สรปุ ผลการดาเนินงาน โครงการ ปลกู ผกั สวนครัวรว้ั กนิ ได้ กศน.ตาบลโชคชัย ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอโชคชัย สานักงานส่งเสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย จังหวดั นครราชสีมา
คานา เอกสารสรุปผลโครงการเล่มนี้ จัดทาขึ้นเพื่อรวบรวมวิธีการดาเนินงาน ปัญหาอุปสรรค ขอ้ เสนอแนะจากการจดั กิจกรรม โครงการปลูกผกั สวนครัวรั้วกินได้ ของ กศน.ตาบลโชคชัย ศูนย์การศึกษา นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อาเภอโชคชยั คณะผูจ้ ดั ทาหวงั เปน็ อยา่ งยงิ่ วา่ เอกสารเล่มน้ี จะเป็นแนวทางในการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริม และพัฒนา งานการศึกษาตอ่ เนอ่ื ง อ่นื ๆ ต่อไป กศน.ตาบลโชคชยั ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอโชคชัย สรปุ ผลการดาเนินงาน โครงการผักสวนครวั รวั้ กินได้ ก
สารบญั หน้า ก เนือ้ หา ข คานา สารบัญ 1 1 บทที่ 1 บทนา 1 หลกั การและเหตุผล 2 วตั ถุประสงค์ 2 เปา้ หมาย 2 ผู้รบั ผดิ ชอบโครงการ 2 เครือขา่ ยที่เกี่ยวขอ้ ง 2 ผลลัพธ์ ดัชน้ตี วั ช้วี ดั ผลสาเร็จโครงการ 3 การติดตามและประเมินผล 6 6 บทท่ี 2 เอกสารทีศ่ ึกษาและงานวจิ ัยท่เี กีย่ วขอ้ ง 10 หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 13 นโยบายและจดุ เนน้ การดาเนินงาน สานักงาน กศน. ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2564 18 การปลูกผักสวนครวั 24 งานวิจยั ทเ่ี กี่ยวขอ้ ง 26 27 บทที่ 3 วธิ กี ารดาเนนิ งาน 28 บทที่ 4 ผลการวิเคราะห์ขอ้ มูล 29 บทที่ 5 สรปุ ผล อภิปรายผล และขอ้ เสนอแนะ 32 38 บรรณานุกรม 39 ภาคผนวก รายช่อื ผเู้ ข้ารว่ มโครงการ ภาพถา่ ยกิจกรรม ตารางวเิ คราะหข์ อ้ มลู โดยใช้โปรแกรม SPSS แบบประเมินโครงการ โครงการปลกู ผักสวนครัวรั้วกินได้ คณะผจู้ ัดทา สรปุ ผลการดาเนนิ งาน โครงการผกั สวนครัวร้วั กนิ ได้ ข
บทท่ี 1 บทนา หลกั การและเหตุผล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงให้กับปวงชนชาว ไทยไว้เพ่อื เป็นแนวทางในการดาเนินชีวิตโดยให้ตั้งม่ันอยู่ในความพออยู่ พอกิน ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง สามารถใช้ได้กับคนทุกเพศ ทุกวัย ทุกอาชีพ ไม่เว้นแม้แต่เกษตรกรโดยเฉพาะในยุคท่ีวิกฤติพิษภัย จากสารเคมี ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรและผู้บริโภค รวมทั้งปัญหาดินเส่ือมโทรมจากการใช้สารเคมี เกินความจาเป็นภูมิปัญญาเกษตรอินทรีย์ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงจึงเป็นทางเลือกที่ยั่งยืนในการฟื้นฟู ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พัฒนาคุณภาพชีวิตเกษตรกร ตลอดจนสร้างความปลอดภัยต่อ ผ้บู ริโภคและผูผ้ ลิต การบริโภคผักปลอดสารพิษเป็นหน่ึงในแนวทางปฏิบัติท่ีนาไปสู่หลักเศรษฐกิจพอเพียง การปลกู ผกั ปลอดสารพิษ เพ่อื ลดตน้ ทุนในการผลติ ได้ดี โดยเฉพาะอยา่ งยิง่ ในยุคปัจจุบันท่ีราคาสารเคมีทาง การเกษตรและปุ๋ยเคมีมกี ารปรับตัวสูงข้ึนอย่างต่อเนื่อง ถ้าสามารถลดต้นทุนการผลิตส่วนน้ีได้มากเท่าไรก็ ยง่ิ เปน็ ผลดีต่อตัวเกษตรกรเองเพราะนั่นจะเป็นตัวบ่งช้ีถึงรายได้ที่จะกลับมานั่ง จึงมุ่งส่งเสริมให้เกษตรกร มุ่งสู่กระบวนการผลิตเกษตรอินทรีย์ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ซ่ึงการส่งเสริมการผลิตการปลูกผักไว้ รับประทานเอง กินดี อย่ดู ี ด้วยวิถพี อเพียง “เศรษฐกิจพอเพียง” เป็นปรัชญาที่เป็นท้ังแนวคิด หลักการ และแนวทางปฏิบัติตน โดยคานึงถึงความพอประมาณ ความมีเหตุมีผล และการมีภูมิคุ้มกันท่ีดีในตัวเอง โดยใช้ความรู้อย่างถูก หลักวชิ าการ ดว้ ยความรอบคอบและระมดั ระวัง ควบคไู่ ปกับการมีคุณธรรม แบ่งปัน ช่วยเหลือซ่ึงกันและ กัน และร่วมมือปรองดองกันในสังคม ปัจจุบันจึงจาเป็นอย่างยิ่งจะต้องส่งเสริมการพัฒนาแนวคิด ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ให้กับสังคมไทย จาเป็นที่จะต้องมีการส่งเสริมให้ประชาชน มีความรู้ ความเขา้ ใจตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และปฏิบตั ิใหไ้ ดผ้ ลจริงอย่างเป็นรปู ธรรม ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอโชคชัย ตระหนักถึงความสาคัญ ดังกล่าว จึงได้จัดโครงการปลูปผักสวนครัวร้ันกินได้ เพื่อเสริมทักษะให้ประชาชน ดาเนินชีวิตตามหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งและปลูกผักสวนครวั ไว้รับประทาน ทาให้เกิดสุขภาพท่ีดี สามารถสร้างอาชีพ สรา้ งรายได้ และพฒั นาคณุ ภาพชวี ิตสร้างความเขม้ แขง็ ใหก้ ับชมุ ชน วัตถุประสงค์ เพื่อให้ประชาชนตาบลโชคชัย มีความรู้ มีทักษะในการดาเนินชีวิตตามหลักปรัชญา ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง เป้าหมาย เชงิ ปรมิ าณ ประชาชนในเขตพื้นทีต่ าบลโชคชยั อาเภอโชคชยั จังหวัดนครราชสมี า จานวน 20 คน สรุปผลการดาเนนิ งาน โครงการผักสวนครัวร้วั กนิ ได้ 1
เชิงคุณภาพ ประชาชนในตาบลโชคชยั อาเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสมี า ทเี่ ขา้ รว่ มโครงการฯ ร้อยละ 90 มคี วามรู้ มที กั ษะการดาเนนิ ชีวติ ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ผูร้ ับผิดชอบโครงการ สาสังข์ ครู กศน.ตาบล มุ่งภกู่ ลาง ครู อาสาสมัคร กศน. นายมนตรี นายสมชาย ภาคเี ครอื ข่าย - ผนู้ าชมุ ชนตาบลโชคชัย - ภูมิปัญญาท้องถน่ิ /ปราชญ์ชาวบา้ น - หมอดินอาสาประจาตาบล โครงการท่ีเก่ยี วขอ้ ง โครงการหมบู่ ้านต้นแบบ โคก หนอง นา โมเดล ผลลพั ธ์ (Outcome) ประชาชนทเ่ี ข้ารว่ มโครงการฯ มีความรู้ มีทักษะในการดาเนนิ ชวี ิตตามหลักปรชั ญาของ เศรษฐกจิ พอเพียง ดัชนีชว้ี ัดผลสาเร็จของโครงการ ตวั ชี้วัดผลผลติ (Outputs) ประชาชนท่เี ขา้ รว่ มโครงการฯ ประชาชนท่เี ข้ารว่ มโครงการฯ จานวน 20 คน มีความรู้ มีทกั ษะในการดาเนนิ ชวี ิตตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ตวั ชี้วัดผลลพั ธ์ (Outcomes) ประชาชนทเี่ ขา้ รว่ มโครงการฯ ร้อยละ 90 นาความรู้ ทักษะ การดาเนินชีวิตตามหลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพยี ง สรา้ งอาชพี สร้างรายได้ และพัฒนาคุณภาพชีวิตสรา้ งความเขม้ แขง็ ใหก้ ับชมุ ชน การประเมินและติดตามผล -สงั เกตการมีส่วนรว่ ม -แบบประเมนิ โครงการฯ สรุปผลการดาเนินงาน โครงการผกั สวนครวั ร้ัวกนิ ได้ 2
บทที่ 2 เอกสารการศึกษาและงานวจิ ยั ทเ่ี กยี่ วข้อง ในการจดั ทาโครงการครั้งน้ไี ดท้ าการศึกษาคน้ คว้าเนื้อหาจากเอกสารการศึกษาและงานวจิ ัยทีเ่ กยี่ วข้อง ดังตอ่ ไปน้ี 1. หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 2. นโยบายและจุดเน้นการดาเนินงาน สานักงาน กศน. ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 3. การปลกู ผักสวนครวั 4. งานวจิ ัยท่ีเกย่ี วขอ้ ง 1. หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาท่ี พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มี พ ร ะ ร า ช ด า ร ัส แ ก ่ช า ว ไ ท ย น ับ ตั ้ง แ ต ่ปี พ.ศ. 2517 เป็นต้นมา และถูกพูดถึงอย่าง ชัดเจนในวันที่ 4 ธันวาคม 2540 เพื่อเป็นแนว ทางการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศไทย ให้สามารถดารงอยู่ได้อย่างม่ันคงและยั่งยืนในกระแส โลกาภิวัฒน์และความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ปัจจุบันปรัชญาเศรษ ฐกิจพ อเพียงเป็นปรัชญาที่มีบทบาทต่อการกา ห นดอุดมการณ์ใน การพัฒนาของประเทศไทย โดยประชาชนชาวไทยในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับครอบครัว ระดับชุมชน จนถึงระดับรัฐ ต่างเห็นความสาคัญในการนาไปเป็นแนวทางในดาเนินชีวิตและพัฒนาเศรษฐกิจให้ เป็นไปในทางสายกลางท่ามกลางปัญหาและการเปล่ียนแปลงท่ีเพ่ิมขึ้น แนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวคิดพื้นฐานของการดารงชีวิตซึ่งอยู่ระหว่างสังคม ระดับท้องถ่ิน และระดับสากล จุดเด่นของปรัชญาคือ แนวทางท่ีสมดุล และการอยู่ร่วมกันของทุกคน ในสังคม สามารถทันสมัยและก้าวสู่ความเป็นสากลได้ โดยปราศจากการต่อต้านกระแสโลกาภิวัฒน์ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มีบทบาทต่อสังคมไทยนับแต่ช่วงปี 2540 อันเนื่องจากเป็น ช่วงที่ประเทศไทยต้องประสบกับปัญหาภาวะทางเศรษฐกิจ และต้องการรักษาความมั่นคงและ เสถียรภาพ เพื่อที่จะยืนยันในการไม่พึงพาผู้อื่นและต้องการพัฒนานโยบายสาคัญเพื่อการฟื้นฟู เศรษฐกิจของประเทศ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เชื่อว่าโครงสร้างทางสังคมของชุมชนจะถูกปรับเปลี่ยน พัฒนาไปในทิศทางท่ีดีขึ้นอย่างย่ังยืนได้ ต้องอาศัยปัจจัยสาคัญ 2 อย่างคือ 1) การผลิต การผลิตจะต้องมีความสัมพันธ์กันระหว่าง “ปริมาณผลผลิต” และ “การบริโภค” 2) ความสามารถในการจัดการ ชุมชนจะต้องมีความสามารถในการจัดการทรัพยากร ของตนเองได้อย่างสมดุลอย่างยั่งยืน สรุปผลการดาเนินงาน โครงการผักสวนครวั รวั้ กนิ ได้ 3
หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวทางการดาเนินชีวิตที่ต้องอาศัยความรอบรู้ รอบคอบ และ ระมัดระวัง ในการวางแผนและดาเนินการทุกขึ้นตอน ภายใต้ “3 ห่วง 2 เงื่อนไข” ดังน้ี ความพอประมาณ (Moderation) หมายถึง ความพอดี ไม่มากหรือน้อยเกินไปในมิติต่าง ๆ ของการกระทา 5 ประการ ด้านจิตใจ คือ เร่ิมต้นจากตนเองต้องเข้มเข็งมีสติ มีปัญญาเพ่ือให้สามารถึงตนเองได้ ตลอดจนต้องมีจิตสานึกที่ดี มีเมตตา เอื้ออาทร มีความเข้าใจและประนีประนอม คานึงถึง ผลประโยชน์ส่วนรวม ด้านสังคม คือ โดยเริ่มจากครอบครัว ชุมชน และสังคม ที่ต่างต้องช่วยเหลือเกื้อกูล กันสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชน รู้จักผนึกกาลัง การสร้างความพอดีให้กับทุกระดับของสังคม และ ท่ีสาคัญคือการมีกระบวนการเรียนรู้ท่ีเกิดจากฐานรากที่ม่ันคงและแข็งแรงของชุมชน ด้านเศรษฐกิจ คือ ต้องดารงชีวิตอยู่อย่างพอดี ด้วยการพยายามเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ไม่หรูหรา ฟุ่มเฟือยพออยู่พอกินสมควรตามอัตภาพและฐานะของตน ด้านเทคโนโลยี คือ ควรรู้จักใช้เทคโนโลยีให้เหมาะสมสอดคล้องกับสภาวะแวดล้อม และความต้องการของประเทศ และควรมุ่งเน้นพัฒนาเทคโนโลยีจากภูมิปัญญาท้องถิ่นให้เกิดความ สอดคล้องเป็นประโยชน์ต่อสภาพแวดล้อมโดยรวมของสังคม ชุมชน ประเทศชาติ ด้านทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม คือ รู้จักใช้อย่างประหยัดและมีประสิทธิภาพ รู้จักจัดการอย่างฉลาดรอบคอบเพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยาในการพัฒนาอย่างมั่นคง ตลอดจนควร รณรงค์รักษาทรัพยากรธรรมชาติให้เกิดความย่ังยืนสูงสุด สรปุ ผลการดาเนินงาน โครงการผกั สวนครัวร้ัวกินได้ 4
ความมีเหตุผล (Reasonableness) หมายถึง การตัดสินใจเก่ียวกับระดับของความพอเพียงนั้นจะต้องเป็นไปอย่างมีเหตุผล โดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยที่เก่ียวข้อง ตลอดจนคานึงถึงผลที่คาดว่าจะเกิดข้ึนจากการกระทานั้น ๆ อย่าง รอบคอบ ซอ่ื ตรง และไม่โลภอย่างมาก การมีภูมคิ ุ้มกนั ทีด่ ใี นตวั (Self-immunity) หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบและการเปลี่ยนแปลงด้านต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น โดยคานงึ ถึงความเปน็ ไปไดข้ องสถานการณ์ต่าง ๆ ท่คี าดวา่ จะเกิดข้นึ ในอนาคตทัง้ ใกล้และไกล เงอ่ื นไข การตัดสินใจและการดาเนินกิจกรรมต่าง ๆ ให้อยู่ในระดับพอเพียงน้ันต้องอาศัยทั้งความรู้ และคณุ ธรรมเป็นพนื้ ฐาน กล่าวคือ เงื่อนไขความรู้ ประกอบด้วย ความรอบรู้เก่ียวกับวิชาการต่าง ๆ ท่ีเก่ียวข้องอย่างรอบด้าน ความรอบคอบ ท่ีจะนาความรู้เหล่านั้นมาพิจารณาให้เชื่อม เพื่อประกอบการวางแผนและการใช้ความระมัดระวังในข้ัน ปฏิบัติ เงอื่ นไขคณุ ธรรม ที่จะตอ้ งเสริมสรา้ งประกอบด้วย มีความตระหนกั ในคุณธรรมมีความซอ่ื สตั ย์สุจรติ และมีความ อดทน มคี วามเพยี ร ใช้สตปิ ัญญาในการดารงชวี ิต การนาไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวัน ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงน้ี ถูกใช้เป็นกรอบแนวความคิดและทิศทางการพัฒนาระบบ เศรษฐกิจมหภาคของไทย ซึง่ บรรจุอยู่ใน แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับท่ี 10 เพ่ือมุ่งสู่การ พฒั นาที่สมดลุ ยง่ั ยืน และมีภูมคิ มุ้ กัน เพอ่ื ความอยู่ดีมีสุข มุ่งสู่สังคมท่ีมีความสุขอย่างย่ังยืน หรือท่ีเรียกว่า \"สังคมสีเขียว\" การพัฒนาจะไม่เน้นเรื่องตัวเลขการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ให้ความสาคัญต่อระบบ เศรษฐกิจแบบทวิลกั ษณ์ หรอื ระบบเศรษฐกิจที่มีความแตกต่างกันระหว่างเศรษฐกิจชุมชนเมืองและชนบท นอกจากนี้แนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ยังถูกบรรจุในรัฐธรรมนูญของไทย เช่น รัฐธรรมนูญ แห่ง ราชอาณาจักรไทย พุทธศกั ราช 2550 ในสว่ นที่ 3 แนวนโยบายด้านการบริหารราชการแผ่นดิน มาตรา 78 (1) ความว่า: \"บริหารราชการแผ่นดินให้เป็นไปเพื่อการพัฒนาสังคม เศรษฐกิจ และความม่ันคง ของ ประเทศอยา่ งย่งั ยืน โดยตอ้ งสง่ เสรมิ การดาเนินการตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งและคานึงถึงผลประโยชน์ ของประเทศชาติในภาพรวมเป็นสาคัญ\" สรุปผลการดาเนินงาน โครงการผกั สวนครวั ร้วั กนิ ได้ 5
2. นโยบายและจุดเน้นการดาเนินงาน สานักงาน กศน. ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ข้อที่ 1.1 สืบสานศาสตร์พระราชา โดยการสร้างและพัฒนาศูนย์สาธิตและเรียนรู้ “โคก หนอง นา โมเดล”เพือ่ เปน็ แนวทางในการจดั การบริหารทรัพยากรรูปแบบต่าง ๆ ทั้งดิน น้า ลม แดด รวมถงึ พืชพนั ธุต์ ่าง ๆ และสง่ เสริมการใช้พลงั งานทดแทนอย่างมีประสทิ ธภิ าพ นโยบายและจดุ เนน้ การดาเนินงาน สานักงาน กศน. ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 http://203.147.24.83/onieWeb/plann/download.html 3. การปลูกผกั สวนครัว หมายถึง ส่วนต่างๆ ของพืชที่ใช้เป็นอาหาร เช่น ลาต้น ใบ ดอก ผล และหัวสามารถ ปลูกไว้ในบริเวณบานเพื่อใช้บริโภคในครอบครัว ถ้าเหลือก็สามารถนาไปจาหน่ายเพื่อเป็นรายได้ เสริมให้กับครอบครัว ประโยชน์การปลูกผักสวนครัว 1. ปลูก เป็น แน วรั้ว บ้าน (รั้วกิน ไ ด้) ผักที่สามารถนามาปลูกทาเป็น รั้ว ได้แก่ กระถิน ตาลึง ผักหวาน ผักปัง ต้นแค ถั่วพู มะระ ฯลฯ 2. ใช้ประดับตกแต่งบริเวณบาน เช่น จัดสวนผักสวนครัว ผักสวนครัวที่ปลูกในกระถาง แบบห้อย หรือแขวนเพ่ือตกแต่งบริเวณรอบๆ บ้าน 3. ใช้พ้ืนท่ีส่วนที่ว่างให้เกิดประโยชน์ 4. ลดค่าใช้จ่ายในการประกอบอาหารประจาวัน 5. ครอบครัวได้รับประทานผักที่ปลอดสารพิษ 6. ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว สรปุ ผลการดาเนินงาน โครงการผกั สวนครวั ร้วั กนิ ได้ 6
ข้อควรพิจารณาในการปลกู ผักสวนครัว 1. ควรเลือกพืน้ ทที่ ี่มคี วามอุดมสมบรู ณ์ท่ีสุดอยใู กล้แ หล่ง นา้ ไม่ไกลจากทีพ่ กั อาศยั 2. เลือกปลูกผกั ให้ม ากชนิดท่ีสุดเพ่ือให้ได้คณุ ค่าทางอาหารทีห่ ลากหลาย 3. เลือกปลกู ผกั ให้เหมาะกับสภาพแสง ไดแก่ - พืชต้องการแสงแดดตลอดท้ังวนั ควรปลูกถ่วั ผักยาว คะน้า ผักกาดเขียว กวางตุ้ง พริกต่างๆ ยกเว้นพริกขห้ี นูสวน - พืชไม่ต ้องการแสงแดดตลอดท้ังวนั ควรปลกู ชะพลู สะระแหน่ ตะไคร้โหระพา ขิง ข่า และ กะเพรา 4. ความพร้อมของผู้ปลกู - ผู้ปลูกตอ้ งมีความรู้วิธีการปลูกผักโดยมีวตั ถปุ ระสงค์อะไร - ผปู้ ลกู ตอ้ งมคี วามรู้วิธีการปลูกผักตลอดจนการดูแลรกั ษา 5. ชนดิ ของผกั ท่ีจะปลกู - ผกั อายุสั้น (น้อยกว่า 2 เดอื น) ได้แ ก่ ผักชี ผักกาดหอม ผักกาดเขียว กวางตุ้งคะน้า ผักบุ้ง ผักกาดหวั ผักกาดขาว แตงกวา ข้าวโพดฝักอ่อน ปวยเลง้ ผักโขม - ผกั อายุปานกลาง (2-4 เดอื น) ได้แก่ กะหลา่ ปลี บรอคโคล่ี กะหลา่ ดอก ถว่ั ผกั ยาว ถัว่ แขก หอมหัวใหญ่มะเขือเทศ พริก แตงโม มะระ บวบ ฟักทอง - ผักอายยุ นื นาน (6-12 เดือน) ไดแ ก่ ถว่ั ลนั เตา ผกั กาดขาวปลี น้าเต้า กระเทยี มหอม มันฝร่ัง กระเจ๊ียบ มันเทศ ขา้ วโพดหวาน ถวั่ แระญีป่ นุ มันแกว ขน้ึ ฉา่ ย - ผักยืนต้น (มากกว่า 1 ปี) ได้แก่ กุ้ยช่า ย ผักหวาน มะเขือ ชะอม สะตอ ชะพลู โหระพา กะเพรา ถ่วั พู ตะไคร้แมงลัก กระชาย ขงิ หน่อไม้ฝ รัง่ ขา่ ขมิ้น การปลกู ผกั ในแปลงหรอื พ้นื ทีว่ า ง 1. การพรวนดนิ ใช้จอบขุดดินลึกประมาณ 6 น้ิว ตากดินท้ิงไว้ป ระมาณ 7-15 วัน การพรวน ดินทาให้ดนิ มีโครงสร้างดีข้นึ สามารถกาจดั วัชพชื ในดิน กาจัดไขแ่ มลงหรอื โรคพชื ทีอ่ ยูในดิน 2. การยกแปลง ใช้จอบพรวนยกแปลงสูงประมาณ 30 ซม. กว้า ง 1-2 เมตร ส่วนความยาว ควรเป็น ตามลักษณะของพื้นที่หรืออาจแบ่งเป็น แปลงย่อยๆ ทิศเหนือ - ใต้ท้ังนี้เพ่ือใหร ับแสงแดดท่ัวท้ัง แปลง 3. การปรับปรุงเนื้อดิน เนื้อดินที่ปลูกผักควรเป็นดินร่ว น แต่สภาพดินเดิมนั้นอาจจะเป็นดิน ทรายหรือดินเหนยี ว จาเป็นต้อ งปรับปรงุ ใหเ้ นื้อดินดีข้ึนโดยการใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก อัตราประมาณ 2-3 กโิ ลกรมั ต่อเนื้อท่ี 1 ตารางเมตร คลุกเคล้าใหเ้ ข้า กัน สรุปผลการดาเนินงาน โครงการผักสวนครวั รั้วกนิ ได้ 7
4. การกาหนดหลุมปลกู จะกาหนดภายหลังจากเลือกชนิดผักต่างๆ แล้วเพราะว่าผักแต่ช นิด จะใชร ะยะปลูกท่ีตางกัน เช่น พริก ควรใช้ระยะ 75 × 100 เซนติเมตร ผักบุ้งจะเป็น 5 × 5 เซนติเมตร เป็นต้น การปฏบิ ตั ิดูแลรกั ษา การดูแลรกั ษาด้วยความเอาใจใส่จะช่ว ยให้ผ ักเจริญเติบโตอย่า งสมบูรณ์จ นถึงระยะเก็บเกี่ยว การดแู ลรักษาดงั กล่าวได้แ ก่ 1. การให้น้า การปลูกผักจาเป็นต้องให้น ้าเพียงพอ การให้น้าผักควรรดน้าในช่ว งเช้า - เย็น ไม่ควรรดตอนแดดจดั และรดน้าแต่พ อชุ่มอย่าให้โชก 2. การให้ป ยุ๋ มี 2 ระยะ - ใส่ร องพ้นื คอื การใส่เมือ่ เวลาเตรยี มดินหรือรองก้น หลมุ ก่อนปลูก ปยุ๋ ท่ีใส่ค วรจะเป็นปุ๋ยคอก หรือปยุ๋ หมัก คลกุ ในดนิ ให้ทวั่ ก่อนปลกู เพอ่ื ปรบั โครงสร้างดนิ ใหโ้ ปร่งซุย นอกจากนัน้ ยงั ช่วยอุ้มน้าและรักษา ความช้ืนของดินให้เหมาะสมกับการเจรญิ เตบิ โตของพชื - การใส่ปุ๋ยบารุง ควรใส่ป ุ๋ยวิทยาศาสตร์โดยแบงใส่ 2 ครั้ง ครั้งแรกเม่ือย้ายกล้าไปปลูก จนต้นกล้าต ั้งตัวได้และใส่คร้งั ท่ี 2 หลังจากใส่ครัง้ แรกประมาณ 2-3 สปั ดาหก์ ารใสใ่ หโ้ รยบางๆ ระหว่า งแถว ระวังอย่าให้อยชู่ ดิ ต้น เพราะจะทาให้ผักตายได้เม่ือใส่ป ุ๋ยแล้ว ให้พรวนดินและรดน้าทันที ปุ๋ยที่ใช้กับพืชผัก ได้แก่ ยูเรยี หรอื แอมโมเนยี ซลั เฟต สาหรับบารุงต้น และใบ และปุ๋ยสูตร 15-15-15 และ 12-24-12 สาหรับ เรง่ การออกดอกและผล 3. การป้องกันกาจัดศัตรูพืช ควรบารุงรักษาต้นพืชให้แข็งแรงโดยการกาจัดวัชพืช ให้น้า อยา่ งเพยี งพอและใหป้ ยุ๋ ตามจานวนทีก่ าหนดเพอ่ื ให้ผกั เจรญิ เตบิ โต แข็งแรงทนต่อ โรค และแมลง หากมีโรค และมีแมลงระบาดมากควรใช้สารธรรมชาติ หรือใช้วิธีกลต่างๆในการป้องกันกาจัด เช่น หนอนต่า งๆ ใช้มือจับออก ใช้พริกไทยป่นผสมน้าฉีดพ่น ใช้น ้าคั้นจากใบหรือเมล็ดสะเดา ถ้า เป็นพวกเพลี้ย เช่น เพลี้ย อ่อน เพลี้ยแป้ง เพล้ียหอย และเพลี้ยจักจั่นให้ใช้น้ายาล้างจาน 15 ซีซี ผสมน้า 20 ลิตร ฉีดพ่นใต้ใบเวลา เยน็ ถา้ เป็นพวกมดหอย และทากให้ใชป้ นู ขาวโรยบางๆ ลงบรเิ วณพืน้ ดนิ การเกบ็ เกี่ยว การเกบ็ เก่ยี วผักควรเกบ็ เวลาเช้าจะทาให้ได้ผกั สดรสดีหากยังไม่ได้ทาน ให้ล ้า งสะอาดและนา เก็บไว้ในตูเย็นสาหรับผักประเภทผล ควรเก็บในขณะท่ีผลไม้ไม่แ ก่จัดจะได้ผลดี และจะทาให้ผลดก หาก ปล่อ ยให้ผลแก่ค าต้นต่อไปจะออกน้อยลงสาหรับในผักใบหลายชนิด เช่น หอมแบ่ง ผักบุ้งจีน คะน้า กะหล่าปลี ควรเก็บผักที่สดอ่อนหรือโตได้ขนาดแล้ว โดยยังคงเหลือลาต้นและรากไว้ไม่ถอนออกท้ังต้น รากหรอื ตน ทเ่ี หลืออยู่จะสามารถงอกงามให้ได้ผ ลได้หลายคร้ัง ท้งั น้จี ะต้องมีการดูแลรกั ษาให้น้าและปยุ๋ อยู่ การปลูกพืชหมนุ เวยี นสลับชนิดหรือปลูกผักหลายชนิดในแปลงเดียวกันและปลกู ผกั ทม่ี ีอายุการเก็บเก่ียวสนั้ สรุปผลการดาเนินงาน โครงการผกั สวนครัวร้วั กินได้ 8
บ้างยาวบ้า ง บ้า งคละกันในแปลงเดียวกัน หรือปลูกผักชนิดเดียวกันแต่ทยอยปลูกครั้งละ 3-5 ต้น หรือประมาณว่า พอรับประทานได้ใ นครอบครัวในแตล ะคร้ังที่เก็บเก่ียวก็จะทาให้ผู้ปลูกมีผักสดเก็บ รับประทานได้ทุกวนั ตลอดปี การปลกู ผกั ในภาชนะต่า งๆ การปลูกผักในภาชนะ หมายถึง การปลูกผักในภาชนะต่า งๆ เหมาะสาหรับครอบครัวที่มี บรเิ วณบา้ นจากดั หรือบา้ นท่นี ยิ มปลกู ผกั ในแบบกึง่ ไม้ประดบั ขอ้ ดีของการปลูกผักในภาชนะ คือ - ประหยัดพ้ืนท่ีในการปลกู - สามารถ เคลื่อนย้าย จัดวาง ปรบั เปลย่ี นตาแหน่งภาชนะได้ - สะดวกต่อการดแู ลรักษา และเกบ็ เกย่ี วผลผลติ - สามารถนาผักที่ปลูกในภาชนะไปวางตกแต่ง ในสวนหย่อม หรือจัดเป็นสวนประดับควร จะพิจารณาถึงการหย่งั รากของพชื ผักชนิดต่างๆ และภาชนะ หากเป็นภาชนะชนิดห้อ ยแขวนควรมีความลึก ไม่เกิน 10 เซนติเมตร คือ ผักบุ้งจีน คะน้า ผักกาดกวางตุ้ง ผักกาดหอม ผักกาดขาวชนิดไม่ห่อ ต้ังโอ๋ ปวยเล้ง ต้นหอม ผักชี ข้ึนฉ่าย ผักโขมจีน กระเทียมใบ กุยช่า ย กระเทียมหัว ผักชีฝร่ัง บัวบก สะระแหน่ แมงลกั ขน้ั ตอนการปลูกผักในภาชนะต่างๆ 1. การเตรียมอุปกรณ์ใช้วัสดุเหลือใช้ในครัวเรือน เช่น กะละมัง กระถาง ยางรถยนต์ ถังน้า ฯลฯ หากภาชนะมีสารปนเป้ือนพวกน้ามัน หรือพวกสารเคมีต่างๆ ให้ท าความสะอาดก่อ นทุกคร้ัง ภาชนะทมี่ คี วามลึกไม่ม ากเหมาะกับผักที่มีระบบรากตื้น ภาชนะท่ีมีความลึกเหมาะกับผักท่ีมีระบบรากลึก สาหรบั ภาชนะแขวน เช่น กระถาง หรอื เปลอื กไม้ควรเจาะรเู พ่ือระบายน้าและควรรองก้นภาชนะด้วยวัสดุ ทีอ่ ุ้มนา้ ได้ด ี เชน่ ทะลายปาล์มเกา่ หรอื กาบมะพร้าว เป็นต้น 2. การเลอื กผกั ทจ่ี ะปลูก ควรเลือกปลกู ผัก ท่ีมีการบริโภคเป็น ประจาในครอบครัว เป็นผักท่ี ได้รบั ความสนใจ และมกี ารใช้ป ระโยชน์ได้ม าก 3. การเตรยี มดิน ใช้ด นิ รว น 1 สว่ น ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก 1 ส่วนข้ีเถ้าแกลบ 1 ส่วน มะพร้า ว สบั 1 สว่ น แลว้ นามาผสมคลกุ เคล้าใหเ้ ข้ากนั แล้วไปใส่ในภาชนะ 4. การปลูกผักลงภาชนะ ปลูกแบบหวานเมล็ดพันธ์ุหรือหยอดลงภาชนะ หรือ เพาะต้น กล้าแล้วนาไปปลกู ในภาชนะ หรือผักบางชนดิ สามารถใชว้ ิธปี กั ชาลงภาชนะได้เลย 5. การดูแลรักษาผักในภาชนะ รดน้าอย่า งสม่าเสมอ กาจัดวัชพืชพรวนดินและใส่ป ุ๋ย 2 สัปดาห์ต่อครั้ง ควรเปล่ียนดิน เม่ือมีการปลูกผักครั้งต่อ ไป หรือปลูกผักชนิดใหม่ในภาชนะเดิมหรือ ผักมีการเจรญิ เตบิ โตไม่ด แี ละควรนาภาชนะไปวางในท่ีมแี สงเพยี งพอ สรุปผลการดาเนนิ งาน โครงการผักสวนครัวรว้ั กนิ ได้ 9
6. การเก็บเกี่ยว หากเป็นผักท่ีบริโภคในส่วนของใบ ให้เก็บใบล่างก่อ น เหลือยอดบนไว้ให้ เจรญิ ต่อไป เชน่ ผักกาด คะน้า ปูเล่ ถา้ เป็นผักทใ่ี ช้ส่วนยอดอ่อน ควรเลือกเก็บเฉพาะยอดเท่า น้ัน จะทาให้ ผกั มีการแตกยอดอ่อนเจรญิ เติบโตต่อ ไปได้เช่น สะระแหน่ กะเพรา โหระพา ฯลฯ พืชผกั สวนครัว แบ่งได้4 ประเภท ดังนี้ 1. ใชผ้ ลเปน็ อาหาร เช่น แตงกวา มะเขอื เทศ พรกิ หวาน 2. ใชใ้ บและลาต้นเป็นอาหาร เช่น ผักกาดขาว ตาลงึ ผกั คะน้า สะระแหน่ 3. ใชด้ อกเป็นอาหาร เชน่ กะปล่าดอก ดอกแค บร็อคโคลี่ 4. ใชห้ วั หรือรากทีอ่ ยู่ใต้ดนิ เป็น อาหาร เช่น หอมหัวใหญ่แครอท กระเทียม ขิง 4. งานวจิ ยั ท่ีเก่ยี วข้อง กรรณิการ์ ภิรมย์รัตน์.(2553.) พฤติกรรมการดาเนินชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียงของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏในเขตกรุงเทพมหานคร. งานวิจัยน้ีมีวัตถุประสงค์1) เพ่ือ ศึกษาระดบั ความรคู้ วามเข้าใจเก่ียวกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของนักศึกษาา 2) เพื่ออศึกษาระดับ พฤติกรรมการดาเนินชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของนักศึกษา 3) เพ่ือศึกษาความคิดเห็นของ นกั ศึกษาในการนาหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้เป็นแนวทางในการดาเนินชีวิต กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ใน การวิจัยครั้งน้ี คือ นักศึกษาระดับปริญญาตรที ี่กาลังศกึ ษาในมหาวทิ ยาลัยราชภฏั ในเขตกรุงเทพมหานคร 6 แหง่ ได้แก่ 1) มหาวิทยาลัยราชภฏั จันทรเกษม 2) มหาวิทยาลยั ราชภัฏธนบุรี 3) มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้าน สมเด็จเจ้าพระยา 4) มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร 5) มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต 6) มหาวิทยาลัยราช ภฏั สวนสุนนั ทา จานวน 420 คน เคร่ืองมอื การวิจัยมี 2 ฉบบั คอื ฉบับท่ี 1 แบบทดสอบความรู้ความเข้าใจ เก่ียวกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เป็นแบบ 2ตัวเลือก ถูก-ผิด และฉบับท่ี 2 เป็นแบบสอบถามวัด พฤตกิ รรมการดาเนินชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของนักศึกษาโดยข้อความท่ีสร้างขึ้นเป็นแบบ มาตรประเมินคา่ (Rating scale) แบบ 3 ระดับ เครื่องมือทั้ง 2 ฉบับ มีค่าความเช่ือม่ันเท่ากับ 0.750 และ 0.830 ตามลาดับ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละค่าเฉล่ีย ส่วนเบ่ียงเบน มาตรฐาน และใช้สถติ ิทดสอบ ได้แก่ t-testและ One-Way ANOVA ผลการศกึ ษาพบว่า 1. นกั ศึกษามหาวิทยาลยั ราชภฏั มรี ะดบั ความรู้ความเข้าใจเก่ียวกบั หลักปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียงโดยรวมอย่ใู นระดับสงู ( X = 15.53) เมอื่ พจิ ารณาเป็นรายมหาวิทยาลัยราชภฏั พบวา่ ทกุ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั มีระดับความรู้อยู่ในระดบั สงู 2. นกั ศกึ ษามหาวทิ ยาลัยราชภฏั มรี ะดับพฤตกิ รรมการดาเนนิ ชีวิตตามหลักปรัชญา เศรษฐกจิ พอเพยี งโดยรวมอยใู่ นระดับสูง ( X = 1.35) เมอ่ื พิจารณาตามหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง พบว่า (1) ดา้ นความพอประมาณ นกั ศกึ ษามรี ะดับพฤติกรรมอยู่ในระดบั ปานกลาง ( X = 1.11) (2) ดา้ น สรุปผลการดาเนินงาน โครงการผกั สวนครวั ร้ัวกนิ ได้ 10
ความมีเหตุผล นักศกึ ษามรี ะดบั พฤตกิ รรมอยู่ในระดับสูง ( X = 1.38) และ(3) ดา้ นการมีภูมคิ มุ้ กนั นกั ศกึ ษามรี ะดับพฤตกิ รรมอยู่ในระดบั สงู ( X = 1.49) 3. นักศึกษามคี วามคิดเห็นตอ่ การนาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งมาใช้เปน็ แนวทางใน การดาเนนิ ชีวติ ดังนี้ (1) ดา้ นการดารงชวี ิตประจาวนั ไดแ้ ก่ การเกบ็ ออมเงนิ การจัดทาบัญชรี ายรบั รายจา่ ย การใชท้ รัพยากรทุกอย่างอย่างประหยัดและร้คู ุณค่า การประยุ กตข์ องเกา่ ใหก้ ลบั มาใช้ได้อีกครั้ง (2) ด้านการเรียนการสอน ไดแ้ ก่ มหาวทิ ยาลัยควรมีการจดั ทาหลักสตู รการเรียน รายวชิ า “เศรษฐกิจพอเพยี ง” ควรมกี ารสอดแทรกเศรษฐกจิ พอเพียงในทุกรายวิชา มกี ารจัดตั้งชมรม เศรษฐกิจพอเพยี ง มกี ารฝกึ ปฏิบัติตามหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง (3) ด้านการณรงค์ ไดแ้ ก่ การทาสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ในมหาวิทยาลยั การจัด อบรมให้ความรู้ทั้งในภาคทฤษฎแี ละภาคปฏบิ ัตกิ ารจดั นิทรรศการเศรษฐกจิ พอเพยี ง ขวัญกมล ดอนขวา.(2557.) แบบจาลองปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และเศรษฐกิจ สร้างสรรค์ มีผลต่อการพฒั นาเศรษฐกิจของประเทศไทย การวจิ ยั เร่ือง แบบจาลองปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง และเศรษฐกิจสร้างสรรค์ มีผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย ได้กาหนดวัตถุประสงค์ 1) เพ่ือสร้างแบบ จาลองสมการโครงสร้างเศรษฐกิจพอเพียงและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ กับการพัฒนา เศรษฐกิจของประเทศไทย และทาการตรวจสอบความตรงเชิงโครงสร้าง 2) เพ่ือศึกษาขนาดของ ความสาคัญของแตล่ ะองค์ประกอบของปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง เศรษฐกิจสร้างสรรค์ และการพัฒนา เศรษฐกิจ และ3) เพ่ือศึกษาถึงขนาดของผลกระทบในปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และเศรษฐกิจ สร้างสรรค์ ท่ีมีผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ โดยเน้นศึกษาประชากรเป้าหมาย 4 จังหวั ด ได้แก่ กรงุ เทพมหานคร ขอนแก่น เชียงใหม่และสงขลา รวม 416 ตัวอย่าง โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือใน การเกบ็ รวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตวั อยา่ ง ด้วยวธิ ีการสุม่ ตัวอย่างแบบแบ่งช้ัน (Stratify random sampling) ทาการวิเคราะห์ข้อมลู ด้วยวธิ ีวิเคราะหเ์ ชิงปริมาณ โดยใช้สถิติเชิงพรรณนาด้วยค่าร้อยละ ค่าเฉล่ีย ค่าส่วน เบยี่ งเบนมาตรฐาน ทาการวิเคราะหอ์ งคป์ ระกอบ และแบบจาลองสมการโครงสรา้ ง ผลการศึกษาพบว่า แบบจาลองปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และเศรษฐกิจสร้างสรรค์กับ การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย ที่สร้างข้ึนน้ันมีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์อยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยมีค่าไค-สแควร์( 2 ) มีค่าเท่ากับ 162.014 ท่ีองศาอิสระ (df) เท่ากับ 66 มีค่าไคสแควร์สัมพัทธ์ ( 2 /df) เท่ากับ 2.45 ค่าดัชนีความคลาดเคลื่อนในการประมาณค่าพารามิเตอร์ (RMSEA) มีค่าเท่ากับ 0.059 และคา่ ดชั นีรากทสี่ องเฉล่ยี ของส่วนท่ีเหลือ (RMR) มีค่าเท่ากับ 0.032 ผลการวิจัยยังพบว่าน้ าหนัก องค์ประกอบปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงที่มีค่ามากท่ีสุด คือ องค์ประกอบด้านการมีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี (0.946) รองลงมาคือ ด้านความมีเหตุผล (0.851) และด้านความพอประมาณ (0.761) ตามลาดับ โดยมี เงื่อนไขด้านความรู้ (0.868) มากกว่าเง่ือนไขด้านคุณธรรม (0.855) น้า หนักองค์ประกอบเศรษฐกิจ สรา้ งสรรคท์ ม่ี คี ่ามากทส่ี ดุ คือ ด้านการศึกษา (0.90) รองลงมาคือ ด้านการสร้างสรรค์งาน (0.89) ด้านการ ใช้ทรัพย์สินทางปัญญา (0.88) และด้านการใช้องค์ความรู้ (0.88) ตามลาดับ สาหรับองค์ประกอบการ พัฒนาเศรษฐกิจท่ีมีค่ามากที่สุด คือ ด้านการมีงานทา (095) รองลงมา คือ ด้านการอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติ (0.94) ด้านการกระจายรายได้ท่ีดี (0.94) ด้านมาตรฐานการครองชีพท่ีดีขึ้น (0.89) และด้านการควบคมุ การเกดิ มลภาวะเปน็ พิษต่อสิ่งแวดลอ้ ม (0.89) ตามลาดับ นอกจากนี้ยังพบว่า ปรัชญา สรปุ ผลการดาเนนิ งาน โครงการผักสวนครวั รวั้ กินได้ 11
ของเศรษฐกิจพอเพียง และเศรษฐกิจสร้างสรรค์มีผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย เทา่ กับ -0.23 และ 0.863 ตามลาดับ วิซุตตา ชศู รีวาส.(2559.) การดาเนินงานหมู่บา้ นเศรษฐกิจพอเพยี ง บา้ นหัวอ่าว ตาบลบาง ช้าง อาเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการดาเนินงานหมู่บ้าน เศรษฐกิจพอเพียง บ้านหัวอา่ ว ตาบลบางช้าง อาเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม กลุ่มตัวอย่างคือ หัวหน้า ครัวเรือน บา้ นหวั อา่ ว ตาบลบางชา้ ง อาเภอสามพราน จงั หวัดนครปฐม จานวน 185 ครัวเรือน เคร่ืองมือที่ ใช้ในการวิจัยคือแบบสอบถาม สถิติท่ีใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าเฉล่ีย ( ̅) ค่าส่วนเบ่ียงเบน มาตรฐาน (SD) และสถิติเชิงอนุมานท่ีใช้ในการเปรียบเทียบ คือ สถิติทดสอบ (t-test) และใช้การทดสอบ ความแปรปรวนทางเดยี ว (One-Way ANOVA) การทดสอบความแตกต่างเป็นรายคู่ โดยวิธขี อง Scheffé ผลการวจิ ัย พบวา่ สภาพการดาเนินงานหมบู่ ้านเศรษฐกจิ พอเพียง บ้านหัวอ่าว ตาบลบางช้าง อาเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม จานวน 5 ดา้ น ดงั น้ี 1) การลดรายจา่ ย มีผลการดาเนินงานอยู่ในระดับดี มาก โดยพบวา่ สมาชิกในชุมชนได้ผลติ สมนุ ไพรไล่แมลง และน้ายาล้างจาน สบู่ แชมพใู ช้เองในครัวเรือน 2) การเพมิ่ รายได้ สมาชิกในชมุ ชนมีการจดั ต้งั กลมุ่ อาชีพ กลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ร้านค้าชุมชน เป็นต้น เพอ่ื กระจายผลผลติ ไปยังสถานทีจ่ าหนา่ ยท่จี ัดต้งั ขนึ้ เพอ่ื ขยายตลาด ทาให้สมาชิกในชุมชนมีรายได้ เพิ่มข้ึน 3) การออม ในภาพรวมมีผลการดาเนินงานอยู่ในระดับดีมาก เน่ืองจากสมาชิกในชุมชนมีการ วางแผนการใช้จ่ายและปลูกฝังการเก็บออมเพื่ออนาคต 4) การอนุรักษ์ส่ิงแวดล้อมและพบว่า มีผลการ ดาเนนิ งานอยูใ่ นระดบั มาก เนอ่ื งมาจากชมุ ชนมีการรณรงค์ให้สมาชิกในชุมชนใช้วัสดุธรรมชาติ ซ่ึงไม่ส่งผล กระทบตอ่ สง่ิ แวดลอ้ ม 5) การเอ้ือเฟื้อเผื่อแผ่ พบว่า มีผลการดาเนินงานอยู่ในระดับมาก สมาชิกในชุมชน มคี วามเอื้อเฟ้ือเผอ่ื แผ่ซึ่งเป็นค่านยิ มพนื้ ฐานของคนไทยในชนบทมาชา้ นาน สภาพปัญหา อุปสรรคในการดาเนินงานหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง 1) ปัญหาด้านการขาด แคลนบุคลากรภาครัฐที่จะให้คาปรึกษาและประสานงานกับชุมชน 2) ปัญหางบประมาณสนับสนุนการ ดาเนนิ งานไม่เพียงพอ และการจดั สรรงบประมาณไมท่ นั เวลาและไม่เป็นธรรม 3) การบริหารจัดการ พบว่า การดาเนินโครงการขาด การบริหารจัดการท่ีเป็นระบบไม่ต่อเน่ือง และประชาชนขาดความรู้เรื่องการ บริหารงานระบบบญั ชกี ลไกตลาดและขาดการนิเทศ ตดิ ตามผล จากหน่วยงานท่ีรบั ผิดชอบ สรุปผลการดาเนินงาน โครงการผกั สวนครัวรัว้ กนิ ได้ 12
บทท่ี 3 วธิ ีการดาเนินงาน การดาเนนิ งานโครงการปลกู ผักสวนครัวรั้วกินได้ คณะทางานได้ดาเนินงาน ดงั น้ี 1. สารวจกลมุ่ เปา้ หมาย ประชาชนในพน้ื ท่ตี าบลโชคชัย อาเภอโชคชัย จานวน 20 คน 2. ประชุม/ชี้แจงวางแผนการดาเนินงาน บุคลากร กศน.อาเภอโชคชัย เพ่ือกาหนดรูปแบบ และวางแผนการดาเนินงาน ในวันที่ 7 มิถุนายน 2564 ณ บ้านบิง หมู่ท่ี 8 ตาบลโชคชัย อาเภอโชคชัย จงั หวัดนครราชสีมา 3. จัดเตรียมสื่อ/วัสดุอุปกรณ์ และประสานงาน เพ่ือเตรียมความพร้อมด้านเอกสารวัสดุ อุปกรณ์ และสถานท่ี ในระหวา่ งวนั ที่ 12 - 15 มิถุนายน 2564 4. ดาเนินการจัดโครงการปลูกผักสวนครัวรั้วกินได้ ณ บ้านบิง หมู่ท่ี 8 ตาบลโชคชัย ดาเนินการในวันท่ี 25 มิถุนายน 2564 โดยมี นายสาคร มีโชค ครู กศน.ตาบล เป็นวิทยากรให้ความรู้ ดังน้ี การปลกู ผักสวนครัว หมายถึง ส่วนต่างๆ ของพืชท่ีใช้เป็นอาหาร เช่น ลาต้น ใบ ดอก ผล และหัวสามารถ ปลูกไว้ในบริเวณบานเพื่อใช้บริโภคในครอบครัว ถ้าเหลือก็สามารถนาไปจาหน่ายเพื่อเป็นรายได้ เสริมให้กับครอบครัว ประโยชน์การปลูกผักสวนครัว 1. ปลูก เป็น แน วรั้ว บ้าน (รั้วกิน ไ ด้) ผักที่สามารถนามาปลูกทาเป็น รั้ว ได้แก่ กระถิน ตาลึง ผักหวาน ผักปัง ต้นแค ถั่วพู มะระ ฯลฯ 2. ใช้ประดับตกแต่งบริเวณบาน เช่น จัดสวนผักสวนครัว ผักสวนครัวที่ปลูกในกระถาง แบบห้อย หรือแขวนเพื่อตกแต่งบริเวณรอบๆ บ้าน 3. ใช้พื้นท่ีส่วนที่ว่างให้เกิดประโยชน์ 4. ลดค่าใช้จ่ายในการประกอบอาหารประจาวัน 5. ครอบครัวได้รับประทานผักที่ปลอดสารพิษ 6. ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว สรุปผลการดาเนินงาน โครงการผกั สวนครัวรัว้ กนิ ได้ 13 16
ข้อ ควรพจิ ารณาในการปลูกผักสวนครวั 1. ควรเลือกพ้นื ทที่ ี่มีความอุดมสมบรู ณ์ทีส่ ุดอยใู กล้แ หล่งนา้ ไม่ไกลจากที่พักอาศัย 2. เลือกปลูกผักให้ม ากชนดิ ที่สดุ เพอ่ื ให้ได้คณุ ค่าทางอาหารทห่ี ลากหลาย 3. เลือกปลูกผักให้เหมาะกับสภาพแสง ไดแ ก่ - พชื ต้องการแสงแดดตลอดทั้งวัน ควรปลกู ถ่ัวผกั ยาว คะน้า ผกั กาดเขียว กวางตุ้ง พริกต่างๆ ยกเว้น พรกิ ข้หี นสู วน - พืชไม่ต ้อ งการแสงแดดตลอดท้ังวัน ควรปลูกชะพลู สะระแหน่ ตะไคร้โหระพา ขิง ข่า และกะเพรา 4. ความพร้อมของผู้ปลกู - ผู้ปลกู ตอ้ งมีความรู้วธิ กี ารปลูกผกั โดยมีวัตถุประสงค์อะไร - ผู้ปลูกตอ้ งมคี วามรู้วิธีการปลูกผกั ตลอดจนการดแู ลรักษา 5. ชนดิ ของผกั ทจี่ ะปลกู - ผกั อายุส้นั (น้อยกว่า 2 เดือน) ได้แ ก่ ผักชี ผักกาดหอม ผักกาดเขียว กวางตุ้งคะน้า ผักบุ้ง ผักกาดหัว ผักกาดขาว แตงกวา ข้าวโพดฝักอ่อน ปวยเลง้ ผกั โขม - ผักอายุปานกลาง (2-4 เดอื น) ได้แก่ กะหล่าปลี บรอคโคล่ี กะหลา่ ดอก ถั่วผักยาว ถัว่ แขก หอมหัวใหญ่มะเขือเทศ พรกิ แตงโม มะระ บวบ ฟักทอง - ผกั อายยุ นื นาน (6-12 เดอื น) ไดแ ก่ ถั่วลนั เตา ผักกาดขาวปลี นา้ เต้า กระเทยี มหอม มันฝร่ัง กระเจ๊ียบ มนั เทศ ข้า วโพดหวาน ถั่วแระญี่ปนุ มนั แกว ขึน้ ฉา่ ย - ผักยืนต้น (มากกว่า 1 ปี) ได้แก่ กุ้ยช่าย ผักหวาน มะเขือ ชะอม สะตอ ชะพลู โหระพา กะเพรา ถวั่ พู ตะไคร้แมงลัก กระชาย ขิง หน่อไม้ฝ รั่ง ขา่ ขมน้ิ การปลูกผักในแปลงหรือพ้ืนท่วี าง 1. การพรวนดนิ ใช้จ อบขุดดนิ ลึกประมาณ 6 น้ิว ตากดินทิ้งไว้ประมาณ 7-15 วัน การพรวน ดินทาให้ดินมีโครงสร้า งดขี ้นึ สามารถกาจัดวัชพชื ในดนิ กาจัดไขแ่ มลงหรอื โรคพืชทอี่ ยูในดิน 2. การยกแปลง ใช้จ อบพรวนยกแปลงสูงประมาณ 30 ซม. กว้า ง 1-2 เมตร ส่ว นความยาว ควรเป็น ตามลักษณะของพ้ืนท่ีหรืออาจแบ่ง เป็นแปลงย่อยๆ ทิศเหนือ - ใต้ทั้งน้ีเพ่ือใหรับแสงแดดทั่วท้ัง แปลง 3. การปรับปรุงเน้ือดิน เนื้อดินที่ปลูกผักควรเป็น ดินร่ว น แต่สภาพดินเดิมน้ันอาจจะเป็นดิน ทรายหรือดินเหนียว จาเป็น ต้อ งปรบั ปรุงใหเ้ นื้อดนิ ดีข้ึนโดยการใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก อัตราประมาณ 2-3 กโิ ลกรมั ต่อเน้ือที่ 1 ตารางเมตร คลุกเคล้าใหเ้ ข้า กัน สรุปผลการดาเนินงาน โครงการผักสวนครวั รวั้ กินได้ 14 16
4. การกาหนดหลมุ ปลกู จะกาหนดภายหลังจากเลือกชนิดผักต่างๆ แล้วเพราะว่า ผักแต่ช นิด จะใชร ะยะปลูกท่ีตางกัน เช่น พริก ควรใช้ร ะยะ 75 × 100 เซนติเมตร ผักบุ้งจะเป็น 5 × 5 เซนติเมตร เป็นต้น การปฏิบัติดูแลรักษา การดแู ลรักษาด้วยความเอาใจใส่จะช่วยให้ผ ักเจริญเติบโตอย่า งสมบูรณ์จนถึงระยะเก็บเก่ียว การดูแลรักษาดังกล่าวได้แ ก่ 1. การให้น้า การปลูกผักจาเป็น ต้อ งให้น ้าเพียงพอ การให้น้าผักควรรดน้าในช่วงเช้า- เย็น ไม่ควรรดตอนแดดจัดและรดน้าแต่พอชุ่มอย่า ให้โชก 2. การให้ปยุ๋ มี 2 ระยะ - ใส่ร องพ้ืน คือการใส่เมอื่ เวลาเตรียมดนิ หรอื รองก้นหลุมก่อนปลูก ปยุ๋ ที่ใส่ควรจะเป็น ปุ๋ยคอก หรือปยุ๋ หมัก คลกุ ในดินให้ทั่วก่อนปลูกเพ่ือปรับโครงสร้างดนิ ใหโ้ ปร่งซุย นอกจากนัน้ ยังช่ว ยอุ้มนา้ และรักษา ความชนื้ ของดินให้เหมาะสมกบั การเจริญเติบโตของพืช - การใส่ปุ๋ยบารุง ควรใส่ปุ๋ย วิทยาศาสตร์โดยแบงใส่ 2 ครั้ง ครั้งแรกเม่ือย้ายกล้าไปปลูก จนต้นกล้าต ั้งตวั ได้และใส่ค รงั้ ท่ี 2 หลงั จากใส่ค รงั้ แรกประมาณ 2-3 สัปดาหก์ ารใสใ่ หโ้ รยบางๆ ระหว่า งแถว ระวงั อย่าให้อ ยชู่ ิดต้น เพราะจะทาให้ผักตายได้เมื่อใส่ป ุ๋ย แล้ว ให้พรวนดินและรดน้าทันที ปุ๋ยท่ีใช้กับพืชผัก ได้แก่ ยูเรยี หรือแอมโมเนียซัลเฟต สาหรับบารุงต้นและใบ และปุ๋ย สูตร 15-15-15 และ 12-24-12 สาหรับ เร่งการออกดอกและผล 3. การป้องกันกาจัดศัตรูพืช ควรบารุงรักษาต้นพ ืชให้แข็งแรงโดยการกาจัดวัชพืช ให้น้า อยา่ งเพยี งพอและใหป้ ยุ๋ ตามจานวนทีก่ าหนดเพือ่ ให้ผกั เจริญเตบิ โต แข็งแรงทนต่อโรค และแมลง หากมีโรค และมีแมลงระบาดมากควรใช้ส ารธรรมชาติ หรือใช้วิธีกลต่า งๆในการป้องกันกาจัด เช่น หนอนต่า งๆ ใช้ม ือจับออก ใช้พริกไทยป่น ผสมน้าฉีดพ่น ใช้น้าคั้นจากใบหรือเมล็ดสะเดา ถ้า เป็นพวกเพลี้ย เช่น เพลี้ย อ่อน เพล้ียแป้ง เพล้ียหอย และเพล้ียจักจั่นให้ใช้น้ายาล้างจาน 15 ซีซี ผสมน้า 20 ลิตร ฉีดพ่นใต้ใบเวลา เยน็ ถ้าเป็น พวกมดหอย และทากให้ใชป้ นู ขาวโรยบางๆ ลงบริเวณพน้ื ดิน การเก็บเกย่ี ว การเกบ็ เก่ยี วผกั ควรเก็บเวลาเช้าจะทาให้ได้ผ ักสดรสดีหากยังไม่ได้ทาน ให้ล ้างสะอาดและนา เก็บไว้ในตูเย็นสาหรับผักประเภทผล ควรเก็บในขณะที่ผลไม้ไม่แก่จัดจะได้ผ ลดี และจะทาให้ผ ลดก หาก ปล่อยให้ผลแก่คาต้นต่อไปจะออกน้อยลงสาหรับในผักใบหลายชนิด เช่น หอมแบ่ง ผักบุ้ง จีน คะน้า กะหล่าปลี ควรเก็บผักที่สดอ่อนหรือโตได้ข นาดแล้ว โดยยังคงเหลือลาต้น และรากไว้ไม่ถอนออกท้ังต้น รากหรือตนทีเ่ หลืออยู่จะสามารถงอกงามให้ได้ผ ลได้หลายครั้ง ท้งั น้จี ะต้องมีการดูแลรักษาให้นา้ และปยุ๋ อยู่ การปลกู พืชหมุนเวียนสลับชนดิ หรือปลูกผักหลายชนดิ ในแปลงเดียวกนั และปลูกผักทมี่ ีอายุการเกบ็ เก่ียวส้ัน สรปุ ผลการดาเนินงาน โครงการผักสวนครัวรว้ั กนิ ได้ 15 16
บ้างยาวบ้า ง บ้างคละกันในแปลงเดียวกัน หรือปลูกผักชนิดเดียวกันแต่ทยอยปลูกครั้งละ 3-5 ต้น หรือประมาณว่าพอรับประทานได้ในครอบครัวในแตล ะครั้งที่เก็บเก่ียวก็จะทาให้ผู้ปลูกมีผักสดเก็บ รบั ประทานได้ทุกวันตลอดปี การปลูกผกั ในภาชนะต่างๆ การปลูกผักในภาชนะ หมายถึง การปลูกผักในภาชนะต่างๆ เหมาะสาหรับครอบครัวที่มี บรเิ วณบา้ นจากดั หรอื บา้ นทีน่ ยิ มปลกู ผกั ในแบบกึง่ ไม้ประดับ ข้อดีของการปลกู ผกั ในภาชนะ คือ - ประหยัดพนื้ ที่ในการปลูก - สามารถ เคล่ือนย้าย จัดวาง ปรับเปล่ียนตาแหน่งภาชนะได้ - สะดวกต่อการดแู ลรักษา และเกบ็ เกี่ยวผลผลติ - สามารถนาผักท่ีปลูกในภาชนะไปวางตกแต่งในสวนหย่อ ม หรือจัดเป็นสวนประดับควร จะพจิ ารณาถึงการหยั่งรากของพชื ผักชนดิ ต่างๆ และภาชนะ หากเป็น ภาชนะชนิดห้อยแขวนควรมีความลึก ไม่เกิน 10 เซนติเมตร คือ ผักบุ้งจีน คะน้า ผักกาดกวางตุ้ง ผักกาดหอม ผักกาดขาวชนิดไม่ห ่อ ตั้งโอ๋ ปวยเล้ง ต้นหอม ผักชี ข้ึนฉ่าย ผักโขมจีน กระเทียมใบ กุยช่า ย กระเทียมหัว ผักชีฝรั่ง บัวบก สะระแหน่ แมงลกั ขน้ั ตอนการปลูกผกั ในภาชนะต่างๆ 1. การเตรียมอุปกรณ์ใช้ว ัสดุเหลือใช้ในครัวเรือน เช่น กะละมัง กระถาง ยางรถยนต์ ถังน้า ฯลฯ หากภาชนะมีสารปนเปื้อนพวกน้ามัน หรือพวกสารเคมีต่างๆ ให้ท าความสะอาดก่อนทุกคร้ัง ภาชนะท่มี ีความลกึ ไม่ม ากเหมาะกับผักท่ีมีระบบรากตื้น ภาชนะที่มีความลึกเหมาะกับผักที่มีระบบรากลึก สาหรับภาชนะแขวน เช่น กระถาง หรอื เปลอื กไม้ควรเจาะรเู พื่อระบายน้าและควรรองก้น ภาชนะด้วยวัสดุ ท่ีอุ้มน้าไดดี เช่น ทะลายปาล์ม เกา่ หรอื กาบมะพร้าว เป็นต้น 2. การเลอื กผักท่ีจะปลกู ควรเลือกปลูกผัก ที่มีการบริโภคเป็น ประจาในครอบครัว เป็นผักท่ี ได้รบั ความสนใจ และมกี ารใช้ประโยชน์ได้ม าก 3. การเตรียมดนิ ใช้ด ินรวน 1 สว่ น ปุ๋ย หมักหรือปุ๋ยคอก 1 ส่ว นข้ีเถ้าแกลบ 1 ส่วน มะพร้าว สับ 1 สว่ น แลว้ นามาผสมคลกุ เคล้าใหเ้ ข้ากนั แล้ว ไปใส่ในภาชนะ 4. การปลูกผักลงภาชนะ ปลูกแบบหวา นเมล็ดพันธ์ุหรือหยอดลงภาชนะ หรือ เพาะต้น กล้า แล้ว นาไปปลูกในภาชนะ หรอื ผกั บางชนิดสามารถใชว้ ิธปี กั ชาลงภาชนะได้เลย 5. การดูแลรักษาผักในภาชนะ รดน้าอย่า งสม่าเสมอ กาจัดวัชพืชพรวนดินและใส่ปุ๋ย 2 สัปดาห์ต่อครั้ง ควรเปล่ียนดิน เมื่อมีการปลูกผักคร้ังต่อ ไป หรือปลูกผักชนิดใหม่ในภาชนะเดิมหรือ ผกั มีการเจริญเตบิ โตไม่ด ีและควรนาภาชนะไปวางในที่มแี สงเพยี งพอ สรปุ ผลการดาเนนิ งาน โครงการผกั สวนครัวรัว้ กินได้ 16 16
6. การเก็บเกี่ยว หากเป็นผักท่ีบริโภคในส่วนของใบ ให้เก็บใบล่า งก่อน เหลือยอดบนไว้ให้ เจรญิ ต่อไป เชน่ ผกั กาด คะน้า ปูเล่ ถา้ เป็นผกั ท่ใี ช้สว่ นยอดอ่อ น ควรเลือกเก็บเฉพาะยอดเท่า นั้น จะทาให้ ผกั มีการแตกยอดอ่อนเจริญเติบโตต่อ ไปได้เชน่ สะระแหน่ กะเพรา โหระพา ฯลฯ พืชผักสวนครวั แบ่งได้4 ประเภท ดังน้ี 1. ใชผ้ ลเปน็ อาหาร เช่น แตงกวา มะเขือเทศ พริกหวาน 2. ใชใ้ บและลาต้นเป็นอาหาร เช่น ผกั กาดขาว ตาลึง ผกั คะน้า สะระแหน่ 3. ใชด้ อกเป็น อาหาร เชน่ กะปลา่ ดอก ดอกแค บร็อคโคลี่ 4. ใชห้ วั หรอื รากท่ีอยู่ใต้ดนิ เป็น อาหาร เช่น หอมหวั ใหญ่แครอท กระเทยี ม ขงิ สรุปผลการดาเนนิ งาน โครงการผกั สวนครัวร้วั กินได้ 17 16
บทที่ 4 ผลการวเิ คราะห์ข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูลคร้ังน้ี มีวัตถุประสงค์เพ่ือประเมินผลโครงการปลูกผักสวนครัวรั้วกินได้ มีกลุ่มเปา้ หมาย ประชาชนในพน้ื ท่ี ตาบลโชคชัย จานวน 20 คน เคร่ืองมือ ที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คอื แบบประเมินโครงการ ได้นาเสนอผลการวเิ คราะห์ข้อมลู ในแบบตารางความถ่ี ค่าเฉล่ีย และค่าเบี่ยงเบน มาตรฐาน (Standard deviation) ซ่ึงใช้โปรแกรม SPSS เพื่อวิเคราะห์ค่าสถิติทั้งหมด ดังมีรายละเอียด ตอ่ ไปน้ี ตอนที่ 1 วิเคราะหข์ อ้ มลู ส่วนตัวของผ้ตู อบแบบประเมนิ โครงการ โดยการแจกแจงความถี่และ คา่ ร้อยละของตัวแปร ตอนท่ี 2 วิเคราะห์ผลการประเมินโครงการปลูกผักสวนครัวร้ัวกินได้ โดยการแจกแจง คา่ เฉลี่ย คา่ เบยี่ งเบนมาตรฐาน ตอนที่ 3 ความคดิ เห็น และข้อเสนอแนะอนื่ ๆ ตอนท่ี 1 วเิ คราะหข์ อ้ มลู ส่วนตวั ของผู้ตอบแบบประเมนิ โครงการ โดยการแจกแจงความถ่ีและ ค่าร้อยละของตัวแปร ขอ้ มลู ส่วนตัวของผตู้ อบแบบประเมนิ โครงการทเี่ ขา้ ร่วมกิจกรรม โดยการแจกแจงความถ่ีและ ค่ารอ้ ยละของตัวแปร ดงั ตารางที่ 1 ตารางท่ี 1 จานวน และค่าร้อยละ ของผู้สอบแบบประเมินโครงการ จาแนกตามเพศ อายุ ระดบั การศกึ ษา และอาชีพ (N=20) ข้อมูลสว่ นตวั จานวน รอ้ ยละ 1. เพศ ชาย 5 25.0 หญิง 15 75.0* รวม 20 100 2. อายุ 15 – 29 ปี -- 30 – 49 ปี 15 75.0* 50 ปีขนึ้ ไป 5 25.0 รวม 20 100 สรุปผลการดาเนินงาน โครงการผักสวนครัวร้ัวกนิ ได้ 18
ข้อมูลสว่ นตัว จานวน ร้อยละ 3. ระดับการศึกษา ประถมศึกษา 5 25.0 มัธยมศึกษาตอนต้น 9 45.0 มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย 6 30.0 20 100 รวม 11 50.0* 1 5.0 4. อาชพี เกษตรกรรม 1 5.0 7 35.0 คา้ ขาย 20 100 ธุรกิจส่วนตัว รบั จา้ ง รวม หมายเหตุ : * หมายถงึ ข้อมลู สว่ นใหญ่ จากตาราง ท่ี 1 พบว่า ผู้ตอบแบบประเมินโครงการ จานวน 20 คน ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง จานวน 15 คน คิดเป็นร้อยละ 75.0 รองลงมา คือเพศชาย จานวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 25.0 ส่วนใหญ่ มีอายุ 30 - 49 ปี จานวน 15 คน คิดเป็นร้อยละ 75.0 รองลงมา คืออายุ 50 ปีขึ้นไป จานวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 25.0 สว่ นใหญม่ ีระดบั การศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น จานวน 9 คน คิดเป็นร้อยละ 45.0 รองลงมา คือ ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย จานวน 6 คน คิดเปน็ ร้อยละ 30.0 และระดบั ประถมศึกษา คิด เปน็ รอ้ ยละ 25.0 สาหรับอาชพี สว่ นใหญป่ ระกอบอาชีพเกษตรกรรม จานวน 11 คน คิดเป็นร้อยละ 50.0 รองลงมาคืออาชีพรับจ้าง จานวน 7 คน คิดเป็นร้อยละ 35.0 อาชีพค้าขาย อาชีพธุรกิจส่วนตัว คดิ เป็นร้อยละ 5.0 ตามลาดบั ตอนที่ 2 วเิ คราะห์ผลการประเมนิ กิจกรรมโครงการปลูกผักสวนครัวร้ัวกินได้ โดยการแจกแจงค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การจาแนกระดับผลการประเมนิ โครงการ แบบมาตรฐานประมาณคา่ (Rating Scale) มี 5 ระดับ ดังน้ี 5 คะแนน หมายถงึ ระดบั ผลการประเมินมากทส่ี ดุ 4 คะแนน หมายถงึ ระดบั ผลการประเมนิ มาก 3 คะแนน หมายถึง ระดบั ผลการประเมินปานกลาง 2 คะแนน หมายถึง ระดับผลการประเมินนอ้ ย 1 คะแนน หมายถึง ระดับผลการประเมินน้อยทส่ี ดุ N หมายถึง จานวนผูต้ อบแบบประเมิน ̅ หมายถงึ ระดับคา่ เฉล่ียผลการประเมนิ S.D. (Standard deviation) หมายถงึ ค่าเบยี่ งเบนมาตรฐาน สรุปผลการดาเนินงาน โครงการผกั สวนครวั รั้วกนิ ได้ 19
ค่าเฉลยี่ ระดบั ผลการประเมินของผตู้ อบแบบประเมนิ โครงการ คา่ เฉลย่ี 4.50 – 5.00 คะแนน หมายถงึ ระดับผลการประเมินมากที่สดุ คา่ เฉลย่ี 3.50 – 4.49 คะแนน หมายถึง ระดับผลการประเมินมาก คา่ เฉลีย่ 2.50 – 3.49 คะแนน หมายถึง ระดับผลการประเมนิ ปานกลาง คา่ เฉลย่ี 1.50 – 2.49 คะแนน หมายถึง ระดับผลการประเมินน้อย ค่าเฉลี่ย 1.00 – 1.49 คะแนน หมายถงึ ระดับผลการประเมินน้อยท่สี ุด ตารางที่ 2.1 คา่ เฉลี่ย ค่าเบ่ียงเบนมาตรฐาน และระดับผลการประเมินกิจกรรมโครงการ ปลกู ผกั สวนครวั รั้วกินได้ ของผตู้ อบแบบประเมินโครงการ ในภาพรวมและรายด้าน รายการ N = 20 ระดับผลการ ̅ S.D. ประเมิน 1.ด้านหลกั สตู ร 2. ด้านวิทยากร 4.34 0.76 มาก 3. ด้านสถานท่ี ระยะเวลา และความพึงพอใจ มาก 4.28 0.71 มาก รวม มาก 4.11 0.66 4.24 0.71 จากตารางท่ี 2.1 พบว่า โครงการปลูกผักสวนครัวรั้วกินได้ มีผลการประเมินโครงการ อยู่ในระดับมาก (̅=4.24) เม่ือพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า มีผลการประเมินโครงการ ด้านหลักสูตร มผี ลการประเมิน อยใู่ นระดับมาก (̅=4.34) รองลงมาคือ ดา้ นวิทยากร มีผลการประเมิน อยู่ในระดับมาก (̅=4.28) และดา้ นสถานท่ี ระยะเวลา และความพงึ พอใจ มีผลการประเมิน อยู่ในระดับมาก (̅=4.11) ตามลาดบั สรปุ ผลการดาเนนิ งาน โครงการผักสวนครัวรว้ั กนิ ได้ 20
ตารางที่ 2.2 ค่าเฉล่ีย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และระดับผลการประเมินกิจกรรมโครงการ ปลูกผกั สวนครวั รว้ั กินได้ ของผู้ตอบแบบประเมินโครงการ ด้านหลกั สูตร โดยจาแนกเป็นรายขอ้ ดังนี้ รายการ N = 20 ระดับผลการ ̅ S.D. ประเมนิ ด้านหลักสตู ร 1 กิจกรรมสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของโครงการ 4.25 0.78 มาก 4.30 0.73 มาก 2 เน้อื หาของหลกั สตู รตรงกบั ความต้องการผรู้ ่วมกจิ กรรม 4.45 0.68 มาก 3 การจดั กิจกรรมส่งเสรมิ ใหผ้ รู้ ่วมกจิ กรรมสามารถ คิดเป็น 4.35 0.74 มาก ทาเป็น แกป้ ญั หาเปน็ 4 ผู้ร่วมกจิ กรรมมสี ว่ นรว่ มในการแสดงความคิดเหน็ ต่อเนอื้ หา 4.35 0.87 มาก กิจกรรม 4.34 0.76 มาก 5 ผู้ร่วมกจิ กรรมสามารถนาความรู้ไปปรบั ใชใ้ นชีวิตประจาวัน ได้ รวม จากตารางท่ี 2.2 พบว่า โครงการปลกู ผกั สวนครัวร้วั กินได้ มีผลการประเมินโครงการในด้าน หลักสูตร อยู่ในระดับมาก (̅=4.34) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า การจัดกิจกรรมส่งเสริมให้ผู้ร่วม กิจกรรมสามารถ คิดเป็น ทาเปน็ แกป้ ญั หาเปน็ มผี ลการประเมิน อยู่ในระดับมาก (̅=4.45) รองลงมาคือ ผู้ร่วมกิจกรรมมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นต่อเนื้อหากิจกรรม ผู้ร่วมกิจกรรมสามารถนาความรู้ ไปปรับใช้ในชีวิตประจาวันได้ มีผลการประเมิน อยู่ในระดับมาก (̅=4.35) เนื้อหาของหลักสูตรตรงกับ ความต้องการผู้ร่วมกิจกรรม มีผลการประเมิน อยู่ในระดับมาก (̅=4.30) และกิจกรรมสอดคล้องกับ วัตถปุ ระสงคข์ องโครงการ มผี ลการประเมิน อยู่ในระดบั มาก (̅=4.25) ตามลาดบั สรุปผลการดาเนินงาน โครงการผักสวนครัวรั้วกินได้ 21
ตารางท่ี 2.3 ค่าเฉลย่ี คา่ เบย่ี งเบนมาตรฐาน และระดับผลการประเมินกจิ กรรมโครงการ ปลกู ผักสวนครวั รั้วกิน ของผตู้ อบแบบประเมินโครงการดา้ นวทิ ยากร โดยจาแนกเปน็ รายข้อ ดงั น้ี รายการ N = 20 ระดับผลการ ̅ S.D. ประเมนิ ด้านวทิ ยากร 6 วทิ ยากรมีความรู้ความสามารถในการถ่ายทอดองค์ความรู้ 4.35 0.58 มาก 7 วิทยากรมีเทคนคิ วธิ กี ารในการจดั การถ่ายทอดองคค์ วามรู้ 4.35 0.67 มาก 8 วทิ ยากรมีการใช้สื่อทส่ี อดคลอ้ งและเหมาะสมกับกิจกรรม 4.10 0.78 มาก 9 บคุ ลิกภาพของวทิ ยากร 4.30 0.80 มาก 4.28 0.71 มาก รวม จากตารางที่ 2.3 พบว่า โครงการปลูกผักสวนครัวรั้วกิน มีผลการประเมินโครงการ ในด้าน วิทยากร อยใู่ นระดับมาก (̅=4.28) เมอื่ พจิ ารณาเป็นรายข้อพบว่า วิทยากรมีความรู้ความสามารถในการ ถ่ายทอดองค์ความรู้ วิทยากรมีเทคนิค วิธีการในการจัดการถ่ายทอดองค์ความรู้ มีผลการประเมินอยู่ใน ระดับมาก (̅=4.35) บคุ ลิกภาพของวทิ ยากร มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก (̅=4.30) และวิทยากรมี การใชส้ ่ือท่สี อดคลอ้ งและเหมาะสมกับกจิ กรรม มผี ลการประเมิน อย่ใู นระดับมาก (̅=4.10) ตามลาดับ สรปุ ผลการดาเนินงาน โครงการผกั สวนครัวรวั้ กินได้ 22
ตารางท่ี 2.4 ค่าเฉล่ีย คา่ เบย่ี งเบนมาตรฐาน และระดบั ผลการประเมินกจิ กรรมโครงการ ปลกู ผกั สวนครวั ร้ัวกนิ ดา้ นสถานท่ี ระยะเวลา และความพึงพอใจ โดยจาแนกเปน็ รายข้อ ดงั นี้ รายการ N = 20 ระดับผลการ ̅ S.D. ประเมนิ ดา้ นสถานที่ ระยะเวลา และความพงึ พอใจ 10 สถานท่ใี นการจัดกจิ กรรมเหมาะสม 4.20 0.76 มาก 11 ระยะเวลาในการจัดกิจกรรมเหมาะสม 4.00 0.56 มาก 12 ความพงึ พอใจในภาพรวมของผูร้ ่วมกิจกรรมต่อ การเข้าร่วมกิจกรรม 4.25 0.63 มาก 13 ประโยชนท์ ไี่ ดร้ ับจาการเขา้ รว่ มกิจกรรมตามหลกั สูตร 4.00 0.64 มาก รวม 4.11 0.66 มาก จากตารางที่ 2.4 พบว่า โครงการปลูกผักสวนครัวร้ัวกิน มีผลการประเมินโครงการ ในด้าน สถานท่ี ระยะเวลา และความพึงพอใจ อยู่ในระดับมาก (̅=4.11) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ความพึง พอใจในภาพรวมของผู้ร่วมกิจกรรมต่อการเข้าร่วมกิจกรรม มีผลการประเมิน อยู่ในระดับมาก (̅=4.25) รองลงมาคือสถานท่ีในการจัดกิจกรรมเหมาะสม มีผลการประเมิน อยู่ในระดับมาก (̅=4.20) และระยะเวลาในการจัดกิจกรรมเหมาะสม ประโยชน์ท่ีได้รับจาการเข้าร่วมกิจกรรมตามหลักสูตร มีผล การประเมิน อย่ใู นระดับมาก (̅=4.00) ตามลาดบั ตอนที่ 3 ความคิดเหน็ และขอ้ เสนอแนะอน่ื ๆ ควรเพิ่มจานวนกลุ่มเป้าหมาย ให้ครอบคลุมทุกอาชีพ ช่วงอายุ เพ่ือนาความรู้ที่ได้จาก การเขา้ รว่ มโครงการไปพฒั นาแหล่งเรียนรู้ในชมุ ชน และสามารถนาความร้ไู ปใช้ในชวี ติ ประจาวันได้ สรุปผลการดาเนินงาน โครงการผกั สวนครวั รวั้ กนิ ได้ 23
บทท่ี 5 สรุปผล อภิปรายผล และขอ้ เสนอแนะ จากการวเิ คราะหข์ ้อมูลผลการดาเนนิ งานโครงการปลูกผกั สวนครวั รว้ั กินได้ สามารถสรปุ ผล อภิปรายผล และมีขอ้ เสนอแนะดงั น้ี ตอนที่ 1 วเิ คราะห์ข้อมูลสว่ นตวั ของผ้ตู อบแบบประเมนิ ในภาพรวม พบว่า ผู้ตอบแบบประเมินโครงการ จานวน 20 คน ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง จานวน 15 คน คิดเปน็ ร้อยละ 75.0 รองลงมา คอื เพศชาย จานวน 5 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 25.0 ส่วนใหญ่ มีอายุ 30 - 49 ปี จานวน 15 คน คิดเป็นร้อยละ 75.0 รองลงมา คืออายุ 50 ปีขึ้นไป จานวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 25.0 ส่วนใหญม่ รี ะดบั การศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น จานวน 9 คน คิดเป็นร้อยละ 45.0 รองลงมา คือ ระดับ มัธยมศึกษาตอนปลาย จานวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 30.0 และระดับประถมศึกษา คิดเป็นร้อยละ 25.0 สาหรับอาชีพ ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม จานวน 11 คน คิดเป็นร้อยละ 50.0 รองลงมาคือ อาชีพรับจ้าง จานวน 7 คน คิดเป็นร้อยละ 35.0 อาชีพค้าขาย อาชีพธุรกิจส่วนตัว คิดเป็นร้อยละ 5.0 ตามลาดบั ตอนที่ 2 วิเคราะหผ์ ลการประเมนิ กิจกรรมโครงการปลกู ผกั สวนครัวร้วั กนิ ได้ จากตารางท่ี 2.1 พบว่า โครงการปลูกผักสวนครัวร้ัวกินได้ มีผลการประเมินโครงการ อยู่ในระดับมาก (̅=4.24) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า มีผลการประเมินโครงการ ด้านหลักสูตร มผี ลการประเมนิ อย่ใู นระดบั มาก (̅=4.34) รองลงมาคอื ด้านวทิ ยากร มีผลการประเมิน อยู่ในระดับมาก (̅=4.28) และด้านสถานท่ี ระยะเวลา และความพงึ พอใจ มีผลการประเมิน อยู่ในระดับมาก (̅=4.11) ตามลาดบั จากตารางที่ 2.2 พบว่า โครงการปลูกผักสวนครวั ร้ัวกินได้ มีผลการประเมินโครงการในด้าน หลักสูตร อยู่ในระดับมาก (̅=4.34) เม่ือพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า การจัดกิจกรรมส่งเสริมให้ผู้ร่วม กิจกรรมสามารถ คิดเป็น ทาเป็น แก้ปัญหาเป็น มีผลการประเมิน อยู่ในระดับมาก (̅=4.45) รองลงมาคือ ผู้ร่วมกิจกรรมมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นต่อเน้ือหากิจกรรม ผู้ร่วมกิจกรรมสามารถนาความรู้ ไปปรับใช้ในชีวิตประจาวันได้ มีผลการประเมิน อยู่ในระดับมาก (̅=4.35) เน้ือหาของหลักสูตรตรงกับ ความต้องการผู้ร่วมกิจกรรม มีผลการประเมิน อยู่ในระดับมาก (̅=4.30) และกิจกรรมสอดคล้องกับ วตั ถุประสงค์ของโครงการ มีผลการประเมิน อยู่ในระดับมาก (̅=4.25) ตามลาดับ จากตารางที่ 2.3 พบว่า โครงการปลูกผักสวนครัวรั้วกิน มีผลการประเมินโครงการ ในด้าน วทิ ยากร อย่ใู นระดับมาก (̅=4.28) เมอ่ื พิจารณาเป็นรายข้อพบว่า วิทยากรมีความรู้ความสามารถในการ ถ่ายทอดองค์ความรู้ วิทยากรมีเทคนิค วิธีการในการจัดการถ่ายทอดองค์ความรู้ มีผลการประเมินอยู่ใน ระดบั มาก (̅=4.35) บุคลกิ ภาพของวิทยากร มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก (̅=4.30) และวิทยากรมี การใชส้ ่ือท่ีสอดคล้องและเหมาะสมกับกจิ กรรม มผี ลการประเมนิ อยใู่ นระดบั มาก (̅=4.10) ตามลาดับ สรุปผลการดาเนนิ งาน โครงการผกั สวนครัวรัว้ กนิ ได้ 24
ตอนท่ี 3 ความคิดเหน็ และขอ้ เสนอแนะอนื่ ๆ ควรเพ่ิมจานวนกลุ่มเป้าหมาย ให้ครอบคลุมทุกอาชีพ ช่วงอายุ เพื่อนาความรู้ท่ีได้จาก การเข้าร่วมโครงการไปพัฒนาแหล่งเรียนรู้ในชมุ ชน และสามารถนาความรไู้ ปใช้ในชวี ิตประจาวนั ได้ อภิปรายผล จากการสรุปผลการประเมินโครงการปลูกผักสวนครัวรั้วกินได้ มีผลการประเมินโครงการใน ภาพรวม อยู่ในระดับมาก (̅=4.24) พบว่า ผู้ที่เข้าร่วมโครงการเห็นความสาคัญของการเรียนรู้ตามหลัก ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง เร่อื งการปลูกผกั สวนครัว ทั้งน้ีเป็นเพราะคณะทางาน ได้ประชุม/ชี้แจงวางแผน การดาเนินงาน แก่บคุ ลากร กศน.อาเภอโชคชยั กาหนดรูปแบบ และแผนการดาเนินงาน การจัดเตรียมวัสดุ สถานท่ี และประสานภาคีเครือข่าย เพ่ือให้คนในชุมชน มีส่วนร่วมและเห็นคุณค่าและมีจิตสานึก ในการ ใช้ชวี ิตตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง จากผลการประเมินดังกล่าว มีประเด็นที่น่าสนใจนามาอภิปรายผล ดังน้ี การจัดกิจกรรม สง่ เสรมิ ใหผ้ ูร้ ว่ มกิจกรรมสามารถ คดิ เป็น ทาเป็น แก้ปัญหาเป็น อยู่ในระดับมาก (̅=4.45) ท้ังนี้อาจเป็น เพราะว่า ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอโชคชัย ตระหนักถึงความสาคัญใน การมีจิตสาธารณะ การปลูกฝังจิตใจให้ประชาชนมีความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม เป็นการสร้าง คุณธรรม จริยธรรมให้ ประชาชน รู้จักเสียสละ ร่วมแรงร่วมใจและร่วมมือในการทากิจกรรมท่ีเป็น ประโยชน์เพ่ือส่วนรวมหรือกิจกรรมที่ช่วยลดปัญหาท่ีเกิดขึ้นในสังคม เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและสร้าง ประโยชน์สุขของคนในสังคมร่วมกัน จัดทาโครงการปลูกผักสวนครัวร้ัวกินได้ ดังกล่าวขึ้น ซึ่งผู้ท่ีเข้าร่วม โครงการได้รับความรู้ ความเข้าใจ รวมท้ังมีความตระหนักถึงการดาเนินชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียง ซงึ่ สอดคล้องกบั งานวจิ ัยของ สุกัญญา ศรีสาคร ไดว้ จิ ัยเร่ือง “การพัฒนาความสามารถในการคิด แกป้ ญั หาของนักเรียนชั้นมัธยมศกึ กษาปที ี่ 2 ท่ีจัดการเรยี นรูโ้ ดยใชเทคนิคการคิดแก้ปัญหาอนาคต” พบว่า ความสามารถในการคิดแก้ปัญหาหลังสูงกว่าก่อนการจัดการเรยี นรู้โดยใช้เทคนคิ การคิดแก้ปัญหา ขอ้ เสนอแนะในการพฒั นาคร้งั ตอ่ ไป ควรจัดกจิ กรรมอยา่ งตอ่ เนอื่ งทุกไตรมาส เพื่อใหป้ ระชาชนท่ีเข้าร่วมกิจกรรมนาความรู้ท่ีได้รับ ไปใช้ใหเ้ กิดประโยชน์ในชวี ิตประจาวัน สรุปผลการดาเนินงาน โครงการผกั สวนครัวรั้วกินได้ 25
บรรณานกุ รม การปลกู ผกั สวนครวั .(2564).[ออนไลน]์ .เขา้ ถงึ ไดจ้ าก http://www.pikunthong.com. a28.readyplanet.net/attachments/view/?attach_id=203364 (วันท่ีค้นขอ้ มูล วนั ที่ 6 กรกฎาคม 2564) ขวัญกมล ดอนขวา.(2557).แบบจาลองปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง และเศรษฐกิจสร้างสรรค์ มีผลต่อการ พัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย.[ออนไลน์].เข้าถึงได้จาก. https://dric.nrct.go.th/index. php?/Search/SearchDetail/277353 (วนั ท่ีคน้ ขอ้ มูล วันท่ี 6 กรกฎาคม 2564) วิซุตตา ชูศรวี าส.(2559).การดาเนนิ งานหมู่บ้านเศรษฐกจิ พอเพียง บ้านหวั อ่าว ตาบลบางชา้ ง อาเภอสามพราน จังหวดั นครปฐม.[ออนไลน]์ .เขา้ ถงึ ไดจ้ าก. http://research. rpu.ac.th/wp-content/uploads/2017/08/Visutta-Chusriwart_2559.pdf (วนั ท่ีค้นข้อมูล วันท่ี 6 กรกฎาคม 2564) สานกั งาน กศน.(2564).ยุทธศาสตร์และจดุ เน้นการดาเนินงาน สานกั งาน กศน. ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2564.[ออนไลน์].เข้าถงึ ได้จาก.http://203.147.24.83/onieWeb/plann/download.html (วนั ที่ค้นขอ้ มลู วนั ที่ 2 กรกฎาคม 2564) หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง.(2564).[ออนไลน]์ .เข้าถึงได้จาก.https://www.krungsri. com/th/plearn-plearn/practical-self-sufficient-economy-philosophy (วันท่คี น้ ข้อมลู วนั ท่ี 6 กรกฎาคม 2564) สรปุ ผลการดาเนนิ งาน โครงการผักสวนครัวร้ัวกนิ ได้ 26
ภาคผนวก สรุปผลการดาเนินงาน โครงการผักสวนครวั ร้ัวกินได้ 27
รายช่อื ผู้เขา้ รว่ มโครงการปลกู ผกั สวนครัวรั้วกินได้ วนั ที่ 25 มิถนุ ายน 2564 ณ บา้ นบิง หมู่ที่ 8 ตาบลโชคชยั อาเภอโชคชัย จังหวดั นครราชสีมา ลาดบั ท่ี ช่ือ - สกลุ 1 นายผยุงศกั ดิ์ ก่ากระโทก 2 นายใหม่ กริบกระโทก 3 นายเลิศ คุ้มกระโทก 4 นายกฤษณพงษ์ กรบิ กระโทก 5 นายวีเชยี ร สาคะเรศ 6 นางเสหน่ห์ พันผักแวน่ 7 นางแสงเดือน ฟูกระโทก 8 นางสายทอง มุกกระโทก 9 นางสอน ศรอทุ ัย 10 นางปราณี คลุกกระโทก 11 นางล่าพึง บุญป้นั 12 นางมานติ ย์ ยา่ กระโทก 13 นางสาววารยี ์ ออ้ นกระโทก 14 นางเพิม กา่ กระโทก 15 นางสาวเอือ้ มพร กา่ กระโทก 16 นางสาวกลั ยารัตน์ หงษอ์ ิน 17 นางสาวสุนิสา ชามกระโทก 18 นางสาวกฤษณา ชาพล 19 นางสาวปรยิ าภัทร สะแกทอง 20 นางสาวพกิ ลุ เฝ้ากระโทก สรุปผลการดาเนนิ งาน โครงการผกั สวนครวั ร้ัวกนิ ได้ 28
สรปุ การดาเนินงาน โครงการผกั สวนครวั รั้วกนิ ได้ 29
สรปุ การดาเนินงาน โครงการผกั สวนครวั รั้วกนิ ได้ 30
สรปุ การดาเนินงาน โครงการผกั สวนครวั รั้วกนิ ได้ 31
ตารางวิเคราะห์ข้อมูล spss โครงการปลูกผักสวนครัวรวั้ กนิ ได้ วันที่ 25 มถิ ุนายน 2564 ณ บ้านบิง หม่ทู ี่ 8 ตาบลโชคชยั อาเภอโชคชัย จังหวดั นครราชสีมา เพศ Cumulative Frequency Percent Valid Percent Percent Valid ชาย 5 25.0 25.0 25.0 หญิง 15 75.0 75.0 100.0 Total 20 100.0 100.0 อายุ Valid 30-49 ปี Frequency Percent Valid Percent Cumulative 50 ปีขึน้ ไป 15 75.0 75.0 Percent Total 5 25.0 25.0 20 100.0 100.0 75.0 100.0 อาชพี Valid เกษตรกรรม Frequency Percent Valid Percent Cumulative คา้ ขาย 11 55.0 55.0 Percent ธุรกจิ ส่วนตวั 1 5.0 5.0 55.0 รบั จา้ ง 1 5.0 5.0 60.0 Total 7 35.0 35.0 65.0 20 100.0 100.0 100.0 วฒุ ิการศกึ ษา Valid ประถมศึกษา Frequency Percent Valid Percent Cumulative มธั ยมศกึ ษาตอนต้น 5 25.0 25.0 Percent มัธยมศกึ ษาตอนปลาย 9 45.0 45.0 Total 6 30.0 30.0 25.0 20 100.0 100.0 70.0 100.0 สรุปผลการดาเนนิ งาน โครงการผักสวนครัวร้วั กนิ ได้ 32
ขอ้ ที่ 1 กจิ กรรมสอดคล้องกบั วตั ถุประสงค์ของโครงการ Cumulative Frequency Percent Valid Percent Percent Valid ปานกลาง 4 20.0 20.0 20.0 มาก 7 35.0 35.0 55.0 มากท่สี ุด 9 45.0 45.0 100.0 Total 20 100.0 100.0 ขอ้ ท่ี 2 เนื้อหาของหลักสูตรตรงกับความตอ้ งการผู้รว่ มกิจกรรม Cumulative Frequency Percent Valid Percent Percent Valid ปานกลาง 3 15.0 15.0 15.0 มาก 8 40.0 40.0 55.0 มากท่สี ดุ 9 45.0 45.0 100.0 Total 20 100.0 100.0 ข้อท่ี 3 การจดั กิจกรรมส่งเสรมิ ให้ผ้รู ่วมกจิ กรรมสามารถ คิดเปน็ ทาเป็น แกป้ ญั หาเปน็ Cumulative Frequency Percent Valid Percent Percent Valid ปานกลาง 2 10.0 10.0 10.0 มาก 7 35.0 35.0 45.0 มากทส่ี ุด 11 55.0 55.0 100.0 Total 20 100.0 100.0 ขอ้ ท่ี 4 ผู้รว่ มกิจกรรมมีส่วนรว่ มในการแสดงความคิดเหน็ ตอ่ เนอื้ หา กิจกรรม Cumulative Frequency Percent Valid Percent Percent Valid นอ้ ย 1 5.0 5.0 5.0 มาก 10 50.0 50.0 55.0 มากที่สุด 9 45.0 45.0 100.0 Total 20 100.0 100.0 ขอ้ ท่ี 5 ผู้ร่วมกิจกรรมสามารถนาความรไู้ ปปรับใชใ้ นชวี ิตประจาวนั ได้ Cumulative Frequency Percent Valid Percent Percent Valid นอ้ ย 1 5.0 5.0 5.0 ปานกลาง 2 10.0 10.0 15.0 มาก 6 30.0 30.0 45.0 มากทสี่ ุด 11 55.0 55.0 100.0 Total 20 100.0 100.0 สรปุ ผลการดาเนินงาน โครงการผักสวนครวั ร้วั กนิ ได้ 33
ข้อที่ 6 วทิ ยากรมีความรู้ความสามารถในการถ่ายทอดองคค์ วามรู้ Cumulative Frequency Percent Valid Percent Percent Valid ปานกลาง 1 5.0 5.0 5.0 มาก 11 55.0 55.0 60.0 มากท่สี ุด 8 40.0 40.0 100.0 Total 20 100.0 100.0 ข้อท่ี 7 วทิ ยากรมีเทคนคิ วธิ ีการในการจัดการถา่ ยทอดองค์ความรู้ Cumulative Frequency Percent Valid Percent Percent Valid ปานกลาง 2 10.0 10.0 10.0 มาก 9 45.0 45.0 55.0 มากท่ีสดุ 9 45.0 45.0 100.0 Total 20 100.0 100.0 ข้อท่ี 8 วิทยากรมีการใชส้ อ่ื ท่สี อดคลอ้ งและเหมาะสมกบั กจิ กรรม Cumulative Frequency Percent Valid Percent Percent Valid นอ้ ย 1 5.0 5.0 5.0 ปานกลาง 2 10.0 10.0 15.0 มาก 11 55.0 55.0 70.0 มากท่สี ุด 6 30.0 30.0 100.0 Total 20 100.0 100.0 ข้อที่ 9 บคุ ลิกภาพของวิทยากร Valid ปานกลาง Frequency Percent Valid Percent Cumulative มาก 4 20.0 20.0 Percent มากท่สี ดุ 6 30.0 30.0 20.0 Total 10 50.0 50.0 50.0 20 100.0 100.0 100.0 ข้อท่ี 10 สถานทใี่ นการจัดกจิ กรรมเหมาะสม Cumulative Frequency Percent Valid Percent Percent Valid ปานกลาง 4 20.0 20.0 20.0 มาก 8 40.0 40.0 60.0 มากที่สุด 8 40.0 40.0 100.0 Total 20 100.0 100.0 สรุปผลการดาเนนิ งาน โครงการผกั สวนครัวร้วั กินได้ 34
ขอ้ ที่ 11 ระยะเวลาในการจัดกจิ กรรมเหมาะสม Cumulative Frequency Percent Valid Percent Percent Valid ปานกลาง 3 15.0 15.0 15.0 มาก 14 70.0 70.0 85.0 มากทส่ี ดุ 3 15.0 15.0 100.0 Total 20 100.0 100.0 ข้อท่ี 12 ความพึงพอใจในภาพรวมของผรู้ ่วมกจิ กรรมตอ่ การเข้ารว่ มกิจกรรม Cumulative Frequency Percent Valid Percent Percent Valid ปานกลาง 2 10.0 10.0 10.0 มาก 11 55.0 55.0 65.0 มากท่สี ุด 7 35.0 35.0 100.0 Total 20 100.0 100.0 ข้อที่ 13 ประโยชนท์ ไ่ี ดร้ ับจาการเข้ารว่ มกิจกรรมตามหลกั สูตร Cumulative Frequency Percent Valid Percent Percent Valid ปานกลาง 4 20.0 20.0 20.0 มาก 12 60.0 60.0 80.0 มากท่ีสุด 4 20.0 20.0 100.0 Total 20 100.0 100.0 สรปุ ผลการดาเนินงาน โครงการผกั สวนครัวร้วั กินได้ 35
Descriptive Statistics N Minimum Maximum Mean Std. Deviation ขอ้ ที่ 1 กิจกรรมสอดคลอ้ งกบั วตั ถุประสงค์ของโครงการ 20 3.0 5.0 4.250 .7864 ข้อที่ 2 เนอ้ื หาของหลกั สูตรตรงกบั ความต้องการผู้ร่วมกจิ กรรม 20 3.0 5.0 4.300 .7327 ข้อท่ี 3 การจดั กิจกรรมส่งเสรมิ ใหผ้ รู้ ่วมกจิ กรรมสามารถ คดิ เป็น 20 3.0 5.0 4.450 .6863 ทาเป็น แกป้ ัญหาเปน็ ข้อท่ี 4 ผู้ร่วมกิจกรรมมสี ่วนร่วมในการแสดงความคิดเหน็ ต่อเนอ้ื หา 20 2.0 5.0 4.350 .7452 กจิ กรรม ขอ้ ท่ี 5 ผู้ร่วมกจิ กรรมสามารถนาความรู้ไปปรบั ใช้ในชวี ิตประจาวันได้ 20 2.0 5.0 4.350 .8751 ข้อท่ี 6 วิทยากรมีความรคู้ วามสามารถในการถา่ ยทอดองคค์ วามรู้ 20 3.0 5.0 4.350 .5871 ข้อท่ี 7 วิทยากรมเี ทคนคิ วิธกี ารในการจัดการถ่ายทอดองคค์ วามรู้ 20 3.0 5.0 4.350 .6708 ขอ้ ที่ 8 วิทยากรมกี ารใชส้ อื่ ท่ีสอดคลอ้ งและเหมาะสมกับกิจกรรม 20 2.0 5.0 4.100 .7881 ข้อท่ี 9 บุคลิกภาพของวิทยากร 20 3.0 5.0 4.300 .8013 ข้อท่ี 10 สถานท่ีในการจดั กิจกรรมเหมาะสม 20 3.0 5.0 4.200 .7678 ขอ้ ท่ี 11 ระยะเวลาในการจดั กิจกรรมเหมาะสม 20 3.0 5.0 4.000 .5620 ขอ้ ท่ี 12 ความพึงพอใจในภาพรวมของผู้รว่ มกจิ กรรมต่อการเขา้ รว่ ม 20 3.0 5.0 4.250 .6387 กจิ กรรม ขอ้ ที่ 13 ประโยชน์ท่ีไดร้ ับจาการเข้าร่วมกจิ กรรมตามหลกั สตู ร 20 3.0 5.0 4.000 .6489 Valid N (listwise) 20 สรปุ ผลการดาเนนิ งาน โครงการผักสวนครวั รั้วกนิ ได้ 36
Descriptive Statistics N Minimum Maximum Mean Std. Deviation 1. ด้านหลักสูตร ขอ้ ที่ 1 กจิ กรรมสอดคล้องกบั วัตถุประสงค์ของโครงการ 20 3.0 5.0 4.250 .7864 ขอ้ ที่ 2 เนอื้ หาของหลักสูตรตรงกับความตอ้ งการผู้รว่ มกจิ กรรม 20 3.0 5.0 4.300 .7327 ขอ้ ที่ 3 การจัดกจิ กรรมสง่ เสรมิ ใหผ้ รู้ ่วมกิจกรรมสามารถ คิดเปน็ 20 3.0 5.0 4.450 .6863 ทาเปน็ แก้ปญั หาเปน็ ขอ้ ท่ี 4 ผรู้ ่วมกิจกรรมมสี ่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นต่อเนือ้ หา 20 2.0 5.0 4.350 .7452 กจิ กรรม ข้อท่ี 5 ผรู้ ่วมกจิ กรรมสามารถนาความรูไ้ ปปรบั ใชใ้ นชวี ิตประจาวันได้ 20 2.0 5.0 4.350 .8751 คา่ เฉลยี่ รวม 4.34 0.76 2. ด้านวิทยากร ขอ้ ที่ 6 วทิ ยากรมีความรูค้ วามสามารถในการถ่ายทอดองคค์ วามรู้ 20 3.0 5.0 4.350 .5871 ขอ้ ที่ 7 วทิ ยากรมเี ทคนิค วธิ ีการในการจดั การถ่ายทอดองค์ความรู้ 20 3.0 5.0 4.350 .6708 ข้อที่ 8 วิทยากรมกี ารใชส้ ื่อที่สอดคล้องและเหมาะสมกับกจิ กรรม 20 2.0 5.0 4.100 .7881 ขอ้ ท่ี 9 บคุ ลกิ ภาพของวทิ ยากร 20 3.0 5.0 4.300 .8013 ค่าเฉล่ยี รวม 4.28 0.71 3. ดา้ นสถานที่ ระยะเวลา และความพงึ พอใจ ข้อท่ี 10 สถานท่ีในการจดั กิจกรรมเหมาะสม 20 3.0 5.0 4.200 .7678 ข้อท่ี 11 ระยะเวลาในการจดั กิจกรรมเหมาะสม 20 3.0 5.0 4.000 .5620 ข้อที่ 12 ความพงึ พอใจในภาพรวมของผู้รว่ มกจิ กรรมต่อการเขา้ รว่ ม 20 3.0 5.0 4.250 .6387 กิจกรรม ข้อท่ี 13 ประโยชน์ทีไ่ ด้รับจาการเขา้ รว่ มกิจกรรมตามหลกั สูตร 20 3.0 5.0 4.000 .6489 คา่ เฉลี่ยรวม 4.11 0.66 Valid N (listwise) 20 สรปุ ผลการดาเนนิ งาน โครงการผกั สวนครวั ร้วั กนิ ได้ 37
แบบประเมนิ ความพึงพอใจ โครงการปลูกผกั สวนครวั รั้วกนิ ได้ วนั ท่ี 25 เดอื น มถิ ุนายน 2564 สถานทีจ่ ดั ณ บ้านบงิ หมู่ 8 ตาบลโชคชยั อาเภอโชคชยั จังหวดั นครราชสีมา ข้อมลู พน้ื ฐานของผปู้ ระเมนิ ความพึงพอใจ เพศ ( ) 1.ชาย ( ) 2.หญิง อายุ ( ) 15 - 29 ปี ( ) 30 – 49 ปี ( ) 50 ปีข้ึนไป วุฒิการศึกษา ( ) ระดบั ประถม ( ) ระดับ ม.ต้น ( ) ระดบั ม.ปลาย อ่ืน ๆ (ระบ)ุ ............................................................................................................................ อาชพี ( ) 1.เกษตรกรรม ( ) 2.ค้าขาย ( ) 3.รบั ราชการ ( ) 4.พนกั งานของรัฐ ( ) 5.ธรุ กิจสว่ นตวั ( ) 6.รับจา้ ง ( ) 7.อื่น ๆ (ระบุ)............................................. คาชี้แจง 1. แบบประเมนิ ความพงึ พอใจ มี 3 ตอน 2. โปรดแสดงเครื่องหมาย √ ในชอ่ งวา่ งระดับความพงึ พอใจตามความคิดเหน็ ของทา่ น ระดับความพงึ พอใจ หมาย ขอ้ รายการประเมินความพงึ พอใจ มาก มาก ปาน น้อย นอ้ ย เหตุ ทสี่ ดุ กลาง ทีส่ ุด (5) (4) (3) (2) (1) ตอนท่ี 1 ดา้ นหลกั สตู ร 1 กิจกรรมสอดคลอ้ งกบั วตั ถุประสงค์ของโครงการ 2 เนอ้ื หาของหลักสูตรตรงกับความตอ้ งการผรู้ ว่ มกจิ กรรม 3 การจดั กิจกรรมส่งเสรมิ ใหผ้ รู้ ว่ มกจิ กรรมสามารถ คิดเป็น ทาเป็น แกป้ ญั หาเป็น 4 ผู้รว่ มกจิ กรรมมสี ่วนรว่ มในการแสดงความคิดเหน็ ตอ่ เนื้อหา กิจกรรม 5 ผูร้ ว่ มกจิ กรรมสามารถนาความรู้ไปปรับใช้ในชีวติ ประจาวนั ได้ ตอนที่ 2 ด้านวิทยากร 6 วทิ ยากรมคี วามรคู้ วามสามารถในการถา่ ยทอดองค์ความรู้ 7 วทิ ยากรมีเทคนคิ วิธกี ารในการจดั การถา่ ยทอดองค์ความรู้ 8 วิทยากรมกี ารใช้สอ่ื ท่สี อดคล้องและเหมาะสมกบั กจิ กรรม 9 บุคลิกภาพของวิทยากร ตอนที่ 3 ดา้ นสถานที่ ระยะเวลา และความพึงพอใจ 10 สถานท่ใี นการจดั กจิ กรรมเหมาะสม 11 ระยะเวลาในการจดั กิจกรรมเหมาะสม 12 ความพงึ พอใจในภาพรวมของผรู้ ว่ มกจิ กรรมต่อการเข้าร่วมกจิ กรรม 13 ประโยชนท์ ่ไี ด้รบั จาการเขา้ รว่ มกิจกรรมตามหลักสตู ร ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะอื่น ๆ …………………………………………………………………………………………………………...................... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… สรปุ ผลการดาเนนิ งาน โครงการผักสวนครัวร้ัวกนิ ได้ 38
สรปุ ผลการดาเนนิ งาน โครงการผกั สวนครวั ร้วั กินได้ 39
สรปุ ผลการดาเนนิ งาน โครงการผกั สวนครัวร้วั กินได้
ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอโชคชัย สานักงานส่งเสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั จังหวัดนครราชสีมา
Search
Read the Text Version
- 1 - 44
Pages: