) (ม.ค.-มี.ค.๖๔) (เม.ย.-ม.ิ ย.๖๔) (ก.ค.-ก.ย.๖๔) กจิ กรรม -- - - ๑. สารวจกลมุ่ เป้าหมาย ๒. ประชมุ /วางแผนการดาเนินงาน -- - - ๑. ขออนุมัตโิ ครงการ/แต่งตง้ั คณะทางาน ๔. จดั เตรียมสอื่ /ประสานงานภาคี -- - - เครอื ขา่ ย - ๒๒,๙๐๐ - - ๕. ดาเนินกิจกรรมตามโครงการ -- - - ๖. การนเิ ทศติดตามผล -- - - ๗. การวัดผลประเมนิ ผล -- - - ๘. การสรปุ ผลและการรายงานผลการดาเนนิ งาน ๙. ผ้รู บั ผดิ ชอบโครงกำร ครู อาสาสมคั ร กศน. -นายสมชาย มงุ่ ภู่กลาง ครู กศน.ตาบล -นายดนพุ ล เจยี ร์สคุ นธ์ -นางสาวสาวิกา ดอกกระโทก ครู กศน.ตาบล
40 ๑๐. ผลลพั ธ์ (Outcome) นกั ศกึ ษา กศน.อาเภอโชคชยั มีความรู้ ทกั ษะ เข้าใจกระบวนการจัดทาโครงงาน กล้าแสดงออกอยา่ ง สรา้ งสรรค์ ได้รบั การพัฒนาความสามารถพเิ ศษ หรือพรสวรรคข์ องตนเอง มจี ินตนาการในแนวทางท่ีถูกต้อง ๑๑. ตัวช้ีวัดควำมสำเร็จของโครงกำร ๑๑.๑ ตวั ช้ีวดั ผลผลิต (Output) นกั ศึกษา กศน.อาเภอโชคชัย จานวน ๑๐๐ คน มคี วามรู้ ทักษะ เข้าใจกระบวนการจัดทาโครงงาน กลา้ แสดงออกอย่างสรา้ งสรรค์ ๑๑.๒ ตัวช้ีวัดผลลัพธ์ (Outcome) นกั ศกึ ษา กศน.อาเภอโชคชัย ทเ่ี ข้าร่วมโครงการรอ้ ยละ ๙๐ นาความรู้ ทกั ษะ และกระบวนการ จัดทาโครงงาน ไปใช้ในการพัฒนาการเรยี นรู้ และ พัฒนาความสามารถพเิ ศษของตนเอง ใหเ้ กิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต ๑๒. กำรติดตำมและกำรประเมนิ ผลโครงกำร - แบบประเมินโครงการ - สังเกตการมีสว่ นรว่ มในกจิ กรรม ลงชอ่ื ผเู้ สนอโครงการ (นายดนุพล เจียร์สุคนธ์) ครู กศน.ตาบล ลงช่ือ ผเู้ ห็นชอบโครงการ (นายสมชาย มุ่งภ่กู ลาง) ครู อาสาสมัคร กศน. ลงชอื่ ผูอ้ นุมตั โิ ครงการ (นางจีระภา วฒั นกสิการ) ผู้อานวยการศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอโชคชัย
41 กำหนดกำร โครงกำรประกวดโครงงำนสิง่ ประดิษฐ์ นกั ศึกษำ กศน.อำเภอโชคชยั วนั ท่ี ๑๙ มีนำคม พ.ศ. ๒๕๖๔ ณ กศน.อำเภอโชคชัย ……………………………………………………………………… วนั ท่ี ๑๙ มนี าคม ๒๕๖๔ กิจกรรม เวลา รับลงทะเบียน ๐๘.๓๐ - ๐๙.๐๐ น. ๐๙.๐๐ – ๐๙.๓๐ น. พธิ ีเปิด โดย นายสันติ จริ พรเจริญ (ท่ีปรึกษากรรมการสถานศกึ ษา กศน. อาเภอโชคชัย) ๐๙.๓๐ – ๑๒.๐๐ น. กล่าวรายงาน โดย นางจรี ะภา วัฒนกสิการ (ผอ.กศน.อาเภอโชคชัย) ๑๒.๐๐ – ๑๓.๐๐ น. ๑๓.๐๐ – ๑๕.๐๐ น. ผเู้ ข้าร่วมโครงการนาเสนอผลงานโครงงาน ๑๕.๐๐ – ๑๖.๓๐ น. พักรับประทานอาหารกลางวัน คณะกรรมการใหข้ อ้ เสนอแนะ/ตัดสนิ ผลการประกวด ประกาศผลการประกวดโครงงาน (รอบตัดสนิ ) มอบรางวลั และปดิ โครงการ หมำยเหตุ ๑. เวลา ๑๐.๓๐ – ๑๐.๔๕ น. และเวลา ๑๔.๓๐ – ๑๔.๔๕ น. พกั รบั ประทานอาหารวา่ ง ๒. กาหนดการน้อี าจเปลยี่ นแปลงได้ตามความเหมาะสม
42 คณะผู้จดั ทำ ท่ีปรึกษำ ผอู้ านวยการ กศน.อาเภอโชคชัย นางนางจีระภา วัฒนกสิการ บรรณารกั ษ์ชานาญการพิเศษ ครูอาสาสมัคร กศน. นางสุวิมล หาญกลา้ ครูอาสาสมคั ร กศน. นางจงรกั ษ์ เชือ่ ปญั ญา นายสมชาย มงุ่ ภู่กลาง วิเครำะห์ เรยี บเรียง และจดั ทำต้นฉบบั ครู กศน.ตาบล นางสาวสาวิกา ดอกกระโทก ครู กศน.ตาบล นายดนพุ ล เจียรส์ ุคนธ์ บรรณำธกิ ำร ผ้อู านวยการ กศน.อาเภอโชคชัย นางนางจีระภา วฒั นกสกิ าร ครอู าสาสมัคร กศน. ครูอาสาสมคั ร กศน. นางจงรกั ษ์ เชอ่ื ปัญญา เจ้าหนา้ ทธ่ี รุ การ นายสมชาย มุง่ ภ่กู ลาง นางสาวอรอนงค์ เน่ืองกระโทก
46 ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอโชคชยั สานักงาน กศน.จังหวดั นครราชสีมา
Search
Read the Text Version
- 1 - 46
Pages: